สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 6 กรกฎาคม 2564

พฤกษา-ศุภาลัยผุดมาตรการช่วยลูกบ้านเหตุเพลิงไหม้รง.กิ่งแก้ว

พฤกษา-ศุภาลัยผุดมาตรการช่วยลูกบ้านเหตุเพลิงไหม้รง.กิ่งแก้ว

“พฤกษา”ชู4 มาตราการเร่งด่วนช่วยลูกบ้านได้รับผลกระทบจากเหตุไฟไหม้โรงงานย่านกิ่งแก้ว “ศุภาลัย”จัดโรงแรมให้ลูกบ้านพัก รอระหว่างซ่อมแซมบ้าน

นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  จากเหตุการณ์ระเบิดโรงงานกิ่งแก้วได้ส่งผลกระทบต่อลูกค้าโครงการบางส่วน บริษัทจึงออกมาตรการเร่งด่วน ตามหลัก Priority of Actions ในการให้ความช่วยเหลือลูกบ้านพฤกษา ที่ได้รับผลกระทบ เริ่มจาก 

1. การช่วยเหลือในการการอพยพออกจากพื้นที่ โดยพิจารณาช่วยเหลือบ้านที่มีปัญหาในการช่วยเหลือตนเอง เช่น มีผู้ป่วยติดเตียง มีผู้สูงอายุที่ต้องการดูแลสุขภาพ หรือ อื่นๆ 

2. อพยพ คนงานก่อสร้างของโครงการในพื้นที่ 

3. เพิ่มระบบการรักษาความปลอดภัย ภายในโครงการเนื่องจากหากมีการอพยพทำให้ไม่มีผู้อยู่บ้าน และบางหลังอาจมีปัญหาประตูหน้าต่างแตก และ 

4. ถ่ายภาพความเสียหายบ้านแต่ละหลัง ทั้งของลูกค้า และบ้านสต็อกเพื่อประโยชน์ในการเคลมความเสียหาย และเป็นข้อมูลเพื่อการซ่อมแซมเร่งด่วน และ รวบรวม โดยผู้จัดการนิติบุคคล แต่ละโครงการ จึงยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้

ศุภาลัยจัดโรงแรมให้ลูกบ้านพัก

ด้านบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เจ้าของโครงการศุภาลัย วิลล์ ชี้แจงว่า มีลูกบ้านในโครงการส่วนหนึ่งได้รับความเสียหาย จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทางบริษัทจึงได้ออกมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วน โดยมาตรการเบื้องต้น 1. จัดหาที่พักสำรองให้กับลูกบ้านในบริเวณใกล้เคียง 2. เร่งซ่อมแซมบ้านที่ได้รับความเสียหายจากเหตุดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ส่วนรายเอียดจำนวนและมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการประเมิน

โดยการสำรวจเบื้องต้นพบว่า มีลูกบ้านของโครงการศุภาลัย วิลล์ บางนา-วงแหวนได้รับผลกระทบจำนวน 175 คนและมีจำนวนผู้อพยพจำนวนกว่า 100 คน ที่ย้ายไปพักในโรงแรมที่ทางบริษัทจัดหาไว้ให้ โดยระหว่างนี้รอให้สถานการณ์คลี่คลายจะส่งทีมช่างไปซ่อมแซมบ้านของลูกบ้านที่ได้รับความเสียหาย ขณะเดียวกันได้เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) เข้าไปดูแลโครงการและทรัพย์สินของลูกบ้าน

ขณะที่่นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถให้รายละเอียดทั้งหมดได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการดูแลลูกบ้านในโครงการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


Empower Living by AP Save รับเหมา-แรงงาน 8,000 ชีวิต ก้าวข้ามโควิด

ภายใต้พันธกิจ “EMPOWER LIVING” ส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ การเดินหน้าที่ไม่หยุดยั้งของ “เอพี ไทยแลนด์” ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ วันนี้และทุก ๆ วันยังคงเดินหน้าขยายความช่วยเหลือสู่พันธมิตรบริษัท

และเป็นเฟสต่อเนื่องภายใต้แคมเปญใหญ่ SAVE LIVES, PROTECT PEOPLE

ล่าสุดโปรเจ็กต์สนับสนุนผู้รับเหมาก่อสร้างที่ร่วมกันขานรับนโยบายภาครัฐปิดแคมป์คนงาน 30 วัน โดยเอพีได้รุกต่อยอดแคมเปญ AVE LIVES, PROTECT PEOPLE ขึ้นอีกครั้ง เพื่อเป็นการส่งต่อความช่วยเหลือพาร์ตเนอร์ผู้รับเหมา

รวมทั้งเข้าไปช่วยเหลือด้านคุณภาพชีวิตทีมแรงงานก่อสร้างร่วมมากกว่า 8,000 ชีวิตที่ทำการก่อสร้างโครงการแนวราบเครือเอพี ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมกว่า 100 โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล

โดย AP นำส่งขบวนรถคาราวานจัดส่งข้าวสาร ไข่ไก่ อาหารแห้ง เครื่องปรุงรส และน้ำดื่มสะอาด ให้แก่แคมป์คนงาน พร้อมช่วยเหลือค่าไฟฟ้าและน้ำประปา ตลอดระยะเวลา 1 เดือน จุดสตาร์ต ณ โครงการ The City สุขุมวิท-อ่อนนุช

ทั้งนี้ AP ได้เล็งเห็นเรื่องเร่งด่วนแรกที่จะเกิดขึ้นคือเรื่องปากท้อง อาหารการกินของแรงงานก่อสร้างเมื่อต้องปิดแคมป์คนงาน โดยได้นำร่องการส่งต่อความช่วยเหลือเฟสแรกให้กับทีมแรงงานที่อยู่ในการดูแลของพาร์ตเนอร์บริษัทผู้รับเหมาโครงการแนวราบ

ด้วยการลงพื้นที่ส่งมอบข้าวสาร ไข่ไก่ อาหารแห้ง น้ำดื่มสะอาด เพื่อให้ทีมแรงงานและครอบครัวที่อยู่ในแคมป์ได้สามารถนำไปประกอบอาหาร ตลอดจนช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้าและน้ำประปาที่จะเพิ่มขึ้นตลอดระยะเวลาปิดแคมป์คนงาน 30 วัน

โดยเอพีหวังว่าการส่งต่อความช่วยเหลือในครั้งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเอ็มพาวเวอร์คุณภาพชีวิตของแรงงานให้มีความเป็นอยู่ที่เหมาะสม ภายใต้สถานการณ์โควิด รวมถึงช่วยเหลือ ecosystem ของวงการธุรกิจก่อสร้าง ให้สามารถดูแลกัน สู้ไปด้วยกัน

และก้าวฝ่าวิกฤตในครั้งนี้ไปด้วยกันได้เช่นทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมา

ขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net


ปตท. จับมือ โออาร์ เปิดตัว Swap & Go สถานีสลับแบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ทางเลือกใหม่เพื่อสังคมเมือง

ปตท. จับมือ โออาร์ เปิดตัว Swap & Go สถานีสลับแบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ทางเลือกใหม่เพื่อสังคมเมือง

     นายนพดล ปิ่นสุภา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและดิจิทัล บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นายบุญมา พนธนกรกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ และนางสาวอาวีมาศ สิริแสงทักษิณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สวอพ แอนด์ โก จำกัด ร่วมเปิดตัว “สวอพ แอนด์ โก” (Swap & Go) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม โครงสร้างพื้นฐาน และเครือข่าย Battery Swapping หรือการสลับแบตเตอรี่แก่ผู้ใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เพื่อรองรับการขยายตัวของผู้ใช้งาน โดยนำร่องในกลุ่มธุรกิจบริการรับ-ส่งอาหารหรือสิ่งของ (Delivery Service) เป็นต้นแบบนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านพลังงานที่ช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยให้เปลี่ยนผ่านสู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น

     นายนพดล ปิ่นสุภา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและดิจิทัล บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดเผยว่า ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่นับวันจะทวีความรุนแรงและเป็นความท้าทายของโลกทุกวันนี้ ส่งผลให้หลายประเทศต่างแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิให้เท่ากับศูนย์ (Carbon Neutral) และเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้รูปแบบการใช้พลังงานเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานอนาคต ที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งวันนี้ ปตท. ได้เร่งเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ผลักดันการใช้พลังงานแห่งอนาคต เช่น Renewable Energy และ EV Value Chain ตลอดต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เพื่อให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายในเรื่องของสิ่งแวดล้อม และตอบสนองให้ทันต่อการเปลี่ยนผ่านตามทิศทางการใช้พลังงานของประเทศ ประกอบกับในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา การใช้รถมอเตอร์ไซค์กลายเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย จากการเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจ Delivery Service และแนวโน้มการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยก็เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง จึงเป็นที่มาของแนวคิดการออกแบบธุรกิจเพื่อเป็นต้นแบบนวัตกรรมด้านพลังงานให้กับประเทศ อย่าง Swap & Go บริษัทในเครือ ปตท. ที่ให้บริการสลับแบตเตอรี่สำหรับผู้ใช้งานมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบบไม่ต้องรอชาร์จ เป็นการสร้าง Business Ecosystem ที่เพิ่มศักยภาพการใช้พลังงานสะอาด สู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมที่สร้างการเติบโตทั้งด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับประเทศให้เติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน โดยในปี 2564 จะเปิดให้บริการสถานีสลับแบตเตอรี่ จำนวน 22 แห่ง ครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯ แบ่งเป็น ภายในสถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น จำนวน 19 แห่ง และพื้นที่ภายนอก พีทีที สเตชั่น อีก 3 แห่ง ที่พร้อมนำร่องให้บริการลูกค้าในกลุ่ม Delivery Service และมีแผนขยายการให้บริการในกลุ่มลูกค้าอื่น ๆ ในระยะถัดไป

     นายบุญมา พนธนกรกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (โออาร์) กล่าวว่า โออาร์ เล็งเห็นความสำคัญของการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด เพื่อลดมลพิษและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย และมีเครือข่ายสถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น กว่า 2,000 แห่งที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทยที่พร้อม Transform ให้รองรับการใช้งานยานยานต์ไฟฟ้าเพื่อตอบสนองความต้องการในการเดินทางทุกรูปแบบ โดยในปัจจุบัน โออาร์ ได้วางเครือข่ายสถานีชาร์จ EV Station ในพื้นที่สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น แล้วกว่า 30 แห่งทั่วประเทศ และมีแผนจะขยายเป็น 100 แห่งครอบคลุมทุกภาคทั่วประเทศภายในปี 2564 และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 300 แห่งในปี 2565 เพื่อรองรับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคล ยิ่งไปกว่านั้น โออาร์ เล็งเห็นความสำคัญในการส่งเสริมนวัตกรรมและพลังงานสะอาดโดยได้ ร่วมวางเครือข่ายสถานีสลับแบตเตอรี่ปูพรมให้ครอบคลุมพื้นที่สำคัญทั่วกรุงเทพฯ เพื่อทดลองรูปแบบการดำเนินธุรกิจมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสำหรับกลุ่มธุรกิจบริการรับ-ส่งอาหารหรือสิ่งของ สร้างความมั่นใจในการใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าให้แก่กลุ่มไรเดอร์ที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งอาจต่อยอดให้บริการแก่ประชาชนทั่วไปที่สนใจใช้บริการมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าให้เข้ามาใช้บริการภายใน พีทีที สเตชั่น ได้อีกด้วย นอกจากนี้ โออาร์ ยังได้พัฒนารูปแบบของ พีทีที สเตชั่น อย่างต่อเนื่องด้วยแนวคิด “Living Community” เพื่อให้ พีทีที สเตชั่น เป็นมากกว่าสถานีบริการน้ำมัน แต่ยังเป็นสถานที่ที่จะเติมเต็มความสุข ความอุ่นใจระหว่างเดินทาง เพิ่มธุรกิจใหม่ ๆ ที่สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ เป็นจุดนัดพบหรือพักผ่อนหย่อนใจ ตลอดจนสามารถเป็นช่องทางเสริมสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนใกล้เคียงให้เติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน

     นางสาวอาวีมาศ สิริแสงทักษิณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สวอพ แอนด์ โก จำกัด (Swap & Go) กล่าวว่า เรามีการสำรวจพฤติกรรมของผู้ขับขี่ให้บริการ Delivery หรือ ไรเดอร์ พบว่า ต้องการใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่สามารถรองรับการให้บริการลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องเพื่อทำรายได้สูงสุด และปัญหาหลักที่ทำให้ยังไม่สามารถเปลี่ยนมาใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้ คือแบตเตอรี่ที่ต้องใช้เวลานานในการรอชาร์จ ซึ่งไม่สอดคล้องกับการใช้งานจริง เราจึงเล็งเห็นว่ารูปแบบธุรกิจการให้บริการสลับแบตเตอรี่นี้ สามารถตอบโจทย์การใช้งานให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นออกแบบกระบวนการใช้งานให้ง่าย สะดวก และทันสมัย ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Swap & Go เชื่อมต่อกับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่รองรับการใช้งาน เพื่อตรวจสอบปริมาณแบตเตอรี่  ค้นหาตำแหน่งสถานีสลับแบตเตอรี่ จองแบตเตอรี่ใหม่ล่วงหน้า และมีระบบนำทางไปยังสถานี เมื่อไปถึงสถานีแล้ว สามารถสแกน QR code เพื่อสลับแบตเดิมที่หมดกับแบตใหม่ที่พร้อมใช้งานในตู้ชาร์จด้วยตัวเองได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

     “Swap & Go มุ่งสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าทั้งในไทยและต่างประเทศ เพื่อแสวงหาผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย และให้บริการที่เหมาะสมกับสังคมไทย โดยได้นำร่องการพัฒนาตู้แบตเตอรี่ ระบบการชาร์จไฟ และการเชื่อมต่อเครือข่ายกับผู้ผลิตและให้บริการแบตเตอรี่สวอพชั้นนำจากประเทศจีน รวมทั้งจัดหารถมอเตอร์ไฟฟ้าที่สามารถสลับแบตเตอรี่ได้ มาให้บริการในระบบ จากแบรนด์ Molinks รุ่น B-Swap ของค่าย Xiaomi บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของโลก และอยู่ระหว่างการพัฒนามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานในอนาคต นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับบริษัทใน กลุ่ม ปตท. ในการพัฒนาแบตเตอรี่ที่ผลิตในประเทศ ให้ได้มาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล เพื่อให้ใช้งานกับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้อีกด้วย” นางสาวอาวีมาศ กล่าวเสริม

ขอบคุณข้อมูลจาก ryt9.com


ส.เทควันโดส่ง “เทนนิส-จูเนียร์” เก็บตัวเขาใหญ่อีกรอบ ก่อนลุยโอลิมปิก

ส.เทควันโดส่ง "เทนนิส-จูเนียร์" เก็บตัวเขาใหญ่อีกรอบ ก่อนลุยโอลิมปิก

สมาคมกีฬาเทควันโดฯ ให้ “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ และ “จูเนียร์” รามณรงค์ เสวกวิหารี 2 จอมเตะทีมชาติไทย ไปเก็บตัวฝึกซ้อมในช่วงโค้งสุดท้ายที่เขาใหญ่ เป็นเวลา 3 สัปดาห์ เพื่อให้ทั้งคู่มีสมาธิและมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ ก่อนเดินทางไปทำศึก โอลิมปิก 2020

ความเคลื่อนไหวนักเทควันโดทีมชาติไทย ชุดเข้าร่วมมหกรรมกีฬาโอลิมปิก โตเกียว 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยล่าสุด สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยฯ ได้ให้ 2 จอมเตะไทย ทั้ง “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ หมายเลข 1 ของโลก รุ่น 49 กิโลกรัมหญิง และ “จูเนียร์” รามณรงค์ เสวกวิหารี รุ่น 58 กิโลกรัมชาย พร้อมด้วย เช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอน รวมทั้งสตาฟฟ์โค้ชและคู่ซ้อม เดินทางไปเก็บตัวในช่วงโค้งสุดท้ายที่เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา เป็นเวลา 3 สัปดาห์ เพื่อให้มีสมาธิ มุ่งมั่นอย่างเต็มที่ ก่อนเดินทางไปยังกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 17 กรกฎาคมนี้ ซึ่งการฝึกซ้อมทางโค้ชเช ยังคงติวเข้มอย่างหนักเหมือนเดิม เน้นเทคนิคต่างๆ และพละกำลัง เพื่อให้ร่างกายของทั้งคู่ พีคที่สุดในวันแข่งขัน วันที่ 24 กรกฎาคม

“เทนนิส” พาณิภัค กล่าวถึงความพร้อมว่า การเก็บตัวฝึกซ้อมในช่วงโควิด-19 ไม่ได้มีความกังวลใดๆ สมาคมฯ โดย ผศ.ดร.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมฯ และ “แม็กซี่” ตระการตา ศรีวิกรม์ ภรรยา ดูแลเรื่องสถานที่ และอาหารการกินให้เป็นอย่างดี ส่วนโค้ชเช และทีมสตาฟฟ์ ให้ความช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกให้นักกีฬาทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น ขนม ของกิน ไม่ต้องออกไปข้างนอกเลย อยู่ในค่ายซ้อมได้อย่างปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์

จอมเตะสาวไทย หมายเลข 1 ของโลก กล่าวต่อว่า แม้ว่าโอลิมปิกครั้งนี้ จะเลื่อนมา 1 ปี ทำให้ตนห่างหายจากการแข่งขันมานาน แต่ก็ได้ซ้อมกับคู่ซ้อม มีการเข้าคู่กันทุกวัน จึงไม่น่าเป็นห่วง มีการประลองกันอย่างสม่ำเสมอ ประกอบกับทีมงานผู้ฝึกสอน ก็ได้จำลอง สร้างบรรยากาศในสนามซ้อม ให้เหมือนสนามแข่งขันจริงที่โตเกียว มีการฝึกจิตใจ ให้เกิดจินตนาการ ว่าเราอยู่ที่โตเกียวจริงๆ ทำให้เกิดความคุ้นเคย ตอนนี้มีความเคยชินมากขึ้น ส่วนสภาพจิตใจของตน ไม่ได้กดดันจากความคาดหวังของคนอื่น ที่มองว่าตนเอง มีโอกาสคว้าเหรียญทองสูง โดยการลงสนามทุกครั้ง จะพยายามสนุกไปกับเกมให้มากที่สุด และไม่ประมาท เวลานี้ก็ศึกษาฟอร์มคู่ต่อสู้อยู่ตลอด และหลังโอลิมปิกจบลง ยังคงไม่เลิกเล่นแน่นอน เพราะยังมีความท้าทายอื่นๆ รออยู่อีกมากมาย

“โอลิมปิก เลื่อนมา 1 ปี ทำให้เราทั้งคู่ ได้เตรียมตัวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมามีการแข่งขันอยู่ตลอด ทำให้ไม่ได้พัก การขยับเวลาออกไปอีกปี ก็ทำให้เราได้มีเวลาพัก ส่งผลทำให้ร่างกายสมบูรณ์เต็มร้อย พร้อมมากขึ้น ไปโดยปริยาย ส่วนคู่แข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นเกาหลีใต้ หรือคนอื่นๆ ก็พยายามศึกษาฟอร์มจากวิดีโอ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อจะได้รู้จุดแข็ง จุดอ่อนของแต่ละคน และหลังจบโอลิมปิก ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ก็ยังคงจะเล่นกีฬานี้ต่อไป ไม่เลิก เพราะยังมีความท้าทายอื่นรออยู่อีก เช่น การที่จะต้องเป็นแชมป์โลก สมัยที่ 3 ให้ได้ คว้าเหรียญทองเอเชียนเกมส์ ให้ได้ เป็นต้น” พาณิภัค กล่าวในตอนท้าย.

ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th


เเนะข้อปฏิบัติหลังสัมผัสสารเคมีรั่วไหล

เเนะข้อปฏิบัติหลังสัมผัสสารเคมีรั่วไหล thaihealth

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข  ห่วงประชาชนที่อยู่บริเวณจุดไฟไหม้และโรงงานระเบิด แนะวิธีป้องกันตัวหลังสัมผัสกับสารเคมีรั่วไหล และวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น หวั่นกระทบต่อสุขภาพ

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดเหตุไฟไหม้-ระเบิด โรงงานผลิตโฟมและเม็ดพลาสติก เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 เวลาประมาณ 03.30 น อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการซึ่งพบว่าเกิดเพลิงไหม้ตัวอาคารโรงงานอย่างรุนแรง และมีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ แรงอัดทำให้บ้านเรือนและโรงงานที่อยู่โดยรอบข้างรัศมี 500 เมตร ได้รับความเสียหายจำนวนมาก ซึ่งจากข้อมูลเบื้องต้นพบ ถังเคมีขนาด 2,000 ตันระเบิดภายในบริษัทมีแรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้เป็นวงกว้าง และมีควันดำฟุ้งกระจายไปในรัศมีหลายกิโลเมตร

สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรปราการ ได้ขอความร่วมมือประชาชนอพยพออกจากพื้นที่อย่างน้อย 5 กิโลเมตร เพื่อลดความเสี่ยงผลกระทบต่อสุขภาพ เนื่องจากสารเคมี เป็นสไตรีนโมโนเมอร์ที่เป็นของเหลว ไวไฟ เมื่อติดไฟจะให้ควันหรือก๊าซที่ระคายเคืองหรือเป็นพิษ จึงห้ามอยู่ใกล้เปลวไฟและประกายไฟ และห้ามสูบบุหรี่ สารนี้มีอันตรายต่อระบบอวัยวะสำคัญของร่างกาย ทั้งระบบทางเดินหายใจ ระบบประสาท ระบบสร้างเลือด ตับ และระบบประสาทส่วนกลาง เมื่อได้รับไอระเหยของสารนี้ทางการสูดดมส่งผลให้เวียนศีรษะ ง่วงซึม ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย หมดสติ จะต้องย้ายผู้ป่วยไปบริเวณที่มีอากาศบริสุทธิ์ทันที หากได้รับทางผิวหนังจะมีอาการผิวหนังแดง ปวด ให้ใช้วิธีล้างผิวหนังทันทีด้วยสบู่และน้ำปริมาณมาก ๆ หากสัมผัสสารทางดวงตาจะทำให้ระคายเคืองตา ตาแดง ปวดตา จึงควรล้างตาด้วยน้ำ ในปริมาณมาก ๆ เช่นกัน เพื่อเป็นการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

ทั้งนี้ เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้และมีสารเคมีรั่วไหลออกมา ประชาชนควรตั้งสติ และปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้

1) อพยพออกจากพื้นที่ทันทีตามคำแนะนำของหน่วยงานราชการ และอยู่เหนือลม หรืออยู่ในอากาศที่ถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงการสูดดมควัน

2) กรณีที่สัมผัสควันไฟหรือไอระเหยจากสารเคมีให้รีบนำผู้บาดเจ็บออกจากพื้นที่ หากสารเคมีเปื้อนผิวหนังให้ล้างและทำความสะอาดด้วยน้ำและสบู่ แต่ถ้าสัมผัสสารเคมีหรือโดนไอระเหยเข้าดวงตาให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง  และโทรเรียกหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน 1669

3) เมื่อออกจากพื้นที่ได้แล้ว หากพบว่ามีคนติดอยู่ห้ามกลับเข้าไปด้วยตนเองเด็ดขาด ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือ

4) ติดตามข้อมูลสถานการณ์ จากหน่วยงานภาครัฐ และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดและ 

5) ถึงแม้เหตุการณ์ไฟไหม้จะสงบลงแล้ว ยังไม่ควรเข้าใกล้หรือสัมผัสสารเคมีในบริเวณนั้นโดยเด็ดขาดจนกว่าจะได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่   

สำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว หากเหตุการณ์สงบแล้วและกลับเข้าบ้านต้องประเมินสถานภาพตนเองและคนใกล้ชิด หากพบมีอาการผิดปกติดังกล่าวควรรีบกลับมาพบแพทย์ทันที

ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th


Microsoft อาจแก้ปัญหาจอฟ้า (BSOD) บน Windows 11 ได้ !? (เปลี่ยนเป็นจอดำแทน)

Microsoft อาจแก้ปัญหาจอฟ้า (BSOD) บน Windows 11 ได้ !? (เปลี่ยนเป็นจอดำแทน)

หลังจากที่ทาง Microsoft ได้ประกาศเปิดตัว Windows 11 ไปในงาน Microsoft Event เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาและได้ปล่อยเวอร์ชัน Beta ออกมาให้ทดลองใช้งานกันระยะหนึ่งแล้วก็มีผู้ใช้พบว่าทางบริษัทอาจดำเนินการแก้ไขปัญหา BSOD (Blue Screen Of Death) หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า “จอฟ้า” แล้วเรียบร้อยก็เป็นได้

Microsoft อาจแก้ปัญหาจอฟ้า (BSOD) บน Windows 11 ได้ !? (เปลี่ยนเป็นจอดำแทน)

ซึ่งจากข่าวล่าสุดนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าทาง Microsoft แก้ปัญหาที่ทำให้เกิดอาการจอฟ้าหรือ BSOD ได้แต่อย่างใด ทาง Microsoft เพียงแค่อาจ “ทดลอง” เปลี่ยนจอขณะระบบ Error ให้เป็นโทนสีอื่นแทน เพราะล่าสุดมีผู้ใช้พบเห็นว่าพอเกิดข้อผิดพลาดในระบบจนทำให้เกิดเหตุระทึกขวัญอย่าง BSOD นั้น หน้าจอที่ควรจะเป็นสีฟ้ากลับกลายเป็นสีดำแทนเสียอย่างนั้น !?

Microsoft อาจแก้ปัญหาจอฟ้า (BSOD) บน Windows 11 ได้ !? (เปลี่ยนเป็นจอดำแทน)

โดยก่อนหน้านี้ทางบริษัทได้ปรับหน้าการแสดงผลของ BSOD ด้วยการเติม Emoticon “ 🙁 “ เข้ามาเพื่อเพิ่มความน่าสงสาร และถัดมาก็ได้ใส่ QR Code เข้ามาให้ผู้ใช้สามารถยกสมาร์ทโฟนขึ้นมาสแกนดูความผิดปกติของระบบเพื่อดูสาเหตุของอาการจอฟ้าในครั้งนั้นได้

แต่ไม่ใช่ผู้ใช้ทุกคนที่จะได้พบเจอกับ BSOD ในรูปแบบจอดำ (Black Screen Of Death) แทนจอฟ้า (Blue Screen Of Death) เพราะผู้ใช้บางคนก็ยังเจอปัญหาจอฟ้าขึ้นมาขณะใช้งานอยู่ดี อีกทั้งผู้ใช้ส่วนหนึ่งก็พบกับปัญหาจอเขียว (Green Screen) แทน แต่สำหรับจอสีเขียวนี้ทาง Microsoft ก็ได้ปรับใช้งานใน Windows Insider Build กันมาตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) แล้วจึงไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นมากนัก

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ Windows 11 ก็ยังเป็นแค่เวอร์ชัน Beta (Preview) เท่านั้น ไม่แน่ว่าทาง Microsoft อาจปรับสีของ BSOD ในเวอร์ชันเต็มหรือไม่ คาดว่าเราน่าจะต้องรอดูหลังการเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกทีหนึ่ง แต่ไม่ว่ามันจะเป็นจอสีอะไรก็ตามก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าอยากจะเห็นหน้าเศร้า ๆ ของ Emoticon นั้นบนหน้าจอของเราเลยแม้แต่นิดเดียว

ขอบคุณข้อมูลจาก news.thaiware.com


ตะไคร้ สรรพคุณและประโยชน์ของตะไคร้ 45 ข้อ !

ตะไคร้

ตะไคร้จัดเป็นพืชล้มลุกตระกูลหญ้า ใบมีลักษณะเรียวยาว ปลายใบมีขนหนาม เป็นสมุนไพรไทยชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาประกอบอาหาร โดยตะไคร้แบ่งออกเป็น 6 ชนิด ได้แก่ ตะไคร้หอม ตะไคร้กอ ตะไคร้ต้น ตะไคร้น้ำ ตะไคร้หางนาค และตะไคร้หางสิงห์ ซึ่งเป็นสมุนไพรไทยที่นิยมปลูกทั่วไปในบ้านเรา โดยมีถื่นกำเนิดในประเทศอินเดีย อินโดนีเซีย พม่า ศรีลังกา และไทย

ตะไคร้เป็นทั้งยารักษาโรคและยังมีวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย เช่น วิตามินเอ ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ฯลฯ

สรรพคุณของตะไคร้

  1. มีส่วนช่วยในการขับเหงื่อ
  2. เป็นยาบำรุงธาตุไฟให้เจริญ (ต้นตะไคร้)
  3. มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงธาตุ ช่วยในการเจริญอาหาร
  4. ช่วยแก้อาการเบื่ออาหาร (ต้น)
  5. สารสกัดจากตะไคร้มีส่วนช่วยในการป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
  6. แก้และบรรเทาอาการหวัด อาการไอ
  7. ช่วยรักษาอาการไข้ (ใบสด)
  8. ใช้เป็นยาแก้ไข้เหนือ (ราก)
  9. น้ำมันหอมระเหยของใบตะไคร้สามารถบรรเทาอาการปวดได้
  10. ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ
  11. ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง (ใบสด)
  12. ใช้เป็นยาแก้อาเจียนหากนำไปใช้ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ (หัวตะไคร้)
  13. ช่่วยแก้อาการกษัยเส้นและแก้ลมใบ (หัวตะไคร้)
  14. รักษาโรคหอบหืดด้วยการใช้ต้นตะไคร้
  15. ช่วยแก้อาการเสียดแน่นแสบบริเวณหน้าอก (ราก)
  16. ใช้เป็นยาแก้อาการปวดท้องและอาการท้องเสีย (ราก)
  17. ช่วยแก้และบรรเทาอาการปวดท้อง
  18. ช่วยรักษาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ (หัวตะไคร้)
  19. ช่วยในการขับน้ำดีมาช่วยในการย่อยอาหาร
  20. น้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้มีส่วนช่วยลดการบีบตัวของลำไส้ได้
  21. มีฤทธิ์ช่วยในการขับปัสสาวะ
  22. ช่วยแก้อาการปัสสาวะพิการและรักษาโรคนิ่ว (หัวตะไคร้)
  23. ช่วยแก้อาการขัดเบา (หัวตะไคร้)
  24. ใช้เป็นยาแก้ขับลม (ต้น)
  25. ช่วยรักษาอหิวาตกโรค
  26. ช่วยแก้ลมอัมพาต (หัวตะไคร้)
  27. ใช้เป็นยารักษาเกลื้อน (หัวตะไคร้)
  28. น้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้ สามารถช่วยต่อต้านเชื้อราบนผิวหนังได้เป็นอย่างดี
  29. ช่วยแก้โรคหนองใน หากนำไปผสมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ

ประโยชน์ของตะไคร้

  1. นำมาใช้ทำเป็นน้ำตะไคร้หอม น้ำตะไคร้ใบเตย ช่วยดับร้อนแก้กระหายได้เป็นอย่างดี
  2. ช่วยในการบำรุงและรักษาสายตา
  3. มีส่วนช่วยในการบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
  4. มีส่วนช่วยในการบำรุงสมองและเพิ่มสมาธิ
  5. สามารถนำมาใช้ทำเป็นยานวดได้
  6. ช่วยแก้ปัญหาผมแตกปลาย (ต้น)
  7. มีฤทธิ์เป็นยาช่วยในการนอนหลับ
  8. การปลูกตะไคร้ร่วมกับผักชนิดอื่น ๆ จะช่วยป้องกันแมลงได้เป็นอย่างดี
  9. นำมาใช้เป็นส่วนประกอบของสารระงับกลิ่นต่าง ๆ
  10. ต้นตะไคร้ช่วยดับกลิ่นคาวหรือกลิ่นคาวของปลาได้เป็นอย่างดี
  11. กลิ่นหอมของตะไคร้สามารถช่วยไล่ยุงและกำจัดยุงได้เป็นอย่างดี
  12. เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์จำพวกยากันยุงชนิดต่าง ๆ เช่น ยากันยุงตะไคร้หอม
  13. สามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลายชนิด เช่น เครื่องปรุงอบแห้ง ตะไคร้แห้งสำหรับชงดื่ม นำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย เป็นต้น
  14. มักนิยมนำมาใช้ในการประกอบอาหารหลายชนิด เช่น ต้มยำ และอาหารไทยอื่น ๆ เพื่อเพิ่มรสชาติ

ขอบคุณข้อมูลจาก medthai.com


ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 27,200.00 27,300.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,762.00 26,711.92 27,800.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,585.80 24,040.73 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 1,409.60 21,369.54 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 793.00 12,021.88 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 617.00 9,353.72 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,826.00 27,682.16 n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 06/07/2564

ราคาน้ำมัน ปตท
ปตท.
ราคาน้ำมัน บางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 95 29.45 29.45 29.85 29.45 29.45 29.45 29.45 29.45 29.45 29.45
แก๊สโซฮอล์ 91 29.18 29.18 29.58 29.18 29.18 29.18 29.18 29.18 29.18 29.18
แก๊สโซฮอล์ E20 27.94 27.94 28.34 27.94 27.94 27.94 27.94 27.94 27.94
แก๊สโซฮอล์ E85 22.79 22.79 22.79
เบนซิน 95 36.86 37.31 37.36 36.86 36.86
ดีเซล B7 29.29 29.29 29.49 29.29 29.29 29.29 29.29 29.29 29.29 29.29
ดีเซล 26.29 26.29 26.49 26.29 26.29 26.29 26.29 26.29 26.29 26.29
ดีเซล B20 26.04 26.04 26.44 26.04 26.04 26.04 26.04
ดีเซลพรีเมี่ยม 34.06 34.06 35.94 35.46 34.06
แก๊ส NGV 13.99 13.99 13.99
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า