สาระน่ารู้ประจำวันที่ 12 มกราคม 2566

อสังหาฯ ออกหุ้นกู้ จำเป็นต้องมีกระแสเงินสดหมุนเวียน

อสังหาฯ ออกหุ้นกู้ จำเป็นต้องมีกระแสเงินสดหมุนเวียน คอลัมน์ Property  Inside  : สุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ จำกัด (Property DNA)

ช่วงของสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งช่วงเวลาที่ตึงเครียด และมีปัญหามากที่สุดเริ่มตั้งแต่ช่วงกลางปี2563 ต่อเนื่องมาถึงช่วงกลางปี2565 ได้สร้างปัญหาในเรื่องของกระแสเงินสดต่อเนื่องให้กับหลายธุรกิจที่ต้องการกำลังซื้อจากคนไทย รวมไปถึงกำลังซื้อจากต่างชาติด้วย เพราะ ณ เวลานั้นไม่มีใครรู้ว่าสถานการณ์จะยาวนานแค่ไหน และจะมีผลกระทบใดตามมาอีกหรือไม่

อีกทั้งหลายธุรกิจตอนนั้น เลือกที่จะปิดกิจการทั้งแบบชั่วคราว และถาวร เพื่อเลี่ยงรายจ่ายที่เกิดขึ้น และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์น่าจะเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบชัดเจนที่สุด เพราะการซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียมนั้นใช้เงินจำนวนมาก และเป็นการสร้างภาระหนี้สินก้อนใหญ่ที่สุดเท่าที่คนทั่วไปจะสร้างได้ตามฐานะทางการเงินของตนเอง

เมื่อความมั่นใจในสถานการณ์ทางการเงินของตนเองในระยะยาวไม่มีก็คงไม่มีใครอยากสร้างหนี้สินก้อนใหญ่ ยกเว้นคนที่ต้องการซื้อจริงๆ หรือคนที่ไม่มีผลกระทบจากเรื่องเหล่านี้

การดำเนินธุรกิจต่างๆ สิ่งที่จำเป็นที่สุด คือ เรื่องของกระแสเงินสด เพราะเมื่อใดก็ตามที่กระแสเงินสดขาดมือ หรือไม่สามารถหามาหมุนเวียนได้ก็อาจจะมีผลต่อการดำเนินธุรกิจ และถึงขั้นต้องปิดกิจการได้ถ้าเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 รุนแรงและยังไม่เห็นทิศทางของปัญหานี้

ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายรายจึงเร่งปิดการขาย และโอนกรรมสิทธิ์โครงการที่สร้างเสร็จแล้วให้ได้มากที่สุด แม้ว่าจะเป็นการปิดการขายด้วยราคาขายที่ลดลงมากก็ตาม เพื่อสร้างกระแสเงินสดในบริษัท ช่วงปี2563 จึงเป็นช่วงเวลาที่เห็นผู้ประกอบการออกแคมเปญต่างๆ มาต่อเนื่องเพื่อสร้างความน่าสนใจและทยอยปิดโครงการกันหลายโครงการในช่วงเวลานั้น

ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จำเป็นต้องมีกระแสเงินสดในบริษัทที่มากพอสมควร เพราะค่าใช้จ่ายรายเดือน และค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาโครงการมีมากมาย ซึ่งในภาวะที่โครงการต่างๆ ขายดี หรือมีรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ต่อเนื่องก็คงไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่ต้องมีการเปิดขายโครงการต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เพื่อรักษากระแสเงินสดให้เกิดการหมุนเวียน แต่เมื่อใดก็ตามที่เกิดปัญหาในเรื่องของเงินทุนหรือกระแสเงินสด

การหยุดการก่อสร้าง ลดพนักงาน ลดการเปิดโครงการใหม่ และทยอยขายที่ดินจะเป็นสิ่งที่เห็นได้พร้อมๆ กันจากผู้ประกอบการที่มีปัญหา เพื่อเป็นการสร้างรายได้เข้ามาหมุนเวียนในบริษัท และเป็นการลดรายจ่ายลงแบบทันทีทันใด ซึ่งสถานการณ์ของการขาดกระแสเงินสดอาจจะไม่ได้เกิดในช่วงของสถานการณ์โควิด-19 เท่านั้น

กลับกันอาจจะเกิดในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว แล้วผู้ประกอบการเปิดโครงการพร้อมกันมากเกินไป จนบางโครงการขายไม่ได้ และทำให้กระแสเงินสดติดขัด หรือเปิดขายโครงการด้วยเงินจากธนาคารในสัดส่วนที่มากเกินไป และไม่สามารถใช้คืนสินเชื่อธนาคารได้ตามกำหนด

จนถึงขั้นโดนธนาคารยึดทรัพย์เพื่อชำระหนี้สิน จากนั้น โครงการที่เหลือก็ไปต่อไม่ได้ เพราะคนขาดความเชื่อมั่นไปแล้ว ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาในการฟื้นความเชื่อมั่น แต่ก็จะไม่สามารถสร้างกระแสได้แบบก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ช่วงของสถานการณ์โควิด-19 สร้างปัญหาให้กับผู้ประกอบการหลายราย โดยเฉพาะในรายเล็ก รายกลางที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ เพราะเงินทุนหมุนเวียนหรือกระแสเงินสดอาจจะขาดมือ แต่หาช่องทางในการระดมทุนได้ยาก แต่การออกหุ้นกู้สำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์อาจจะเป็นทางออกที่น่าสนใจ และได้เงินรวดเร็วมาก แต่ต้องไม่ลืมว่าอัตราดอกเบี้ยอาจจะสูง

เมื่อผิดนัดชำระหนี้สินก็สร้างความเสียหายได้แบบทันที เนื่องจากผู้เสียหายมีหลายคน ไม่เหมือนกับการขอสินเชื่อธนาคาร แต่ธนาคารในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ก็เข้มงวดไม่ปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการง่ายๆ เงื่อนไขในการพิจารณามากขึ้น วงเงินที่ให้สินเชื่อก็ลดลง และมีข้อบังคับต่างๆ มากขึ้น การออกหุ้นกู้จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจที่สุด แต่ก็เห็นผู้ประกอบการหลายรายที่มีปัญหาเพราะหุ้นกู้

เนื่องจากไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ย หรือจ่ายเงินเมื่อครบกำหนดได้ ดังที่เป็นข่าวทั้งในต่างประเทศ และประเทศไทย สาเหตุหลัก คือ การขาดกระแสเงินสด หรือไม่มีรายได้เข้าบริษัทในช่วงที่ผ่านมา และถ้าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แล้วมีปัญหาในเรื่องของกระแสเงินสดก็แสดงว่าไม่สามารถออกหุ้นกู้หรือระดมทุนเพิ่มเติมได้อีกแล้ว

เพราะขาดความน่าเชื่อถือ หรือมีปัญหาเกิดขึ้น แบบที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีนมีปัญหาก่อนหน้านี้ ต้องหาทางสร้างกระแสเงินสดจากการขายอสังหาริมทรัพย์ หรือหานักลงทุนเข้ามาลงทุนเพิ่มเติม

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


SC แบรนด์อสังหาฯทรงพลัง ‘บ้านหรู’ ดันยอดขายปี 65 ทุบสถิติสูงสุด!

ทุบสถิติ! SC สุดแกร่ง! เผย ปี 2565 บ้านหรูขายดี ดันยอดขายรวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 24,468 ล้านบาท ย้ำภาพ ผู้นำบ้านเดี่ยวเบอร์ 1 ในตลาด สานรางวัลแบรนด์อสังหาฯทรงพลัง

11 ม.ค.2566 – ปี 2565 ถือเป็นอีกปีทองของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ที่งัดกลยุทธ์ เจาะตลาดถูกจุด และรับอานิสงส์ กลุ่มกำลังซื้อ บ้านหรู ที่มีความแข็งแกร่งทนทานกับภาวะเศรษฐกิจ

เช่นเดียวกับ ผลงานยืนยันโดย บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ SC ซึ่งล่าสุดแจ้งว่า บริษัทสามารถทำยอดขายรวมทั้งปี 2565 ทุบสถิติสูงสุดถึง 24,468 ล้านบาท โดยมีแบรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด เป็นตัวชูโรงที่สำคัญ 

นายอรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสนับสนุนองค์กร บมจ. เอสซี ฯ กล่าวถึงความสำเร็จในปี 2565  ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นอีกปีที่เราสามารถทำยอดขายได้ทะลุเป้าที่วางไว้ แตะนิวไฮทั้งฝั่งแนวราบ และ ยอดขายรวม โดยมียอดขายแนวราบสูงถึง 19,688 ล้านบาท เติบโต 13% (YoY) ยอดขายรวม ที่ 24,468 ล้านบาท เติบโต 12% (YoY) ขณะที่ยอดขายไตรมาส 4/2022 จบที่ 7,286 ล้านบาท เติบโต 27% (YoY) ทำนิวไฮรายไตรมาส และยอดขายแนวราบทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 5,669 ล้านบาท เติบโต 38% (YoY)”

โดยปีที่แล้ว เป็นปีที่บริษัทฯ เปิดโครงการแนวราบมากที่สุด จำนวน 25 โครงการ มูลค่ารวม 37,460 ล้านบาท ซึ่ง 70% เป็นบ้านระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาท และ 30% ระดับราคาน้อยกว่า 10 ล้านบาท ทั้งหมดถูกพัฒนาภายใต้แนวคิด Human Centric ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของผู้คนทุกเจเนอเรชัน สามารถปิดการขายโครงการแนวราบได้ถึง 23 โครงการ โดยแบรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ได้รับการตอบรับที่ดีมาก
 

สำหรับฝั่งแนวสูง ทำยอดขายได้ 4,780 ล้านบาท เติบโต 8% (YoY) จากการที่บริษัทฯ ได้ขยายฐานกลุ่มลูกค้าไปยัง Gen Y มากขึ้น ผ่านการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ Reference สาทร-วงเวียนใหญ่ ซึ่งประสบความสำเร็จเกินคาด และยังสามารถปิดการขาย 2 คอนโดคุณภาพ ได้แก่ เซ็นทริค รัชโยธิน และ แชมเบอร์ส อ่อนนุช สเตชั่น อีกด้วย

ล่าสุดบริษัทฯ คว้ารางวัล The Most Powerful Brand in Real Estate 2022 (สุดยอดแบรนด์ทรงพลังแห่งปี 2565) เป็นปีแรก อ้างอิงจากผลสำรวจกลุ่มตัวอย่างการรับรู้แบรนด์ ให้ความเชื่อมั่น และ ส่งผลให้ SC เป็นแบรนด์ที่มีการปรับตัวเติบโตต่อเนื่อง ทั้งการรับรู้ ภาพลักษณ์ และความพึงพอใจ ก่อให้เกิดการสร้างฐานลูกค้าผู้ภักดี (Brand Loyalty) เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ยืนหนึ่งความเป็นผู้นำด้านการอยู่อาศัยและส่งผลให้ประสบความสำเร็จด้านยอดขาย

นายอรรถพล กล่าวเสริมว่า ปี 2566 นี้จะเป็นอีกปีที่ยังคงท้าทาย แต่เรามั่นใจว่า บริษัทฯ จะสามารถทำยอดได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ภายใต้ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และความเชื่อมั่นของลูกค้าในเรื่องของ แบรนด์ เทคโนโลยี และคุณภาพสินค้ามาตรฐานสูง รวมถึงงานบริการหลังการขายที่โดดเด่นของ SC อีกด้วย 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ ที่ระดับ 33.34 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ sideways ไปก่อน แนวโน้มอ่อนค่าจากแรงกดดันโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว กรอบวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.25-33.60 บาท/ดอลลาร์

ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้(12ม.ค.2566) ที่ระดับ 33.34 บาทต่อดอลลาร์ “ทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง”จากระดับปิดวันก่อนหน้า 


นายพูน      พานิชพิบูลย์    นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทยระบุว่า นวโน้มค่าเงินบาท เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดต่างรอคอยรายงานเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ในวันนี้ ทำให้ เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ sideways ไปก่อน 

อย่างไรก็ดี ในช่วงระหว่างวันก่อนที่ผู้เล่นในตลาดจะรับรู้รายงานเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ (ช่วงเวลาประมาณ 20.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย)


 เรามองว่า เงินบาทมีโอกาสผันผวนในฝั่งอ่อนค่าได้บ้าง เนื่องจากผู้เล่นในตลาดบางส่วนอาจอยากขายทำกำไรสถานะ Short USDTHB ซึ่งเราเริ่มเห็นแรงขายบอนด์ระยะสั้นของนักลงทุนต่างชาติในวันก่อนหน้าถึง -6.2 พันล้านบาท

นอกจากนี้ หากราคาทองคำย่อตัวลงใกล้แนวรับแถว 1,875 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เราประเมินว่า ผู้เล่นบางส่วนอาจเข้ามาทยอยซื้อทองคำบ้าง ทำให้อาจเห็นโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว กดดันให้เงินบาทอ่อนค่าได้

ทั้งนี้ เราประเมินว่า หากอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ชะลอลงตามคาด หรือต่ำกว่าคาด ก็จะช่วยหนุนให้ตลาดยิ่งมั่นใจว่า เฟดจะชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้อาจเห็นภาพตลาดเปิดรับความเสี่ยง

พร้อมกับการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ การปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ และการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ ซึ่งในกรณีนี้ เงินบาทมีโอกาสแข็งค่าลงทดสอบโซน 33.25 บาทต่อดอลลาร์ (หากผ่านแนวรับสำคัญถัดไปคือ 33 บาทต่อดอลลาร์)

 

แต่หากอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ กลับไม่ได้ชะลอลงตามคาด ควรระวังความผันผวนในตลาดการเงิน เพราะผู้เล่นในตลาดอาจกลับมากังวลแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดอีกครั้ง (อาจประเมินว่า เฟดจะยังไม่สามารถชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ยได้ง่าย) ส่งผลให้ตลาดการเงินจะพลิกกลับมาปิดรับความเสี่ยง

หนุนให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นรวดเร็ว (ดัชนีเงินดอลลาร์ หรือ DXY อาจรีบาวด์ขึ้นแตะระดับ 105 จุดอีกครั้ง) กดดันให้เงินบาทสามารถอ่อนค่าลงทดสอบโซนแนวต้านสำคัญจะอยู่ 33.70บาทต่อดอลลาร์ ได้ไม่ยาก



อนึ่ง การเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ผันผวนสูงในช่วงที่ผ่านมาได้สะท้อนถึงความจำเป็นของการใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้เราคงแนะนำ ผู้ประกอบการควรใช้กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้ Options ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงได้ดีในช่วงที่ตลาดผันผวนหนัก



มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.25-33.60 บาท/ดอลลาร์


ความหวังแนวโน้มเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ จะชะลอตัวลง และสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ย ได้ช่วยให้ตลาดการเงินสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) ต่อเนื่อง

โดยผู้เล่นในตลาดเดินหน้าซื้อหุ้นในกลุ่มเทคฯ และหุ้นสไตล์ Growth ส่งผลให้ ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq พุ่งขึ้น +1.76% ส่วนดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น +1.28%



ส่วนในทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ปรับตัวขึ้นราว +0.38% หลังหุ้นกลุ่มเทคฯและหุ้นสไตล์ Growth ในฝั่งยุโรปพลิกกลับมาปรับตัวขึ้น จากความหวังว่า เฟดจะชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ย

หากเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ชะลอตัวลงชัดเจนมากขึ้น นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าแบรนด์เนม จากความหวังการฟื้นตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจจีน



ทางด้านตลาดบอนด์ แม้ว่า ตลาดการเงินจะอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง ทว่า มุมมองของผู้เล่นในตลาดที่ต่างคาดหวังให้ เฟดชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ย (ผู้เล่นในตลาดมองว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเพียง +0.25%ในการประชุมครั้งหน้า) ได้กดดันให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ย่อตัวเล็กน้อยสู่ระดับ 3.54%

ทั้งนี้ เราคงมุมมองเดิมว่า ผู้เล่นในตลาดจะรอไฮไลท์สำคัญอย่าง รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ทำให้ในระยะสั้น บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อาจแกว่งตัว sideways ใกล้ระดับ 3.50% จนกว่าจะรับรู้รายงานข้อมูลดังกล่าว



ในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์โดยรวมเคลื่อนไหวในกรอบ sideways โดยล่าสุด ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) แกว่งตัวใกล้ระดับ 103.2 จุด สอดคล้องกับมุมมองของเราก่อนหน้าที่ประเมินว่า เงินดอลลาร์จะแกว่งตัว sideways หรืออาจอ่อนค่าลงได้เล็กน้อย

หากตลาดเปิดรับความเสี่ยงต่อเนื่อง จนกว่าผู้เล่นในตลาดจะรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ อย่างไรก็ดี แม้ว่า เงินดอลลาร์จะยังคงทรงตัว และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ย่อตัวลง แต่ภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินโดยรวมได้

กดดันให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ.) ยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นทะลุโซนแนวต้านแถว 1,890 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ก่อนที่จะย่อตัวลงมาแกว่งตัวใกล้โซน 1,875-1,880 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ทั้งนี้ เรามองว่า มุมมองของผู้เล่นในตลาดที่ต่างคาดหวังเฟดชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ย หากอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ชะลอลงตามคาด อาจหนุนให้ผู้เล่นในตลาดต่างรอจังหวะราคาทองคำย่อตัวลงในการทยอยเข้าซื้อ และอาจทยอยขายทำกำไร หากราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นทะลุแนวต้านไปทดสอบโซน 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้



สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามไฮไลท์สำคัญ คือ รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ เดือนธันวาคม โดยตลาดประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไป อาจชะลอลงสู่ระดับ 6.5% จากระดับ 7.1% ในเดือนก่อนหน้า
 

ตามการปรับตัวลดลงของราคาพลังงาน, ปัญหา Supply Chain ที่คลี่คลายลง รวมถึงการปรับตัวลดลงต่อเนื่องของราคาสินค้าและบริการหลายรายการตามการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
 

นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมผลของราคาอาหารและพลังงาน ก็จะชะลอลงสู่ระดับ 5.7% จากระดับ 6.0% ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งภาพดังกล่าวอาจทำให้ผู้เล่นในตลาดมีความสบายใจมากขึ้นว่า เงินเฟ้อสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอตัวลง จนอาจทำให้เฟดพิจารณาชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต เหลือ +0.25% (ลดลงจาก +0.50% ในการประชุมเดือนธันวาคม)

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


“บาส-ปอป้อ” สยบรุ่นน้อง “เอ็ม-เฟม” ลิ่วรอบสองแบดมินตัน มาเลเซีย โอเพ่น

การแข่งขันแบดมินตันรายการแรกของปี 2566 “เปโตรนาส มาเลเซีย โอเพ่น 2023” ระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 11 มกราคม เป็นการแข่งขันในรอบแรก
 
ประเภทคู่ผสม “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย มืออันดับ 3 ของโลก และมือวางอันดับ 2 ของรายการโคจรมาพบกับคู่รุ่นน้อง “เอ็ม” สุภัค จอมเกาะ กับ “เฟม” ศุภิสรา เพียวสามพราน มืออันดับ 10 ของโลก
 
สถิติที่พบกันมา 3 ครั้งที่เป็นการเจอกันเมื่อปีที่แล้วทั้งหมด คู่รุ่นพี่เป็นฝ่ายชนะสองเกมรวดทั้งสามครั้ง และในเกมนี้ยังคงเป็นบาสกับปอป้อที่ทำได้ดีกว่า เป็นฝ่ายชนะไปสองเกมรวด 21-14, 21-14 ใช้เวลา 32 นาที ผ่านเข้าสู่รอบสอง หรือรอบ 16 คู่ไปพบกับ ฮี ยอง ไค เทอร์รี่-ตัน เหว่ย ฮาน เจสสิก้า มือ 13 ของโลกจากสิงคโปร์

ด้านชายเดี่ยว “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มืออันดับ 9 ของโลก และมือวางอันดับ 8 เอาชนะ ชีซาร์ ไฮเรน รุสตาวิโต้ มืออันดับ 24 โลกจากอินโดนีเซีย 2-1 เกม 21-23, 21-19, 24-22 ผ่านเข้ารอบ 16 คนไปพบกับ “กัน” กันตภณ หวังเจริญ มือ 32 ของโลก ที่เอาชนะ ไบรอัน หยาง มือ 22 ของโลกจากแคนาดา 2-1 เกม 21-16, 17-21, 21-13
 
ส่วนหญิงคู่ “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธรากุล-“วิว” รวินดา ประจงใจ มือ 5 ของโลก และมือวางอันดับ 6 แพ้ เบ็ก ฮา นา-ลี ยู ลิม มือ 20 โลกจากเกาหลีใต้ 1-2 เกม 15-21, 21-17, 16-21

ติดตามผลการแข่งขันคู่อื่นๆ ได้ทางเว็บ https://www.tournamentsoftware.com/

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


“สะอึก” ไม่หยุด อาจเป็นสัญญาณอันตราย “หลอดเลือดสมอง”

คุณคิดว่ามีความสัมพันธ์ระหว่าง อาการสะอึก และโรคหลอดเลือดสมอง (stroke) หรือไม่ อาจฟังดูแปลก เนื่องจากคุณมีอาการสะอึกหลายครั้งต่อวันในขณะที่โรคหลอดเลือดสมองเป็นอาการที่เกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ดี อาการดังกล่าวอาจมีความสัมพันธ์กัน ให้ติดตามอ่านบทความนี้เพื่อศึกษาเพิ่มเติม

 

อาการสะอึกที่ไม่หาย

อาการสะอึกเป็นอาการเคลื่อนไหวของกระบังลม ที่เกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ และเกิดขึ้นกะทันหัน กระบังลมเป็นแผ่นกล้ามเนื้อขนาดใหญ่ที่อยู่ในบริเวณส่วนล่างของปอด กระบังลมทำงานร่วมกันกับกล้ามเนื้อที่ยึดระหว่างซี่โครง เพื่อให้มีการหายใจได้ เมื่อปลายปิดของเส้นเสียงเคลื่อนตามการเคลื่อนไหวของกระบังลม ทำให้เกิดเสียง ‘สะอึก’ ขึ้นมา อาการสะอึกสามารถหายได้เองหลังจากเวลาผ่านไปเล็กน้อยโดยไม่ต้องเข้ารับการรักษาใดๆ และอาการสะอึกเป็นภาวะปกติ คนส่วนใหญ่ต่างก็มีอาการสะอึกทั้งนั้น แต่อาการสะอึกที่คงอยู่เป็นเวลาเกินกว่า 48 ชั่วโมง เป็นอาการผิดปกติ และอาจจำเป็นต้องได้รับการรักษา

อาการสะอึกเรื้อรังและโรคหลอดเลือดสมอง

อย่างไรก็ดี การสะอึกเป็นเวลานานที่ไม่หายไปได้เอง หลังจากเวลาผ่านไปหลายวัน หรือหลายสัปดาห์อาจ เป็นอาการบ่งชี้ของโรคประจำตัวบางชนิด ซึ่งรวมถึงโรคหลอดเลือดสมองด้วย ในภาวะเช่นนี้ ให้สังเกตอาการอื่นๆ ของโรคหลอดเลือดสมองด้วย เช่น

  • ผู้ป่วยมีปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็นที่ดวงตาข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้างอย่างกะทันหัน
  • ผู้ป่วยไม่สามารถเดินได้ตามปกติ มีอาการวิงเวียน หรือเสียสมดุลของร่างกายอย่างกะทันหัน
  • ผู้ป่วยมีอาการปวดศีรษะอย่างกะทันหัน
  • ผู้ป่วยมีปัญหาเกี่ยวกับการพูดอย่างกะทันหัน การพูดอาจไม่ชัด ผู้ป่วยอาจไม่สามารถพูดได้เลยถึงแม้ว่ารู้สึกตัว
  • ผู้ป่วยไม่สามารถยกแขนทั้งสองข้างได้อย่างกะทันหัน เนื่องจากมีอาการอ่อนล้าและอาการชา
  • ใบหน้าของผู้ป่วยอาจหดลงที่ข้างหนึ่ง ผู้ป่วยไม่สามารถยิ้มได้ตามปกติ

เพื่อให้มีความเข้าใจที่ชัดเจนมากขึ้น เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างอาการสะอึกและโรคหลอดเลือดสมอง คุณควรไปปรึกษาหมอ

สาเหตุอื่นๆ ของอาการสะอึก

อาการสะอึกโดยส่วนใหญ่เกิดขึ้น และหายไปโดยไม่ทราบสาเหตุที่เฉพาะ ทุกคนอาจมีอาการสะอึกหนึ่งครั้งหรือมากกว่าได้เป็นครั้งคราว อย่างไรก็ดี อาการสะอึกในระยะสั้นบางครั้งอาจมีสิ่งกระตุ้นเฉพาะ เช่น

  • การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาจกระตุ้นให้เกิดอาการสะอึก
  • การสูบบุหรี่อาจก่อให้เกิดอาการสะอึก
  • อากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันในห้อง หรือภายในร่างกายของคุณ ตัวอย่างเช่น คุณลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศทันที หรือคุณดื่มหรือรับประทานอาหารที่ร้อน แล้วตามด้วยอาหารที่เย็น
  • ดื่มของเหลวอย่างรวดเร็วเกินไป
  • มีปัญหาเกี่ยวกับภาวะทางอารมณ์ เช่น ความเครียดหรือความกลัว
  • มีการกลืนอากาศ ตัวอย่างเช่น เวลาคุณเคี้ยวหมากฝรั่ง

อาการสะอึกในระยะสั้นมักไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา ขณะที่อาการสะอึกในระยะยาวหรืออาการสะอึกเรื้อรังที่มีอาการเกินกว่า 48 ชั่วโมงอาจเป็นอาการบ่งชี้ของภาวะเกี่ยวกับสุขภาพบางประการ เช่น

  • ภาวะเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น ปอดบวม หรือหอบหืด
  • ภาวะทางจิต เช่น อาการช็อก อาการหวาดกลัว
  • กลุ่มอาการเกี่ยวกับระบบเผาผลาญของร่างกาย เช่น เบาหวาน ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ หรือภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
  • ภาวะที่ส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง เช่น การบาดเจ็บที่สมอง หรือเนื้องอกที่สมอง

หรือยาชนิดต่าง ๆ เช่น ยาชา ยาเคมีบำบัด ยาโอปิออยด์ (opioids) ยาเบนโซไดอาเซปีน (benzodiazepines) ยาเมทิลโดพา (methyldopa) อาการสะอึกเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ดี อาการสะอึกที่มีอาการเป็นเวลาหลายวัน หรือแม้กระทั่งหลายปี อาจเป็นอาการบ่งชี้ของโรคหลอดเลือดสมอง หากคุณสังเกตได้ถึงอาการดังกล่าว ให้แจ้งแพทย์หรือผู้ดูแลสุขภาพ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


จีเอ็ม-ฟอร์ด-กูเกิล จับมือพัฒนา ‘โรงไฟฟ้าเสมือน’

บริษัทรถยนต์ เจเนรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) และ ฟอร์ด จับมือกับบริษัทเทคโนโลยี กูเกิล และผู้ผลิตพลังงานแสงอาทิตย์อีกหลายแห่ง เปิดเผยโครงการจัดทำมาตรฐานสำหรับยกระดับการใช้ โรงไฟฟ้าเสมือนจริง หรือ Virtual Power Plant (VPP) ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยผ่อนเพลาภาระการผลิตไฟฟ้าในกรณีที่ขาดแคลนปัจจัยการผลิต

บริษัทพลังงานที่ไม่แสวงหาผลกำไร RMI เป็นผู้เริ่มจัดทำโครงการที่มีชื่อว่า Virtual Power Plant Partnership (VP3) ที่มีเป้าหมายจัดทำนโยบายเพื่อสนับสนุนระบบดังกล่าว โดยรวมศูนย์แหล่งพลังงานหลายพันแห่งเข้าด้วยกันซึ่งควบคุมด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ เช่น เนสต์ เทอร์โมสแตท (Nest Thermostat) ของกูเกิล

โครงการนี้ใช้ซอฟต์แวร์ที่ล้ำสมัยและวิธีการต่าง ๆ ในการจัดการกับปัญหาไฟตกหรือไฟดับ เช่น การเปิด-ปิดแบตเตอรีของรถยนต์ไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ หรือการเปลี่ยนระบบการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าไปเป็นแบบประหยัดพลังงานในทันที โดยต้องได้รับความยินยอมจากผู้บริโภคเสียก่อน

ในช่วงที่เกิดวิกฤติคลื่นความร้อนในสหรัฐฯ เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว บริษัทขายส่งไฟฟ้าในรัฐแคลิฟอร์เนีย System Operator สามารถหลีกเลี่ยงปัญหาไฟดับได้ด้วยการจัดสรรไฟฟ้าทดแทนจากแหล่งต่าง ๆ รวมทั้ง VPP เพื่อให้สามารถจ่ายไฟได้เพียงพอภายใต้ภาวะฉุกเฉิน โดยมีเทคโนโลยี Nest ของกูเกิล เป็นตัวช่วยในการจัดสรรไฟฟ้า

โครงการโรงไฟฟ้าเสมือนจริงนี้กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในอเมริกา ด้วยการสนับสนุนภายใต้กฎหมาย Inflation Reduction Act ซึ่งผ่านรัฐสภาเมื่อปี 2021 ที่ได้มอบผลประโยชน์ทางภาษีแก่เทคโนโลยีพลังงานทางเลือกต่าง ๆ

RMI คาดการณ์ว่า ภายในปี 2030 โรงไฟฟ้าเสมือนจริง หรือ VPP จะช่วยลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าของคนอเมริกันในช่วงสูงสุดได้ราว 60 กิกะวัตต์ หรือเพียงพอป้อนความต้องการไฟฟ้าโดยเฉลี่ยของ 50 ล้านครัวเรือน และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 200 กิกะวัตต์ภายในปี 2050

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


คำศัพท์ภาษาอังกฤษ อารมณ์ & ความรู้สึก (Feeling and Emotions)

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ อารมณ์ & ความรู้สึก

วันนี้คุณรู้สึกอย่างไร? เรียนภาษาอังกฤษ คําศัพท์ความรู้สึกและอารมณ์

สวัสดีค่ะวันนี้แอดมินแนะนำให้เพื่อนๆ รู้จักกับการใช้คำศัพท์ภาษาอังกฤษบอกความรู้สึก เอาไว้ไปตั้งสเตตัสเก๋ๆ ชิคๆ กันบนโซเชียล แชร์ความรู้สึกเป็นภาษาอังกฤษให้เพื่อน หรือคนใกล้ตัวได้รับรู้ ว่าตอนนี้เรารู้สึกยังไง เราสามารถใช้ ภาษาอังกฤษบอกความรู้สึก  ต่างๆได้มากมาย ลองดูกันเลยจ้า

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ อารมณ์ & ความรู้สึก (feeling and emotions)

ประโยคภาษาอังกฤษ บอกความรู้สึก … วันนี้คุณรู้สึกยังไงกันบ้าง? (How are you Feeling Today?)

รูปประโยคสามารถใช้ I am + (ความรู้สึก). / I feel + (ความรู้สึก).

ตัวอย่าง

  • I am happy.
    ฉันมีความสุข
  • I feel Disappointed.
    ฉันรู้สึกผิดหวัง

รู้สึกดี

  • I’m good.
  • I’m great.
  • Not too bad.

หากคุณรู้สึกไม่ดี

  • Not too great.
  • I’m a little under the weather.

อารมณ์ดีภาษาอังกฤษ ใช้คำว่าอะไรบ้าง?

นอกจากคำว่า happy ที่เราใช้กันบ่อยๆ แล้ว ยังมีคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่ให้ความในด้านดีๆ มีความสุข, น่ายินดี, เป็นที่พอใจ อีกด้วย

agreeable แปลว่า ซึ่งยินยอม,ซึ่งเห็นดีด้วย
amusement แปลว่า ความขบขัน
bliss แปลว่า ความผาสุก,ความสุข
cheerful แปลว่า ที่ทำให้รู้สึกสดชื่น
comfortable แปลว่า สบาย, สุขสบาย
complacent แปลว่า อิ่มอกอิ่มใจ, พึงพอใจ
glad แปลว่า ยินดี
happy แปลว่า มีความสุข
satisfaction แปลว่า ความพึงพอใจ

อารมณ์เสียภาษาอังกฤษ

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ บอกความรู้สึก ตอนที่คุณอารมณ์เสีย, อารมณ์ไม่ดี, ผิดหวัง มีดังนี้

anger แปลว่า ความโกรธ
angry แปลว่า โกรธ
anguish แปลว่า ความรวดร้าว,เจ็บปวดรวดร้าว
annoyance แปลว่า ความรำคาญ
bitterness แปลว่า ความขมขื่น
blue แปลว่า เศร้าใจ
bored แปลว่า เบื่อ
critical แปลว่า ตึงเครียด
ferocity แปลว่า ความโหดร้าย
fidgety แปลว่า หงุดหงิด
hurt แปลว่า เจ็บปวด
hopeless แปลว่า สิ้นหวัง
woe แปลว่า ความเศร้าโศก

อารมณ์สนุกสนาน ตื่นเต้น ภาษาอังกฤษ

คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มีความหมายว่า สนุกสนาน รื่นเริง น่าตื่นเต้น มีดังนี้

agitation แปลว่า การทำให้ปั่นป่วน, การตื่นเต้น
euphoria แปลว่า ความรู้สึกสนุกสนาน ตื่นเต้น และเป็นสุขอย่างที่สุด
excited แปลว่า รู้สึกตื่นเต้น
funny แปลว่า ตลก, สนุกสนาน
joviality แปลว่า ความเบิกบานใจ, ความร่าเริง, ความสนุกสนาน
joy แปลว่า สนุกสนาน
zest แปลว่า สนุกสนาน
euphoria แปลว่า ความรู้สึกสนุกสนาน ตื่นเต้น และเป็นสุขอย่างที่สุด

Un – ขึ้นต้น คำศัพท์อารมณ์ภาษาอังกฤษ จะมีความหมายในเชิงปฏิเสธหรือแปลว่า “ไม่”

uncomfortable แปลว่า ไม่สบาย
unhappiness แปลว่า ไม่มีความสุข
unhappy แปลว่า ไม่เป็นสุข
unsafe แปลว่า ไม่ปลอดภัย
upset แปลว่า ผิดหวัง
unsettled แปลว่า หลักลอย

ขอบคุณข้อมูลจาก edufirstschool.com


ตัวอย่าง “ผักผลไม้” 5 กำมือ 5 สีที่ควรกินในแต่ละวัน

อาจจะมีคนเคยได้ยินมาบ้างว่า ใน 1 วันเราควรกินผักผลไม้ให้ได้ 5 กำมือ แล้ว 5 กำมือมันมากขนาดไหน แล้วควรกินอะไรบ้าง เรามีตัวอย่างที่น่าสนใจจาก พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล หรือ หมอผิง ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและเวชศาสตร์ชะลอวัย โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท จากเพจ Pleasehealth Books มาฝากกัน

ตัวอย่าง “ผักผลไม้” 5 กำมือ 5 สีที่ควรกินในแต่ละวัน

1 กำมือผักผลไม้สีเขียว

ผักผลไม้สีเขียว ช่วยต้านมะเร็ง มีไฟเบอร์สูง ช่วยเรื่องการขับถ่าย

ตัวอย่างผักผลไม้สีเขียว 1 กำมือ

  • กีวี่ 2 ลูก
  • บวบ ½ ลูก
  • เซเลอรี่ 3 ก้าน
  • กะหล่ำปลี 2 กำมือ
  • ถั่วพี 3 ช้อนโต๊ะ
  • วอเตอร์เครส 1 ชาม

1 กำมือผักผลไม้สีแดง

ผักผลไม้สีแดง ดีต่อหัวใจ ผิวหนัง และต้านมะเร็ง

ตัวอย่างผักผลไม้สีแดง 1 กำมือ

  • พริกหยวก ½ ลูก
  • มะเขือเทศ 1 ลูก
  • สตรอเบอร์รี่ 7 ลูก
  • เชอร์รี่ 14 ลูก
  • ลิ้นจี่ 6 ลูก
  • ราสเบอร์รี่ 2 กำมือ

1 กำมือผักผลไม้สีส้ม

ผักผลไม้สีส้ม ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และหลอดเลือด เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

ตัวอย่างผักผลไม้สีส้ม 1 กำมือ

  • แคร์รอตหั่น 3 ช้อนโต๊ะ
  • ส้ม 1 ลูก
  • มันหวาน 1 ลูก
  • มะละกอหั่นสไลด์ 1 ชิ้น
  • แอปริคอต 3 ลูก
  • เนคทารีน 1 ลูก

1 กำมือผักผลไม้สีม่วง

ผักผลไม้สีม่วง ช่วยต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ต้านไวรัส และลดการอักเสบ

ตัวอย่างผักผลไม้สีม่วง 1 กำมือ

  • ลูกเกด 1 ช้อนโต๊ะ
  • เสาวรส 6 ลูก
  • บลูเบอร์รี่ 4 ช้อนโต๊ะ
  • บีทรูทหั่นสไลด์ 7 วัน
  • พลัม 2 รูป
  • แบล็กเบอร์รี่ 10 ลูก

1 กำมือผักผลไม้สีขาว

ผักผลไม้สีขาว เพิ่มความสามารถของร่างกายในการต่อสู้กับการติดเชื้อ ช่วยต้านการอักเสบ และต้านอนุมูลอิสระ

ตัวอย่างผักผลไม้สีขาว 1 กำมือ

  • หอมใหญ่ 1 หัว
  • ดอกกะหล่ำ 6 ก้าน
  • เห็ดแชมปิญอง 14 ลูก
  • หัวไชเท้า 1 หัว
  • ถั่วงอก 2 กำมือ
  • กระเทียมต้น 1 ต้น

1 กำมือผักผลไม้สีเหลือง

ผักผลไม้สีเหลือง ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

ตัวอย่างผักผลไม้สีเหลือง 1 กำมือ

  • สับปะรดหั่นสไลด์ 1 ชิ้น
  • กล้วยหอม 1 ลูก
  • ถั่วชิคพี 3 ช้อนโต๊ะ
  • ข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะ
  • ถั่วเลนทิล 3 ช้อนโต๊ะ
  • เกรปฟรุ๊ต ½ ผล

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 12/01/2566

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a29,650.0029,750.00
ทองรูปพรรณ 96.5%1,921.0029,122.3630,250.00
ทองรูปพรรณ 90%1,728.9026,210.12n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,536.8023,297.89n/a
ทองรูปพรรณ 50%864.0013,098.24n/a
ทองรูปพรรณ 40%672.0010,187.52n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%1,991.0030,183.56n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 12/01/2566


ปตท.

บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9534.4534.4534.7534.7534.7534.4534.4534.4534.7534.45
แก๊สโซฮอล์ 9134.1834.1834.4834.4834.4834.1834.1834.1834.4834.18
แก๊สโซฮอล์ E2032.5432.5432.8432.8432.8432.5432.5432.8432.54
แก๊สโซฮอล์ E8532.9932.9932.99
เบนซิน 9541.8642.6142.3642.3141.86
ดีเซล B734.9434.9435.5435.2435.2434.9434.9434.9435.2434.94
ดีเซล34.9434.9435.5435.2435.2434.9434.9434.9435.2434.94
ดีเซล B2034.9434.9435.5435.2434.9432.8434.94
ดีเซลพรีเมี่ยม43.6643.6644.2644.2644.2634.94
แก๊ส NGV16.5916.5916.59

About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า