ตลาดอสังหาฯต่างชาติ เจอมรสุม เงินบาทแข็งค่า ดันแบงก์ชาติลดดอกเบี้ยพยุง
2สมาคมอสังหาฯ-อาคารชุด ฟันธงตลาดอสังหาฯต่างชาติเจอมรสุม เงินบาทแข็งค่า-ผันผวนทำต้นทุนราคาคอนโดแพงขึ้น เทียบเงินหยวนควักกระเป๋าเพิ่มอีก 8%-สกุลดอลลาร์แลกเงินบาทไทยแพงขึ้น 12% ผวา ชะลอโอน สัดส่วน ต่างชาติ 20-25% จาก 8.6 หมื่นล้าน ดันแบงก์ชาติลดดอกเบี้ยพยุง
ท่ามกลางเศรษฐกิจอยู่ในภาวะขยายตัวในระดับตํ่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว จากวิกฤตกำลังซื้อภายในประเทศอ่อนแอเป็นเหตุให้ผู้ประกอบการของไทยต้องพึ่งพา
กำลังซื้อต่างชาติโดยเฉพาะจีนแต่ปัญหาใหญ่ค่าเงินบาทผันผวนระหว่าง32-33บาทสลับไปมา อาจมีผลต่อการตัดสินใจของลูกค้าต่างชาติที่เคยซื้อในช่วง ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35-36บาท ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ต้องมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น
จากอัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลดอลลาร์มาเป็นเงินบาทไทยในช่วงที่จะครบกำหนดโอนกรรมสิทธิ์ จึงเป็นปัญหาว่าผู้ประกอบการอาจมีผลกระทบต่อการตัดสินใจโอนของลูกค้าต่างชาติออกไปเพื่อรอดูท่าที ให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงในอัตราใกล้เคียงจากช่วงที่เคยตกลงซื้อขายกัน
ขณะการหารือระหว่างกระทรวงการคลังกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ระบุว่าจะร่วมมือกันผลักดันเศรษฐกิจให้ก้าวข้ามวิกฤตไปข้างหน้า หลังมีเสียงเรียกร้องจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ต้องการให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) หนึ่งในคณะกรรมการหลักของธปท.
พิจารณาลดดอกเบี้ยนโยบายลงเพื่อพยุงค่าบาทที่แข็งค่าให้อ่อนลง ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบตลาดอสังหาริมทรัพย์สำหรับต่างชาติลงได้ รวมถึงกำลังซื้อคนไทยแม้ว่าจะลดเพียง25 สตางค์รอบเดียวก็ตาม อย่างไรก็ตามจากการแทรกแซงค่าเงินบาทของธปท.พบว่า ค่าเงินอ่อนค่าลงเล็กน้อย
ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ ของรัฐบาลในยุค “เศรษฐา” ที่ออกมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา แม้มองว่าเป็นยาแรง จากการลดค่าโอนและจดจำนองลงสำหรับที่อยู่อาศัยไม่เกิน 7 ล้านบาท ซึ่งเดิมไม่เกิน 3 ล้านบาท
แต่ เป็นจังหวะที่กำลังซื้อในประเทศยํ่าแย่ เศรษฐกิจซบเซาพอดี สถาบันการเงินเข้มงวดสินเชื่อ จากภาวะหนี้ครัวเรือนสูงทวีคูณ จึงดูเหมือนมาตรการที่ออกมาไม่ค่อยได้ผลเท่าที่ควร
นอกจากนี้ ยังมีผลกระทบมาจากปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเผชิญรอบด้านทั้ง สงครามที่เกิดจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ก่อให้เกิดผลกระทบทางตรงและทางอ้อม ทั้งราคานํ้ามัน ตลาดทุน ภาคขนส่ง ทำให้การก่อสร้างที่อยู่อาศัยมีต้นทุน ราคาบ้านต้องปรับสูงขึ้นสวนทางกำลังซื้อล้วนเป็นปัจจัยกระทบต่อตลาดต่างชาติแทบทั้งสิ้น
นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าขณะนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีปัจจับลบรอบด้าน กำลังซื้อในประเทศอ่อนแอ การปฏิเสธสินเชื่อมีสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและลุกลามไปยังบ้านราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป
ขณะตัวช่วยอย่างตลาดต่างชาติ อาจมีผลกระทบและชะลอการตัดสินใจซื้อและโอนออกไป โดยมีผลพวงมาจากเงินบาทแข็งค่าและอยู่ในภาวะผันผวน ปัจจุบันมีส่วนต่างที่เพิ่มขึ้น 12% หรือบ้านแพงขึ้นอีก12%
จากราคาที่เคยตกลงไว้เดิม ที่ลูกค้าต่างชาติต้องนำเงินดอลลาร์แลกเปลี่ยนเป็นค่าบาท ในช่วงโอนที่ต้องควักกระเป๋าเพิ่ม ทำให้ได้รับผลกระทบอาจชะลอการตัดสินใจโอน หรือ ซื้อออกไป ขณะมาตรการภาครัฐส่งผลดี และช่วยได้ในระดับหนึ่ง แต่สู้แรงต้านจากหลายปัจจัยไม่ได้ โดยเฉพาะกำลังซื้อในประเทศ
อย่างไรก็ตามหากรัฐบาลและแบงก์ชาติสามารถเจรจากันได้และปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง เพียงแค่ 25 สตางค์ เชื่อว่าจะช่วยให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ช่วยให้การโอนของคนต่างชาติในช่วงปลายปีหรือไตรมาส 4ดีขึ้น แต่ในทางกลับกันหากเกิดการลดดอกเบี้ยลงจะเกิดการ
ก่อภาระหนี้ใหม่เพิ่มขึ้นซึ่งทางแบงก์ชาติได้มองเรื่องนี้เพราะผลกระทบจากปัญหาหนี้ครัวเรือนยังไม่ลดลง ประกอบกับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เพิ่มขึ้นทั้งบ้านและรถยนต์ ที่ทุกฝ่ายต้องตระหนัก
ด้านนายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย ระบุว่า ช่วงนี้ต้องการให้รัฐบาลและแบงก์ชาติหันหน้าเข้าหากัน เพื่อร่วมผลักดันเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าเพราะขณะนี้ เศรษฐกิจกำลังซื้อทุกภาคส่วนแย่ลง และต้องแบกต้นทุนจากค่าเงินบาทแข็งค่า และภาวะดอกเบี้ยสูง
โดยต้องการให้กนง.ลดดอกเบี้ยนโยบายลง เพื่อลดผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่า ซึ่งจะช่วยพยุงเศรษฐกิจทั้งระบบโดยเฉพาะตลาดต่างชาติที่กำลังจะโอนคอนโดมิเนียม ในช่วงไตรมาส4 จำนวน20-25% จากมูลค่ารวมทั้งหมด 86,000 ล้านบาท
ให้กลับมาอยู่ในภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม สมาคมฯมอง ถึงการพยุงค่าเงินหยวน เพราะ จีนเป็นลูกค้าหลัก ปัจจุบัน ค่าเงินบาทแข็งค่า ทำให้ลูกค้าจีนที่ซื้อคอนโดมิเนียม และจะครบกำหนดโอนในช่วงไตรมาส4 ต้องเพิ่มเงินอีก 8%
เมื่อนำเงินหยวนมาแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาท แต่หากสามารถลดดอกเบี้ยลงจะช่วยให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงและช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจโอนตามกำหนด และหากค่าเงินบาทยังผันผวน และยังคงแข็งค่าจะทำให้ลูกค้าต่างชาติ อาจยื้อการโอนออกไป
อย่างไรก็ตามศูนย์ข้อมูลอสังหา ริมทรัพย์ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ( REIC) สำรวจต่างชาติซื้อคอนโดมิเนียมในไทยช่วง6เดือน แรกปีนี้(ม.ค.-มิ.ย.) จำนวน 7,280 หน่วย มูลค่า 32,888ล้านบาท พบว่ามียอดโอนลดลง – 0.79% มูลค่า- 6.59% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะ ช่วง6เดือนแรกของปี2566 มีลูกค้าต่างชาติโอนคอนโดมิเนียม จำนวน 7,338 หน่วย มูลค่า 35,211 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.6% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยจีนซื้อมากที่สุดและประเมินว่าไตรมาส 3 และไตรมาส 4 กำลังซื้อต่างชาติอาจมีแนวโน้มลดลงเพราะปัจจัยกระทบต่างๆ รอบด้านนั้นเอง
ต้องจับตาช่วงโค้งสุดท้ายปีนี้ว่าในที่สุดแล้วค่าเงินบาทจะยังคงผันผวนมากน้อยแค่ไหนและความหวังรัฐบาลกับแบงก์ชาติ ว่าจะร่วมกันแก้ปัญหาเศรษฐกิจประเทศให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้หรือไม่
หน้า 20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจปีที่ 44 ฉบับที่ 4,033 วันที่ 6 – 9 ตุลาคม พ.ศ. 2567
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
คลอดประกาศ สคบ.คุมสัญญาจองซื้อคอนโด หัวหมอเจอโทษหนักติดคุก
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา สคบ. ให้ธุรกิจการขายห้องชุดที่มีการจองเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา ช่วยผู้บริโภคจองซื้อคอนโดมิเนียม หากธุรกิจทำผิดมีโทษหนักถึงติดคุก
วันนี้ (3 ตุลาคม 2567) ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจการขายห้องชุดที่มีการจองเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2567 มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการควบคุมสัญญาการจองซื้อคอนโดมิเนียม ต้องเป็นไปตามกฎหมาย หากฝ่าฝืนจะมีความผิดทั้งโทษปรับ และจำคุก
สำหรับรายละเอียดของร่างประกาศควบคุมสัญญาการจองซื้อคอนโดมิเนียม กำหนดให้ธุรกิจการขายห้องชุดที่มีการจองเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา โดยประกาศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 120 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา พร้อมกำหนดคำนิยาม ดังนี้
“ธุรกิจการขายห้องชุดที่มีการจอง” หมายความว่า การประกอบธุรกิจที่ผู้บริโภคเข้าทำสัญญาจอง ซื้อห้องชุดในอาคารชุดกับผู้ประกอบธุรกิจ โดยผู้บริโภคจ่ายเงินจองหรือประโยชน์อื่นใดในลักษณะ ทำนองเดียวกับเงินจองที่ไม่ใช่เงินมัดจำหรือเงินดาวน์เพื่อเป็นประกันว่าผู้บริโภคจะมาทำสัญญาจะซื้อจะขาย หรือสัญญาซื้อขายต่อไป ทั้งนี้ ให้รวมถึงการขายห้องชุดที่มีการจองผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์
“แบบสัญญาท้ายประกาศ” หมายความว่า แบบสัญญามาตรฐานสัญญาจองห้องชุดท้ายประกาศนี้
ทั้งนี้ตามร่างประกาศได้กำหนดให้สัญญาจองห้องชุดที่ผู้ประกอบธุรกิจทำกับผู้บริโภคต้องมีข้อความเป็นภาษาไทย ที่สามารถเห็นและอ่านได้ชัดเจน มีขนาดของตัวอักษรไม่เล็กกว่า 2 มิลลิเมตร โดยมีจำนวนตัวอักษร ไม่เกิน 11 ตัวอักษรในหนึ่งนิ้ว และต้องใช้ข้อสัญญาที่มีสาระสำคัญและเงื่อนไข ตามแบบสัญญา ท้ายประกาศนี้
ส่วนข้อสัญญาที่ผู้ประกอบธุรกิจทำกับผู้บริโภคตามแบบสัญญาท้ายประกาศนี้ ผู้ประกอบธุรกิจต้องไม่ใช้ข้อสัญญาที่มีลักษณะหรือมีความหมายทำนองเดียวกัน ดังต่อไปนี้
- ข้อสัญญาที่เป็นการยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดที่เกิดจากการผิดสัญญาของผู้ประกอบธุรกิจ
- ข้อสัญญาที่ให้สิทธิผู้ประกอบธุรกิจเปลี่ยนแปลงสัญญาหรือเงื่อนไขต่าง ๆ ตามที่กำหนดในสัญญา ทำให้ผู้บริโภคต้องรับภาระเพิ่มขึ้นมากกว่าภาระที่เป็นอยู่ในเวลาทำสัญญา
- ข้อสัญญาที่ให้สิทธิผู้ประกอบธุรกิจบอกเลิกสัญญากับผู้บริโภค โดยไม่ต้องบอกกล่าวเป็นหนังสือ หรือโดยผู้บริโภคมิได้ผิดสัญญาหรือผิดเงื่อนไขอันเป็นสาระสำคัญข้อใดข้อหนึ่งในสัญญา
- ข้อสัญญาที่ให้สิทธิผู้ประกอบธุรกิจริบเงินทั้งหมด หรือบางส่วน เว้นแต่ผู้บริโภคเป็นฝ่ายผิดสัญญา
- ข้อสัญญาที่ให้สิทธิผู้ประกอบธุรกิจในการที่จะกำหนดให้เงินจอง หรือประโยชน์อื่นใด ในลักษณะทำนองเดียวกับเงินจองที่ไม่ใช่เงินมัดจำหรือเงินดาวน์ในสัญญา เป็นเงินมัดจำหรือเงินดาวน์
- ข้อสัญญาที่ให้สิทธิผู้ประกอบธุรกิจในการเรียกเก็บเงินค่าโอนสิทธิการจองซื้อห้องชุดจากผู้บริโภค
- ข้อสัญญาที่ให้ผู้ประกอบธุรกิจมีสิทธิในการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินส่วนกลาง
- ข้อสัญญาที่ให้สิทธิผู้ประกอบธุรกิจจัดเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ของผู้บริโภคโดยไม่เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
อย่างไรก็ตามสัญญาจองห้องชุด ต้องจัดทำขึ้นสองฉบับซึ่งมีข้อความถูกต้องตรงกันโดยผู้ประกอบธุรกิจ ส่งมอบสัญญาจองห้องชุดหนึ่งฉบับตามแบบสัญญาท้ายประกาศนี้ให้แก่ผู้บริโภคทันทีที่ได้ลงนามในสัญญา กรณีการขายห้องชุดที่มีการจองผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้เป็นไปตามที่กฎหมายว่าด้วย ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์กำหนด
รวมทั้งกรณีการขายห้องชุดที่มีการจองผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ต้องจัดให้มีข้อความ ภาษาไทยที่สามารถเห็นและอ่านได้ชัดเจนตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์กำหนด และต้องใช้ข้อสัญญาที่มีสาระสำคัญ และเงื่อนไข ตามแบบสัญญาท้ายประกาศนี้
แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ระบุว่า ประกาศฉบับนี้จะช่วยให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้บริโภคมากขึ้น เกี่ยวกับสัญญาการขายห้องชุดที่มีการจอง หากใครที่ทำผิดกฎหมายจะมีความผิดตามกฎหมายของ สคบ. โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้4ต.ค. “แข็งค่าเล็กน้อย” ที่ระดับ 33.12 บาทต่อดอลลาร์
ค่าเงินบาทยังมีโอกาสผันผวน ส่วนเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวในกรอบ sideways มีจังหวะแข็งค่าขึ้น มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.00-33.30 บาท/ดอลลาร์
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้4ต.ค. 2567 ที่ระดับ 33.12 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลง” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 33.14 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทยเปิดเผย แนวโน้มของค่าเงินบาท โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทยังคงมีอยู่ ทว่า เงินบาทก็ยังไม่สามารถอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้าน 33.20 บาทต่อดอลลาร์ ที่เราประเมินไว้ได้อย่างชัดเจน
ซึ่งก็สอดคล้องกับมุมมองของเราว่า “ตราบใดที่ราคาทองคำยังมีจังหวะปรับตัวสูงขึ้นได้ จากความกังวลสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง เงินบาทก็อาจไม่สามารถอ่อนค่าลงได้ต่อเนื่องอย่างชัดเจน”
ทั้งนี้ เรายังคงมีความมั่นใจอยู่ว่า เงินบาทจะมีโอกาสทยอยอ่อนค่าลงได้ หากเงินบาทไม่ได้กลับมาแข็งค่าขึ้นจนหลุดโซนแนวรับ 32.70-32.80 บาทต่อดอลลาร์ นอกจากนี้ จากสถิติย้อนหลังตั้งแต่ปี 2010 เราพบว่า หากเกิดสัญญาณ Long USDTHB จากเครื่องมือเชิงเทคนิคัลอย่าง Supertrend (KivancOzbilgic)
ในช่วงที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นเร็ว แรง จน RSI ของ USDTHB เข้าสู่โซน Oversold พบว่า เงินบาท (USDTHB) อาจอ่อนค่าต่อได้ราว +2% หรือมีโอกาสเห็นเงินบาทกลับไปแถว 33.25-33.50 บาทต่อดอลลาร์ได้
ซึ่งภาพดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้ไม่ยาก หาก 1) บรรดานักลงทุนต่างชาติยังคงเดินหน้าทยอยขายทำกำไรสินทรัพย์ไทยอย่างที่เราประเมินไว้ ซึ่งล่าสุดนักลงทุนต่างชาติก็ขายสุทธิสินทรัพย์ไทยราว -6 พันล้านบาทในวันก่อนหน้า
2) ผู้เล่นในตลาดปรับลดความคาดหวังการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟดชัดเจน ตามรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างข้อมูลการจ้างงานที่ออกมาตามคาด หรือ ดีกว่าคาด และ 3) ตลาดคลายกังวลสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ทำให้ราคาทองคำกลับเข้าสู่ช่วงการปรับฐาน (Correction)
อย่างไรก็ดี การอ่อนค่าของเงินบาทอาจมีลักษณะค่อยเป็นค่อยไปได้ เนื่องจากผู้เล่นในตลาดบางส่วน โดยเฉพาะฝั่งผู้ส่งออกก็อาจรอทยอยขายเงินดอลลาร์ในช่วงเงินบาทอ่อนค่าลงบ้าง
เช่น เงินบาทอ่อนค่าเหนือโซน 33.00 บาทต่อดอลลาร์ นอกจากนี้ บรรดาสกุลเงินฝั่งเอเชียอาจยังพอได้แรงหนุนอยู่บ้าง จากความหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ทำให้ผู้เล่นในตลาดอาจยังไม่รีบลดสถานะ Net Long บรรดาสกุลเงินฝั่งเอเชียได้ (มองสกุลเงินฝั่งเอเชียแข็งค่าขึ้น)
ทั้งนี้ เรามองว่า ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ในคืนนี้ โดยเฉพาะในส่วนของรายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ซึ่งจะทยอยรับรู้ในช่วง 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย เพราะหากข้อมูลการจ้างงานออกมาน่าผิดหวังและแย่กว่าคาดชัดเจน
เช่น ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) ต่ำกว่า 1 แสนตำแหน่ง ก็อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดกลับมาคาดหวังการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟด กดดันให้เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงได้พอสมควร ส่วนราคาทองคำก็อาจปรับตัวขึ้นต่อและเงินบาทก็อาจแข็งค่าขึ้นได้พอสมควร ซึ่งจากสถิติย้อนหลัง 1 ปี พบว่า เงินบาทมักจะแกว่งตัวราว +/-0.4% ในช่วง 30 นาที หลังรับรู้รายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ
เรายังคงแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.00-33.30 บาท/ดอลลาร์ (ระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ)
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ sideways (กรอบการเคลื่อนไหว 33.08-33.25 บาทต่อดอลลาร์) โดยเงินบาทมีจังหวะอ่อนค่าลงทดสอบโซนแนวต้าน 33.20 บาทต่อดอลลาร์ ได้จริงตามที่เราประเมินไว้ หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่าง ดัชนี ISM PMI ภาคการบริการในเดือนกันยายน ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 54.9 จุด ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้แถวระดับ 51.7 จุด
ทำให้เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ต่างปรับตัวสูงขึ้น ทว่า การอ่อนค่าของเงินบาทดังกล่าวก็อยู่ได้ไม่นานนัก และเงินบาทก็พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น ตามโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ หลังราคาทองคำยังคงปรับตัวสูงขึ้นจากความกังวลสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่มีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงมากขึ้น หากอิสราเอลเปิดฉากโจมตีกลับอิหร่าน (ไม่ว่าจะเป็นคลังน้ำมันอิหร่าน หรือ โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านก็ตาม)
นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดบางส่วนก็อาศัยจังหวะที่เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเข้าใกล้โซนแนวต้าน (ดัชนีเงินดอลลาร์ หรือ DXY เข้าใกล้โซน 102 จุด) ในการทยอยปรับสถานะการถือครองหรือขายทำกำไรการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ในช่วงระยะสั้นที่ผ่านมา ก่อนที่จะทยอยรับรู้รายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ในคืนวันศุกร์นี้
ความกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางยังคงกดดันบรรยากาศในตลาดหุ้นสหรัฐฯ แม้ว่ารายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุด อย่าง ดัชนี ISM PMI ภาคการบริการจะออกมาดีกว่าคาดก็ตาม ทั้งนี้ สถานการณ์ความขัดแย้งดังกล่าวยังคงหนุนให้บรรดาหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น อาทิ Exxon Mobil +0.9% ทำให้โดยรวมดัชนี S&P500 ปิดตลาด -0.17%
ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 พลิกกลับมาปรับตัวลง -0.93% กดดันโดยความกังวลสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ทำให้ผู้เล่นในตลาดเดินหน้าลดความเสี่ยงลง ทว่าความกังวลดังกล่าวยังคงหนุนให้หุ้นกลุ่มพลังงานและหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมการทหารปรับตัวขึ้นต่อได้ อาทิ Shell +1.7%, Rolls Royce +2.8%
ในฝั่งตลาดบอนด์ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ทยอยปรับตัวสูงขึ้นทะลุแนวต้าน 3.80% ก่อนที่จะทรงตัวแถวระดับ 3.84% หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด รวมถึงถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดได้ทำให้ผู้เล่นในตลาดทยอยปรับลดความคาดหวังต่อการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟด นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของราคาน้ำมันดิบในช่วงนี้ จากความกังวลสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางก็มีส่วนหนุนการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ เช่นกัน
อนึ่ง เรามองว่า บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อาจมีการเคลื่อนไหวที่ชัดเจนมากขึ้น หลังผู้เล่นในตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้เพิ่มเติม โดยข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ที่ออกมาตามคาด หรือดีกว่าคาด จะทำให้ผู้เล่นในตลาดทยอยลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟด หนุนให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ พร้อมที่จะปรับตัวสูงขึ้นต่อได้ หากตลาดคลายกังวลสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง
ในทางกลับกัน หากข้อมูลการจ้างงานออกมาแย่กว่าคาดชัดเจน อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดกลับมาคาดหวังการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟด รวมถึงอาจกังวลต่อความเสี่ยงเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลงหนัก จนเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มเติม กดดันให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงได้พอสมควร
ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์เคลื่อนไหวในกรอบ sideways โดยเงินดอลลาร์มีจังหวะแข็งค่าขึ้น ตามรายงานดัชนี ISM PMI ภาคการบริการสหรัฐฯ ล่าสุด ที่ออกมาดีกว่าคาด ทยอยการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ก็ถูกจำกัด
โดยการทยอยขายทำกำไรหรือการปรับสถานะถือครองของผู้เล่นในตลาดก่อนที่จะรับรู้รายงานข้อมูลการจ้างงานในวันศุกร์นี้ ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ยังคงแกว่งตัวแถวโซน 101.9 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 101.8-102.1 จุด)
ในส่วนของราคาทองคำ แม้ว่า เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ จะมีจังหวะปรับตัวสูงขึ้น แต่ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค.) ก็สามารถปรับตัวสูงขึ้นสู่โซน 2,680 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้อีกครั้ง ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง
สำหรับวันนี้ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ทั้ง ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) อัตราการว่างงาน (Unemployment Rate) และอัตราการเติบโตของค่าจ้าง (Average Hourly Earnings)
นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด ที่จะทยอยออกมาให้ความเห็นในช่วงหลังตลาดรับรู้รายงานข้อมูลการจ้างงาน เพื่อประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ซึ่งปัจจุบัน ผู้เล่นในตลาดยังคงมีความคาดหวังอยู่บ้าง ว่า เฟดจะสามารถเร่งลดดอกเบี้ยได้ในการประชุมที่เหลือของปีนี้
และนอกเหนือจากปัจจัยดังกล่าว เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดจะยังคงรอติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด ว่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้นและลุกลาม บานปลาย จนส่งผลกระทบในวงกว้างหรือไม่ โดยต้องจับตาอย่างใกล้ชิดว่า ความขัดแย้งดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันดิบจากตะวันออกกลาง รวมถึงส่งผลกระทบต่อโฟลว์การขนส่งสินค้าโภคภัณฑ์กลุ่มพลังงานมากน้อยเพียงใด
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทอ่อนค่ามาปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 33.11-33.13 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.30 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 33.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ
แม้เงินบาทยังคงอ่อนค่าลงตามทิศทางของสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้นตามการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ซึ่งมีปัจจัยหนุนจากดัชนี ISM ภาคบริการของสหรัฐฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาด (ไปที่ระดับ 54.9 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2566)
อย่างไรก็ดี กรอบการอ่อนค่าของเงินบาทอาจเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากราคาทองคำในตลาดโลกทยอยได้รับอานิสงส์จากความกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง กรณีระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน ที่ยังอยู่ในภาวะตึงเตรียดต่อเนื่อง
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 33.00-33.25 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลกและสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงานเดือนก.ย.
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ยูโอบีระดมทุน 5.1 ล้านหนุนการศึกษายช.ไทยใน 2024 UOB Heartbeat Run
ยูโอบี ประเทศไทย ร่วมใจพนักงาน ลูกค้า พันธมิตรธุรกิจ ระดมเงินบริจาค 5.1 ล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนการศึกษาของเด็กไทย ใน 2024 UOB Heartbeat Run
ยูโอบี ประเทศไทย ร่วมระดมเงินบริจาคในกิจกรรมประจำปี 2024 UOB Heartbeat Run จำนวน 5.1 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการศึกษาของเด็กไทย โดยมีผู้บริหาร พนักงานธนาคาร พร้อมครอบครัวทั่วประเทศ รวมถึงลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจกว่า 2,300 คน เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมอาสาเพื่อสังคมที่กลุ่มธนาคารยูโอบีจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีใน 18 ประเทศทั่วโลก
เงินระดมทุนได้ในประเทศไทยจะนำไปสนับสนุนโครงการ UOB My Digital Space (MDS) ที่จะมอบการศึกษาที่มีคุณภาพผ่านเครื่องมือการเรียนรู้และทักษะดิจิทัลวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษให้กับนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลของประเทศไทย ซึ่งสอดคล้องกับโครงการเพื่อสังคมของธนาคารยูโอบีที่มุ่งเน้นสนับสนุนด้านศิลปะ เยาวชนและการศึกษา
นายริชาร์ด มาโลนี่ย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “โครงการ UOB My Digital Space นับเป็นการลงทุนที่สำคัญต่ออนาคตของประเทศไทย ด้วยการมอบโอกาสให้เด็กนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลเข้าถึงเทคโนโลยีและการศึกษา เราไม่ได้เพียงลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล ยังนับเป็นการบ่มเพาะผู้นำรุ่นใหม่ของประเทศไทยอีกด้วย โครงการนี้เป็นมากกว่าเป็นความรับผิดชอบต่อสังคม แต่เป็นการส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของประเทศในเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยองค์ความรู้ระดับโลก เราเชื่อว่าการให้ความสำคัญกับการศึกษา จะช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนและเป็นประโยชน์ต่อประเทศในระยะยาว”
กิจกรรม 2024 UOB Heartbeat Run ปีนี้นับเป็นครั้งที่ 14 ในประเทศไทย จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2567 ณ สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) มีระยะวิ่ง 2 เส้นทางได้แก่ 2.8 กิโลเมตร และ 5.6 กิโลเมตร นอกจากนี้ผู้ที่มาร่วมงาน ยังได้เพลิดเพลินกับการแสดงจากวงโยธวาทิตโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี และกิจกรรมสนุกๆ ที่เตรียมไว้สำหรับเด็กและผู้ใหญ่ที่มาร่วมงานอีกด้วย
สำหรับเงินระดมทุนที่ได้ในปีที่แล้ว สามารถนำไปสนับสนุนนักเรียนกว่า 4,000 คนใน 6 โรงเรียนทั่วประเทศ นับว่าช่วยเพิ่มการเข้าถึงการศึกษาในวิชาหลักได้อย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ กิจกรรม 2024 UOB Heartbeat Run ยังเป็นงานวิ่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็น
เสื้อวิ่งรักษ์โลกจากผ้าเหลือใช้จากอุตสาหกรรมแฟชั่น
เหรียญรางวัลที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล และยังสามารถนำไปใช้ต่อเป็นที่รองแก้ว
ถ้วยรางวัลนักวิ่งที่ผลิตจากกล่องนมรีไซเคิล และยังสามารถนำไปใช้เป็นที่วางโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต
ขวดน้ำดื่มยูโอบีที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล 100%
ถังขยะรีไซเคิลสำหรับรวบรวมขวดพลาสติก พร้อมจุดคัดแยกขยะ 2 แห่งสำหรับเก็บขยะทุกรูปแบบเพื่อนำไปรีไซเคิล
บริจาคอาหารส่วนเกินให้แก่ชุมชนใกล้เคียง
กิจกรรม UOB Heartbeat Run เป็นส่วนหนึ่งของ ยูโอบี ฮาร์ทบีท (UOB Heartbeat CSR Programme) โครงการความรับผิดชอบต่อสังคมของกลุ่มธนาคารยูโอบี ที่ดำเนินการตามค่านิยมของธนาคารได้แก่ คุณธรรม สร้างสรรค์ เป็นหนึ่งเดียว และมุ่งมั่น โดยผสานความเข้มแข็งของเครือข่ายธนาคารทั่วโลกเพื่อมุ่งสร้างผลกระทบเชิงบวกให้แก่ชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาเด็กและเยาวชนผ่านศิลปะและการศึกษา
ขอบคุณข้อมูลจาก siamsport.co.th
5 ข้อควรทำให้หลังตื่นนอนสดชื่น มีพลัง เปี่ยมประสิทธิภาพ
การนอนหลับอย่างมีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับการพักผ่อนและฟื้นฟูร่างกาย แม้ว่าสาว ๆ หลายคนจะรู้เรื่องนี้ดี แต่ก็มีบางครั้งที่สถานการณ์บังคับให้ต้องนอนดึกแล้วพาให้สมองเบลอได้ไม่น้อย จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าการนอนหลับไม่เพียงพอ สามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายในวันถัดไป ดังนั้น จึงขอแนะนำ 5 เทคนิคช่วยทำให้หลังตื่นนอนของสาว ๆ มีความสดชื่นมากขึ้นมาฝาก แม้จะนอนน้อยก็ตาม หากก็เฟรชมีพลังได้เต็มประสิทธิภาพ
5 ข้อควรทำให้หลังตื่นนอนสดชื่น
1.ควบคุมสิ่งเร้าให้ได้
การควบคุมปัจจัยต่าง ๆ ที่สามารถลดประสิทธิภาพการนอนหลับ ถือเป็นสิ่งสำคัญในการพักผ่อนที่ดีในตอนกลางคืน เช่น การอยู่ให้ห่างจากมือถือและอุปกรณ์ IT ทุกประเภท หลีกเลี่ยงการใช้ก่อนเข้านอน และสร้างสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลาย ด้วยการใช้กลิ่นหอมที่เป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ การฝึกหายใจยังช่วยส่งเสริมให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น เมื่อต้องเผชิญกับเวลานอนที่จำกัด การพักผ่อนให้เต็มที่จึงเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้น ควรให้ความสำคัญกับการพักผ่อนมากที่สุด และควบคุมสิ่งเร้ารอบข้างให้ได้
2.ก่อนนอนต้องหยุดกิจกรรมกระตุ้นสมอง
สาว ๆ ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกระตุ้นสมองก่อนเข้านอน ในความเป็นจริงแล้ว หลังจากทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก ไม่ควรเข้านอนทันที แต่ควรพักอย่างน้อย 30 นาที หลายคนอาจรู้สึกเหนื่อยและง่วงนอน แต่ก็สงสัยว่าทำไมจึงนอนไม่หลับ นั่นเพราะร่างกายยังไม่พร้อม จึงควรต้องใช้เวลาเพียงเล็กน้อยในการเตรียมตัว การนอนหลับก็เต็มอิ่มภายในระยะเวลาที่รวดเร็วและไม่ทำลายสุขภาพอีกด้วย
3.สร้างคุณภาพการนอน
สร้างคุณภาพการนอนหลับของคุณผู้หญิง และฟื้นฟูจิตใจกับร่างกายได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการลองฝึกสติและพูดกับตัวเองอย่างผ่อนคลาย หายใจเข้าลึก ๆ พร้อมการเปลี่ยนหมอนและที่นอนคุณภาพดี เพื่อการนอนหลับสบาย หรืออาจเปลี่ยนผ้าปูที่นอนเป็นสีเขียว เพื่อให้ความรู้สึกเย็นสบายมากขึ้น และสิ่งสำคัญคือต้องไม่กินอาหารอย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนเข้านอน หากใครต้องการเสริมการนอนหลับที่มีคุณภาพมากขึ้น หลับลึกได้ดี แนะนำการใช้วิตามินก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ได้ผลดีเช่นกัน
4.พักสายตา 10-20 นาทีต่อวัน
การงีบหลับสั้น ๆ ในระหว่างวัน สามารถช่วยป้องกันความเหนื่อยล้าได้ การหลับตาเพียงไม่กี่วินาทีก็ช่วยให้สมองได้พักผ่อนเช่นกัน ลองหลับตาสัก 1 นาที วิธีนี้จะช่วยให้คุณผ่อนคลายได้จริง อีกวิธีหนึ่งคือการงีบหลับ 10-20 นาที ซึ่งจะช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่นและมีพลัง ลองทำดูค่ะ! แล้วสาว ๆ จะรู้สึกผ่อนคลายและเหนื่อยน้อยลง
5.งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนก่อนนอน
แม้ว่าเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนอาจมีประโยชน์ สำหรับผู้ที่ต้องทำงานหนักตลอดวันและตลอดคืน แต่สิ่งสำคัญที่ต้องรู้คือเครื่องดื่มเหล่านี้อาจทำให้รู้สึกไม่สดชื่นในตอนเช้า เพราะมีคุณสมบัติในการกระตุ้นที่ทำให้หลับได้ยาก ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนก่อนเข้านอน แต่หากจำเป็นต้องทำงานดึก ให้พยายามลุกขึ้นมาล้างหน้า ดื่มน้ำมาก ๆ และรับประทานผลไม้สด เพื่อให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นมากขึ้น
การตื่นนอนด้วยความรู้สึกสดชื่นและมีพลัง ถือเป็นเรื่องสำคัญในการเริ่มต้นวันใหม่ของสาว ๆ นะคะ ด้วยเทคนิคง่าย ๆ อย่างหนึ่งในการบรรลุเป้าหมาย คือ การตื่นนอนและยืดเส้นยืดสายเพียง 1 นาที จากนั้นอาบน้ำอุ่น เพื่อให้เลือดไหลเวียนดี หากคุณได้ลองเทคนิคเหล่านี้แล้ว แต่ยังรู้สึกว่าต้องการพลังงานเพิ่ม ให้ลองรับประทานอาหารเสริมที่จะช่วยให้การนอนหลับของคุณดีขึ้น ดังนั้น การนอนหลับให้เพียงพอและเข้านอนเป็นเวลาอย่างสม่ำเสมอทุกวัน จะให้ประโยชน์ต่อสุขภาพสาว ๆ อย่างมากเลย
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
เทคนิค การ เขียน Essay ภาษาอังกฤษให้ถูกต้องและน่าสนใจ
การ เขียน Essay เป็นทักษะที่สำคัญในชีวิตการศึกษาและการทำงาน ในการนำเสนอข้อมูล บทความนี้นำเสนอเทคนิคการเขียน Essay ภาษาอังกฤษให้ถูกต้องและน่าสนใจอย่างมืออาชีพ
การ เขียน Essay มีความสำคัญในการนำเสนอข้อมูลหรือความเห็นต่าง ๆ เป็นภาษาอังกฤษ บทความนี้จะช่วยให้เข้าใจถึงเทคนิคการเขียน Essay ตั้งแต่การวางโครงสร้าง การเขียนส่วนต่าง ๆ ของ Essay เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจและมีความประทับใจในเนื้อหา
วางโครงสร้าง การ เขียน Essay อย่างมืออาชีพ
การวางโครงสร้างของ Essay เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเขียนเนื้อหาให้เป็นระเบียบและเข้าใจง่าย โครงสร้างที่ดีจะช่วยให้งานเขียนมีความชัดเจน น่าสนใจ ช่วยให้ผู้อ่านสามารถติดตามและเข้าใจแนวคิดที่นำเสนอได้ ซึ่งโครงสร้างของ Essay แบ่งออกเป็น 3 องค์ประกอบหลัก
3 องค์ประกอบหลักของโครงสร้าง Essay
- ความนำ (Introduction) ส่วนเริ่มต้นของเรื่อง เป็นการเกริ่นนำก่อนที่จะเข้าเรื่อง การเริ่มต้นด้วย Introduction ที่ดีจะช่วยสร้างความประทับใจและกระตุ้นความสนใจให้กับผู้อ่าน ควรนำเสนอหัวข้อของ Essay และมี Thesis Statement (คำแถลงวิทยานิพนธ์) ที่ระบุประเด็นหลักที่จะอธิบายใน Essay นั้น ๆ
- เนื้อหา (Body Paragraphs) เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดใน Essay เนื่องจากเป็นส่วนที่จะอธิบายและนำเสนอข้อมูลสนับสนุน Thesis Statement ที่นำเสนอ เนื้อหาควรแบ่งออกเป็นหลายย่อหน้าตามหัวข้อหรือประเด็นที่ต้องการนำเสนอ
- บทสรุป (Conclusion) เป็นส่วนสุดท้ายของ Essay ที่มีหน้าที่สรุปเนื้อหาทั้งหมด ควรเขียนให้กระชับและชัดเจน โดยสรุปประเด็นสำคัญที่ได้กล่าวถึงใน Body Paragraphs และย้ำความสำคัญของประเด็นหลักและเสนอข้อสรุปหรือข้อคิดเห็นที่ชัดเจน
การเขียน Introduction ให้ดึงดูดใจ
Introduction ของ Essay เป็นส่วนสำคัญที่สุดในช่วงเริ่มต้นของการเขียน เพราะเป็นส่วนแรกที่ผู้อ่านจะได้เจอ ซึ่งหากเขียนให้ดึงดูดใจ จะทำให้ผู้อ่านสนใจและมีความกระตือรือร้นที่จะอ่านต่อไป การเขียน Introduction ที่ดีต้องแนะนำหัวข้ออย่างชัดเจน และยังต้องสร้างความน่าสนใจและกระตุ้นความคิดของผู้อ่าน Introduction ควรประกอบด้วย
- Hook คือประโยคหรือแนวคิดที่ใช้เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้อ่านได้ในทันที ที่จะทำให้ผู้อ่านรู้สึกอยากอ่านต่อไป มีหลายวิธีในการสร้าง Hook ที่น่าสนใจ ดังนี้
- การตั้งคำถาม การถามคำถามที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อจะช่วยกระตุ้นความคิดของผู้อ่าน เช่น “Have you ever wondered why disasters occur so often and more serious nowadays?”
- การยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่เป็นจริง การเริ่มต้นด้วยเรื่องราวหรือเหตุการณ์จริงที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อจะทำให้ผู้อ่านรู้สึกถึงความเป็นจริง เช่น “In 2020, the world faced enormous changes as online activities became a necessity in every corner of the world.”
- การใช้ข้อเท็จจริงหรือสถิติที่น่าสนใจ เช่น สถิติหรือตัวเลขสำคัญจะช่วยเพิ่มความสนใจให้กับหัวข้อ เช่น ” Research has found that only 60% of Thai children go on to study at the high school level, and only 28% go to university.”
- Background Information คือการเชื่อมโยง Hook กับหัวข้อของ Essay ให้เป็นธรรมชาติ ซึ่งการเชื่อมโยงนี้จะทำให้ผู้อ่านเข้าใจว่าเหตุใดเรื่องราวหรือคำถามใน Hook จึงมีความสำคัญต่อหัวข้อที่คุณจะพูดถึง โดยการอธิบายข้อมูลเพิ่มเติมหรือให้รายละเอียดเกี่ยวกับหัวข้อที่กำลังเขียน เพื่อช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจบริบทหรือความสำคัญของหัวข้อ
- Thesis Statement ที่ชัดเจน คือส่วนสำคัญที่สุดใน Introduction เพราะเป็นประโยคที่สรุปประเด็นหลักที่จะกล่าวถึงใน Essay หากเขียน Thesis Statement ได้ชัดเจนและตรงประเด็น ก็จะช่วยให้ผู้อ่านเห็นภาพรวมของเนื้อหาและแนวคิดที่จะตามมาได้ชัดเจน โดย Thesis Statement ที่ดีควรเป็นดังนี้
- ชัดเจนและตรงประเด็น ไม่คลุมเครือหรือยาวเกินไป
- สรุปใจความสำคัญ ควรเป็นการสรุปว่าผู้เขียนจะนำเสนออะไรใน Essay
- แนวทางในการนำเสนอ ควรบ่งบอกแนวคิดหรือมุมมองของผู้เขียน
- การเขียนให้กระชับและไม่ซับซ้อน Introduction ควรมีความกระชับ ไม่ควรมีความยาวเกินไป และควรตรงประเด็น การใช้ภาษาที่ชัดเจนและเข้าใจง่ายจะช่วยให้ผู้อ่านไม่รู้สึกสับสน หลีกเลี่ยงการใช้ประโยคที่ซับซ้อน หรือใส่รายละเอียดมากเกินไปในช่วงเริ่มต้น
การเขียน Introduction ให้ดึงดูดใจผู้อ่านต้องอาศัยทักษะในการสร้าง Hook ที่น่าสนใจ เชื่อมโยงกับหัวข้ออย่างเป็นธรรมชาติ และเขียน Thesis Statement ที่ชัดเจน
การ เขียน Essay ต้องมี Body Paragraphs ที่น่าเชื่อถือ
Body Paragraphs เป็นส่วนสำคัญที่สุดใน Essay เพราะเป็นส่วนที่นำเสนอข้อคิดเห็น ข้อมูล และหลักฐานที่สนับสนุน Thesis Statement การเขียน Body Paragraphs ให้น่าเชื่อถือต้องใช้การวางโครงสร้างที่ดี การเลือกข้อมูลสนับสนุนที่ถูกต้อง และการอธิบายอย่างชัดเจนและละเอียดถี่ถ้วน Body Paragraphs ควรแบ่งออกเป็นหลายย่อหน้าตามหัวข้อหรือประเด็นที่ต้องการนำเสนอ แต่ละย่อหน้าควรมีองค์ประกอบดังนี้
- การเขียน Topic Sentence ที่ชัดเจน
Topic Sentence คือประโยคแรกของย่อหน้า ที่อธิบายถึงประเด็นหลักของย่อหน้านั้น เป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ Body Paragraphs มีความเป็นระเบียบและน่าเชื่อถือ ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจว่าผู้เขียนกำลังจะกล่าวถึงเรื่องอะไร และยังเป็นตัวช่วยในการกำหนดให้ผู้เขียนสามารถเขียนเนื้อหาที่เหลือในย่อหน้านั้นโดยยึดตามหัวข้อที่กำหนดไว้
- การใช้ Supporting Details หลักฐานและข้อมูลสนับสนุน
ข้อมูลหรือหลักฐานที่สนับสนุน Topic Sentence เพื่อทำให้ Body Paragraphs มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งหลักฐานเหล่านี้อาจมาจากแหล่งต่าง ๆ เช่น
- งานวิจัยทางวิชาการ: ข้อมูลที่มาจากงานวิจัยที่มีการตรวจสอบและยอมรับในวงการวิชาการ
- ข้อมูลสถิติตัวเลขและสถิติที่ชัดเจนช่วยยืนยันข้อเท็จจริงและทำให้ข้อคิดเห็นของงานเขียนมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
- ตัวอย่างที่เป็นจริง การยกตัวอย่างเหตุการณ์หรือบุคคลที่เป็นจริง ช่วยให้ผู้อ่านเห็นภาพและเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น
การนำเสนอหลักฐานหรือข้อมูลเพียงอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ ผู้เขียนต้องวิเคราะห์และอธิบายข้อมูลเหล่านั้นให้ผู้อ่านเข้าใจว่ามีความสำคัญและเกี่ยวข้องกับ Thesis Statement ที่นำเสนออย่างไร การวิเคราะห์ข้อมูลเป็นการแสดงให้ผู้อ่านเห็นถึงความเข้าใจลึกซึ้งในหัวข้อที่นำเสนอ เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจว่าเพราะเหตุใดข้อมูลนั้นจึงสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกับ Thesis Statement อย่างไร
- การใช้ Transition เพื่อความลื่นไหล
ใช้เพื่อเชื่อมโยงแต่ละย่อหน้าเข้าด้วยกันให้มีความต่อเนื่องและลื่นไหล การใช้ Transition ที่เหมาะสมช่วยให้ Essay มีความสอดคล้องและมีโครงสร้างที่ชัดเจน ซึ่งจะช่วยให้ผู้อ่านสามารถติดตามแนวคิดของผู้เขียนได้ง่ายขึ้น Transition ที่นิยมใช้ได้แก่
- Moreover สำหรับการเพิ่มข้อมูลที่สนับสนุนประเด็นเดิม
- However เมื่อคุณต้องการนำเสนอข้อคิดเห็นที่แตกต่างหรือขัดแย้งกับประเด็นที่กล่าวถึงก่อนหน้า
- Therefore เพื่อสรุปและเน้นถึงผลลัพธ์หรือข้อสรุปจากประเด็นที่ได้กล่าวถึง
การเขียน Body Paragraphs ให้น่าเชื่อถือควรเน้นการใช้ Topic Sentence ที่ชัดเจน การนำเสนอหลักฐานที่น่าเชื่อถือ การวิเคราะห์ข้อมูลอย่างมีเหตุผล และการใช้ Transition เพื่อเชื่อมโยงเนื้อหาอย่างลื่นไหล นอกจากนี้ การสรุปย่อหน้าอย่างมีประสิทธิภาพก็จะช่วยเสริมความน่าเชื่อถือและทำให้ผู้อ่านติดตามเนื้อหาได้ง่ายขึ้น
การเขียน Conclusion ให้ชัดเจนในใจผู้อ่าน
Conclusion คือบทสรุป เป็นส่วนสุดท้ายของ Essay ที่มีบทบาทสำคัญในการสรุปประเด็นที่กล่าวมาและทำให้ผู้อ่านจดจำเนื้อหาหลักได้อย่างชัดเจน การเขียน Conclusion ที่ดีต้องสรุปเนื้อหาทั้งหมดอย่างกระชับ เพื่อทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่างานเขียนนั้นได้ข้อสรุปที่ครบถ้วนและสร้างความประทับใจ เทคนิคการเขียน Conclusion ให้ชัดเจนในใจผู้อ่าน มีแนวทาง ดังนี้
- การสรุปประเด็นหลัก ควรสรุปประเด็นหลักที่กล่าวถึงใน Body Paragraphs โดยไม่ต้องนำเสนอข้อมูลใหม่ แต่ย้ำถึงความสำคัญของ Thesis Statement อีกครั้ง
- การให้ข้อคิดหรือแง่มุมเพิ่มเติม เช่น ผลกระทบต่อสังคม หรือการเสนอคำแนะนำในเชิงวิจารณ์ จะทำให้ผู้อ่านเข้าใจว่างานเขียนนี้มีความหมายมากกว่าเพียงการตอบโจทย์ในระดับพื้นฐาน
- การจบประโยคด้วยการใช้ภาษาที่สร้างความประทับใจ จะทำให้ผู้อ่านจดจำเนื้อหาได้ง่ายขึ้น อาจเป็นการตั้งคำถาม กระตุ้นให้คิด หรือกล่าวถึงข้อเสนอแนะที่นำไปสู่การปฏิบัติได้จริง หลีกเลี่ยงการใช้ภาษาที่ยาก ซับซ้อน หรือยาวเกินไป
การเขียน Conclusion ที่ชัดเจนในใจผู้อ่านต้องเน้นการสรุปประเด็นหลัก เชื่อมโยงกับ Thesis Statement ให้ข้อคิดเพิ่มเติม ใช้ภาษาที่สร้างความประทับใจ และหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่พบบ่อย
ขอบคุณข้อมูลจาก engduothailand.com
มาแล้ว Microsoft Office 2024 เวอร์ชั่นไลเซนต์ เปิดให้ซื้อแล้ว
ในที่สุดแล้ว Microsoft ได้เปิดตัว Office 2024 ใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการ Mac และ PC รอบนี้เป็นแบบ Standlone เพื่อใช้กับ Mac และ PC
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ Microsoft Office 2024
- Excel: ประสิทธิภาพเร็วขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเปิดใช้งานเวิร์กบุ๊กหลายไฟล์พร้อมกัน
- Outlook: เพิ่มท่าทางการปัดแบบกำหนดเองเพื่อจัดการอีเมล ใช้งานร่วมกับ Magic Trackpad และ Magic Mouse
- PowerPoint: เพิ่มฟีเจอร์ “cameo” ฝังฟีดกล้องสดลงในสไลด์ และ “recording studio” บันทึกเสียงบรรยาย แอนิเมชัน ทรานซิชัน และลายเส้น
- Word และ PowerPoint: สามารถกดไลค์และแสดงปฏิกิริยาต่อความคิดเห็นในเอกสารที่แชร์ร่วมกันได้แล้ว
- OneNote: ปรับปรุงประสบการณ์การเขียนด้วยปากกา รวมถึงมุมมองแบบเต็มหน้าจอที่เน้นการใช้ปากกา
- รองรับ OpenDocument format (ODF) 1.4: ใน Word, Excel และ PowerPoint
Office 2024 ใช้งานได้กับ macOS Ventura, macOS Sonoma และ macOS Sequoia ต้องใช้บัญชี Microsoft และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อติดตั้งและเปิดใช้งาน มีให้เลือก 2 รุ่น:
- Office Home 2024: ราคา 149.99 ดอลลาร์ ประกอบด้วย Word, Excel, PowerPoint และ OneNote
- Office Home & Business 2024: ราคา 249.99 ดอลลาร์ เพิ่ม Outlook และสิทธิ์การใช้งานเชิงพาณิชย์
แต่ว่าทั้งหมดนี้ถ้าใครใช้ Microsoft 365 ก็สามารถใช้งานเวอร์ชั่นได้ทันที
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
5 เครื่องดื่มบูสต์พลังหลังออกกำลังกาย ปลุกคืนความสดใสได้เยี่ยม
การดื่มเครื่องดื่มบางประเภทหลังออกกำลังกาย สามารถช่วยบู๊สต์พลังได้จริง ซึ่งหลังจากสาว ๆ เสียเหงื่อและใช้พลังงานจากกล้ามเนื้อ การดื่มเครื่องดื่มคุณภาพจะช่วยเติมพลังหลังออกกำลังกาย ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวจากความเหนื่อยล้าได้เร็วขึ้น เราจึงขอแนะนำ 5 เครื่องดื่มบูสต์พลัง ช่วยทดแทนน้ำและเหงื่อที่สูญเสียไปหลังออกกำลังกาย พร้อมให้สุขภาพที่ดีอีกด้วยนะคะ มาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
5 เครื่องดื่มบูสต์พลัง
1.เกลือแร่
อิเล็กโทรไลต์เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ช่วยให้ระบบต่าง ๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีส่วนประกอบของโซเดียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม และแคลเซียม เมื่อสาว ๆ ออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่เสียเหงื่อ ร่างกายอาจสูญเสียสารอาหารที่จำเป็น ส่งผลให้อิเล็กโทรไลต์ไม่สมดุล จึงทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าและขาดน้ำ แต่ก็สามารถฟื้นฟูสมดุลนี้ได้ด้วยการดื่มเครื่องดื่มที่มีเกลือแร่สูง เพื่อเติมอิเล็กโทรไลต์ให้กับร่างกาย
2.นมช็อกโกแลต
การดื่มนมช็อกโกแลตเย็นหรืออุ่น 1 แก้ว จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวจากการออกกำลังกายหนัก ๆ ได้ดี เนื่องจากเป็นแหล่งพลังงานและมีคุณค่าทางโภชนาการ มีคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และมีอิเล็กโทรไลต์ที่พบในนมช็อกโกแลต สามารถเติมเต็มพลังงานที่สูญเสียไปและให้สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย จึงช่วยซ่อมแซมและเติมพลังงานให้กับกล้ามเนื้อที่ทำงานหนักเกินไปได้เป็นอย่างดี
3.ชาธรรมชาติ
ลองดื่มชาอุ่น ๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นหลังการออกกำลังกาย โดยชาอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งสามารถช่วยเรื่องความชุ่มชื้น การฟื้นฟูกล้ามเนื้อ และสุขภาพได้ดี ไม่ว่าจะเป็นชาผลไม้ ชาคาโมมายล์ ชาขิง ชาเขียวมิ้นต์ หรือชาเขียวปลอดคาเฟอีน ก็มีให้เลือกไปดื่มไปทั้งแบบอุ่นและเย็น พร้อมให้ประโยชน์และความสดชื่นต่อร่างกายสาว ๆ อีกด้วยค่ะ
4.น้ำมะพร้าว
น้ำมะพร้าวเป็นแหล่งอิเล็กโทรไลต์จากธรรมชาติ อุดมไปด้วยโพแทสเซียม โซเดียม และแมกนีเซียม ทำให้น้ำมะพร้าวเป็นตัวเลือกที่ดีในการเติมแร่ธาตุที่สูญเสียไป หลังจากการออกกำลังกายและการขับเหงื่อ นอกจากนี้ น้ำมะพร้าวยังมีน้ำตาลธรรมชาติที่ช่วยคืนระดับพลังงานหลังจากการออกกำลังกายอย่างหนัก เป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพและสร้างความสดชื่น โดยแทนเครื่องดื่มสำหรับนักกีฬาที่มีน้ำตาลได้ดีเลยทีเดียว
5.น้ำเปล่า
หลังออกกำลังกาย สิ่งสำคัญคือต้องฟังเสียงร่างกายและดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้เหมาะสม แม้ว่าแต่ละคนจะรู้สึกกระหายน้ำแตกต่างกัน แต่การดื่มน้ำถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ร่างกาย น้ำมีความสำคัญต่อร่างกายของคนมาก เนื่องจากเป็นองค์ประกอบสำคัญของเซลล์ เนื้อเยื่อ และอวัยวะต่าง ๆ ช่วยให้ระบบในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยช่วยในการดูดซับสารอาหาร ควบคุมอุณหภูมิร่างกาย และกำจัดของเสีย ซึ่งการดื่มน้ำทันทีหลังออกกำลังกาย เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการเติมน้ำให้ร่างกาย
การออกกำลังกายเป็นประจำมีประโยชน์มากต่อสาว ๆ นะคะ ตั้งแต่เพิ่มความแข็งแรงของร่างกายไปจนถึงการทำให้สุขภาพดีในระยะยาว แต่การออกกำลังกายอย่างหนักหน่วง อาจทำให้ร่างกายขาดน้ำและขาดสารอาหารได้ เพราะเกิดความไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลต์ในร่างกาย ดังนั้น อย่าลืมดื่มน้ำและรับประทานอาหารให้เพียงพอ หลังการออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายของคุณผู้หญิงได้ประโยชน์อย่างสูงสุด
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 04/10/2567
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 41,550.00 | 41,650.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 2,691.00 | 40,795.56 | 42,150.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 2,421.90 | 36,716.00 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 2,152.80 | 32,636.45 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 1,211.00 | 18,358.76 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 942.00 | 14,280.72 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,789.00 | 42,281.24 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 04/10/2567
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 34.95 | 34.95 | 35.25 | 34.95 | 34.95 | 34.95 | 34.95 | 34.95 | 34.95 | 34.95 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 34.58 | 34.58 | 34.88 | 34.58 | 34.58 | 34.58 | 34.58 | 34.58 | 34.58 | 34.58 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 32.84 | 32.84 | 33.14 | 32.84 | 32.84 | – | 32.84 | 32.84 | 32.84 | 32.84 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 32.59 | 32.59 | – | – | – | – | – | – | – | 32.59 |
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม | 43.54 | 49.84 | 49.84 | 49.84 | – | – | – | – | – | 43.54 |
เบนซิน 95 | 43.14 | – | – | – | 49.81 | – | 43.64 | 43.29 | – | 43.14 |
ดีเซล | 32.94 | 32.94 | 33.24 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 44.94 | 47.14 | 49.84 | 47.14 | 47.14 | – | – | – | – | 44.94 |
แก๊ส NGV | 18.59 | 18.59 | – | – | – | – | – | – | – | 18.59 |