สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 30 กรกฎาคม 2563

เอสซีจี ชูกลยุทธ์ “ปรับตัวไว” ลุยศึกโควิด-19

โควิด-19 กระทบกลุ่มธุรกิจ เอสซีจี ทำรายได้จากการขายไตรมาส 2 ลดลง 12% ขณะกำไรเพิ่มขึ้น พร้อมชูกลยุทธ์ มุ่งปรับตัวด้วยความรวดเร็ว และคุมเข้มบริหารความต่อเนื่องของธุรกิจ ควบคู่กับการใช้ดิจิทัลดันช่องทางค้าปลีกออนไลน์สู้ศึกครึ่งปีหลัง

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยว่า “งบการเงินรวมก่อนสอบทานของเอสซีจี ในไตรมาสที่ 2 ประจำปี 2563 มีรายได้จากการขาย 96,010 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 12 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาขายของสินค้าเคมีภัณฑ์ลดลง และลดลงร้อยละ 9 จากไตรมาสก่อน เนื่องจากรายได้ของธุรกิจหลักลดลง โดยมีกำไรสำหรับงวด 9,384 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 33 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลการดำเนินงานของธุรกิจหลักที่ดีขึ้น การปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และการจัดการการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ และเพิ่มขึ้นร้อยละ 35 จากไตรมาสก่อน จากผลการดำเนินงานของธุรกิจเคมิคอลส์ที่ดีขึ้น

สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2563 เอสซีจีมีรายได้จากการขาย 201,751 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาขายของสินค้าเคมีภัณฑ์ปรับตัวลดลง โดยมีกำไรสำหรับงวด 16,355 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 13 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากส่วนต่างราคาสินค้าเคมีภัณฑ์ลดลงในไตรมาสที่ 1 ปี 2563

โดยครึ่งปีแรกของปี 2563 เอสซีจีมียอดขายสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม (High Value Added Products & Services – HVA) 91,003 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 45 ของยอดขายรวม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เอสซีจีปรับ 5 กลยุทธ์เชิงรุกดันทุกธุรกิจสู้โควิด-19

นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ รวมการส่งออกจากประเทศไทย ในครึ่งปีแรกของปี 2563 ทั้งสิ้น 86,638 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 43 ของยอดขายรวม ลดลงร้อยละ 2 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

สินทรัพย์รวมของเอสซีจี ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 มีมูลค่า 706,652 ล้านบาท โดยร้อยละ 36 เป็นสินทรัพย์ในอาเซียน

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 และครึ่งปีแรกของปี 2563 แยกตามรายธุรกิจ ดังนี้

ธุรกิจแพคเกจจิ้ง ในไตรมาสที่ 2 ปี 2563 มีรายได้จากการขาย 21,636 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนจากการซื้อธุรกิจ และลดลงร้อยละ 11 จากไตรมาสก่อน เนื่องจากปริมาณความต้องการซื้อสินค้าที่ลดลงในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ในขณะที่ความต้องการบรรจุภัณฑ์ของสินค้าอุปโภค-บริโภค เเละบรรจุภัณฑ์สำหรับ E-commerce เพิ่มขึ้น โดยมีกำไรสำหรับงวด 1,904 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 94 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากไตรมาสก่อน จากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน

สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2563 ธุรกิจแพคเกจจิ้ง มีรายได้จากการขาย 45,903 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสำหรับงวด 3,636 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 40 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ธุรกิจเคมิคอลส์ ในไตรมาสที่ 2 ปี 2563 มีรายได้จากการขาย 34,758 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 24 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงร้อยละ 9 จากไตรมาสก่อน เนื่องจากราคาผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลง โดยมีกำไรสำหรับงวด 4,564 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 23 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาวัตถุดิบที่ลดลง และเพิ่มขึ้นร้อยละ 157 จากไตรมาสก่อน เนื่องจากปริมาณขายและส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น

สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2563 ธุรกิจเคมิคอลส์ มีรายได้จากการขาย 73,087 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 21 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลง โดยมีกำไรสำหรับงวด 6,342  ล้านบาท ลดลงร้อยละ 34 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่ลดลงและผลประกอบการของบริษัทร่วมลดลง

ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ในไตรมาสที่ 2 ปี 2563 มีรายได้จากการขาย 42,506 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 7 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงร้อยละ 8 จากไตรมาสก่อน เนื่องจากความต้องการของตลาดลดลงจากมาตรการปิดเมือง โดยมีกำไรสำหรับงวด 1,944 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 211 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และมีรายการปรับเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงานในไตรมาสที่ 2 ปี 2562  และลดลงร้อยละ 30 จากไตรมาสก่อน เนื่องจากมาตรการปิดเมือง ปัจจัยด้านฤดูกาล และขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ในไตรมาสที่ 2 ปี 2563

สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2563 ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง มีรายได้จากการขาย 88,751 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากความต้องการของตลาดลดลงจากมาตรการปิดเมือง โดยมีกำไรสำหรับงวด 4,722 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 36 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และในปีก่อนมีรายการปรับเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงานในไตรมาสที่ 2  ปี 2562

นายรุ่งโรจน์ กล่าวต่อไปว่า “ในช่วงที่ต้องเผชิญกับภาวะวิกฤตจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19  แม้เอสซีจีจะไม่ได้อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เช่น ธุรกิจท่องเที่ยวและสายการบิน แต่บริษัทได้ติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเหตุการณ์มีความไม่แน่นอนสูง เพื่อให้สามารถปรับตัวและเตรียมแผนการรองรับได้ทันท่วงที

เอสซีจี จึงได้ดำเนินธุรกิจให้มีโฟกัสมากยิ่งขึ้น ทั้งการเตรียมพร้อมรับมือในกรณีที่เกิดสถานการณ์เลวร้ายที่สุด (Prepare for the Worst) เช่น การเตรียมการขายและการขนส่งล่วงหน้า หากมีการปิดเมือง การวางแผนสำหรับโอกาสทางธุรกิจที่เข้ามาได้ทุกเมื่อ (Plan for The Best) เช่น การปรับกำลังการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ควบคู่กับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ (Digital Transformation) เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและคุ้มค่าที่สุด (Optimization Model) ขณะเดียวกันก็ได้เฝ้าสังเกตการเปลี่ยนแปลง และการเติบโตของตลาด ทั้งธุรกิจ e-commerce การสั่งอาหารออนไลน์ และพฤติกรรมบริโภคที่ใส่ใจดูแลสุขอนามัยเพิ่มขึ้น เพื่อให้สามารถส่งมอบนวัตกรรมโซลูชัน สินค้าและบริการ ที่ตอบความต้องการของผู้บริโภค และโอกาสทางการตลาดได้อย่างทันท่วงที จึงทำให้ผลประกอบการของเอสซีจีในไตรมาสที่ 2 และครึ่งปีแรกของปี 2563 ได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อยจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

ธุรกิจแพคเกจจิ้ง ยังคงแข็งแกร่งและมีศักยภาพที่โดดเด่น อันเป็นผลจากการดำเนินนโยบายขยายธุรกิจด้วยการควบรวมกิจการ (Merger & Partnership) อาทิ PT Fajar Surya Wisesa Tbk. ผู้นำธุรกิจกระดาษบรรจุภัณฑ์ในอินโดนีเซีย และ Visy Packaging (Thailand) Limited รวมถึงการวางแผนการลงทุนใน Bien Hoa Packaging Joint Stock Company หรือ SOVI ในเวียดนาม ที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจเติบโต ครอบคลุมทั้งภูมิภาคอาเซียน  และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้

สำหรับการบริหารความต่อเนื่องของธุรกิจ (Business Continuity Management)  ธุรกิจได้มุ่งปรับปรุงกระบวนการผลิต ทั้งในประเทศไทย และอาเซียน ทั้งเวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ให้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ การปฏิบัติตามมาตรฐานใหม่ที่กำหนดขึ้นสำหรับการดำเนินงานในประเทศที่ธุรกิจประกอบกิจการอยู่ เพื่อความปลอดภัยของพนักงาน ตลอดจนลูกค้าและคู่ธุรกิจ รวมถึงการทำงานร่วมกับลูกค้ากลุ่มธุรกิจอย่างใกล้ชิด ตลอดห่วงโซ่อุปทาน ให้คงความน่าเชื่อถือ ทั้งการจัดหาวัตถุดิบและการจัดการด้าน        โลจิสติกส์  พร้อมบังคับใช้มาตรการรักษาสุขอนามัยที่เข้มงวด เพื่อให้สามารถนำเสนอโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์ครบวงจร ส่วนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ของ SCGP คำขอได้รับอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต. เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์ภายนอกต่าง ๆ เช่น แนวโน้มเศรษฐกิจ ภาวะตลาดเงินตลาดทุน รวมถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุน

ธุรกิจเคมิคอลส์ ได้เร่งดำเนินการบริหารความต่อเนื่องของธุรกิจด้วยมาตรการที่เข้มแข็ง (Business Continuity Management) เพื่อให้สามารถเดินหน้าการผลิตอย่างเต็มที่ และสร้างโอกาสในการเติบโตของธุรกิจได้ท่ามกลางสภาวะตลาดที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเน้นการดูแลด้านความปลอดภัยของพนักงาน อาทิ  การจัดที่พัก อำนวยความสะดวกในการเดินทาง การจัดกลุ่มและแบ่งสัดส่วนพื้นที่การทำงานของพนักงานในโรงงานอย่างชัดเจน ตลอดจนการควบคุมคุณภาพและความสะอาดของวัตถุดิบและสินค้า เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้แก่ทั้งพนักงานและลูกค้า ขณะเดียวกัน เนื่องด้วยธุรกิจมีความสามารถในการบริหารจัดการสินค้าที่ยืดหยุ่น ทำให้ตอบสนองกับความต้องการที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในตลาดได้ ส่งผลให้ปริมาณการขายเพิ่มขึ้นแม้ในสถานการณ์ที่ผันผวนและท้าทายนี้ และยังคงเดินหน้าพัฒนาสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูงให้มีสัดส่วนที่สูงขึ้น เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่ฟื้นตัว ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างดีที่สุด

นอกจากนี้ โครงการปิโตรเคมีครบวงจร Long Son Petrochemicals Company Limited (LSP) ที่เวียดนาม ก็มีความคืบหน้าตามแผน ซึ่งได้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วกว่าร้อยละ 45

สำหรับธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ยังคงเผชิญกับสภาวะตลาดที่ท้าทาย ธุรกิจจึงได้ปรับตัวด้วยการมุ่งนำเสนอสินค้าและบริการ พร้อมโซลูชันครบวงจร และพัฒนาช่องทางค้าปลีกในรูปแบบ Active Omni-channel ที่เชื่อมต่อช่องทางออนไลน์ SCGHOME.COM กับเครือข่ายร้านค้าของ SCG HOME ทั่วประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ให้ลูกค้าสามารถสอบถาม ขอรับคำปรึกษา และเลือกซื้อสินค้าได้ทุกช่องทาง รวมทั้งนำเสนอแพลทฟอร์มเพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับลูกค้าเจ้าของบ้าน อาทิ คิวช่าง ศูนย์รวมบริการและโซลูชันเกี่ยวกับเรื่องบ้านจากทีมช่างคุณภาพ CON.X บริการงานก่อสร้างครบวงจร ตั้งแต่ออกแบบ รื้อ ซ่อม สร้างและตกแต่ง Design Connext มาร์เก็ตเพลสที่เชื่อมระหว่างนักออกแบบและเจ้าของบ้าน และ dooDeco บริการด้านตกแต่งภายในครบวงจร เป็นต้น นอกจากนี้ ธุรกิจยังให้บริการโซลูชันงานโครงสร้างกับผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs) ด้านอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้ชื่อ CPAC Smart Structure ด้วยการใช้สินค้าและนวัตกรรมการก่อสร้างที่ดีที่สุด อาทิ เทคโนโลยี BIM (Building Information Modelling) และ AR-VR (Augmented & Virtual Reality) เป็นต้น เข้ามาช่วยให้การทำงานสะดวกยิ่งขึ้น ถูกต้อง แม่นยำ และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สำหรับการช่วยเหลือสังคมนั้น เอสซีจีเพียงลำพังไม่อาจช่วยเหลือสังคมในกว้างได้ ขอขอบคุณเครือข่าย 125 องค์กร ที่ช่วยสนับสนุนจนทำให้สามารถกระจาย 31 นวัตกรรมป้องกันโควิด-19 ไปยังโรงพยาบาลและหน่วยงาน 847 แห่งทั่วประเทศ ได้อย่างรวดเร็วและทันต่อความต้องการของสังคม ทำให้ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ได้เป็นอย่างดี  สำหรับนวัตกรรมป้องกันโควิด-19 อาทิ  ห้องตรวจและ   คัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยง (Modular Screening & Swab Unit) โดยเทคโนโลยีของ SCG HEIM และ Living Solution หุ่นยนต์ส่งอาหารและยาระยะไกล โดยธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง และนวัตกรรมป้องกันโควิด-19 แบบเคลื่อนที่ (Mobile Isolation Unit) โดยธุรกิจเคมิคอลส์ รวมทั้งชุดกระดาษอนามัย ถุงซักผ้าละลายน้ำได้ เตียงกระดาษถอดประกอบได้ โดยธุรกิจแพคเกจจิ้ง รวมถึงการซ่อมบำรุงเครื่องช่วยหายใจให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศ ที่ได้ร่วมกับบริษัทคูโบต้าและโตโยต้า

เอสซีจี ยังได้รับสนองพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ให้ดำเนินการผลิตและติดตั้ง “ห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit)” ซึ่งเป็นหนึ่งใน “โครงการเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือแพทย์พระราชทาน” ให้แก่โรงพยาบาล 20 แห่งทั่วประเทศ รวมถึง “นวัตกรรมป้องกันโควิด-19 แบบเคลื่อนที่ (Mobile Isolation Unit)” และ “ห้องคัดกรองและห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Screening & Swab Unit)” สำหรับส่งมอบให้แก่มูลนิธิชัยพัฒนานำไปช่วยเหลือโรงพยาบาลในพื้นที่ห่างไกล ตามพระราชปณิธานของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ขณะปฏิบัติหน้าที่ และช่วยปกป้องประชาชนที่มารับการตรวจรักษา ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2563 ในอัตรา 5.5 บาทต่อหุ้น เป็นเงิน 6,600 ล้านบาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม 2563 กำหนดผู้ที่ไม่มีสิทธิ์รับเงินปันผล (XD) ในวันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม 2563 และกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิ์รับเงินปันผล (Record date) ในวันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม 2563” นายรุ่งโรจน์ กล่าวสรุป

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ปิดดีล“แหลมฉบังเฟส3″ ชง“บอร์ดอีอีซี”ไฟเขียว ประมูลเพิ่ม  2  สัญญา

กทท.เผยเจรจาผลตอบแทน “ท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3” ได้ข้อยุติแล้ว หลังเจรจาไม่ลงตัวจ่อเสนอบอร์ดอีอีซีไฟเขียว ลุยประมูลเพิ่มอีก 2 สัญญา

หลังศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษายกคำร้อง กลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี ประกอบด้วย บริษัท นทลิน จำกัด, พริมา มารีน, แอสโซซิเอท อินฟินิตี้, พีเอชเอส ออแกนิค ฮีลลิ่ง และ ไชน่า เรลเวย์ คอนสตรั๊คชั่น

กรณีขอให้ศาลปกครองเพิกถอนคำสั่งคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนพัฒนาแหลมฉบังเฟส 3 ที่ไม่รับซองเอกสาร ที่ 2 เพื่อร่วมลงทุนในโครงการท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ในส่วนของท่าเทียบเรือ F เมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้กลุ่มกิจการร่วมค้า GPC ประกอบด้วยบริษัทกัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือกัลฟ์ (Gulf), พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล และ ไชน่า ฮาร์เบอร์ เอ็นจิเนียริ่ง ชนะการประมูลในครั้งนี้

รายงานข่าวจากการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาโครงการดังกล่าวมีความล่าช้ากว่าแผนที่กำหนด เนื่องจากบอร์ดคัดเลือกฯ ได้ให้กลุ่ม GPC จัดทำข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่รัฐ เพื่อเสนอบอร์ดคัดเลือกฯ โดยกลุ่ม GPC เป็นผู้ผ่านการประเมินในการประมูลโครงการดังกล่าว ทำให้โครงการดังกล่าวยืดเยื้อไม่จบสิ้น

ล่าสุด แหล่งข่าวจากกทท.ระบุว่า ขณะนี้คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 (ท่าเทียบเรือ F) ได้เจรจาข้อเสนอด้านการเงินกับเอกชนที่ผ่านการคัดเลือก คือ กลุ่มกิจการร่วมค้า GPC ได้ข้อสรุปแล้ว เตรียมเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ภายในสัปดาห์หน้า ก่อนรายงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) พิจารณา

“ถึงแม้ว่าผลตอบแทนที่เอกชนยื่นเสนอนั้น อยู่ที่ 32,000 ล้านบาท ต่ำกว่าที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติอยู่ที่ 32,225 ล้านบาท แต่ผลตอบแทนที่สรุปได้ ถือว่าใกล้เคียงกับวงเงินที่รัฐต้องการ ทั้งนี้คณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้เจรจาอย่างเต็มที่ พร้อมเสนอเหตุผลทั้งหมดประกอบเพื่อให้บอร์ดอีอีซีพิจารณาเห็นชอบ”

ส่วนข้อเสนอของกลุ่มกิจการร่วมค้า GPC แม้จะพบว่ามีการเสนอราคาต่ำกว่ามติ ครม.กำหนด 32,225 ล้านบาท แต่กลับพบว่าภาพรวมของแผนพัฒนาโครงการของเอกชน มีผลการศึกษาผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและการเงิน (FIRR) สูงกว่าที่ กทท.ศึกษาไว้ ทำให้ภาพรวมของการพัฒนาโครงการนี้ ยังมีความเหมาะสม

ทั้งนี้ตามกรอบระยะเวลาดำเนินงานถมทะเลนั้น โดยปกติจะใช้เวลาราว 4 ปีแล้วเสร็จ แต่ กทท.ได้แบ่งแผนพัฒนาในช่วง 2 ปีหลังจากนี้ จะปรับพื้นที่ให้แล้วเสร็จ และเปิดให้เอกชนผู้ชนะการประมูลท่าเรือแหลมฉบัง 3 เข้าพื้นที่เริ่มงานก่อสร้าง หากมีการลงนามกับกลุ่มกิจการร่วมค้า GPC ภายในปีนี้ ก็อาจจะใช้เวลาระหว่างนี้ในการทำแผนบริหาร

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นภายใน ปี 2566-2567 กทท.จะดำเนินการประกวดราคางานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 อีก 2 สัญญา ประกอบด้วย สัญญางานจัดหารถไฟ และสัญญาจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ ส่วนสัญญางานก่อสร้างอาคาร ท่าเทียบเรือ ระบบถนน และระบบสาธารณูปโภค กทท.อยู่ระหว่างเปิดขายซองเอกสารประกวดราคา (ทีโออาร์) ระหว่าง 29 พ.ค.-14 ส.ค.นี้ และมีกำหนดเปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอ ในวันที่ 17 ส.ค.2563

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


บาทเปิด 31.44 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่า

บาทเปิด 31.44 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่า

เงินบาทเปิดตลาด 31.44 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่า หลังดอลล์อ่อนรับเฟดคงดอกเบี้ย-ส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 31.44 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากปิดตลาดเมื่อเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.47 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินสหรัฐ (FOMC) ส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง และประเมินภาวะเศรษฐกิจสหรัฐได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

“บาทแข็งค่าจากเย็นวานนี้ เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินหลัก หลังเฟดส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง โดยให้น้ำหนักเรื่องผลกระทบจากโควิดชัดเจนมากขึ้น” นักบริหารเงิน กล่าว

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com

สุดแกร่ง เปิด 15 นักเตะทำสถิติลงเล่นครบทุกนาทีใน “พรีเมียร์ลีก” 2019-20

เปิดรายชื่อ 15 นักเตะที่ทำสถิติลงสนามครบทุกนาทีในเกม “พรีเมียร์ลีก อังกฤษ” ซีซั่นนี้ โดยแบ่งออกเป็นผู้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู 8 คน และผู้เล่นเอาต์ฟิลด์อีก 7 คน

วันที่ 30 ก.ค. 63 ความเคลื่อนไหวของ “พรีเมียร์ลีก อังกฤษ” สมรภูมิลูกหนังอันดับที่ 1 ของโลก ประจำฤดูกาล 2019-20 ได้รูดม่านปิดฉากลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยมีสถิติที่น่าสนใจเกิดขึ้นมากมายซึ่ง 1 สถิติที่น่าสนใจนั้นคือสถิติผู้เล่นที่ลงสนามครบทุกนาทีตลอดทั้ง 38 นัดในฤดูกาลนี้ มีจำนวนทั้งหมด 15 คน แบ่งออกเป็นผู้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู 8 คน และผู้เล่นเอาต์ฟิลด์อีก 7 คนด้วยกัน

1. ดาบิด เด เคอา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

2. แคสเปอร์ ชไมเคิล (เลสเตอร์ ซิตี้)

3. รุย ปาทริซิโอ (วูล์ฟแฮมป์ตัน)

4. นิค โป๊ป (เบิร์นลีย์)

5. จอร์แดน พิคฟอร์ด (เอฟเวอร์ตัน)

6. มาร์ติน ดูบราฟกา (นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด)

7. แม็ทธิว ไรอัน (ไบรจ์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน)

8. เบน ฟอสเตอร์ (วัตฟอร์ด)

ผู้เล่นตำแหน่งเอาต์ฟิลด์ 7 คน

1. เวอร์จิล ฟานไดจ์ (ลิเวอร์พูล)

2. แฮร์รี แม็กไกวร์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

3. คอเนอร์ โคอาดี (วูล์ฟแฮมป์ตัน)

4. จอร์จ บัลด็อก (เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด)

5. เจมส์ ทาร์คอฟสกี (เบิร์นลีย์)

6. เจมส์ วอร์ด-เพราส์ (เซาธ์แฮมป์ตัน)

7. ดีแคลน ไรซ์ (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด)

ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th


ที่เป็นอยู่นั้นแค่ปวดหลังธรรมดา..หรือว่าหลังเสื่อม

ที่เป็นอยู่นั้นแค่ปวดหลังธรรมดา..หรือว่าหลังเสื่อม

รู้หรือไม่ ว่าอาการปวดหลังแบบไหนที่จะส่งผลต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย แล้วที่เราเป็นอยู่นั้นมันคืออาการปวดหลังธรรมดา หลังเสื่อม หรือแค่กล้ามเนื้อเกร็ง

ด้วยยุค 5G ที่แท้ทรูนำไปสู่การเป็นสังคมก้มหน้า ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป เราต่างก็นั่งหรือนอนแน่นิ่งอยู่กับที่จนมีการเคลื่อนไหวร่างกายน้อยลงทุกวัน จึงเป็นเหตุให้ร่างกายเสื่อมเร็วกว่าวัยอันควร ว่ากันว่าโรคความเสื่อมเป็นโรคของคนอายุมาก แต่ปัจจุบันพบว่าโรคความเสื่อมนี้มีกันตั้งแต่อายุ 18 ปี อย่างไม่น่าเชื่อ

สาเหตุที่ความเสื่อมเกิดขึ้นในคนอายุน้อย คุณเพ็ญพิชชากร แสนคำ นักกายภาพบำบัดจาก คลินิกกายภาพบำบัดอริยะ ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี) ได้อธิบายว่า

คนยุคนี้มีการใช้ร่างกายที่หนักมากเกินไป เช่น เป็นนักกีฬา มีการล้ม การกระแทกบ่อยๆ ทำให้น้ำซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของหมอนรองกระดูกที่หลังเสื่อมเร็ว อาการปวดหลังจึงเป็นอาการที่มักพบได้ง่าย เมื่อมีอาการปวดหลังแล้วยังส่งผลต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย หรือเรียกว่า แค่ปวดหลัง!! อาจพังทั้งร่างได้

อาการปวดหลังธรรมดากับปวดหลังเพราะหลังเสื่อมมีความแตกต่างกัน โดยเราสามารถสังเกตได้ด้วยตัวเอง ปวดหลังธรรมดาส่วนใหญ่มาจากกล้ามเนื้ออักเสบ อาการปวดมักปวดอยู่เพียงบริเวณหลังที่เป็นระบุตำแหน่งที่เป็นได้ชัดเจน และมักมาจากการใช้หลังหนักไป ส่วนปวดหลังเพราะหลังเสื่อมนั้น ส่วนใหญ่มักมีอาการปวดหรือชาร้าวลงขา อาจมีอาการอ่อนกำลังของขาร่วมด้วย

แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร…ว่าปวดหลังธรรมดา หลังเสื่อม หรือว่าแค่กล้ามเนื้อเกร็ง มาตรวจสอบดูกันเลยว่าเรามีอาการเหล่านี้หรือไม่

  • ปวดหลังร้าวลงขา ลงสะโพก
  • ปวดชา ล้าๆ หนักๆ ขาด้านที่เป็น เหมือนขาหนักไม่เท่ากัน
  • เริ่มจากเมื่อยล้าธรรมดา นานเข้าก็เริ่มปวดมาก หน่วงๆ หนักๆ ลงสะโพก
  • เสียวแปลบที่หลัง เวลาขยับหรือบิดตัว
  • ซ่าๆ หรือรู้สึกหนาๆ ที่ฝ่าเท้า
  • รู้สึกยิบๆ เหมือนมดไต่ ไล่ตามหน้าแข้ง ข้างๆ ขาหรือฝ่าเท้า
  • ขาอ่อนแรง เดินไม่กี่ก้าว เข่าเหมือนจะทรุด ต้องนั่งพัก
  • อาการที่เป็นจะชัดมากเมื่อยืนหรือเดิน บางรายเพียง 2-3 นาที ก็มีอาการแล้ว
  • นั่งนาน นอนนาน มีอาการปวดหลัง จะสบายขึ้นเมื่อขยับตัว แต่ขยับมากไป ก็กระตุ้นให้ปวดหลังอีก
  • ตื่นเช้ามาล้าที่หลัง หลังแข็ง จังหวะแรกที่ขยับเพื่อลุกขึ้น จะรู้สึกปวดหลัง
  • ยืดแล้ว ออกกำลังกายแล้ว อาการเหมือนจะดีขึ้น แต่สักพักก็กลับมาปวดหลังอีก 

ถ้ามีอาการเหล่านี้ บอกได้ว่ากำลังเริ่มต้นก้าวเข้าสู่ความเสื่อม…อย่าปล่อยไว้ เพราะนานไปอาจแก้ไขไม่ทันรู้เร็วรักษาได้ รักษาหาย…ปล่อยไว้รักษายาก และกลับมาเหมือนเดิมไม่ได้

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


ประโยค เยี่ยมชมวัด คำศัพท์ ปางพระพุทธรูป ภาษาอังกฤษ

วัด นอกจากเป็นศูนย์รวมจิตใจสำหรับพุทธศาสนิกชนแล้ว ยังเป็นสถานที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต่างศาสนา ให้ความสนใจเป็นอย่างมากอีกด้วย และเราควรรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ศึกษารูปประโยคต่างๆ ไว้เพื่อสื่อสารครับ เรามาเรียนภาษาอังกฤษเกี่ยวกับ วัด […]

วัด นอกจากเป็นศูนย์รวมจิตใจสำหรับพุทธศาสนิกชนแล้ว ยังเป็นสถานที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต่างศาสนา ให้ความสนใจเป็นอย่างมากอีกด้วย และเราควรรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ศึกษารูปประโยคต่างๆ ไว้เพื่อสื่อสารครับ เรามาเรียนภาษาอังกฤษเกี่ยวกับ วัด และศาสนา จากตัวอย่างบทสนทนาด้านล่างกันครับ

At the Marble Temple
(Wat Benchamabophit)
ที่วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม

marble (มาร์’เบิล) หินอ่อน
temple (เทม’เพิล) วัด

ตัวอย่างบทสนทนาภาษาอังกฤษ

This is the Marble Temple.
นี้คือวัดเบญจมบพิตร

What are inside this compound?
อะไรอยู่ในบริเวณนี้?

compound (คอม’เพาน์ดฺ) บริเวณ, บริเวณล้อมรั้ว

There’re a lot of Buddha images.
มีพระพุทธรูปมากมาย

They’re very interesting.
น่าสนใจมาก

interesting (อิน’เทอเรสทิง) น่าสนใจ

Who built this temple?
ใครสร้างวัดนี้?

It was built by …
ถูกสร้างโดย

[เรียนเรื่องการใช้ Passive Voice : ประธานถูกกระทำ เช่น ถูกสร้างโดย..]

The temple is very beautiful and gorgeous indeed.
วัดสวยและงดงามมากจริงๆ

gorgeous (กอร์’เจิส) หรูหรา,โอ่อ่า,วิเศษ
indeed (อินดีด’)จริงๆ, โดยแท้จริง

The most beautiful and biggest Buddha image.
พระพุทธรูปที่สวยที่สุดและใหญ่ที่สุด

Can we go inside it and have a closer look?
เราเข้าไปข้างในและดูใกล้ๆ ได้ไหม?

Yes, but we have to take our shoes off before entering.
ครับ/ค่ะ แต่เราต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าไป

take … off = ถอด

We can get through the side door, and leave our shoes on the steps.
เราไปเข้าประตูทางข้างก็ได้ และถอดรองเท้าไว้ที่บันได

Well, we’ll be seeing them later.
เอาล่ะ เราจะดูทีหลัง

Shall we start from the biggest image inside the main building here?
เราเริ่มจากพระพุทธรูปใหญ่ที่สุดในนี้ไหม?

All right, I follow you.
ตกลง ฉันตามคุณ

Could I take pictures inside?
ฉันถ่ายรูปข้างในได้ไหม?

Yes, I think you can.
ครับ/ค่ะ ฉันคิดว่าคุณถ่ายได้

The Buddha image is really marvelous.
พระพุทธรูปมหัศจรรย์จริงๆ

marvelous (มาร์’เวิลลัส) น่าประหลาดใจ, ดีเลิศ, ยิ่งใหญ่, เหลือเชื่อ

And the mural paintings on the walls are quite impressive.
และจิตรกรรมฝาผนังบนฝาประทับใจมากทีเดียว

impressive (อิมเพรส’ ซิฟว) ประทับใจ, ซาบซึ้งใจ

I’ve never seen such paintings before.
ฉันไม่เคยเห็นภาพเขียนเช่นนี้มาก่อน

ทบทวนคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการเยี่ยมชมวัด ที่ควรรู้

Marble Temple = วัดเบญจมบพิตร
compound = บริเวณ
Buddha image = พระพุทธรูป
Buddha images = พระพุทธรูปหลายองค์
gorgeous = งดงาม งดงามมาก
look = มอง การมอง ดู การดู
have a look = มอง ดู
have a closer look = ดูใกล้ๆ
through = ผ่าน โดยผ่าน
corridors = เฉลียง ระเบียง
pictures = ภาพ รูปภาพ
take pictures = ถ่ายภาพ
marvelous = มหัศจรรย์
mural = ผนัง เกี่ยวกับฝาผนัง
paintings = ภาพเขียน ภาพวาด
mural paintings = จิตรกรรมฝาผนัง
such = เช่นนั้น เช่นนี้
impressive = ประทับใจมาก

ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ที่ควรเรียนรู้

Passive Voices (ประโยคประธานเป็นผู้ถูกกระทำ)
โครงสร้างประโยค คือ V. be + v.3 เช่น

It was built by …
ถูกสร้างโดย …

The marble was brought from Italy.
หินอ่อนได้ถูกนำมาจากประเทศอิตาลี

I’m invited to the party.
ฉันได้รับเชิญไปงานเลี้ยง

He should be blamed.
เขาควรถูกตำหนิ

The boy was hit by the car.
เด็กชายถูกรถชน

ตัวอย่างประโยค Passive Voice สำหรับศึกษาเพิ่มเติม

They served the dinner.
เขาเสิร์ฟอาหารเย็น

The dinner was served.
อาหารเย็นถูกเสิร์ฟ

She made her dress.
เธอตัดชุดของเธอ

Her dress was made.
ชุดของเธอถูกตัด

She told a story.
เธอได้เล่านิทาน

A story was told.
เรื่องถูกเล่า

They stole his money.
พวกเขาได้ขโมยเงินของเขา

His money was stolen.
เงินของเขาถูกขโมย

They brought the marble from Italy.
เขาได้นำหินอ่อนมาจากอิตาลี

The marble was brought from Italy.
หินอ่อนถูกนำมาจากอิตาลี

He built this temple.
เขาได้สร้างวัดนี้

This temple was built by him.
วัดนี้ถูกสร้างโดยเขา

They will invite you next time.
เขาจะเชิญคุณคราวหน้า

You will be invited next time.
คุณจะได้รับเชิญคราวหน้า

They speak Italian in Italy.
เขาพูดภาษาอิตาเลียนในอิตาลี

Italian is spoken in Italy.
ภาษาอิตาเลียนถูกพูดในอิตาลี

They will hold the conference next month.
เขาจะจัดประชุมเดึอนหน้า

The conference will be held next month.
การประชุมจะถูกจัดขึ้นเดือนหน้า

ตัวอย่างบทสนทนาการเยี่ยมชมวัด

How are you this morning? And did you sleep well last night?
เข้านี้คุณสบายดีไหม? และเมื่อคืนนอนหลับดีไหม?

I’m very fine indeed. And yes, I slept so well, much better than the night before. And how are you?
ฉันสบายดีมากจริงๆ และฉันหลับดีเหลือเกิน ดีกว่าเมื่อคืนก่อนมาก และคุณสบายดีหรือ?

I’m very well, too. Thank you very much. Are you ready for the sightseeing yet?
ฉันสบายดีมากเหมือนกัน ขอบคุณมาก คุณพร้อมจะไปเที่ยวชมสถานที่หรือยัง?

Yes, I am. Where should we go first?
ครับ/ค่ะ ฉันพร้อม พวกเราจะไปไหนก่อน?

We’d better go to the Marble Temple. It’s very close by. And if we’ve got time later on we can visit the Emerald Buddha Temple. We may also go to the Grand Palace and the Reclining Buddha Temple. All are in the same complex.
เราควรจะไปวัดเบญฯ ก่อน มันอยู่ใกล้นี้เอง และถ้าเรามีเวลาหลังจากนั้น เราก็ไปวัดพระแก้วได้ แล้วเราอาจไปพระบรมมหาราชวังและวัดโพธิ้ด้วย ทั้งหมดอยู่บริเวณเดียวกัน

It sounds very excellent. We may spend the whole day if you are free.
ฟังดูเยี่ยมมาก เราอาจใช้เวลาทั้งวันถ้าคุณว่าง

I’m free to take you wherever you’d like to go.
ฉันมีเวลาพาคุณไปที่ไหนก็ตามที่คุณต้องการไป

It’s very kind of you. But please don’t waste your time just because of me.
คุณมีใจเมตตากรุณามาก แต่โปรดอย่าเสียเวลาเพื่อฉันคนเดียว

It’s my pleasure to be of your service.
มันเป็นความสุขของฉันที่ได้รับใช้คุณ

Are there many interesting things in the Marble Temple?
มีสิ่งน่าสนใจในวัดเบญฯ มากไหม?

Of course, there’re a lot of things to see there. We can spend the whole morning in this temple.
แน่นอนทีเดียว มีหลายสิ่งที่จะดูที่นั่น เราสามารถใช้เวลาทั้งเช้าในวัดนี้

Then we’d better not waste our time now. Let’s go there right away.
ถ้างั้น ตอนนี้เราไม่ควรเสียเวลา เราไปที่นั่นกันเลยเถอะ

คำศัพท์และวลีภาษาอังกฤษควรรู้

sleep = นอน, นอนหลับ
ready = พร้อม, เรียบร้อย
The Emerald Buddha Temple = วัดพระแก้วมรกต
emerald = มรกต
jade = หยก
The Grand Palace = พระบรมมหาราชวัง
grand = ใหญ่โต
The Reclining Buddha Temple = วัดพระนอน (วัดโพธิ์)
recline = นอน นอนตะแคง
wherever = ที่ไหนก็ตาม
kind = ใจดี มีใจกรุณา
It’s very kind of you. = คุณมีใจเมตตากรุณามาก
waste = เสีย สูญเสีย
waste time = เสียเวลา
because of… = เนื่องจาก…
pleasure = ความสุข, พอใจ, ยินดี
It’s my pleasure. = มันเป็นความยินดีของผม
service = การบริการ
to be of your service = ที่ได้รับใช้คุณ
right away = ทันที
go right away = ไปทันที

Had better หมายความว่า
น่าจะ, ควรจะ, น่าจะ…ดีกว่า, ควรจะ…ดีกว่า เช่น

We had better go to the Marble Temple.
เราควรจะไปวัดเบญจมบพิตรดีกว่า

You had better go now.
คุณน่าจะไปเดี๋ยวนี้ดีกว่า

You had better stay here for a while.
คุณน่าจะอยู่ที่นี่สักครู่

Had better not หมายความว่า
ไม่น่าจะ, ไม่ควรจะ, ไม่น่าจะ…ดีกว่า, ไม่ควรจะ…ดีกว่า เช่น

We had better not waste our time now.
ตอนนี้เราไม่น่าเสียเวลาดีกว่า

She had better not tell him.
เธอไม่น่าบอกเขาเลย

คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับวัดและพุทธศาสนา

ทำบุญ = make merit
ใส่บาตร = offer food to the monk(s)
บาตรพระ = alms bowl
บริจาค = donate
ปิดทอง (บนองค์พระ) = put gold leaf onto (the Buddha image/statue) /to gild
กราบพระ/ไหว้พระ = pay respect to (the monk/ the Buddha image)
กรวดน้ำ = pour water of dedication /to make a libation
อธิษฐาน/สวดมนต์ = pray

พระ = monk
สามเณร = novice
เด็กวัด = temple boy
วัด = temple
เจดีย์ = pagoda

พุทธศาสนา = Buddhism
พุทธศาสนิกชน = Buddhist
พระพุทธเจ้า = The Lord Buddha
พระพุทธรูป = The Buddha image/statue
พระเครื่อง = small Buddha image used as amulet
เครื่องรางของขลัง = amulet
พระบรมสารีริกธาตุ = relics
รอยพระพุทธบาท = Buddha’s footprint

บูชาองค์พระ = worship the Buddha image/statue
ดอกบัว = lotus flower
ธูป = incense stick(s)
จุดธูป = light the incense sticks
เทียน = candle –> จุดเทียน = light the candle
กระถางธูป = incense burner
สายสิญจน์ = sacred cord

นิมนต์พระ = invite the monk(s)
(พระ) สวดมนต์ = chant
ฟังเทศน์ = listen to the sermon
น้ำมนต์ = holy water
รดน้ำมนต์ = sprinkle the holy water
พร = blessing
รับพรจากพระ = Receive blessing from the monk(s)
ศีล = precepts
รับศีล = receive the precepts

ปางต่างๆ ของพระพุทธรูป
Attitude of the Buddha

– ปางมารวิชัย The attitude of subduing Mara
– ปางสมาธิ The attitude of meditation
– ปางห้ามญาติ The attitude of persuading the relatives not to quarrel
– ปางห้ามสมุทร The attitude of stopping the rainstorm
– ปางปฐมเทศนา The attitude of giving the first sermon
– ปางประสูติ The attitude of Nitivity
– ปางปรินิพพาน The attitude of Nirvana

อิริยาบทของพระพุทธรูป
Posture of the Buddha

– พระพุทธรูปยืน = Standing Buddha image
– พระพุทธรูปนอน = Reclining Buddha image
– พระพุทธรูปนั่ง = Seated Buddha image
– พระพุทธรูปเดิน = Walking Buddha image

พุทธลักษณะของพระพุทธรูป
Buddha Characteristics

– เรือนแก้ว (พระพุทธชินราช) = Arch frame
– ขมวดพระเกศา = Hair curl
– รัศมีเปลวเพลิง = Flame-like halo
– รัศมีบัวตูม = Lotus-bud halo
– พระพักตร์เหลี่ยม = Square face
– พระพักตร์กลม = Round face
– พระพักตร์รูปไข่ = Oval face
– คิ้วโก่ง = Curve eyebrows
– คิ้วต่อกันคล้ายปีกกา = Straight-connected eyebrows
– คางบุ๋ม = Dimple chin
– ตาโปน = Protuding eyes
– พระอังสะกว้าง = Broad Shoulder
– พระสบั้นเล็ก = Slim waist
– อวบ = Corpulent body
– พระนาภี = Nacel
– อมยิ้ม = Smiling expression
– นั่งขัดสมาธิราบ = Sitting cross-legs with one top of another
– นั่งขัดสมาธิเพชร = Sitting cross-legs with legs locked together
– นั่งพับเพียบ = Sitting with legs fold-back sideway

ขอบคุณข้อมูลจาก tonamorn.com


“อีซูซุ ดีแมคซ์” โกย ยอดขาย หนี “โตโยต้า รีโว่” ส่อวืดแชมป์ปิกอัพไทย

ผ่านครึ่งปี “อีซูซุ ดีแมคซ์” โกย ยอดขาย หนี “โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่” ห่างออกไปอีก ส่อวืดแชมป์ ยอดขายปิกอัพ ไทย

ปิกอัพโตโยต้า ยังไม่ฟื้น หลัง ยอดขาย เดือนมิถุนายนทำได้ 6,113 คัน น้อยกว่า “อีซูซุ” ที่ขายไป 14,868 คัน ส่วนตัวเลขสะสม 6 เดือนปีนี้ “ไฮลักซ์ รีโว่” ยังตาม “ดีแมคซ์” ห่าง 18,003 คัน เป้าหมายป้องกันแชมป์ปิกอัพเมืองไทยต่อเนื่องกว่า 10 ปี เริ่มสั่นคลอน

ศึกปิกอัพดิวิชัน 1 ระหว่าง “โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่” และ “อีซูซุ ดีแมคซ์” ปีนี้ได้ลุ้นกันยาวๆ ว่าใคร จะครองแชมป์ปิกอัพเมืองไทย เพราะหลังการเปิดตัว “ไฮลักซ์รีโว่ ไมเนอร์เชนจ์” ต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สถานการณ์การขายของโตโยต้า ยังไม่กลับมาเป็นปกติ หรือไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่หวังเอาไว้ โดยผู้บริหารชาวไทย นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เคยเปิดเผยว่า ปีนี้โตโยต้าต้องรักษาแชมป์ปิกอัพ 1 ตันเอาไว้ ด้วยการเร่งทำยอดขายให้ได้ 1 หมื่นคันต่อเดือน(ตั้งแต่ครึ่งปีหลังเป็นต้นไป)

ทั้งนี้ 6 เดือนแรก(ม.ค.-มิ.ย.63) ยอดขายสะสม “อีซูซุ ดีแมคซ์” ทิ้งโตโยต้าไปไกล และเพิ่มระยะห่างมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยตัวเลข 67,625 คันขณะที่ “ไฮลักซ์ รีโว่” ขายไป 49,622 คัน หรือตามอยู่ 18,003 คัน อย่างไรก็ตาม การรวมยอดเพื่อรักษาแชมป์ของโตโยต้า จะบวกตัวเลขรถกลุ่มพีพีวีเข้าไปด้วย เพราะ “โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์” ขายดีกว่า “อีซูซุ มิว-เอ็กซ์” มาก แต่สุดท้ายเมื่อรวมแล้ว ยอดปิกอัพ 1 ตัน ยังตาม 14,308 คันอยู่ดี

ที่สำคัญหากพิจารณาตัวเลข มิถุนายนเดือนเดียว ที่ “โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ไมเนอร์เชนจ์” เริ่มทยอยส่งมอบแล้ว ทำได้ 6,113 คัน น้อยกว่า “อีซูซุ ดีแมคซ์” ที่ทำไป 14,868 คัน ถือเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านโมเดลของโตโยต้า แต่ต้องยอมรับว่า พลานุภาพพลิกโลกของอีซูซุ ยังแรงไม่ตก จึงน่าลุ้นว่าช่วงที่เหลือของปี พี่ใหญ่ “โตโยต้า” จะเสกยอดขายให้กลับมาสูงได้ เหมือนทุกปีหรือไม่

“ในช่วงครึ่งปีแรก โตโยต้า ปรับแผนการดำเนินงาน ทั้งในส่วนของการผลิตและการขาย เพื่อให้มั่นใจว่ารถยนต์รุ่นใหม่ๆ ของเราสามารถแนะนำออกสู่ตลาดได้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม ดังนั้น ช่วงครึ่งปีหลังจากนี้ เราจะเร่งเดินหน้าทำตลาดอย่างเต็มที่ โดยมีผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ เป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่งเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เปิดตัว ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ และฟอร์จูนเนอร์ใหม่ โดยผลิตภัณฑ์ 2 รุ่นนี้ ได้รับการชื่นชมในเชิงบวกจากลูกค้า เราหวังว่าการเดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นยอดขายให้สูงขึ้นไปอีก” นายมิจิโนบุ ซึงาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวสรุป

สำหรับ โตโยต้า ไฮลักซ์รีโว่ ไมเนอร์เชนจ์ เพิ่มรุ่นย่อยเป็น 40 รุ่น ปรับราคาขึ้นประมาณ 2 หมื่นบาท (เฉลี่ยๆ) มาพร้อมโปรโมชันช่วงเปิดตัว ทั้งดาวน์ 0 บาท ดอกเบี้ย 1.19% ขับฟรี 90 วัน และเพิ่มการรับประกันสินค้าเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กม. ฟรี ค่าแรงการเช็กระยะ 100,000 กม. รวมแพ็กเกจ นี้มูลค่ากว่า 6 หมื่นบาท

นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงโควิด-19 เซ็กเมนต์ปิกอัพได้รับผลกระทบน้อยกว่ารถยนต์นั่ง เพราะรุ่นที่มีความจำเป็นต้องซื้อไปใช้งานยังพอขายได้ หรือบริษัทที่ทำธุรกิจขนส่งมีความต้องการสั่งซื้อล็อตใหญ่ไปใช้ในกิจการ โดยยอดขายครึ่งปีแรกของปิกอัพ 1 ตัน (รวมพีพีวี) ทำได้ 166,409 คัน ลดลง 35.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่เซ็กเมนต์รถยนต์นั่ง ตก 42.0% ด้วยจำนวน 119,716 คัน (จากตลาดรวม 328,604 คัน ลดลง 37.3%)

“ตลาดปิกอัพสถานการณ์เริ่มดีขึ้น อย่างต่างจังหวัดปิกอัพตอนเดียวยังขายได้ ยกเว้นจังหวัดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการท่องเที่ยวยังฟื้นตัวไม่ถึง 50% ซึ่งปีที่ผ่านๆ มาสัดส่วนการขายระหว่าง ปิกอัพ กับเก๋ง จะอยู่ที่ 45:55 หรือ50:50 แต่ปีนี้ ปิกอัพน่าจะขยับสัดส่วนเพิ่มเป็น 54%”นายสุรศักดิ์ กล่าวสรุป

ด้านปิกอัพดิวิชัน 2 ที่หลายรุ่นสาดแคมเปญมูลค่าเป็นแสนบาท ส่วนการแย่งชิงอันดับ 3 “มิตซูบิชิ ไทรทัน” กลับมาทวงพื้นที่จาก “ฟอร์ด เรนเจอร์” ได้สำเร็จเด็ดขาด ด้วยยอดขายครึ่งปีแรก 11,598 คัน และ 9,420 คัน ตามลำดับ

ส่วนความเคลื่อนไหวของแบรนด์อื่นๆ “มาสด้า บีที-50” เริ่มนับถอยหลังเปลี่ยนโฉม โดยปิกอัพเจเนอเรชันใหม่ว่าจ้างให้โรงงานอีซูซุ มอเตอร์ สำโรงผลิตบนพื้นฐานวิศวกรรมเดียวกับ “อีซูซุ ดีแมคซ์” ทั้งนี้ “มาสด้า บีที-50 โฉมใหม่” ถูกส่งไปเผยโฉมที่ประเทศออสเตรเลียแล้ว และเตรียมทำตลาดปลายปีนี้ ส่วนเมืองไทยมีโอกาสที่มาสด้า จะเลื่อนแผนเปิดตัวออกไปเป็นต้นปี 2564

“โควิด-19 มีผลต่อการแนะนำโปรดักต์ใหม่ลงสู่ตลาด อย่างปิกอัพ บีที-50 โฉมใหม่ เดิมมีแผนเปิดตัวปลายปีนี้ แต่ด้วยสถานการณ์ต่างๆ เปลี่ยนไป เรากำลังมอนิเตอร์ว่าจะเปิดตัวปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า” นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


งาดํา สรรพคุณและประโยชน์ของงาดำ 29 ข้อ !

งาดำ

งาดำ ชื่อสามัญ Black Sesame Seeds

งาดำ ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Sesamum indicum L. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Sesamum orientale L.)จัดอยู่ในวงศ์งา (PEDALIACEAE)

งาดำ จัดเป็นพืชที่มีคุณประโยชน์มากมาย การรับประทานเป็นอาหารเพื่อสุขภาพอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายของคุณจะแข็งแรงกว่าผู้ที่ไม่ได้รับประทานอย่างแน่นอน และเป็นยาที่รักษาได้ทุกโรค ในหะดีษหนึ่งท่านศาสนทูตได้กล่าวว่า إن في الحبة السوداء شفاء من كل داء إلا السأم ความว่า แท้จริงในงาดำนั้นสามารถรักษาได้ทุกโรค ยกเว้นความตาย

งาดำอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุอย่างวิตามินบี 1 บี 2 บี 3 บี 5 บี 6 บี 9 แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม โซเดียม ฟอสฟอรัส สังกะสี เหล็ก เป็นต้น โดยสามารถช่วยบำรุงร่างกายเกือบทุกสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็น ผม ผิวพรรณ กระดูก เล็บ ระบบขับถ่าย การบำรุงหัวใจ จึงเหมาะกับทุกวัย แม้กระทั่งเด็กที่มีอาการป่วยอยู่แล้ว หรือผู้หญิงที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยทอง งาดำจะจำเป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยป้องกันโรคภาวะกระดูกพรุนอย่างได้ผล

ประโยชน์ของงาดำ

  1. งาดำมีความสำคัญอย่างมากต่อความสมบูรณ์ของร่างกาย
  2. ช่วยชะลอความแก่ คงความอ่อนเยาว์
  3. ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ชุ่มชื้น ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย
  4. ช่วยซ่อมแซมและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผิวหนังของคุณ
  5. ช่วยบำรุงรากผมให้แข็งแรง และช่วยให้ผมดกเงางาม
  6. ช่วยป้องกันผมหงอก
  7. ช่วยเพิ่มพลังงานและความแข็งแรงของร่างกาย
  8. ช่วยในการเผาผลาญและสลายไขมัน ลดความอ้วน
  9. ช่วยลดการดูดซึมและการสังเคราะห์คอเลสเตอรอล
  10. ช่วยป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว
  11. ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ทำให้ระบบหัวใจแข็งแรงยิ่งขึ้น
  12. มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
  13. ช่วยลดความเครียด
  14. ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ในระบบประสาท
  15. งาดำมีธาตุเหล็กซึ่งช่วยบำรุงโลหิต
  16. ช่วยลดความดันโลหิต ขยายหลอดเลือด ป้องกันเกล็ดเลือดที่จะเกาะตัวกันเป็นลิ่ม
  17. ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดขาว ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
  18. การรับประทานงาดำพร้อมกันถั่วจะทำให้ร่างกายได้รับโปรตีนอย่างครบถ้วน ซึ่งบางตัวเป็นกรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้
  19. ช่วยให้นอนหลับสบาย ร่างกายกระปรี้กระเปร่า
  20. ช่วยป้องกันการเกิดโรคหวัด
  21. ช่วยป้องกันการเกิดโรคเหน็บชา และตะคริว
  22. ช่วยบำรุงกระดูกและป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน
  23. ช่วยป้องกันโรคท้องผูก
  24. ช่วยบรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวาร
  25. ช่วยต้านการอักเสบจากโรคข้อเสื่อม ยับยั้งการเสื่อมสลาย
  26. น้ำมันงาสามารถนำมาใช้เป็นยานวดร่วมกับสมุนไพรอื่น ๆ เพื่อช่วยรักษาเส้นเอ็นอักเสบ
  27. น้ำมันงาช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อาการปวดเข่า เคล็ดขัดยอก
  28. ผู้รับประทานมังสวิรัตินิยมใส่งาลงในอาหารถั่วเหลืองที่ปรุง เพื่อให้อาหารมีโปรตีนสมบูรณ์มากขึ้น
  29. ประโยชน์งาดำในการนำมาแปรรูปเป็นงาดำแคปซูล

(ผู้รับประทานบางรายอาจมีอาการแพ้ได้ เช่น ลมพิษ ริมฝีเปลือกตาปากบวมแดง คันจมูก หายใจลำบาก ความดันโลหิตลดลงจนช็อกหมดสติ โดยอาการเหล่านี้อาจ เกิดขั้นทันทีหลังจากรับประทานจนถึง 90 นาที)

งาดำ

คุณค่าทางโภชนาการของงาดำต่อ 100 กรัม

  • คาร์โบไฮเดรต 23.45 กรัม
  • พลังงาน 573 กิโลแคลอรี่ 2397 กิโลจูล
  • เส้นใยอาหาร 11.8 กรัม
  • โปรตีน 17.73 กรัม
  • น้ำ 4.69 กรัม
  • น้ำตาล 0.30 กรัม
  • ไขมันรวม 49.67 กรัม
  • กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 18.759 กรัม
  • กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 21.773 กรัม
  • กรดไขมันอิ่มตัว 6.957 กรัม
  • กรดกลูตามิก 3.955 กรัม
  • กรดแอสพาร์ติก 1.646 กรัม
  • เมไธโอนีน 0.586 กรัม
  • ทรีโอนีน 0.736 กรัม
  • ซีสทีอีน 0.358 กรัม
  • ซีรีน 0.967 กรัม
  • ฟีนิลอะลานีน 0.940 กรัม
  • อะลานีน 0.927 กรัม
  • อาร์จินีน 2.630 กรัม
  • โปรลีน 0.810 กรัม
  • ไกลซีน 1.215 กรัม
  • ฮิสทิดีน 0.522 กรัม
  • ทริปโตเฟน 0.388 กรัม
  • ไทโรซีน 0.743 กรัม
  • วาลีน 0.990 กรัม
  • ไอโซลิวซีน 0.763 กรัม
  • ลิวซีน 1.358 กรัม
  • ไลซีน 0.569 กรัม
  • ไฟโตสเตอรอล 714 มิลลิกรัม
  • เบต้าแคโรทีน 5 ไมโครกรัม
  • วิตามินเอ 9 หน่วยสากล
  • วิตามินอี 0.25 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 1 0.791 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 2 0.247 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 3 4.515 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 5 0.050 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 6 0.790 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 9 97 ไมโครกรัม
  • ธาตุแคลเซียม 975 มิลลิกรัม
  • ธาตุเหล็ก 14.55 มิลลิกรัม
  • ธาตุซีลีเนียม 5.7 ไมโครกรัม
  • ธาตุโซเดียม 11 มิลลิกรัม
  • ธาตุฟอสฟอรัส 629 มิลลิกรัม
  • ธาตุสังกะสี 7.75 มิลลิกรัม
  • ธาตุโพแทสเซียม 468 มิลลิกรัม
  • ธาตุแมกนีเซียม 351 มิลลิกรัม
  • ธาตุแมงกานีส 2.460 มิลลิกรัม
  • ธาตุทองแดง 4.082 มิลลิกรัม

(ข้อมูลจาก : www.black-sesame-seeds.com)

การรับประทานงาดำเพื่อให้มีประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุดก็คือการรับประทานงาดำเป็นอาหาร แทนที่จะรับประทานงาดำที่เป็นสารสกัด โดยวิธีที่ดีที่สุดก็คือการรับประทานด้วยวิธีการเคี้ยวจะได้ประโยชน์มากที่สุด แต่หากเรานำมาโรยใส่ข้าวหรือใส่เครื่องดื่ม ในบางครั้งเราอาจจะไม่ได้เคี้ยวด้วยซ้ำ จึงทำให้ร่างกายดูดซึมได้ไม่ดีเท่าที่ควรหรือดูดซึมไม่ได้เลย ซึ่งวิธีการรับประทานก็ง่าย ๆ ด้วยการนำงาดำมาใส่กับขนมปังโฮลวีตรับประทานทุกเช้าวันละ 10 ช้อนสำหรับผู้สูงอายุ แต่สำหรับคนวัยทำงานก็วันละ 3-4 ช้อนก็เพียงพอแล้ว หรือจะอยู่ในรูปของน้ำเต้าหู้งาดำก็ได้เช่นกัน แต่การรับประทานที่ดีนั้นควรรับประทานอย่างเหมาะสมพร้อมรับประทานให้ครบ 5 หมู่เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์อย่างสูงสุดและหลากหลาย นอกจากการรับประทานแล้วสามารถนำเอาน้ำมันงามาใช้นวดทาบริเวณที่มีอาการปวดและรักษาเส้นเอ็นที่บาดเจ็บ เพราะน้ำมันงามีสรรพคุณที่ช่วยนำพาสมุนไพรชนิดอื่น ๆ ที่ถูกนำมาผสมดูดซึมเข้าไปได้ดีขึ้น

สำหรับการเลือกซื้อเมล็ดงาดำควรเลือกซื้องาดำที่สะอาด ไม่มีสิ่งสกปรกเจือปน ไม่ควรซื้อที่ที่แบ่งขายตามร้านขายของชำ เพราะอาจจะเสี่ยงกับมูลแมลงสาบและแมลงอื่น ๆ และไม่ควรซื้อแบบที่บดสำเร็จมาแล้วเนื่องจากอาจมีเชื้อราติดมาด้วย เมื่อซื้อมาใช้แล้วควรเก็บใส่ขวดปิดฝาให้มิดชิด เพราะถ้าหากทิ้งไว้นานโดยไม่ปิดฝาให้มิดชิดจะทำให้มีกลิ่นเหม็นหืนได้

ขอบคุณข้อมูลจาก medthai.com


ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 29,000.00 29,100.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,878.00 28,470.48 29,600.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,690.20 25,623.43 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 1,502.40 22,776.38 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 845.00 12,810.20 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 657.00 9,960.12 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,946.00 29,501.36 n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 30/07/2563

ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันซัสโก้
ซัสโก้ดีลเลอร์
แก๊สโซฮอล์ 95 21.55 21.55 21.55 21.55 21.95 21.55 21.55 21.55 21.55 21.55
แก๊สโซฮอล์ 91 21.28 21.28 21.28 21.28 21.68 21.28 21.28 21.28 21.28 21.28
แก๊สโซฮอล์ E20 20.04 20.04 20.04 20.04 20.44 20.04 20.04 20.04 20.04
แก๊สโซฮอล์ E85 17.99 17.99
เบนซิน 95 28.96 29.81 29.46 28.96 28.96
ดีเซล 22.59 22.59 22.59 22.59 22.59 22.59 22.59 22.59 22.59 22.59
ดีเซล B10 19.59 19.59 19.59 19.59 19.59 19.59 19.59 19.59 19.59 19.59
ดีเซล B20 19.34 19.34 19.34 19.34 19.34 19.34 19.34 19.34
ดีเซลพรีเมี่ยม 27.04 27.06 29.04 29.04
แก๊ส NGV 15.31 15.31

 

Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า