สาระน่ารู้ประจำวันที่ 10 กันยายน 2568

เฟรเซอร์สฯ ตั้งฮั่ว เตียง ลิม ขึ้นซีอีโอใหม่ตามกลยุทธ์ OneFrasers

  • เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) หรือ FPT แต่งตั้ง นายฮั่ว เตียง ลิม เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568
  • การแต่งตั้งครั้งนี้เป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ “OneFrasers” ที่มุ่งบูรณาการการบริหารในระดับภูมิภาคเพื่อสร้างองค์กรให้เป็นหนึ่งเดียวและแข็งแกร่ง

การปรับทัพผู้บริหารครั้งสำคัญของ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) หรือ FPT สะท้อนถึงก้าวย่างเชิงกลยุทธ์ครั้งใหม่ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ ที่กำลังมุ่งหน้าสู่การรวมพลังระดับภูมิภาคภายใต้แนวคิด “OneFrasers” เพื่อสร้างองค์กรที่แข็งแกร่ง เป็นหนึ่งเดียว และพร้อมรับมืออนาคตในทุกมิติ

คณะกรรมการบริษัท FPT มีมติแต่งตั้ง นายฮั่ว เตียง ลิม ขึ้นดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของบริษัทฯ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป

การเข้ารับตำแหน่งในครั้งนี้ นายฮั่ว เตียง ลิม จะควบตำแหน่งเดิมในระดับภูมิภาค คือ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ตลาดเกิดใหม่ เอเชีย (Emerging Markets, Asia) ของกลุ่มเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งเป็นบทบาทที่สะสมประสบการณ์เชิงกลยุทธ์จากหลายตลาดสำคัญ

การเปลี่ยนผ่านผู้นำ เพื่อการเติบโตระยะยาว

แม้จะส่งไม้ต่อให้กับผู้นำคนใหม่ แต่ นายธนพล ศิริธนชัย ผู้ดำรงตำแหน่งซีอีโอคนปัจจุบัน ยังคงร่วมขับเคลื่อนองค์กรในฐานะกรรมการบริษัท เพื่อรักษาความต่อเนื่องของกลยุทธ์ และเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนแผนงานระยะยาว

“ความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงการเปลี่ยนผู้นำ แต่คือการต่อยอดยุทธศาสตร์ระดับภูมิภาค ที่จะทำให้ FPT แข็งแกร่งทั้งภายในและภายนอก”

กลยุทธ์ OneFrasersรวมศักยภาพเพื่ออนาคต

การแต่งตั้งนายฮั่ว เตียง ลิม ในครั้งนี้ นับเป็นจิ๊กซอว์สำคัญภายใต้ยุทธศาสตร์ “OneFrasers” ที่มุ่งบูรณาการการบริหารในทุกประเทศที่กลุ่มมีการดำเนินงาน โดยเน้นสร้างความคล่องตัว ตอบรับการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังหมุนเข้าสู่ยุคดิจิทัล การพัฒนาอย่างยั่งยืน และการแข่งขันจากนักลงทุนข้ามชาติ

นายปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ว่า

“การปรับเปลี่ยนเชิงกลยุทธ์ด้านการบริหารในครั้งนี้ จะสะท้อนถึงความเติบโตอีกก้าวหนึ่งในประเทศไทย และตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราในการสร้างองค์กรที่เป็นหนึ่งเดียวและพร้อมสำหรับอนาคต”

ผมขอขอบคุณคุณธนพล ที่มีส่วนสำคัญในการเป็นผู้นำหล่อหลอมให้ FPT ก้าวขึ้นมาเป็นแพลตฟอร์มด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับประเทศ ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าภายใต้การนำของคุณฮั่ว เตียง ลิม บริษัทฯ จะสามารถต่อยอดจากรากฐานที่แข็งแกร่งนี้ และสร้างโอกาสใหม่ ๆ ในการเติบโตต่อไปได้”

“ฮั่ว เตียง ลิม” ผู้นำสายโครงสร้าง

ฮั่ว เตียง ลิม เป็นผู้บริหารที่มีบทบาทเชิงยุทธศาสตร์มาโดยตลอด โดยเฉพาะในการวางแผนรุกตลาด “เกิดใหม่” ในเอเชีย ซึ่งรวมถึงประเทศไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย และอินเดีย เขามีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาโครงสร้างองค์กรให้ตอบโจทย์ทั้งการขยายพอร์ตและการลงทุนในธุรกิจอนาคต

การที่เขาเข้ารับตำแหน่ง CEO ของ FPT จึงเป็นการ “ต่อจิ๊กซอว์” สำคัญ ที่จะช่วย ผสานมุมมองระดับภูมิภาคเข้ากับบริบทธุรกิจในไทย และสร้างพลวัตใหม่ให้กับองค์กรในช่วงเวลาแห่งความเปลี่ยนแปลง

จาก Platform สู่ Ecosystem

FPT ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้นำอสังหาริมทรัพย์ของไทยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยมีพอร์ตลงทุนหลากหลายตั้งแต่โลจิสติกส์ อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ไปจนถึงโครงการอสังหาฯ ผสมผสาน (Mixed-use) การแต่งตั้งผู้นำที่มีมุมมองระดับภูมิภาค จึงสะท้อนถึงการเตรียมพร้อมก้าวต่อไป จาก “แพลตฟอร์ม” สู่ “อีโคซิสเต็ม” ที่เชื่อมโยงกันทุกมิติ

 เปลี่ยนเพื่อเติบโต

การเปลี่ยนผ่านในตำแหน่งซีอีโอของ FPT ไม่ใช่เพียงการสับเปลี่ยนตัวบุคคล แต่คือกลยุทธ์ระยะยาวที่ตั้งใจสร้าง “ความต่อเนื่องเชิงคุณภาพ” ทั้งในระดับบริหารและการขับเคลื่อนกลุ่มธุรกิจสู่อนาคต

“ผู้นำเปลี่ยน แต่เป้าหมายไม่เปลี่ยน คือการเติบโตอย่างมั่นคง และยั่งยืน”

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


ลูนิคทุ่ม 7,500 ล้าน ดึงบันยันกรุ๊ป เปิด Branded Residence แรกพัทยา

  • บริษัท ลูนิค เรียลเอสเตท ทุ่มงบประมาณ 7,500 ล้านบาท พัฒนาโครงการ “Skypark Lucean Jomtien Pattaya”
  • ร่วมมือกับ “บันยันกรุ๊ป” เครือโรงแรมระดับโลก สร้าง Branded Residence แห่งแรกในเมืองพัทยา
  • ชูจุดเด่นด้านการลงทุนด้วยบริการระดับโรงแรม 5 ดาว พร้อมการันตีผลตอบแทนการปล่อยเช่า 6% เป็นเวลา 3 ปี

ในโลกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เต็มไปด้วยผู้เล่นรายใหญ่ การเห็นหน้าใหม่ก้าวขึ้นมาท้าทายด้วยโปรเจกต์มูลค่า 7,500 ล้านบาท นับเป็นสัญญาณที่ทำให้ตลาดต้องหันมาจับตา เมื่อ นางสาวอุรดี กุลกีรติยุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลูนิค เรียลเอสเตท จำกัด ผู้หญิงรุ่นใหม่ไฟแรงที่เลือกปักธงครั้งสำคัญไว้ที่หาดจอมเทียน เมืองพัทยา

โครงการ Skypark Lucean Jomtien Pattaya ยังเป็นการจับมือกับ บันยันกรุ๊ป ยักษ์ใหญ่ด้านโรงแรมและรีสอร์ตระดับโลก เพื่อสร้าง Branded Residence แห่งแรกในพัทยา และเป็นหมากกลยุทธ์ที่สะท้อนความกล้าคิดและวิสัยทัศน์ที่ไกลกว่าจะเป็นผู้เล่นหน้าใหม่

“เราไม่ได้อยากให้โครงการนี้เป็นแค่คอนโด แต่เป็นประสบการณ์การใช้ชีวิตระดับเวิลด์คลาสที่ผสานทั้งการอยู่อาศัยและการลงทุน” นางสาวอุรดี กล่าวพร้อมยํ้าว่า Skypark Lucean คือตัวแทนของความตั้งใจที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ในตลาดอสังหาฯ พัทยา

นางสาวอุรดี ระบุว่า ในทำเลพัทยาโดยเฉพาะหาดจอมเทียนกำลังเปลี่ยนจากเมืองท่องเที่ยวระยะสั้นเป็นศูนย์กลางการอยู่อาศัยระยะยาวของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวรัสเซียและยุโรปที่นิยมพักอาศัย 3-6 เดือน รวมถึงนักลงทุนเอเชียที่มองหาบ้านหลังที่สองใกล้กรุงเทพฯ

จอมเทียนยังได้อานิสงส์จากโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ EEC ทั้งมอเตอร์เวย์ รถไฟความเร็วสูง และสนามบินอู่ตะเภา ทำให้การเดินทางสะดวกเพียง 2 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ ปัจจัยเหล่านี้ ผลักดันให้จอมเทียนกลายเป็นทำเลที่ยังมีช่องว่างการเติบโตสูง แตกต่างจากภูเก็ตที่ต้นทุนที่ดินสูงและเต็มไปด้วยผู้ประกอบการที่แข็งแกร่ง จึงยากที่จะมีมาร์เก็ตแชร์

Skypark Lucean นำเสนอคอนโดลักชัวรีที่แตกต่างด้วยการเป็น Branded Residence ภายใต้การบริหารจัดการของเครือบันยันกรุ๊ป ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุนแล้ว ยังสร้างความสะดวกสบายในการปล่อยเช่าและดูแลทรัพย์สินผ่าน Banyan Living บริษัทบริหารจัดการของบันยันกรุ๊ป

เจ้าของยูนิตยังได้สิทธิพิเศษผ่านการเป็นสมาชิก The Sanctuary Club ที่มอบเอกสิทธิ์ส่วนลดสูงสุด 30% สำหรับการเข้าพักในเครือบันยันกรุ๊ปกว่า 91 แห่งทั่วโลก รวมถึงบริการระดับโรงแรม 5 ดาว ทั้งบริการแม่บ้าน จัดเลี้ยงส่วนตัว ไปจนถึงดูแลด้านเวลเนสครบวงจร

“สิ่งที่เราต้องการไม่ใช่เพียงขายคอนโด แต่คือการส่งมอบไลฟ์สไตล์ที่สมบูรณ์แบบ ให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนอยู่โรงแรมหรูทุกวัน” นางสาวอุรดีย้ำ

แม้เพิ่งเริ่มก่อสร้างในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่โครงการสามารถทำยอดขายเฟสแรกได้กว่า 42% โดยโควตาต่างชาติถูกจับจองไปถึง 36% ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าจากรัสเซีย ญี่ปุ่น เยอรมนี และสหรัฐ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในสินค้าและทำเลที่กำลังเติบโต

โครงการแบ่งการพัฒนาเป็น 2 เฟส โดยเฟสแรกประกอบด้วย อาคาร A สูง 60 ชั้น 647 ยูนิต และอาคาร B สูง 31 ชั้น จำนวน 252 ยูนิต ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การลงทุนเป็นหลัก โดยเจ้าของสามารถเข้าอยู่อาศัยเองได้ในช่วงที่ห้องว่าง ขณะเดียวกันเมื่อมีการปล่อยเช่า ระบบบริหารจะจัดสรรและหมุนเวียนยูนิตอื่นให้ใช้งานแทนได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับเฟสสองจะตามมาด้วยอาคาร C สูง 60 ชั้น 588 ยูนิต พร้อมพื้นที่รีเทลและไลฟ์สไตล์เพื่อเติมเต็มการอยู่อาศัย

สำหรับยูนิตมีตั้งแต่สตูดิโอเริ่มต้นที่ 28 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 4.3 ล้านบาท ไปจนถึงเพนต์เฮาส์หรู ขนาด 379 ตารางเมตรบนชั้น 54 ราคา 110 ล้านบาท ซึ่งถูกวางให้เป็น “เรือธง” ของโครงการในฐานะ Sky Penthouse หนึ่งเดียวเพื่อแสดงศักยภาพซูเปอร์ลักชัวรี

แม้จะเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ในตลาดอสังหาฯ ไทย แต่ลูนิค เรียลเอสเตทภายใต้การนำของนางสาวอุรดี ได้วางเป้าหมายชัดเจนว่า ต้องการให้บริษัทเป็นที่จดจำในฐานะผู้พัฒนาโครงการที่แตกต่าง ที่เน้นคุณภาพและประสบการณ์อยู่อาศัย

นางสาวอุรดียังได้ยํ้าว่า โครงการ Skypark Lucean ไม่เพียงตอบโจทย์เรียลดีมานด์ แต่ยังเป็นโอกาสการลงทุนระยะยาว โดยคาดการณ์ Capital Gain ราว 30% เมื่อโครงการแล้วเสร็จในปี 2571 และมีการันตีผลตอบแทนการปล่อยเช่า 6% เป็นเวลา 3 ปีจาก Banyan Living จึงสะท้อนการวางจุดยืนของบริษัทให้เป็นทั้งแบรนด์เพื่อการอยู่อาศัยและการลงทุนที่มั่นคง

ทั้งนี้ กลยุทธ์การจับมือกับแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือระดับโลกอย่างบันยันกรุ๊ป การเลือกทำเลที่กำลังเติบโต และการนำเสนอ Branded Residence ที่ตอบโจทย์ทั้งอยู่อาศัยและลงทุน ทำให้ Skypark Lucean กลายเป็นหมุดหมายสำคัญที่น่าจับตามองต่อไปในอนาคตของตลาดอสังหาริมทรัพย์พัทยา

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 10ก.ย.“อ่อนค่าลง” ที่ระดับ 31.77 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทอาจจำกัดการอ่อนค่าแถวโซนแนวต้าน 31.85 บาทต่อดอลลาร์ หลังตลาดรอลุ้น รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐ มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 31.65-32.00 บาท/ดอลลาร์

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 10ก.ย.2568ที่ระดับ  31.77 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง”จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ  31.63 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่าแนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า แม้เงินบาท (USDTHB) จะทยอยอ่อนค่าลงบ้าง ตามการปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งหนุนการรีบาวด์ขึ้นของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ พร้อมกับกดดันให้ราคาทองคำย่อตัวลง

ทว่า การอ่อนค่าของเงินบาทก็อาจจำกัดแถวโซนแนวต้าน 31.85 บาทต่อดอลลาร์ ไปก่อนได้ หลังผู้เล่นในตลาดต่างก็รอลุ้น รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ทั้งดัชนีราคาผู้ผลิต PPI ที่จะทยอยรับรู้ในช่วง 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย

และอัตราเงินเฟ้อ CPI ที่จะทยอยรับรู้ในช่วง 19.30 น. ของคืนวันพฤหัสบดี นี้ ซึ่งทั้งสองข้อมูลดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินได้พอสมควร ผ่านการปรับเปลี่ยนมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด

ทั้งนี้ ในช่วงก่อนตลาดรับรู้รายงานข้อมูลดังกล่าว เรามองว่า เงินบาทอาจเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าบ้าง หากผู้เล่นในตลาดบางส่วนอย่างฝั่งนักลงทุนต่างชาติ พลิกกลับมาทยอยขายทำกำไรสินทรัพย์ไทย หลังในช่วงระยะสั้น เงินบาทได้แข็งค่าขึ้นมาพอสมควร เพิ่มผลตอบแทนให้กับบรรดานักลงทุนต่างชาติ

นอกจากนี้ ควรต้องจับตาการเคลื่อนไหวของเงินหยวนจีน (CNY) หลังรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ เนื่องจากในระยะหลัง เงินบาทกับเงินหยวนจีน ได้เคลื่อนไหวสอดคล้องกันพอสมควร

ส่วนในช่วง 19.30 น. ที่ตลาดจะทยอยรับรู้ รายงานดัชนีราคาผู้ผลิต PPI ของสหรัฐฯ เรามองว่า ควรระวังความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นกับตลาดการเงิน เนื่องจากหากดัชนีราคาผู้ผลิต PPI ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องและสูงกว่าคาด อาจทำให้ ผู้เล่นในตลาดปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดเพิ่มเติมได้ หนุนให้ เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นเพิ่มเติม กดดันทั้งราคาทองคำและเงินบาท ทำให้ เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้าน 31.85 บาทต่อดอลลาร์ ได้ไม่ยาก (แนวต้านถัดไป 32.00 บาทต่อดอลลาร์)

ในทางกลับกัน หากดัชนีราคาผู้ผลิต PPI ของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงและออกมาต่ำกว่าคาด ทำให้ ผู้เล่นในตลาดอาจยังมั่นใจต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดราว 3 ครั้ง ได้ ส่งผลให้ เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ เสี่ยงย่อตัวลงบ้าง ส่วนราคาทองคำก็มีโอกาสรีบาวด์สูงขึ้น ทำให้เงินบาทยังมีโอกาสทยอยกลับมาแข็งค่าขึ้น เข้าใกล้โซน 31.50-31.60 บาทต่อดอลลาร์ ได้อีกครั้ง

เรายังคงมีความกังวลเดิม คือ ความผันผวนของเงินบาทอาจกลับมาสูงขึ้นได้ ท่ามกลางการปรับเปลี่ยนมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ซึ่งเรามองว่า ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ Options หรือพิจารณาใช้สกุลเงินท้องถิ่น (Local Currencies) เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 31.65-32.00 บาท/ดอลลาร์

โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) พลิกกลับมาทยอยอ่อนค่าลง เข้าใกล้โซน 31.80 บาทต่อดอลลาร์ (แกว่งตัวในกรอบ 31.62-31.79 บาทต่อดอลลาร์) หลังเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ รีบาวด์สูงขึ้นต่อเนื่อง พร้อมกับกดดันให้ ราคาทองคำ (XAUUSD) ย่อตัวลงจากจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์

แม้ว่า ยอดการจ้างงานสหรัฐฯ ในช่วง 12 เดือน จนถึงเดือนมีนาคม 2025 จะถูกปรับลดถึง 9.11 แสนตำแหน่ง แย่กว่าที่ตลาดคาดไว้ ในการปรับปรุงข้อมูลการจ้างงานใหม่โดยทาง BLS (สะท้อนว่า ยอดการจ้างงานโดยเฉลี่ยอาจลดลงจากที่เคยประกาศราว 7.6 หมื่นตำแหน่ง ต่อเดือน) แต่ผู้เล่นในตลาดต่างก็ไม่ได้ปรับเพิ่มคาดคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด

ในทางกลับกัน ผู้เล่นในตลาดได้ทยอยปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดลงบ้าง โดยล่าสุด ผู้เล่นในตลาดมองว่า เฟดมีโอกาสราว 66% ที่จะลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง ในปีนี้ และเฟดก็อาจเดินหน้าลดดอกเบี้ยอีกราว 3 ครั้ง ในปีหน้า หลังผู้เล่นในตลาดต่างรอลุ้น รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI และดัชนีราคาผู้ผลิต PPI ของสหรัฐฯ ที่จะทยอยรับรู้ในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ ซึ่งรายงานข้อมูลดังกล่าวก็อาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการปรับดอกเบี้ยนโยบายของเฟดได้

บรรยากาศในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง หนุนโดยการปรับตัวขึ้นของบรรดาหุ้นเทคฯ ใหญ่ อาทิ Alphabet +2.4%, Nvidia +1.5% หลังผู้เล่นในตลาดประเมินว่า แนวโน้มการจ้างงานสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลงชัดเจน โดยเฉพาะหลังการปรับปรุงข้อมูลการจ้างงานรอบ 12 เดือน ถึงเดือนมีนาคม 2025 จะทำให้เฟดยังสามารถเดินหน้าลดดอกเบี้ยได้ตามที่ตลาดประเมินไว้ ส่งผลให้โดยรวมดัชนี S&P500 ปิดตลาด +0.27%

ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย +0.06% หนุนโดยการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน อาทิ TotalEnergies +1.6% ตามการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบ หลังอิสราเอลได้โจมตีทางอากาศในกรุงโดฮา เมืองหลวงของกาตาร์ เพื่อสังหารผู้นำระดับสูงของกลุ่ม Hamas นอกจากนี้ ดีลการควบรวมของหลายบริษัทยุโรปก็มีส่วนช่วยหนุนตลาดหุ้นยุโรป อาทิ การควบรวมระหว่างหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ Anglo American +9.1% กับ Teck Resources ของแคนาดา

ส่วนในฝั่งตลาดบอนด์ ผู้เล่นในตลาดทยอยปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดลงบ้าง ก่อนรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI และดัชนีราคาผู้ผลิต PPI ของสหรัฐฯ ส่งผลให้ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ทยอยปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.08% สอดคล้องกับ มุมมองของเรา ที่ประเมินว่า บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ได้ปรับตัวลดลงมาพอควร

ทำให้ในช่วงระยะสั้น มีความเสี่ยงที่บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อาจจะรีบาวด์สูงขึ้นบ้าง หากผู้เล่นในตลาดปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดลงบ้าง ซึ่งภาพดังกล่าวอาจยังดำเนินต่อไปได้ หากรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI และดัชนีราคาผู้ผลิต PPI ยังคงปรับตัวสูงขึ้น

ขณะเดียวกัน ความกังวลต่อเสถียรภาพการคลังของบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลักก็ยังคงอยู่ เราจึงมองว่า ผู้เล่นในตลาดควรรอจังหวะบอนด์ยีลด์ระยะยาวสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น ในการทยอยเข้าซื้อ (ไม่ควรไล่ราคาซื้อ เนื่องจากในช่วงนี้ Risk-Reward อาจไม่คุ้มค่า) ส่วนผู้ที่มีสถานะลงทุนในบอนด์ระยะยาว ก็สามารถ Let Profits Run ได้

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์พลิกกลับมาทยอยแข็งค่าขึ้น สอดคล้องกับการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ หลังผู้เล่นในตลาดปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดลงบ้าง ก่อนที่จะรับรู้รายงานดัชนีราคาผู้ผลิต PPI และอัตราเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ ส่งผลให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวขึ้นสู่โซน 97.8 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 97.2-97.9 จุด)

ในส่วนของราคาทองคำ จังหวะการรีบาวด์สูงขึ้นของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ตามการทยอยปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดของผู้เล่นในตลาด กอปรกับแรงขายทำกำไรทองคำ ได้กดดันให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. 2025) ย่อตัวลงบ้าง ส่งผลให้ ราคาทองคำล่าสุดแกว่งตัวแถวโซน 3,660-3,670 ดอลลาร์ต่อออนซ์

สำหรับในช่วง 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานดัชนีราคาผู้ผลิต PPI ของสหรัฐฯ ในเดือนสิงหาคม เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด

ส่วนในฝั่งเอเชีย ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ผ่านรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI และดัชนีราคาผู้ผลิต PPI ในเดือนสิงหาคม

นอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานยอดสต็อกน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ รวมถึงพัฒนาการของความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ อย่าง ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง หลังอิสราเอลได้โจมตีทางอากาศ ต่อเป้าหมายในกรุงโดฮา เมืองหลวงของกาตาร์ เพื่อสังหารผู้นำระดับสูงของกลุ่ม Hamas ซึ่งทั้งสองปัจจัยดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นได้  

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


เปิดรายชื่อ 16 ทีมชาติ U23 เข้ารอบสุดท้าย ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2026

การแข่งขันฟุตบอล ชิงแชมป์เอเชีย 2026 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก ปิดฉากลงหลังจากที่ทุกชาติเตะตามโปรแกรมครบทั้ง 11 กลุ่ม เป็นที่เรียบร้อย

โดยทำให้ได้ทีมครบทั้ง 16 ชาติ ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย แบ่งเป็นแชมป์กลุ่มทั้ง 11 กลุ่ม บวกกับอันดับ 2 ที่ดีที่สุดจากทั้ง 11 กลุ่ม อีก 4 ทีม

ซึ่งหนนี้ “ทัพช้างศึก” ทีมชาติไทย สามารถคว้าตั๋วผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายได้เช่นกัน หลังเฉือนเอาชนะ มาเลเซีย 2-1 ในช่วงทดเจ็บ เก็บสามแต้มสำคัญคว้าแชมป์กลุ่มเอฟ

สรุปทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ฟุตบอล ชิงแชมป์เอเชีย 2026 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี

  • ซาอุดิอาระเบีย (เจ้าภาพ)
  • จอร์แดน (แชมป์กลุ่มเอ)
  • ญี่ปุ่น (แชมป์กลุ่มบี)
  • เวียดนาม (แชมป์กลุ่มซี)
  • ออสเตรเลีย (แชมป์กลุ่มดี)
  • คีร์กีซสถาน (แชมป์กลุ่มอี)
  • ไทย (แชมป์กลุ่มเอฟ)
  • อิรัก (แชมป์กลุ่มจี)
  • กาตาร์ (แชมป์กลุ่มเอช)
  • อิหร่าน (แชมป์กลุ่มไอ)
  • เกาหลีใต้ (แชมป์กลุ่มเจ)
  • ซีเรีย (แชมป์กลุ่มเค)
  • จีน (รองแชมป์กลุ่มที่ดีที่สุด)
  • อุซเบกิสถาน (รองแชมป์กลุ่มที่ดีที่สุด)
  • เลบานอน (รองแชมป์กลุ่มที่ดีที่สุด
  • ยูเออี (รองแชมป์กลุ่มที่ดีที่สุด)

สำหรับการแข่งขัน ฟุตบอล ชิงแชมป์เอเชีย 2026 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้าย จะจัดขึ้นที่ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ระหว่างวันที่ 7-25 มกราคม 2569

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


จามบอกโรค VS จามบอกเหตุ แยกยังไง? มูอย่างเดียวไม่ได้ สุขภาพก็ต้องระวัง!

การจามเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติของร่างกายเพื่อขับสิ่งแปลกปลอมออกจากโพรงจมูก แต่สำหรับคนไทยและอีกหลายวัฒนธรรมทั่วโลก การจามไม่ได้เป็นแค่เรื่องทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่ยังถูกมองว่าเป็นสัญญาณจากเบื้องบนหรือเป็นลางบอกเหตุบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยมีความเชื่อที่แตกต่างกันไปตามช่วงเวลาของการจาม

จามบอกเหตุ ความเชื่อโบราณ สัญญาณเตือนบอกเหตุร้ายดี

จาม 1 ครั้ง: มีคนนินทา

เป็นความเชื่อที่แพร่หลายมากที่สุด หากจาม 1 ครั้งโดยไม่มีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น คัดจมูกหรือน้ำมูกไหล มักจะเชื่อกันว่ามีคนกำลังนินทาถึงเราอยู่ ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ทั้งในแง่บวกและแง่ลบ

จาม 2 ครั้ง: มีคนคิดถึง

หากจาม 2 ครั้งติดต่อกัน เชื่อว่ามีคนกำลังคิดถึงเราอยู่ โดยอาจจะเป็นคนรัก เพื่อนสนิท หรือคนที่เรารู้สึกผูกพันด้วย

จาม 3 ครั้ง: จะได้เจอเนื้อคู่

ความเชื่อนี้อาจจะทำให้ใครหลายคนยิ้มได้ หากจาม 3 ครั้งติดต่อกันโดยไม่มีสาเหตุ เชื่อกันว่าคุณกำลังจะได้พบเจอเนื้อคู่ หรือคนที่คุณจะได้พัฒนาความสัมพันธ์ไปในทางที่ดี

จามมากกว่า 3 ครั้ง: อาจมีโชคร้าย

สำหรับคนที่จามมากกว่า 3 ครั้งติดต่อกัน เชื่อว่าอาจจะเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณกำลังจะพบกับเรื่องโชคร้าย หรือมีอุปสรรคเข้ามาในชีวิต ซึ่งเป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคลที่ใช้เตือนให้เราใช้ชีวิตอย่างมีสติและไม่ประมาท

จามตามช่วงเวลา

นอกจากจำนวนครั้งแล้ว การจามตามช่วงเวลาต่างๆ ก็มีความหมายแฝงที่แตกต่างกันออกไปในความเชื่อโบราณ เช่น:

  • ช่วงเช้า (6.00-11.00 น.): มีคนจะนำข่าวดีมาให้ หรือจะได้รับโชคลาภที่ไม่คาดคิด
  • ช่วงบ่าย (13.00-16.00 น.): มีคนกำลังรอคอยคุณอยู่ หรือคุณกำลังจะได้ไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์
  • ช่วงเย็น (18.00-21.00 น.): จะได้รับความช่วยเหลือจากคนที่ไม่คาดคิด หรืออาจจะได้พบกับมิตรใหม่

จามบอกโรค vs จามบอกเหตุ ควรแยกแยะอย่างไร?

สิ่งสำคัญคือเราต้องแยกแยะให้ออกระหว่างความเชื่อกับความเป็นจริงทางการแพทย์ การจามบ่อยครั้งอาจเป็นสัญญาณของโรคบางอย่าง เช่น ภูมิแพ้ ไข้หวัด หรืออาจเกิดจากการแพ้ฝุ่นละออง สิ่งที่เราควรทำคือ:

  • สังเกตอาการ: หากจามพร้อมกับอาการอื่น ๆ เช่น มีน้ำมูก คัดจมูก เจ็บคอ หรือมีไข้ ควรนึกถึงสาเหตุทางการแพทย์เป็นหลัก
  • ทำความสะอาดบ้าน: หากจามบ่อยในบ้าน อาจเกิดจากไรฝุ่นหรือฝุ่นละออง ควรทำความสะอาดบ้านและเครื่องนอนอย่างสม่ำเสมอ
  • ปรึกษาแพทย์: หากจามบ่อยจนผิดปกติและส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง

ไม่ว่าคุณจะเชื่อในเรื่องการจามบอกเหตุหรือไม่ก็ตาม การจามถือเป็นเรื่องปกติของร่างกาย แต่หากการจามนั้นกลายเป็นปัญหาต่อสุขภาพ การไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาย่อมเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ส่วนความเชื่อที่เกี่ยวกับการจามนั้นก็เป็นเพียงสีสันที่ช่วยให้ชีวิตเรามีเรื่องราวที่น่าสนใจมากขึ้นเท่านั้นเอง

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ฟอร์ติเน็ต เปิดฟีเจอร์ใหม่ใน “FortiOS” รับมือภัยคุกคามยุค“ควอนตัม”

  • ฟอร์ติเน็ตเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ “Quantum-Safe” ในระบบปฏิบัติการ FortiOS เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่สามารถทำลายมาตรฐานการเข้ารหัสในปัจจุบัน
  • ฟีเจอร์ดังกล่าวใช้อัลกอริทึมการเข้ารหัสที่ทนทานต่อควอนตัม (PQC) และรองรับเทคโนโลยี Quantum Key Distribution (QKD) เพื่อรับมือการโจมตีแบบ “Harvest-Now, Decrypt-Later”
  • ความสามารถใหม่นี้พร้อมให้ลูกค้าใช้งานแล้วโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถเปลี่ยนผ่านสู่ระบบความปลอดภัยยุคหลังควอนตัมได้อย่างราบรื่น

นายไมเคิล ซี ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัทฟอร์ติเน็ต จำกัด ผู้ให้บริการด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ชั้นนำ เปิดเผยว่า ฟอร์ติเน็ต ขับเคลื่อนการผสานรวมของระบบเครือข่ายและระบบรักษาความปลอดภัยเข้าด้วยกัน ประกาศยกระดับความสามารถด้านนวัตกรรมในระบบปฏิบัติการแบบรวมศูนย์ FortiOS เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากพลังการประมวลผลของระบบคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่อาจส่งผลกระทบต่อมาตรฐานการเข้ารหัสข้อมูลที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน

ซึ่งความสามารถล่าสุดของ FortiOS ช่วยให้องค์กรที่มีข้อมูลละเอียดอ่อนสูงสามารถใช้อัลกอริทึมการเข้ารหัสและวิธีการกระจายกุญแจเพื่อเข้ารหัส (Key Distribution) ที่ทนทานต่อการโจมตีด้วยพลังของคอมพิวเตอร์ควอนตัมได้ นอกจากนี้ยังเสริมความแข็งแกร่งด้วยการซ้อนอัลกอริทึมหลายชั้น พร้อมเปลี่ยนผ่านสู่ระบบรักษาความปลอดภัยหลังยุคควอนตัมได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน

ฟอร์ติเน็ตมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถป้องกันภัยคุกคามจากการโจมตีของคอมพิวเตอร์ควอนตัม ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถประมวลผลข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและมีพลังในการถอดรหัสมาตรฐานการเข้ารหัสที่ใช้ในปัจจุบัน ฟีเจอร์ Quantum-Safe ที่เราเปิดตัวจะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถปกป้องข้อมูลสำคัญได้อย่างมั่นคง และเตรียมพร้อมสำหรับยุคหลังควอนตัมได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานในระยะยาว”

การพัฒนาของฟีเจอร์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่ฟอร์ติเน็ตได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคามจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในอนาคต โดยองค์กรต่างๆ จะต้องเผชิญกับความท้าทายในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลจากการโจมตีที่ใช้พลังของคอมพิวเตอร์ควอนตัม การโจมตีประเภทนี้เรียกว่า “Harvest-Now, Decrypt-Later” (HNDL) ซึ่งเป็นการเก็บข้อมูลที่เข้ารหัสไว้ในปัจจุบันเพื่อนำไปถอดรหัสในภายหลัง เมื่อคอมพิวเตอร์ควอนตัมพร้อมใช้งาน ฟีเจอร์ Quantum-Safe ใน FortiOS ช่วยป้องกันภัยคุกคามนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ฟอร์ติเน็ตยังได้เปิดตัวฟีเจอร์ที่สามารถรองรับการทำงานร่วมกับ Quantum Key Distribution (QKD) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้กลศาสตร์ควอนตัมในการแลกเปลี่ยนกุญแจเพื่อการเข้ารหัสอย่างปลอดภัย ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มความมั่นคงปลอดภัยในระบบเครือข่ายขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจาก QKD สามารถตรวจจับการพยายามสอดแนมข้อมูลในทันที เช่น การดักจับกุญแจที่ใช้ในการเข้ารหัสเพื่อนำไปโจมตีในภายหลัง

ฟอร์ติเน็ตยังมุ่งเน้นการเสริมความปลอดภัยด้วยการซ้อนอัลกอริธึม การเข้ารหัสหลายตัว ซึ่งทำให้ระบบการปกป้องข้อมูลมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น การรวมหลายอัลกอริธึมเข้าด้วยกันช่วยให้สามารถรับมือกับภัยคุกคามที่หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่กระทบต่อการทำงานในเครือข่าย

“ฟีเจอร์ Quantum-Safe ใน FortiOS พร้อมใช้งานแล้วสำหรับลูกค้าทุกคน โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ฟีเจอร์นี้รองรับการเข้ารหัสหลังยุคควอนตัม (Post-Quantum Cryptography หรือ PQC) ที่ได้รับการรับรองจาก NIST เช่น ML-KEM และอัลกอริธึมที่กำลังพัฒนา เช่น BIKE, HQC และ Frodo ซึ่งจะช่วยให้การปกป้องข้อมูลในเครือข่ายเป็นไปอย่างปลอดภัยและทันสมัย” นายไมเคิล ซี กล่าวเพิ่มเติม

ฟีเจอร์ Quantum-Safe ใน FortiOS ยังสามารถทำงานร่วมกับระบบการเข้ารหัสแบบดั้งเดิมและเทคโนโลยี QKD ได้อย่างราบรื่น เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบรักษาความปลอดภัยหลังยุคควอนตัมอย่างค่อยเป็นค่อยไป ฟอร์ติเน็ตยังได้ปรับปรุงอินเทอร์เฟซผู้ใช้ให้สะดวกและใช้งานง่ายขึ้น ทำให้ผู้ดูแลระบบสามารถตั้งค่าระบบรักษาความปลอดภัยในแบบ Quantum-Safe ได้อย่างง่ายดาย

ดร.ศุภกร กังพิศดาร ผู้จัดการประจำประเทศไทยและลาวของฟอร์ติเน็ต กล่าวเสริมว่า “ในประเทศไทยเรากำลังเห็นความสนใจจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่ต้องการเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยคุกคามที่เกิดจากระบบคอมพิวเตอร์ควอนตัม ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ได้ออกแนวทางการปฏิบัติสำหรับยุคควอนตัม ฟอร์ติเน็ตมองว่าการเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้เป็นเทรนด์สำคัญที่องค์กรทั่วโลกจะต้องให้ความสนใจ ซึ่งเรามีผลิตภัณฑ์ที่สามารถรองรับภัยคุกคามที่เกิดจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

ด้วยฟีเจอร์ใหม่ของ FortiOS ที่พร้อมใช้งานในปัจจุบัน ฟอร์ติเน็ตได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ควอนตัม โดยไม่เพียงแต่ปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อนสูงจากการโจมตีในปัจจุบัน แต่ยังเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคหลังควอนตัมที่มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


บทสนทนาทางโทรศัพท์ ภาษาอังกฤษ รวมหลากหลายสถานการณ์ที่คุณนำไปใช้ได้ในออฟฟิศ

หนึ่งในทักษะจำเป็นของการทำงานออฟฟิศคือการสื่อสารทางโทรศัพท์ ซึ่งทุกวันนี้หลายบริษัทก็มีความจำเป็นต้องติดต่อกับชาวต่างชาติ ทั้งที่เป็นพนักงานในบริษัทและสายจากภายนอกที่ติดต่อเข้ามา การรู้ บทสนทนาทางโทรศัพท์ ภาษาอังกฤษ พื้นฐานเพื่องานออฟฟิศเอาไว้ จึงเป็นสิ่งจำเป็น หากนี่คือสิ่งที่เพื่อน ๆ สนใจ วันนี้เราเตรียมประโยคจำเป็นเกี่ยวกับบทสนทนาทางโทรศัพท์มาให้หลายประโยคที่นำไปใช้ได้จริง

ประโยค บทสนทนาทางโทรศัพท์ ภาษาอังกฤษ เริ่มต้นรับสายและถามถึงวัตถุประสงค์การโทรมา

หากเป็นงานบริษัท การทักทายจะมีโครงสร้าง 3 ส่วนคือ สวัสดี – บอกชื่อแผนกหรือบอกชื่อบริษัท (กรณีเป็นสายนอก) และชื่อคนที่พูดสาย – ถามว่าเราจะช่วยอะไรได้บ้าง ลองสังเกตตัวอย่างนี้

Good afternoon, HR department, Jay speaking. How can I help you?

(สวัสดีครับ ที่นี่ฝ่ายบุคคล ผมเจย์พูดครับ ต้องการให้ช่วยอะไรครับ

หลังจากนี้ คนที่โทรมาจะบอกเราว่าเขาต้องการอะไร เช่น

May I speak to …, please?

(ผมขอพูดกับคุณ … ได้ไหมครับ)

คำถามนี้ตอบได้ไม่ยาก โดยเรานำมาให้สองประโยค หากคุณรู้แล้วว่าใครเป็นคนโทรมา ให้นำประโยคที่สองไปใช้ได้เลย แต่หากยังไม่รู้ ก็จำเป็นต้องถามด้วยประโยคแรก

– Excuse me. Who’s speaking? / Excuse me. Who’s calling?

(ขอโทษนะครับ ใครกำลังพูดสายอยู่ครับ / ขอโทษครับ ใครเป็นคนโทรมาครับ)

– Hold on, please.

(ถือสายรอสักครู่นะครับ)

หากเราเป็นฝ่ายโทรไป และต้องบอกสิ่งที่เราต้องการ สามารถใช้โครงสร้างประโยค I’m calling to … / I’m calling about … (ผมโทรมาเรื่อง …) ในการเริ่มต้นหลังจากการทักทายจากผู้รับสายได้ เช่น

– I’m calling to register for the upcoming conference.

(ผมโทรมาเพื่อจะลงชื่อเข้าร่วมการประชุมครับ)

– I’m calling about our appointment tomorrow.

(ผมโทรมาเรื่องนัดวันพรุ่งนี้ครับ)

– I’m calling to let you know that I’m interested in your project.

(ผมโทรมาเพื่อแจ้งให้คุณทราบว่าผมสนใจโครงการของคุณ)

ประโยค บทสนทนาทางโทรศัพท์ ภาษาอังกฤษ เมื่อต้องรับฝากข้อความ

หลายครั้งคนที่อีกฝ่ายต้องการคุยด้วยอาจไม่ว่าง ออกไปข้างนอก ติดประชุม ฯลฯ เราจึงจำเป็นต้องรับฝากข้อความ ซึ่งจะมีโครงสร้าง 3 ส่วนคือ เริ่มด้วยการขอโทษ – บอกเหตุผลว่าเขาไม่ว่างหรือไม่อยู่ – ปิดท้ายด้วยการเสนอให้ความช่วยเหลือด้วยการรับฝากข้อความ เช่น

– I’m sorry. He’s not available at the moment. Would you like to leave a message?

(ขอโทษครับ ตอนนี้เขาไม่ว่างครับ คุณต้องการฝากข้อความอะไรไว้ไหมครับ)

– I’m sorry. She is in the meeting. Would you like to leave a message?

(ตอนนี้เขาติดประชุมอยู่ครับ คุณต้องการฝากข้อความอะไรไว้ไหมครับ)

– I’m sorry. He’s on another call. – Can I take a message?

(ตอนนี้เขาติดสายอยู่ครับ ให้ผมรับข้อความอะไรไว้ไหมครับ)

หมายเหตุ: สองประโยคแรกซึ่งใช้ Would like นิยมใช้กันมากกว่า แต่ถ้าเป็นคนที่คุ้นเคยกันดีอย่างเช่น เรารู้จักคนที่โทรมา ก็สามารถใช้ประโยคที่สามได้

หากเราเป็นฝ่ายโทรไป หลังจากรู้ว่าคนที่ต้องการคุยด้วยไม่ว่าง โดยที่อีกฝ่ายไม่ได้ถามเรื่องฝากข้อความ เราอาจถามว่า

– Can I leave a message?

(ผมฝากข้อความไว้ได้ไหมครับ)

สำหรับการตอบ ถ้าคนที่โทรมาไม่ต้องการฝากข้อความ เขาจะบอกว่า

– No, thanks. I’ll call back later.

(ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมโทรกลับมาใหม่)

แต่ถ้าต้องการฝากข้อความ ก็จะพูดได้สองแบบ คือ

แบบแรก: ตอบด้วย Yes. แล้วตามด้วยประโยค Could you ต่อด้วยสิ่งที่ต้องการให้ทำ วิธีนี้เป็นการขอร้องอย่างสุภาพ มาดูตัวอย่างประโยค ดังนี้

– Yes. Could you ask him / her to call me back?

(ครับ ช่วยบอกเขาให้โทรกลับมาหาผมด้วย) โดยเราจะใช้ him สำหรับผู้ชาย และ her สำหรับผู้หญิง

– Yes. Could you ask him / her to call me back as soon as possible? It’s quite urgent.

(ครับ ช่วยบอกเขาให้โทรกลับหาผมโดยเร็วที่สุดนะครับ เพราะมันค่อนข้างเร่งด่วน)

แบบที่สอง: ใช้ Please ตามด้วยสิ่งที่ต้องการฝากให้อีกคนไปทำ

– Please ask him / her to call me back.

(ช่วยบอกเขาให้โทรกลับหาผมด้วยนะครับ)

– Please remind him / her that he / she has an appointment tomorrow.

(ช่วยเตือนเขาด้วยนะครับว่าเขามีนัดวันพรุ่งนี้)

รวม บทสนทนาทางโทรศัพท์ ภาษาอังกฤษ อีก 4 สถานการณ์น่าสนใจ

  1. เมื่อคนที่โทรเข้ามาโทรผิดเบอร์ เราจะบอกได้ว่า

– Sorry, I think you call to the wrong number.

(ขอโทษครับ คุณโทรผิดแล้วครับ)

  1. เมื่อมีคนโทรมาหาเรา หลังจากรับเรื่องแล้วเราจัดการให้ไม่ได้ แต่รู้ว่าจะต้องโอนสายไปที่ไหนซึ่งจะจัดการเรื่องนั้นได้ สามารถนำประโยคต่อไปนี้ไปใช้ได้

– Hold on, please. I’ll connect you to the person in charge of it.

(ถือสายรอสักครู่นะครับ ผมจะโอนสายไปให้คนที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรงครับ)

  1. เมื่อต้องการขอให้พูดซ้ำ พูดดังขึ้น หรือสะกดชื่อและอีเมล สามารถนำประโยคเหล่านี้ไปใช้ได้

– Could you speak up, please?

(รบกวนพูดดังขึ้นหน่อยได้ไหมครับ)

– Could you say it again, please?

(ช่วยพูดใหม่ได้ไหมครับ)

– Sorry, what was that again?

(ขอโทษนะครับ เมื่อครู่คุณพูดว่าอะไรนะครับ)

– Could you spell your last name out, please?

(รบกวนช่วยสะกดนามสกุลของคุณได้ไหมครับ)

– Could you spell your email, please?

(คุณช่วยสะกดอีเมลให้ผมหน่อยได้ไหมครับ)

  1. เมื่อมีใครโทรมาหาเรา และเราไม่สะดวกคุยตอนนี้ หรืออาจต้องใช้เวลาหาข้อมูลสักพักในเรื่องที่เขาถามมา และจะโทรกลับไปทีหลัง อาจบอกได้ว่า

– Can I get your number? I’ll call you back in 10 minutes.

(ขอเบอร์ติดต่อกลับได้ไหมครับ ผมจะโทรกลับไปภายใน 10 นาที)

ขอบคุณข้อมูลจาก engduothailand.com


วิธีลดความขมของมะระง่ายๆ ไม่กี่ขั้นตอน

เคล็ดลับลดความขมของมะระง่ายๆ ไม่กี่ขั้นตอน 
สายชอบกินมะระไม่ต้องทนขมอีกต่อไป วันนี้พี่หมีมีเทคนิคการต้มมะระไม่ให้ขมมาฝากกันคร้าบบ!
เพื่อนๆ พี่หมีเคยไหม ไม่ว่าจะต้มมะระ ยำหรือผัด ทานเองก็กินแทบไม่ได้เลย ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไป ลองมาทำตามวิธีของพี่หมีกัน..

เคล็ดไม่ลับลดความขมของมะระ ง่ายๆ ไม่กี่ขั้นตอน 
เลือกมะระ

การเลือกมะระควรเลือกที่ลูกอวบๆ ผิวออกสีเขียวอ่อนๆ ไม่ขาวไม่เหลือง ริ้วใหญ่และห่าง สิ่งสำคัญคือ จับดูแล้วเนื้อต้องแข็ง ถ้าริ้วเล็ก ผิวเขียวจัด ยังอ่อน รสชาติจะไม่ดี แต่ถ้าเริ่มออกสีเหลืองส้ม เนื้อเริ่มนิ่ม คือ มะระเริ่มแก่แล้ว รสชาติจะขมมาก 

วิธีสำหรับการต้มและตุ๋นมะระ

นำมะระไปลวกในน้ำเดือดจัด เปลี่ยนน้ำหลายๆครั้งจนเหลือรสขมตามที่ต้องการ (ยิ่งเปลี่ยนน้ำหลายครั้งความขมจะอ่อนลงเรื่อยๆ) สะเด็ดน้ำพร้อมนำไปปรุงต่อ
วิธีสำหรับผัด

โดยต้มน้ำให้เดือดจัดใส่เกลือตามลงไป นำมะระที่เตรียมไว้ไปลวกจนเป็นสีเขียวเข้ม แล้วรีบตักขึ้นนำไปน็อคน้ำเย็นจัด พักให้สะเด็ดน้ำแล้วจึงนำไปปรุงต่อ
วิธีสำหรับยำ

หั่นหรือซอยมะระเป็นชิ้นตามเมนูที่จะปรุง จากนั้นนำไปขยำคลุกเคล้ากับเกลือทิ้งไว้ 2-3 นาที ล้างเกลือออก แล้วถึงนำไปลวกในน้ำเดือดพร้อมนำไปปรุงต่อ

เทคนิคพี่หมีนำมาแชร์เป็นยังไงกันบ้างคร้าบ เพื่อนๆ สามารถนำไปดัดแปลงกันได้เลยนะ ถ้าใครมีเทคนิคดีๆ อยากมาแชร์บอกต่อเพื่อนๆ สามารถมาบอกต่อกันได้เลยคร้าบบ ….

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 10/09/2568

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a54,600.0054,700.00
ทองรูปพรรณ 96.5%3,530.0053,514.8055,500.00
ทองรูปพรรณ 90%3,177.0048,163.32n/a
ทองรูปพรรณ 80%2,824.0042,811.84n/a
ทองรูปพรรณ 50%1,588.5024,081.66n/a
ทองรูปพรรณ 40%1,235.5018,730.18n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%3,658.0355,455.73n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 10/09/2568


ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9532.9532.9533.4532.9532.9532.9532.9532.9532.9532.95
แก๊สโซฮอล์ 9132.5832.5833.0832.5832.5832.5832.5832.5832.5832.58
แก๊สโซฮอล์ E2030.7430.7431.2430.7430.7430.7430.7430.7430.74
แก๊สโซฮอล์ E8528.6928.6928.69
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม41.1449.8449.8449.8441.14
เบนซิน 9541.2449.8141.7441.3941.24
ดีเซล31.9431.9431.9431.9431.9431.9431.9431.9431.9431.94
ดีเซลพรีเมี่ยม43.9446.1449.8446.1446.1443.94
แก๊ส NGV18.5518.5518.55
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า