พฤกษาชู“สมาร์ทลิฟวิ่ง”รับเมกะเทรนด์โลกตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
จากพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวัน “เทคโนโลยี” กลายเป็นส่วนหนึ่งของการอยู่อาศัยมากขึ้น บิ๊กคอร์ป พฤกษาชู“สมาร์ทลิฟวิ่ง”หนึ่งในเมกะเทรนด์โลกเชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มรองรับการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่
ในงานมหกรรม “Health&Wealth Expo 2023” ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จัดโดยเนชั่นกรุ๊ป ที่จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย.ถึง 12 พ.ย.นี้ ช่วง “ Synergy Growth X Pruksa : Smart Living Trend 2024 เทรนด์การอยู่อาศัยแบบสมาร์ท ลิฟวิ่ง รับมือโลกเปลี่ยน” โดย บูม หมู่ศิริเลิศ Head of Business Commercial Of Synergy Growth และ ธนกร นิมิตมงคล Head of Business Development บริษัท ซินเนอร์จี โกรท ในเครือ บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า ท่ามกลางโลกเปลี่ยนแปลงรวดเร็วนวัตกรรม“สมาร์ทลิฟวิ่ง” เพื่อการอยู่อาศัยเข้ามามีบทบาทมากขึ้น
ในช่วง 3 ปีที่ผ่านพฤกษาได้นำข้อมูลความต้องการของลูกค้า (Customer Insight) นำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์และบริการใหม่เพื่อรองรับการอยู่อาศัยของคนทุกเจเนอเรชัน(Multi Gen) การออกแบบการใช้พื้นที่ในบ้านอย่างคุ้มค่า (Smart Space Design) การนำระบบโฮมออโตเมชันมาช่วยจัดการการใช้ชีวิตให้ดียิ่งขึ้น เชื่อมโยงการใช้ชีวิตด้วยเทคโนโลยีผ่านแอปพลิเคชัน MYHAUS ที่จะควบคุม Internet of Thing (IOT) ต่าง ๆ ในบ้านได้เพียงปลายนิ้ว
“ช่วยให้ต้นทุนต่างๆของลูกบ้านลดลงจากการดูแลนิติบุคคล ผ่านรูปแบบแอปพลิเคชัน MYHAUSและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความปลอดภัยทำให้ชีวิตมีข้อผิดพลาดลดลง “
พร้อมกันนี้ได้ก่อตั้ง “ซินเนอร์จี โกรท” และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ CLICKZY.COM (คลิกซิ) ซึ่งเป็น E-Marketplace ที่ให้บริการค้าปลีกออนไลน์ ด้านสินค้าที่อยู่อาศัย การบำรุงรักษาบ้าน การออกแบบตกแต่งภายใน เป็น ศูนย์รวมพันธมิตรธุรกิจมอบสินค้าบริการครอบคลุมทุกความต้องการในการใช้ชีวิตและบัตรกำนัลดิจิทัล (E-Voucher) เพื่อตอบสนองผู้คนในบ้านให้มีสุขภาพที่ดีและสะดวกมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังมี “E HEALTH” ซึ่งเป็น การบริการด้านสุขภาพผ่านระบบดิจิทัลเพื่อรองรับกรณีที่เกิดเจ็บป่วยกระทันหันจะมีเทคโนโลยีให้ลูกบ้านพบกับแพทย์ผ่านทางวีดีโอคอลเพื่อบอกอาการโดยไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาลและสามารถรับใบรับยาใกล้บ้านในวันรุ่งขึ้นในรูปแบบของ “เทเลเมดิซีน”(Telemedicine)
อีกทั้งยังมีบริการ “ZDECOR” บริการตกแต่งภายในออนไลน์แบบครบวงจร (ONE STOP SERVICE) ในราคาที่เข้าถึงได้ สะดวกรวดเร็ว ตกแต่งทั้งบ้านและคอนโดแบบพร้อมเข้าอยู่ ด้วยดีไซน์ที่ช่วยค้นหาความเป็นตัวคุณจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการเปลี่ยนห้องให้เป็นพื้นที่ๆ สวยงาม น่าอยู่และมีประโยชน์ใช้สอยครบครันซื่งออกแบบโดย INTERIOR DESIGNER มีอาชีพ
โดยจะเป็น “ตัวกลาง”ช่วยเหลือลูกบ้าน ประสานงานระหว่าง ลูกค้า นิติบุคคล ผู้รับเหมา กรณี ลูกค้าอาจไม่ชอบใจองค์ประกอบบางอย่างของบ้านและต้องรื้อถอนการติดตั้งในเวลาต่อมา เช่น วงกบประตูหน้าต่างและเปิดกว้างบุคคลภายนอกใช้บริการ ทั้งหมดนี้เพื่อยกระดับชีวิตของลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลโดยให้บริการอีคอมเมิร์ซออนไลน์แบบครบวงจร
สำหรับSynergy Growth เป็นบริษัททางด้าน enterprise tech ในเครือ บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จํากัด (มหาชน) ที่มีจุดมุ่งหมายองค์กร “ใส่ใจเพื่อทั้งชีวิต อยู่ดี มีสุข” ที่มุ่งมั่นใส่ใจในการส่งมอบสิ่งที่จะช่วยรังสรรค์ความเป็นอยู่ที่ดี เติมเต็มประสบการณ์การใช้ชีวิตที่เปี่ยมด้วยความสุขและพร้อมสร้างชุมชนที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น
ด้วย Digital Platform เป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลแบบองค์รวมในการจัดการโครงข่ายสินค้า เพื่อเปลี่ยน eCommerce แบบเดิมๆ ให้เข้าสู่ยุค E Commerce 4.0+ Ecosystem สร้างระบบ Ecosystem และบริษัทในเครือ โดยใช้ประโยชน์จาก“จุดแข็ง”ของพาร์ทเนอร์
โดยจัดทำโปรแกรมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลอย่างครอบคลุม เพื่อเป็นแพลตฟอร์ม เทคโนโลยีระดับองค์กรแบบครบวงจรที่ผสานเข้ากับเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภค Supply Chain เข้ามา“ลดช่องว่าง”ในการจัดการโครงข่ายสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตั้งแต่การขนส่ง ในระดับ ภูมิภาคสู่ระดับชุมชน จนกระทั่งจัดส่งถึงบ้าน ของลูกค้า
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
5 ปัจจัยหลักหนุนบริการเช่าห้องจัดเก็บของนอกบ้านบูม
5 ปัจจัยหลักหนุนบริการเช่าห้องจัดเก็บของนอกบ้านบูม อานิสงส์จากการเติบโตของตลาดที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะคอนโดในเมืองมีขนาดเล็กลงจาก1 ห้องนอนเดิมมีขนาด 65 ตร.ม. ปัจจุบันเหลือ 28 ตร.ม.!! ผนวกกับไลฟ์สไตล์เปลี่ยนความต้องการพื้นที่จัดเก็บเพิ่มขึ้น
เอกพงษ์ ตั้งศรีสงวน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีสเปซ เซลฟ์ สโตเรจ จำกัด กล่าวว่า 5 ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้เกิดความต้องการพื้นที่เก็บของนอกบ้าน ประกอบด้วย 1.การเติบโตของเมือง 2. การทำงานที่บ้าน 3. การสะสมสิ่งของ 4.การย้ายบ้านหรือปรับปรุงบ้าน และ5.การเติบโตของธุรกิจขายของออนไลน์
สำหรับตลาดประเทศไทยในปี2566 ถือเป็นปีที่ธุรกิจที่ให้เช่าพื้นที่เก็บของ (Self storage) เติบโตได้ดี สังเกตได้จากการเปิดสาขาเพิ่มเติมของผู้ให้บริการแต่ละรายในพื้นที่รอบกรุงเทพฯ โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยว รวมถึงอานิสงส์จากการเติบโตของตลาดที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมในเมืองที่มีขนาดห้องเล็กลง ทำให้เกิดความต้องการพื้นที่จัดเก็บเพิ่มขึ้น นอกจากนี้พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงยังช่วยกระตุ้นให้เกิดความต้องการพื้นที่จัดเก็บของเพิ่มขึ้น
สอดคล้องกับ ตลาดเอเชียถือได้ว่าเป็นปีแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรม Self Storage เพราะมีการนำและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ คาดการณ์ว่าตลาด Self Storage ในเอเชียแปซิฟิกจะมีอัตราเติบโต (CAGR) ที่ 8.36% ในช่วงปี 2565-2570 ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์การเติบโตของทั้งตลาดทั่วโลกเกือบเท่าตัว
ปัจจุบัน MeSpace เจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลัก 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม B2C เจ้าของบ้านและคนทั่วไปที่อาศัยในบ้านหรือคอนโดแต่ต้องการพื้นที่เก็บของมากขึ้น และ กลุ่ม B2B ได้แก่ นักธุรกิจ แม่ค้าออนไลน์ หรือ เจ้าของบริษัทที่ต้องการเก็บสต๊อกสินค้า สินค้าคงคลัง อุปกรณ์ ตลอดจนเอกสารสำนักงานต่างๆ
โดยเป้าหมายของ MeSpace คือต้องการทำให้การใช้ชีวิตในเมืองเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นเพราะเข้าใจในวิถีชีวิตคนเมืองที่มีพื้นที่ใช้สอยจำกัด จึงมีบริการห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่านอกบ้าน ด้วย 3 จุดแข็ง ได้แก่
1. Convenience: สะดวกสบาย ใกล้บ้านด้วยจำนวนสาขาที่มากที่สุดในประเทศไทย (10 สาขา นับรวมสาขาที่จะเปิดใหม่ภายในต้นปี 2567) คิดเป็นพื้นที่ให้บริการ 28,000 ตร.ม. ครอบคลุมพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร และมีการขยายสาขาไปยังหัวเมืองต่างจังหวัด
2. Flexible Solutions: มีโซลูชันพื้นที่เก็บของที่หลากหลายให้เลือกได้ตามความต้องการและงบประมาณ ตั้งแต่ห้องเก็บของหลากหลายขนาด ตู้ล็อกเกอร์ ห้องเก็บไวน์ ห้องเก็บของนิรภัย และ ตู้รับฝากของอัตโนมัติ เริ่มต้นเพียง 499 บาท/เดือน (เช่าขั้นต่ำ 1 เดือน) พร้อมบริการรับ-ส่งของเพื่อนำมาเก็บในพื้นที่เก็บของ ผ่านแอปพลิเคชัน CloudRoom รวมถึงบริการเสริมอื่นๆ เช่น บริการขนย้ายพร้อมติดตั้งด้วยผู้เชี่ยวชาญ, บริการจัดเก็บ-แพ็ก-ขนส่ง สำหรับธุรกิจ SME เป็นต้น
3. Worry-free Care: มั่นใจด้วยการดูแลระดับพรีเมียมในพื้นที่จัดเก็บ ติดระบบปรับอากาศทุกสาขา ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง และแพ็คเกจประกันภัยที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ รวมถึงการออกแบบห้องเก็บของที่คำนึงถึงความปลอดภัยตามมาตรฐานห้องเก็บของระดับสากล
ปัจจุบัน มีสเปซ เปิดให้บริการครอบคลุมทั้งใน กรุงเทพฯ, ภูเก็ต และ พัทยา รวม 9 สาขา ล่าสุดได้เปิดสาขาบางซื่อ เป็นสาขาที่ 9 และภายในต้นปี 2567 มีแผนเปิดสาขารัชดา-พระราม 9 ซึ่งเป็นสาขาที่ 10 ถือเป็นผู้ให้บริการที่มีพื้นที่ให้บริการมากที่สุดอันดับหนึ่งในประเทศไทย คิดเป็นพื้นที่ให้บริการทั้งหมด 28,000 ตร.ม. หรือ คิดเป็นการเติบโตของพื้นที่ให้บริการเพิ่มขึ้น 78%
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างปี 2566 กับปี 2565 โดยคาดการณ์รายได้ปีนี้ 70 ล้านบาท และรายได้ปีหน้า 108 ล้านบาท โดยอัตราการเติบโตของรายได้ในปี 2024 คิดเป็น 53%
สำหรับแผนการเติบโตมีเป้าหมายที่จะทำให้ Self Storage เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองมากขึ้น โดยมุ่งปรับปรุงระบบการให้บริการเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงและมีประสบการณ์ที่ดีและสะดวกสบายในการใช้บริการมากขึ้น
ปัจจุบันพื้นที่ให้บริการของ MeSpace คิดเป็น 25-30% ของพื้นที่ให้บริการทั้งหมดภายในประเทศและมีการวางแผนขยายพื้นที่ให้บริการอย่างต่อเนื่องผ่านทาง CPN
ด้าน วุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์ Head of Community Mall and International Business Development บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ทาง ซีพีเอ็น ในฐานะผู้ถือหุ้นให้การสนับสนุนด้านการจัดหาพื้นที่ให้บริการใหม่ผ่าน Mixed Use Property ของ CPN รวมถึงการขยายฐานลูกค้าของ MeSpace ไปยัง Residential Property โดยเชื่อว่าจะช่วยเติมเต็มความต้องการให้กับลูกค้าบ้านและคอนโดในเครือ CPN ที่ต้องการพื้นที่เก็บของ หรือหาพื้นที่ระหว่างการเตรียมย้ายที่อยู่อาศัยใหม่อีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 13พ.ย. “อ่อนค่า”ที่ระดับ 36.10 บาทต่อดอลลาร์
ค่าเงินบาทยังมีปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่า เหตุตลาดกลับมากังวลทั้งแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดและความเสี่ยงเสถียรภาพการคลังของไทย
ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 13พ.ย.2566 ที่ระดับ 36.10 บาทต่อดอลลาร์
“อ่อนค่าลงหนัก”
จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 35.89 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุนธนาคารกรุงไทยระบุว่า นับตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา เงินบาทอ่อนค่าลงต่อเนื่อง (แกว่งตัวในกรอบ 35.88-36.10 บาทต่อดอลลาร์) กดดันโดยจังหวะการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์
รวมถึงโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะปรับฐาน หลังราคาทองคำปรับตัวลดลงหนัก นอกจากนี้ เงินบาทก็อาจเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติมจากความกังวลเสถียรภาพการคลังของไทย
ซึ่งได้สะท้อนผ่านแรงขายหุ้นและบอนด์โดยนักลงทุนต่างชาติในช่วงวันศุกร์
สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าลงในช่วงปลายสัปดาห์ ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดและความกังวลเสถียรภาพการคลังของไทย
ในสัปดาห์นี้ เรามองว่า ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดรับรู้ รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ และข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญรายเดือนของจีน พร้อมติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางหลักและลุ้นรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน
มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก
▪ ฝั่งสหรัฐฯ – ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ในเดือนตุลาคม โดยนักวิเคราะห์ต่างมองว่า การปรับตัวลดลงของราคาพลังงานอาจส่งผลให้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้น +0.1%m/m หรือ +3.3%y/y ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า
ทว่า ในส่วนของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมผลของราคาอาหารและพลังงาน อาจยังคงเพิ่มขึ้น +0.3%m/m หรือ +4.1%y/y หลังราคาสินค้าบางส่วนอาจชะลอตัวในอัตราน้อยลง อาทิ ราคารถยนต์มือสอง ซึ่งการชะลอตัวลงของอัตราเงินเฟ้อ โดยเฉพาะในส่วนของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ช้ากว่าที่เฟดต้องการ อาจทำให้บรรดาเจ้าหน้าที่เฟดยังคงมองว่า เฟดมีโอกาสเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ หรือ คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงได้นาน (ซึ่งต้องรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดในสัปดาห์นี้) อย่างไรก็ดี เราประเมินว่า แนวโน้มตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ส่งสัญญาณชะลอตัวลงมากขึ้น กอปรกับแนวโน้มการบริโภคของสหรัฐฯ ที่จะชะลอลงมากขึ้น ท่ามกลางแรงกดดันจากภาวะหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น (หลัง 20% ชาวอเมริกันจะเริ่มกลับมาจ่ายหนี้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ Student Loans) และอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง ก็อาจทำให้ เฟดไม่สามารถเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อได้ นอกจากนี้ หากสมมติฐานเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลงหนักและเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) นั้นถูกต้อง เราคงมองว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยลง ได้เร็วขึ้นและมากกว่าที่ตลาด รวมถึงเฟดกำลังคาดการณ์อยู่ ซึ่งภาพดังกล่าว อาจส่งผลให้ ทั้งบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ และเงินดอลลาร์มีแนวโน้มปรับตัวลดลงได้พอสมควร
▪ ฝั่งยุโรป – ตลาดประเมินว่า เศรษฐกิจยูโรโซนในไตรมาสที่ 3 อาจขยายตัวเพียง +0.1%y/y กดดันโดยภาวะเงินเฟ้อสูงและอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
ซึ่งแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซนที่มีทิศทางชะลอลง อาจทำให้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) พิจารณาคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับล่าสุด เช่นเดียวกันกับธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ก็อาจตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง หากอัตราเงินเฟ้อ CPI อังกฤษ เดือนตุลาคม ชะลอลงสู่ระดับ 4.7% จาก 6.7% ในเดือนก่อนหน้า หลังภาพรวมเศรษฐกิจอังกฤษก็ชะลอตัวลงเช่นเดียวกันกับเศรษฐกิจยูโรโซน ทั้งนี้ ในช่วงนี้ นอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญฝั่งยุโรป เราประเมินว่า สกุลเงินฝั่งยุโรปอาจผันผวนไปตาม ทิศทางตลาดหุ้นยุโรป ซึ่งต้องรอลุ้นรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน
▪ ฝั่งเอเชีย – ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่รายงานข้อมูลเศรษฐกิจรายเดือนของจีน โดยบรรดานักวิเคราะห์ต่างมองว่า เศรษฐกิจจีนแม้จะมีการฟื้นตัวที่ดีขึ้น ในเดือนตุลาคม สะท้อนผ่านยอดค้าปลีกที่อาจโต +7.7%y/y
ส่วนยอดผลผลิตอุตสาหกรรม (Industrial Production) และยอดการลงทุนสินทรัพย์ถาวร (Fixed Assets Investment) อาจขยายตัว +4.5% และ +3.1% ตามลำดับ
ทว่า ภาพการฟื้นตัวดังกล่าวก็ยังมีลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ทำให้นักวิเคราะห์บางส่วนประเมินว่า ธนาคารกลางจีน (PBOC) อาจลดอัตราดอกเบี้ย MLF 1 ปี ลง -10bps สู่ระดับ 2.40% เพื่อช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวเศรษฐกิจ
ส่วนในฝั่งญี่ปุ่น ตลาดมองว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นในไตรมาสที่ 3 อาจพลิกกลับมาหดตัวลง -0.4% จากไตรมาสก่อนหน้า เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังภาคการส่งออกชะลอตัวลง ตามแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญ
ขณะเดียวกัน ยอดการนำเข้าก็ปรับตัวสูงขึ้นตามการอ่อนค่าของเงินเยนญี่ปุ่นและราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน โดยโมเมนตัมเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ชะลอลงอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังไม่สามารถใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น อาทิ การขึ้นอัตราดอกเบี้ย ได้ในปีนี้
ทั้งนี้ ในส่วนนโยบายการเงิน ตลาดมองว่า ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ (BSP) อาจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 6.50% หลังจาก BSP ได้เซอไพรส์ตลาดด้วยการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งก่อน จากความกังวลแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงช้ากว่าที่ BSP ต้องการ
▪ ฝั่งไทย –ตลาดการเงินไทยอาจผันผวนไปตามมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อมาตรการ Digital Wallet โดย หากพิจารณาจากแรงขายหุ้นและบอนด์ รวมถึงการอ่อนค่าลงของเงินบาทล่าสุด อาจประเมินได้ว่า ผู้เล่นในตลาดต่างกังวลต่อความเสี่ยงเสถียรภาพการคลังของไทยมากขึ้น
สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า ปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่ายังคงมีอยู่ หลังตลาดกลับมากังวลทั้งประเด็นแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดและความเสี่ยงเสถียรภาพการคลังของไทย
นอกจากนี้ ทั้งสองปัจจัยดังกล่าวยังส่งผลให้ฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติมีทิศทางไม่แน่นอน อนึ่ง หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของจีนออกมาดีกว่าคาด
ก็อาจช่วยให้ทั้งเงินหยวนและสกุลเงินเอเชียแข็งค่าขึ้น หรือ ชะลอการอ่อนค่าได้ ทั้งนี้ เราประเมินว่า การอ่อนค่าของเงินบาทอาจจำกัดอยู่ในโซน 36.25-36.30 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นโซนที่ผู้เล่นในตลาดอาจรอจังวะทยอยขายเงินดอลลาร์
ส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า เงินดอลลาร์มีโอกาสแข็งค่าขึ้นต่อได้ หากตลาดยังคงกังวลต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด
โดยเฉพาะในกรณีที่ อัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าคาด หรือ เร่งตัวขึ้นสวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ แต่หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาแย่กว่าคาด และสะท้อนภาพการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจมากขึ้น ก็อาจกดดันให้ เงินดอลลาร์ พร้อมกับบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ทยอยปรับตัวลดลง
เราคงคำแนะนำว่า ในช่วงนี้ ตลาดการเงินยังอยู่ในช่วงเผชิญความผันผวนสูง จากทั้งความไม่แน่นอนของทิศทางนโยบายการเงิน ความกังวลต่อเสถียรภาพการคลังของไทยที่กลับมาอีกครั้ง รวมถึง ความกังวลต่อทั้งแนวโน้มเศรษฐกิจจีนและสถานการณ์สงครามในตะวันออกกลาง ทำให้เราคงคำแนะนำว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย
อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และนอกเหนือจากการใช้เครื่องมือดังกล่าว การเลือกทำธุรกรรมในสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency) ก็เป็นอีกแนวทางในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจ ซึ่งผู้ประกอบการควรเปรียบเทียบต้นทุนในการทำธุรกรรมและแผนการป้องกันความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทุกครั้ง
มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 35.60-36.30 บาท/ดอลลาร์
ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.00–36.20 บาท/ดอลลาร์
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ลานคนเมืองคึกคัก! กิจกรรมเดิน-วิ่ง การกุศล ครั้งที่ 7 “ก้าวด้วยธรรม ก้าวด้วยใจ เพื่อสร้างอาคารโรงพยาบาล”
ลานคนเมืองคึกคัก! สายวิ่งรวมตัวส่งพลังครั่งยิ่งใหญ่ ในเดิน-วิ่ง การกุศล ครั้งที่ 7 “ก้าวด้วยธรรม ก้าวด้วยใจ เพื่อสร้างอาคารโรงพยาบาล” บนเส้นทางสถาปัตยกรรมสง่างามรอบเกาะรัตนโกสินทร์
ศาสตราจารย์พิเศษ จรัญ ภักดีธนากุล ประธานกรรมการกองทุนเพื่อผู้ป่วยและโรงพยาบาล ในมูลนิธิสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานเปิดงาน เดิน-วิ่ง การกุศล ครั้งที่ 7 “ก้าวด้วยธรรม ก้าวด้วยใจ เพื่อสร้างอาคารโรงพยาบาล” พร้อมด้วย ดร.สุนันทา ลีเลิศพันธ์ ประธานจัดกิจกรรมเดิน – วิ่ง การกุศล ฯ คุณลาวัลย์ กันชาติ, ดร.ลักขณา ลีละยุทธโยธิน, คุณปิติ ลีเลิศพันธ์ รองประธานกรรมการจัดกิจกรรม รวมถึงคณะกรรมการการจัดงานอีกมากมาย มาร่วมปลุกพลัง ระดมพล คนใจบุญครั้งยิ่งใหญ่
โดยมีเหล่าศิลปินดารา ตัวแทนนักวิ่ง และผู้สนับสนุนใจดี ที่ต่างมุ่งมั่นตั้งใจเป็นตัวแทนของประชาชนร่วมเดิน – วิ่ง กันอย่างล้นหลาม จนลานคนเมืองคับแคบไปถนัดตา เพราะทุกคนมีเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่นและมีเป้าหมายสำคัญเดียวกันคือ เพื่อระดมทุนสร้างอาคารโรงพยาบาล จัดหาเครื่องมือแพทย์ และมอบเงินบริจาคให้แก่โรงพยาบาล 19 แห่ง เพื่อนำไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ การรักษาเยียวยากรณีเร่งด่วน เป็นการเอื้อประโยชน์โดยตรงต่อประชาชนในพื้นที่ห่างไกล และคนไข้ยากจนขาดแคลน ผู้รอคอยการเยียวยารักษาตามพระปณิธานแห่งสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร โดยมี “เปอร์ – สุวิกรม อัมระนันทน์” และ “เปรม-ฉัตรนนท์ โรจน์สุระสกุล” รับหน้าที่เป็นพิธีกร สร้างความคึกคักและเติมความสดชื่น ณ ลานคนเมือง กรุงเทพมหานคร
สำหรับบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความคึกคักของเหล่านั่งวิ่งที่มารวมตัวกันตั้งแต่เช้าตรู่ โดยมีนักเต้น Dance Cheer Up มาร่วมปลุกพลังชวนวอร์มอัพร่างกาย กันอย่างสนุกสนาน ซึ่งในปีนี้พิเศษ สุด ๆ เพราะเสื้อวิ่งก้าวด้วยธรรม มีคำสอนของสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร “บุคคลจำเป็นจะต้องมีธรรมเป็นเกราะป้องกันใจตนเอง” ที่ด้านหลังเสื้อเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ผู้สวมใส่สำหรับการวิ่งจะแบ่งเป็นระยะทาง 10.5 กิโลเมตร และ 5 กิโลเมตร โดยนักเดิน-วิ่งทุกท่านได้เดิน-วิ่งบนเส้นทางที่สวยงามรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ได้ชื่นชมกับคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และทิวทัศน์ยามเช้าของกรุงเทพมหานครตลอดระยะทาง
และไฮไลท์พิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนงานวิ่งไหนๆ ของก้าวด้วยธรรมก็คือ เหรียญรางวัลโดยปีนี้ เป็นเหรียญที่อัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานในวัดบวรนิเวศวิหาร มาปรากฏที่ด้านหลังของเหรียญ นับเป็นอีกหนึ่งเหรียญที่ควรค่าแก่การมีไว้เป็นอย่างยิ่ง และความพิเศษยังไม่หมดเพียงเท่านี้ นักเดิน-วิ่งที่เข้าจุดเส้นชัยยังได้รับการพรมน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่นำมาจากวัดดังทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 19 วัด และยังประกอบพิธีปลุกเสกน้ำพระพุทธมนต์ ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร นับว่าเป็นสิริมงคลของผู้ที่มาวิ่งในงานก้าวด้วยธรรมมากๆ ที่มีโอกาสสัมผัสน้ำมนต์จาก 19 วัดดัง ที่ผ่านพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์แบบเต็มรูปแบบ
สำหรับบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความคึกคักของเหล่านั่งวิ่งที่มารวมตัวกันตั้งแต่เช้าตรู่ โดยมีนักเต้น Dance Cheer Up มาร่วมปลุกพลังชวนวอร์มอัพร่างกาย กันอย่างสนุกสนาน ซึ่งในปีนี้พิเศษ สุด ๆ เพราะเสื้อวิ่งก้าวด้วยธรรม มีคำสอนของสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร “บุคคลจำเป็นจะต้องมีธรรมเป็นเกราะป้องกันใจตนเอง” ที่ด้านหลังเสื้อเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ผู้สวมใส่สำหรับการวิ่งจะแบ่งเป็นระยะทาง 10.5 กิโลเมตร และ 5 กิโลเมตร โดยนักเดิน-วิ่งทุกท่านได้เดิน-วิ่งบนเส้นทางที่สวยงามรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ได้ชื่นชมกับคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และทิวทัศน์ยามเช้าของกรุงเทพมหานครตลอดระยะทาง
และไฮไลท์พิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนงานวิ่งไหนๆ ของก้าวด้วยธรรมก็คือ เหรียญรางวัลโดยปีนี้ เป็นเหรียญที่อัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานในวัดบวรนิเวศวิหาร มาปรากฏที่ด้านหลังของเหรียญ นับเป็นอีกหนึ่งเหรียญที่ควรค่าแก่การมีไว้เป็นอย่างยิ่ง และความพิเศษยังไม่หมดเพียงเท่านี้ นักเดิน-วิ่งที่เข้าจุดเส้นชัยยังได้รับการพรมน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่นำมาจากวัดดังทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 19 วัด และยังประกอบพิธีปลุกเสกน้ำพระพุทธมนต์ ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร นับว่าเป็นสิริมงคลของผู้ที่มาวิ่งในงานก้าวด้วยธรรมมากๆ ที่มีโอกาสสัมผัสน้ำมนต์จาก 19 วัดดัง ที่ผ่านพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์แบบเต็มรูปแบบ
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
6 สาเหตุ “ตากุ้งยิง” ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
ใครที่เคยเป็นตากุ้งยิงอาจจะสงสัยว่ามีสาเหตุจากอะไร จริงๆ แล้วตากุ้งยิงมีสาเหตุที่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้โดยที่เราอาจไม่รู้ตัว ลองมาเช็กกัน
สาเหตุตากุ้งยิง
รศ.พญ.เกวลิน เลขานนท์ สาขาวิชาต้อกระจกและการผ่าตัดแก้ไขสายตา ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลถึง ตากุ้งยิง ว่าเกิดจากการที่ต่อมไขมันที่เปลือกตาอักเสบติดเชื้อ โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดตากุ้งยิงได้ มีดังนี้
- สัมผัสตาด้วยมือที่ไม่สะอาด
- ใส่คอนแทคเลนส์
- ใช้เครื่องสำอางที่ไม่สะอาด หรือล้างเครื่องสำอางออกจากดวงตาไม่หมด
- เคยมีเปลือกตาอักเสบ
- เคยมีประวัติเป็นตากุ้งยิงมาก่อน
- มีภาวะภูมิคุ้มกันลดลง เช่น เป็นโรคเบาหวาน เป็นต้น
วิธีการรักษาตากุ้งยิงด้วยตัวเอง
- ประคบอุ่นที่เปลือกตา 5-10 นาที วันละ 3-5 ครั้ง
- ล้างมือ และล้างหน้าให้สะอาด
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสเปลือกตาส่วนที่เป็นตากุ้งยิง
- ไม่บีบ หรือกดระบายเอาหนองจากตากุ้งยิงออกด้วยตัวเอง
- หากอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบพบจักษุแพทย์ เพื่อตรวจ และรักษาเพิ่มเติมด้วยยาปฏิชีวนะ หรือเจาะระบายหนองออก
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
สำนวน/สแลงที่ใช้บอกว่า “ใจเย็นก่อนนะ”
มาเข้าเรื่องกันดีกว่า ถ้าเรารู้แล้วว่ากำลังหัวร้อน อยากบอกให้เย็นลง ทำใจให้สบาย แต่ไม่อยากพูดว่า calm down อย่างเดียว จะพูดยังไงได้บ้างนะ ไปพักชมสาระบ้างดีกว่า ก่อนจะกลับไปดูโหนกระแสกัล let’s go
Cool your jets/pits!
Cool your jets, the result won’t be as bad as they’re predicting.
ใจเย็นก่อน ผลลัพธ์มันอาจไม่แย่เท่าที่พวกเขาทำนายไว้ก็ได้
Give it a rest!
I can’t stand listening to it anymore. Just give it a rest!
ทนฟังต่อไม่ไหวละ พักเถอะ
Hold your horses
Hey, just hold your horses. Take time to think about it more.
เฮ้ เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งใจร้อน ใช้เวลาคิดให้มากกว่านี้ดูก่อนเถอะ
Keep your shirt on
Nothing happened. So, Keep your shirt on.
ไม่มีอะไรเกิดขึ้นสักหน่อย ใจเย็นไว้เถอะ
Loosen up!
He seemed quite nervous at the beginning, but he loosened up when we talked to him.
เขาดูกังวลนิดหน่อยในตอนแรก แต่ก็ผ่อนคลายลงในตอนที่พวกเราเข้าไปคุยด้วย
Take it easy
Take it easy, dude. It’ll be better if you trust in your co-workers abilities.
ใจเย็นๆเพื่อน มันจะต้องดีขึ้นแน่นอนถ้าแกเชื่อในศักยภาพของเพื่อนร่วมงาน
Take a deep breath.
We’re about to do this exam. Take a deep breath!
พวกเรากำลังจะทำข้อสอบนี้กันละ หายใจเข้าลึกๆ ฮึบ!
Simmer down
No one was trying to annoy you. Simmer down and go back home then.
ไม่มีใครพยายามทำให้เธอรำคาญใจหรอก ใจเย็นๆแล้วกลับบ้านไปก่อนละกัน
Take a chill pill!
The police officer told an offender to take a chill pill and answer the questions.
เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกผู้ต้องหาให้ใจเย็นๆและตอบคำถามซะ
Relax
I know everything sucks but you need to relax.
ฉันรู้นะว่าทุกอย่างมันห่วยไปหมด แต่แกต้องใจเย็นๆอ่ะ
Chilled/chilled out
I’m feeling chilled. There is nothing to worry about.
ฉันรู้สึกสบายใจจัง มนไม่มีอะไรน่าเป็นกังวลเลย
เท่านี้ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาแล้วใช่มั้ยคะ เอาไว้บอกตัวเองเวลาตามข่าวแล้วหัวร้อนกันนะคะ ยังไงก็ใจเย็นๆกันน้า แอดเป็นห่วง
ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th
กล้องดูดาวยุโรปจับภาพเบิกทางภารกิจสำรวจ ‘จักรวาลอันมืดมิด’
นักดาราศาสตร์ในยุโรปเปิดเผยภาพชุดจากกล้องยูคลิดที่ออกแบบมาเพื่อศึกษาความลับของสสารและพลังงานมืด (dark matter/dark energy) ซึ่งเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นและเชื่อกันว่า เป็นองค์ประกอบ 95% ของจักรวาล ตามรายงานของรอยเตอร์ในวันอังคาร
องค์การอวกาศยุโรป หรือ ESA ที่ร่วมทำภารกิจสำรวจอวกาศกับองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ นาซ่า ระบุว่า ภาพชุดดังกล่าวถือว่ามีความคมชัดที่สุดในหมู่ภาพประเภทเดียวกัน และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของกล้องโทรทรรศน์อวกาศยูคลิด (Euclid) ที่สามารถมองเห็นกาแล็กซีเป็นพันล้านกาแล็กซี ซึ่งอยู่ห่างออกไปได้ถึงหนึ่งหมื่นล้านปีแสง
ESA ระบุว่า ภาพชุดดังกล่าวครอบคลุม 4 พื้นที่ของจักรวาลที่อยู่ใกล้เคียงกันกับโลกของเราอยู่ ซึ่งรวมถึง ภาพของกาแล็กซีจำนวน 1,000 แห่งที่อยู่ในกระจุกกาแล็กซีเพอร์เซอุสที่อยู่ห่างไป 240 ล้านปีแสง และมีพื้นหลังเป็นกาแล็กซีอีกมากกว่า 100,000 แห่ง
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า โครงสร้างที่ดูเหมือนมีการจัดวางอย่างดีและกินพื้นที่มหาศาล อย่างเช่น กระจุกกาแล็กซีเพอร์เซอุส (Perseus cluster) นั้น เกิดขึ้นได้เพราะสิ่งที่มองไม่เห็นที่เรียกว่า สสารมืด
ผู้อำนวยการ ESA แคโรล มุนเดล กล่าวกับรอยเตอร์ว่า “เราคิดว่าเราเข้าใจเพียงแค่ 5% ของจักรวาล นั่นคือสิ่งที่เรามองเห็น” และกล่าวด้วยว่า “เราบอกว่าส่วนที่เหลือของจักรวาลนั้นมืด เป็นเพราะมันไม่ได้ผลิตแสงในสเปกตรัมคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าทั่วไป แต่เรารู้ว่ามันมีตัวตน เพราะเห็นผลกระทบของตัวมันจากสิ่งที่เรามองเห็นได้”
รอยเตอร์รายงานว่า ตัวอย่างสัญญาณที่เชื่อว่า บ่งชี้ถึงการมีอยู่ของพลังงานมืด คือ การหมุนตัวของกาแล็กซีที่เร็วกว่าที่นักวิทยาศาสตร์คาดไว้
ขณะที่ สสารมืดเป็นสิ่งที่อธิบายได้ยาก คำว่า ‘พลังงานมืด’ นั้นยิ่งเป็นปริศนามากยิ่งกว่า เพราะเพิ่งมีการตั้งสมมติฐานการมีอยู่ของมันในช่วงทศวรรษที่ 1990 ผ่านงานการศึกษาการระเบิดของดาวฤกษ์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ซูเปอร์โนวา” (supernova) โดยงานศึกษาดังกล่าวทำให้นักวิทยาศาสตร์อเมริกันสามรายได้รับรางวัลโนเบลไปในปี 2011
แผนที่จักรวาล 3 มิติ
หลังมีการแก้ไขปัญหาทางเทคนิคต่าง ๆ ของกล้องโทรทรรศน์ยูคลิดเสร็จแล้ว อุปกรณ์นี้จะทำการสร้างแผนที่สามมิติที่ครอบคลุมพื้นที่ 3 ใน 4 ของท้องฟ้าเพื่อช่วยสังเกตความเป็นไปที่เกี่ยวข้องกับจักรวาลอันมืดมิดด้วย
ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์หวังว่า ข้อมูลความรู้ใหม่ ๆ จากกล้องนี้ที่เกี่ยวกับพลังงานและสสารมืด จะช่วยให้ทุกฝ่ายเข้าใจเกี่ยวกับการก่อตัวและการกระจายตัวของกาแล็กซีไปตามพื้นที่ที่เรียกว่าเป็น “เส้นใยจักรวาล” (Cosmic Web) ต่อไป
นอกจากภาพชุดจักรวาลที่กล่าวมาแล้ว ESA ยังได้เผยแพร่ภาพอื่น ๆ เช่น ภาพของกาแล็กซีรูปทรงไม่ปกติ ที่เชื่อว่าเป็นโครงสร้างฐานรากของจักรวาลและกาแล็กซีรูปทรงเกลียวที่คล้ายกับกาแล็กซีที่เราอาศัยอยู่ ซึ่งบ่อยครั้งมักถูกบดบังด้วยแสงและฝุ่นผงจากทางช้างเผือก
กล้องโทรทรรศน์อวกาศยูคลิด คือ ตัวอย่างของการที่ยุโรปต้องพึ่งพาหน่วยงานนอกพื้นที่ในการดำเนินภารกิจ เพราะการนำยูคลิดขึ้นสู่วงโคจรนั้น เดิมทีต้องใช้ยานอวกาศโซยุซของรัสเซีย ก่อนจะต้องเปลี่ยนมาใช้บริการจรวดฟัลคอน 9 ของบริษัทสเปซเอ็กซ์แทน เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ย่ำแย่ลง หลังรัสเซียรุกรานยูเครน
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
สถาปนิกและนักออกแบบชาวไทยเตรียมเจิดจรัสพร้อมคว้าโอกาสใหม่ ๆ บนเวทีระดับโลก ในงาน World Architecture Festival (WAF)
ลิกซิล จับมือ WAF จัดงาน “World Architecture Festival 2023: An intimate evening with WAF” ขยายโอกาสระดับโลกให้กับชุมชนสถาปนิกและนักออกแบบชาวไทย
กรุงเทพฯ ประเทศไทย – โกรเฮ่ (GROHE) หนึ่งในพาวเวอร์แบรนด์ของลิกซิล จับมือ World Architecture Festival (“WAF”) จัดงาน “World Architecture Festival 2023: An intimate evening with WAF” เพื่อเป็นเวทีประชาสัมพันธ์และหารือเกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆ ของ WAF ร่วมกับตัวแทนจากชุมชนสถาปนิกและนักออกแบบในประเทศไทยและสื่อมวลชนไทย
งานครั้งนี้จัดขึ้นที่ LIXIL Experience Center ในกรุงเทพฯ โดยมีแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ ชนะ สัมพลัง นายกสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ (ASA) กรกช คุณาลังการ นายกสมาคมมัณฑนากรแห่งประเทศไทย (TIDA) และมังกร ชัยเจริญไมตรี นายกสมาคมภูมิสถาปนิกประเทศไทย (TALA)
ในทุก ๆ ปี งาน WAF และ Inside World Festival of Interiors จะจัดขึ้นพร้อมกัน ซึ่งเป็นงานระดับโลกที่เป็นเวทีพบปะและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของสถาปนิกและนักออกแบบชั้นนำของโลก ทั้งยังเป็นงานประกาศผลรางวัล เวทีเสวนา การจัดแสดงนิทรรศการ และกิจกรรมเสริมที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่เพียงเท่านั้น กิจกรรมตลอดทั้งสามวันยังเอื้อต่อการสร้างเครือข่ายและขยายโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้เข้าร่วมงานกว่า 2,000 คนจากกว่า 70 ประเทศ
ออดรีย์ โหย่ว (Audrey Yeo) ลีดเดอร์ ประเทศไทย และกลุ่มประเทศอินโดไชน่า, ธุรกิจเทคโนโลยีการใช้น้ำลิกซิล เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีการใช้น้ำ เรารู้สึกยินดีที่มีเวทีขนาดใหญ่ที่สามารถนำไปสู่ผลลัพธ์และเปิดโอกาสใหม่ ๆ ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์และโซลูชันของเราเข้าถึงชีวิตประจำวันของผู้คนมากกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลก ด้วยเหตุนี้ เราจึงนำหลักคิดและประสบการณ์ดังกล่าวไปปรับใช้ในความร่วมมือกับ WAF เพื่อสร้างแพลตฟอร์มระดับโลกที่จะช่วยยกระดับการพูดคุยเกี่ยวกับแนวคิดและเทรนด์ที่ช่วยกระตุ้นความคิด การขยายเครือข่ายธุรกิจ และโอกาสสำหรับชุมชนสถาปัตยกรรมและการออกแบบในประเทศไทยและทั่วทั้งภูมิภาค”
งานประกาศรางวัลที่มีการนำเสนอ และรับฟังการวิพากษ์วิจารณ์ผลงานกันแบบสด ๆ ในรูปแบบที่ไม่ซ้ำใครของ WAF จะแสดงแนวทางปฎิบัติชั้นนำของเวทีการประกวดระดับนานาชาติ, โครงการใหม่ ๆ ที่เยี่ยมยอด ไปจนถึงการอภิปรายในประเด็นสำคัญเร่งด่วน ในวันสุดท้ายของเทศกาล ผู้ได้รับรางวัลประเภทต่าง ๆ จากรางวัลทั้ง 44 ประเภทจะได้เข้าไปแข่งขันกันเพื่อช่วงชิงรางวัลสูงสุด ได้แก่ World Building of the Year, Landscape of the Year, Future Project of the Year และ Interior of the Year ตลอดจนรางวัลพิเศษมากมาย ซึ่งรวมถึงรางวัล GROHE Water Research Prize ที่มอบให้เพื่อเป็นเกียรติกับผลงานออกแบบ ล้ำสมัยที่เปี่ยมด้วยจินตนาการในการแก้ไขปัญหาสำคัญ ๆ ของโลก โดยจะมอบให้กับโครงการต่าง ๆ จากรายชื่อผู้เข้ารอบหลัก
พอล ฟินช์ (Paul Finch) ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการ WAF กล่าวว่า “ประเทศไทยยังคงสร้างความประทับใจด้วยคุณภาพของผลงานที่ส่งเข้าประกวดในปีนี้ ในปีนี้ประเทศไทยก้าวขึ้นมาเป็น 1 ใน 10 ประเทศที่มีผลงานผ่านเข้ารอบสุดท้ายเพื่อชิงรางวัล WAF มากที่สุดซึ่งเป็นการแข่งขันกับสุดยอดผลงานสถาปัตยกรรมที่สร้างแรงบันดาลใจจากทั่วโลก เราขอชื่นชมความพยายามของทุกท่านและหวังว่าจะได้เห็นจำนวนผลงานเข้ารอบที่มากขึ้นจากสถาปนิกและนักออกแบบชาวไทยเพื่อที่พวกเขาจะได้รับประโยชน์จากการเข้าร่วมเวทีประกวดงาน WAF”
ข่าวการประกวดของ WAF ได้รับการเผยแพร่ไปทั่วโลกมากกว่า 350 ข่าวในแต่ละปี โดยสำนักข่าวระดับโลกไม่ว่าจะเป็น CNN, AI Jazeera, BBC, The New York Times, Domus Web, ArchDaily และอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งนี้ผู้ชนะรางวัลจะได้รับความสนใจจากสื่อซึ่งนั่นจะช่วยเพิ่มการเป็นที่รู้จัก เพิ่มการร่วมมือกันในการทำงาน ไปจนถึงการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจอีกมากมาย
นอกจากนี้ ในงานยังจัดให้มี Festival Hall พื้นที่นิทรรศการที่จัดแสดงผลงานการออกแบบล่าสุดของบริษัทและองค์กรระดับโลก และยังมีพื้นที่ให้กลุ่มคนในสายอาชีพนี้ได้มาพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น สำหรับงาน WAF ปีนี้ ลิกซิลจะเปิดตัวโซลูชัน GROHE SPA สำหรับวางจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยคอลเลกชันที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ พร้อมมาตรฐานและคุณภาพสูงสุดของวัสดุและรายละเอียดทั้งหมด เพื่อมอบประสบการณ์การอาบน้ำที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคลอย่างรอบด้านและไร้ขีดจำกัด
“ลิกซิลมีความยินดีที่ได้จัดกิจกรรมพิเศษนี้ร่วมกันกับ WAF เพื่อขยายโอกาสระดับโลกมายังชุมชนสถาปนิกและนักออกแบบภายในชาวไทยให้พวกเขาได้แสดงความสามารถ สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก และสั่งสมประสบการณ์ในวิชาชีพ เราขอขอบคุณทุกการสนับสนุนจากสมาคมสถาปนิกและนักออกแบบชั้นนำของประเทศไทย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะมีบทบาทในการสร้างการมีส่วนร่วมและส่งเสริมศักยภาพของสถาปนิกและนักออกแบบภายในของไทย” ออดรีย์ โหย่ว กล่าวเสริม
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ World Architecture Festival 2023 และรางวัล WAF Awards ได้ที่ www.worldarchitecturefestival.com
ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th
สุโขทัย เตรียมจัดงานลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ อย่างยิ่งใหญ่ตระการตา 10 วัน 10 คืน
นายสุชาติ ทีคะสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย เชิญชวนนักท่องเที่ยวเที่ยวงานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประจำปี 2566 ซึ่งในปีนี้ได้กำหนดจัดงาน ระหว่างวันที่ 18-27 พฤศจิกายน 2566 รวม 10 วัน 10 คืน เพื่ออนุรักษ์ สืบสานประเพณี และวัฒนธรรมอันดีงาม ที่มีเอกลักษณ์ความเป็นเมืองมรดกโลก รวมทั้งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของ จ.สุโขทัย
โดยการจัดงานในปีนี้มุ่งเน้น นำเสนอ Soft Power ของจ.สุโขทัย อีกทั้งในปีนี้ งานลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ได้รับรางวัล Gold Prize Festival & Event City งานเทศกาลที่มีศักยภาพ (ธีมงานกลางคืน) ประจำปี 2023 จากสมาคมการจัดงานอีเวนท์และเทศกาลนานาชาติหรือ International Festival & Events Association (IFEA) ภูมิภาคเอเชีย (ASIA Chapter) ซึ่งเป็นการยืนยันความมีเสน่ห์และศักยภาพของเทศกาลลอยกระทงที่เป็นสีสันยามค่ำคืนที่ได้รับการยอมรับจากสากล ได้เป็นอย่างดี
ภายในงาน จังหวัดสุโขทัยได้จัดให้มีมีการแสดงพลุ ตะไล ไฟพะเนียง การแสดงแสงสีเสียงความรุ่งเรื่องของเมืองสุดขทัย ขบวนอัญเชิญพระประทีปพระราชทาน ขบวนวัฒนธรรม 9 อำเภอ การประกวดกระทงเล็ก กระทงใหญ่ การแสดงโขน การแสดงตำนานท้าวศรีจุฬาลักษณ์ การประกวดนางนพมาศ การแสดงนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม และการจำหน่ายสินค้าหัตถกรรม ตลาดแลกเบี้ยที่จำลองวิถีชีวิตการใช้เงินตราในสมัยสุโขทัย และกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย โดยได้ความร่วมมือจากหน่วยงานหลายภาคส่วนของจังหวัดร่วมกันจัดงานในครั้งนี้ เพื่อถ่ายทอดมรดกสีสันแห่งวัฒนธรรมให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติได้สัมผัสถึงมนต์เสน่ห์แห่งอารยธรรม ซึ่งถือเป็นการอนุรักษ์สืบสานประเพณีอันดีงามของเมืองมรดกโลก รวมทั้งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดสุโขทัย โดยคาดว่าการจัดงานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ สุโขทัย ที่จัดขึ้น ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ระหว่างวันที่ 18-27 พฤศจิกายน2566 รวม 10 วัน 10 คืน จะสามารถสร้างร้ายได้โดยรวมในจังหวัดสุโขทัยไม่ต่ำกว่า 1,000ล้านบาท
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 13/11/2566
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 32,950.00 | 33,050.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 2,134.00 | 32,351.44 | 33,550.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,920.60 | 29,116.30 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,707.20 | 25,881.15 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 960.00 | 14,553.60 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 747.00 | 11,324.52 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,211.00 | 33,518.76 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 13/11/2566
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 36.25 | 36.25 | 36.55 | 36.25 | 36.25 | 36.25 | 36.25 | 36.25 | 36.25 | 36.25 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 34.48 | 34.48 | 34.78 | 34.48 | 34.48 | 34.48 | 34.48 | 34.48 | 34.48 | 34.48 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 34.14 | 34.14 | 34.44 | 34.14 | 34.14 | – | 34.14 | 34.14 | 34.14 | 34.14 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 34.29 | 34.29 | – | – | – | – | – | – | – | 34.29 |
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม | 44.04 | 47.94 | 47.24 | 47.94 | – | – | – | – | – | 44.04 |
เบนซิน 95 | 44.04 | – | – | – | 45.21 | – | 44.54 | 44.19 | – | 44.04 |
ดีเซล B7 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 |
ดีเซล | 29.94 | 29.94 | – | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 |
ดีเซล B20 | 29.94 | 29.94 | – | – | 29.94 | – | – | – | – | 29.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 41.54 | 43.64 | 44.64 | 43.64 | 42.94 | – | – | – | – | 41.54 |
แก๊ส NGV | 19.59 | 19.59 | – | – | – | – | – | – | – | 19.59 |