คมนาคม จุดพลุ ทำเลทองลุย พัฒนา เมืองอัจฉริยะ “บางซื่อ” รับสถานีกลางฯเปิดใช้
กระทรวงคมนาคม ลุยเมืองอัจฉริยะบริเวณ บางซื่อ ทำเลศักยภาพ ศักยภาพในการพัฒนารองรับการเปิดให้บริการสถานีกลางบางซื่อ 23ธ.ค.64 ศักดิ์สยาม ตั้ง คณะกรรมการ ขับเคลื่อนเคลื่อนนโยบายนำไปสู่การปฏิบัติ
กระทรวงคมนาคมกำหนดเปิดให้บริการสถานีกลางบางชื่อ อย่างเป็นทางการวันที่23ธันวาคม นี้พร้อมเตรียมเก็บอัตราค่าโดยสารรถไฟชานเมือง สายสีแดง ล่าสุด ได้ให้ความสำคัญการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีรถไฟฟ้าเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งพื้นที่รอบสถานีกลางบางซื่อของการรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นพื้นที่หนึ่งที่มีศักยภาพในการพัฒนา
พื้นที่เป็นเมืองอัจฉริยะรองรับการเปิดให้บริการของสถานีกลางบางซื่อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจึงได้มีคำสั่งกระทรวงคมนาคมแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะพื้นที่บริเวณบางซื่อเพื่อขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวไปสู่การปฏิบัติ
นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม (ปกค.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะพื้นที่บริเวณบางซื่อ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2564 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
นายชยธรรม์ฯ กล่าวว่า ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าโครงการ Smart City supported by Japan ASEAN Mutual Partnership หรือ SmartJAMP ซึ่งประเทศไทย โดยกระทรวงคมนาคมได้นำเสนอข้อเสนอโครงการบางซื่อเข้าร่วม โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อเสนอแนะในเชิงโครงสร้างการดำเนินงานของบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด(SRTA) และบริษัทผู้ให้บริการสมาร์ทซิตี้ (Smart Service Company : SSC) เพื่อให้ SSC มีโครงสร้างการดำเนินงานที่เข้มแข็งและสามารถดำเนินงานได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาทิศทางการพัฒนาพื้นที่บางซื่อตามที่ผู้แทน UR เสนอ โดยที่เป้าหมายการพัฒนาพื้นที่บางซื่อ คือ การสร้างเมืองที่มีเสน่ห์ มีความน่าสนใจ เป็นที่ชื่นชอบของประชาชนชาวไทย และเป็นเมืองที่น่าภาคภูมิใจที่จะสืบทอดไปยังคนรุ่นหลัง รวมถึงการปรับปรุงสถานะทางการเงินของการรถไฟแห่งประเทศไทย จึงได้นำรูปแบบการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีรถไฟความเร็วสูงรถไฟทางคู่รถไฟฟ้า หรือ สมาร์ทซิตี้
มาใช้ รวมทั้งการเปิดให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุน โดยการพัฒนาพื้นที่บางซื่อมีลักษณะพิเศษ กล่าวคือ พื้นที่การพัฒนาทั้งหมด มีขนาดใหญ่จึงจำเป็นต้องมีการควบคุมการพัฒนาโดยคำนึงถึงผลกระทบ รวมทั้งความเสี่ยงในการลงทุน ประกอบกับดีมานด์ปัจจุบันยังมีไม่มาก แต่มีความเป็นไปได้ที่มูลค่าของพื้นที่บางซื่อจะสูงขึ้นในอนาคต พื้นที่บางซื่อจึงจำเป็นต้องพัฒนาแบบเป็นขั้นเป็นตอน โดยการเพิ่มมูลค่าของที่ดินขึ้นตามลำดับ จึงจำเป็นต้องมีแผนการพัฒนาที่มีความครอบคลุมและเป็นองค์รวม ได้แก่ แผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรวม คู่มือการพัฒนา รวมถึงการพิจารณารูปแบบธุรกิจ เป็นต้น
นายชยธรรม์ฯ ได้ให้ข้อเสนอแนะต่อทิศทางการพัฒนาพื้นที่บางซื่อให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน โดยมอบหมายให้ รฟท. และ SRTA หารือในรายละเอียดของแนวทางการพัฒนาฯ (Action Plan) ร่วมกับ MLIT และ UR เพื่อให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ และมอบหมาย SRTA เร่งรัดการดำเนินการเพื่อสมัครเข้ารับการประเมินการเป็นเมืองอัจฉริยะต่อคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมมอบหมายคณะทำงาน เพื่อร่วมพิจารณารายงานการศึกษาร่วมกับฝ่ายญี่ปุ่น โดยมีองค์ประกอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงการคลัง สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สำนักงานนโยบายแผนการขนส่งและจราจร การรถไฟแห่งประเทศไทย และบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ก่อนเสนอคณะกรรมการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะพื้นที่บริเวณบางซื่อพิจารณาเพื่อให้โครงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะพื้นที่บริเวณบางซื่อเป็นไปตามแผนที่วางไว้ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม
สำหรับคณะกรรมการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะพื้นที่บริเวณบางซื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย รองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้ากลุ่มภารกิจการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านทางหลวง ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ผู้แทนสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้แทนกรุงเทพมหานคร ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนกระทรวงการคลัง ผู้แทนกระทรวงพลังงาน ผู้แทนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้แทนสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ผู้แทนกรมการขนส่งทางบก ผู้แทนกรมการขนส่งทางราง
ผู้แทนการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ผู้แทนองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ผู้แทนบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ผู้แทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ผู้แทนการรถไฟฟ้านครหลวง ผู้แทนการประปานครหลวง กรรมการผู้จัดการบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด(SRTA) และมีรองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และรองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยที่ได้รับมอบหมาย เป็นกรรมการและเลขานุการ
โดยมีผู้แทนฝ่ายญี่ปุ่น ประกอบด้วย กระทรวงที่ดินดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่งและการท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่น (Ministry of Land, Infrastructure, Transport and Tourism : MLIT) องค์กรพัฒนาและฟื้นฟูเมืองของญี่ปุ่น (Urban Renaissance Agency : UR) ผู้แทน JICA Thailand และผู้แทนสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
THG ซุ่มซื้อซองประมูลศูนย์การแพทย์คอมเพล็กซ์ ย่านสวนหลวง-สามย่าน 4 พันล้าน
สำนักทรัพย์สินจุฬาฯ เปิดประมูลศูนย์การแพทย์ คอมเพล็กซ์ ย่านสวนหลวง-สามย่าน 4 พันล้าน ดึงเอกชนร่วมทุนพีพีพี 30-50 ปี ด้านTHG บุกซื้อซองประมูล เล็งสร้างศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (PMCU) ได้ออกประกาศเชิญชวนเอกชนลงทุนพื้นที่บริเวณหมอน 34 เขตพาณิชย์สวนหลวง-สามย่าน เนื้อที่ประมาณ 12 ไร่ ให้เป็นศูนย์การแพทย์และพื้นที่เชิงพาณิชย์ (Wellness/Health Complex) มูลค่าการลงทุนประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยเป็นการลงทุนในรูปแบบPPP ระยะเวลา 30-50 ปี ระหว่างวันที่ 18 ตุลาคม- 17 พฤศจิกายน 2564 และเปิดยื่นข้อเสนอในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565และยื่นเสนอข้อเสนอทางเทคนิควันที่ 1 มีนาคม 2565 ก่อนประกาศผลผู้ชนะประมูลต่อไป
สำหรับพื้นที่ในโครงการ ประกอบด้วย ศูนย์การแพทย์ครบวงจรที่สามารถให้การดูแลผู้ป่วยในระดับตติยภูมิ โดยมีการใช้นวัตกรรมทางการแพทย์ขั้นสูง รวมถึงมีศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ และศูนย์การดูแลสุขภาพ ตามแนวทาง Smart Hospital และพื้นที่เชิงพาณิชย์อื่นๆ ที่สอดคล้องและส่งเสริมกับแนวคิดของโครงการ เพื่อเพิ่มศักยภาพการใช้ประโยชน์ในพื้นที่อย่างคุ้มค่าสูงสุด โดยมีสภาพพื้นที่เปิดโล่ง มีอาคารพาณิชย์ 65 คูหา ซึ่งจะส่งมอบพื้นที่ตามสภาพโดยไม่มีผู้ครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย ภายในระยะเวลา 15 วัน นับตั้งแต่วันที่สํานักงานฯ ได้รับหนังสือแจ้งผลการพิจารณาเห็นชอบ รายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) จากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ผลตอบแทนรายปีของโครงการฯ มีกำหนดขั้นต่ำในปีที่ 1 – 3 จํานวน ไม่ต่ำกว่า 74 ล้านบาทต่อปี, ปีที่ 4 – 6 จํานวนเงินไม่ต่ำกว่า 81 ล้านบาทต่อปี, ปีที่ 7 – 9 จํานวนเงินไม่ต่ำกว่า 89 ล้านบาทต่อปี, ปีที่ 10 – 12 จํานวนเงินไม่ต่ำว่า 98 ล้านบาทต่อปี, ปีที่ 13 – 15 จํานวนเงินไม่ต่ำกว่า 108 ล้านบาทต่อปี, ปีที่ 16 – 18 จํานวนเงินไม่ต่ำกว่า 119 ล้านบาทต่อปี, ปีที่ 19 – 21 จํานวนเงินไม่ต่ำกว่า 131 ล้านบาทต่อปี, ปีที่ 22 – 24 จํานวนเงินไม่ต่ำกว่า 144 ล้านบาทต่อปี , ปีที่ 25 – 27 จํานวนเงินไม่ต่ำกว่า 158 ล้านบาทต่อปีและปีที่ 28 – 30 จํานวนเงินไม่ต่ำกว่า 174 ล้านบาทต่อปี รวมระยะเวลา 30 ปี เป็นวงเงิน 3,528 ล้านบาท
ขณะเดียวกันการประมูลโครงการฯ ในครั้งนี้พบว่า มีบริษัทเอกชนด้านธุรกิจโรงพยาบาลและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ให้ความสนใจซื้อทีโออาร์แล้ว จำนวน 3 ราย ซึ่ง 1 ในนั้น คือบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THGหรือกลุ่มโรงพยาบาลธนบุรี
นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการบริษัท THG กล่าวว่า ทางบริษัทฯ สนใจจะลงทุนโครงการนี้ เนื่องจากบริษัทฯสนใจพัฒนาเกี่ยวกับการแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งต้องรอการพิจารณารายละเอียดทีโออาร์ก่อนว่าเป็นอย่างไร จากนั้นถึงจะตัดสินใจได้ เบื้องต้นบริษัทฯได้ซื้อเอกสารประมูลแล้ว เนื่องจากโครงการดังกล่าวเป็นการร่วมทุนหรือPPPระหว่างสำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬากับเอกชน
อย่างไรก็ตามในส่วนของคุณสมบัติผู้ยื่นข้อเสนอ ต้องเป็นนิติบุคคลไทย มียอดรวมรายได้ตามงบของบริษัทในปีหนึ่งปีใดภายในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา (2559-2563) ไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท มีประสบการณ์การบริหารโรงพยาบาลรัฐหรือโรงพยาบาลเอกชนหรือศูนย์การแพทย์ไม่น้อยกว่า 3 ปี ก่อนวันที่ยื่นข้อเสนอ ต้องมีประสบการณ์การลงทุนหรือบริหารจัดการพัฒนาพื้นที่และหรือประกอบกิจกรรมเชิงพาณิชย์เป็นโครงการที่เปิดดำเนินการแล้ว และมีขนาดพื้นที่รวมในโครงการไม่น้อยกว่า 60,000 ตารางเมตร และมีพื้นที่โครงการหนึ่งหรือหลายโครงการรวมกันไม่น้อยกว่า 150,000 ตารางเมตร
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
หุ้นไทย1พ.ย.ลุ้นดัชนีมีโอกาสรีบาวด์ตามตลาดต่างประเทศ
แนวโน้มหุ้นไทย 1 พ.ย. 64 ดัชนีมีโอกาสรีบาวด์ขึ้นได้ในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ แต่ยังต้องจับตาความคึกคักหลังเปิดประเทศวันแรก
เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 64 นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะรีบาวด์ขึ้นได้แต่ไม่มาก เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก เช่นเดียวกับดาวโจนส์เมื่อศุกร์ที่ผ่านมาก็ปรับตัวขึ้น โดยตลาดบ้านเรามีปัจจัยบวกจากการเปิดประเทศวันนี้วันแรก แต่ก็ต้องรอดูจะมีความคึกคักมากแค่ไหน และราคาน้ำมันดิบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาก็ปรับตัวขึ้นด้วย
อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 2-3 พ.ย.นี้ และการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสที่จะมีขึ้นในวันที่ 4 พ.ย.นี้ ซึ่งทั้งสองการประชุมเป็นตัวชี้ทิศทางตลาดหุ้น
นอกจากนี้ ตลาดบ้านเราปรับตัวลงไปพอควรแล้วเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมากองทุนก็เริ่มซื้อ แต่นักลงทุนต่างประเทศขายก็คงะมาจากการปรับพอร์ตตามการปรับลด QE ก็ได้ ซึ่งตลาดฯก็ได้รับรู้ไปบ้างแล้ว โดยสัปดาห์นี้มองว่าตลาดฯคงจะผันผวนตามผลประชุมเฟด
พร้อมให้แนวรับ 1,620-1,615 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630-1,634 จุด
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
สลัดฟอร์มบู่! แอต.มาดริด เปิดรังรัวถล่ม เรอัล เบติส 3-0 จี้จ่าฝูงเหลือ 3 แต้ม
การแข่งขัน ฟุตบอล ลาลีกา สเปน ระหว่าง “ตราหมี” แอต.มาดริด เปิดบ้านพบกับ เรอัล เบติส ที่สนาม ว่านต๋า เมโตรโปลีตาโน่ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 31 ตุลาคม 2564
เริ่มเกมมา 9 นาที เจ้าบ้านเกือบได้ประตูออกนำจากจังหวะที่ อองตวน กรีซมันน์ ลากบอลตัดเข้าในแล้วปั่นด้วยขวาบอลพุ่งโค้งหลุดเสาไกลออกไปนิดเดียว
นาทีที่ 17 “ตราหมี” เกือบได้อีกหน อังเคล กอร์เรอา ไหลออกขวาให้ อองตวน กรีซมันน์ หลุดเข้าไปซัดในเขตโทษแต่ เคลาดิโอ บราโว่ พุ่งปัดไว้ได้ปลายมือ
นาทีที่ 26 เจ้าถิ่นเดินเกมอีกครั้ง ยานนิค การ์ราสโก้ ได้บอลหลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนกดเต็มข้อบอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปเด็ดขาด แอต.มาดริด ออกนำ 1-0 พร้อมหมดครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังนาทีที่ 63 เจ้าบ้านมาได้ลูกเตะมุม อองตวน กรีซมันน์ เปิดไปเสาสอง เกร์มาน เปซเซย่า กองหลังทีมเยือนโหม่งสกัดผิดเหลี่ยมส่งบอลเข้าประตูตัวเอง แอต.มาดริด หนีเป็น 2-0
นาทีที่ 80 “ตราหมี” เดินหน้าบุกต่อ ยานนิค การ์ราสโก้ จ่ายบอลทะลุช่องให้ ชูเอา เฟลิกซ์ ตัวสำรองหลุดเข้าไปยิงลอดขา เคลาดิโอ บราโว่ ซุกก้นตาข่าย แอต.มาดริด ทิ้งเป็น 3-0
จบเกม “ตราหมี” แอต.มาดริด เปิดบ้านถล่ม เรอัล เบติส 3-0 เก็บสามแต้ม ขยับรั้งอันดับ 4 ของตาราง ตามหลัง เรอัล โซเซียดาด จ่าฝูงเหลือเพียง 3 แต้ม แถมแข่งน้อยกว่าอยู่ 1 นัด
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แอต.มาดริด (3-4-2-1): ยาน โอบลัค, สเตฟาน ซาวิช,โฮเซ่ คิเมเนซ,มาริโอ เอร์โมโซ่,คีแรน ทริปเปียร์,โกเก้,โรดริโก้ เด ปอล (มาธีอัส คุนญ่า น.84),ยานนิค การ์ราสโก้ (เรนาน โลดี้ น.88),อังเคล กอร์เรอา (เฮคเตอร์ เอร์เรร่า น.83),อองตวน กรีซมันน์,หลุยส์ ซัวเรซ (ชูเอา เฟลิกซ์ น.71)
เรอัล เบติส (4-2-3-1): เคลาดิโอ บราโว่,มาร์ติน มอนโตย่า,เกร์มาน เปซเซย่า,เอ็ดการ์ กอนซาเลซ,อเล็กซ์ โมเรโน่,วิลเลี่ยม การ์วัลโญ่ (กุยโด้ กอนซาเลซ น.66),อันเดรียส กวาร์ดาโด้ (โรแบร์ กอนซาเลซ น.78),โรดรี้ ซานเชซ (ไอตอร์ รุยบัล น.46),โรดรี้ ซานเชซ,ฆวนมี่ (คริสเตียน เตโย่ น.46),วิลเลี่ยม โชเซ่ (บอร์ฆา อิเกียสเซีย น.78)
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ขัอดีของการ “ตรวจยีน” เช็กความเสี่ยงก่อนเกิดโรค
จะดีแค่ไหน หากเราได้มีโอกาสรู้ก่อนล่วงหน้าว่าอาจจะมีโอกาสเกิดโรคร้ายอะไรได้บ้าง ไม่เพียงช่วยให้เราสามารถดูแลและป้องกันโรคได้อย่างถูกวิธี แต่ยังช่วยให้สามารถตรวจเช็กสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ การตรวจ Genetic Testing หาความผิดปกติของยีนลึกลงไปถึงดีเอ็นเอจึงไม่เพียงช่วยประเมินความเสี่ยงสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แต่ยังเป็นการกำหนดพฤติกรรมสุขภาพเพื่อการมีอายุที่ยืนยาว
“ตรวจยีน” หาความเสี่ยงโรค (Genetic Testing)
นพ.ณัฏฐชัย สุวจิตตานนท์ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์ป้องกัน โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า การตรวจทางพันธุกรรม (Genetic Testing) เป็นการตรวจวิเคราะห์การกลายพันธุ์ของยีนในระดับดีเอ็นเอที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมของแต่ละบุคคล โดยจะวิเคราะห์ในแต่ละโรคว่าต้องดูที่ยีนตัวใดบ้าง จึงทำการตรวจตำแหน่งยีนนั้นว่ามีความผิดปกติหรือไม่
หากพบความผิดปกติจะมีการคำนวณคะแนนเพื่อประเมินผลว่าผู้ป่วยควรต้องดูแลตัวเองเพิ่มขึ้นหรือไม่อย่างไร โดยหลักการที่นำมาใช้จะเป็นการวิเคราะห์เชิงสถิติ นำคะแนนที่ได้ไปเทียบกับคะแนนของประชากร (Score Population) ว่ามีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน โดยคะแนนสูงไม่ได้หมายความว่าจะป่วยเป็นโรคเสมอไปและไม่สามารถชี้ได้ว่าจะเกิดหรือไม่เกิดโรค แต่เป็นการบอกความเสี่ยงจากพันธุกรรมว่าอาจจะมีโอกาสในการเกิดโรคนั้นๆ ได้
กลไกการเกิดโรคกับพันธุกรรมหลักๆ ได้แก่
- Genotype รูปแบบของยีนภายในที่ควบคุมการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของพันธุกรรม หากมีการกลายพันธุ์ของยีนบางยีนบางตำแหน่ง ซึ่งมาจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่ง อาจทำให้เกิดความผิดปกติของร่างกายได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะทำให้เกิดโรคเสมอไป บางคนก็อาจจะไม่เป็นโรค
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการแสดงออกของยีนให้เกิดความผิดปกติของร่างกายได้ คือ
- Penetrance หรือ เปอร์เซ็นต์ที่อธิบายความถี่ของการแสดงออกของยีน หากพบความผิดปกติของยีนนั้น ความน่าจะเป็นที่ยีนกลายพันธุ์จะแสดงลักษณะนั้นออกมาจะเป็นเท่าใด
- Epigenetic คือ กระบวนการควบคุมเหนือพันธุกรรม เป็นการเปลี่ยนแปลงการทำงานหรือพฤติกรรมของยีนนอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงในระดับ DNA มีบทบาทในการควบคุมการแสดงออกของยีนที่มีการถ่ายทอดทางพันธุกรรมที่ต่างกันออกไป โดยมีปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ เข้ามาส่งผลให้ยีนแสดงออกทางร่างกายต่างกัน และมีผลต่อความไวในการก่อโรคที่ต่างกันของแต่ละบุคคลตลอดทุกช่วงชีวิต
- Environmental Factors คือ ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ อาหาร การนอนหลับ วิธีออกกำลังกาย ความเครียด ฯลฯ ที่ส่งผลให้บุคคลหนึ่งๆ เกิดโรคต่างๆ ขึ้นได้
- Phenotype คือ การแสดงออกมาเป็นความผิดปกติของร่างกาย หรือการเกิดโรคต่างๆ นั่นเอง โดยอาจแบ่งออกได้เป็น ระดับไม่รุนแรง (Mild) ระดับปานกลาง (Moderate) ระดับรุนแรง (Severe) โดยการตรวจ Genetic Testing จะทำให้สามารถตรวจสุขภาพได้แบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ออกแบบการป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถตรวจเจอโรคในระยะแรกเริ่มและรักษาได้ไว เพื่อลดความรุนแรง ของโรคต่างๆ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
ขั้นตอนการตรวจยีนหาความเสี่ยงโรค
การตรวจทางพันธุกรรม (Genetic Testing) จะมีขั้นตอนดังนี้
- ตรวจสอบความแปรผันทางพันธุกรรมจากหลายๆ ตำแหน่งบนสาย DNA ของแต่ละบุคคล ผลที่ได้จะนำไปผ่านอัลกอริธึมเฉพาะเพื่อคำนวณออกมาเป็นคะแนนและแนวทางการดูแลสุขภาพก่อนเกิดโรคหรือภาวะสุขภาพต่างๆ
- ผลการตรวจจะนำคะแนนของผู้เข้ารับการตรวจมาคำนวณเพื่อแสดงเป็นแนวทางการดูแลสุขภาพที่เหมาะสม
- ทำการวิเคราะห์ผลของผู้เข้ารับการตรวจเปรียบเทียบกับคะแนนของการเกิดโรคเดียวกันในประชากรทั่วไปเพื่อให้ทราบว่าคะแนนของผู้เข้ารับการตรวจมีมากน้อยเพียงใดเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ
- ไม่ว่าผลที่ได้จะแสดงระดับการดูแลในระดับปกติ ใส่ใจ หรือใส่ใจเป็นพิเศษ สิ่งที่ต้องทราบ คือ สาเหตุของโรคหรือความเจ็บป่วยต่างๆ เกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยทางพันธุกรรม การดำรงชีวิต และสิ่งแวดล้อม การตรวจพบคะแนนทางพันธุกรรมสูงไม่ได้หมายความว่าจะต้องเกิดโรคอย่างแน่นอน
การตรวจพบปัจจัยทางพันธุกรรมช่วยให้เริ่มสังเกตความเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย รวมถึงอาการของโรคต่างๆ และดูแลสุขภาพอย่างจริงจัง เพราะแม้ปัจจัยทางพันธุกรรมเป็นสิ่งที่ติดตัวมาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ปัจจัยด้านการดำรงชีวิตและสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่สามารถปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้นได้ หากตรวจพบปัจจัยทางพันธุกรรมในระดับใส่ใจและใส่ใจเป็นพิเศษ ร่วมกับมีปัจจัยเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ หรือมีอาการผิดปกติ แนะนำให้นำผลการตรวจไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อปรึกษาและร่วมกันวางแผนการตรวจเพิ่มเติมหรือการดูแลรักษาต่อไป
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม การตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปีและหมั่นดูแลร่างกายตัวเองอยู่เสมอ เป็นเรื่องสำคัญและจำเป็น ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ งดสูบบุหรี่ งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เพื่อสุขภาพที่ดีและห่างไกลจากโรคร้ายได้อีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
หน้าที่ของ COMMA (,) ที่อาจไม่เคยรู้มาก่อน !!
เพื่อนๆ คุ้นเคยกับการคั่นประโยคหรือคำต่างๆ ด้วยการใช้ comma กันมาตลอดแต่ใครจะรู้ว่าหลักการใช้จริงๆ แล้วมีข้อกำหนดอะไรบ้าง เรามาดูกันต่อเลย
การใช้เครื่องหมาย COMMA (,) เพื่อแยกวลี คำ หรืออนุประโยคต่าง ๆ
ในการเขียนรายชื่อของสิ่งต่าง ๆ ในภาษาอังกฤษมักจะใช้เครื่องหมาย comma (,) เพื่อแยกรายชื่อหรือรายการแต่ละสิ่งออกมา แต่ 2 สิ่งสุดท้ายจะแยกโดยการใส่เครื่องหมาย comma (,) และตามด้วย “and” หรือ “or” โดยเครื่องหมาย comma (,) ตัวสุดท้ายนี้เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ “Oxford Comma”
การใช้เครื่องหมาย COMMA (,) เพื่อแยกอนุประโยค (ประโยค)
ตัวอย่างเช่น
When I was five, I used to go abroad with my family.
If the bus doesn’t come, I’ll take a taxi.
I know that she was hungry, but she didn’t eat anything.
I went to the bank, and I went to see the dentist.
การใช้เครื่องหมาย COMMA (,) เพื่อแยกคำนาม
ตัวอย่างเช่น
For dinner I had soup, fish, chicken, dessert, and coffee.
การใช้เครื่องหมาย COMMA (,) เพื่อแยกคำคุณศัพท์
ปกติแล้วหากมีคำคุณศัพท์หลายคำ คำคุณศัพท์จะถูกแยกออกจากกันด้วยการใช้เครื่องหมาย comma (,) คั่น แต่อย่างไรก็ดี หากใช้คำคุณศัพท์นั้นเพื่อขยายคำคุณศัพท์อีกคำ ในกรณีนี้เราจะไม่ใส่เครื่องหมาย comma (,) คั่น (ดูตัวอย่างที่ 3)
ตัวอย่างเช่น
She was young, beautiful, kind, and intelligent.
The house we visited was dark, dreary, and run-down.
She was wearing a bright red shirt.
การใช้เครื่องหมาย COMMA (,) เพื่อแยกคำกริยา
ตัวอย่างเช่น
Tony ran towards me, fell, yelled, and fainted.
The boy leapt, spun, twisted, and dove into the water.
การใช้เครื่องหมาย COMMA (,) เพื่อแยกวลี
ตัวอย่างเช่น
The car smashed into the wall, flipped onto its roof, slid along the road, and finally stopped against a tree.
The dog leapt into the air, snatched the frisbee in its mouth, landed, and ran off into the forest.
การเพิ่มรายละเอียดเพิ่มเติม
เราสามารถใช้เครื่องหมาย comma (,) เพื่อเพิ่ม non-defining relative clauses (อนุประโยคที่ขยายคำนามทั่วไป) รายละเอียดที่ไม่สำคัญอื่นๆ และความคิดเห็นต่างๆ ได้โดยจะใส่เครื่องหมายไว้ด้านใดก็ได้
ตัวอย่างเช่น
China, one of the most powerful nations on Earth, has a huge population.
Jason’s grandmother, who was born in 1930, lived through the Second World War.
Cats, unlike dogs, do not respect their masters.
My friend, Jim, likes to go scuba diving.
การใช้เครื่องหมาย COMMA (,) กับวลี PARTICIPLE
ตัวอย่างเช่น
Hearing that her father was in hospital, Jane left work immediately.
Walking to the bus stop that morning, Sam knew it was going to be a special day.
การใช้เครื่องหมาย COMMA (,) ใน QUESTIONS TAG
ตัวอย่างเช่น
She lives in Paris, doesn’t she?
We haven’t met, have we?
การใช้เครื่องหมาย COMMA (,) กับคำอุทาน
ตัวอย่างเช่น
Yes, I will stay a little longer, thank you.
No, he isn’t like other boys.
Wait, I didn’t mean to scare you.
ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th
Apple เดินหน้าสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2030
Apple เดินหน้าสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2030 โดยการเพิ่มพลังงานสะอาดอีก 9 กิกะวัตต์ และเพิ่มจำนวนซัพพลายเออร์ที่ให้คำมั่นว่าจะเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดอีก 2 เท่า
วันนี้ Apple ประกาศว่าบริษัทได้เพิ่มจำนวนซัพพลายเออร์ที่ให้คำมั่นว่าจะใช้พลังงานสะอาด 100% เป็น 2 เท่าในปีที่ผ่านมา เพื่อเร่งความคืบหน้าในเป้าหมายอันท้าทายของบริษัทที่จะทำให้ซัพพลายเชนและผลิตภัณฑ์มีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2030 ทำให้มีซัพพลายเออร์ของ Apple รวมทั้งหมด 175 รายที่จะเปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียน นอกจากนี้บริษัทและซัพพลายเออร์ยังจะนำพลังงานสะอาดมาใช้ทั่วโลกเพิ่มอีกมากกว่า 9 กิกะวัตต์ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยลดการปล่อย CO2e ได้มากกว่า 18 ล้านเมตริกตันต่อปี เทียบเท่ากับการนำรถยนต์ออกจากท้องถนน 4 ล้านคันในแต่ละปี
บริษัทได้เพิ่มโครงการใหม่อีก 10 โครงการสำหรับแผนงาน Power for Impact เพื่อนำโซลูชั่นด้านพลังงานสะอาดมาสู่ชุมชนทั่วโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่ยังไม่มีใครเคยทำมาก่อน โดยที่โครงการเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อเป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียนให้กับชุมชนที่ขาดแคลนทรัพยากร และในขณะเดียวกันยังช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและส่งผลดีทางสังคมด้วย
“ทุกบริษัทควรมีส่วนช่วยต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เราจึงร่วมมือกับซัพพลายเออร์และชุมชนในท้องถิ่นเพื่อแสดงให้เห็นว่านวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนั้นสามารถสร้างโอกาสและความเท่าเทียมได้มากแค่ไหน” Tim Cook ซึ่งเป็น CEO ของ Apple กล่าว “เรากำลังลงมือทำอย่างเร่งด่วน และเราลงมือทำร่วมกัน แต่เวลาเป็นทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไป เราจึงเร่งลงทุนในอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าและเท่าเทียมกันยิ่งขึ้น”
ถึงแม้ว่าการดำเนินงานทั่วโลกของ Apple จะเป็นกลางทางคาร์บอนแล้ว แต่ภายในปี 2030 อุปกรณ์ Apple ทั้งหมดที่จำหน่ายจะต้องมีผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศเป็นศูนย์ และนับตั้งแต่ประกาศเป้าหมายนี้ในปีที่ผ่านมา นอกจากบริษัทจะเพิ่มจำนวนซัพพลายเออร์ที่เปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียนได้เป็นจำนวนมากแล้ว ยังเพิ่มปริมาณของวัสดุรีไซเคิลที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ รวมถึงจัดตั้งโครงการใหม่ที่มุ่งเน้นเรื่องความเป็นธรรมด้านสิ่งแวดล้อมด้วย โดยรวม Apple สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไปได้แล้วถึง 40% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
“ชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากที่สุดกลับไม่มีปากมีเสียง ซึ่งเป็นปัญหาที่มีมาเนิ่นนาน และควรเกิดการเปลี่ยนแปลงได้แล้ว และเราก็ตั้งใจที่จะมีส่วนร่วมกับการเปลี่ยนแปลงนี้” Lisa Jackson ซึ่งเป็นรองประธานฝ่ายโครงการด้านสิ่งแวดล้อม นโยบาย และกิจกรรมทางสังคมของ Apple กล่าว “โครงการใหม่ที่เราร่วมกันทำจะช่วยชุมชนเหล่านี้โดยการริเริ่มโครงการพลังงานหมุนเวียนใหม่ๆ ในท้องถิ่นเพื่อสร้างโลกที่ดีต่อสุขภาพยิ่งขึ้นและเท่าเทียมกันมากขึ้น พร้อมกับยกระดับการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น”
ทิศทางของซัพพลายเออร์
ในสหรัฐอเมริกา ซัพพลายเออร์ 19 รายที่เข้าร่วมโปรแกรม Supplier Clean Energy ของ Apple อย่าง Solvay กำลังขยายการใช้พลังงานหมุนเวียนในการดำเนินงานทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับ Apple ซึ่งหลายครั้งเกินขอบเขตของธุรกิจที่ทำกับ Apple ด้วยซ้ำ ส่วนในยุโรป มีซัพพลายเออร์เข้าร่วมโปรแกรมแล้ว 19 ราย และหนึ่งในนั้นคือ STMicroelectronics ซึ่งได้ริเริ่มโครงการเพิ่มอีก 9 โครงการเพื่อจัดหาพลังงานหมุนเวียนให้ครอบคลุมการดำเนินงานของบริษัทมากขึ้นนับตั้งแต่เข้าร่วมโปรแกรมของ Apple
ขณะที่ในประเทศจีนมีซัพพลายเออร์เข้าร่วมโปรแกรมแล้ว 50 ราย และหลายรายตั้งใจที่จะใช้โซลูชั่นภายในไซต์ของตนเองให้เกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ในประเทศอินเดีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ก็มีซัพพลายเออร์เข้าร่วมโปรแกรม 31 ราย รวมถึง SK Hynix ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์เกาหลีรายแรกๆ ที่เข้าร่วม
นอกจากนี้ Apple ยังสร้างเส้นทางใหม่ๆ สำหรับการใช้วัสดุรีไซเคิล พร้อมกับรักษามาตรฐานระดับสูงของบริษัทในการจัดหา และร่วมมือกับซัพพลายเออร์เพื่อมุ่งสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนที่ช่วยอนุรักษ์ทรัพยากร และไม่จำเป็นต้องทำเหมืองแร่ที่มีคาร์บอนหนาแน่นอีกต่อไป
ซึ่งในส่วนนี้รวมถึงแหล่งวัสดุรีไซเคิลหลายชนิดที่วันนี้เป็นส่วนหนึ่งในผลิตภัณฑ์ Apple ด้วย ไม่ว่าจะเป็นทอง โคบอลต์ อะลูมิเนียม หรือแร่โลหะหายาก ความก้าวหน้าทั้งหมดนี้ รวมถึงการเปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียนของซัพพลายเออร์ ล้วนมีส่วนช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากผลิตภัณฑ์ของบริษัท ยิ่งกว่านั้นยังมีอีกหนึ่งความสำเร็จครั้งสำคัญในช่วงที่ผ่านมา นั่นคือการลดคาร์บอนฟุตพริ้นต์ของ iPhone 13 Pro ได้ถึง 11% และของ MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว ได้ถึง 8% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
การสนับสนุนชุมชน
นอกจากนี้ Apple ยังประกาศที่จะสนับสนุนโครงการใหม่ด้านพลังงานหมุนเวียนอีก 10 โครงการทั่วโลกผ่านทางโปรแกรม Power for Impact ของบริษัทดังนี้
ในสหรัฐอเมริกา Apple จะร่วมมือกับ Oceti Sakowin Power Authority ซึ่งก่อตั้งโดย 6 ชนเผ่า Sioux เพื่อร่วมกันพัฒนาแหล่งพลังงานหมุนเวียนของชนเผ่าโดยจะมีการสนับสนุนด้านการเงิน พัฒนา ก่อสร้าง และควบคุมการดำเนินงานของโรงงานผลิตและจ่ายกระแสไฟฟ้าสำหรับจำหน่ายในตลาดขายส่ง โครงการนี้เมื่อแล้วเสร็จจะนำไปสู่การพัฒนาด้านพลังงานลมขนาดใหญ่สำหรับภูมิภาค Midwest และสอดคล้องกับการที่องค์กรเข้าร่วม Impact Accelerator ของ Apple ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเพื่อความเสมอภาคและความยุติธรรมทางเชื้อชาติหรือ Racial Equity and Justice Initiative
ในประเทศแอฟริกาใต้ Apple อยู่ระหว่างการนำพลังงานหมุนเวียนมาสู่ครัวเรือนที่ก่อนหน้านี้ไม่มีไฟฟ้าใช้กว่า 35,000 ครัวเรือน และบริษัทยังช่วยลดค่าไฟฟ้าให้กับ Pioneer School for the Visually Impaired โดยการสนับสนุนเงินทุนเพื่อติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาด้วย ส่วนในประเทศไนจีเรีย Apple จะสนับสนุนการพัฒนาระบบพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อใช้ในศูนย์การแพทย์หลักของรัฐ Ondo รวมถึงอีก 200 ครัวเรือนในภูมิภาครอบข้าง
ในฟิลิปปินส์ Apple จะช่วยสนับสนุนเงินทุนให้แก่สถาบันการศึกษาที่มอบทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนยากไร้ที่มีผลการเรียนดี โดยการติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ชุดใหม่บนหลังคาเพื่อชดเชยค่าไฟฟ้า ส่วนในประเทศไทย Apple ก็มีส่วนในความร่วมมือเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนและแบตเตอรี่ที่ใช้เก็บพลังงานเพื่อให้สามารถเข้าถึงพลังงานไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการนำพลังงานนั้นมาใช้แทนเชื้อเพลิงดีเซลที่ก่อให้เกิดมลภาวะในหมู่บ้านชาวประมงที่อยู่ห่างไกล ซึ่งมักต้องอาศัยตู้เย็นในการรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ปลา นอกจากนี้ Apple ยังร่วมสนับสนุนโครงการในเวียดนามเพื่อจัดหาพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ให้แก่โรงเรียน 20 แห่งทั่วประเทศ และช่วยสอนเด็กหลายพันคนเกี่ยวกับการพัฒนาที่ยั่งยืนและ STEM
ในโคลอมเบีย Apple ช่วยนำระบบพลังงานแสงอาทิตย์มาติดตั้งใช้งานที่ Santa Ana Hospital Infantil ทำให้โรงพยาบาลสามารถนำเงินค่าไฟฟ้าที่ประหยัดได้นั้นไปซื้ออุปกรณ์การแพทย์และยาเพิ่มเติมได้ และยังมีการติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาของ Ciudad Don Bosco ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่ให้บริการด้านการศึกษาและสังคมสงเคราะห์แก่เด็กยากไร้ เพื่อช่วยให้องค์กรดังกล่าวบรรลุเป้าหมายด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ในอิสราเอล Apple ให้การสนับสนุน Nitzana Educational Eco-Village ที่ดูแลเยาวชนในกลุ่มเสี่ยง โดยการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อช่วยลดค่าไฟฟ้า และยังเป็นแหล่งรายได้ใหม่สำหรับองค์กรด้วย
Apple จะยังคงให้ความสำคัญกับชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากที่สุดต่อไป พร้อมกับเดินหน้าสู่เป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัท ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัทได้ที่ apple.com/th
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
เปิดจินตนาการแห่งการดีไซน์ไปกับ 3 นวัตกรรมเด่นจาก POLYMER MASTERในงานสถาปนิก’65
Style through different design
“ให้สัมผัสเหมือนไม้จริง ด้วยดีไซน์ที่แตกต่าง”
ไม้ตกแต่งภายในและภายนอก ผลิตจากพลาสติกและเส้นใยธรรมชาติ ด้วยนวัตกรรมที่พัฒนาเพื่อสร้างวัสดุคุณภาพดี ใช้งานง่าย ทนทานกว่าไม้และพลาสติกทั่วไป เป็นผลิตภัณฑ์ไม้พลาสติกคอมโพสิตที่มีดีไซน์หลากหลาย เหมาะสำหรับทั้งงานภายในและภายนอกอาคาร รวมถึงการใช้งานในเชิงพาณิชย์
เหตุผล…ทำไมคุณถึงควรเลือกใช้ไม้สังเคราะห์ Tree Concept สำหรับบ้านหรือธุรกิจของคุณ
- เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะทำจากวัสดุรีไซเคิล 100% และสามารถนำไปรีไซเคิลใหม่ได้ 100%
- ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย เนื่องจากง่ายต่อการดูแลรักษาและการติดตั้ง
- มีอายุการใช้งานยาวนาน ทนต่อการผุกร่อน และการกัดกินจากแมลงกินเนื้อไม้ต่าง ๆ
- แข็งแรงและมีความยืดหยุ่นมากกว่าผลิตภัณฑ์ไม้จริงแบบดั้งเดิม
- สามารถใช้กับเครื่องมืองานไม้มาตรฐานทั่วไปได้
ระบบประตูหน้าต่างอัจฉริยะ เทคโนโลยีแห่งอนาคตเพื่อคนที่คุณรัก
ประตูหน้าต่างเกิดขึ้นครั้งแรกในโลกที่ประเทศเยอรมัน เมื่อ 50 ปีที่แล้วมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนได้รับการยอมรับว่าเป็นวัสดุที่มีคุณภาพ มีมาตรฐานเป็นที่นิยมของสถาปนิก และเจ้าของบ้านทั่วโลก ทั้งนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถทนทานในสภาวะอากาศทั่วโลกตั้งแต่อุณหภูมิหนาวจัด เช่น มอสโก ประเทศรัสเซีย จนถึงร้อนจัดแบบทะเลทรายในตะวันออกกลางเช่น ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรต
โดยได้รับรองคุณภาพจากสถาบันชั้นนำต่าง ๆ ทั่วโลก ว่าประตูหน้าต่างจะไม่เหลืองกรอบหรือแตกหักง่าย ทนทานทุกสภาพภูมิอากาศ โดยมีส่วนผสมไททาเนียมซึ่งเป็นส่วนผสมพิเศษเฉพาะทำให้ได้รับยอมรับจากทั่วโลก นี่คือเหตุผลที่ทาง STARKE เลือกใช้เพื่อลูกค้าคนสำคัญ
10 คุณสมบัติที่เหนือกว่าของระบบประตู-หน้าต่าง
uPVC STARKE จากโพลีเมอร์ มาสเตอร์
- ประหยัดพลังงาน
- ป้องกันเสียงรบกวน
- ป้องกันการรั่วซึมของน้ำฝนและฝุ่นละออง
- ใช้วัสดุที่ไม่ติดไฟ
- ทนทานต่อการกัดกร่อน
- ดูแลรักษาง่าย
- ปลอดภัยด้วยระบบล็อค Multi-point lock
- ทนทานในทุกสภาพอากาศ
- รูปแบบสวยงาม
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ทางเลือกใหม่สำหรับ “วัสดุกรุผนัง สำหรับภายนอก”
ติดตั้งง่าย ในรูปแบบชุดผนังสำเร็จรูป
สวยงามด้วยรูปทรงและสีสันใกล้เคียงวัสดุธรรมชาติ มีให้เลือกหลากหลาย คงทนต่อทุกสภาวะอากาศ สะท้อนสไตล์และรสนิยมได้ดี เข้ากับงานออกแบบได้หลากหลาย ทั้งที่อยู่อาศัย ร้านค้า บูธ รวมไปถึงการตกแต่งพื้นที่ต่าง ๆ ที่ต้องการสร้างความรู้สึกและบรรยากาศของธรรมชาติ
MAIN EXCELLENCE
- สีสวยสด ปูได้เรียบเนียน / Rich in colors, neat in line
- ทนต่อการผุกร่อน / Corrosion resistant
- ทนต่อความชื้น / Moisture resistant
- ทนทาน มีอายุการใช้งาน 20 ปี / Ageing resistant, life time 20 years
ผลิตจาก วัสดุ “พอลีโพรพีลีน” (Polypropylene) I ทนทาน ไม่ผุกร่อนง่าย
“พอลีโพรพีลีน” (Polypropylene) หรือ PP พลาสติกเกรดดี เนื้อเหนียว คงรูปไม่ยืดหด ทนต่อความร้อนสูงได้ ทนแรงกระแทกได้ ช่วยป้องกันการผ่านของความชื้นได้ดี
ไม่ผุกร่อน ง่ายต่อการดูแลรักษา
INSTALLATIONS I ระบบ Clipping System ติดตั้งง่าย รวดเร็ว
ระบบ Clipping Systemที่ติดตั้งอย่างเป็นระบบ และเมื่อต้องการเปลี่ยนหรือซ่อมแซม ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย ด้วยระบบกันชนไขควง ช่วยจำกัดการเจาะทะลุของตะปูเกลียว เพื่อความเรียบเนียน และ ป้องกันการยืดตัว และการหดตัวของผนังสำหรับตกแต่ง
พบกับนวัตกรรมการสร้างสรรค์ดีไซน์
จาก POLYMER MASTER ในงานสถาปนิก’65
นวัตกรรมอัจฉริยะที่ตอบสนองผู้อยู่อาศัย, วัสดุทางเลือกใหม่, วัสดุทดแทนไม้ธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จาก บริษัท โพลีเมอร์ มาสเตอร์ จำกัด นั้น รอให้คุณมาสัมผัสด้วยตัวเอง พร้อมโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าภายในงาน บนพื้นที่จัดแสดงกว่า 120 ตารางเมตร ที่บูธหมายเลข S513 ในงานสถาปนิก’65 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 26 เม.ย. – 1 พ.ค. 65 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 01/11/2564
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 28,100.00 | 28,200.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,820.00 | 27,591.20 | 28,700.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,638.00 | 24,832.08 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,456.00 | 22,072.96 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 819.00 | 12,416.04 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 637.00 | 9,656.92 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,886.00 | 28,591.76 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 01/11/2564
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 32.55 | 32.55 | 34.05 | 33.25 | 33.70 | 32.55 | 32.85 | 33.05 | 33.25 | 32.55 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 32.28 | 32.28 | 33.78 | 32.98 | 33.43 | 32.28 | 32.58 | 32.78 | 32.98 | 32.28 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 31.04 | 31.04 | 32.54 | 31.74 | 32.19 | – | 31.34 | 31.54 | 31.74 | 31.04 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 24.44 | 24.44 | – | – | – | – | – | – | – | 24.44 |
เบนซิน 95 | 39.96 | – | – | – | 41.56 | – | 40.76 | 40.46 | – | 39.96 |
ดีเซล B7 | 29.69 | 29.69 | 30.29 | 29.94 | 30.09 | 29.69 | 29.89 | 29.69 | 29.94 | 29.69 |
ดีเซล | 29.54 | 29.54 | 30.14 | 29.79 | 29.94 | 29.69 | 29.74 | 29.69 | 29.79 | 29.54 |
ดีเซล B20 | 29.44 | 29.44 | 30.04 | – | 29.64 | – | 29.64 | 29.44 | – | 29.44 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 34.66 | 35.06 | 36.59 | 36.31 | – | – | – | – | – | 34.66 |
แก๊ส NGV | 15.59 | 15.59 | – | – | – | – | – | – | – | 15.59 |