ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง |
ราคารับซื้อต่อกรัม |
ราคารับซื้อ/บาท |
ราคาขายออก/บาท |
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 19,750.00 | 19,850.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,279.00 | 19,389.64 | 20,350.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,151.10 | 17,450.68 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 576.00 | 8,732.16 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 448.00 | 6,791.68 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,325.00 | 20,087.00 | n/a |
ส่อง 3 จังหวัด ต่างชาติแห่ซื้ออสังหาฯ กว่าแสนล้าน
นอกจากประเทศไทยจะเป็นที่สนใจของชาวต่างชาติทางด้านการท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นที่สนใจที่จะนำเงินมาลงทุนโดยเฉพาะทางด้านอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากเป็นประเทศที่มีแนวโน้มเติบโตจากการพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานทางด้านคมนาคม อย่างรถไฟฟ้า และรถไฟฟ้าความเร็วสูง และราคายังถือว่าถูกกว่าหลาย ๆ ประเทศในแถบเอเชียอย่างสิงคโปร์ และฮ่องกง จากการสำรวจของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย หรือ AREA พบว่า ในปี 2560 ที่ผ่านมามีชาวต่างชาติเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยถึง 113,280 ล้านบาท
กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ต่างชาติซื้อสูงสุดกว่า 8.3 หมื่นล้าน
ตลาดที่อยู่อาศัยทั่วประเทศมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 576,396 ล้านบาท ในจำนวนนี้ 113,280 ล้านบาท หรือประมาณ 20% ถูกซื้อโดยชาวต่างชาติ ได้แก่ ญี่ปุ่น ยุโรป สแกนดิเนเวีย รัสเซีย และจีน
กรุงเทพฯ และปริมณฑล ถือเป็นพื้นที่สำคัญที่ชาวต่างชาติสนใจซื้อที่อยู่อาศัยมากที่สุด จากมูลค่าการซื้อขายปี 2560 พบว่า ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีถึง 415,852 ล้านบาท ซึ่งมีส่วนแบ่งถึง 72% ของมูลค่าการซื้อขายที่อยู่อาศัยทั้งประเทศ โดยมีชาวต่างชาติเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์มูลค่าถึง 83,170 ล้านบาท หรือประมาณ 20% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล หรือคิดเป็น 74% ของมูลค่าการซื้อขายของชาวต่างชาติทั่วประเทศ
สำหรับอันดับที่สองคือ พัทยา มีมูลค่าการซื้อขายโดยชายต่างชาติ 6,524 ล้านบาท หรือประมาณ 30% ของมูลค่าการซื้อขายในเขตพัทยาซึ่งอยู่ที่ 21,746 ล้านบาท ทั้งนี้ แม้จะเป็นอันดับที่สองแต่ขนาดตลาดของพัทยาเล็กกว่ากรุงเทพฯ และปริมณฑลกว่า 19 เท่า
ส่วนอันดับที่สามคือ ภูเก็ต ซึ่งเมื่อ 10 ปีที่แล้วเป็นเมืองที่มีชาวต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์มากที่สุดเป็นอันดับสอง แต่ปี 2560 มีต่างชาติซื้อรวมทั้งหมด 5,448 ล้านบาท จากที่มีการซื้อขายทั้งหมด 18,161 ล้านบาท
ผลจากไม่มีการบังคับใช้การเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทำให้ประเทศไทยสูญเสียโอกาสที่จะได้เงินภาษีจากชาวต่างชาติ
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันประเทศไทยยังขาดระบบฐานข้อมูลการซื้ออสังหาริมทรัพย์โดยชาวต่างชาติ ซึ่งถือเป็นจุดอ่อนสำคัญ รวมถึงยังไม่มีการบังคับใช้การเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทำให้ประเทศไทยสูญเสียโอกาสที่จะได้เงินภาษีจากชาวต่างชาติถึง 5,764 ล้านบาท (คิดในอัตรา 1%)
นอกจากนี้ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ที่ทางภาครัฐเตรียมเปิดช่องให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนในช่วงที่ยังไม่มีกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะต้องดำเนินการอย่างรัดกุมเพื่อไม่ให้เสียค่าโง่ในอนาคต
https://www.ddproperty.com
“บ้าน-คอนโด”กรุงเทพฯ 3 ปีราคาพุ่ง100%
ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ พร็อพเพอร์ตี้ อินเด็กซ์ รายงานดัชนีที่อยู่อาศัยล่าสุด โดยระบุว่าแนวโน้มราคาในกรุงเทพฯ ยังคงเป็นบวก สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตามแม้ว่าแนวโน้มราคาจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2560
แต่หากเทียบไตรมาสต่อไตรมาส พบว่าเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะปีที่ผ่านมายังคงอยู่ในช่วงไว้ทุกข์ 1 ปี ทำให้การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและอีเวนท์ต่างๆ ไม่รุนแรงนัก โดยช่วงไตรมาสสุดท้ายปีที่แล้วดัชนีราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 199 จุดในช่วงไตรมาสก่อนหน้า มาอยู่ที่ 205 จุด คิดเป็นสัดส่วนการเติบโตระหว่างไตรมาส 3%
“แม้ว่าการอัตราการเติบโตของดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 60 จะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่ยังถือเป็นภาพรวมที่ดีของตลาดที่อยู่อาศัยกรุงเทพฯ ที่กำลังค่อยๆ ฟื้นตัว ในขณะที่กำลังซื้อของผู้บริโภคในเซ็กเมนต์ระดับกลางไปจนถึงระดับบนมีการปรับตัวดีขึ้น”
กมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย กล่าวว่า เมื่อมองย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงที่เริ่มทำการเก็บข้อมูลในปี 2558 พบว่าการเติบโตของราคาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ สูงขึ้นถึง 105% โดยเฉพาะคอนโด ซึ่งได้รับความนิยมในปัจจุบัน โดยช่วงไตรมาส 4 ปี 60 ดัชนีราคาคอนโดแตะระดับ 154 จุด เพิ่มขึ้นจากช่วงต้นปี 54% แต่ช่วงไตรมาส 4 พบว่าทาวน์เฮ้าส์มีราคาเพิ่มขึ้นสูงที่สุดเมื่อเท่ียบกับไตรมาส 3 อยูที่ 7% และช่วง 1 ปีเพิ่ม 14%
เมื่อแยกตามตลาด พบว่ากลุ่มราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป เติบโตสูงสุดโดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 12% และเพิ่มขึ้นถึง 39% ภายในระยะเวลา 2 ปี
เขตจตุจักร ยังคงเป็นพื้นที่่ราคาเพิ่มขึ้นสูงสุด โดยเพิ่ม 5% จากไตรมาส ส่วนเขตบางนาแซงเขตพระโขนงขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 2 เติบโตในรอบไตรมาส 3% และเขตบางนานับเป็นพื้นที่ที่น่าจับตามอง เพราะดัชนีราคาชี้ให้เห็นว่ามีการเติบโตเพิ่ม 75% ในช่วงไม่ถึง 3 ปี
“ราคาที่อยู่อาศัยยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อไปจากปัจจัยบวกที่ช่วยให้เกิดพื้นที่ศักยภาพ เช่น โครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายหลายสายที่มีความคืบหน้า งการลงทุนแผนพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทยระยะ 20 ปี คาดจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยบนทำเลใหม่ๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองสำคัญๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก”
ขณะที่ฝั่งอุปทาน แม้ว่าเดือน ต.ค.ปีที่แล้วแทบจะไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่หรือกิจกรรมส่งเสริมการขาย แต่ช่วง 2 เดือนสุดท้ายของไตรมาส 4 พบว่ากำลังซื้อกลับมาอย่างรวดเร็ว ทำให้ไตรมาส 4 ดัชนีอุปทานที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ปรับตัวลดลง 7% มาอยู่ที่ 240 จุด ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ผู้ประกอบการแข่งออกแคมเปญเพื่อเร่งยอดขายในช่วงโค้งสุดท้ายของปี
อุปทานส่วนใหญ่คือคอนโด คิดเป็น 88% ของทั้งหมดในช่วงไตรมาส 4 ส่วนบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์มีสัดส่วนค่อนข้างน้อย เนื่องจากที่อยู่อาศัยแนวราบส่วนใหญ่ ผู้ซื้อมักจะซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง ต่างกับคอนโดที่จำนวนมากซื้อเพื่อขายต่อหรือลงทุน ทำให้การดูดซับค่อนข้างเร็ว ในขณะที่ผู้ประกอบการก็เปิดตัวโครงการใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง
ทำเลที่มีอุปทานคอนโดมากที่สุดในช่วงไตรมาส 4 ได้แก่ เขตวัฒนา ขณะที่เขตลาดพร้าวมีปริมาณทาวน์เฮ้าส์เข้าสู่ตลาดมากที่สุด ส่วนเขตคลองสามวาเป็นพื้นที่ยอดนิยมสำหรับบ้านเดี่ยว
สำหรับแนวโน้มปี 2561 คาดว่าดัชนีอุปทานที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการที่ผู้ประกอบการทั้งรายเล็ก-รายใหญ่ส่งสัญญาณว่าจะเปิดโครงการใหม่ๆ จำนวนมาก รับกับทิศทางตลาดที่คาดว่าจะฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่อาจจะไม่ร้อนแรงนักเพราะกำลังซื้อยังค่อนข้างจำกัดจากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่แม้จะเริ่มคลี่คลายลง แต่ก็ยังอยู่ในระดับสูง
“แม้การดูดซับอุปทานจะเป็นไปแบบช้าๆ ณะที่ผู้ประกอบการมีแผนเปิดโครงการใหม่ๆ อย่างคึกคักปีนี้แต่เชื่อว่าไม่น่าจะมีภาวะอสินค้าล้นตลาดเกิดขึ้น เนื่องจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่างเฝ้าสังเกตการณ์สถานการณ์อย่างใกล้ชิด”
กมลภัทรกล่าวว่า ผู้ขายจะยังคงได้รับผลดีจากราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยดัชนีราคามีการเติบโตมากกว่า 100% ในช่วงไม่ถึง 3 ปี ขณะที่ฝั่งผู้ซื้อก็ได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยต่ำ และโปรโมชั่นพิเศษจากผู้ประกอบการที่ต้องการเร่งระบายสินค้าในสต็อก
http://www.bangkokbiznews.com
เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่อเนื่อง หลังส่งออกโตพุ่ง
“สศค.” เผยเศรษฐกิจไทยโตต่อเนื่อง หลังส่งออกพุ่งสูงสุดในรอบ 62 เดือน คาดส่งออกทั้งปีโต 6.6% พร้อมคงเป้าจีดีพีโต 4.2%
นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. เปิดเผยถึงภาวะเศรษฐกิจการคลัง ประจำเดือนมกราคมว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนมกราคมที่ผ่านมาขยายตัวดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากการส่งออกที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง 11 เดือนติดต่อกัน โดยมีมูลค่าการส่งออกสินค้า 20.1 พันล้านดอลลาร์ หรือ เติบโต 17.6% ต่อปี ขยายตัวสูงสุดในรอบ 62 เดือน หรือ 5 ปี 2 เดือน โดยเฉพาะในหมวดยานพาหนะอุปกรณ์และส่วนประกอบ อิเล็กทรอนิกส์ สินค้าเกษตรกรรม และเคมีภัณฑ์
ด้านมูลค่าการนำเข้าสินค้าในเดือนมกราคมที่ผ่านมามีมูลค่า 20.2 พันล้านดอลลาร์ ขยายตัว 24.3% ต่อปี โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป สินค้าทุน สินค้าแร่และเชื้อเพลิง ทั้งนี้ จากมูลค่าการส่งออกสินค้าที่น้อยกว่ามูลค่าการนำเข้าสินค้า ส่งผลให้ดุลการค้าในเดือนมกราคมขาดดุล 0.1 พันล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวดี ยังมาจากการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวดีจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่ง และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐฏิจโดยรวมที่ปรับตัวสูงสุดในรอบ 34 เดือน นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2558 เนื่องจากผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยในอนาคตจะปรับตัวดีขึ้นตามการส่งออก และการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มขยายตัวดี และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปี
ด้านการลงทุนภาคเอกชนยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศ ขณะที่ด้านอุปทาน จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศยังขยายตัวสูง ดัชนีผลผลิตการเกษตรที่ขยายตัว ประกอบกับความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวสูงสุดในรอบ 36 เดือนด้วย
สำหรับการใช้จ่ายงบประมาณ สะท้อนจากการเบิกจ่ายงบประมาณรวมในเดือนมกราคม 2561 สามารถเบิกจ่ายได้ 244.6 พันล้านบาท เป็นการเบิกจ่ายงบประมาณปีปัจจุบัน 226.8 พันล้านบาท แบ่งเป็นเบิกจ่ายประจำ 200.4 พันล้านบาท และรายจ่ายลงทุน 26.5 พันล้านบลาท และเป็นการเบิกจ่ายจากงบประมาณปีก่อน 17.7 พันล้านบาท
นายพรชัย กล่าวว่า ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ดี และเสถียรภาพนอกประเทศยังมั่นคง สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมกราคม 2561 อยู่ที่ 0.7% ต่อปี ลดลงจากเดือนก่อนหน้า จากการปรับตัวลดลงของราคาอาหฟารสด ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.6% ต่อปี
ด้านแนวโน้มเศรษฐกิจไทยไตรมาสแรก คาดว่าจะขยายตัวดีต่อเนื่อง ทั้งจากการส่งออกที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง จากการค้าโลกดี ทั้งจากเวียดนาม จีน เป็นต้น ซึ่งจะเป็นแรงสนับสนุนเศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกให้ขยายตัวดีด้วย ประกอบกับการบริโภค และราคาสินค้าเกษตรเริ่มปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ประเมินอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ปีนี้ สศค. ยังคงประมาณการไว้ที่โต 4.2% จากการส่งออก การบริโภค และการท่องเที่ยวที่ยังขยายตัวดีอย่างต่อเนื่อง ด้านการส่งออกในปีนี้ สศค.ประมาณการณ์ไว้ที่โต 6.6% ซึ่งมั่นใจว่าเป็นไปได้อย่างแน่นอน ซึ่งจากการหารือกับกระทรวงพาณิชย์นั้น ยังยืนยันว่า การส่งออกของไทยในปีนี้ คาดว่าอาจจะเติบโตได้ถึง 8%
http://www.bangkokbiznews.com
ไฟเขียวสร้างรถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา
บอร์ดอีอีซี เห็นชอบแผนสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ผ่าน 5 จังหวัด มีกำหนดเปิดให้บริการปี 66
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2561 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ครั้งที่ 2/2561 เห็นชอบแผนก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เริ่มจากสนามบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา
ทั้งนี้ที่ประชุมได้มีการยกระดับสนามบินอู่ตะเภามาเป็นสนามบินนานาชาติแห่งที่ 3 โดยจะมีการสร้างรถไฟความเร็ว 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปสนามบินอู่ตะเภา ใช้เวลาเพียง 45 นาที เทียบกับเดินทางโดยรถยนต์ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ค่าโดยสารรถไฟความเร็วสูงจากมักกะสันถึงพัทยา ประมาณ 270 บาท หากต่อถึงสนามบินอู่ตะเภา ค่าโดยสารประมาณ 330 บาท
สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อมต่อ 3 สนามบิน เป็นโครงการที่ใช้โครงสร้างและแนวเส้นทางการเดินรถเดิมของระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ โดยจะก่อสร้างทางรถไฟขนาด 1.435 เมตร ส่วนต่อขยาย 2 ช่วง จากสถานีพญาไท ไปยังสนามบินดอนเมือง และจากสถานีลาดกระบัง ไปยังสนามบินอู่ตะเภา และจังหวัดระยอง พร้อมเชื่อมทางเข้า-ออกสนามบิน โดยใช้เขตทางเดิมของการรถไฟฯ เป็นส่วนใหญ่ รวมระยะทาง 260 กิโลเมตร มูลค่าการลงทุนโครงการให้เอกชนเข้าร่วมทุน อยู่ที่ 296,421 ล้านบาท
ส่วนแนวเส้นทางโครงการ จะผ่านพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สมุทรปราการ, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี และระยอง โดยมีสถานีประกอบด้วย สถานีดอนเมือง, สถานีบางซื่อ, สถานีมักกะสัน, สถานีสุวรรณภูมิ, สถานีฉะเชิงเทรา, สถานีชลบุรี, สถานีศรีราชา, สถานีพัทยา, สถานีอู่ตะเภา และสถานีระยอง โครงสร้างส่วนใหญ่เป็นทางยกระดับ
ทั้งนี้คาดว่าจะเปิดให้เอกชนทั้งในและต่างประเทศยื่นประมูลสร้างและบริหารโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินได้ในช่วงครึ่งปีหลัง จากนั้นคาดว่าจะลงนามผู้ชนะการประมูลได้ในช่วงกลางปี โดยมีกำหนดจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ ในปี 2566
https://money.kapook.com
ขงเบ้งสอนเล่าปี่เกี่ยวกับเทคนิคการบริหารเวลา
ครั้งหนึ่งเล่าปี่ขอขงเบ้งให้แนะนำวิธีสร้างตนให้เป็นมหาเศรษฐีแห่งดินแดน ขงเบ้งว่างานใหญ่เช่นนี้ต้องวางแผนและรู้จักบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ
เล่าปี่กล่าวว่า “ ข้าฯ เห็นด้วยในหลักการแต่ทว่าข้าฯมีงานมากมายที่ต้องทำทุกวันจนเวียนเกล้าเวียนศีรษะ ไม่เคยมีเวลาพอที่จะจัดการทุกสิ่งทุกอย่างได้เลย “
ขงเบ้งบอกลูกน้องให้ไปเตรียมก้อนหิน ก้อนกรวด ก้อนทราย และน้ำจำนวนหนึ่งพร้อมถังเหล็กใหญ่หนึ่งใบ
เล่าปี่ถามด้วยความแปลกใจ “ ท่านเตรียมสิ่งเหล่านี้ไว้เพื่ออะไร ”
ขงเบ้งยิ้มอย่างมีเลศนัยพร้อมกับตอบด้วยคำถามว่า “ท่านบริหารเวลาด้วยวิธีใด”
เล่าปี่ตอบว่า “ ข้าฯเคยคิดว่าข้าฯมีเทคนิคที่ดีอยู่แล้วคือใช้วิธีมอบหมาย ข้าฯมีผู้ช่วยอยู่รอบด้านตั้งแต่กวนอู เตียวหุย เจ้าหยุน ฯลฯ ซึ่งช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่ด้านต่างๆ แต่งานทั้งหลายก็ยังพันกันอีนุงตุงนัง ไม่สามารถปรับให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลดีขึ้นได้ เดิมข้าฯคิดว่าข้าฯ คือ แมลงวันไม่มีหัวอยู่ตัวเดียว แต่หลังการใช้ระบบมอบหมายงานกลับกลายเป็นว่า ปัจจุบันมีแมลงวันหัวขาดเป็นฝูง”
ขงเบ้งฟังแล้วจึงเริ่มอธิบายว่า “ เทคนิคการบริหารเวลาสามารถแบ่งเป็นสูง กลาง และต่ำ สามขั้น ขั้นต่ำเน้นการใช้เศษกระดาษบันทึก ขั้นกลางเน้นการใช้แผนดำเนินงาน และตารางโปรแกรมประจำวันซึ่งสะท้อนความสำคัญของการวางแผน ส่วนขั้นสูงเน้นการจัดการโดยแบ่งแยกประเภทของหน้าที่การงานตามดีกรีความสำคัญของงาน เพื่อพิจารณาลำดับความเร่งด่วนในการจัดการงานดังกล่าว ทั้งสามขั้นต่างมีเรื่องการมอบหมายงานเกี่ยวข้องอยู่ด้วยตามความต้องการของปริมาณและลักษณะเฉพาะของงานแต่ละชิ้น ”
เล่าปี่สารภาพว่า “ หากพิจารณาตามการแบ่งขั้นของเทคนิคการบริหารเวลาแล้ว ข้าฯ ยอมรับว่าวิธีของข้าฯอยู่ที่ขั้นต่ำ เพราะใช้แค่สลิปบันทึก”
ขงเบ้งชี้ไปที่ถังเหล็กกับกองวัสดุที่ผู้ช่วยได้เตรียมไว้มุมห้องพร้อมกล่าวว่า “ คำตอบของการบริหารขั้นสูงอยู่ในถังเหล็กใบใหญ่นี่แหละ! ความจุของถังใบนี้ เปรียบเสมือนขีดความสามารถของคนคนหนึ่งในช่วงเวลาหนึ่ง ก้อนกรวดเปรียบได้กับงานที่สำคัญและเร่งด่วน ก้อนหินคือภาระที่สำคัญแต่ไม่เร่งด่วน เม็ดทรายเปรียบได้กับภาระที่เร่งด่วนแต่ไม่สำคัญ และน้ำคือหน้าที่ที่ไม่สำคัญและไม่เร่งด่วน ” ขงเบ้งอธิบายพลางวาดผังประกอบคำอธิบายดังตารางประกอบด้านล่างนี้
เร่งด่วน | ไม่เร่งด่วน | |
สำคัญ | ก. งานประเภทก้อนกรวด
|
ข. งานประเภทก้อนหิน
|
ไม่สำคัญ | ค. งานประเภทเม็ดทราย
|
ง. งานประเภทน้ำ
|
“ ปกติท่านเน้นงานประเภทใด ” ขงเบ้งถาม
“ ก็ต้องเป็นประเภท ก. ” เล่าปี่ตอบอย่างไม่ลังเล
“ แล้วงานประเภท ข. ล่ะ ” ขงเบ้งถามต่อไป
เล่าปี่ตอบว่า “ ข้าฯ ตระหนักถึงความสำคัญของงานประเภท ข. แต่ไม่มีเวลาพอที่จะสนใจมัน”
“ เป็นอย่างนี้ใช่ไหม ” ขงเบ้งถามพลางใส่กรวดลงไปในถังเหล็กจนเต็มแล้วพยายาม
ใส่ก้อนหินตามซึ่งใส่ไม่ได้ เล่าปี่ตอบว่า “ ใช่ “
“ และหากเปลี่ยนวิธีบรรจุใหม่ล่ะ ” ขงเบ้งถามต่อพลางใส่ก้อนหินทีละก้อนเข้าไปในถังก่อนจนใส่ไม่ได้แล้วจึงถามเล่าปี่อีกว่า “ ตอนนี้ถังเหล็กเต็มแล้วจะใส่ลงไปอีกไม่ได้ใช่ไหม? ” ซึ่งเล่าปี่ตอบว่า “ ใช่ “
“ จริงหรือ ? ” ขงเบ้งถามแล้วหยิบก้อนกรวดใส่เข้าไปข้างบนถังแล้วเขย่าให้ก้อนกรวดตกลงไปในถังจนหมด “ บัดนี้ถังเหล็กใบนี้ใส่อะไรลงไปอีกได้หรือไม่? ” ขงเบ้งพูดพลางเทเม็ดทรายลงไปจนหมด “ แล้วทีนี้ล่ะ ใส่อะไรลงไปอีกได้ไหม ? ” ขงเบ้งถามต่อ แต่ก่อนที่เล่าปี่มีโอกาสตอบ ขงเบ้งก็ตักน้ำที่เตรียมไว้ใส่ลงไปในถังเหล็กอีกจนหมด “ ตอนนี้ท่านเข้าใจความหมายของการทดลองนี้หรือยัง ? ” เล่าปี่ตอบว่า “ เข้าใจแล้ว นี่คือสิ่งที่ท่านกล่าวถึงเมื่อสักครู่เกี่ยวกับการจัดการแบบแยกประเภทและเลือกการจัดการก่อนหลังใช่ไหม ? ”
ขงเบ้งตอบว่า “ ใช่แล้ว การทดลองชี้ให้เห็นว่าหากถังเหล็กตั้งแต่แรกก็เติมเต็มด้วยก้อนกรวด ทราย และน้ำ ก็คงไม่มีโอกาสใส่ก้อนหินลงไปได้ แต่ถ้าใส่ก้อนหินลงไปก่อน ในถังยังมีเนื้อที่ที่จะใส่สิ่งอื่นๆเข้าไปได้อีก ดังนั้น การบริหารเวลาที่ได้ผลต้องดูว่า อะไรคือก้อนหิน อะไรคือก้อนกรวด เม็ดทรายและน้ำ และไม่ว่าจะเป็นประการใดก็ต้องใส่ก้อนหินลงไปในถังเป็นอันดับแรก ”
เล่าปี่ยังถามว่า “ แล้วการวิเคราะห์แยกแยะเรื่องต่างๆออกเป็นสี่หมวดนี้มีผลอย่างไร ”
ขงเบ้งตอบว่า “ บุคคลจำพวกที่ว้าวุ่นอยู่กับเรื่องราวประเภทก้อนกรวดย่อมมีความรู้สึกถูกเวลากดดันและวนเวียนอยู่ในแดนวิกฤตจนอ่อนล้า พวกที่เน้นเรื่องประเภทเม็ดทรายจะขาดพลังสร้างสรรค์ ชอบฟังคำพูดเพราะหู คบคนแบบผิวเผิน พวกที่นิยมเรื่องราวประเภทน้ำมักบกพร่องเรื่องสำนึกรับผิดชอบแม้กระทั่งเรื่องสารทุกข์สุกดิบของตนเอง ”
เล่าปี่ถามว่า “เป็นไปได้ไหมที่ว่าถ้าเน้นก้อนหินมากเกินไปจะมองข้ามก้อนกรวด เพราะก้อนกรวดมากับความเร่งด่วน ? “
“ ท่านทราบไหมว่าก้อนกรวดมาจากไหน? ก็มาจากก้อนหินที่แตกสลายไง ” ขงเบ้งตอบ “ คนที่ให้ความสำคัญกับเรื่องประเภทก้อนหินจะมีก้อนกรวดน้อย คนที่เน้นก้อนกรวดก็จะมีก้อนกรวดเยอะตลอด “ ขงเบ้งสอนต่อไปว่า “ คนที่อิงเรื่องประเภทก้อนหินเป็นคนมีประสิทธิภาพ เพราะเขาจะเก่งในการวิเคราะห์สถานการณ์ เวลาและสิ่งแวดล้อม สามารถจับประเด็นหลักของปัญหา สามารถจัดการกับเรื่องเร่งด่วนและควบคุมสถานการณ์ไม่ให้เกินกว่าเหตุ กล้าฟันธงและใช้มาตรการป้องปราม บุคคลจำพวกนี้จะมีวิสัยทัศน์ มีอุดมการณ์ เคารพ ระเบียบ สามารถควบคุมตัวเอง ดำเนินชีวิตอย่างมีวินัย และสามารถทำงานชิ้นใหญ่ได้ ”
เล่าปี่ชื่นชอบทฤษฎี “ วัตถุในถัง “ ของขงเบ้งเป็นอย่างมากพร้อมกับสารภาพว่า “ มาวันนี้ข้าฯเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่าการต่อสู้ของข้าฯทำไมจึงยังลุ่มๆดอนๆ เพราะแม้ว่าข้ามีขุนพลเก่งๆเช่นกวนอูและเตียวหุย แต่พวกเขาจะก้าวหน้าได้อย่างไรตราบใดที่คนที่มีประสิทธิภาพสูงอย่างพวกเขาจมปลักอยู่กับเรื่องจิ๊บจ๊อย กับทำงานลักษณะ“ เก็บเม็ดงาแต่ทิ้งแตงโม “ (เจี่ยนเลอจือหมา ติวเลอซีกวา) ขืนดำเนินตามวิธีนี้ต่อไป ความพยายามของข้าฯที่จะเป็นอภิมหาเศรษฐีนัมเบอร์วันในแผ่นดินก็คงเป็นได้แค่ความฝัน ! ”
http://www.bejame.com
ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 27/02/2561
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 27/02/2561
ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ หน่วย : บาท/ลิตร |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
ปตท PTT |
บางจาก BCP |
เชลล์ Shell |
เอสโซ่ Esso |
คาลเท็กซ์ Caltex |
ไออาร์พีซี IRPC |
พีทีจี เอนเนอยี่ PTG |
ซัสโก้ Susco |
ระยองเพียว Pure |
ซัสโก้ ดีลเลอร์ SUSCO Dealers |
|
แก๊สโซฮอล 95 | 27.55 | 27.55 | 27.55 | 27.55 | 27.55 | 27.55 | 27.55 | 27.55 | 27.55 | 27.55 |
แก๊สโซฮอล E-20 | 25.04 | 25.04 | 25.04 | 24.54 | 25.04 | – | 25.04 | 25.04 | 25.04 | 25.04 |
แก๊สโซฮอล E-85 | 20.44 | 20.44 | – | – | – | – | – | 20.44 | 20.44 | – |
แก๊สโซฮอล 91 | 26.78 | 26.78 | 26.78 | 26.78 | 26.78 | 26.78 | 26.78 | 26.78 | 26.78 | 26.78 |
เบนซิน 95 | 34.66 | – | – | – | 35.11 | – | 35.16 | 34.66 | 34.66 | 34.66 |
ดีเซลหมุนเร็ว | 26.69 | 26.69 | 26.69 | 26.69 | 26.69 | 26.69 | 26.69 | 26.69 | 26.69 | 26.69 |
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม | 29.69 | 30.56 | 30.56 | 30.56 | 30.56 | – | – | – | – | – |
มีผลตั้งแต่ | 23 Feb 05:00 | 23 Feb 05:00 | 23 Feb 05:00 | 23 Feb 05:00 | 23 Feb 05:00 | 23 Feb 05:00 | 23 Feb 05:00 | 23 Feb 05:00 | 23 Feb 05:00 | 23 Feb 05:00 |