ttb สานฝันคู่รัก LGBTQ+ กู้ซื้อบ้าน – รีไฟแนนซ์ร่วมกันได้ ผ่อนนานสูงสุด 35 ปี
ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ttb สานฝันคู่รัก LGBTQ+ ที่ต้องการสร้างครอบครัวด้วยการมีบ้านเป็นของตัวเอง ด้วยสินเชื่อบ้าน ทีทีบี สามารถกู้ซื้อบ้าน หรือรีไฟแนนซ์บ้านร่วมกันได้ ผ่อนนานสูงสุด 35 ปี
ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ttb สานฝันคู่รัก LGBTQ+ ที่ต้องการสร้างครอบครัวด้วยการมีบ้านเป็นของตัวเอง ด้วยสินเชื่อบ้าน ทีทีบี สามารถกู้ซื้อบ้าน หรือรีไฟแนนซ์บ้านร่วมกันได้ กับโปรโมชันสุดพิเศษในเดือน Pride month สำหรับลูกค้าใหม่กลุ่ม LGBTQ+ ตามเกณฑ์คุณสมบัติที่ธนาคารกำหนด
เมื่อสมัครสินเชื่อ บ้านใหม่ บ้านมือสอง หรือสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ และสินเชื่อได้รับการอนุมัติ พร้อมมีการใช้วงเงินตามที่กำหนด โดยลูกค้าที่สมัครและจดจำนองตั้งแต่ 1 มิ.ย. 67 – 31 ก.ค. 67 จะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม ดังนี้
- ใช้วงเงินสินเชื่อตั้งแต่ 3,000,000 – 4,999,999 บาท รับบัตรกำนัลเซ็นทรัล มูลค่า 5,000 บาท
- ใช้วงเงินสินเชื่อตั้งแต่ 5,000,000 บาท เป็นต้นไป รับบัตรกำนัลเซ็นทรัล มูลค่า 10,000 บาท
นอกจากนี้ ทีทีบี ยังมีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อบ้านให้คำปรึกษาพร้อมช่วยประสานงานเรื่องบ้านในทุกขั้นตอน ให้มีความรวดเร็ว สะดวกสบาย และมั่นใจได้ โดยสินเชื่อบ้าน ทีทีบี ให้บริการครอบคลุมทั้งสินเชื่อบ้านใหม่ บ้านมือสอง และบ้านรีไฟแนนซ์ ตอบโจทย์ ตรงใจ ให้วงเงินอนุมัติสูงสุด 100% หรือ 50 ล้านบาทของราคาประเมิน สามารถเลือกผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 35 ปี
พร้อมช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายกับข้อเสนอสุดพิเศษ ฟรี!ค่าจดจำนอง ค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ และค่าเบี้ยประกันอัคคีภัยตลอดอายุสัญญา และยังมีสินเชื่อบ้านแลกเงิน ที่ครอบลุมทุกความจำเป็นของการใช้เงินก้อน ทั้งสินเชื่อบ้านแลกเงิน สำหรับใช้จ่ายแบบอเนกประสงค์ สินเชื่อบ้านแลกเงิน เคลียร์หนี้ สำหรับผู้ที่ต้องการพิชิตหนี้ ด้วยการรวบหนี้ ปิดหนี้ประเภทต่าง ๆ ที่มีอยู่หลายแห่งมาจบในที่เดียว รวมถึงบัตรกดเงินสด ทีทีบี บ้านแลกเงิน ที่ตอบโจทย์ผู้ต้องการมีวงเงินสำรองไว้ใช้ฉุกเฉินในอนาคต
หมายเหตุ
สินเชื่อบ้านใหม่-บ้านมือสอง อัตราดอกเบี้ยพิเศษคงที่ 3 ปีแรก 3.30% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 4.89% – 6.73% ต่อปี / สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ อัตราดอกเบี้ยพิเศษ คงที่ปีแรก 2.79%ต่อปี อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 4.93% – 5.36% ต่อปี โดยอัตราดอกเบี้ย MRR ปัจจุบันอยู่ที่ 7.83%ต่อปี ณ วันที่ 3 ต.ค. 66 ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามประกาศของธนาคาร เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
ลดครึ่งราคา! บ้าน-คอนโด กลางกรุงเทพ ‘ประมูลบ้านมือสอง’ 5,000 รายการ ทำเลดี
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัดงานประมูลขายบ้านมือสอง ลดครึ่งราคา! “บ้านมือสองกลางกรุงเทพ” บ้านเด่น ทำเลดี กว่า 5,000 รายการ ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ห้องชุด (คอนโดมิเนียม) อาคารพาณิชย์ และที่ดินเปล่า ลดราคาสูงสุดถึง 50% วันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน 2567 เวลา 10.00 – 16.00 น.
ลดครึ่งราคา! “บ้าน-คอนโดมือสองกลางกรุงเทพ” ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เพิ่มทางเลือกให้คนอยากมีบ้าน จัดงานประมูลขายบ้านมือสอง ธอส. ประจำปี ครั้งที่ 2/2567 ในวันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน 2567 เวลา 10.00 – 16.00 น. โดยคัด บ้านมือสอง คุณภาพดี ทำเลเด่นทั่วประเทศ จำนวนมากกว่า 5,000 รายการ ทั้งประเภทบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ห้องชุด (คอนโดมิเนียม) อาคารพาณิชย์ และที่ดินเปล่า มาเปิดประมูลในราคาพิเศษ ด้วยส่วนลดสูงสุดถึง 50% จากราคาประเมิน แบ่งเป็นทรัพย์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวนกว่า 1,000 รายการ
ประมูลขายบ้านมือสองกลางกรุงเทพ ทรัพย์เด่นราคาดี
ขณะที่ ทรัพย์เด่นราคาดีที่น่าสนใจ ได้แก่ ทรัพย์ประเภท บ้านเดี่ยว 2 ชั้น โครงการลัดดารมย์-ปิ่นเกล้า ขนาดเนื้อที่ 153.80 ตร.ว. ในอำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ราคาเริ่มต้นประมูลอยู่ที่ 7,230,000 บาท ซึ่งเป็นทรัพย์ที่น่าลงทุนเหมาะสำหรับเปิดกิจการหรือออฟฟิศ
ส่วนทรัพย์ในส่วนภูมิภาคนำออกประมูลมากกว่า 5,000 รายการ ขณะที่ทรัพย์เด่นที่น่าสนใจ ได้แก่ ทรัพย์ประเภทบ้านเดี่ยว 1 ชั้น ขนาดเนื้อที่ 146 ตร.ว. ในอำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร ราคาเริ่มต้นประมูลอยู่ที่ 2,560,000 บาท ซึ่งเป็นทรัพย์ที่เหมาะสำหรับอยู่อาศัย เดินทางสะดวก ใกล้ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ฯลฯ
เงื่อนไขการประมูลบ้านมือสอง
- โดยผู้ชนะการประมูลต้องวางเงินประกันการซื้อทรัพย์ 10,000 บาททุกรายการ ยกเว้นทรัพย์ที่มีราคาประมูลตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป วางเงินประกันซื้อทรัพย์ 100,000 บาท
ประมูลบ้านมือสองได้ที่ไหน
ผู้ที่สนใจประมูลทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล สามารถร่วมประมูลได้ที่โถงนิติกรรม ฝ่ายพิธีการสินเชื่อ อาคาร 2 ชั้น 1 ธอส. สำนักงานใหญ่ ในวันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน 2567 เวลา 10.00 – 16.00 น.
ส่วนทรัพย์ในส่วนภูมิภาค จัดประมูล ณ สาขาที่ตั้งทรัพย์ โดยสามารถทำสัญญาจะซื้อจะขายตั้งแต่วันที่ 17 – 28 มิถุนายน 2567 ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานประมูลได้ตั้งแต่เวลา 08.00 น. และเริ่มประมูลตั้งแต่เวลา 10.00 น.
ดูข้อมูลบ้านมือสอง ธอส. ได้ที่ www.ghbhomecenter.com และ Mobile Application : GHB ALL HOME
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
G H Bank Call Center โทร. 0-2645-9000 กด 5
Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้12มิ.ย. “แข็งค่าเล็กน้อย” ที่ระดับ 36.72 บาท/ดอลลาร์
ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแกว่งตัว sideways ตามการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ ปัจจัยเสี่ยงการเมืองในประเทศ-ผลประชุมกนง.วันนี้
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้12มิ.ย. 2567 ที่ระดับ 36.72 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.75 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแกว่งตัว sideways แถวระดับ 36.60-36.80 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงก่อนตลาดทยอยรับรู้ปัจจัยสำคัญในวันนี้
อย่างไรก็ดี ควรระวังความผันผวนของเงินบาทในช่วงตลาดทยอยรับรู้ ปัจจัยเสี่ยงการเมืองในประเทศ ที่อาจส่งผลกระทบต่อมุมมองของบรรดานักลงทุนต่างชาติต่อการลงทุนในสินทรัพย์ไทยได้ และในช่วงที่ตลาดทยอยรับรู้ผลการประชุม กนง.
โดยหาก กนง. มีการส่งสัญญาณพร้อมลดดอกเบี้ย หรือ “เซอร์ไพรส์” ตลาดด้วยการลดดอกเบี้ยลง (เรามองว่าโอกาสเกิดน้อยมาก) ก็อาจกดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงได้ไม่ยาก
และหลังจากตลาดทยอยรับรู้ปัจจัยในประเทศดังกล่าว เรามองว่า ค่าเงินบาทก็อาจเริ่มแกว่งตัว sideways อีกครั้ง ก่อนจะผันผวนสูงขึ้นในช่วงตลาดทยอยรับรู้อัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ และผลการประชุมเฟด
โดยหากรายงานข้อมูลดังกล่าว และ Dot Plot ล่าสุดของเฟด ทำให้ตลาดมั่นใจได้ว่า เฟดจะสามารถลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้งในปีนี้ เรามองว่า เงินบาทก็มีแนวโน้มทยอยแข็งค่าขึ้นและอาจทดสอบโซนแนวรับ 36.50-36.60 บาทต่อดอลลาร์ ได้ ตามการอ่อนค่าลงบ้างของเงินดอลลาร์ ที่อาจมาพร้อมกับการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำเช่นกัน (ลุ้นว่า ราคาทองคำจะสามารถปรับตัวขึ้นทดสอบโซนแนวต้าน 2,380-2,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้หรือไม่)
เราคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทยังมีโอกาสเคลื่อนไหวผันผวนไปตาม การเปลี่ยนแปลงไปมาของปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อทิศทางค่าเงินบาท อย่าง มุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ทำให้ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.60-36.80 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงก่อนตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลสำคัญฝั่งสหรัฐฯ และผลการประชุม FOMC ของเฟด
และประเมินกรอบเงินบาท 36.50-37.00 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ไปจนถึงผลการประชุม FOMC ของเฟด
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ผ่านมา ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ sideways (แกว่งตัวในช่วง 36.68-36.78 บาทต่อดอลลาร์) สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวที่ไร้ทิศทางชัดเจนของเงินดอลลาร์ รวมถึงราคาทองคำ เนื่องจากผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่ต่างก็รอลุ้นปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะ อัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ และผลการประชุมเฟด (ไฮไลท์สำคัญ คือ Dot Plot ใหม่)
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในภาพรวมอาจยังไม่ได้กลับมาอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยงชัดเจน เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างก็รอลุ้นผลการประชุมเฟด อย่างไรก็ดี การปรับตัวขึ้นของบรรดาหุ้นเทคฯ ใหญ่ นำโดย Apple +7.3% (ที่ได้แรงหนุนจากความหวังว่าการนำ AI มาใช้ในอุปกรณ์ของ Apple จะช่วยกระตุ้นยอดขายอุปกรณ์รุ่นใหม่ล่าสุดได้) ส่งผลให้โดยรวมดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ปรับตัวขึ้น +0.88% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดตลาด +0.27%
ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง -0.93% ท่ามกลางแรงขายหุ้นฝรั่งเศสที่ยังคงดำเนินต่อไป (ดัชนี CAC-40 ฝรั่งเศสปรับตัวลงกว่า -1.33%) จากความกังวลว่า พรรค RN (National Rally) ที่เป็นพรรคขวาจัดของฝรั่งเศส มีโอกาสที่จะได้รับเสียงข้างมากในสภาจากการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ ทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนเริ่มกังวลต่อแนวโน้มการเกิด Frexit อีกครั้ง
ในส่วนตลาดบอนด์ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังคงแกว่งตัวแถวระดับ 4.40% หลังผู้เล่นในตลาดต่างก็รอลุ้นรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ และผลการประชุมเฟด ทั้งนี้ เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในบอนด์ระยะยาว เนื่องจากแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของบรรดาธนาคารกลางหลักได้ทยอยเข้าสู่ช่วงขาลงแล้ว
(แม้ว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยได้ช้ากว่าที่เราประเมินไว้ ในการประชุม 31 กรกฎาคม – 1 สิงหาคมก็ตาม) ทำให้ ในทุกๆ จังหวะการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ จะเป็นโอกาสในการทยอยเข้าซื้อบอนด์ระยะยาวที่น่าสนใจ (หากบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นเกินระดับ 4.50% ก็สามารถพิจารณาเป็นจุดเข้าซื้อที่น่าสนใจได้เช่นกัน)
ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์เคลื่อนไหวในกรอบ sideways เนื่องจากผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่ต่างก็รอลุ้นทั้งอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ และผลการประชุมเฟด นอกจากนี้ เรายังคงเห็นแรงขายทำกำไรสถานะ Long USD (มองเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น) ของผู้เล่นในตลาดบางส่วน ก่อนที่จะรับรู้ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้ดังกล่าว ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ยังคงแกว่งตัวใกล้ระดับ 105.3 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 105.2-105.5 จุด)
ในส่วนของราคาทองคำ การเคลื่อนไหวของราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค.) ยังคงไร้ทิศทางที่ชัดเจน หลังผู้เล่นในตลาดต่างก็รอรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม ขณะเดียวกัน ผู้เล่นในตลาดบางส่วนก็อาศัยจังหวะการรีบาวด์ขึ้นของราคาทองคำในการทยอยขายทำกำไร ทำให้โดยรวมราคาทองคำยังคงแกว่งตัวแถวโซน 2,332 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับวันนี้ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ ในเดือนพฤษภาคม (ทยอยรับรู้ในช่วง 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย) ซึ่งผู้เล่นในตลาดต่างคาดหวังว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ จะมีแนวโน้มชะลอลงมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของโมเมนตัมรายเดือน (%m/m)
นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นผลการประชุม FOMC ของเฟด (ทยอยรับรู้ในช่วง 1.00 น. ของเช้าวันพฤหัสฯ ตามเวลาประเทศไทย) ซึ่งเราคาดว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 5.25-5.50% ทว่า มีโอกาสที่ คาดการณ์อัตราดอกเบี้ย หรือ Dot Plot ใหม่ จะสะท้อนว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้งในปีนี้ และ 3-4 ครั้งในปี 2025 รวมถึง ปี 2026 ส่วนอัตราดอกเบี้ยในระยะยาว (Longer run) ก็อาจขยับสูงขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 2.75% ได้
ส่วนในฝั่งไทย ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่จะทยอยรับรู้ในช่วง 14.00 น. โดยเรามองว่า กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 2.50% ด้วยมติไม่เป็นเอกฉันท์ 5-2 ทว่าผู้เล่นในตลาดจะให้ความสนใจต่อมุมมองของ กนง. ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ (จะมีการปรับเปลี่ยนคาดการณ์เศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่) และการส่งสัญญาณต่อแนวโน้มนโยบายการเงิน
และนอกเหนือจากปัจจัยดังกล่าว ประเด็นการเมืองในประเทศไทย อย่าง การพิจารณาคดียุบพรรคก้าวไกล ก็จะเป็นอีกปัจจัยที่ผู้เล่นในตลาดต่างจับตามองเช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ไทย VS ตุรกี : วอลเลย์บอลหญิง เนชั่นส์ลีก 2024, เทียบสถิติ, ถ่ายทอดสด
การแข่งขัน วอลเลย์บอลหญิง เนชั่นส์ลีก 2024 (VNL 2024) สัปดาห์ที่สาม ที่เขตบริหารพิเศษฮ่องกง จะรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 11-16 มิถุนายน 2567
โดยสนามนี้ “ทัพนักตบสาวทีมชาติไทย” ทีมอันดับ 13 ของโลก จะประเดิมลงสนามนัดแรกพบกับ ตุรกี ทีมอันดับ 1 ของโลก ที่ฟอร์มร้อนแรงรั้งอันดับ 5 ของตาราง เนชั่นส์ลีก 2024
ซึ่งจากสถิติที่พบกันมา “ทัพนักตบสาวตุรกี” ทำได้เหนือกว่ามากเก็บชัยได้ในรายการเนชั่นส์ ลีก 4 ครั้งหลังสุด ขณะที่ทางฝั่ง “สาวไทย” สามารถเอาชนะได้เพียงครั้งเดียว 3-2 เซต ในการแข่งขันรายการ ชิงแชมป์โลก เมื่อปี 2022
เฮดทูเฮด 5 ครั้งหลังสุด : ไทย ชนะ 1, ตุรกี ชนะ 4
- 29 มิถุนายน 2023 : ไทย แพ้ ตุรกี 1-3 เซต (เนชั่นส์ ลีก)
- 24 กันยายน 2022 : ไทย ชนะ ตุรกี 3-2 (ชิงแชมป์โลก)
- 14 กรกฎาคม 2022 : ไทย แพ้ ตุรกี 1-3 เซต (เนชั่นส์ ลีก)
- 6 มิถุนายน 2021 : ไทย แพ้ ตุรกี 1-3 เซต (เนชั่นส์ ลีก)
- 6 มิถุนายน 2019 : ไทย แพ้ ตุรกี 1-3 เซต (เนชั่นส์ ลีก)
สำหรับ วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย มีโปรแกรมลงสนามพบกับ ตุรกี ในวันพุธที่ 12 มิถุนายน นี้ เวลา 16.00 น. แฟนๆ สามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ทาง ช่อง 7HD, ช่องทางออนไลน์ BUGABOO.TV และ Ch7HD ทั้งเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
7 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำก่อนนอน ทำสุขภาพพัง แถมน้ำหนักพุ่งไม่รู้ตัว
การนอนเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญของผู้หญิง ที่นอกเหนือจะทำให้ผิวพรรณสวยสดใสแล้ว ยังเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ น้ำหนักลดลงได้! พร้อมทำให้สุขภาพดีแบบยั่งยืนอีกด้วย ซึ่งต้องยอมรับว่าในปัจจุบัน การทำงานและการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ พาให้นอนดึกได้มากไปจนถึงมากที่สุด แต่ถ้าคุณสาว ๆ ต้องการให้ลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ และไม่เสียสุขภาพมากจนเกินไป เลี่ยง 7 นิสัยที่ไม่ควรทำเด็ดขาดก่อนนอนต่อไปนี้ ถ้าอยากลดน้ำหนักแบบสุขภาพดีได้จริง แนะนำทำตามเลยจ้า
1.อัดเครื่องดื่มแอลกฮอล์มาแบบเต็ม ๆ
ก่อนเวลานอนหลับประมาณ 3-4 ชั่วโมง ควรหลีกเลี่ยงการอัดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท แม้แต่ไวน์ที่มีโฆษณาชวนเชื่อว่าทำให้หลับง่ายก็ไม่ควรเช่นกัน เพราะแอลกอฮอล์จะเข้าไปส่งผลการรบกวนต่อการนอนหลับ หรือต่อให้หลับไปแล้วจะเป็นการหลับแบบไม่มีคุณภาพ นอกจากนี้ ภายในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังมีน้ำตาลสูง จึงทำให้ไปรบกวนการนอนหลับอย่างมาก ทำให้สุขภาพไม่ดี ทั้งยังทำให้น้ำตาลในเลือดสูงได้อีกด้วย
2.ออกกำลังกายก่อนนอน
แม้ว่าการออกกำลังกายจะเป็นเรื่องที่ดีและควรทำเป็นประจำ แต่ไม่ควรทำก่อนนอนเด็ดขาด เพราะช่วงของการออกกำลังกายจะเป็นการกระตุ้น Adrenaline ที่สมอง ทำให้เกิดการตื่นตัว จึงทำให้นาฬิกาชีวิตของคุณพังได้ง่าย ๆ ถ้าต้องการออกกำลังกายให้ได้ผลดี และทำให้นอนหลับง่าย ควรออกช่วงเวลาเช้าหรือช่วงเย็น ก่อนเวลาเข้านอน 4-6 ชั่วโมง เพื่อทำให้วงจรการนอนหลับเป็นปกติ และเป็นการใช้พลังงานอย่างเหมาะสม
3.ใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือมือถือก่อนนอน
สำหรับสาว ๆ ที่ชอบส่องโซเชียล ดูซีรีย์ หรือทำงานบนคอมพิวเตอร์และแล็ปท็อปก่อนนอน แนะนำเลยว่าไม่ควรทำเด็ดขาด เพราะ แสงสีฟ้าบนหน้าจอจะรบกวนวงจรการนอนของคุณ แต่ถ้าจำเป็นหรือรู้สึกอยากผ่อนคลายจากซีรีย์เรื่องโปรด แนะนำให้ลดความสว่างของจอลงให้มากที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้ฮอร์โมนเมลาโทนินหยุดการทำงาน ทางที่ดีควรทำทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหน้าจอมือถือสมาร์ทโฟน ทีวี หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ อย่างน้อยประมาณ 1-2 ชั่วโมงก่อนเข้านอนจะดีที่สุด
4.อิ่มแล้วนอนทันที
เชื่อว่าสาว ๆ หลายคนต้องเคยเผชิญปัญหานี้แน่นอน พอปิดไฟเข้านอนปุ๊บ! รู้สึกหิวทันที แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณหลงกลไปรับประทานอาหารมื้อดึกแล้วนอนหลับ หรือแม้แต่การรับประทานขนมสแน็คต่าง ๆ แล้วนอนทันที รู้ไว้เลยว่านอกจากจะทำให้อ้วนขึ้นได้อย่างรวดเร็วแล้ว ยังทำให้สุขภาพพังและเกิดอาการนอนไม่หลับ เพราะ ร่างกายที่ไม่สามารถเผาผลาญแคลอรี่จากอาหาร จะทำให้คุณเกิดอาการอึดอัดและอาจเกิดกรดไหลย้อน ที่ทำให้การนอนหลับแย่ลง
5.นอนน้อย นอนไม่ถึง 6 ชั่วโมง
การนอนหลับควรอยู่ที่ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน โดยเฉพาะในวัยทำงาน จำเป็นอย่างมากที่จะต้องใช้การนอนหลับอย่างเพียงพอ เพื่อการซ่อมแซมร่างกาย แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณนอนน้อยต่ำกว่า 6 ชั่วโมง ฮอร์โมนแลปตินและเกรลินที่อยู่ภายในร่างกาย จะเริ่มทำงานแบบอัตโนมัติ จึงส่งผลให้คุณทานอาหารเพิ่มมากขึ้น และไม่ว่าคุณจะชื่นชอบอะไร จะไม่สามารถบังคับตัวเองให้หยุดทานสิ่งนั้นได้ จึงทำให้น้ำหนักขึ้นและส่งผลต่อโรคอ้วนในอนาคตได้ง่ายมาก
6.กินอาหารเผ็ด หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
ไม่ว่าจะอาหารรสชาติเผ็ดดุเดือด หรือเครื่องดื่มมีคาเฟอีน ควรหลีกเลี่ยงทั้งหมด ไม่ควรรับประทานหรือดื่มก่อนเข้านอน ประมาณ 1-2 ชั่วโมงอย่างเด็ดขาด เพราะจะส่งผลให้เกิดอาการนอนไม่หลับ ดังที่รู้กันดีว่าคาเฟอีนจะเป็นตัวกระตุ้นให้สมองทำงาน และทำให้ร่างกายต้องทำงานต่อเนื่อง จึงส่งผลให้นอนไม่หลับ ส่วนอาหารรสชาติเผ็ดจะเข้าไปกระตุ้นระบบเผาผลาญ จึงทำให้ร่างกายต้องกลับมาทำงานใหม่อีกครั้ง และกลายเป็นการรบกวนการนอนไปโดยปริยาย
7.กินอาหารมื้อดึก
ดังที่รู้กันอยู่แล้วว่าถ้ากินอาหารก่อนนอน จะทำให้ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญพลังงานส่วนเกินได้ดีพอ โดยเฉพาะกับคนที่กินอาหารจำนวนมาก ก่อนเข้านอนร่างกายของคุณจะต้องรับภาระต่อแครี่ส่วนเกินจำนวนมาก ซึ่งเสี่ยงต่อการทำน้ำหนักขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญคือร่างกายจะต้องใช้พลังงานในการย่อยอาหารค่อนข้างมาก จนกลายเป็นต้องทำงานหนักอย่างต่อเนื่องหลายชั่วโมง จึงไปรบกวนการนอน ที่สำคัญคืออาการหิวแล้วกินอาหารมื้อใหญ่จำนวนมากนี้ จะเกิดขึ้นในคืนต่อไปแน่นอน
การนอนหลับเป็นส่วนสำคัญของชีวิต โดยเฉพาะสาว ๆ จะรู้กันดีว่าถ้าวันไหนนอนไม่หลับ ตื่นมาด้วยการอ่อนเพลีย วันนั้นหน้าจะโทรมทันที และอาจจะเสี่ยงต่อน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นไปด้วย ที่สำคัญคือความรู้สึกมึนงงที่เกิดจากการนอนไม่เพียงพอ จะเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่ทำให้การทานอาหารเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ แล้วพาให้ร่างกายทรุดโทรมลงอีกด้วยนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
เปิดตัว visionOS 2 มอบประสบการณ์การประมวลผลเชิงมิติพื้นที่แบบใหม่ให้กับ Apple Vision Pro
Apple เผยตัวอย่าง visionOS 2 ซึ่งเป็นอัปเดตใหญ่สำหรับ Apple Vision Pro ที่มาพร้อมวิธีการอันทรงพลังที่ทำให้ผู้ใช้สร้างสรรค์รูปภาพเชิงมิติพื้นที่ได้ด้วยภาพในคลังที่มีอยู่แล้ว และยังมีคำสั่งมือที่เข้าใจง่าย ทำให้เข้าถึงข้อมูลสำคัญได้อย่างรวดเร็ว พร้อมด้วยคุณสมบัติใหม่ๆ สำหรับจอภาพเสมือน Mac, โหมดเดินทาง และการใช้งานในสถานะผู้ใช้ทั่วไป การอัปเดตดังกล่าวทำให้ผู้ใช้ Vision Pro สามารถค้นหารูปภาพโปรดเชิงมิติพื้นที่ได้อย่างสะดวกรวดเร็วในแอปรูปภาพโฉมใหม่ ทั้งยังจัดการข้อมูลในทุกบัญชีได้ด้วยแอปรหัสผ่านใหม่ เข้าถึงเครื่องมือความเป็นส่วนตัวใน Safari และสัมผัสความสามารถใหม่ๆ ในแอปยอดนิยม เช่น Apple TV และแอปทำสมาธิ
ปัจจุบันมีแอปเชิงมิติพื้นที่มากกว่า 2,000 แอป ที่ออกแบบมาเพื่อ Apple Vision Pro และอีกกว่า 1.5 ล้านแอป iOS และ iPadOS ที่ใช้งานร่วมกันได้ กล่าวได้ว่า visionOS 2 ทำให้นักพัฒนาสามารถใช้ประโยชน์จากการประมวลผลเชิงมิติพื้นที่ได้มากยิ่งขึ้นด้วยเครื่องมือใหม่ๆ และยังสร้างสรรค์ประสบการณ์แอปแบบใหม่หมดได้ง่ายยิ่งกว่าเดิม โดยมีลักษณะเชิงปริมาตรในมิติที่สมจริงยิ่งขึ้นและยังแชร์ให้คนอื่นๆ ได้ด้วย
“Apple Vision Pro ให้ประสบการณ์ที่เหนือชั้นทั้งแก่ผู้ใช้และนักพัฒนา และเรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้ผลักดันการประมวลผลเชิงมิติพื้นที่ให้เหนือชั้นไปอีกขั้นด้วย visionOS 2 ในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดินนับจากการเปิดตัวครั้งแรก” Mike Rockwell รองประธานฝ่าย Vision Products Group ของ Apple กล่าว “เราตั้งตารอให้ผู้ใช้ได้มีโอกาสสัมผัสกับความสามารถใหม่ๆ ใน visionOS 2 ไม่ว่าจะเป็นการไปยังส่วนต่างๆ ของ visionOS ที่ราบรื่นยิ่งขึ้น ไปจนถึงการยกระดับวิธีการที่ผู้ใช้เข้าถึงความทรงจำของตนเอง และการปรับปรุงแอป Vision Pro ตัวหลักๆ อีกมากมาย ชุดเครื่องมือใหม่ๆ จะทำให้นักพัฒนาสามารถสร้างสรรค์แอปเชิงมิติพื้นที่ที่สมบูรณ์ไปด้วยรายละเอียด เรียกว่า visionOS 2 ทำให้ Vision Pro ทรงพลังยิ่งกว่าที่เคยมีมา”
สร้างและปลุกชีวิตให้ความทรงจำเชิงมิติพื้นที่อันน่าประทับใจด้วยวิธีแบบใหม่หมด
รูปภาพเชิงมิติพื้นที่บน Apple Vision Pro ทำให้ช่วงเวลากับครอบครัวและเพื่อนที่คุณประทับใจมีมิติความลึกและความสมจริงอันน่าทึ่ง ผู้ใช้สามารถย้อนดูความทรงจำในอดีตด้วยการสร้างรูปภาพเชิงมิติพื้นที่ได้โดยตรงจากคลังในแอปรูปภาพเมื่อใช้ visionOS 2 โดยที่ visionOS จะอาศัยเทคโนโลยีการเรียนรู้ของระบบขั้นสูงเพื่อแปลงภาพ 2D ให้กลายเป็นรูปภาพเชิงมิติพื้นที่อันสวยงามและเสมือนมีชีวิตจริงบน Vision Pro อีกทั้งผู้ใช้ยังสามารถแชร์รูปภาพเชิงมิติพื้นที่ให้แก่คนที่คุณรักเพื่อดูบน Vision Pro หรือจะใช้ SharePlay ในแอปรูปภาพร่วมกับ Persona เชิงมิติพื้นที่และสนุกไปกับพาโนรามา วิดีโอเชิงมิติพื้นที่ และคอนเทนต์อื่นๆ อีกมากมายที่ชื่นชอบ โดยให้ความรู้สึกราวกับว่าทุกคนอยู่ในสถานที่จริงที่เดียวกัน
การบันทึกวิดีโอเชิงมิติพื้นที่บน Apple Vision Pro และ iPhone 15 Pro ทำให้ผู้ใช้สามารถชุบชีวิตช่วงเวลาพิเศษได้ราวกับการย้อนอดีตกลับไปในที่ดังกล่าว โดยภายในปีนี้ Canon จะเปิดตัวเลนส์เชิงมิติพื้นที่แบบใหม่ให้กับกล้องดิจิทัลยอดนิยมรุ่น EOS R7 เพื่อรองรับการถ่ายวิดีโอเชิงมิติพื้นที่ได้อย่างสวยงามแม้ในสภาพแสงอันท้าทาย เช่นเดียวกับการอัปเดตใหม่ใน Final Cut Pro ที่ทำให้นักสร้างคอนเทนต์สามารถตัดต่อวิดีโอเชิงมิติพื้นที่ได้บน Mac และเพิ่มชื่อเรื่องและเอฟเฟ็กต์ให้กับโปรเจ็กต์ได้อย่างเต็มอิ่มสมจริง อีกทั้งผู้ใช้ยังสามารถอัปโหลดและแชร์วิดีโอเชิงมิติพื้นที่ให้คนอื่นๆ ได้รู้จักและเพลิดเพลินผ่านแอป Vimeo ที่ออกแบบมาเพื่อ Vision Pro
คำสั่งมือแบบใหม่และคุณสมบัติด้านการทำงานทำให้ visionOS ทำอะไรๆ ได้มากขึ้น
visionOS เปิดตัวพร้อมกับการรองรับอินเทอร์เฟซเชิงมิติพื้นที่สุดล้ำ ทำให้ผู้ใช้ควบคุมสิ่งต่างๆ ได้ด้วยดวงตา มือ และเสียง และใน visionOS 2 นั้น การไปยังส่วนต่างๆ ของ Apple Vision Pro ก็ยิ่งเร็วและง่ายขึ้น ผู้ใช้สามารถเข้าถึงฟังก์ชันสำคัญๆ ด้วยคำสั่งมือแบบใหม่ที่ช่วยในการเข้าถึงคุณสมบัติที่ใช้บ่อย เช่น มุมมองบ้านและศูนย์ควบคุม อีกทั้งคำสั่งมือแบบใหม่ยังทำให้ผู้ใช้มองเห็นข้อมูลสำคัญได้ง่ายเพียงแค่เหลือบมอง เช่น เวลาปัจจุบัน ระดับแบตเตอรี่ และยังควบคุมสั่งการได้ด้วย เช่น การปรับระดับเสียง
เครื่องมือด้านการทำงานใน Apple Vision Pro ได้รับความสามารถใหม่ๆ ด้วย visionOS 2 โดยภายในปีนี้ จอภาพเสมือน Mac จะมาพร้อมความละเอียดที่มากขึ้นและขนาดที่ใหญ่ขึ้น เพื่อสร้างจอภาพอัลตร้าไวด์ที่เทียบเท่ากับจอภาพ 4K จำนวน 2 ตัวที่วางเอาไว้ข้างกัน และเพื่อการสร้างพื้นที่ทำงานที่ลงตัว visionOS 2 จึงเพิ่มการรองรับเมาส์สำหรับเวิร์กโฟลว์เพิ่มเติมแบบอื่นๆ เช่นเดียวกับ Vision Pro ที่ตอนนี้สามารถแสดง Magic Keyboard จริงของผู้ใช้ได้ แม้กำลังอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สมจริงหรืออยู่ในแอปก็ตาม
ประสบการณ์การใช้งานในด้านหลักๆ ของ Apple Vision Pro ยังได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นใน visionOS 2 ด้วย โดยตอนนี้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งมุมมองบ้านได้ในแบบของตัวเองด้วยการจัดเรียงแอปและวางไว้ในตำแหน่งที่ต้องการ ซึ่งรวมถึงแอป iPhone และ iPad ที่ใช้งานร่วมกันได้ด้วย สำหรับโหมดเดินทางก็ได้เพิ่มการรองรับการเดินทางด้วยรถไฟ ทำให้ผู้เดินทางสามารถใช้งานแอปที่ชื่นชอบได้ทุกที่ทุกเวลา หรือแม้แต่เปลี่ยนสภาพแวดล้อมเพื่อแปลงสิ่งรอบตัวให้กลายเป็นสถานที่ใหม่ เช่น โบรา โบร่า หรือในกรณีที่ผู้ใช้ต้องการแชร์ Vision Pro ให้สมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนร่วมงาน ก็สามารถเพิ่มบุคคลดังกล่าวในฐานะผู้ใช้ทั่วไป และบันทึกข้อมูลดวงตาและมือเอาไว้ได้นาน 30 วัน
เครื่องมืออันทรงพลังที่ช่วยปลดล็อคแนวทางที่น่าสนใจสำหรับนักพัฒนาและนักสร้างคอนเทนต์เพื่อสร้างประสบการณ์สุดล้ำแบบใหม่
ที่ผ่านมา นักพัฒนาได้สร้างประสบการณ์แอปอันน่าทึ่งสำหรับ Apple Vision Pro โดยใช้ประโยชน์จากการประมวลผลเชิงมิติพื้นที่ซึ่งเป็นความสามารถที่โดดเด่นและใช้งานได้ในหลากหลายด้าน โดยตอนนี้ visionOS 2 ยังมาพร้อม API และเฟรมเวิร์กใหม่ที่จะช่วยให้นักพัฒนายกระดับแอปให้เหนือชั้นไปอีกขั้น จนการสร้างแอปและเกมกลายเป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งกว่าเดิม โดยมีลักษณะเชิงปริมาตรในมิติที่สมจริงยิ่งขึ้น และมาพร้อมประสบการณ์ที่แชร์กับคนอื่นๆ ได้ในรูปแบบใหม่ นอกจากนี้ Vision Pro ยังรองรับ HealthKit ด้วย ทำให้นักพัฒนามีวิธีการใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ด้านสุขภาพและฟิตเนสได้อย่างสุดล้ำโดยใช้ประโยชน์จากผืนผ้าใบที่ไม่สิ้นสุดใน visionOS
แอป The Museum That Never Was จาก 1640 LLC ใช้ API ด้านปริมาตรใหม่ในการสร้างมิติที่สมจริงใน visionOS 2 ทำให้การเพิ่มวัตถุ 3D ลงในแอปทำได้ง่ายและสมจริงยิ่งขึ้น อีกทั้งยังทำให้ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับคอนเทนต์ด้วยวิธีใหม่ๆ ได้อีกด้วย ขณะที่เครื่องมือใหม่อย่าง TabletopKit ก็ทำให้นักพัฒนาสามารถสร้างประสบการณ์แอปเพื่อการแชร์และใช้งานร่วมกันบนโต๊ะได้เร็วขึ้น เช่น เกมกระดานหรือโต๊ะทำงานในสายการผลิต โดยทาง GRL Games ได้ใช้ TabletopKit เพื่อสร้าง Haunted Chess ซึ่งเป็นเกมกระดานปริศนาการฆาตรกรรมที่ผู้เล่นจะได้ใช้ตัวหมากรุก 3D และการ์ดโฮโลกราฟิกเพื่อไขปริศนา แอปเหล่านี้ทำงานได้อย่างดีเยี่ยมร่วมกับ Persona เชิงมิติพื้นที่ เพื่อให้ได้ประสบการณ์ร่วมในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
ทุกวันนี้ นักพัฒนาระดับองค์กรได้ลงมือสร้างแอป visionOS ระดับโลกเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ใช้ในการฝึกอบรมและการจำลองเหตุการณ์ ไปจนถึงการออกแบบและจัดการกับโปรเจ็กต์ และเครื่องมือใหม่ๆ ใน visionOS 2 จะทำให้นักพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานในด้านต่างๆ ได้มากขึ้น ทั้งด้านสุขภาพ การผลิต อวกาศ ยานยนต์ และอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกทั้งยังมีนักพัฒนาจำนวนมาก เช่น Scandit AG และ TeamViewer ที่นำ API ใหม่ๆ ไปใช้ เช่น การสแกนบาร์โค้ดและการติดตามวัตถุ เพื่อช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานในแต่ละวันให้ดียิ่งขึ้นด้วย
Apple Immersive Video เป็นการเล่าเรื่องในรูปแบบที่ใช้วิดีโอระดับ 8K แบบ 3D ภายใต้มุมมองภาพ 180 องศา และระบบเสียงตามตำแหน่ง เพื่อนำพาผู้ชมไปอยู่ ณ จุดศูนย์กลางเรื่องราว โดยมีแอป Apple TV เป็นแหล่งรวมภาพยนตร์และซีรีส์ Apple Immersive ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น Adventure จาก Apple TV+ และ Alicia Keys: Rehearsal Room และภายในปีนี้ Blackmagic Design จะเปิดตัวระบบกล้องเชิงพาณิชย์ครั้งแรก พร้อมกับการอัปเดตซอฟต์แวร์โพสต์โปรดักชั่นอย่าง DaVinci Resolve Studio ให้รองรับ Apple Immersive Video เปิดโอกาสให้นักสร้างภาพยนตร์มืออาชีพทั่วโลกเข้าถึงเครื่องมือในการสร้างเรื่องราวที่น่าประทับใจในรูปแบบการเล่าเรื่องที่เต็มอิ่มสมจริงเหนือใคร
อีกหลายคุณสมบัติที่น่าสนใจของ visionOS 2
- ขณะอยู่ใน Safari ผู้ใช้สามารถรับชมวิดีโอในสภาพแวดล้อมได้ ซึ่งรวมถึงเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมอย่าง YouTube, Netflix และ Amazon และระหว่างที่กำลังเลื่อนชมหน้าเว็บ ผู้ใช้สามารถแตะรูปภาพพาโนรามาและสัมผัสความสมจริง ในลักษณะที่ภาพดังกล่าวโอบล้อมรอบตัวผู้ใช้ นอกจากนี้ Siri ยังสามารถอ่านและพูดเนื้อหาบนหน้าเว็บได้ด้วย ในขณะที่ผู้ใช้กำลังทำงานหลายอย่างพร้อมกัน
- สำหรับแอป Apple TV นั้น ได้เพิ่มการรองรับการดูแบบหลายมุมมองให้กับ Apple Vision Pro เพื่อประสบการณ์การดูกีฬาที่ยอดเยี่ยมที่สุด โดยภายในปีนี้ แฟนกีฬาจะสามารถรับชมสตรีมการแข่งกีฬาได้สูงสุด 5 สตรีม ทำให้สามารถติดตามกีฬาและทีมโปรดทั้งหมดได้ในเวลาเดียวกัน
- แอปทำสมาธิมาพร้อมความสามารถใหม่ที่เรียกว่า Follow Your Breathing หรือการติดตามลมหายใจเพื่อช่วยให้ผู้ใช้รู้สึกสงบและมีสมาธิ โดยจะแสดงภาพแอนิเมชั่นเคลื่อนไหว พร้อมด้วยเสียงที่ตอบสนองตามจังหวะการหายใจของผู้ใช้
- คำบรรยายสดทั่วทั้งระบบจะช่วยให้ทุกคน รวมถึงผู้ใช้ที่หูหนวกหรือมีปัญหาในการได้ยิน สามารถติดตามคำพูดในการสนทนาสดและเสียงจากแอปต่างๆ ได้
- ผู้ใช้สามารถดูคอนเทนต์บน Vision Pro ด้วยการใช้ AirPlay บน iPhone, iPad หรือ Mac ของตนเอง
ความพร้อมใช้งาน
สมาชิกโปรแกรมนักพัฒนา Apple สามารถใช้งาน visionOS 2 รุ่นตัวอย่างสำหรับนักพัฒนาได้ที่ developer.apple.com ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ apple.com/visionos/visionos-2-preview คุณสมบัติอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ คุณสมบัติบางอย่างอาจใช้ไม่ได้ในบางภูมิภาคหรือบางภาษา และอาจต้องใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ใช้งานร่วมกันได้
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
การใช้ Compound Noun (คำนามประสม) ในภาษาอังกฤษคืออะไร ใช้อย่างไร?
ในบทสนทนา การพูดคุย หรือการเขียนประโยคต่าง ๆ โครงสร้างพื้นฐานที่เป็นปกติก็คือ ประธาน + กริยา + กรรม ซึ่งทั้งประธานและกรรมนั้นล้วนแล้วแต่จะเป็นคำนาม หรือ Noun ในภาษาอังกฤษทั้งนั้น แต่คำนามไม่ได้จบแค่คำว่าคำนาม เพราะคำนามก็มีประเภทของมันอีกด้วย ตัวอย่างเช่น Compound Noun หรือคำนามประสมที่มาเป็นหัวข้อในบทความนี้ ในบทความนี้ Engduo Thailand จะพาคุณไปรู้จักกับ Compound Noun หรือคำนามประสมว่าคืออะไร ใช้อย่างไร มีหลักการในการใช้อย่างไร นอกจากจะบอกว่าคืออะไรและใช้อย่างไรแล้ว ก็ยังมีตัวอย่างคำศัพท์ที่มาจากคำนามประสมและประโยคของการใช้คำนามประสม
Compound Noun หรือ คำนามประสมคืออะไร?
คำนามประสมเป็นคำนามที่เกิดจากรวมคำของ 2 คำขึ้นไป แล้วเกิดความหมายใหม่ โดยคำที่นำมาประสมกันนั้นอาจเป็น นามกับนาม นามกับกริยา นามกับคุณศัพท์ หรืออาจสลับตำแหน่งกันเป็น กริยากับนาม คุณศัพท์กับนามก็ได้ หากยกตัวอย่างเป็นภาษาไทย เช่น หมอน + ข้าง = หมอนข้าง, เตา + รีด = เตารีด, น้ำ + ผึ้ง = น้ำผึ้ง เป็นต้น
หลักการสร้างคำประสม
หลักการสร้างคำประสมสามารถทำได้หลายวิธี แต่จุดสำคัญคือ นำคำ 2 คำขึ้นไปมาประสมกัน เกิดเป็นความหมายใหม่ ดังนี้
- Noun + Noun (นาม + นาม) เช่น
bedroom (ห้องนอน) มาจาก bed (เตียงนอน) + room (ห้อง)
newspaper (หนังสือพิมพ์) มาจาก news (ข่าว) + paper (กระดาษ)
fish tank (ตู้ปลา) มาจาก fish (ปลา) + tank (ถัง)
- Noun + Verb (นาม + กริยา) เช่น
waterfall (น้ำตก) มาจาก water (น้ำ) + fall (ตก)
butterfly (ผีเสื้อ) มาจาก butter (เนย) + fly (บิน)
haircut (ตัดผม) มาจาก hair (ผม) + cut (ตัด)
- Adjective + Noun (คุณศัพท์ + นาม) เช่น
greenhouse (เรือนกระจก) มาจาก green (สีเขียว) + house (บ้าน)
high school (ชั้นมัธยม) มาจาก high (สูง) + school (โรงเรียน)
whiteboard (กระดานไวท์บอร์ด) มาจาก white (ขาว) + board (กระดาน)
- Verb + Noun (คำกริยา + คำนาม) เช่น
washing machine (เครื่องล้างจาน) มาจาก washing (ล้าง) + machine (เครื่องจักร)
swimming pool (สระว่ายน้ำ) มาจาก swimming (ว่ายน้ำ) + pool (สระ)
sleeping pill (ยานอนหลับ) มาจาก sleeping (นอนหลับ) + pill (ยา)
- Verb + Adverb/ Preposition (คำกริยา + คำกริยาวิเศษณ์/ คำบุพบท) เช่น
giveaway (ของแถม) มาจาก give (ให้) + away (ห่างออกไป)
take-off (ถอดออก) มาจาก take (เอา, รับ) + off (พ้น, ไกลออกไป)
takeover (รับช่วงต่อ) มาจาก take (เอา, รับ) + over (เกิน)
- Adverb + Noun (คำกริยาวิเศษณ์+ คำนาม) เช่น
inside (ข้างใน) มาจาก in (ใน) + side (ด้านข้าง)
downstairs (ชั้นล่าง) มาจาก down (ข้างล่าง) + stairs (บันได)
upstairs (ชั้นบน) มาจาก up (ข้างบน) + stairs (บันได)
- Adverb + Verb (คำกริยาวิเศษณ์ + กริยา) เช่น
output (ข้อมูลส่งออก) มาจาก out (ออก) + put (ใส่)
income (รายได้) มาจาก in (ใน) + come (เข้ามา)
outstanding (โดดเด่น) มาจาก out (ออก) + standing (ยืน)
- Preposition + Noun (บุพบท + นาม) เช่น
underworld (โลกใต้พิภพ) มาจาก under (ภายใต้) + world (โลก)
underground (ใต้ดิน) มาจาก under (ภายใต้) + ground (พื้น)
overrate (เกินจริง) มาจาก over (เกิน) + rate (ประเมิน)
การเขียนคำประสม
การเขียนคำประสมมีอยู่ 3 แบบ คือ
1. เขียนทั้งสองคำติดกัน
เช่น seafood (sea + food), bedroom (bed + room), moonlight (moon + light)
2. เขียนแยกกัน
เช่น bus stop (but + stop), ice cream (ice + cream), fish tank (fish + tank)
3. เขียนแยกกันโดยใช้ เครื่องหมาย hyphen (-) คั่น
เช่น weight-lifting (weight + lifting), mother-in-law (mother + in + law), merry-go-round (merry + go + round)
การใช้คำนามประสม
คำนามประสม สามารถใช้วางตำแหน่งของคำนามในประโยคได้เลย เช่น
- You better go to your bedroom and rest well tonight.
ถึงเวลาที่เธอต้องเข้านอนเพื่อพักผ่อนสำหรับคืนนี้
- He has an outstanding musical talent.
เขามีความสามารถที่โดดเด่นด้านดนตรี
- At last, I graduated from junior high school.
ในที่สุดฉันก็เรียนจบชั้นมัธยมต้น
ขอบคุณข้อมูลจาก engduothailand.com
10 อันดับผักคาร์บต่ำ คนลดน้ำหนักกินได้ ไม่ต้องหลอนแป้ง
อาหารลดคาร์โบไฮเดรตเป็นกลยุทธ์ยอดนิยมสำหรับการลดน้ำหนัก แม้ว่าจะมีอาหารลดคาร์โบไฮเดรตที่ได้รับความนิยมหลายแบบ แต่ยังไม่มีความเห็นตรงกันอย่างชัดเจนว่าอะไรคือการกำหนดอาหารลดคาร์โบไฮเดรต
สำหรับบทความนี้ เราจะนิยามอาหารลดคาร์โบไฮเดรตดังนี้
- อาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำมาก: 20 ถึง 50 กรัมต่อวัน (หรือคิดเป็นน้อยกว่า 10% ของแคลอรี่ทั้งหมดจากคาร์โบไฮเดรต)
- อาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ: น้อยกว่า 130 กรัมต่อวัน (หรือคิดเป็นน้อยกว่า 26% ของแคลอรี่ทั้งหมดจากคาร์โบไฮเดรต)
สถาบันการแพทย์แนะนำให้คนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้รับประทานอาหารลดคาร์โบไฮเดรตด้วยเหตุผลเฉพาะ ควรได้รับคาร์โบไฮเดรตระหว่าง 45% – 65% ของแคลอรี่ทั้งหมดที่ได้รับประทานต่อวัน
เมื่อพูดถึงคาร์โบไฮเดรต คุณอาจเคยได้ยินคำว่า “คาร์โบไฮเดรตสุทธิ” ซึ่งในบริบทนี้คำนวณโดยการนำปริมาณของเส้นใยที่อาหารชนิดหนึ่งมีอยู่ไปลบออกจากจำนวนคาร์โบไฮเดรตทั้งหมด
10 ผักคาร์บต่ำ เหมาะสำหรับคนลดน้ำหนัก
1.พริกหยวกแดง
พริกหยวกแดงดิบ หั่นเป็นชิ้น 1 ถ้วย มีคาร์โบไฮเดรตเพียง 5.5 กรัมเท่านั้น จึงเป็นหนึ่งในผักคาร์โบไฮเดรตต่ำที่ฉันชอบมากที่สุด เพราะสามารถนำมารับประทานได้หลากหลายวิธี” แคทเธอรีน คาร์นาทซ์ นักโภชนาการจากโรดไอแลนด์และเจ้าของ Nutrition Education RD เผยพริกหยวกเป็นผักที่ใช้งานได้หลากหลาย สามารถนำมาใส่ไข่เจียว ใส่ซุป ผัดเป็นหน้าพิซซ่า หรือจิ้มกับฮัมมัสก็อร่อย คาร์นาทซ์ ยังอธิบายเพิ่มเติมว่า “พริกหยวกแดงอุดมไปด้วยโพแทสเซียม ซึ่งเป็นเกลือแร่สำคัญที่ช่วยให้หัวใจเต้นเป็นปกติและช่วยควบคุมระดับความดันโลหิต”
2.แครอท
เกรซ สการ์โบโร นักโภชนาการที่จดทะเบียนในซีแอตเทิล อธิบายว่า แครอทเป็นผักที่มักถูกเข้าใจผิด “หลายคนคิดว่าแครอทมีคาร์โบไฮเดรตสูง จึงไม่ทาน” เธออธิบายต่อว่า “แต่จริง ๆ แล้ว แครอทมีคุณค่าทางโภชนาการสูง และคาร์โบไฮเดรตต่ำ โดยแครอทหั่นบาง ๆ 1 ถ้วย มีคาร์โบไฮเดรตสุทธิเพียง 8.3 กรัมเท่านั้น”
นอกจากนี้ แครอทยังมีโซเดียมต่ำตามธรรมชาติ และอุดมไปด้วยโพแทสเซียมและใยอาหาร การผสมผสานของสารอาหารเหล่านี้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพหัวใจ สการ์โบโร กล่าวเพิ่มเติม
3.เห็ด
เห็ดเป็นอีกหนึ่งผักแสนอร่อยและสารพัดประโยชน์ ที่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่ำ “เห็ดอุดมไปด้วยซีลีเนียม เส้นใยอาหาร และวิตามินบี6 โดยเห็ดสด 1 ถ้วย มีคาร์โบไฮเดรตเพียง 2.3 กรัมเท่านั้น” ลิซ่า แอนดรูว์ส นักโภชนาการที่จดทะเบียนและเจ้าของ Sound Bites Nutrition ในซินซินแนติ กล่าว
เห็ดสามารถนำไปใส่ในสลัด ซุป สตูว์ หรือผัดต่างๆ ช่วยเพิ่มรสชาติกลมกล่อมให้กับอาหารได้หลากหลายเมนู แอนดรูว์สแนะนำ
นอกจากนี้เห็ดยังมีสารประกอบทางชีวภาพมากมาย เช่น ฟีนอลิคส์ กลูแคนส์ เทอร์ปีนอยด์ โพลีแซคคาไรด์ และเลคตินส์ สารประกอบทางชีวภาพเหล่านี้มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เช่น ช่วยต้านเชื้อจุลินทรีย์ ควบคุมระบบภูมิคุ้มกัน และมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระท
4.บวบ
“บวบมีคุณสมบัติเหมือนกิ้งก่า สามารถแปลงร่างเป็นอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะทานเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยว ทอดเป็นแพนเค้ก หรืออบเป็นเครื่องเคียง” บอนนี่ นิวลิน นักโภชนาการที่จดทะเบียนและผู้ก่อตั้ง Crave Nourishment ในแอนนาโพลิส รัฐแมริแลนด์ กล่าว
บวบมีคาร์โบไฮเดรตเพียง 3.9 กรัมต่อถ้วย จึงเป็นผักคาร์โบไฮเดรตต่ำที่เหมาะสำหรับการเพิ่มลงในมื้ออาหารของคุณ นอกจากนี้ บวบยังอุดมไปด้วยสารประกอบที่มีประโยชน์ เช่น แร่ธาตุ วิตามินซี แคโรทีนอยด์ และสารประกอบฟีนอลิก บวบเป็นแหล่งสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดี และจากการวิจัยพบว่าบวบมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ต้านไวรัส และต้านเชื้อจุลินทรีย์
5.ถั่วลันเตา
“ถั่วลันเตามีคาร์โบไฮเดรตสุทธิเพียง 4 กรัมต่อถ้วย จัดเป็นอีกหนึ่งผักคาร์บต่ำที่ยอดเยี่ยม” นิวลิน กล่าวเสริม “นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับการนำมาอบหรือจิ้ม ทานเล่นเพลินๆ แถมยังให้ความกรุบกรอบที่น่าพอใจอีกด้วย”
ถั่วลันเตาอุดมไปด้วยวิตามิน ใยอาหาร โฟเลต แร่ธาตุ และสารอาหารจากพืช เช่น แคโรทีนอยด์ ฟลาโวนอยด์ และฟีนอล สารอาหารจากพืชเหล่านี้จัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการอักเสบ และจากการศึกษาพบว่า อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคอัลไซเมอร์ และโรคมะเร็งได้อีกด้วย
6.แตงกวา
“แตงกวาเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ทานอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ” แมคเคนซี่ เบอร์เกส นักโภชนาการที่จดทะเบียนและนักพัฒนาสูตรอาหารที่ Cheerful Choices ในเดนเวอร์ กล่าว
เบอร์เกส อธิบายว่า แตงกวามีน้ำสูงและคาร์โบไฮเดรตสุทธิเพียง 1.6 กรัมต่อครึ่งถ้วย “ลองหั่นแตงกวาสบาง ๆ ทาฮัมมัส และม้วนเป็นโรล เป็นของว่างทานเล่นระหว่างวันได้ง่ายๆ”
แตงกวาอุดมไปด้วยโพลีฟีนอลิกส์และคิวเคอร์บิตาซิน สารประกอบเหล่านี้มีคุณสมบัติต้านจุลินทรีย์ ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และอาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและกระตุ้นการขับปัสสาวะ
7.อาร์ติโชค
“อาร์ติโชค ด้วยหัวใจที่นุ่มละมุนและใบเนื้อแน่น เป็นตัวเลือกผักคาร์โบไฮเดรตต่ำที่ยอดเยี่ยม” เจสซี่ โฮลเดน นักโภชนาการครอบครัวเชิงการปรุงอาหารในมิชิแกนและเจ้าของ The Kitchen Invitation กล่าว
โฮลเดนอธิบายว่า อาร์ติโชค เพิ่มรสชาติและเนื้อสัมผัสแบบดินๆ ให้กับอาหาร “นอกจากนี้ ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ใยอาหาร และวิตามิน ดังนั้น การนำอาร์ติโชคมาผสมผสานในมื้ออาหารของคุณจึงเป็นเรื่องง่ายๆ” เธอกล่าว
โฮลเดนแนะนำให้ลองใส่ อาร์ติโชค ลงในซิตี้อบ สลัด พิซซ่า หรืออบรวมกับผักอื่นๆ คู่กับอาหารจานหลัก
8.กะหล่ำปลีบรัสเซลส์
“กะหล่ำปลีบรัสเซลส์อุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญมากมาย เช่น วิตามินซี วิตามินเค แคลเซียม เหล็ก และโพแทสเซียม” ลาร่า เคลเวนเจอร์ นักโภชนาการที่จดทะเบียนและเจ้าของ Omni Nutrition LLC ในเอจวอเตอร์ รัฐฟลอริดา กล่าว นอกจากจะมีคาร์โบไฮเดรตสุทธิเพียง 4.5 กรัมต่อถ้วยแล้ว เคลเวนเจอร์ ยังอธิบายต่อว่า จากการวิจัยพบว่า การทานผักตระกูลกะหล่ำปลี เช่น กะหล่ำปลีบรัสเซลส์ อาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคหัวใจ และป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้
9.กะหล่ำดอก เป็นผักคาร์โบไฮเดรตต่ำที่ยอดเยี่ยมและมีความหลากหลายไม่รู้จบ Bess Berger นักโภชนาการที่ลงทะเบียนและเจ้าของ Nutrition by Bess ใน Teaneck รัฐนิวเจอร์ซีย์กล่าว ดอกกะหล่ำมีไฟเบอร์ วิตามินซี วิตามินเค และแมกนีเซียม เบอร์เกอร์กล่าว นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติต้านการอักเสบอีกด้วย
10.กะหล่ำปลี “กะหล่ำปลีอุดมไปด้วยวิตามินซี ใยอาหาร และวิตามินเค” คริสเทน ไวท์ นักโภชนาการด้านความไวต่ออาหารจากมิสซูรีกล่าว “ใยอาหารไม่เพียงช่วยให้เรารู้สึกอิ่ม แต่ยังเป็นอาหารของแบคทีเรียที่ดีในลำไส้ของเราอีกด้วย” เธอกล่าวเสริม
“กะหล่ำปลีหมัก ดอง หรือที่รู้จักกันในชื่อ ซาวเคราต์ เป็นแหล่งโปรไบโอติกส์ชั้นเยี่ยม ซึ่งเป็นแบคทีเรียดีในลำไส้ที่ช่วยรักษาสมดุลของระบบนิเวศในลำไส้” ไวท์อธิบายเพิ่มเติม “กะหล่ำปลีมีรสชาติที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับอาหารที่นำมาประกอบ”
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 12/06/2567
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 40,150.00 | 40,250.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 2,601.00 | 39,431.16 | 40,750.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 2,340.90 | 35,488.04 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 2,080.80 | 31,544.93 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 1,170.00 | 17,737.20 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 910.00 | 13,795.60 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,695.00 | 40,856.20 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 12/06/2567
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 37.75 | 37.75 | 38.25 | 37.75 | 37.75 | 37.75 | 37.75 | 37.75 | 37.75 | 37.75 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 37.38 | 37.38 | 37.68 | 37.38 | 37.38 | 37.38 | 37.38 | 37.38 | 37.38 | 37.38 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 35.64 | 35.64 | 36.14 | 35.64 | 35.64 | – | 35.64 | 35.64 | 35.64 | 35.64 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 35.39 | 35.39 | – | – | – | – | – | – | – | 35.39 |
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม | 46.34 | 49.84 | 49.84 | 49.84 | – | – | – | – | – | 46.34 |
เบนซิน 95 | 45.64 | – | – | – | 48.41 | – | 46.14 | 45.79 | – | 45.64 |
ดีเซล | 32.94 | 32.94 | 33.24 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 44.94 | 47.14 | 49.84 | 47.14 | 47.14 | – | – | – | – | 44.94 |
แก๊ส NGV | 19.59 | 19.59 | – | – | – | – | – | – | – | 19.59 |