สาระน่ารู้ประจำวันที่ 07 กุมภาพันธ์ 2565

บิ๊กอสังหาฯ ตุนที่ดินหมื่นล. สวนเศรษฐกิจฝืด – ราคาพุ่ง !

บิ๊กอสังหาฯ ตุนที่ดินหมื่นล. สวนเศรษฐกิจฝืด - ราคาพุ่ง !

ราคาแพงไม่หวั่น ! บิ๊กอสังหาฯ ลุยช้อปที่ดินใหม่ มูลค่ารวมหลายหมื่นล้าน รับเทรนด์ธุรกิจฟื้นตัว ทำเลรอบนอกเนื้อหอม หวังตุนรับดีมานด์แนวราบ ขณะคอลลิเออร์ส เผย แต่ละปีดีลทั่วประเทศ ทะลุ 1 ล้านล้าน จับตาที่ดินกลางเมือง – ชานเมืองคึก ราคาสูงสุดเสนอขาย 4 ล้านต่อตร.ว.

7 ก.พ.2565 – ต้นทุน “ที่ดิน” นับเป็นองค์ประกอบสำคัญ สำหรับธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ยิ่งโลเคชั่นดีเท่าไหร่ ยิ่งสร้างโอกาส ด้านการขาย และมูลค่าส่วนกำไรให้กับดีเวลลอปเปอร์อย่างมหาศาล ทำให้แม้ในจังหวะ ‘สโลดาวน์’ ของอสังหาฯไทย จากวิกฤติโควิด19 นั้น

พบยังคงมีความเคลื่อนไหว ในการซื้อ-ขายที่ดิน สำหรับพัฒนาโครงการใหม่ๆเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยมีตัวแปรหลัก อย่าง แวดล้อมของที่ตั้ง, รูปแบบประโยชน์ที่จะใช้ได้จากที่ดิน ,ต้นทุนการพัฒนาอื่น และเงื่อนไขระยะเวลาในการโอนกรรมสิทธิ์ เป็นปัจจัยพิจารณาร่วม

คอลลิเออร์สเผยดีลซื้อขายที่ดินต่อปี1ล้านล.

ล่าสุด นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย จำกัด ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ เผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ตั้งแต่ปี 2564 ภาพของการซื้อ-ขายที่ดิน ในพื้นที่ใจกลางเมืองและพื้นที่โดยรอบ ยังคงได้รับความสนใจจากดีเวลลอปเปอร์ทั้งรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ และรายเล็กๆ อย่างต่อเนื่อง

เช่น ดีลที่ดินบนย่านสาทร ซึ่งถูกปิดไปในราคาสูงกว่า 2 ล้านบาทต่อตารางวา นับว่าสูงที่สุดในทำเลนั้น ทั้งนี้ ผู้ซื้อมองว่า แม้ราคาเสนอขายจะค่อนข้างแพง แต่กลับเล็งเห็นถึงผลตอบแทน จากโอกาสที่ได้เข้าไปพัฒนาที่ดินดังกล่าวมากกว่า 

ส่วนปี 2565 ประเมินว่าจะเป็นอีกหนึ่งปี ที่การซื้อ-ขายที่ดินคึกคัก เพียงแต่ส่วนใหญ่จะเปลี่ยนทิศไปมองหาที่ดินในพื้นที่รอบใจกลางเมือง หรือ แนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายแทน เนื่องจากเทรนด์การพัฒนาของดีเวลลอปเปอร์ ชัดเจนว่าปีนี้มุ่งเน้นไปสู่การพัฒนาโครงการแนวราบ หรือ โครงการคอนโดมิเนียมในระดับราคาไม่สูงมาก ขณะดีลใจกลางเมืองได้รับความสนใจอยู่มาก แต่ตัดสินใจนานขึ้น พบบางแปลง มีการตั้งราคาเสนอขายไว้สูงถึงตารางวาละ 4 ล้านบาทแล้ว  

” 5 ปีที่ผ่านมา มูลค่าการซื้อขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทั่วประเทศยังคงมีมูลค่าสูงกว่า 1ล้านล้านบาทต่อปี แม้ช่วง 2 ปีโควิด ,มีปัญหาการเมือง และต่างชาติลดลงเกือบ 100% แต่ไม่ได้ฉุดให้มูลค่าการซื้อขายลดลง “

บิ๊กอสังหาฯ ตุนที่ดินหมื่นล. สวนเศรษฐกิจฝืด - ราคาพุ่ง !

การประกาศแผนธุรกิจ ซึ่งตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่อย่างมหาศาล รับการฟื้นตัวของธุรกิจในปีนี้ ยังนำมาซึ่ง การประกาศงบซื้อที่ดิน ที่เมื่อสำรวจตรวจสอบจากบิ๊กดีเวลลอปเปอร์รายหลักๆ มีมูลค่ารวมกัน นับหลายหมื่นล้านบาทอีกด้วย 

LH -SC แข่งตุนที่ดินทำเลบ้านแพง

โดยเจ้าพ่ออสังหาฯ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) ปีนี้ประกาศ เปิดโครงการใหม่มูลค่าเกือบ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งมากกว่าปีก่อนถึง 50% และยังคงเจาะโครงการบ้านเดี่ยวระดับแพง ราคาสูงสุด บ้านนันทวัน มากกว่า 50 ล้านบาท ขณะ กทม. และ ปริมณฑล ยังคงเป็นพื้นที่หลักในการเปิดโครงการใหม่

ทั้งนี้ บริษัท ระบุ จำเป็นเตรียมงบลงทุน สำหรับการ ซื้อที่ดิน เพื่อใช้ในการพัฒนาโครงการตามแผนปีนี้ และปีถัดๆไป ตั้งเป้าไว้ราว 6 พันล้านบาท เจาะทำเล LH นั้น ยังให้ความสำคัญโซนรอบเมือง พิกัดของตลาดบ้านหรู เช่น บางนา ,ราชพฤกษ์ ,พระราม9 และรามอินทรา เป็นต้น 

เช่นเดียวกับ บริษัท เอสซี แอสเสท (SC) ตามแผน ลุยเปิดโครงการใหม่ 27 โครงการ มูลค่าสูงถึง 3.89 หมื่นล้านบาท เตรียมบุกหนักแนวราบ ตั้งธงเป็นผู้นำในทุกเซกเม้นท์ และจะยังคงรักษาฐานที่มั่น กลุ่มบ้านราคามากกว่า 10 ล้านบาทไว้ นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอสซี ระบุ ปีนี้ จะเป็นอีกปีที่บริษัท ลุยตุนเสบียงที่ดินอย่างหนัก เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต ภายใต้งบประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เพื่อแนวราบ และ คอนโดฯแบรนด์ใหม่ในอนาคต

บิ๊กอสังหาฯ ตุนที่ดินหมื่นล. สวนเศรษฐกิจฝืด - ราคาพุ่ง !

เอพีทุ่ม2 หมื่นล.ไล่ช้อปที่ดิน

อีกบิ๊กมูฟสำคัญ คือ การประกาศเปิดตัวโครงการใหม่มากถึง 65 โครงการ มูลค่าสูงสุดในอุตสาหกรรม ที่ 7.8 หมื่นล้านบาท ครอบคลุมทำเล กทม.-ปริมณฑล และหัวเมืองสำคัญต่างจังหวัด ของ บมจ.เอพี ไทยแลนด์ ซึ่งแม้นายวิทการ จันทวิมล คีย์แมนคนสำคัญ จะระบุ ว่าตามแผน บริษัทมีที่ดินรองรับแล้วทั้งหมด 90% แต่เชื่อว่าในตลาดอสังหาฯ ปีนี้ และปีถัดๆไป จะมีโอกาสการฟื้นตัวอย่างมหาศาลรออยู่ จากการขยายของเมือง และระบบขนส่งมวลชน พัฒนากระจายรอบทิศของ กทม. ก่อเกิดดีมานด์ที่อยู่อาศัยคับคั่ง ประกาศทุ่ม 2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นก่อนปีก่อนอีก 8 พันล้านบาท เพื่อไล่ช้อปที่ดิน

“ความสำเร็จในปีก่อนหน้า ยอดโอนสูงสุด 4 หมื่นล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากกลยุทธ์ ที่เรารู้วิธีการซื้อที่ดิน ทั้งเจาะทำเลเก่า และขยายตลาดใหม่ไปภูมิภาค ปีนี้ หากเปิดใหม่ขายดี ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องหยุดซื้อที่ดิน  “

แสนสิริ – ศุภาลัย ระวังต้นทุนใหม่ 

ขณะบิ๊กบอส บมจ.แสนสิริ ระบุ บริษัทเตรียมงบซื้อที่ดินใหม่ราว 2 หมื่นล้านบาทเช่นกัน ทั้งนี้ เพื่อรองรับแผนพัฒนาโครงการ ตามโรดแมป 3 ปีข้างหน้า เปิดโครงการใหม่รวมมูลค่า 1.5 แสนล้านบาท นำร่องปีนี้ซื้อที่ดินก่อน 8 พันล้านบาท โดยพิกัด จะประเมินจากความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก และจำเป็นต้องพิจารณามากขึ้น ในการคัดสรรต้นทุนที่ดินใหม่ เพราะภาพรวมซัพพลายที่ดินราคาพุ่งต่อเนื่อง ท่ามกลางเศรษฐกิจยังเปราะบาง

” เรื่องที่ดิน มี 2 องค์ประกอบใหญ่พิจาณา คือ โครงสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟฟ้า ,ทางด่วน ที่เพิ่มความน่าสนใจของทำเล ก่อให้เกิดแหล่งงาน เช่น โซนทิศตะวันออก ที่มีแผนสนามบินเฟส 2 อีกข้อ ต้องดูว่า ทำเลดังกล่าว มีการแข่งขันสูงหรือไม่ เพราะมีโอกาสที่จะเกิดสงครามราคาได้”

บิ๊กอสังหาฯ ตุนที่ดินหมื่นล. สวนเศรษฐกิจฝืด - ราคาพุ่ง !

เจาะแผน บมจ.ศุภาลัย บุกหนักทำเลภูมิภาค เดินหน้ากระจายโปรดักส์แนวราบ เพิ่มจาก 24 จังหวัด เป็น 29 จังหวัด ปี 2565 ระบุ จะซื้อที่ดินใหม่อีกราว 8 พันล้านบาท แม้เปรยว่า ความน่ากังวลในปีนี้ คือ ภาระต้นทุนที่สูงขึ้น อย่างค่าแรงงาน วัสดุก่อสร้าง และ ราคาที่ดิน ที่พบยังเพิ่มขึ้นในช่วงโควิด จนหวั่นว่า อาจทำให้ราคาบ้านปีนี้แพงขึ้นราว 2% แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทมีสภาพคล่องเพียงพอ เป็นจุดแข็ง ที่จะสามารถหาซื้อที่ดินได้ในแปลงที่มีระดับราคาเหมาะสมและน่าสนใจ  

“ปีนี้เปิดใหม่ 34 โครงการ มีที่ดินครบแล้วทุกโครงการ และมีเหลือเฟือไปจนถึงอีกครึ่งหนึ่งของแผนปีหน้า แต่บริษัทยังมองหาโอกาสการซื้อที่ดินใหม่ๆเพิ่มอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายการเติบโตในปีต่อไป”

พฤกษา จับตามูฟเม้นท์ตลาด

ด้าน บมจ.พฤกษา  แม้จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการประกาศแผนธุรกิจอย่างเป็นทางการ แต่ก่อนหน้า นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุว่า ปีนี้บริษัทจะเปิดตัวโครงการใหม่สูงถึง 31-35 โครงการ มูลค่ารวม 2.5 – 3หมื่นล้านบาท เน้นแนวราบที่ระดับราคา 3-7 ล้านบาท หลังประเมิน ว่าตลาดอสังหาฯปี 2565  มีโอกาสเติบโตอย่างต่ำ 10-13% 

วิเคราะห์  ปัจจุบัน พฤกษา มีแลนด์แบงค์ในมือราว 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าคงเหลือ หลังจากช่วงปีที่ผ่านมา ทยอยตัดแบ่งขายที่ดินกลางเมืองบางแปลงออกไปบางส่วน เนื่องจากประเมินว่ายังไม่เหมาะจะนำมาพัฒนาคอนโดฯราคาแพงระดับ 2 แสนบาทต่อตร.ม. ซึ่งต้องจับตาดูว่า สำหรับในปีนี้ พฤกษาจะมีความเคลื่อนไหวในด้านที่ดินอย่างไร จากที่เคยเจ็บหนักมาเยอะ แต่คาดอย่างต่ำๆ ตามรายงานข่าว จะมีการซื้อตุนที่ดินใหม่ 2-7 พันล้านบาท….

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


‘อสังหา’โวยเบรกต่างชาติซื้อคอนโดเกิน49%

‘อสังหา’โวยเบรกต่างชาติซื้อคอนโดเกิน49%

อสังหา ฯ ดีเวลลอปเปอร์ โวย หลังศบศ.เบรกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ-อสังหาฯเหี้ยน ทั้งขยายสิทธิ์คนต่างชาติซื้อคอนโดฯเพิ่มเกิน 49%-เช่ายาวเกิน 30 ปีซื้อบ้านจัดสรรได้ ติดเบรกเศรษฐีนอกซื้อคอนโด

อสังหาฯโวยเบรกมาตรการต่างชาติซื้อคอนโดฯ“ผู้ประกอบการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ผิดหวังอีกครั้งเมื่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเปิดให้ชาวต่างชาติซื้อที่อยู่อาศัยในไทยได้เพิ่มขึ้น มีอันต้องยุติลง เนื่องจาก คณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.)ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในฐานะประธาน

มีมติเมื่อวันที่ 21 มกราคมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชะลอการแก้ไขกฎหมายตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขยายสิทธิ์ให้คนต่างชาติสามารถถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุด (ซื้อคอนโดมิเนียม) เกิน 49% หรือไม่เกิน 70-80% การขยายระยะเวลาการเช่าที่ดินเกิน 30ปี รวมทั้งการให้สิทธิ์คนต่างชาติถือครองที่ดิน เพื่ออยู่อาศัยไม่เกิน 1 ไร่หรือซื้อบ้านจัดสรร

‘อสังหา’โวยเบรกต่างชาติซื้อคอนโดเกิน49%

ทั้งนี้ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย(มท.1) ไม่เห็นด้วยโดยให้เหตุผลว่ากฎหมายปัจจุบันมีความเหมาะสมแล้ว ขณะกรมที่ดินยืนยันว่าสัดส่วนการเปิดให้ต่างชาติถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุดนับตั้งแต่มีกฎหมายยังไม่พบต่างชาติซื้อเต็มสัดส่วนที่กฎหมายให้ไว้

หากย้อนไปช่วงวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งนับตั้งแต่ปี 2540 รัฐบาลในสมัยนั้นได้ใช้มาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯ โดยดึงชาวต่างชาติซื้อห้องชุดในไทยโดยกำหนดโซนในเขตกรุงเทพ มหานครและหัวเมืองท่องเที่ยวเกิน 49% ผลปรากฎไม่มีต่างชาติซื้อตามเป้าขณะเดียวกันยังมองว่าการเปิดโอกาสคนต่างชาติที่มากเกินไปจนอาจเกิดผลกระทบคนไทยไร้ที่อยู่อาศัย

นายปิยะ ประยงค์ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทพฤกษาเรียลเอสเตทจำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในช่วงการระบาดโควิด มองว่า มีความจำเป็นต้องดึงต่างชาติเข้ามาสนับสนุนโดยเฉพาะการซื้ออสังหาฯ เนื่องจากกำลังซื้อระดับล่างของคนไทยหายไปจากตลาด ผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น

หากรัฐบาลขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศโดยไม่พึงพาต่างชาติเชื่อว่าการเติบโตจะช้าลง “สถานการณ์เช่นนี้ยืนยันว่ารัฐบาลควรขยายสิทธิ์ให้ต่างชาติซื้ออสังหาฯในไทยเพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตได้เร็วแม้จะเป็นแค่ช่วงระยะสั้นก็ยังดี”

ด้านบมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์ ซึ่งมีฐานลูกค้าต่างชาติเป็นอันดับ หนึ่งของตลาดคอนโดฯ กทม. (ส่วนแบ่งการตลาด 56%) สะท้อนมุมมองไว้ว่า ตลาดลูกค้าต่างชาติ ถือมีความสำคัญต่อภาคอสังหาฯไทย ขณะนี้เริ่มมีแนวโน้มเชิงบวกต่อการกลับเข้ามาในประเทศมากกว่า 2 ปีก่อนหน้า

นายแฟรงค์ ฟง คึ่น เหลียง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมโนเบิลฯ ระบุ ดีมานด์ต่างชาติมาจาก 4 ทาง ได้แก่ กลุ่มคนเข้ามาทำงาน, กลุ่มที่ส่งบุตรหลานเข้ามาศึกษา, ซื้อเป็นบ้านหลังที่ 2 เชิงท่องเที่ยว และกลุ่มนักลงทุน โดยยอมรับว่าสถานการณ์โควิด

มีผลทำให้ดีมานด์กลุ่มท่องเที่ยวและลงทุนชะลอตัวไป แต่อีก 2 กลุ่ม ยังคงแข็งแกร่งอยู่ ประเมินหากโควิดคลี่คลายภายในครึ่งปีแรก น่าจะเป็นจังหวะที่ดีที่ลูกค้าต่างชาติจะกลับมา โดยเฉพาะชาวจีน ทั้งนี้โนเบิล มีแผนเปิดโครงการใหม่เพื่อรองรับฐานลูกค้าต่างชาติหลายโครงการ

ขณะก่อนหน้านี้ นาย พรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ อดีตนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยระบุว่า รัฐบาลควรสนับสนุนขยายเวลาการเช่า ของนักลงทุนต่างชาติรองรับกลุ่มต่างชาติวัยเกษียณ เช่นเดียวกับการซื้อคอนโดฯ ได้มากขึ้น แต่เพื่อป้องกันปัญหาที่จะกระทบแย่งชิงพื้นที่คนไทย ควรกำหนดโซนที่ชัดเจน เช่น ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี พื้นที่โซนใจกลางเมืองกทม.และกำหนดราคาเป้าหมายที่ชัดเจน

นาง อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย ระบุว่าการเปิดให้ต่างชาติซื้ออสังหาฯไทยได้มากขึ้นจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้ขับเคลื่อนได้ เพราะปัจจุบันความต้องการซื้อคอนโดฯในไทยยังมีสูงโดยเฉพาะจีน

 “ฐานเศรษฐกิจ” ตรวจสอบไปยังศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ถึงสถาน การณ์การโอนกรรมสิทธิ์ คอนโด มิเนียม (ห้องชุด) ให้คนต่างชาติทั่วประเทศ ณ สิ้น ไตรมาส 3 ปี 2564 ลดลงอย่างต่อเนื่อง จากไวรัสโควิด 19 โดยทั่วประเทศ มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 29,722 ล้านบาท

ขณะชาวจีน เป็นสัญชาติที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากที่สุดทั่วประเทศมากที่สุด ทั้งหมด 3,760 หน่วย ส่วน 5 จังหวัดอันดับแรกที่ต่างชาติโอนฯ อสังหาฯ มากที่สุด ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี ภูเก็ต ประจวบคีรีขันธ์ และนนทบุรี

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


คาด ธปท. คงดอกเบี้ย และติดตามเงินเฟ้อสหรัฐฯ

คาด ธปท. คงดอกเบี้ย และติดตามเงินเฟ้อสหรัฐฯ

เงินบาทมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.70-33.40 ในสัปดาห์นี้ ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคือการประชุม ธปท. ในวันพุธนี้

คอลัมน์ มันนี่วีก (Money…week) โดย…กฤติกา บุญสร้าง, มนัสวิน ฐิติสมบูรณ์ สายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย

สายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทยประเมินว่า เงินบาทมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.70-33.40 ในสัปดาห์นี้ ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคือการประชุมธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในวันพุธนี้ ซึ่งเราคาดว่า ธปท. จะยังคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อเนื่องจากมติเอกฉันท์ในการประชุมครั้งก่อน ท่ามกลางเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่ฟื้นกลับสู่ระดับก่อนโควิด และยังคงต้องการแรงหนุนต่อเนื่อง แม้เงินเฟ้อไทยจะเริ่มเร่งตัวขึ้น แต่เกิดจากปัจจัยจากภาคอุปทานเป็นหลัก โดยเฉพาะราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น

ด้านต่างประเทศ ติดตามเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในเดือนธันวาคม ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะเร่งตัวขึ้นเป็น 7.30%YoY จากเดือนก่อนหน้าที่ 7.00%YoY ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันเฟดให้ต้องเร่งดำเนินการนโยบายการเงินแบบตึงตัวในเร็ววันนี้

ภาพรวมตลาดอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงวันที่ 31 มกราคม – 4 กุมภาพันธ์ 2022 ค่าเงินบาทไทยแข็งค่าขึ้น ท่ามกลางอานิสงค์บวกจากการกลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบไม่กักตัวที่เริ่มต้นดีด้วยจำนวนผู้ลงทะเบียนมากกว่า 23,000 คน โดยวันแรกของการกลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบไม่กักตัว มีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ 2,500 คน ด้านกระทรวงการคลังคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 2022 เติบโต 4% เท่ากับประมาณการเดิม เนื่องจากประเมินว่าการใช้จ่ายภายในประเทศจะขยายตัว ประกอบกับความหวังนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ 7 ล้านคน และประเมินว่าค่าเงินบาทไทยปี 2022 จะเฉลี่ยอยู่ที่ 33.10 พร้อมปรับคาดการณ์เงินเฟ้อที่ 1.9% เพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิมที่ 1.4% ทั้งนี้ เงินเฟ้อไทยเดือนมกราคมพุ่งสูงที่ 3.23%YoY สูงกว่าคาดการณ์ เนื่องจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นเป็นหลัก ประกอบกับราคาเนื้อสัตว์ที่แพงขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาเนื้อสัตว์ปรับตัวลงหลังจากผ่านเทศกาลตรุษจีน ด้านดุลบัญชีเดินสะพัดไทยในเดือนธันวาคมขาดดุล 1,378 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่ำกว่าคาดการณ์ เนื่องจากดุลการค้าเกินดุลลดลง ด้วยการนำเข้าที่เร่งตัวขึ้น ในขณะที่ดุลบริการและเงินโอนขาดดุลเพิ่มขึ้น ทำให้โดยรวมดุลบัญชีเดินสะพัดไทยปี 2021 ขาดดุล 10.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวอ่อนค่าลง ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโอไมครอน โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อสำรวจภาคการบริการโดยไอเอสเอ็มในเดือนมกราคมลดลงมาอยู่ที่ 59.9 เช่นเดียวกับภาคการผลิตที่ลดลงมาอยู่ที่ 57.6 อย่างไรก็ตาม ตลาดแรงงานยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง แม้เผชิญการแพร่ระบาดของโอไมครอน โดยการจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐฯ ในเดือนมกราคมดีกว่าคาดมาก โดยมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นมากถึง 4.67 แสนตำแหน่ง แม้อัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 4.0% ด้านสมาชิกเฟดส่งสัญญาณชะลอคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของตลาด โดยให้น้ำหนักกับความสมดุลในการลดขนาดงบดุลกับการทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ย และบางส่วนคาดการณ์ถึงการขึ้นดอกเบี้ยราว 4 ครั้ง ซึ่งต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ที่ 4-5 ครั้งในปีนี้ ด้านว่าที่สมาชิกใหม่ของเฟด ฟิลิป เจฟเฟอร์สัน ลิซ่า คุก และซาร่าห์ รัสกิ้น กล่าวว่าจะจัดการกับปัญหาเงินเฟ้อ โดยมองว่าการจัดการกับเงินเฟ้อเป็นปัจจัยที่สำคัญในตอนนี้ เพื่อให้เศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวได้อย่างยั่งยืน บรรลุเป้าหมายของเฟด

ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ทวีความรุนแรงขึ้น กดดันให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 7 ปี ประกอบกับโอเปกพลัสตกลงเพิ่มกำลังการผลิต 4 แสนบาร์เรลต่อวันสำหรับเดือนมีนาคมตามแผนเดิม ในขณะที่สหรัฐฯ เคลื่อนย้ายทหาร 2 พันนายไปยุโรป ท่ามกลางความตึงเครียดของทหารกว่า 1 แสนคนของรัสเซียในเขตใกล้ชายแดนยูเครน แม้รัสเซียจะยังคงปฏิเสธว่าไม่มีแผนจะบุกยูเครน แต่สหรัฐฯ และอังกฤษกำลังพิจารณามาตรการแทรกแซงบุคคลรอบข้างปูติน กดดันรัสเซียต่อเนื่อง

ด้านค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น ภายหลังอีซีบีส่งสัญญาณเตรียมปรับนโยบายการเงินแบบตึงตัว พร้อมระบุเงินเฟ้อเข้าใกล้เป้าหมายที่ตั้งไว้ อย่างไรก็ตาม อีซีบีจะรอให้มาตรการคิวอีสิ้นสุดลงก่อนจะปรับขึ้นดอกเบี้ย และลาการ์ดไม่ได้ปฏิเสธโอกาสที่จะขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งแตกต่างจากท่าทีก่อนหน้า ในขณะที่เงินเฟ้อยูโรโซนในเดือนมกราคมพุ่ง 5.1%YoY สูงกว่าคาดการณ์ที่คาดว่าจะชะลอลง เนื่องจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นมากเป็นหลัก ส่งแรงกดดันต่ออีซีบีต่อเนื่อง โดยตลาดคาดการณ์ว่าอีซีบีจะขึ้นดอกเบี้ย 10bps ในเดือนกรกฎาคม และจะขึ้นดอกเบี้ยรวมทั้งหมด 30bps ภายในเดือนธันวาคมนี้

เงินบาทปิดตลาดที่ 32.99 ในวันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2022 ณ เวลา 17.00 น.

ภาพรวมตลาดตราสารหนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของประเทศเศรษฐกิจหลักยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยไฮไลท์สำคัญของสัปดาห์อยู่ที่การประชุมธนาคารกลางอังกฤษที่มีมติขึ้นดอกเบี้ยจาก 0.25% เป็น 0.50% ตามการคาดการณ์ของตลาด อย่างไรก็ตามมีคณะกรรมการถึง 4 ท่านที่เห็นควรให้ขึ้นดอกเบี้ยรอบนี้ที่ 50 bps ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ค่อนข้าง Hawkish ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากธนาคารกลางอังกฤษประเมินว่าเงินเฟ้อมีโอกาสเร่งตัวสูงขึ้นและมีแนวโน้มที่จะอยู่ในระดับที่สูงไปได้นานกว่าที่ได้เคยประเมินไว้ ขณะที่การประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ถึงแม้จะมีมติคงดอกเบี้ยนโยบายตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ แต่มุมมองต่อการกำหนดนโยบายทางเงินดูเปลี่ยนไปเป็น Hawkish มากขึ้น ทั้งนี้อีซีบีจะรอให้มาตรการคิวอีสิ้นสุดลงก่อนจะปรับขึ้นดอกเบี้ย และคุณลาการ์ดไม่ได้ปฏิเสธโอกาสที่จะขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ เทียบกับท่าทีก่อนหน้านี้ที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไปตลอดปี 2022 ทำให้ตลาดในฝั่งอังกฤษและยูโรโซนเป็นตลาดที่ชี้นำให้อัตราผลตอบแทนปรับตัวสูงขึ้น โดยพันธบัตรรัฐบาลของอังกฤษอายุ 2 ปีปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 18 bps มาอยู่บริเวณ 1.19% และพันธบัตรรัฐบาลของอังกฤษอายุ 10 ปีปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่นับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2018 มาอยู่ที่บริเวณ 1.37%

ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยในช่วงต้นสัปดาห์มีการปรับตัวลดลงไปก่อน อย่างไรก็ตามในช่วงท้ายของสัปดาห์ก็ปรับตัวสูงขึ้นเข้ามาใกล้กับระดับปิดในสัปดาห์ก่อนหน้า โดยปัจจัยหลักในช่วงท้ายสัปดาห์ที่ทำให้อัตราผลตอบแทนปรับตัวขึ้นก็มาจากปัจจัยของตลาดโลก รวมถึงการประกาศตัวเลขอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยในเดือนมกราคมอยู่ที่ 3.23% YoY เร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 2.17% YoY และสูงกว่าที่ตลาดคาดที่ 2.47% YoY โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันเป็นหลัก จึงทำให้เห็นแรงขายออกมาในพันธบัตรรัฐบาลบ้างเล็กน้อย ขณะที่กระแสเงินทุนต่างชาติในสัปดาห์ที่ผ่านมาไหลออกจากตลาดตราสารหนี้ไทยมูลค่าสุทธิประมาณ 2,370 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น 15,458 ล้านบาท ซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว 15,285 ล้านบาทและมีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ 2,197 ล้านบาท ส่งผลให้ ณ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลไทยรุ่นอายุ 1, 2, 3, 5, 7 และ 10ปี อยู่ที่ 0.51% 0.69% 0.93% 1.42% 1.80% และ 2.17% ตามลำดับ

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


สู้กันยาวถึงดวลโทษ! เซเนกัล แม่นเป้าเฉือน อียิปต์ 4-2 ผงาดแชมป์แอฟริกา 2021

สู้กันยาวถึงดวลโทษ! เซเนกัล แม่นเป้าเฉือน อียิปต์ 4-2 ผงาดแชมป์แอฟริกา 2021

การแข่งขัน ฟุตบอล แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ 2021 นัดชิงชนะเลิศ ระหว่าง อียิปต์ พบกับ เซเนกัล ที่สนาม สต๊าด ออมนิสปอร์ต ปอล บิย่า, แคเมอรูน เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

เริ่มเกมมาเพียงแค่ 4 นาที เซเนกัล มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ ซาลิอู ซิสส์ ถูก โมฮาเหม็ด อับเดล โมเน็ม เตะรวบล้มลงในเขตโทษ แต่ ซาดิโอ มาเน่ ยิงไปโดน โมฮาเหม็ด อาบู กาบาล นายด่านอียิปต์ พุ่งปัดไว้ได้

ทั้งสองทีมสู้กันได้อย่างสูสีนาทีที่ 28 อียิปต์ มาได้ลุ้นบ้าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลากลุยแหวกแนวรับ 3 คน ก่อนได้โอกาสสับไกด้วยซ้ายแต่บอลไปตรงตัว เอดูอาร์ เมนดี้ รับไว้ได้ไม่ยาก

นาทีที่ 43 อียิปต์ เกือบได้อีกหน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ คนเดิมลากบอลเข้าเขตโทษก่อนกดที่เสาแรกแต่ เอดูอาร์ เมนดี้ ยังไวปัดออกหลังไปได้อีก หมดครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 50 เซเนกัล ทำเกมได้สวย ซาดิโอ มาเน่ ตักบอลให้ อิดริสซ่า เกย์ ล็อกหลอก มาห์มูด ฮัมดี้ ก่อนยิงด้วยขวาแต่ โมฮาเหม็ด อาบู กาบาล ล้มตัวเซฟไว้ได้

นาทีที่ 53 เซเนกัล เกือบได้อีกครั้ง ชีกู กูยาเต้ หลุดเข้าเขตโทษก่อนเปิดไปให้ ซาดิโอ มาเน่ แต่ โมฮาเหม็ด อาบู กาบาล ปรี่ออกมาบล็อกจากเท้าได้ทัน ครบ 90 นาที ยังเสมอ 0-0 ต้องต่อเวลาอีก 30 นาทีออกไป

ช่วงต่อเวลาพิเศษ นาทีที่ 91 เซเนกัล น่าจะได้ประตู ซาดิโอ มาเน่ จ่ายบอลขึ้นหน้าให้ บัมบา เดียง หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงในเขตโทษแต่ โมฮาเหม็ด อาบู กาบาล ล้มตัวปัดป้องอีกครั้ง

นาทีที่ 115 ยังเป็น เซเนกัล ที่ทำได้เหนือกว่า บัมบา เดียง ยิงไกลจากระยะ 20 หลา บอลจะเสียบเสาแต่ โมฮาเหม็ด อาบู กาบาล พุ่งปัดไว้ได้อีก จบ 120 นาที เสมอกัน ทำให้ต้องไปดวลจุดโทษตัดสิน และเป็น เซเนกัล ที่ทำได้ดีกว่าเป็นฝ่ายเอาชนะไป 4-2 ผงาดคว้าแชมป์ได้เป็นสมัยแรก

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
เซเนกัล (4-2-3-1): เอดูอาร์ เมนดี้, บูน่า ซาร์, คาลิดู คูลิบาลี่, อับดู ดิยัลโล่, ซาลิอู ซิสส์, ชีกู กูยาเต้ (ปาเป้ เกย์ น.66), น็องปาลิส เมนดี้, อิลไมล่า ซาร์ (บูลาย เดีย น.77), อิดริสซ่า เกย์, ซาดิโอ มาเน่, ฟามาร่า ดีเยฌีอู (บัมบา เดียง น.77)
อียิปต์ (4-3-3): โมฮาเหม็ด อาบู กาบาล, อิมัม อชูร์, โมฮาเหม็ด อับเดล โมเน็ม, มาห์มูด ฮัมดี้, อาห์เหม็ด อาบู เอล โฟตูห์, โมฮาเหม็ด เอลเนนี่, ฮัมดี้ ฟาธี (โมฮานัด ลาชีน น.99), อาเมอร์ เอล โซเลีย (เทรเซเก้ต์ น.59), โมฮาเหม็ด ซาลาห์, มอสตาฟา โมฮาเหม็ด (มาร์วาน ฮัมดี้ น.59), โอมาร์ มาร์มูช (ซิโซ่ น.59)

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


Broken Heart Syndrome ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรงจาก “ความเครียด”

Broken Heart Syndrome ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรงจาก "ความเครียด"

การเครียดสะสมหรือภาวะอารมณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงสามารถทำให้เกิดอาการหัวใจสลาย หรือ Broken Heart Syndrome ได้ เพราะจะส่งผลให้การทำงาน ของหัวใจผิดปกติและตกอยู่ในภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรงจากความเครียดได้ ซึ่งจะเกิดขึ้นแบบเฉียบพลันและร้ายแรงถึงชีวิตได้ ดังนั้นควรรับมือกับความเครียดและอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างถูกวิธี รวมถึงดูแลหัวใจให้เข้มแข็งอยู่เสมอ

Broken Heart Syndrome คืออะไร

นพ.เกรียงไกร เฮงรัศมี ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ กล่าวว่า Broken Heart Syndrome หรือ Stress Cardiomyopathy เป็นภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรงจากความเครียด ซึ่งค้นพบครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นในชื่อเรียกว่า Takotsubo Cardiomyopathy พบมากในหญิงวัยกลางคน มีความสัมพันธ์กับความเครียดจากโรคทางกาย (Physical Stress) หรือความเครียดด้านจิตใจ (Mental Stress) ส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจไม่บีบตัวและอ่อนกำลังลงชั่วคราว หัวใจด้านล่างซ้ายผิดปกติโป่งออกรูปร่างคล้ายไหจับปลาหมึกของญี่ปุ่น อาจทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันและเสียชีวิตได้

สาเหตุของ Broken Heart Syndrome

สาเหตุของ Broken Heart Syndrome ความเครียดจากปัญหาต่างๆ อาทิ

  • ความเจ็บป่วยทางการแพทย์
  • การสูญเสียคนรัก
  • การหย่าร้าง
  • ปัญหาการงาน การเงิน
  • ความผิดหวังอย่างรุนแรง
  • อาการบาดเจ็บสาหัส
  • ยาเสพติด
  • ความเครียดสะสมจนทำให้หลอดเลือดหดตัว หัวใจมีการเต้นเร็วผิดจังหวะ เกิดภาวะหัวใจขาดเลือดและล้มเหลวได้
  • เกิดจากฮอร์โมน ซึ่งกลุ่มอาการหรือโรคนี้ส่วนใหญ่จะพบในผู้หญิงที่หมดประจำเดือนแล้ว ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะหมดไป ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจทนต่อฮอร์โมนที่เกี่ยวกับความเครียด (Stress Hormone) ในร่างกายได้น้อย จนทำให้เกิด Broken Heart Syndrome ได้

อาการของ Broken Heart Syndrome

อาการ Broken Heart Syndrome ที่สังเกตได้คือ

  • แน่นและเจ็บหน้าอก
  • มีอาการหอบเหนื่อย
  • หายใจลำบาก
  • หน้ามืด
  • ความดันเลือดต่ำ

ถ้าเกิดอาการเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาทันที

วิธีวินิจฉัยภาวะ Broken Heart Syndrome

แพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยพิจารณาจากอาการ ประวัติความเครียด และการตรวจทางห้องปฏิบัติการเป็นสำคัญ ประกอบไปด้วย การซักประวัติ ตรวจเลือด ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ Electrocardiogram (ECG/EKG) ผู้ป่วยจะมีลักษณะคลื่นหัวใจไฟฟ้าผิดปกติเหมือนกราฟไฟฟ้าหัวใจของผู้ป่วยหลอดเลือดหัวใจอุดตันเฉียบพลัน และการตรวจหัวใจด้วยเครื่องสะท้อนเสียงความถี่สูง (Echocardiogram) จะมีลักษณะการบีบตัวของหัวใจห้องล่างซ้ายผิดปกติ ความแรงในการบีบตัวของหัวใจจะลดลง หัวใจห้องล่างซ้ายอ่อนกำลัง และการฉีดสีตรวจหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Angiography : CAG)

ผู้ป่วยที่มีภาวะ Broken Heart Syndrome จะต้องรับไว้รักษาเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาล เพราะอาจจะมีอาการที่รุนแรงขึ้นได้ วิธีการรักษาหากอาการไม่รุนแรงอายุรแพทย์โรคหัวใจจะให้การรักษาด้วยยา แต่ในกรณีที่อาการรุนแรงและมีภาวะหัวใจล้มเหลวร่วมด้วยอาจต้องมีการใส่ท่อและเครื่องช่วยหายใจ และต้องรักษาภาวะเครียดที่เป็นปัจจัยกระตุ้นร่วมด้วย

Broken Heart Syndrome จะไม่สามารถป้องกันได้ เพราะเป็นภาวะที่เกิดขึ้นโดยเฉียบพลัน ฉะนั้นไม่ควรเครียดมากจนเกินไป ทำใจให้สบาย พูดคุยกับคนในครอบครัว เพื่อน และคนใกล้ชิดให้มากขึ้น เพื่อแบ่งปันเรื่องราวและปัญหา อย่าแบกความเครียดไว้คนเดียว ดูแลสุขภาพตัวเองอยู่เสมอ ใช้ชีวิตให้มีความสุข ทำในสิ่งที่ชอบ ท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ และหมั่นตรวจเช็กสุขภาพและหัวใจอย่างสม่ำเสมอ และภาวะนี้เมื่อเป็นแล้ว สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้จากความเครียด ทางที่ดีที่สุดคือดูแลหัวใจให้เข้มแข็ง ตั้งรับกับทุกปัญหาด้วยความเข้าใจ จัดการความเครียดอย่างถูกวิธี หากมีอาการผิดปกติแนะนำให้รีบพบแพทย์ทันที

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


วิธีพูดให้กำลังใจที่ทรงพลัง ในภาษาอังกฤษ (Motivation Quotes)

กำลังใจถือเป็นสิ่งสำคัญในช่วงชีวิต ทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องการมันในบางเวลา แล้วสถานการณ์ไหนควรให้กำลังใจที่เหมาะสม วันนี้เราจะมาดูตัวอย่างและสถานการณ์ต่างๆ สำหรับประโยคการให้กำลังใจ (Motivation quote) เพราะการพูดกำลังใจที่ดีนั้นสำคัญมาก เพราะจะสามารถทำให้พูดฟังรู้สึกซาบซึ้งและมีกำลังใจมากขึ้นอย่างแน่นอน

ในวันนี้เรารวมประโยคให้กำลังใจดีๆจากผู้ที่ประสบความเร็จ มาให้แล้ว

สำหรับคนขี้เกียจ และยังไม่เริ่มทำอะไร หลังจากฟังประโยคพวกนี้ รับรองว่ามีความฮึกเฮิมขึ้นมาทันที

 “The Way Get Started Is To Quit Talking And Begin Doing.” – Walt Disney

  • จะเริ่มต้นได้คือการเลิกพูดและลงมือทำซะ

“Knowing Is Not Enough; We Must Apply. Wishing Is Not Enough; We Must Do.” – Johann Wolfgang Von Goethe

  • แค่รู้มันยังไม่พอแต่เราต้องลงมือทำ แค่หวังอย่างเดียวไม่พอแต่เราต้องทำมันออกมา

“What You Lack In Talent Can Be Made Up With Desire, Hustle And Giving 110% All The Time.” – Don Zimmer

  • ความสามารถหรือพรสวรรค์มันเป็นสิ่งที่สามารถหาเพิ่มได้ด้วยการการผลักดันและทุ่มเทเกินร้อยตลอดเวลา

“You Don’t Have To Be Great To Start, But You Have To Start To Be Great.” – Zig Ziglar

  • คุณไม่จำเป็นต้องดีเยี่ยมก่อนที่จะเริ่ม แต่คุณควรต้องเริ่มทำเพื่อที่จะดีเยี่ยม

สำหรับการให้กำลังใจในยามที่คนอื่นทุกข์หรือรู้สึกแย่ เพื่อนๆ ลองอ่านประโยคพวกนี้เชื่อว่าหลายคนจะต้องรู้สึกดีและมีกำลังใจขึ้น

“You Learn More From Failure Than From Success. Don’t Let It Stop You. – Unknown

  • คุณเรียนรู้จากความผิดพลาดมากกว่าความสำเร็จอีก อย่าทำให้ความผิดพลาดเหล่านั้นมาหยุดตัวคุณ

“It’s Not Whether You Get Knocked Down, It’s Whether You Get Up.” – Vince Lombardi

  • มันไม่สำคัญว่าหรอกคุณจะล้มหรือเปล่า แต่มันสำคัญที่ว่าคุณจะลุกขึ้นมาหรือไม่

“We Generate Fears While We Sit. We Overcome Them By Action.” – Unknown

  • พวกเราสร้างความกลัวเมื่อเรานั่งอยู่เฉยๆ แต่พวกเราจะก้าวข้ามมันได้ถ้าเราลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่าง

“Some days are just bad days, that’s all – Dita Von Teese

  • บางวันมันก็เป็นแค่วันแย่ๆ ที่ผ่านมาเท่านั้นเอง

สำหรับคนที่ขาดความเชื่อมั่น และยังลังเลอยู่เชื่อว่าถ้าได้อ่านประโยคเหล่านี้จะทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น

“One Of The Lessons That I Grew Up With Was To Always Stay True To Yourself And Never Let What Somebody Else Says Distract You From Your Goals.” – Michelle Obama

  • บทเรียนที่ฉันได้เรียนรู้คือทำสิ่งที่คุณคิดว่าถูกต้องและอย่าให้สิ่งที่คนอื่นพูดมาขัดขวางเป้าหมายของคุณ

“The Only Way To Do Great Work Is To Love What You Do. If You Haven’t Found It Yet, Keep Looking. Don’t Settle.” – Steve Jobs

  • ทางเดียวที่จะทำให้งานมันดีเยี่ยมได้คือคุณต้องรักในงานที่คุณทำ หากคุณยังหาสิ่งที่คุณรักไม่พบ จงหามันต่อไปก่อนที่จะลงมือทำจริงๆ

“There Are No Limits To What You Can Accomplish, Except The Limits You Place On Your Own Thinking.” – Brian Tracy

  • มันไม่มีขีดจำกัดหรอกสำหรับความสำเร็จ เว้นแต่คุณจะจำกัดมันเองด้วยความคิดของคุณ

“Whether You Think You Can or Think You Can’t, You’re Right.” – Henry Ford

  • ไม่ว่าคุณคิดว่าคุณสามารถทำได้หรือทำไม่ได้ จงเชื่อเสมอว่าคุณมาถูกทางแล้ว

เป็นยังไงกันบ้างกับตัวอย่างประโยคให้คำกำลังใจดีๆ ที่เราเอามาฝากวันนี้ หากเพื่อนๆ คิดว่ายังมีคนข้างๆ ที่ต้องการกำลังใจจากคุณอยู่ ก็อย่าลืมนำเอาไปใช้กันนะ

ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th


ส่องโลโก้ใหม่ของ Google Chrome ที่อัปเดตใหม่ในรอบ 8 ปี

ส่องโลโก้ใหม่ของ Google Chrome ที่อัปเดตใหม่ในรอบ 8 ปี

อย่างที่ทราบกันดีว่า Google Chrome ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ป 2008 และมีการเปลี่ยนโลโก้ในหลายครั้งทั้งปี 2008, 2011 และ 2014 หลังจากนั้นยังไม่มีการเปลี่ยนดีไซน์อะไรเลยล่าสุดนี้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของโลโก้ในปี 2022 ใหม่อีกครั้ง

โดยปกติในโลโก้ปี 2014 เทียบกับปี 2022 ดูอาจจะไม่เปลี่ยนอะไรนัก แต่ถ้าสังเกตตามภาพคือมีการลดสีจากสีเบอร์ 2 เบอร์เหลือใช้แค่เบอร์เดียวทำให้มันดูเรียบและสีสันสดใสกว่าเดิม

8c341aa1-fadf-47d3-b951-b0b32

ทั้งนี้ Elvin Hu ได้กล่าวว่าโลโก้ใหม่จะเริ่มใช้เดือนหน้าและอัปเกรดทุก Platform ของ Chrome Browser เช่นเดียวกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


“นมแลคโตสฟรี” ทางเลือกของคนแพ้นม ประโยชน์ และความแตกต่างจากนมปกติ

“นมแลคโตสฟรี” ทางเลือกของคนแพ้นม ประโยชน์ และความแตกต่างจากนมปกติ

เมื่อพูดถึง “นม” หลายคนคงจะรู้กันดีอยู่แล้วถึงประโยชน์ของการดื่มนม ไม่ว่าจะเป็นวัยเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน ตลอดจน ผู้สูงอายุ ที่ต่างก็ต้องการคุณค่าทางโภชนาการจากนม ไม่ว่าจะเป็น วิตามิน แคลเซียม และ โปรตีน ที่ร่างกายต้องการ โดยเฉพาะปัจจุบันที่ทุกคนต่างก็หันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น นมจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ขาดไม่ได้สำหรับคนที่รักในการดูแลสุขภาพ และในปัจจุบันประเภทของนมพร้อมดื่มที่วางขายทั่วไปก็เริ่มมีความหลากหลายมากขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคอนมทุกคน ซึ่งอีกหนึ่งนมทางเลือกที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่ออยู่บ้างแต่ยังไม่ค่อยเข้าใจถึงความแตกต่าง นั่นก็คือ “นมแลคโตสฟรี” 

บทความในนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับนมแลคโตสฟรี รวมไปถึง ประโยชน์ ความแตกต่าง และ ใครบ้างที่ควรเลือกดื่มนมแลคโตสฟรี

ทำความรู้จักกับ “นมแลคโตสฟรี”

สำหรับใครที่อาจจะยังไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับนมชนิดนี้ นมแลคโตสฟรี คือ นมวัวที่ปราศจากน้ำตาลแลคโตส ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคนที่มีภาวะการย่อยน้ำตาลแลคโตสบกพร่อง (Lactose Intolerance) ที่เป็นสาเหตุของอาการ ท้องเสีย ท้องอืด ท้องเฟ้อ หลังจากการดื่มนมทั่วไป ที่สำคัญนมแลคโตสฟรียังสามารถคงไว้ซึ่งคุณค่าของสารอาหารสำคัญที่มีประโยชน์ที่ต่อร่างกาย อาทิ วิตามิน และ แคลเซียม ไว้ได้อย่างครบถ้วนเช่นเดียวกันกับนมวัวทั่วไป ทำให้คนที่มีภาวะการย่อยน้ำตาลแลคโตสบกพร่องสามารถดื่มนมได้แบบไร้กังวล

ที่มาของ “น้ำตาลแลคโตส”

น้ำตาลแลคโตส เป็นน้ำตาลธรรมชาติที่สามารถพบได้ในน้ำนมของสัตว์ อย่าง นมวัว รวมถึง ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น โยเกิร์ต ชีส และ ไอศครีม เป็นต้น โดยในการย่อยน้ำตาลแลคโตสร่างกายต้องการเอนไซม์ธรรมชาติที่ชื่อว่า เอนไซม์แลคเตส ในการย่อยน้ำตาลแลคโตสให้เปลี่ยนเป็น น้ำตาลกลูโคส และ น้ำตาลกาแลคโตส ซึ่งในกรณีที่ร่างกายบางคนไม่สามารถผลิตเอนไซม์แลคเตสออกมาได้เพียงพอ ร่างกายก็จะไม่สามารถย่อยน้ำตาลแลคโตสได้อย่างที่ควร ซึ่งสามารถนำไปสู่ ภาวะการย่อยน้ำตาลแลคโตสบกพร่อง (Lactose Intolerance)

ใครบ้างที่ควรเลือกดื่มนมแลคโตสฟรี

แน่นอนว่าคนที่ควรเลือกดื่มนมแลคโตสฟรี คือ กลุ่มคนที่มีภาวะการย่อยน้ำตาลแลคโตสบกพร่อง (Lactose Intolerance) ซึ่งอาการทั่วไปของภาวะการย่อยน้ำตาลแลคโตสบกพร่อง ได้แก่ ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นท้อง ท้องร้อง รวมถึง อาการคลื่นไส้ และ อาเจียน ในบางกรณี หลังจากดื่มนม หรือ ผลิตภัณฑ์จากนม แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ไม่สามารถดื่มนมได้ จากภาวะการย่อยน้ำตาลแลคโตสบกพร่อง อาจทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารสำคัญอย่างแคลเซียมและวิตามินไม่เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ นมแลคโตสฟรีจึงเป็นอีกตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม

และปัจจุบันมีคนเอเชียจำนวนมากที่มีภาวะการย่อยน้ำตาลแลคโตสบกพร่อง เป็นสาเหตุให้นมแลคโตสฟรีเริ่มได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากขึ้น เปิดโอกาสให้คนที่มีภาวะการย่อยน้ำตาลแลคโตสบกพร่องได้มีตัวเลือกใหม่ในการดื่มนมได้อย่างสบายท้อง

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 07/02/2565

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a28,150.0028,250.00
ทองรูปพรรณ 96.5%1,823.0027,636.6828,750.00
ทองรูปพรรณ 90%1,640.7024,873.01n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,458.4022,109.34n/a
ทองรูปพรรณ 50%820.0012,431.20n/a
ทองรูปพรรณ 40%638.009,672.08n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%1,889.0028,637.24n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 07/02/2565


ปตท.

บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9534.5534.5535.3534.7534.9534.5534.8534.5534.7534.55
แก๊สโซฮอล์ 9134.2834.2835.0834.4834.6834.2834.5834.2834.4834.28
แก๊สโซฮอล์ E2033.4433.4434.2433.5433.8433.7433.4433.5433.44
แก๊สโซฮอล์ E8526.7426.7426.74
เบนซิน 9541.9642.8142.7642.4641.96
ดีเซล B729.9429.9431.5430.6430.7429.9430.4430.6430.6429.94
ดีเซล29.9429.9431.5430.6430.7429.9430.4430.6430.6429.94
ดีเซล B2029.9429.9431.5430.7430.4430.6429.94
ดีเซลพรีเมี่ยม35.9635.9637.9937.1637.4935.96
แก๊ส NGV

About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า