สาระน่ารู้ประจำวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565

นายา เรสซิเดนซ์ ลุยเปิดซีเนียร์ ลีฟวิ่ง เจาะตลาดท่องเที่ยวพรีเมียม

นายา เรสซิเดนซ์ เจาะตลาดซีเนียร์ ลิฟวิ่ง ลุยกำลังซื้อกลุ่มวัยเกษียณ เฟสแรกบุกตลาดท่องเที่ยวศักยภาพสูง ภูเก็ต หัวหิน ชลบุรี และจุดหมาย (Destination) ด้านโปรแกรมสุขภาพ เพื่อไลฟ์สไตล์คนสูงวัย หวังก้าวสู่แบรนด์ระดับโลก

ดร. นาฏ ฟองสมุทร ผู้เชี่ยวชาญการจัดการด้านผู้สูงอายุที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี และเป็นผู้ก่อตั้ง “ลิฟเวล ลิฟวิ่ง” เปิดเผยว่า กำลังเตรียมยกระดับศักยภาพของการดูแลผู้สูงวัย โดยจับมือกับ Thrive Senior Living ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ให้บริการด้านโปรแกรมสุขภาพจากสหรัฐอเมริกา โดยในช่วงต้นของการทำงานร่วมกันจะมุ่งให้คำปรึกษาการจัดการที่พักผู้สูงวัยให้อยู่ระดับมาตรฐาน และยังเตรียมขยายตลาดกลุ่มวัยเกษียณอายุทั้งที่อยู่ในประเทศไทย และคนไทยที่อยู่ต่างประเทศแต่ต้องการกลับมาพักผ่อนและใช้ชีวิตเกษียณในไทย  

Thrive Senior Living จะทำงานร่วมกัน เพื่อประเมินมาตรฐานการดูแล โปรแกรมสุขภาพ โครงสร้างราคา การขาย การตลาด และด้านอื่นๆ โดยอิงมาตรฐานของสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร

บริษัทฯ ยังมีแผนเข้าไปช่วยดูแลสถานพักอาศัยในทำเลใหม่ๆ เช่น ภูเก็ต หัวหิน และชลบุรี ซึ่งเป็นสถานที่พักผ่อนในวัยเกษียณที่น่าสนใจสำหรับชาวต่างชาติในประเทศไทย หลังจากที่แนวคิดตกผลึกแล้ว จะส่งต่อสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปยังโครงการอื่นๆ ในอนาคตอย่างแน่นอน ต้องกล่าวเลยว่าเป็นจังหวะที่เหมาะมากในการตอบสนองความต้องการในตลาดที่เพิ่มขึ้น

ด้าน นายเจรามี แรกส์เดล ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Thrive Senior Living กล่าวว่า จากบริบททางวัฒนธรรมที่แตกต่างกันของผู้สูงวัยในแต่ละประเทศ แต่ความปรารถนาหลักของผู้สูงวัยคือการพึ่งพาตนเองได้และมีสายสัมพันธ์ทางสังคม นั่นเป็นเป้าหมายหลักที่บริษัทฯ จะให้ความสำคัญ

นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้สูงอายุมีความปรารถนาในด้านต่าง ๆ คล้ายคลึงกับคนหนุ่มสาวอย่างน่าประหลาดใจ ไม่ว่าจะเป็น การเชื่อมต่อทางสังคม อาหารรสเลิศ และสุขภาวะที่ดี ดังนั้นบทบาทของบ้านพักผู้สูงวัยจึงเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้ผู้สูงอายุได้มีปฏิสัมพันธ์และสื่อสารระหว่างกันและกัน พร้อมกับมอบบริการด้านสุขภาพร่างกายที่มีคุณภาพ โดยผู้เชี่ยวชาญ

โปรแกรมสุขภาพที่เป็นลิขสิทธิ์ของ Thrive Senior Living จะช่วยให้ผู้พักอาศัยติดตามตัวชี้วัดสำคัญด้านสุขภาพของตนได้ เพื่อหาสัญญาณของความเจ็บป่วยแต่เนิ่น ๆ พร้อมทีมแพทย์เข้ามาดูแล ตรงนี้จึงเป็นความแตกต่างด้านบริการจากผู้ให้บริการในตลาดปัจจุบันที่ส่วนใหญ่เน้นไปที่ไลฟ์สไตล์ หรือไม่ก็การดูแลเพียงอย่างเดียว ยังไม่มีใครเสนอรูปแบบการใช้ชีวิตที่ผสมผสาน สุขภาพ และการดูแลทางการแพทย์เหมือนที่นายา เรสซิเดนซ์ฯ

ในปัจจุบัน  ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย และคาดว่าในอีก 20 ปีต่อจากนี้ จะมีประชากรที่เข้าสู่วัยผู้สูงอายุ (อายุมากกว่า 60 ปี) ปีละ 1 ล้านคนต่อปี ทั้งนี้ มากกว่าร้อยละ 20 ของประชากรมีอายุมากกว่า 65 ปี ขณะที่ประชากรมากกว่า 7.5 ล้านคนของไทยมีอายุมากกว่า 65 ปี

ซีอีโอของ Thrive Senior Living  กล่าวว่า ด้วยคำแนะนำที่ถูกต้องและกระบวนการที่เหมาะสม ไทยจะสามารถเป็นผู้นำระดับภูมิภาคด้านบริการสุขภาพและสถานพักอาศัยสำหรับผู้สูงวัยได้ในอนาคต

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


เศรษฐกิจไทยฟื้น – นักลงทุนหวนอสังหาฯ ดัน ที่อยู่ ,วัสดุก่อสร้าง โกยรายได้

ธุรกิจอสังหาฯ เผยผลงานงวด 9 เดือน เติบโต ตามการฟื้นตัวเศรษฐกิจ พบ บมจ.ศุภาลัย – เอพี ทำนิวไฮ รายได้ – ผลกำไร ขณะเฟรเซอร์สฯ ปิดงบปี กำไรฟื้นเกิน2 พันล. แรงกระเพื่อม กลุ่มวัสดุก่อสร้างได้อานิสงส์ ทั้งรัฐ – เอกชน ด้านคอนโดฯยอดขายโตแรง หลังนักลงทุนแห่ซื้อ ปิดความเสี่ยงเงินเฟ้อ

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีมูลค่าตลาดคิดเป็นสัดส่วน 4.8% ของ GDP ประเทศ  ย้อนไป ปี 2564 หดตัวลงมาก  8% เมื่อเทียบกับ ปี 2562 ก่อนแพร่ระบาดของ COVID-19 

อย่างไรก็ดี อสังหาฯ เป็นธุรกิจที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อน  เนื่องจากกระตุ้นให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบจำนวนมาก เกิดการจ้างงานและสร้างรายได้ ทั้งยังเชื่อมโยงกับภาคธุรกิจอื่น  เช่น ก่อสร้าง แรงงาน วัสดุก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์/การตกแต่ง และสถาบันการเงิน ขณะเดียวกัน ทิศทางเศรษฐกิจ ก็มีผลในแง่กำลังซื้อ และ การฟื้นตัวของตลาดเช่นกัน 

โดยตั้งแต่ต้นปี 2565 มาตรการของภาครัฐ เช่น การผ่อนปรน ใช้ มาตรการ LTV (อัตราส่วนสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน) ชั่วคราว และ สถาบันการเงิน สนับสนุนการตัดสินใจซื้อของลูกค้า ประกอบกับ การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจทั้งใน กทม. และภูมิภาค ที่ดีขึ้นตามลำดับนั้น  ทำให้ ตลาดอสังหาฯ ฟื้นตัวขึ้นมาอย่างน่าสนใจ  สะท้อนผลประกอบการในธุรกิจ ทั้งกลุ่มโครงการบ้าน – คอนโดมิเนียม – อสังหาฯเชิงพาณิชยกรรม และ วัสดุก่อสร้าง ได้อานิสงส์ สร้างผลงานโดดเด่นในหลายๆแง่ 

ศุภาลัยกำไรพีค – AP รายได้

โดยเฉพาะ ในกลุ่มผู้พัฒนาบ้านจัดสรร ครอบคลุมหลายพื้นที่ เป็นหลัก และ มีพอร์ตโครงการคอนโดฯ ก่อสร้างแล้วเสร็จในมือ เพื่อโอนกรรมสิทธิ์ หลายโครงการ อย่าง บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) พบ มีผลประกอบการดีเยี่ยม รั้งเบอร์ 1 ในตาราง แง่ผลกำไรสุทธิ ในงวด 9 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ย.) โดยสามารถกวาดรายได้รวมสูงถึง 11,362 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพิ่มขึ้น 51% จากการโอนฯโครงการ ทั้งใน กทม. และ ต่างจังหวัด ด้านกำไรสุทธิ 6,002 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% เรียกว่ามากที่สุด ของธุรกิจอสังหาฯ ณ เวลานี้ ขณะยอดขายรวม ทะลุ 2.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 41%  

ด้าน บมจ.เอพี ทุบสถิติอีกครั้ง ผ่านการทำรายได้ นิวไฮ 37,560 ล้านบาท กำไรสุทธิ  4,720 ล้านบาท ส่วนยอดขาย สิ้น ต.ค. อยู่ที่ 45,410 ล้านบาท มาจากการเปิดโครงการที่มากที่สุดในอุตสาหกรรม ตีตลาดทุกเซกเม้นต์ โดยเฉพาะโครงการจัดสรรแนวราบ บ้านเดี่ยว และ ทาวน์โฮมโฉมใหม่ ที่มีดีมานด์สูง รวมไปถึง การทยอยโอนฯในกลุ่มคอนโดฯ ด้วย

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์เอพี กล่าวว่า ทั้งบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮมยังคงเป็นซูเปอร์สตาร์ของปี คีย์ไดรฟ์สร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ ควบคู่กับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และ ดีมานด์คอนโดฯ ทำให้ผลงานบริษัทเติบโตโดดเด่น 

” บริษัท สร้างผลงานยอดขายที่แข็งแกร่ง เป็น New Record สูงสุดที่เคยทำได้ ซึ่งสะท้อนจาก ดีมานด์ตลาดที่อยู่อาศัย ที่ยังคงเป็นที่ต้องการ มีการฟื้นคืนกลับของลูกค้าอย่างเห็นได้ชัด “

นักลงทุนหนุน Noble – ASW ยอดขายดี 

ขณะการฟื้นตัวของตลาดคอนโดฯ ผ่านการกลับมาให้ความสนใจโปรดักส์ใหม่ๆ และ โครงการแนวรถไฟฟ้าทั้งในกลุ่มหรู และ ชานเมือง ทำให้ ผู้เล่นเบอร์ต้น ที่มีส่วนแบ่งตลาดราว 50% ของ คอนโดฯ กทม. อย่าง บมจ.โนเบิล ก็สามารถ ทำยอดขายได้ดี แม้กำลังซื้อต่างชาติหลัก อย่างชาวจีน จะยังไม่กลับเข้ามา แต่พลิกไปทำการตลาด กระจายไปตลาดฮ่องกง ใต้หวัน สิงคโปร์ และเมียร์มาร์ ทดแทน โดย ยอดขาย ณ สิ้น ต.ค. เติบโตทะยานแตะระดับ 14,796 ล้านบาท 

ทั้งนี้ นายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ระบุว่า ยอดขายดังกล่าวเป็นยอดขายที่เติบโตก้าวกระโดด หรือ โต เกือบ 2 เท่าตัวจากปีก่อน หลังทุกโครงการเปิดตัวใหม่ได้รับการตอบรับที่ดี ยอดขายเฉลี่ย 60%-70% ต่อโครงการ ตามตลาดโดยรวมที่ฟื้นตัวดีขึ้น ส่งผลดีต่อ Sentiment ของผู้บริโภคภายในประเทศ ทั้งลูกค้าในกลุ่มที่เป็นซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง และลูกค้าที่ซื้อเพื่อลงทุน

” ช่วงที่มีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน การลงทุนกลุ่มอสังหาฯ ถือเป็นทางออกที่ดี ซึ่งหากเงินเฟ้อสูง ปรับราคาค่าเช่าขึ้นตามได้  ขณะเดียวกันราคาต้นทุนวัสดุก่อสร้างก็ปรับตัวขึ้นตลอด  ทำให้บริษัทมียอดขาย มาจากลูกค้าในกลุ่มนักลงทุนต่อเนื่อง “

เช่นเดียวกับ บมจ. แอสเซทไวส์ เผย ว่า ปี 2565 จะเป็นปี ที่สร้างยอดขายได้สูงสุด ซึ่งปัจจุบัน ทำได้ทะลุเป้าหมายที่ 10,000 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีรายได้ มีรายได้รวมกว่า 3,935 ล้านบาท กำไรสุทธิที่ 689 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจาก สถานการณ์ธุรกิจอสังหาฯ ที่ฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง

อสังหาฯ ครบวงจร เจ้าสัว พลิกกำไรเกิน 2 พันล.

การฟื้นของอสังหาฯ และแนวโน้มเศรษฐกิจดีขึ้นตามลำดัล บวกกับ ความเชื่อมั่นนักลงทุน กลับมาขยายธุรกิจ ยังทำให้ผู้เล่นเบอร์ใหญ่ ในกลุ่ม เจ้าสัวเจริญ อย่าง บมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมี 3 ธุรกิจอสังหาฯแบบครบวงจร ได้อานิสงส์ และกลับมาเติบโต ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่อุตสาหกรรม โรงงานและคลังสินค้า ภายใต้การบริหารจัดการ พื้นที่ มากถึง 3.4 ล้านตร.ม. ,การเร่งเปิดโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ มากกว่า 2 หมื่นล้านบาท จับเซ็กเม้นท์ กลาง-บน เจาะฐานลูกค้าแข็งแกร่ง 

รวมถึง การเปิดประเทศ ยังส่งผลให้กลุ่มธุรกิจโรงแรมมีรายได้โตกว่า 100% ขณะเดียวกัน การทยอยเปิดให้บริการเฟสต่างๆ ของโครงการสีลมเอจ (ช่วงก.ค.-ก.ย.65)  ด้านภาพรวมธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่ายังคงรักษาอัตราการเช่าได้ในระดับสูงกว่า90 % ส่งผลให้ บมจ.เฟรเซอร์สฯ ปิดผลงานปีงบประมาณ 2565 ( ต.ค.64-ก.ย.65 ) ด้วย รายได้รวม  16,347 ล้านบาท โตขึ้น 4% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,465 ล้านบาท เพิ่ม ขึ้น 57.3% จากที่ปีก่อนหน้า กำไรไม่ถึง 2,000 ล้านบาท 


สัญญาณบวก ดัน กลุ่มวัสดุก่อสร้าง 

นโยบายเปิดประเทศ สัญญาณเศรษฐกิจฟื้น และ ภาครัฐ – ภาคเอกชน พากันทยอยลงทุน ในงานโครงการเมกะโปรเจค และ โครงการที่อยู่อาศัย ยังทำให้ อานิสงส์ เกิดขึ้น ในกลุ่มผู้ประกอบการค้าวัสดุก่อสร้าง โดย บมจ.สมาร์ทคอนกรีต  เผยว่า งวด 9 เดือน ปี 2565 บริษัท มีรายได้รวม 409 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จาก 338 ล้านบาทในช่วงปีก่อนหน้า

นายรังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการบริษัท ระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเปิดประเทศ ผลักดันให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ โครงการแนวราบ-แนวสูง เร่งก่อสร้างเพื่อเปิดโครงการใหม่ อีกทั้งโครงการภาครัฐ ได้แก่ อาคารหน่วยงานราชการ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และสีชมพู เร่งดำเนินการก่อสร้างเพื่อส่งมอบให้ทันตามกำหนด ส่งผลให้ความต้องการสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้าง-อิฐมวลเบา ปรับตัวดีขึ้น และราคาจำหน่ายอิฐมวลเบาปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้ กำไรสุทธิปรับตัวลดลง เนื่องจากต้นทุนเชื้อเพลิงและวัตถุดิบในการผลิตปรับตัวสูงขึ้น แต่เป็นโอกาส ให้บริษัทฟื้นตัวได้ดี 

เช่นเดียวกับ บมจ. ผลิตภัณฑ์ตราเพชร เผยผลการดำเนินงาน ม.ค.-ก.ย. ว่า มีกำไรสุทธิกว่า 508 ล้านบาท และมีรายได้รวม 3,996 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.08% คาด นอกจาก มาจากความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ บวกเพิ่มช่องทางจำหน่ายใหม่ๆ แล้ว ยังได้แรงหนุนจาก กำลังซื้อ ของ ลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์มีอัตราขยายตัวได้มากกว่า 10%  

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


เงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ที่ระดับ 36.04 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าลงได้บ้าง จับตาราคาทองคำ ฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติที่ขายทำกำไรสินทรัพย์ไทยมากขึ้น-บอนด์ยีลด์ไทยหลังสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงเกือบทุกช่างอายุ

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  36.04 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง”จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 35.94 บาทต่อดอลลาร์  

นายพูน  พานิชพิบูลย์   นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน   ธนาคารกรุงไทยระบุว่า
สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) ตามความหวังว่าเฟดอาจชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ยและอาจขึ้นดอกเบี้ยไม่ได้สูงมากนัก
 

ในสัปดาห์นี้ เรามองว่า ควรจับตา ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด อาทิ Bowman, Mester และ Waller  เพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินของเฟด รวมถึง ติดตามรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ จากฝั่งจีนและสหรัฐฯ
 
โดยในส่วนของรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าสนใจมีดังนี้
 
มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก
▪       ฝั่งสหรัฐฯ – ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านรายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนตุลาคม โดย ตลาดคาดว่า ยอดค้าปลีกอาจขยายตัวราว +1.0% จากเดือนก่อนหน้า หนุนโดยยอดขายรถยนต์ที่ปรับตัวขึ้นได้ดี รวมถึงการปรับตัวขึ้นของราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในสหรัฐฯ (หากหักผลของยอดขายรถยนต์และน้ำมัน ก็จะขยายตัวเพียง +0.2%)

ทั้งนี้ การขยายตัวต่อเนื่องของยอดค้าปลีกจะสะท้อนแนวโน้มการใช้จ่ายของครัวเรือนที่ยังดีอยู่ ทำให้เฟดยังมีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง (แม้ว่าอัตราการขึ้นอาจชะลอลง) ซึ่งหากยอดค้าปลีกโตกว่าคาด ก็อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดกลับมากังวลประเด็นการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟดอีกครั้งได้ (Good news is Bad news for the market) 

อย่างไรก็ดี ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด ผ่านถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด (ส่วนใหญ่เป็น FOMC Voting Members) หลังจากที่ล่าสุด รายงานเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ได้ชะลอตัวลงมากกว่าคาด

นอกจากนี้ แนวโน้มตลาดแรงงานสหรัฐฯ ก็อาจตึงตัวน้อยลงและเริ่มชะลอตัวมากขึ้น หลังบรรดาบริษัทเทคฯ ต่างประกาศปรับแผนการจ้างงาน (ลดการจ้างงานใหม่) รวมถึงบางแห่งก็มีการเลิกจ้างพนักงานเป็นจำนวนมาก



 ฝั่งยุโรป – ตลาดประเมินว่า บรรดานักวิเคราะห์และนักลงทุนสถาบันอาจมีมุมมองเชิงลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจเยอรมนีน้อยลง หลังวิกฤตพลังงานอาจไม่ได้น่ากังวลมากอย่างที่เคยประเมินกันก่อนหน้า ตามสภาวะอากาศในช่วงฤดูหนาวที่มีแนวโน้มอุ่นกว่าปกติ ซึ่งมุมมองดังกล่าวจะสะท้อนผ่านการปรับตัวขึ้นของดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนี (ZEW Economic Sentiment) เดือนพฤศจิกายน ที่จะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -52 จุด (ดัชนีติดลบ หมายถึง มุมมองเชิงลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ)

ส่วนในฝั่งอังกฤษ ยอดค้าปลีกเดือนตุลาคมอาจพลิกกลับมาขยายตัว +0.5%m/m แต่ก็เป็นการรีบาวด์หลังหดตัวหนักถึง -1.4% ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งตลาดยังคงกังวลว่า แนวโน้มการใช้จ่ายของผู้คนในอังกฤษอาจซบเซาต่อเนื่อง ตามปัญหาค่าครองชีพสูง ซึ่งได้สะท้อนผ่านดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence) ที่อยู่ในระดับต่ำกว่า ช่วงวิกฤต GFC 2008 รวมถึงช่วงที่อังกฤษเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 1980s และ 1990s



▪ ฝั่งเอเชีย – ตลาดมองว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นในไตรมาส 3 อาจขยายตัวในอัตราชะลอลง +1.2%q/q เมื่อเทียบเป็นรายปี จากที่โตถึง +3.5% ในไตรมาส 2 โดยเป็นผลจากการระบาดของ COVID-19 ในช่วงต้นไตรมาส 3 ซึ่งกดดันให้ภาคการบริการของญี่ปุ่นหดตัวและเพิ่งจะเริ่มฟื้นตัวได้ดีขึ้นจากการเปิดประเทศ

นอกจากนี้ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและราคาสินค้าพลังงานที่อยู่ในระดับสูง ก็มีส่วนกดดันภาพเศรษฐกิจญี่ปุ่น อย่างไรก็ดี ตลาดประเมินว่า เงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมผลของราคาอาหารสดและพลังงานจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 2.4% ตามการส่งผ่านต้นทุนที่สูงขึ้นของผู้ผลิต

รวมถึงตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศที่ดีขึ้นต่อเนื่อง หลังการเปิดประเทศ โดยเรามองว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจเริ่มส่งสัญญาณพร้อมปรับนโยบายการเงินให้เข้มงวดมากขึ้นได้ หากเงินเฟ้อดังกล่าวอยู่ในระดับสูงกว่า 2% ติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 เดือนและยังมีแนวโน้มทรงตัวเหนือกว่าระดับ 2%

ส่วนในฝั่งจีน ตลาดประเมินว่า ภาพรวมเศรษฐกิจจีนในเดือนตุลาคมยังคงซบเซาอยู่ ตามผลกระทบของมาตรการ Zero COVID โดยยอดค้าปลีกจะโตเพียง +0.7%y/y ส่วนยอดผลผลิตอุตสาหกรรม (Industrial Production) ก็อาจเพิ่มขึ้น +5.2% สอดคล้องกับ การปรับตัวลงต่อเนื่องของดัชนี PMI ภาคการผลิตอุตสาหกรรมของจีนในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ ในส่วนนโยบายการเงิน ตลาดคาดว่า ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ (BSP) จะเร่งขึ้นดอกเบี้ย +0.75% สู่ระดับ 5.00% หลังเงินเฟ้อยังคงเร่งตัวสูงขึ้น ส่วนธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) ก็อาจขึ้นดอกเบี้ย +0.50% สู่ระดับ 5.25% เพื่อช่วยลดแรงกดดันต่อค่าเงินรูเปี้ยะห์ (IDR)


สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า เงินบาทอาจเริ่มชะลอการแข็งค่าและมีโอกาสอ่อนค่าลงได้บ้าง ซึ่งต้องจับตาแนวโน้มราคาทองคำว่าจะเผชิญแรงขายทำกำไรรุนแรงจนปรับตัวลงหนักหรือไม่ (ราคาทองคำเคลื่อนไหวสอดคล้องกับเงินบาทถึง 85%) รวมถึงควรติดตาม ฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติที่อาจเริ่มเห็นภาพการขายทำกำไรสินทรัพย์ไทยมากขึ้น หลังดัชนี SET ได้ปรับตัวขึ้นใกล้แนวต้าน ส่วนบอนด์ยีลด์ไทยเกือบทุกช่วงอายุ โดยเฉพาะบอนด์ยีลด์ระยะยาวได้ปรับตัวลดลงพอสมควรในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา



ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า เงินดอลลาร์ อาจย่อตัวลงใกล้โซนแนวรับได้ แต่ต้องระวัง การรีบาวด์ในระยะสั้นของเงินดอลลาร์ที่อาจเกิดขึ้น หากตลาดกลับมากังวลแนวโน้มเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย หรือมีปัจจัยเสี่ยงอื่นมากดดันให้ตลาดการเงินกลับมาอยู่ในภาวะระมัดระวังตัวหรือปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off)

เราคงคำแนะนำว่า ในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูง ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 35.60-36.30 บาท/ดอลลาร์

ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.8036.10 บาท/ดอลลาร์

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ผลงานโดดเด่น! “โปรจีน อาฒยา” คว้ารางวัลผู้เล่นหน้าใหม่แห่งปี 2022 ของ LPGA

แอลพีจีเอ ทัวร์ ประกาศอย่างเป็นทางการ “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล คว้ารางวัล รุกกี้ ออฟ เดอะ เยียร์ 2022 (2022 Louise Suggs Rolex Rookie of the Year Award) หรือ รางวัลผู้เล่นหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งปี 2022 ไปครอง

โปรสาววัย 19 ปี เจ้าของผลงานการลงเล่นปีแรกในทัวร์ คว้า 2 แชมป์ ในรายการ JTBC Classic presented by Barbasol และ Walmart NW Arkansas Championship presented by P&G โดยมีคะแนนสะสม 1,537 คะแนน และนำ ฮเย จิน ชอย 250 คะแนน ซึ่งถอนตัวจากการแข่งขันในสัปดาห์นี้ ทำให้ โปรจีน คว้ารางวัลดังกล่าว

“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลรุกกี้ ออฟ เดอะ เยียร์ โดยเฉพาะการเป็นผู้เล่นที่ 3 จากประเทศไทยที่ได้รับรางวัลนี้”

“จีนมีความสุขที่ทำให้ประเทศบ้านเกิดของจีนภาคภูมิใจ ปีนี้ในทัวร์ของจีนเป็นปีที่สนุกและน่าจดจำจริงๆ แต่เรายังมีหนทางอีกยาวไกล” อาฒยา เผยหลังจากได้รับรางวัล

ทั้งนี้ อาฒยา ฐิติกุล  เป็นโปรสาวไทยคนที่ 3 ที่คว้ารางวัลนี้ ต่อจาก “โปรโม” โมรียา จุฑานุกาล ทำไว้เมื่อปี 2013 และ “โปรเหมียว” ปภังกร ธวัชธนกิจ ทำไว้เมื่อปี 2021

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


นอนกี่ชั่วโมง ถึงจะ “พอดี” กับ “อายุ”

เป็นเหมือนกันไหมคะ ยิ่งอายุมาก ก็ยิ่งนอนน้อย แต่วันไหนที่นอนมาก ก็อาจจะไม่ได้รู้สึกสดชื่นแจ่มใสร้อยเปอร์เซ็นต์เสมอไป เป็นเพราะเมื่อเราโตขึ้น ระยะเวลาในการนอนหลับของเราก็เปลี่ยนไปตามอายุของเราด้วย อายุเท่าไร ควรนอนกี่ชั่วโมงถึงจะเรียกได้ว่านอนอย่างเพียงพอ มาดูกัน 

มูลนิธิการนอนหลับแห่งชาติ ในสหรัฐอเมริกา ระบุระยะเวลาในการนอนหลับที่เหมาะสม โดยแบ่งตามอายุ ดังนี้

  • เด็กแรกเกิด (อายุ 0-3 เดือน) ควรนอน 14-17 ชั่วโมงต่อวัน
  • เด็กทารก (อายุ 4-11เดือน) ควรนอน 12-15 ชั่วโมง
  • เด็ก (อายุ 1-2 ปปี) ควรนอน 11-14 ชั่วโมง
  • วัยอนุบาล (3-5 ปี) ควรนอน 10-13 ชั่วโมง
  • วัยประถม (6-13 ปี) ควรนอน 9-11 ชั่วโมง
  • วัยมัธยม (14-17 ปี) ควรนอน 8-10 ชั่วโมง
  • วัยรุ่น (18-25 ปี): ควรนอน 7-9 ชั่วโมง
  • วัยทำงาน (26-64 ปี): ควรนอน 7-9 ชั่วโมง เท่ากับตอนวัยรุ่น
  • วัยชรา (65 ปีขึ้นไป) ควรนอน 7-8 ชั่วโมง

ทั้งนี้ทั้งนั้น นี่คือระยะเวลาที่แนะนำว่าดีต่อร่างกายมากที่สุด สามารถ บวกลบ 1 ชั่วโมงได้บ้างในบางกรณีค่ะ เช่น วัยรุ่น วัยทำงาน สามารถนอนได้ 6 หรือ 10 ชั่วโมง โดยที่ไม่ได้แปลว่านอนน้อย หรือมากจนเกินไป

จะเห็นได้ว่า ที่เราอาจจะเคยเรียนกันมาแต่ก่อนว่า นอน 6-8 ชั่วโมงจะเพียงพอ จริงๆ แล้วใครที่นอนต่ำกว่า 6 ชั่วโมงอยู่บ่อยๆ อาจจะกลายเป็นว่ากำลังจะนอนไม่เพียงพอ ยิ่งนอนไม่เพียงพอติดต่อกันนานๆ อาจส่งผลถึงสุขภาพในระยะยาวได้

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


คำขยายเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive Adjectives) และสรรพนาม (Pronouns)

มีหลายโอกาสที่เราจำเป็นต้องกล่าวถึงสิ่งของที่เป็นของคนอื่น ตัวอย่างเช่น ในประโยคคำถาม “What’s your name?” คำว่า ‘your’ ช่วยบอกเราว่าชื่อของใครที่เรากำลังถามถึง มีสองวิธีในการอธิบายเกี่ยวกับการแสดงความเป็นเจ้าของในภาษาอังกฤษ หนึ่งคือการใช้คำขยายคำนาม (adjectives) และสองคือการใช้คำสรรพนาม (pronouns) นี่คือรายละเอียดเพื่อจะช่วยให้คุณได้เข้าใจมากขึ้นว่าอะไรควรจะใช้แบบไหนและความแตกต่างของแต่ละคำคืออะไร

คำขยายเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ

เราใช้คำขยายเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive Adjectives) เพื่ออธิบายว่าใครเป็นเจ้าของ (หรือมี) บางสิ่ง possessive adjective จะต้องถูกวางไว้หน้าคำนาม (noun) ตัวอย่างเช่น

My computer.

Your pen.

Our car.

possessive adjectives ในภาษาอังกฤษมีดังนี้

นี่คือตัวอย่าง

What’s your address?

My car is in front of the school.

This is Jack and this is his wife, Sue.

Put your coats on the back of your seats.

Our new Maths teacher is very nice.

What a beautiful bird! Its feathers are bright blue!

My sister is always tired. Her job is difficult.

His และ Her

จำไว้ว่าในภาษาอังกฤษ คำนามไม่มีเพศว่าเป็น หญิง หรือ ชาย ดังนั้นเวลาที่เราใช้ ‘his’ เราจึงหมายถึงสิ่งของนั้น ‘เป็นของผู้ชาย’ และเวลาที่เราใช้ ‘her’ เราหมายความว่าของชิ้นนั้น ‘เป็นของผู้หญิง’ ตัวอย่างเช่น

สรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ

เช่นเดียวกับ possessive adjectives เราใช้สรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ (possessive pronouns) เพื่อบอกว่าใครเป็นเจ้าของอะไร แต่สำหรับคำสรรพนาม เราไม่จำเป็นต้องมีคำนาม เราจะใช้ possessive pronouns เวลาที่แน่ใจอยู่แล้วว่าของชิ้นไหนที่เรากำลังพูดถึง

Whose pen is this? It’s mine. (meaning ‘my pen’)

นี่คือ possessive pronouns ทั้งหมด

อย่างที่เห็น สรรพนามอย่าง ‘his’ และ ‘its’ ถูกใช้แบบเดียวกันกับคำขยาย (adjectives) ในขณะที่ตัวอื่นเปลี่ยนโดยการเพิ่ม –s ยกเว้นคำว่า ‘mine’ นี่คือตัวอย่าง

That’s Anna’s homework and this is yours.

Your hotel is near the city center while ours is near the airport.

I love your sofa. Mine isn’t as comfortable is yours.

We don’t need help with our project but the boys need help with theirs.

Is this Carol’s bicycle? – No, that red one over there is hers.

Whose game is this? – Sam was playing earlier so it must be his.

เราสามารถวาง possessive pronouns ตามหลังคำนามแล้ว + ‘of’ ตัวอย่างเช่น

I’m a friend of his.

You’re a student of mine.

She’s a colleague of ours.

นี่คือตารางคำขยายและคำสรรพนามเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของสำหรับใช้อ้างอิง

ตอนนี้ คุณน่าจะได้เห็นแล้วว่าทั้ง possessive adjectives และ possessive pronouns ต่างกันอย่างไร ถึงเวลาฝึกฝนแล้ว! ลองสร้างประโยคตัวอย่าง โดยเฉพาะสรรพนามเอกพจน์บุรุษที่หนึ่ง (‘his’ และ ‘her/hers’) แล้วนำมาใช้เพื่อบอกเล่าข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับตัวคุณเอง สมาชิกในครอบครัวและเพื่อน การใช้คำเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของอย่างถูกต้องจะให้ช่วยให้คุณสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้คล่องยิ่งกว่าเดิม!

ขอบคุณข้อมูลจาก wallstreetenglish.in.th


30 บิ๊กธุรกิจ อวดโฉมนวัตกรรม สู่เวทีประชุมเอเปค

องค์กรเอกชน-รัฐ ตบเท้าออกบูธแสดงศักยภาพธุรกิจ-นวัตกรรมฝีมือคนไทย เวที “เอเปค” ซีทีเอเซีย โรโบติกส์ นำหุ่นยนต์ดินสอโชว์รำไทยอวดชาวโลก บางจากยก “ปั๊มน้ำมันลอยฟ้า”ร่วมงาน ส่วนกลุ่มซีพี ควงกลุ่มทรู โชว์ศักยภาพ 5G และเทคโนโลยีดิจิทัล บิทคับ ร่วมนำเสนอเทคโนโลยีบล็อกเชน

การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค 2565 ครั้งที่ 29 ถูกจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-19 พฤศจิกายน 2565 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีองค์กรรัฐและเอกชน มากกว่า 30 ราย เข้าร่วมออกบูธแสดงศักยภาพธุรกิจในเวทีการค้าระดับโลก การพัฒนานวัตกรรม รวมไปถึงการสร้างการเติบโตร่วมกันระหว่างธุรกิจและสังคมอย่างยั่งยืน ในบริเวณศูนย์ข่าว ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

โดยนายเฉลิมพล ปุณโณทก ประธาน บริษัท ซีทีเอเซีย โรโบติกส์ จำกัด ผู้พัฒนา “หุ่นยนต์ดินสอ” หุ่นยนต์บริการฝีมือคนไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าขณะนี้บริษัทได้เตรียมพร้อมยกขบวนหุ่นยนต์ดินสอ ซึ่งเป็นนวัตกรรรมฝีมือคนไทย เข้าร่วมสร้างสีสันในการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-19 พฤศจิกายน 2565 ณ.ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ โดยบริษัทร่วมออกบูธแสดงความสามารถในการฟ้อนรำ ของ “หุ่นยนต์ดินสอ เวอร์ชัน 4” เพื่อต้อนรับผู้นำเอเปค และผู้เข้าร่วมการประชุม และ “หุ่นยนต์ดินสอ มินิ เวอร์ชัน 3” หุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุ โดยการนำหุ่นยนต์ดินสอ ที่มีหน้าตาน่ารัก เข้าร่วมครั้งนี้เพราะต้องการสร้างการรับรู้ และแสดงให้ต่างชาติได้เห็นนวัตกรรมฝีมือคนไทย

นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์นวัตกรรมที่น่าสนใจของ กลุ่มบริษัท บางจาก ที่นำเสนอปั๊มน้ำมันหนึ่งเดียวในประเทศไทยกับ Unique Design ปั๊มบางจากที่มีเอกลักษณ์ “ปั๊มลอยฟ้าบางจาก” โดยจำลองปั๊มบางจากสุขุมวิท 62 สถานีบริการน้ำมันแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศ ที่ใช้ระบบ “Overhead Type” ซึ่งเป็นตู้จ่ายระบบดิจิทัลแบบแขวนบนเพดาน ออกแบบเพื่อรับมือกับข้อจำกัดด้านพื้นที่ และเพื่อรองรับวิถีชีวิตของคนในชุมชน พร้อมด้วยรูปปั้นยักษ์จำลองจาก “ปั๊มยักษ์บางจากหุบกะพง” แสดงเอกลักษณ์ไทยๆ ต้อนรับผู้มาเยือนจากทุกมุมโลก

นอกจากนี้ Inthanin Mobile Truck จากแบรนด์เครื่องดื่มรักษ์โลกชั้นนำของประเทศที่พร้อมให้บริการ เครื่องดื่มหลากหลายตลอดงาน และ Winnonie แพลตฟอร์มเช่าให้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารายแรกของประเทศไทย นำเสนอ ประสบการณ์ใหม่ในการขับขี่มอเตอร์ไซค์แบบไร้มลพิษ

ส่วนบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ นำเสนอเส้นทางสู่การเป็นครัวของโลกที่ยั่งยืน โดยมีเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ “Net Zero” ด้วยนวัตกรรมสินค้าที่ดีต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม (Innovative Product) ผลิตภัณฑ์เนื้อจากพืช Meat Zero และผลิตภัณฑ์ Low Carbon Footprint และบรรจุภัณฑ์ รักษ์โลก รวมไปถึง กระบวนการผลิตที่ใช้นวัตกรรม (Innovative Process) เพื่อลดผลกระทบต่อ

สิ่งแวดล้อมตลอดห่วงโซ่คุณค่าตั้งแต่การผลิตอาหารสัตว์ ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ การแปรรูปอาหาร ด้วยการลดการพึ่งพาพลังงานฟอสซิล เลิกใช้เชื้อเพลิงถ่านหิน เปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาด และลด Carbon Footprint ของผลิตภัณฑ์อาหาร

บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) นำเสนอ นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน ประกอบด้วยการบริหารจัดการพลังงานที่ร้านสาขา เช่น การออกแบบร้าน การเลือกใช้อุปกรณ์ประหยัดพลังงาน การใช้ระบบ IoT ในการ Monitor และ Control อุปกรณ์ ที่ร้านสาขา, การนำ Renewable Energy มาใช้งานที่ร้านสาขา เช่น Solar Rooftop, การส่งสินค้า Delivery ด้วยนวัตกรรมหุ่นยนต์ส่งสินค้าและรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า, และ การนำนวัตกรรมจากกราฟิน มาประยุกต์ใช้งาน

และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นำศักยภาพเครือข่าย อัจฉริยะทรู 5G และเทคโนโลยีดิจิทัลครบวงจร ร่วมยกระดับภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม สาธารณสุข และเกษตรกรรม ดังนี้ 1. Robocore Mini Robot หุ่นยนต์คลาวด์เอไอรุ่นใหม่ ที่สามารถนำเสนอสินค้าและโปรโมชัน ผ่านหน้าจอแสดงผล ทั้งยังเสริมความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ลดการสัมผัสระหว่างบุคคล สามารถ นำทาง รวมถึงสื่อสารได้ทั้งระบบสัมผัสหน้าจอ และโต้ตอบด้วยเสียง

2. True HEALTH แพลตฟอร์มดูแลสุขภาพอัจฉริยะ เชื่อมโยงบริการด้านสุขภาพทั้งออนไลน์และ ออฟไลน์แบบไร้รอยต่อ ทั้งการปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ การป้องกันดูแล การส่งยา ตลอดจนบริการ ด้านประกันสุขภาพ

3. True Farm Drone โซลูชันที่ให้บริการโดรนสำหรับฉีดพ่นปุ๋ยหรือยา ซึ่งเป็นหนึ่งในโซลูชัน “ทรู ฟาร์ม” เทคโนโลยีการเกษตรอัจฉริยะครบวงจร ที่ผสานเครือข่ายทรู 5G กับเทคโนโลยีดิจิทัล หลากหลายทั้ง ไอโอที บล็อกเชน และไซเบอร์ ซิเคียวริตี้

ขณะที่บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป นำเสนอผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีบล็อกเชนเป็นหลัก โดยจะแบ่งออกเป็น 5 โซน ได้แก่ โซนที่ 1 : Introduction to Bitkub Capital Group เป็นโซนนำเสนอเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา โซนที่ 2 : Bitkub NFT Solution นำเสนอเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลประเภท Non-Fungible Token หรือ NFT ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ภาคส่วนต่างๆ นิยมนำไปประยุกต์ใช้เพื่อสร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่สำหรับทั้งธุรกิจ ภาคเอกชน ภาครัฐ และงานส่วนบุคคล

 ทั้งนี้ยังมีการจัดแสดงชิ้นงานศิลปะที่เป็นชิ้นงานจริงควบคู่ไปกับชิ้นงานที่ได้มีการนำมาแปลงเป็น NFT เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น นอกจากนี้ ภายในโซน Bitkub NFT Solution บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป ได้รับเกียรติจากพันธมิตรที่ได้มีการร่วมทำ NFT อาทิ ดารา นักแสดง นางงาม บุคคลผู้มีชื่อเสียง นักกีฬา เพื่อมาบอกเล่า ประสบการณ์และความประทับใจที่ได้รับจากการนำเทคโนโลยี NFT เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้าง ประสบการณ์การร่วมระหว่างผู้ติดตามกับศิลปินดารา กิจกรรม องค์กรและตราสินค้า

 โซนที่ 3 : Bitkub Metaverse เป็นโซนที่นำเสนอเกี่ยวกับแพลตฟอร์มโลกเสมือนอย่าง “Bitkub Metaverse” ที่พัฒนาโดยบริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด และ The Monk Studios โดยจะทำงานอยู่บน

บิทคับเชน ซึ่งในอนาคต มีแผนการพัฒนา คุณสมบัติการใช้งานให้ผู้ใช้งานไปทั่วไปได้เข้าร่วมอย่างง่ายดายและไร้รอยต่อ ผ่านเครื่องเล่นแว่นตา จำลองโลกเสมือน (VR) ไม่ว่าจะเป็นการจัดประชุมออนไลน์ คอนเสิร์ต งานอีเว้นท์ และธุรกิจต่างๆ

โซนที่ 4 : Academic Lounge เปลี่ยนโซนที่นำเสนอเกี่ยวกับการส่งเสริมด้านการศึกษาอย่างยั่งยืน ผ่านคอร์สเรียน 5 Game Changing ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศร่วมกับสถาบันโมลเลอร์ (Moller Institute) แห่งมหาวิทยาลัย เคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ และคอร์สเรียนต่างๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อคเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล จากบริษัท บิทคับ แล็บส์ จำกัด

และโซนที่ 5 : Bitkub NFT Creator Studio เป็นโซนที่จัดทำ NFT ผ่านระบบครีเอเตอร์ สตูดิโอ (Creator Studio) ซึ่งเป็นคุณสมบัติใหม่บน แพลตฟอร์ม “Bitkub NFT” โดยบิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป ได้จัดพื้นที่กิจกรรมให้ผู้เข้าร่วมงานสามารถ เข้ามาสร้าง NFT ชิ้นพิเศษเป็นที่ระลึกสำหรับงานในครั้งนี้ได้ โดยมีการออกแบบกรอบลาย APEC 2022 เป็นพิเศษสำหรับโอกาสนี้เท่านั้น ผู้เข้าร่วมงานที่เข้ามาถ่ายภาพในโซน NFT Creator Studio จะได้รับ NFT Photo Card ที่มีชิ้นเดียวในโลกและไม่ซ้ำกับใคร เพื่อเป็นของที่ระลึกสำหรับการประชุม APEC 2022

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


โลหะกับงานลวดลายเพื่อความงาม

งานออกแบบสถาปัตยกรรมปัจจุบันต่างก็ให้ความสำคัญกับความสวยงามโดดเด่นที่ต้องเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครด้วย สร้างความน่าจดจำและทำให้น่ามอง นักออกแบบหรือเจ้าของโครงการมากมายจึงเลือกสร้างสรรค์ลวดลายเฉพาะใส่เข้าไปในการออกแบบ โดยสามารถเลือกผลิตด้วยวัสดุหลากประเภท และหนึ่งในวัสดุยอดฮิตที่นิยมนำมาสร้างลวดลายเอกลักษณ์ก็คือโลหะชิดต่าง ๆ ทั้งเหล็ก สเตนเลส และอะลูมิเนียม ผ่านกระบวนการ Laser Cut

งาน Laser Cut ลวดลายตามสั่งจากหมิงเจี้ยน

สำหรับผู้สนใจงานเหล็ก สเตนเลส หรืออะลูมิเนียมทำลวดลายออกแบบได้ตามชอบ ลองดูผลงานของ หมิงเจี้ยน ที่เตรียมผลงานจากโรงงานประกอบสามารถผลิตชิ้นงานได้ตามความต้องการของลูกค้า ไปจัดแสดงในงานสถาปนิก’66 โดยยังมีงานตัด/วีคัท/พับตามออร์เดอร์ลูกค้าและประตูสเตนเลสเตรียมไปโชว์อีกด้วย

งาน Laser Cut เป็นลวดลายตามออร์เดอร์ลูกค้า สามารถตัดได้ทั้ง เหล็ก สเตนเลส และอะลูมิเนียม

งาน ตัด/วีคัท/พับ ตามออร์เดอร์ลูกค้า

ตัวอย่างประตูสเตนเลส

ชมงานลวดลายบนโลหะจากหมิงเจี้ยนได้ที่งานสถาปนิก’66

พบงานโลหะของจริงจากหมิงเจี้ยนได้ที่บูธหมายเลข D706/1 ที่งานสถาปนิก’66 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 25 – 30 เมษายน 2566 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานีฟ

สำหรับผู้สนใจจองพื้นที่ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://architectexpo.com/2023/en/about-the-expo/#space-reservation หรือ โทร. 02-717-2477 อีเมล info@TTFintl.com

ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 14/11/2565

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a29,800.0029,900.00
ทองรูปพรรณ 96.5%1,930.0029,258.8030,400.00
ทองรูปพรรณ 90%1,737.0026,332.92n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,544.0023,407.04n/a
ทองรูปพรรณ 50%869.0013,174.04n/a
ทองรูปพรรณ 40%676.0010,248.16n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,000.0030,320.00n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 14/11/2565



ปตท.

บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9536.1536.1536.4536.4536.4536.1536.1536.1536.4536.15
แก๊สโซฮอล์ 9135.8835.8836.1836.1836.1835.8835.8835.8836.1835.88
แก๊สโซฮอล์ E2035.0435.0435.3435.3435.3435.0435.0435.3435.04
แก๊สโซฮอล์ E8533.8433.8433.84
เบนซิน 9543.5644.3144.0644.0143.56
ดีเซล B734.9434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.94
ดีเซล34.9434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.94
ดีเซล B2034.9434.9434.9434.9434.9434.9435.3434.94
ดีเซลพรีเมี่ยม43.6643.6645.1645.1645.0634.94
แก๊ส NGV16.5916.5916.59
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า