สาระน่ารู้ประจำวันที่ 06 มกราคม 2565

เขย่าวงการลงทุนไทย เปิดจอง “หุ้นกู้ดิจิทัลแสนสิริ” ขั้นต่ำแค่ 1 พันบาท

เขย่าวงการลงทุนไทย เปิดจอง "หุ้นกู้ดิจิทัลแสนสิริ"  ขั้นต่ำแค่ 1 พันบาท

แสนสิริ ผนึก กรุงไทย เตรียมเปิดจอง “หุ้นกู้ดิจิทัลแสนสิริ” ชูดอกเบี้ย 3.10% มูลค่า 1,000 ล้านบาท 18 ม.ค.นี้ เจาะนักลงทุน แอปเป๋าตัง 30 ล้านคน นับเป็นอสังหาฯรายแรกของเอเชีย มีขั้นต่ำ 1,000 บาทก็จองได้

5 ม.ค.2565 – แสนสิริจับมือธนาคารกรุงไทย เปิดตัว “หุ้นกู้ดิจิทัลแสนสิริ” ผ่านวอลเล็ตซื้อขายหุ้นกู้ ในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” หวังเพิ่มโอกาสการลงทุนอย่างเท่าเทียม หนุนวินัยการออมของคนไทย 

โดยนาย เศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา แสนสิริ ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ และความเท่าเทียมในสังคมไทยมาโดยตลอด ทั้งในแง่มุมโปรดักส์โครงการที่อยู่อาศัย เพื่อมุ่งหวังให้ทุกคนเข้าถึงได้  รวมถึงภาคการลงทุนด้วย

ซึ่งปี 2564 ได้นำเสนอนวัตกรรมทางการเงินในรูปแบบใหม่ๆ ก้าวสู่ความเป็นผู้นำในการพลิกโฉมการลงทุน ในหุ้นกู้บริษัทเอกชนที่ทุกคนเข้าถึงได้และมีโอกาสซื้อเท่าเทียมกัน ครั้งแรกของเมืองไทย โดยประสบความสำเร็จใน “หุ้นกู้แสนสิริ i-EASY” เริ่มต้น 10,000 บาท ที่ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากการจองซื้อหมดในเวลาอันรวดเร็วในทั้ง 2 รอบ

ล่าสุดในปี 2565 นั้น บริษัท ได้จับมือกับ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เตรียมออก “หุ้นกู้ดิจิทัลแสนสิริ” เป็นรายแรกของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเอเชีย ชูวิสัยทัศน์ร่วมกันในการเป็น “หุ้นกู้ที่คนไทยทุกคนเข้าถึงได้” เพื่อต้องการเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอ ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นต่ำสุดเพียง 1,000 บาท ซื้อขายแบบ real-time 24 ชั่วโมง ผ่านวอลเล็ตซื้อขายหุ้นกู้บนแอปฯ เป๋าตัง 

เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ดอกเบี้ยคงที่ 3.10% ต่อปี ระยะเวลาลงทุนเพียง 2 ปี 6 เดือน รับดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ นอกจากนี้ หุ้นกู้ดิจิทัลแสนสิริ ยังมีสภาพคล่อง ด้วยการซื้อ/ขายหุ้นกู้ได้ทันทีในตลาดรอง หลังหุ้นกู้เข้าวอลเล็ตบนแอปเป๋าตังได้อีกด้วย โดยจะเปิดจองพร้อมกัน 8:30 น. ของวันที่  18 มกราคม 2565 นี้ ผ่านวอลเล็ต ซื้อขายหุ้นกู้บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เท่านั้น

นายเศรษฐา ยังมองว่า การร่วมมือครั้งนี้ เปรียบเป็นนัยสำคัญระดับประเทศ ที่สะท้อนให้เห็นว่าธนาคารรัฐเอง ให้ความสำคัญต่อความเท่าเทียม เปิดช่องการลงทุนอย่างเท่าถึง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจับจอง ,ราคา, ตัวเล็ก ตัวใหญ่สามารถเข้าถึงได้ 

“ความร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย เปิดตัวหุ้นกู้ดิจิทัลแสนสิริ บนแอปฯ เป๋าตัง ครั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งก้าวความมุ่งมั่นของแสนสิริ ที่ให้ความสำคัญในด้านความเสมอภาค – เท่าเทียม และเข้าถึงได้ในทุกมิติของคนไทยทุกคน และเป็นการต่อยอดความสำเร็จของการลงทุนหุ้นกู้รูปแบบใหม่ ให้คนทุกกลุ่มเข้าถึงการลงทุนได้ง่ายอย่างทั่วถึง ด้วยวงเงินเริ่มต้นสำหรับการลงทุนในหุ้นกู้ที่ต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีมาในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผสานกับจุดแข็งของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ของธนาคารกรุงไทย ที่มีการพัฒนาฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย จนกลายเป็นศูนย์รวมที่คนไทยเกือบทั้งประเทศรู้จักและใช้บริการมากกว่า 33 ล้านคน” 

เขย่าวงการลงทุนไทย เปิดจอง "หุ้นกู้ดิจิทัลแสนสิริ"  ขั้นต่ำแค่ 1 พันบาท

” ในอดีตการออกหุ้นกู้ การซื้อหุ้นกู้ รายใหญ่เข้าถึงก่อน แต่รอบนี้เราใช้แอปเป๋าตังของกรุงไทย มาก่อนได้ก่อน สะดวก เท่าเทียม ถือเป็นนวัตกรรมใหม่แห่งการลงทุนของไทยด้วย โดยเงินลงทุนขั้นต่ำแค่ 1,000 บาท ระยะเวลา 2 ปี 6 เดือน ” 


ขณะนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ล่าสุด ธนาคารกรุงไทยได้จับมือกับแสนสิริ เสนอขาย หุ้นกู้ดิจิทัลแสนสิริ บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”  ทำให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนในหุ้นกู้แสนสิริ ซึ่งนับเป็นผู้นำอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศได้อย่างทั่วถึง เท่าเทียม และเสมอภาค ซื้อขายได้สะดวก รวดเร็ว แบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง ได้รับหุ้นกู้และได้รับเงินทันที พร้อมทั้งแสดงข้อมูลการถือครองหุ้นกู้ ราคาซื้อขาย ครบจบในที่เดียว ผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน ทำให้มีความโปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้

” ความร่วมมือกับแสนสิริในครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญในการปฎิวัติการลงทุนหุ้นกู้ภาคเอกชนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และเป็นก้าวสำคัญในการขยายศักยภาพของแอปฯ เป๋าตัง ให้ตอบโจทย์เรื่องการออมและการลงทุนไปอีกขั้น ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับลูกค้าและประชาชนอย่างยั่งยืนในอนาคต ตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDG) ในหลายๆ ด้าน ทั้งด้านการนำนวัตกรรมมาเพิ่มประสิทธิภาพ พัฒนายกระดับตลาดทุนไทย นำเสนอบริการที่สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นผลิตภัณฑ์แบบ Scripless ไม่ต้องใช้เอกสาร ลดการเดินทางไปที่สาขา “

” วิธีการซื้อหุ้นกู้ดิจิทัลแสนสิริ ทำรายการบนแอปฯ เป๋าตังได้ทันที ซึ่งเป็นช่องทางที่ประชาชนส่วนใหญ่คุ้นเคยมีผู้ใช้งานกว่า 33 ล้านคน  ช่วยให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงการลงทุนได้ทั่วถึง ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ มีระบบที่โปร่งใส  ปลอดภัย สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน  อีกทั้งยังเป็นไปตามแนวทางเศรษฐกิจแบ่งปัน หรือ Sharing Economy ซึ่งจะช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับตราสารหนี้ของประเทศอีกด้วย “

เขย่าวงการลงทุนไทย เปิดจอง "หุ้นกู้ดิจิทัลแสนสิริ"  ขั้นต่ำแค่ 1 พันบาท

เปิดขั้นตอนการซื้อขายหุ้นกู้แสนสิริบนแอปฯ “เป๋าตัง”

สำหรับผู้ที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ดิจิทัลแสนสิริ สามารถลงทะเบียนวอลเล็ตซื้อขายหุ้นกู้บนแอปฯ “เป๋าตัง” ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยเปิดจองซื้อพร้อมกันตั้งแต่เวลา 08.30 น. วันที่ 18 มกราคม 2565  จนกว่าจะมีผู้จองซื้อหุ้นกู้เต็มตามจำนวนที่เสนอขาย จองซื้อขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 1,000 บาทสูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาทต่อราย 

ข้อมูลเพิ่มเติม : www.krungthai.com/th/krungthai-update/promotion-detail/916 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


เฟรเซอร์สฯ คิกออฟ “สีลมเอจ” เปิด ก.ย. 65 ฝ่าท้าทาย “รีเทลไทย”

เฟรเซอร์สฯ คิกออฟ "สีลมเอจ" เปิด ก.ย. 65 ฝ่าท้าทาย "รีเทลไทย"

เฟรเซอร์สฯ คอมเมอร์เชียล กลุ่มอสังหาฯ เจ้าสัวเจริญ กางแผนขยายพอร์ตพื้นที่รีเทล ต่อจาก “สามย่านมิตรทาวน์” ดีเดย์ โครงการ ” สีลมเอจ” (ตึกเก่าโรบินสัน) เปิดบริการ ก.ย. 2565 ฝ่าความท้าทายโอมิครอน ,การแข่งขันเดือด และพฤติกรรมผู้เช่า – ผู้ใช้บริการเปลี่ยนอย่างสิ้นเชิง

5 ม.ค.2565 – หากกล่าวถึงโครงการมิกซ์ยูสกลางเมือง 24 ชั่วโมงของไทย คงไม่มีใครไม่รู้จัก โครงการ “สามย่านมิตรทาวน์” 1 ในโปรเจ็กต์บุกเบิก เชิงพาณิชยกรรม ที่อยู่ภายใต้ พอร์ต อสังหาริมทรัพย์ครบวงจรขนาดใหญ่ มูลค่าแสนล้านบาท

ของบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ของกลุ่มเจ้าสัวเจริญ โดยมีบริษัทย่อยอย่าง บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) หรือ FPCT  เป็นผู้ดูแล ซึ่งโครงการดังกล่าว นับเป็นหนึ่งในเดสติเนชัน ที่ต้องมาเช็คอินของคนกรุงเทพฯ 

เฟรเซอร์สฯ คิกออฟ "สีลมเอจ" เปิด ก.ย. 65 ฝ่าท้าทาย "รีเทลไทย"

สำหรับปี 2565 นี้ ในสนามการแข่งขันอย่างดุเดือด ของแวดวงอสังหาริมทรัพย์ไทย บนถนนสีลม นั้น FPCT ก็ประกาศเตรียมเดินหน้าสร้างสีสันใหม่ ให้แก่วงการธุรกิจรีเทล ผ่านโครงการใหม่ ‘สีลมเอจ’ (Silom Edge) เช่นกัน ซึ่งเป็นการรีโนเวท ตึกโรบินสันสีลมเก่า บริเวณหัวมุมถนนสีลม–พระราม 4

เฟรเซอร์สฯ คิกออฟ "สีลมเอจ" เปิด ก.ย. 65 ฝ่าท้าทาย "รีเทลไทย"

ภายในโครงการประกอบไปด้วยพื้นที่ 2 โซนหลัก คือ โซนอาคารสำนักงาน เริ่มตั้งแต่ชั้น 10-21 และโซนพื้นที่ค้าปลีก สู่พื้นที่สังคมแซนด์บ็อกซ์แห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพ และ ถูกวางเป้าหมายไว้ว่า “เป็นสวรรค์ของนักขับหน้าใหม่” ที่เข้าใจสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการหน้าใหม่อย่างแท้จริง  

ล่าสุด นางสาวธีรนันท์ กรศรีทิพา รองกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจรีเทล FPCT เปิดเผยถึง แผนการขยายพอร์ตของกลุ่มธุรกิจว่า แม้ในปีที่ผ่านมา ธุรกิจไทยจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยืดเยื้อ แต่ FPCT ยังคงรักษาอัตราผู้เช่าในโครงการสามย่านมิตรทาวน์ ไว้ในระดับสูงที่ 98% 

เฟรเซอร์สฯ คิกออฟ "สีลมเอจ" เปิด ก.ย. 65 ฝ่าท้าทาย "รีเทลไทย"

โดยหลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศคลายล็อคดาวน์ โครงการสามย่านมิตรทาวน์ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า มีจำนวนผู้เข้าใช้บริการในโครงการเพิ่มขึ้นทุกวันเฉลี่ย 55,000 คน/วันสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจของลูกค้าที่มีต่อมาตรฐานความปลอดภัยของโครงการ ประกอบกับการดำเนินงานเชิงรุก หรือ Fluid Approach ซึ่งเป็นกลยุทธ์ในการดึงดูดทราฟฟิคให้กับศูนย์การค้าฯ เน้นการจับกระแสอย่างรวดเร็ว แล้วลงมือสร้างกิจกรรมทางการตลาดผ่านแคมเปญต่างๆ อย่างทันท่วงที 

สีลมเอจ เปิด ก.ย.65 คาดผู้ใช้บริการ 4 หมื่นคน/วัน

ขณะศักราชใหม่ ตามโรดแมป เตรียมเปิดบริการ “สีลมเอจ” ในช่วงเดือน ก.ย.2565 ประกอบด้วยพื้นที่สำนักงานและรีเทล 7 ชั้น รวมพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร พร้อมโซนเปิดให้บริการถึงเที่ยงคืนทุกวัน เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ไม่ยึดติดกับรูปแบบเดิมๆ รองรับกลุ่มผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพที่ต้องการทดสอบตลาดและวางจำหน่ายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มแซนด์บ็อกซ์ด้านรีเทล ทั้งยังส่งเสริมการทำธุรกรรมในรูปแบบดิจิทัล (Cashless Society) และสนับสนุนการชำระค่าบริการด้วย คริปโตฯ อีกด้วย 

” ปัจจุบันสีลมเอจอยู่ระหว่างการดำเนินการพัฒนาพื้นที่ แผนก่อสร้างเป็นไปตามกำหนด และจะพร้อมเปิดให้บริการในเดือนกันยายนปีนี้ พร้อมอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการทุกช่วงเวลา ด้วยโซนรีเทลที่ทำการเปิดตั้งแต่ 11:00 น. ถึงเที่ยงคืน และโซนพิเศษ 2 ชั้นแรกที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมรองรับลูกค้าที่ต้องการใช้บริการร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา และเครื่องจำหน่ายสินค้าคุณภาพด้วยระบบอัตโนมัติ คาดมีผู้ใช้บริการต่อวันไม่ต่ำกว่า 4-5 หมื่นคน”

เฟรเซอร์สฯ คิกออฟ "สีลมเอจ" เปิด ก.ย. 65 ฝ่าท้าทาย "รีเทลไทย"

ทั้งนี้ ยอมรับสถานการณ์โควิด19 ที่ระบาดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ก่อให้เกิดความเปลี่ยนในแง่พฤติกรรมผู้เช่า และผู้เข้าใช้บริการ  ทำให้ตลาดอสังหาฯ โดยเฉพาะกลุ่มพื้นที่รีเทล -ค้าปลีก ต้องปรับตัวอย่างมาก กลายเป็นความท้าทายใหม่ๆ ของผู้พัฒนา ที่ต้องบริหารจัดการพื้นที่ให้ตอบโจทย์การจับจ่ายใช้สอยตามเทรนด์ต่างๆ และความต้องการด้านพื้นที่ของผู้เช่าที่ลดลง ไม่นับรวมข้อจำกัดในการทำธุรกิจ จากมาตรการปิดประเทศ การสั่งเปิด-ปิด ศูนย์การค้า ตามมาตรการของรัฐที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และการหายไปของกลุ่มลูกค้าต่างชาติอีกด้วย 

เฟรเซอร์สฯ คิกออฟ "สีลมเอจ" เปิด ก.ย. 65 ฝ่าท้าทาย "รีเทลไทย"

อย่างไรก็ตาม บริษัท กลับมีความมั่นใจในแง่ศักยภาพของทำเลที่ตั้งโครงการ สีลมเอจ ซึ่งอยู่กึ่งกลางเมือง ร่ายล้อมไปด้วยแหล่งที่อยู่อาศัย สำนักงานขนาดใหญ่ สวนลุมพินี รพ.จุฬาฯ มีผู้สัญจรผ่านไปมา  BTS 8 หมื่นคนต่อวัน ขณะ MRT ราว 4 หมื่นคนต่อวัน ตอบรับไลฟ์สไตล์ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยมีกลุ่มผู้ใช้บริการหลากหลาย เช่น กลุ่มคนทำงานในละแวกดังกล่าว ,บุคลากรทางการแพทย์ ,ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า , กลุ่มคนออกกำลังกาย และ ต่างชาติที่แวะเชื่อมต่อไปยังย่านสำคัญ อย่าง เยาวราช เป็นต้น คาดจะมีผู้เข้ามาใช้บริการในพื้นที่ราว 4-5 หมื่นคนต่อวัน 

เฟรเซอร์สฯ คิกออฟ "สีลมเอจ" เปิด ก.ย. 65 ฝ่าท้าทาย "รีเทลไทย"

” ปัจจุบันสีลมเอจอยู่ระหว่างการดำเนินการพัฒนาพื้นที่ และจะพร้อมเปิดให้บริการในเดือนกันยายนปีนี้ โดยพร้อมอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการทุกช่วงเวลา ด้วยโซนรีเทลที่ทำการเปิดตั้งแต่ 11:00 น. ถึงเที่ยงคืน และโซนพิเศษ 2 ชั้นแรกที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมรองรับลูกค้าที่ต้องการใช้บริการร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา และเครื่องจำหน่ายสินค้าคุณภาพด้วยระบบอัตโนมัติ” 

เฟรเซอร์สฯ คิกออฟ "สีลมเอจ" เปิด ก.ย. 65 ฝ่าท้าทาย "รีเทลไทย"

อะไรคือความท้าทาย? 

สำหรับภาพรวมตลาดรีเทลในปี 2565 นั้น นางสาวธีรนันท์ กล่าวว่า ภาพรวมหลังจากรัฐบาลประกาศคลายล็อกดาวน์ ช่วง ก.ย.2564 ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงที่แย่ลง แม้เป็นช่วงที่ ต่างชาติหายไปหมด แต่กลุ่มที่กลับมาอย่างชัดเจน คือ นักช้อปชาวไทย ยอมรับตลาดรีเทลมีการแข่งขันที่สูง ขึ้นอยู่กับแต่ละโครงการ มีรูปแบบการให้บริการตอบรับกับผู้คนแบบไหน ส่วนสถานการณ์ “โอมิครอน” อีกตัวแปรใหม่ ยังไม่มีความกังวล เนื่องจากบริษัทวางมาตรฐานดูแลความสะอาดและปลอดภัยอยู่แล้ว มองไปข้างหน้า ทุกๆครั้งที่หมัดชกเข้ามา เราแทบไม่กังวล เพราะมีแผนรองรับ ทั้งการสั่งเปิด และ ปิด ตามมาตรการ

“ย้อนไปครั้งเปิดโครงการสามย่านมิตรทาวน์ เราใช้เวลา 3 ปี ในการปั้น ขณะสีลมเอจ เกิดมาใช้ช่วงล็อกดาวน์ การทำงานเป็นไปด้วยข้อจำกัด แต่เรามั่นใจ และจะคิกออฟได้ตั้งแต่ปี 2565 ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดต่อ เจรจา และการเข้ามาดูพื้นที่ของผู้ที่สนใจ ซึ่งในแง่รายได้ กลุ่มธุรกิจรีเทลเอง สัดส่วนในระยะสั้นยังไม่ได้มากพอ แต่ในอนาคต กลุ่มธุรกิจนี้จะเป็นส่วนเติมเต็ม และสร้างการเติบโตของพอร์ตใหญ่ เฟรเซอร์สฯ เช่นเดียวกัน เราอยู่ระหว่างมองหาโอกาสใหม่ๆ เพื่อต่อยอดพื้นที่เพิ่มเติม จากสามย่านมิตรทาวน์ และสีลมเอจ “


” หัวใจสำคัญสู่ความสำเร็จในยุคที่ธุรกิจต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายและ ความไม่แน่นอน คือการทลายทุกข้อจำกัด และเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์อยู่เสมอ ด้วยการปรับกลยุทธ์และแผนการตลาดอย่างทันท่วงที จะทำให้สามารถก้าวข้ามผ่านอุปสรรคไปได้ด้วยดี นอกจากนี้ เรายังปรับการดำเนินธุรกิจแบบ B2B เป็นแบบ Partnership ที่ช่วยให้เราใกล้ชิดกับลูกค้ามายิ่งขึ้น ” 

ส่อง 4 แนวทางความแตกต่างของโครงการสีลมเอจ

  • ลื่นไหลไปกับกระแสนิยมแบบ Real Time (Fluid Approach) การตลาดแบบทันท่วงที เอาชนะใจลูกค้าและทำให้กลับมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
  • กำหนดนิยามใหม่ในการใช้ประโยชน์จากสถานที่ (Redefine Physical Location) ด้วยการพัฒนาพื้นที่ที่เปิดกว้างและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น 
  • ยกระดับการใช้เทคโนโลยีในพื้นที่รีเทล (Leverage Digital Technology) เตรียมรองรับการชำระค่าบริการด้วยเงินดิจิทัล 
  • ส่งเสริมสุขอนามัยของผู้ใช้บริการและป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง (Hygiene and Safety Practice) ตามมาตรการ PREVENTIVE 

บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด 

สำหรับ ปัจจุบัน เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล ประเทศไทย มีพื้นที่เชิงพาณิชยกรรมที่อยู่ภายใต้การดูแล รวมทั้งสิ้น 6 อาคาร ได้แก่ อาคารสีลมเอจ อาคารสามย่านมิตรทาวน์ อาคารเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ อาคารโกลเด้นแลนด์ และภายใต้ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โกลเด้นเวนเจอร์ (GVREIT) ได้แก่ อาคารสาทรสแควร์ และอาคารปาร์คเวนเชอร์ คิดเป็นพื้นที่รวมกว่า 260,000 ตารางเมตร มีพนักงานของบริษัทฯ ผู้เช่าชั้นนำในประเทศไทยและต่างประเทศกระจายในหลากหลายธุรกิจซึ่งมีผู้ใช้บริการมากกว่า 50,000 คนต่อวัน นับเป็นผู้นำกลุ่มพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชยกรรมลำดับต้นๆ ของประเทศ

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีพักตัวตามตลาดโลก ทองลง50บาท

หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีพักตัวตามตลาดโลก ทองลง50บาท

แนวโน้มดัชนีหุ้นไทย 6 ม.ค.65 คาดดัชนีพักตัวตามตลาดหุ้นทั่วโลก ขณะที่ราคาทองคำในประเทศปรับลง50บาท

เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 65 นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะพักตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมรอบวันที่ 14-15 ธ.ค.64 ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ รวมถึงการปรับลดขนาดงบดุลบัญชี (Balance Sheet) ทันทีหลังจากเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ถือเป็นประเด็นหลักที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกพักตัว เพราะหมายความว่าสภาพคล่องจะเริ่มลดลง จึงเป็นลบกับหุ้นที่ P/E แพงๆ หรือหุ้นที่มี Valuation สูง เช่น หุ้นเทคโนโลยี ขณะที่บ้านเรา แม้ไม่ได้มีหุ้นเทคโนโลยีโดยตรง แต่อาจมีผลต่อหุ้นอิเล็กทรอนิกส์

ให้กรอบแนวรับไว้ที่ 1,665 จุด และแนวต้าน 1,680 จุด

ด้าน สมาคมค้าทองคำรายงานราคาทองคำประจำวันเปิดตลาดปรับลง 50 บาท ทองแท่งรับซื้อ 28,450 บาท ขายออก 28,550 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อ 27,939.88 บาท ขายออก 29,050 บาท 

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


มาดริด บุกตบ อัลโกยาโน 3-1 ลิ่วโกปา เดล เรย์

มาดริด บุกตบ อัลโกยาโน 3-1 ลิ่วโกปา เดล เรย์

เรอัล มาดริด บุกไปถอนแค้น อัลโกยาโน ได้สำเร็จ 3-1 ทำให้พวกเขาเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายโกปา เดล เรย์ สเปน ได้สำเร็จ

ศึก ฟุตบอลโกปา เดล เรย์ สเปย รอบ 32 ทีมสุดท้าย เป็นการพบกันระหว่าง อัลโกยาโน ที่เปิดสนามเอสตาดิโอ เอล โกเญา ต้อนรับการมาเยือนของ เรอัล มาดริด

ฝั่งอัลโกยาโน เจ้าบ้านจัดทีมในระบบ 4-4-2 โดยมี มูราด, ดานี เวก้า จับคู่กันในแดนหน้า

ทางด้านราชันชุดขาว ผู้มาเยือนเลือกใช้แผน 4-3-3 วาง เอเด็น อาซาร์, มาเรียโน ดิอาส, โรดรีโก้ เป็นสามประสานในแนวรุก

ผลปรากฎว่า เกมนี้ มาดริด ที่พักนักเตะตัวหลักเอาไว้หลายรายรวมทั้ง คาริม เบนเซมา ดาวยิงประจำทีมด้วยนั้น ได้ประตูจาก เอแดร์ มิลิเตา นาทีที่ 39, มาร์โก อเซนซิโอ นาทีที่ 77 และอิสโก อลาร์กอน นาทีที่ 79

ส่วนเจ้าถิ่นตีไข่แตกได้จาก ดาเนียล เบกา นาทีที่ 66

จบเกม เรอัล มาดริด บุกชนะ อัลโกยาโน 3-1 ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายโกปา เดล เรย์

ผลคู่อื่น เออิบาร์ แพ้ มายอร์กา 1-2, การ์ตาเคนา แพ้ บาเลนเซีย 1-2, เลกาเนส แพ้ โซเซียดัด 2-3, ลินาร์เลส แพ้ บาร์เซโลนา 1-2, บาเลอาเรส ชนะ เซลตา 2-1, มิรานเดส แพ้ ราโย 0-1, บายาโดลิด แพ้ เบติส 0-3

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


3 วิธี นอนอย่างไรถึงจะดีต่อสุขภาพ

3 วิธี นอนอย่างไรถึงจะดีต่อสุขภาพ

ว่ากันว่าการพักผ่อนเพื่อชาร์จพลังให้กับร่างกายได้ดีที่สุด หนีไม่พ้นการ “นอน” แต่บางคนกลับมีปัญหากับการนอนมาก นอนไม่หลับ นอนหลับไม่สนิท หรือแม้กระทั่งนอนมากเกินไป คิดว่านอนปกติแล้วแต่ตื่นมาก็ไม่สดชื่น ฯลฯ อาจเป็นเพราะคุณอาจไม่ได้นอนอย่างถูกวิธีอยู่

3 วิธี นอนอย่างไรถึงจะดีต่อสุขภาพ

  1. นอนให้พอ

ปัญหาโลกแตกคือ นอนอย่างไรให้ “พอ” สำหรับคำถามนี้ตอบตรงๆ ว่า ช่วงระยะเวลาในการนอนของแต่ละคนให้รู้สึกว่า “พอ” ไม่เท่ากัน เป็นเรื่องจริงที่คนบางคนนอนไปแค่ 4-5 ชั่วโมงก็รู้สึกนอนได้เต็มอิ่ม ไม่ง่วง สดชื่นกระปรี้กระเปร่า ในขณะที่อีกคนนอนครบ 6 ชั่วโมงตามที่กำหนดเอาไว้แล้วแต่ก็ยังรู้สึกง่วงเหงาหาวนานเหมือนคนนอนไม่พอ นั่นเพราะคุณภาพการนอนสำคัญ ถ้านอนหลับลึกได้ 5 ชั่วโมง ก็จะรู้สึกดีกว่าคนที่นอนกระสับกระส่ายไปมาทั้งคืนทั้งๆ ที่นอน 8 ชั่วโมง เป็นต้น

ดังนั้น สิ่งที่ควรทำคือ ลองนอนในช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมตามวัยดูก่อน ถ้านอนตามนั้นแล้วพบว่าตัวเองยังรู้สึกเหมือนคนนอนไม่พอ ไม่สดชื่น ลองปรับเวลาในการนอนให้ยาวขึ้น หรือในบางกรณีอาจลดเวลาในการนอนลง ตื่นเร็วกว่าเดิม จนได้เวลาที่คิดว่าเหมาะสมกับตัวเองให้มากที่สุด

แต่โดยทั่วไปแล้ว ระยะเวลาในการนอนที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัยที่แพทย์แนะนำ จะมีดังนี้

– แรกเกิด ต้องการการนอนหลับ 20 ชั่วโมง ขึ้นไป

– ขวบปีแรก ต้องการนอนหลับ 12 ชั่วโมง ขึ้นไป

– เด็กวัยประถม 9-11 ชั่วโมง

– เด็กวัยรุ่น 10 ชั่วโมง

– เด็กมหาวิทยาลัย 7-9 ชั่วโมง

– ผู้ใหญ่ตอนต้น 7-9 ชั่วโมง

– ผู้ใหญ่ตอนกลาง ถึงตอนปลาย 7-8 ชั่วโมง

หมายเหตุ การนอนนานเกินไป ก็ไม่ส่งผลดีต่อร่างกายเช่นกัน

  1. หลับให้ลึก

มาถึงหัวข้อนี้ว่าหลับอย่างไรให้ลึก นอนหลับอย่างไรให้เรียกได้ว่า “หลับสนิทตลอดคืน” เป็นเรื่องง่ายสำหรับบางคน แต่ก็เป็นเรื่องยากมากๆ สำหรับใครหลายคนเช่นกัน และปัญหานี้พบได้ทั้งในวัยเรียน วัยทำงาน และวัยชรา ส่งผลให้นอนหลับตื่นมาไม่สดชื่นกระปรี้กระเปร่าเพราะเข้านอนเร็วไปก็เท่านั้น

การนอนหลับให้ลึก มีตั้งแต่การปรับพฤติกรรมของตัวเองอย่างง่าย ที่ทำได้เอง เช่น

  • ตื่นให้เร็วกว่าเดิม เพื่อที่ตอนกลางคืนจะง่วง
  • ออกกำลังกาย เมื่อร่างกายเหนื่อยๆ เพลียๆ ก็จะนอนหลับได้ง่ายขึ้น
  • ปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะกับการนอนให้มากที่สุด เช่น หรี่ไฟในห้องนอนลง ปรับอากาศในห้องนอนให้เย็นสบาย ไม่หนาวไม่ร้อนจนเกินไป ใช้น้ำมันหอมกลิ่นที่ช่วยให้ผ่อนคลาย ฯลฯ
  • งดดื่มกาแฟก่อนนอนอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
  • ดื่มนม หรือชาคาโมมายล์อุ่นๆ ก่อนนอนสัก 1 แก้ว
  • ไม่ควรดื่มน้ำเปล่ามากเกินไปก่อนเข้านอน
  • งดอาหารมื้อหนักก่อนนอนอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมง
  • งดกิจกรรมที่ทำให้จิตใจได้รับการกระตุ้นก่อนนอน เช่น ดูหนัง อ่านหนังสือ พูดคุย เรื่องที่เครียด กระตุ้นจิตใจให้ตื่นเต้น ลุ้น และเคร่งเครียด
  • เปลี่ยนมาเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้สมองและจิตใจผ่อนคลาย เช่น เพลงบรรเลงเบาๆ ช้าๆ หนังสือผ่อนคลายสมอง นั่งสมาธิ ฯลฯ
  • งดการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท (สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ ฯลฯ) ก่อนเข้านอนอย่างน้อย 30 นาที – 1 ชั่วโมง
  1. ปรับให้ชิน

การเข้านอน และตื่นนอนในเวลาแตกต่างกันไปในทุกๆ วัน ทำให้ร่างกายไม่คุ้นชิน และส่งผลให้รู้สึกนอนไม่เพียงพอ ไม่สดชื่น ถึงแม้ว่าจะนอนนานเท่าเดิม หมายความว่า แม้ว่าจะนอนตี 3 ตื่น 10 โมงเช้า นับชั่วโมงดูแล้วได้ 7 ชั่วโมง แต่อาจไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าเราได้นอนอย่างเต็มอิ่มเหมือนกับการเข้านอน และตื่นนอนในเวลาปกติ ดังนั้นควรเข้านอน-ตื่นนอนเวลาเดียวกันในทุกๆ วันให้ร่างกายเคยชิน และควรเข้านอนช่วง 22.00 น. – เที่ยงคืน ตื่นก่อน 8 โมงเช้า เพื่อให้สัมพันธ์กับพระอาทิตย์ ไม่ว่าจะเป็นวันไปเรียน/ไปทำงาน หรือวันหยุด

ทั้งนี้ หากลองพยายามทำตามดูแล้ว อาการนอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิทยังไม่ดีขึ้น หรือฝันร้าย สะดุ้งตื่นกลางดึกบ่อยๆ ควรพบแพทย์เพื่อทำการรักษาด้วยการบำบัดหรือใช้ยา

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


แกรมม่าน่ารู้: การใช้ Present Perfect

วันนี้เรามาต่อกันในเรื่องของการใช้ tense อย่าง present perfect ที่หลายๆ คนมักจะยังคงสับสนอยู่ วันนี้เรามาดูกันค่ะ ว่า tense นี้มันมีวิธีใช้ยังไง


โครงสร้างของ Present perfect:
Have/ Has + Past Participle (Verb ช่องที่ 3)

1) Duration from the Past until Now:
ใช้บอกเหตุการณ์ในอดีตที่เกิดต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
ตัวอย่างประโยค:

I have been a teacher for five years.
= ฉันเป็นครูมาแล้ว 5 ปี
I have had a headache for 2 hours.
= ฉันปวดหัวมา 2 ชั่วโมงแล้ว

2) Event in the Past at an Unspecified Time:
ใช้บอกเหตุการณ์ในอดีต ณ เวลาหนึ่งที่ไม่ได้ระบุชัด
ตัวอย่างประโยค:

We have been to Thailand.
= เราเคยไปที่ประเทศไทย
I have met someone famous.
= ฉันเคยเห็นใครบางคนที่มีชื่อเสียง

3) Repeated events in the Past until Now:
ใช้กล่าวซ้ำถึงเหตุการณ์ในอดีตถึงปัจจุบัน
ตัวอย่างประโยค:

They have had five cars in the past two years.
= พวกเขาเคยมีรถ 5 คันเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
We have had a lot of tests this year at school.
= เรามีสอบหลายครั้งที่โรงเรียนในปีนี้

4) Change over Time:
บอกถึงเวลานั้นเปลี่ยนแปลงไป
ตัวอย่างประโยค:

Our daughter has grown a lot lately.
= เดี๋ยวนี้ลูกสาวของเราโตขึ้นเยอะเลยนะ
Your English has improved so much since last year.
= ภาษาอังกฤษของคุณพัฒนาขึ้นมากตั้งแต่ปีที่แล้ว

5) Uncompleted action that is expected to happen:
ใช้บอกถึงการกระทำที่ยังไม่สำเร็จ หรือ ยังไม่เกิดขึ้น
ตัวอย่างประโยค:

She hasn’t finished the report yet.
= เธอยังทำรายงานไม่เสร็จ
They still haven’t arrived.
= พวกเขายังไม่มาถึง

ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th


อินเทลเปิดตัวโมบายล์โปรเซสเซอร์ Intel Core Mobile เจน 12 เร็วแรงที่สุด

อินเทลเปิดตัวโมบายล์โปรเซสเซอร์ Intel Core Mobile เจน 12 เร็วแรงที่สุด

อินเทล เปิดตัวโปรเซสเซอร์ Intel Core Mobile เจนเนอเรชั่น 12 ใหม่ล่าสุด ทั้งหมด 28 ตัว ร่วมด้วยโปรเซสเซอร์เดสก์ท็อป 22 ตัว เสริมพลังขับเคลื่อนทุกการใช้งาน ทั้งการเล่นเกม แล็บท็อปและเดสก์ท็อปพีซีสำหรับสายคอนเทนต์ ระบบพร้อมใช้งานในองค์กร ไปจนถึงแอปพลิเคชัน IoT ต่างๆ

ในงาน CES 2022 หรือ Consumer Electronics Show 2022 อินเทลได้ประกาศเปิดตัวโปรเซสเซอร์โมบายล์ที่เร็วที่สุดในโลก โดยนำสถาปัตยกรรมไฮบริดที่มีประสิทธิภาพสูงมาสู่แพลตฟอร์มโมบายล์เป็นครั้งแรกด้วยโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 12 ใหม่ล่าสุดที่เร็วเร็วแรงกว่าโปรเซสเซอร์โมบายล์รุ่นก่อนหน้าสูงสุดถึง 40 เปอร์เซนต์ โดยอินเทลได้นำเสนอโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 12 รุ่นใหม่ จำนวน 28 ตัว ที่มอบฟีเจอร์ทรงประสิทธิภาพมากมายในการสร้างแล็ปท็อปเพื่อให้ผู้คนสามารถเปิดใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลาเมื่อพวกเขาต้องการและตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้อย่างเต็มที่

อินเทลเปิดตัวโมบายล์โปรเซสเซอร์ Intel Core Mobile เจน 12 เร็วแรงที่สุด

ด้วยการเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์โปรเซสเซอร์เดสก์ท็อป Intel Core เจนเนอเรชั่น 12 อย่างเต็มรูปแบบ ตระกูลโปรเซสเซอร์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 12 ยังถือเป็นตัวแทนของไลน์อัพผลิตภัณฑ์ล่าสุดที่สามารถปรับขนาดได้มากที่สุดของอินเทล โดยเป็นการขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์การออกแบบสำหรับทั้งผู้บริโภค องค์กร อินเทอร์เน็ตออฟติงส์ (IoT) และแอปพลิเคชันอื่นๆ

นาย Gregory Bryant รองประธานกรรมการบริหาร และผู้จัดการทั่วไป ของ Intel Client Computing Group กล่าวว่า “สถาปัตยกรรมไฮบริดอันทรงประสิทธิภาพใหม่ล่าสุดของอินเทล จะช่วยเร่งความเร็วของนวัตกรรมและอนาคตของการประมวลผลไปอีกระดับ และด้วยการเปิดตัวของโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 12 เรากำลังปลดล็อกประสบการณ์ใหม่ๆ และกำหนดมาตรฐานด้านประสิทธิภาพด้วยโปรเซสเซอร์สำหรับแล็ปท็อปที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา”

อินเทลนำเสนอโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 12

อินเทลยังคงเดินหน้านำเสนอประสิทธิภาพการทำงานของโปรเซสเซอร์โมบายล์ชั้นนำในอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องด้วยการเปิดตัวโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core H-series เจนเนอเรชั่น 12 รุ่นใหม่ล่าสุด นำโดย Intel Core i9-12900HK ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นแพลตฟอร์มเกมโมบายล์ที่ดีที่สุดในโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นโปรเซสเซอร์โมบายล์ที่เร็วแรงที่สุดเท่าที่เคยสร้างมาอีกด้วย

ด้วยการจับคู่ของสถาปัตยกรรมไฮบริดของอินเทลอย่าง Performance-cores (P-cores) และ Efficient-cores (E-cores) ร่วมกับการจัดลำดับของการทำงานเวิร์กโหลดและการกระจายงานผ่าน Intel Thread Director  ส่งผลให้ Intel Core i9-12900HK ใหม่จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของแอปพลิเคชั่นแบบซิงเกิลเธรดและมัลติเธรดให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น

ด้วยเทคโนโลยีประมวลผล Intel 7 โปรเซสเซอร์ Intel Core H-series เจนเนอเรชั่น 12 ใหม่ ประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้

•             ด้วยความถี่ที่สูงสุดถึง 5 GHz, 14 คอร์ (6 P-cores และ 8 E-cores) และ 20 เธรดทำให้ Intel Core i9-12900HK เจนเนอเรชั่น 12 เป็นโปรเซสเซอร์โมบายล์ที่เร็วที่สุด พร้อมมอบประสิทธิภาพความเป็นผู้นำที่เหนือกว่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าของอินเทลและของคู่แข่ง

•             ประสิทธิภาพการใช้งานยังครอบคลุมไปถึงประสบการณ์การเล่นเกมและเครื่องมือสร้างคอนเทนต์แบบเหนือชั้น โดย Intel Core H-series เจนเนอเรชั่น 12 ใหม่ ถือเป็นแพลตฟอร์มเกมโมบายล์ที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่เร็วขึ้นถึง 28 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับผู้นำเกมโมบายล์ก่อนหน้าในตลาด นั่นคือ Intel Core i9-11980HK โดย Intel Core H-series เจนเนอเรชั่น 12 สามารถมอบผลลัพธ์ได้มากกว่าแค่การใช้งานทั่วไปสำหรับผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ เช่น ผู้ใช้อาจสังเกตถึงประสิทธิภาพการทำงานที่สูงขึ้นถึง 43 เปอร์เซ็นต์ ในการเรนเดอร์ 3 มิติ เมื่อเทียบกับเจเนอเรชั่นก่อนหน้า

•             รองรับหน่วยความจำแบบครอบคลุมสำหรับโมดูล DDR5/LPDDR5 และ DDR4/LPDDR4 สูงสุดถึง 4800 MT/s ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมสำหรับโปรเซสเซอร์โมบายล์ H-series

•             การเชื่อมต่อที่เร็วขึ้นเกือบสามเท่า  บนช่องสัญญาณความเร็วที่สูงเป็นพิเศษโดยไม่มีการรบกวนจากสัญญาณ Wi-Fi แบบเดิม การใช้ Intel Wi-Fi 6E (Gig+) ในตัวทำให้ผู้ใช้งานมีอิสระในการทำงาน สามารถเรียนหนังสือจากที่บ้าน และผ่อนคลายด้วยการสตรีมเกมที่ราบรื่นด้วยคุณภาพการใช้งานที่ยอดเยี่ยม

•             รองรับ Thunderbolt 4 ที่มีความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุดถึง 40Gbps นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อจากพีซีไปยังจอภาพที่มีขนาด 4K และอุปกรณ์เสริมต่างๆ

โปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core H-series เจนเนอเรชั่น 12 ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นักเล่นเกม นักสร้างสรรค์คอนเทนต์ และวิศวกรมืออาชีพที่ต้องการยกระดับประสิทธิภาพของแล็ปท็อปให้เพิ่มขึ้นไปอีกขั้น โปรเซสเซอร์โมบายล์รุ่นใหม่ล่าสุดนี้มอบประสิทธิภาพการทำงานระดับเดสก์ท็อปแม้ในขณะเดินทาง โดยจะมีระบบไฟฟ้าพร้อมใช้งานตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป

ตระกูลโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 12 ที่ขยายครอบคลุมทุกการใช้งาน ยังรวมถึงโปรเซสเซอร์โมบายล์ U-series และ P-series ใหม่ โดยโปรเซสเซอร์ Intel Core P-series มาพร้อมกับจำนวนคอร์สูงสุด 14 คอร์ และเธรดสูงสุด 20 เธรด รองรับกราฟิกแบบครบวงจร Intel Iris Xe และใช้พลังงานพื้นฐาน 28 วัตต์ โปรเซสเซอร์ P-series ได้รับการออกแบบมาสำหรับแล็ปท็อปประสิทธิภาพสูงที่มีความบางและเบา ในขณะที่โปรเซสเซอร์ U-series ใช้พลังงานพื้นฐาน 9-15 วัตต์ เหมาะสำหรับแล็ปท็อปที่บางและเบาที่มีการปรับแต่งฟอร์มแฟคเตอร์ (form factor) เรียบร้อยแล้ว โปรเซสเซอร์โมบายล์เหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่จำเป็นสำหรับแล็ปท็อปที่บางและเบาหลากหลายรุ่นโดยเฉพาะ รวมไปถึงฟอร์มแฟคเตอร์ล้ำสมัยที่บริษัทผู้รับจ้างผลิตและประกอบสินค้าหรือ OEM (Original Equipment Manufacturer) จะส่งมอบในปี 2565 นี้ เช่น แล็ปท็อปแบบพับได้ แล็ปท็อป 2-in-1 และแล็ปท็อปที่สามารถแยกหน้าจอและแป้นพิมพ์ออกจากกันได้ ฯลฯ

โปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core U-series และ P-series เจนเนอเรชั่น 12 เหล่านี้ ถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับปริมาณเวิร์กโหลดในเวลาเดียวกันได้พร้อมๆ กัน ช่วยเสริมประสิทธิภาพการผลิตของธุรกิจ และแม้กระทั่งการเล่นเกมด้วยประสิทธิภาพความคมชัดสูงแบบ Full HD โดยโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core U-series และ P-series จะวางจำหน่ายในไตรมาสแรกของปี 2565 ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์ดีไวซ์ที่ออกแบบมาสำหรับทั้งระบบปฏิบัติการ Windows และ Chrome

วันนี้ ตระกูลโปรเซสเซอร์เดสก์ท็อป Intel Core เจนเนอเรชั่น 12 ประกาศเปิดตัวโปรเซสเซอร์ใหม่อีก 22 ตัว ครอบคลุมตั้งแต่โปรเซสเซอร์ Intel Core i9 ไปจนถึง Pentium และ Celeron โปรเซสเซอร์เหล่านี้ (ขนาด 65 วัตต์และ 35 วัตต์) ส่งมอบพลังงานที่ปรับขนาดได้ตามลักษณะการใช้งาน และชูประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมสำหรับการเล่นเกม การสร้างสรรค์  คอนเทนต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอย่างเต็มที่ ยิ่งไปกว่านั้น อินเทลยังได้เปิดตัว Intel Laminar Coolers ใหม่ที่มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ขนาด 65 วัตต์ ตัวใหม่ด้วย

อินเทลเปิดตัวโมบายล์โปรเซสเซอร์ Intel Core Mobile เจน 12 เร็วแรงที่สุด

นอกจากนี้ อินเทลยังนำเสนอชิปเซ็ต Intel® H670, H610 และ B660 ใหม่ล่าสุดที่จะช่วยเสริมการทำงานของโปรเซสเซอร์สำหรับผู้บริโภคหลากหลายรุ่น ตัวเลือกชิปเซ็ตใหม่นี้จะส่งมอบศักยภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยมของแพลตฟอร์ม Z-series เช่น PCIe 4.0 lanes, Intel Wi-Fi 6E (Gig+) แบบผสานรวม และ Intel Volume Management Device (VMD) รวมถึงรองรับการทำงานของหน่วยความจำและการโอเวอร์คล็อก (overclock) ของโปรเซสเซอร์

การเปิดตัวโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 12 ในครั้งนี้ ยังรวมถึงการอัปเดตใหม่ล่าสุดของมาตรฐานแพลตฟอร์ม Intel Evo สำหรับแล็ปท็อปและฟอร์มแฟคเตอร์แบบพกพาตัวอื่นๆ ที่ผ่านการรับรองคุณสมบัติครั้งที่สามและคุณสมบัติที่บ่งชี้ประสบการณ์หลักของอินเทลในโครงการนวัตกรรม Project Athena ของอินเทล ด้วยการดีไซน์ออกแบบและพัฒนาร่วมกันกว่า 100 รุ่นที่ใช้งานโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 12  รวมถึงจอแสดงผลแบบพับได้แบบใหม่และโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core H-series, U-series และ P-series ที่นำมาใช้เป็นครั้งแรก ซึ่งคาดว่าแล็ปท็อปและฟอร์มแฟคเตอร์เหล่านี้จะเริ่มผ่านการตรวจสอบมาตรฐาน Intel Evo โดยส่วนใหญ่จะวางจำหน่ายในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565

นอกเหนือจากปัจจัยเรื่องประสิทธิภาพความรวดเร็วในการตอบสนอง อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่ตอบโจทย์โลกการใช้งานจริง การเปิดใช้งานได้ทันทีและการชาร์จไฟอย่างรวดเร็วแล้ว ยังมีชุดข้อกำหนดของระบบและการทดสอบเพิ่มเติมที่เรียกว่า “การทำงานร่วมกันอย่างชาญฉลาด” (intelligent collaboration) ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในเงื่อนไขการรับรองคุณสมบัติครั้งที่สาม คุณสมบัติการทำงานร่วมกันอย่างชาญฉลาดจะช่วยสร้างความมั่นใจถึงประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นแก่ผู้ใช้งาน เมื่อทำงานร่วมกันผ่านแอปการประชุมวิดีโอออนไลน์บนเครื่องพีซี ด้วยเทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวนที่ใช้ AI รวมถึง Intel Wi-Fi 6E (Gig+) แบบผสานรวม, Intel Connectivity Performance Suite, และเอฟเฟกต์การถ่ายภาพด้วยกล้องที่เร่งประสิทธิภาพด้วย AI 

เพื่อเป็นการขยายประสบการณ์ผ่านอุปกรณ์เสริม อินเทลได้ประกาศเปิดตัวโปรแกรม Engineered for Intel Evo และ Intel Evo vPro ในการสร้างประสบการณ์แบบครบวงจรผ่านการออกแบบทางวิศวกรรมร่วมกันและการทดสอบของอินเทลสำหรับ Thunderbolt และอุปกรณ์เสริม Bluetooth ต่างๆ

แพลตฟอร์ม Intel vPro ที่สร้างขึ้นเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจทุกรูปแบบ

ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปีในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ในอุตสาหกรรม อินเทลขอนำเสนอมาตรฐานแพลตฟอร์ม Intel vPro เวอร์ชันใหม่ เพื่อมอบแนวทางที่ปรับให้เหมาะกับธุรกิจโดยใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพระดับองค์กรของโปรเซสเซอร์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 12 สำหรับลูกค้าองค์กรธุรกิจโดยเฉพาะ

•             Intel vPro Enterprise คือแพลตฟอร์มที่มีคุณสมบัติครบถ้วน พร้อมการประมวลผลระดับองค์กร การรักษาความปลอดภัยระดับพรีเมียม ความสามารถในการจัดการที่ทันสมัย และความเสถียรด้านการจัดการสำหรับธุรกิจทุกขนาด ซึ่งในขณะนี้รองรับระบบปฏิบัติการ Chrome กับ Intel vPro Enterprise for Chrome เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

•             Intel vPro an Intel Evo Design รวบรวมประโยชน์ต่างๆ ของ Evo และ vPro ไว้ด้วยกันสำหรับผู้ใช้อุปกรณ์พกพาระดับมืออาชีพที่ต้องการประสบการณ์ที่เหนือชั้นไปอีกขั้น

•             Intel vPro Essentials ตอบสนองความต้องการด้านการประมวลผลพื้นฐานของธุรกิจขนาดเล็กด้วยคุณสมบัติและประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัยในตัว รวมถึงคุณสมบัติการจัดการพีซีขั้นพื้นฐาน

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


“ส้มเขียวหวาน” ประโยชน์ และข้อควรรู้ก่อนกิน

“ส้มเขียวหวาน” ประโยชน์ และข้อควรรู้ก่อนกิน

ส้มเขียวหวาน คือ ผลไม้รสเปรี้ยวที่ได้รับความนิยมเนื่องจากมีรสหวานมากกว่าส้มชนิดอื่น ทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามินซีและใยอาหาร มีวิตามินและแร่ธาตุอื่น ๆ ที่ดีต่อสุขภาพ เช่น วิตามินบี 1 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 ทองแดง โพแทสเซียม มีสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยบำรุงหัวใจ สมอง ผิว และดวงตา ช่วยควบคุมน้ำหนัก และอาจช่วยลดความเสี่ยงเกิดมะเร็งได้อีกด้วย

คุณค่าทางโภชนาการของส้มเขียวหวาน

ส้มเขียวหวานขนาดกลาง น้ำหนัก 88 กรัม ให้พลังงาน 47 กิโลแคลอรี่ และมีสารอาหารและแร่ธาตุอื่น ๆ ดังตัวอย่างต่อไปนี้

  • คาร์โบไฮเดรต 12 กรัม
  • น้ำตาล 9.3 กรัม
  • ไฟเบอร์ 1.6 กรัม
  • โปรตีน 0.7 กรัม
  • โพแทสเซียม 166 มิลลิกรัม
  • วิตามินซี 26.7 มิลลิกรัม
  • วิตามินเอ 34 ไมโครกรัม

นอกจากนี้ ส้มเขียวหวานยังมีวิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ อีกมากมาย เช่น วิตามินบี 1 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 ทองแดง สังกะสี เหล็ก รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระประเภทฟลาโวนอยด์ เช่น โนบิเลติน (Nobiletin) ที่พบมากในเปลือก ซึ่งอาจช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอล กลูโคส และอินซูลินในเลือด ป้องกันการเกิดไขมันสะสม และลดความเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นต้น

ข้อควรระวังในการกินส้มเขียวหวาน

ผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีอาจไม่จำเป็นต้องจำกัดปริมาณในการรับประทานส้มเขียวหวาน แต่ปริมาณที่แนะนำต่อวัน คือ 100 กรัม/หนึ่งหน่วยบริโภค หรือประมาณวันละ 2-3 ผล แม้ส้มเขียวหวานจะเป็นแหล่งไฟเบอร์และวิตามินซีที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยป้องกันการดูดซึมน้ำตาลในร่างกายได้ดี แต่ก็ไม่ควรรับประทานมากเกินไปเพราะอาจทำให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นได้เช่นกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 06/01/2565

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a28,450.0028,550.00
ทองรูปพรรณ 96.5%1,843.0027,939.8829,050.00
ทองรูปพรรณ 90%1,658.7025,145.89n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,474.4022,351.90n/a
ทองรูปพรรณ 50%829.0012,567.64n/a
ทองรูปพรรณ 40%645.009,778.20n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%1,910.0028,955.60n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 06/01/2565



ปตท.

บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9531.7531.7532.0531.9531.8531.7531.9531.8531.9531.75
แก๊สโซฮอล์ 9131.4831.4831.7831.6831.5831.4831.6831.5831.6831.48
แก๊สโซฮอล์ E2030.2430.2430.5430.4430.3430.4430.3430.4430.24
แก๊สโซฮอล์ E8524.1424.1424.14
เบนซิน 9539.1639.7139.8639.7639.16
ดีเซล B729.0429.0429.9429.3429.7429.0429.3429.1429.3429.04
ดีเซล29.0429.0429.9429.3429.7429.0429.3429.1429.3429.04
ดีเซล B2029.0429.0429.9429.7429.3429.1429.04
ดีเซลพรีเมี่ยม35.0635.0636.3935.9636.3935.06
แก๊ส NGV15.5915.5915.59

About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า