เปิดตลาด บ้านแพง 10 ล้าน สะสม 2 หมื่นหน่วย ขายดี แต่ เสี่ยงล้น
ไนท์แฟรงค์ เปิดข้อมูลตลาดอสังหาฯ ที่อยู่อาศัย ราคามากกว่า 10 ล้านบาท ครึ่งปีแรก 2564 กำลังซื้อแข็งแกร่ง ขณะหน่วยสะสมทะลุ 2 หมื่น อัตราขายออก 66% เปิดทาง หวั่นซัพพลายล้น
นายณัฎฐา คหาปนะ รองกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าสำนักงานไนท์แฟรงค์ ภูเก็ต บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด เปิดข้อมูล ภาพรวมตลาดบ้านระดับราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 ว่าค่อนข้างไปในทิศทางที่ดี เนื่องจากความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงยังคงมีความต้องการอยู่อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจ แต่กำลังซื้อของคนกลุ่มนี้ไม่ลดลง ทำให้บางโครงการสามารถปิดการขายได้ภายในระยะเวลาไม่นาน เป็นเหตุให้ผู้ประกอบการลงทุนพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง
เปิดซัพพลายใหม่ – ใบอนุญาตขอจัดสรร
สำหรับซัพพลายบ้านในระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ที่ได้รับการอนุญาตให้ทำการจัดสรรที่ดิน (ทั้งโครงการ) พบว่าการอนุญาตจัดสรรที่ดินสำหรับกลุ่มบ้านที่มีระดับราคาขาย 10 ล้านบาทขึ้นไป ตั้งแต่ปี 2560 ถึงเดือนพฤษภาคม ปี 2564 มีอยู่ในช่วงปีละตั้งแต่ 1,489 หน่วย จนถึง 2,278 หน่วย โดยจำนวนใบอนุญาตจัดสรรในปี 2561 มีจำนวนสูงสุด คือ 2,669 หน่วย ส่วนในระยะเวลา 5 เดือนของปีนี้พบว่ามีใบอนุญาตจัดสรรที่ดินในกลุ่มบ้านที่มีระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป อยู่ที่ 578 หน่วย
ครึ่งปีแรก บ้าน 10 ล้านขายดี 1,610 หน่วย
ส่วนจำนวนหน่วยเหลือขายของโครงการบ้านระดับราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ณ ครึ่งปีแรกของปี 2564 มีทั้งสิ้น 224 โครงการ มีหน่วยสะสมจำนวนทั้งสิ้น 20,018 หน่วย และขายไปได้ทั้งสิ้น 13,276 หน่วย คิดเป็นอัตราการขายที่ร้อยละ 66 โดยอัตราการขายเพิ่มขึ้นทุกปีตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งมีอัตราการขายอยู่ที่ร้อยละ 30 และปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการขายเพิ่มมาอยู่ที่ร้อยละ 66 ในครึ่งปีแรกของปี 2564
ส่วนจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ในครึ่งปีแรก 2654 พบว่ามีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ทั้งสิ้น 1,610 หน่วย ซึ่งเป็นหน่วยขายได้ที่มีจำนวนค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับช่วงปีที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่เฉลี่ยประมาณ 2,500 หน่วยต่อปีเท่านั้น และคาดว่าในครึ่งปีหลังของปี 2564 นี้ จำนวนหน่วยขายได้ใหม่จะเพิ่มสูงขึ้นเกือบประมาณ 3,000 หน่วย
บ้านที่มีระดับราคาขายระหว่าง 10-20 ล้านบาท มีอุปสงค์สูงสุดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 7,218 หน่วย รองลงมาคือบ้านที่มีระดับราคาขายระหว่าง 21 – 30 ล้านบาท และ 31 – 40 ล้านบาท มีอุปสงค์อยู่ที่ 2,612 หน่วย และ 1,871 หน่วยตามลำดับ ในส่วนของอัตราการขายที่สูงสุด คือ บ้านระดับราคาสูงกว่า 100 ล้านบาท เนื่องจากอุปทานที่มีอยู่จำกัด ทำให้อัตราการขายสูงที่สุด ซึ่งมีอัตราการขายอยู่ในอัตราร้อยละ 83 รองลงมาได้แก่ บ้านระดับราคาระหว่าง 21 – 30ล้านบาท และ ระดับราคา 51 – 60 ล้านบาท มีอัตราการขายอยู่ในอัตราร้อยละ 77 และ 74 ตามลำดับ ส่วนบ้านระดับราคา 61 – 70 ล้านบาท เป็นระดับราคาที่มีอุปสงค์ต่ำที่สุดและอัตราการขายต่ำที่สุด
หวั่นอนาคตซัพพลายล้น
อย่างไรก็ตาม ไนท์แฟรงค์ ประเมินว่า แม้สถานการณ์ตลาดบ้านระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ในครึ่งปีหลัง 2564 ยังมีสัญญาณที่ดีเมื่อเทียบกับตลาดอสังหาฯ ประเภทอื่น เนื่องจากกลุ่มผู้ซื้อบ้านในกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ไม่ค่อยได้รับผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจหดตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และผลกระทบจากการเข้มงวดสินเชื่อของธนาคาร เพราะเป็นกลุ่มที่มีความมั่งคั่งทางการเงินที่ยังสามารถซื้อที่อยู่อาศัยได้ตามปกติและส่วนใหญ่จะซื้อด้วยเงินสดมากกว่าการขอสินเชื่อ แม้ในช่วงนี้จะมีอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลงก็ตาม
โดยในครึ่งปีหลังผู้ประกอบการรายใหญ่ค่อนข้างที่จะระมัดระวังการเปิดตัวโครงการใหม่และขยับขยายการพัฒนาโครงการแนวราบไปในบริเวณชานเมืองมากขึ้น เช่น โซนเหนือและตะวันตกของกรุงเทพฯ เพราะยังมีพื้นที่ให้เหลือพัฒนา อีกทั้งราคาที่ดินยังไม่สูงมากเมื่อเทียบกับในตัวเมือง เพราะพื้นที่ย่านชานเมืองมีแนวโน้มที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ อันเนื่องมาจากการพัฒนาถนน รถไฟฟ้าเส้นทางใหม่ๆ การพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ประเภทมิกซ์ยูส ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้มีการพัฒนาและกระจายออกไปยังพื้นที่บริเวณชานเมืองมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ซื้อสามารถเลือกทำเลที่อยู่อาศัยได้ตามความต้องการ
นอกจากรูปแบบบ้าน ทำเล คุณภาพที่มีผลต่อการตัดสินใจ สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องคำนึงถึง คือ สภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการรวมไปถึงสภาพแวดล้อมหน้าโครงการ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ผู้ซื้อได้เห็นถึงความแตกต่างเมื่อเปรียบเทียบกับโครงการอื่นๆ เป็นสิ่งที่จะสามารถช่วยในการตัดสินใจของผู้ซื้อได้เร็วยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ จากจำนวนผู้ประกอบที่มีการพัฒนาโครงการแนวราบและเปิดตัวโครงการมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้แนวโน้มอุปทานของตลาดบ้านเพิ่มขึ้นและมีมากกว่าอุปสงค์ ทำให้เกิดภาวะการแข่งขันสูงเพราะตัวเลือกที่หลากหลายไม่สอดคล้องกับผู้ซื้อที่ค่อนข้างมีจำกัด อย่างไรก็ดีหากแต่สามารถพัฒนาโครงการที่มีจุดเด่น ออกแบบโครงการได้ตอบโจทย์ตรงตามความต้องการต่อผู้อยู่อาศัยโครงการก็จะสามารถประสบความสำเร็จได้เช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
100 คอนโดซํ้ารอยอโศก ยักษ์อสังหาฯระสํ่า ดับฝันพัฒนาที่ดินแนวรถไฟฟ้า
คอนโดกลางกรุงกว่า 100 โครงการหนาว ผวาซ้ำรอย “แอซตันอโศก” กทม.ปูดยอดออกใบอนุญาต ก่อสร้างอาคารชุด ทำเลแนวรถไฟฟ้าใต้ดิน-บนดิน ทางด่วน แอร์พอร์ตลิงก์ ที่ดินรถไฟฯ ล้วนเป็นหน่วยงานรัฐให้เอกชนเชื่อมทางเข้า-ออกพรึบ แย้ม 13 โครงการเช่าที่รฟม-ทางด่วนจ่อโดนด้วย
คำสั่งศาลปกคลองกลางเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 เพิกถอน ใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร “แอซตัน อโศก” คอนโดมิเนียมหรูใจกลางเมืองสูง 50 ชั้นจำนวน 783 หน่วยของบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) อาจจะลุกเป็นไฟลาม ยังโครงการอื่นๆในระแวกใกล้เคียง กรณีปมเช่าที่ดินการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในซอยสุขุมวิท 19 แยก 2 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
คำชี้ขาดของศาลกำลังสร้างความกังขาให้กับเจ้าของโครงการและสร้างความหวั่นวิตกให้กับลูกบ้านฐานะเจ้าของร่วมเป็นอย่างมากว่าในที่สุดแล้วกรรมสิทธิ์ห้องชุดจะเป็นโมฆะหรือไม่ แม้คดีดังกล่าวจะยังไม่สิ้นสุดก็ตาม และไม่ใช่เฉพาะกรณีเอซตัน อโศก เท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายโครงการที่ดำเนินการเช่าที่ดินรัฐเชื่อมทางเข้า-ออก รวมถึงโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา อาจเริ่มรู้สึกหนาวๆร้อนๆ ที่จำเป็นต้องเช่าที่ดินเพื่อใช้เป็นทางเข้า-ออก เพิ่มเติม
100 คอนโดฯซ้ำรอย
แหล่งข่าวจากกรุงเทพมหานคร เปิดเผย“ฐานเศรษฐกิจ” ว่า มีคอนโดมิเนียมกว่า 100 โครงการ มีความสูงตั้งแต่ 8 ชั้นขึ้นไป ที่กทม.ออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารไปแล้ว ล้วนมีใบขออนุญาติเชื่อมทาง ขอใช้ทางเข้า-ออก หน่วยงานรัฐเจ้าของโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนสาธาณะ มาแสดงประกอบการยื่นขอออกใบอนุญาต ส่วนใหญ่อยู่ในทำเลแนวรถไฟฟ้าใกล้สถานีสำคัญ ทั้งรฟม. รถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟฟ้าบนดินบีทีเอสของกทม.แอรพอร์ตลิงก์ ที่ดิน การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ทางพิเศษ (ทางด่วน) ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เป็นต้น ซึ่งเป็นไปตามข้อกฎหมายอยู่แล้ว
ทั้งนี้ กทม.ยอมรับว่าได้ออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร ให้กับโครงการแอซตันอโศก เมื่อ 7-8 ปีก่อนตามเอกสารหลักฐานที่เอกชนยื่นประกอบ นอกจาก ใบอนุญาติการทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอแล้ว ยังมีใบอนุญาตเช่าเขตทางยาวไปจนสุดถนนอโศก กว้าง 13 เมตรของรฟม.ที่ออกให้ เอกชนใช้เป็นทางร่วม ซึ่งในรายละเอียดของการเช่าที่ดินระบุว่า โครงการแอซตันอโศก สามารถเช่าที่ดินของรฟม.ไปตลอดอายุการใช้งานของอาคาร เมื่อเอกสารหลักฐานที่ออกโดยหน่วยงานราชการ หากรับรองว่าถูกต้องกทม.ก็ต้องออกใบอนุญาตให้
ที่สำคัญกฎหมายควบคุมอาคารกำหนด หากก่อสร้างอาคารสูง เกิน 8 ชั้นหรือเกิน 23 เมตรขึ้นไป แปลงที่ดินต้องตั้งติดเขตทางกว้าง 12 เมตรขึ้นไป ซึ่งถนนของรฟม.และเอซตันอโศก มีเขตทางกว้าง13 เมตร ถูกต้องตามกฎหมาย ต่อมาภายหลังมีกลุ่มคนในพื้นที่และสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนยื่นฟ้อง 5 หน่วยงานรัฐ โดยศาลปกครองกลางวินิจฉัย ที่ดินรฟม. ไม่สามารถนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ เท่ากับกทม.ออกใบอนุญาตโดยมิชอบ
ดังนั้น จะอุทธรณ์เรื่องนี้ต่อศาลปกครองสูงสุดต่อไป ขณะคอนโดมิเนียมแอซตันอโศก ที่ได้รับความเสียหายเอกชนจะต้องฟ้องกลับรฟม.กรณีให้เช่าที่ดินเพื่อใช้เป็นทางสาธารณะผิดกฎหมายจนทำให้โครงการได้รับความเสียหาย
13 โครงการดังอยู่ในข่าย
นายชานนท์ เรืองกฤตยาซีอีโอ บมจ.อนันดาฯเจ้าของโครงการยืนยันว่า บริษัทฯได้ดำเนินการอย่างระมัดระวัง และให้ความสำคัญอย่างยิ่งในเรื่องการซื้อที่ดินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีการศึกษาข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการใช้ทางผ่านเข้า-ออก มีใบอนุญาต 9 ฉบับ จาก 8 หน่วยงาน และผ่านคณะกรรมการพิจารณาชุดต่างๆ ถึง 5 ชุดด้วยกัน จึงมั่นใจว่าได้ดำเนินการตามครรลองที่กำหนดไว้ในกฎหมายในทุกขั้นตอนอยู่แล้ว
ทั้งนี้ ไม่ได้มีแต่โครงการ “แอชตัน อโศก” แต่ยังมีโครงการ พัฒนาอสังหาฯอื่นๆ อีกกว่า 13 โครงการ เฉพาะของรฟม. ก็มีประมาณ 6 โครงการ มีการขอใช้ที่ดินของ รฟม.และหน่วยงานรัฐเจ้าของโครงข่ายระบบขนส่งมวนอื่น ๆ เป็นทางเข้า-ออก เช่นเดียวกันอยู่
อาทิโครงการ Noble Revolve Ratchada 1-2 ที่ทางเข้าโครงการตัดผ่านที่ดินของ รฟม.หรือโครงการ Whizdom Avenue รัชดา-ลาดพร้าว ติดสถานี MRT ลาดพร้าว ใช้ที่ดินของรฟม.ในการทำทางเข้าเช่นเดียวกัน หรือโครงการ The Base Garden พระราม 9 ที่ทางด่วน กทพ.ตัดผ่านหน้าโครงการ มีการขออนุญาตทำทางเข้า-ออกใต้ทางด่วนเข้ามายังโครงการเพื่อสร้างตึกสูง เช่นเดียวกัน
อีกทั้ง อนันดาฯยังรับผิดชอบทางผ่านให้รฟม.เกือบ 100 ล้านบาท ทำให้บริษัทฯมั่นใจอย่างยิ่งว่า ในกระบวนการดำเนินโครงการแอชตัน อโศก ที่ผ่านมาทั้งหมด ตั้งอยู่บนพื้นฐานความถูกต้องและสุจริต ชอบด้วยกฎหมายทุกขั้นตอน
ดับฝันTOR แนวรถไฟฟ้า
อดีตผู้บริหารการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
(รฟม.) สะท้อนว่า หากการเชื่อมทางเข้า-ออกสถานีรถไฟฟ้า ถูกตีความว่า เป็นการทุจริตนำเอาที่ดินเวนคืนเพื่อก่อสร้างรถไฟฟ้า ไปเอื้อประโยชน์ต่อเอกชนแล้ว โครงการคอนโดฯ ห้างสรรพสินค้า หรือโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ที่ล้วนมีการดำเนินการในลักษณะเดียวกัน ก็คงมีสิทธิ์โดนลูกหลงตามมาด้วย
อีกทั้ง อนาคตการพัฒนาที่ดินรายรอบสถานีรถไฟฟ้า เพื่อนำรายได้มาชดเชยการก่อสร้างรถไฟฟ้า(TOD) ที่จะสนับสนุนให้เอกชนพัฒนาโครงการโดยรอบสถานีเพื่อสร้างมูลค่า ให้กับเศรษฐกิจ นำรายได้จากการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีมาเสริมรายได้ให้โครงข่ายรถไฟฟ้า เพื่อลดปัญหาจราจรคงเป็นได้แค่นโยบายที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้
ลูกบ้าน แอซตัน อโศก 600 รายระส่ำ
“ฐานเศรษฐกิจ” สอบถาม นายวรลภ เกิดคล้าย ผู้จัดการอาคาร แอซตัน อโศกปัจจุบันมีลูกบ้านโอนกรรมสิทธิ์เข้าอยู่จำนวนกว่า 600 ราย ซึ่งขณะนี้ยอมรับว่า เมื่อทราบคำตัดสินของศาลปกครองกลางนิติบุคอาคารชุดและลูกบ้านทุกราย ต่างวิตกกังวล ที่ผ่านมาได้มีการประชุมหารือกับทางอนันดาฯ และประชุมภายในของลูกบ้านเอง เพื่อหาทางออก ร่วมกัน
จี้ลูกบ้านฟ้องอนันดา
นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ในฐานะผู้ยื่นฟ้องคดีดังกล่าว ระบุว่า แม้อาคารคอนโดแอชตัน อโศก จะก่อสร้างเสร็จไปนานแล้ว มีการขาย การโอนให้กับผู้จองซื้อ มีคนย้ายเข้าไปอยู่อาศัยกันกว่า 83% แล้วก็ตาม แต่กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ผู้ซื้อจะต้องไปไล่เบี้ยเอากับผู้ขายกันเอาเอง ส่วนสมาคมฯจะต้องนำคำพิพากษาไปดำเนินการเอาผิดกับข้าราชการและทุกคนที่ใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมายในกรณีนี้ต่อไป โดยเฉพาะฝ่ายโยธา กทม. และผู้บริหาร รฟม.
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
หุ้นสหรัฐ,น้ำมันปิดพุ่ง/ทองคำร่วง
หุ้นดาวโจนส์ปิดพุ่ง 271.58 จุด รับตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ลดลง ด้านราคาน้ำมันบวกแรง 94 เซนต์ ขณะที่ทองคำลดลง 5.60 ดอลลาร์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,064.25 จุด เพิ่มขึ้น 271.58 จุด หรือ +0.78% ดัชนี เอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,429.10 จุด เพิ่มขึ้น 26.44 จุด หรือ +0.60% ดัชนี แนสแดค ปิดที่ 14,895.12 จุด เพิ่มขึ้น 114.58 จุด หรือ +0.78%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ดีดตัวขึ้นมายืนที่เหนือระดับ 35,000 จุดได้อีกครั้งเมื่อวันที่ 5 ส.ค. หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 14,000 ราย สู่ระดับ 385,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนจำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลดลง 366,000 ราย สู่ระดับ 2.93 ล้านราย ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องอยู่ที่ต่ำกว่าระดับ 3 ล้านรายนับตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค.2563
สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า เวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต (WTI) งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 94 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 69.09 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบ เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 91 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 71.29 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้ปัจจัยหนุนจากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง และจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการ
ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 5.60 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 0.3% ปิดที่ 1,808.90 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์
ขอบคุรข้อมูลจาก posttoday.com
OFFICIAL! ปิดฉาก 21 ปี บาร์เซโลนา ยืนยัน ไม่สามารถต่อสัญญากับ ลิโอเนล เมสซี ได้
สโมสรบาร์เซโลนา ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ลิโอเนล เมสซี จะไม่ได้ลงเล่นให้กับทีมอีกต่อไปในฤดูกาลหน้า แม้ทั้งสองฝ่ายจะเห็นพ้องต้องกันเรื่องสัญญาฉบับใหม่ได้แล้วก็ตาม โดยปัญหาที่ขัดขวางไม่ให้การเจรจาบรรลุผลอยู่ที่สภาพความคล่องทางการเงินของสโมสรนั่นเอง
“แม้ว่า บาร์เซโลนา และ ลิโอเนล เมสซี จะบรรลุข้อตกลงและแสดงออกถึงความตั้งใจที่ชัดเจนของทั้งสองฝ่ายในการเซ็นสัญญาฉบับใหม่ในวันนี้ แต่ก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้เนื่องจากอุปสรรคทางการเงินและโครงสร้างซึ่งเป็นข้อบังคับของ ลาลีกา สเปน” บาร์ซา ระบุในแถลงการณ์
“จากสถานการณ์ดังกล่าว เมสซี จะไม่อยู่ต่อที่ บาร์เซโลนา ทั้งสองฝ่ายเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ความปรารถนาของผู้เล่นและสโมสรจะไม่สำเร็จในท้ายที่สุด”
“บาร์เซโลนา แสดงความขอบคุณอย่างสุดใจต่อผู้เล่นที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาสโมสรและขออวยพรให้เขาได้รับสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับอนาคตในชีวิตส่วนตัวและอาชีพของเขา”
ทั้งนี้ เมสซี กลายเป็นแข้งฟรีเอเยนต์ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมาเมื่อเจ้าตัวหมดสัญญากับพลพรรรค อาซูลกรานา ก่อนที่เขาจะตอบรับสัญญาฉบับใหม่จากต้นสังกัดเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ทว่าเงื่อนไขที่จะทำให้ดีลดังกล่าวลุล่วงลงได้คือ บาร์ซา จำเป็นที่จะต้องขายนักเตะภายในทีมออกไปเพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงินให้เป็นไปตามกฎของ ลา ลีกา แต่ท้ายที่สุดสโมสรก็ไม่สามารถผ่องถ่ายแข้งออกไปได้
รายงานจาก บีบีซี ระบุว่าแข้ง อาร์เจนไตน์ วัย 34 ปีตอบรับสัญญายาว 5 ปีกับสโมสรแต่ฝั่ง ลา ลีกา ยืนยันว่าทัพ กูเลส จำเป็นที่จะต้องลดภาระค่าเหนื่อยนักเตะโดยรวมไม่ให้เกินเพดานที่ตั้งไว้เสียก่อนจึงจะสามารถลงทะเบียนแข้งใหม่ได้
สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ เมสซี จำเป็นต้องยุติเส้นทาง 21 ปีกับ บาร์เซโลนา หลังย้ายจาก นีเวลล์ โอลด์ บอยส์ จาก อาร์เจนตินา ร่วมอคาเดมี ลา มาเซีย ตั้งแต่ปี 2000 ก่อนเดบิวต์กับทีมชุดใหญ่ได้ในปี 2004 เบ็ดเสร็จเจ้าตัวสังหารประตูให้กับ บาร์ซา ทั้งสิ้น 672 ประตูกับ 305 แอสซิสต์จากการลงสนามทั้งหมด 778 นัด
เมสซี พา บาร์เซโลนา คว้าเมเจอร์โทรฟี 21 ถ้วยแบ่งเป็น ลา ลีกา 10 สมัย, โกปา เดล เรย์ 7 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 4 สมัยและเป็นนักเตะที่คว้าบัลลงดอร์ได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ 6 สมัย
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
อย. เตือนอย่าซื้อยา “ฟาวิพิราเวียร์” รักษาโควิด-19 กินเอง เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต
อย. เตือนประชาชนอย่าซื้อยาฟาวิพิราเวียร์กินเอง อาจเป็นยาปลอมและการใช้ยาที่ไม่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดเชื้อดื้อยา ส่งผลให้ใช้ยาไม่ได้ผลและเสียชีวิตได้ หากสงสัยว่ายาฟาวิพิราเวียร์ที่ได้รับเป็นยาปลอม สามารถ สอบถามและแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน อย. 1556 อีเมล์ 1556@fda.moph.go.th
อย่าซื้อยาฟาวิพิราเวียร์กินเอง เสี่ยงอันตราย
นายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏ
มีการขายยาฟาวิพิราเวียร์โดยไม่ได้รับอนุญาต เตือนประชาชนอย่าซื้อยามารับประทานเองเพราะอาจได้ยาปลอมที่ไม่มีตัวยาสำคัญอยู่เลย หรือได้รับยาที่ไม่มีคุณภาพมาตรฐานทำให้เสียโอกาสในการรักษา และอาจได้รับอันตรายจากสารปนเปื้อน รวมถึงการซื้อยาผ่านอินเตอร์เน็ตผู้ป่วยอาจไม่ได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องในการใช้ยา ซึ่งปัจจุบันเมื่อผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิด-19 และเข้ารับการรักษาในระบบที่รัฐจัดเตรียมไว้ให้จะได้รับยาฟาวิพิราเวียร์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ยาฟาวิพิราเวียร์ ต้องให้แพทย์สั่งจ่ายยาให้เท่านั้น
ยาฟาวิพิราเวียร์จัดเป็นยาควบคุมพิเศษ ที่ต้องสั่งจ่ายและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ จำเป็นต้อง
ติดตามอาการข้างเคียงและผลการรักษาระหว่างการใช้ยา การใช้ยาในผู้ป่วยบางกลุ่มจำเป็นต้องคำนึงถึงประโยชน์และความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่จะตามมาโดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์ นอกจากนี้จำเป็นต้องใช้ยาอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำ การใช้ยาที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดเชื้อดื้อยาได้ง่าย ส่งผลให้ใช้ยาไม่ได้ผลเมื่อเกิดการติดเชื้อเป็นเหตุให้ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตได้ในที่สุด
ระวังยาฟาวิพิราเวียร์ปลอม
ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้มีผู้ไม่หวังดีหลอกขายยาให้แก่ประชาชน ทั้งมีการลักลอบนำยาของผู้ป่วยมาขายหรือเจตนาปลอมให้เชื่อว่าเป็นยาฟาวิพิราเวียร์หลอกขายตามอินเทอร์เน็ต ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย หากประชาชนสงสัยว่ายาฟาวิพิราเวียร์ที่ได้รับเป็นยาปลอมสามารถสอบถามและแจ้งเบาะแสที่สายด่วน 1556 อีเมล์ 1556@fda.moph.go.th
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
5 ความหมายของ Could ที่ไม่ได้มีแค่ “สามารถ”
Could ออกเสียงว่า คูด (ไม่ใช่ คูลดฺ) คำนี้กับ Would และ Should เราต้องละเสียง L ว่า วูด และ ชูด … คำว่า Could คูด นั้นเรารู้อีกว่า เป็น past ของ can ซึ่งมีความหมายแปลว่า “สามารถ” (โดยที่บอกว่า เป็นความสามารถทำได้ในอดีต เคยทำได้) แต่ในความเป็นจริง Could ก็มีความหมายได้หลายอย่าง ที่เราต้องได้พบเจอ ดังตัวอย่างที่เรานำมาเสนอในบทความนี้
ความหมายของ Could นอกเหนือจาก “สามารถ”
1. ความสามารถ
Ability ความสามารถ
I could speak Italian very well when I was working in Milan.
ไอ คูด สปีค อิแทเลียน เฟ-หริ เวล เวน ไน วอส เวิรฺคคิง อิน มิลาน
– ฉันพูดอิตาเลียนได้ดี ตอนที่ทำงานที่มิลาน (ตอนนี้พูดไม่เก่งแล้ว)
2. คำขอร้อง
Request (polite) คำขอร้อง
Could you pass me the salt?
คูด ยู พาส มี เดอะ ซอลทฺ ?
– ช่วยส่งเกลือให้ฉันหน่อยได้ไหม
3. ความเป็นไปได้ หรือความน่าจะเป็น
Possibility ความเป็นไปได้ หรือความน่าจะเป็น
You must be careful. You could have got killed on the road.
ยู มัส บี แครฺ-ฟูล ยู คูด แหฟ ก็อท คิลดฺ ออน เดอะ โรด
– เธอต้องระวังสิ เธออาจตายกลางถนนได้นะ
He could have called his wife last night.
ฮี คูด แฮฟ คอลดฺ ฮีส ไวฟฺ ลาส ไนทฺ
– เขาอาจโทรหาภรรยาเมื่อคืนแล้วก็ได้
4.ขออนุญาต
Ask for permission (polite) ขออนุญาต
Could I take Friday off ?
คูด ได เทค ฟรายเดยฺ ออฟ ?
– ขออนุญาตหยุดงานวันศุกร์ได้ไหม
5. คำแนะนำ
Suggestion คำแนะนำ โดยที่ไม่ได้แนะนำในอดีตแต่เป็นปัจจุบัน
We could take a Chuo Line to get to Shinsaibashi Station.
วี คูด เทค อะ ชู-โอ ไลนฺ ทู เก็ท ทู ชินไซบาชิ สเตเชิน
– เราควรขึ้นชูโอไลน์ เพื่อไปสถานีชินไซบาชิ
ขอบคุณข้อมูลจาก lifestyle.campus-star.com
บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าตะวันตกหาทางเลือกใหม่-ลดการพึ่งพาโลหะหายากจากจีน
ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศตะวันตก (EV) กำลังพยายามลดการพึ่งพาโลหะหายากจากประเทศจีน เมื่อความตึงเครียดระหว่างจีนกับประเทศอื่น ๆ รวมถึงสหรัฐฯ มีเพิ่มมากขึ้น ทำให้บรรดาผู้ผลิตต่างกังวลว่าโลหะหายากเหล่านี้อาจมีจำกัด
รถยนต์ไฟฟ้าใช้แม่เหล็กชนิดพิเศษในการขับเคลื่อนเครื่องยนต์ ซึ่งส่วนใหญ่ทำมาจากโลหะหายาก
อันที่จริงแล้ว โลหะดังกล่าวไม่ได้หายากจริง ๆ แต่อาจมีความสกปรกและนำไปใช้งานได้ยาก และจีนได้กลายเป็นผู้นำในการผลิตโลหะที่ว่านี้ แต่ความต้องการแม่เหล็กที่ใช้สำหรับพลังงานหมุนเวียนทุกรูปแบบมีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าปัญหาการขาดแคลนที่แท้จริงอาจรออยู่ข้างหน้า
บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ในตะวันตกกล่าวว่า พวกเขาไม่เพียงแต่กังวลเกี่ยวกับการจัดหาวัตถุดิบดังกล่าวเท่านั้น แต่ยังมีความกังวลเกี่ยวกับราคาที่สูงขึ้นอย่างมากและความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดในขึ้นระหว่างการผลิตด้วย
ตลอดช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา ประเทศตะวันตกส่วนใหญ่หยุดผลิตโลหะหายาก เพราะการผลิตนั้นเกี่ยวข้องกับกระบวนการที่ซับซ้อนและมักจะเกิดอันตรายตามมา
ทั้งนี้ แม่เหล็กหายากส่วนใหญ่ทำมาจากนีโอไดเมียม ซึ่งถูกมองว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และจีนควบคุมซัพพลายของแม่เหล็กหายากนี้อยู่ 90 เปอร์เซนต์ นอกจากนี้ราคาของนีโอไดเมียมออกไซด์เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในช่วงเก้าเดือนของปีที่แล้วและยังคงเพิ่มขึ้นถึง 90 เปอร์เซ็นต์
บริษัทรถยนต์ต่าง ๆ พยายามเลิกใช้แม่เหล็กดังกล่าว รวมไปถึง Nissan ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งทางบริษัทบอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า กำลังยุติการใช้แร่หายากกับเครื่องยนต์ของรถยนต์รุ่นใหม่ชื่อ Ariya
ส่วน BMW ของเยอรมนีก็ทำเช่นเดียวกันกับรถ Sport Utility หรือรถอเนกประสงค์ไฟฟ้ารุ่น iX3 ในปีนี้ และผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกสองราย ได้แก่ Toyota และ Volkswagen ก็บอกกับรอยเตอร์ว่าตนกำลังลดการใช้แร่ธาตุหายากดังกล่าว
อย่างไรก็ดี แร่ธาตุหายากเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ พลังงานหมุนเวียน และการป้องกันประเทศ เนื่องจากแร่ธาตุบางชนิดสามารถสร้างพลังงานแม่เหล็กได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรียกกันว่า “แม่เหล็กถาวร”
รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แม่เหล็กถาวรใช้พลังงานแบตเตอรี่น้อยกว่าและสามารถขับได้ไกลกว่ารถยนต์ที่ใช้แม่เหล็กทั่วไป แม่เหล็กชนิดพิเศษเป็นตัวเลือกที่ชัดเจนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า จนถึงปี ค.ศ. 2010 เมื่อจีนขู่ว่าจะลดการจัดหาแร่หายากในช่วงที่เกิดความขัดแย้งกับประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทำให้ราคาของแม่เหล็กชนิดนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ความกังวลด้านซัพพลายทำให้เกิดการแบ่งแยกระหว่างผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีนกับคู่แข่งจากตะวันตก
แม้ว่าผู้ผลิตรถยนต์ในฝั่งตะวันตกกำลังลดการผลิต แต่จีนยังคงผลิตรถยนต์โดยใช้แม่เหล็กถาวรอยู่ เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมแร่หายากของจีนบอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า หากตัดเรื่องความเสี่ยงทางการเมืองออกไป จีนก็จะสามารถ “ตอบสนอง” ความต้องการของโลกได้อย่างเต็มที่
ขณะนี้บริษัทต่าง ๆ กำลังพัฒนาเครื่องยนต์ไฟฟ้าโดยไม่ใช้โลหะหรือนำเอาแม่เหล็กจากรถยนต์ที่มีอยู่กลับมาใช้ใหม่เพิ่มเติม
BMW กล่าวว่า ได้ออกแบบเทคโนโลยีรถไฟฟ้าใหม่เพื่อชดเชยการขาดแร่ธาตุหายาก ผู้ผลิตรถยนต์ Renault ได้ผลิตรถยนต์รุ่น Zoe โดยไม่ใช้แร่ธาตุหายาก ส่วน Tesla บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐฯ จะใช้เครื่องยนต์ทั้งสองประเภท
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ายอดขายรถยนต์จะลดลงในช่วงการเกิดโรคระบาดใหญ่ แต่ความต้องการแม่เหล็กนีโอไดเมียมในรถยนต์ไฟฟ้าก็ยังเพิ่มขึ้น 35 เปอร์เซ็นต์เฉพาะในปีที่แล้วเพียงปีเดียว
Claudio Vittori ผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทผู้ให้บริการข้อมูลสัญชาติอเมริกัน-อังกฤษ IHS Markit กล่าวว่า การใช้เครื่องยนต์ไฟฟ้าที่ไม่มีโลหะหายากนั้นคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเกือบแปดเท่าภายในปี 2030 แต่เครื่องยนต์แม่เหล็กถาวรก็จะยังคงครองตลาดอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพราะกำลังและประสิทธิภาพนั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
เปิดภาพเรนเดอร์ “เมืองลอยน้ำ” นวัตกรรมการออกแบบเพื่อรองรับสภาพความเป็นอยู่ในอนาคต
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เกิดน้ำท่วมใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ทั่วเมืองใหญ่ของโลก อาทิมณฑล เหอหนาน ประเทศจีน กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ประเทศเยอรมนีและเบลเยียม ทำให้บ้านเรือนเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง เนื่องจากต้องเผชิญกับฝนตกหนัก
วันนี้ BuilderNews จะพาไปชมภาพเรนเดอร์การออกแบบ “เมืองลอยน้ำ” นวัตกรรมการพัฒนาที่ทำให้หมดกังวลกับปัญหาน้ำท่วมในอนาคต
ซีสเครเปอร์ The Seascraper
ผลงานดีไซน์โดย William Erwin และ Dan Fletcher สถาปนิกชาวอเมริกัน เมืองลอยน้ำซีสเครเปอร์ สามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยกังหันแสงอาทิตย์จากแผงโซลาเซลล์ตกแต่งรอบผนังเมือง เช่นเดียวกับพลังงานไฟฟ้าที่ถูกนำไปใช้กับส่วนอื่น ๆ สำหรับลักษณะรูปโค้งเว้าของตัวเมือง ออกแบบมาเพื่อใช้กักเก็บน้ำฝนไว้บริโภค
มัลดีฟส์ โฟลทติ้ง ซิตี้ Maldives Floating City
ผลงานดีไซน์โดย Dutch Docklands บริษัทออกออกแบบสถาปัตยกรรมสัญชาติเนเธอร์แลนด์ จากการออกแบบมัลดีฟส์ โฟลทติ้ง ซิตี้ ให้กลายเป็นที่พักอาศัยริมน้ำและบริการต่าง ๆ นับพัน ด้วยการเน้นโทนสีสันที่สดใสอย่างสีคัลเลอร์ฟูล เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของประเทศหมู่เกาะปะการัง ให้ลอยไปตามกริดที่ยืดหยุ่นและใช้งานได้สะดวกบนทะเลสาบขนาด 2 ตารางกิโลเมตร
ออโทเปีย แอมแปร์ Autopia Ampere
ผลงานดีไซน์โดย Wolf Hilbertz สถาปนิกชาวเยอรมัน ด้วยการออกแบบรูปทรงเมืองลอยน้ำด้วยรูปร่างคล้ายก้นหอย ที่อาศัยกระบวนการพอกพูนด้วยไฟฟ้า โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นหลักในการทำงาน
กรีนสตาร์ Greenstar
ผลงานดีไซน์โดย Water Studio ด้วยการใช้รูปทรงดาวขึ้นมา เพื่อลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศเนื่องจากภาวะโลกร้อน ภายในเมืองมีห้องพักทั้งหมด 800 ห้อง สามารถรองรับประชากรได้ 2000 คน
เฮกซาโกนอล โฟลทติ้ง ซิตี้ Hexagonal Floating City
ผลงานดีไซน์โดย AT Design Office เมืองลอยน้ำซึ่งมีถนนและทางเดิน ที่เกิดจากการออกแบบเชื่อมต่อกันด้วยโมดูลหกเหลี่ยม โดยอาศัยแรงยึดจากท่อใต้น้ำ ภายในเมืองยังมีที่อยู่อาศัย ร้านอาหาร แหล่งการค้า แหล่งผลิตพลังงานและระบบจัดการของเสียอย่างครบครัน
ไบโอไดเวอร์ ซิตี้ Biosdiver City
ผลงานดีไซน์โดย Quentin Perchet Thomas Yvon และ Zarko Uzlac เมืองลอยน้ำที่ออกแบบเพื่อเป็นเครื่องเตือนใจให้คนเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศใต้ท้องทะเล
พื้นที่ด้านบนผิวน้ำใช้เป็นที่พักอาศัย ส่วนด้านล่างเป็นพื้นที่ไว้ให้ลงไปชมสัตว์ใต้ท้องทะเลและส่วนล่างสุดจะมีเสายาวนับร้อยเสาเชื่อมเข้ากับใต้เมือง เพื่อเป็นที่ยึดเกาะของจุลินทรีย์และสัตว์ต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ตามแนวปะการัง
เดอะ ซิตี้ ออฟ เมอเรียน The City of Mériens
ผลงานดีไซน์โดย Jacques Rougerie ผ่านการออกแบบให้เป็นรูปปลากระเบน โดยอาศัยแหล่งพลังงานจากน้ำแต่ไม่มีการทำลายระบบใต้ทะเลแต่อย่างใด สามารถรองรับประชากรทั้งหมดได้มากถึง 7000 คน อีกทั้งยังมีห้องปฏิบัติการ ห้องเรียน พื้นที่พักผ่อนไว้สำหรับสันทนาการและเล่นกีฬาอีกต่างหาก
“เมืองลอยน้ำ” ยังถือเป็นการออกแบบที่น่าสนใจสำหรับประเทศไทยเช่นกัน โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่เสี่ยงจะจมอยู่ใต้บาดาลภายใน 10-15 ปีนี้ จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโดยน้ำมือมนุษย์
ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 06/08/2564
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 28,350.00 | 28,450.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,836.00 | 27,833.76 | 28,950.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,652.40 | 25,050.38 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,468.80 | 22,267.01 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 826.00 | 12,522.16 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 643.00 | 9,747.88 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,903.00 | 28,849.48 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 06/08/2564
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 29.95 | 29.95 | 29.95 | 29.95 | 29.95 | 29.95 | 29.95 | 29.95 | 29.95 | 29.95 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 29.68 | 29.68 | 29.68 | 29.68 | 29.68 | 29.68 | 29.68 | 29.68 | 29.68 | 29.68 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 28.44 | 28.44 | 28.44 | 28.44 | 28.44 | – | 28.44 | 28.44 | 28.44 | 28.44 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 22.94 | 22.94 | – | – | – | – | – | – | – | 22.94 |
เบนซิน 95 | 37.36 | – | – | – | 37.81 | – | 37.86 | 37.36 | – | 37.36 |
ดีเซล B7 | 29.49 | 29.49 | 29.49 | 29.49 | 29.49 | 29.49 | 29.49 | 29.49 | 29.49 | 29.49 |
ดีเซล | 26.49 | 26.49 | 26.49 | 26.49 | 26.49 | 26.49 | 26.49 | 26.49 | 26.49 | 26.49 |
ดีเซล B20 | 26.24 | 26.24 | 26.44 | – | 26.24 | – | 26.24 | 26.24 | – | 26.24 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 34.26 | 34.26 | 35.94 | 35.66 | – | – | – | – | – | 34.26 |
แก๊ส NGV | 14.55 | 14.55 | – | – | – | – | – | – | – | 14.55 |