สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 9 มกราคม 2561

“พีดีเฮ้าส์”หวังยอด 1.2พันล้าน ชี้รับสร้างบ้านปี61ฟื้น

ตลาดรับสร้างบ้านไตรมาสแรกปี 61 ฟื้น ผู้ประกอบการรุกขยายตลาด “พีดีเฮ้าส์” ลุยเปิดสาขาใหม่ เล็งซื้อคืนสิทธิ์แฟรนไชส์หวังบุกตลาดศักยภาพ พร้อมพัฒนาระบบไอที หวังเพิ่มขีดแข่งขัน ดันรายได้ 1.2 พันล้าน

นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เจ้าของและผู้บริหารสิทธิ์แฟรนไชส์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ธุรกิจรับสร้างบ้านขณะนี้ปรับตัวดีขึ้นจากปลายปีที่ผ่านมา พบว่า ผู้บริโภคมีความสนใจและความต้องการสร้างบ้านหลังใหม่มากขึ้น จึงส่งผลดีต่อเนื่องมาถึงไตรมาสแรกนี้ ทั้งโอกาสในการตัดสินใจของผู้บริโภคและมูลค่าตลาดรวมที่ขยายตัว โดยพบว่าบรรดาผู้ประกอบการในธุรกิจรับสร้างบ้านเริ่มมีความเคลื่อนไหวและเตรียมพร้อมรุกขยายตลาดในปีนี้

สำหรับพีดีเฮ้าส์ วางแนวทางธุรกิจปี 2561 จะกลับมาเปิดสาขาใหม่อีกครั้ง หลังจากชะลอการเปิดสาขาในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยเน้นลงทุนเปิดสาขาเองเป็นหลัก รวมทั้งขอซื้อสิทธิ์สาขาแฟรนไชส์จากผู้ลงทุนเดิมบางรายคืน เพื่อรุกขยายตลาดในจังหวัดที่มีศักยภาพด้วยตัวเอง

โดย พีดีเฮ้าส์ หลีกเลี่ยงแข่งขันเรื่องราคากับรายย่อย เน้นคุณภาพหรือบริการที่แตกต่าง มีจุดขายที่ชัดเจน คือ บ้านประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายรวมเท่าปีก่อน ที่ประมาณ 1,200 ล้านบาท  ตัวเลขดังกล่าวค่อนข้างต่ำเมื่อพิจารณาจำนวนสาขาของพีดีเฮ้าส์ที่มีอยู่ทุกภูมิภาคเกือบ 30 แห่งในปัจจุบัน หรือหากเปรียบเทียบกับคู่แข่งรายอื่นที่มีสาขาไม่กี่แห่ง

“เราไม่ต้องการตั้งเป้ายอดขายเพื่อกดดันตัวเองมากนัก เพราะมองว่าปัจจัยหลายๆ อย่างเริ่มฟื้นกลับมาดีขึ้น ทั้งภาพรวมเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นและกำลังซื้อผู้บริโภค”

อย่างไรก็ตาม ภารกิจหลักปีนี้บริษัทจะมุ่งปรับปรุงการบริหารจัดการภายในองค์กร ทั้งด้านบุคลากรและระบบปฏิบัติงานบนไอทีให้มีความทันสมัย เพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างมีมาตรฐานสม่ำเสมอกัน และสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุค 4.0 ที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว  พร้อมมุ่งสื่อสารกับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น จากเดิมผู้ประกอบการจะเน้นสื่อสารผ่านสื่อออฟไลน์หรือสื่อสิ่งพิมพ์เป็นหลัก แต่แนวโน้มปีนี้คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยหันมาสื่อสารผ่านสื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดียเป็นสื่อหลัก

สำหรับ กิจกรรมการตลาดไตรมาสแรกนี้ บริษัทเตรียมเข้าร่วมงานอีเวนท์ออนไลน์ หรือ บ้านและวัสดุออนไลน์ 2561 (HBO Fair 2018) จัดโดยสมาคมไทยรับสร้างบ้าน ซึ่งถือเป็นกิจกรรมการตลาดออนไลน์แนวใหม่ของภาคธุรกิจรับสร้างบ้าน และเป็นการสื่อสารกับผู้บริโภคในวงกว้าง ถือเป็นความได้เปรียบของศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ที่มีเครือข่ายสาขาให้บริการทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทำให้โอกาสที่ผู้บริโภคจะสื่อสารและเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น

นายพิศาล กล่าวต่อว่า ปีที่ผ่านมายอมรับว่าธุรกิจได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว รวมทั้งผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมหลายพื้นที่ในต่างจังหวัด ประกอบกับกลุ่มผู้ประกอบการรับสร้างบ้านรายย่อยมีการแข่งขันตัดราคากันรุนแรง โดยเฉพาะตลาดบ้านสร้างเองในต่างจังหวัด ส่งผลให้ตัวเลขยอดขายรวมของบริษัทต่ำกว่าเป้าหมาย

http://www.bangkokbiznews.com


REICเปิดโพย11บิ๊กอสังหาขย่มตลาด เทรนด์ปี61ภาพรวมโต8-15%ต่างจังหวัดนิ่ง

REIC เปิดโพย 11 บิ๊กแบรนด์อสังหาฯ คุมตลาดบ้านและคอนโดฯ 50% ของตลาดรวมทั้งประเทศ เผยสถิติ 10 เดือนแรกปี”60 เปิดตัวรวมกันกระหึ่ม 2 แสนล้าน เอกซเรย์ตลาดห้องชุดต่ำล้านมี 3 ราย “LPN-พฤกษา-คิวเฮ้าส์” บี้กันมันหยด บ้านจัดสรรเกิน 10 ล้านรายใหญ่เปิดตัวเพลินแบกซัพพลาย 61% รวม 3.8 หมื่นหน่วย ฟันธงปี”61 ตลาดหลักยังเป็นของบิ๊กเพลเยอร์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์การแข่งขันภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2560 เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าความได้เปรียบอยู่ในมือผู้ประกอบการรายใหญ่โดยเฉพาะเมื่อโฟกัสบิ๊กเพลเยอร์ 11 รายแรกที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ พบว่ามีส่วนแบ่งตลาดทั้งในด้านจำนวนยูนิตและมูลค่าอยู่ที่ระดับ 50% หรือครึ่งหนึ่งของตลาดรวม
 
ในขณะที่แนวโน้มไม่เพียงแค่ปี 2561 แต่มีการคาดการณ์ว่า 11 บิ๊กแบรนด์ยังคงเป็นผู้กุมตลาดหลักในช่วง 2-3 ปีหน้า
 
 
11 บิ๊กแบรนด์ถล่มตลาด
 
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ข้อมูลสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ณ ครึ่งปีแรก 2560 มีผู้ประกอบการรายใหญ่ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯครองส่วนแบ่งตลาดรวมกัน 60-70% แต่มีเพียง 11 รายที่ครองส่วนแบ่งตลาดรวมกันถึง 50%
 
รายละเอียด 11 ราย ประกอบด้วย บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท, แสนสิริ, แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, ศุภาลัย, เอพี (ไทยแลนด์), ควอลิตี้เฮ้าส์, พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค, แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเม้นท์-LPN, เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชัน, อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ และแผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์-โกลเด้นแลนด์
 
ทั้งนี้ 11 รายดังกล่าวมีหน่วยเหลือขาย (ซัพพลาย) รวมกัน 66,371 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 46.8% ของตลาดรวม, มีมูลค่ารวมกัน 265,209 ล้านบาท คิดเป็น 50.4% ของตลาดรวม
 
แบ่งเป็นตลาดอาคารชุด มีหน่วยเหลือขายรวมกัน 29,318 หน่วย สัดส่วน 46.1% และมูลค่ารวมกัน 95,246 ล้านบาท สัดส่วน 48.2% ของตลาดรวมกับตลาดบ้านจัดสรร มีหน่วยเหลือขายรวม 37,053 หน่วย สัดส่วน 47.4%, มีมูลค่ารวมกัน 169,963 ล้านบาท สัดส่วน 51.7% ของตลาดรวม
 
 
3 รายบี้ตลาดคอนโดฯต่ำล้าน
 
เจาะข้อมูลซัพพลายคอนโดฯ พบว่ามีหน่วยเหลือขายรวมทั้งตลาด 63,658 หน่วย มูลค่ารวม 197,598 ล้านบาท เป็นของ 11 บิ๊กแบรนด์รวมกัน 29,318 หน่วย สัดส่วน 46.1% และมูลค่ารวม 95,246 ล้านบาท สัดส่วน 48.2%
 
ข้อมูลน่าสนใจคือมีบิ๊กแบรนด์ 3 รายที่มีซัพพลายคอนโดฯ ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท/ยูนิต ได้แก่ LPN, พฤกษาฯ และคิวเฮ้าส์ เหลือขายรวมกัน 3,513 หน่วย สัดส่วน 71.9% จากตลาดรวม 4,889 หน่วย
 
ขณะที่โฟกัสกลุ่มราคา ห้องชุด 2-3 ล้านบาท ตลาดรวมมีซัพพลายเหลือเยอะสุด 18,743 หน่วย มูลค่ารวมกัน 45,107 ล้านบาท เป็นซัพพลายเหลือขายของ 11 รายรวมกัน 6,948 หน่วย มูลค่ารวมกัน 16,833 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเพียง 37.1%
 
 
แบกซัพพลายบ้านเกิน 10 ล้าน
 
ตลาดบ้านจัดสรรที่ประกอบด้วยสินค้าบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ พบว่าตลาดรวมมีซัพพลายเหลือขายรวมกัน 78,219 หน่วย มูลค่ารวม 328,475 ล้านบาท เป็นของบิ๊กแบรนด์ 11 รายรวมกัน 37,053 หน่วย สัดส่วน 47.4% มีมูลค่ารวมกัน 169,963 ล้านบาท สัดส่วน 51.7%ในจำนวนนี้พบว่าด้านราคาทั้ง 11 รายมีซัพพลายเหลือขายกลุ่มราคาเกินหลังละ 10 ล้านบาทรวมกัน 61.4% จำนวน 38,430 หน่วย จากสถิติตลาดรวม 62,550 หน่วยและ 11 รายมีซัพพลายเหลือขายน้อยที่สุดในกลุ่มราคา 1-1.5 ล้านบาท สัดส่วน 13.9% หรือมีเพียง 419 หน่วย จากตลาดรวมอยู่ที่ 3,025 หน่วย สะท้อนว่าบิ๊กแบรนด์ทำโครงการราคานี้จำนวนน้อยมากและไม่มีการพัฒนาโครงการเลยในกลุ่มราคาต่ำกว่าหน่วยละ 1 ล้านบาท
 
 
10 เดือนเปิดตัว 2 แสนล้าน
 
อัพเดตผลสำรวจการเปิดตัวโครงการใหม่ของบิ๊กแบรนด์ 11 ราย ในช่วง 10 เดือนแรกปี 2560 (มกราคม-ตุลาคม 2560) พบด้วยว่ามีการเปิดตัวมูลค่าโครงการรวมกัน 197,115 ล้านบาท
 
โดยสถิติคอนโดฯ ถือว่าในด้านจำนวนหน่วยลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2559 ซึ่งตลาดรวมเปิดตัวใหม่ 55,923 หน่วย โดย 11 รายเปิดตัวรวมกัน 26,631 หน่วย สัดส่วน 47.6% เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2560 ตลาดรวมอยู่ที่ 52,474 หน่วย เป็นของ 11 ราย 23,097 หน่วย สัดส่วน 44%
 
ในด้านมูลค่า ปี 2559 ตลาดรวมอยู่ที่ 198,700 ล้านบาท เป็นของ 11 รายรวมกัน 115,211 ล้านบาท สัดส่วน 58% เปรียบเทียบกับปี 2560 ตลาดรวมมีมูลค่ารวมกัน 210,737 ล้านบาท เป็นของ 11 รายรวมกัน 108,832 ล้านบาท สัดส่วน 51.6%
 
และสถิติโครงการแนวราบ ปี 2559 ตลาดรวมมี 49,708 หน่วย เป็นของ 11 รายรวมกัน 28,228 หน่วย สัดส่วน 56.8% เปรียบเทียบกับปี 2560 ตลาดรวมอยู่ที่ 30,284 หน่วย เป็นของ 11 ราย 21,983 หน่วย สัดส่วน 72.6%
 
โฟกัสด้านมูลค่าพบว่า ปี 2559 ตลาดรวมมี 201,390 ล้านบาท เป็นของ 11 รายรวมกัน 116,800 ล้านบาท สัดส่วน 58% เปรียบเทียบกับปี 2560 ตลาดรวมอยู่ที่ 126,459 ล้านบาท บิ๊กแบรนด์ 11 รายมีมูลค่ารวมกัน 88,283 ล้านบาท สัดส่วน 69.8%
 
 
ปีนี้บ้าน-คอนโดฯโต 8-15%
 
“ต้องเรียนว่าตัวเลขซัพพลายหรือหน่วยคงเหลือในระดับ 50% นั่นคือเป็นน้ำหนักที่ค่อนข้างเยอะ อัตราดูดซับมีเหลือในตลาดเล็กน้อยสำหรับเซ็กเมนต์บ้านเดี่ยว, สินค้าคอนโดฯใกล้เคียงกับตลาด ไม่แตกต่างกันมาก ถ้าทิศทางเศรษฐกิจดีต่อเนื่องจากปีนี้ทั้ง 11 รายก็จะลีดตลาดต่อไป ซึ่งผมเชื่อว่าถ้าปี”61 มีภาวะที่ดี บริษัทใหญ่แข็งแรงน่าจะได้ประโยชน์จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ”
 
ดร.วิชัยกล่าวต่อว่า สถิติปี 2560 ตัวเลขหลายรายการคาดว่าทำได้ใกล้เคียงปี 2559 อาทิ การโอนกรรมสิทธิ์คาดว่าลดลง -3% ส่วนสินเชื่อที่อยู่อาศัยสามารถเติบโตเล็กน้อยเนื่องจากบางส่วนมีการทำรีไฟแนนซ์ระหว่างสถาบันการเงินด้วยกันทำให้แนวโน้มปี 2561 ทิศทางยังเป็นบวก โดยคาดว่าโครงการที่อยู่อาศัยในภาพรวม ในแง่จำนวนหน่วยสามารถเติบโตได้ 8.5% และในแง่มูลค่าน่าจะเติบโต 10-15% เพราะราคาต่อหน่วยของบ้านและคอนโดฯ แพงขึ้น
 
 
เมืองท่องเที่ยว-EEC ยังไปได้
 
สำหรับตลาดต่างจังหวัด จากการสอบถามผู้ประกอบการหลายรายส่วนใหญ่สะท้อนภาพที่ชัดเจนว่ามีภาวะค่อนข้างนิ่ง ไม่คึกคักเหมือนตลาดหลักใน กทม.-ปริมณฑล พื้นที่ไฮไลต์ยังคงเป็นหัวเมืองท่องเที่ยวที่มีฐานลูกค้าต่างชาติเป็นกำลังซื้อหลักในสินค้าคอนโดฯ จากเหตุผลซื้อกรรมสิทธิ์ได้โควตา 49% ของจำนวนห้องชุดในโครงการ อาทิ ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ (สงขลา), เมืองหน้าด่านการค้าชายแดน เช่น อุดรธานี ขอนแก่น ฯลฯ
 
รวมทั้งนโยบายโปรโมตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรือ EEC 3 จังหวัด (ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา) เป็นตัวดึงดูดการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งจะเป็นกำลังซื้อหลักของโครงการอสังหาฯ ในพื้นที่ภาคตะวันออก
http://www.bkkcitismart.com

พอใจศก.ดีต่อเนื่อง ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคสูงสุดรอบ35เดือน

“ประยุทธ์” พอใจแนวโน้มเศรษฐกิจดีขึ้นต่อเนื่อง ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคสูงสุดรอบ 35 เดือน คาดทั้งปีโตได้มากกว่า 4% พร้อมเร่งยกระดับราคาสินค้าเกษตรและช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศอย่างต่อเนื่อง และพอใจที่ได้รับทราบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ธ.ค.60 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง เป็นเดือนที่ 5 อยู่ที่ระดับ 79.2 ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดในรอบ 35 เดือน นับตั้งแต่เดือน ก.พ.58 โดยมีปัจจัยบวกมาจากการส่งออกที่ขยายตัว การท่องเที่ยวที่ดี มาตรการกระตุ้นการบริโภคและเศรษฐกิจ ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่ปรับขึ้น และข่าวการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เป็นต้น

นายกฯ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจในปี 61 จะขยายตัวร้อยละ 4.2-4.5 และอาจขยายตัวได้ถึงร้อยละ 5 ตามการคาดการณ์ของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เช่นเดียวกับตัวเลขของ ธ.ออมสินที่ประเมินการขยายตัวของเศรษฐกิจไว้ถึงร้อยละ 4.6 เพราะรัฐบาลพยายามเร่งรัดการใช้จ่ายและการลงทุน เช่น โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง โครงการพัฒนาท้องถิ่นของอปท. โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก โครงการเพิ่มศักยภาพหมู่บ้านและชุมชน โครงการยกระดับ SMEs โครงการพัฒนาอีอีซี รวมทั้งเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว และปัจจัยบวกต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้ว

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรียังเป็นห่วงและให้ความสำคัญกับปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตร โดยเฉพาะข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยคาดว่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ทั้งนี้ รัฐบาลมีมาตรการรักษาเสถียรภาพและยกระดับราคาสินค้าเกษตร เช่น โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี 2560/61 ที่ช่วยชะลอผลผลิตออกสู่ตลาด การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายตลาดข้าวเหนียวและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากข้าวเหนียว การเชื่อมโยงตลาดสินค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ระหว่างจังหวัด การส่งเสริมการใช้ยางภายในประเทศให้มากขึ้น และการเข้มงวดกับการนำเข้ามันสำปะหลังจากต่างประเทศ ฯลฯ

“ส่วนการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยนั้น รัฐบาลจะออกมาตรการระยะที่ 2 โดยมีแนวทางหลัก คือ การช่วยเหลือผู้ที่ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี ซึ่งมีอยู่ประมาณ 5.3 ล้านคน ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีการจัดทำแผนที่ชีวิต โดยหวังว่าจะช่วยให้คนกลุ่มนี้มีงานทำ มีการศึกษาอบรมที่เหมาะสมกับศักยภาพ รวมทั้งได้เป็นเจ้าของกิจการ หรือเป็นลูกจ้าง หรือออกไปทำงานต่างประเทศได้ และมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองได้ หรือสามารถจ่ายค่าเช่าที่อยู่อาศัยได้”

http://www.bangkokbiznews.com


ค่าบาท ‘ทรงตัว’ ผู้ส่งออกไทยลังเลทำธุรกรรม

บาทเปิดตลาดเช้านี้ทรงตัว “32.22 บาทต่อดอลลาร์” ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับขึ้นยาวนานรอบหนึ่งถึง13เดือน ตลาดบิทคอยน์ปรับตัวหลังจีน-เกาหลีเข้ามาตรวจสอบการฟอกเงิน ฝั่งผู้ส่งออกไทยยังลังเลทำธุรกรรม

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 32.22บาทต่อดอลลาร์ ไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อน

ในคืนที่ผ่านมา ตลาดทุนทั่วโลกยังคงสามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ซึ่งถือว่าเป็นรอบการปรับตัวขึ้นที่ยาวนานที่สุดรอบหนึ่ง และมีระยะเวลาถึง13 เดือนแล้ว มีเพียงแต่บิทคอยน์และสกุลเงินดิจิตอลที่ปรับตัวลง หลังจากที่ทางการจีนและเกาหลีใต้ส่งสัญญาณว่าได้เริ่มเข้าตรวจสอบตลาดเพื่อป้องกันปัญหาการฟอกเงิน

ในส่วนของตลาดเงิน ค่าเงินยูโรเริ่มอ่อนค่าลงหลังจากที่แข็งค่าต่อเนื่องมาสามสัปดาห์ ตลาดมีความกังวลกับการเลือกตั้งในอิตาลีที่จะมีขึ้นในเดือนมีนาคมนี้ บวกกับการที่โดนัลด์ ทรัมป์กำลังจะเลือกรองประธานเฟดเข้ามาในตำแหน่งที่ขาดก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สนับสนุนแนวคิดการขึ้นดอกเบี้ยในระยะสั้น แล้วสามารถดึงค่าเงินดอลลาร์ขึ้นได้

ในฝั่งของไทยยังไม่พบผู้ส่งออกเข้ามาทำธุรกรรมมากนัก อาจเนื่องมาจากเป็นช่วงต้นปีที่ราคาฟอร์เวิร์ดถูกกว่าราคาปัจจุบันผู้ส่งออกจึงยังมีความลังเล มีเพียงผู้ค้าเงินและธนาคารต่างประเทศที่ทำการซื้อขายตามแนวโน้มระยะสั้น มองกรอบเงินบาทระหว่างวันที่ระดับ 32.18-32.28 บาทต่อดอลลาร์

http://www.bangkokbiznews.com


7 แอปฯ แต่งรูป iPhone น่าใช้ ปี 2018 ที่ต้องมีติดตัวไว้

แอปฯ แต่งรูป

ภาพจาก mama_mia / shutterstock.com

แนะนำ 7 แอปฯ แต่งรูป iPhone และ iPad ใหม่ ๆ น่าใช้ในปี 2018 ที่คุณต้องมีติดตัวไว้ มีแอปฯ แต่งรูปไหนบ้าง มาดูกัน

เพื่อเป็นการส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2018 ที่กำลังจะมาถึง วันนี้กระปุกดอทคอมขอเอาใจผู้ใช้ iPhone และ iPad ที่ชื่นชอบการตกแต่งรูปภาพด้วยมือถือที่กำลังหาแอปฯ แต่งรูปใหม่ ๆ มาใช้ในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวปีใหม่นี้ ด้วยการแนะนำ 7 แอปฯ แต่งรูปสวย ๆ น่าใช้ ประจำปี 2018 ซึ่งมีทั้งแอปฯ แอปฯ แต่งรูปแนวอาร์ต ๆ, แอปฯ แต่งรูปที่เน้นฟิลเตอร์ และแอปฯ ทำโปสการ์ดปีใหม่ และแอปฯ กล้องถ่ายรูปสวย ๆ เป็นต้น ส่วนจะมีแอปฯ อะไรบ้าง ถ้าอยากรู้แล้ว มาดูกัน

1. PicMonkey Photo Editor Design

แอปฯ แต่งรูป

แอปฯ แต่งรูปที่เน้นการออกแบบดีไซน์โดยเฉพาะ โดยแอปฯ PicMonkey Photo Editor Design มาพร้อมเครื่องมือปรับแต่งและแก้ไขต่าง ๆ อย่างครบครันไม่ว่าจะเป็นแบบดีไซน์ต่าง ๆ ที่พร้อมให้ใช้งานได้ทันที, เพิ่มข้อความบนรูปภาพได้, ยางลบแก้ไขภาพ, ดินสอตกแต่งรูปภาพ, ฟิลเตอร์, สติ๊กเกอร์ และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงยังสามารถ Crop รูปภาพให้ได้ขนาดที่ต้องการ เพื่อแชร์ภาพไปยัง Facebook, Twitter และ Instagram ผ่านแอปฯ ได้อีกด้วย

ดาวน์โหลด PicMonkey Photo Editor Design สำหรับ iOS 9.0 ขึ้นไป

2. Portrait by img.ly

แอปฯ แต่งรูป

แอปฯ กล้องถ่ายรูปเซลฟี่ มาพร้อมฟิลเตอร์แนว Portrait ที่มีให้เลือกใช้งานมากถึง 21 แบบ โดยผู้ใช้งานสามารถตกแต่งรูปเซลฟี่ของคุณได้ภายในพริบตา เพียงเลือกฟิลเตอร์ต่าง ๆ ที่คุณต้องการขณะถ่ายรูป ด้วยการปัดหน้าจอขึ้น-ลง นอกจากนี้แอปฯ Portrait by img.ly ยังมีเครื่องมือปรับแต่งรูปภาพต่าง ๆ ที่น่าสนใจจาก PhotoEditor SDK ผู้พัฒนาโปรแกรมแก้ไขรูปภาพชื่อดัง เช่น เพิ่มข้อความบนรูปภาพได้, ทำภาพซ้อนกันเก๋ ๆ ได้ และมีเอฟเฟกต์ต่าง ๆ ให้เลือกปรับแต่งแก้ไข ที่เพิ่มเข้ามาไว้ในแอปฯ ให้ใช้งานกันอย่างครบครัน

ดาวน์โหลด Portrait by img.ly สำหรับ iOS 10.1 ขึ้นไป

3. Trigraphy Creative Effects, Filters & Photo Editor

แอปฯ แต่งรูป

แอปฯ แต่งรูปภาพแนว Digital Abstract Art ที่มีลักษณะเป็นภาพสองมิติและสามมิติ โดยภายในตัวแอปฯ มีฟิลเตอร์ต่าง ๆ ให้เลือกใช้งานกว่า 116 แบบไม่ซ้ำกัน นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือปรับแต่งรูปภาพที่ครบครัน เช่น ปรับแสงสี, ปรับความคมชัด, โฟกัสเฉพาะจุด และสามารถบันทึกรูปภาพด้วยความละเอียดสูงสุด 4,096 x 4,096 ล้านพิกเซล นอกจากนี้ยังมีบริการพิมพ์และจัดส่งรูปภาพที่คุณต้องการสั่งพิมพ์ลงบนเสื้อผ้า, โปสการ์ด, เคส iPhone และอื่น ๆ ส่งถึงบ้านคุณอีกด้วย

ดาวน์โหลด Trigraphy Creative Effects, Filters & Photo Editor สำหรับ iOS 9.0 ขึ้นไป

4. Couple Wallpaper, Love Screen

แอปฯ แต่งรูป

แอปฯ แต่งรูปที่มาในรูปแบบสร้างภาพพื้นหลัง (Wallpaper) บนหน้าจอ สำหรับคู่รักที่ใช้ iPhone โดยเฉพาะ ซึ่งภายในตัวแอปฯ Couple Wallpaper, Love Screen. สามารถช่วยให้คุณสร้างภาพพื้นหลังบนหน้าจอมือถือของคุณกับแฟนได้ง่าย ๆ ดังนี้ เลือกขนาดหน้าจอ iPhone ที่ต้องการ, เลือกภาพที่ต้องการทำ, ปรับขนาดภาพ พร้อมกับจัดตำแหน่งตามที่ต้องการและดูภาพตัวอย่างก่อนทำการบันทึก โดยแอปฯ ดังกล่าวจะแบ่งภาพพื้นหลังออกเป็น 2 ส่วน เพื่อให้ผู้ใช้งานนำมาแสดงต่อกัน เรียกได้ว่าเป็นแอปฯ สำหรับคู่รักจริง ๆ

ดาวน์โหลด Couple Wallpaper, Love Screen. สำหรับ iOS 9.0 ขึ้นไป

5. LUNGO – 3D Sticker Photo

แอปฯ แต่งรูป

แอปฯ สร้างสติ๊กเกอร์ 3 มิติน่ารัก ๆ มาตกแต่งไว้บนรูปภาพของคุณ โดยภายในตัวแอปฯ มีแบบสติ๊กเกอร์ 3 มิติน่ารัก ๆ ให้เลือกใช้งานมากมาย ซึ่งแบ่งออกเป็นหมวดต่าง ๆ และผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งหมุนสติ๊กเกอร์ได้ถึง 360 องศา พร้อมทั้งยังสามารถปรับแต่งแสงและเงา รวมถึงย่อ-ขยายสติ๊กเกอร์ได้อย่างอิสระ นอกจากนี้ยังมีฟิลเตอร์ต่าง ๆ ให้เลือกใช้งานถึง 24 แบบอีกด้วย

ดาวน์โหลด LUNGO – 3D Sticker Photo สำหรับ iOS 8.1 ขึ้นไป

6. Enlight Quickshot

แอปฯ แต่งรูป

แอปฯ กล้องถ่ายรูปที่มาพร้อมฟิลเตอร์แต่งรูปสวย ๆ มากมาย เช่น Portrait, Nature, Urban และอื่น ๆ โดยผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งฟิลเตอร์ต่าง ๆ ขณะถ่ายภาพได้แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ยังมีโหมดถ่ายรูปอื่น ๆ ให้ใช้งานอีกด้วย เช่น โหมด HDR ที่ช่วยประเมิณแสงรอบ ๆ ตัวแบบอัตโนมัติ, โหมด Quickshot ที่ใช้เทคโนโลยี AI จัดตำแหน่งกล้องให้อัตโนมัติ และโหมด Strobe สำหรับการถ่ายแบบเคลื่อนไหวให้ดูมีมิติขึ้นอีกด้วย เรียกได้ว่าใครที่ชอบการถ่ายภาพที่มีลูกเล่นเยอะ ๆ ไม่ควรพลาด

ดาวน์โหลด Enlight Quickshot สำหรับ iOS 10.0 ขึ้นไป

7. ArtCard by BeCasso

แอปฯ แต่งรูป

สำหรับแอปฯ แต่งรูปแอปฯ สุดท้ายที่แนะนำเป็นแอปฯ แต่งรูปแนวโปสการ์ด เพื่อส่งอวยพรให้กับเพื่อน ๆ ในช่วงเทศกาลวันคริสต์มาส โดยภายในตัวแอปฯ มีฟิลเตอร์ต่าง ๆ จากศิลปินชื่อดัง เช่น Monet, Munch และ Picasso ให้เลือกใช้งานได้ตามต้องการ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือปรับแต่งแก้ไขภาพเบื้องต้น เช่น ย่อ-ขยายรูปภาพ, ปรับโทนสีต่าง ๆ และ Crop รูปภาพให้ใช้งานอีกด้วย ใครที่กำลังมองหาแอปฯ แต่งรูปทำโปสการ์ดช่วงปีใหม่อยู่ไม่ควรพลาด

https://men.kapook.com


ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 9/1/2561

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a 20,050.00 20,150.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,299.00 19,692.84 20,650.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,169.10 17,723.56 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 585.00 8,868.60 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 455.00 6,897.80 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,346.00 20,405.36 n/a

ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  9/1/2561

ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95 27.95 27.95 27.95 27.95 27.95
27.95
27.95
27.95
27.95
แก๊สโซฮอล E-20
25.44
25.44
25.44
25.44
25.44
25.44
25.44
25.44
25.44
แก๊สโซฮอล E-85 20.64 20.64 20.64 20.64
แก๊สโซฮอล 91 27.68 27.68 27.68 27.68 27.68 27.68 27.68 27.68 27.68 27.68
เบนซิน 95 35.06 35.51 35.56 35.06 35.06 35.06
ดีเซลหมุนเร็ว 27.59 27.59 27.59 27.59 27.59 27.59 27.59 27.59 27.59 27.59
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 30.59 30.59 30.59 30.59 30.59
มีผลตั้งแต่ 09 Jan 05:00 09 Jan 05:00 09 Jan 05:00 09 Jan 05:00 09 Jan 05:00 09 Jan 05:00 09 Jan 05:00 09 Jan 05:00 09 Jan 05:00 09 Jan 05:00

 

 

 

Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า