สาระน่ารู้ประจำวันที่ 09 กันยายน 2564

ตลาดบ้านหรู จัดสรร – สั่งสร้าง ร้อน! มูลค่าพัฒนา ทะลักเกิน 5 หมื่นล.

 ตลาดบ้านหรู จัดสรร - สั่งสร้าง ร้อน! มูลค่าพัฒนา ทะลักเกิน 5 หมื่นล.

กลุ่มมั่งคั่งสูง ผู้บริหาร – นักธุรกิจ ดันยอดขายตลาดบ้านหรู 10 – 250 ล้าน ยืนเหนือตลาดรวม หลายโครงการปิดการขาย 100% คอลลิเออร์ส เผยปี 2564 พีคหนัก คาดเปิดใหม่มูลค่าแตะ 5 หมื่นล้าน ขณะ บ.รับสร้างบ้าน แลนดี้โฮม โกยยอดสั่งสร้าง รับเทรนด์ลงทุนบ้านพร้อมที่ดินพรีเมียมมาแรงสุด

สถานการณ์ตลาดบ้านหรูพรีเมียม ระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป จากกลุ่มผู้ซื้อ ที่มีความมั่งคั่งทางการเงิน ทนทานต่อภาวะเศรษฐกิจหดตัว จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังเป็นดีมานด์สำคัญ และแหล่งรายได้หลัก ของผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยไทยระดับท็อป ในปี 2564 หลังกระแสความต้องการ ทั้งเพื่ออยู่อาศัย และ ลงทุน มีมากขึ้น เนื่องจากเป็นสินค้าที่คุ้มค่า แตกต่าง และบางทำเลมีจำนวนจำกัด (Rare Item) สร้างผลตอบแทนระยะยาวได้ดี ส่งผลครึ่งปีแรก ผู้พัฒนาโครงการในตลาดนี้ ได้รับอานิสงค์ในแง่รายได้และยอดขายจำนวนมาก 

เบอร์ใหญ่ส้มหล่นเงินเศรษฐี 

โดยเบอร์ใหญ่ แบรนด์บ้านหรู อย่าง ‘บางกอกบูเลอวาร์ด’ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ประกาศ ทำนิวไฮ ด้วยยอดขาย 11,338 ล้านบาท  ด้าน บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีกำไรพุ่งเป็นอันดับ 1 ของตลาด ที่ 3,613 ล้านบาท ขณะ บมจ.แสนสิริ  ทยอยปิดการขายโครงการบ้านหรู แบรนด์ ‘เศรษฐสิริ’ และ ‘บุราสิริ’ ในทำเลต่างๆอย่างต่อเนื่อง 

 ตลาดบ้านหรู จัดสรร - สั่งสร้าง ร้อน! มูลค่าพัฒนา ทะลักเกิน 5 หมื่นล.

‘ฐานเศรษฐกิจ’ ตรวจสอบอีกโครงการเฟล็กชิฟบ้านแพง บนถนนประเสริฐมนูกิจ  ‘สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส ‘  มูลค่า 4,970 ล้านบาท  ของบมจ. สิงห์ เอสเตท ซึ่งมีราคาขายเริ่ม 250 ล้านบาท พบแม้ช่วงไตรมาส 2 (เม.ย.- มิ.ย.) กรุงเทพฯ มีมาตรการล็อกดาวน์เข้ม แต่สามารถปิดการขายเพิ่มได้อีก 2 หลัง ยอดขายเกิน 67 % ซึ่ง สิงห์ เอสเตท เผยว่า ผลสำเร็จดังกล่าว ทำให้มีความมั่นใจตลาด และวางแผนซื้อที่ดินเพิ่มอีก 3 แปลง เพื่อพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวในระดับราคา10 –100 ล้านบาท หลังวิเคราะห์ ว่าตลาดนี้ยังคงมีโอกาส และเป็นที่สนใจของนักลงทุนมากขึ้น

 ตลาดบ้านหรู จัดสรร - สั่งสร้าง ร้อน! มูลค่าพัฒนา ทะลักเกิน 5 หมื่นล.

คอลลิเออร์สฯ เผยดูดซับดี

นายภัทรชัย ทวีวงศ์  ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด เผย ว่า โครงการบ้านจัดสรรระดับบน ราคาเกิน 10 ล้านบาท ที่เปิดตัวกันอย่างดุเดือด ช่วงสถานการณ์โควิด ตั้งแต่ ปี 2563 นั้น ยังคงมีความเคลื่อนไหวดุเดือดในปีนี้ พบหลายโครงการสามารถทำยอดขายได้กว่า 70% ในช่วงเวลาสั้นๆ 1-2 เดือนเท่านั้น ขณะบางโครงการประกาศปิดการขายได้ 100% ทั้งโครงการ ในช่วงที่ผ่านมา เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ มาจากความร้อนแรงของกำลังซื้อ กลุ่มลูกค้าที่ค่อยไม่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจเท่าไหร่นัก สะท้อนจากอัตราดูดซับ ซึ่งมีค่าเฉลี่ยสูง กว่าตลาดรวมประมาณ 0.5% ที่ 4.8% บวกกับราคาที่ดินในกทม.ที่ปรับเพิ่มขึ้น มีผลต่อการปรับราคาของผู้พัฒนาโครงการอยู่เช่นกัน

 ตลาดบ้านหรู จัดสรร - สั่งสร้าง ร้อน! มูลค่าพัฒนา ทะลักเกิน 5 หมื่นล.

พบนัยยะความเปลี่ยนแปลงในด้านทำเลที่ตั้งมากขึ้น เช่น บ้านราคามากกว่า 25 ล้านบาท จากเดิมกระจุกตัวในโซนสุขุมวิทตอนกลาง ตั้งแต่ซอย 31 ถึง เอกมัย หรือ โซนอารีย์ แต่ปัจจุบัน ขยับมาสู่พื้นที่รอบใจกลางเมือง อย่าง พระราม 9 ,พรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 ,เพชรเกษม ,เย็นอากาศ , วิภาวดี-รังสิต ,ปิ่นเกล้า ,กรุงเทพกรีฑา , รัชดา – รามอินทรา และ ปลาย เกษตร-นวมินทร์ เป็นต้น มากขึ้น

เปิดใหม่สูงสุด 2,500 ยูนิต

นายภัทรชัย ยังคาดการณ์ว่า ความร้อนแรงของตลาดบ้านระดับบน จะส่งผลให้ทั้งปี 2564 มีซัพพลายใหม่เปิดตัวสูงสุดถึง 2,500 ยูนิต มูลค่าประมาณ 5 หมื่นล้านบาท  ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี ที่อยู่ราว 1,531 ยูนิต โดยครึ่งปีแรก พบมีเปิดใหม่ทั้งสิ้น  12 โครงการ  จำนวน 340 ยูนิต  มูลค่า 10,200 ล้านบาท  สัดส่วน 64 % มาจากผู้พัฒนารายใหญ่ รวมโครงการสะสมอยู่ระหว่างการขาย 155 โครงการ รวมทั้งหมด 9,850 ยูนิต ขณะครึ่งปีหลัง คาดจะมีการเปิดใหม่อีกราว 1,500 ยูนิต จากแผนพัฒนาของรายใหญ่ เช่น  บมจ.เอสซี แอสเสท ,บมจ.แสนสิริ ,เฟรเซอร์ส ฯ , บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และ บมจ.เอพี เพื่อตอบรับดีมานด์ความต้องการที่เกิดขึ้นสวนกระแสตลาดนั่นเอง 

“ลูกค้าส่วนใหญ่ ที่มองหาบ้านระดับนี้ มักเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ นอกจากทำเลที่เป็นที่ดึงดูดใจ มีไลฟ์สไตล์ตอบรับ และพื้นที่ใช้สอยมากพอแล้ว ความแตกต่างและโดดเด่นของบ้าน เป็นสิ่งหนึ่งที่มองหา เพราะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์เจ้าของ และยังมองว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอีกด้วย “

แลนดี้โฮม โกยยอดขายบ้านแพง 

สอดคล้อง ทิศทางตลาดบ้านสั่งสร้าง กลุ่มลูกค้าบ้านไฮเอนด์ 15 ล้านบาทขึ้นไป ยังคงมีความเคลื่อนไหว โดยเบอร์ใหญ่บริษัทรับสร้างบ้าน บริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด เผย แม้ปัจจัยล็อกดาวน์ มีผลให้ภาคธุรกิจรวมชะลอตัว แต่การเติบโตของบริษัทสวนกระแส โดย 8 เดือนแรกของปี 2564 สามารถปิดการขายได้ถึง 1.6 พันล้านบาท โดยเฉพาะมาจากสัดส่วนบ้านหรูขนาดใหญ่ สะท้อนปัจจัยโควิด ไม่ส่งผลกระทบต่อกลุ่มลูกค้าระดับบนที่มีความพร้อม 

 ตลาดบ้านหรู จัดสรร - สั่งสร้าง ร้อน! มูลค่าพัฒนา ทะลักเกิน 5 หมื่นล.

นางสาวพรรัตน์ มณีรัตนะพร ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ของแลนดี้ โฮม ยังให้มุมมองว่า ช่วงโควิด เกิดตลาดนิชมาร์เก็ต (ความต้องการเฉพาะ) มากขึ้น เหตุ 1.อยากได้บ้านหรูในราคาคุ้มค่า มีพื้นที่ใช้สอย รองรับการ Work from home 2. มีการเร่งตัดสินใจ หลังประเมินว่าในอนาคตราคาบ้านจะแพงขึ้น จากวัสดุก่อสร้าง – ค่าแรงสูง และ 3. ค่าเงินบาทลดลง จึงหันมาลงทุนในอสังหาฯและที่ดินแทน 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ยอดซื้อบ้านหลัง 2 ฟุบ โควิด-19 กระทบเปิดใหม่ 27 จังหวัด ร่วง 32%

ยอดซื้อบ้านหลัง 2 ฟุบ โควิด-19 กระทบเปิดใหม่ 27 จังหวัด ร่วง 32%

ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผย ตลาดที่อยู่อาศัย 27 จังหวัด พื้นที่ควบคุม ชะลอตัว พบยอดเปิดตัวโครงการใหม่ครึ่งปีแรกหดตัว 32% คอนโดมากสุด มูลค่าหายกว่า53% ขณะกลุ่มซื้อลงทุน – บ้านหลัง2 ลดลง ฉุดยอดขายร่วง หวังปรับสมดุล

นาย วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) กล่าวว่า ในปี 2564 นับตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันประเทศไทยยังประสบกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งค่อนข้างรุนแรงมากขึ้นและยังไม่มีความชัดเจนว่าจะยุติลงเมื่อไร ซึ่งส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2564 และภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยของทั้งประเทศ 

ทั้งนี้ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ได้ทำการสำรวจภาคสนามถึงสภาวะของตลาดที่อยู่อาศัยใน 27 จังหวัดที่สำคัญ โดยพบความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนของอุปทานที่อยู่อาศัยเข้าใหม่ที่เข้าสู่ตลาดใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 มีจำนวนหน่วยเพียง 29,775 หน่วย ลดลงถึงร้อยละ -32.0 และมีมูลค่า 118,667 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -37.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 

อุปทานที่อยู่อาศัยเข้าใหม่ในกลุ่มของโครงการอาคารชุดมีการชะลอตัวลงมากกว่าโครงการบ้านจัดสรร โดยประเภทโครงการอาคารชุดเข้าใหม่ในพื้นที่ 27 จังหวัด มีจำนวนประมาณ 8,769 หน่วย รวมมูลค่า 28,918 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -46.0 และ ร้อยละ -53.3 ตามลำดับ ในขณะที่ประเภทโครงการบ้านจัดสรรเข้าใหม่มีจำนวนหน่วยประมาณ 21,006 หน่วย มูลค่ารวม 89,749 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -23.9 และร้อยละ -29.6 ตามลำดับ  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563


ทั้งนี้ การปรับตัวลดลงของอุปทานที่อยู่อาศัยเข้าใหม่เช่นนี้ได้ส่งผลต่อภาพรวมของอุปทานที่อยู่อาศัยทั้งหมดที่มีการขายในตลาดพื้นที่ 27 จังหวัด ณ ครึ่งแรก ปี 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 328,657 หน่วย มูลค่ารวม 1,446,276 ล้านบาท จำนวนหน่วยลดลงร้อยละ -5.7 มูลค่าลดลงร้อยละ -6.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์การปรับตัวของผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ไม่เพิ่มเติมสินค้าใหม่เข้ามาในตลาดมากนัก แต่จะเน้นการระบายสินค้าเดิมที่มีอยู่ออกไป เพื่อสร้างสภาพคล่องในการบริหารจัดการ 

ในภาวะที่ยังมีการระบาดของ COVID-19 ได้ทำให้กำลังซื้อของผู้ที่ต้องการจะซื้อที่อยู่อาศัย และความสนใจในการซื้อเพื่อเป็นบ้านหลังที่สอง หรือเพื่อการลงทุนมีการชะลอตัวลงจนเห็นได้อย่างชัดเจนจากยอดขายที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่ในภาพรวม โดยพบว่า ในช่วงครึ่งแรกปี 2564 มีจำนวนที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่ประมาณ 45,895 หน่วย มูลค่า 195,803 ล้านบาท หรือ ลดลงร้อย 14.3 และ 14.7 ตามลำดับ ซึ่งพบว่าเป็นโครงการบ้านจัดสรรขายได้ใหม่ 27,489 หน่วย มูลค่า 124,219 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -22.6 และร้อยละ -20.7 ตามลำดับ

ในขณะที่โครงการอาคารชุดขายได้ใหม่ 18,406 หน่วย มูลค่า 71,583 ล้านบาท ในส่วนของจำนวนหน่วยเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 ในขณะที่มูลค่าลดลงร้อยละ -1.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 สำหรับการที่อาคารชุดขายได้ใหม่มีจำนวนหน่วยเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เพราะในปี 2563 มีฐานที่ต่ำมาก นอกจากนี้ยังพบว่าอัตราดูดซับในภาพรวมลดลงต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปี 2563 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำอยู่แล้ว

แม้ยอดขายใหม่จะขายได้น้อยลง แต่ผลจากการที่อุปทานเข้าใหม่ในตลาดน้อยลงด้วย ส่งผลให้จำนวนหน่วยเหลือขายลดลงตามไปด้วย โดย ณ ครึ่งแรกปี 2564 มีที่อยู่อาศัยเหลือขายจำนวน 282,762 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 1,250,473 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -4.1 และร้อยละ -4.9 ซึ่งนับได้ว่าเป็นการลดแรงกดดันของภาวะหน่วยเหลือขายในตลาดให้ลดความรุนแรงลง และสะท้อนว่าตลาดมีการปรับสมดุลของอุปสงค์และอุปทานมาอย่างต่อเนื่อง

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


หุ้น,ทองคำสหรัฐปิดลบ-น้ำมันพุ่ง

หุ้น,ทองคำสหรัฐปิดลบ-น้ำมันพุ่ง

ดาวโจนส์ปิดลบ 68.93 จุด กังวลไวรัสเดลตา ด้านราคาน้ำมันพุ่ง 95 เซนต์ ขณะที่ทองคำลง 5 ดอลลาร์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,031.07 จุด ลดลง 68.93 จุด หรือ -0.20% ดัชนี เอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,514.07 จุด ลดลง 5.96 จุด หรือ -0.13% ดัชนี แนสแดค ปิดที่ 15,286.64 จุด ลดลง 87.69 จุด หรือ -0.57%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อวันที่ 8 ก.ย. นักลงทุนยังคงกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 95 เซนต์ ปิดที่ 69.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 91 เซนต์ ปิดที่ 72.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า การฟื้นฟูกำลังการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกเป็นไปอย่างล่าช้า หลังได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนไอดา

ราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 5.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,793.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


คนไทยได้เฮ! วิลเลียมส์ เรซซิ่ง ประกาศคว้า “อัลบอน” ลุย F1 ปีหน้า

คนไทยได้เฮ! วิลเลียมส์ เรซซิ่ง ประกาศคว้า "อัลบอน" ลุย F1 ปีหน้า

วิลเลียมส์ เรซซิ่ง ทีมในศึก F1 ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันอย่างเป็นทางการว่า อเล็กซ์ อัลบอน นักแข่งลูกครึ่งอังกฤษ-ไทย จะลงแข่งขันให้กับทีมในศึก F1 ฤดูกาล 2022

โดยที่ผ่านมา อัลบอน เคยลงแข่งขันให้กับ เรดบูลล์ เรซซิ่ง และ สคูเดเรีย โตโร รอสโซ ในปี 2019 และ 2020 ตามลำดับ ก่อนคว้าตำแหน่งบนโพเดียมได้ 2 ครั้ง ในศึกทัสคานี เฟอร์รารี 1000 กรังด์ปรีซ์ ที่สนามมูเจลโล เซอร์กิต เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี และ บาห์เรน กรังด์ปรีซ์ ที่สนามบาห์เรน อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เมืองซาเคียร์ ประเทศบาห์เรน พร้อมจบอันดับคะแนนสะสมประเภทนักขับในอันดับที่ 7

แต่ในปี 2021 อัลบอน ต้องเสียตำแหน่งนักขับตัวจริงในทีมเรดบูลล์ เรซซิ่ง ให้กับ เซร์คิโอ เปเรซ นักขับจอมเก๋าชาวเม็กซิกันที่ย้ายมาจาก เรซซิ่ง พอยต์ หรือ แอสตัน มาร์ติน ในปัจจุบันเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทำให้อัลบอนต้องไปเป็นนักขับสำรองของ เรดบูลล์ แทน แต่ก็ยังสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งรถประเภท DTM ด้วยการคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ

แต่ล่าสุดได้รับการยืนยันแล้วว่า อัลบอน จะได้กลับมาลงแข่งขันให้กับ วิลเลียมส์ เรซซิ่ง คู่กับ นิโคลัส ลาติฟี นักขับชาวแคนาดา ในฤดูกาล 2022 เป็นต้นไป

สำหรับ อัลบอน ได้เผยถึงการย้ายมาร่วมทีมวิลเลียมส์ในครั้งนี้ว่า “ผมรู้สึกตื่นเต้นมากและรอคอยที่จะได้กลับมาแข่ง F1 อีกครั้งในปีหน้า”

“เมื่อคุณห่างหายจาก F1 ไปร่วม 1 ปี มันไม่มีทางแน่ใจได้เลยว่าจะได้กลับมาจุดนี้อีกครั้ง ผมขอขอบคุณทาง เรดบูลล์ และ วิลเลียมส์ เป็นอย่างสูงที่เชื่อมั่นในตัวผมและช่วยผมในการเดินทางกลับสู่กริด F1 ครั้งนี้”

“เป็นเรื่องดีเช่นกันที่ได้เห็นความก้าวหน้าทั้งหมดที่วิลเลียมส์ทำในฐานะทีมในปีนี้ ผมตั้งตารอที่จะช่วยพวกเขาก้าวต่อไปในปี 2022” นักขับวัย 25 ปี กล่าว

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


เข้าใจผู้ป่วย “ไบโพล่าร์” ไม่ใช่คนอันตราย อยู่ร่วมกันได้ แค่ต้องรักษาให้ไว

เข้าใจผู้ป่วย "ไบโพล่าร์" ไม่ใช่คนอันตราย อยู่ร่วมกันได้ แค่ต้องรักษาให้ไว

ในช่วงที่ทุกคนถูกขอความร่วมมือให้กักตัวเอง เว้นระยะอยู่ห่างจากสังคม จึงเป็นธรรมดาที่คนๆ หนึ่งต้องมาเจอกับความรู้สึกเครียด วิตกกังวล หรืออาจรวมถึงสภาพจิตใจที่ขึ้นลงควบคุมไม่ได้

ซ้ำร้ายกว่านั้นในอีกมุม สภาพสังคมที่เลวร้ายนี้ยังส่งผลกระทบกับ ‘ผู้ที่ไม่สามารถควบคุมการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์’ ได้อีกด้วย ซึ่งหากสถานการณ์ยังไม่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น เราอาจได้เห็นความสูญเสียที่ไม่คาดคิด เกิดกับผู้ป่วย ‘โรคไบโพล่าร์’ (Bipolar Disorder) ขึ้นอีกครั้งก็เป็นได้

เรื่องราวความสูญเสียที่เรารับรู้ผ่านหน้าหนังสือพิมพ์หรือจอโทรทัศน์ของผู้เป็นโรคไบโพล่าร์ แทบทุกเหตุการณ์ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจของพวกเขา แต่ส่วนใหญ่เกิดจากสภาพอารมณ์ที่แปรปรวนอยู่ตลอด ควบคุมไม่ได้ จนนำมาซึ่งการทำร้ายตัวเองหรือผู้อื่น ในช่วงที่อาการกำเริบขึ้น

แพทย์หญิงพรทิพย์ ศรีโสภิต ผู้ชำนาญการด้านจิตเวชศาสตร์ โรงพยาบาลพระรามเก้า ให้ข้อมูลว่า อาการแสดงของโรคไบโพล่าร์เป็นสิ่งที่คนรอบข้างยากจะเข้าใจ หลายครั้งมีโอกาสที่จะกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้ง และตามมาซึ่งความรุนแรงได้ ซึ่งสิ่งที่ยากจะคาดเดาคือเราไม่รู้ว่าความรุนแรงนั้นจะออกมาในรูปแบบไหน “ผู้ป่วยเป็นผู้กระทำ หรือผู้ป่วยถูกกระทำ” ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างมากที่คนรอบข้าง ต้องทำความเข้าใจกับธรรมชาติของโรคนี้ให้ดี

โรคไบโพล่าร์ เป็นอย่างไร?

ในหลายๆ ครั้ง ผู้คนมักเข้าใจว่าโรคไบโพล่าร์และโรคซึมเศร้า คืออาการป่วยแบบเดียวกัน แต่ความเข้าใจนั้นไม่ได้ถูกต้องทั้งหมด โรคไบโพล่าร์ หรือ Bipolar Disorder หรือ โรคอารมณ์สองขั้ว จัดอยู่ในกลุ่มของโรคความผิดปกติทางอารมณ์ เช่นเดียวกับโรคซึมเศร้า แต่ในขณะที่โรคซึมเศร้า จะมีลักษณะอาการที่ชัดเจนของอารมณ์ตกหรืออารมณ์เศร้าเพียงอย่างเดียว

ลักษณะอาการของโรคไบโพล่าร์

โรคไบโพล่าร์ จะแตกต่างออกไป คือสามารถแสดงอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้ 2 ขั้ว ขั้วแรกคือขั้วของช่วง “อารมณ์ขึ้น” ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ครึกครื้นหรือหงุดหงิดมากเกินกว่าปกติ และอีกขั้วหนึ่งคือขั้วของช่วง “อารมณ์ตก” หรืออารมณ์เศร้าแบบเดียวกันกับโรคซึมเศร้านั่นเอง

กล่าวง่ายๆ คือผู้ป่วยโรคไบโพล่าร์จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์อย่างฉับพลัน อยู่ๆ ก็ร่าเริงสนุกสนาน เปลี่ยนเป็นความเศร้าโดยไม่มีเหตุผล แล้วกลับกลายเป็นความหงุดหงิด โกรธต่อสิ่งรอบข้าง กลไกของโรคที่ซับซ้อนนี้ จึงส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วยในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น หน้าที่การงาน ความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ไปจนถึงการดูแลตัวเอง และในสถานการณ์เลวร้ายที่สุด คือบทสรุปของความรุนแรงที่ไม่มีใครอยากให้เกิด

วิธีรักษาโรคไบโพล่าร์

โรคไบโพล่าร์เองก็เป็นอาการป่วยอย่างหนึ่งที่สามารถรักษาให้หายได้ ไม่ว่าจะทั้งด้วยการรักษาจากแพทย์ หรือการให้ยาอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดอาการกำเริบ สิ่งสำคัญคือคนรอบข้าง ต้องหมั่นสังเกตอาการหรือความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์เล็กๆ น้อยๆ ของผู้ป่วย และตัวผู้ป่วยต้องเข้าใจธรรมชาติของโรค ไม่มีทัศนคติติดลบต่ออาการทางจิตจนไม่กล้าเข้ารับการรักษา

“การรักษาที่เหมาะสม จะทำให้ผู้ป่วยโรคไบโพล่าร์เข้าใจในตัวเอง ควบคุมและสังเกตอาการตัวเองได้ดีขึ้น จนทำให้มีสภาพอารมณ์มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น สามารถเข้าใจสภาวะและผู้คนรอบข้าง จนสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ตามปกติในที่สุด”

ในสถานการณ์ที่ซับซ้อนนี้ อาจทำให้ผู้ป่วยโรคไบโพล่าร์หรือรวมถึงคนทั่วไป จะควบคุมอารมณ์ตัวเองได้อย่างยากลำบากกว่าเดิม แต่อย่างน้อยเราก็เชื่อว่าในวันหนึ่งที่ชีวิตกลับสู่สภาวะปกติ อารมณ์ที่แปรปรวนของทุกคนก็สามารถกลับมามั่นคงได้ดังเดิมเช่นกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


คำศัพท์ งานบ้าน ภาษาอังกฤษ พร้อมคำแปล

ประโยคภาษาอังกฤษ คำศัพท์ภาษาอังกฤษ งานบ้าน ภาษาอังกฤษ พร้อมคำแปล (Housework คำอ่าน อ่านว่า เฮาซฺเวิร์คฺ คำแปล แปลว่า งานบ้าน)

change the bedspread and pillowcase
แปลว่า เปลี่ยนผ้าปูที่นอน (ผ้าคลุมเตียง) และปลอกหมอน

clean the stove
แปลว่า ทำความสะอาดเตา, เช็ดเตา

clear the table
แปลว่า เก็บโต๊ะอาหาร

cook
แปลว่า ทำกับข้าว

dry clothes in the sun
แปลว่า ตากผ้า (นำผ้าไปตากแดดให้แห้ง)

dry the dishes
แปลว่า เช็ดจานให้แห้ง

dust the furniture
แปลว่า ปัดฝุ่นเฟอร์นิเจอร์

empty the wastebasket
แปลว่า เทขยะ, นำถังขยะไปเท

go shopping in the market
แปลว่า ไปจ่ายตลาด, ไปจ่ายกับข้าว

iron the clothes
แปลว่า รีดผ้า, รีดเสื้อผ้า

make the bed
แปลว่า เก็บที่นอน, จัดเก็บที่นอนให้เรียบร้อย

mop the floor
แปลว่า ถูพื้น

mow
แปลว่า ตัดหญ้า, ดายหญ้า

polish the furniture
แปลว่า เช็ดเฟอร์นิเจอร์, ขัดเงาเครื่องเรือน

put back the toys
แปลว่า เก็บของเล่นเข้าที่

scrub the floor
แปลว่า ขัดพื้น

set the table
แปลว่า จัดโต๊ะอาหาร, ตั้งโต๊ะ

sweep the floor
แปลว่า กวาดพื้น

take out the garbage
แปลว่า นำถุงขยะไปทิ้ง

vacuum the carpet
แปลว่า ดูดฝุ่นพรม

wash the clothes
แปลว่า ซักผ้า, ซักเสื้อผ้า

wash the dishes
แปลว่า ล้างจาน

wash the window
แปลว่า เช็ดหน้าต่าง, เช็ดล้างทำความสะอาดหน้าต่าง

water the plants
แปลว่า รดน้ำต้นไม้

wipe the table
แปลว่า เช็ดโต๊ะ, ทำความสะอาดโต๊ะอาหาร

ขอบคุณข้อมูลจาก tonamorn.com


“การจัดการพลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะ” ช่วยสร้างความยั่งยืนแก่ธุรกิจและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

“การจัดการพลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะ” ช่วยสร้างความยั่งยืนแก่ธุรกิจและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2563 จนถึงวันนี้ ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงไปยังทุกภาคส่วน ภาครัฐและเอกชนต่างมุ่งจัดการปัญหาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ล้วนเป็นเรื่องเร่งด่วนในทุก ๆ ด้าน อย่างไรก็ตามเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกและสิ่งแวดล้อม” เป็นอีกปัญหาใหญ่ที่ต้องได้รับการจัดการอย่างเร่งด่วนเช่นกัน จากเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นบ่อยและมีความรุนแรงมากขึ้น อันเป็นผลจากสภาวะโลกร้อนในหลายประเทศทุกภูมิภาคทั่วโลก

แท้จริงแล้วภาคอุตสาหกรรมมีบทบาทสำคัญต่อประเด็นนี้ เนื่องจากกระบวนการผลิตที่ใช้พลังงานมากถึงหนึ่งในสามของการใช้พลังงานทั้งหมดในโลก ซึ่งเทคโนโลยีการจัดการพลังงานไฟฟ้าที่ก้าวหน้าไปมากในปัจจุบันช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมมีส่วนสำคัญช่วยลดสภาวะโลกร้อนโดยอาศัยการจัดการพลังงานอย่างชาญฉลาดด้วยเทคโนโลยีดังกล่าว

istock-1255976034

การจัดการพลังงานไฟฟ้าสำหรับภาคอุตสาหกรรมมีส่วนช่วยลดสภาวะโลกร้อนได้อย่างไร

เรามาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญซึ่งทุกภาคส่วนเห็นร่วมกันชัดเจนถึงความจำเป็นที่จะต้องร่วมมือกันอย่างเต็มที่ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ในขณะที่ภาคส่วนอื่น ๆ อาทิ การผลิตพลังงานไฟฟ้า การเกษตร และการบริโภคในครัวเรือน ได้เริ่มลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาระดับหนึ่งแล้ว แต่ภาคอุตสาหกรรมนั้นแทบจะไม่มีการปรับเปลี่ยนเลย แม้แต่ในประเทศเยอรมนีที่เป็นผู้นำในโลกอุตสาหกรรมยุคใหม่เองก็ตาม

เพื่อจัดการปัญหานี้ ซีเมนส์เห็นแนวทางขับเคลื่อนสำคัญ 3 ประการที่จะช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้

  • การสร้างความยืดหยุ่นในการนำพลังงานมาใช้ เช่น การใช้โซลูชั่นการกักเก็บพลังงานและการใช้ระบบโรงไฟฟ้าเสมือน (Virtual Power Plants : VPP)
  • การปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานให้เป็นดิจิทัล เพื่อให้มั่นใจว่าการใช้พลังงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถทำได้โดยการติดตั้งอุปกรณ์ IoT (Internet of Things) เซ็นเซอร์ และซอฟต์แวร์ควบคุม
  • การนำการจัดการพลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Electrification) มาใช้ ในการดำเนินงานให้ครอบคลุมทุกกระบวนการทำงาน

จากสามแนวทางข้างต้น “การจัดการพลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะ” เป็นหนทางที่ดีที่สุดในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทั้งยังสามารถสร้างประโยชน์สูงสุดจากปัจจัยการขับเคลื่อนที่เหลือ

ในการจัดการพลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะนั้น มี 2 ปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง ได้แก่ หนึ่ง – ความเป็นไปได้ที่จะนำพลังงานสะอาด ซึ่งไม่มีการปล่อยคาร์บอนสู่สิ่งแวดล้อมมาป้อนเข้าสู่สถานประกอบการอุตสาหกรรม อาทิ พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำ และ สอง – การจัดการพลังงานของสถานประกอบการอุตสาหกรรม เช่น การจัดการความต้องการใช้พลังงานด้วยซอฟต์แวร์ เป็นต้น

เหตุผลที่การจัดการพลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะมีผลอย่างมากต่อการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็คือ เมื่อจัดการการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพจะทำให้สามารถเพิ่มการใช้พลังงานสะอาดซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้โดยไม่ก่อมลภาวะ แทนที่การผลิตไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีแบบเดิม เช่น เครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังงานดีเซลที่มีการก่อมลภาวะสูง

การจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพคือ “หัวใจสำคัญ” ในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคอุตสาหกรรม

กรณีศึกษาจากบริษัท Gestamp ผู้ผลิตชิ้นส่วนโลหะยานยนต์ในสเปนซึ่งมีหลายกระบวนการผลิตที่ต้องใช้พลังงานเป็นจำนวนมากแต่ขาดข้อมูลการใช้พลังงานที่ชัดเจนทำให้โรงงานต้องเผชิญกับค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นเรื่อยๆ

แต่ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์มาตรวัดพลังงานและการใช้โซลูชันการสื่อสารรับส่งข้อมูลขนาดใหญ่จากโรงงาน 15 แห่งใน 6 ประเทศแล้วนำมาวิเคราะห์ Gestamp สามารถระบุจุดที่เป็นปัญหาและปรับปรุงการดำเนินงาน ทำให้สามารถลดการใช้ไฟฟ้าลงถึง 15 เปอร์เซ็นต์และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ถึง 14,000 ตันต่อปี

การจัดการพลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะช่วยให้การผลิตมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ช่วยในบริหารรอบการทำงานให้ได้ประโยชน์สูงสุดและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต นอกเหนือจากนั้นยังลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของภาคอุตสาหกรรม พร้อมเพิ่มโอกาสใหม่ ๆ ในการนำพลังงานไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาปรับใช้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปัจจุบันการจัดการพลังงานไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพสูงทำได้ง่ายขึ้น ด้วยการปรับกระบวนการจัดการให้เป็นระบบดิจิทัล (Digitalization) และนำการจัดการพลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Electrification) มาใช้ ผลที่ตามมาไม่เพียงแต่เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน แต่ยังเพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินงานและทำให้การใช้ทรัพยากรเกิดประโยชน์สูงสุด

ยิ่งไปกว่านั้น การปรับกระบวนการทำงานเป็นระบบดิจิทัล (Digitalization) ทำให้เราสามารถพัฒนาระบบดิจิทัลทวิน (Digital Twin) สำหรับระบบไฟฟ้าของโรงงานได้ และเมื่อควบรวมกับระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรม ผู้วางระบบงานสามารถทดสอบการจำลองสถานการณ์การทำงานต่าง ๆ เพื่อหาจุดที่เหมาะสมที่สุดในการวางระบบงาน เพื่อลดความผิดพลาดและลดต้นทุนในการวางแผนงาน การก่อสร้าง และการบำรุงรักษา

วิกฤติการณ์การแพร่ระบาดทำให้เราต้องพิจารณาอีกครั้งเกี่ยวกับวิธีการดำเนินงานทางธุรกิจของเรา สำหรับอุตสาหกรรม ถึงเวลาแล้วที่จะสร้างรากฐานธุรกิจในอนาคตด้วยการผสมผสานการจัดการพลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะเข้ากับแผนงานของกิจการ ผลลัพธ์ที่ได้จะไม่ใช่แค่ตัวเลขทางธุรกิจเท่านั้น

แต่ยังเป็นการสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน ครอบคลุม ตั้งแต่ลูกค้า ชุมชน ประเทศ ไปจนถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมในโลกของเราด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ตาเสือ

ชื่อสมุนไพร : ตาเสือ
ชื่อเรียกอื่นๆ : เลาหาง (เชียงใหม่), ขมิ้นดง (ลำปาง), เซ่ (แม่ฮ่องสอน), เย็นดง (กำแพงเพชร), ตาปู่ (ปราจีนบุรี), มะยมหางก่าน (บุรีรัมย์), ตุ้มดง (กระบี่), มะหังก่าน, มะฮังก่าน, มะอ้า (ภาคเหนือ), โกล, ตาเสือ (ภาคกลาง), แดงน้ำ (ภาคใต้), เชือย, โทกาส้า, พุแกทิ้, เส่ทู่เก๊าะ (กะเหรี่ยง-แม่ฮองสอน) และ ยมหังก่าน (เงี้ยว-แม่ฮ่องสอน)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Aphanamixis polystachya (Wall.) R.Parker
ชื่อสามัญ : 
วงศ์ : MELIACEAE

TS2

ตาเสือเป็นพรรณไม้ที่ขึ้นอยู่ด้านในของป่าชายเลน บริเวณน้ำกร่อยตามริมชายฝั่งของแม่น้ำที่ได้รับอิทธิพลจากการขึ้น-ลงของน้ำทะเล ไม้ตาเสือสามารถเอามาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ได้ดี เพราะเนื้อไม้มีความแข็ง เหนียว มีความแข็งแรงทนทานดี ส่วนผลใช้เป็นอาหารของนกเงือก สรรพคุณใช้เป็นยาแก้บวมตามข้อต่างๆ ในร่างกาย และเนื้อไม้และเปลือกต้นมีรสฝาด มีสรรพคุณมากมาย ได้แก่ เป็นยาแก้ธาตุพิการ เป็นยาปิดธาตุ กล่อมเสมหะ แก้เสมหะ เป็นยาสมานท้องไส้ได้ดี เป็นยาแก้ท้องเสีย เป็นยาขับโลหิต ขับระดู รัดมดลูก เป็นยาสมานแผล เป็นยาแก้ปวดตามข้อ ข้อควรระวัง ก็คือ ทุกส่วนของต้นตาเสือเป็นพิษ กินมากอาจทำให้ตายได้ และเห็ดที่เกิดจากขอนไม้ตาเสือเมื่อกินเข้าไปจะทำให้เกิดอาการเมาอาเจียนถึงตายได้เช่นกัน

TS3

ลักษณะสมุนไพร :
ตาเสือเป็นไม้ยืนต้นที่มีความสูงได้ถึง 25 เมตร เปลือกต้นมีความหนาแตกเป็นสะเก็ดหลุดล่อนออก ตามกิ่งอ่อนและยอดอ่อนมีขนสีเหลือง ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกปลายใบคี่ ออกเรียงสลับกัน มีใบย่อยประมาณ 3-7 คู่ ลักษณะของใบย่อยเป็นรูปรีแกมขอบขนาน ปลายใบแหลม โคนใบกลมเบี้ยว ส่วนขอบใบเรียบเป็นคลื่นๆ ใบมีขนาดความกว้างประมาณ 3-7 เซนติเมตร และความยาวประมาณ 6-18 เซนติเมตร แผ่นใบเรียบเกลี้ยงเป็นสีเขียวเข้ม ดอกออกเป็นช่อแยกแขนงยาว โดยจะตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ดอกเป็นแบบแยกเพศ มีทั้งช่อดอกเพศผู้ ช่อดอกเพศเมีย และช่อดอกที่มีทั้งสองเพศ ดอกมีขนาดเล็กสีเหลืองอ่อน ลักษณะเป็นรูปทรงกลม กลีบเลี้ยงดอกเชื่อมติดกันปลายแยกออกเป็น 3 แฉก สีเขียวและมีขน ส่วนกลีบดอกมี 3 กลีบ สีเหลือง เกสรเพศผู้เชื่อมติดกัน รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ ผลมีลักษณะกลม ขนาดประมาณ 3.5-5 เซนติเมตร เมื่อแก่จะแตกออกเป็น 2-3 ซีก ภายในผลมีเมล็ดสีน้ำตาลดำและมีเยื้อหุ้มเมล็ดสีแดง

TS4

ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : เนื้อไม้, เปลือกต้น, แก่น, ใบ และ ผล
สรรพคุณทางยา :

  1. เนื้อไม้ แก้ธาตุพิการ แก้ท้องเสีย
  2. เปลือกต้น กล่อมเสมหะ แก้เสมหะ แก้บิดมูกเลือด ขับโลหิต ขับระดู รัดมดลูก สมานแผล แก้บวมตามข้อต่างๆ ในร่างกาย แก้ปวดตามข้อ
  3. แก่น สมานท้องไส้
  4. ใบ แก้บวม
  5. ผล แก้บวมตามข้อต่างๆ ในร่างกาย
TS1

วิธีการใช้ :

  1. แก้ธาตุพิการ แก้ท้องเสีย นำเนื้อไม้มาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
  2. กล่อมเสมหะ แก้เสมหะ แก้บิดมูกเลือด ขับโลหิต ขับระดู รัดมดลูก สมานแผล แก้บวมตามข้อต่างๆ ในร่างกาย แก้ปวดตามข้อ  นำเปลือกต้นมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
  3. สมานท้องไส้ นำแก่นมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
  4. แก้บวม นำใบมาตำพอกแก้บวม
  5. แก้บวมตามข้อต่างๆ ในร่างกาย นำผลมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน

ถิ่นกำเนิด :
ตาเสือเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ขอบคุณข้อมูลจาก thaiherbal.org


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 09/09/2564

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a27,650.0027,750.00
ทองรูปพรรณ 96.5%1,791.0027,151.5628,250.00
ทองรูปพรรณ 90%1,611.9024,436.40n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,432.8021,721.25n/a
ทองรูปพรรณ 50%806.0012,218.96n/a
ทองรูปพรรณ 40%627.009,505.32n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%1,856.0028,136.96n/a


ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 09/09/2564


ปตท.
ราคาน้ำมัน บางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9529.2529.2529.2529.2529.2529.2529.2529.2529.2529.25
แก๊สโซฮอล์ 9128.9828.9828.9828.9828.9828.9828.9828.9828.9828.98
แก๊สโซฮอล์ E2027.7427.7427.7427.7427.7427.7427.7427.7427.74
แก๊สโซฮอล์ E8522.4422.4422.44
เบนซิน 9536.6637.1137.1636.6636.66
ดีเซล B729.0929.0929.0929.0929.0929.0929.0929.0929.0929.09
ดีเซล26.0926.0926.0926.0926.0926.0926.0926.0926.0926.09
ดีเซล B2025.8425.8426.0425.8425.8425.8425.84
ดีเซลพรีเมี่ยม33.8633.8635.5435.2633.86
แก๊ส NGV15.4815.4815.48
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า