เริ่มแล้ว คนกรุงสบาย จดทะเบียนที่ดินออนไลน์ใกล้บ้าน
คนกรุงสบาย จดทะเบียนที่ดินออนไลน์ใกล้บ้านกรมที่ดิน เปิดสำนักงานที่ดินอิเล็กทรอนิกส์ จดทะเบียนต่างสำนักงาน
นโยบายเปิดสำนักงานที่ดินอิเล็กทรอนิกส์จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมต่างสำนักงานรูปแบบออนไลน์ภายใต้แนวคิด “คนกรุงสบายจดทะเบียนที่ดินออนไลน์ใกล้บ้าน” ของกรมที่ดินสังกัดกระทรวงมหาดไทยนับเป็นอีกก้าวความสำเร็จ การพัฒนาระบบเทคโนโลยีบริการประชาชน ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีทางด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ
โดยยึดหลักภาครัฐของประชาชนเพื่อประชาชนและประโยชน์ส่วนรวม ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีที่มีนโยบายนำนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัยและระบบการทำงานที่เป็นดิจิทัลเข้ามาประยุกต์ในการพัฒนาให้บริการประชาชนในยุค Digital Transformation ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างสะดวก รวดเร็วและโปร่งใส
ที่ผ่านมาพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมอบนโยบายให้กรมที่ดินพัฒนาสำนักงานที่ดินอิเล็กทรอนิกส์จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมต่างสำนักงานแบบออนไลน์ ในเวลาต่อมากรมที่ดินได้จัดทำโครงการพัฒนาระบบสารสนเทศที่ดิน
โดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมของสำนักงานที่ดินซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับการให้บริการภาครัฐให้ทันต่อโลกยุคดิจิทัลที่จะทำให้ประชาชนสามารถเข้าไปใช้บริการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับการจดทะเบียนที่ไม่ต้องมีการประกาศหรือรังวัดกับสำนักงานที่ดินได้ทุกแห่งใกล้บ้าน
นำร่องในพื้นที่เขตกรุงเทพมหานคร17 สาขา วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 เนื่องในโอกาสกรมที่ดินครบรอบ121 ปี ก่อนขยายสู่จังหวัดในภูมิภาคครอบคลุมทั่วประเทศตามแผนงานปีต่อไป
นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมที่ดิน เปิดเผยว่า จาก กรมที่ดินได้มุ่งมั่นพัฒนาระบบเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนผู้ใช้บริการที่สำนักงานที่ดินให้ได้รับความสะดวกสบายสูงสุดลดค่าใช้จ่าย สอดรับนโยบายประเทศไทย 4.0 ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ด้วยนวัตกรรมตลอดจนได้เห็นวิวัฒนาการการให้บริการทำบัตรประชาชนในต่างพื้นที่ จึงนำไปสู่การให้บริการรูปแบบใหม่จดทะเบียนที่ดินต่างสำนักงานออนไลน์ใกล้บ้าน อย่างไรก็ตามกว่าจะพัฒนาระบบและเปิดให้บริการไม่ใช่เรื่องที่ง่าย
1.ต้องแก้ไขกฎหมาย
2.เตรียมความพร้อมให้เจ้าพนักงานที่ดินลงนามแทนสาขาอื่นได้
3.นำสารบบที่ดินทั่วประเทศจำนวน 39 ล้านแปลงเข้าสู่ระบบดิจิทัล
4.ต้องพัฒนาระบบจ่ายเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์หรือ e-Payment ทุกสาขาให้เกิดขึ้นพร้อมกัน
5.พัฒนาระบบสารสนเทศ หรือ เทคโนโลยีสารสนเทศเชื่อมโยงสำนักงานที่ดิน 461 สาขา
6.พัฒนาเครื่องมือให้มีความพร้อม เช่นคอมพิวเตอร์ ระบบลงลายมือชื่อเจ้าพนักงานที่ดิน เครื่องอ่านบัตรประชาชน
โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายพัฒนาระบบ 5 ปี กรมที่ดินเร่งรัดภายใน 3 ปีให้เกิดเป็นรูปธรรมจึงเกิดการทำนิติกรรมต่างสำนักงานเปิดตัวเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 เหตุผลที่เริ่มในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร เนื่องจากมีความพร้อมสมบูรณ์ทั้งบุคลากร อุปกรณ์การให้บริการ โฉนดที่ดินมากกว่า 2.2 ล้านจาก 34.4 ล้านแปลงทั่วประเทศ
ทั้งนี้ในแต่ละปีมีประชาชนผู้มาใช้บริการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมกว่า 9 แสนคนจัดเก็บรายได้มากกว่า 2,500-3,000 ล้านบาท/ต่อปี หากขยายการดำเนินการต่างสำนักงานที่ดินไปยังจังหวัดหัวเมืองใหญ่ จะเพิ่มปริมาณงานหลายเท่าตัวส่งเสริมเศรษฐกิจประเทศหมุนเวียน
โดยเฉพาะการลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์การซื้อ-ขายที่อยู่อาศัยจะพบกับความสะดวกคล่องตัว แตกต่างกับการให้บริการรูปแบบเดิมที่ต้องเดินทางไปยังสำนักงานที่ดิน ที่ที่ดินนั้นตั้งอยู่ก่อให้เกิดการเสียเวลารอคอย มีค่าใช้จ่าย ทั้งค่าโดยสารในทุกช่องทางอีกทั้งค่าใช้จ่ายจากการพักค้างแรม
สำหรับขั้นตอนการจดทะเบียนที่ดินออนไลน์ประชาชนต้องเตรียมความพร้อม5ขั้นตอนก่อนใช้บริการ
“ขั้นตอนที่1” เจ้าของที่ดินยื่นคำ ขอผ่านระบบ e-QLands ล่วงหน้าเวลาทำ การ 3 วันจากนั้นดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน e-QLands ผ่านสมาร์ทโฟนได้ทั้งระบบ IOS และAndroid และลงชื่อเข้าใช้เลือกรายการจองคิวจดทะเบียนต่างสำนักงาน (เฉพาะกทม.) เลือกสำนักงานที่ดินประเภทคำขอเอกสารหลักฐานตรวจสอบหลักฐานจากนั้นกดจองคิว
“ขั้นตอนที่2” สำนักงานที่ดินเปิดระบบ e-QLands และรับคำขอตรวจสอบข้อมูลประสานสำนักงานที่ดินเจ้าของพื้นที่ตรวจสอบรับรองความถูกต้อง จากนั้นรอการติดต่อกลับจากเจ้าหน้าที่
“ขั้นตอนที่3” เมื่อถึงวัดนัดหมายเจ้าของที่ดินและคู่สัญญาเดินทางไปสำนักงานที่ดินด้วยตนเองพร้อมโฉนดที่ดิน บัตรประจำตัวประชาชน
“ขั้นตอนที่4” เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินยืนยันการตรวจสอบและรับรองความถูกต้องตามระเบียบกรมที่ดิน เจ้าของที่ดินเสียบบัตรประชาชนเข้าเครื่องอ่านบัตรเจ้าพนักงานจดทะเบียนโฉนดที่ดินฉบับสำนักงานที่ดินลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
“ขั้นตอนที่5” เจ้าพนักงานที่ดินมอบโฉนดที่ดินฉบับเจ้าของที่ดินคืนให้กับเจ้าของที่ดิน
“การจดทะเบียนออนไลน์จะทำให้ระยะเวลาที่ประชาชนมาทำนิติกรรมสั้นลงเพราะเจ้าหน้าที่เตรียมเอกสารพร้อม คือสำนักงานที่มีโฉนดที่ดินตั้งอยู่ ต้องตรวจสอบเอกสารหลักฐานความถูกต้องก่อนจดทะเบียนต่างสำนักงาน ดังนั้นประชาชนจะสบายลดค่าใช้จ่าย แต่เจ้าหน้าที่ทำงานหนักขึ้นทั้งสองสาขาจากเดิมทำงานสาขาเดียว”
สำหรับแผนขยายการให้บริการสำนักงานที่ดินอิเล็กทรอนิกส์ ไปจังหวัดภูมิภาค ปี2566 จังหวัดหัวเมืองใหญ่ที่มีการทำนิติกรรมสูง อุบลราชธานีหนองคาย เชียงใหม่ สงขลา และปี 2567 ขอนแก่น นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ เพชรบุรี สิงห์บุรี
ประเมินว่า หากที่ดินตั้งอยู่จังหวัดหัวเมืองใหญ่ สามารถจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในเขต กทม. ได้ เชื่อว่าในอีกไม่ช้า 76 จังหวัด จะจดทะเบียนออนไลน์ต่างสำนักงานได้อย่างเสมอภาค สร้างความสะดวก สบาย ใกล้บ้าน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศให้เกิดการหมุนเวียนได้อย่างแท้จริง
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
CMC คว้าที่เช่าสำนักงานทรัพย์สินฯ 3 ไร่สี่พระยา ผุดเวลเนส 30 ปี
CMC คว้าสิทธิการเช่าที่ดิน สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ย่านธุรกิจสี่พระยา 3 ไร่ 30 ปี เดินหน้าโครงการมิกซ์ยูส Wellness Residence มูลค่ากว่า 1,900 ล้านบาท
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 นายแพทย์วิเชียร แพทยานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) CMC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์บนทำเลศักยภาพ เปิดเผยว่า ขณะนี้ CMC คว้าสิทธิการเช่าที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ บริเวณสี่พระยาบนพื้นที่ 3 ไร่ ระยะเวลาการเช่า 30 ปี
โดยตั้งงบลงทุนเบื้องต้น 1,900 ล้านบาท (ค่าเช่าที่ดินและค่าก่อสร้างโครงการในเบื้องต้น) เดินหน้าพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ (Mixed-use) รูปแบบ Wellness Residence จำนวนอาคาร High Rise 2 อาคาร มีทั้งสิ้น 288 ยูนิต เนื้อที่ 37,000 ตารางเมตร
ชูแนวคิด Mediplex แหล่งรวมการสร้างเสริมสุขภาพดีอย่างยั่งยืน Health and Wellness Medical Center ทั้งดูแลรักษาโรคทั่วไป แพทย์เฉพาะทาง ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ (Health Express) รวมถึงการเป็น Wellness Center ที่รองรับการพักอาศัยของผู้สูงอายุ โดยเล็งร่วมทุนกับพาร์ตเนอร์โรงพยาบาล เพื่อพัฒนาด้านเวลเนสเต็มศักยภาพ
นายแพทย์วิเชียร กล่าวเสริมว่า การพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสดังกล่าว ตั้งบนทำเลทองย่านธุรกิจสี่พระยา ซึ่งเป็นย่านเมืองเก่า Old Town มีกลิ่นอายการที่เป็นเอกลักษณ์และมีกิจกรรมการใช้ชีวิตครบวงจร คือ เยาวราชและสำเพ็ง
สามารถเชื่อมต่อกับความร่วมสมัยของย่านใจกลางเมือง CBD คือ สีลม สาทร และเจริญกรุง ใกล้แหล่งออฟฟิศและสถานศึกษา รวมทั้งด้านไลฟ์สไตล์ ตอบโจทย์ทุกกิจกรรมการใช้ชีวิตคนเมือง Urban Living ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเดินหน้าแผนการพัฒนาโครงการภายในไตรมาส 3 / 2565 นี้
“CMC มีกลยุทธ์ขยายการลงทุนเพื่อสร้างการเติบโต ผ่านการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ ครอบคลุม กทม. และปริมณฑล แนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย รวมถึงพื้นที่กำลังพัฒนาย่านชานเมืองที่รองรับการขยายตัวของเมืองหลวง พร้อมกับเปิดรับพาร์ตเนอร์ร่วมกันพัฒนาโครงการในอนาคตเสริมศักยภาพให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น”
ขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net
บาทเปิด 32.63/65 บาทต่อดอลลาร์ แนวโน้มผันผวน
เงินบาทเปิดตลาด 32.63/65 บาทต่อดอลลาร์ แนวโน้มผันผวนตามสถานการณ์ยูเครน-จับตาท่าทีดอกเบี้ยเฟด
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.63/65 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็กน้อยจากเย็นวานที่ระดับ 32.65 บาท/ดอลลาร์ ช่วงนี้เงินบาทเคลื่อนไหวตามปัจจัยความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งช่วงนี้ต่างฝ่ายต่างอยากกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจา จึงทำให้ทิศทางของเงินบาทไปในทางแข็งค่า แต่อย่างไรก็ดี ยังมีความเสี่ยงและมีโอกาสที่สถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
“เมื่อใดที่ความขัดแย้งปะทุขึ้น ตลาดหุ้นจะลง เงินบาทจะอ่อน แต่เมื่อมีสัญญาณบวก เช่น การพัก การหยุดยิง ตลาดหุ้นก็จะดีบาทก็จะกลับมาแข็งค่า…สถานการณ์ตอนนี้ยังมีโอกาสจะเปลี่ยนแปลงได้ทุกนาที” นักบริหารเงินระบุ
ช่วงนี้ปัจจัยที่ต้องติดตามนอกจากเป็นเรื่องความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนแล้ว ต้องติดตามท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เพราะหลังจากเริ่มเกิดความขัดแย้งขึ้นในรัสเซีย-ยูเครนแล้ว เริ่มมีข่าวออกมาว่าอาจจะทำให้เฟดชะลอการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนมี.ค.นี้
นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.50 -32.80 บาท/ดอลลาร์
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
เซฟเก็บไว้ดู! เปิดโปรแกรมวอลเลย์บอลเนชั่นส์ ลีก 2022 ของทีมสาวไทย
วอลเลย์บอลเนชั่นส์ ลีกปีนี้ มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันใหม่ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 8 ทีม ในรอบแรกทุกทีมจะแข่งขันทีมละ 12 นัด ทั้งหมด 3 สัปดาห์
โดยทีมอันดับ 1-8 ที่มีผลงานดีสุด จะได้ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายซึ่งจะแข่งขันกันแบบน็อคเอาท์ในสัปดาห์ที่ 4
สำหรับประเภททีมหญิงรอบแรกจะแข่งขัน 3 สัปดาห์ แบ่งเป็นสัปดาห์ละ 2 สนาม เริ่มแข่งตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2565
สัปดาห์ที่ 1 กลุ่ม 2 แข่งขันกันที่กรุงอันคารา ประเทศตุรกี
วันที่ 31 พฤษภาคม 2022
ไทย พบ รัสเซีย เวลา 19.30 น.
วันที่ 2 มิถุนายน 2022
ไทย พบ เซอร์เบีย เวลา 17.00 น.
วันที่ 4 มิถุนายน 2022
ไทย พบ เบลเยียม เวลา 17.00 น.
วันที่ 5 มิถุนายน 2022
ไทย พบ จีน เวลา 17.00 น
สัปดาห์ที่ 2 กลุ่ม 4 แข่งขันกันที่เมืองเกซอน ซิตี้ ประเทศฟิลิปปินส์
วันที่ 14 มิถุนายน 2022
ไทย พบ แคนาดา เวลา 14.00 น.
วันที่ 16 มิถุนายน 2022
ไทย พบ โปแลนด์ เวลา 10.00 น.
วันที่ 17 มิถุนายน 2022
ไทย พบ ญี่ปุ่น เวลา 18.00 น.
วันที่ 19 มิถุนายน 2022
ไทย พบ สหรัฐอเมริกา เวลา 14.00 น.
สัปดาห์ที่ 3 กลุ่ม 6 แข่งขันกันที่เมืองอูฟา ประเทศรัสเซีย
วันที่ 28 มิถุนายน 2022
ไทย พบ เกาหลีใต้ เวลา 18.00 น.
วันที่ 30 มิถุนายน 2022
ไทย พบ โดมินิกัน เวลา 18.00 น.
วันที่ 1 กรกฎาคม 2022
ไทย พบ อิตาลี เวลา 14.00 น.
วันที่ 2 กรกฎาคม 2022
ไทย พบ บราซิล เวลา 14.00 น.
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
13 วิธี ป้องกันภาวะ “อุจจาระตกค้าง”
- ภาวะอุจจาระตกค้าง สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย แม้แต่ผู้ที่มีสุขภาพดีหรืออุจจาระทุกวันแต่อุจจาระไม่หมด โดยอาจเกิดจากการเบ่งถ่ายผิดวิธีหรืออาจเกิดจากพฤติกรรมการกลั้นอุจจาระ
- อุจจาระตกค้าง หากปล่อยไว้เป็นเวลานาน จนกลายเป็นอุจจาระที่ติดแน่นสะสม ส่งผลให้มีภาวะท้องผูกที่รุนแรงขึ้น แน่นท้อง รู้สึกมีลมจำนวนมาก คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ ตลอดจนหายใจติดขัด
- การรับประทานยาระบายอาจส่งผลให้เกิดภาวะลำไส้ติดยา หรือลำไส้ดื้อยา และต้องเพิ่มปริมาณการใช้ยาระบายเรื่อยๆ จนกระทั่งใช้เท่าไหร่ก็ถ่ายไม่ออก
ปัญหาเรื่องการขับถ่ายไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่เป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลกระทบต่ออวัยวะต่างๆ ภายในร่างกาย และอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคอันตรายอย่างมะเร็งลำไส้ หากละเลยไม่ใส่ใจก็อาจกลายเป็นปัญหาเรื้อรัง ที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้อีกด้วย
อุจจาระตกค้าง อาจเริ่มต้นจากอาการท้องผูก
ด้วยเศรษฐกิจ อาหารการกิน รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คนในปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดปัญหาท้องผูก (Constipation) ซึ่งพบมากกว่าร้อยละ 30 ของประชาชนทั่วไป และมักพบในผู้สูงอายุ รวมถึงพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายถึง 2 เท่า
สำหรับภาวะท้องผูกทางการแพทย์นั้น หมายถึง ภาวะที่ขับถ่ายยาก อาจต้องใช้เวลาเบ่งถ่ายเป็นเวลานาน จำนวนการขับถ่ายน้อยกว่าสัปดาห์ละ 3 ครั้ง การขับถ่ายแต่ละครั้งได้ไม่มาก มีลักษณะเป็นเม็ดแข็ง รู้สึกอึดอัดแน่นท้องเหมือนถ่ายไม่สุด
ทั้งนี้ หากมีอาการท้องผูกนานกว่า 3 เดือน หรือพบว่ามีอาการท้องผูกร่วมกับอาการเตือนอื่นๆ เช่น น้ำหนักลด ถ่ายเป็นเลือด ท้องผูกสลับท้องเสีย ถ่ายอุจจาระลำเล็กลง ควรพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษา เนื่องจากถึงแม้ภาวะท้องผูกจะไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายแรงอื่นๆ เช่น โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติญาติสายตรงเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือเริ่มมีอาการท้องผูกเมื่ออายุมากกว่า 50 ปี
นอกจากภาวะท้องผูกแล้ว ปัญหาการขับถ่ายที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย หรือแม้แต่คนที่สุขภาพดีก็ตาม คือภาวะอุจจาระตกค้าง
ทำความรู้จักภาวะอุจจาระตกค้าง
นพ. อนุพงศ์ ตั้งอรุณสันติ แพทย์ชำนาญการด้านโรคระบบทางเดินอาหาร ชำนาญเฉพาะด้าน โรคกรดไหลย้อน และท้องผูก โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ระบุว่า อุจจาระตกค้าง เป็นภาวะที่ขับถ่ายอุจจาระออกไม่หมดทำให้มีการตกค้างอยู่ภายในลำไส้ หากปล่อยไว้เป็นเวลานานจนอุจจาระเกาะติดแน่น เมื่อมีอุจจาระใหม่ก็จะไม่สามารถขับอุจจาระเก่าออกไปได้ กลายเป็นอุจจาระที่แข็งติดแน่นสะสมไม่สามารถออกไปจากลำไส้ได้ ส่งผลให้มีอาการท้องผูกรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ หายใจติดขัด แน่นท้อง รู้สึกมีลมจำนวนมาก
สาเหตุของภาวะอุจจาระตกค้าง
ภาวะอุจจาระตกค้าง สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย แม้แต่ผู้ที่มีสุขภาพดีหรืออุจจาระทุกวัน โดยมีสาเหตุ ดังนี้
- การเบ่งถ่ายอุจจาระผิดวิธี เช่น การเบ่งถ่ายขณะหายใจเข้าแล้วแขม่วท้อง
- การกลั้นอุจจาระ ผู้ป่วยอาจปวดอุจจาระในระหว่างการเดินทาง ระหว่างการประชุม หรือสถานการณ์ต่างๆ จนต้องกลั้นอุจจาระไว้ไม่สามารถเข้าห้องน้ำขณะรู้สึกปวดได้
- ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยเรื้อรัง ที่เคลื่อนไหวน้อย
- รับประทานอาหารไขมันสูง เช่น เนื้อแดง หรืออาหารที่ย่อยยาก ไม่มีกากใย รวมถึงอาหารที่ทำให้เกิดอาการอืดแน่นท้อง
- ขาดการออกกำลังกาย
- ดื่มน้ำน้อย
- ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดบ่อย จนลำไส้เป็นพังผืด มีซอกหลืบให้อุจจาระไปตกค้าง
อาการของภาวะอุจจาระตกค้าง
หากอุจจาระตกค้างจำนวนมากและปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดความผิดปกติต่อร่างกายมากมาย ดังนี้
- ปวดท้อง ท้องอืด แน่นท้อง ไม่สบายท้อง
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ต้องใช้แรงในการเบ่งอุจจาระอย่างมาก
- รู้สึกว่าอุจจาระไม่สุด หรืออุจจาระไม่หมดท้อง
- มีเลือดปนอุจจาระ
- ปัสสาวะบ่อยจากการที่กระเพาะปัสสาวะถูกกดทับ
- ปวดหลังส่วนล่าง
- หายใจติดขัด หายใจได้ครึ่งเดียว ต้องหายใจลึกๆ ตลอดเวลา
- รับประทานอาหารได้น้อยมาก เบื่ออาหาร
- ขมคอ เรอเปรี้ยว และผายลมตลอดทั้งวัน
- อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ
การป้องกันภาวะอุจจาระตกค้าง
- ฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลาทุกวัน โดยเฉพาะช่วงเช้าหลังตื่นนอน ประมาณ 5-7 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด
- ฝึกเบ่งถ่ายอุจจาระอย่างถูกวิธี โดยนั่งบนโถชักโครกแล้วโค้งตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย กรณีที่เท้าเหยียบไม่ถึงพื้นหรือเป็นเด็ก ควรมีที่วางเท้า เพื่อออกแรงเบ่งอุจจาระได้ดีขึ้น
- สำหรับคนที่ขับถ่ายยาก วิธีถ่ายให้หมดท้อง อาจใช้มือกดท้องด้านซ้ายล่างขณะขับถ่ายเพื่อช่วยกระตุ้นให้ลำไส้เคลื่อนตัวได้ดีขึ้น
- ลดอาหารที่มีไขมันสูง เพิ่มการรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผัก ผลไม้ต่างๆ
- ดื่มน้ำให้พอเพียง
- ไม่กลั้นอุจจาระเด็ดขาด ควรขับถ่ายทันทีที่ปวด
- หากยังไม่ปวดอุจจาระแต่จำเป็นต้องออกนอกบ้าน ไม่ควรพยายามเบ่งขณะที่ยังไม่ปวด เนื่องจากการเบ่งอุจจาระแรงๆ เป็นการกระตุ้นและเพิ่มแรงดันในลำไส้ หากทำบ่อยๆ อาจทำให้ลำไส้โป่งพอง เกิดริดสีดวงทวารได้
- กรณีมีภาวะท้องผูก ควรรับประทานอาหารที่มีโปรไบโอติกเพิ่ม เช่น นมเปรี้ยว ชาหมัก
- ฝึกหายใจให้ถูกวิธี โดยหายใจเข้าท้องป่อง หายใจออกท้องแฟบ
- ไม่ควรเกร็งขณะเบ่งถ่าย
- ลุกขึ้นขยับร่างกายหลังรับประทานอาหาร เพื่อช่วยให้ลำไส้ได้บีบตัว และกระเพาะอาหารย่อยอาหารได้ดีขึ้น
- ออกกำลังกายเป็นประจำ
- ปรึกษาแพทย์ เพื่อทำการวินิจฉัย และรักษาอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
การรักษาภาวะอุจจาระตกค้าง
หลังการวินิจฉัยแล้ว แพทย์จะทำการรักษาด้วยวิธีต่างๆ เช่น สวนทวารหนัก เหน็บยา หรือให้ยาระบาย กรณีพบว่าผู้ป่วยมีอาการรุนแรง อาจพิจารณาการผ่าตัดเพื่อนำอุจจาระออกมาจากลำไส้ แต่เป็นกรณีที่พบได้น้อยมาก
อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยไม่ควรซื้อยาระบายมารับประทานเองเด็ดขาด เนื่องจากการรับประทานยาระบายบางประเภทอาจส่งผลให้เกิดภาวะลำไส้ติดยา หรือลำไส้ดื้อยา และต้องเพิ่มปริมาณการใช้ยาระบายขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งใช้เท่าไหร่ก็ถ่ายไม่ออก ซึ่งเป็นข้อเสียของการใช้ยาระบายเองโดยที่ไม่หาสาเหตุ ดังนั้น หากพบว่ามีอาการของภาวะอุจจาระตกค้างควรรีบพบแพทย์ เพื่อทำการวินิจฉัยและรับการรักษาที่ตรงจุด เนื่องจากการซื้อยาระบายมารับประทานเองเป็นระยะเวลานาน จะทำให้ทำการรักษาได้ยากขึ้น ต้องมีการปรับยา หรือต้องใช้การรักษาร่วมกันหลายๆ วิธี
การกลั้นอุจจาระและขับถ่ายไม่ถูกวิธีอาจส่งผลให้เกิดภาวะอุจจาระตกค้าง แม้กับผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดี ออกกำลังกายสม่ำเสมอและใส่ใจสุขภาพ ดังนั้น หากพบว่าการขับถ่ายเปลี่ยนไป หรือมีอาการต่างๆ เช่น ท้องผูก เวียนศีรษะ คลื่นไส้ เบื่ออาหาร ฯลฯ ควรรีบพบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อทำการวินิจฉัยอย่างแม่นยำ และรับการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสมต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ศัพท์ที่เขียนเหมือนกันแค่คนละความหมาย
หลายครั้ง ที่เราเจอคำศัพท์ในบริบทนึง ศัพท์นั้นมีความหมายแบบนึง แต่พอไปเจอในอีกบริบทนึงกลับมีความหมายอีกแบบนึง อ๋าาาาแค่เริ่มมาหัวก็จะปวดล่ะ
แต่อย่าเพิ่งปวดไป เพราะรู้ไหมว่าคำศัพท์แบบนี้เขามีชื่อเรียกนะ
เขาเรียกว่า “Homograph” มาจาก “Homo = เหมือน, Graph = เขียน” หรือในภาษาไทยที่เรียกว่า
“คำพ้องรูป” ที่ซึ่งเป็นคำศัพท์ที่เขียนเหมือนกัน สะกดเหมือนกัน แต่มีความหมายไม่เหมือนกัน ลองมาดูตัวอย่างที่แอดเอามาฝากกันค่า
Lead
(v.) นำ, สั่ง, บัญชาการ
(n.) ลม
Bass
(n.) ดนตรีเสียงต่ำ
(n.) ชนิดปลา
Close
(v.) ปิด
(adj.) ใกล้, ใกล้ชิด, สนิท
Bow
(v.) โค้งคำนับ
(n.) หูกระต่าย
Ball
(n.) ลูกบอล, งานเลี้ยงลีลาศ, อัณฑะ
Fly
(v.) บิน
(n.) แมลงวัน, ซิป
Left
(v.) ปล่อย ทิ้ง ออกจาก; รูปอดีตของ leave
(adj.) ซ้าย
Fair
(adj.) ยุติธรรม, สวย, โทนผิวขาว
(n.) งานแสดงสินค้า
Tear
(n.) น้ำตา
(v.) ฉีก, ขาด
Sow
(v.) หว่านเมล็ด ใช้ในการเกษตร
(n.) สุกรเพศเมีย
ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th
[งาน MWC 2022] OPPO จัดแสดงนวัตกรรมใหม่ล่าสุด พร้อมประกาศความแข็งแกร่งของธุรกิจระดับโลก
ในวันเปิดงาน Mobile World Congress (MWC) 2022 ทาง OPPO ได้เปิดตัวเทคโนโลยีที่น่าตื่นเต้นมากมาย เช่น 150W SUPERVOOCTM flash charge พร้อม Battery Health Engine ที่เพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่เป็นสองเท่า, 240W SUPERVOOCTM flash charge ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 4,500mAh ได้ใน 9 นาที และ OPPO 5G CPE T2 รุ่นใหม่ ที่สามารถแปลงสัญญาณ 5G เป็น Wi-Fi ได้อย่างรวดเร็ว
โดย OPPO ยังจัดแสดงสมาร์ทโฟนแฟลกชิป เช่น Find N และ OnePlus 10 Pro ตลอดจนเทคโนโลยีเป็นนวัตกรรมต่างๆ เช่น MariSilicon X Imaging NPU, OPPO Air Glass, OPPO Retractable Camera และอื่นๆ อีกมากมาย
“แม้จะมีความท้าทายมากมายที่เราต้องเผชิญในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมโทรคมนาคมยังคงมีแนวโน้มการพัฒนาในเชิงบวก และพวกเรา OPPO ก็ได้มองเห็นการเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง” Billy Zhang, Vice President of Overseas Sales and Service of OPPO กล่าว “เทคโนโลยีอย่าง 240W SUPERVOOCTM flash charge แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรม ในขณะที่อุปกรณ์อย่าง OPPO 5G CPE T2 เน้นย้ำทิศทางใหม่ที่ธุรกิจของเรากำลังมุ่งหน้าไป และด้วยการประกาศ Brand proposition ของเรา ‘Inspiration Ahead’ OPPO ใช้นวัตกรรมและการทำงานร่วมกันเพื่อเอาชนะความท้าทายร่วมกับพันธมิตรของเรา โดยเน้นมนุษย์เป็นหัวใจสำคัญและประสบการณ์เทคโนโลยีที่เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจมาสู่ผู้ใช้ทั่วโลก”
การเติบโตอย่างมั่นคงทั่วโลกและความแข็งแกร่งในตลาดระดับกลาง-ไฮเอนด์
หลังจากการลงทุนอย่างต่อเนื่องของบริษัทในด้านการวิจัยและพัฒนารวมถึงความมุ่งมั่นในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด OPPO ยังคงรักษาตำแหน่งแบรนด์สมาร์ทโฟนที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกในปี 2021 โดยมีอัตราการเติบโต 22% เมื่อเทียบปีต่อปี และส่วนแบ่งการตลาด 11% (Canalys) นอกจากนี้การส่งออกของ OPPO Find X3 Series ยังมีอัตราเพิ่มขึ้นถึง 140% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า และในฐานะผู้บุกเบิก 5G OPPO ได้รับการจัดอันดับให้เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟน Android 5G ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก 2 ปีติดต่อกัน
ด้วยการนำเสนอ Brand proposition ใหม่อย่าง “Inspiration Ahead” OPPO ได้นำเสนอการมองโลกในแง่ดีและแรงบันดาลใจในการต่อสู้กับความท้าทายและความยากลำบาก โดย OPPO ยังได้ลงรายละเอียดถึงความพยายามในการปกป้องสิ่งแวดล้อม พลังของคนรุ่นใหม่ ความเท่าเทียมทางดิจิทัล รวมถึงสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีในรายงาน 2021 OPPO Sustainability Report โดยเพื่อช่วยลดมลภาวะและของเสีย OPPO ได้มีการรีไซเคิลโทรศัพท์มากกว่า 1.2 ล้านเครื่องในประเทศจีน ซึ่งเทียบเท่ากับขยะอิเล็กทรอนิกส์มากกว่า 215 ตัน
เทคโนโลยี SUPERVOOCTM Flash Charge ใหม่ช่วย เพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่และสร้างสถิติใหม่ในอุตสาหกรรม
นับตั้งแต่เปิดตัว OPPO SUPERVOOCTM ในปี 2014 OPPO เป็นผู้นำด้านการพัฒนาและนวัตกรรมเทคโนโลยีการชาร์จเร็วมาโดยตลอด ในเดือนธันวาคม ปี 2021 ผู้ใช้กว่า 220 ล้านคนทั่วโลกได้สัมผัสกับประสบการณ์การชาร์จเร็วที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และรวดเร็วจาก OPPO โดยในงาน MWC 2022 OPPO ได้เปิดตัว 150W SUPERVOOCTM flash charge ล่าสุดอย่างเป็นทางการ สร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีการชาร์จตรงพร้อมปั๊มชาร์จ โดย 150W SUPERVOOCTM flash charge สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 4,500 mAh ได้ถึง 50% ในเวลาเพียง 5 นาที และชาร์จได้เต็ม 100% ในเวลาเพียง 15 นาที
Battery Health Engine ช่วยรักษาระดับแบตเตอรี่ได้ที่ 80% ของความจุเดิมหลังจากรอบการชาร์จถึง 1,600 รอบ ซึ่งเป็นสองเท่าของมาตรฐานอุตสาหกรรมในปัจจุบัน
150W SUPERVOOCTM flash charge ยังมีการรวม Battery Health Engine ของ OPPO ซึ่งเปิดตัวใน OPPO Find X5 series เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเทคโนโลยีนี้ช่วยรักษาระดับแบตเตอรี่ได้ที่ 80% ของความจุเดิมหลังจากรอบการชาร์จถึง 1,600 รอบ ซึ่งเพิ่มเป็นสองเท่าของมาตรฐานอุตสาหกรรมปัจจุบันที่อยู่ที่ 800 รอบ
150W SUPERVOOCTM flash charge จะเปิดตัวในสมาร์ทโฟน OnePlus ในไตรมาสที่ 2 ปี 2022
240W SUPERVOOCTM flash charge ก้าวข้ามขีดจำกัดของพลังการชาร์จอีกครั้ง
OPPO ยังต้อนรับเทคโนโลยีการชาร์จที่ทำลายสถิติใหม่ด้วยการเข้ามาของ 240W SUPERVOOCTM flash charge ดังที่จัดแสดงที่งาน MWC 2022 โดย 240W SUPERVOOCTM นี้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 4,500mAh ได้เต็ม 100% ในเวลาประมาณ 9 นาที นับเป็นการก้าวข้ามขีดจำกัดของการชาร์จอย่างแท้จริง
5G CPE T2 ใหม่ แปลงสัญญาณ 5G เป็นการเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่รวดเร็วและเสถียร
OPPO 5G CPE T2
อุปกรณ์ 5G CPE สามารถแปลงสัญญาณ 5G เป็นการเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi หรือ LAN ทำให้อุปกรณ์หลายเครื่องสามารถเชื่อมต่อกับบริการ 5G ได้ในสภาพแวดล้อมอย่างบ้าน สำนักงาน และสถานที่อื่นๆ โดยในพื้นที่ที่ไม่มีโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์ อุปกรณ์สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต 5G ได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ 5G CPE โดยใส่ 5G SIM card เท่านั้น
OPPO 5G CPE T2 เป็นผลิตภัณฑ์ล่าสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ 5G CPE ของ OPPO โดยมาพร้อมระบบ Qualcomm® SnapdragonTM X62 5G modem-RF และเทคโนโลยีเสาอากาศอัจฉริยะ O-Reserve 2.0 ที่อัปเดตของ OPPO ซึ่งสามารถแปลงสัญญาณ 5G เป็นการเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่รวดเร็วและเสถียรได้ ก่อนการเปิดตัว T2 อุปกรณ์ 5G CPE รุ่นก่อนหน้าของ OPPO ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทั่วโลก ด้วย T2 ใหม่ ปัจจุบัน OPPO ได้บรรลุข้อตกลงกับผู้ให้บริการในตะวันออกกลาง แอฟริกา เอเชีย-แปซิฟิก และยุโรป เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้คนในภูมิภาคต่างๆ มากขึ้นด้วยพลังการเชื่อมต่อกับ 5G CPE ในช่วงครึ่งหลังของปี 2022
SUPERVOOCTM flash charge ของ OPPO และ 5G CPE T2 ทั้งหมดจะมีให้คุณได้สัมผัสที่ OPPO Booth ในงาน MWC 2022 #3M10 ฮอลล์ 3 ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ถึง 3 มีนาคม ทั้งนี้ OPPO ยังได้สร้าง Virtual playground [1] เพื่อให้ผู้ที่ติดตามและชื่นชอบเทคโนโลยีทั่วโลกสามารถสัมผัสประสบการณ์ล่าสุดจาก OPPO ได้ผ่านอุปกรณ์สมาร์ทของตัวเองอย่างสะดวกและทั่วถึง
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
เตย ประโยชน์ดีๆ สรรพคุณเด่นๆ และข้อมูลงานวิจัย
ถิ่นกำเนิดเตย
เตยเป็นพืชที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว เพราะได้นำมาใช้ประโยชน์ต่างๆมากมาย โดยเฉพาะส่วนของใบที่เราเรียกว่า ใบเตย จึงทำให้เรียกพืชชนิดนี้ติดปากกันมาจนถึงปัจจุบันว่า “ใบเตย” สำหรับถิ่นกำเนิดของเตยนั้น เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาทิ ไทย พม่า ลาว มาเลเซีย และประเทศอินเดีย รวมถึงทวีปอื่น เช่น แอฟริกา และออสเตรเลีย ชอบขึ้นตามพื้นที่ชุ่ม ริมลำน้ำหรือบริเวณที่ชื้นแฉะที่มีน้ำขังเล็กน้อย ในประเทศไทยสามารถพบได้ทั่วทุกภาคของประเทศ
ประโยชน์และสรรพคุณเตย
ใบเตยนำมาห่อทำขนมหวาน เช่น ขนมตะโก้ ใบนำมามัดรวมกัน ใช้สำหรับวางในห้องน้ำ ห้องรับแขกเพื่อให้อากาศมีกลิ่นหอม ช่วยในการดับกลิ่นหรือใช้ใบเตยสดนำมายัดหมอน ช่วยให้มีกลิ่นหอม นำมาใช้เป็นสารแต่งกลิ่นบุหรี่ นำมาสับเป็นชิ้นเล็กๆ นำไปตากแดดให้แห้ง ก่อนใช้ชงเป็นชาดื่ม น้ำมันหอมระเหยจากเตยนำไปเป็นส่วนผสมของน้ำยาปรับอากาศ ใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอาง ครีมทาผิว แชมพู สบู่ หรือ ครีมนวด เป็นต้น
- ช่วยบำรุงหัวใจ
- ช่วยลดน้ำตาลในเลือด
- ช่วยลดความดันโลหิต
- ใช้รักษาโรคหัด
- รักษาเลือดออกตามไรฟัน
- แก้หวัด
- รักษาอาการตับอักเสบ
- ช่วยดับพิษไข้
- แก้โรคหัด
- แก้ท้องอืด
- แก้กระหายน้ำ
- แก้ร้อนใน
- ช่วยขับปัสสาวะ
- รักษาเบาหวาน
- ใช้รักษาโรคตับ ไตอักเสบ
- รักษาโรคหืด
- แก้หนองใน
- แก้พิษโลหิต
- แก้ตานซางในเด็ก
- ช่วยละลายก้อนนิ่วในไต
รูปแบบและขนาดวิธีใช้
- ใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ ใช้ใบสดผสมในอาหาร แล้วรับประทาน หรือนำใบสดมาคั้นน้ำรับประทาน ครั้งละ 2-4 ช้อนแกง
- ช่วยดับกระหาย นำใบเตยสดมาล้างให้สะอาด นำมาตำหรือปั่นให้ละเอียด แล้วเติมน้ำเล็กน้อย คั้นเอาแต่น้ำดื่ม
- รักษาโรคหัดหรือโรคผิวหนัง โดยนำใบเตยมาตำแล้วมาพอกบนผิว
- ใช้รักษาโรคเบาหวาน ใช้ราก 1 กำมือนำไปต้มเป็นน้ำดื่ม ทุกเช้า-เย็น
- ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ โดยการนำต้นเตยหอม 1 ต้น หรือราก ครึ่งกำมือไปต้มกับน้ำดื่มหรือใช้ใบมาหั่นตากแดดให้แห้งแล้วชงดื่มแบบชาเขียวก็ได้
- ใช้บำรุงผิวหน้า โดยการใช้ใบเตยล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ นำมาปั่นรวมกับน้ำสะอาดจนละเอียด จะได้ครีมข้นเหนียวแล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที
ลักษณะทั่วไปเตย
เตยจัด เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว มีลำต้นทรงกลม และเป็นข้อสั้นๆถี่กัน โผล่ขึ้นมาจากดินเพียงเล็กน้อย โคนลำต้นแตกรากแขนงออกเป็นรากค้ำจุนหรือเรียกว่า รากอากาศ ลำต้นสามารถแตกหน่อเป็นต้นใหม่ได้ ทำให้มองเป็นกอหรือเป็นพุ่มใหญ่ๆ ที่รวมความสูงของใบแล้วสามารถสูงได้มากกว่า 1 เมตร
ใบเตย แตกออกเป็นใบเดี่ยวด้านข้างรอบลำต้น และเรียงสลับวนเป็นเกลียวขึ้นตามความสูงของลำต้น จนถึงขอด ใบมีลักษณะเรียวยาวเป็นรูปดาบ ปลายใบแหลม สีเขียวสด ใบชูเฉียงแนบไปกับลำต้น แผ่นใบเป็นมัน กว้างประมาณ 2-3 เซนติเมตร ยาวประมาณ 30-50 เซนติเมตร แผ่นใบ และขอบใบเรียบ แผ่นใบด้านล่างมีสีจางกว่าด้านบน มีเส้นกลางใบลึกเป็นแอ่งตื้นๆตรงกลาง ใบนี้ส่งกลิ่นหอมตลอดเวลา เพราะมีน้ำมันหอมระเหย และสาร ACPY
การขยายพันธุ์เตย
เตยสารมารถขยายพันธุ์ได้เองโดยการแตกหน่อ แต่ในปัจจุบันก็สามารถปลูกด้วยการแยกเหง้าหรือย้ายหน่อปลูกได้เช่นกัน ทั้งนี้ เตยสามารถขึ้นได้ดีในที่ชุ่ม และทนต่อสภาพดินชื้นแฉะได้ดี แต่ควรเลือกพื้นที่ปลูกไม่ให้น้ำท่วมขังง่าย โดยมีวิธีการดังนี้
การเตรียมแปลง แปลงปลูกเตย ควรไถแปลง และตากดินก่อน 5-10 วัน พร้อมกำจัดวัชพืชออกให้หมด ก่อนหว่านด้วยปุ๋ยคอก อัตรา 2 ตัน/ไร่ และปุ๋ยยูเรีย อัตรา 10 กิโลกรัม/ไร่ พร้อมไถกลบ
การปลูกเตย ควรปลูกในช่วงฤดูฝน เพราะดินจะชื้นดี ทำให้ต้นเตยติด และตั้งตัวได้ง่าย ด้วยการขุดหลุมปลูกเป็นแถว ระยะหลุม และระยะแถวที่ 50 เซนติเมตร หรือที่ 30 x 50 เซนติเมตร ก่อนนำต้นพันธุ์เตยลงปลูก
หลังจากปลูกเตยเสร็จ ควรให้น้ำทันที แต่หากดินชื้นมากก็ไม่จำเป็นต้องให้ และให้น้ำเป็นประจำทุกๆ 7-10 วัน ขึ้นอยู่กับความชื้นดิน และฝนที่ตก
องค์ประกอบทางเคมี
จากการศึกษาทางเคมีของใบเตยพบว่ามีสาระสำคัญหลายชนิด เมื่อนำใบเตยหอมากลั่นด้วยไอน้ำจะได้สารหอมที่ประกอบด้วย แพนดานาไมน์ (Pandanamine) ไลนาลิลอะซีเตท ( linalylacetate) เบนซิลอะซีเตท (benzyl acetate) ไลนาโลออน(linalool)และเจอรานิออล(geraniol) มีสารที่ทำให้มีกลิ่นหอมคือ คูมาริน (coumarin) และเอทิลวานิลลลิน (ethyl vanillin)สารคลอโรฟิลล์ (chlorophyll) ทำให้มีสีเขียว เบต้าแคโรทีน (Beta-Carotene) และสารในกลุ่มแอนโทไซยานิน (anthocyanin) ซึ่งเป็นสารที่ออกฤทธิ์ที่สำคัญ
นอกจากนี้ในส่วนของคุณค่าทางโภชนาการของเตย คุณค่าทางโภชนาการของใบเตยสดใน 100 กรัม
องค์ประกอบ ใบเตยสด
พลังงาน (กิโลแคลอรี่) 35
ความชื้น (กรัม) 85.3
คาร์โบไฮเดรต (กรัม) 4.6
โปรตีน (กรัม) 1.9
ไขมัน (กรัม) 0.8
เยื่อใย(กรัม) 5.2
แคลเซียม (มิลลิกรัม) 124
ฟอสฟอรัส (มิลลิกรัม) 27
เหล็ก(มิลลิกรัม) 0.1
วิตามิน บี 2 (มิลลิกรัม) 0.2
ไนอะซิน (มิลลิกรัม) 1.2
วิตามิน ซี (มิลลิกรัม) 8
เบตา-แคโรทีน (ไมโครกรัม) 2.987
การศึกษาทางเภสัชวิทยา
ใบเตย มีฤทธิ์ลดความดันโลหิตและลดอัตราการเต้นของหัวใจ เพิ่มความแรงในการหดตัวและลดอัตราการหดตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ ลดน้ำตาลในเลือด ลดไข้ ต้านอนุมูลอิสระและมีฤทธิ์ยับยั้งแบคทีเรีย Staphylococcus aureus, Staphylococcus epidermidis แต่ยังเป็นการทดลองในสัตว์ทดลองและในหลอดทดลองเท่านั้น
การศึกษาทางพิษวิทยา
จากการสืบค้นข้อมูลในขณะนี้ ยังไม่มีรายงานความเป็นพิษหรืออาการไม่พึงประสงค์จากการรับประทานใบเตย
ข้อแนะนำและข้อความระวัง
- ถึงแม้ว่าเตยจะเป็นพืชจากธรรมชาติ แต่ก็ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมและไม่บริโภคเป็นระยะเวลานานจนเกินไป
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือสตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญก่อนบริโภคหรือใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆจากเตย เพราะสารเคมีในเตยอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้
- ในขั้นตอนการเตรียมการใช้ใบเตยด้วยตนเองควรล้างทำความสะอาดใบเตยอย่างดีอย่าให้มีสิ่งแปลกปลอมปนไป เพราะอาจเกิดอันตรายต่อสุขภาพได้
ขอบคุณข้อมูลจาก disthai.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 01/03/2565
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 29,300.00 | 29,400.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,898.00 | 28,773.68 | 29,900.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,708.20 | 25,896.31 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,518.40 | 23,018.94 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 854.00 | 12,946.64 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 664.00 | 10,066.24 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,967.00 | 29,819.72 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 01/03/2565
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 36.55 | 36.55 | 37.25 | 36.75 | 36.95 | 36.55 | 36.95 | 36.55 | 36.75 | 36.55 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 36.28 | 36.28 | 36.98 | 36.48 | 36.68 | 36.28 | 36.68 | 36.28 | 36.48 | 36.28 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 35.44 | 35.44 | 36.14 | 35.64 | 35.84 | – | 35.84 | 35.44 | 35.64 | 35.44 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 28.74 | 28.74 | – | – | – | – | – | – | – | 28.74 |
เบนซิน 95 | 43.96 | – | – | – | 44.81 | – | 44.86 | 44.46 | – | 43.96 |
ดีเซล B7 | 29.14 | 29.14 | 30.44 | 29.44 | 29.64 | 29.14 | 29.64 | 29.44 | 29.44 | 29.14 |
ดีเซล | 29.14 | 29.14 | 30.44 | 29.44 | 29.64 | 29.14 | 29.64 | 29.44 | 29.44 | 29.14 |
ดีเซล B20 | 29.14 | 29.14 | 30.44 | – | 29.64 | – | 29.64 | 29.44 | – | 29.14 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 35.16 | 35.16 | 36.89 | 35.96 | 36.39 | – | – | – | – | 35.16 |
แก๊ส NGV | 15.59 | 15.59 | – | – | – | – | – | – | – | 15.59 |