ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง |
ราคารับซื้อต่อกรัม |
ราคารับซื้อ/บาท |
ราคาขายออก/บาท |
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 19,750.00 | 19,850.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,279.00 | 19,389.64 | 20,350.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,151.10 | 17,450.68 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 576.00 | 8,732.16 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 448.00 | 6,791.68 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,325.00 | 20,087.00 | n/a |
ธุรกิจรับสร้างบ้าน เติบโตจากปีก่อนประมาณ 8-10%
คาดว่าตลาดรวมทั่วประเทศของกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้าน มีมูลค่าประมาณ 1.5-1.6 หมื่นล้านบาท เติบโตจากปีก่อนประมาณ 8-10%
สมาคมไทยรับสร้างบ้าน (Thai Home Builders Association:THBA) มองภาพรวมเศรษฐกิจประเทศปี 2561 เป็นไปในทิศทางบวกเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา สะท้อนได้จากความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการของภาคธุรกิจ ผู้บริโภค และประชาชนทั่วไป ที่มีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและสถานการณ์ทางการเมืองในอนาคต ภายหลังจากที่รัฐบาลคสช.ส่งสัญญาณว่าจะมีการเลือกตั้งช่วงปลายปีนี้หรืออย่างช้าต้นปีหน้า ทั้งนี้ในหลาย ๆ กลุ่มธุรกิจพบว่ามีการขยายและปรับตัวดีขึ้น อาทิเช่น กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว กลุ่มธุรกิจส่งออก ฯลฯ ยกเว้นบางกลุ่มธุรกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว ได้แก่ ภาคการเกษตรและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง กลุ่มค้าส่งและค้าปลีกในภูมิภาค สะท้อนได้จากกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ที่ยอดขายยังไม่ฟื้นตัวและเงินหมุนเวียนในธุรกิจฝืด ดังนั้น ทุกรายจึงต้องหันมาเร่งปรับตัวเพื่อลดต้นทุนและลดภาระค่าใช้จ่าย รวมทั้งหาช่องทางขยายตลาดใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น
นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน เผยว่า ปริมาณและมูลค่าบ้านสร้างเอง ภายหลังผ่าน 2 เดือนแรกศักราชใหม่ปี 2561 สมาคมฯ มองเห็นสัญญาณความต้องการสร้างบ้านหลังใหม่ของผู้บริโภคและประชาชน สามารถขยายตัวได้ดีกว่าปีที่แล้ว โดยจากการสอบถามผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งในต่างจังหวัด และผู้ประกอบการสร้างบ้านในท้องถิ่น (ต่างจังหวัด) ส่วนใหญ่ระบุตรงกันว่า ผู้บริโภคที่สนใจและติดต่อเรื่องการสร้างบ้านมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับจากไตรมาส 4 ปีที่แล้ว โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการขอสินเชื่อสร้างบ้านในปีนี้เริ่มกลับมาขยายตัวอีกครั้ง โดยสมาคมฯ ประเมิน 5 ปัจจัยบวกที่จะกระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจสร้างบ้านในปีนี้ ประกอบด้วย 1.ผู้บริโภคมีความมั่นใจมากขึ้นต่อทิศทางเศรษฐกิจและการเมืองในอนาคต 2.แรงกระตุ้นจากอัตราดอกเบี้ยต่ำของธนาคาร ที่แข่งขันกันให้กู้ยืมเพื่อปลูกสร้างบ้านในปีนี้ 3.ความต้องการที่อยู่อาศัยและกำลังซื้อที่อั้นมาระยะหนึ่ง โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคที่มีที่ดินเป็นของตัวเองอยู่แล้ว เริ่มกล้าที่จะลงทุนและใช้จ่ายเรื่องบ้านมากขึ้น 4.ผลของกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่ที่จะประกาศใช้บังคับ ทำให้ประชาชนตื่นตัวและนำที่ดินที่ทิ้งไว้ว่างเปล่ามาใช้ประโยชน์ และ 5.ผลจากราคาบ้านเดี่ยวที่สูงขึ้นและภาระค่าใช้จ่ายส่วนกลางโครงการบ้านจัดสรร ทำให้ผู้บริโภคกลุ่มหนึ่งเปลี่ยนใจมาซื้อที่ดินเปล่าและปลูกสร้างบ้านเอง
สำหรับ ภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านในปีนี้ โอกาสขยายและเติบโตน่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกับปริมาณบ้านสร้างเอง โดยคาดว่าตลาดรวมทั่วประเทศของกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านมีมูลค่าประมาณ 1.5-1.6 หมื่นล้านบาท เติบโตจากปีก่อนประมาณ 8-10% อย่างไรก็ตาม สมาคมฯ พบว่าการเข้ามาของผู้ประกอบการรายใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การแข่งขันในธุรกิจรับสร้างบ้านทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อโลกออนไลน์ช่วยให้ผู้บริโภคค้นหาข้อมูลได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น และผู้ประกอบการสื่อสารกันได้สะดวกขึ้น ผู้ประกอบการจึงควรหาทางเร่งปรับตัว เพื่อลดต้นทุนในภาวะที่ธุรกิจมีการแข่งขันสูง รวมทั้งมุ่งตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคยุคเศรษฐกิจ 4.0 ที่เน้นความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลของผู้ประกอบการ ก่อนจะตัดสินใจเลือกผู้ประกอบการที่ตรงใจ
นายสิทธิพร กล่าวเสริม เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเครื่องมือสื่อสารออนไลน์ ทั้งคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่อย่างสมาร์ทโฟน กลายเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคใช้ค้นหาผลิตภัณฑ์และบริการ แทนสื่อออฟไลน์หรือสื่อสิ่งพิมพ์ไปแล้ว ดังนั้นจึงเป็นที่มาและแนวคิดใหม่ของสมาคมฯ และสมาชิกในการขับเคลื่อนธุรกิจรับสร้างบ้านให้เป็นที่รับรู้ในวงกว้างของผู้บริโภค โดยร่วมมือกับ นิตยสารและเว็บไซต์โฮมแอนด์รีสอร์ต ริเริ่มจัดงานอีเวนท์ออนไลน์ขึ้นในปี 2561 นี้ภายใต้ชื่องาน “บ้านและวัสดุออนไลน์ 2561” สำหรับวัตถุประสงค์และเป้าหมายของการจัดงานครั้งนี้ ก็เพื่อปรับตัวรับกับสถานการณ์และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป รวมทั้งเพื่อประโยชน์ของทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ภายใต้กรอบแนวคิดคือ
ประการแรก เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั่วประเทศ ที่สนใจเรื่องบ้านหรือที่อยู่อาศัยและวัสดุก่อสร้าง ในการจะเข้าถึงข้อมูลของผู้ประกอบการรับสร้างบ้านและวัสดุก่อสร้าง ผ่านเครื่องมือสื่อสารออนไลน์เสมือนว่าได้เข้าชมงานแสดงสินค้าจริง ๆ โดยไม่ต้องเสียเวลา เสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดยเฉพาะผู้บริโภคที่อยู่ต่างจังหวัด ซึ่งในงานฯ ออนไลน์ครั้งแรกนี้ จะมีผู้ประกอบการเข้าร่วมออกบูธนับ 100 ราย พร้อมจัดกิจกรรมการตลาดหรือขนโปรโมชันเด็ด ๆ ทั้ง ลด แจก แถม กันอย่างคึกคักเฉพาะในงานฯ เท่านั้น ประการถัดมา ถือเป็นการเปิดตลาดใหม่ ๆ ให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ที่เป็นผู้ผลิตและผู้จำหน่าย ซึ่งจะได้พบกำลังซื้อผู้บริโภคใหม่ ๆ จากทั่วประเทศโดยตรง จากเดิมที่อาจต้องพึ่งพาผู้แทนจำหน่ายหรือโมเดิร์นเทรด ในการขยายตลาดต่างจังหวัดทั่วประเทศ ทั้งนี้ผู้ประกอบการจะได้พบทั้งผู้บริโภคที่เป็นเจ้าของบ้านและกลุ่มผู้ประกอบการรับสร้างบ้าน เจ้าของโครงการที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัด ที่จะเข้ามาเลือกซื้อเลือกช็อป เพื่อนำไปใช้กับการสร้างบ้าน ซ่อมบ้าน ต่อเติมบ้าน เป็นต้น ประการสุดท้าย เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้สู่ผู้บริโภคในวงกว้างทั่วประเทศ ทั้งในส่วนของธุรกิจรับสร้างบ้าน วัสดุก่อสร้าง เครื่องมือก่อสร้าง และธนาคารผู้ให้บริการสินเชื่อที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะผู้บริโภคที่ต้องการผู้ประกอบการที่เป็นมืออาชีพ และวัสดุอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูงในราคายุติธรรม รวมถึงความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสินเชื่อสร้างบ้าน ซื้อบ้านและที่อยู่อาศัย จากธนาคารชั้นนำและเจ้าของแบรนด์หรือตัวแทนโดยตรง
นายสิทธิพร กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า งานฯ นี้สมาคมฯ ตั้งเป้าจะมีจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชม www.thaionlinefair.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์จัดงาน “บ้านและวัสดุออนไลน์แฟร์ 2561” วันละ 3 – 5 หมื่นรายหรือประมาณ 4-5 แสนราย ตลอดระยะเวลาของการจัดงาน 11 วัน ในระหว่างวันที่ 10 – 20 มีนาคม 2561 โดยภายในงานฯ จะมีผู้ประกอบการรับสร้างบ้านและวัสดุเข้าร่วมออกบูธประมาณ 100 ราย ปัจจุบันมีผู้ประกอบการตอบตกลงเข้าร่วมออกบูธแล้วกว่า 70-80% สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมงานฯ สามารถติดต่อและจองบูธออนไลน์ได้จนถึงวันจัดงานฯ และนี่คือจุดเด่นของการจัดงานอีเวนท์ออนไลน์ ที่ตัดสินใจใกล้ถึงวันจัดงานฯ ก็ได้ เพราะบูธไม่ต้องมีการก่อสร้างใด ๆ
นอกจากนี้ ในช่วงระหว่างวันที่ 10-20 มีนาคม 2561 นิตยสารและเว็บไซต์โฮมแอนด์รีสอร์ต ในฐานะผู้บริหารเว็บไซต์จัดงานแสดงสินค้าออนไลน์ ยังได้จัดงาน “โฮมแอนด์รีสอร์ตออนไลน์แฟร์ 2561” ขึ้นพร้อมกันอีกหนึ่งงานฯ ภายใต้คอนเซปต์ “VITAMIN SEA” หรือ “เพราะร่างกายต้องการทะเล” อันเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนภาคธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศไทย ให้คึกคักยิ่งขึ้นตามนโยบายภาครัฐอีกด้วย
http://www.bangkokbiznews.co
อาคาร สนง. กรุงเทพฯ ส่อเค้าขาดแคลน
อาคารสำนักงานถือเป็นอสังหาริมทรัพย์อีกรูปแบบหนึ่งที่ปัจจุบันส่อเค้าขาดแคลนโดยเฉพาะอาคารสำนักงานเกรดเอในทำเลใจกลางเมือง แม้ว่าค่าเช่าอาคารสำนักงานเหล่านี้จะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจัยที่ผลักดันให้บริษัทหลายๆ บริษัทต้องย้ายออฟฟิศ คืออาคารเดิมมีพื้นที่ไม่เพียงพอรองรับการเติบโตของบริษัทได้ จากข้อมูลของศูนย์บริการข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ไทยของเจแอลแอลพบว่า อาคารสำนักงานเกรดเอเหลือพื้นที่ว่างเพียง 6.3%
อาคารสำนักงานขาดแคลนยาวถึงปี 65
กรุงเทพฯ มีอาคารสำนักงาน รวมพื้นที่ประมาณ 8.9 ล้านตารางเมตร ในจำนวนนี้เป็นอาคารเกรดเอประมาณ 3.2 ล้านตารางเมตร ซึ่งมีพื้นที่ว่างเหลือเช่าเพียงประมาณ 6.3% หรือประมาณ 200,000 ตารางเมตร โดยพื้นที่ว่างเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ขนาดเล็กซึ่งกระจายอยู่ตามชั้นต่าง ๆ ของอาคาร ในขณะที่พื้นที่ต่อเนื่องขนาดใหญ่ในชั้นเดียวกันส่วนใหญ่มีผู้เช่าเต็มแล้ว และมักมีผู้เช่ารายใหม่เข้ามาเช่าต่อทันทีที่ผู้เช่ารายเดิมย้ายออก ดังนั้น การเช่าหรือขยายออฟฟิศในอาคารสำนักงานเกรดเอที่มีอยู่ในปัจจุบันจึงกลายเป็นเรื่องที่ยากมากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับบริษัทหรือองค์กรขนาดใหญ่
สถานการณ์เช่นนี้จะดำเนินต่อไปอีกอย่างน้อยจนถึงปี 2565 ซึ่งเป็นปีที่ทั่วกรุงเทพฯ จะมีอาคารสำนักงานใหม่สร้างเสร็จเพิ่มกว่า 451,000 ตารางเมตร แต่ในระหว่างปี 2561-2564 มีอาคารสำนักงานใหม่กำหนดสร้างเสร็จทั่วกรุงเทพฯ คิดเป็นพื้นที่ให้เช่ารวมกันทั้งสิ้นเพียง 554,000 ตารางเมตร หรือเฉลี่ยประมาณ 185,000 ตารางเมตร/ปี
ผู้เช่าปรับตัว เพิ่มการใช้ประโยชน์พื้นที่-หาทำเลรอง
ส่วนบริษัทผู้เช่าที่จำเป็นต้องเพิ่มจำนวนพนักงาน แต่ยังไม่พร้อมที่จะย้ายออฟฟิศไปยังอาคารอื่นได้ จึงต้องปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์พื้นที่ให้ได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น อาทิ การลดขนาดโต๊ะที่นั่งของพนักงาน ออกแบบให้มี hot desk ลดการกั้นห้องหรือกั้นที่นั่ง และใช้บริการจัดเก็บเครื่องใช้หรือเอกสารข้างนอก นอกจากนี้ยังมีบริษัทผู้เช่าบางส่วนที่ย้ายไปยังอาคารที่มีคุณภาพรอง หรือมีที่ตั้งอยู่ในทำเลชั้นรอง ซึ่งหลายอาคารจะยังพอมีพื้นที่ว่างเหลือรองรับผู้เช่ารายใหญ่ได้และมีค่าเช่าถูกกว่า
ผู้เช่าอาคารสำนักงานเน้นใกล้รถไฟฟ้า และสิ่งอำนวยความสะดวกเป็นหลัก
ผู้เช่าเน้นใกล้รถไฟฟ้า-สิ่งอำนวยความสะดวก
เกณฑ์การคัดเลือกอาคารของบริษัทผู้เช่าส่วนใหญ่จะเลือกอาคารที่มีคุณภาพดีและมีรูปลักษณ์ทันสมัยซึ่งสอดคล้องหรือสามารถยกระดับภาพลักษณ์องค์กรของบริษัทผู้เช่าได้ ภายในอาคารมีสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ฟู้ดคอร์ท ร้านจำหน่ายอาหาร-เครื่องดื่ม และธนาคาร ตั้งอยู่ในย่านที่มีสถานที่ให้พนักงานได้กิน เที่ยว และพักผ่อนหย่อนใจหลังเลิกงาน และที่สำคัญที่สุดคือใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสและรถไฟฟ้าใต้ดิน
ค้นหาข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับเรื่อง “เช่า” ได้ที่นี่
ทั้งนี้ ตัวอย่างอาคารสำนักงานเกรดเอที่ประสบความสำเร็จสูงในการดึงดูดผู้เช่าที่เป็นบริษัทชั้นนำทั้งของไทยและต่างชาติ มียอดการเช่าพื้นที่และค่าเช่าสูง แม้ไม่ได้ตั้งอยู่ในทำเลศูนย์กลางธุรกิจ หรือซีบีดีของกรุงเทพฯ ได้แก่ อาคารเอไอเอ แคปปิตอล เซ็นเตอร์ อาคารจีทาวเวอร์ และอาคารเดอะไนน์ ทาวเวอร์ส ที่ตั้งอยู่ในย่านพระราม 9-รัชดาภิเษก รวมถึงอาคารที-วัน ที่ตั้งอยู่ในย่านทองหล่อ
https://www.ddproperty.com
‘สมคิด’ มั่นใจเศรษฐกิจปีนี้ขยายตัวมากกว่า 4.1%
“สมคิด” ชี้เศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดแล้ว มั่นใจ “จีดีพี” ปีนี้ขยายตัวมากกว่า 4.1% แน่นอน
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้เศรษฐกิจไทยได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้ว สะท้อนจากล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจไทยในปี 2560 ที่ 3.9% พร้อมคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2561 ที่ 3.6-4.6% ขณะที่ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ได้ประกาศตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือนมกราคมที่ผ่านมา เติบโต 17.6% สูงสุดในรอบ 62 เดือน และเชื่อว่าการที่รัฐบาลพยายามสนับสนุนดิจิทัลเพื่อการเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้ จะเป็นแรงกระตุ้นให้เศรษฐกิจไทยปีนี้สามารถขยายตัวได้มากกว่า 4.1% อย่างแน่นอน
“ตัวเลขเหล่านี้จะทะยานพุ่งไปข้างหน้าเพราะเป็นก้าวสู่ดิจิทัล ช่วงเวลา 3-4ปีนี้มันคือโอกาสของประเทศ ในขณะเดียวกันอาเซียนคือบ่อทอง ไทยคือศูนย์กลางที่แท้จริงของโอกาส เพราะเรามีโอกาสที่ดีในจุดที่เหมาะสม สามารถเคลื่อนไปข้างหน้า ตอนนี้แม้ทุกอย่างยังไม่สมบูรณ์เพราะรากหญ้ายังไม่แข็ง เพาาาะโครงสร้างเกษตรมันล้าสมัยมาก ต้องใช้เทคโนเข้าไปช่วย จังหวะนี้เราต้องใช้โอกาสอย่างสูงสุด ยุคนี้คือรุ่งอรุณของการปฎิวัติอุตสาหกรรมใหม่ ด้วยการใช้ดิจิทัลเป็นตัวผลักดัน ทำให้พฤติกรรมของชีวิตเปลี่ยนไปเลย” นายสมคิด กล่าว
http://www.bangkokbiznews.com
‘SCB EIC’ คาดส่งออกปีนี้โต 5% ห่วงบาทแข็ง
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ คาดส่งออกปีนี้โต 5% ห่วงเงินบาทแข็งค่า สั่งจับตานโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) คาดมูลค่าการส่งออกทั้งปี 61 จะขยายตัวที่ 5.0% ตามแนวโน้มการเติบโตของภาคการผลิตโลก ประกอบกับราคาน้ำมันและสินค้าเกษตรบางรายการที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ขณะที่มูลค่าการนำเข้าจะขยายตัวที่ 7.5% โดยเติบโตตามความต้องการสินค้าวัตถุดิบและสินค้าทุน ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวตามการลงทุนในประเทศที่คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้น ประกอบกับการนำเข้าสินค้าเชื้อเพลิงที่มีแนวโน้มดีขึ้นตามราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี เงินบาทที่ยังมีแนวโน้มแข็งค่าอยู่ที่ราว 31.00-31.50 บาท/ดอลลาร์ในช่วงนี้ อาจกระทบต่อรายได้ในรูปเงินบาทของผู้ส่งออกไทย ขณะที่ดัชนีค่าเงินบาท (NEER) ในเดือนมกราคมที่แข็งค่าขึ้นกว่า 5.4%YOY ก็สะท้อนถึงความสามารถในการแข่งขันด้านอัตราแลกเปลี่ยนของไทยที่ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศคู่ค้า นอกจากนี้ นโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ก็กลับมาเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการส่งออกไทยอีกครั้ง โดยเมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์ได้อนุมัติมาตรการ safeguard เก็บภาษีการนำเข้าเครื่องซักผ้าและแผงโซล่าร์ ซึ่ง SCB EIC ประเมินว่ามาตรการดังกล่าวจะกระทบต่อส่งออกไทยเป็นสัดส่วนราว 0.2% ของการส่งออกทั้งหมด
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ แถลงว่า มูลค่าการส่งออกไทยเดือน ม.ค.ขยายตัวสูงกว่า 17.6%YOY โดยเติบโตดีในเกือบทุกตลาดส่งออกสำคัญและหมวดสินค้า นำโดยการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน อาทิ เคมีภัณฑ์และพลาสติก น้ำมันสำเร็จรูป ที่เติบโต 28%YOY และ 26%YOY ตามลำดับ ด้านการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมหลักยังคงเติบโตสอดคล้องกับภาคการผลิตของโลก เช่น คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์, รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ที่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องที่ 26%YOY และ 18%YOY ตามลำดับ ขณะเดียวกันราคาส่งออกสินค้าเกษตร ได้แก่ ข้าว และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่ฟื้นตัว ส่งผลให้การส่งออกสินค้าดังกล่าวเติบโตที่ 37%YOY และ 42%YOY ตามลำดับ
ขณะที่มูลค่าการนำเข้าเติบโตต่อเนื่องที่ 24.3%YOY จากการนำเข้าสินค้าในกลุ่มสินค้าเชื้อเพลิงที่เติบโตกว่า 48%YOY ตามราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ด้านการนำเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ยังขยายตัวกว่า 31%YOY ตามแนวโน้มการส่งออกที่เพิ่มขึ้นในสินค้ากลุ่มดังกล่าว ขณะที่สินค้าทุนเติบโตกว่า 34%YOY สะท้อนการลงทุนในประเทศที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
http://www.bangkokbiznews.com
10 ความรู้สึกบนฐานเกี่ยวเนื่องกับ ‘เวลา’ และคำตอบทางจิตวิทยาที่อธิบายให้กระจ่าง
การควบคุมกาลเวลานั้นคงเป็นพลังพิเศษในความฝันของใครหลายๆ คน เพราะจะได้ย้อนเวลาไปแก้อดีต หรือหยุดเวลาเพื่อทำอะไรให้มันสนองความต้องการ แต่พวกเราเองก็รู้ดีนั่นเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยาก หรือแทบจะเป็นไม่ได้เลย
ในขณะที่พวกเราได้แต่รอให้นักวิทยาศาสตร์ค้นพบวิธีการท่องเวลาและควบคุมเวลา ปัจจุบัน นักจิตวิทยาได้ออกมาเผยถึงข้อมูลที่จะทำให้รู้เท่าทัน “ความเร็วของเวลา” ราวกับจะสามารถควบคุมเวลาได้เลยทีเดียว แล้วข้อมูลที่ว่านั้นจะมีอะไรบ้างไปดูพร้อมกันเลยดีกว่า
1. เวลาเดินช้าลงเมื่อเรารู้สึกเบื่อ
ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะเวลาที่เราทำกิจกรรมที่แสนน่าเบื่อ มันทำให้สมองเราเบนความสนใจจากกิจกรรมนั้นๆ มาอยู่ที่ตัวเอง ทำให้เรารับรู้ถึงสิ่งรอบตัวมากเกินไป นั่นจึงทำให้การรับรู้เวลาของเรานานขึ้นด้วยนั่นเอง ตรงกันข้าม หากเรากำลังทำกิจกรรมที่สนุกหรือน่าสนใจล่ะก็ สมองเราจะมุ่งสนใจไปยังกิจกรรมนั้นๆ แทน ทำให้เรารับรู้ถึงเวลาได้น้อย จึงรู้สึกเหมือนเวลาผ่านไปเร็ว
2. เวลาเดินช้าลงเมื่อต้องพบเจอกับความไม่แน่นอน
เคยไหมเมื่อเราจะต้องออกไปทำงานในอีก 10 นาที แต่เรากลับเพิ่งตื่น ต่อให้เราเร่งรีบแค่ไหนมันก็ยังจะรู้สึกว่า ทำไม 10 นาทีมันช่างผ่านไปรวดเร็วเสียเหลือเกิน แต่ถ้าหากว่าคุณกำลังรอลุ้นผลการตรวจครรภ์ที่จะปรากฏออกมาใน 10 นาทีล่ะก็ คุณจะรู้สึกว่าเป็น 10 นาทีที่นานเหลือเกิน
นั่นเป็นเพราะว่าเมื่อคุณไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต คุณจะคิดมาก และรับรู้รายละเอียดรอบตัวได้มาก สมองจึงรับรู้เวลาอยู่ตลอด และทำให้รู้สึกว่าเวลานานขึ้นนั่นเอง
3. เวลาเดินช้าจนแทบจะไม่เดินเลย หากเราจ้องมองแต่นาฬิกา
อาการดังกล่าวเขาเรียกกว่า “Stopped Clock Illusion” ในขณะที่เข็มนาฬิกากระดิกไปเรื่อยๆ หากเรามองมันตลอดมันจะรู้สึกถึงเวลาที่ยาวนานขึ้นนิดหน่อย และที่ยิ่งกว่านั้นก็คือ ขณะที่เรากำลังมองนาฬิกาสติของเราจะหลุดคิดเรื่องอื่นเสมอ สมองจึงต้องหลอกเราว่าที่จริงเราดูนาฬิอยู่ตลอดซึ่งทำให้เหมือนกับนาฬิกาแทบไม่ได้เดินไปเลย นี่เองที่ทำให้เรารู้สึกเวลามันผ่านไปช้าลงมากขึ้น
4. เวลาเดินช้าลงเมื่อเราจดจ่ออยู่กับตัวเอง
ขึ้นไปแสดงบทเวที 20 นาทีอาจจะรู้สึกว่านานเท่าๆ กับการเดินกลับบ้าน 1 ชั่วโมงเลยก็ได้ เพราะว่าเมื่อเราทำสิ่งใดที่เคยทำซ้ำๆ เป็นกิจวัตร เรามักจะคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย และไม่เพ่งสมาธิมาที่ความเป็นจริง แต่เมื่อไรก็ตามที่ เราต้องทำอะไรต่อหน้าคนหมู่มาก เช่น ขึ้นไปร้องเพลงบนเวที เราจะกังวลว่าเราจะเป็นอย่างไรในสายตาผู้อื่น
นั่นทำให้สมองเราเกิดการเพ่งความสนใจมาที่ตัวเราเอง ซึ่งจะทำให้เรารับรู้ถึงรายละเอียดรอบตัวได้มากขึ้นในขณะนั้น เมื่อเรามุ่งเน้นสิ่งต่างๆ รอบตัว จะทำให้เวลานั้นเดินช้าลง และทำให้เราจดจำสิ่งที่เกิดขึ้นได้ดีอีกด้วย
5. เวลาเดินช้าลงเมื่อเรากลัวหรือรู้สึกเป็นอันตราย
ที่เป็นแบบนี้เพราะว่าเมื่อเราอยู่ในสถานการณ์ที่น่ากลัวหรือรู้สึกอันตราย สมองจะรับข้อมูลจำนวนมากในเวลานั้น และคิดหาทางที่จะทำให้เอาชีวิตรอดในสถานการณ์นั้นๆ ให้ได้ เมื่อเรารับรู้สิ่งรอบตัวอย่างละเอียด เราจะรู้สึกว่าเวลาเดินช้าลง แต่อาการนี้จะหายไปเมื่อเรากลับเข้าสู่สภาวะปกติ
6. เวลาเดินช้าลงเมื่อเรากำลังรอคอย
ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่า ขณะที่เรากำลังรอคอยอะไรบางอย่างสมองของเราจะไม่คิดเรื่องอื่นนอกจากสิ่งที่เรากำลังรอคอย จึงทำให้เรารู้สึกถึงสิ่งรอบข้างได้ง่าย รวมไปถึงเวลาด้วย เราจึงรู้สึว่าเวลาช้าลงนั่นเอง
7. เวลายาวนานขึ้นเสมอเมื่อเราพบเจอกับสิ่งแปลกใหม่
เช่นเวลาเรารู้สึกว่าถนนที่เราเพิ่งเคยไปครั้งแรกมันไกล แต่พอขากลับดันรู้สึกว่าใกล้ขึ้นเสียอย่างนั้น นั่นเป็นเพราะว่าเมื่อครั้งแรกที่เราเดินทางบนถนนเส้นนี้เราไม่รู้ว่าจะพบเจอกับอะไรข้างหน้า
ดังนั้นเมื่อเราเห็นสิ่งใหม่ๆ สมองเราจะรับรู้และใช้เวลามากในการประมวลข้อมูลและส่งมาให้เราสามารถเข้าใจได้ ยิ่งข้อมูลเยอะ ยิ่งใช้เวลาประมวลผลมาก ก็จะยิ่งรู้สึกว่าเวลาเดินช้าลง แต่เมื่อข้อมูลถูกนำขึ้นมาประมวลเป็นครั้งที่สอง ซึ่งสมองเราเริ่มคุ้นเคยกับมันแล้วจึงทำให้ประมวลได้เร็วขึ้น
8. เวลาเดินเร็วขึ้นเมื่อเรากำลังรีบร้อน
ยกตัวอย่างเช่นเวลา 3 วันในการอ่านหนังสือสอบ จะเร็วกว่าเวลา 3 วันในการรอคอยผลสอบ นั่นเป็นเพราะว่าเมื่อเรามีเวลา 3 วันในการเตรียมตัวสอบ มันทำให้เรารู้สึกว่าต้องการที่จะอ่านหนังสือให้เสร็จให้ทันเวลา แปลว่าสมองของเราจะเพ่งความสนใจไปในการกระทำสิ่งเดียวให้สำเร็จลุล่วง จนไม่รับรู้ข้อมูลรอบตัว จึงทำให้เวลานั้นผ่านไปรวดเร็วอย่างไม่ทันสังเกต
9. เวลาเดินเร็วขึ้นเมื่อเราทำกิจกรรมเดิมๆ ทุกวัน
เมื่อเราได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยเจอในกิจวัตรประจำวัน สมองเราจะทำการประมวลข้อมูลใหม่เสมอๆ เช่น ที่ท่องเที่ยวใหม่ ภาพทิวทัศน์ใหม่ๆ ผู้คนใหม่ๆ หรืออาหารใหม่ๆ เป็นต้น
เมื่อสมองเราทำการประมวลข้อมูลใหม่ๆ เหล่านี้ จะทำสมองรับรู้ว่าเวลานั้นเดินช้ากว่าความเป็นจริง และแน่นอนว่าเมื่อไหร่ที่เราคุ้นชินกับกิจกรรมหรือข้อมูลใหม่ๆ เหล่านั้นแล้ว เราก็จะรู้สึกว่าเวลาเร็วขึ้นกว่าเดิม
10. เวลาเดินเร็วขึ้นเมื่อเรามีอายุมากขึ้น
หนึ่งวันสำหรับเด็กๆ นั้นแสนยาวนาน แต่หนึ่งสัปดาห์สำหรับผู้ใหญ่อาจจะรวดเร็วเพียงพริบตา เคยสังเกตกันไหมว่าความทรงจำครั้งเยาว์วัยนั้นเราจะสามารถจำมันได้ดี ในขณะที่สิ่งต่างๆ ที่เพิ่งเกิดขึ้นไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเรากลับจำไม่ได้
ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าเมื่อเราโตขึ้น สมองของเราไม่ได้รับข้อมูลใหม่ๆ อย่างที่เคยได้รับแบบตอนเด็กๆ อีกแล้ว เมื่อครั้งเรายังเด็ก ทุกสิ่งดูใหม่สำหรับเราไปหมด ตรงกับทุกข้อที่กล่าวไปแล้วว่าเมื่อเราพบกับประสบการณ์ใหม่ๆ สมองเราจะทำการประมวลข้อมูลและรับรู้เวลาที่ยาวนานยิ่งขึ้นนั่นเอง
ดังนั้นเมื่อเรารู้เช่นนี้แล้ว หากคุณกำลังพบเจอปัญหาที่ว่าเวลามันช่างผ่านไปรวดเร็วเสียเหลือเกินล่ะก็ ลองทำให้สมองได้คิดบ่อยๆ เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ รู้จักบุคคลใหม่ๆ และลองไปเที่ยวในที่ที่ไม่เคยไปดู มันจะทำให้เวลาของคุณนั้นช้าลง
www.catdumb.com
ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 22/02/2561
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 22/02/2561
ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ หน่วย : บาท/ลิตร |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
ปตท PTT |
บางจาก BCP |
เชลล์ Shell |
เอสโซ่ Esso |
คาลเท็กซ์ Caltex |
ไออาร์พีซี IRPC |
พีทีจี เอนเนอยี่ PTG |
ซัสโก้ Susco |
ระยองเพียว Pure |
ซัสโก้ ดีลเลอร์ SUSCO Dealers |
|
แก๊สโซฮอล 95 | 27.05 | 27.05 | 27.05 | 27.05 | 27.05 | 27.05 | 27.05 | 27.05 | 27.05 | 27.05 |
แก๊สโซฮอล E-20 | 24.54 | 24.54 | 24.54 | 25.04 | 25.04 | – | 25.04 | 25.04 | 25.04 | 25.04 |
แก๊สโซฮอล E-85 | 20.14 | 20.14 | – | – | – | – | – | 20.14 | 20.14 | – |
แก๊สโซฮอล 91 | 26.78 | 26.78 | 26.78 | 26.78 | 26.78 | 26.78 | 26.78 | 26.78 | 26.78 | 26.78 |
เบนซิน 95 | 34.16 | – | – | – | 34.61 | – | 34.66 | 34.16 | 34.16 | 34.16 |
ดีเซลหมุนเร็ว | 26.19 | 26.19 | 26.19 | 26.19 | 26.19 | 26.19 | 26.19 | 26.19 | 26.19 | 26.19 |
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม | 29.19 | 30.06 | 30.56 | 30.06 | 30.06 | – | – | – | – | – |
มีผลตั้งแต่ | 16 Feb 05:00 | 16 Feb 05:00 | 16 Feb 05:00 | 16 Feb 05:00 | 16 Feb 05:00 | 16 Feb 05:00 | 16 Feb 05:00 | 16 Feb 05:00 | 16 Feb 05:00 | 16 Feb 05:00 |