สาระน่ารู้ ประจำวันที่13 พฤศจิกายน 2560

ตลาด‘รับสร้างบ้าน’โค้งสุดท้ายกำลังซื้อฟื้น

ธุรกิจรับสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา พบว่าความต้องการสร้างบ้านและกำลังซื้อผู้บริโภคอยู่ในภาวะ“ทรงตัว” แต่เริ่มเห็นสัญญาณบวกจากดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวดีขึ้น ผู้ประกอบการต่างเร่งกระตุ้นกำลังซื้อช่วงปลายปี

พิชิต อรุณพัลลภ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (Home Builders Association: HBA) กล่าวว่าช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีและต่อเนื่องไปจนถึงครึ่งแรกของปี 2561 ตลาดน่าจะมีความคึกคักมากขึ้น สะท้อนจากแนวโน้มตั้งแต่ช่วงที่สมาคมฯจัดงาน Home Builder & Materials Expo 2017 เดือนส.ค.ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน

 ปัจจัยบวกที่มาสนับสนุนตลาดรับสร้างบ้านโค้งสุดท้าย  มาจากภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างช้าๆ รวมถึง ภาคการส่งออกของไทยที่ขยายตัวค่อนข้างสูง ตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและการเติบโตของตลาดส่งออกของประเทศในภูมิภาคเอเชียที่ขยายตัวในระดับสูงต่อเนื่องน่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและภาคธุรกิจ

นอกจากนี้ความชัดเจนด้านการเมือง เกี่ยวกับการเลือกตั้งตามโรดแมพที่รัฐบาลวางไว้ ถือเป็นสัญญาณที่ดี โดยเฉพาะเกี่ยวกับบรรยากาศการลงทุนและเศรษฐกิจ  การลงทุนที่ต่อเนื่องในระบบโครงสร้างพื้นฐาน ผ่านโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงการลงทุนอื่นๆ ของภาครัฐ จะสร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุนของภาคเอกชน และอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในอัตราที่ต่ำ ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้บริโภคทุกกลุ่มอาชีพ

 ดังนั้นเพื่อสนับสนุนและกระตุ้นการตัดสินใจผู้บริโภคที่ใช้บริการปลูกสร้างบ้านผ่านบริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ เมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา สมาคมฯ ได้ลงนามความเข้าใจกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เพื่อปล่อยกู้ปลูกสร้างบ้านผ่านแคมเปญ Home For All ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ 3 ปีแรก 2.90% พิเศษ 4 ฟรี คือ ฟรี ค่าจดจำนอง, ฟรี ค่าจดทะเบียนสิทธินิติกรรม, ฟรี ค่าประเมินหลักประกันและ ฟรี ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้

 แคมเปญดังกล่าวหวังกระตุ้นผู้บริโภคที่มีความสนใจปลูกสร้างบ้านภายใน เดือน หรือ ปี  ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลการสำรวจ ที่ระบุว่าเริ่มมีผู้บริโภคมีแนวโน้มปลูกสร้างภายใน เดือน สัดส่วน 12.58% และภายใน 1ปี สัดส่วน 26.46% 

 “การจัดโปรโมชั่นส่งท้ายปี เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้ารับสร้างบ้าน ตอบรับสัญญาณตลาดฟื้นตัว คาดปีนี้เติบโตใกล้เคียงปีก่อน ที่ราว 5-10% ซึ่งมีมูลค่า 10,200 ล้านบาท

 ทางด้านการแข่งขันของผู้ประกอบการธุรกิจรับสร้างบ้าน นับจากนี้คงเห็นผู้ประกอบการจุดพลุแคมเปญการตลาดส่งท้ายปี เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจของผู้บริโภคที่ชะลอตัวใรช่วงต้นปี

  อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยท้าทายตลาดรับสร้าง จากความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต  ทั้งภาวะเศรษฐกิจภายนอกและในประเทศ รวมถึงการปรับขึ้นราคาของวัสดุก่อสร้างในบางรายการ ซึ่งอาจกระทบต่อต้นทุนการก่อสร้าง

ดังนั้นการดำเนินธุรกิจคงต้องปรับตัวรองรับกับการขยายตัวของกำลังซื้อทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล รวมถึงตลาดต่างจังหวัด ซึ่งผู้ประกอบการในธุรกิจรับสร้างบ้านต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ ด้วยการออกแบบบ้านให้ตรงกับความต้องการของตลาดและเทรนด์ต่างๆที่จะตามมาในอนาคต

ทั้งด้านเทรนด์นวัตกรรมวัสดุก่อสร้าง การอยู่อาศัยแบบไร้สาย ซึ่งการออกแบบบ้านนั้นก็ต้องตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยได้เพียงปลายนิ้วสัมผัสหรือ “ สมาร์ท ลิฟวิ่ง” รวมถึงที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่มีบทบาทเพิ่มขึ้นในประเทศไทย โดยการออกแบบต้องตอบโจทย์ทั้ง 3 Generations คือ รุ่นปู่ย่าพ่อแม่ และรุ่นลูกหลาน

ส่องความต้องการปลูกสร้างที่อยู่อาศัย

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สำรวจความต้องการ “ที่อยู่อาศัย” ของประชาชนทั่วประเทศผ่านแอพพลิเคชั่น “คนไทยมีบ้าน” หรือ Home for All รวมทั้งผ่านเว็บไซต์ ธอส.และศูนย์ข้อมูลฯ โดยสำรวจช่วงเดือนพ.ค.-ก.ย.2560 รวมกลุ่มตัวอย่าง 78,586 ราย

พบว่าความต้องการปลูกสร้างที่อยู่อาศัย จำนวน 23,973 ราย สัดส่วน 30.5% ในกลุ่มที่ต้องการปลูกสร้างช่วง 1-3 ปีนี้ จำนวน 19,109 ราย กลุ่มที่มีศักยภาพหรือมีความสามารถที่จะผ่อนชำระได้ มีจำนวน 28%

ด้านราคาที่อยู่อาศัยที่ต้องการปลูกสร้าง ส่วนใหญ่ 21.7% อยู่ที่ 1-2 ล้านบาท รองลงมาต้องการปลูกสร้างในช่วงราคา 7 แสนบาท- 1 ล้านบาท สัดส่วน 18.7%

ความต้องการปลูกสร้างที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า ล้านบาท มีสัดส่วนรวมกัน 70% ส่วนราคา 1-3 ล้านบาท มีสัดส่วน 27.2% ราคาตั้งแต่ ล้านบาทขึ้นไป มีสัดส่วนรวมกัน 2.8%”

ภาคที่มีความต้องการปลูกสร้างที่อยู่อาศัยมากที่สุด ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สัดส่วน 33.1% รองลงมาเป็นภาคเหนือ 24% ภาคใต้ 12.7% กรุงเทพฯ-ปริมณฑล สัดส่วน 10.6% ภาคตะวันออก 8.2% ภาคตะวันตก 6.5% และภาคกลาง 4.8% ในแต่ละจังหวัดของแต่ละภูมิภาค จะมีความต้องการปลูกสร้างที่อยู่อาศัยกระจายไปยังอำเภอต่างๆ ไม่กระจุกตัวอยู่ในอำเภอเมือง หรืออำเภอที่เป็นเขตเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัด

ในด้านราคาที่อยู่อาศัยที่ต้องการปลูกสร้าง ส่วนใหญ่ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท รองลงมา 1-3 ล้านบาท ส่วนราคามากกว่า 3 ล้านบาทขึ้นไป มีจำนวนน้อยที่สุด

สรุปได้ว่าภาพรวมความต้องการที่อยู่อาศัยของกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางที่มีศักยภาพ ในช่วงปี 2560-2562 สัดส่วนกว่า 60% ทั่วประเทศ

http://www.bangkokbiznews.com


ส่องอีเวนท์อสังหาฯ แห่งปี “สยามพารากอน ลักซ์ชัวรี่ พร็อพเพอร์ตี้ โชว์เคส 2017”

ส่องอีเวนท์อสังหาฯ แห่งปี “สยามพารากอน ลักซ์ชัวรี่ พร็อพเพอร์ตี้ โชว์เคส 2017”

[บทความประชาสัมพันธ์พิเศษ] ท่ามกลางสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องสอดคล้องกับกำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่ยังอยู่ในทิศทางที่ดีโดยเฉพาะตลาดลักซ์ชัวรี่ และปัจจัยบวกต่างๆ จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล รวมถึงมาตรการส่งเสริมการพัฒนาที่อยู่อาศัยรองรับสังคมผู้สูงอายุ ปัจจัยบวกดังกล่าวจะช่วยให้ภาพรวมของตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2560 มีแนวโน้มสดใสต่อเนื่องไปจนถึงปี 2561 จึงถือเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ทั้งเพื่ออยู่เองและลงทุนในระยะยาว โดยเฉพาะสินค้าระดับลักซ์ชัวรี่ ด้วยเหตุนี้ศูนย์การค้าสยามพารากอน จึงได้จัดงาน “สยามพารากอน ลักซ์ชัวรี่ พร็อพเพอร์ตี้ โชว์เคส 2017” ซึ่งได้รวบรวมสุดยอดโครงการที่อยู่อาศัยระดับมาสเตอร์พีซและไฮเอนด์ของประเทศไทย ทั้งบ้านและคอนโดมิเนียมจาก 14 โครงการ กว่า 3,000 ยูนิต มาให้เลือกชม พร้อมโปรโมชั่นเด็ดๆ มากมาย

Paragon_17

14 โครงการคุณภาพระดับลักซ์ชัวรี่ กว่า 3,000 ยูนิต
งาน “สยามพารากอน ลักซ์ชัวรี่ พร็อพเพอร์ตี้ โชว์เคส 2017” เป็นงานที่รวบรวมที่สุดแห่งโครงการที่อยู่อาศัยและที่พักตากอากาศระดับมาสเตอร์พีซและระดับไฮเอนด์ครั้งยิ่งใหญ่ที่จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 11 แล้ว สำหรับปีนี้ยังคงได้รับความร่วมมือจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทยจำนวนมากที่ได้นำโครงการคุณภาพ ทั้งบ้านพัก คอนโดมิเนียม และรีสอร์ตระดับลักซ์ชัวรี่และซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ มาร่วมงานกว่า 3,000 ยูนิต จาก 14 โครงการ ได้แก่ ARNA Ekamai, BluPhere Pattaya, Canapaya Residences, Four Seasons Private Residences Bangkok at Chao Phraya River, LAVIQ Sukhumvit 57, The Lofts Silom, Movenpick Residences & Pool Villas, Nara 9 by Eastern Star, Nivati Thonglor 23, The Pano, The Residences at Sheraton Phuket Grand Bay, Swan Lake Residence Khao Yai, WISH Signature II Midtown Siam และพิเศษในปีนี้มีเรือยอร์ชหรูจาก Boat Lagoon Yachting มาร่วมจัดแสดง ตอบโจทย์ผู้ต้องการครอบครองสินทรัพย์ระดับมาสเตอร์พีซไว้ในที่เดียวภายในงานอย่างครบครัน

แบบเรือยอชต์หรูจาก Boat Lagoon Yachting

แบบเรือยอชต์หรูจาก Boat Lagoon Yachting

ดีเวลลอปเปอร์อัดโปรฯ พิเศษเฉพาะในงาน
ภายในงานผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ต่างนำโครงการคุณภาพมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะโครงการบ้านพักตากอากาศที่เหมาะทั้งอยู่อาศัยเองและซื้อเพื่อการลงทุน มาพร้อมกับโปรโมชั่นพิเศษมากมายที่หาได้เฉพาะในงานครั้งนี้เท่านั้น

Paragon_04

ทางฮาบิแททกรุ๊ป นำ 3 โครงการในทำเลพัทยา พร้อมไฮไลท์โปรโมชั่นเด็ดมากมาย อาทิ
– ส่วนลด 100,000 บาท พร้อมฟรี IPhone X, ฟรีค่าส่วนกลาง 2 ปี และฟรีค่าใช้จ่าย ณ วันโอน สำหรับโครงการ BluPhere Pattaya
– ส่วนลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมฟรีค่าส่วนกลาง 3 ปี สำหรับโครงการ X2 Pattaya Oceanphere
– ส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท พร้อมฟรีค่าส่วนกลาง 5 ปี สำหรับโครงการ WYNDHAM Atlas Wongamat Pattaya

Paragon_05

บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) นำ 5 โครงการ ทั้งคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ และบ้านพักตากอากาศ มาพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ อาทิ
– รับผลตอบแทนสูงสุด 36%
– รับ iPhone X 256 GB เมื่อจองและทำสัญญา
– รับแพ็กเกจ พักที่ Nusa My Ozone Khao Yai 3 วัน 2 คืน สำหรับลูกค้ายอดซื้อสูงสุดอันดับ 1-10
– รับ Cell Booster แพ็กเกจ ตรวจสุขภาพเชิงป้องกันโรค และการให้วิตามิน/อาหารเซลล์ ที่ PANACÈE Medical Cente

Paragon_06

บริษัท เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) นำโครงการ The Residences at Sheraton Phuket Grand Bay มาพร้อมโปรโมชั่นพิเศษ อาทิ
– ส่วนลด 5% จากราคาขาย
– ลูกค้าที่ลงทะเบียนในเว็บไซต์จะได้รับส่วนลดเพิ่มอีก 2 แสนบาท
– จองในงานจะได้รับตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-ภูเก็ต 2 ที่นั่ง เพื่อเข้าชมโครงการ หากไม่พอใจรับเงินคืน 85,000 บาท
– ทำสัญญาในงานจะได้รับ One day trip ล่องเรือยอร์ชที่พัทยา

Paragon_07

บริษัท อีลิเชี่ยน ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด นำโครงการ Swan Lake Residence Khao Yai ตึกใหม่ สุด Exclusive ที่มีเพียง 19 ยูนิตเท่านั้น มาพร้อมโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะในงาน อาทิ
– ส่วนลด 100,000-300,000 บาท
– บัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ อินฟินิท และ SCB First, SCB Private Banking รับส่วนลดเพิ่ม 80,000 บาท และรับแต้ม 10 เท่า
– จ่ายสดดาวน์ทั้งก้อนลด 6%

รับโปรโมชั่นพิเศษเพิ่มอีก 3 ต่อ

Paragon_15

ความพิเศษของงานอีกหนึ่งอย่าง คือ มาพร้อมกับโปรโมชั่นสุดพิเศษถึง 3 ต่อ ได้แก่
ต่อที่ 1 ส่วนลดและข้อเสนอแห่งปีจากโครงการที่พักอาศัยและที่พักตากอากาศสุดหรูบนทำเลศักยภาพ
ต่อที่ 2 สำหรับผู้ที่มียอดใช้จ่ายสูงสุดภายในงาน
– ท่านแรกรับแพ็กเกจสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ทริปล่องเรือยอร์ชสุดหรูที่ภูเก็ตจาก Boat Lagoon Yachting ดื่มด่ำประสบการณ์สุดหรู 1 วันบนเรือสำหรับ 10 ท่าน รวมบริการทั้งอาหาร เครื่องดื่ม และแชมเปญ มูลค่า 350,000 บาท
– ท่านที่ 2-3 จะได้รับตั๋วเครื่องบินเปิดเส้นทางบินใหม่ ไป-กลับ ฟูกว๊อก ประเทศเวียดนาม สำหรับ 2 ท่าน มูลค่ารางวัลละ 108,000 บาท จาก Bangkok Airways และห้องพัก Turquoise Suite 4 วัน 3 คืน ที่โรงแรม JW Marriott PhuQuoc Emerald Bay Resort & Spa พร้อมอาหารทุกมื้อ มูลค่ารางวัลละ 192,500 บาท
– ท่านที่ 4 และ 5 รับทันทีเครื่องดูดฝุ่นจาก Dyson V8 Animal Vacuum แบบไร้สาย ใช้งานสะดวก มูลค่าเครื่องละ 25,900 บาท
ต่อที่ 3
– สิทธิพิเศษจากบัตรเครดิตกสิกรไทย เมื่อชำระค่าจองผ่านบัตรเครดิต รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 12,000 บาท พร้อมแบ่งจ่าย 0% นานสูงสุด 10 เดือน
– สิทธิพิเศษจากบัตรเครดิตธนชาต เมื่อชำระค่าจองผ่านบัตรเครดิต รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 14,000 บาท หรือ แบ่งจ่าย 0% นาน 6 เดือน

แต่ละโครงการที่เข้ามาร่วมงานในครั้งนี้ต่างมีจุดเด่นทั้งด้านทำเลศักยภาพ ใจกลางเมือง ใกล้รถไฟฟ้า หรือริมแม่น้ำ รวมถึงการตกแต่งภายในด้วยเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งระดับไฮเอนด์ที่ดีที่สุด พร้อมบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ซึ่งตอบโจทย์ผู้ที่มองหาที่อยู่อาศัยและนักลงทุนที่ต้องการ Capital gain ที่ดี ทั้งนี้ อสังหาริมทรัพย์กลุ่มลักซ์ชัวรี่ถือเป็นการลงทุนที่มั่นคงและสร้างผลประโยชน์ในระยะยาวได้เป็นอย่างดี

Paragon_01 From Customer

คุณชนิสา แก้วเรือน ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามพารากอน และผู้ประกอบการ ร่วมเปิดงาน

สำหรับงาน “สยามพารากอน ลักซ์ชัวรี่ พร็อพเพอร์ตี้ โชว์เคส 2017” จัดตั้งแต่วันนี้ – 19 พฤศจิกายน 2560 ณ บริเวณแฟชั่น ฮอลล์ และแฟชั่น แกลเลอรี่ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2610-8000

http://www.ddproperty.com


กพท. เผยเตรียมเปิด 2 สายการบินใหม่ เส้นทางบินภายในประเทศ

เตรียมเปิด 2 สายการบินใหม่ เส้นทางบินภายในประเทศ

ไอเคโอ ปลดธงแดงไทย จ่อเปิด 2 สายการบินใหม่ พร้อมเปิดแอร์ไลน์บินในประเทศขอรีเอโอซีตั้งแต่ 1 ธ.ค. เป็นต้นไป

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2560 มีรายงานความคืบหน้าการทบทวนและออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ (รีเอโอซี) ตามมาตรฐานองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) โดยนายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยถึงกรณีนี้ว่า ขณะนี้ กพท. ออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ (เอโอซี) ให้กับสายการบินที่ทำการบินระหว่างประเทศไปแล้ว 12 ราย จากทั้งหมด 21 ราย เหลืออีก 9 ราย คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะออกให้กับสายการบินโอเรียนท์ไทย เป็นรายที่ 13 และจะทยอยออกเอโอซีให้กับสายการบินที่เหลือให้ครบ ซึ่งได้วางเป้าหมายว่าจะครบทั้งหมดภายในเดือนมกราคม 2561

พร้อมกันนี้ นายจุฬา ยังเผยว่า หลังจากที่ไอเคโอปลดธงแดงให้กับประเทศไทย ทำให้สามารถเพิ่มจำนวนผู้ประกอบการธุรกิจสายการบินได้ โดยมีผู้ประกอบการที่สนใจทำธุรกิจสายการบินเส้นทางบินในประเทศ 2 ราย ได้ยื่นคำขอใบอนุญาตให้ประกอบกิจการค้าขายในการเดินอากาศ (เอโอแอล) มาแล้ว ขณะนี้อยู่ในระหว่างการประเมินความพร้อม ซึ่งจะมีการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองภายในเดือนพฤศจิกายน และเสนอให้ รมว.คมนาคม พิจารณาออกเอโอแอลให้ คาดว่าใช้เวลาประมาณ 3 เดือน ทั้งนี้เมื่อได้รับเอโอแอลแล้ว จะเข้าสู่กระบวนการของการยื่นคำขอเอโอซีจาก กพท. ต่อไป

และตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม เป็นต้นไป กพท. จะเปิดให้สายการบินเส้นทางภายในประเทศ ยื่นคำขอเพื่อเข้าสู่กระบวนการรีเอโอซี และการออกเอโอซีใหม่ ซึ่งแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

1. สายการบินที่ได้รับเอโอแอล และเอโอซีแล้ว และต้องเข้าสู่กระบวนการรีเอโอซีใหม่ จำนวน 10 ราย

 2. สายการบินที่ได้รับเอโอแอล แต่ยังไม่เคยได้รับเอโอซี จำนวน 5 ราย
3. สายการบินที่ยังไม่ได้รับเอโอแอล และเอโอซี จำนวน 2 ราย โดยกลุ่มนี้จะสามารถยื่นขอเอโอซีได้ก็ต่อเมื่อได้รับเอโอแอลแล้วเท่านั้นส่วนการดำเนินการที่ว่าจะออกเอโอซีให้กับสายการบินใดก่อนนั้น ก็จะใช้วิธีดูตามความพร้อมว่าสายการบินใดมีความพร้อม และยื่นคำขอเข้ามาก่อนก็จะดำเนินการให้ก่อน ซึ่งระยะเวลาการรีเอโอซีก็จะอยู่ที่ประมาณ 6-8 เดือน

https://money.kapook.com

‘4จี’ ครอบคลุมทั่วโลก สะท้อนเครือข่ายไร้สาย‘โตเร็ว’

ท่ามกลางการเติบโตอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมการสื่อสารไร้สายทั่วโลก ดูเหมือนว่า “แอลทีอี” เครือข่ายไร้สายความเร็วสูงของระบบสื่อสารมือถือ “4จี” ยังคงมีความครอบคลุมขึ้นอย่างเห็นได้ชัดทั่วโลก แต่ ความเร็วอินเทอร์เน็ตเฉลี่ยยังคงที่

โอเพน ซิกแนล” แอพพลิเคชั่นวิเคราะห์เครือข่ายมือถือเผยรายงาน “สเตท ออฟ แอลทีอี” ที่เก็บข้อมูลจากการใช้เครือข่าย 4จี เข้าถึงแอพพลิเคชั่นของตนกว่า 50,000 ล้านครั้งโดยผู้ใช้กว่า 3.8 ล้านรายใน 77ประเทศและดินแดน พบว่าเกาหลีใต้นำเป็นอันดับ ของประเทศที่มีเครือข่ายแอลทีอีใช้งานได้ 96.69% ของจำนวนผู้ใช้งานทั้งหมด ขณะที่แอลจีเรียรั้งอันดับสุดท้าย โดยมีอัตราเข้าถึงแอลทีอีเพียง 41.5% ของจำนวนผู้ใช้ทั้งหมด

ประเทศส่วนใหญ่ในรายงานของโอเพนซิกแนล แสดงให้เห็นว่าเครือข่ายแอลทีอีมีความครอบคลุมเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยในเดือนมิ.ย. มี 33 ประเทศสามารถสนับสนุนสัญญาณแอลทีอีได้มากกว่า 70% ของจำนวนการใช้งาน และในเดือนนี้ ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 50 ประเทศ

รายงานในเดือนนี้ชี้ว่า มี 20 ประเทศสามารถให้บริการแอลทีอีได้มากกว่า 80% ของจำนวนการใช้งาน เทียบกับในเดือนมิ.ที่มีเพียง 16 ประเทศอยู่ในการจัดอันดับ ขณะที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็นเพียง ประเทศในโลกที่มีแอลทีอีครอบคลุมกว่า 90% โดยโอเพน ซิกแนลระบุว่า ปัจจุบันเกาหลีใต้มีเครือข่าย 3จี ครอบคลุมทั่วถึงทุกพื้นที่แล้ว

ประเทศในอเมริกาเหนือที่ติดการจัดอันดับด้วย ได้แก่ สหรัฐ ซึ่งมีความครอบคลุมของแอลทีอี 86.94% (อันดับ 5) แคนาดา 79.55% (อันดับ 23) เม็กซิโก 73.5% (อันดับ 38) โดมินิกัน 58.5% (อันดับ 70) ขณะที่สหราชอาณาจักรอยู่อันดับ 43 ของโลก ด้วยค่าเฉลี่ยความครอบคลุม 71.34% และอินเดียอยู่ในอันดับ 11 ของโลก โดยมีแอลทีอีครอบคลุมการใช้งาน 84.03%

ความเร็วและความครอบคลุมด้านเครือข่ายแอลทีอีของอินเดียมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเป็นหนึ่งในตลาดขนาดใหญ่ที่สุดสำหรับอุตสาหกรรมมือถือของโลก

ในการทดสอบรอบนี้ของโอเพน ซิกแนล พบว่า มี 50 ประเทศจาก 77 ประเทศที่มี 4จี ครอบคลุมเกิน 70% ของการใช้งาน เทียบกับ 33 ประเทศในการทดสอบเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว หมายความว่า ผู้ใช้ 4จี ใน 50 ประเทศเหล่านี้สามารถเข้าถึงสัญญาณแอลทีอีได้กว่า 7 ครั้งในความพยายามทุก ๆ 10 ครั้ง สะท้อนให้เห็นว่ามีจำนวนประเทศเพิ่มมากขึ้นที่เครือข่าย 4จี ขยายตัวอย่างเต็มที่

รายงานของโอเพน ซิกแนล ซึ่งเผยแพร่ปีละ ครั้ง บ่งชี้ว่า หากดูในกลุ่มประเทศอาเซียน สิงคโปร์มีแอลทีอีครอบคลุมที่สุดอยู่ที่ 84.56% ของการใช้งาน (อันดับ ของโลกรองลงมาคือไทยที่ครอบคลุม 77.35% (อันดับ 30) ตามมาด้วยอินโดนีเซีย 72.44% (อันดับ 39) มาเลเซีย 71.97% (อันดับ 40) กัมพูชา 68.95% (อันดับ 51) และฟิลิปปินส์ 58.83 (อันดับ 69)

นอกจากนี้ รายงานยังวิเคราะห์ความเร็วของเครือข่ายแอลทีอีใน 77 ประเทศด้วย ซึ่งพบว่า แม้ปัจจุบันมีผู้ให้บริการบางรายพัฒนาความเร็วอินเทอร์เน็ตบนแอลทีอีได้เร็วกว่าตัวเลขคาดการณ์ของโอเพน ซิกแนลที่ 50 เมกะบิตต่อวินาที แต่ไม่มีประเทศใดในการสำรวจครั้งนี้ที่มีความเร็วเฉลี่ยถึงตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าว

ประเทศที่มีค่าเฉลี่ยอินเทอร์เน็ต 4จี เร็วที่สุดในโลกและใกล้เคียงตัวเลขคาดการณ์ของโอเพน ซิกแนลมากที่สุดคือ สิงคโปร์อยู่ที่ 46.64 เมกะบิตต่อวินาที ตามมาด้วยเกาหลีใต้ 45.85 เมกะบิตต่อวินาที อย่างไรก็ตาม ทั้งสองประเทศมีค่าเฉลี่ยความเร็วสูงสุดลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรายงานครั้งก่อน

รายงานระบุว่า สิงคโปร์ เกาหลีใต้ นอร์เวย์ และฮังการี ติดใน 4 อันดับของโลกอีกครั้ง ด้วยความเร็วเฉลี่ย42 เมกะบิตต่อวินาทีขึ้นไป ขณะที่เนเธอร์แลนด์ตามมาติด ๆ ในอันดับ 5 ด้วยความเร็วเฉลี่ย 38.91 เมกะบิตต่อวินาที

ขณะที่ประเทศในอาเซียน นอกจากสิงคโปร์ที่รั้งแชมป์โลกเรื่องความเร็วแล้ว มาเลเซียเป็นประเทศที่มีความเร็วแอลทีอีเป็นอันดับ ของภูมิภาคด้วยค่าเฉลี่ย 14.17 เมกะบิตต่อวินาที (อันดับ 60 ของโลกตามมาด้วยกัมพูชา 12.15 เมกะบิตต่อวินาที (อันดับ 68) ไทย 9.4 เมกะบิตต่อวินาที (อันดับ 72) อินโดนีเซีย 9.02 เมกะบิตต่อวินาที และฟิลิปปินส์ 8.24 เมกะบิตต่อวินาที (อันดับ 73)

แม้ว่าบรรดาประเทศอันดับต้น ๆ ของโลกจะมีความเร็วแอลทีอีลดลง แต่ค่าเฉลี่ยการดาวน์โหลด 4จี ทั่วโลกกลับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 16.2 เมกะบิตต่อวินาที มาอยู่ที่ 16.6 เมกะบิตต่อวินาทีในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา และในประเทศกำลังพัฒนายังมีผู้ใช้ 4จี รายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วเฉลี่ยของแอลทีอีในกลุ่มประเทศที่อยู่อันดับครึ่งล่าง

ประเทศที่มีโครงสร้างเครือข่ายแอลทีอีมั่นคงยังคงเพิ่มการเข้าถึงเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง และบรรดาตลาดเกิดใหม่ต่างแข่งกันเปิดเครือข่ายแอลทีอีอย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นประเทศอย่างปากีสถานและตูนิเซีย ยังสามารถให้บริการแอลทีอีได้กว่า 50% ของการใช้งานแล้ว

http://www.bangkokbiznews.com


MISS vs LOSE ต่างกันยังไง?

อีกหนึ่งคำศัพท์ที่คนมักสับสนในการใช้ ใช้สลับกันบ้าง ใช้ผิดๆ ถูกๆ บ้าง นั่นก็คือ คำว่า Miss กับ Lose นั่นเองค่ะ ซึ่งทั้งคู่นี้ มีความหมายใกล้เคียงกัน คือ ความหมายของการพลาด การเสียโอกาส การสูญเสีย การสูญหาย ดังนั้น เพื่อไม่ให้สับสนในการนำคำศัพท์นี้ไปใช้งาน เรามาดูข้อแตกต่างของสองคำนี้กันดีกว่าค่ะ

Miss

นอกจากจะแปลว่า คิดถึง อย่างที่เรารู้จักกันดีแล้ว คำว่า Miss คำนี้ ยังมีความหมายว่า พลาด ได้อีกด้วย มักจะใช้ในความหมายของการ พลาด (บางสิ่งบางอย่าง เช่น เหตุการณ์ งาน กิจกรรม ฯลฯ) หรือใช้ในการมาสายจนทำให้ พลาดบางสิ่งบางอย่างไป

อธิบายง่ายๆ ในการเลือกใช้ Miss ให้ถูกต้องนั้น คือ การใช้ในสถานการณ์ที่เราพลาดบางสิ่งบางอย่างไป โดยสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่เราไม่เคยมีมาก่อนในอดีต ดังนั้น สมมติว่าเราจะบอกว่า เราทำเงิน(ที่เรามีอยู่) หาย – สถานการณ์นี้จะใช้ Miss ไม่ได้ แต่ถ้า เราอดได้เงิน (จากการถูกรางวัล ลอตเตอรี่ จับสลาก ฯลฯ) – สถานการณ์นี้ จะใช้ Miss ได้ค่ะ

Lose

ส่วนมากคนจะเคยชินกับคำว่า Lose ในความหมายว่า พ่ายแพ้ เพราะมักเห็นชินตาว่าเป็นคำที่ตรงข้ามกับคำว่า Win ที่แปลว่า ชนะ แต่นอกจากความหมายว่าพ่ายแพ้แล้ว คำว่า Lose นี้ ยังมีความหมายว่า สูญเสีย ได้อีกด้วย ซึ่งหลักการจำคำว่า Lose ไปใช้ ไม่ให้สับสนกับคำว่า Miss นั้น ไม่ยากค่ะ เพราะ Lose จะถูกใช้ในสถานการณ์ที่เราสูญเสียสิ่งที่เราเคยมีอยู่ หรือการทำสิ่งที่เรามีอยู่หาย หากเราไม่เคยมีมาก่อน ไม่นับว่าเราสูญเสียนะคะ จำง่ายๆ ค่ะว่า “เราไม่มีทางสูญเสียสิ่งที่เราไม่เคยมี”

จากนั้นลองมาดูตัวอย่างประโยคเพื่ออธิบายการใช้ Miss กับ Lose ให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นกันค่ะ

You missed a great concert last night.
(คุณพลาดชมคอนเสิร์ตเมื่อคืนนี้)

ประโยคนี้ใช้กับการ พลาด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปแล้ว

You missed class on Friday, so you have to make up the exercises.
(คุณไม่ได้เข้าเรียนเมื่อวันศุกร์ ดังนั้นคุณต้องชดเชยด้วยการทำแบบฝึกหัดเพิ่มนะ)

ในสถานการณ์ไม่ได้เข้าเรียน ไม่ได้เข้าประชุม ไม่ได้เข้าร่วมงานหรือกิจกรรมต่างๆ ก็สามารถใช้ Miss ได้เช่นกันค่ะ

I missed the bus and now I have to walk.
(ฉันมาไม่ทันรถโดยสาร ฉันเลยต้องเดินเท้าแทน)

ประโยคนี้ใช้อธิบายการ พลาด ในสนการณ์การมาไม่ทัน มาสาย ทำให้พลาดโอกาสบางอย่างไป

I’ve lost my keys. I can’t find them anywhere.
(ฉันทำกุญแจหาย หาที่ไหนก็ไม่เจอสักที)

ประโยคนี้ใช้ lose เพื่ออธิบาย การทำหาย และกุญแจ เป็นสิ่งที่เราเคยมีอยู่แล้ว แต่เราดันเสียมันไป (ด้วยการทำหาย) ดังนั้นจึงใช้ lose ค่ะ

I lost my dog. Help me find him!
(สุนัขของฉันหายไป ช่วยฉันหาทีเถอะ!)

เช่นเดียวกันกับประโยคนี้ ก็เป็นการอธิบายถึงสิ่งที่เราเคยมีอยู่ (ในที่นี้คือ สุนัข) แต่เราทำหายไป จึงใช้ lose เช่นกันค่ะ

I lost $1,000 playing poker last night. I shouldn’t gamble anymore.
(เมื่อคืนฉันเสียเงินตั้ง 1,000 ดอลล่าร์ไปกับการเล่นไพ่โป๊กเกอร์ ฉันไม่ควรเล่นการพนันอีกแล้วล่ะ)

ประโยคนี้ใช้อธิบายการสูญเสียเงิน (แตกต่างจากการจ่ายเงินนะคะ ถ้าจ่ายเงินซื้อของปกติใช้ pay ค่ะ) ไปโดยไม่ได้ตั้งใจหรือไม่ได้อยากเสีย เช่น สูญเสียเงินจากการพนัน สูญเสียเงินจากการทำหาย สูญเสียเงินจากการโดนขโมย เป็นต้น ซึ่งการสูญเสียเงิน (ที่เรามี) ในรูปแบบนี้ ใช้ lose ค่ะ

เป็นยังไงกันบ้างคะ จะเห็นได้ว่า หลักการการใช้ Miss กับ Lose นั้น ไม่ได้มีความซับซ้อนยุ่งยากอะไรเลย หวังว่าต่อจากนี้จะใช้กันอย่างถูกต้อง ไม่สับสนกันนะคะ : )

https://www.dailyenglish.in.th


ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 13/11/2560​

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a 19,950.00 20,050.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,292.00 19,586.72 20,550.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,162.80 17,628.05 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 581.00 8,807.96 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 452.00 6,852.32 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,339.00 20,299.24 n/a

ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  13/11/2560

ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95 28.25 28.25 27.65 28.25 27.65
28.25
28.25
28.25
28.25
แก๊สโซฮอล E-20
25.74
25.74
25.74
25.14
25.74
25.74
25.74
25.74
25.74
แก๊สโซฮอล E-85 20.84 20.84 20.84 20.84
แก๊สโซฮอล 91 27.98 27.98 27.98 27.38 27.98 27.38 27.98 27.98 27.98 27.98
เบนซิน 95 35.36 35.81 35.86 35.36 35.36 35.36
ดีเซลหมุนเร็ว 26.39 26.39 26.99 26.39 26.99 26.39 26.39 26.39 26.39 26.39
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 29.39 29.39 29.39 29.39 29.39
มีผลตั้งแต่ 08 Nov 05:00 08 Nov 05:00 08 Nov 05:00 08 Nov 05:00 08 Nov 05:00 08 Nov 05:00 08 Nov 05:00 08 Nov 05:00 08 Nov 05:00 08 Nov 05:00

 

 

 

Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า