สาระน่ารู้ประจำวันที่ 01 ธันวาคม 2566

คนโสด-เพ็ตเลิฟเวอร์พุ่ง!ดันคอนโดเลี้ยงสัตว์แตะ2หมื่นล้าน

เทรนด์เลี้ยงสัตว์เหมือนคนในครอบครัวมีแนวโน้มขยายตัวสูง สวนทางอัตราเกิดใหม่ของเด็กลดลง 20% ขณะที่ “คนโสด” หรือคนแต่งงานแล้วแต่ไม่มีลูกนิยมเลี้ยงสัตว์มากขึ้น ส่งผลให้คอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ได้เติบโตต่อเนื่อง ล่าสุดมูลค่าสะสมทะยานแตะ 20,000 ล้านบาท เติบโต 10-15%

อภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น คอนโดมิเนียม จำกัด ผู้พัฒนาโครงการกลุ่มสมาร์ทคอนโดมิเนียมในเครือออริจิ้น กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2564 ออริจิ้น บุกตลาดคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้สำหรับกลุ่มคนรักสัตว์ (Pet Lover) ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen Y และ Gen Z ที่นิยมเลี้ยงสัตว์ในที่อยู่อาศัยมากขึ้น 

โดย 5 ปีที่ผ่านมา จำนวนสุนัขและแมวที่มีเจ้าของเพิ่มขึ้น 64% โดยเฉพาะแมว เพิ่มถึง 93% สุนัขเพิ่ม 53% สวนทางอัตราการเกิดของเด็กที่ลดลง 20% ขณะเดียวกันคนโสด หรือคนที่แต่งงานแล้วแต่ไม่มีลูกเพิ่มขึ้นส่งผลให้คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้เติบโตต่อเนื่องจนมีจำนวนสะสมมากถึง 8,000 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 20,000 ล้านบาท เติบโต 10-15%

 “คาดว่าสิ้นปี 2566 ออริจิ้นจะมีคอนโดทั้งสิ้น 16 โครงการ มูลค่ารวม 26,000 ล้านบาท ครอบคลุมหลากหลายทำเล ในจำนวนนี้เป็นยูนิตที่เลี้ยงสัตว์ได้ 3,550 ยูนิต  มูลค่ากว่า 8,700 ล้านบาท ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ผู้พัฒนาคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้”

การเติบโตของเทรนด์ดังกล่าว ยังสะท้อนผ่านมูลค่าตลาดสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง คาดการณ์ปี 2566 จะมีมูลค่า 56,000 ล้านบาท เติบโต 10-12% จากปีก่อน ประกอบกับความต้องการเลี้ยงสัตว์ในคอนโดมีมากขึ้น สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของสังคมเมืองได้กระจายไปทั่วทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ครอบคลุมรถไฟฟ้าสายสีเขียว สายสีน้ำเงิน สายสีส้ม สายสีเหลือง ซึ่งเป็นทำเลที่ยังไม่มีคู่แข่ง แต่มีความต้องการสูง

ยกตัวอย่าง ทำเลฝั่งธนบุรี ไม่มีคอนโดที่เลี้ยงสัตว์ได้ ทำให้ยอดขายค่อนข้างดี จนต้องเปิดตัวโครงการในย่าน เพชรเกษม และบางแค เพิ่มเติม เพื่อรองรับดีมานด์กลุ่มนี้

สะท้อนจากยอดขาย (Presale) ของคอนโดที่เลี้ยงสัตว์ได้ของออริจิ้นที่มีอัตราการเติบ 10% ต่อปี สอดคล้องกับภาพรวมตลาดสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง เติบโต 10-15% ต่อปี ที่สำคัญจุดขายดังกล่าวทำให้กลุ่มลูกค้าที่มีสัตว์เลี้ยงตัดสินใจซื้อเร็วกว่าลูกค้าทั่วไปทำให้บริษัทปิดการขายคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้เร็วกว่าคอนโดปกติ20%

สำหรับ ยอดโอนกรรมสิทธิ์โครงการคอนโดที่เลี้ยงสัตว์ได้ในปี 2566 มีจำนวน 100 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 400 ล้านบาท ในโครงการ ดิ ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ รามอินทรา โดยจะทยอยโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงไตรมาส 4/2566 ปัจจุบันบริษัทยังมียอดขายรอโอน (Backlog) ในกลุ่มสินค้าคอนโดที่เลี้ยงสัตว์ได้ในมืออีก 4,900 ล้านบาท ที่จะทยอยโอนตามแผนในอนาคต

ปัจจุบันโครงการคอนโดที่เลี้ยงสัตว์ได้ของออริจิ้นมีทั้งแบบ “แยกตึก” ในโครงการมีหลายอาคาร แยกเป็นอาคารที่เลี้ยงสัตว์ได้ และอยู่ในอาคารเดียวกันแต่ “แยกชั้น” ซึ่งสัดส่วนของสินค้าประเภทนี้คิดเป็น 30% ของแต่ละโครงการ โดยการพัฒนาโครงการจะอยู่ภายใต้ข้อมูลเชิงลึกของทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยงผ่านทีมวิจัย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของสัตว์เลี้ยงและคนรักสัตว์เลี้ยง เพื่อการอยู่อาศัยร่วมกันได้อย่างมีความสุข

ปี 2567 บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการคอนโดที่เลี้ยงสัตว์ได้ใกล้เคียงกับปี 2566 ซึ่งเปิดตัวโครงการในเซ็กเมนต์ดังกล่าว 8 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท รองรับดีมานด์ที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีทั้งลูกค้าในกลุ่มที่ซื้อลงทุนและซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง โดยสัดส่วน 80% เป็นลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง อีก 20% เป็นลูกค้าที่ซื้อเพื่อลงทุน

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


LTV หนี้ครัวเรือน ดอกเบี้ยขาขึ้นทุบดีมานด์ซัพพลายอสังหาฯร่วง13.6%

เศรษฐกิจฟื้นตัวช้า! มาตรการLTVของ ธปท. ที่กระทบต่อคนที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเป็นบ้านสัญญาที่ 2 หนี้ครัวเรือนสูงกว่า90 %ของ GDP ดอกเบี้ยขาขึ้น ทุบดีมานด์ซัพพลาย อสังหาฯไตรมาส3ปี66 ร่วง13.6%

วิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์  เปิดเผยว่า ด้านดัชนีรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ (หมวดที่อยู่อาศัย) ของประเทศไทยในไตรมาส 3 ปี 2566 ที่ลดลง 13.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) ทั้งนี้เป็นการ”ลดลง”ทั้งในด้านของอุปสงค์และอุปทาน คาดว่าเป็นผลมาจากการลดลงของด้านอุปสงค์ของที่อยู่อาศัย โดยพบว่า ด้านโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยลดลง 10% และอัตราดูดซับห้องชุดใหม่ลดลง3.6% และอัตราดูดซับบ้านแนวราบใหม่ลดลง2% 

 ส่วนในด้านอุปทาน พบว่า ที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนลดลง9.6 %ในขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการลดลง 2.1 จุด โดยเฉพาะจากการที่ความเชื่อมั่นในด้านยอดขายลดลง12 จุด ด้านการจ้างงานลดลง 3.7 จุด ด้านการลงทุนลดลง10.1 จุด และด้านผลประกอบการลดลง2.8 จุด   

ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากมีปัจจัยลบหลายด้าน   อาทิ  การยกเลิกการผ่อนคลายมาตรการ LTV ของ ธปท. ที่กระทบต่อคนที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเป็นบ้านสัญญาที่ 2 

ภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังคงมีอัตราส่วนที่สูงกว่า90 %ของ GDP และ ภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น ที่ปรับขึ้นมาแล้ว 5 ครั้ง (ม.ค. – ก.ย.2566) หรือเพิ่มขึ้น 125 bps ซึ่งมีผลต่อความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยให้ลดลงโดยตรง  รวมทั้งการที่เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้า!

“สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยมีรายได้เพิ่มขึ้นน้อย ขณะที่ภาระค่าใช้จ่ายมากขึ้นและความสามารถในการซื้อและการผ่อนชำระลดลง ซึ่งจะกระทบต่อยอดขายที่อยู่อาศัยโดยตรง “

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ คาดว่า ภาพรวมดัชนีรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ (หมวดที่อยู่อาศัย) ในปี 2566 มีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงจากปี 2565 เล็กน้อย โดยจะปรับลงมาอยู่ที่ 89.8 จุด หรือลดลง 3%สำหรับกรณีฐาน (Base Case) แต่หากมีปัจจัยบวกที่ดีกว่าที่คาดไว้อาจจะมีการปรับเพิ่มมาอยู่ที่ระดับ 98.8 หรือ ขยายตัวได้ถึง6.7 %(Best Case)  ในทางตรงข้าม หากมีปัจจัยที่ส่งผลรุนแรงกว่าที่คาดไว้ อาจจะปรับตัวลดมาอยู่ที่ระดับ 80.8 หรือลดลง12.7 % (Worst Case) 

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 1ธ.ค. “อ่อนค่า” ที่ระดับ 35.27 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทอาจผันผวนตามบรรยากาศในฝั่งตลาดการเงินเอเชียและตลาดการเงินไทย มีโอกาสอ่อนค่าลงทดสอบโซนแนวต้าน 35.30-35.40 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 1ธ.ค.2566 ที่ระดับ  35.27 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  35.19 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน  พานิชพิบูลย์  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน  ธนาคารกรุงไทยระบุว่า แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า ในช่วงก่อนที่ผู้เล่นในตลาดจะทยอยรับรู้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญฝั่งสหรัฐฯ และถ้อยแถลงของประธานเฟด (จะเริ่มตั้งแต่ช่วง 22.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย) ค่าเงินบาทก็อาจผันผวนไปตามบรรยากาศในฝั่งตลาดการเงินเอเชียและตลาดการเงินไทย

โดยฝั่งตลาดการเงินเอเชียอาจยังคงเผชิญแรงกดดันจากความกังวลแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ส่วนในฝั่งตลาดการเงินไทย เรามองว่า แรงขายหุ้นไทยจากนักลงทุนต่างชาติก็อาจยังพอมีอยู่บ้าง ทำให้โดยรวมเงินบาทยังมีโอกาสผันผวนอ่อนค่าลงทดสอบโซนแนวต้าน 35.30-35.40 บาทต่อดอลลาร์ ได้

อย่างไรก็ตาม เราประเมินว่า การอ่อนค่าของเงินบาทก็อาจเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างก็รอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ และถ้อยแถลงของประธานเฟด อีกทั้งในช่วงโซนแนวต้านดังกล่าว เราคาดว่า บรรดาผู้ส่งออกอาจรอจังหวะเงินบาทอ่อนค่าลงในการทยอยขายเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ เงินบาทก็อาจยังพอได้แรงหนุนอยู่บ้าง จากโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ หลังโมเมนตัมการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำเริ่มแผ่วลง จนทำให้ผู้เล่นในตลาดอาจตัดสินใจทยอยขายทำกำไรเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนในตลาดค่าเงิน ในช่วงทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ และถ้อยแถลงของประธานเฟด เนื่องจากในช่วงนี้ตลาดอาจอ่อนไหวกับรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดีกว่าคาด หรือ ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดที่ส่งสัญญาณ Hawkish หรือ สนับสนุนการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดของเฟด

ในช่วงนี้ ทุกสินทรัพย์ยังอยู่ในช่วงเผชิญความผันผวนสูง ทำให้เราคงคำแนะนำว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และ

นอกเหนือจากการใช้เครื่องมือดังกล่าว การเลือกทำธุรกรรมในสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency) ก็เป็นอีกแนวทางในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจ ซึ่งผู้ประกอบการควรเปรียบเทียบต้นทุนในการทำธุรกรรมและแผนการป้องกันความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทุกครั้ง

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.10-35.40 บาท/ดอลลาร์

โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาททยอยอ่อนค่าลง (แกว่งตัวในช่วง 35.14-35.39 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะผันผวนอ่อนค่าลงบ้าง ตามการปรับตัวแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ที่ได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าลงของสกุลเงินฝั่งยุโรป (EUR และ GBP) จากมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่คาดว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) และ

ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) จะเริ่มลดดอกเบี้ยลงได้ในปีหน้า หลังรายงานอัตราเงินเฟ้อฝั่งยุโรปล่าสุดชะลอลงมากกว่าคาด อย่างไรก็ดี เงินบาทก็ยังพอได้แรงหนุนจากโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำอยู่บ้าง หลังราคาทองคำยังพอได้แรงหนุนจากมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่คาดว่า บรรดาธนาคารกลางหลักจะทยอยลดดอกเบี้ยลงในปีหน้า ส่งผลให้เงินบาทยังไม่สามารถอ่อนค่าไปได้ไกล

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวผสมผสาน โดยบรรดาหุ้นกลุ่มเทคฯ ใหญ่ (The Magnificent Seven) อาทิ Nvidia -2.9%, Alphabet -1.8% ต่างปรับตัวลดลงตามแรงขายทำกำไร ขณะที่ หุ้นกลุ่มอื่นๆ ต่างปรับตัวขึ้นได้ ตามความหวังว่า เฟดจะเริ่มทยอยลดดอกเบี้ยลงได้ในปีหน้า หลังรายงานอัตราเงินเฟ้อ PCE ล่าสุด ชะลอตัวลงตามคาด

ขณะเดียวกัน ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานต่อเนื่อง (Continuing Jobless Claims) ก็ปรับตัวสูงขึ้น แย่กว่าคาด สะท้อนภาพการชะลอตัวลงต่อเนื่องของตลาดแรงงาน ซึ่งภาพดังกล่าวได้ส่งผลให้ดัชนี S&P500 ปิดตลาด +0.38% ขณะที่ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ย่อตัวลง -0.23%

ส่วนในฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี stoxx600 ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง +0.55% หลังรายงานอัตราเงินเฟ้อฝั่งยุโรปชะลอตัวลงกว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจทยอยลดดอกเบี้ยลงได้ในปีหน้า อย่างไรก็ดี การปรับตัวขึ้นของหุ้นยุโรปก็ถูกจำกัดลงบ้าง เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจยุโรปยังมีแนวโน้มชะลอตัวลง

ในฝั่งตลาดบอนด์ แม้ว่า รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุด จะยังคงทำให้ผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่เชื่อว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยลงได้ราว -1.25% ในปีหน้า แต่ทว่า บรรยากาศในตลาดการเงินที่กลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น ก็มีส่วนช่วยหนุนให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ รีบาวด์ขึ้นได้บ้างและแกว่งตัวใกล้ระดับ 4.31%

อย่างไรก็ดี คืนวันศุกร์นี้ อาจเห็นการเคลื่อนไหวของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ที่ผันผวนได้ เนื่องจากตลาดจะรับรู้ทั้งรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ และถ้อยแถลงของประธานเฟด ซึ่งหากบอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้น เรายังคงมุมมองเดิมว่า ผู้เล่นในตลาดสามารถทยอยเข้าซื้อบอนด์ระยะยาวได้ (เน้นกลยุทธ์รอจังหวะ Buy on Dip)

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์ทยอยแข็งค่าขึ้น แม้ว่ารายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะออกมาสะท้อนว่า เฟดอาจจบรอบการขึ้นดอกเบี้ยไปแล้วและเฟดอาจทยอยลดดอกเบี้ยลงได้ในปีหน้าตามที่ตลาดคาด

ทว่า เงินดอลลาร์ก็ได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าลงต่อเนื่องของสกุลเงินยุโรป ทั้งเงินยูโร (EUR) และเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) ตามมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่คาดว่า ECB และ BOE อาจทยอยลดดอกเบี้ยลงได้ในปีหน้า จากรายงานอัตราเงินเฟ้อฝั่งยุโรปล่าสุดที่ชะลอลงมากกว่าคาด ทำให้ล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้ปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 103.5 จุด (กรอบ 103-103.6 จุด) 

ในส่วนของราคาทองคำ แม้ว่าทั้งบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ และเงินดอลลาร์จะมีจังหวะปรับตัวขึ้นบ้าง และกดดันให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค.) ยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ ทว่าราคาทองคำยังพอได้แรงหนุนจากมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่คาดหวังว่า บรรดาธนาคารกลางหลักอาจทยอยลดดอกเบี้ยลงได้ในปีหน้า

ทำให้ราคาทองคำยังสามารถทรงตัวเหนือระดับ 2,040 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ ทั้งนี้ จังหวะการรีบาวด์ขึ้นบ้างของราคาทองคำ ก็ส่งผลให้ผู้เล่นในตลาดเริ่มทยอยขายทำกำไรทองคำและโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนช่วยชะลอการอ่อนค่าลงของเงินบาท

สำหรับวันนี้ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตอุตสาหกรรม (ISM Manufacturing PMI) ของสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตา ถ้อยแถลงของประธานเฟด Jerome Powell อย่างใกล้ชิด พร้อมติดตามการปรับคาดการณ์อัตราการเติบโตเศรษฐกิจสหรัฐฯ (GDPNow) ในไตรมาสที่ 4 โดย เฟดสาขา Atlanta

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


เยาวชนกว่า 600 ชีวิต แห่ร่วมโครงการ KTAXA KYC Football Youth ลุ้นบินลัดฟ้าเข้าแคมป์ฯ ที่ LFC International Academy

เปิดฉาก Season 4 คึกคักสนามแรก เยาวชนกว่า 600 ชีวิต แห่ร่วมโครงการ KTAXA KYC Football Youth (U15) Academy ลุ้นเป็นหนึ่งใน 10 สุดยอดเยาวชน บินลัดฟ้าเข้าแคมป์ฯ ที่ LFC International Academy ประเทศอังกฤษ

โครงการ “KTAXA Know You Can Football Youth (U15) Academy” ได้เดินทางมาถึงซีซั่น 4 แล้ว  “กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต” เปิดคัดเลือกสุดยอดเยาวชนไทย ที่มีทักษะในกีฬาฟุตบอล เพื่อคัดเลือกสุดยอดเยาวชนไทยชาย หญิง อายุ 13-15 ปี

โดยปีนี้ทางโครงการฯ ทำการคัดสุดยอดเยาวชนฝีเท้าดีจากทั่วประเทศ เพื่อเข้าแคมป์ฝึกทักษะฟุตบอลระดับโลก ที่ LFC International Academy เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ   โดยซีซั่นนี้จะเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมกิจกรรม 2 ประเภท

ประเภทแรก  เป็นการแสดงทักษะความสามารถด้านฟุตบอลที่สนาม ซึ่งกำหนดจัดทั้งหมด 4 ครั้งได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และภาคกลางหรือกรุงเทพมหานคร

ประเภทที่สอง จะเป็นการส่งคลิปวีดีโอเพื่อแสดงทักษะความสามารถด้านฟุตบอล ความยาวไม่เกิน 3 นาที ซึ่งประเภทการส่งคลิปวีดีโอนี้จะรับเฉพาะครอบครัวที่ถือกรมธรรม์ ของกรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต เท่านั้น และยังมีผลบังคับอยู่เท่านั้น

และสำหรับกิจกรรมเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาได้รับเกียรติจาก คุณสุกัญญา อิสรานุวัฒน์ชัย รองประธานอาวุโส ฝ่ายสื่อสารการตลาด และภาพลักษณ์องค์กร บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เป็นประธาน ร่วมด้วยโค้ชวัง ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล โค้ชเก๋ วรชัย สุรินทร์ศิริรัฐ และ โค้ชเค พรรษา มีสัจธรรม ร่วมเปิดงาน

ในด้านการทดสอบและคัดเลือก เป็นการทดสอบการเล่นเป็นทีม และความเข้าใจในเกม  เยาวชนที่ได้รับการคัดเลือกในสนามคัดเลือกจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่  เด็กชายชิษณุพงศ์ สุวรรณศักดิ์ และ เด็กชายจิรกิตติ์ วังอินต๊ะ

โครงการ “KTAXA Know You Can Football Youth (U-15) Academy” เป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับทักษะฟุตบอลเยาวชนไทยสู่มาตราฐานสากล และสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการมีสุขภาพที่ดีผ่านการออกกำลังกาย อีกทั้งบริษัทฯ ยังคงพร้อมจะอยู่เคียงข้างทุกความเชื่อมั่นของเยาวชนไทย และมอบโอกาสในการพัฒนาทักษะเพื่อสามารถก้าวเดินตามความฝันได้สำเร็จ

สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ KTAXA Know You Can Football Youth (U-15) Academy ซีซั่น 4 สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/Hearts.in.action.volunteers  โทร 095-347-1888 หรือ โทร 1159 ทุกวัน

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


อันตรายต่อสุขภาพ จากการ “นอนกัดฟัน”

เสียงดังกรอดๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างนอนหลับ ที่เจ้าตัวคนทำมักไม่รู้ตัว แต่คนที่นอนข้างๆ หรือนอนร่วมห้องเดียวกันอาจจะเคยได้ยินบ่อยๆ แท้ที่จริงแล้วเกิดขึ้นได้อย่างไร อันตรายต่อร่างกายมากแค่ไหน จำเป็นต้องเข้ารับการวินิจฉัยหรือรับการรักษาอย่างจริงจังจากแพทย์หรือไม่ ลองมาฟังคำตอบจาก ทพญ.วรนุช ปรีชาวุฒิ แพทย์ฝ่ายทันตกรรม โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

ทำไมคนเราถึงนอนกัดฟัน

การนอนกัดฟันอาจเกิดจากสาเหตุหลัก 2 แบบ คือ

  1. ปัญหาจากฟัน เนื่องจากมีการสบฟันที่ไม่ดี
  • ฟันซ้อนเก ฟันขึ้นผิดตำแหน่ง
  • ฟันโยก หรือเป็นโรคเหงือก
  • ฟันล้มเอียง หรือยื่นยาวออกมา เนื่องจากถอนฟันไปนาน แล้วไม่ได้ใส่ฟันทดแทน
  • ฟันปลอม ซึ่งมีการสบฟันไม่สัมพันธ์กับฟันธรรมชาติ

Advertisement

  1. ปัญหาทางด้านจิตใจ ได้แก่ ความเครียด วิตกกังวล กลัว ผิดหวัง

ปัญหาที่เกิดจากการนอนกัดฟัน

  1. ฟันสึกมากกว่าปกติ สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งฟันหน้า และฟันกราม ทำให้เกิดอาการเสียวฟัน ปวดฟัน
  2. มีอาการเสียวฟันเนื่องจากส่วนเคลือบฟันกร่อนไป และหากฟันสึกกร่อนมากจนถึงชั้นโพรงประสาทฟัน จะทำให้ปวดฟัน เกิดการอักเสบของปลายรากฟัน อาจเกิดฟันโยกได้
  3. ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า มักจะรู้สึกเมื่อยหรือตึงหลังจากตื่นนอนใหม่ๆ บริเวณกรามข้อต่อขากรรไกร บริเวณหน้าหู ต้นคอ หรือใบหน้าทั้ง 2 ข้าง
  4. ปวดศีรษะบริเวณขมับ
  5. มีปุ่มกระดูกในช่องปากโตขึ้น
  6. มีอาการเจ็บที่ข้อต่อขากรรไกรบริเวณหน้าหู

ดังนั้น หากทราบว่าตนเองนอนกัดฟัน หรือมีอาการดังกล่าวข้างต้น ควรพบทันตแพทย์ทันที

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


12 คำย่อภาษาอังกฤษสำหรับชาวแชท

  1. BFF = Best Friend Forever คำนี้มีความหมายว่าเพื่อนกันตลอดไปนั่นเองค่ะ สามารถใช้ได้เวลาที่เราลงรูปคู่กับเพื่อนสนิท หรืออาจจะลงคู่กับใครบางคนที่เราแอบกิ๊กๆ กั๊กๆ ก็ได้น้า แต่ Best Friend Forever ก็อาจจะกลายเป็น Boyfriend Forever เชียวล่ะ
  2. JK = Just kidding คำนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้เขียนเรื่องแฮรี่พอตเตอร์แต่อย่างใดแต่มีความหมายว่า “แค่ล้อเล่น” ต่างหากนะคะ
  3. BTW = By the way คำย่อนี้เราเคยคิดด้วยว่ามันแปลว่า Between (แป่ว!) แต่จริงๆ แล้วตัวนี้ความหมายของมันก็คือ “ยังไงก็เถอะ” ใช้ในการสรุปเรื่องราวที่เรากำลังคุยกันหรืออาจจะยกอีกประเด็นขึ้นมาพูดหลังจากนั้นก็ได้นะ
  4. ASAP = As soon as possible ความหมายของตัวนี้นั้นจะแปลว่า “เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” นั่นเองค่ะ ซึ่งเรามักจะพบเจ้าคำนี้บ่อยๆ ในจดหมายหรืออีเมล์
  5. ATM = At the moment เจ้าคำนี้นั้นไม่ได้มีความหมายสื่อไปถึงตู้กดเงินอย่างที่เราคิดนะคะ แต่ความหมายตรงตัวของมันก็คือ “ช่วงนี้” ค่ะ สามารถให้ขึ้นประโยคหรือว่าลงท้ายประโยคก็ได้นะ
  6. HAND = Have a nice day นี่คืออีกคำหนึ่งที่น่ารักน่าใช้เลยทีเดียวค่ะ (แน่นอนว่าไม่ได้แปลว่ามือนะคะ) ความหมายของมันนั้นก็คือ “มีวันที่ดีนะ” เราสามารถใช้คำนี้แทนคำว่า Bye ในการจบบทสนทนาก็ได้นะคะ ฟังดูน่ารักดีเลยค่ะ
  7. IMO = In my opinion คำนี้นั้นจะใช้ก็ต่อเมื่อเราต้องการออกความคิดเห็นอะไรสักอย่างหนึ่งค่ะ ความหมายตรงตัวของมันก็คือ “ฉันคิดว่า…” หรือ “ในความคิดเห็นของฉัน…”
  8. NBD = No big deal สำหรับอันนี้นั้นเราจะใช้ก็ต่อเมื่อคู่สนทนาขอให้เราช่วยอะไรสักอย่างหรือไม่ก็อยากจะบอกเขาว่าเรื่องที่เขาให้เราช่วยนั้นมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย โดยที่คำว่า No big deal นั้นจะมีความหมายว่า “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”
  9. LOL = Laughing out loud ถ้าหากใครมีเพื่อนชาวต่างชาติแล้วได้คุยแชทกันล่ะก็ยังไงก็ต้องเคยเจอตัวย่อนี้เเน่ๆ ค่ะ ซึ่งเจ้า LOL นี้จะมีความหมายว่าหัวเราะดังมาก ใช้แทน ฮ่าๆๆ หรือ 555 ในบ้านเรานั่นเองค่ะ
  10. BTDT = Been there, done that อันนี้เราว่ามันช่างเป็นคำย่อที่ง่ายๆ และได้ใจความชัดเจนดีเสียจริงเลยค่ะ เพราะเจ้าคำว่า Been there, done that นี้มีความหมายว่า “ไปมาแล้วและทำเรียบร้อยแล้ว” อาจจะใช้ตอบคำถามเชิงประมาณว่า “คุณไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาเก็ตมาหรือยัง?” ซึ่งเราก็สามารถตอบได้ทันทีเลยว่า BTDT
  11. GG = Good game คำนี้เหล่าบรรดาเกมเมอร์คงจะคุ้นเคยกันไม่น้อยเลยจริงไหมล่ะคะ? คำนี้นั้นจะใช้เพื่อบอกคนที่เล่นเกมร่วมกับเราว่าเกมนี้มันช่างเป็นเกมที่ดีจริงๆ
  12. GJ = Good job มีการชมเกมที่ดีแล้วก็คงจะต้องมีการชมงานที่ดีเช่นกัน แต่คำว่า Good job นี้ไม่ได้เจาะจงว่าจะต้องเป็นชิ้นงานหรือการทำงานจริงๆ ก็ได้นะคะ อาจจะใช้ชมคู่สนทนาว่าสิ่งที่เขาทำมันดีก็ได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องเป็นชิ้นงานให้เห็น เช่นบางทีเขาอาจจะไปทำธุระให้เราเราก็อาจจะใช้คำนี้พูดกับเขาก็ได้ค่ะ

และนี่ก็คือคำย่อคร่าวๆ ที่ฝากมาให้เพื่อนๆ ได้นำไปใช้กันนะคะ รับรองว่าคราวนี้คงสามารถคุยกับชาวต่างชาติได้ลื่นขึ้นกันอีกเป็นกองเลยล่ะ 🙂

ขอบคุณข้อมูลจาก dailyenglish.in.th


เปิดตัว HUAWEI MateBook D16 (2024) พร้อมอัปเกรดสเปกใหม่เพื่อคนทำงาน

อีกตัวที่เปิดตัวในรอบนี้คือ HUAWEI MatePad D16 (2024) ใหม่ที่เรียกว่าอัปเกรดในหลายจุดรวมถึงสเปกที่น่าสนใจมากขึ้น

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงของ HUAWEI MateBook D16 (2024) แบบสรุปคราวๆ มีดังนี้

  • หน้าจอขนาด 16 นิ้วแบบ IPS-LCD ความละเอียด 1920 x 1200 พิกเซล อัตราส่วน 16:10 พร้อมกับความสว่าง 300 nits
  • กล้อง Webcam ความละเอียด 1080p (Full HD)
  • ปุ่ม Power มีระบบสแกนลายนิ้วมือ
  • Keyboard ออกแบบให้มี Numberpad ให้สมกับขนาดเครื่อง
  • Touchpad รองรับระบบ Multi Touch ทั้งหมด 5 นิ้ว
  • ลำโพงคู่ และไมโครโฟนแบบคู่ให้เสียงที่ชัดทั้งการฟังและโทร
  • ขุมพลังเป็นของ Intel Core รุ่นที่ 13 มีให้เลือกทั้ง i5, i7 และ i9
  • พร้อมการ์ดจอ Intel Iris Xe ทุกรุ่นย่อย
  • ได้ RAM แบบ LPDDR4X ความจุสูงสุด 16GB
  • รองรับ SSD M.2 แบบ 2280 ความจุสูงสุด 1TB

นอกจากนี้ยังรองรับช่องเสียบก็มีให้ครบเช่น

  • 1x USB3.2 Gen1 (Type-A)
  • 1x USB2.0 (Type-A)
  • 1x USB3.2 Gen1 (Type-C) รองรับ Display Port 1.2
  • 1x HDMI
  • ช่องเสียบหูฟังและไมโครโฟนแบบ Combo

ติดตั้ง Software มาให้โดยเลือกใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home Edition, การเชื่อมต่อ Wi-Fi 6e, Bluetooth 5.1 ได้แบตเตอรี่ขนาด 70Wh ชาร์จไฟเร็วสุด 65W ผ่าน USB-C

ทั้งนี้ราคาของ Notebook รุ่นนี้แบ่งออกเป็น 3 เกรดคือ

  • รุ่นเริ่มต้น Intel Core i5 = 4,999 หยวน หรือประมาณ 24,9xx บาท
  • รุ่น Intel Core i7 = 5,999 หยวน หรือประมาณ 30,000 บาท
  • รุ่น Intel Core i9 ตัวท็อป 6,499 หยวน หรือประมาณ 33,000 บาท

แต่ว่าสำหรับ Notebook ของ HUAWEI ไม่ได้มีการอัปเดตรุ่นใหม่นานแล้ว ก็ได้แต่หวังว่าเขายังไม่ถอดใจกับตลาดนี้ไปเสียก่อนนะครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


รวมผัก-ผลไม้ “วิตามินซี” สูง ช่วยต้านหวัด

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะนำประชาชนกินผัก ผลไม้แหล่งที่มาของวิตามินซีอย่างพอเพียง ไม่จำเป็นต้องพึ่งเครื่องดื่มหรือเจลลี่ผสมวิตามินซี ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกาย ต้านโรคหวัดได้

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า วิตามินซีเป็นสารอาหารที่มีส่วนช่วยกระบวนการทำงานของเม็ดเลือดขาวในการขจัดเชื้อโรค ต้านภูมิแพ้ ลดการระคายเคืองเยื่อบุทางเดินหายใจ ลดการจาม น้ำมูกไหล และป้องกันการเกิดหวัดได้ ซึ่งปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เสริมวิตามินซีจำหน่ายในท้องตลาดหลากหลายรูปแบบ แต่ความจริงแล้วแหล่งวิตามินซีสามารถหาได้จากผัก ผลไม้ทั่วไป

ผัก ผลไม้ วิตามินซีสูง

โดยมากผัก ผลไม้ที่มีวิตามินซี สามารถพบได้ใน

ผัก

  • ผักคะน้า
  • สะเดา
  • ผักหวาน
  • พริกหวาน
  • บรอกโคลี
  • ปวยเล้ง
  • ใบมะรุม

ผลไม้

  • ฝรั่ง
  • ส้ม
  • มะขามป้อม
  • สตรอเบอร์รี่
  • ลิ้นจี่

ดังนั้น การบริโภคเป็นประจำจะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกาย และต้านโรคหวัดได้ โดยในหนึ่งวันหากเป็นผู้ใหญ่ทั้งหญิงและชายควรได้รับวิตามินซีประมาณ 85 และ 100 มิลลิกรัมต่อวัน ส่วนหญิงตั้งครรภ์ควรได้รับเพิ่มวันละ 10 มิลลิกรัม หญิงให้นมบุตรควรได้รับเพิ่ม 60 มิลลิกรัมต่อวัน

กินวิตามินมากแค่ไหน ถึงจะช่วยต้านหวัดได้?

ทั้งนี้ การบริโภคผัก ผลไม้ ปริมาณ 400 กรัม จะได้รับวิตามินซีประมาณ 210 – 280 มิลลิกรัม ก็เพียงพอกับความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน โดยไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำหรือผลิตภัณฑ์ที่ผสมวิตามินซีแต่อย่างใด เนื่องจากมีผลสำรวจเครื่องดื่มเสริมวิตามินซีหรือเจลลี่ที่จำหน่ายตามร้านสะดวกซื้อพบว่า ปริมาณวิตามินซีต่อขวดจะอยู่ที่ประมาณ 100-120 มิลลิกรัม เท่านั้น หากจะพึ่งพาการดื่มเครื่องดื่มเสริมวิตามินซีเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน จะต้องดื่มมากถึงประมาณ 8 ขวดต่อวัน ถึงจะได้ปริมาณวิตามินซี 1,000 มิลลิกรัม ซึ่งในปริมาณวิตามินซีต่อขวดนั้น อาจสลายตัวไปก่อนหน้านั้นบ้างแล้ว จึงควรหันมากินผัก ผลไม้ แหล่งของวิตามินซีธรรมชาติโดยตรงแทนจะส่งผลดีต่อสุขภาพมากกว่า

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


เช็งเต็กตึ๊ง คาเฟ่เปิดใหม่ในตึกเก่าอายุกว่า 88 ปี สวยงาม คลาสสิค เหมือนหลุดเข้าไปยุคโบราณ

ราชบุรีไม่ได้มีดีแค่สวนผึ้ง! วันนี้ Sanook Travel เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ เช็งเต็กตึ๊ง คาเฟ่เปิดใหม่ในเมืองราชบุรี ที่มีดีในเรื่องของการตกแต่งร้าน ทำออกมาได้อย่างคลาสสิคสวยงาม ถ่ายรูปสวยในทุกมุม

ที่นี่จะมาในธีมแบบโรงน้ำชาในเมืองจีนสมัยก่อน ตึกเก่าสีเหลืองไข่ไก่ มองแล้วสะดุดตา ในอดีตเคยถูกใช้เป็นโรงเจมาก่อน อายุกว่า 88 ปีเลยทีเดียว 

ปัจจุบันถูกรีโนเวทมาเปิดเป็นคาเฟ่ ที่ให้บริการทั้งอาหารสไตล์จีน จำพวกติ่มซำ รวมไปถึงน้ำดื่ม ทั้งชา กาแฟ ครบครัน

ในส่วนของการตกแต่งนั้นยังคงไว้ซึ่งเค้าโครงของตึกโบราณ แต่แต่งเติมสีสันให้มีความทันสมัย บวกกับการจัดสวนที่สวยงาม จนกลายเป็นมุมถ่ายรูปสวยรอบๆ บริเวณร้านให้ลูกค้าได้มาเช็กอินเก็บภาพความประทับใจกัน

หากใครมีโอกาสแวะไปเที่ยวที่ราชบุรี ลองแวะไปชิม ไปแชะ ดื่มด่ำกับกาแฟ กินอาหารจีนอร่อยๆ และเก็บภาพสวยๆ กันได้ที่ เช็งเต็กตึ๊ง ครับ

ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่ตั้ง : 121 ถนนราษฎรยินดี ซอย 3 อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/VGDVrBoAcip3fRqMA

ติดต่อ : 062 350 5492

เวลาเปิด – ปิด : 09:00-18:00 น.

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 01/12/2566

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a33,950.0034,050.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,199.0033,336.8434,550.00
ทองรูปพรรณ 90%1,979.1030,003.16n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,759.2026,669.47n/a
ทองรูปพรรณ 50%990.0015,008.40n/a
ทองรูปพรรณ 40%770.0011,673.20n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,279.0034,549.64n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 01/12/2566



ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9536.0536.0536.5536.0536.0536.0536.0536.0536.0536.05
แก๊สโซฮอล์ 9134.2834.2834.7834.2834.2834.2834.2834.2834.2834.28
แก๊สโซฮอล์ E2033.9433.9434.4433.9433.9433.9433.9433.9433.94
แก๊สโซฮอล์ E8534.0934.0934.09
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม43.8447.7448.2447.7443.84
เบนซิน 9543.9445.1144.4444.0943.94
ดีเซล B729.9429.9430.4429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.94
ดีเซล29.9429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.94
ดีเซล B2029.9429.9429.9429.94
ดีเซลพรีเมี่ยม41.5443.6444.9443.6442.9441.54
แก๊ส NGV19.5919.5919.59
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า