Blog Post

ส่องค่าเช่าสำนักงานตึกระฟ้า“ฮ่องกง”ครองแชมป์

ไนท์แฟรงค์ ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก เปิดรายงานเมืองชั้นนำทั่วโลก ปี2561  เผยข้อมูลด้านแนวโน้มทางธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ใน 40 เมืองชั้นนำทั่วโลก 

มาร์คัส เบอร์เทนชอว์ กรรมการบริหารและหัวหน้าฝ่ายตัวแทนนายหน้า บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่ารายงานข้อมูลเชิงลึกในภาคอสังหาริมทรัพย์ ได้แสดงให้เห็นถึง “ดัชนีตึกระฟ้า” ที่ทำการตรวจสอบผลการดำเนินงานของอาคารเชิงพาณิชย์ที่สูงกว่า 30 ชั้น จาก 23 เมืองทั่วโลก เพื่อให้นักลงทุนได้รับข้อมูลความรู้ก่อนการตัดสินใจลงทุนในอนาคต

“ถึงจะมีรายงานว่าอัตราค่าเช่าสำนักงานในเมืองไทยสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่อัตราค่าเช่าในเมืองไทยยังคงจัดเป็นเพียง 10% ของค่าเช่าสำนักงานในฮ่องกง และยังไม่ถึงครึ่งของสิงคโปร์”

นอกจากนี้ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ อัตราการเติบโตของค่าเช่าสำนักงานระดับไพรม์ในกรุงเทพฯ อยู่ที่ 31 ดอลลาร์ต่อตารางฟุต ลดลง 0.5%  โดยจัดอยู่ในอันดับที่ อยู่อันดับที่ 22  คาดการณ์ว่าจะฟื้นตัวในช่วงปลายปีเมื่ออุปทานใหม่ถูกครอบครอง

ตึกระฟ้าในฮ่องกงยังคงครองอันดับอัตราค่าเช่าสูงที่สุดในโลกเป็นปีที่4  อยู่ที่ 304 ดอลลาร์ต่อตารางฟุต ส่วนด้านอัตราค่าเช่าสำนักงานระหว่างอาคารที่สูงที่สุดในฮ่องกงกับตลาดอื่นๆ ก็ยังคงกว้างขึ้นเรื่อยๆ แสดงให้เห็นได้ว่าค่าเช่าสำนักงานบนตึกสูงในฮ่องกงสูงกว่าอันดับสองอย่างนิวยอร์กมากถึง 88% ในปีนี้ เปรียบเทียบกับ 76% ในปีที่แล้ว

อันดับต่อมา โตเกียว ที่มีอัตราค่าเช่าอยู่ที่ 140 ดอลลาร์ต่อตารางฟุต และซานฟรานซิสโก ที่มีการปรับราคาสูงขึ้นไปอยู่ที่ 117 ดอลลาร์ต่อตารางฟุต แซงหน้าลอนดอนที่มีอัตราค่าเช่าอยู่ที่ 110 ดอลลาร์ต่อตารางฟุตโดยทั้งหมดนี้จัดอยู่ในห้าอันดับแรก

นอกจากนี้ดัชนียังแสดงให้เห็นว่า ค่าเช่าสำนักงานตึกระฟ้าในโตรอนโต เพิ่มขึ้นสูงที่สุด โดยช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นถึง 11.9% ราคาอยู่ที่ 58 ดอลลาร์ต่อตารางฟุต

สำหรับในฝั่งแปซิฟิก อัตราความต้องการที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยและอัตราว่างที่มีจำกัด ส่งผลให้ค่าเช่าสำนักงานตึกระฟ้าในออสเตรเลียเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 โดยเมลเบิร์น เพิ่มขึ้น 4.6% และซิดนีย์ เพิ่มขึ้น 3.4% จัดอยู่อันดับที่3 และ 5 ในการเติบโตของอัตราค่าเช่าสำนักงาน อย่างไรก็ตามค่าเช่าในเมลเบิร์น  อยู่ที่ 56 ดอลลาร์ต่อตารางฟุต  เป็นเพียงครึ่งหนึ่งของค่าเช่าในซิดนีย์ที่ 107 ดอลลาร์ต่อตารางฟุต

การเติบโตของอัตราค่าเช่านี้ยังเห็นได้ในฝั่งอเมริกาเหนือ เนื่องจากเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวและอัตราการว่างงานที่ต่ำส่งผลให้มีความมั่นคงทางธุรกิจและความต้องการพื้นที่สำนักงานเพิ่มขึ้น คิดเป็น นิวยอร์ก 1.8%, ซานฟรานซิสโก 3.5% และชิคาโก 1.6%

นิโคลัส โฮลท์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยประจำไนท์แฟรงค์เอเชียแปชิฟิก กล่าวว่าองค์กรจากประเทศจีนเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ค่าเช่าสำนักงานบนตึกสูงในเกาะฮ่องกงเพิ่มสูงขึ้น

สำหรับในฝั่งเอเชีย อย่าง โตเกียว ที่มีค่าเช่าพื้นสำนักงานอยู่อันดับ 3 ของโลก ยังไม่ถึงครึ่งของค่าเช่าพื้นที่สำนักงานใน ฮ่องกง ขณะที่สิงคโปร์ มีค่าเช่าน้อยกว่านั้นอีกครึ่งหนึ่ง

“มองไปในอนาคตว่าหากได้รับความสนใจเป็นอย่างดีจากกลุ่มที่ต้องการทำงานบนตึกสูงที่มีวิวที่ดีที่สุด คาดว่าความต้องการพื้นที่สำนักงานบนตึกสูงในแถบภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค จะยังคงมีความมั่นคงต่อไป”

วิลเลี่ยม เบรียดมอร์–เกรย์ หัวหน้าฝ่ายบริการผู้ครอบครองและตัวแทนนายหน้า ไนท์แฟรงค์ กล่าวว่าหลายบริษัทยอมจ่ายเงินเพื่ออยู่บนตึกสูงที่รายล้อมไปด้วยวิวทิวทัศน์ที่ประทับใจ ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องบังเอิญที่เมืองใน 5 อันดับแรกนี้เป็นเมืองศูนย์กลางธุรกิจชั้นนำของโลก

นอกจากนี้ยังมีเมืองที่มีตึกสูงและมีชื่อเสียงโด่งดังมากกว่าลอนดอนหรือฮ่องกงมากมาย ที่ถูกจัดอยู่ในอันดับต่ำกว่าดัชนีตึกระฟ้า

ข้อมูลตัวเลขเหล่านี้ถือเป็นสัญญาณเตือน และยังแสดงให้เห็นถึงความต้องการของพื้นที่และค่าเช่าในอาคารที่มีชื่อเสียงในลอนดอนที่จะยังคงที่ หากลอนดอน คงความเป็นเมืองศูนย์กลางทางการค้าระหว่างประเทศที่สำคัญที่สุด 5 อันดับแรก

http://www.bangkokbiznews.com

ชี้มูลค่าโครงการใหม่ ทั้งปี 60 คาดสูงถึง 4.4 แสนล.

ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัดได้สรุปภาพรวมของตลาดที่อยู่อาศัย ปี 2560 ว่า 9 เดือนแรกปีนี้ (มกราคม-กันยายน) เปรียบเทียบกับ 9 เดือนแรกปี 2559 มีจำนวนโครงการเปิดใหม่ 307 โครงการ (ลดลง -11%) จำนวนหน่วยขาย 88,758 หน่วย (เพิ่มขึ้นประมาณ 12%) มูลค่าโครงการรวม 317,955 ล้านบาท (เพิ่ม 18.7%) และมีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยเพิ่มจาก 3.423 ล้านบาท เป็น 3.582 ล้านบาท (6%) โดยกลุ่มที่อยู่อาศัยที่เปิดขายมากสุด คืออาคารชุดจำนวน 51,429 หน่วย (58%) รองลงมา คือ ทาวน์เฮาส์ 26,606 หน่วย (30%) และอันดับ 3 คือ บ้านเดี่ยว 7,105 หน่วย (8%)

ก.คลัง ดึงเงินฝากบัญชีไม่เคลื่อนไหวเข้ารัฐ

ตามที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง ได้ยกร่างร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การบริหารจัดการบัญชีเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวของสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นการดึงเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวของประชาชนมาให้กระทรวงการคลังดูแล ทำให้มีหลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นการเอาเปรียบประชาชนหรือไม่ โดย สศค. ได้ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมแล้วว่า การยกร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว เป็นการดูแลผลประโยชน์ของประชาชน เพื่อไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบในระบบสถาบันการเงิน เช่นเดียวกับในหลาย ๆ ประเทศ

กฎหมายใหม่ประชาชนได้ประโยชน์
ที่ผ่านมามีประชาชนส่วนหนึ่งที่มีเงินฝากทิ้งไว้ที่สถาบันการเงินโดยที่บัญชีไม่มีการเคลื่อนไหวเป็นเวลานาน ซึ่งจากการสำรวจพบว่า มีเงินในบัญชีเงินฝากที่ไม่เคลื่อนไหวกว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีทั้งผู้ฝากเงินที่ยังมีชีวิตอยู่แต่ลืมว่าเปิดบัญชีไว้และกลุ่มที่เสียชีวิตไปแล้ว โดยธนาคารแห่งประเทศไทย ได้มีการกำหนดแนวทางการบริหารจัดการบัญชีเงินฝากดังกล่าวไม่มีการเคลื่อนไหวเป็นระยะเวลานาน (Dormant Account) ออกเป็น 2 แนวทาง ได้แก่

1. กรณีเงินฝากมียอดเงินฝากคงเหลือน้อยกว่าขั้นต่ำที่ธนาคารกำหนด ธนาคารสามารถเรียกเก็บค่าบริการรักษาบัญชีเงินฝากได้ หากมียอดคงเหลือในบัญชีเงินฝากน้อยกว่าขั้นต่ำ ที่ธนาคารกำหนดซึ่งส่วนใหญ่ ธนาคารจะกำหนดยอดขั้นต่ำไว้ที่ 2,000 บาท และเก็บค่าบริการรักษาบัญชีจนกระทั่งเงินในบัญชีหมดไป
2. กรณีบัญชีเงินฝากที่ไม่เคลื่อนไหวมียอดเงินฝากคงเหลือสูงกว่าขั้นต่ำที่ธนาคารกำหนด ธนาคารไม่สามารถเรียกเก็บบริการรักษาบัญชีเงินฝากสำหรับเงินในส่วนนี้ได้ ทางธนาคารสามารถแยกเงินในบัญชีนี้ออกเป็นบัญชีที่ไม่มีการเคลื่อนไหว โดยต้องแจ้งยอดเงินฝากคงเหลือเป็นจดหมายลงทะเบียนหรือจดหมายรับรองให้ลูกค้าทราบ และหากลูกค้าหรือทายาทยังไม่ติดต่อกลับมายังธนาคารตามระยะเวลาที่กำหนด ธนาคารจะแยกเงินในบัญชีนี้ออกเป็นบัญชีที่ไม่มีการเคลื่อนไหว และที่ผ่านมาได้มีการใช้ประโยชน์จากเงินในส่วนนี้ ผ่านการรับรู้เงินในบัญชีดังกล่าวเป็นรายได้

กระทรวงการคลังจึงได้มีการยกร่าง พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าวขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบในระบบสถาบันการเงินที่รับฝากเงิน

ด้วยเหตุนี้ กระทรวงการคลังจึงได้มีการยกร่าง พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าวขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบในระบบสถาบันการเงินที่รับฝากเงิน โดยให้อำนาจกระทรวงการคลังเป็นผู้ดูแลเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวเกินกว่า 10 ปีขึ้นไปของประชาชนแทนสถาบันการเงิน เปิดโอกาสให้เจ้าของบัญชีนำหลักฐานมาขอคืนเงินได้ตลอดเวลาโดยไม่มีระยะเวลากำหนด โดยกระทรวงการคลังจะจัดทำระบบการค้นหาขอมูลออนไลน์เพื่อสืบค้นเงินฝากเพื่อให้ประชาชนเจ้าของบัญชีหรือทายาทตามกฎหมายสามารถสืบค้นและขอคืนเงินได้ต่อไป และในอนาคตหากไม่มีการขอคืนเงินส่วนนี้รัฐบาลก็จะบริหารจัดการนำไปใช้ด้านสาธารณะประโยชนต่อไป

เดินตามต่างประเทศ คืนเงิน-สาธารณประโยชน์
ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศเดียวที่ใช้กฎหมายลักษณะนี้ เพราะในต่างประเทศได้มีการดำเนินการเกี่ยวกับบัญชีเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกัน เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ ไอร์แลนด์ ญี่ปุ่น มาเลเซีย และสหรัฐอเมริกา โดยส่วนใหญ่จะนำเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวมาบริหารจัดการเพื่อนำเงินส่วนหนึ่งไปเพื่อสาธารณประโยชน์ และกันเงินสำรองอีกส่วนหนึ่งไว้เพื่อคืนเงินแก่ประชาชนที่มาขอเรียกเงินคืน

เปิดรับความคิดเห็นถึง 14 พ.ย.นี้
สำหรับประชาชน หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน สามารถร่วมแสดงความคิดเห็นต่อร่าง พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าว ผ่านทางโทรสาร 0-2618-3366 E-mail: fpo.hearing@gmail.com และ www.fpo.go.th ตั้งแต่วันนี้-14 พฤศจิกายน 2560 หลังจากนั้นจะนำเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี และเข้าสู่ขั้นตอนพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อออกมาบังคับใช้ต่อไปคาดว่าจะเป็นภายในปี 2561

http://www.ddproperty.com

สศค.คาดเศรษฐกิจปีนี้ขยายตัว 3.8%

“สศค.” คาดเศรษฐกิจปีนี้ขยายตัว 3.8% ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า ส่วนปีหน้าคาดศก.โต 3.8% ชี้มีการใช้จ่ายภาครัฐเป็นแรงขับเคลื่อน

นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง คาดว่า เศรษฐกิจปี 2560 จะขยายตัวร้อยละ 3.8 เร่งขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 3.2 และเป็นการขยายตัวดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ในครั้งก่อนหน้า โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนหลักจากการส่งออกสินค้าและบริการที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี ซึ่งเป็นไปตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยและจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มขยายตัวขึ้น

ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างชัดเจนช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะการลงทุนด้านเครื่องจักรเครื่องมือในหมวดยานยนต์ สะท้อนได้จากการปรับตัวเร่งขึ้นของยอดจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ไตรมาส 3 สอดคล้องกับการบริโภคภาคเอกชนที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องตามรายได้ครัวเรือนในภาคการเกษตรและภาคการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น สำหรับการบริโภคภาครัฐขยายตัวเร่งขึ้นจากปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการลงทุนภาครัฐมีแนวโน้มชะลอลงจากการเบิกจ่ายลงทุนภายใต้งบเพิ่มปี 2560 ที่ค่อนข้างเป็นไปอย่างล่าช้า แต่คาดว่าจะสามารถทยอยเบิกจ่ายและเป็นแรงสนับสนุนเศรษฐกิจปีถัดไป สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2560 จะอยู่ที่ร้อยละ 0.7 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าตามการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศและแนวโน้มต้นทุนจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่มีทิศทางเพิ่มขึ้น

สำหรับเศรษฐกิจปี 2561 สศค.คาดว่ามีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องร้อยละ 3.8 โดยมีการใช้จ่ายภาครัฐเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญตามกรอบรายจ่ายลงทุนภาครัฐประจำปีงบประมาณ 2561 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ การลงทุนภาครัฐที่เพิ่มขึ้นและความชัดเจนเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้งยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนในประเทศมากขึ้น สำหรับอุปสงค์ภายนอกประเทศ คาดว่าเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าของไทยมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า ซึ่งจะกระทบต่อการส่งออกสินค้าและบริการของไทยอันเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ด้านเสถียรภาพภายในประเทศ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2561 จะอยู่ที่ร้อยละ 1.4 ปรับตัวสูงขึ้นจากปีนี้ ตามการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศและราคาพลังงานที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ทั้งนี้ การที่ประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2560 และ 2561 ขยายตัวเท่ากันนั้น เนื่องจากคาดว่าการส่งออกปี 2561 จะขยายตัวร้อยละ 3.59 น้อยกว่าปี 2560 ที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.72 จากเศรษฐกิจโลกที่มีความเสี่ยงจากการดำเนินนโยบายของสหรัฐที่ยังไม่ชัดเจน การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกทั้งในสหรัฐและยุโรป รวมถึงการแยกตัวของประเทศในสหภาพยุโรป (อียู) จึงส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยปีหน้า

http://www.bangkokbiznews.com

ไอซ์แลนด์โชว์ไอเดียเก๋สร้างทางม้าลายแบบ 3 มิติ หวังลดอุบัติเหตุ

แม้ว่าทางม้าลายจะเป็นสัญลักษณ์การจราจรสากลที่ทุกคนทราบดีว่ามีไว้ให้ผู้ขับขี่รถยนต์ต้องชะลอรถเพื่อให้คนข้ามถนน แต่จากผลวิจัยที่ผ่านมานั้น พบว่า 75% ของผู้ขับขี่มักจะไม่ปฏิบัติตามสัญลักษณ์ดังกล่าว ซึ่งเมือง อีซาร์จอร์ดูร์ ในไอซ์แลนด์ก็เป็นอีกเมืองที่ผุดไอเดียแก้ปัญหานี้ด้วยการสร้างทางม้าลายแบบ 3 มิติ ที่ให้ผู้ขับขี่ได้เห็นทางม้าลายนูนขึ้นมาจากผิวถนนจริง ๆ เพื่อให้ผู้ขับขี่หันมาชะลอรถให้ช้าลงและลดอุบัติเหตุบนท้องถนนให้น้อยลง

ทั้งนี้ แนวคิดดังกล่าวมาจาก Ralf Trylla เจ้าหน้าที่ด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยนำทางม้าลาย 3 มิติไปใช้ในเมือง นิวเดลี ในอินเดีย และ ไถ่โจว ประเทศจีนมาแล้ว โดยร่วมมือกับ Vegmálun GÍH บริษัทผู้เชี่ยวชาญทางด้าน street painting ในการสร้างทางม้าลายจากภาพลวงตา พร้อมกับได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีโดยเฉพาะผู้ขับขี่ในประเทศจีน

สำหรับ เทคโนโลยีนี้ก็ได้รับความสนใจจากหลายประเทศ และคาดว่าจะถูกผลักดันมาใช้อย่างกว้างขวางตามหัวเมืองต่าง ๆ เร็ว ๆ นี้ โดยแนวคิดดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ให้ลดอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เกิดจากการใช้ความเร็วเกินกำหนดนั่นเอง

https://www.beartai.com

ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 31/10/2560​

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง	ราคารับซื้อต่อกรัม	ราคารับซื้อ/บาท	ราคาขายออก/บาท
ทองคำแท่ง 96.5%	n/a	20,000.00	20,100.00
ทองรูปพรรณ 96.5%	1,296.00	19,647.36	20,600.00
ทองรูปพรรณ 90%	1,162.80	17,628.05	n/a
ทองรูปพรรณ 50%	583.00	8,838.28	n/a
ทองรูปพรรณ 40%	454.00	6,882.64	n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%	1,343.00	20,359.88	n/a

ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  31/10/2560

ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ หน่วย : บาท/ลิตร
	ปตท PTT	บางจาก BCP	เชลล์ Shell	เอสโซ่ Esso	คาลเท็กซ์ Caltex	ไออาร์พีซี IRPC	พีทีจี เอนเนอยี่ PTG	ซัสโก้ Susco	ระยองเพียว Pure	ซัสโก้ ดีลเลอร์ SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95	27.05	27.05	–	27.05	27.05	27.05	27.05	27.05	27.05	27.05
แก๊สโซฮอล E-20	24.54	24.54	24.54	24.54	24.54	–	24.54	24.54	24.54	24.54
แก๊สโซฮอล E-85	20.04	20.04	–	–	–	–	–	20.04	20.04	–
แก๊สโซฮอล 91	26.78	26.78	26.78	26.78	26.78	26.78	26.78	26.78	26.78	26.78
เบนซิน 95	34.16	–	–	–	34.16	–	34.66	34.66	34.66	34.66
ดีเซลหมุนเร็ว	25.79	25.79	25.79	25.79	25.79	25.79	25.79	25.79	25.79	25.79
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม	28.79	29.47	29.47	29.47	29.47	–	–	–	–	–
มีผลตั้งแต่	12 Oct 05:00	12 Oct 05:00	12 Oct 05:00	12 Oct 05:00	12 Oct 05:00	12 Oct 05:00	12 Oct 05:00	12 Oct 05:00	12 Oct 05:00	12 Oct 05:00