ดร.โสภณ พรโชคชัย เปิด10 บริษัทพัฒนาที่ดิน อันดับหนึ่งของไทย
10 บริษัทพัฒนาที่ดิน อันดับหนึ่งของไทย …บทความ โดย ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ได้ทำการสำรวจการเปิดตัวโครงการเปิดใหม่ทั้งหมดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลพบว่า เกือบทั้งหมดเป็นที่อยู่อาศัย และบริษัทที่มีจำนวนหน่วยขายมากที่สุดคือ บมจ.พฤกษาเรียลเอสเตท ที่กลับมาทวงแชมป์ส่วนบริษัทที่มีมูลค่าการพัฒนาสูงสุดคือบจก.เอ็มคิวดีซี
บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท เปิดตัวโครงการทั้งหมดถึง 15 โครงการ มีหน่วยขายถึง 3,390 หน่วย หรือมีสัดส่วนถึง 13% ของหน่วยขายทั้งหมดที่เปิดใหม่(รวม 25,257 หน่วย) โดยมีมูลค่ารวม 3,390 ล้านบาท หรือเท่ากับหน่วยหนึ่งมีราคาเฉลี่ย 2.848 ล้านบาท ในช่วงนับสิบปีที่ผ่านมา บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท ครองแชมป์อันดับหนึ่งมาโดยตลอดทั้งจำนวนหน่วยขายและมูลค่าที่เปิดใหม่
มีเพียงปีที่แล้วที่เสียแชมป์ให้บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) และบริษัทในเครือเพราะยังมีหน่วยรอขายอยู่เป็นจำนวนมากอันเป็นผลจากการเปิดขายจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา บมจ.พฤกษาเรียลเอสเตทจึงได้ชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่ ส่วนในครึ่งแรกของปี 2564 นี้ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) และบริษัทในเครือ แชมป์ปีที่แล้วก็ชะลอตัวการเปิดตัวใหม่ เพราะต้องรอการขายสินค้าที่เพิ่งเปิดตัวในปี 2563 ที่มีเป็นจำนวนมาก เช่นกัน
จะสังเกตได้ว่าบริษัทอันดับสองคือบจก.เอ็มคิวดีซี และอันดับสาม คือบมจ. เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) เปิดตัวโครงการเพียง 1,742 หน่วยและ 1,736 หน่วย น้อยกว่าอันดับหนึ่งถึงเกือบเท่าตัว อย่างไรก็ตาม บจก.เอ็มคิวดีซี มีมูลค่าการพัฒนาสูงสุดในครึ่งแรกของปี 2564 นี้ ส่วนที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งคือบมจ.เฟรเซอร์สพร็อพเพอร์ตี้ หรือ บมจ. ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น เดิมซึ่งจัดตั้งในปี 2533 และเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 2545 และเมื่อปี 2562 เพิ่งเปลี่ยนเป็น “เฟรเซอร์ส” ในปี 2562
นอกจากนี้ มีอีก 3 บริษัทที่พัฒนาสินค้าจำนวนมากกว่า 1,000 หน่วยในครึ่งแรกของปี 2564 นี้คือ บมจ.ศุภาลัย(1,353 หน่วย) บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (1,280 หน่วย) และ บมจ.แสนสิริ (1,137 หน่วย) ส่วนอันดับที่ 7-10 ก็คือ บมจ.ลลิลพร็อพเพอร์ตี้ (972 หน่วย) บมจ.ออริจิ้นพร็อพเพอร์ตี้ (874 หน่วย) บมจ.โนเบิลดีเวลลอปเมนท์ (750 หน่วย) และบมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (732 หน่วย)
สำหรับในแง่มูลค่าปรากฏว่า บริษัทอันดับหนึ่ง ในครึ่งแรกของปี 2564 คือ บจก.เอ็มคิวดีซี ซึ่งเป็นชื่อย่อของ บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์คอร์ปอเรชั่นจำกัด เปิดตัวโครงการใหม่ในครึ่งแรกของปี 2564 เพียง 6 โครงการจำนวน 1,742 หน่วย แต่มีมูลค่าการพัฒนาถึง 45,326 ล้านบาท หรือเท่ากับ 33.3% หรือหนึ่งในสามของการพัฒนาทั้งหมด จะเห็นได้ว่าราคาขายต่อหน่วยของสินค้าที่อยู่อาศัยของบริษัทนี้ มีราคาขายสูงถึง 26.019 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทที่มีราคาสินค้าสูงสุดอันดับสอง คือ บมจ.โนเบิลดีเวลลอปเมนท์มีราคาเฉลี่ยเพียง 8.050 ล้านบาท
อย่างกรณีโครงการซิกส์เซนส์เรสซิเดนซ์ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ของ บจก.เอ็มคิวดีซี ทาวน์ รอยัล เรสซิเดนซ์ ในโครงการเดอะฟอเรสเทียร์ เสนอขายบ้านเดี่ยว 2-3 ชั้น ราคา 172-345 ล้านบาทราคาที่ดินเพิ่ม-ลดตารางวาละ 350,000 บาท แม้จะเป็นสินค้าบ้านเดี่ยวสไตล์รีสอร์ตราคาแพง และมีทั้งหมด 27 หน่วยแต่ก็มีคนจองซื้อไปแล้ว 16 หน่วย (59%) โดยจับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเจ้าของธุรกิจผู้บริหารระดับสูงที่ต้องการบ้านพักรูปแบบตากอากาศในกรุงเทพมหานคร
จะเห็นได้ว่า บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท ที่เป็นแชมป์จำนวนหน่วยเปิดใหม่กลายเป็นอันดับที่สองของแชมป์มูลค่าการพัฒนา เพราะมีการพัฒนารวมกัน 9,654 ล้านบาท หรือ 7.1% ของส่วนแบ่งตลาดทั้งหมด ที่น่าสนใจเพิ่มเติมก็คือ บมจ.เอสซีแอสเซทคอร์ปอเรชั่น ที่แม้ไม่ติด 1 ใน 10 หน่วยขายสูงสุด แต่ติดถึงอันดับ 5 ของมูลค่าการพัฒนาสูงสุดถึง 5,772 ล้านบาท หรือมีส่วนแบ่งตลาดถึง 4.2%
และอีกบริษัทหนึ่งก็คือ บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ ที่แม้เปิดตัวเพียง 716 หน่วย ไม่ติด 1 ใน 10 บริษัทที่เปิดตัวหน่วยขายมากสุด แต่มีมูลค่าการพัฒนาสูงเป็นอันดับ 10 คือ 3,905 ล้านบาท เพราะบริษัทนี้ขายสินค้าห้องชุดโดยมีราคาเฉลี่ย 5.454 ล้านบาท จากแต่เดิมที่เน้นขายห้องชุดราคาถูกการเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายที่ยังมีกำลังซื้ออยู่จริง ทำให้บริษัทนี้สามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง
มีแนวโน้มว่าบริษัทใหญ่ๆ มีส่วนในการ “ผูกขาด” ตลาดมากขึ้น โดย 10 บริษัทแรกนี้สามารถครองส่วนแบ่งตลาดถึง 55% ของหน่วยขายทั้งหมด ยิ่งเมื่อพิจารณาจากมูลค่าการพัฒนาจะพบว่า 10 บริษัทแรกนี้ครองส่วนแบ่งตลาดในแง่มูลค่ารวมกันถึง 72% ของทั้งหมด โอกาสที่บริษัทขนาดเล็กๆ จะเกิดในขณะนี้มีน้อยมาก
อย่างไรก็ตาม บริษัทเล็กที่เป็นมืออาชีพจริงๆ ที่มีการวางแผนและการจัดการการเงินและการบริหารที่ดี ก็ยังสามารถเปิดตัวโครงการได้เช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ชาวบ้านสุขุมวิทซอย1 ร้องบำรุงราษฎร์สร้าง รพ.ใหม่ ไม่สำรวจผลกระทบ EIA
ผู้ถือหุ้น บมจ.บำรุงราษฎร์-ชาวบ้านชุมชนสุขุมวิทซอย1 ย่านศูนย์กลางธุรกิจ โวย สร้าง3อาคารโรงพยาบาลใหม่ ไม่สำรวจผลกระทบสิ่งแวดล้อม EIA ทั้งที่การก่อสร้างใกล้ครบกำหนดแล้วเสร็จ 4ส.ค.นี้
ผู้ถือหุ้นไม่ประสงค์ออกนาม ของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ หรือบริษัทโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์จำกัด(มหาชน) ได้มีหนังสือร้องเรียนมายัง หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ชาวสุขุมวิทซอย1 และศูนย์ดำรงธรรม เมื่อไม่นานมานี้
ระบุอ้างรายงานการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งที่28ประจำปี2564 โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ได้มีการก่อสร้างโรงพยาบาลใหม่บริเวณสุขุมวิทซอย1 โดยชาวบ้านยืนยันว่าทาง โรงพยาบาลไม่ได้จัดให้มีการสำรวจผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)ภายในชุมชน แต่อย่างใด ขณะผู้บริหารโรงพยาบาลได้ออกมาชี้แจงว่า ไม่มีการก่อสร้างโรงพยาบาลใหม่ แต่ จากการตรวจสอบพบว่า มีการก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลใหม่จริง
ทั้งนี้ที่ผ่านมา ผู้ถือหุ้นรายดังกล่าว ได้ส่งคำถามเกี่ยวกับการก่อสร้างของโรงพยาบาลในซอยสุขุมวิท 1(รื่นฤดี)ว่า ได้มีการศึกษาถึงผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือไม่ อาคารมีเตียงผู้ป่วยกี่เตรียงและมีที่จอดรถกี่คันในช่วงการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งล่าสุด ของบมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ขณะนางอาทิตย์ จารุกิจพิพัฒน์ ได้ ชี้แจงว่า การก่อสร้างโรงพยาบาล มี3อาคาร ประกอบด้วยอาคารเป็นอาคารจอดรถ1อาคารอีก2อาคารจะเป็นศูนย์กึ่งมะเร็ง เป็นการรักษามะเร็งแบบ conventional และศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพรองรับผู้ป่วยด้านกายภาพฯลฯทั้งนี้ บริษัทได้ศึกษา EIAก่อนก่อสร้างและได้รับฟังเสียงตอบรับจากผู้อยู่อาศัยบริเวณโดยรอบแล้ว
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านในพื้นที่ไม่ยินยอมและยังยืนยันว่าจะต้องลงพื้นที่สำรวจผลกระทบสิ่งแวดล้อมโดยเร็ว
สำหรับโครงการ BUMRUNGRAD INTERNATIONAL HOSPITAL, CLINIC ติดประกาศ บริเวณหน้าโครงการก่อสร้างมีใบอนุญาตก่อสร้างอาคารเลขที่ 337/2562 ประเภทงาน 1.อาคารจอดรถสูง8ชั้น2.อาคารสถานพยาบาลสูง6ชั้นและชั้นใต้ดิน1ชั้น3.อาคารสถานพยาบาลสูง6ชั้นและชั้นใต้ดิน2ชั้น ระบุเจ้าของโครงการคือ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ดำเนินการก่อสร้างระหว่างวันที่ 24พฤษภาคม2564- 4สิงหาคม2564 เป็นต้น
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
บาทเปิด 33.14 บาทต่อดอลลาร์ แนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง
เงินบาทเปิดตลาด 33.14 บาทต่อดอลลาร์ แนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่องจากสถานการณ์โควิดทั้งในประเทศ-ต่างประเทศ
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.14 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดวันที่4 ส.ค. อยู่ที่ระดับ 33.12/14 บาท/ดอลลาร์ โดยมีทิศทางอ่อนค่าต่อเนื่องหลังดอลลาร์แข็งค่าจากความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรงของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่อาจส่งผลต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ขณะที่มีปัจจัยในประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีความรุนแรง และผลพวงจากการประชุมกนง.มีคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนัดถัดไป
“บาทมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่องจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอก โดยเฉพาะสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19สายพันธุ์เดลตาที่มีความรุนแรง” นักบริหารเงินกล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.05 – 33.25 บาท/ดอลลาร์
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
ตะลึง! “เวลล์บร็อค” คว้าเหรียญได้ทั้งการว่ายน้ำในสระ, ว่ายมาราธอนกลางแจ้ง
ฟลอเรียน เวลล์บร็อค นักว่ายน้ำชาวเยอรมัน กลายเป็นนักกีฬาคนที่สองในประวัติศาสตร์โอลิมปิกที่คว้าเหรียญได้ทั้งการว่ายน้ำในสระและการว่ายมาราธอนภายในการแข่งขันสมัยเดียวกัน หลังจากคว้าเหรียญทองว่ายน้ำมาราธอน 10 กิโลเมตรชาย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
เวลล์บร็อค ซึ่งเป็นแชมป์โลกว่ายน้ำมาราธอนปีล่าสุดว่ายนำตั้งแต่ต้นจนจบ เข้าเส้นชัยเป็นคนแรกด้วยเวลา 1:48:33.7 ชม. คว้าเหรียญทองไปครอง หลังจากเจ้าตัวได้เหรียญทองแดงในการลงแข่งประเภทฟรีสไตล์ 1,500 เมตรไปเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา
ทำให้เขากลายเป็นนักกีฬาคนที่ 2 ต่อจาก อุสซามา เมลลูลี่ ยอดนักว่ายน้ำชาวตูนิเซียที่คว้าเหรียญทองแดงฟรีสไตล์ 1,500 เมตร และเหรียญทองว่ายน้ำมาราธอนในโอลิมปิกปี 2012 แต่เวลล์บร็อคเป็นคนแรกที่คว้าเหรียญทองว่ายน้ำมาราธอนของโอลิมปิกในฐานะแชมป์โลก
ส่วนเหรียญเงินเป็นของ คริสตอฟ ราซอฟสซกี้ จาก ฮังการี เวลา 1:48:59.0 ชม. และเหรียญทองแดงเป็นของ เกรกอริโอ พัลตริเนียรี่ จาก อิตาลี เวลา 1:49:01.1 ชม.
—————–
ติดตามการถ่ายทอดสดโอลิมปิกเกมส์ 2020 ได้ทุกวันทาง T-Sports ร่วมด้วย Thai PBS, NBT, PPTV, JKN 18, ทรูโฟร์ยู 24, GMMTV 25 และ AIS PLAY ระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม – 8 สิงหาคม 2564
ดูตารางถ่ายทอดสดฟรีทีวี คลิก https://stadiumth.com/olympic
ดูตารางถ่ายทอดสด AIS PLAY คลิก https://m.ais.co.th/fbapOlympic
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
“จมูกไม่ได้กลิ่น” นอกจาก “โควิด-19” อาจเป็นโรคอะไรได้อีก
ไม่ใช่แค่โควิด-19 ที่น่าสงสัย แต่เมื่อไรก็ตามที่จมูกเริ่มไม่ค่อยได้กลิ่น อาจสงสัยว่าเป็นโรคเหล่านี้ได้ด้วย
ผศ. นพ.วิชิต ชีวเรืองโรจน์ ภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุถึงสาเหตุที่อาจทำให้จมูกไม่ได้กลิ่น หรือความสามารถในการรับรู้กลิ่นน้อยลง ดังนี้
สาเหตุของปัญหาจมูกไม่ได้กลิ่น
- การอักเสบของเยื่อบุโพรงจมูก โพรงไซนัส ทำให้กลิ่นขึ้นไม่ถึงปลายประสาทรับกลิ่น
- เนื้องอกอุดกลั้น ทำให้กลิ่นขึ้นไม่ถึงปลายประสาทรับกลิ่น
- อุบัติเหตุที่ศีรษะที่ทำให้ปลายประสาทอักเสบ (หน้าผาก ท้ายทอย) บาดเจ็บ หรือฉีกขาด ส่งผลต่อการได้กลิ่นที่ลดลง หรืออาจไม่ได้กลิ่นเลย
- การได้รับสารเคมีบางอย่างที่ทำลายการรับกลิ่น อาทิ การได้รับกลิ่นฟอร์มาลีนเป็นเวลานาน อาจทำให้ปลายประสาทอักเสบและตายลงบางส่วน ส่งผลให้การรับกลิ่นลดลงหรือไม่ได้กลิ่นเลย
- ผิดปกติทางพันธุกรรม อาจไม่มีปลายประสาทรับกลิ่นหรือมีความผิดปกติที่ปลายประสาทรับกลิ่น
- อายุที่เพิ่มขึ้นและโรคทางสมองบางชนิด
ลักษณะอาการจมูกไม่ได้รับกลิ่น
อาจเกิดอาการจมูกไม่ได้รับกลิ่น หรือได้รับกลิ่นลดน้อยลงอย่างเฉียบพลัน และเรื้อรัง
- ไม่ได้รับกลิ่นอย่างเฉียบพลัน มักเกิดจากอุบัติเหตุ บางรายเกิดทันทีหลังผ่าตัด
- ไม่ได้รับกลิ่นเรื้อรัง มักเกิดจากการอักเสบที่เยื่อบุโพรงจมูก เนื้องอก การได้รับสารเคมี อายุที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้อาการค่อยๆ ดำเนินไป
วิธีการรักษาอาการจมูกไม่ได้กลิ่น
- อาการที่สามารถรักษาได้ คือ เกิดจากการอักเสบ หวัด ภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ เป็นต้น รวมถึงภาวะอุดกั้นที่สามารถเอาออกได้ เช่น เนื้องอก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาด้วย หากอุดกั้นเป็นเวลานาน จะส่งผลให้ปลายประสาทไม่ทำงานเป็นเวลานานไปด้วย และอาจฟื้นตัวช้าหรือไม่สมบูรณ์
- อาการที่ไม่สามารถรักษาได้ คือ อุบัติเหตุที่ทำให้เส้นประสาทฉีกขาดไป
การป้องกันอาการจมูกไม่ได้กลิ่น
- ระวังอย่าให้เยื่อโพรงจมูกบวม หากเป็นหวัดหรือไซนัสอักเสบให้รีบรักษา
- รักษาสุขภาพสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
- ระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุที่ศีรษะ
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
การใช้ present simple tense เพื่อบอกเหตุการณ์ในอนาคต มีหลักการดังนี้
หลักการใช้ present simple tense โดยปกติเราจะใช้เพื่อบอกข้อเท็จจริงทั่วไป ไม่ก็กิจวัตรประจำวัน ดังที่เราได้เรียนกันไปแล้ว แต่วันนี้เราจะมาเรียนรู้ Present Simple Tense เพื่อกล่าวถึงเหตุการณ์ในอนาคตกันนะครับ
Present simple tense สำหรับบอกเหตุการณ์ในอนาคตนั้น มักจะเป็น“หมายกำหนดการต่างๆ ตามตารางเวลา”ที่กำหนดไว้แล้ว ส่วนมากจะเป็นเรื่องเวลาปิดเปิดของร้านค้า องค์กรต่างๆ และการเดินทางของยานพาหนะ เช่น รถ เรือ เครื่องบิน รวมถึงการเดินทางของคนด้วยครับ
- The shop opens at 7.00 am. tomorrow.
- ร้านเปิดเวลา 7 นาฬิกา พรุ่งนี้ (กำหนดการเปิดร้านใหม่ หลังปิดซ่อมมานาน)
- My school starts next month.
- โรงเรียนของฉันเปิดเรียนเดือนหน้า (กำหนดการบอกไว้)
- My bus leaves at nine o’clock.
- รถบัสของฉันออกเวลา 9 นาฬิกา (เวลาระบุไว้ในตั๋ว)
- The plane arrives in Bangkok at 2 o’clock tomorrow.
- เครื่องบินมาถึงกรุงเทพเวลา 2 นาฬิกา พรุ่งนี้ (ตารางเวลาแจ้งไว้)
- I have French lesson next Monday.
- ฉันมีบทเรียนวิชาฝรั่งเศษวันจันทร์หน้า (ตารางเรียนระบุไว้)
- This project ends next year.
- โครงการนี้สิ้นสุดปีหน้า (งานแผนกำหนดไว้)
- I fly to London next week.
- ฉันบินไปลอนดอนสัปดาห์หน้า (กำหนดการจากเลขาแจ้งมา)
- My flight departs at 7.00 o’clock.
- เที่ยวบินของฉันออกเวลา 7 นาฬิกา (เวลาระบุในตั๋ว)
ขอบคุณข้อมูลจาก ภาษาอังกฤษออนไลน์.com
รู้จัก IQ Hospital แอปพลิเคชั่น อัพเดทสถานะเตียงในโรงพยาบาลสนาม
ทำความรู้จัก IQ Hospital เว็บแอปพลิเคชั่นที่ช่วยลดปัญหาการนอนรอเตียงในโรงพยาบาลสนามใช้จัดการดูสถานะของเตียงและอัพเดทสถานะของเตียงในโรงพยาบาลสนาม เปิดให้ รพ.สนามทั่วไปใช้ได้ฟรี!
วันที่ 4 สิงหาคม 2564 รายงานข่าวจาก บริษัท ไอโอทีแดช จำกัด ผู้ให้บริการด้านระบบงาน ซอฟต์แวร์ เผยว่า IQ Hospital เป็นระบบเว็บแอปพลิเคชั่น ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าที่ ที่ต้องบริหารจัดการเตียงสนาม เพื่อให้วางแผนการจัดการเตียงได้อย่างทันท่วงที
เมื่อมีผู้ป่วยเข้ามา เจ้าหน้าที่จะสามารถป้อนข้อมูลในระบบเพื่อบันทึกว่าคนไข้ใช้เตียงไหน และอัพเดทปรับสถานะของเตียง ในระบบส่วนกลาง ซึ่งจะสามารถดูผลสรุปของข้อมูลได้แบบ Real Time โดยไม่ต้องตรวจสอบข้อมูลไปมาผ่านกระดาษ
เว็บแอปฯนี้ เกิดจากการผนึกกำลังของ ทีม Startup นักพัฒนาแอปฯมืออาชีพ นายชานน จรัสสุทธิกุล เจ้าของแพลตฟอร์ม DeFi Forward และบริษัท ไอโอทีแดช จำกัด ด้วยเห็นปัญหาของการบริหารจัดการเตียงของบางโรงพยาบาลสนามในสถานการณ์โควิค ที่อาจจะต้องใช้วิธีการจดมือ หรือวาดลงบนกระดาษ/กระดานดำ ทำให้ยากแก่การคำนวณ หรือดูผลสรุปข้อมูลการจัดการเตียงในโรงพยาบาล
ซึ่งทีมได้ใช้เวลาในการพัฒนาแอปฯอย่างเร่งด่วน แล้วเสร็จในเวลา 3 วัน และได้นำไปใช้งานจริงแล้วในโรงพยาบาลสนามบุรีรัมย์
“หากมีการนำระบบนี้ไปใช้งาน แพร่หลายในโรงพยาบาลสนามต่าง ๆ จะทำให้เกิดการบูรณาการข้อมูล ซึ่งจะทำให้เห็นภาพรวมของการให้บริการ ซึ่งเป็นประโยชน์แก่การให้บริการต่อพี่น้องประชาชน เจ้าหน้าที่จะเห็นภาพรวมเลยว่าโรงพยาบาลไหนว่างอยู่บ้าง จะได้ไม่ต้องให้ประชาชนกางเต้นท์นอนรอ และไม่รู้ว่ามีเตียงที่ไหนว่าง” นายพัศพงศ์ เจริญพันธ์ จากบริษัทไอโอทีแดช กล่าว
ทั้งนี้ โรงพยาบาลสนามที่สนใจสามารถติดต่อเพื่อขอใช้ได้ฟรี ที่ chanon@forward.market
ขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net
ห่อสิ่วโอว ตัวช่วยที่เลือดต้องการ
ห่อสิ่วโอว ตัวช่วยที่เลือดต้องการ
- Post author:atherbth
- Post published:February 23, 2021
- Post category:สมุนไพรต่างประเทศ
- Post comments:0 Comments
ระบบไหลเวียนเลือดไม่ต้องบอกก็รู้ว่าจำเป็นกับพวกเราทุกคนมากขนาดไหน ซึ่งแน่นอนว่าในร่างกายของทุกคนจะมีหลอดเลือดเป็นเส้นทางไหลเวียนเลือดกันอยู่ ซึ่งเจ้าหลอดเลือดเนี่ยนานวันไปก็มีโอกาสอุดตันหรือมีตัวขัดขวางการเดินของเลือดได้ ทำให้ร่างกายของคนที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเจอผลกระทบตั้งแต่เล็ก ๆ อย่างอาการเหนื่อย หน้ามืด ไปจนถึงอาการเส้นเลือดอุดตันจนถึงแก่ชีวิต ดังนั้นเรามาหาวิธีและผู้ช่วยในการทำความสะอาดหลอดเลือดพร้อมทั้งกระตุ้นการไหลเวียนเลือดไปพร้อมกันเลยดีกว่า
ห่อสิ่วโอว นี่แหละตัวช่วยที่น่าสนใจ
ห่อสิ่วโอว เป็นสมุนไพรจียชนิดหนึ่งที่มีรสชาติออกไปทางหวานฟาด ฤทธิ์ของห่อวิ่วโอวนั้นจะอยู่ในระดับกลาง ๆ คืนอุ่น ๆ นั่นเอง ไม่ถึงกับร้อนแต่ก็ไม่ถึงกับเย็น มักจะเอามาใช้ช่วยในเรื่องของเลือดลมและอวัยวะภายในต่าง ๆ
สรรพคุณหลัก ๆ ของ ห่อสิ่วโอว คืออะไรกันบ้าง?
บำรุงเลือดนี่แหละเป็นสรรพคุณที่ชัดเจนที่สุดสำหรับห่อสิ่วโอว และจากนั้นเมื่อคุณทานเป้นประจำก็จะเริ่มเข้ามามีส่วนช่วยในเรื่องของการกักเก็บของไต ช่วยทำให้เส้นผมดำเงางาม บำรุงตับได้ และยังพ่วงไปบำรุงกระดูกและเส้นเอ็นให้แข็งแรงขึ้นได้อีกด้วย
สำหรับอาการทางกายอื่น ๆ อย่างเช่น เลือดพร่องทำให้เกิดอาการวิงเวียนบ่อย ๆ มีอาการตาลาย ใจสั่น มาทักทายอยู่เสมอ แถมยังนอนไม่ค่อยหลับ ชอบหลง ๆ ลืม ๆ จนอาจลามไปถึงความจำเสื่อม เห็นได้ชัดว่ามีผิวซีดเหลือง อ่อนเพลียกันอยู่บ่อย ๆ ปวดเมื่อยเอว รวมทั้งมีผมหงอกก่อนวัย ทั้งหมดที่พูดมาห่อสิ่วโอวมีส่วนช่วยคุณได้
ในตอนนี้ยังมีความแพร่หลายเพื่อที่จะนำมาใช้รักษาโรคประเภทไขมันในเลือดสูง ความดันสูง หัวใจขาดเลือด และอาการต่าง ๆ ของตับและไตอีกด้วย แต่ในส่วนนี้จำเป็นมากที่จะต้องปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญให้ดีก่อน
นิยามได้ว่าเป็นสมุนไพรเติมความหนุ่มสาว
สำหรับใครที่อายุเริ่มเพิ่มขึ้นทุกวันและสังเกตตัวเองแล้วว่าเริ่มมีการเสื่อมสภาพตามวัยในส่วนต่าง ๆ การมองหาห่อสิ่วโอวมาใช้กันก็เข้าท่าไม่น้อย
เพราะว่าถ้าใครใช้แล้วระบบภูมิต้านทานต่าง ๆ จะแข็งแรงขึ้น และคุณจะสดชื่น กระฉับกระเฉง ไม่แก่ก่อนวัยง่าย ๆ ส่วนใหญ่เลยคนที่เริ่มมีอายุแล้วผมหงอกมาถามหามักจะทานห่อสิ่วโอวนี่แหละเป็นการช่วยเติมความดำเงางามให้กับเส้นผม เอาล่ะใครที่เจอปัญหาเหล่านี้หรือไม่เจอแต่อยากเพิ่มความหนุ่มความสาวให้ร่างกายไว้ก็บอกเลยว่าห้ามพลาดที่จะหาห่อสิ่วโอวมาทานกันนะคะ
การทานสมุนไพรจีนถ้าเลือกให้ถูกประเภท ทานในปริมาณที่เหมาะสมล่ะก็บอกเลยว่าจะช่วยส่งเสริมสุขภาพคุณได้เป็นอย่างดี และถ้าอยากจะลองทานสมุนไพรจีนกันเริ่มแรกลองปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญกันก่อนจะดีที่สุดนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก atherbth.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 05/08/2564
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 28,300.00 | 28,400.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,833.00 | 27,788.28 | 28,900.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,649.70 | 25,009.45 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,466.40 | 22,230.62 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 825.00 | 12,507.00 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 642.00 | 9,732.72 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,899.00 | 28,788.84 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 05/08/2564
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 29.95 | 29.95 | 29.95 | 29.95 | 29.95 | 29.95 | 29.95 | 29.95 | 29.95 | 29.95 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 29.68 | 29.68 | 29.68 | 29.68 | 29.68 | 29.68 | 29.68 | 29.68 | 29.68 | 29.68 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 28.44 | 28.44 | 28.44 | 28.44 | 28.44 | – | 28.44 | 28.44 | 28.44 | 28.44 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 22.94 | 22.94 | – | – | – | – | – | – | – | 22.94 |
เบนซิน 95 | 37.36 | – | – | – | 37.81 | – | 37.86 | 37.36 | – | 37.36 |
ดีเซล B7 | 29.49 | 29.49 | 29.49 | 29.49 | 29.49 | 29.49 | 29.49 | 29.49 | 29.49 | 29.49 |
ดีเซล | 26.49 | 26.49 | 26.49 | 26.49 | 26.49 | 26.49 | 26.49 | 26.49 | 26.49 | 26.49 |
ดีเซล B20 | 26.24 | 26.24 | 26.44 | – | 26.24 | – | 26.24 | 26.24 | – | 26.24 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 34.26 | 34.26 | 35.94 | 35.66 | – | – | – | – | – | 34.26 |
แก๊ส NGV | 13.99 | 13.99 | – | – | – | – | – | – | – | 13.99 |