สาระน่ารู้ประจำวันที่ 11 กันยายน 2566

CPN ปักหมุด คอนโดไฮเอนด์ ต่อยอด“เซ็นทรัล ภูเก็ต” รับท่องเที่ยวบูม

CPN ปักหมุด คอนโดไฮเอนด์ ต่อยอด“เซ็นทรัล ภูเก็ต” รับท่องเที่ยวบูม ไตรมาส 4ไฮซีชัน ประเมิน ต่างชาติทะลัก เดินทางเข้าไทย  หลังครึ่งปีแรกปี2566  อยู่ที่ 2.3 ล้านคน คาดปี 2567 เพิ่มขึ้นเป็น 4-5 ล้านคน/ปี

สัญญาณการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ในจังหวัดภูเก็ตกลับมา คึกคักขึ้นโดยเฉพาะช่วงไตรมาส 4ไฮซีชัน ประเมินว่าจะมี นักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางเข้าไทย อีกจำนวนมาก  หลังจากช่วงครึ่งปีแรกปีนี้  อยู่ที่ 2.3 ล้านคน คาดปี 2567 จะเพิ่มขึ้นเป็น 4-5 ล้านคน/ปี โดย นักท่องเที่ยวกลุ่มหลักคืออันดับหนึ่ง ได้แก่ รัสเซีย ตามมาด้วยจีน  อีกทั้งยังพบ ดีมานด์ในกลุ่มลูกค้าชาวยุโรปที่ต้องการบ้านสำหรับช่วงเกษียณอายุโดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มรัสเซีย

ส่งผลดีต่อธุรกิจบริการโรงแรม ร้านอาหาร และมีอานิสงส์มาถึงตลาดที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะคอนโดมิเนียม มีความหวังกลับมาฟื้นตัว จากกำลังซื้อทั้งคนไทยและต่างชาติ ขณะเดียวกันยังเข้ามาเปิดตัวโครงการเพิ่มขึ้นรับกำลังซื้อจากดีเวลลอปเปอร์หลายค่ายทั้งจากส่วนกลางและในพื้นที่เช่นเดียวกับ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือCPN   

นาย  กรี เดชชัย President, Residential Business   CPN สะท้อนว่า  บริษัท มีเป้าหมายพัฒนาโครงการ โครงการในรูปแบบมิกซ์ยูส  ที่มีศูนย์การค้า เซ็นทรัลเป็นธงนำ และพัฒนาคอนโดมิเนียมในพื้นที่บริเวณเดียวกัน แม่เหล็กสำคัญในการดึงดูดลูกค้า  ล่าสุดเปิด โครงการ “ฟีล ภูเก็ต” คอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ ใกล้เซ็นทรัล ภูเก็ต เพียง 300 เมตร มูลค่าโครงการรวม 1,500 ล้านบาท โครงการแห่งที่สองของโครงการ “ฟีล” ต่อจาก “ฟีล พหล 34”  และยังเป็นคอนโดแห่งแรกของเซ็นทรัลพัฒนาที่เข้ามาทำตลาดที่เมืองภูเก็ต  ด้วยการต่อยอดจากศูนย์การค้าเซ็นทรัลภูเก็ต  

 “เซ็นทรัลพัฒนา มุ่งมั่นพัฒนาโครงการในรูปแบบ “Retail-Led Mixed-Use Development” โดยมีธุรกิจศูนย์การค้าเป็นแกนหลักสร้างความแข็งแกร่งของ Ecosystem เชื่อมโยงกับธุรกิจที่อยู่อาศัย, อาคารสำนักาน และโรงแรม ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของทุกคนครบแบบ 360 องศา และด้วยประสบการณ์จับตลาด Residencial กว่า 10 ปี เรามีความมั่นใจในการบุกเบิกตลาดที่อยู่อาศัยในภูเก็ต ขณะการขายปัจจุบันมียอดขายไป 70% ในจำนวนนี้มีลูกค้าต่างชาติ15% และมีแผนขยายโครงการคอนโดมิเนียมทำเลเดียวกันในระยะต่อไป”

โครงการ    “ฟีล ภูเก็ต”  มีจำนวน 3 อาคาร สูง 8 ชั้น ทั้งหมด 439 ยูนิต พื้นที่ขนาด 6-1-33 ไร่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “A Beach Life in the City” เสมือนยกบรรยากาศริมหาดมาไว้ใจกลางเมืองด้วยการดีไซน์แบบ “บีช ซิตี้ คอนโด สไตล์ รีสอร์ท” ผสมผสานการพักผ่อนเข้ากับที่อยู่อาศัยในธีม Tropical  Paradise ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความสวยงามตามธรรมชาติของทะเลภูเก็ต

นายกรีประเมินว่า ตลาดคอนโดมิเนียมในเมืองภูเก็ตมีโอกาสเติบโต ด้วยศักยภาพของเมืองที่เป็น Attractive Global Destination ล่าสุดติดอันดับ World’s Greatest Places 2023 จากนิตยสาร Time อีกทั้งอยู่ในพื้นที่ที่อยู่ในแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวของภาครัฐ เพื่อยกระดับให้เป็นเมืองท่องเที่ยวชายทะเลระดับโลก รวมถึงจาก Mega Project ของรัฐในการพัฒนาระบบคมนาคมในอนาคต ครอบคลุมทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และทางราง เพื่อรองรับการขยายเมือง 

อาทิ  สนามบินภูเก็ตเฟส 2, ทางด่วนกระทู้-ป่าตอง, ทางหลวงเมืองใหม่-เกาะแก้ว, รถไฟฟ้ารางเบาภูเก็ต ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีสัญญาณดีด้านการท่องเที่ยวและกำลังซื้อทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ โดยตลาดในประเทศโรงแรมและการท่องเที่ยวในภูเก็ตได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากแคมเปญภาครัฐตั้งแต่ช่วงสถานการณ์ที่ผ่านมา ซึ่งตลาดที่พักอาศัยยอดขายค่อยๆ ฟื้นฟูกลับมา ขณะที่ตลาดต่างประเทศ การท่องเที่ยวฟื้นฟูกลับมาเช่นกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


เคอี กรุ๊ปผุด‘คริสตัล โซลานา’บ้านอัลตร้าลักชัวรี ราคา300ล้าน

เคอี กรุ๊ปผุด‘คริสตัล โซลานา’บ้านอัลตร้าลักชัวรีพร้อมอยู่ราคาเริ่มต้นที่ 85 -300ล้านเผยโฉมบ้านตัวอย่างใหม่ 3 คอลเลกชัน เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ใกล้ทางพิเศษฉลองรัชและใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS สายสีเทาและสีชมพู

ศุภานวิต เอี่ยมสกุลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เคอี กรุ๊ป กล่าวว่า โครงการ คริสตัล โซลานา เป็นโครงการบ้านเดี่ยวอัลตร้าลักชัวรี่ระดับ 6 ดาวที่นับได้ว่าหรูที่สุดในเมืองไทย การันตีด้วย 2 รางวัลใหญ่จากเวทีระดับนานาชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกาด้วยความโดดเด่นรอบด้านทั้งการออกแบบที่มีแรงบันดาลใจด้านศิลปะสถาปัตยกรรมที่สั่งสมประสบการณ์จากการท่องเที่ยวทั่วโลก

ความพิถีพิถันในการเลือกใช้วัสดุมาตรฐานระดับโลกทุกรายการที่น้อยนักในวงการอสังหาริมทรัพย์เมืองไทยจะเลือกวัสดุอย่างละเอียดในทุกชิ้น รวมถึงการกรุหินไลม์สโตนทั้งหลัง ซึ่งนับเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์คริสตัล ที่ได้รับการกล่าวขานมากที่สุดจึงสร้างความประทับใจให้กลุ่มผู้รักบ้านระดับไฮเอนด์อย่างนักธุรกิจผู้ประกอบการที่หลงใหลไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตสุดหรูและมองหาการมีคุณภาพชีวิตที่ดีท่ามกลางทำเล สังคม และเพื่อนบ้านที่ดีที่สุด
 

ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมาก ล่าสุดได้นำเสนอบ้านตัวอย่างใหม่อีก 3 คอลเลกชันและบ้านพร้อมอยู่เพื่อตอบรับกับความต้องการของลูกค้าที่ต้องการบ้านที่ตกแต่งแล้วและบ้านพร้อมอยู่ ในขณะที่บ้านสั่งสร้าง ถือได้ว่าได้รับความนิยมสูงแนวคิดบ้านตัวอย่าง 3 สไตล์ใหม่นี้ ได้แก่ บ้านสไตล์ชิคาโก้ ที่ออกแบบโดย PIA มีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจนคือ The Allure of art decodesign ที่เหมาะกับลูกค้าที่มีความชัดเจนใน Luxe lifestyleบ้านสไตล์โซโห  ออกแบบโดย YAFF ที่สื่อถึง Stylish trendysophistication ให้ความทันสมัยตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบนิวเทรนด์ที่มี Identity

และบ้านสไตล์แมนแฮตตันที่ออกแบบโดย Gooodluxที่สื่อถึง The pinnacle of contemporary luxury แสดงถึงความเป็นแมนแฮตตันไลฟ์สไตล์ สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ชอบBalance of timeless elegance and comfortโดยสิ่งที่เราเน้นคือแบบแปลนบ้านที่มีความครบสมบูรณ์แบบอย่างดีที่สุดและมีรสนิยมที่มีเอกลักษณ์

ศุภานวิต กล่าวว่า แนวคิดที่โดดเด่นของโครงการคริสตัล โซลานาคือการออกแบบที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นการดีไซน์ฟังก์ชั่นการใช้งานทำให้ได้แบบบ้านที่หรูหราทันสมัยแบบ Luxury Contemporary พร้อมการตกแต่งอย่างประณีตสวยงามอย่างมีศิลปะการคัดสรรวัสดุระดับโลกเน้นเรื่องคุณภาพจากทั่วทุกมุมโลกอันเป็นเอกลักษณ์ของ คริสตัลโซลานาที่มีชื่อเสียงด้วยความพิถีพิถันในการเลือกใช้วัสดุมาตรฐานระดับโลกทุกรายการ อาทิ การเลือกหินอ่อนจากอิตาลี

 รวมถึงเลือกใช้หินอ่อนประดับ Façadeชุดครัวจากแบรนด์พ็อกเกนโพล (Poggenpohl) นำเข้าจากเยอรมัน การเลือกใช้แบรนด์สี และสุขภัณฑ์อันดับหนึ่งของอเมริกาซึ่งสุขภัณฑ์ทุกชิ้นจากโคห์เลอร์ (Kohler) โดยอ่างรุ่น Artist Edition นับว่าเป็นงานแฮนด์เมดที่สุดของความพิเศษที่เต็มไปด้วยความประณีต

การคัดสรรวัสดุที่ดีที่สุดนับเป็นการถ่ายทอดความสวยงามสุดหรูหราภายในบ้านการจัดสรรพื้นที่ห้องต่างๆมีการแบ่งสัดส่วนเพื่อการใช้งานอย่างกว้างขวางโดยได้รับแรงบันดาลใจจากแบบบ้านสไตล์อเมริกันที่มีการปรับใช้พื้นที่ต่างๆ อย่างลงตัวซึ่งทุกห้องโดยรอบมีพื้นที่สีเขียวให้ดื่มด่ำธรรมชาติอย่างเป็นส่วนตัว

และพื้นที่ภายนอกบ้านที่สามารถทำกิจกรรมร่วมกับคนในครอบครัวได้คลับเฮ้าส์สโมสรและสวน บนพื้นที่กว่า 2 ไร่ให้ได้ออกกำลังกายเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรงซึ่งนับได้ว่าเป็นคลับเฮ้าส์ที่ครบครับด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆและบริการมากมาย ทั้งห้องจัดเลี้ยง สระว่ายน้ำเกลือในร่ม สนามเทนนิสกอล์ฟไดรฟ์ สปา ซาลอน พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยที่มาตรฐานสูง

ศุภานวิต กล่าวว่า สิ่งที่ลูกค้าให้ความสำคัญคือทำเล ซึ่งโครงการอยู่บนทำเลทอง เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา เดินทางสะดวกใกล้ทางพิเศษฉลองรัชและใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS สายสีเทาและสีชมพู เรียกได้ว่าเป็น Beverly Hills of Bangkok  ที่มูลค่าที่ดินเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โครงการบ้านเดี่ยวอัลตร้าลักชัวรี่ระดับ 6 ดาวราคาเริ่มต้นที่ 85 – 300 ล้านบาท 

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 11ก.ย. ที่ระดับ 35.55 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาท มีโอกาสลุ้นทยอยกลับมาแข็งค่าขึ้น หากตลาดลดโอกาสเฟดขึ้นดอกเบี้ยต่อ กดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงบ้าง ฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ-ข้อมูลเศรษฐกิจจีนยังกดดันเงินหยวน-สกุลเงินเอเซียฝั่งอ่อนค่า

ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 11ก.ย. 2566ที่ระดับ  35.55 บาทต่อดอลลาร์“อ่อนค่าลงเล็กน้อย”จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ  35.52 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน  พานิชพิบูลย์  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน  ธนาคารกรุงไทยระบุว่า นับตั้งแต่ช่วงคืนวันศุกร์ของสัปดาห์ก่อนหน้า เงินบาทเคลื่อนไหวผันผวน (แกว่งตัวในกรอบ 35.49-35.65 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะอ่อนค่าลงบ้าง ตามการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ และโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว ก่อนที่เงินบาทจะทยอยแข็งค่าขึ้นมาบ้าง ตามการย่อตัวลงของเงินดอลลาร์ (โดยรวมเงินดอลลาร์เคลื่อนไหว sideway)

สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์ทยอยแข็งค่าขึ้น ใกล้ทดสอบจุดสูงสุดในปีนี้ หลังตลาดปรับเพิ่มโอกาสเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยและโอกาสเฟดคงดอกเบี้ยได้นานขึ้น

ในสัปดาห์นี้ เรามองว่า ควรจับตา ไฮไลท์สำคัญ ทั้ง รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญรายเดือนของจีน และ ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB)

มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก

▪  ฝั่งสหรัฐฯ – ในสัปดาห์นี้จะเข้าสู่ช่วง Blackout (งดให้ความเห็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจและนโยบายการเงิน) ของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด ทำให้ผู้เล่นในตลาดจะอาศัยรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในการประเมินทิศทางนโยบายการเงินของเฟด โดยข้อมูลสำคัญที่ตลาดจะรอลุ้นอย่างใกล้ชิด คือ อัตราเงินเฟ้อ CPI และยอดค้าปลีก (Retail Sales)

สำหรับอัตราเงินเฟ้อ CPI นักวิเคราะห์มองว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไป Headline CPI อาจเร่งขึ้น +0.6%m/m (หรือ +3.6%y/y) ตามการปรับตัวขึ้นของราคาพลังงานเป็นสำคัญ ในขณะที่ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI จะเพิ่มขึ้นเพียง +0.2%m/m (+4.3%y/y ชะลอลงต่อเนื่อง) ซึ่งจะสอดคล้องกับแนวโน้มการชะลอตัวลงต่อเนื่องของอัตราเงินเฟ้อสู่ระดับเป้าหมายที่ 2%

ซึ่งเรามองว่า ภาพดังกล่าว กอปรกับแนวโน้มการบริโภคในฝั่งสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลงมากขึ้น ดังจะเห็นได้จาก ยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนสิงหาคม ที่จะขยายตัวเพียง +0.1%m/m จาก +0.7% ในเดือนก่อนหน้า

(เรามองว่า การใช้จ่ายในฝั่งสหรัฐฯ อาจชะลอตัวมากขึ้น หลังชาวอเมริกันราว 20% ต้องกลับมาจ่ายหนี้กู้ยืมเพื่อการศึกษาในเดือนตุลาคมนี้) อาจทำให้เฟด “คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย” ไว้ที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนกันยายนนี้ และ

เราคงมุมมองเดิมว่า เฟดได้ถึงจุดยุติการขึ้นดอกเบี้ยในรอบนี้ไปแล้วและอาจเป็นเรื่องยากที่เฟดจะกลับมาขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพฤศจิกายน (ล่าสุด ตลาดให้โอกาสราว 44% ในการขึ้นดอกเบี้ย) หากทั้งภาพรวมเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อมีทิศทางชะลอตัวลงมากยิ่งขึ้นในช่วงปลายปี

▪ ฝั่งยุโรป – ตลาดประเมินว่า ตลาดแรงงานอังกฤษมีแนวโน้มชะลอตัวลงมากขึ้น โดยอัตราการว่างงาน (Unemployment) อาจปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.3% ซึ่งเป็นการชะลอตัวลงที่ไวกว่าที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ได้ประเมินไว้ก่อนหน้า

ทั้งนี้ การชะลอตัวลงของตลาดแรงงานอาจไม่สามารถเปลี่ยนใจ BOE ต่อการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนได้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษยังคงอยู่ในระดับสูงมาก เมื่อเทียบกับเป้าหมายของ BOE กอปรกับ แรงกดดันเงินเฟ้อจากค่าจ้างก็ยังคงมีอยู่ โดยอัตราการเติบโตของค่าจ้าง ไม่รวมโบนัส ในเดือนกรกฎาคม อาจยังคงสูงกว่า +7.8%

ในส่วนนโยบายการเงิน เรามองว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย (Deposit Facility Rate) +25bps สู่ระดับ 4.00% หลังอัตราเงินเฟ้อยังไม่ได้ชะลอตัวลงมากอย่างที่ ECB ประเมินไว้ อย่างไรก็ดี ภาพเศรษฐกิจยูโรโซนที่ชะลอตัวลงมากขึ้น (สอดคล้องกับดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการที่ต่ำกว่า 50 จุด ติดต่อกันหลายเดือน) ก็อาจทำให้ ECB จบรอบการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนนี้

ทั้งนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาคาดการณ์เศรษฐกิจใหม่ของ ECB เพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินในอนาคต โดยหาก ECB แสดงความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจมากขึ้น อาทิ กังวลต่อความเสี่ยงการเกิด Stagflation ก็อาจยิ่งกดดันบรรยากาศตลาดการเงินในฝั่งยุโรปและค่าเงินยูโร (EUR)

ฝั่งเอเชีย – ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่รายงานข้อมูลเศรษฐกิจรายเดือนของจีน โดยบรรดานักวิเคราะห์ต่างมองว่า แม้ภาพเศรษฐกิจจีนโดยรวมอาจยังไม่สดใสนัก แต่เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้น หลังทางการจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ สะท้อนผ่านมา ยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนสิงหาคม ที่อาจขยายตัว +3.0%y/y

ส่วนยอดผลผลิตอุตสาหกรรม (Industrial Production) ก็อาจโตได้ราว +3.8%y/y โดยเป็นการขยายตัวที่ดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ขณะที่ยอดการลงทุนสินทรัพย์ถาวร (Fixed Assets Investment) อาจขยายตัวในอัตราชะลอลงต่อเนื่อง +3.3%y/y จากปัญหาหนี้ในภาคอสังหาฯ ที่ยังน่าเป็นห่วงอยู่

ทั้งนี้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนยังคงต้องการความช่วยเหลือจากทางการจีน ทำให้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า ธนาคารกลางจีน (PBOC) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF-1yr) ระยะ 1 ปี ลง -10bps สู่ระดับ 2.40%  

▪ ฝั่งไทย – เราประเมินว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence) เดือนสิงหาคม อาจปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 56.5 จุด จากระดับ 55.6 จุด ในเดือนก่อนหน้า หลังการจัดตั้งรัฐบาลผสมได้เสร็จสิ้นลง ช่วยลดความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศและสร้างความหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจจากนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ อย่างไรก็ดี ปัจจัยกดดันอาจยังคงเป็นอัตราดอกเบี้ยและค่าครองชีพที่อยู่ในระดับสูง

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า มีโอกาสลุ้นเงินบาททยอยกลับมาแข็งค่าขึ้นได้ หากตลาดลดโอกาสเฟดขึ้นดอกเบี้ยต่อ กดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงบ้าง (ซึ่งอาจมาพร้อมกับการรีบาวด์ขึ้นของราคาทองคำ) อย่างไรก็ดี ปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่ายังคงอยู่ โดยเฉพาะฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติที่ยังคงผันผวนและไม่แน่นอน นอกจากนี้ หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจจีนออกมาแย่กว่าคาด ก็อาจยิ่งกดดันให้เงินหยวนจีน (CNY) อ่อนค่าต่อเนื่อง กระทบสกุลเงินฝั่งเอเชียได้

ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า เงินดอลลาร์อาจยังได้แรงหนุนอยู่ หากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI ของสหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าคาด หรือ ECB คงอัตราดอกเบี้ยสวนทางกับคาดการณ์ตลาดและ/หรือ ECB อาจแสดงความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจมากขึ้น

เราคงคำแนะนำว่า ในช่วงนี้ ตลาดการเงินยังอยู่ในช่วงเผชิญความผันผวนสูง จากทั้งความไม่แน่นอนของทิศทางนโยบายการเงิน ความกังวลแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ทำให้เราคงคำแนะนำว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย

อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และนอกเหนือจากการใช้เครื่องมือดังกล่าว การเลือกทำธุรกรรมในสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency) ก็เป็นอีกแนวทางในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจ ซึ่งผู้ประกอบการควรเปรียบเทียบต้นทุนในการทำธุรกรรมและแผนการป้องกันความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทุกครั้ง

มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 35.00-35.75 บาท/ดอลลาร์

ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.45-35.65 บาท/ดอลลาร์

ขอบคุณข้อมูลจาก .thansettakij.com


แค่คิดก็ปวดตับ!!! เงื่อนไขการเข้ารอบของทีมไทย ในวอลเลย์บอล โอลิมปิกเกมส์ 2024 รอบคัดเลือก

การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง โอลิมปิก เกมส์ 2024 ในรอบสุดท้าย จะมีทีมเข้าร่วมแค่ 12 ชาติ เท่านั้น และ 1 ในนั้นคือประเทศเจ้าภาพ ฝรั่งเศส นั่นเท่ากับว่าในรอบคัดเลือก โควต้าจะมีให้ทุกทีมในโลกนี้แค่ 11 ทีม แถมการคัดเลือกในครั้งนี้ก็แตกต่างจากการคัดเลือกของปี 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ทีนี้มาดูกันว่าในรอบ 24 ทีม ซึ่งการแข่งขันในประเภททีมหญิง จะแข่งขันในระหว่างวันที่ 16-24 กันยายน 2566 ซึ่งทีมไทยกำลังจะแข่งขันอยู่นี้ เป็นการเอาทีมที่มี คะแนนสะสมอันดับโลก (FIVB World Ranking) ที่นับหลังจบฤดูกาลแข่งขันปี 2022 (วันที่ 12 กันยายน 2565 ในประเภททีมชาย และวันที่ 17 ตุลาคม 2565 ในประเภททีมหญิง) ซึ่งทีมไทยอยู่ในอันดับ 14  

การแข่งขันแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม กลุ่มละ 8 ทีม (ใช้การจับสลากแบบมีทีมวาง) กลุ่ม เอ, กลุ่ม บี และ กลุ่มซี ซึ่งทีมชาติไทยของเราอยู่ในกลุ่ม ซี ร่วมกับ โปแลนด์ (เจ้าภาพ), สหรัฐอเมริกา, เยอรมนี, อิตาลี, เกาหลีใต้, สโลวีเนีย และ โคลอมเบีย

รูปแบบการแข่งขัน ที่แบ่งออกเป็นกลุ่มละ 8 ทีม จะพบกันหมด แต่ละทีมจะมีแข่ง 7 นัด ทีม อันดับ 1 และ อันดับ 2 ของแต่ละกลุ่ม ที่มีคะแนนดีที่สุด จะได้ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ของโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส (6 ทีม)

เมื่อการแข่งขันในรอบคัดเลือกนี้เสร็จสิ้นจะได้ทีมที่ผ่านเข้ารอบ 6 ทีม รวมกับเจ้าภาพฝรั่งเศส อีก 1 ทีม ทำให้เป็น 7 ทีม

ทีนี้ทำให้เหลือตั๋ว อีก 5 ทีม จะวัดจากคะแนนสะสมอันดับโลก หลังจบการแข่งขันวอลเลย์บอลเนชันส์ ลีก (VNL) ของปี 2024 (วันที่ 17 มิถุนายน 2567 ในประเภททีมหญิง และวันที่ 24 มิถุนายน 2567 ในประเภททีมชาย) ซึ่ง 5 ชาติ ที่มีคะแนนดีที่สุดของแต่ละทวีป (5 ทีม ไม่รวมทีมที่ได้โควตาใน โอลิมปิก รอบคัดเลือก) จะได้ผ่านเข้าไปลุยศึกโอลิมปิก เกมส์ 2024 ในที่สุด

จากนั้นอีก 5 ทีมที่เหลือ ก็มาจากอันดับโลกหลังจบวอลเลย์บอลเนชั่นลีกส์ 2024 ในเดือนมิถุนายน ก็จะรวมเป็น 12 ทีมพอดี

แต่เดี๋ยวก่อน!!! อย่าเพิ่งคิดว่า ในรอบคัดเลือกนี้ หากไทยไม่ได้ติด 1-2 ของกลุ่ม แต่ จีน และ ญี่ปุ่น ติดเป็น 2 ใน 6 ของทีม โอกาสของไทยที่จะไปในโควต้าทีมที่ดีที่สุดของเอเชีย ไม่ใช่ครับ!!!

เพราะทาง FIVB ที่เป็นเจ้าของกติกานี้ ระบุว่า กีฬาโอลิมปิก ครั้งนี้ จะต้องมีตัวแทนจากทุกทวีป เข้าร่วมแข่งขัน ดังนั้น เมื่อดูจากอันดับโลก บวกกับทัวร์นาเมนต์คัดเลือก โอลิมปิก จะเห็นว่าทีมจากทวีปแอฟริกา ไม่ได้ติดอันดับท็อปเลยสักทีม และไม่มีทีมเข้าร่วมในรอบ 24 ทีม นี้เลย

ซึ่งจากเงื่อนไขตรงนี้ จากโควตา 5 ทีมของแร้งกิ้งเบอร์ 1 ของทวีป จะต้องโดนทีมในทวีปแอฟริกา จับจองแล้ว 1 ทีม ทำให้โควตาที่มาจากอันดับโลกของแต่ละทวีป จาก 5 จะเหลือเพียงแค่ 4 ทีมเท่านั้น!!!  

หากว่าทีมอันดับ 1-4 ของโลกได้โควตาในรอบควอลิฟายแล้ว ก็จะส่งให้อันดับถัดไปจนครบ 4 ทีม โดยทั้ง 12 ทีมที่เข้าไปแข่งโอลิมปิกต้องมีครบทุกทวีป ถ้าไม่ครบทุกทวีปก็ต้องหั่นโควตา 1 ทีม ออกจาก 4 ทีม เพื่อให้สิทธิทวีปที่ไม่ผ่านควอลิฟายให้ได้ไปแข่งโอลิมปิก

เมื่อหลายคนอ่านมาถึงตรงนี้ อยากให้ทุกคนคิดตามง่ายๆว่า เงื่อนไขของทีมสาวไทยที่จะไปโอลิมปิก จำเป็นที่ต้อง ได้อันดับ 1  หรือ อันดับ 2 ของกลุ่ม ซี ในรอบคัดเลือกโอลิมปิก 2024 ก็จะซิวตั๋วไปลุยโอลิมปิกในปีหน้าทันที

แต่ถ้าพลาดตั๋วในรอบนี้ สิ่งเดียวที่จะทำให้เรามีลุ้น คือต้อง เก็บคะแนนในแร้งกิ้งอันดับโลกให้ได้มากที่สุด จะให้ดีที่สุดต้องติดท็อป 10 ในแรงกิ้งโลก และ ต้องพยายามเป็นที่ 1 เอเชีย เพื่อไปลุ้นเป็นทีมอันดับที่ 1 ของ ทวีปเอเชีย  เพราะหากในรอบคัดเลือกรอบนี้ หากไม่มีทีมในเอเชียติด 1 ใน 12 ทีมโอลิมปิก ทีมลูกยางสาวไทยของเรา ก็จะได้เข้าไปเล่นในโอลิมปิกทันที

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ไข้หวัดใหญ่ มีอาการอย่างไร วิธีการรักษา พร้อมวิธีป้องกัน

เมื่อไรก็ตามที่สภาพอากาศเริ่มเปลี่ยน ช่วงนั้นแหละที่จะเริ่มมีโรคระบาดตามมา เพราะนอกจากจะได้เวลาของเชื้อไวรัสที่พร้อมจะเจริญเติบโตอีกครั้งแล้ว ร่างกายของเราก็รีบปรับตัวให้คุ้นชินกับสภาพอากาศใหม่อีกด้วย ใครที่ร่างกายปรับตัวไม่ทัน ไม่แข็งแรงพอ ก็โดนไวรัสเล่นงานกันไป

แถมไวรัสยังร้ายกาจ ถึงขั้นทำให้เราเป็นไข้หวัดใหญ่กันง่ายขึ้น อาการหนักขึ้น และต้องใช้ยาที่แรงขึ้นไปด้วย แถมยังมีหลากหลายสายพันธุ์ให้เรางงกันอีกต่างหาก จะมีสายพันธุ์อะไรบ้าง และมีวิธีรักษา และป้องกันอย่างไร 

ไข้หวัดใหญ่ คืออะไร

ไข้หวัดใหญ่เป็นอาการที่ร่างกายติดเชื้อไวรัส influenza ที่ระบบทางเดินหายใจแบบเฉียบพลัน โดยจะมีอาการไข้สูงทันทีทันใด ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว และอ่อนเพลีย

อาการของไข้หวัดใหญ่

สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ เมื่อมีอาการแล้วมักจะเกิดขึ้นโดยทันทีด้วยลักษณะมีไข้สูง 38 – 41 องศาเซลเซียส มีความรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อและส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะที่บริเวณต้นแขน กระเบนเหน็บ ต้นขา จากนั้นก็มีจะอาการปวดศีรษะ ปวดกระบอกตาเวลาที่เคลื่อนไหว เมื่อต้องเผชิญกับแสงจะมีน้ำตาไหลออกมา จากนั้นจะรู้สึกอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ขมในคอ อีกทั้งยังมีอาการเจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอแห้งๆ จุกแน่นท้อง คลื่นไส้ อยากจะอาเจียน แต่ในบางรายก็อาจไม่มีอาการคัดจมูก หรือเป็นหวัดเลยก็ได้

นอกจากนั้นก็ยังมีอาการอื่นๆ แสดงให้เห็นดังนี้

  • ในรายที่เป็นไข้หวัดใหญ่อย่างรุนแรงก็อาจมีอาการของภาวะแทรกซ้อนเข้ามา เช่น มีน้ำมูก หรือเสมหะข้น เหลือง หรือเขียว ปวดหู หูอื้อ หายในเหนื่อยหอบ หายใจมีเสียงหวีด ไอรุนแรง รู้สึกหนาวสั่น ซึม มึน งง และ/หรือหัวใจล้มเหลว
  • อาการที่มาจากการเป็นไข้หวัดใหญ่นั้นจะแสดงอาการอยู่ประมาณ 1 – 7 วัน ที่พบได้บ่อยมากที่สุด คือ 3 – 5 วัน ส่วนอาการไอ รู้สึกอ่อนเพลียก็อาจจะเป็นอยู่ประมาณ 1 – 4 สัปดาห์ ถึงแม้ว่าอาการอื่นๆ จะทุเลาลงแล้วก็ตาม
  • ในผู้ป่วยบางรายเมื่อหายจากไข้หวัดใหญ่แล้วอาจมีอาการบ้านหมุน เนื่องมาจากการอักเสบของอวัยวะการทรงตัวภายในหูชั้นใน

อาการของไข้หวัดใหญ่ แตกต่างจากไข้หวัดธรรมดาอย่างไร

โดยทั่วไปลักษณะอาการค่อนข้างคล้ายไข้หวัดธรรมดา เพียงแต่อาจมีอาการหนักกว่า และยาวนานกว่า เช่น ไข้สูง และนานกว่า ปวดเมื่อยตามตัวมากกว่า อ่อนเพลียมากกว่า และมักเป็นแบบทันทีทันใด ไม่ใช่อาการค่อยเป็นค่อยไปทีละอย่างเหมือนไข้หวัดธรรมดา

ไข้หวัดใหญ่อาจมีอาการนานถึง 6-10 วัน ในขณะที่ไข้หวัดธรรมดาอาจมีอาการเพียงไม่กี่วันเท่านั้น นอกจากนี้ไข้หวัดใหญ่ยังเสี่ยงจะมีภาวะแทรกซ้อนมากกว่า จึงทำให้บางครั้งผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่อาจต้องนอนโรงพยาบาล เพื่อคอยดูอาการ ป้องกันอาการแทรกซ้อน และการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์

สาเหตุของไข้หวัดใหญ่

สาเหตุของการเกิดไข้หวัดใหญ่ก็เป็นเพราะ เชื้อไข้หวัดใหญ่ ยังไงล่ะ อ่านไม่ผิด ! นั่นเป็นชื่อที่เราเรียกกันอย่างลำลอง โดยเจ้าเชื้อไข้หวัดใหญ่นี้เป็นไวรัสที่มีชื่อว่า อินฟลูเอนซา (Influenza Virus) ที่มีอยู่ในน้ำลาย น้ำมูก และเสมหะของผู้ป่วย ซึ่งเชื้อไวรัสชนิดนี้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มไวรัสที่เรียกว่า Orthomyxovirus 

สายพันธุ์ของไข้หวัดใหญ่

เท่าที่เราทราบกันอยู่ คือ ไข้หวัดใหญ่มีหลายสายพันธุ์ สามารถแบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์ใหญ่ๆ ได้แก่

  1. ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A
  2. ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B

สายพันธุ์ C มีความรุนแรงน้อย และไม่ทำให้เกิดการระบาด จึงไม่นับรวมอยู่ในกลุ่มของไข้หวัดใหญ่

แต่สำหรับ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A นั้น สามารถแบ่งแยกออกมาย่อยๆ ได้อีกมากมาย ตามที่เราเห็นกันในข่าว เช่น A(H1N1), A(H1N2), A(H3N2), A(H5N1) และ A(H9N2) ตามความแตกต่างของโปรตีนของไวรัสที่เรียกว่า hemagglutinin (H) และ neuraminidase (N) ที่เป็นสาเหตุของไข้หวัดใหญ่นั้นๆ นั่นเอง

สายพันธุ์ของไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา จนเป็นสาเหตุให้มีคนเสียชีวิต คือ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ชนิด H1N1 และ H5N1 เป็นต้น

ใครที่มีความเสี่ยงในการเป็นไข้หวัดใหญ่บ้าง

ไม่ว่าจะเป็นเพศใด อายุเท่าไร ก็สามารถเสี่ยงเป็นไข้หวัดใหญ่ได้ หากภูมิคุ้มกันร่างกายไม่ดีพอ แต่คนที่มีความเสี่ยงมากกว่าคนอื่น คือผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคปอดเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ เบาหวาน และกลุ่มผู้สูงอายุ

ไข้หวัดใหญ่ ติดต่อกันได้อย่างไร

ติดต่อกันจากการรับเชื้อไวรัสผ่านอาการไอ จาม พูด ลมหายใจ ของผู้ที่ติดเชื้อ รวมไปถึงน้ำลายจากการใช้ช้อน แก้ว เดียวกัน หรือแม้กระทั่งสัมผัสข้าวของที่ผู้ป่วยสัมผัส หลังจากใช้มือป้องปากเวลาจามหรือไอด้วย

โดยปกติแล้วเชื้อไข้หวัดใหญ่นั้นจะอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย และเสมหะของผู้ป่วย การติดต่ออาจเกิดจากการสูดหายใจเอาฝอยละอองเสมหะที่ผู้ป่วยไอ หรือจามรด หรืออาจติดต่อโดยการสัมผัส ซึ่งเชื้อนั้นก็อาจติดอยู่ที่มือของผู้ป่วย  สิ่งของเครื่องใช้ อาทิ แก้วน้ำ จาน ชาม ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว หนังสือ หรือโทรศัพท์ นอกจากนั้นการติดต่อก็ขึ้นอยู่ที่สิ่งแวดล้อม โดยคนปกติเมื่อมาสัมผัสถูกมือของผู้ป่วย สิ่งของเครื่องใช้ หรือสิ่งแวดล้อมที่ปนเปื้อนเชื้อ เชื้อก็จะติดมากับมือของคนๆ นั้นได้ง่าย เมื่อใช้มือขยี้ตา หรือแคะจมูก เชื้อก็จะเข้าสู่ร่างกายจนทำให้เป็นโรคไข้หวัดใหญ่ได้

นอกจากนี้ เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ก็ยังสามารถแพร่กระจายผ่านทางอากาศได้ด้วย ซึ่งเชื้อนั้นจะติดอยู่ในละอองฝอยๆ เมื่อผู้ป่วยไอ หรือจาม เชื้อก็จะแพร่กระจายออกไปในระยะไกลและแขวนลอยอยู่ในอากาศได้เป็นเวลานานๆ จากนั้น เมื่อคนปกติมาสูดเอาอากาศที่มีฝอยละอองนี้เข้าไป หรือละอองเหล่านี้ได้ไปสัมผัสเข้ากับเยื่อตา หรือเยื่อเมือในช่องปาก โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องไอ หรือจามรดกันโดยตรง ก็สามารถทำให้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมโรคไขหวัดใหญ่จึงสามารถแพร่ระบาดออกไปได้อย่างรวดเร็ว มีระยะที่เชื้อจะแพร่ไปได้มากที่สุดภายใน 1 สัปดาห์แรกของการเจ็บป่วย

ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากไข้หวัดใหญ่

สาเหตุของอาการแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคไข้หวัดใหญ่นั้นมีอยู่หลายปัจจัย แต่ที่เห็นได้อย่างชัดเจนที่สุด คือ สภาพร่างกายที่แตกต่างกัน ซึ่งจะทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะพัฒนาไปเป็นโรคต่างๆ ได้ตามสภาพ โดยผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนและง่ายต่อการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์อื่นได้ คือ เด็กแรกเกิด , ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป , ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ , ผู้ที่อยู่ในระหว่างกำลังรักษาตัวมาเป็นเวลานาน ไปจนถึงผู้ที่คอยดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันในร่างกายต่ำ

สำหรับในผู้ป่วยที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง เมื่อป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ก็เสี่ยงที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนในขณะที่ป่วยได้ ทั้งยังมีความเสี่ยงสูงที่ไวรัสไข้หวัดใหญ่จะเข้าไปกระตุ้นให้อาการของโรคเดิมที่เป็นอยู่เป็นหนักขึ้น อาทิ โรคภูมิแพ้ , โรคเบาหวาน , โรคที่เกี่ยวกับปอดและหัวใจ , โรคทางกล้ามเนื้อประสาท เป็นต้น

อาการของโรคแทรกซ้อนที่พบในผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่

  • หายใจเร็ว
  • มีปัญหาในการหายใจ
  • หายใจเป็นช่วงสั้นๆ
  • ไม่รู้ตัว
  • เรียกไม่ตื่น
  • ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง
  • เจ็บปวด หรือแน่นหน้าอกและช่วงท้อง
  • เวียนหัวเฉียบพลัน
  • ครั่นเนื้อครั่นตัว
  • อาเจียนบ่อย
  • เมื่ออาการจากไข้หวัดทุเลาลง แต่ก็จะกลับมาเป็นอีกครั้งได้ง่าย

ในผู้ป่วยที่เป็นเด็ก ผู้ปกครองจะต้องคอยสังเกตและเฝ้าระวังอาการแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นเป็นพิเศษ อาทิ ดื่มน้ำน้อย , กินอาหารไม่ได้ , ผิวเปลี่ยนเป็นสีคล้ำ , มีไข้ร่วมกับผดผื่นคัน , มีอาการแพ้ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เป็นต้น

โรคแทรกซ้อนอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในขณะที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ การติดเชื้อในอวัยวะต่างๆ อาทิ การติดเชื้อในหูและไซนัส , ปอดบวม , หลอดลมอักเสบ , กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ , ปอดอักเสบ , หัวใจวาย นอกจากนั้นก็ยังมีโรคแทรกซ้อนบางโรคที่พบได้เพิ่มเติม แต่ยังพบได้น้อย อาทิ หูชั้นกลางอักเสบ , ต่อมทอมซิลอักเสบ , เยื้อหุ้มสมองอักเสบ , ไซนัสอักเสบ , ไข้ชัก และโรคสมองอักเสบ เป็นต้น

การรักษาไข้หวัดใหญ่

หลายคนอาจจะเคยทราบกันมาบ้างว่า ไข้หวัด เป็นโรคที่ไม่มียารักษาโดยตรง ทำได้แต่เพียงรักษาตามอาการที่มีเท่านั้น เช่น มีไข้ก็ให้ยาลดไข้ เจ็บคอก็ให้ยาแก้เจ็บคอ เป็นต้น

ในกรณีของไข้หวัดใหญ่ก็เช่นกัน แพทย์จะรักษาตามอาการ พร้อมกับติดตามอาการอย่างใกล้ชิด หากมีอาการรุนแรง แพทย์จึงค่อยพิจารณาการใช้ยาที่กดการเพิ่มจำนวนของไวรัส คือ Amantadine หรือ Rimantadine

วิธีป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่

  1. สามารถรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ที่โรงพยาบาลทั่วไป
  2. รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ
  3. หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ผู้ที่เป็นไข้หวัดใหญ่สักระยะ เพื่อป้องการการระบาด และแพร่กระจายของเชื้อไวรัสจากคนหนึ่ง ไปยังอีกคนหนึ่ง
  4. ล้างมือให้สะอาด ก่อนทานอาหาร หรือหยิบจับอาหารขึ้นมาทาน
  5. ผู้ที่เป็นไข้หวัดใหญ่ ควรสวมหน้ากากอนามัย หรือเมื่อจามหรือไอ ควรใช้กระดาษทิชชู่ปิดปาก แล้วขยำทิ้งลงถังขยะ และควรหยุดเรียน หยุดงาน เพื่อรักษาตัวให้หายโดยเร็ว และไม่เป็นการแพร่กระจายเชื้อไวรัสให้คนอื่น

เท่านี้ ไข้หวัดใหญ่ก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไปนะคะ อย่างไรก็ตามก็อย่านิ่งนอนใจ ใครที่คิดว่าอาจเสี่ยงต่อการเป็นไข้หวัดใหญ่ สามารถขอรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


4 วิธีพูดถึงอนาคต เป็นภาษาอังกฤษ

วิธีที่ 1 พูดถึงอนาคตโดยใช้ will

ปกติแล้วเราจะใช้ will ในการพูดถึงอนาคตทั่วไปความแน่นอนยังมีไม่มาก อาจทำหรือไม่ทำก็ได้

เช่น She will be on the train tomorrow. (เธอจะอยู่บนรถไฟพรุ่งนี้)

แบบนี้ยังไม่มีความแน่นอน คือเหมือนรู้ว่าเธอน่าจะอยู่บนรถไฟพรุ่งนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังไม่แน่ใจ 100
ถ้าจะให้เจาะจงกว่านี้คือ เป็นสิ่งที่เราตัดสินใจที่จะทำ หรือกะจะทำ

เช่น ตอนเราเดินขึ้นบันไดเห็นฝรั่งคนหนึ่งถือของมาพะรุงพะรัง เราอยากช่วยเข้าเราก็จะพูดว่า

“Come on. I will carry it for you” (มาสิ ฉันจะถือให้คุณ)
เป็นสิ่งที่ไม่ได้คาดการณ์มาก่อน เห็นปุ๊ปก็ตัดสินใจเดี๋ยวนั้นว่าจะช่วยเขาถือของ

หรือ I will phone you tomorrow. (ฉันจะโทรหาคุณพรุ่งนี้)
ก็แสดงให้เห็นว่าฉันกะจะโทรหาเธอพรุ่งนี้ แต่ความแน่นอน เราตัดสินใจ ณ ตอนนั้น

วิธีที่ 2 พูดถึงอนาคตโดยใช้ V. to be + going to V.

วิธีนี้จะเป็นการพูดถึงอนาคตที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด เหมือนเป็นสิ่งที่ตัดสินใจ หรือวางแผนว่าจะทำอยู่แล้ว
เช่น I am going to buy some fruit next week. (ฉันจะไปซื้อผลไม้อาทิตย์หน้า ซึ่งเป็นการ
วางแผน มีความเป็นไปได้สูง ชนิดที่ว่า พรุ่งนี้ถ้าเธอไปเดินๆแถวตลาดจะเจอฉันเดินซื้อผลไม้อยู่แน่ๆ)

Sarah is going to sell her dress. (ซาร่าจะขายชุดเดรสของเธอ ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอวางแผนไว้
แล้วว่าจะทำแน่ๆ 100%)

นอกจากนี้ going to จะใช้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่ๆ แบบมีหลักฐาน หรือร่องรอบให้เห็นชัดเจน
เช่น ถ้าอยู่ๆเราเห็นเมฆลอยทะมึนๆมาเราก็สามารถพูดได้ว่า “It is going to rain” (ฝนกำลังจะตกเพราะเราเห็นเมฆตั้งเค้ามาแล้ว)

หรือ เรามีนัดตอน 8 โมงเช้า แต่เพราะมัวเขียนคิ้วไม่ได้รูปเสียที ดูนาฬิกาอีกทีก็ตกใจเพราะตอนนี้ 7.50 แล้ว        เราก็สามารถตะโกนออกมาด้วยความตกใจได้ว่า “I’m going to be late” (ฉันกำลังจะสายแล้ว เห็นหลักฐานทนโท่ว่ายังเขียนคิ้วได้ข้างเดียว แล้วตอนนี้เหลืออีกสิบนาทีกว่าจะเดินทางถึงที่นัดอีก สายแน่ๆ)

วิธีที่ 3 พูดถึงอนาคตโดยใช้ Present Continuous

บางคนอาจคุ้นเคยแค่ว่า Tense นี้ใช้กับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในขณะที่พูดถึงไม่ใช่เหรอ ความจริงแล้วไวยากรณ์นี้จะใช้พูดถึงอนาคตที่กำลังจะเกิดในเร็วๆนี้ได้เหมือนกันค่ะ เพียงแต่เรื่องระยะเวลาจะหมายถึงในช่วงเวลาใกล้ๆนี้ เหตุการณ์จะเกิดขึ้นช่วงนี้ ถ้าเป็นสิ่งที่วางแผนในระยะยาวว่ากว่าจะเกิดอีกนานจะไม่นิยมใช้ Present Continuous ในการบอก อีกอย่างที่สังเกตได้ง่ายก็คือมักมีคำบอกเวลาแนบมาด้วย อย่าง next week, tomorrow, this morning เพื่อกันความสับสน

เช่น We are having dinner next week.
(ประโยคนี้ไม่ได้หมายความว่าเรากำลังทานข้าวเย็นในอาทิตย์หน้า แต่หมายถึง เราจะทานข้าวเย็นด้วยกันในอาทิตย์หน้า)

Are you meeting with George this evening?
(ประโยคนี้ไม่ได้หมายถึงคุณกำลังมีประชุมกับจอร์จเย็นนี้รึเปล่า แต่ถามว่า เย็นนี้คุณจะไปประชุมกับจอร์จใช่มั้ย)

วิธีที่ 4 พูดถึงอนาคตโดยใช้ Present Simple

อันนี้บางคนอาจจะงงตาแตกไปเลยว่า อ้าว เฮ้ยเอามาใช้พูดถึงอนาคตได้ยังไงกันไอ้ Tense นี้ จริงๆแล้วการนำ Present Simple มาใช้พูดเรื่องอนาคตนี้ก็มีข้อจำกัดที่ใช้เฉพาะบางกรณีเท่านั้นนะคะ ซึ่งกรณีนี้ที่จะพูดถึงกรณีเดียวก็คือเรื่องของสิ่งที่เป็นตารางเวลาแน่นอน เช่นพวก ตารางเวลาของรถเมล์ เครื่องบิน รถไฟ หนัง คอนเสิร์ต อะไรพวกนี้ เราจะใช้ Present Simple ทั้งสิ้น

เช่น The train arrives at 1.30 P.M. (รถไฟจะมาถึงเวลาบ่ายโมงครึ่ง)

The musical starts at 8 o’clock. (ละครเวทีจะเริ่มเวลาแปดโมง)

What time does your flight depart? (เที่ยวบินของคุณจะออกจากสนามบินกี่โมง)

ขอบคุณข้อมูลจาก dailyenglish.in.th


ทางการจีนเร่งดำเนินการห้ามลูกจ้างรัฐใช้ไอโฟน

ทางการจีนกำลังเร่งขยายแผนงานห้ามไม่ให้ลูกจ้างภาครัฐใช้งานโทรศัพท์ไอโฟนอย่างต่อเนื่อง ตามรายงานของรอยเตอร์ที่อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับประเด็นนี้

นอกเหนือจากประเด็นความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างกรุงวอชิงตันและกรุงปักกิ่งแล้ว แผนการขยายคำสั่งห้ามการใช้โทรศัพท์ไอโฟนในกลุ่มลูกจ้างรัฐบาลกลางที่เริ่มต้นเมื่อ 2 ปีก่อน คือ ความท้าทายที่หนักขึ้นสำหรับภาคธุรกิจสหรัฐฯ ที่พึ่งพาจีนอย่างหนักทั้งในด้านการกระตุ้นรายได้และการผลิต

แหล่งข่าวของรอยเตอร์ที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ของอย่างน้อย 3 กระทรวงและหน่วยงานรัฐได้รับคำบอกกล่าวไม่ให้ใช้ไอโฟนที่ทำงาน ขณะที่ แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวเสริมว่า ทางการยังไม่ได้กำหนดเส้นตายของวันที่ต้องยุติการใช้งานโทรศัพท์รุ่นนี้

รอยเตอร์ติดต่อไปยังบริษัทแอปเปิลและสำนักงานสารสนเทศแห่งสภารัฐ (State Council Information Office) ซึ่งรับผิดชอบงานด้านตอบคำถามสื่อแทนรัฐบาลกลาง เพื่อขอความเห็นแต่ไม่ได้รับการตอบกลับก่อนตีพิมพ์ข่าวนี้

รายงานข่าวระบุว่า ยังไม่มีความชัดเจนว่า คำสั่งห้ามใช้อุปกรณ์สื่อสารดังกล่าวมีผลบังคับใช้เป็นวงกว้างเพียงใด โดยแหล่งข่าวที่ 3 ซึ่งทำงานที่กระทรวงที่มีการประกาศห้ามใช้ไอโฟนบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองยังคงใช้อุปกรณ์นี้อยู่และยังไม่ได้ยินว่ามีการออกมาตรการจำกัดคุมเข้มแต่อย่างใด ส่วนแหล่งข่าวที่ 4 ซึ่งทำงานอยู่ที่หน่วยงานกำกับดูแลกิจการของจีน เผยว่า ยังไม่มีคำสั่งห้ามอย่างชัดเจนออกมา แต่มีการบอกกล่าวว่า หากเกิดปัญหาจากการใช้ไอโฟนขึ้นมา เจ้าของเครื่องจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด

เมื่อปี 2020 สื่อสิ่งพิมพ์ธุรกิจการเงิน Economic Observer ซึ่งเป็นของรัฐบาลจีนรายงานว่า หน่วยงานรัฐบาลบางแห่งออกกฎห้ามเจ้าหน้าที่ใช้โทรศัพท์ไอโฟนเนื่องจกกฎด้านการรักษาความเป็นส่วนตัวอันเข้มงวดของบริษัทแอปเปิลที่ทำให้เจ้าหน้าที่ด้านปราบปรามคอร์รัปชันไม่สามารถเข้าถึงและตรวจสอบโทรศัพท์ของผู้ต้องสงสัยได้

สื่อบลูมเบิร์กรายงานในวันพฤหัสบดีด้วยว่า จีนมีแผนที่จะขยายอำนาจคำสั่งห้ามใช้ไอโฟนไปยังรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานต่าง ๆ เพิ่มเติมเช่นกัน

ทั้งนี้ จีนคือตลาดที่ใหญ่ที่สุดตลาดหนึ่งของแอปเปิล โดยทำรายได้ให้บริษัทเป็นสัดส่วนถึงเกือบ 1 ใน 5 เนื่องจาก ยอดขายในตลาดนี้อยู่ในระดับสูงมากมาโดยตลอดและเฉพาะยอดขายอุปกรณ์โทรศัพท์นั้นถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 3 ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ตามข้อมูลจากบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจ Canalys โดยเหตุผลหนึ่งก็คือ การที่บริษัทหัวเหว่ยได้รับผลกระทบจากมาตรการลงโทษของสหรัฐฯ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


‘แสนสิริ’ โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกกล่าวถึงในกระแสนายกฯ คนที่ 30 ของประเทศไทย

เลือกตั้งนายกเพิ่งผ่านพ้นไป เป็นอันว่า เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทยได้ขึ้นแท่นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย แต่เดี๋ยวก่อน! เราจะไม่ลงลึกไปถึงดราม่าต่าง ๆ นานาหรือนโยบายทางการเมือง ตรงกันข้าม เราจะพามาทำความรู้จักกับนายกรัฐมนตรีคนนี้ผ่านโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยอย่าง “แสนสิริ”

แสนสิริ คือ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ระดับแนวหน้าของประเทศไทย เริ่มดำเนินกิจการมาอย่างยาวนานร่วมเกือบ 40 ปี ตั้งแต่ปี 2527 ที่จดทะเบียนก่อตั้งในนาม บริษัท แสนสำราญ โฮลดิ้ง จำกัด โดยกลุ่มจูตระกูล โครงการแรกของบริษัท คือ โครงการบ้านไข่มุก เป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก และต่อในปี 2537 ได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “บริษัท แสนสิริ จำกัด” ที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้

เป็นที่ทราบกันดีว่าในปี 2540 ประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียได้เผชิญวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง ธุรกิจล้มระเนระนาด คงไม่ต้องเดาเพราะแสนสิริก็มิอาจหนีรอดภัยวิกฤตในครั้งนี้ สิ่งที่ผู้บริหารโครงการตัดสินใจรับมือคือการขายโครงการทั้งหมดออกสู่ตลาดและชำระหนี้ที่มีอยู่อย่างรวดเร็ว เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวกระทั่งในปี 2555 แสนสิริจึงขยายการพัฒนาโครงการออกไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ในประเทศ ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต หัวหิน ขอนแก่น พัทยา และเขาใหญ่

ล่าสุดไม่นานมานี้ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เพิ่งได้รับรางวัล Livinginsider Awards 2023 งานประกาศรางวัล เชิดชูยกย่องผู้ประกอบการ และนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ผู้สร้างสรรค์ผลงานยอดเยี่ยม ในสาขา Best Concept Condo สำหรับโครงการ KHUN by YOO คอนโดฯ หรูใจกลางย่านทองหล่อที่รองรับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง ความคิดสร้างสรรค์ที่แปลกใหม่ โดยได้ดีไซเนอร์ผู้เป็น iconic ของวงการออกแบบโลกอย่าง Philippe Starck ร่วมกับ John Hitchcox นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง มาผสมผสานให้ YOO กลายเป็นพื้นที่ที่เป็นตัวคุณ

ภาพจาก แสนสิริ
ภาพจาก แสนสิริ

“แสนสิริ” ยังมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่น่าสนใจอีกมากมาย อย่างไรก็ตาม สิ่งน่าจับตามองคงจะหนีไม่พ้นนโยบายด้านอสังหาริมทรัพย์และที่ดินของรัฐบาลชุดใหม่นำโดย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ซึ่งจะมีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในแง่ใด คงต้องมาติดตามกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 11/09/2566

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a32,250.0032,350.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,089.0031,669.2432,850.00
ทองรูปพรรณ 90%1,880.1028,502.32n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,671.2025,335.39n/a
ทองรูปพรรณ 50%940.0014,250.40n/a
ทองรูปพรรณ 40%731.0011,081.96n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,165.0032,821.40n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 11/09/2566


ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9539.3539.3540.3539.3539.3539.3539.3539.3539.3539.35
แก๊สโซฮอล์ 9139.0839.0840.0839.0839.0839.0839.0839.0839.0839.08
แก๊สโซฮอล์ E2037.0437.0438.0437.0437.0437.0437.0437.0437.04
แก๊สโซฮอล์ E8537.4937.4937.49
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม45.0449.0449.8449.0445.04
เบนซิน 9547.1448.3147.6447.2947.14
ดีเซล B731.9431.9432.6431.9431.9431.9431.9431.9431.9431.94
ดีเซล31.9431.9432.6431.9431.9431.9431.9431.9431.9431.94
ดีเซล B2031.9431.9432.6431.9431.9431.94
ดีเซลพรีเมี่ยม42.2443.6449.4443.6443.6442.24
แก๊ส NGV17.5917.5917.59
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า