จับตานารายณ์พร็อพเพอตี้ผุดมิกซ์ยูสบนที่ดิน19ไร่ เมืองทองธานีสายสีชมพู
หลังนารายณ์พร็อพเพอร์ตี้ ชนะการประมูล ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างบนถนนแจ้งวัฒนะ ขนาด 19 ไร่ ติดกับ สถานีรถไฟฟ้าเมืองทองธานี สายสีชมพู (PK10) ในเดือนธ.ค.2566 ที่ผ่านมาคาดการณ์ว่ามีมูลค่าไม่ต่ำกว่า1,500ล้านเพื่อพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสแห่งใหม่ย่านแจ้งวัฒนะ
สุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ ที่ปรึกษาด้านอสังหาฯ วิเคราะห์ว่า ที่ผ่านมาที่ดินในพื้นที่ตามแนวถนนแจ้งวัฒนะและอยู่ในแนวเสนทางรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงที่อยู่ไม่ไกลจากศูนย์รายชการกรุงเทพฯอาจจะไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะที่ดินหลายแปลงที่อยู่ในพื้นที่มีการใช้ประโยชน์มาก่อนหน้านี้แล้ว อาจจะมีแปลงที่ดินเพียงบางแปลงที่เปลี่ยนมือหรือมีการพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมบ้าง แต่ก็เป็นใช้ที่ดินขนาดไม่ใหญ่มาก มากที่สุดประมาณ 5 ไร่เท่านั้น
อาจจะที่ดินบางแปลงที่ใช้ประโยชน์เป็นโครงการพาณิชยกรรม ประเภทคอมมูนิตี้มอลล์ ซึ่งก็มีไม่มากนัก และใช้ที่ดินไม่มากเช่นกัน อีกทั้งบางโครงการเป็นการร่วมมือระหว่างเจ้าของที่ดิน และผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ รูปแบบการพัฒนาที่ดินได้มากที่สุดยังคงเป็นโครงการคอนโดมิเนียม แต่ก็ไม่ได้มีจำนวนโครงการมากนัก มีเพียงไม่กี่โครงการเท่านั้นที่เปิดขายใหม่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แม้ว่าเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพูจะเปิดให้บริการแล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ยังมีที่ดินอีก 1 แปลงที่มีความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนแปงในช่วงหลังจากนี้ คือที่ดินขนาดประมาณ 19 ที่ทางนารายณ์พร็อพเพอร์ตี้เพิ่งได้เป็นเจ้าของมาช่วงปลายปี2566 ซึ่งที่ดินแปลงใหญ่ขนาดนี้ แล้วติดกับสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีเมืองทองธานี
นับว่ามีศักยภาพสูงมากอาจจะไม่ได้อยู่ในพื้นที่สีแดงหรือเพื่อการพาณิชยกรรม แต่ก็อยู่ในพื้นที่สีส้ม ประเภท ย-6 ที่ดินที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง มีอัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดิน (FAR) อยู่ที่ 5:1 และอัตราส่วนของที่ว่างต่อพื้นที่อาคารรวม (OSR) อยู่ที่ 7 แม้ว่า FAR อาจจะไม่ได้สูงมาก แต่เพียงเท่านั้นก็สามารถพัฒนาอาคารสูงได้แล้ว เพราะที่ดินขนาดใหญ่มาก และสามารถใช้ระยะร่นจากถนนแจ้งวัฒนะเพื่อออกแบบอาคารให้มีความสูงมากขึ้นได้อีก และในพื้นที่โดยรอบยังมีอาคารสูงมากกว่า 20 – 30 ชั้นอยู่หลายอาคาร
การพัฒนาที่ดินแปลงนี้ซึ่งทางผู้ที่เป็นเจ้าของที่ดินรายใหม่สามาถพัฒนาเป็นโครงการที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่อาคารรวมมากกว่า 10,000 ตารางเมตร หรือเพื่อการพาณิชยกรรมที่มีพื้นที่อาคารมากกว่า 10,000 ตารางเมตรได้ทั้งหมด เพราะไม่ได้ติดข้อกำจัดใดๆ ในการพัฒนา หรือจะพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูสก็ได้ขึ้นอยู่กับทางเจ้าของที่ดิน ซึ่งการซื้อขายเปลี่ยนมือที่ดินยังคงมีให้เห็นต่อเนื่อง แม้ในภาวะที่อาจจะดูเหมือนการขยายตัวทางเศรษฐกิจไม่ได้เป็นไปตามที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ก็ตาม
อีกทั้งการซื้อขายที่ดินในช่วงเวลาแบบนี้อาจจะเป็นผลดีต่อการเจรจาต่อรองมากกว่าการซื้อขายที่ดินในช่วงที่เศรษฐกิจขยายตัวดีกว่า เนื่องจากราคาซื้อขายอาจจะเพิ่มมากกว่าปัจจุบันก็เป็นไปได้ อีกทั้งการซื้อขายที่ดินในช่วงเวลานี้อาจจะเป็นการลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทนระยะยาว และสามารถวางแผนในการพัฒนา
รวมไปถึงการวางแผนในการขายโครงการในระยะยาว โครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่ก็ปิดการขายหรือมีอัตราการขายที่ค่อนข้างสูงแล้ว มียูนิตเหลือขายในพื้นที่ไม่มาก และราคาขายคอนโดมิเนียมในพื้นที่ก็เปิดขายกันที่ไม่ต่ำกว่า 80,0000 บาทต่อตารางเมตรไปแล้ว ยูนิตรีเซลอาจจะมีที่ตั้งราคาขายมากกว่านี้ ดังนั้น การพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่นี้มีความเป็นไปได้ที่จะได้รับการตอบรับที่ดี
สำหรับบริษัท นารายณ์พร็อพเพอตี้ จำกัด เริ่มก่อตั้งในปี2527 ได้รับ ความเชื่อถือมากว่า20ปี ภายใต้การบริหารงานของ”พัชรา นิธิวาสิน”กรรมการผู้จัดการ ผู้นำทีมสร้างสรรค์พัฒนาโครงการที่พักอาศัยที่มีคุณภาพ มีจุดยืนในการพัฒนาโครงการที่พักอาศัย ที่มีมาตรฐานสำหรับกลุ่มลูกค้า ระดับกลางขึ้นไป อีกทั้งบริษัทฯ มีแผนดำเนินธุรกิจการพัฒนา อสังหาริมทรัพย์ เน้นเรื่องคุณภาพของที่อยู่อาศัย และสภาพแวดล้อมที่ดีของโครงการเป็นสำคัญ
กว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมาของการดำเนินธุรกิจ ได้พัฒนาโครงการที่พักอาศัยมาแล้วหลาก หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น บ้านเดี่ยว กรุ๊ปเฮ้าส์ ทาวน์เฮ้าส์ คอนโดมิเนียม อพาร์ตเม้นท์ และ เซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์ บริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 1,200 ล้านบาทในเดือนก.ค.2543
โดยมี โรงแรมนารายณ์ และ บริษัท ฮั่วกี่ เปเปอร์ จำกัด เป็นผู้ถือหุ้นหลัก ในปัจจุบัน บริษัท นารายณ์พร็อพเพอตี้ จำกัด ยังคงมุ่งมั่นพัฒนา โครงการที่พักอาศัย ในทำเลต่างๆ ที่สะดวกต่อการคมนาคม ในสิ่งแวดล้อมที่ดี เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค แต่ละโครงการให้แตกต่างกันออกไป เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง และอำนวยความสะดวกสบาย ในวิถีชีวิตที่ทันสมัย ของคนรุ่นใหม่
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
อื้อหือ ! ราคาที่ดินภูเก็ตพุ่งไร่ละ 25-100 ล้าน โครงการใหม่เปิดขายเพียบ
อสังหาฯ ภูเก็ตทะยานแสนล้าน เปิดขายใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เผยราคาที่ดินพุ่งสูงถึงไร่ละ 25-100 กว่าล้านบาท รัสเซีย อิสราเอล หนีสงคราม เหมาซื้อวิลล่า อยู่เอง รวมไปถึงปล่อยเช่าคนชาติเดียวกัน
นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตตลอดทั้งปี 2566 ได้รับความนิยมอย่างมาก ทำให้ราคาที่ดินสูงถึงไร่ละ 25-100 กว่าล้านบาท มีคอนโดมิเนียมและบ้านตากอากาศเปิดขายใหม่สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ ด้วยมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท
โดยมีคอนโดมิเนียม 36 โครงการ 8,743 หน่วย กว่า 49,559 ล้านบาท จากปกติเปิดปีละ 2,000-3,000 ยูนิต และเป็นผู้พัฒนารายใหญ่จากกรุงเทพฯและในพื้นที่ เช่น บมจ.แสนสิริ บมจ. แอสเซทไวส์ บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ บจ. บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป
ส่วนปี 2567 คาดว่าจะมีเปิดขายอีก 4,500 ยูนิต ขณะที่ในตลาดมีคอนโดมิเนียมอยู่ระหว่างขาย 75 โครงการ 22,253 ยูนิต ขายไปแล้ว 14,484 ยูนิตหรือ 65.08% รอขายอยู่ 7,769 ยูนิต คิดเป็น 34.91% ส่วนใหญ่สนใจพัฒนาโครงการพื้นที่ฝั่งตะวันตกของภูเก็ต เช่น บางเทา เชิงทะเล รอบลากูน่า กมลา ระดับราคา 5-10 ล้านบาท
สำหรับบ้านพักตากอากาศมีเติบโตแบบก้าวกระโดดเช่นกัน มีเปิดขายใหม่ถึง 61โครงการ 1,108 ยูนิต ด้วยมูลค่ากว่า 51,002 ล้านบาท สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ส่วนใหญ่อยู่ฝั่งตะวันตกของเกาะ โดยเฉพาะบางเทา เชิงทะเล และรอบลากูน่า โดยมีผู้พัฒนา เช่น บมจ. ลากูน่า รีสอร์ท แอนด์ โฮเท็ล
รวมถึงผู้พัฒนารายใหญ่จากกรุงเทพฯ เช่น บมจ. แสนสิริ, บมจ. แอสเซทไวส์, บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้, บจ. ฮาบิแทท กรุ๊ป รวมถึง บมจ. ไซมิส แอสเสท และหลายโครงการได้รับความสนใจจากผู้ซื้อเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกำลังซื้อรัสเซียที่ซื้ออยู่เองและเหมาเพื่อลงทุนปล่อยเช่าให้คนรัสเซียด้วยกันเอง รวมถึงเริ่มมีคนอิสราเอลเข้ามาเช่าที่อยู่อาศัยหรือโรงแรมพักระยะยาวมากขึ้นในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังเกิดสงคราม
ขณะที่ปัจจุบันมีโครงการอยู่ระหว่างการขาย 107 โครงการ 2,316 ยูนิต ขายได้แล้ว 1,220 ยูนิต เหลือขาย 1,096 ยูนิต กว่า 98% เป็นบ้านเดี่ยว ราคาต่ำกว่า 30 ล้านบาท รองลงมา 30-50 ล้านบาท และ50-70 ล้านบาท โดยตลาดบ้านพักตากอากาศปี 2566 ที่ผ่านมา ได้ความสนใจจากำลังซื้อต่างชาติมาก จากยุโรป
เช่น เยอรมัน เดนมาร์ก และเอเชีย เช่น จีน ฮ่องกง และ สิงคโปร์ เป็นต้น ทำให้ทุกโครงการมียอดขายต่างชาติเต็มโควต้า 49% ต้องขายแบบเช่าระยะยาว 30+30+30 ปี ขณะที่ผู้พัฒนาโครงการบมจ.ออริจิ้นฯมีส่วนแบ่งตลาดมากสุดในส่วนของตลาดคอนโดมิเนียม ส่วนบ้านตากอากาศเป็นบจ.โบทานิก้า ลักชูรี่ ภูเก็ต
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 12ก.พ. ที่ระดับ 35.90 บาทต่อดอลลาร์
ค่าเงินบาทยังคงโมเมนตัมฝั่งอ่อนค่า จับตาราคาทองคำและฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติในช่วงนี้ กรอบวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.80-36.00 บาท/ดอลลาร์
ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 12ก.พ.2567 ที่ระดับ 35.90 บาทต่อดอลลาร์ “ทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง”จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทยระบุว่า นับตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways ใกล้ระดับ 35.90 บาทต่อดอลลาร์ (แกว่งตัวในกรอบ 35.83-35.97 บาทต่อดอลลาร์) เงินบาทมีจังหวะแข็งค่าขึ้นบ้าง ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ท่ามกลางภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินสหรัฐฯ
อย่างไรก็ดี เงินบาทก็เผชิญแรงกดดันจากการปรับตัวลงของราคาทองคำ (โฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว) หลังบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น จากภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงิน และมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่ยังคงเชื่อว่า เฟดจะไม่รีบลดดอกเบี้ย
สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลง ท่ามกลางมุมมองของตลาดที่เชื่อว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้งในปีนี้ ส่วนเงินดอลลาร์ยังคงได้แรงหนุนจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส
ในสัปดาห์นี้ เรามองว่า ควรจับตา รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI รวมถึง ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ และอังกฤษ และติดตาม ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด อย่างใกล้ชิด
มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก
▪ ฝั่งสหรัฐฯ – ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI และยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนมกราคม โดยหากโมเมนตัมการชะลอตัวของ อัตราเงินเฟ้อ CPI ยังไม่สอดคล้องกับการชะลอตัวเข้าใกล้เป้า 2% ของเฟด ได้ภายในครึ่งแรกของปีนี้ ก็อาจทำให้ ผู้เล่นในตลาดยิ่งมองว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้น้อยกว่าที่กำลังประเมินอยู่
นอกจากนี้ หากยอดค้าปลีกยังคงขยายตัวได้ดี สะท้อนความแข็งแกร่งของการบริโภคภาคเอกชน ก็อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างเชื่อในสมมติฐานเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอลงแบบ “Soft Landing” นอกจากนี้ หากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด ชัดเจน ก็อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดเริ่มเชื่อว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ก็มีแนวโน้มขยายตัวต่อแบบ “No Landing”
โดยทั้งมุมมองของผู้เล่นในตลาด ไม่ว่าจะ Soft Landing หรือ No Landing ก็อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดทยอยเชื่อว่า เฟดจะไม่รีบลดดอกเบี้ย และการลดดอกเบี้ยอาจน้อยกว่าที่ตลาดประเมิน (การลดดอกเบี้ยของเฟด อาจเป็นไปตาม Dot Plot ล่าสุด) และนอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว
ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตา ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ โดยต้องระวังการสื่อสารในลักษณะ Hawkish ในช่วงต้นสัปดาห์ จากบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด อาทิ Michelle Bowman และ Thomas Barkin
▪ ฝั่งยุโรป – บรรดาผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ผ่านรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI รวมถึง ยอดค้าปลีก (Retail Sales) โดยหากผู้เล่นในตลาดมั่นใจว่า BOE อาจลดดอกเบี้ยได้เร็วกว่าเฟด (ก่อนเดือนพฤษภาคม) ก็อาจกดดันให้เงินปอนด์อังกฤษ (GBP) ผันผวนอ่อนค่าลงได้
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสถิติในอดีตตั้งแต่ปี 1997 สะท้อนว่า หากเริ่มมีคณะกรรมการนโยบายการเงิน ลงมติเห็นชอบให้ลดดอกเบี้ย BOE จะเริ่มลดดอกเบี้ยได้จริง ในอีกราว 2 การประชุม หลังจากนั้น ทำให้ ตอนนี้ มีโอกาสที่ BOE จะลดดอกเบี้ยได้จริง ในการประชุมเดือนพฤษภาคม
▪ ฝั่งเอเชีย – ในส่วนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่น ในไตรมาสที่ 4 ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์ประเมินว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นอาจขยายตัวราว +0.3% จากไตรมาสก่อนหน้า หรือ คิดเป็น +1.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี หนุนโดยการขยายตัวของการบริโภค การลงทุน และการส่งออกที่ดีขึ้น โดยการฟื้นตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจญี่ปุ่น ก็อาจเปิดโอกาสให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ทยอยใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นได้
ส่วนในฝั่งฟิลิปปินส์ เราคาดว่า แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางฟิลิปปินส์ (BSP) ได้จบลงแล้ว หลังอัตราเงินเฟ้อได้ชะลอลงต่อเนื่อง เข้าสู่กรอบเป้าหมาย 2%-4% ทั้งนี้ BSP อาจเลือกที่จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 6.50% และอาจทยอยลดดอกเบี้ยลงได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้
▪ ฝั่งไทย – เราคาดว่า แนวโน้มการฟื้นตัวต่อเนื่องของการบริโภค ท่ามกลางความหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจและการทยอยออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล จะช่วยให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence) ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับ 63 จุด ในเดือนมกราคม
สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า โมเมนตัมฝั่งอ่อนค่ายังคงอยู่ โดยต้องจับตาแนวต้านเชิงจิตวิทยา 36.00 บาทต่อดอลลาร์ เพราะการอ่อนค่าทะลุโซนดังกล่าวจะปิดฉากเทรนด์การแข็งค่าตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อนหน้า ทั้งนี้ควรจับตาทิศทางราคาทองคำ รวมถึง ฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ ที่เป็นอีกปัจจัยส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเงินบาทได้พอสมควรในช่วงนี้
ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า เงินดอลลาร์มีโอกาสแข็งค่าขึ้นต่อได้ หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ และถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดทำให้ผู้เล่นในตลาดยิ่งเชื่อว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้น้อยกว่าที่ตลาดประเมินไว้ นอกจากนี้ หากตลาดประเมินว่า BOE อาจลดดอกเบี้ยได้เร็วกว่า เฟด ก็อาจกดดันเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) และหนุนการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ได้
เราคงคำแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรเลือกใช้เครื่องมือในการปิดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น ท่ามกลางความผันผวนของเงินบาท รวมถึงสกุลเงินอื่นๆ ที่สูงขึ้นกว่าช่วงอดีตที่ผ่านมาพอสมควร โดยผู้เล่นในตลาดอาจเลือกใช้เครื่องมือเพิ่มเติม อาทิ Options หรือ Local Currency ควบคู่ไปกับการปิดความเสี่ยงผ่านการทำสัญญา Forward
มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 35.45-36.15 บาท/ดอลลาร์
ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.80-36.00 บาท/ดอลลาร์
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“ฟ้า-เดียร์” ล้มเต็ง 2 ซิวแชมป์แบดมินตันศรีลังกา
“ฟ้า” พิชามญธุ์ พัชรพิสุทธิ์สิน กับ “เดียร์” นันท์นภัส สุขกลัด หญิงคู่ดาวรุ่งไทย งัดฟอร์มเก่ง โค่นเต็ง 3 ของรายการจากอินเดีย ผงาดแชมป์แบดมินตัน ศรีลังกา อินเตอร์เนเชั่นแนล ชาเลนจ์ 2024
การแข่งขันแบดมินตันรายการ หลี่หนิง ศรีลังกา อินเตอร์เนเชั่นแนล ชาเลนจ์ 2024 ทัวร์นาเมนต์ระดับอินเตอร์ชาเลนจ์ ที่เมืองกอลล์ ประเทศศรีลังกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 ก.พ.67 ที่ผ่านมา มีนักแบดมินตันไทยผ่านเข้ามาถึงรอบนี้ 2 คู่
ประเภทหญิงคู่ รอบชิงชนะเลิศ “ฟ้า” พิชามญธุ์ พัชรพิสุทธิ์สิน กับ “เดียร์” นันท์นภัส สุขกลัด คู่มืออันดับ 210 ของโลก พบกับ รุทพรานา แพนด้า กับ สเวทพานา แพนด้า คู่มือวางอันดับ 2 ของรายการ คู่มืออันดับ 53 ของโลกจากอินเดีย
แมตช์นี้ คู่ของ ฟ้า กับ เดียร์ ระเบิดฟอร์มเก่งออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ตบเอาชนะไปได้สนุก 2 เกมรวด 21-12, 21-14 “ฟ้า” พิชามญธุ์ กับ “เดียร์” นันท์นภัส คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ
ส่วนประเภทคู่ผสม “นั่ง” ชาสินี โกรีภาพ กับ “โนแอล” ภูวนัตถ์ หอบรรลือกิจ ก็ทำผลงานได้ดีที่สุดแล้ว แต่ก็พ่ายให้กับ อาชิตห์ เซอร์ย่า กับ อมฤตา ปรามูเตช คู่มือวางอันดับ 3 ของรายการจากอินเดีย 0-2 เกม 15-21 และ 13-21 คว้ารองแชมป์ไปครอง
ขอบคุณข้อมูลจาก siamsport.co.th
วิธีวางพัดลมตั้งพื้นให้ถูกหลัก เปลี่ยนห้องร้อนให้เย็นลงได้แค่ตั้งพัดลมถูกวิธี
อากาศร้อนทุกวันแบบนี้ ใครอยู่บ้านต้องเปิดพัดลม ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยคลายความร้อนและแน่นอนว่าทุกๆ บ้านต้องมีพัดลมตั้งพื้นไว้ใช้ติดบ้านของตัวเองอย่างแน่นอน แต่ทราบหรือไม่ว่าหากต้องการให้พัดลมตั้งพื้นช่วยคลายร้อนได้อย่างแท้จริงแล้ว ต้องทราบว่าในแต่ละช่วงเวลาของวันควรเปิดพัดลมให้หันไปทางใด และควรรู้ตำแหน่งที่ถูกต้องในการตั้งพัดลมเพื่อให้พัดลมช่วยคลายความร้อนได้อย่างแท้จริง
การวางพัดลมตั้งพื้นในเวลากลางวัน
สำหรับช่วงกลางวันเป็นช่วงที่อากาศด้านในบ้าน หรืออาคารร้อนกว่าด้านนอก ดังนั้นเราต้องเริ่มต้นจากการระบายความร้อนออกจากห้องก่อน โดยเปิดหน้าต่าง เปิดประตู แล้วเปิดพัดลมและนำพัดลมไปตั้งไว้ข้างๆ หน้าต่าง หรือประตู โดยให้หันพัดลมออกไปด้านนอกเพื่อให้พัดลมดูดความร้อนจากภายในออกไป โดยใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ก่อนจะนำพัดลมไปตั้งไว้ในตำแหน่งที่แดดส่องไม่ถึง แล้วเปิดพัดลมโดยหันหน้าพัดลมเข้ามาในตัวบ้าน หรือตัวอาคารในลักษณะเปิดพัดลมแบบส่ายอีกประมาณ 10 นาที เพื่อทำให้ผนังห้องเย็น ซึงจะช่วยให้ห้องเย็นลง
การวางพัดลมตั้งพื้นในเวลาเย็น และกลางคืน
ในช่วงเวลาเหล่านี้เป็นเวลาที่อากาศด้านนอกจะเย็นกว่าด้านใน ดังนั้นการจะทำให้ห้องเย็นลงควรเปิดหน้าต่างและประตูห้อง ก่อนจะนำพัดลมไปตั้งไว้ที่บริเวณหน้าต่าง โดยหันหน้าพัดลมออกไปด้านนอกเพื่อช่วยระบาย
ความร้อนภายในห้องออกไป ขณะเดียวกันลมเย็นจากด้านนอกก็จะพัดสวนเข้ามาในห้อง ทำให้ห้องเย็นลง แนะนำว่าระหว่างที่นำพัดลมไปตั้งไว้ตรงหน้าต่างควรม้วนม่าน มูลี่ ฯลฯ เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งเหล่านั้นเข้าไปม้วนในใบพัดของพัดลม
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
บทสนทนาปัญหาในโรงแรม ภาษาอังกฤษ เมื่อแขกคอมเพลน จะตอบอย่างไรดี
การท่องเที่ยว ถือว่าเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ทำรายได้เข้าประเทศอย่างมาก เพราะเมืองไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ หนึ่งในกลไกสำคัญสำหรับงานท่องเที่ยวคือพนักงานโรงแรม ซึ่งเมื่อเรามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงปลายปี 2565 ที่เรากลับมาเปิดการท่องเที่ยวอีกครั้ง และมีแนวโน้มว่าทุกอย่างกำลังจะดีขึ้นเรื่อย ๆ การรู้ บทสนทนาปัญหาในโรงแรม ภาษาอังกฤษ พื้นฐานที่เกี่ยวกับงานโรงแรมเอาไว้จะช่วยสร้างความประทับใจให้ผู้มาเยือนได้มาก หนึ่งในเรื่องสำคัญคือ การเข้าใจและตอบรับได้เมื่อถูกคอมเพลน สำหรับงานโรงแรม สองเรื่องหลักที่มักถูกคอมเพลนคืออาหารและห้องพัก
ตัวอย่างประโยค บทสนทนาปัญหาในโรงแรม ภาษาอังกฤษ ที่อาจได้ยินเมื่อแขกเริ่มเรื่องคอมเพลน
ในการแจ้งปัญหาหรือร้องเรียนรูปแบบที่ค่อนข้างเป็นทางการหรือกึ่งทางการ อาจมีประโยคที่ได้ยินก่อนเข้าสู่เรื่องที่เป็นปัญหา เช่น
I have a complaint to make. …
(ผมมีเรื่องที่จะร้องเรียนครับ …) เช่นพูดต่อไปว่า “แอร์ในห้องปรับอุณหภูมิไม่ได้ครับ”
Sorry to bother you but…
(ขอโทษที่รบกวนคุณนะครับ แต่ว่า …) เช่นพูดต่อว่า “…แต่ว่าผมไม่ได้สั่งอาหารรายการนี้”
อย่างไรก็ตาม การคอมเพลนทั่ว ๆ ไป โดยเฉพาะกับงานโรงแรม ลูกค้าอาจไม่ได้ขึ้นต้นด้วยประโยคลักษณะนี้เสมอไป สิ่งสำคัญจึงเป็นเรื่องที่คอมเพลนมากกว่า ซึ่งวันนี้เรานำมาให้ดูหลายตัวอย่าง ดังต่อไปนี้
ตัวอย่างการคอมเพลนเรื่องห้องพัก
เรื่องที่พบบ่อย เช่น อุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักใช้งานได้ไม่เป็นปกติ หรือบางอย่างก็เสีย ควรต้องรีบเปลี่ยนใหม่ ของบางอย่างในห้องไม่สะอาด ฯลฯ ส่วนใหญ่จะเป็นการโทรมาแจ้งกับพนักงานรับโทรศัพท์ และนี่คือตัวอย่างประโยค
– Sorry to bother you but I reserved a nonsmoking room, not a smoking one.
(ขอโทษที่รบกวนคุณนะครับ แต่ว่าผมจองห้องในโซนที่ห้ามสูบบุหรี่ไว้ ไม่ใช่โซนที่สูบบุหรี่ได้ครับ)
– People in the room next door are too noisy.
(แขกห้องข้าง ๆ ส่งเสียงดังรบกวนมาก)
สำหรับการตอบ ต้องทำสองส่วนคือขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น และบอกว่าเราจะทำอะไรเพื่อแก้ไขปัญหานี้ให้แขกรับทราบ ประโยคในการขอโทษเมื่อรับเรื่องคอมเพลน เช่น
– I’m so sorry for the mistake, Sir.
(ผมต้องขอโทษจริง ๆ สำหรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นครับ)
– We are so sorry for the inconvenience, Madam. We’ll get on it right away.
(พวกเราต้องขอโทษจริง ๆ กับความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น พวกเราจะดำเนินการแก้ไขให้เดี๋ยวนี้ครับ)
ตัวอย่างการคอมเพลนเรื่องห้องพัก
1.
Guest: There seems to be a problem with AC in my room.
(ดูเหมือนแอร์ในห้องผมจะมีปัญหาครับ)
GSO: We are so sorry, Sir. We will send a maintenance worker to check and fix it right away.
(พวกเราต้องขอโทษจริง ๆ ครับ เราจะส่งช่างขึ้นไปตรวจสอบและซ่อมให้เดี๋ยวนี้เลยครับ)
2.
Guest: The light bulb in the bathroom isn’t working.
(หลอดไฟในห้องน้ำไม่สามารถใช้ได้ครับ)
GSO: We are so sorry, Sir. We’ll send someone to replace it in 10 minutes.
(ต้องขอโทษจริง ๆ ครับ เราจะส่งเจ้าหน้าที่ขึ้นไปเปลี่ยนให้ใหม่ภายในสิบนาทีครับ)
ตัวอย่างการคอมเพลนเรื่องอาหาร
เรื่องที่พบได้บ่อยคือ ออเดอร์อาหารไปแล้วรอนานมากแต่ก็ยังไม่ได้สักที หรือได้รับอาหารที่ไม่ได้สั่ง และอาหารบางอย่างมีปัญหา และนี่คือตัวอย่างบทสนทนา
1.
Guest: I ordered my dinner from Room Service over an hour ago, but it hasn’t arrived yet.
(ผมออเดอร์มื้อเย็นจากรูมเซอร์วิสเกินชั่วโมงแล้ว แต่ตอนนี้อาหารยังไม่มาเลย)
Room Service Officer: We are so sorry for the delay, Sir. Just moment please, I will check on it right away.
(เราต้องขอโทษเรื่องความล่าช้าที่เกิดขึ้นด้วยครับ กรุณารอสักครู่นะครับ ผมจะไปเช็กให้เดี๋ยวนี้ครับ) หลังจากไปเช็กสถานะออเดอร์แล้ว รูมเซอร์วิสอาจกลับมาตอบว่า
Room Service Officer: Your order will be ready in 10 minutes. Sorry to have kept your waiting, Sir. We’ll add a complimentary cake to your order.
(ออเดอร์ของคุณจะไปถึงห้องพักภายในสิบนาที ต้องขอโทษที่ทำให้คุณรอนานนะครับ เราจะมอบเค้กเป็นพิเศษให้พร้อมกับออเดอร์ของคุณครับ)
2.
Guest: Excuse me, but my food is cold. Could you warm it up for me?
(ขอโทษนะครับ อาหารจานนี้มันเย็น คุณเอาไปอุ่นให้ผมหน่อยได้ไหม)
Waiter: I’m so sorry about that. Let me take it back for you.
(ต้องขอโทษจริง ๆ ครับ เดี๋ยวผมจัดการนำไปอุ่นให้ครับ)
3 เทคนิคฝึกเพิ่มเติมให้มีความเชี่ยวชาญ บทสนทนาปัญหาในโรงแรม ภาษาอังกฤษ
- ทำความรู้จักชื่อเรียกสิ่งของหรืออาหารที่อยู่ในความรับผิดชอบของเรา เช่น หากทำงานแผนกห้องพัก ก็จำเป็นต้องรู้ว่าอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เรียกเป็นภาษาอังกฤษ ว่าอย่างไร เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้เพื่อน ๆ จับประเด็นได้ว่าแขกกำลังจะคอมเพลนหรือมีคำถามเรื่องอะไร
- ลองสมมติสถานการณ์ตัวอย่างขึ้นมาเมื่อมีเวลาว่าง และลองคิดว่าจะตอบอย่างไร เช่น ใครที่ทำงานแผนกอาหารและเครื่องดื่ม อาจลองสมมติว่า ถ้าแขกพูดกับเราว่า
I’m sorry, but this isn’t what I ordered.
(ขอโทษนะ นี่ไม่ใช่รายการที่ผมสั่งครับ) เมื่อได้ยินแบบนี้ เราจะตอบอย่างไรโดยมีทั้งคำขอโทษและการแก้ไขปัญหาให้แขกรับทราบและเกิดความพึงพอใจในบริการ
- มองหาคอร์สออนไลน์ช่วยพัฒนาภาษาอังกฤษ แม้ว่าการเรียนด้วยตัวเองจะทำได้ แต่การมีคอร์สที่ได้รับการจัดระบบเนื้อหาแล้ว จะช่วยให้เพื่อน ๆ เรียนรู้ได้เร็วขึ้นโดยใช้เวลาน้อยกว่าการเรียนด้วยตัวเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก engduothailand.com
‘OpenAI’ โกยรายได้ทะลุ 7 หมื่นล้านบาทต่อปี คาดกวาดเพิ่มอีก 2 เท่าในปี 68
สื่อเผย “OpenAI” ทำเงินก้อนโตจากธุรกิจ AI หลังโกยรายได้ทะลุ 70,000 ล้านบาทต่อปีในปีที่แล้ว พร้อมคาดว่าจะกวาดเพิ่มอีก 2 เท่าในปี 2568 สะท้อนถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของสตาร์ตอัปรายนี้
สำนักข่าวไฟแนนเชียล ไทม์ส รายงานอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดในวันนี้ (9 ก.พ.) ว่า บริษัทโอเพนเอไอ (OpenAI) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก “ไมโครซอฟท์” (Microsoft) บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ทำรายได้แบบปรับค่าให้เป็นรายปีแล้ว (annualized revenue) แตะที่ระดับ 2,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 71,815 ล้านบาท) ในเดือน ธ.ค. 2566
นอกจากนั้น บริษัทโอเพนเอไอคาดว่า สามารถเพิ่มตัวเลขรายได้ดังกล่าวให้เป็น 2 เท่าในปี 2568 เนื่องจากกลุ่มลูกค้าองค์กรต้องการนำเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ของบริษัทฯ มาใช้ในที่ทำงาน
ก่อนหน้านี้ เว็บไซต์ดิ อินฟอร์เมชัน รายงานว่ารายได้ของบริษัทฯ ที่ปรับค่าให้เป็นรายปีสูงถึง 1,600 ล้านดอลลาร์ในเดือน ธ.ค. โดยการเติบโตส่วนใหญ่มาจากผลิตภัณฑ์ ChatGPT ซึ่งทำรายได้เพิ่มขึ้นจากระดับ 1,300 ล้านดอลลาร์ในช่วงกลางเดือน ต.ค.
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บรรดานักลงทุนได้ประเมินมูลค่าของสตาร์ตอัปแห่งนี้ซึ่งตั้งอยู่ในนครซานฟรานซิสโกไว้ที่กว่า 80,000 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล (WSJ) รายงานเมื่อวานนี้ (8 ก.พ.) ว่า นายแซม อัลต์แมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของโอเพนเอไอ กำลังเจรจากับนักลงทุนรายต่าง ๆ รวมถึงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เพื่อระดมทุนสำหรับโครงการด้านเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างชิประดับโลก ตลอดจนขยายความสามารถในการขับเคลื่อนเอไอ
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
ความแตกต่างของ “เปปเปอร์มินต์” และ “สเปียร์มินต์” และการนำมาใช้ประโยชน์ของคนญี่ปุ่น
หลายคนคงรู้จักมินต์หรือเมนทอลจากยาดม ผลิตภัณฑ์กำจัดกลิ่นในบ้านและห้องน้ำ และยาสีฟัน เป็นต้น ซึ่งมีส่วนผสมของสารสกัดจากมินต์ แม้ว่าจะมีมินต์หลากหลายสายพันธุ์ แต่ในญี่ปุ่นมีมินต์ 2 สายพันธุ์หลักๆ ได้แก่ เปปเปอร์มินต์และสเปียร์มินต์ ซึ่งมีลักษณะและการนำมาใช้ประโยชน์แตกต่างกัน มารู้จักมินต์ทั้ง 2 ชนิดและการนำมาใช้ประโยชน์ของคนญี่ปุ่นกันนะคะ
1.เปปเปอร์มินต์ (Japanese peppermint)
เปปเปอร์มินต์มีใบที่มีขอบใบเป็นฟันคล้ายเลื่อย เส้นใบเรียงตัวกันชัดเจนเหมือนใบไม้ทั่วไป ใบมีกลิ่นหอมเมนทอลแรงมาก
ประโยชน์เปปเปอร์มินต์
เปปเปอร์มินต์มีส่วนประกอบของเมนทอลสูงถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีประโยชน์มากมายดังนี้คือ ช่วยสร้างความสดชื่นให้แก่ร่างกาย โดยมีการนำมินต์ชนิดนี้มาเป็นส่วนผสมของลูกอมและหมากฝรั่ง ช่วยเสริมการไหลเวียนที่ดีของเลือด ช่วยในระบบการย่อยอาหาร ช่วยลดอาการคออักเสบ ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายและคลายเครียด ป้องกันยุงและแมลงจากการใช้เป็นส่วนผสมของน้ำมันสกัดจากมินต์ น้ำ และเอทานอล ใช้ในการขจัดสิวเนื่องจากมินต์มีสารต้านการเจริญของแบคทีเรียที่เจริญบนผิวหน้าและผิวหนัง นอกจากนี้มินต์ยังประกอบไปด้วยโพลีฟีนอลที่ช่วยกดการบวมของเยื่อเมือกบุผิวซึ่งเกิดจากการแพ้ และช่วยป้องกันและรักษาอาการภูมิแพ้จากละอองเกสรได้ เป็นต้น
2. สเปียร์มินต์ (Spearmint)
สเปียร์มินต์เป็นมินท์ที่คนญี่ปุ่นใช้มาตั้งแต่สมัยโบราณ ใบของมินต์ชนิดนี้จะคล้ายกับปลายหอกตามชื่อ ขอบใบมีลักษณะคล้ายฟันเลื่อย เส้นใบเป็นร่างแห และมีกลิ่นหอมน้อยกว่าเปปเปอร์มินต์
ประโยชน์ของสเปียร์มินต์
กลิ่นหอมของสเปียร์มินต์นั้นมีส่วนผสมของคาร์โวน (Carvone) 60 เปอร์เซ็นต์ ลิโมนีน (Limonene) 10 เปอร์เซ็นต์ และเมนทอลเพียง 0.5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทำให้สเปียร์มินต์มีกลิ่นหอมละมุนมากกว่าเปปเปอร์มินต์ โดยทั่วไปคนญี่ปุ่นนำมินต์ชนิดนี้มาเป็นส่วนผสมของขนมหลากหลายชนิด ไอศกรีม สาเก หมากฝรั่งและยาสีฟัน เป็นต้น มินต์ชนิดนีมีสรรพคุณในการช่วยย่อยอาหาร ช่วยลดอาการปวดท้องจากแก๊สในระบบทางเดินอาหาร บรรเทาความเหนื่อยล้า วิงเวียนปวดศีรษะและคลื่นไส้ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ช่วยป้องกันไม่ให้ปากเหม็น และช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ เป็นต้น
วิธีการนำมินต์มารับประทาน
ชามินต์
วิธีทำชาจากมินต์ทำได้ง่ายๆ โดยการนำใบมินต์มาต้มในน้ำร้อน ชาร้อนๆ จะช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่นและทำให้ใจสงบ อีกทั้งยังช่วยให้ระบบการไหลเวียนเลือดดี
ใส่น้ำดื่ม
เพียงแช่มินต์ในน้ำดื่ม สารโพลีฟีนอลในมินต์จะละลายออกมาในน้ำ วิธีการดื่มแบบนี้จะช่วยป้องกันอาการภูมิแพ้จากละอองเกสรได้ดี
รับประทานสดกับสลัดหรือขนมหวานต่างๆ
นอกจากการนำมารับประทานแล้ว ก็ยังมีการนำน้ำมันหอมระเหยจากมินต์มาใช้ทาหรือผสมน้ำอาบเพื่อบรรเทาความเหนื่อยล้าและสร้างความสดชื่นให้แก่ร่างกายด้วย
ได้รู้จักเปปเปอร์มินต์และสเปียร์มินต์แล้ว ต่อไปเวลาไปหาซื้อมินต์หรือน้ำมันหอมระเหยจากมินต์จะได้ซื้อมาตรงประโยชน์ที่ต้องการใช้นะคะ หลายคนอาจจะสงสัยว่าสะระแหน่ที่ปลูกได้มากที่บ้านเราคือมินต์ชนิดไหน คำตอบคือ เป็นพืชในตระกูลที่คล้ายกับสเปียร์มินต์ค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 12/02/2567
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 34,300.00 | 34,400.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 2,222.00 | 33,685.52 | 34,900.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,999.80 | 30,316.97 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,777.60 | 26,948.42 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 1,000.00 | 15,160.00 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 778.00 | 11,794.48 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,303.00 | 34,913.48 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 12/02/2567
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 37.55 | 37.55 | 37.85 | 37.55 | 37.55 | 37.55 | 37.55 | 37.55 | 37.55 | 37.55 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 35.78 | 35.78 | 36.28 | 35.78 | 35.78 | 35.78 | 35.78 | 35.78 | 35.78 | 35.78 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 35.44 | 35.44 | 35.94 | 35.44 | 35.44 | – | 35.44 | 35.44 | 35.44 | 35.44 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 35.59 | 35.59 | – | – | – | – | – | – | – | 35.59 |
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม | 44.94 | 49.54 | 49.54 | 49.54 | – | – | – | – | – | 44.94 |
เบนซิน 95 | 45.44 | – | – | – | 46.61 | – | 45.94 | 45.59 | – | 45.44 |
ดีเซล B7 | 29.94 | 29.94 | 30.24 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 |
ดีเซล | 29.94 | 29.94 | – | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 |
ดีเซล B20 | 29.94 | 29.94 | – | – | 29.94 | – | – | – | – | 29.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 41.54 | 43.64 | 44.84 | 43.64 | 43.64 | – | – | – | – | 41.54 |
แก๊ส NGV | 19.59 | 19.59 | – | – | – | – | – | – | – | 19.59 |