สาระน่ารู้ประจำวันที่ 07 ธันวาคม 2566

ถอดรหัส ‘ANANDA SURE’ อนันดาฯ พร้อมดูแลลูกบ้านทุกช่วงเวลา

ถอดรหัส “ANANDA SURE” ของอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ชู 3 แนวคิด SURE QUALITY, SURE COMMUNITY และ SURE WORRY FREE พร้อมดูแลลูกบ้านทุกช่วงเวลา ยกระดับการอยู่อาศัยสู่คุณภาพชีวิตที่ดี

เพราะเชื่อว่า “การอยู่อาศัยที่ดี” คือรากฐานของคุณภาพชีวิตของทุกคนในครอบครัว และ “การบริการ” คือหัวใจสำคัญของการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี เป็นหลักยึดขับเคลื่อนธุรกิจของดีเวลลอปเปอร์ยักษ์ใหญ่ “อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์” ในการสร้างสรรค์บริการ ส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดของการอยู่อาศัยและการใช้ชีวิต ผ่านบริการ “ANANDA SURE

“ที่อยู่อาศัย เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญและต้องใช้ระยะเวลาในการตัดสินใจเลือกซื้อ เพราะเป็นสินทรัพย์ขนาดใหญ่ มีมูลค่า และต้องอยู่อาศัยเฉลี่ยมากกว่าครึ่งชีวิต บางคนทุ่มเทใช้เวลานับสิบปี เก็บหอมรอมริบในการซื้อ ดังนั้นนอกเหนือจากดีไซน์ที่สวยงาม คุณภาพของวัสดุ และนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยแล้ว บริการเป็นสิ่งสำคัญที่จะมองข้ามไม่ได้ เพราะบริการที่ดีจะสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีไปได้ตลอดช่วงการอยู่อาศัย”

ปิยะวรรณ เหล่าสัมฤทธิ์ ผู้ช่วยประธานบริหารอาวุโส สายงานบริหารคุณค่าลูกค้า บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า อนันดาฯ ได้ยกระดับมาตรฐานการอยู่อาศัย รวมถึงคุณภาพการบริหารจัดการและบริการ “ANANDA SURE” ภายใต้ 3 แนวคิด ประกอบด้วย SURE QUALITY, SURE COMMUNITY และ SURE WORRY FREE พร้อมตอบโจทย์การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อการใช้ชีวิตที่ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกบ้านตั้งแต่วันแรก ตลอดจนทุกช่วงเวลาของการอยู่อาศัย สู่ความเป็นเลิศด้านปฏิบัติการดูแลลูกค้า

จากความต้องการส่งมอบความมั่นใจให้กับลูกบ้านของ อนันดาฯ ในเรื่องของผลิตภัณฑ์และการบริการ จึงเป็นที่มาของ ANANDA SURE ตั้งแต่ปี 2563

“ANANDA SURE เป็นการทำงานจากการฟังเสียงร้องเรียนทุกเสียงของลูกบ้านทั้งเสียงที่เป็นลบ และเสียงที่เป็นบวก นำมาตั้งเป็นมาตรฐานการให้บริการ และมาตรฐานในการทำงานของอนันดาฯ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาลักษณะนี้ในอนาคต และจะแก้ปัญหาไปจนกว่าจะไม่มีปัญหาเกิดขึ้น จนทำให้เกิดเป็นการบริการที่ลูกค้าสบายใจในการอยู่อาศัยมากที่สุด”

มุมมองความต้องการของ “ลูกบ้าน” เป็นโจทย์ตั้งของการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานบริการของ “ANANDA SURE” ที่ตอบโจทย์ “การอยู่อาศัยที่ดี” ซึ่งเป็นรากฐานของคุณภาพชีวิตของทุกคนในครอบครัวนั่นเอง

ปิยะวรรณ ย้ำว่า เมื่อไรก็ตามที่มีปัญหาและได้รับการดูแลแก้ไข ลูกค้าจะรู้สึกพอใจว่าเสียงของเค้าไม่ได้ถูกทอดทิ้ง หรือปัญหาไม่ได้ถูกวางไว้เฉยๆ คือสิ่งสำคัญยิ่ง ขณะเดียวกันยังพบว่า ลูกค้า มีความต้องการที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา ทั้งมีความต้องการที่มากขึ้น ณ วันที่ส่งมอบผลิตภัณฑ์นั้น “พึงพอใจแล้ว” แต่วันนี้อาจรู้สึกว่ายังไม่ตอบโจทย์ ดังนั้น เมื่อไรก็ตามที่ลูกค้ารู้สึกว่าไม่ตอบโจทย์และไม่ได้รับความพึงพอใจ หากแต่การมี “บริการที่ดี” และรวดเร็ว ด้วยความรู้ ความสามารถของพนักงาน จะเข้าไปช่วยตอบโจทย์ตรงนั้นได้ทันที ด้วย “Mindset ที่ดี” ของพนักงานในการเข้าไปให้บริการ

“จะเห็นว่า ANANDA SURE เป็นระบบปฏิบัติการที่จับต้องได้ สะท้อนภาพออกมาได้ และทำให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจ ภายใต้การปฏิบัติงานของคนทั้งองค์กรที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า”

ปิยะวรรณ กล่าวต่อไปว่า สำหรับ 3 แนวคิด “ANANDA SURE” ประกอบด้วย ชัวร์แรก “ANANDA SURE QUALITY” มั่นใจในคุณภาพก่อนส่งมอบห้อง โดยทุกเรื่องการันตีความ SURE ด้วยระบบการตรวจเช็ก 120 รายการ มั่นใจตั้งแต่วันแรกของการส่งมอบ เพื่อให้ทุกครอบครัว อุ่นใจ มั่นใจได้ยิ่งขึ้น

ชัวร์ที่สอง “ANANDA SURE COMMUNITY” เติมเต็มความสุขและการอยู่อาศัยอย่างปลอดภัย ด้วยการบริหารจัดการแบบ S M A R T ที่ออกแบบพิเศษ เพื่อสร้างความมั่นใจว่า ทุกครอบครัวในการดูแลของอนันดาฯ จะได้รับความอบอุ่นใจและปลอดภัย 24 ชั่วโมง การันตีคุณภาพและบริการด้วย ISO9001- 2015

ชัวร์ที่สาม “ANANDA SURE WORRY FREE” ที่อยู่อาศัยที่สมบูรณ์ที่สุดต้องมาพร้อมกับการบริการที่ดีที่สุด ด้วยความใส่ใจ และรวดเร็ว ทั้งบริการตรวจเช็ก ซ่อมแซม ครบทุกรูปแบบ เพื่อให้ลูกบ้านหมดกังวล ด้วยบริการที่อยู่ในระยะการรับประกันและบริการแพ็กเกจหลังรับประกัน ให้ลูกบ้านมั่นใจได้ว่า อนันดาฯ จะอยู่ดูแลตลอดไป มาพร้อม Living APP ครบทุกเรื่องการอยู่อาศัยตลอด 24 ชั่วโมง กับ “COCORO” แอปพลิเคชันเพื่อการอยู่อาศัยที่จะทำให้ชีวิตลูกบ้านง่ายขึ้น

ปิยะวรรณ ได้ยกตัวอย่างประสบการณ์จริงจากพนักงานผ่าน SURE WORRY FREE แผนก Customer Service Centre เสมือนด่านหน้าที่รับเคสประสานไปยังฝ่ายอื่นๆ เพื่อให้บริการลูกค้าได้เร็ว..ชัวร์ ไม่มีติดขัด มีลูกบ้านที่ใช้ภาษามือได้อย่างเดียวติดต่อขอความช่วยเหลือ เราจึงเร่งติดตามงานซ่อมและทีมหลังการขายทันทีเพื่อคลายข้อกังวลให้ลูกค้า เคสนี้ใช้เวลาทั้งหมด 20 นาที ในการประสานงาน เรียกว่าก้าวข้ามกำแพงทางภาษา สื่อสารกันได้โดยเข้าใจ หมดกังวล

SURE COMMUNITY นิติบุคคล จาก ANANDA SURE ในฐานะนิติบุคคลที่ทำหน้าที่ดูแลลูกบ้าน หลายครั้งลูกบ้านเจ็บป่วย ต้องการความช่วยเหลือ โดยเราเคยช่วยดูแลลูกบ้านหลังผ่าตัดสมอง ความตั้งใจของเราทำให้ลูกบ้านและญาติประทับใจ และเป็นเสียงชื่นชมมาถึงเรา

ปิดท้ายกับ SURE QUALITY มีเคสแจ้งซ่อมผ่านแอปฯ “COCORO” แต่เมื่อทีมช่างไปถึงหน้างานพบว่า มีจุดอื่นที่ต้องแก้ไขเพิ่มเติมด้วย ดังนั้น แม้จะแจ้งซ่อมจุดเดียว แต่ถ้าเจอปัญหาอื่นเพิ่ม เราแก้ไขให้ทันที…ชัวร์ ให้ลูกบ้านสบายใจไม่ต้องกังวล

ความสุขในการอยู่อาศัย และการดูแลลูกบ้านแบบ “ANANDA SURE” เป็นคีย์ซัคเซสที่จะทำให้ อนันดาฯ รักษาความเป็น “URBAN LIVING SOLUTIONS” ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองรุ่นใหม่ใช้ชีวิตอย่างมั่นใจ ไร้กังวล มีคุณภาพมากขึ้นกว่าเดิม

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


‘แอลพีพี’เดินหน้าลุยนิวเอสเคิร์ฟรุก‘ซ่อมบำรุงอาคารเก่า’คู่แข่งน้อย

แอลพีพี บริษัทในเครือแอลพีเอ็น รับมือตลาดแข่งดุ ปัจจัยลบขึ้นค่าแรงดันเงินเฟ้อพุ่ง พลิกเกมรุกนิวเอสเคิร์ฟ บุกธุรกิจซ่อมบำรุงอาคารเก่า รับขายบ้าน คอนโดมือหนึ่ง รับบริหารเซอร์วิสอาร์พาร์ตเมนต์ เล็งเระดมทุนในตลาดเอ็ม เอ ไอ เม.ย.67 คาดสิ้นปีหน้ารายได้แตะ 1.8 พันล้าน

สถานการณ์ในตลาดมีทั้งปัจจัยบวกและลบ โดยจากนโยบายปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ 400-450 บาทต่อวัน หนึ่งในนโยบายรัฐบาลนายกรัฐมนตรี  “เศรษฐา ทวีสิน” เพื่อเพิ่มรายได้ประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น ขณะเดียวกันส่งผลต่อภาวะเงินเฟ้อ และกระทบภาคธุรกิจในด้านต้นทุนค่าแรงที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 10% โดยเฉพาะธุรกิจรักษาความปลอดภัย ที่มีค่าล่วงเวลาเพิ่มขึ้น ขณะที่ธุรกิจบริหารจัดการอาคารมีการแข่งขันรุนแรงขึ้นเช่นกัน

นายสุรวุฒิ สุขเจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด หรือ LPP ผู้ดำเนินธุรกิจบริการจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร บริษัทในเครือแอลพีเอ็น (LPN) กล่าวว่า จากเดิมบริษัทโฟกัสที่ตลาดธุรกิจพร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเมนต์ ในโครงการคอนโดมิเนียม สำนักงาน ศูนย์การค้า และอาคารประเภทอื่นๆ  บริษัทเริ่มต่อจิ๊กซอว์สู่การบริการโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างครบวงจร เพื่อรับมือการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในธุรกิจบริการบริหารจัดการอาคารทั่วประเทศ มูลค่า 20,000-30,000 ล้านบาท 

โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่แข่งขันอย่างดุเดือด เมื่อลูกค้าที่เป็นคณะกรรมการโครงการให้ความสำคัญเรื่องราคามากขึ้น ทำให้ผู้ให้บริการจัดการอาคารจากต่างชาติลดราคาลงมาชนกับผู้ให้บริการจัดการอาคารในประเทศมากขึ้น
 

ปรับค่าแรง-โอที รปภ. ดันต้นทุนพุ่ง

“รวมทั้งนโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400-450 บาทต่อวันของรัฐบาลจากเดิมที่อยู่ที่ 353 บาท ในกรุงเทพฯ  ล่าสุดทางกระทรวงแรงงาน เตรียมออกกฎกระทรวง ปลดล็อกชั่วโมงการทำงาน ให้ได้รับค่าล่วงเวลา หรือ OT เพิ่มขึ้น 1.5  เท่าของค่าแรง ทำให้นิติบุคคลต้องจ่ายค่าจ้าง รปภ.เพิ่มขึ้น จากหัวละ 20,000 บาท เป็นหัวละ 30,000 บาท สูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำ เพราะด้วยธรรมชาติของงาน รปภ.เข้ากะเกิน 8 ชั่วโมง และต่อให้ลดจำนวน รปภ.ลง แต่ทำได้จำกัดนั่นหมายความว่าต้นทุนเพิ่มขึ้น”

นายสุรวุฒิ กล่าวว่า แม้ว่า ปัจจุบันรายได้หลักของแอลพีพี จะมาจากธุรกิจบริหารจัดการโครงการ 60%  อีก 20% มาจาก ลุมพินี โปรเจค มาเนจเมนท์ เซอร์วิส จำกัด (LPS) และอีก 20% จาก บริษัท รักษาความปลอดภัย แอลเอสเอส โซลูชั่น จำกัด (LSS) แต่ในอนาคตสัดส่วนเปลี่ยนไป โดยจะมาจากลุมพินี โปรเจค มาเนจเมนท์ เซอร์วิส จำกัด (LPS) เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพสูง ที่จะเป็น “นิวเอสเคิร์ฟ” ให้กับองค์กร

ทั้งนี้เนื่องจากมีความต้องการสูง ในการรีโนเวทอาคารสูงในกรุงเทพฯ ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ 30 ปีที่ผ่านมามีจำนวนมาก และยังมีอาคารใหม่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ต้องการการบำรุงรักษาจากมืออาชีพ เพื่ออัพเกรดอาคารให้ทันสมัย มีมูลค่าเพิ่มขึ้น ตามเทรนด์ประหยัดพลังงาน ไอโอที หรือ สมาร์ตบิวดิ้ง จึงเป็นโอกาสที่ดีของการเข้ามารุกธุรกิจซ่อมบำรุงอาคารเก่า

ปั้นนิวเอสเคิร์ฟเพิ่มรายได้-ลดความเสี่ยง

ล่าสุด ทาง LPS ได้ซื้อหุ้นบริษัท พี ดับบลิว กรุ๊ป เอ็นจิเนียริ่ง จํากัด (PW Group) 60% เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรุกธุรกิจซ่อมบำรุงอาคารเก่าและขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล อาคารสำนักงาน ฯลฯ เพื่อสนับสนุนการดําเนินธุรกิจให้เป็นไปตามแผนสร้างนิวเอสเคิร์ฟเสริมความแข็งแกร่งให้บริษัทในระยะยาว 

“ตลาดปรับปรุงอาคารเก่าเป็นโอกาสทางธุรกิจที่มีศักยภาพสูง คู่แข่งน้อยราย”

พร้อมกันนี้ บริษัทเปิดรับบริหารเซอร์วิสอาร์พาร์ตเมนต์ ในรูปแบบของการลงทุนพัฒนาปรับปรุงอพาร์ตเมนต์ หอพัก และพัฒนางานบริการให้กับอาคารเพื่อสร้างรายได้จากการเช่าในระยะยาว เพิ่มศักยภาพในการขยายรายได้และกำไรของบริษัท ล่าสุดรับงานโครงการ U-Center ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

โดย แอลพีพี ได้รับสัมปทานปรับปรุงหอพัก เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้เช่าและสร้างรายได้จากการเช่าให้แอลพีพี โดยบริษัทมีแผนพัฒนาอีกหลายโครงการของมหาวิทยาลัย และหอพักต่างๆ ที่มีจำนวน 100 ห้องขึ้นไป ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจา นอกจากนี้บริษัทยังได้รับขายบ้าน คอนโดมิเนียมมือหนึ่ง สำหรับดีเวลลอปเปอร์รายเล็กที่ไม่มีเซลล์เป็นของตนเอง เริ่มจากโครงการบ้านขนาดเล็กก่อน

เล็งเข้าระดมทุนในเอ็มเอไอปี 67

นายสุรวุฒิ กล่าวว่า จากแผนดังกล่าว บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถสร้างรายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 2,400 ล้านบาทในปี 2569 ตามที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ สำหรับปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ 1,550 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 1,800 ล้านบาท ในปีหน้า  หลังจากเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เดือน เม.ย. 2567  ซึ่งการระดมทุนจะนำมาใช้ขยายงานตามแผนที่วางไว้ โดยแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (FA)

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 7ธ.ค. “อ่อนค่า” ที่ระดับ 35.21 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มแกว่งตัว sideway มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.10-35.35 บาท/ดอลลาร์ ติดตามปัจจัย “อัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ย. ของไทย สัญญาณเงินทุนต่างชาติ ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก  และตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ”

ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 7ธ.ค. 2566ที่ระดับ  35.21 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  35.16 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน  พานิชพิบูลย์  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน  ธนาคารกรุงไทยระบุว่า แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า เงินบาทยังมีแนวโน้มแกว่งตัว sideway ในกรอบ โดยเงินบาทยังมีความเสี่ยงที่จะผันผวนอ่อนค่าลงได้บ้าง ตามจังหวะการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ในช่วงตลาดการเงินผันผวน ซึ่งบรรยากาศในตลาดการเงินสหรัฐฯ ที่ยังคงไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยง

รวมถึง ความกังวลแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน หากรายงานยอดการส่งออกและนำเข้าของจีน ออกมาแย่กว่าคาด ก็อาจกระทบต่อฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติในฝั่งตลาดหุ้นไทยได้ นอกจากนี้ การปรับตัวลดลงต่อเนื่องของราคาน้ำมันดิบใกล้โซนแนวรับสำคัญ ก็อาจหนุนให้ผู้เล่นในตลาดต่างทยอยเข้าซื้อน้ำมันดิบในจังหวะย่อตัว และโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็อาจกดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงได้บ้าง

อย่างไรก็ดี เรามองว่า การอ่อนค่าของเงินบาทอาจเป็นไปอย่างจำกัด โดยเงินบาทอาจติดอยู่ในโซนแนวต้าน 35.30-35.40 บาทต่อดอลลาร์ ตามแรงขายเงินดอลลาร์ของผู้ส่งออกบางส่วน นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่ ต่างก็รอลุ้นรายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้

 ทั้งนี้ เราคงประเมินว่า เงินบาทจะยังไม่สามารถกลับมาแข็งค่าได้ชัดเจน จนกว่าจะมีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุนเพิ่มเติม ทำให้ เงินบาทก็อาจยังมีโซนแนวรับแถว 35.10-35.15 บาทต่อดอลลาร์ ในระยะสั้นนี้ (แนวรับสำคัญถัดไป 35 บาทต่อดอลลาร์)

ในช่วงนี้ ทุกสินทรัพย์ยังอยู่ในช่วงเผชิญความผันผวนสูง ทำให้เราคงคำแนะนำว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และนอกเหนือจากการใช้เครื่องมือดังกล่าว การเลือกทำธุรกรรมในสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency) ก็เป็นอีกแนวทางในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจ ซึ่งผู้ประกอบการควรเปรียบเทียบต้นทุนในการทำธุรกรรมและแผนการป้องกันความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทุกครั้ง

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.10-35.35 บาท/ดอลลาร์

โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนอ่อนค่าลง (แกว่งตัวในช่วง 35.07-35.24 บาทต่อดอลลาร์) โดยเงินบาทได้ทยอยแข็งค่าขึ้น ตามการย่อตัวลงของเงินดอลลาร์ และการรีบาวด์ขึ้นของราคาทองคำ ในช่วงหลังตลาดรับรู้รายงานยอดการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐฯ

โดย ADP ที่ออกมาแย่กว่าคาด ก่อนที่เงินบาทจะพลิกกลับมาอ่อนค่าลง หลังเงินดอลลาร์ได้ทยอยแข็งค่าขึ้น ตามความต้องการถือเงินดอลลาร์เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงตลาดการเงินสหรัฐฯ ผันผวนและปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) จากความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจชะลอตัว

บรรยากาศในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง หลังผู้เล่นในตลาดกังวลต่อแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ มากขึ้น จากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด อย่าง ยอดการจ้างงานภาคเอกชนโดย ADP ที่เพิ่มขึ้นเพียง 1.03 แสนตำแหน่ง น้อยกว่าที่ตลาดคาดไว้ 1.3 แสนตำแหน่ง โดยภาพดังกล่าวได้ส่งผลให้ผู้เล่นในตลาดต่างลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงลง กดดันให้ดัชนี S&P500 ปิดตลาด -0.39%

ส่วนในฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี stoxx600 ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง +0.52% หนุนโดยความหวังของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยในปีหน้าของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งส่งผลให้บรรดาหุ้นสไตล์ Growth และหุ้นกลุ่มเทคฯ ต่างปรับตัวขึ้นต่อได้ Hermes +1.2%, ASML +0.9% อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นยุโรปกลับถูกกดดันจากการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน Shell -1.4%, BP -1.3%  หลังราคาน้ำมันดิบต่างปรับตัวลดลงต่อเนื่อง

ในฝั่งตลาดบอนด์ ภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินสหรัฐฯ รวมถึงรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุด ที่ออกมาแย่กว่าคาด ยังคงส่งผลให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ย่อตัวลงใกล้ระดับ 4.11% อย่างไรก็ดี เรามองว่า ควรระวังความเสี่ยงที่ บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อาจผันผวนสูงขึ้นได้บ้าง

หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ โดยเฉพาะ ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) ในวันศุกร์นี้ออกมาดีกว่าคาด ทั้งนี้ หากบอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้น เรายังคงมุมมองเดิมว่า ผู้เล่นในตลาดสามารถทยอยเข้าซื้อบอนด์ระยะยาวได้ (เน้นกลยุทธ์รอจังหวะ Buy on Dip)

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น แม้ว่าในช่วงแรกจะย่อตัวลงตามรายงานยอดการจ้างงานภาคเอกชนโดย ADP ที่ออกมาแย่กว่าคาด ทว่า เงินดอลลาร์ยังพอได้แรงหนุนจากความต้องการถือเงินดอลลาร์เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงตลาดการเงินผันผวนและปิดรับความเสี่ยง ทำให้ล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้ปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 104.2 จุด (กรอบ 103.8-104.2 จุด) 

ในส่วนของราคาทองคำ แม้ว่าบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ จะทยอยย่อตัวลง แต่การแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ก็ยังคงกดดันให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ.) ยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ โดยราคาทองคำยังคงแกว่งตัวใกล้ระดับ 2,040 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นโซนแนวรับระยะสั้น ทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนรอจังหวะทยอยเข้าซื้อทองคำในโซนดังกล่าวและ

โฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนช่วยกดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลง ส่วนแนวต้านของราคาทองคำในช่วงนี้อาจอยู่ในโซน 2,050 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเราคาดว่า ผู้เล่นในตลาดที่เข้าซื้อทองคำในจังหวะย่อตัวอาจใช้จังหวะการรีบาวด์ขึ้นของราคาทองคำในการทยอยขายทำกำไรได้ โดยในกรณีดังกล่าว โฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำก็จะพอช่วยชะลอการอ่อนค่าลงของเงินบาทได้

สำหรับวันนี้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าสนใจจะอยู่ในฝั่งเอเชียเป็นหลัก โดยผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานยอดการส่งออก (Exports) และยอดการนำเข้า (Imports) ของจีน ในเดือนพฤศจิกายน เพื่อประเมินแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน

ส่วนในฝั่งไทย ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI เดือนพฤศจิกายน ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์ต่างคาดว่า จะอยู่ที่ระดับ -0.3% ไม่ต่างจากเดือนก่อนหน้า ท่ามกลางแนวโน้มการปรับตัวลดลงของราคาเนื้อสัตว์ ราคาพลังงาน และผลของระดับฐานราคาสินค้าและบริการที่อยู่ในระดับสูงในปีก่อนหน้า 

ส่วนในฝั่งสหรัฐฯ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มตลาดแรงงานสหรัฐฯ ผ่านรายงายยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) โดยผู้เล่นในตลาดอาจรอจับตา ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานต่อเนื่อง (Continuing Jobless Claims) ซึ่งจะสะท้อนถึงความยากลำบากในการหางาน ว่าจะยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องหรือไม่ 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 35.20-35.22 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 35.15 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยเงินบาทขยับอ่อนค่าลงเล็กน้อย หลังเปิดตลาดที่ระดับประมาณ 35.16 บาทต่อดอลลาร์ฯ

ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ยังคงมีแรงหนุนจากแรงซื้อคืนเงินดอลลาร์ฯ ก่อนการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในช่วงปลายสัปดาห์ ประกอบกับน่าจะได้รับอานิสงส์ทางอ้อมจากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจกลับมาผ่อนคลายนโยบายการเงินในปีหน้าด้วยเช่นกัน 

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 35.05-35.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ย. ของไทย สัญญาณเงินทุนต่างชาติ ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก  และตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


สดไม่กลัวเก๋า! “โจฮัน” พร้อมงัดตำราบู๊ “เอ็ดการ์” ศึก ONE Fight Night 17

“โจฮัน กาซาลี” พร้อมใช้พลังหนุ่มเปิดเกมบู๊สุดกำลัง หวังเอาชนะคู่แข่งมากประสบการณ์ “เอ็ดการ์ ทาบาเรส” เผยงานนี้ต้องน็อกสถานเดียว

อีกเพียงไม่กี่อึดใจแฟนกีฬาการต่อสู้ทั่วโลกจะได้พบกับ “โจฮัน กาซาลี” หนุ่มลูกครึ่งมาเลเซีย-อเมริกัน วัย 17 ปี พร้อมประเดิมศึก ONE รายการใหญ่ครั้งแรก เผชิญหน้า “เอ็ดการ์ ทาบาเรส” ยอดฝีมือ วัย 29 ปี จากเม็กซิโก โดยมีนัดดวลกันในกติกามวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) ศึก ONE Fight Night 17 ที่จะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ช่วงเวลาไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับช่วงเช้าเวลา 08:00 น. ของวันเสาร์ที่ 9 ธ.ค. 66

สำหรับ “โจฮัน” ถือเป็นมวยพลังหนุ่มคลื่นลูกใหม่ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรงและเป็นที่จับตาของแฟนมวยทั่วโลก โดยเขาเปิดตัวในศึก ONE ลุมพินี ด้วยชัยชนะเหนือ “เผด็จศึก แฟร์เท็กซ์” เพียง 16 วินาทีเท่านั้น จนปัจจุบันหนุ่มจากแดนมาลายูรายนี้กำชัยบนเวทีแห่งนี้ทั้งหมด 4 ไฟต์รวด และเป็นการน็อกคู่ต่อสู้ได้ถึง 3 ครั้ง จนกระทั่งสามารถพิชิตใจ “บิ๊กบอส” ชาตรี ศิษย์ยอดธง คว้าสัญญานักกีฬา ONE ไปครอง เมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา

มาถึงตอนนี้ “โจฮัน” กำลังจะได้โอกาสเปิดตัวในศึก ONE รายการใหญ่ครั้งแรก โดยเผชิญหน้ากับ “เอ็ดการ์” อดีตผู้ท้าชิงเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต กับ “รถถัง จิตรเมืองนนท์” มาแล้ว

แม้หลายคนมองว่า “เอ็ดการ์” มีประสบการณ์บนสังเวียนที่เหนือกว่า แต่สำหรับ “โจฮัน” เขากลับไม่ได้สนใจในเรื่องนี้ เพราะสิ่งเดียวที่มีอยู่ในหัวของเขา คือการเดินหน้าเปิดตำราบู๊สุดกำลัง หวังพิชิตหนุ่มผมยาวชาวเม็กซิกันแบบไม่ครบยก

“ผมก็ไม่เห็นอะไรในตัว เอ็ดการ์ ที่จะสร้างความลำบากใจให้ผมได้เลยจริงๆ แต่ผมก็จะไม่ประเมินค่าเขาต่ำไป เพราะระดับของนักสู้ใน ONE นั้นสูงอยู่แล้ว ที่สำคัญ ใครๆก็ร่วงได้ในนวมขนาด 4 ออนซ์ ผมจึงต้องเตรียมพร้อมและทำให้เต็มที่ครับ”

“แผนของผมคือเดินกดดัน เอ็ดการ์ จนกว่าจะพังกันไปข้าง ผมอยากให้มันจบลงเร็วๆ และมันคงจะเป็นเรื่องที่บ้ามากถ้าผมทำลายสถิติน็อก 16 วินาทีของผมลงได้ ที่สำคัญมันคงดีไม่น้อยหากผมได้รับโบนัสในไฟต์นี้ครับ”

การโชว์ฟอร์มอันน่าทึ่งของ “โจฮัน” ทำให้เขามีฐานแฟนคลับมากมาย หลายคนได้เปรียบฝีมือเขาราวกับว่าเป็น “รถถัง” แห่งมาเลเซีย แม้หนุ่มสองสายเลือดรายนี้จะรู้สึกเป็นปลื้มในใจ แต่ลึกๆข้างใน เขาก็อยากให้แฟนๆจดจำเขาในฐานะ “โจฮัน” และหวังว่าสักวันเขาจะสามารถพิชิตความฝันก้าวขึ้นครองบัลลังก์ได้สำเร็จ ไม่ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับใครในอนาคตก็ตาม

“มันเจ๋งมากที่มีคนเอาผมไปเปรียบกับนักชกระดับตำนาน แม้แต่ในประเทศมาเลเซีย เขาตั้งชื่อเล่นให้ผมว่า ‘รถถังมาเลย์’ แต่บอกตามตรง ผมไม่อยากถูกจดจำในฐานะ ‘รถถังน้อย’ ผมอยากให้คนจดจำผมในฐานะ โจฮัน กาซาลี ครับ”

“แน่นอนว่าความฝันของนักสู้ทุกคนคือการเป็นแชมป์โลก ONE ผมเองก็ไม่ต่างจากคนอื่นๆ ซึ่งมันคงจะดีไม่น้อยถ้าสักวันผมจะได้ชกชิงแชมป์โลก แต่ตอนนี้ผมกำลังพยายามไต่บันไดทีละขั้นเพื่อบรรลุความฝันนั้นให้ได้ครับ”

แฟนกีฬาสามารถจองบัตรเข้าชมศึก ONE Fight Night 17 ในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR และติดตามข่าวสารอัปเดตของศึกนี้ได้ที่เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand, เว็บไซต์ ONEFC.com และอินสตาแกรม ONEChampTh

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


วิธีแก้ไข “อาการนอนกระตุก” เพื่อการนอนหลับอย่างเต็มอิ่ม

ในแต่ละวันเราควรนอนพักผ่อนไม่น้อยกว่า 8 ชั่วโมง เพื่อที่จะมีพลังงานต่อการทำกิจกรรมต่างๆ ในวันถัดไป บางคนนั้นกลับรู้สึกว่าตนเองนอนเพียงพอแล้ว แต่ยังตื่นมารู้สึกมีอาการอ่อนเพลียตลอดเวลา วันนี้ Hello คุณหมอ มีวิธีแก้ไขให้คุณได้นอนเต็มอิ่มและพ้นจาก อาการนอนกระตุก กัน

อาการนอนกระตุก มาจากกล้ามเนื้อส่วนไหน ?

อาการกระตุกของกล้ามเนื้อ (Myoclonus) เกิดจากกลุ่มกล้ามเนื้อมัดเดี่ยวขนาดเล็ก ส่วนมากมักจะเกิดขึ้นทีละจุด

แต่ในบางครั้งอาจเกิดได้พร้อมกันทั่วร่างกาย โดยทั่วไปกล้ามเนื้อกระตุกจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวและค่อย ๆ หายได้เองภายในไม่กี่วัน หรือมีอาการอื่นร่วมด้วยในบริเวณที่เกิดการกระตุก เช่น รู้สึกเหน็บชา กล้ามเนื้ออ่อนแรง

หากมีอาการกระตุกถี่อย่างต่อเนื่องและเป็นระยะเวลานานควรเข้าพบแพทย์ เพื่อค้นหาสาเหตุและรับการรักษาอย่างถูกวิธี เพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคอื่นร่วมด้วย

อาการกล้ามเนื้อกระตุกสามารถเกิดขึ้นกับใครได้บ้าง ?

ผลวิจัยจากนักวิจัยชาวอิตาลีกล่าวว่า อาการกระตุกของกล้ามเนื้อสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศไม่ว่าจะหญิงหรือชายและสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกช่วงวัย  60-70% เลยทีเดียว

สาเหตุที่ทำให้เรามีอาการนอนกระตุกขณะหลับ

การกระทำเหล่านี้ คือสาเหตุของอาการนอนกระตุกจนทำให้คุณนอนไม่เต็มอิ่ม และสามารถส่งผลเสียไปถึงสุขภาพร่างกายต่าง ๆ ที่อาจตามมาได้

  1. การออกกำลังกาย โดยเฉพาะเป็นการออกกำลังกายในช่วงเย็น เนื่องจากทำให้กระบวนการเผาผลาญพลังงานทำงานหนัก เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกล้ามเนื้อกระตุกในขณะที่คุณพักผ่อน
  2. คาเฟอีน ควรลดคาเฟอีน นิโคตินและสารกระตุ้นอื่น ๆ เพราะอาจทำให้เกิดการรบกวนการทำงานของสมองส่งผลให้คุณนอนหลับยาก หรือนอนไม่หลับเลยตลอดทั้งคืน และยังเพิ่มความถี่การกระตุกของกล้ามเนื้ออีกด้วย
  3. ความเครียดและความวิตกกังวล ทำให้การทำงานของสมองหรือจิตใจของคุณไม่หยุดนิ่งและตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา แม้ในขณะที่คุณกำลังหลับอยู่ก็ตาม อาจมีแนวโน้มกล้ามเนื้อกระตุกโดยไม่สมัครใจและตื่นขึ้นบ่อยในกลางดึก
  4. ลักษณะการนอน เช่น การนอนคว่ำ ซึ่งอาจทำให้หายใจไม่ออกอาจนำไปสู่การกระตุกของกล้ามเนื้อ  

วิธีแก้ไข “อาการนอนกระตุก” เพื่อการนอนหลับอย่างเต็มอิ่ม

  1. ค่อย ๆ ยืด และนวดกล้ามเนื้อที่มีอาการกระตุกเกร็ง หรือมีเหน็บชาร่วมด้วย
  2. ใช้ความเย็นประคบกับกล้ามเนื้อที่มีการเกร็งเจ็บ เช่น น้ำแข็ง เจลเย็น
  3. หลีกเลี่ยงการดื่มคาเฟอีน
  4. งดการออกกำลังกายในช่วงเย็น หันมาเปลี่ยนเวลาเป็นช่วงเช้าหรือช่วงบ่ายแทน
  5. คลายความเครียดและวิตกกังวล โดยการทำกิจกรรมอื่น ๆ เช่น การฟังเพลงก่อนนอน ฝึกสมาธิผ่อนคลาย บางคนใช้สมาธินำทาง กำหนดลมหายใจช้าๆ ลึก ๆ เป็นเวลา 5 นาทีอาจช่วยให้ลดระดับความเครียดลงได้
  6. หลีกเลี่ยงยากระตุ้นอื่น ๆ และแอลกอฮอล์ อาจนำไปสู่การนอนไม่หลับ
  7. ควรเข้ารับขอคำปรึกษาจากแพทย์ถึงการใช้ยาอื่นร่วมกับอาการกระตุก เพื่อความปลอดภัย

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


บทสนทนา+ศัพท์น่ารู้ที่ใช้ในร้านอาหาร

ประโยคยอดนิยม ที่มักใช้ในร้านอาหาร

Do you have any tables available?
คุณมีโต๊ะว่างบ้างมั้ย ?

We are fully booked.
โต๊ะร้านเราเต็มหมดแล้ว

The restaurant is full now.
ร้านของเราเต็มแล้วค่ะ

I’d like to book a table, please.
ฉันต้องการจะจองโต๊ะล่วงหน้า

I’d like to make a reservation.
ฉันต้องการจะจองโต๊ะ

Do you have a reservation?
คุณได้จองโต๊ะไว้รึเปล่าครับ?

That table is already reserved.
โต๊ะนั้นมีคนจองแล้วค่ะ

I’ve got a reservation.
ผมจองเอาไว้แล้วครับ

Under what name?
ใช้ชื่ออะไรจองไว้ครับ?

Who’s the reservation for?
จองไว้ในนามของใครครับ ?

How many people?
กี่ท่านคะ ?

How many seats?
กี่ที่คะ ?

Table for…please.
ขอโต๊ะสำหรับ…(จำนวนคน)…คนค่ะ

Could you follow me, please.
เชิญเดินตามผมมาเลยครับ

Could I see the menu, please.
ขอเมนูหน่อยได้มั้ยคะ ?

What would you like to eat ?
คุณต้องการจะทานอะไรดีคะ?

Would you like to see the menu?
คุณต้องการเมนูมั้ยครับ?

Would you like to order now?
คุณต้องการจะสั่งอาหารเลยมั้ยครับ?

Are you ready to order?
คุณพร้อมที่จะสั่งอาหารเลยมั้ยคะ?

I’ll be back for your order in a moment.
อีกสักครู่ ดิฉันจะกลับมารับออเดอร์นะคะ

What do you have for today?
วันนี้มีอาหารอะไรบ้างคะ

What tasty dishes do you have?
ร้านนี้มีอาหารอร่อยแนะนำมั้ยครับ?

What’s the special menu for today?
วันนี้มีเมนูพิเศษมั้ยครับ?

Do you have any recommended dishes?
ร้านคุณมีรายการอาหารแนะนำบ้างมั้ยคะ?

Could you recommend something?
คุณช่วยแนะนำหน่อยได้มั้ยครับ?

Can I have…?
ฉันขอ…(ชื่ออาหาร) /เป็นประโยคสั่งอาหาร

This is not what I ordered.
ฉันไม่ได้สั่งจานนี้ค่ะ

Bill please.
คิดเงินด้วยครับ

Do you accept credit cards?
คุณรับบัตรเครดิตมั้ย?

Cash only.
รับเฉพาะเงินสดค่ะ

Please pay at the cashier.
ชำระเงินที่แคชเชียร์นะคะ

Here’s your change, sir.
เงินทอนครับ

คำศัพท์น่ารู้ในร้านอาหาร

Appetizer / Starter
อาหารเรียกน้ำย่อย

Main course
อาหารจานหลัก

Drink
เครื่องดื่ม

Dessert
ของหวาน

Tax
ภาษี

regional dish
อาหารพื้นบ้าน

Well-done
เนื้อสุก

raw
ดิบ

dish
จาน

tasty
รสชาติดี / อร่อย

reservation
จองโต๊ะ

recommend
แนะนำ

Cash
เงินสด

Pay
จ่าย

ขอบคุณข้อมูลจาก dailyenglish.in.th


นิวซีแลนด์ เตรียมออกกฎแบนการใช้มือถือในโรงเรียนทั่วประเทศ

Christopher Luxon (คริสโตเฟอร์ ลักสัน) นายกรัฐมนตรี นิวซีแลนด์ คนใหม่ ได้ออกมาประกาศออกฎว่าเขาได้ส่งเสริมไม่ให้ใช้มือถือในโรงเรียนประถมศึกษา / มัธยมศึกษา ทั่วประเทศ เพื่อมุ่งเน้นเรื่องการปรับปรุงคุณภาพของการศึกษาในกลุ่มนั้น

ซึ่งแหล่งข้อมูลได้เผยว่า ทักษะของเด็กในกลุ่มวัยศึกษาทั้ง 2 กลุ่มกลับลงดลงอยู่ในระดับ “วิกฤติ” (Crisis) โดยเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี กว่า 1 / 3 ของนักเรียนทั้งหมด ในด้านทักษะการอ่านและเขียนไม่ดีเท่าไหร่ ซึ่งส่งผลต่อความกังวลทางด้านทุกสายงาน

ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เปิดตัดสินใจว่า ภายใน 100 วันหลังจากที่ได้รับตำแหน่งเขาก็จะผลักดันเรื่องนโยบายการใช้งานมือถือที่โรงเรียนเพื่อลดสิ่งรบกวนสมาธิของนักเรียน เพื่อให้เกิดสมาธิมากขึ้นนั่นเอง

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


มะม่วงหาว มะนาวโห่ มีสรรพคุณทางยามากถึง 50 ประการ

ถ้าจะพูดถึงผลไม้ในบ้านเราที่ให้สรรพคุณทางยาก็มีอยู่หลากหลายชนิด แต่มีอยู่ชนิดหนึ่งที่ชื่อเรียกนั้นสะดุดหูซะเหลือเกินว่า “มะม่วงหาว มะนาวโห่” หลายคนที่เคยได้ยินชื่อนี้ก็ยังสงสัย สรุปแล้วมันเป็นมะม่วง หรือเป็นมะนาว แล้วทำไมต้องทั้งหาวและร้องโห่ แต่ในความเป็นจริงแล้วผลไม้ชนิดนี้ไม่ได้เป็นทั้งมะม่วงและมะนาวอย่างที่จินตนาการกัน ซึ่งที่มาของชื่อนั้นก็ถูกตั้งโดยนักวิชาการส่งเสริมการเกษตร โดยบอกเพิ่มอีกว่าที่ตั้งชื่อนี้ก็เพื่อให้คล้องกับชื่อผลไม้ในวรรณคดี เรื่อง นางสิบสอง ตอน พระรถเมรี ที่ความตอนหนึ่งของเรื่องได้พูดถึงผลไม้สดที่มีรสชาติเปรี้ยวจัด ขนาดว่าทำให้คนที่ง่วงนอนอยู่รู้สึกกระชุ่มกระชวยและตื่นตัวขึ้นมาในทันควัน

มะม่วงหาว มะนาวโห่ นับว่าเป็นผลไม้ยอดนิยมที่ถูกจับตามองในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา มีชื่อเรียกเต็มๆ ว่า “มะม่วงไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่” ซึ่งถ้าเรียกสั้นๆ ก็น่าจะเข้าปากมากกว่า ผลไม้ชนิดนี้ได้รับความสนใจจากผู้ที่รักสุขภาพเป็นอย่างมาก เพราะในวงการแพทย์ก็ได้วิจัยออกมาพบว่ามีสรรพคุณทางยามากถึง 50 ประการ ครั้นจะนำไปใช้รักษาโรค หรือรับประทานควบคู่กับยาแผนปัจจุบันก็จะได้ผลที่ดียิ่งขึ้น

คุณสมบัติที่สำคัญของ “มะม่วงหาว มะนาวโห่”

ก็เห็นจะเป็นเรื่องของการ ป้องกันมะเร็ง เพราะภายในผลไม้ชนิดนี้มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยบำรุงโลหิต ชะลอการแก่ก่อนวัย ป้องกันโรคหัวใจ ขยายหลอดเลือด รักษาปอด รวมไปถึงอาการถุงลมโป่งพองก็ช่วยบรรเทาให้ดีขึ้นได้ ด้วยเหตุนี้จึงไม่แปลกใจว่าทำไมผลไม้ที่มีชื่อแปลกหูถึงได้รับความนิยม ขนาดว่าต้องควานหาซื้อมารับประทาน ตลอดจนหามาปลูกไว้เป็นไม้ประดับภายในบริเวณบ้านอีกด้วย

จากผู้ที่นิยมสมุนไพรให้ความรู้กับเราเพิ่มเติมมาว่า “มะม่วงหาว มะนาวโห่” นั้นสามารถใช้ประโยชน์ได้จากทุกส่วนของลำต้น อีกทั้ง ก็ยังมีส่วนน้อยที่จะรู้ว่าจริงๆ แล้ว มะม่วงหาว มะนาวโห่ นั้นเป็นคนละต้น หรือเป็นพืชคนละชนิด คนละสายพันธุ์กัน โดย ‘มะม่วงหาว’ ก็คือ มะม่วงหิมพานต์ ส่วน ‘มะนาวโห่’ ก็คือ หนามแดง ซึ่งพืชทั้งสองชนิดนี้ก็มีสรรพคุณเพียบและช่วยบำรุงร่างกายได้ดีไม่แพ้กันเลยทีเดียว เพื่อให้ความกระจ่างเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น เราก็มีข้อมูลจาก องค์กรสวนพฤกษาศาสตร์ มาอธิบายขยายความแตกต่างของพืชทั้ง 2 ชนิดนี้… 

มะม่วงหาว

มะม่วงหาว” หรือชื่อเรียกจริงๆ คือ “มะม่วงหิมพานต์” เป็นไม้ต้นขนาดกลางที่สามารถสูงได้ถึง 10 เมตร มีใบเป็นสีเขียวเข้ม ออกดอกเป็นช่อหลวมๆ สีแดงอมม่วง หรือสีครีม มีกลิ่นหอมออกเอียนๆ โดยที่แต่ละดอกจะมี 5 กลีบ เมื่อดอกแก่ ฐานรองดอกก็จะขยายใหญ่ขึ้นมีลักษณะคล้ายกับชมพู่ยาวประมาณ 6 – 7 เมตร มีสีเหลืองอมชมพู หากว่าแก่จัดก็จะมีกลิ่นหอม มีเมล็ด 1 เมล็ดติดอยู่ที่ส่วนปลายเป็นสีน้ำตาลอมเทา มีเปลือกแข็งหุ้ม เรียกว่า ‘เม็ดมะม่วงหิมพานต์’ 

สรรพคุณทางยา ของ มะม่วงหาว

  • ผล : ช่วยฆ่าเชื้อ แก้โรคลักปิดลักเปิด พอกดับพิษ อีกทั้งยังช่วยขับปัสสาวะ
  • เมล็ด : ช่วยแก้อาการเนื้อหนังชาในโรคเรื้อน แก้ตาปลา แก้โรคผิวหนัง กลากเกลื้อน แก้เนื้องอก บำรุงกระดูก บำรุงไขข้อ บำรุงเส้นเอ็น บำรุงผิวหนัง ไปจนกระทั่งถึงช่วยในการบำรุงกำลัง
  • เปลือก : ช่วยในเรื่องการขับน้ำเหลืองเสีย แก้บิด แก้กามโรค แก้อาการท้องเสีย แก้ปวดฟัน ฟอกดับพิษ อีกทั้งยังสามารถนำเมล็ดไปทำเป็นยาอมเพื่อรักษาแผลในปากได้อีกด้วย
  • ยอดอ่อน : ใช้รักษาโรคริดสีดวงทวาร
  • ยาง : ใช้แก้อาการเลือดออกตามไรฟัน ช่วยทำลายตาปลา โดยให้ยางเข้าไปเป็นตัวช่วยกัดทำลายเนื้อด้านในที่เป็นปุ่มโต รักษาแผลเนื้องอก รักษาหูด รักษากลาก โรคเท้าช้าง
  • น้ำมัน : ใช้ฆ่าเชื้อ เป็นยาชา ใช้รักษาโรคเรื้อน กัดหูด แก้ตาปลา แก้บาดแผลที่เน่าเปื่อย

50 สรรพคุณทางยา ของ มะม่วงหาว

  1. มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในเรื่องชะลอวัยและลดริ้วรอย (ผล)
  2. ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง (แก่น)
  3. แก้อาการอ่อนเพลีย เมื่อยล้า (เนื้อไม้)
  4. เพิ่มความกระชุ่มกระชวยให้กับร่างกาย (ผล)
  5. ช่วยให้เจริญอาหาร (ราก)
  6. มีส่วนช่วยในการลดความอ้วน (ผล)
  7. ช่วยขยายหลอดเลือดและป้องกันการเกิดโรคหัวใจ (ผล)
  8. มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดมะเร็ง (ผล)
  9. มีส่วนในการรักษาโรคเบาหวาน เนื่องจากมีธาตุเหล็ก (ผล)
  10. มีส่วนช่วยในการรักษาโรคโลหิตจาง (ผล)
  11. ช่วยรักษาโรคปอด (ผล)
  12. ช่วยรักษาโรคถุงลมโป่งพองที่เกิดจากการสูบบุหรี่ (ผล)
  13. ช่วยรักษาโรคไต (ผล)
  14. บรรเทาอาการโรคตับ อาทิ โรคตับแข็ง (ผล)
  15. ช่วยรักษาโรคเกาต์ (ผล)
  16. ช่วยรักษาและบรรเทาอาการโรคไทรอยด์ (ผล)
  17. ช่วยป้องกันโรคไหลตาย (ผล)
  18. ในประเทศบังคลาเทศนิยมใช้ใบในการรักษาโรคลมชัก (ใบ)
  19. มีส่วนช่วยบรรเทาอาการโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ชาตามมือตามเท้า (ผล)
  20. ช่วยบำรุงกำลัง (เนื้อไม้)
  21. ช่วยบำรุงธาตุ (ราก , แก่น , เนื้อไม้)
  22. ช่วยบำรุงไขมันในร่างกาย (แก่น , เนื้อไม้)
  23. รักษาไข้ รวมถึงไข้มาลาเลีย (ราก , ใบ)
  24. ช่วยดับพิษร้อน (ราก)
  25. ช่วยบรรเทาอาการของโรคภูมิแพ้ (ผล)
  26. ช่วยแก้และบรรเทาอาการไอ (ผล)
  27. ช่วยขับเสมหะ (ผล)
  28. มีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการปวดศีรษะ ไมเกรน (ผล)
  29. บรรเทาอาการเจ็บคอ เจ็บในปาก (ใบ)
  30. แก้อาการปวดหู (ใบ)
  31. ช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิด หรือโรคเลือดออกตามไรฟัน ทั้งยังช่วยสมานแผลที่เกิดในช่องปาก (ผล)
  32. ช่วยบำรุงกระเพาะอาหาร (ราก)
  33. แก้อาการท้องเสีย (ใบ)
  34. ช่วยรักษาโรคบิด (ใบ)
  35. ช่วยขับปัสสาวะ (ผล)
  36. ช่วยรักษาโรคริดสีดวงทวาร (ยอดอ่อน)
  37. ช่วยขับพยาธิ (ราก)
  38. ช่วยรักษาโรคเท้าช้าง (น้ำยาง)
  39. ช่วยฆ่าเชื้อ (ผล)
  40. ช่วยในการสมานแผล (ผล , ยาง)
  41. ใช้รักษาโรคผิวหนังเรื้อรัง (เปลือกต้น)
  42. ช่วยแก้อาการคัน (ราก)
  43. ในประเทศอินเดียนิยมใช้รากเพื่อรักษาแผลที่เกิดจากเบาหวาน (ราก)
  44. แก้กลากเกลื้อน (เมล็ด , น้ำยาง)
  45. แก้อาการเนื้อหนังชาในโรคเรื้อน (เมล็ด)
  46. ช่วยรักษาแผลเนื้องอก (น้ำยาง)
  47. ช่วยรักษาหูด (น้ำยาง)
  48. ช่วยทำลายตาปลาและช่วยกัดทำลายเนื้อด้านในที่เป็นปุ่มโต (น้ำยาง)
  49. ใช้พอกดับผิษ (ผล)
  50. ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อตามข้อ (ผล)

Advertisement

มะนาวโห่

“มะนาวโห่” หรือชื่อเรียกจริงๆ คือ “หนามแดง เป็นไม้พุ่มรอเลื้อย หรืออาจเรียกว่าเป็นไม้ต้นขนาดเล็กก็ได้ มีความสูงเพียง 5 เมตร มียางสีขาว ออกใบเดี่ยว ออกดอกเป็นช่อยาว มีกลีบดอกสีขาว หรือสีชมพู ออกผลเป็นรูปไข่สีแดงชมพู หรือดำ

สรรพคุณทางยา ของ มะนาวโห่

  • ผล : ช่วยรักษาอาการเลือดออกตามไรฟัน
  • ใบ : ช่วยแก้อาการเจ็บคอ เจ็บในปาก แก้ท้องเสีย อาการปวดแก้วหู หรือแม้แต่แก้ไข้ก็ทำได้
  • แก่น : ช่วยบำรุงธาตุ บำรุงไขมันในร่างกาย ทำให้ร่างกายมีสุขภาพที่แข็งแรง
  • เนื้อไม้ : ช่วยบำรุงธาตุ แก้อาการอ่อนเพลีย บำรุงกำลัง ทั้งยังช่วยบำรุงไขมันในร่างกายได้อีกด้วย
  • ราก : ใช้แก้อาการคัน บำรุงธาตุ ช่วยขับพยาธิ ทำให้เจริญอาหาร ดับพิษร้อน ช่วยบำรุงกระเพาะอาหาร ใช้แก้ไข้ได้อีกด้วย

หากมองย้อนกลับไป การที่ “มะม่วงหาว มะนาวโห่” กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยเฉพาะบรรดาคนที่รักสุขภาพ น่าจะหมายถึงผลของ “มะนาวโห่ หรือผลของ “หนามแดง” เสียมากกว่า เพราะมีการปลูกกันอย่างแพร่หลายในทุกพื้นที่ จากการสอบถามพบว่ามะนาวโห่เป็นพืชที่ดูแลง่าย ใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน อีกทั้งในแต่ละระยะของการออกผลก็จะให้สีที่แตกต่างกัน บางบ้านก็ปลูกเพื่อเป็นไม้ประดับด้วย ส่วนการนำผลมารับประทานก็จะต้องเป็นผลที่มีสีดำ จะให้รสชาติอมเปรี้ยว อมหวาน กินแล้วสดชื่น กระชุ่มกระชวย แถมยังมีประโยชน์มากมายอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


วันรัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคม ขึ้นทางด่วนฟรี 60 ด่าน เตรียมแผนเที่ยววันหยุดยาว

วันรัฐธรรมนูญ ปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 10 ธันวาคม 2566 เป็นวันหยุดของทั้งข้าราชการภาคเอกชน และธนาคารด้วย ในโอกาสนี้การทางพิเศษฯ จึงเปิดให้ขึ้นทางด่วนฟรี 3 สาย ผ่านทางด่วนฟรี 60 ด่านไม่เสียค่าผ่านทาง ประกอบด้วย

10 ธันวาคม ขึ้นทางด่วนฟรีเส้นทางพิเศษ 3 สาย

  • ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 19 ด่าน
  • ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 31 ด่าน
  • ทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 10 ด่าน

รวมด่านที่ได้รับการยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ วันรัฐธรรมนูญ

ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 19 ด่าน

  1. ดาวคะนอง
  2. ดินแดง
  3. ดินแดง 1
  4. ท่าเรือ 1
  5. ท่าเรือ 2
  6. บางจาก
  7. บางนา
  8. พระรามที่สี่ 1
  9. พระรามที่สี่ 2
  10. เพชรบุรี
  11. เลียบแม่น้ำ
  12. สาธุประดิษฐ์ 1
  13. สาธุประดิษฐ 2
  14. สุขุมวิท
  15. สุขุมวิท 62
  16. อาจณรงค์
  17. อาจณรงค์ (ท่าเรือ)
  18. อาจณรงค์(บางนา)
  19. อาจณรงค์ 3

ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 31 ด่าน

  1. ประชาชื่น (ขาเข้า)ในเมือง ,ประชาชื่น (ขาเข้า) นอกเมือง
  2. รัชดาภิเศก
  3. บางซื่อ
  4. บางซื่อ 2
  5. ย่านพหลโยธิน
  6. คลองประปา 1
  7. คลองประปา 2
  8. พหลโยธิน 1
  9. พหลโยธิน 2
  10. อโศก1
  11. อโศก 2
  12. อโศก 4
  13. ยมราช
  14. อุรุพงศ์
  15. หัวลำโพง
  16. สะพานสว่าง
  17. สุรวงศ์
  18. สาทร
  19. จันทร์
  20. สาธุประดิษฐ์ 3
  21. พระรามสาม
  22. ประชาชื่น (ขาออก)
  23. ประชาชื่น 1
  24. ประชาชื่น 2
  25. งามวงศ์วาน 1
  26. งามวงศ์วาน 2
  27. รามคำแหง
  28. อโศก 3 ,อโศก 3 (อโศก 3-1)
  29. ศรีนครินทร์
  30. พระราม 9
  31. พระราม 9-1 (ศรีรัช)

Advertisement

ทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 10 ด่าน

  1. เมืองทองธานี (ขาเข้า)
  2. เมืองทองธานี (ขาออก)
  3. ศรีสมาน (ขาเข้า)
  4. ศรีสมาน (ขาออก)
  5. บางพูน (ขาเข้า)
  6. บางพูน (ขาออก)
  7. เชียงราก (ขาเข้า)
  8. เชียงราก (ขาออก)
  9. บางปะอิน (ขาเข้า)
  10. บางปะอิน (ขาออก)

ทั้งนี้ทางการพิเศษเปิดให้ ขึ้นทางด่วนฟรี หรือ การยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ เนื่องจากวันอาทิตย์ที่ 10 ธันวาคม 2566 ตรงกับวันรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นวันหยุดราชการประจำปีตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี โดยเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมที่ปรากฏในสัญญาสัมปทาน ฉบับแก้ไขใหม่ระหว่าง กทพ. บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) และบริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด (NECL) เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน

อย่างไรก็ตามเนื่องจากวันรัฐธรรมนูญตรงกับวันหยุดสุดสัปดาห์ จึงกำหนดให้วันจันทร์ที่ 11 ธันวาคม 2566 เป็นวันหยุดชดเชยวันรัฐธรรมนูญอีกวัน รวมเป็นวันหยุดยาว 3 วัน มีการคาดการณ์ว่า การเดินทางในกรุงเทพและชานเมืองจะคึกคักมากกว่าเดินทางไกล เนื่องจากหลายคนเตรียมวางแผนเดินทางระยะสั้นเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย และสำรองไว้ใช้ช่วงปีใหม่ที่ใกล้เข้ามา

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 07/12/2566

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a33,800.0033,900.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,189.0033,185.2434,400.00
ทองรูปพรรณ 90%1,970.1029,866.72n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,751.2026,548.19n/a
ทองรูปพรรณ 50%985.0014,932.60n/a
ทองรูปพรรณ 40%766.0011,612.56n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,268.0034,382.88n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 07/12/2566


ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9535.1535.1535.4535.1535.1535.6535.1535.1535.1535.15
แก๊สโซฮอล์ 9133.3833.3833.6833.3833.3833.8833.3833.3833.3833.38
แก๊สโซฮอล์ E2033.0433.0433.3433.0433.0433.0433.0433.0433.04
แก๊สโซฮอล์ E8533.1933.1933.19
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม42.9446.8447.3446.8442.94
เบนซิน 9543.0444.2143.5443.1943.04
ดีเซล B729.9429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.94
ดีเซล29.9429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.94
ดีเซล B2029.9429.9429.9429.94
ดีเซลพรีเมี่ยม41.5443.6444.9443.6442.9441.54
แก๊ส NGV19.5919.5919.59
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า