‘รังสิต’ทำเลทองแคมปัสคอนโดอสังหาแห่ผุดโครงการชิงดีมานด์ซื้อปล่อยเช่า
พชร ประพันธ์วัฒนะ กรรมการผู้จัดการอาวุโส กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คอนโดมิเนียม บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) เผยว่าเพื่อสานต่อความสำเร็จจากแบรนด์เคฟ (KAVE) ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่และนักลงทุน บริษัทจึงเปิดโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์“เควาลอน” (KAVALON) แคมปัสคอนโดติดรั้วมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ย่านรังสิต มูลค่า 4,500 ล้านบาท ใต้แนวคิด “The Journey is Yours” อาณาจักรใหม่ที่ทุกจินตนาการ มีได้ไม่รู้จบ เพื่อตอบสนองทุกมิติของการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่
โดยยังคงยึดทำเลใกล้มหาวิทยาลัยม.กรุงเทพ รังสิต ซึ่งหากมองในแง่การลงทุน ถือเป็น”ทำเลทอง” เพราะเป็นทำเลที่มีดีมานด์เด่นชัด
จากประสบการณ์พบว่าคอนโดแบรนด์เคฟสามารถสร้างอัตราผลตอบแทนการปล่อยเช่า (Yield) 8 – 10 % ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่ดี และห้องที่ปล่อยเช่าไม่เคยว่าง เพราะมีความต้องการห้องพักจากทั้งนักศึกษา และบุคลากรที่ทำงานในย่านนี้อยู่ตลอดเวลา จึงมีความคุ้มค่าทั้งกับการอยู่อาศัยเอง หรือการลงทุน
สำหรับโครงการเควาลอน เป็นแคมปัสคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์สูง 8 ชั้น แบ่งเป็นอาคารที่พักอาศัย จำนวน 9 อาคาร อาคารจอดรถ 1 อาคาร บนพื้นที่ประมาณ 20 ไร่ ห้องชุดพักอาศัยจำนวน 2,192 ยูนิต และร้านค้า 3 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 4,500 ล้านบาท ถือเป็นอีกหนึ่งในโครงการบิ๊กโปรเจกต์ของแอสเซทไวส์ ทำเลติดถนนพหลโยธิน-รังสิต อยู่ติดรั้ว ม. กรุงเทพ รังสิต ห่างเพียง 100 เมตรเท่านั้น
ซึ่งเป็นทำเลศักยภาพที่รับการขยายตัวจากกรุงเทพฯ สามารถเดินทางเชื่อมต่อใจกลางเมือง ได้สะดวกสบายหลากหลายเส้นทาง ใกล้ทางด่วนอุดรรัถยา และดอนเมืองโทลเวย์ อีกทั้งยังใกล้รถไฟฟ้า3สายทำให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายยิ่งขึ้น และรายล้อมด้วยแหล่งอำนวยความสะดวก ทั้งหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ บริษัทเอกชนต่าง ๆ สถานศึกษา นิคมอุตสาหกรรม และห้างสรรพสินค้า
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
จาก สามย่านมิตร ทาวน์ สู่ วัน แบงค็อก มิกซ์ยูส 1.2แสนล. ดันพระราม4 ซูเปอร์CBD
จาก สามย่านมิตร ทาวน์ สู่ วัน แบงค็อก 1.2แสนล้าน ดัน พระราม4 ซูเปอร์CBD อาณาจักรมิกซ์ยูส ของตระกูลสิริวัฒนภักดี การเปลี่ยนแปลงสู่เมืองระดับโลก
“ถนนพระราม4” ถูกพลิกโฉมจากย่านการค้าเก่าแก่เป็นศูนย์กลางธุรกิจประเทศจุดหมายปลายทางระดับโลก รายล้อมไปด้วย โครงการมิกซ์ยูส ขนาดใหญ่ แม็กเน็ตดึงดูดคนไทยและต่างชาติเข้ามาใช้ชีวิต
ที่ “ตระกูลสิริวัฒนภักดี” จุดประกายแนวคิดเป็นส่วนหนึ่งในเฟืองจักรกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศตามนโยบายรัฐบาล และให้ความสำคัญสร้างสรรค์เศรษฐกิจสีเขียวบนถนนสายประวัติศาสตร์
เริ่มจาก “สามย่านมิตรทาวน์” โครงการมิกซ์ยูสแห่งแรก ของ นายปณต สิริวัฒนภักดี ทายาทเจ้าสัวเจริญ เนื้อที่14ไร่มีพื้นที่ใช้สอย 222,000 ตารางเมตร มูลค่า9,000ล้านบาท บนที่ดินสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ทำเลศักยภาพหัวมุมถนนพระราม4ตัดถนนพญาไท แหล่งรวมมหามิตรแห่งใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Urban Life Library” คลังแห่งอาหารและการเรียนรู้หลังเปิดให้บริการมา5ปี
นายธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Country CEO) บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สะท้อนความสำเร็จ สามย่านมิตรทาวน์
นับเป็นโครงการนำร่องของโปรเจ็กต์มิกซ์ยูสบนถนนพระราม 4 ภายใต้วิสัยทัศน์ของนายปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Group CEO) กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด
ที่นำประสบการณ์ทั้งการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศและต่างประเทศมาพลิกโฉมทำเลดังกล่าวให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ
สะท้อนภาพตลอด 5 ปี “สามย่านมิตรทาวน์” สร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนลงสู่ชุมชน รอบด้าน โดยมีผู้คนเข้าพื้นที่ไปแล้วกว่า 120 ล้านคน
มียอดผู้เข้าใช้บริการต่อวันสูงถึง 80,000 คน และได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้เช่าโดยมีอัตราการเช่าในส่วนของพื้นที่รีเทลที่สูงถึง 98% อาคารสำนักงานมีอัตราการเช่าถึง 97% ซึ่งสูงกว่าอัตราการเช่าเฉลี่ยในกลุ่มอาคารสำนักงานเกรดเอถึง 14.8%
ส่วนที่พักอาศัย โรงแรมทริปเปิ้ล วาย มีอัตราการเข้าพักมากกว่า 90% และคอนโดมิเนียมสิทธิการเช่าระยะยาว (Leasehold) ทริปเปิ้ล วาย เรสซิเด้นซ์ สามารถปิดการขาย 100% ทั้งโครงการตั้งแต่เมื่อปี 2565
ขณะปัจจุบันสามารถทำราคารีเซลได้ตารางเมตรละ 160,000 บาทเพิ่มขึ้นกว่า 20% จากราคาเริ่มต้น นอกจากนี้ในส่วนพื้นที่จัดแสดงงานสามย่านมิตรทาวน์ ฮอลล์จัดอีเวนต์และงานประชุมต่าง ๆไปแล้วกว่า 500 งาน
ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรมทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน และประเมินว่า สามย่านมิตรทาวน์ หนึ่งในโครงการมิกซ์ยูสของตระกูลสิริวัฒนภักดี
จุดชนวนความสำเร็จและขยายอาณาจักรใหญ่บนถนนพระราม4 สร้างความเจริญอย่างต่อเนื่องและกระชับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า โครงข่ายถนน-ทางพิเศษ(ทางด่วน) เชื่อมในทุกโครงการ หรือจากทุกทำเลของกรุงเทพฯเข้าสู่ถนนพระราม4ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
ไม่ว่าจะเป็นเดอะปาร์ค (The PARQ) มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท โครงการมิกซ์ยูสอีกแห่งที่เปิดใช้พื้นที่ไปก่อนหน้านี้ บนพื้นที่ขนาด 24 ไร่ พื้นที่ใช้สอย 130,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ บนถนนพระราม 4 ตัดกับถนนรัชดาภิเษก และ รวมถึงศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์โฉมใหม่ ที่รองรับงานอีเวนต์ต่าง ๆอย่างไม่ขาดสาย
ล่าสุดอภิมหาโปรเจ็กต์ วันแบงค็อก (One Bangkok) มูลค่า1.2แสนล้านบาทพัฒนาโดย บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด
ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพหัวมุมถนนวิทยุตัดกับถนนพระราม4 ที่ดินสำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ จำนวน108 ไร่ พื้นที่ใช้สอยรวม 1.93ล้านตารางเมตร ซึ่งเป็นโครงการเรือธง ของกลุ่มเฟรเซอร์ ฯ เนรมิตเมืองใหม่ในใจกลางเมืองที่ใช้ “ใจสร้าง”มุ่งสู่โลกสีเขียว
ที่ผ่านมาได้เปิดใช้พื้นที่ อาคารสำนักงาน หมายเลข 4 และทางเชื่อมMRTลุมพินี เมื่อเดือนมีนาคม2567 (อย่างไม่เป็นทางการ) และเปิดเฟสแรกพื้นที่รีเทล Parade และ THE STOREYS ปลายเดือนตุลาคมนี้
อย่างไรก็ตามการพัฒนา ได้ให้ความสำคัญ เรื่อง “คน” คือหัวใจของการสร้างสรรค์ ที่เนรมิตให้ วัน แบงค็อก เป็นเมืองต้นแบบแห่งอนาคตของกรุงเทพฯ
ที่ได้แรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนาน ผ่านการผสมผสานทุกมิติอย่างลงตัว และหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ขับเคลื่อนด้วยแนวคิด “คนเป็นศูนย์กลาง” และมุ่งมั่นสู่ความยั่งยืน
สะท้อนให้เห็นถึงอนาคตที่รุ่งโรจน์ของกรุงเทพฯ เติมเต็มด้วยความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมพื้นที่กว่าครึ่งของ วัน แบงค็อก ได้ถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่สีเขียวและพื้นที่สาธารณะเปิดโล่ง ซึ่งเป็นการตอกยํ้าเรื่องความใส่ใจใน
สิ่งแวดล้อม โดยเป็นโครงการแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับรองมาตรฐาน LEED-Neighborhood Development ระดับ Platinum และมุ่งสู่การรับรองมาตรฐาน WELL ระดับ Platinum เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับทุกคน
ขณะเดียวกัน ยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างเหนือระดับ ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะขั้นสูงครอบคลุมทุกมิติ สร้างความมั่นใจในด้านความปลอดภัยไซเบอร์ พร้อมกับนวัตกรรมสมาร์ท ซิตี้ ที่ช่วยจัดการที่จอดรถและการจราจร รวมไปถึงสาธารณูปโภคครบครันแก่ผู้มาเยือนและผู้อาศัย
คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ทั้งโครงการในปี 2570 ซึ่งเป็นจิ๊กซอว์ตัวสำคัญเติมเต็มการพัฒนาบนถนนพระราม 4 ของ กลุ่มเฟรเซอร์ส ฯ และยกระดับเป็นซูเปอร์ซีบีดีที่น่าจับตาหากโครงการเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ
ขณะราคาที่ดินรัศมีโดยรอบขยับไปที่กว่า 2 ล้านบาทต่อตารางวา และมีโครงการสูงอาคารขนาดใหญ่พิเศษทั้งที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงานของค่ายอื่นๆได้อานิสงส์ตามไปด้วย
นี่คือ อาณาจักรมิกซ์ยูส บนถนนพระราม4 ของตระกูลสิริวัฒนภักดีที่ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสู่เมืองสีเขียวระดับโลกได้อย่างแท้จริง !!!
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้7ต.ค. “อ่อนค่าลงหนัก” ที่ระดับ 33.33 บาทต่อดอลลาร์
ค่าเงินบาทอาจอ่อนค่าค่อยเป็นค่อยไป หลังโมเมนตัมการแข็งค่าของเงินดอลลาร์เริ่มชะลอลง แม้แรงขายสินทรัพย์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติกดดันเงินบาทแต่ยังได้แรงหนุนจากราคาทองคำที่ปรับขึ้น
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้7ต.ค.2567 ที่ระดับ 33.33 บาทต่อดอลลาร์“อ่อนค่าลงหนัก”จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 33.04 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทยเปิดเผยว่า นับตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา เงินบาทอ่อนค่าลงต่อเนื่องและมีจังหวะอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว จนเข้าใกล้โซนแนวต้าน 33.50 บาทต่อดอลลาร์ (แกว่งตัวในกรอบ 33.02-33.46 บาทต่อดอลลาร์) หลังทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ต่างปรับตัวขึ้น จากรายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด
ทั้งยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) ที่เพิ่มขึ้นกว่า 2.54 แสนตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานก็ลดลงสู่ระดับ 4.1% ขณะที่อัตราการเติบโตของค่าจ้าง (Average Hourly Earnings) ก็เร่งขึ้น +4.0%y/y ทำให้ผู้เล่นในตลาดต่าง “เลิกคาดหวัง” การเร่งลดดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้และต้นปีหน้า
พร้อมมองเฟดอาจทยอยลดดอกเบี้ยใกล้เคียงกับ Dot Plot ล่าสุด อย่างไรก็ดี เงินบาทไม่ได้อ่อนค่าลงต่อเนื่อง จนทะลุโซนแนวต้านสำคัญ 33.50 บาทต่อดอลลาร์ หลังราคาทองคำยังพอได้แรงหนุนอยู่บ้าง จากความกังวลสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง อีกทั้งผู้เล่นในตลาดบางส่วนก็ทยอยขายทำกำไรการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์
สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นตามการปรับลดความคาดหวังการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟด จากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด
สำหรับสัปดาห์นี้ เราประเมินว่า ควรติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง รวมถึง ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางหลัก (เฟดและECB) พร้อมระวังความผันผวนในช่วงตลาดรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของไทยและสหรัฐฯ
มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก
▪ ฝั่งสหรัฐฯ – ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อสหรัฐฯ ผ่านรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI และดัชนีราคาผู้ผลิต PPI เดือนกันยายน รวมถึงรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน (U of Michigan Consumer Sentiment) เดือนตุลาคม ซึ่งจะมีการรายงานคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ (Inflation Expectations) ระยะสั้นและระยะยาวด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดและรายงานการประชุมเฟดล่าสุด (FOMC Meeting Minutes) เพื่อประเมินแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด โดยล่าสุด ผู้เล่นในตลาดได้เลิกคาดหวังการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟด และเริ่มกลับมามีมุมมองต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดใกล้เคียงกับคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรือ Dot Plot ล่าสุดของเฟดมากขึ้น
▪ฝั่งยุโรป – ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ผ่านรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ อาทิ ยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนสิงหาคม ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (Sentix Investor Confidence) เดือนตุลาคม รวมถึงถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ ECB และรายงานการประชุม ECB ล่าสุด
▪ฝั่งเอเชีย – ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานอัตราการเติบโตค่าจ้างของญี่ปุ่น เพื่อประเมินโอกาสที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะสามารถเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ในส่วนของนโยบายการเงินนั้น ตลาดประเมินว่า ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) อาจลดดอกเบี้ย -50bps สู่ระดับ 4.75% หลังเศรษฐกิจชะลอตัวลงมากขึ้น
ส่วนอัตราเงินเฟ้อก็ทยอยเข้าสู่เป้าหมายของ RBNZ ส่วนธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) ก็อาจลดดอกเบี้ย -25bps สู่ระดับ 3.25% หลัง BOK ลดความกังวลต่อปัญหาราคาอสังหาฯ และแนวโน้มเงินเฟ้อ ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจเกาหลีใต้ก็มีแนวโน้มชะลอลง โดยเฉพาะในส่วนของการบริโภคภาคเอกชนและการลงทุน
อนึ่ง ตลาดมองว่า ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) อาจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 6.50% ทว่า RBI ก็อาจเริ่มส่งสัญญาณพร้อมใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นได้ หลังเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัวลงมากขึ้น ส่วนอัตราเงินเฟ้อก็ชะลอลงต่อเนื่องจนล่าสุดอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายของ RBI
▪ฝั่งไทย – ควรรอติดตามรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนกันยายน ส่วนอัตราเงินเฟ้อ CPI เดือนกันยายนนั้น เราประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อมีโอกาสเร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าสู่ระดับ 0.62% (-0.09%m/m) ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI อาจยังคงอยู่แถวระดับ 0.7%
และโดยรวมอัตราเงินเฟ้อก็มีแนวโน้มกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมาย 1%-3% ของธนาคารแห่งประเทศไทยได้ในช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นไป ทั้งนี้ ควรจับตาฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ หลังในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติได้ทยอยขายสินทรัพย์ไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแรงขายสินทรัพย์ไทยดังกล่าวก็มีส่วนกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลง
สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า การอ่อนค่าของเงินบาทอาจค่อยเป็นค่อยไป หลังโมเมนตัมการแข็งค่าของเงินดอลลาร์เริ่มชะลอลง แต่แรงขายสินทรัพย์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติอาจยังคงกดดันเงินบาทอยู่
อย่างไรก็ดี เงินบาทอาจยังได้แรงหนุน ตราบใดที่ราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นได้ ซึ่งต้องติดตามพัฒนาการของสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางและการปรับมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด
ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า โมเมนตัมการแข็งค่าของเงินดอลลาร์อาจชะลอลงบ้าง หลังผู้เล่นในตลาดได้เลิกคาดหวังการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟด ทว่าเงินดอลลาร์อาจพอได้แรงหนุนในช่วงตลาดกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง แต่หากอัตราเงินเฟ้อชะลอลงกว่าคาด ก็อาจกดดันเงินดอลลาร์ได้
เราคงคำแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรเลือกใช้เครื่องมือในการปิดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น ท่ามกลางความผันผวนของเงินบาท รวมถึงสกุลเงินอื่นๆ ที่สูงขึ้นกว่าช่วงอดีตที่ผ่านมาพอสมควร โดยผู้เล่นในตลาดอาจเลือกใช้เครื่องมือเพิ่มเติม อาทิ Options หรือ Local Currency ควบคู่ไปกับการปิดความเสี่ยงผ่านการทำสัญญา Forward
มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 32.85-33.65 บาท/ดอลลาร์
ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.25-33.45 บาท/ดอลลาร์
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
รอย “พระจันทร์เสี้ยว” สีขาวบนเล็บนิ้วมือ บอกสุขภาพเราได้จริงหรือ?
ในอินเตอร์เน็ตมีการแชร์เนื้อหาที่พูดถึง รอย “พระจันทร์เสี้ยว” สีขาวบนเล็บนิ้วมือ ที่อยู่บริเวณโคนเล็บ ว่าสามารถบอกลักษณะสุขภาพของเราได้
รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ ให้ข้อมูลเอาไว้ในเฟซบุ๊กเพจ อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ ถึงเรื่องนี้เอาไว้ ดังนี้
รอย “พระจันทร์เสี้ยว” บนเล็บนิ้วมือ บอกสุขภาพเราได้จริงหรือ?
รอยสีขาวลักษณะคล้ายพระจันทร์เสี้ยวที่เกิดขึ้นบริเวณโคนเล็บ เป็นเพียงบริเวณเล็บที่กำลังงอกเท่านั้น
“รอยขาวๆ ที่โคนเล็บนี้ จริงๆ เรียกว่า lanula ลานูล่า หรือฐานเล็บ nail bed เป็นบริเวณที่มีการสร้างเล็บ และสามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า บริเวณนี้เป็นตำแหน่งที่ฐานของเล็บยึดกับแผ่นเล็บอย่างหลวมๆ สามารถแยกออกจากกันได้ไม่ยาก (ถ้าเล็บหลุดออก)
ดังนั้น จริงๆ แล้ว ถ้าบริเวณนี้มีขนาดใหญ่ ก็แสดงว่าเล็บมีสุขภาพดี กำลังเจริญดี
ส่วนลักษณะของเล็บ ที่ใช้บอกอาการทางสุขภาพ จะเป็นเรื่องของ ‘ดอกเล็บ’ ที่เป็นจุดขาวบนเล็บต่างหาก ซึ่งแสดงถึงการได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน รวมไปถึงลักษณะรูปร่างที่บิดเบี้ยวผิดปกติของเล็บ ก็สามารถแสดงอาการของโรคต่างๆได้”
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ส่องการอัปเดตครั้งใหญ่ของ Windows 11 2024 Update
Microsoft เริ่มปล่อยอัปเดต Windows 11 24H2 หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Windows 11 2024 update” ซึ่งมาพร้อมกับการปรับปรุงด้านความปลอดภัย ตัวเลือกการเชื่อมต่อแบบใหม่ และความสามารถ AI ที่เพิ่มขึ้นสำหรับ PC ที่รองรับ Copilot+ แน่นอนว่าจะมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากมายเพราะมีการเปลี่ยนแปลงเยอะมาก เช่น
อะไรใหม่ใน Windows 11 Update 2024
- Quick Settings แบบเลื่อนได้: ปรับแต่ง Quick Settings ได้ง่ายขึ้นด้วยรูปแบบรายการที่เลื่อนได้ และปุ่ม Refresh สำหรับสแกนหา Wi-Fi
- รองรับ Wi-Fi 7: การเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่รวดเร็วขึ้น (สำหรับ PC ที่มีฮาร์ดแวร์รองรับ)
- รองรับ Bluetooth LE Audio: เชื่อมต่อกับเครื่องช่วยฟังที่รองรับ Bluetooth LE Audio ได้แล้ว
- Power Saver สำหรับ PC ทุกประเภท: ช่วยประหยัดพลังงาน แม้แต่ PC ที่ใช้ไฟบ้าน
- ความสามารถ AI สำหรับ Copilot+ PC:
- คำบรรยายอัตโนมัติ: สร้างคำบรรยายแบบเรียลไทม์สำหรับวิดีโอ พร้อมฟังก์ชั่นแปลภาษา
- Windows Studio Effects: ปรับแต่งภาพพื้นหลัง และเอฟเฟกต์ต่างๆ สำหรับเว็บแคม
- Voice Focus: ลดเสียงรบกวน และเสียงสะท้อน ขณะสนทนา
- Teleprompter พร้อม Eye Contact: ช่วยอ่านสคริปต์ พร้อมปรับสายตาให้ดูเป็นธรรมชาติ
- Windows Recall กลับมาแล้ว: บันทึก Snapshot ของระบบ พร้อมฟีเจอร์ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น
- Windows Search แบบ AI: ค้นหาไฟล์ด้วยคำอธิบาย เช่น “รูปถ่ายปาร์ตี้บาร์บีคิว”
- Super Resolution: เพิ่มความละเอียดของภาพถ่ายเก่า ได้สูงสุด 8 เท่า
- AI Tools ใน Paint: เพิ่ม และลบ วัตถุในภาพ ด้วย AI
- Click To Do: เข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยเมนู Click To Do
- พื้นหลัง HDR: ตั้งค่าภาพ HDR เป็นพื้นหลังเดสก์ท็อปได้แล้ว
- รองรับไฟล์ RAR และ 7z: File Explorer สามารถสร้าง และอ่านไฟล์ RAR และ 7z ได้แล้ว
- แถบความคืบหน้า สำหรับแอพ: แสดงความคืบหน้าของแอพ ด้วยแถบความคืบหน้าใต้ไอคอน
อัปเดต Windows 11 2024 รอบนี้ อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะความสามารถ AI และการปรับปรุงด้านการเชื่อมต่อ ที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งาน Windows 11 ให้ดียิ่งขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
แบดมินตันไทย เชือด ฝรั่งเศสจบอันดับ 9 ศึกทีมผสมเยาวชนโลก
การแข่งขันแบดมินตันรายการ จูเนียร์ มิกซ์ ทีม แชมเปี้ยนชิพ 2024 หรือศึกเยาวชนชิงแชมป์โลก ที่เมืองหนางชาง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันเสาร์ที่ 5 ต.ค.67 ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในประเภททีมผสม รอบจัดอันดับ 9-10 ระหว่างทีมไทย พบกับ ฝรั่งเศส
ในรายการนี้ ได้มีการแข่งขันเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันใหม่เพื่อให้นักแบดมินตันทุกคนในทีมนั้น ได้มีโอกาสลงสนามครบทุกคน โดยการแข่งขันมี 10 คู่ ประกอบด้วย ชายเดี่ยว ชายคู่ หญิงเดี่ยว หญิงคู่ คู่ผสม ประเภทละ 2 คู่ ทีมที่ได้คะแนนรวมทั้งหมดถึง 110 คะแนนจะเป็นฝ่ายชนะ
คู่แรก ประเภทหญิงเดี่ยว “พิ้งค์” พิชฌามลณ์ โอภาสนิพันธ์ ชนะ มาลยา ฮออาโร 11-3
คู่ที่สอง ประเภทหญิงคู่ ณภชนก อุตสานนท์ กับ พรรษอร พรรณเชษฐ์ ชนะ อากาเต้ คูเอวาส กับ คามิลล์ ป็อกนันเต้ 22-13
คู่ที่สาม ประเภทชายเดี่ยว พัชรกิตติ์ อภิรัชตะเศรษฐ์ ชนะ อาเธอร์ ทาทรานอฟ 33-19
คู่ที่สี่ ประเภทชายคู่ เอกณัฏฐ์ กิจกวินโรจน์ กับ แทนคุณ เศรษฐประเสริฐ ชนะ ธิโบลต์ การ์ดอน กับ อีวาน กูลิน 44-26
คู่ที่ห้า ประเภทคู่ผสม ปัณณวัฒน์ แจ่มทับทิม กับ ปัณณวีร์ พลเอี่ยม ชนะ ทอม ลาล็อต เทรสการ์ต กับ เอลซ่า จาค็อบ 55-41
คู่ที่หก ประเภทหญิงเดี่ยว “พิ้งค์” พิชฌามลณ์ โอภาสนิพันธ์ ชนะ มาลยา ฮออาโร 66-47
คู่ที่เจ็ด ประเภทหญิงคู่ กชพร ชัยชนะ กับ ปัณณวีร์ พลเอี่ยม ชนะ เอลซ่า จาค็อบ กับ คามิลล์ ป็อกนันเต้ 77-55
คู่ที่แปด ประเภทชายเดี่ยว พัชรกิตติ์ อภิรัชตะเศรษฐ์ ชนะ อาเธอร์ ทาทรานอฟ 88-58
คู่ที่เก้า ประเภทชายคู่ สิทธิศักดิ์ นาดี กับ “กัปตัน” ชยพัทธ์ พิบูลย์ ชนะ ธิโบลต์ การ์ดอน กับ ทอม ลาล็อต เทรสการ์ต 99-69
คู่ที่สิบ ประเภทคู่ผสม ปัณณวัฒน์ แจ่มทับทิม กับ ปัณณวีร์ พลเอี่ยม ชนะ ธิโบลต์ การ์ดอน กับ อากาเต้ คูเอวาส 110-86
สรุปผลการแข่งขัน ทีมไทย เอาชนะ ฝรั่งเศสไปได้ 110-86 ส่งผลให้ทีมแบดมินตันไทย จบในอันดับที่ 9 ในศึกทีมผสมเยาวชนโลกในปีนี้ไปครอง สำหรับในสัปดาห์หน้าจะเป็นการแข่งขันในประเภทบุคคลซึ่งจะแข่งขันในวันที่ 7-13 ต.ค.67 นี้
ขอบคุณข้อมูลจาก siamsport.co.th
แนะนำหนังสือภาษาอังกฤษ เข้าใจง่าย เรียนรู้ไว
มีใครที่ชื่นชอบการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษบ้าง? โดยปกติแล้วการอ่านหนังสือนั้นจะช่วยพัฒนาสมองและการเรียนรู้ของมนุษย์อยู่แล้ว ยิ่งหากใครที่ชอบอ่านหนังสือภาษาอังกฤษก็จะทำให้สามารถเรียนรู้ภาษาอังกฤษไวขึ้นได้จริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ที่มาจากการสืบค้นเพิ่มเติมเมื่อเจอคำศัพท์ที่ไม่เข้าใจ หรือการเรียนรู้จากความเคยชินที่เจอคำศัพท์นั้นบ่อย ๆ ก็ตาม
อ่านหนังสือภาษาอังกฤษช่วยได้จริงหรือ?
เชื่อว่าหลายคนอาจจะเกิดคำถามว่าการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นนวนิยาย หรือหนังสือประเภทต่าง ๆ ที่นอกเหนือจากหนังสือเรียน จะช่วยให้ผู้อ่านสามารถฝึกภาษาอังกฤษได้จริงหรือไม่?
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าการพัฒนาศักยภาพทางด้านภาษานั้นมีหลายรูปแบบ และการเรียนรู้ของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน บางคนอาจจะสามารถเรียนรู้ได้ดีจากการเรียน แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่สามารถเรียนรู้ได้ดีจากการดูภาพยนต์ ฟังเพลง หรืออ่านหนังสือภาษาอังกฤษ
แนะนำหนังสือภาษาอังกฤษ
สำหรับใครที่กำลังมองหาหนังสือที่จะช่วยฝึกภาษาอังกฤษที่นอกเหนือจากหนังสือเรียนโดยเฉพาะ วันนี้เราจะมาแนะนำหนังสือภาษาอังกฤษที่คนจำนวนมากเลือกอ่านเพื่อเป็นการฝึกภาษาอังกฤษ และยังมีความสนุกสนานอีกด้วย
Little Prince
นวนิยายคลาสสิกฝรั่งเศสที่ได้รับความนิยมทั้งในประเทศไทยและหลาย ๆ ประเทศ ถือเป็นนวนิยายที่มีการตีพิมพ์บ่อยครั้ง มีการเล่าเรื่องที่ค่อยเป็นค่อยไป เห็นภาพได้ชัดเจน โดยจะเหมาะสำหรับการใช้เป็นหนังสือเพื่อฝึกภาษาอย่างมาก เพราะเนื้อเรื่องมีความน่าติดตาม และมีการใช้ภาษาในระดับที่เข้าใจได้ง่าย
Peter Pan
หากพูดถึงเรื่องราวที่ได้รับความนิยมตลอดกาลก็คงหนีไม้พ้น Peter Pan เรื่องราวของเด็กหนุ่มที่เป็นเจ้าของฉายา “เด็กชายผู้ไม่มีวันโต” ที่ได้รับความนิยมทั้งหนังสือและภาพยนต์เลยทีเดียว ที่สำคัญ เรื่องนี้เป็นวรรณกรรมเยาวชน จึงมีการใช้ภาษาที่ง่ายกว่านวนิยายทั่วไป
Howl’s Moving Castle
เป็นหนังสือนิยายสำหรับเด็กแนวแฟนตาซี ที่มีการนำไปทำเป็นอนิเมชัน เป็นที่ชื่นชอบสำหรับสาวก Ghibli ซึ่งในส่วนของหนังสือนั้นมีคำศัพท์ที่ไม่ได้ยากจนเกินไป และใครที่อ่านจบแล้วอาจจะได้สำนวนหรือการใช้ภาษาแบบ British ติดตัวไว้ด้วยแน่นอน
Diary of a Wimpy Kid
เป็นเรื่องราวที่ถูกบันทึกไว้ในไดอารี่ของเด็กไม่เอาถ่านที่ชื่อว่า “Greg Heffley” และด้วยความที่เป็นไดอารี่ของเด็ก จึงมีการใช้คำศัพท์ที่ไม่ยาก เน้นเป็นคำศัพท์ที่บอกเล่าเรื่องราว และเหตุการณ์ที่เกิดในชีวิตประจำวันมากกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังจะเริ่มฝึกภาษาอังกฤษอย่างมาก
Harry Potter
เชื่อว่าแทบไม่มีใครที่ไม่รู้จัก ไม่ว่าจะเป็นภาพยนต์หรือหนังสือก็ตาม เพราะเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องแม้จะจบมาหลายปีแล้ว ส่วนในหนังสือนั้นก็มีคำศัพท์ที่ไม่ได้เป็นศัพท์เฉพาะมากนัก สามารถอ่านได้ แต่มีทริคเล็ก ๆ คือ หากว่าดูภาพยนต์มาแล้วอาจจะช่วยได้ในระดับหนึ่งเช่นเดียวกัน
Make Your Bed
แต่หากใครที่ต้องการหนังสือภาษาอังกฤษที่มีระดับคำศัพท์ที่ยากขึ้นมา แนะนำให้อ่านเล่มนี้เลย ซึ่งจะเป็นหนังสือแนวจิตวิทยาและการพัฒนาตัวเอง อาจจะมีความยากและรูปแบบประโยคที่ซับซ้อนมากขึ้นจากหนังสือที่แนะนำก่อนหน้า
ขอบคุณข้อมูลจาก engduothailand.com
เพราะสาเหตุใดควรทาน “แอปเปิ้ล” หั่นแล้วให้หมดภายใน 24 ชั่วโมง
แอปเปิ้ลหั่นแล้วมีแนวโน้มที่จะเน่าเสียเร็วกว่าแอปเปิ้ลทั้งผล เนื่องจากแอปเปิ้ลมีเอนไซม์ที่ทำให้ผลไม้สุกและเน่าเสีย ซึ่งเอนไซม์เหล่านี้จะทำงานเร็วขึ้นเมื่อผลไม้ถูกตัดหรือบด นอกจากนี้ แอปเปิ้ลหั่นแล้วยังมีพื้นที่ผิวสัมผัสมากขึ้น ซึ่งทำให้แบคทีเรียและเชื้อราเจริญเติบโตได้ง่ายขึ้น
หากรับประทานแอปเปิ้ลหั่นแล้วหลังจากผ่านไป 24 ชั่วโมง อาจมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการท้องเสียหรืออาหารเป็นพิษได้
ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับในการเก็บรักษาแอปเปิ้ลหั่นแล้วให้นานขึ้น
- เก็บแอปเปิ้ลหั่นไว้ในตู้เย็น
- ใส่แอปเปิ้ลหั่นไว้ในภาชนะที่ปิดสนิท
- โรยแอปเปิ้ลหั่นด้วยน้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชูเพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
อย่างไรก็ตาม แม้จะทำตามเคล็ดลับเหล่านี้แล้ว แอปเปิ้ลหั่นแล้วก็ยังควรรับประทานให้หมดภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อความปลอดภัย
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 07/10/2567
| ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
|---|---|---|---|
| ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 41,700.00 | 41,800.00 |
| ทองรูปพรรณ 96.5% | 2,701.00 | 40,947.16 | 42,300.00 |
| ทองรูปพรรณ 90% | 2,430.90 | 36,852.44 | n/a |
| ทองรูปพรรณ 80% | 2,160.80 | 32,757.73 | n/a |
| ทองรูปพรรณ 50% | 1,215.00 | 18,419.40 | n/a |
| ทองรูปพรรณ 40% | 945.00 | 14,326.20 | n/a |
| ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,799.00 | 42,432.84 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 07/10/2567
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ |  ไออาร์พีซี | พีที |  ซัสโก้ |  เพียว |  พรุ่งนี้ | |
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| แก๊สโซฮอล์ 95 | 35.25 | 35.25 | 35.55 | 35.25 | 35.25 | 35.25 | 35.25 | 35.25 | 35.25 | 35.25 |
| แก๊สโซฮอล์ 91 | 34.88 | 34.88 | 35.18 | 34.88 | 34.88 | 34.88 | 34.88 | 34.88 | 34.88 | 34.88 |
| แก๊สโซฮอล์ E20 | 33.14 | 33.14 | 33.44 | 33.14 | 33.14 | – | 33.14 | 33.14 | 33.14 | 33.14 |
| แก๊สโซฮอล์ E85 | 32.89 | 32.89 | – | – | – | – | – | – | – | 32.89 |
| แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม | 43.84 | 49.84 | 49.84 | 49.84 | – | – | – | – | – | 43.84 |
| เบนซิน 95 | 43.44 | – | – | – | 49.81 | – | 43.94 | 43.59 | – | 43.44 |
| ดีเซล | 32.94 | 32.94 | 33.24 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 |
| ดีเซลพรีเมี่ยม | 44.94 | 47.14 | 49.84 | 47.14 | 47.14 | – | – | – | – | 44.94 |
| แก๊ส NGV | 18.59 | 18.59 | – | – | – | – | – | – | – | 18.59 |
