สาระน่ารู้ประจำวันที่ 13 มิถุนายน 2567

อสังหาฯไตรมาส2ส่อวิกฤติ!ขาย-โอนดิ่งต่อแห่เบรกโครงใหม่รักษาสภาพคล่อง

แม้รัฐบาลจะออก 5 มาตรการกระตุ้นอสังหาฯต้นเดือน เม.ย.แต่ภาพรวมตลาดไม่คึกคักเท่าที่ควร ทั้งแนวโน้ม ไตรมาส2ส่อวิกฤติ!ขาย-โอนดิ่งจากไตรมาสแรกติดลบยกแผง! ส่งผลให้ดีเวลลอปเปอร์ชะลอเปิดตัวโครงการ เพื่อรักษาสภาพคล่อง

พรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ไตรมาสแรกที่ผ่านมา  ตัวเลขยอดขาย ยอดโอน ยอดเปิดตัว ตกลงอย่างรุนแรง แดงเต็มกระดาน! โดยเฉพาะทาวน์เฮ้าส์ต่ำสุดในรอบ 12 ปี หากเปรียบเป็นคนป่วย ก็ป่วยหนัก และมีหลายโรคแทรก ส่งผลให้แนวโน้มไตรมาส 2 อาจติดลบหนักกว่าไตรมาสแรก เพราะปัญหาหลัก คือ คนไม่มีกำลังซื้อ และผู้ที่จะแก้ปัญหานี้ได้ก็คือ รัฐบาล

“5 มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่ออกมาไม่ช่วยกระตุ้นตลาดได้ตามเป้าหมาย ยกตัวอย่าง บ้าน BOI ที่ขยับราคาเป็น 1.5 ล้านบาท จาก 1.2 ล้านบาท ไม่มีใครอยากทำเพราะขอกู้เงินพัฒนาโครงการธนาคารไม่ให้ หรือ ต่อให้พัฒนาโครงการออกมาขายได้แต่โอนไม่ได้”

ตัวเลขโอนที่ตกลง เพราะธนาคารไม่อนุมัติสินเชื่อ ลูกค้าไม่มีเงินโอน ซึ่งมาตรการที่รัฐบาลออกมาส่วนใหญ่เป็นการกระตุ้นซัพพลาย แต่ไม่มีมาตรการช่วยเหลือด้าน “ดีมานด์”  ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ที่ฝั่งดีมานด์!  ที่รัฐบาลสามารถช่วยได้ง่ายมากคือ ทำให้เศรษฐกิจดี จะทำให้ให้คนมีเงินมาจับจ่ายใช้จ่าย ถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่รัฐบาลต้องเร่งทำ เพื่อให้ทุกธุรกิจเดินต่อไปได้

“อยากจะให้ธนาคาร สถาบันการเงินต่างๆ  ยืดหยุ่นให้กลุ่มคนที่มีศักยภาพซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียมได้มากขึ้น เพราะถ้าไม่ปล่อยลูกค้ารายย่อย ลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จะไปไม่รอดเหมือนกัน สุดท้ายจะกลายเป็นหนี้เสียโครงการกลายเป็นเรื่องใหญ่ตามมา เพราะอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจที่มีซัพพลายเชนจำนวนมาก”

อย่างไรก็ดี สภาพการณ์เช่นนี้ดีเวลลอปเปอร์ควรทบทวน “ชะลอ” การลงทุน หรือเปิดตัวโครงการใหม่ เพื่อลดความเสี่ยง รักษาสภาพคล่องไว้จนกว่าสถานการณ์กำลังซื้อ ตลาดปรับตัวดีขึ้น ค่อยพัฒนาโครงการใหม่ออกมา มิเช่นนั้นอาจเผชิญผลกระทบรุนแรงสู่ภาวะล้มหายตายจากไปก่อนที่เศรษฐกิจฟื้นตัว

อิสระ บุญยัง ประธานคณะกรรมการอสังหาริมทรัพย์ออกแบบและก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ต้องระมัดระวังการพัฒนาโครงการมากขึ้นจากปัจจัยลบที่รุมเร้าตลาด  หนึ่งในนั้นคือ การชำระคืน “หุ้นกู้” ที่จะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ประกอบกับภาวะตลาดหุ้นร่วง! 

“เวลานี้เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว แม้ท่องเที่ยวจะดีขึ้น แต่ภาคครัวเรือนยังคงมีปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง ลากยาวมาจากวิกฤติโควิด-19 กระทบทุกธุรกิจโดยเฉพาะรายกลางและรายย่อย ความเชื่อมั่นทางการบริโภคลดลง สะท้อนจากตัวเลขยอดขาย ยอดโอน การเปิดตัวโครงการใหม่ในไตรมาสแรกต่ำสุดรอบ 6 ปี”

ในส่วนของภาคธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนในโครงการระยะยาว มีช่องทางดีลกับสถาบันการเงิน หรือแม้ว่าการออกหุ้นกู้จะเป็นเรื่องง่าย แต่กรณีที่โครงการที่มีระยะเวลายาวนานกว่าหุ้นกู้ การใช้สินเชื่อจากสถาบันการเงินมีความจำเป็นที่ต้องทำควบคู่กัน เพราะกรณีเศรษฐกิจมีปัญหาสามารถเจรจาได้กับผู้ประกอบการรายเดียว คือ สถาบันการเงินที่มีความยืดหยุ่น แต่หากเป็นหุ้นกู้มีลูกค้าหลากหลายมาก ดังนั้น ต้องบาลานซ์ระหว่างสินเชื่อจากสถาบันการเงินกับการออกหุ้นกู้

ทายาท กาญจนะจิตรา นายกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์ระยอง กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ยังไม่ดีขึ้น ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวนี้กระทบต่อซัพพลายเออร์ที่เกี่ยวข้องการดำเนินธุรกิจหยุดชะงักไปด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ในฐานะผู้ประกอบการสิ่งที่ต้องระมัดระวัง ประการแรก คือ กระแสเงินสด (Cash Flow) รองลงมา คือ ทำตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ลูกค้ารับรู้และจดจำแบรนด์

“แม้ว่าปลาในบ่อจะเหลือน้อยลงแต่ต้องจับปลาให้ได้ถึงจะอยู่รอดได้”

ถัดมาคือ การบริหารจัดการสต็อกให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด บางอย่างยังไม่จำเป็นต้องซื้อก็ชะลอไว้ก่อนจนกว่าจะมีลูกค้าเข้ามาค่อยทำ อาทิ ชะลอการซื้อที่ดิน เน้นพัฒนาที่ดินเดิมที่มีอยู่ 

ปัจจุบันตลาดอสังหาริมทรัพย์จังหวัดระยอง กลุ่มระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ได้รับผลกระทบจากการถูกปฏิเสธสินเชื่อสูง 60-70% ส่วนระดับราคา 2-3 ล้านบาท ยอดปฏิเสธสินเชื่อ 40-50% เป็นผลมาจากหนี้เสีย แต่ถ้าเป็นบ้านระดับราคาสูงกว่า 3 ล้านบาทขึ้นไปยังไม่มีปัญหาการปฏิเสธสินเชื่อ เพราะคนกลุ่มนี้มีรายได้สูง ส่วนใหญ่เป็นวิศวกร ช่างที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ซึ่งเป็นแรงงานที่ย้ายเข้ามาอยู่ในระยอง

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


ที่หายาก!เพอร์เฟคลุยไพรเวทเรสซิเดนซ์3ชั้นแบรนด์”เพนตัน”ย่านอารีย์

นับวันที่หายากขึ้น เพอร์เฟคลุยไพรเวทเรสซิเดนซ์3 ชั้นภายใต้แบรนด์”เพนตัน”ในย่านอารีย์ – สุทธิสารจำนวน 12 ยูนิต ราคา 59 – 95 ล้านเพื่อรองรับทั้งด้านธุรกิจและการใช้ชีวิตของคนทุกวัย

นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ดินทำเลใจกลางเมืองปัจจุบันหายากมากขึ้น ขณะที่ยังมีกลุ่มลูกค้าซูเปอร์ลักซ์ชัวรีที่ต้องการอยู่อาศัยใจกลางเมือง ซึ่งบริษัทฯ เล็งเห็นถึงโอกาสในการพัฒนาโครงการแนวราบบนแปลงที่ดินทำเล  กรุงเทพฯ ชั้นใน ซึ่งถือเป็นสินค้าหายาก

เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่สามารถรองรับทั้งด้านธุรกิจและการใช้ชีวิตของครอบครัวขนาดใหญ่ที่มีคนหลายเจนเนอเรชั่น ด้วยโครงการ“เพนตัน อารีย์ – สุทธิสาร” ซึ่งตั้งอยู่บนทำเลที่นับวันยิ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้นและพร้อมยกระดับมาตรฐานการอยู่อาศัยของการใช้ชีวิตเมืองได้อย่างสมบูรณ์แบบ 

โครงการ “เพนตัน อารีย์ – สุทธิสาร” ทุกการอยู่อาศัยมีความเป็นส่วนตัวสูง ด้วยจำนวนเพียง 12 ยูนิตรวมมูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท ประกอบด้วย โฮมออฟฟิศ และ บ้านเดี่ยว ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ ซึ่งไฮไลท์ของโครงการอยู่ที่ ไพรเวท เรสซิเดนซ์ 3 ชั้น มีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ GRAHAM พื้นที่ใช้สอยขนาด 690ตร.ม. หน้าบ้านกว้างพิเศษถึง 27 ม. และ LAUREL พื้นที่ใช้สอยขนาด 479 – 508 ตร.ม. ดีไซน์สไตล์ MODERN URBAN LUXURY หรูหราและมีความร่วมสมัย

จุดเด่น คือ การออกแบบสเปซแต่ละส่วนเชื่อมถึงกัน เพื่อให้สามารถขยายประโยชน์ใช้สอยได้เต็มพื้นที่ สามารถครอบคลุมความต้องการของคนทุกวัยในครอบครัว พื้นที่ชั้นหนึ่งรองรับการปรับเป็นห้องสำหรับผู้สูงอายุ พร้อมด้วยฟังก์ชั่น Wheelchair Friendly ทางลาดสำหรับรถเข็น โถงเพดาน Double Volume สูงถึง 7 ม. และมีกระจกทรงสูง เพิ่มความโปร่งโล่ง เปิดรับแสงธรรมชาติได้อย่างทั่วถึงทุกพื้นที่ ภายในบ้านมีสวนพักผ่อนส่วนตัว มีลิฟท์ส่วนตัวทุกหลังสระว่ายน้ำระบบเกลือพร้อม Jacuzzi

นอกจากนี้ ยังเลือกใช้นวัตกรรม Stone Surface ตกแต่งผนังด้วยลวดลายหินธรรมชาติเพิ่มความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ให้กับบ้านแต่ละหลัง คัดสรรอุปกรณ์แบรนด์ชั้นนำ เช่น ประตูทางเข้าบ้าน Tostem ระบบรักษาความปลอดภัย SECOM จากประเทศญี่ปุ่น และยังสนับสนุนการอยู่อาศัยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมีการติดตั้งเครื่อง EV Charger สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า และระบบรองรับการติดตั้งโซล่าเซลล์ 

ทำเลของโครงการ เพนตัน อารีย์ – สุทธิสาร ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีสะพานควาย  BTS สถานีอารีย์  MRT สถานีบางซื่อ และใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน ทั้งยังโดดเด่นด้วยศักยภาพทำเลที่รองรับการใช้ชีวิตได้อย่างครบวงจรระดับ Medical Center ใกล้กับโรงพยาบาลชั้นนำหลายแห่ง เช่น โรงพยาบาลวิมุต โรงพยาบาลเปาโล โรงพยาบาลพญาไท2 โรงพยาบาลวิชัยยุทธ รวมทั้งยังมีห้างสรรพสินค้า แหล่งไลฟ์สไตล์ และโรงเรียนนานาชาติด้วย 

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 13มิ.ย. “แข็งค่า”ที่ระดับ 36.62 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทแข็งค่าอย่างจำกัด มองกรอบวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.45-36.70 บาท/ดอลลาร์ ควรระวังความผันผวนในตลาดเงิน เงินดอลลาร์สามารถรีบาวด์ขึ้นบ้าง ตามแรงหนุนจาก Dot Plot ใหม่ของเฟด

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 13มิ.ย. 2567ที่ระดับ  36.62 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  36.69 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน  พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า โมเมนตัมการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทตั้งแต่ช่วงทยอยรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ อาจชะลอลงบ้าง

หลังเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณพร้อมทยอยลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง (หรือมากกว่า) ตามที่เราได้ประเมินไว้ ทำให้ เงินดอลลาร์ก็อาจยังไม่ได้อ่อนค่าลงต่อเนื่องได้ จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม

ขณะเดียวกัน เรามองว่า บรรดานักลงทุนต่างชาติก็อาจยังไม่รีบกลับเข้าซื้อสินทรัพย์ไทยชัดเจน จนกว่าความวุ่นวายการเมืองในประเทศจะคลี่คลายลงไปบ้าง ซึ่งต้องไปรอลุ้นการพิจารณาคดีต่างๆ ของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 18 มิถุนายน

ขณะเดียวกัน เรามองว่า บรรดาเล่นในตลาด อาทิ ผู้นำเข้า และผู้เล่นต่างชาติ ก็อาจใช้จังหวะที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นทดสอบโซนแนวรับ 36.50 บาทต่อดอลลาร์ (แถวเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน) ในการทยอยเข้าซื้อเงินดอลลาร์บ้าง

ทำให้เงินบาทก็อาจยังติดโซนแนวรับในช่วงดังกล่าวไปก่อน อย่างไรก็ดี หากราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นต่อได้บ้าง ก็อาจพอช่วยหนุนให้เงินบาทสามารถแข็งค่าขึ้นบ้าง แต่การแข็งค่าก็จะเป็นไปอย่างจำกัด

อนึ่ง ควรระวังความผันผวนของตลาดการเงิน ในช่วงตลาดทยอยรับรู้ รายงานดัชนี PPI ของสหรัฐฯ และยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) เพราะหากออกมาสูงกว่าคาด หรือ ดีกว่าคาด (ในส่วนของยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน)

อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดยังคงกังวลต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดได้บ้างและอาจทยอยกลับมาเชื่อว่า เฟดจะสามารถลดดอกเบี้ยได้เพียง 1 ครั้งในปีนี้ ส่งผลให้ เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อาจปรับตัวสูงขึ้น กดดันเงินบาท รวมถึงราคาทองคำได้ไม่ยาก

เราคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทยังมีโอกาสเคลื่อนไหวผันผวนไปตาม การเปลี่ยนแปลงไปมาของปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อทิศทางค่าเงินบาท อย่าง มุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ทำให้ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.45-36.70 บาท/ดอลลาร์

โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ผ่านมา ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนสูง (แกว่งตัวในช่วง 36.40-36.72 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะแข็งค่าขึ้นเร็วและแรง ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของราคาทองคำ

หลังรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ ในเดือนพฤษภาคม ได้ชะลอลงสู่ระดับ 3.3% น้อยกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อย ทำให้ผู้เล่นในตลาดกลับมามีความหวังว่า เฟดอาจทยอยลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้งในปีนี้ ก่อนที่เงินบาทจะพลิกกลับมาอ่อนค่าลงต่อเนื่อง หลังคาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบาย หรือ Dot Plot ใหม่ ในผลการประชุมเฟดล่าสุด สะท้อนว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้ (จาก 3 ครั้ง ใน Dot Plot การประชุมเดือนมีนาคม) ซึ่งภาพดังกล่าวก็หนุนให้เงินดอลลาร์รีบาวด์ขึ้นมาบ้าง ส่วนราคาทองคำก็พลิกกลับมาปรับตัวลดลง

บรรยากาศในตลาดหุ้นสหรัฐฯ พลิกกลับมาอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง ท่ามกลางความหวังว่า เฟดจะสามารถทยอยลดดอกเบี้ยลงได้ในปีนี้ ตามรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ล่าสุดที่ชะลอลงกว่าคาด

อย่างไรก็ดี คาดการณ์ดอกเบี้ยเฟด หรือ Dot Plot ล่าสุด ที่สะท้อนว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้ ก็มีส่วนกดดันให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ย่อตัวลงบ้างในช่วงท้ายตลาด ทำให้โดยรวมดัชนี S&P500 ปิดตลาด +0.85%

างฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 พลิกกลับมาปรับตัวขึ้นกว่า +1.08% หนุนโดยความหวังว่าบรรดาธนาคารกลางหลัก โดยเฉพาะเฟดจะเริ่มทยอยลดดอกเบี้ยลงได้ จากรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ล่าสุดที่ชะลอลงกว่าคาด ซึ่งภาพดังกล่าวได้หนุนให้บรรดาหุ้นกลุ่มเทคฯ และหุ้นสไตล์ Growth ฝั่งยุโรปปรับตัวขึ้นแรง อาทิ SAP +3.4%, ASML +2.8%

 ในส่วนตลาดบอนด์ รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ล่าสุดที่ชะลอลงกว่าคาด และคาดการณ์แนวโน้มดอกเบี้ยเฟด หรือ Dot Plot ใหม่ ที่แม้จะสะท้อนว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้เพียง 1 ครั้งในปีนี้ แต่ก็ยังสะท้อนว่า เฟดอาจทยอยลดดอกเบี้ยลงต่อเนื่องอีก 4 ครั้ง ต่อปี ในปี 2025-2026 ได้ส่งผลให้ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ทยอยปรับตัวลดลงสู่ระดับ 4.32%

ทั้งนี้ เรามองว่า การปรับตัวลดลงต่อของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อาจเป็นไปอย่างจำกัดในระยะสั้น จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติมที่ทำให้เชื่อได้ว่า เฟดจะสามารถลดดอกเบี้ยลงได้มากกว่า 1 ครั้งในปีนี้

นอกจากนี้ เราคงมุมมองเดิมว่า ในทุกๆ จังหวะการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ จะเป็นโอกาสในการทยอยเข้าซื้อบอนด์ระยะยาวที่น่าสนใจ เนื่องจากแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดในระยะข้างหน้ามีเพียงแค่ “คง” หรือ “ลง” มากกว่าที่เฟดจะทยอยขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง

 ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลัก โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าคาด ทว่า เงินดอลลาร์สามารถรีบาวด์ขึ้นมาได้บ้าง ตามแรงหนุนจาก Dot Plot ใหม่ของเฟดที่สะท้อนว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้เพียง 1 ครั้งในปีนี้ ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ย่อตัวลงสู่ระดับ 104.7 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 104.2-105.2 จุด)

ในส่วนของราคาทองคำ การเคลื่อนไหวของราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค.) ถือว่าผันผวนสูงพอสมควร โดยมีจังหวะปรับตัวขึ้นแรง จากรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ที่ชะลอลงกว่าคาด ก่อนที่จะเผชิญแรงขายเพิ่มเติม กดดันให้ราคาทองคำย่อตัวลงสู่โซน 2,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ รีบาวด์ขึ้นบ้าง ตาม Dot Plot ใหม่ที่สะท้อนว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้

 สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานดัชนีราคาผู้ผลิต PPI ของสหรัฐฯ ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะช่วยสะท้อนถึงแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อ PCE ที่เฟดจับตาอย่างใกล้ชิดได้

โดยหาก PPI ออกมาสูงกว่าคาด ก็อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดยังคงกังวลว่า เฟดอาจยังไม่รีบลดดอกเบี้ยและอัตราดอกเบี้ยอาจยังอยู่ในระดับสูงได้นานขึ้น ทำให้ทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้บ้าง

พร้อมกันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มตลาดแรงงานและเศรษฐกิจสหรัฐฯ นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด

ส่วนในฝั่งยุโรป ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เพื่อประเมินโอกาสที่ ECB จะทยอยลดดอกเบี้ยลงต่อเนื่องในปีนี้

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


วิธีปฐมพยาบาล “เลือดกำเดาไหล” ที่ถูกต้องควรทำอย่างไร

ตอนเด็กๆ เคยเกิดเหตุ “เลือดกำเดาไหล” กันบ้างไหมคะ? สำหรับตัวเราเองนั้นเคยเห็นแต่คนอื่นเป็น นั่งเล่นอยู่เฉยๆ ก็หยดแหมะๆ ใส่เสื้อต่อหน้าต่อตา ทำไมเลือดกำเดาถึงไหล แล้วเรามีวิธีหยุดเลือดอย่างไรถึงจะถูกต้อง Sanook! Health มีเคล็ดลับให้จำเอาไปใช้กัน 

เลือดกำเดา คืออะไร เกิดจากอะไร

เลือดกำเดา คือ เลือดที่ไหลออกมาจากโพรงจมูก ไม่ว่าจะเป็นข้างเดียว หรือทั้งสองข้าง เกิดจากเส้นเลือดภายในโพรงจมูกแตก ที่อาจเป็นเพราะเส้นเลือดในโพรงจมูกเปราะบางแตกง่ายด้วยปัจจัยต่างๆ เช่น อาการที่เปลี่ยน (ร้อนเกินไป, หนาวเกินไป, แห้งเกินไป) สั่งน้ำมูกแรงเกินไป ผลข้างเคียงจากอาการภูมิแพ้ ความดันโลหิตสูง หรือเกิดจากการแคะ แกะ เกาในโพรงจมูกอย่างรุนแรง หรือเกิดอุบัติเหตุในบริเวณที่ใกล้เคียงกับจมูก เป็นต้น 

เลือดกำเดา มีกี่ชนิด

ทราบหรือไม่ว่าเลือดกำเดาแบ่งออกเป็น 2 ชนิด

  1. เลือดที่ออกจากโพรงจมูกด้านหน้า มักเกิดขึ้นกับคนทั่วไป เกิดจากเส้นเลือดบริเวณจมูกในส่วนหน้าแตก ไม่ก่อให้เกิดอันตราย ผู้ป่วยสามารถทำให้เลือดกำเดาหยุดไหลได้เอง
  2. เลือดที่ออกจากโพรงจมูกส่วนหลัง เกิดจากเส้นเลือดบริเวณโพรงจมูกด้านหลังแตก หรือส่วนที่อยู่ลึกเข้าไปในโพรงจมูก จนอาจทำให้มีเลือดไหลลงไปในลำคอด้วย มักเกิดกับผู้สูงวัย หรือผู้ป่วยที่เป็นโรคอันตรายร้ายแรงบางอย่าง ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน 

เลือดกำเดาไหลแบบไหนที่เป็นอันตราย

หากมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน

  • เลือดกำเดาไหลที่ด้านหลังโพรงจมูกจนไหลเข้าไปในลำคอ
  • เลือดกำเดาไหลไม่หยุดแม้ผ่านไปมากกว่า 20 นาที
  • เลือดกำเดาไหลซ้ำอีกหลายครั้ง
  • เวียนศีรษะ หน้ามืด
  • กระอักเลือด หรืออาเจียนเป็นเลือด
  • มีผื่นขึ้นตามตัว
  • มีไข้สูง (มากกว่า 5 องศาเซลเซียส) 

วิธีหยุดเลือดกำเดาไหล ด้วยตัวเอง

  1. นั่งนิ่งๆ บนเก้าอี้หรือพื้น เอนตัวไปข้างหน้า และอาจก้มหน้าเพียงเล็กน้อย ไม่ต้องเงยหน้า ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้บีบจมูก แล้วหายใจทางปากราว 10 นาทีแล้วค่อยปล่อยนิ้ว หากเลือดกำเดายังไม่หยุดไหล ให้ทำตามวิธีนี้อีกครั้ง
  2. ไม่นอนราบ หากมีเลือดไหลลงคอให้บ้วนเลือดออกมา ไม่กลืนลงไป เพราะเลือดกำเดาอาจไหลเข้าไปในกระเพาะอาหารจนทำให้เกิดอาการอื่นๆ ตามมาได้ เช่น อาเจียน เป็นต้น
  3. อาจใช้ผ้าชุบน้ำเย็น หรือน้ำแข็งวางบริเวณสันจมูกขณะบีบจมูกไปด้วยก็ได้
  4. หากเลือดกำเดายังไม่หยุดไหล ให้รับพบแพทย์โดยด่วน 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ไทย VS บัลแกเรีย : วอลเลย์บอลหญิง เนชั่นส์ ลีก 2024, เทียบสถิติ, ถ่ายทอดสด

การแข่งขัน วอลเลย์บอลหญิง เนชั่นส์ลีก 2024 (VNL 2024) สัปดาห์ที่สาม ที่เขตบริหารพิเศษฮ่องกง จะรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 11-16 มิถุนายน 2567

โดยสนามนี้ “ทัพนักตบสาวทีมชาติไทย” ทีมอันดับ 13 ของโลก จะลงสนามเกมที่สองพบกับ บัลแกเรีย ทีมอันดับ 22 ของโลก ที่ผลงานไม่สู้ดีนัก แพ้มา 4 เกมติดต่อกัน หล่นไปอยู่อันดับสุดท้ายของลีก ด้วยการมีเพียงแค่หนึ่งคะแนน

ซึ่งจากสถิติที่พบกันมาทั้งหมด 3 ครั้ง “นักตบสาวทีมชาติไทย” เหนือกว่านิดๆ โดยสามารถเอาชนะได้ 2 ครั้ง ในศึกเนชั่นส์ลีก และเป็นฝ่ายแพ้หนึ่งครั้งในรายการชิงแชมป์โลก เมื่อปี 2018

เฮดทูเฮด 3 ครั้งหลังสุด : ไทย ชนะ 2, บัลแกเรีย ชนะ 1

  • 31 พฤษภาคม 2022 : ไทย ชนะ บัลแกเรีย 3-0 เซต (เนชั่นส์ลีก)
  • 4 เมษายน 2019 : ไทย ชนะ บัลแกเรีย 3-1 เซต (เนชั่นส์ลีก)
  • 10 ตุลาคม 2018 : ไทย แพ้ บัลแกเรีย 2-3 (ชิงแชมป์โลก)

สำหรับโปรแกรมต่อไปของ วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย จะลงสนามพบกับ บัลแกเรีย ในวันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน 2566 นี้ เวลา12.30 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง 7HD, ช่องทางออนไลน์ BUGABOO.TV และ Ch7HD ทั้งเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


น่ารู้กับ 70 ประโยคภาษาอังกฤษที่ฝรั่งพูดบ่อยที่สุด คำง่ายๆ คำสั้นๆ ได้ใช้ประโยชน์แน่ๆ มีคำว่าอะไรบ้าง จัดมาให้จ้า

สวัสดีทักทาย ซำบายดีเพื่อนๆคุณผู้อ่าน รวมทั้งเหล่าผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจ งามไฉไลสุดเก๋ เทห์ระเบิดเทิดเทิง เปิดเปิงดวงฤทัยทุกๆคน  กลับมาพบกันอีกแล้วจ้า กับบทความน่ารู้เกี่ยวกับภาษาอังกฤษ ที่จะสรรหาประโยคและคำศัพท์มาให้ได้อ่านเป็นความรู้กัน และเรื่องน่ารู้ที่จะนำเสนอในวันนี้คือ ประโยคภาษาอังกฤษสั้นๆเกี่ยวกับการสื่อสารที่ฝรั่งหรือชาวต่างชาตินิยมพูดบ่อยมากที่สุด 

หลายคนอาจจะสงสัยว่า ส่วนใหญ่แล้วฝรั่งมังค่าหรือชาวต่างชาติที่ใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกันกัน มีคำว่าอะไรบ้าง เผื่อว่าจะได้เข้าใจและโต้ตอบสื่อสารได้ และเพื่อไม่ให้บทความนี้ร้างไป วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอมาแนะนำประโยคภาษาอังกฤษที่ฝรั่งพูดบ่อยมากที่สุด โดยคัดเลือกประโยคสั้นๆ ไม่ยาวมากเกินไป เข้าใจได้ง่าย มาให้เพื่อนๆที่กำลังฝึกหัดภาษาอังกฤษอยู่ได้อ่านกันดังนี้จ้า หวังว่าน่าจะมีประโยชน์อยู่ไม่มากก็น้อยนะคะ 

แนะนำรวมประโยคภาษาอังกฤษที่ฝรั่งพูดบ่อย ประโยคสั้นๆ คำง่าย มาให้อ่านเบื้องต้น มีดังนี้ 

ประโยคภาษาอังกฤษ (Sentence)ความหมาย (Meaning) 
1.What are you up to?     ทำอะไรอยู่เหรอ
2.What is your name?       คุณชื่ออะไร
3.How come?  ได้ไงอ่ะ (รู้สึกเซอร์ไพรส์,)
4.How is it going today?  วันนี้เป็นอย่างไรบ้าง
5.What have you been doing?ช่วงนี้คุณทำอะไรบ้าง 
6.Are you from here? คุณเป็นคนแถวนี้ใช่ใหม
7.Long time no see ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลยนะไม่ได้เจอกันตั้งนานเลยนะ
8.Let’s go out sometime. ว่างๆออกไปข้างนอกกัน 
9.Say Cheese! ยิ้มหน่อยจ้า
10.Alive as well. เป็นสุขสบายดี 
11.Where are you from? คุณมาจากใหน 
12.I have got to go. ฉันต้องไปแล้วนะ 
13.Visit me often.มาหาฉันบ่อยๆนะ 
14.See you soon.เจอกันเร็วๆนี้นะ 
15.Have a safe trip เดินทางปลอดภัยนะ
16.Lucky you! ขอให้คุณโชคดี 
17.Thanks in advance. ขอบคุณล่วงหน้าเลย
18.Bye for now. แค่นี้ก่อนนะ 
19.Calm down please. ใจเย็นๆนะ 
20.I am so happy to hear that ฉันดีใจที่ได้ยินเช่นนั้น
21.What a relief.  โล่งอกไปที 
22.Good for you. ดีต่อคุณเลยนะ 
23.Go for it.  เอาเลย,ลองดู เต็มที่ไปเลย 
24.Could you help me,please.คุณช่วยฉันหน่อยได้ไหม 
25.I will take a rain check.เอาไว้คราวหน้านะ
26.I am so sorry.ฉันขอโทษด้วย
27.I must apologise for that. ฉันขอโทรเรื่องนั้นด้วย 
28.Just kidding.(Joking) ล้อเล่นนะ
29.Don’t worry about it. อย่าวิตกกังวลไปเลย
30.It doesn’t matter.มันไม่สำคัญหรอก 
31.I can live with that.  พอทนไหว, พอรับได้ 
32.Never mide.   ไม่เป็นไรหรอก,ช่างมันเถอะ 
33.See you later. ไว้เจอกันนะ 
34.I reaaly aprriciate it. ฉันซาบซึ้งกับมันจริงๆเลย
35.I was just thinking.  ฉันแค่กำลังคิด
36.Of course!  แน่นอน 
37.I have no clue. ฉันไม่รู้เลย
38.That’s a lie. นั้นเป็นเรื่องโกหก 
39.I am not sure. ฉันไม่แน่ใจเลย
40.Right on! ถูกต้องเลยแหละ 
41.Sorry to botther you. ขอโษทด้วยที่รบกวนคุณนะ 
42.I am single. ฉันโสด
43.I am disvorced. ฉันหย่าแล้ว
44.You inspire me. คุณเป็นแรงบันดาลใจให้ฉัน 
45.I guess so.   ฉันเห็นด้วย
46.Read one’s mind.คิดเหมือนกันเลย
47.Conngratulations. ขอแสดงความยินดีด้วยนะ 
48.I am starving. ฉันหิวมาก
49.I am full. ฉันอิ่ม 
50.Got a minute? มีเวลาไหม
51.Same as always. เหมือนเดิมเลย 
52.Can’t complain. ก็เรื่อยๆนะ 
53.I owe you one.ฉันเป็นหนี้บุญคุณคุณเนะ 
54.Don’t mention it. อย่าพูดถึงมันเลย
55.Don’t miss the flight. อย่าตกเครื่องนะ (พลาดเที่ยวบิน)
56.It’s my fault.  มันเป็นความผิดของฉันเอง
57.I want to apologize.ฉันอยากขอโทษ 
58.I forgive you. ฉันยกโทษให้คุณ 
59.I am not allowed to do it. ฉันไม่ได้รับอนุญาตให้ทำมัน
60.Beast me. ฉันไม่รู้
61.I couldn’t agree more. ฉันเห็นด้วยอย่างยิ่งเลยนะ 
62.Not a bit.  ไม่เลยแม้แต่นิดเดียว 
63.I am afrid so. ฉันก็เกรงว่าจะเป็นอย่างนั้นนะ 
64.Plaease call me back. กรุณาโทรกลับมาหาฉันด้วย
65.I am happy for you. ฉันดีใจกับคุณด้วยนะ 
66.Take care. ดูแลตัวเองด้วนะ 
67.Almost done. เกือบเสร็จแล้ว 
68.Leave me alone. ปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียว
69.Something is wrong. มีบางอย่างผิดปกติ 
70.What’s wrong with you? คุณเป็นอะไร (เกิดอะไรขึ้นกับคุณ)

ขอบคุณข้อมูลจาก khunnaiver.blogspot.com


เพิ่งรู้วันนี้ Power Bank มีอายุการใช้งานกี่ปี

Power Bank เป็นอีกสิ่งที่หลายคนเริ่มคิดเพราะว่าจะเพิ่งพาแบตเตอรี่ในตัวมือถืออย่างเดียว มันก็ไม่เพียงพอแน่นอน ทำให้ต้องพกพาอุปกรณ์กลุ่มนี้เพื่อช่วยให้มีพลังงาน

แต่ว่าหลายคนอาจจะไม่รู้ว่า Power Bank มีอายุการใช้งานด้วยนะ วันนี้ Sanook Hitech จะไขคำตอบว่า Power Bank ที่คุณใช้จริงๆ แล้วมีอายุกี่ปี

Power Bank อายุการใช้งาน

สำหรับ Power Bank เองก็มีอายุการใช้งานเฉลี่ย 1.5 – 3.5 ปี หรือประมาณ 300 – 1,000 รอบการชาร์จ ทั้งนี้ก็ต้องดูชนิดของแบตเตอรี่ด้วยเช่นเดียวกัน

ปัจจัยที่ทำให้ Power Bank เสื่อม

เนื่องจาก Power Bank มีการบรรจุแบตเตอรี่เข้าไปข้างในก็จะมีปัจจัยที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมได้เช่น

  • การชาร์จไฟบ่อย ไม่ปล่อยให้ไฟลดลง ก็ทำให้เสื่อมได้ง่าย
  • ไฟหมดบ่อยก็ทำให้แบตฯ เสื่อมได้
  • ชาร์จไฟในสภาพอากาศร้อนจัด หรือ เย็นจัด ก็ทำให้เสื่อมลงได้
  • การเลือกซื้อ Power Bank ที่ไม่ได้มาตรฐาน จะมีอายุการใช้งานที่สั้นลง

วิธีการยืดอายุ Power Bank

สำหรับวิธีการยืดอายุ Power Bank ของคุณทำได้ง่ายๆ คือ

  • หลีกเลี่ยงการชาร์จไฟให้เต็ม 100% หรือใช้ไฟให้หมด
  • เก็บ Power Bank ไว้ที่อุณหภูมิที่เหมาะสม
  • ใช้สายชาร์จไฟให้เหมาะสม

และนอกจากนี้ถ้าแบตเตอรี่ของ Power Bank มีการเปลี่ยนรูป, บวมขึ้น,จ่ายไฟให้อุปกรณ์ไม่ได้เต็มที่ และ ชาร์จไฟไม่เต็มแถมร้อน ควรหยุดใช้และรีไซลเคิลทันที

เห็นไหมครับว่า Power Bank นั้นไม่ได้ใช้ยากการดูแลก็ง่าย แต่ว่าเมื่อ Power Bank ประกอบด้วยแบตเตอรี่แบบ Li-ion ซึ่งมีอายุการใช้งาน เราควรจะดูและเช็คสภาพให้พร้อมใช้เสมอเช่นเดียวกันครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


วาซาบิ ป้องกันฟันผุได้จริงหรือไม่

ใครที่ชอบทานอาหารญี่ปุ่นต้องรู้จัก “วาซาบิ” อย่างแน่นอน สำหรับวาซาบินั้นเป็นพืชชนิดหนึ่งของญี่ปุ่น ในตระกูลกะหล่ำ และวาซาบิถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมของอาหารญี่ปุ่นหลายชนิด และวาซาบินั้นก็มีประโยชน์มากมาย นิตยสารวาไรตี้เพื่อสุขภาพ@Rama มีการเผยแพร่บทความว่า “วาซาบิ ป้องกันฟันผุได้จริงหรือไม่” โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

วาซาบิ ป้องกันฟันผุได้จริงหรือไม่จริง เป็นคำตอบสุดท้าย…ย…ย…ย

จากงานวิจัยของประเทศญี่ปุ่น พบว่าวาซาบิสามารถช่วยลดการเกิดฟันผุได้ทั้งนี้เพราะในวาซาบิมีสารที่ชื่อว่า Isothiocyanate ที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย Streptocoocus Mutans ซึ่งเป็นสาเหตุสําคัญของการเกิดฟันผุ สารนี้สามารถพบได้ในผักบางอย่าง เช่น บร็อคโคลี่ด้วยเหมือนกัน

สาเหตุของฟันผุเกิดจากอาหารที่มีรสหวาน เช่น แป้งและน้ำตาล อาหารที่ยอมรับกันมานานว่ามีผลดีต่อสุขภาพฟันและลดการเกิดฟันผุที่ดีที่สุดคือ ชาเขียว เพราะมีสารฟลูออไรด์ ส่วนผลไม้อื่นๆ เช่น แอปเปิ้ล สตรอเบอร์รี่ ก็มีผลดีรองลงมา

Volume: ฉบับที่ 1 เดือน มีนาคม 2555

Column: Believe it or not

Writer Name: ทพญ.นฤมล ทวีเศรษฐ์

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 13/06/2567

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a40,050.0040,150.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,594.0039,325.0440,650.00
ทองรูปพรรณ 90%2,334.6035,392.54n/a
ทองรูปพรรณ 80%2,075.2031,460.03n/a
ทองรูปพรรณ 50%1,167.0017,691.72n/a
ทองรูปพรรณ 40%908.0013,765.28n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,688.0040,750.08n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 13/06/2567


ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9537.7537.7538.2537.7537.7537.7537.7537.7537.7537.75
แก๊สโซฮอล์ 9137.3837.3837.6837.3837.3837.3837.3837.3837.3837.38
แก๊สโซฮอล์ E2035.6435.6436.1435.6435.6435.6435.6435.6435.64
แก๊สโซฮอล์ E8535.3935.3935.39
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม46.3449.8449.8449.8446.34
เบนซิน 9545.6448.4146.1445.7945.64
ดีเซล32.9432.9433.2432.9432.9432.9432.9432.9432.9432.94
ดีเซลพรีเมี่ยม44.9447.1449.8447.1447.1444.94
แก๊ส NGV19.5919.5919.59
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า