บ้านหรูฝั่งตะวันตก พีค! ‘ไซมิส’ ปักหมุดราชพฤกษ์ – ปิ่นเกล้า ขาย 29-50ล.
ตลาดบ้านหรู ฝั่ง กทม.ตะวันตก พีค! ‘ไซมิส แอสเสท ‘ ส่งแบรนด์ใหม่ ‘มนต์เสน่ห์ เอ๊กซ์คลูซีพ วิลล่า’ ครั้งแรก เจาะกลุ่มไฮเอนด์ ย่าน ราชพฤกษ์ – ปิ่นเกล้า ราคาขาย 29-50ล.
14 พ.ย.2565 – นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ SA เปิดเผยกลยุทธ์การพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวในตลาดลักชัวรีเป็นครั้งแรกในชื่อแบรนด์ “มนต์เสน่ห์ เอ๊กซ์คลูซีฟ วิลล่า” (MONSANE EXCLUSIVE VILLA) ว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ภายใต้แนวคิด “Asset of Life สร้างกำไรให้กับทุกการใช้ชีวิต” ซึ่งโครงการนี้เป็นการทำงานที่ต้องการยกระดับที่อยู่อาศัยที่ได้คุณภาพให้กับลูกค้าอย่างแท้จริง สอดรับกับแนวโน้มภาพรวมของตลาดลักชัวรี่ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และบริษัทมีแผนการดำเนินงาน ภายใต้เป้าหมายการเพิ่มสัดส่วนโครงการแนวราบเป็น 50% ของรายได้รวมภายในปี 2566
ทั้งนี้ ตลาดเซกเมนต์ลักชัวรี่ ยังมีโอกาสอีกมาก จากความพร้อมด้านกำลังซื้อของฐานลูกค้าในตลาดนี้ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และความต้องการบ้านพื้นที่กว้างเพื่อรองรับกิจกรรมของสมาชิกในครอบครัวภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ดี ส่งผลให้ภาพรวมของตลาดนี้มีความต้องการซื้อมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และคาดว่าเป็นตลาดที่เติบโตได้เพิ่มขึ้นอีก ในปีหน้า โดยเฉพาะในกลุ่มราคา 15-20 ล้านบาทขึ้นไป
นอกจากด้านดีไซน์ อีกจุดเด่นของ “มนต์เสน่ห์ เอ๊กซ์คลูซีพ วิลล่า” อยู่ที่ทำเลศักยภาพใจกลางกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก ซึ่งติดถนนใหญ่พรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 การเดินทางสะดวกสบายจากโครงการสู่ใจกลางเมือง อาทิ เยาวราช โรงพยาบาลศิริราช และ สาทร เพียง 15 นาที รวมทั้งใกล้รถไฟฟ้าสถานีแยกไฟฉาย และสถานีบางหว้า และทางด่วนพิเศษศรีรัช
ภายในโครงการยังพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ได้แก่ คลับเฮ้าส์ ล็อบบี้ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ ร้านอาหารและคาเฟ่ ตลอดจนติดตั้งสายไฟฟ้าใต้ดิน เพื่อเพิ่มทัศนียภาพที่ดี กับพื้นที่สวนขนาดใหญ่และทะเลสาบ รวมทั้งใกล้แหล่งช้อปปิ้ง คอมมูนิตี้มอลล์ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ โรงเรียนนานาชาติ และโรงพยาบาลชั้นนำ
บ้านทุกหลังของมนต์เสน่ห์ฯ มีนวัตกรรมของ Siamese Technology คิด…เพื่อชีวิตที่ดีกว่า กับเทคโนโลยีภายในบ้านที่ครบครัน อาทิ “Air of Life” ระบบ Air Purify & Ventilation กรองอากาศสะอาดตลอด 24 ชม., Solar Cell System, EV Charger และ Home Automation ควบคุมอุปกรณ์ด้วย Application ทันสมัย สะดวกต่อการใช้งาน
โครงการมนต์เสน่ห์ ยังได้ออกแบบโดยคำนึงถึง 4 แนวคิด ที่ช่วยตอบโจทย์การอยู่อาศัยของทุกไลฟ์สไตล์ในแบบ Sustainable Living ดังนี้
- Site & Surrounding พื้นที่โดยรอบโครงการเหมาะแก่การอยู่อาศัย เนื่องจากโดยรอบเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบแทบทั้งหมด ไม่มีตึกสูงมาบดบังค่อนข้างสงบ และไม่หนาแน่น อีกทั้งภายในโครงการยังมีสวนร่มรื่นถึง 2 ไร่ และวางผังโครงการให้บ้านทุกหลังเป็นบ้านแปลงมุม
- Ventilation การออกแบบโครงการที่คำนึงถึงการถ่ายเทอากาศ โดยพื้นที่ระหว่างบ้านแต่ละหลังมีการเว้นระยะที่เหมาะสม ทำให้ลมไหลเวียนได้ง่าย และภายในบ้านมีการติดตั้งระบบหมุนเวียนและฟอกอากาศมาให้ ทำให้ผู้อยู่อาศัยได้รับอากาศสดชื่นตลอดวัน
- Technology มีการติดตั้งเทคโนโลยีเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกมาอย่างครบครัน อาทิระบบ Home Automation, ระบบ Solar cell และ EV Charger
- Material Selection วัสดุอุปกรณ์ภายในบ้านที่ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดี เช่น การเลือกใช้ผนัง Insulated wall ที่มีคุณสมบัติช่วยกันเสียงรบกวนและความร้อน, ชุดหน้าต่างจากแบรนด์ Tostem, สุขภัณฑ์จากแบรนด์ Kohler ทั้งหลัง, พื้นชั้น 2 จากวัสดุไม้จริง
“การพัฒนาบ้านเดี่ยวหรู ซึ่งเป็นโครงการแรกในเซกเมนต์นี้ มุ่งให้ความสำคัญกับการออกแบบบ้าน ตลอดจนภาพรวมของโครงการ เพื่อสร้างความแตกต่างและเพิ่มความคุ้มค่าในการอยู่อาศัย สำหรับกลุ่มเรียลดีมานด์ ที่เป็นผู้ซื้อเพื่อการอยู่อาศัยจริง”
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ท่องเที่ยว ดัน ‘สิงห์ เอสเตท’ เทิร์นอะราวด์ จากขาดทุน 238 ล.สู่กำไร 98ล.
‘สิงห์ เอสเตท’ เผยผลงาน งวด 9 เดือน พลิกจากขาดทุน 238 ล้านบาท สู่ กำไร 98 ล้าน เติบโต141% หลังธุรกิจท่องเที่ยวทั่วโลกฟื้น ขณะประกาศ พร้อมขึ้นแท่นผู้นำบ้านระดับอัลตรา ลักชัวรี่ จาก โครงการ “ศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส” จ่อปิดการขายก่อนเปิดตัว
14 พฤศจิกายน 2565) – บริษัท สิงห์ เอสเตท โชว์รายได้ 8,491 ล้านบาท ในงวด 9 เดือนปี 2565 เพิ่มขึ้น 65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ดันโดยรายได้ธุรกิจโรงแรมซึ่งเติบโตขึ้นกว่า 2 เท่าตัว รับอานิสงส์การท่องเที่ยวฟื้นตัวแกร่งทั่วโลก และรายงานกำไรสุทธิ 98 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 238 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมประกาศความสำเร็จในการขายบ้านหรูโครงการใหม่ “ศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส พัฒนาการ” มูลค่า 2,900 ล้าน ซึ่งสามารถปิดการขายมากกว่า 95% ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
การเพิ่มขึ้นของรายได้รวมมีสาเหตุหลักจากผลการดำเนินงานที่โดดเด่นของกลุ่มธุรกิจโรงแรม ซึ่งรายงานที่ 6,123 ล้านบาท เติบโต 121% จากงวด 9 เดือนปี 2564 ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของผลประกอบการของโรงแรมทั้ง 4 พอร์ตโฟลิโอ นำทัพโดยผลประกอบการที่โดดเด่นในโครงการ CROSSROADS Maldives ซึ่งสามารถรักษาอัตราการเข้าพักได้อย่างแข็งแกร่งเฉลี่ยที่ระดับร้อยละ 67 อีกทั้งยังสามารถปรับอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืน (ADR) ได้เพิ่มขึ้น 41% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
เช่นเดียวกันกับพอร์ตโรงแรมในสหราชอาณาจักรที่ฟื้นตัวได้อย่างแข็งแรง ส่งผลให้ ADR เพิ่มขึ้นสู่ระดับที่สูงที่สุดตั้งแต่เปิดดำเนินงานมา และผลักดันให้รายได้เฉลี่ยต่อคืน (RevPAR) ในงวด 9 เดือนของปี ปรับตัวขึ้นไปสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ถึง 19% นอกจากนั้นแล้ว บริษัทฯ เห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจนของการท่องเที่ยวในสาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิ และสาธารณรัฐมอริเชียส จากความแข็งแกร่งของปริมาณความต้องการท่องเที่ยวที่คงค้างมาตั้งแต่ปีก่อน (pent-up demand)
รวมถึงจุดขายที่โดดเด่นของโรงแรม ส่งผลให้พอร์ตโรงแรม Outrigger ฟื้นตัวโดดเด่นที่สุดด้วย ADR ที่ปรับเพิ่มขึ้นถึง 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 พร้อมทั้งมีกำไรขั้นต้น และ % Gross Profit Margin ที่สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนโควิด-19 ได้สำเร็จ
เสริมทัพด้วยรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าจำนวน 767 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้น 6% ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับเพิ่มอัตราค่าเช่าขึ้นได้แม้จะอยู่ระหว่างสถานการณ์ที่ท้าทาย รวมถึงอัตราการปล่อยเช่าของอาคาร เอส เมโทร (S Metro) ที่ปรับตัวสูงขึ้นถึง 93% ภายหลังการรีแบรนด์และปรับปรุงอาคารใหม่ สะท้อนถึงความสามารถในการบริหารสินทรัพย์ และการเลือกกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทฯ ที่เน้นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการเจริญเติบโตสูง มีการขยายตัวทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีความต้องการพื้นที่เพิ่มขึ้นในระยะยาว
นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ‘S’ เปิดเผยว่า “สำหรับผลประกอบการที่น่าพอใจในไตรมาสที่ 3 นี้ เรารายงานกำไรสุทธิ 44 ล้านบาท นับเป็นการบันทึกกำไรติดต่อกันสองไตรมาสของสิงห์ เอสเตท ในขณะที่ธุรกิจโรงแรมผ่านบริษัทฯ ย่อย “SHR” พลิกฟื้นกลับมามีกำไรสุทธิเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 และสำหรับไตรมาสที่ 4 เราเชื่อว่าจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี 2565 ซึ่งจะถูกผลักดันโดยผลการดำเนินงานที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของโรงแรมในประเทศไทย ซึ่งเราเห็นภาพการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวชัดเจนภายหลังเปิดประเทศเต็มรูปแบบ
ผนวกกับศักยภาพของโรงแรมที่ตั้งอยู่ในจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงสุด และประสิทธิภาพในการบริหารจัดการโรงแรมของเรา ส่งผลให้ occupancy rate ในเดือนตุลาคมของโรงแรม ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ และโรงแรม ทราย ลากูน่า ภูเก็ต พุ่งขึ้นที่ 81% และ 77% ตามลำดับ เสริมทัพด้วยการเติบโตอย่างต่อเนื่องของ CROSSROADS ซึ่งปกติมีช่วง Peak season ของการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี เราคาดการณ์ว่า CROSSROADS จะมีผลการดำเนินงานที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เปิดตัวโครงการในปี 2562 ได้ในไตรมาสที่ 4 ที่จะถึงนี้”
สำหรับการเปิดตัวโครงการศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส พัฒนาการ (SIRANINN Residences Pattanakarn) โครงการแนวราบใหม่ล่าสุดในคอนเซป Horizontal Luxury House ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 28 แปลง ด้วยราคาประมาณ 65 – 180 ล้านบาท ที่วางแผนจะเปิดการขายภายในช่วงปลายปี 2565 ณ ปัจจุบัน โครงการได้ถูกขายไปแล้วกว่า 95% ของมูลค่าโครงการ 2,900 ล้านบาท ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นจากลูกค้าต่อศักยภาพในการพัฒนาโครงการแนวราบของสิงห์ เอสเตท และตอกย้ำคุณภาพของแบรนด์ที่สร้างความเเตกต่างจากคู่เเข่ง โดยบริษัทฯ วางเป้าหมายการโอนกรรมสิทธิ์โครงการระหว่างไตรมาส 4 ปี 2565 จนถึงไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ซึ่งจะเป็น 1 ในปัจจัยสำคัญที่ผลักดันรายได้ของธุรกิจที่พักอาศัยให้เพิ่มขึ้นกว่า 50% ในปีหน้า หนุนด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่ ในอีก 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ระดับราคาตั้งแต่ 10 – 50 ล้านบาท ที่พร้อมเปิดขายตั้งแต่ต้นไตรมาส 2 ปี 2566 จำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวม 7,700 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันได้เริ่มพัฒนาโครงการแล้ว
“จากกระแสตอบรับที่ดีเกินคาดของโครงการ SIRANINN Residences Pattanakarn เป็นเครื่องยืนยันได้ว่าลูกค้าให้ความมั่นใจในชื่อ และผลิตภัณฑ์ของ “สิงห์ เอสเตท” แม้ว่าเราจะเป็นแบรด์น้องใหม่ในตลาด และพึ่งเริ่มลุยโครงการแนวราบเพียงแค่โครงการที่สองเท่านั้น แต่ลูกค้ายังคงเชื่อมั่นและซื้อบ้านในระดับราคา 100 ล้าน ทั้งก่อนการเปิดตัวโครงการและก่อนการเห็นบ้านตัวอย่าง
ซึ่งถือว่าเป็นปรากฏการณ์ที่เราภูมิใจ ทำให้เราเชื่อมั่นในเส้นทางแห่งความสำเร็จในอนาคตที่เราวางเป้าเปิดตัวโครงการแนวราบใหม่ในช่วง 5 ปีหลังจากนี้อย่างต่อเนื่องปีละ 3 – 4 โครงการ มีมูลค่ารวม 7,000 ล้านบาทต่อปี โดยการประกาศเดินหน้ารุกตลาดบ้านแนวราบอย่างเต็มตัวด้วยแผนกลยุทธ์ “Rise above” นั้น สะท้อนความมุ่งมั่นในการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เหนือระดับ เราตั้งใจที่จะพัฒนาโครงการเพื่อยกระดับ “บ้านแบบสิงห์ เอสเตท” ที่โดดเด่นในทุกรายละเอียดการออกแบบการเลือกใช้วัสดุและฟังก์ชั่นต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการของเราจะสามารถส่งมอบประสบการณ์แบบ Best-in-class ของการอยู่อาศัย และตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มตลาด Super Luxury ขึ้นไปได้เป็นอย่างแท้จริง”
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ ที่ระดับ 35.71 บาทต่อดอลลาร์
เงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ควรระมัดระวังความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจจีนออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้มาก อาจกดดันให้ ค่าเงินหยวนพลิกกลับมาอ่อนค่าลง
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.71 บาทต่อดอลลาร์“แข็งค่าขึ้น”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.94 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทยระบุว่าแนวโน้มค่าเงินบาท เรามองว่า แม้ว่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องมากกว่าที่เราประเมินไว้ แต่บรรยากาศในตลาดการเงินที่เริ่มระมัดระวังตัวมากขึ้น อาจกดดันให้ นักลงทุนต่างชาติทยอยขายทำกำไรหุ้นและบอนด์ไทยได้บ้าง
นอกจากนี้ ควรระมัดระวังความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจจีนออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้มาก ซึ่งอาจกดดันให้ ค่าเงินหยวน (CNY) ของจีนพลิกกลับมาอ่อนค่าลงได้บ้าง หลังจากที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วจากความหวังการผ่อนคลายมาตรการ Zero COVID ของทางการจีน โดยในกรณีที่เงินหยวนพลิกอ่อนค่าลงก็มีโอกาสที่จะกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงได้บ้าง (เงินบาทเคลื่อนไหวสอดคล้องกับเงินหยวนจีนในช่วงนี้ราว 71%)
ทั้งนี้ เรามองว่า หากเงินบาทอ่อนค่าลงได้ ก็อาจจะไม่ได้อ่อนค่ารุนแรงมากนัก เนื่องจากโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ ยังเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนเงินบาทฝั่งแข็งค่า ทำให้ เราประเมินว่า แนวต้านของเงินบาทจะอยู่ในโซน 36.00-36.20 บาทต่อดอลลาร์ ในขณะที่ แนวรับยังคงเป็นโซน 35.50-35.60 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเราประเมินว่าบรรดาผู้นำเข้าส่วนใหญ่ต่างรอทยอยซื้อเงินดอลลาร์และสกุลเงินต่างประเทศในโซนดังกล่าว
ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ผันผวนสูงในช่วงที่ผ่าน ทำให้เราคงแนะนำ ผู้ประกอบการควรใช้กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้ Options ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงได้ดีในช่วงที่ตลาดผันผวนหนัก
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.60-35.85 บาท/ดอลลาร์
ผู้เล่นในตลาดการเงินสหรัฐฯ เริ่มระมัดระวังตัวมากขึ้นและเลือกที่จะทยอยลดความเสี่ยงลง กดดันให้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ต่างปรับตัวลดลง นำโดย ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ปรับตัวลง -1.12% ส่วนดัชนี S&P 500 ปิดตลาด -0.89% โดยแรงเทขายหุ้นสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นหลังจากที่ Christopher Waller
ซึ่งเป็นหนึ่งใน FOMC Voting member ออกมาให้ความเห็นสนับสนุนการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของเฟด แม้ว่าข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดจะชะลอตัวลงมากกว่าคาดก็ตาม แต่เฟดก็ยังไม่บรรลุภารกิจควบคุมเงินเฟ้อ ซึ่งมุมมองดังกล่าวของเจ้าหน้าที่เฟด ได้ทำให้ผู้เล่นในตลาดกลับมากังวลแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องของเฟดอีกครั้ง
ทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ของยุโรป สามารถปรับตัวขึ้น +0.14% หนุนโดยรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนฝั่งยุโรปที่ยังคงออกมาดีกว่าคาด รวมถึง ผู้เล่นในตลาดก็เริ่มคลายกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจยุโรปเข้าสู่ภาวะถดถอยในระยะสั้น
หลังจากที่ยอดผลผลิตอุตสาหกรรม (Industrial Production) ของยูโรโซนในเดือนกันยายน เร่งตัวขึ้น +0.9%m/m ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้มาก อนึ่ง การย่อตัวลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้กดดันตลาดหุ้นยุโรปในช่วงท้ายของการซื้อ ขาย ทำให้ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นไปได้ไม่มาก
ฝั่งตลาดบอนด์ แม้ว่าผู้เล่นในตลาดจะเริ่มกลับมากังวลแนวโน้มเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ทว่า การย่อตัวลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทำให้ผู้เล่นบางส่วนยังคงต้องการถือบอนด์ระยะยาวเพื่อป้องกันความเสี่ยงอยู่ ส่งผลให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวลงเล็กน้อย สู่ระดับ 3.86%
อย่างไรก็ดี เราคงมุมมองเดิมว่า แม้ว่าเฟดอาจจะชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ยได้ตามคาด แต่ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดได้สะท้อนความไม่แน่นอนของจุดสูงสุดดอกเบี้ยนโยบายเฟด (Terminal Rate) ซึ่งอาจส่งผลให้บอนด์ยีลด์ระยะยาวยังเคลื่อนไหวผันผวนและมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้ ซึ่งเรามองว่าควรหาจังหวะที่บอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้นในการทยอยซื้อ มากกว่าจะไล่ราคาซื้อบอนด์ระยะยาวในจังหวะที่บอนด์ยีลด์ลดลง
ในฝั่งตลาดค่าเงิน บรรยากาศในตลาดการเงินที่เริ่มระมัดระวังตัวมากขึ้น ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ได้ส่งผลให้ เงินดอลลาร์พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ทำให้ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 106.9 จุด
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค.) ยังคงสามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ สู่ระดับ 1,773 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งส่วนหนึ่งก็ถูกหนุนด้วยความต้องการซื้อทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ทว่า ราคาทองคำยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นต่อได้
ท่ามกลางแรงกดดันจากการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ทั้งนี้ เราคาดว่า การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ แต่ยังไม่สามารถผ่านโซนแนวต้านได้ อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดทยอยขายทำกำไรออกมา และน่าจะเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นเร็ว (เงินบาทเคลื่อนไหวสอดคล้องกับราคาทองคำสูงถึง 85%)
สำหรับวันนี้ ในฝั่งสหรัฐฯ แม้ว่ารายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะมีไม่มากนัก ทำให้ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด ผ่านถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด (ส่วนใหญ่เป็น FOMC Voting Members)
ส่วนในฝั่งยุโรป ตลาดประเมินว่า บรรดานักวิเคราะห์และนักลงทุนสถาบันอาจมีมุมมองเชิงลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจเยอรมนีน้อยลง หลังวิกฤตพลังงานอาจไม่ได้น่ากังวลมากอย่างที่เคยประเมินกันก่อนหน้า ตามสภาวะอากาศในช่วงฤดูหนาวที่มีแนวโน้มอุ่นกว่าปกติ ซึ่งมุมมองดังกล่าวจะสะท้อนผ่านการปรับตัวขึ้นของดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนี (ZEW Economic Sentiment) เดือนพฤศจิกายน ที่จะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -52 จุด (ดัชนีติดลบ หมายถึง มุมมองเชิงลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ)
และในฝั่งเอเชีย ไฮไลท์สำคัญที่ควรติดตามและระมัดระวัง คือ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญรายเดือนของจีน โดย ตลาดประเมินว่า ภาพรวมเศรษฐกิจจีนในเดือนตุลาคมยังคงซบเซาอยู่ ตามผลกระทบของมาตรการ Zero COVID โดยยอดค้าปลีกจะโตเพียง +0.7%y/y ส่วนยอดผลผลิตอุตสาหกรรม (Industrial Production) ก็อาจเพิ่มขึ้น +5.2% สอดคล้องกับ การปรับตัวลงต่อเนื่องของดัชนี PMI ภาคการผลิตอุตสาหกรรมของจีนในช่วงที่ผ่านมา
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 3 เดือนครั้งใหม่ที่ 35.65 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนจะกลับมาเคลื่อนไหวที่ระดับประมาณ 35.69-35.71 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.00 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 35.91 บาทต่อดอลลาร์ฯ
แม้เงินบาทจะขยับแข็งค่าขึ้น แต่กรอบการแข็งค่าอาจเริ่มเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากเงินดอลลาร์ฯ มีแรงประคองกลับมาบางส่วนจากการฟื้นตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ หลังท่าทีของเจ้าหน้าที่เฟดหนุนการคาดการณ์ว่า เฟดจะยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป (แม้ขนาดการขึ้นดอกเบี้ยในรอบการประชุมถัดๆ ไป อาจไม่เร่งขึ้นเหมือนกับที่ผ่านมาก็ตาม)
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้ที่ 35.60-35.95 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์ค่าเงินหยวนและภาพรวมสกุลเงินเอเชีย ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ ประกอบด้วย ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนต.ค. และผลสำรวจภาคการผลิตเดือนพ.ย.จากเฟดนิวยอร์กของสหรัฐฯ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/65 ของยุโรป ตลอดจนข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก และอัตราการว่างงานเดือนต.ค.ของจีน
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ยืนยันทางการ! FIVB ประกาศแบ่งกลุ่ม+เจ้าภาพทุกสนาม “ลูกยางเนชั่นลีกส์ 2023”
การแข่งขัน วอลเลย์บอล เนชั่นส์ลีก 2023 เตรียมที่จะกลับมาสร้างความประทับใจให้กับแฟนๆ ทั่วโลกอีกครั้ง ล่าสุด สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) ได้ออกมายืนยันสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพในแต่ละสนามแข่งขัน
ซึ่งตลอดช่วง 3 สัปดาห์ของการแข่งขันในครั้งนี้จะเป็นการเจอกันของทีมที่ดีที่สุดในโลก 16 ชาติ และจะมีเจ้าภาพที่จัดการแข่งขันทั้งหมด 6 สนาม รวมถึงสนามที่ประเทศไทยด้วย โดยมีเป้าหมายคือตำแหน่งแชมป์อันทรงเกียรติ
ล่าสุด สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) ได้ทำการแบ่งกลุ่มการแข่งขัน รวมทั้งกำหนดเจ้าภาพที่จะแข่งขันในแต่ละสนามออกมาเป็นที่เรียบร้อย โดยจะทำการแข่งขันกันระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม – วันที่ 16 กรกฎาคม ปี 2566
โปรแกรมการแข่งขันแบ่งตามกลุ่ม และเจ้าภาพในแต่ละสนาม
สัปดาห์ที่ 1 (แข่งขันวันที่ 30 พฤษภาคม – 4 มิถุนายน)
กลุ่ม : เมืองอังการา ประเทศตุรกี
ตุรกี , อิตาลี , สหรัฐอเมริกา , ไทย , เซอร์เบีย , โปแลนด์ , เกาหลีใต้ , แคนาดา
กลุ่ม : เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
ญี่ปุ่น , บราซิล , บัลแกเรีย , เนเธอร์แลนด์ , โดมินิกัน , โครเอเชีย , เยอรมนี , จีน
สัปดาห์ที่ 2 (แข่งขันวันที่ 13 มิถุนายน – 18 มิถุนายน)
กลุ่ม : ฮ่องกง
จีน , ตุรกี , โดมินิกัน , เนเธอร์แลนด์ , อิตาลี , แคนาดา , โปแลนด์ , บัลแกเรีย
กลุ่ม : บราซิเลีย ประเทศบราซิล
บราซิล , สหรัฐอเมริกา , ญี่ปุ่น , เซอร์เบีย , โครเอเชีย , ไทย , เกาหลีใต้ , เยอรมนี
สัปดาห์ที่ 3 (แข่งขันวันที่ 27 มิถุนายน – 2 กรกฏาคม)
กลุ่ม : ซูวอน ประเทศเกาหลีใต้
เกาหลีใต้ , โปแลนด์ , บัลแกเรีย , โดมินิกัน , สหรัฐอเมริกา , เยอรมนี , เซอร์เบีย , จีน
กลุ่ม : กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
ไทย , บราซิล , ญี่ปุ่น , เนเธอร์แลนด์ , อิตาลี , โครเอเชีย , แคนาดา , ตุรกี
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
“เหงื่อออกมาก” ผิดปกติหรือไม่ แก้ไขอย่างไร
บางครั้ง หรือหลายๆ ครั้งการที่เรามีเหงื่อออกมาตามร่างกาย ก็ไม่ได้มาจากอุณหภูมิร้อนๆ ในประเทศไทยเสมอไป อาการตื่นเต้น หรืออาการผิดปกติอื่นๆ ในร่างกาย อาจทำให้ร่างกายขับเหงื่อออกมามากผิดปกติได้เช่นกัน
ทำไมเราถึงมี “เหงื่อ”
พล.ต.ต.นายแพทย์วารินทร์ วชิรปัญญานุกูล ศัลยแพทย์อาวุโสผู้เชี่ยวชาญ ด้านการผ่าตัดผ่านกล้อง รพ. พญาไท นวมินทร์ ระบุว่า การหลั่งเหงื่อ คือการถ่ายเทความร้อนที่เกิดจากกระบวนการต่างๆ ในร่างกายออกไป เมื่อร่างกายเกิดความร้อน ร่างกายก็จะมีกลไกในการควบคุมหรือระบายความร้อน นั้นออกมาในรูปแบบของเหงื่อ เพื่อให้ความร้อนในร่างกายอยู่ในระดับที่เหมาะสม
เหงื่อออกแบบไหน ถึงเรียกว่าผิดปกติ
- เหงื่อออกมากแบบไม่สัมพันธ์กับอากาศร้อน หรือไม่ได้มีการออกกำลังกาย
- เหงื่อออกมากที่บริเวณรักแร้ ฝ่าเท้าและฝ่ามือ บวกกับอาการผิดปกติอื่นๆ เช่น มีไข้ เบื่ออาหาร หรือผอมลงโดยไม่รู้สาเหตุร่วมด้วย และเกิดขึ้นติดต่อกันนาน 6 เดือน
- เหงื่อออกมือออกเท้ามากเกินไปจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น เหงื่อออกมือจนกำดินสอ ปากกา หรือสิ่งของต่างๆ ไม่ได้ เป็นต้น
สาเหตุของอาการเหงื่อออกมากเกินไป
- เกิดจากภาวะความผิดปกติในร่างกาย
คนไข้ในกลุ่มนี้ จะมีเหงื่อในปริมาณมาก ออกทั่วร่างกาย แม้กระทั่งในเวลานอน ซึ่งมีสาเหตุมาจากผลข้างเคียงของโรคอื่นๆ เช่น
- โรคไทรอยด์เป็นพิษ ทำให้ร่างการมีการเผาผลาญสูง
- โรควัณโรคปอด
- โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
- ผู้ที่เป็นโรคอ้วน หรือมีภาวะอ้วนมากๆ
- หญิงวัยใกล้หมดประจำเดือน
- การรับประทานยาบางชนิด
เป็นต้น
- ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด
เป็นภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ ที่ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด และไม่ได้มีสาเหตุมาจากภาวะแทรกซ้อนของโรคอื่นๆ อาการที่พบคือ จะมีเหงื่อออกในบริเวณบางส่วนของร่างกาย เช่น ใบหน้า ศีรษะ รักแร้ ฝ่ามือ จนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
กลุ่มเสี่ยง พบได้บ่อยในกลุ่มคนอายุยังน้อยๆ วัยรุ่นที่อายุน้อยกว่า 25 ปี และพบได้ทั้งเพศชาย และหญิง
วิธีรักษาอาการเหงื่อออกมาก
แพทย์ต้องทำการวินิจฉัยหาสาเหตุก่อนว่าเหงื่อออกมากจากสาเหตุใด แล้วจึงพยายามเข้าไปแก้ไขที่สาเหตุนั้น ซึ่งในแต่ละคนอาจมีสาเหตุที่ทำให้เหงื่อออกมากไม่เหมือนกัน
แต่โดยทั่วไป วิธีรักษามีทั้งการกินยา หรือฉีดยา ไปจนถึงการผ่าตัด
- ไม่ต้องผ่าตัด
แพทย์อาจพิจารณายาทา หรือยาฉีดบางอย่างให้ผู้ป่วย แต่วิธีนี้ไม่สามารถทำให้ผู้ป่วยหายขาดจากอาการเหงื่อออกมากผิดปกติได้ เป็นเพียงการรักษาแบบประคับประคองเท่านั้น
- ผ่าตัด
แพทย์อาจพิจารณาวิธีผ่าตัดให้กับผู้ป่วย เพื่อเข้าไปทำลายปมประสาทบางส่วนที่ส่งสัญญาณมาบริเวณใบหน้า มือหรือรักแร้ ทำให้ไม่มีสัญญาณสั่งการส่งมาที่ต่อมเหงื่อปลายทาง จึงทำให้ไม่มีการหลั่งเหงื่อเกิดขึ้นที่บริเวณนั้นๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ทำอย่างไร เมื่อเจอฝรั่งแล้วเกิดนึกคำพูดไม่ออก
ความมีน้ำใจของคนไทย ทำให้ใครหลายคนต้องเคยถูกฝรั่งเข้ามาถามทางบ้างล่ะ แต่เคยคิดไหมว่าจะ พูดภาษาอังกฤษอย่างไรเพื่ออธิบายให้เขาเข้าใจ บางครั้งคำมันก็ติดอยู่ที่ปลายลิ้น ปัญหานี้เป็นเหมือนเส้นผมบังภูเขา มาดู วิธีการ เรียนพูดภาษาอังกฤษ แบบด้นสด หรือ เรียกให้หรูว่า Improvisation ทักษะที่นักแสดงส่วนใหญ่นำมาใช้เมื่อจำบทพูดไม่ออก เพื่อช่วยให้คุณมีบท สนทนาภาษาอังกฤษ ที่ลื่นไหล ไม่ติดขัด กันดีกว่า
1. เลือกคำศัพท์ที่ Simple ที่สุด
บางครั้งเส้นผมบังภูเขาเพราะเราใช้เวลาแปล ไทย เป็น อังกฤษ หรือแม้แต่ อังกฤษ เป็น อังกฤษ เพราะคุณรู้สึกอยากใช้ศัพท์ไฮโซ การทำอย่างนั้นไม่ผิดกติกาหรอกค่ะ แต่บางครั้งการเลือกศัพท์ที่ง่ายกว่าจะทำให้คุณไม่สะดุด โดยเฉพาะเวลาที่คุณสนทนากับใครสักคน โดยไม่ทำให้คู่สนทนาของคุณรอคุณคิดคำศัพท์จนเบื่อไปเสียก่อน
2. มีรูปประโยคอยู่ในใจ
การเตรียมประโยคขึ้นต้น จะช่วยให้คุณมีเวลาคิดมากขึ้น โดยไม่ทำให้บทสนทนาติดขัด เมื่อคุณนึกคำตอบไม่ออก เหมือนเล่นเติมคำในช่องว่าง ลองเตรียมประโยคคำตอบ หรือคำศัพท์สำหรับคำถามภาษาอังกฤษที่คุณจะเจอบ่อยในชีวิตประจำวันไว้ให้พร้อม ตัวอย่างเช่น
“Normally I would _______.” ปกติแล้วฉันจะ……
“The fastest way to get there is by_____.” หนทางที่จะไปถึงเป้าหมายได้เร็วที่สุดคือการ…….
“I heard once that _____.” ฉันเคยได้ยินครั้งหนึ่งว่า……
3. It’s similar to…/ It’s the same with…/ It’s like…
เมื่อคุณนึกถึงสิ่งที่ต้องการอธิบายด้วยคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้บรรยายอย่างชัดเจนไม่ ได้ ลองเปรียบเทียบสิ่งนั้นกับคำศัพท์ของสิ่งของ หรือบุคคล ที่มีรูปร่าง ลักษณะ ทำหน้าที่ ใกล้เคียงกัน ตัวอย่างเช่น
ศัพท์ที่คุณนึกไม่ออก “genuine”
การแก้ปัญหาที่เราแนะนำ
“It’s like something real or true.”
ศัพท์ที่คุณนึกไม่ออก “monastery”
การแก้ปัญหาที่เราแนะนำ
“It’s similar to temple.”
4. Yes, and…
ประโยคนี้ไม่จำเป็นต้องใช้เมื่อคุณนึกคำพูดต่อไปไม่ออกเสมอไป แต่เป็นการสานต่อบทสนทนาเมื่อผู้พูดคนหนึ่งพูดจบประโยค โดยที่คุณสามารถ ใช้ประโยคนี้ในการทำให้บทสนทนาลื่นไหล ไม่ต้องคิดหัวข้อขึ้นมาใหม่ และสนุกสนานยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น
เพื่อนฝรั่ง : “Vegetarian food is so expensive these days.”
คุณ : “Yes, and the farmers are still struggling to make a living.”
5. มั่นไว้ก่อน Grammar มาทีหลัง
ความกลัวว่าพูดแล้วจะผิด Grammar เป็นความกลัวผิดๆ ที่อยู่คู่คนไทยมาเเสนนาน คิดไว้เสมอนะคะว่าหากไม่ใช่การติดต่อธุรกรรมการเงินมูลค่าหลักแสนหลักล้าน หรือการต้องไปขึ้นศาลให้ปากคำเพื่อปกป้องใคร ความมั่นใจเต็มร้อยจะช่วยให้คุณ ช่วยเหลือ และให้ข้อมูลชาวต่างชาติ ในสถานการณ์ง่ายๆ อย่าง การบอกทาง, อธิบายเครื่องหมาย/สัญลักษณ์ต่างๆ ไปจนถึงการแนะนำร้านอาหารอร่อยในย่านอยู่อาศัยของคุณ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก wallstreetenglish.in.th
ในที่สุดก็มา “Google Wallet” เปิดให้บริการในไทยแล้ว
ในยุคปัจจุบันที่การชำระเงินแบบดิจิทัลเพื่อประสบการณ์ที่ราบรื่นได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ Google จึงถือโอกาสเปิดตัว Google Wallet ในประเทศไทย เพื่อมอบประสบการณ์การชำระเงินที่สะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้นแก่ผู้ใช้ โดยรองรับการใช้งานบัตรต่างๆ ที่อยู่ในรูปแบบดิจิทัล เช่น บัตรสะสมคะแนน บัตรเข้าชมงานต่างๆ และบอร์ดดิ้งพาส เพียงแค่ดาวน์โหลดแอป Google Wallet จาก Google Play Store เพื่อเริ่มต้นใช้งาน
แจ็คกี้ หวาง Country Director, Google ประเทศไทย กล่าวว่า “จากรายงานเศรษฐกิจดิจิทัลเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ e-Conomy SEA 2022 พบว่าการชำระเงินแบบดิจิทัลได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และคาดว่าการชำระเงินแบบดิจิทัลในไทยจะมีมูลค่าธุรกรรมรวม (Gross Transaction Value: GTV) สูงถึง 1.61 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 เนื่องจากปัจจุบันคนไทยหลายล้านคนนิยมชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ เราจึงรู้สึกตื่นเต้นที่ได้นำ Google Wallet มาให้บริการในประเทศไทย
ด้วย Google Wallet ผู้ใช้ในไทยสามารถแตะเพื่อจ่ายเงินในร้านค้า หรือเช็คเอาท์ผ่านช่องทางออนไลน์ รวมทั้งเข้าถึงบอร์ดดิ้งพาสสำหรับการเดินทางที่เร่งรีบในช่วงเทศกาลวันหยุดส่งท้ายปลายปีได้อย่างง่ายดาย เปรียบเสมือนการรวมทุกกระเป๋าไว้ในที่เดียวในทุกการเดินทาง ซึ่งทั้งสะดวกและปลอดภัย”
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผู้ถือบัตรเครดิตของธนาคารกรุงเทพ (บัตรเครดิต Visa และ Mastercard) และ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เคทีซี (บัตรเครดิต Visa และ Mastercard) สามารถเพิ่มบัตรลงใน Google Wallet และแตะเพื่อจ่ายด้วยโทรศัพท์ Android หรืออุปกรณ์ Wear OS ในร้านค้าที่รองรับการชำระเงินแบบไม่ต้องสัมผัส และผู้ที่ถือบัตรของทรูมันนี่ (บัตร Prepaid Mastercard) จะสามารถเพิ่มบัตรลงใน Google Wallet ได้ในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้บัตรชำระเงินใน Google Wallet เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์หรือภายในแอปกับร้านค้าและผู้ให้บริการต่างๆ ได้ เช่น Airbnb และดีแทค หรือทุกที่ที่มีปุ่มตัวเลือกการชำระเงินผ่าน Google Pay
นอกจากการบันทึกและเข้าถึงบัตรชำระเงินแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถเพิ่มบอร์ดดิ้งพาสของสายการบินแอร์เอเชียลงใน Google Wallet ซึ่งจะทำให้ได้รับการแจ้งหากเวลาออกเดินทางและประตูขึ้นเครื่องมีการเปลี่ยนแปลง และสามารถผ่านประตูขึ้นเครื่องที่สนามบินได้อย่างสะดวกรวดเร็ว นอกจากนี้ยังสามารถแตะเพื่อจ่ายได้อย่างปลอดภัยโดยใช้ Google Wallet ระหว่างการเดินทางไปต่างประเทศ โดยไม่ต้องใช้บัตรจริง
Google Wallet ใช้งานได้อย่างง่ายดาย
หากคุณบันทึกบัตรเครดิตไว้ในบัญชี Google ของคุณแล้ว บัตรนั้นจะปรากฏบน Google Wallet โดยอัตโนมัติ จากนั้นเพียงตั้งค่าการชำระเงินแบบไม่ต้องสัมผัสโดยทำตามขั้นตอนบนหน้าจอ หากคุณยังไม่ได้บันทึกบัตรและต้องการเพิ่มบัตรใบใหม่ลงใน Wallet ให้แตะที่ “เพิ่มบัตร” (“Add a card”) จากเมนูที่อยู่ด้านบนของหน้าจอ จากนั้นระบบจะขอให้คุณตรวจสอบและยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขของผู้ออกบัตรก่อนใช้งาน เมื่อคุณแตะยอมรับและยืนยันข้อมูลของบัตรแล้ว บัตรจะถูกแปลงเป็นโทเค็นและพร้อมใช้งานใน Google Wallet
นอกจากนี้ การเพิ่มบัตรต่างๆ ที่อยู่ในรูปแบบดิจิทัล เช่น บอร์ดดิ้งพาส ลงใน Google Wallet ก็สามารถทำได้ง่ายๆ ในเพียงแค่ไม่กี่ขั้นตอน ตัวอย่างเช่น หลังจากที่คุณซื้อตั๋วเครื่องบินจาก airasia Super App คุณจะเห็นปุ่ม “เพิ่มลงใน Google Wallet” (“Add to Google Wallet”) ซึ่งบอร์ดดิ้งพาสที่อยู่ใน Google Wallet ของคุณจะถูกเปลี่ยนให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล
หากคุณมีบัตรสมาชิกหรือบัตรสะสมคะแนนที่ต้องพกหลายใบ คุณสามารถใช้ Google Wallet เพื่อจัดเก็บบัตรเหล่านั้นเพื่อที่จะได้ไม่ต้องพกให้หนักกระเป๋าอีกต่อไป ตอนนี้ผู้ใช้ในไทยสามารถบันทึกและเข้าถึงบัตรสะสมแต้ม OneSiam ของสยามพิวรรธน์ และบัตรเข้าชมงานต่างๆ จากไทยทิคเก็ตเมเจอร์ได้ด้วยเช่นกัน หากการตั้งค่า Gmail ของคุณอนุญาตให้ใช้งานบริการนี้ได้ Google Wallet จะแสดงบัตรสมาชิกและบัตรสะสมคะแนนของคุณโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้คุณยังสามารถเพิ่มบัตรด้วยตัวเองโดยกดปุ่มเดียวกับตอนที่เพิ่มบัตรชำระเงิน
ปลอดภัยทุกครั้งที่ใช้ Google Wallet
ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยคือหัวใจสำคัญของ Google Wallet โดยมีระบบรักษาความปลอดภัยของโทรศัพท์ Android ครบทุกฟีเจอร์ รวมถึงการแปลงโทเค็นตามมาตรฐานอุตสาหกรรม Google Wallet จะใช้ระบบการทำธุรกรรมที่สมมติหมายเลขบัตรขึ้นมา (โทเค็น) ซึ่งเป็นหมายเลขเฉพาะของอุปกรณ์นั้นๆ และเชื่อมโยงกับรหัสความปลอดภัยแบบไดนามิกที่จะไม่ซ้ำกันในแต่ละธุรกรรม
ทั้งนี้ คุณจะต้องได้รับการยืนยันจากธนาคารก่อนว่าคุณเป็นผู้ถือบัตรตัวจริงถึงจะสามารถเพิ่มบัตรลงในโทรศัพท์ของคุณได้ และคุณสามารถตั้งค่าการล็อกหน้าจอเพื่อไม่ให้คนแปลกหน้าเข้าถึงข้อมูลในอุปกรณ์ของคุณได้ หากโทรศัพท์ของคุณสูญหายหรือถูกขโมย คุณสามารถใช้ฟังก์ชัน “หาอุปกรณ์ของฉัน” (Find My Device) เพื่อล็อกอุปกรณ์นั้นโดยทันทีได้จากทุกที่ ตั้งรหัสผ่านใหม่เพื่อความปลอดภัย หรือแม้แต่ลบข้อมูลส่วนตัวและรายละเอียดเกี่ยวกับบัตรชำระเงินทั้งหมดที่อยู่ในอุปกรณ์นั้น
ความโปร่งใสและการควบคุมวิธีการจัดการข้อมูลคือสิ่งที่ Google ให้ความสำคัญ โดยคุณสามารถอัปเดตการตั้งค่าเหล่านี้ได้จากแอป Google Wallet หรือบนคอมพิวเตอร์โดยเข้าไปที่ myactivity.google.com/product/wallet
สามารถดาวน์โหลด Google Wallet ได้แล้ววันนี้ที่ Google Play Store
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ประโยชน์จาก “ถั่วเขียว” ลดคอเลสเตอรอล-บำรุงหัวใจ
ถั่วเขียว หากินง่าย ราคาถูก แถมยังมีประโยชน์มากกว่าที่คิด ทั้งช่วยลดคอเลสเตอรอล บำรุงหัวใจ และอีกมากมาย
หากนึกถึง “ถั่วเขียว” ทุกคนนึกถึงอะไรบ้าง บางคนอาจนึกถึงเมนูของหวานง่ายๆ อย่างต้มถั่วเขียวหวานอ่อนๆ บางคนอาจนึกถึงถั่วเขียวเม็ดๆ ที่เอามาปลูกเพื่อให้ได้ถั่วงอก แต่จริงๆ แล้วถั่วเขียวที่หลายๆ คนมองข้าม มีคุณประโยชน์ที่ดีต่อร่างกายที่ Sanook Health อยากแนะนำให้ลองกินกัน
คุณค่าทางสารอาหารของถั่วเขียว
ถั่วเขียวปริมาณ 100 กรัม มีคุณค่าทางสารอาหารดังนี้
- โปรตีน 24 กรัม
- น้ำตาล 6 กรัม
- เส้นใยอาหาร 16.3 กรัม
- ธาตุเหล็ก
- สารโพลีฟีนอล
- แคโรทีน
เป็นต้น
ถั่วเขียว และประโยชน์ต่อร่างกาย
ลดคอเลสเตอรอล
ถั่วเขียว มีไขมันชนิดที่ดีต่อร่างกาย ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด จากงานวิจัยที่ทดลองในหนู ระบุว่า หนูที่กินถั่วเขียวผสมบุก มีระดับไขมันและคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีลดลง รวมทั้งมีไขมันดีเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ถั่วเขียวจึงอาจเป็นตัวเลือกที่ดีในการช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีในร่างกายได้
นอกจากนี้ ถั่วเขียวยังอาจช่วยป้องกันภาวะไขมันพอกตับที่ไม่ได้เกิดจากแอลกอฮอล์ได้ด้วย มาจากผลการทดลองในหนูที่กินถั่วเขียว เสี่ยงไขมันในตับน้อยกว่าหนูที่กินถั่วเหลืองติดต่อกัน 4 สัปดาห์
แต่ทั้งหมดยังเป็นการทดลองในหนู และการทดลองบางชิ้นใช้ส่วนเปลือกถั่วเขียวมาสกัด หรือผสมถั่วเขียวกับพืชชนิดอื่น ดังนั้นควรรอการศึกษาระยะยาวกับกลุ่มคนจำนวนมากเพิ่มเติมต่อไป
ลดเสี่ยงโรคอันตรายจากหัวใจ
มีงานวิจัยบางชิ้น ระบุว่า ถั่วเขียวอาจช่วยป้องกันภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายได้ และยังอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะเนื้อเยื่อหัวใจถูกทำลาย จากการศึกษากับหนูทดลองชิ้นหนึ่ง พบว่า สารโพลีฟีนอลซึ่งสกัดจากถั่วเขียวช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อหัวใจได้อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งยังช่วยยับยั้งไม่ให้เนื้อเยื่อหัวใจถูกทำลาย ซึ่งเป็นปัจจัยที่อาจนำไปสู่ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายได้
แต่เนื่องจากยังไม่มีผลการทดลองในคน จึงควรติดตามข้อมูลเพิ่มเติมจากงานวิจัยอื่นๆ ในอนาคตต่อไป
การกินถั่วเขียวให้ดีต่อสุขภาพ คือการกินในปริมาณที่เหมาะสม ราว 1 กำมือต่อวัน หลีกเลี่ยงการปรุงถั่วเขียวกับน้ำตาล หรือหากชอบกินถั่วเขียวต้มน้ำตาล เต้าส่วน ถั่วกวน ลูกชุบ หรือน้ำถั่วเขียว ควรบริโภคในปริมาณที่จำกัด เพื่อหลีกเลี่ยงการกินน้ำตาลมากเกินไป
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 15/11/2565
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 29,850.00 | 29,950.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,934.00 | 29,319.44 | 30,450.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,740.60 | 26,387.50 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,547.20 | 23,455.55 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 870.00 | 13,189.20 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 677.00 | 10,263.32 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,004.00 | 30,380.64 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 15/11/2565
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 36.15 | 36.15 | 36.45 | 36.45 | 36.45 | 36.15 | 36.15 | 36.15 | 36.45 | 36.15 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 35.88 | 35.88 | 36.18 | 36.18 | 36.18 | 35.88 | 35.88 | 35.88 | 36.18 | 35.88 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 35.04 | 35.04 | 35.34 | 35.34 | 35.34 | – | 35.04 | 35.04 | 35.34 | 35.04 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 33.84 | 33.84 | – | – | – | – | – | – | – | 33.84 |
เบนซิน 95 | 43.56 | – | – | – | 44.31 | – | 44.06 | 44.01 | – | 43.56 |
ดีเซล B7 | 34.94 | 34.94 | 35.24 | 34.94 | 35.24 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 |
ดีเซล | 34.94 | 34.94 | 35.24 | 34.94 | 35.24 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 |
ดีเซล B20 | 34.94 | 34.94 | 35.24 | – | 35.24 | – | 34.94 | 34.94 | 35.34 | 34.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 43.66 | 43.66 | 45.46 | 45.46 | 45.36 | – | – | – | – | 34.94 |
แก๊ส NGV | 16.59 | 16.59 | – | – | – | – | – | – | – | 16.59 |