บ้านหรูแข่งเดือด!อสังหาฯแห่ผุดโครงการหนีรีเจกต์เรต
เอฟเฟกต์!ปฏิเสธสินเชื่อพุ่ง70% บ้านหรูแข่งเดือด! ค่ายอสังหาฯแห่ผุดโครงการหนีรีเจกต์เรต พฤกษา เบนเข็มบุกบ้านราคา10-20 ล้านภายใต้แบรนด์“ไพนน์ เวลเนส เรสซิเดนซ์”ครั้งแรก เอสซี เร่งเปิดบ้านหรู5 โครงการ มูลค่ากว่า1หมื่นล้านเจาะกลุ่มเรียลดีมานด์บ้านราคากว่า10ล้านอัพ
นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลกระทบจากหนี้ครัวเรือน กำลังซื้อลดลงและอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัยสูงขึ้นถึง 60-70% ส่งผลให้ไตรมาสแรกปีนี้ตลาดอสังหาหดตัว 18% โดยเฉพาะตลาดบ้านราคาต่ำ 3 ล้านบาทเกิดการชะลอตัวสวนทางกับตลาดบ้านเดี่ยวตลาดโตยังเติบโต 2% โดยเฉพาะกลุ่มบ้านระดับราคา 7-20 ล้านบาท
สะท้อนจากยอดขายกลุ่มบ้านเดี่ยวในปี2566 ยอดขายบ้านเดี่ยวได้ขยับมามีมูลค่า 159,740 ล้านบาท จากยอดขายที่อยู่อาศัยรวม 387,430 ล้านบาทจากเดิมในปี 2562 บ้านเดี่ยวมีมูลค่า 97,667 ล้านบาท จากยอดขายรวมทุกกลุ่มมูลค่า 389,616 ล้านบาท
จากแนวโน้มดังกล่าว บริษัทเร่งพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวเพิ่มขึ้น โดยปีใน2567 ตั้งเป้ามีสัดส่วนบ้านราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป 20% จากก่อนหน้านี้อยู่ที่ 13%และตั้งเป้าภายใน 3 ปี หรือปี 2570 บาลานซ์พอร์ต 3 กลุ่ม ประกอบด้วย บ้านราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปมีสัดส่วน30% บ้านราคา 3-10 ล้านบาทมีสัดส่วน 40%และบ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทมีสัดส่วน30%
นายภัคริน ทัตติพงศ์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียมพฤกษา กล่าวว่า บริษัทได้เปิดตัวโครงการ “ไพนน์ เวลเนส เรสซิเดนซ์” สไตล์ British Timeless Elegance จำนวน 62 ยูนิต ในรูปแบบบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ราคาตั้งแต่หลังละ 12-20 ล้านบาท โดยชูจุดขาย การนำเวลเนสเข้าหาลูกบ้าน ตั้งแต่การออกแบบบ้านรองรับทุกเจเนอเรชั่น ตั้งแต่เจน X-Z รับเทรนด์สังคมไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยในประเทศไทยมากขึ้น โดยมีสัดส่วนผู้สูงอายุ 20% ของประชากร
นายมงกุฎ เตโชฬาร หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านพัฒนาทรัพย์สินแนวราบ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เผยว่า บริษัทมีแผนการเปิดโครงการแนวราบในเดือนมิ.ย.จำนวน 5 โครงการ มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงแรก : วันที่ 15 – 16 มิถุนายน 2567 เปิดจองครั้งแรก 3 โครงการ ได้แก่ โครงการBangkok boulevard signature รามอินทรา – พระยาสุเรนทร์ บ้านหรูทำเลรามอินทรา ติดถนนใหญ่ ใกล้ห้าง Fashion Island เริ่มต้นราคา 20 – 30 ล้านบาท
โครงการ Venue Portrait เวสต์เกต บ้านเดี่ยวแบรนด์ใหม่ 5 ห้องนอน ใกล้รถไฟฟ้า และเซ็นทรัลเวสต์เกต เริ่มต้นราคา 5.99 – 12 ล้านบาท
โครงการPAVE กาญจนาฯ – ราชพฤกษ์ บ้านเดี่ยวติดถนนกาญจนาฯ เริ่มต้นราคา 4.99 – 8 ล้านบาท โครงการ Grand Bangkok Boulevard ปิ่นเกล้า-บรมฯ คฤหาสน์หรู 3 ชั้น News Series ติด ถ.กาญจนาภิเษก เริ่มต้นราคา 40 ล้านบาท โครงการBangkok Boulevard Signature แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์ บ้านหรูติดถนนชัยพฤกษ์ ใกล้รร.นานาชาติ SISB เริ่มต้นราคา 21.9 ล้านบาท
การเปิดตัวดังกล่าว สอดคล้องตามแผนยุทธศาสตร์ SC the evolution เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ ที่มีความสนใจบ้านระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป หลังจากที่ปี 2566 มียอดขายที่ 8,060 ล้านบาท เป็นอันดับ1 ของตลาดบ้านระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป ครอบคลุมทุกโซน รวมถึง ในทำเลกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก ย่านถนนใหญ่กาญจนาฯ ใกล้เซ็นทรัล เวสต์เกต ที่เป็นทำเลศักยภาพแห่งอนาคต
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
แชร์!เคล็ดลับการบริหาร (ใจ) คน อนุพงษ์ อัศวโภคิน CEO เอพี
ในงาน AP Thailand Presents “CREATIVE TALK CONFERENCE 2024 (CTC2024)” SPECIAL SESSION แอบฟัง CEO เค้าคุยกัน กับ “เคล็ดลับการบริหาร (ใจ) คน ที่ไม่เคยบอกใคร” ที่มี“อนุพงษ์ อัศวโภคิน” CEO เอพีมาเป็นหนึ่งในวิทยากร
อนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) ผู้กุมบังเหียนบริษัทอสังหาฯใหญ่อันดับต้นๆของประเทศที่มียอดขาย4.8หมื่นล้านบาทในปีที่ผ่านมาและดูแลพนักงานกว่า 3,000 คน ได้เผยเคล็ดลับของการบริหารงานว่า เริ่มจากระยะแรกของการเริ่มต้นจากพนักงาน100 คนในปี 2544 มียอดขาย1,000ล้านทำหน้าที่เป็นโค้ช และลุยงานเอง เปรียบเหมือนสตาร์ทอัพ ไม่มีใครที่มีบทบาทชัดเจน คนๆหนึ่งทำหน้าที่หลายอย่าง
ต่อมาเมื่อองค์กรเติบโตถึงระดับหนึ่ง จำนวนพนักงานเพิ่มขึ้นหลัก1,000 คน ยอดขายเพิ่มขึ้น10 เท่า!ในช่วงเวลานั้น เริ่มไม่รู้จักพนักงานทุกคนที่เปรียบเสมือนเป็นนักฟุตบอลเหมือนเดิมแล้ว เพราะองค์กรใหญ่ขึ้น แม้กระทั้งพนักงานยังไม่รู้จักซีอีโอ จากนั้นมาเริ่มเข้ามาดูแลระบบ กระบวนการทำงาน โครงสร้างองค์กร ปัจจุบันมีจำนวนพนักงาน3,000 คน
“ทุกวันนี้ผมดูวัฒนธรรมองค์กร(Culture) ภาพรวมของบริษัทมากกว่าเพื่อให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะขนาดของบริษัทใหญ่ขึ้น”
การบริหารของอนุพงษ์ แบ่งเป็น 3 stage เริ่มจาก Coaching Process และCulture เพื่อวางกรอบ ขอบเขตการทำงานให้กับองค์กรไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมทั้งให้อิสระพนักงาน ซึ่งเป็นคนทำงาน มีอำนาจในการตัดสินใจ
อนุพงษ์ เล่าว่าหลังจากที่ได้ดูภาพยนตร์โฆษณาเรื่องหนึ่งเมื่อ10ปีที่ผ่านมาแล้วรู้สึกไม่อินกับโฆษณา ขณะที่พนักงานบอกว่าดี จึงตกลงให้ทำตามนั้นไป เพราะโฆษณาที่ออกมาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่บริษัทต้องการ ดังนั้นจึงให้คนที่อยู่ใกล้ลูกค้าและรู้จักลูกค้าดีที่สุดเป็นคนตัดสินใจ
“ปัจจุบันผมไม่ได้มีหน้าที่ตัดสินใจ ผมทำหน้าที่แค่ถาม Comment ถ้า Fail ก็เพราะคุณถ้า Success ก็เพราะคุณไม่เกี่ยวกับผม และที่เอพี เรามีวัฒนธรรมองค์กรอย่างหนึ่งคือ ไม่เน้น Try Hard แต่เน้นที่ Outcome เราเน้นWork Smart ไม่ Work Hard”
อนุพงษ์ ระบุว่า ซีอีโอเปรียบเสมือน “วาทยกร” (conductor) ทำหน้าที่ดึงความสัมพันธ์ของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นออกมาเพื่อสอดผสานรวมเป็นหนึ่งเดียวและเลือกดนตรีเหมาะกับแต่ละช่วงเวลา
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้คนเบื่องานก็คือเรื่องของ”คน” ซึ่งเขาก็เคยเผชิญสถานการณ์นั้นมาก่อน แต่หลังจากอ่านหนังสือ “The Outward Mindset”ทำให้มุมมองหรือmindsetเปลี่ยนไปเริ่มเอาใจเขามาใส่ใจเรามากขึ้น(Empathy)
การที่เราโกรธใครสักคน หรือมีปัญหากับใครสักคนจะต้องหา 3 ข้อดังนี้ให้เจอคือ1.ความต้องการ (need) หาความต้องการของอีกฝ่าย 2. หาจุดมุ่งหมาย (objective) ของการกระทำของเขาว่าเขาต้องการสิ่งนั้นไปเพื่ออะไร และ 3. หาความท้าทาย (challenge) และทำความเข้าใจปัญหาที่เขากำลังเผชิญเพราะทุกคนมีเหตุผลของตัวเองในทุกการกระทำทำให้เราไม่มองคนอื่นด้วยความโกรธ
ล่าสุด อนุพงษ์ ซีอีโอ เอพีได้ ถ่ายทอดประสบการณ์ผ่านหนังสือ “ชีวิตดีๆที่เลือกได้เอง ”จำนวน123หน้าให้กับพนักงานเอพี และผู้ที่สนใจได้เรียนรู้ที่จะยืดหยุ่นและเลือกที่จะรับมือกับทุกจังหวะชีวิต
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 10มิ.ย. “อ่อนค่า”ที่ระดับ 36.90 บาทต่อดอลลาร์
ค่าเงินบาทโมเมนตัมการอ่อนค่ากลับมาอีกครั้ง จับตาการส่งสัญญาณต่อแนวโน้มนโยบายการเงินของธปท.-เตรียมรับมือความผันผวนค่าเงินบาทจากราคาทองคำและฟันด์โฟลว์
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 10มิ.ย. 2567 ที่ระดับ 36.90 บาทต่อดอลลาร์“อ่อนค่าลงหนัก”จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 36.52 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทยระบุว่า นับตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ ที่ผ่านมา เงินบาทได้ผันผวนอ่อนค่าลงต่อเนื่อง (แกว่งตัวในกรอบ 36.32-36.94 บาทต่อดอลลาร์) นับตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันศุกร์ ตามโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว หลังราคาทองคำทยอยปรับตัวลดลง ตามรายงานเงินทุนสำรองของธนาคารกลางจีน (PBOC)
ซึ่งสะท้อนว่า PBOC ได้ชะลอการเข้าซื้อทองคำ ก่อนที่เงินบาทจะผันผวนอ่อนค่าลงเร็วและแรง หลังรายงานยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) สหรัฐฯ รวมถึงอัตราการเติบโตของค่าจ้าง (Average Hourly Earnings) ออกมาสูงกว่าคาด
กดดันให้ผู้เล่นในตลาดต่างกังวลว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้ไม่ถึง 2 ครั้งในปีนี้ ส่งผลให้ ทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ต่างปรับตัวขึ้นแรง ส่วนราคาทองคำก็ปรับตัวลดลงหนัก (โฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะปรับฐานก็ยังมีส่วนกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงเช่นกัน)
สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องท้ายสัปดาห์ จากยอดการจ้างงานสหรัฐฯ ที่ออกมาสูงกว่าคาด กดดันให้ตลาดกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดอีกครั้ง
สำหรับสัปดาห์นี้ เราประเมินว่า ควรจับตาผลการประชุมบรรดาธนาคารกลางทั้ง เฟด ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และธนาคารแห่งประเทศไทย พร้อมรอลุ้นรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ
มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก
▪ ฝั่งสหรัฐฯ – ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) โดยเราคาดว่า เฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 5.25-5.50% ตามที่ตลาดคาด ทว่าผู้เล่นในตลาดต่างมุ่งความสนใจไปที่ คาดการณ์ดอกเบี้ย หรือ Dot Plot ใหม่
โดยเราประเมินว่า จากแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลงมากขึ้นจากการประชุมเดือนมีนาคม สะท้อนจากดัชนี Growth Surprise โดย Bloomberg ที่ลดลงต่อเนื่อง อาจส่งผลให้บรรดาเจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่จะสนับสนุนการลดดอกเบี้ยลงราว 2 ครั้งในปีนี้ (ลดลงจาก 3 ครั้งใน Dot Plot เดือนมีนาคม)
ขณะที่การลดดอกเบี้ยในปีหน้าอาจอยู่ที่ราว 3-4 ครั้ง และคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะยาว (Longer Run) ก็อาจอยู่แถวระดับ 2.6% ซึ่งสะท้อนว่า เฟดจะยังไม่รีบลดดอกเบี้ย จนกว่าจะมั่นใจแนวโน้มเงินเฟ้อ หรือการจ้างงานชะลอลงมากกว่าคาด
นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI เดือนพฤษภาคม (รับรู้ก่อนผลการประชุม FOMC) ซึ่งหากชะลอลงต่อเนื่อง ก็อาจเพิ่มโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ได้
และนอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด ซึ่งเรามองว่า โทนการสื่อสารอาจมีลักษณะ Neutral-Slightly Dovish ได้
ดังนั้น หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ Dot Plot ใหม่ของเฟด และการสื่อสารของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด ทำให้ผู้เล่นในตลาดคลายกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดและเชื่อว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยลง 2 ครั้งในปีนี้ ก็อาจทำให้ เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ พลิกกลับมาย่อตัวลงบ้าง หลังปรับตัวขึ้นเร็วและแรงในวันศุกร์ก่อนหน้า จากรายงานยอดการจ้างงานที่ออกมาดีกว่าคาด
▪ฝั่งยุโรป – ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานข้อมูลตลาดแรงงานของอังกฤษ เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) หลังล่าสุด ผู้เล่นในตลาดต่างประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษที่ยังคงอยู่ในระดับสูงและทยอยชะลอตัวลงอาจทำให้ BOE ยังไม่รีบลดดอกเบี้ย คล้ายกับแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของเฟด
ซึ่งผู้เล่นในตลาดจะจับตารายงานข้อมูลอัตราการเติบโตของค่าจ้างอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแรงกดดันต่อแนวโน้มเงินเฟ้อจากค่าจ้าง นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เพื่อประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยของ ECB ซึ่งผู้เล่นในตลาดต่างคาดว่า ECB อาจลดดอกเบี้ยได้อีกไม่เกิน 2 ครั้งในปีนี้ (ลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนและธันวาคม)
ฝั่งเอเชีย – ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งผู้เล่นในตลาดต่างประเมินว่า ในการประชุมครั้งนี้ BOJ อาจยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทว่า BOJ อาจส่งสัญญาณพร้อมใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น
โดยผู้เล่นในตลาดบางส่วนก็คาดหวังว่า BOJ อาจเริ่มทยอยปรับลดปริมาณการซื้อบอนด์ในการประชุมครั้งนี้ และส่งสัญญาณชัดเจนว่าพร้อมทยอยขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องในการประชุมครั้งถัดไป หลังอัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นมีแนวโน้มกลับสู่เป้าหมาย 2% ของ BOJ ได้อย่างยั่งยืน
ส่วนทางฝั่งธนาคารกลางไต้หวัน (CBC) อาจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 2.00% หลังอัตราเงินเฟ้อได้ชะลอลงเข้าใกล้ระดับ 2% มากขึ้น คลายความกังวลต่อแนวโน้มการเร่งตัวขึ้นของเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ CBC ขึ้นดอกเบี้ย +12.5bps เซอร์ไพรส์ตลาดในการประชุมเดือนมีนาคม
▪ฝั่งไทย – เราประเมินว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะยังคงมีมติไม่เป็นเอกฉันท์ 5-2 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 2.50% หลังแนวโน้มเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อยังใกล้เคียงกับคาดการณ์ของทาง กนง.
อย่างไรก็ดี กนง. อาจเปิดกว้างได้ว่า (optionality) หากเศรษฐกิจชะลอลงกว่าคาดไปมาก (ซึ่งอาจสะท้อนจากโมเมนตัมเศรษฐกิจที่แย่กว่าคาด) เช่น การเบิกจ่ายภาครัฐมีปัญหา ภาคการส่งออกยังคงซบเซากว่าคาด
รวมถึงอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มต่ำกว่ากรอบเป้าหมายชัดเจน ก็อาจทำให้ กนง. ยังสามารถพิจารณาใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลงได้ ซึ่งภาพดังกล่าวอาจทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนยังคงประเมินว่า กนง. มีโอกาสที่จะลดดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้
สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า โมเมนตัมการอ่อนค่าได้กลับมาอีกครั้ง เปิดโอกาสเงินบาททดสอบโซน 37 บาทต่อดอลลาร์ และเสี่ยงที่จะอ่อนค่าทดสอบจุดสูงสุดของปีนี้ แถว 37.25 บาทต่อดอลลาร์ ได้อีกครั้ง
ทั้งนี้ ควรจับตาการส่งสัญญาณต่อแนวโน้มนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงเตรียมรับมือความผันผวนของค่าเงินบาทจากราคาทองคำและฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติที่อาจยังไม่รีบกลับมาซื้อสินทรัพย์ไทย จนกว่าตลาดจะคลายกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดและความวุ่นวายของสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย
ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า เงินดอลลาร์มีโอกาสย่อตัวลงได้บ้าง หากผู้เล่นในตลาดกลับมาเชื่อว่า เฟดจะสามารถลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้งในปีนี้ ซึ่งจะขึ้นกับรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ และคาดการณ์ดอกเบี้ยเฟด หรือ Dot Plot ใหม่
ทั้งนี้ ทิศทางของเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ก็อาจส่งผลต่อเงินดอลลาร์ได้พอสมควร โดยควรระวังในกรณีที่ตลาดผิดหวังต่อผลการประชุม BOJ ซึ่งสามารถกดดันให้เงินเยนญี่ปุ่นอ่อนค่าลงหนักได้ (เช่น อ่อนค่าลงทดสอบโซน 157-158 เยนต่อดอลลาร์)
เราคงคำแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรเลือกใช้เครื่องมือในการปิดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น ท่ามกลางความผันผวนของเงินบาท รวมถึงสกุลเงินอื่นๆ ที่สูงขึ้นกว่าช่วงอดีตที่ผ่านมาพอสมควร โดยผู้เล่นในตลาดอาจเลือกใช้เครื่องมือเพิ่มเติม อาทิ Options หรือ Local Currency ควบคู่ไปกับการปิดความเสี่ยงผ่านการทำสัญญา Forward
มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 36.30-37.25 บาท/ดอลลาร์
ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.80-37.00 บาท/ดอลลาร์
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
วิว กุลวุฒิ พ่ายมือเต็งเดนมาร์กหวุดหวิดชวดเข้าชิงแบดมินตันอินโดนีเซีย โอเพ่น
“วิว” กุลวฒิ วิทิตศานต์ มือ 8 ของโลกชาวไทย ต้านความแกร่งของ อันเดรส แอนทอนเซน จากเดนมาร์กไม่ไหว พ่ายไป 1-2 เกม หยุดผลงานไว้ที่รอบรองชนะเลิศเท่านั้น
การแข่งขันแบดมินตัน อินโดนีเซีย โอเพ่น 2024 รายการระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัลรวม 1,350,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 49,950,000 บาท ที่อิสโตร่า เสนายัน ในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันเสาร์ที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ
ประเภทชายเดี่ยว “วิว” กุลวฒิ วิทิตศานต์ มือ 8 ของโลกชาวไทย พบ อันเดรส แอนทอนเซน มืออันดับ 5 ของโลกจากเดนมาร์ก โดยสถิติก่อนหน้านี้ พบกันมา 5 ครั้ง กุลวุฒิ เป็นรอง ชนะได้เพียงหนเดียว ซึ่งรายการล่าสุดที่พบกัน อินโดนีเซีย มาสเตอร์ส 2024 เมื่อเดือนม.ค. ที่ผ่านมา แอนทอนเซ่น เอาชนะไปได้ 2-0 เกม
เริ่มเกมแรกทั้งสองฝั่งเปิดเกมบุกเข้าใส่กัน โดยต่างฝ่ายต่างชิงจังหวะโจมตีอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นหนุ่มเดนมาร์กทำได้ดีกว่าออกนำ 11-9 ทว่าหลังจากนั้น แอนทอนเซ่น ที่ชิงจังหวะบุกได้ดีกว่า บีบ “วิว” ให้เป็นฝ่ายรับตลอด ก่อนสุดท้าย กุลวุฒิ จะพลาดท่าไปก่อนในเกมแรก 15-21
เกมสอง กุลวุฒิ ที่เป็นรองเรื่องความหนักและความแม่นยำ ชวนเปลี่ยนมาเล่นเกมยาว ซึ่งก็ทำให้ แอนทอนเซ่น ดูพลังจะตกลงไปและพลาดบ่อยขึ้น ก่อนจะเป็น “วิว” ที่ฉวยโอกาสในเกมนี้ ทำคะแนนปาดหน้าเข้าป้าย 21-19 ตีเสมอ 1-1 เกม ต้องเล่นกันต่อในเกมตัดสิน
เปิดเกมสามมา แอนทอนเซ่น ชิงจังหวะเล่นจู่โจมเร็ว จน “วิว” ตั้งตัวรับไม่ทัน จนตามห่างถึง 2-9 แม้จะไล่มาในช่วงกลางเกม แต่ก็มาตีหลุดง่ายๆ จนตามห่าง 10-19 ก่อนพ่ายไป 11-21 และพ่ายไปอย่างน่าเสียดาย 1-2 เกม 15-21, 21-19 และ 11-21 พลาดเข้าชิง โดยแมตช์นี้ ใช้เวลาแข่งขันนานถึง 1.31 ชม.
รอบชิงชนะเลิศ แอนทอนเซ่น จะพบกับ ฉี ยู่ฉี มือ 2 ของโลกจากจีน ที่ชนะ หลี่ ชิ เฟง มือ 4 ของโลก มา 2-1 เกม ในวันอาทิตย์ ที่ 9 มิ.ย. นี้
ขอบคุณข้อมูลจาก siamsport.co.th
กินเวย์แต่ไม่ออกกำลังกาย ทำให้อ้วนจริงไหม?
เวย์โปรตีน (Whey) เป็นอาหารเสริมสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้ออย่างเห็นผลและรวดเร็วทันใจ แต่หลายคนเกิดความสงสัยว่าหากกินเวย์แต่ไม่ออกกำลังกาย หรือออกกำลังน้อยจนเกินไป แบบนี้จะทำให้อ้วนหรือไม่? Sanook Men มีคำตอบมาฝากกัน
กินเวย์แล้วไม่ออกกำลังกายทำให้ “อ้วน” จริงไหม?
โดยปกติแล้วร่างกายจะมีการสะสมพลังงานมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสัดส่วนของอาหารที่ทาน และพลังงานที่ใช้ในแต่ละวัน หากแต่ละวันทานอาหารเข้าไปมากกว่าพลังงานที่ร่างกายจำเป็นต้องใช้ พลังงานที่เหลือก็จะถูกสะสมในรูปของไขมัน ส่งผลให้เกิดความอ้วนได้ แต่หากพลังงานที่ใช้ไปมากกว่าอาหาร (พลังงาน) ที่ทาน ก็จะถูกแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานจนหมดสิ้น ไม่สะสมเป็นไขมันในร่างกาย
ดังนั้น การกินเวย์แล้วไม่ออกกำลังกาย ไม่ได้ส่งผลให้เกิดความอ้วน แต่การทานอาหารมากเกินกว่าพลังงานที่ใช้ในแต่ละวันต่างหาก คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้น้ำหนักเพิ่ม
นอกจากนี้ การกินเวย์ยังช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงานในร่างกายให้สูงขึ้น และช่วยลดความอยากอาหารลงได้ จึงควรรับประทานเวย์ควบคู่ไปกับการควบคุมอาหาร และออกกำลังกายอย่างเหมาะสม จะเห็นผลจากการกินเวย์ได้ชัดเจนที่สุด
กินเวย์แล้วไม่ออกกำลังกายได้ไหม?
ได้แน่นอน เนื่องจากโปรตีนเป็นสารอาหารที่จำเป็นต้องร่างกายอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง อายุมากน้อยแค่ไหนก็ตาม โปรตีนเป็นส่วนสำคัญในการซ่อมแซมร่างกาย สร้างกล้ามเนื้อที่แข็งแรง จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมคนเล่นกล้ามถึงต้องทานโปรตีนมากกว่าคนปกติ เพื่อให้เห็นผลที่ชัดเจนขึ้นนั่นเอง
สิ่งสำคัญที่สุดคือการรับประทานอาหารอย่างเหมาะสมในแต่ละวัน หากเป็นคนทานน้อย หรือแพ้อาหารบางชนิด จนนำไปสู่การได้รับโปรตีนน้อยกว่าปกติ การกินเวย์ก็ช่วยเสริมโปรตีนเพื่อให้ร่างกายนำไปใช้งานได้นั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
5 สิ่งที่ทำทุกวัน เปลี่ยนตัวเองเป็นคนเก่งภาษาอังกฤษ
5 เคล็ดลับ เปลี่ยนคุณเป็นคนเก่งภาษาอังกฤษ
กิจวัตรประจำวัน ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ที่คุณสามารถทำให้เองง่ายๆ ในทุกวัน
1. ฝึกฟัง พูด อ่าน เขียน ให้ได้ทุกวัน
ถ้าให้อธิบายแบบเข้าใจง่ายๆ คือ การพาตัวเองไปคลุกคลี อยู่กับภาษาอังกฤษ ให้มากที่สุด วันละนิดวันละหน่อย แต่สม่ำเสมอในทุกๆ วัน อาจเริ่มจาก การฟังเพลง, Podcast, ดูหนังที่ชอบ Soundtrack, หรือติดตามช่องฝึกภาษาออนไลน์
เมื่อฟังบ่อยๆ เราจะค่อยๆ ซึมซับ สำเนียง คำศัพท์ เข้ามาในหัว ฝึกพูดจากประโยคสั้นๆ ง่ายๆ และค่อยๆ ฝึกแต่งประโยคที่ใช้จริงในชีวิตประจำวัน
ในการอ่าน พยายามอ่านทุกอย่างที่เป็นภาษาอังกฤษ โดยอาจเริ่มจากหนังสือง่ายๆ เช่น นิทานเด็ก ป้ายข้างทาง สลากสินค้า ต่างๆ พร้อมเปิดหาความหมาย แม้จะใช้เวลาและความอดทน แต่คนที่เก่งภาษาอังกฤษ ก็ล้วนเริ่มต้นมาจากจุดนี้ทั้งนั้น เพื่อให้คุ้นเคยกับการอ่านภาษาอังกฤษ
ในส่วนการเขียน ลองใช้รูปประโยคที่จำได้และคำศัพท์ต่าง ๆ ที่ได้มาใหม่ มาปรับในบันทึกประจำวัน เริ่มจากประโยคง่ายๆ และค่อยๆ ฝึกรูปประโยคที่ซับซ้อนขึ้น ทั้งนี้ควรจะมีผู้รู้หรือเจ้าของภาษาคอยตรวจสอบความถูกต้อง และให้คำแนะนำอย่างสม่ำเสมอ
2. จดคำศัพท์ติดไว้ตามข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ
การเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้คำที่ยากเสมอไป แต่ให้เริ่มจากสิ่งต่างๆ ที่ใช้ได้ในชีวิตจริงในชีวิตประจำวัน จากสิ่งของ เครื่องใช้ต่างๆ ที่อยู่รอบตัว โดยการติดป้ายคำศัพท์ ไว้กับสิ่งของที่เราเห็นทุกครั้งเมื่อใช้งาน เห็นแล้วสะกด อ่าน และจำ ทำซ้ำๆ ทุกวัน คำศัพท์เข้าหัวแน่นอนค่ะ
นอกจากนี้ เวลาที่ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือพูดคุยกับเพื่อนต่างชาติ เมื่อเราได้คำศัพท์ใหม่มา ก็อย่าลืมที่จดบันทึกกันลืมไว้ด้วย ต่อจากนี้อาจต้องลองพกสมุดโน้ตเล่มเล็ก ๆ ไว้ใกล้ตัวให้เป็นนิสัย หรือจะลองใช้พวกแอปพลิเคชันมาประยุกต์ใช้ก็ได้ ทบทวนคำศัพท์เหล่านี้อย่างสม่ำเสมอจำได้แน่นอนค่ะ
3. ลงเรียนคอร์สออนไลน์
อย่างที่เราเห็นกันบ่อยๆ ตามเพจ Facebook ที่เปิดให้เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ฟรีๆ คอร์สหลังจากเรียนจบ หากทำคะแนนการสอบได้ผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนด เขาก็จะออกใบรับรองให้ด้วยว่าได้เรียนจนจบหลักสูตรแล้ว ส่วนมากเป็นหลักสูตรของมหาวิทยาลัยระดับต้น ๆ ของประเทศ ที่ทำขึ้น สำหรับการผู้เรียนที่ต้องการจะพัฒนาตนเอง
แต่ถ้าใครมีเวลาและมีทุนทรัพย์มากหน่อย ก็สามารถเลือกเรียนภาษาอังกฤษ กับสถาบันสอนภาษาก็ย่อมได้ การที่เราลงทุนกับการเรียนภาษาอังกฤษ จะทำให้เราได้ใกล้ชิดกับผู้สอนมากกว่า (การเรียนคอร์สฟรีที่เป็นวิดีโอที่อัดไว้แล้ว ไม่สามารถโต้ตอบกับผู้สอนได้) อาจสอบถาม ในกรณีที่มีข้อสงสัยได้ง่ายกว่า อาจได้รู้หลักหรือเทคนิคในการฟัง พูด อ่าน เขียน ที่เป็นวิธีเฉพาะของอาจารย์คนนั้น ๆ ที่จะช่วยให้เราเก่งได้เร็วขึ้น การสมัครคอร์สเรียนภาษาอังกฤษ จะทำให้เราพัฒนาภาษาในทุกๆ ด้านนั่นเอง
4. พูดคุยกับเพื่อนต่างชาติ / เจ้าของภาษา
การวัดความรู้ภาษาอังกฤษได้ดีที่สุด คือการนำไปใช้ได้จริง อาจให้เพื่อนชาวต่างชาติ หรือ เจ้าของภาษา ให้คำแนะนำ ในการฝึกภาษาอังกฤษ มาเป็นครูสนทนา อาจเป็นเรื่องพูดคุยในชีวิตประจำวัน ในการฝึกภาษากับเพื่อนต่างชาติ จะทำให้เราเรียนรู้ คำสแลง หรือสำนวนต่าง ๆ ที่เจ้าของภาษาใช้ในภาษาพูด ซึ่งไม่มีสอนในหนังสือหรือหลักสูตรที่เป็นทางการ
ไม่ต้องกังวล กลัวจะพูดไม่รู้เรื่อง เพราะส่วนใหญ่แล้วชาวต่างชาติมีความเข้าใจดีว่าเรากำลังฝึกภาษา ที่ไม่ใช่ภาษาแม่ เขารู้ว่าของแบบนี้ต้องค่อย ๆ ฝึกฝน ถ้าไม่ได้ฝึก ไม่ได้ลอง ไม่ได้ใช้จริงกับเจ้าของภาษา แล้วจะเก่งได้อย่างไร ถ้าผิด พวกเขาจะแนะนำสิ่งที่ถูกหรือสิ่งที่เจ้าของภาษาใช้กันแบบเป็นธรรมชาติกว่าให้ เราจะได้ฝึกใช้ภาษาที่พวกเขาใช้กันในชีวิตประจำวันจริง ๆ และใช้อย่างเป็นธรรมชาติ
5. มีแรงบันดาลใจ มีเป้าหมายที่จะทำให้เราฝึกฝนได้ทุกวัน
เมื่อเราตั้งเป้าหมายหรือแรงบันดาลใจ จะทำให้เรามีแรงขับเคลื่อนพร้อมที่จะพัฒนาภาษาอังกฤษ และตั้งใจมากกว่าเดิม พร้อมที่จะเรียนรู้อย่างจริงจังในทุกวัน เสมือนเป็นความท้าทายใหม่ๆ ในการเอาชนะตัวเอง ทำให้เรารู้สึกได้ว่าการใช้ภาษาอังกฤษเป็นเรื่องปกติธรรมดาในชีวิตประจำวันของทุกวัน
ขอบคุณข้อมูลจาก edufirstschool.com
รวมเรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับ ซีพียู ที่รู้แล้วจะต้องอ๋อ
คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่หลายคนเลือกใช้งานและช่วยได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความบันเทิง, การงานต่างๆ รวมถึงจะเป็นการเล่นเกมที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ว่าเคยสังเกตบ้างไหมว่า ชิ้นส่วนของคอมพิวเตอร์นั้นมีบางคนเข้าใจผิดและเรียกผิดว่าเป็น ซีพียู วันนี้ Sanook Hitech จะมาเฉลยกันเรื่องอะไรทื่คุณเข้าใจผิด
CPU คืออะไร
ก่อนอื่นเรามาทบทวนกันว่าความจริง ซีพียู คืออะไรกันก่อน ซีพียู (CPU) เป็นตัวย่อมาจาก Central Processor Unit หน่วยประมวลผลกลาง หน้าที่หลักๆ คือการนำข้อมูลจาก Input มาประมวลผล และ ส่งออกไปยัง Hardware ถ้าเอาง่ายๆ คือ การพิมพ์งานคือการ Input จะวิ่งเข้าไปหา CPU เพื่อประมวลผล และ แสดงบนหน้าจอนั่นเอง โดยคุณจะไม่เห็น CPU เพราะมันติดตั้งกับชิ้นส่วนที่เรียกว่า Mainboard จะเหลือเพียงสติ๊กเกอร์เช่น Intel, AMD หรือล่าสุดกับ Notebook ขุมพลัง Qualcoom
เรื่องเข้าใจผิดว่าคือ CPU
ไปเรียกเคส PC ว่า CPU
บางคนเข้าใจว่าซีพียูคือตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมด เรียกแทนคอมพิวเตอร์ทั้งเครื่องว่า “ซีพียู” แต่สิ่งที่คุณที่เห็นอยู่ภายนอกทั้งก้อนนั่นคือเคสคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีหน้าที่เก็บอุปกรณ์ทำให้อยู่เป็นที่เป็นทางมากกว่า
CPU คือสิ่งเดียวที่ทำให้เล่นเกมลื่น
หลายคนเข้าใจว่าซีพียูมีหน้าที่หลักในการเล่นเกมเท่านั้น ไม่ได้เข้าใจว่าซีพียูเป็นหน่วยประมวลผลหลักที่มีบทบาทสำคัญต่อการทำงานทุกอย่างของคอมพิวเตอร์ เพราะยังมีทั้ง RAM และ GPU ทำงานควบคู่กันไป
CPU กับ GPU คือหน้าที่เดียวกัน
คนทั่วไปอาจสับสนระหว่างซีพียูกับการ์ดจอ ซึ่งที่จริงแล้วมีหน้าที่แยกกัน ซีพียูประมวลผลคำสั่งทั่วไปของคอมพิวเตอร์ ส่วนการ์ดจอประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ และทำให้ภาพแสดงผลสวยและคมขึ้น
ความเร็วที่เข้าใจผิดมานาน
หลายๆ คนเห็นสัญญาณความเร็วระดับ GHz แค่เพียงอย่างเดียว เดี๋ยวนี้อาจจะไม่ได้บอกว่ามันเร็วขนาดไหน นอกจากจำนวนของคอร์ ที่ยิ่งเยอะยิ่งดีแล้ว ค่าเธรด (Thread) ใน CPU บางตัวก็สามารถบอกว่าความเร็วขนาดไหน รวมถึงในยุคของ AI PC จะมีศัพท์ใหม่คือ TOPS (Tera Operations Per Second) จะวัดเรื่องการทำงานกับระบบปัญญาประดิษฐ์ต่างๆ ในเครื่องยิ่งมีมากก็ยิ่งดีเช่นกัน
เห็นไหมว่าจริงๆ แล้วคอมพิวเตอร์เองก็มีหลายองค์ประกอบให้คุณได้เลือกใช้งานอยู่ ดังนั้นการเรียกผิดอาจจะเปลี่ยนความหมายของอุปกรณ์กันไปเลยก็เป็นได้ ดังนั้นมาเรียกชิ้นส่วนนั้นให้ถูกกันดีกว่า
ครั้งหน้า Sanook Hitech จะมีเรื่องราวอะไรดีๆ มาบอกกันต่ออย่าลืมกลับมาติดตามกันนะครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
7 อาหารแหล่งวิตามินบี 6 บำรุงสมอง ลดเครียด ลดซึมเศร้าได้
วิตามินบี 6 มีอีกชื่อเรียกว่า “ไพริดอกซิน” ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากต่อร่างกาย เนื่องจากช่วยทำให้กล้ามเนื้อต่าง ๆ ผ่อนคลาย ช่วยบำรุงสมอง ลดความเครียด และป้องกันภาวะซึมเศร้า ซึ่งพบได้มากในปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มสาวออฟฟิศที่ต้องเผชิญกับความกดดันจากการทำงาน ดังนั้นเราควรได้รับวิตามินบี 6 จากการบริโภคอาหารที่มีประโยชน์อย่างหลากหลาย ดังนั้นเราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 7 อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี 6 ที่คุณสามารถเพิ่มเข้าไปในเมนูอาหารประจำวันได้อย่างง่ายดายกันค่ะ
7 อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี 6
1.ปลาแซลมอน
ปลาแซลมอนเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีและอุดมไปด้วยวิตามินบี 6 นอกจากนี้ยังมีโอเมก้า-3 ซึ่งช่วยส่งเสริมการทำงานของสมองและลดความเครียด สามารถนำมาทำเมนูย่าง นึ่ง หรือทำเป็นสลัดก็อร่อยและได้ประโยชน์ไม่แพ้กัน
2.เนื้อไก่
เนื้อไก่ไม่เพียงแต่ให้โปรตีนสูง ยังมีวิตามินบี 6 อยู่ในปริมาณมาก การรับประทานเนื้อไก่ช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินชนิดนี้อย่างเพียงพอ สามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น ไก่อบ ไก่ผัด หรือไก่ต้มซุป เป็นต้น
3.มันฝรั่ง
มันฝรั่งเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน และมีวิตามินบี 6 นอกจากนี้ยังมีไฟเบอร์สูง ช่วยในการย่อยอาหาร ลองนำมันฝรั่งมาต้ม อบ หรือทำเป็นมันบด เพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหารในมื้อสำคัญได้ไม่ยาก
4.กล้วย
กล้วยเป็นผลไม้ที่หาทานได้ง่ายและมีวิตามินบี 6 สูง นอกจากนี้ยังมีโพแทสเซียมที่ช่วยในการควบคุมความดันโลหิต ลองรับประทานกล้วยเป็นของว่าง หรือนำมาทำสมูทตี้เพื่อความสดชื่น ก็อร่อยและได้ประโยชน์ไปอีกแบบ
5.อะโวคาโด
อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีไขมันดีและวิตามินบี 6 สูง นอกจากนี้ยังมีวิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย ลองทำสลัดอะโวคาโด หรือนำมาทำเป็นสเปรดทาบนขนมปังก็ได้ตามชอบ
6.ถั่วเลนทิล
ถั่วเลนทิลเป็นแหล่งโปรตีนจากพืชที่มีวิตามินบี 6 สูง นอกจากนี้ยังมีไฟเบอร์ที่ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ลองนำถั่วเลนทิลมาทำซุปหรือสลัดเพื่อเพิ่มความหลากหลายในมื้ออาหาร รับรองว่าได้ทั้งวิตามินและดีต่อสุขภาพด้านอื่นร่วมด้วย
7.เมล็ดทานตะวัน
เมล็ดทานตะวันเป็นแหล่งวิตามินบี 6 และยังอุดมไปด้วยสารอาหารอื่นๆ ที่ดีต่อร่างกาย สามารถนำเมล็ดทานตะวันมารับประทานเป็นของว่าง หรือใส่ในสลัด ไปจนถึงทำเป็นเมนูอื่น ๆ ได้อีกหลากหลายเลยทีเดียว
เห็นแบบนี้แล้ว สาว ๆ ลองนำเอาอาหารเหล่านี้ไปประยุกต์เป็นส่วนประกอบหนึ่งของมื้ออาหารกันดูนะคะ เพื่อช่วยเสริมสร้างสุขภาพกายและใจที่แข็งแรงสมบูรณ์
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 10/06/2567
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 40,100.00 | 40,200.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 2,598.00 | 39,385.68 | 40,700.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 2,338.20 | 35,447.11 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 2,078.40 | 31,508.54 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 1,169.00 | 17,722.04 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 909.00 | 13,780.44 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,692.00 | 40,810.72 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 10/06/2567
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 37.35 | 37.35 | 37.95 | 37.35 | 37.35 | 37.35 | 37.35 | 37.35 | 37.35 | 37.35 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 36.98 | 36.98 | 37.38 | 36.98 | 36.98 | 36.98 | 36.98 | 36.98 | 36.98 | 36.98 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 35.24 | 35.24 | 35.84 | 35.24 | 35.24 | – | 35.24 | 35.24 | 35.24 | 35.24 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 34.99 | 34.99 | – | – | – | – | – | – | – | 34.99 |
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม | 45.94 | 49.84 | 49.84 | 49.84 | – | – | – | – | – | 45.94 |
เบนซิน 95 | 45.24 | – | – | – | 48.01 | – | 45.74 | 45.39 | – | 45.24 |
ดีเซล | 32.94 | 32.94 | 33.24 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 44.94 | 47.14 | 49.84 | 47.14 | 47.14 | – | – | – | – | 44.94 |
แก๊ส NGV | 19.59 | 19.59 | – | – | – | – | – | – | – | 19.59 |