ต้นทุน “ที่อยู่อาศัย” แพง แนวโน้มคนอยาก “เช่าบ้าน” มากกว่าซื้อ
ต้นทุนก่อสร้างสูง “ดีดีพร็อพเพอร์ตี้” แนะ ผู้ซื้อบ้านปีนี้ ต้องเตรียมพร้อมทางการเงิน ขณะ พบตลาดเช่า แนวโน้มความต้องการสูงขึ้น เปิดเมือง -คนย้ายที่ทำงาน มองหาความยืดหยุ่น
14 มีนาคม 2566 – นายวิทยา อภิรักษ์วิริยะ ผู้จัดการทั่วไป ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (ฝั่งดีเวลลอปเปอร์) และ Think of Living แพลตฟอร์มชื่อดังด้านอสังหาริมทรัพย์ คาดการณ์ ว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยในประเทศไทยปีนี้ จะได้รับประโยชน์จากปัจจัยเสริมหลายประการ ซึ่งรวมถึงการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน และการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของรถไฟฟ้าสายต่างๆ ในกรุงเทพฯ ปัจจุบันยังไม่พบอุปทานส่วนเกินในตลาด ขณะที่สต็อกบ้านที่เหลือค้างอยู่ในระบบปัจจุบันจะค่อยๆ ทยอยระบายออก
อย่างไรก็ดี ผู้ซื้อบ้านต้องเตรียมพร้อมทางการเงินสำหรับปีนี้ไว้ด้วย เนื่องจากต้นทุนการสร้างที่อยู่อาศัยเริ่มปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงอัตราเงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราของดอกเบี้ย และปัจจัยอื่นๆ ที่กระทบต่อราคาของอสังหาริมทรัพย์
ตลาดชี้วัดที่น่าสนใจ ด้านความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย คนไทยประมาณ 50% ยังมีความสนใจที่จะซื้อที่อยู่อาศัย แต่จากทำสำรวจ ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา พบว่าคนตั้งใจที่จะซื้อที่อยู่อาศัย ลดลงจาก 57 จุด เหลือ 52 จุด ซึ่งเหตุผลของความต้องการซื้อก่อนหน้านี้ คือ ต้องการมีพื้นที่ส่วนตัว การ WFH ทำให้มีกิจกรรมทำที่บ้านมากขึ้น และใช้ชีวิตในบ้านมากขึ้น แต่ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา พบวามีความต้องการซื้อเพื่อการลงทุนสูงขึ้น จาก 29 จุดเป็น 33 จุด ตรงนี้สะท้อนถึงความมั่นใจของการลงทุน เพราะเชื่อว่าการลงทุนตอนนี้เป็นโอกาสมากกว่าก่อนหน้านี้ที่ภาวะตลาดซบเซาจากสถานการณ์โควิด-19
ขณะที่ตลาดเช่า พบว่า คนมีความต้องการเช่าสัดส่วนที่สูงขึ้น แม้ว่าเหตุผลอันดับหนึ่ง ยังไม่ต่างไปจากเดิมคือคนเช่ายังไม่พร้อมจะซื้อ แต่ที่น่าสนใจพบวา คนยุคนี้เลือกที่จะเช่ามากขึ้น เพราะยังไม่ต้องการลงหลักปักฐานในที่ใดที่หนึ่ง จากผลการสำรวจในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาจาก 18 จุดเพิ่มเป็น 36 จุด เป็นการเติบโตที่มีนัยยะสำคัญ สะท้อนภาพการเปิดเมือง การโยกย้ายสถานที่ทำงาน และคนต้องการความยืดหยุ่นของเรื่องที่อยู่อาศัยมากขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“อสังหาฯไทย” เบอร์ต้นระดับโลก คาดซื้อ-ขาย “โรงแรม” พุ่ง 1.2 แสนล้าน
เปิดฉากเวที “PropertyGuru Thailand Property Awards” ครั้งที่ 18 ผู้จัด หวังขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอสังหาฯในไทย ปลุกความเชื่อมั่นนานาชาติ ขณะคาดปีนี้ ธุรกิจโรงแรมฟื้น การซื้อ-ขาย พลิกกลับมา ระดับ1.2แสนล้านอีกครั้ง
14 มีนาคม 2566 – PropertyGuru Thailand Property Awards การประกาศรางวัลด้านอสังหาริมทรัพย์ที่จัดขึ้นอย่างยาวนานที่สุดในประเทศไทย เตรียมกลับมาจัดอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งเป็นปีที่ 18 พร้อมรับความต้องการอสังหาฯ ที่เติบโตหลังโควิด-19 และเปิดโอกาสให้บริษัทได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาและโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีความโดดเด่นและมีผลงานเป็นที่ยอมรับ ทั้งในด้านการออกแบบ และการพัฒนาโครงการที่ดีที่สุดของประเทศไทย รวมถึงเป็นการยกมาตรฐานระดับโกลด์ในด้านอสังหาริมทรัพย์ไปพร้อมกัน
นายจูลส์ เคย์ ผู้จัดการทั่วไป พร็อพเพอร์ตี้กูรู เอเชีย พร็อพเพอร์ตี้ อวอร์ดส์ แอนด์ อีเวนต์ เปิดเผยว่า ในรายงาน Thailand Property Market Report ฉบับล่าสุด ซึ่งจัดทำโดย DDproperty พบดัชนีความต้องการที่อยู่อาศัยโดยรวมในไตรมาส 4/2565 เพิ่มขึ้นถึง 47% เปรียบเทียบกับช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 (ไตรมาส 4/2562) ในขณะที่ดัชนีราคาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ปี 2566 มีแนวโน้มสูงขึ้นเช่นกัน
ทั้งนี้ การที่ประเทศจีนได้เปิดประเทศอีกครั้ง คาดว่าจะเป็นการช่วยผลักดันการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในประเทศไทย ส่วนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งจะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่อไปเช่นกัน
นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยพื้นที่ในเขตปริมณฑลและบริเวณรอบนอกของกรุงเทพฯ ที่อยู่ในเส้นทางรถไฟฟ้า SRT สายสีแดง, รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน และรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว พบว่ามีการเติบโตสูงสุดในไตรมาส 4/2565
อสังหาฯไทย เบอร์ต้นเวทีโลก
ด้าน สุพินท์ มีชูชีพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด (JLL) และประธานคณะกรรมการตัดสินรางวัล “PropertyGuru Thailand Property Awards ครั้งที่ 18” กล่าวว่า ปัจจุบันอสังหาริมทรัพย์ไทยนับได้ว่าจัดอยู่ในระดับต้นๆ ของทั้งเวทีระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและระดับโลก ทั้งนี้แม้ว่าในปีที่ผ่านมาจะอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด -19 แต่มีประเทศที่เสนอผลงานเข้าร่วมมากกว่า 200 ประเทศ
“สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2563-2564 เป็นสถานการณ์ที่ท้ายทายของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งทำให้ไลฟ์สไตล์ในการดำเนินชีวิตและการอยู่อาศัยเปลี่ยนแปลงไป หากแยกออกเป็นแต่ละตลาด พบว่าตลาดอาคารสำนักงาน การเกิดโควิด-19 ทำให้พฤติกรรมการใช้พื้นที่อาคารสำนักงานมีการเปลี่ยนแปลงไป โดยมีการพึ่งพาเทคโนโลนีมากขึ้น บริษัทขนาดใหญ่จะให้ความสำคัญกับสุขภาพของพนักงานและสิ่งแวดล้อม จึงเลือกเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานสร้างใหม่ที่มีคุณภาพ
จับตา ซัพพลายใหม่ ตลาดอาคารสำนักงาน
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีพื้นที่อาคารสำนักงานให้เช่าในประเทศไทย 10 ล้านตร.ม. ในจำนวนนี้เป็นอาคารสำนักงานเกรดพรีเมียม 1.5 ล้านตร.ม. โดยในอีก 18 เดือนข้างหน้าจะมีพื้นที่อาคารสำนักงานเหลือว่างมากขึ้น เนื่องจากจะมีซัพพลายใหม่ๆ เข้ามาในตลาด อย่างไรก็ตาม อัตราค่าเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานจะไม่ได้สูงขึ้น ดังนั้นอาคารสำนักงานให้เช่าที่เปิดให้บริการมานานแล้ว อาจจะต้องมีการรีโนเวท พร้อมให้ราคาที่จะสามารถรักษาลูกค้าเก่าและดึงลูกค้าใหม่เข้ามาได้
คาดคอนโดฟื้นตัวใน 12-18 เดือนข้างหน้า
ในส่วนของตลาดคอนโดมิเนียม คาดว่ายอดขายในปีนี้จะดีขึ้น จากความมั่นใจที่เกิดจากเปิดประเทศและการมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น โดยในส่วนของคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียมมีซัพพลายเหลืออยู่ในตลาดไม่มาก เนื่องจากถูกดูดซับไปในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่วนคอนโดมิเนียมในระดับราคากลาง-ล่าง ยังคงมีสินค้าเหลือขายจำนวนมาก เนื่องจากธนาคารมีมาตรการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และมีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อค่อนข้างสูง ทั้งนี้ คาดว่าตลาดคอนโดมิเนียมค่อยๆ ฟื้นตัว โดยจะใช้ระยะเวลา 12-18 เดือน
คลังสินค้า-โรงแรม คึกคัก
สำหรับธุรกิจอาคารคลังสินค้าให้เช่า พบว่าในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีผู้ประกอบการรายใหญ่นำที่ดินที่มีมาพัฒนาโครงการอาคารคลังสินค้าให้เช่าแบบ Built-to-Suit หรือคลังสินค้าที่สร้างตามความต้องการของผู้เช่า อย่างไรก็ตามอัตราค่าเช่าคลังสินค้านับได้ว่าอยู่ในระดับที่ยังไม่สูง ขณะที่ราคาที่ดินสูงขึ้นโดยตลอด ทำให้ต้นทุนจากการพัฒนาอาคารคลังสินค้าสูงจนอาจไม่สามารถกำหนดราคาค่าเช่าให้สอดคล้องกับอัตราค่าเช่าพื้นที่ที่ยังต่ำอยู่
ด้านธุรกิจโรงแรม พบว่ายังเป็นที่ต้องการซื้อของนักลงทุนชาวต่างชาติรวมถึงนักลงทุนไทย โดยในปี 2566 คาดว่าอัตราการซื้อ-ขายจะกลับมาอยู่ที่ระดับ120,000 ล้านบาท เทียบเท่าค่าเฉลี่ยของอัตราการซื้อ-ขายใน 10 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สำหรับ งาน PropertyGuru Thailand Property Awards ครั้งที่ 18 เป็นเวทีประกาศรางวัลคุณภาพด้านอสังหาริมทรัพย์ที่จัดขึ้นต่อเนื่องทุกปี โดยมอบให้แก่บริษัทและโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีความโดดเด่นและสร้างผลงานเป็นที่ยอมรับในด้านการออกแบบ และการพัฒนาโครงการ ซึ่ง จูลส์ เคย์ ชี้ว่า ปัจจุบันเป็นช่วงเวลาที่อสังหาริมทรัพย์เมืองไทยกำลังขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างเต็มที่ ด้านผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต่างมีมุมมองต่อตลาดในเชิงบวก ส่วนกำลังซื้อในประเทศยังคงมีต่อเนื่อง
สำหรับต่างประเทศและนักลงทุนก็เริ่มกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งหลังการเดินทางและการท่องเที่ยวกลับมาสู่ภาวะปกติ โดยการจัดประกาศรางวัลของ ProperytyGuru ในทั่วภูมิภาคนั้นตัดสินโดยคณะกรรมการอิสระ มีความน่าเชื่อถือ และจัดต่อเนื่องมายาวนาน PropertyGuru Thailand Property Awards ยังเป็นการช่วยผลักดันการสร้างระดับมาตรฐานของวงการอสังหาริทรัพย์ไทยอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 15มี.ค.ที่ระดับ 34.54 บาทต่อดอลลาร์
เงินบาทยังผันผวนแต่ไม่อ่อนค่าลงมาก จากแรงพยุงทั้งเงินดอลลาร์อ่อน โฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในฝั่งจีน ผลการประชุมของ ECBและฟันด์โฟลว์
ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 15มีนาคม 2566 ที่ระดับ 34.54 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.52 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทยระบุว่าแนวโน้มค่าเงินบาท เราประเมินว่า แม้เงินบาทจะเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าในช่วงตลาดรับรู้รายงานอัตราเงิน CPI สหรัฐฯ
ส่งผลให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าสุดเกือบแตะระดับ 34.65 บาทต่อดอลลาร์ ทว่า การอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ รวมถึงโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ ก็ช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทลง ทำให้โดยรวมเงินบาทไม่ได้อ่อนค่าลงไปมาก
อย่างไรก็ดี เรามองว่า ในวันนี้ ค่าเงินบาทจะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways ต่อเนื่อง จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ ซึ่งในสัปดาห์นี้ ยังมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม อาทิ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในฝั่งจีน รวมถึง ผลการประชุมของ ECB นอกจากนี้ ควรจับตาแนวโน้มฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ
โดยเฉพาะฟันด์โฟลว์ในฝั่งหุ้น ว่านักลงทุนต่างชาติจะชะลอการขายหุ้นไทย หรือ พลิกกลับมาเป็นฝั่งซื้อสุทธิได้หรือไม่ หลังจากที่วันก่อนหน้า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรง พร้อมแรงขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติเกือบ -5 พันล้านบาท ซึ่งหากนักลงทุนต่างชาติทยอยกลับเข้ามาซื้อหุ้นไทยมากขึ้น ก็อาจช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทในระยะนี้ หรืออาจช่วยหนุนการแข็งค่าของเงินบาทได้
ในช่วงนี้ เรามองว่า ความผันผวนของตลาดการเงินยังอยู่ในระดับสูง (ค่าเงินบาทผันผวนในระดับ 9%-10% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี ที่ผ่านมาที่ระดับ 5% เป็นอย่างมาก) ทำให้เรามองว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือทางการเงินที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.40-34.65 บาท/ดอลลาร์
ผู้เล่นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ต่างกลับมาทยอยเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น หนุนให้ ดัชนี S&P500 พุ่งขึ้นแรง +1.65% หลังความกังวลต่อเสถียรภาพระบบธนาคารสหรัฐฯ เริ่มลดลง เนื่องจากยังไม่พบการปิดตัวเพิ่มเติมของธนาคารขนาดเล็ก-กลางในสหรัฐฯ จากปัญหาสภาพคล่อง
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังได้แรงหนุนจากรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI ในเดือนกุมภาพันธ์ ที่ชะลอลงสู่ระดับ 6.0% และ 5.5% ตามที่ตลาดคาด ส่งผลให้ผู้เล่นในตลาดมองว่า เฟดอาจไม่จำเป็นต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ย +0.50% แต่การเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องจนแตะระดับ 5.25% ยังมีความเป็นไปได้อยู่
ในฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 พลิกกลับมาพุ่งขึ้นราว +1.53% หลังผู้เล่นในตลาดเริ่มคลายกังวลปัญหาเสถียรภาพของระบบธนาคารในสหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งหนุนให้หุ้นกลุ่มธนาคารรีบาวด์ขึ้น (UBS +3.6%, Intesa Sanpaolo +3.4%)
นอกจากนี้ จากปัญหาด้านสภาพคล่องในระบบธนาคารสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นล่าสุด ทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างเริ่มมองว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเพียง +0.25% ในสัปดาห์นี้ จากเดิมที่เคยประเมินว่า ECB จะเดินหน้าเร่งขึ้นดอกเบี้ย +0.50% ซึ่งมุมมองดังกล่าวก็ช่วยหนุนให้หุ้นเทคฯ หรือ หุ้นสไตล์ Growth ต่างปรับตัวขึ้นได้ (Adyen +3.8%, Hermes +2.6%, ASML +2.0%)
ส่วนทางด้านตลาดบอนด์ ผู้เล่นในตลาดเริ่มกลับมาทยอยเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น ขณะเดียวกัน แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ จะชะลอลง แต่โดยรวมก็ยังอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในส่วนภาคการบริการ
สะท้อนว่า เฟดยังมีโอกาสเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ (จาก CME FedWatch Tool ผู้เล่นในตลาดให้โอกาส 69% ที่เฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยจนแตะระดับ 5.25%) มุมมองดังกล่าวของผู้เล่นในตลาดได้ส่งผลให้ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ พลิกกลับมาปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.69%
และมีโอกาสทยอยปรับตัวขึ้นทดสอบโซนแนวต้าน 3.70%-3.80% ได้ไม่ยาก หากตลาดไม่ได้กลับมาปิดรับความเสี่ยงรุนแรงจากความกังวลปัญหาเสถียรภาพระบบธนาคารสหรัฐฯ
ในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์เคลื่อนไหวผันผวน โดยมีจังหวะปรับตัวแข็งค่าขึ้น หลังตลาดรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ก่อนที่เงินดอลลาร์จะพลิกกลับมาอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังตลาดกลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น
ซึ่งส่วนหนึ่งเรามองว่า อาจมาจากมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่ประเมินว่า แม้อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับสูง แต่แรงกดดันจากปัญหาด้านสภาพคล่องในระบบธนาคารสหรัฐฯ อาจทำให้เฟดไม่สามารถเร่งขึ้นดอกเบี้ยหรือเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องเหมือนที่ตลาดเคยกังวลได้
ทำให้ล่าสุด ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ย่อตัวลงใกล้ระดับ 103.6 จุด ส่วนในฝั่งราคาทองคำ ภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดและการรีบาวด์ขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ส่งผลให้ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย.) เผชิญแรงขายทำกำไรต่อเนื่องและย่อตัวลง สู่ระดับ 1,906 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทั้งนี้ เรามองว่า โฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำดังกล่าวก็อาจช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทได้บ้างในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ
สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านรายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนกุมภาพันธ์ และจะรอติดตามรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index:PPI) เพื่อช่วยในการประเมินแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ หลังจากที่ล่าสุดอัตราเงินเฟ้อ CPI ในเดือนกุมภาพันธ์ ชะลอลงตามคาด แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าเป้าหมายของเฟดมาก
ส่วนในฝั่งเอเชีย ผู้เล่นในตลาดจะจับตาแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนผ่านรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในเดือนกุมภาพันธ์ โดยตลาดมองว่า เศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง หลังการเปิดประเทศ สะท้อนผ่านยอดค้าปลีก (Retail Sales) ที่จะขยายตัวกว่า +3.4%y/y และยอดผลผลิตอุตสาหกรรม (Industrial Production) ก็จะขยายตัวราว +2.6%y/y สอดคล้องกับรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตอุตสาหกรรมและภาคการบริการที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง
นอกจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะยังคงติดตามเสถียรภาพของระบบธนาคารสหรัฐฯ โดยผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นว่า จะมีธนาคารอื่นๆ โดยเฉพาะธนาคารขนาดเล็ก-กลางที่จะประกาศปิดตัวลงจากปัญหาสภาพคล่องอีกหรือไม่
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่าเงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 34.49-34.51 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.40 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 34.52 บาทต่อดอลลาร์ฯ
โดยเงินบาทขยับแข็งค่าเล็กน้อยตามทิศทางของสกุลเงินภูมิภาค และเงินหยวน ซึ่งมีปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจจีนล่าสุดที่เริ่มสะท้อนสัญญาณฟื้นตัวขึ้น
อย่างไรก็ดี กรอบการแข็งค่าของเงินบาทอาจยังจำกัดในระหว่างวัน หลังข้อมูลเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ ยังสะท้อนว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยประมาณ 25 bps. ในการประชุม 21-22 มี.ค. นี้
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้ที่ 34.40-34.65 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยที่ต้องติดตามจะอยู่ที่สถานการณ์ปัญหาของแบงก์ในสหรัฐฯ ทิศทางเงินทุนต่างชาติและสกุลเงินเอเชีย ข้อมูลเศรษฐกิจเดือนม.ค.-ก.พ. ของจีน รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ
ดัชนีราคาผู้ผลิตและยอดค้าปลีกเดือนก.พ. และผลสำรวจภาคการผลิตเดือนมี.ค.จากเฟดสาขานิวยอร์ก
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ฟอร์มเฉียบ! “สุธาสินี” คว่ำมือ 6 โลก ลิ่ว 16 คน ปิงปองสิงคโปร์ สแมช 2023
“หญิง” สุธาสินี เสวตรบุตร มือ 35 ของโลก นักตบลูกเซลลูลอยด์ชาวไทย ท็อปฟอร์มโค่น มือ 6 ของโลก ลิ่วรอบ 16 คน เทเบิลเทนนิส ศึกสิงคโปร์ สแมช 2023
สุธาสินี เอาชนะ ฮินะ ฮายาตะ มือ 6 ของโลก จากญี่ปุ่น ไปอย่างสุดมัน 3-2 เกมในการแข่งขันเทเบิลเทนนิส สิงคโปร์ สแมช 2023 ที่สิงคโปร์สปอร์ต ฮับ ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ สุธาสินี เอาชนะ นาตาเลีย บาจอร์ จากโปแลนด์ ในรอบ 64 คน 3-1 เกม จนเข้ามาพบกับ ฮายาตะ ดีกรีมือ 6 ของโลก โดยรูปเกมเป็นไปอย่างสูสี แต่สุดท้าย สุธาสินี เผด็จศึกในเกมตัดสินเกมที่ 7 เอาชนะไปได้ 3-2 เกม ด้วยคะแนน 11-8, 11-6, 4-11, 7-11, 11-4 ผ่านเข้ารอบ 16 คนสุดท้ายได้สำเร็จ
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
“ตุ่มใสบนนิ้ว” คืออะไร? อันตรายหรือไม่?
ศ. นพ. ประวิตร อัศวานนท์ ประชาสัมพันธ์สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ตอบข้อสงสัยของประชาชนทั่วไป มักจะตกใจเมื่อปรากฏตุ่มน้ำใสๆ บริเวณนิ้วมือ บางคนเกิดอาการเครียดอยู่ๆ ตุ่มใสๆ ก็เกิดขึ้นมา ทั้งๆที่ตุ่มน้ำใสๆ ที่บริเวณข้างๆ นิ้ว เป็นๆ หายๆ พบบ่อยพอสมควร ยิ่งถ้าคนที่มีอาการภูมิแพ้มาก่อนตอนเด็กๆ แล้วต่อมามีตุ่มนี้เกิดขึ้นมาเป็นครั้งคราว มีอาการคันเป็นหลัก แล้วก็หายไปเอง
ตุ่มใสบนนิ้ว เกิดจากอะไร?
ตุ่มใสบนนิ้วอาจเกิดขึ้นได้โดยไม่ทราบสาเหตุ แต่อาการจะไม่รุนแรง อาจมีอาการคันยุบยิบเล็กน้อย แต่ก็จะค่อยๆ หายไปเอง แทบจะไม่ต้องเป็นกังวลอะไร
อีกสาเหตุหนึ่งคือ ตุ่มใสบนนิ้วที่เกิดจากการแพ้จริงๆ โดยส่วนมากเกิดจากการแพ้สัมผัส ไม่ค่อยเกี่ยวกับการแพ้อาหารแต่อย่างใด ซึ่งมีสารพัดสิ่งที่เราอาจเกิดอาการแพ้จากการสัมผัสได้ เช่น ฝุ่น แมลง เป็นต้น
นอกจากนี้ ตุ่มน้ำใสที่เกิดขึ้น บางครั้งอาจเป็นส่วนของการวินิจฉัยโรค อีกหลายโรคอยู่เหมือนกัน เช่น
- ในคนที่สูงอายุมากๆ และไม่เคยมีภูมิแพ้ และมีตุ่มน้ำใสๆ ขึ้นที่มือ ที่เท้าอาจจะเป็นโรคอื่น
- บางคนเป็นตุ่มน้ำใสขึ้นเป็นแนวขึ้นครึ่งซีก มีอาการปวดแสบปวดร้อน อาจสงสัยได้ว่าน่าจะเป็นโรคงูสวัด
- แม้แต่โรคเริมก็อาจปรากฏเป็นตุ่มน้ำบนนิ้วได้
ดังนั้น หากพบว่ามีตุ่มแปลกๆ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังจะดีกว่า
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
เมื่อไม่รักก็ต้องลา ด้วย 9 ประโยคบอกเลิก ภาษาอังกฤษ
เมื่อยามรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน แต่พอนานไปกลับไม่เป็นอย่างใจซะแล้ว เห็นที่งานนี้คงต้องบอกลา ซึ่งวันนี้เราก็มี 9 ประโยคบอกเลิก ภาษาอังกฤษ มาฝากกัน บอกเลยงานนี้เราเน้นแบบจากกันด้วยดีนะจ๊ะ
“You were a really good girlfriend/boyfriend, I think you deserve someone better.”
ประโยคบอกเลิก แปลภาษาอังกฤษ : คุณเป็นแฟนที่ดีนะ แต่ฉันคิดว่าคุณควรได้เจอคนที่ดีกว่านี้ (อารมณ์แบบเธอดีเกินไป!)
“You’re too good for me.”
ประโยคบอกเลิก แปลภาษาอังกฤษ : คุณดีเกินไปสำหรับฉัน (ถ้าบอกประโยคข้างบนแล้วยังไม่เข้าใจ ก็บอกกันไปตรงๆ เลยจ้า)
“I’m not ready for a relationship.”
ประโยคบอกเลิก แปลภาษาอังกฤษ : ฉันยังไม่พร้อมมีใคร (ส่วนเรื่องที่ผ่านก็ให้มันผ่านไปเนอะ ยังไม่พร้อมจริงๆ จ้า)
“I think we should stop seeing each other for a while.”
ประโยคบอกเลิก แปลภาษาอังกฤษ : ฉันว่าเราไม่ควรเจอกันสักพัก (การลองห่างกันอาจทำให้รู้สึกคิดถึงกันไม่ก็หายกันไปเลย เอ้า! ลองดู)
“There are many things I need to focus on more than us.”
ประโยคบอกเลิก แปลภาษาอังกฤษ : มีอีกหลายอย่างที่ฉันต้องให้ความสำคัญ มากกว่าเรื่องของเรา (จบแบบจุกๆ กันไป)
“I just need some space.”
ประโยคบอกเลิก แปลภาษาอังกฤษ : ฉันต้องการพื้นที่ส่วนตัว (หมายถึงฉันต้องการพิ้นที่ส่วนตัวทั้งหมดของฉันคืนต่างหาก)
“It’s just not the same anymore.”
ประโยคบอกเลิก แปลภาษาอังกฤษ : มันไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไป (คนจะไป คนหมดใจ จะเอาอะไรมารั้ง)
“I have tried so hard to be better but I feel like I’m just not up to your level.”
ประโยคบอกเลิก แปลภาษาอังกฤษ : ฉันพยายามอย่างมากที่จะเป็นคนที่ดีกว่านี้ แต่ฉันก็ยังรู้สึกว่า ฉันไม่คู่ควรกับคุณ
“It’s not you, it’s me I don’t feel the same about you anymore.”
ประโยคบอกเลิก แปลภาษาอังกฤษ : มันไม่ใช่คุณหรอก แต่เป็นฉันเองแหละ ที่ไม่รู้สึกกับคุณเหมือนเดิม (ช็อตนี้ต้องมีคนร้องไห้แน่ๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก wallstreetenglish.in.th
เผยภาพแรกของชิ้นส่วน Apple Mixed-Reality เซนเซอร์เยอะอลังการ ใครอยากได้รีบเก็บเงิน
สำหรับคนที่สงสัยโครงการอุปกรณ์ Mixed-Reality ของ Apple ว่ามีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง ล่าสุดมีภาพหลุดออกมาทาง Twitter ที่เห็นภายในและสายแพชัดเจนมีทั้งหมด 2 ภาพด้วยกัน
ภาพที่ออกมาเป็นสายแพมีทั้งหมดทั้งรูปตรงและโค้งมน โดยคาดว่ากรอบแว่นจะมีขนาดใหญ่พอสมควร โดยมีจุดเชื่อมต่อของ Mainboard และมีจุดแสดงผลภาพและมี อาร์เรย์ของเซนเซอร์ พร้อมกับริบบิ้นยืดหยุ่นและมีความยาวใกล้เคียงกัน และมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเหมือนกับแว่นกันแดดไม่น้อย
ทั้งนี้คาดว่าอาจจะได้เห็นโครงการนี้จริงในงาน WWDC (World Wide Developers Conference) ในช่วงเดือนมิถุนายน และเปิดตัวช่วงปลายปีนี้ แต่ทั้งนี้ยังไม่มีข้อมูลหลุดเพิ่มว่าจะเปิดตัวในแบบไหนและมีอุปกรณ์หูฟังที่เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
Kingston เปิดตัวโซลูชันผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลแบบพกพา DataTraveler สองรุ่นใหม่ล่าสุด
Kingston Technology ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์หน่วยความจำและโซลูชันเทคโนโลยีระดับโลก ประกาศขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ DataTraveler(R) ด้วยการเปิดตัวโซลูชันการจัดเก็บข้อมูลรุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ Kingston DataTraveler Exodia Onyx และ Kingston DataTraveler 80 M โดยทั้งสองผลิตภัณฑ์เป็นแฟลชไดรฟ์ USB แบบพกพา เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดเก็บและรักษาข้อมูลสำคัญ ด้วยประสิทธิภาพการทำงานอันยอดเยี่ยม พร้อมการใช้งานที่คล่องตัวและเชื่อถือได้
Kingston DataTraveler Exodia Onyx เพื่อความคล่องตัวในการพกพา
Kingston DataTraveler Exodia Onyx เป็นแฟลชไดรฟ์ที่มาพร้อมมาตรฐาน USB 3.2 Gen 11 ซึ่งสามารถถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว เพื่อการจัดเก็บที่ง่ายและไม่ยุ่งยาก พร้อมดีไซน์สีดำด้านที่โฉบเฉี่ยวคู่กับฝาปิดแบบเลื่อนได้ เพื่อช่วยป้องกันหัวต่อ USB และข้อมูลของคุณขณะไม่ได้ใช้งาน โดย DT Exodia Onyx เป็นคู่หูราคาย่อมเยาที่สมบูรณ์แบบสำหรับการจัดเก็บข้อมูลอย่างมีสไตล์ นอกจากนี้อุปกรณ์ยังมีน้ำหนักเบาและประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้ รวมทั้งมีห่วงคล้องกุญแจเพื่อมอบความสะดวกในการพกพาไปยังทุกที่ที่คุณต้องการ
Kingston DataTraveler 80 M สื่อบันทึกข้อมูลแบบพกพาสำหรับอุปกรณ์ USB Type-C
Kingston DataTraveler 80 M เป็นแฟลชไดร์ฟประสิทธิภาพสูงที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานร่วมกับแล็ปท็อป สมาร์ทโฟน เดสก์ท็อป แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ Mac ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C โดยไม่ต้องใช้หัวต่อเสริม (Adapter) พร้อมมอบความเร็วในการอ่านสูงสุดถึง 200Mb/s2 ทำให้ DT80M สามารถจัดเก็บและถ่ายโอนไฟล์ข้อมูลได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ตอบโจทย์ทุกความต้องการใช้งานในชีวิตประจำวัน ทั้งการใช้งานที่ทำงาน โรงเรียน การจัดเก็บภาพถ่ายและเพลงโปรด รวมถึงช่วยเพิ่มพื้นที่จัดเก็บให้กับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ในขณะการเดินทาง นอกจากนี้ดีไซน์ฝาปิดแบบเลื่อนได้ยังช่วยปกป้องไดรฟ์และลดความกังวลในการทำฝาปิดหาย พร้อมห่วงคล้องกุญแจที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและทำให้ค้นหาได้อย่างง่ายดาย เพื่อหลีกเลี่ยงความวุ่นวายในช่วงเวลาที่คุณกำลังเร่งรีบ
Kingston กล่าวว่า “วิถีชีวิตของผู้คนในยุคที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีมักไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ และมองหาโซลูชันการจัดเก็บข้อมูลที่ดีที่สุดอยู่เสมอ เพื่อช่วยบันทึกและรักษาข้อมูล รูปภาพ รวมทั้งความทรงจำสำคัญให้ปลอดภัย ซึ่งเราเข้าใจในความต้องการดังกล่าว จึงเชื่อมั่นว่าไดร์ฟ DataTraveler USB รุ่นใหม่ทั้งสองผลิตภัณฑ์นี้จะสามารถมอบพื้นที่จัดเก็บข้อมูล เพื่อช่วยตอบโจทย์ต้องการของพวกเขาได้ในทุกที่ทุกเวลา”
ผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งสองรุ่นมีจำหน่ายที่ความจุสูงสุด 256GB3 และการรับประกันแบบจำกัดเงื่อนไข 5 ปี โดยลูกค้าจะได้รับบริการทางเทคนิคฟรี พร้อมมั่นใจได้ในความน่าเชื่อถือมาอย่างยาวนานของ Kingston
ข้อมูลทางเทคนิคของ Kingston DataTraveler(R) Exodia Onyx
- ความจุ3: 64GB, 128GB, 256GB
- ความเร็ว2: รองรับ USB 3.2 Gen 1
- ขนาด: 60.7 x 21 x 10.2 มม.
- น้ำหนัก: 8 ก.
- อุณหภูมิการทำงาน: 0?C~60?C
- อุณหภูมิการจัดเก็บ: -20?C~85?C
- การรับประกัน: รับประกัน 5 ปีพร้อมบริการทางเทคนิคฟรี
- ใช้งานได้กับ: Windows(R) 11, 10, macOS (v.10.15.x +), Linux (v. 4.4 +), Chrome OS(TM)
ข้อมูลทางเทคนิคของ Kingston DataTraveler(R) 80 M
- ความจุ3: 64GB, 128GB, 256GB
- อินเตอร์เฟซ: USB 3.2 Gen 1
- ความเร็ว2: อ่านสูงสุด 200MB/s
- ขนาด: 54.18 x 21.81 x 11.60 มม.
- น้ำหนัก: 6 ก.
- อุณหภูมิการทำงาน: 0?C~60?C
- อุณหภูมิการจัดเก็บ: -20?C~85?C
- การรับประกัน/บริการ: รับประกัน 5 ปีพร้อมบริการทางเทคนิคฟรี
- ใช้งานได้กับ: Windows(R) 11/10/8.1, macOS (v. 10.15.x +), Linux (v. 4.4.x +), Chrome OS(TM)
- ความเร็วอาจแตกต่างกันไปตามส่วนประกอบที่เกี่ยวข้องและตัวอุปกรณ์ USB Type-C(R) และ USB-C(R) เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ USB Implementers Forum
- ความเร็วอาจแตกต่างกันไปเนื่องจากฮาร์ดแวร์แม่ข่าย ซอฟต์แวร์และการใช้งาน
- ความจุบางส่วนที่ระบุในแฟลชการ์ดใช้สำหรับการฟอร์แมตและฟังก์ชั่นอื่นๆ ไม่ใช่สำหรับการจัดเก็บข้อมูล ด้วยเหตุนี้ ความจุที่ใช้งานได้จริงเพื่อเก็บข้อมูลจะต่ำกว่าที่แจ้งไว้ในตัวผลิตภัณฑ์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากคู่มือหน่วยความจำแฟลชเมมโมรี่ของ Kingston ที่ kingston.com/flash guide
สามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ kingston.com
สามารถติดตาม Kingston ได้ที่:
Facebook: https://www.facebook.com/kingstonthailand/
YouTube: https://www.youtube.com/user/KingstonTechnologyTH
เกี่ยวกับ Kingston Technology
ตั้งแต่ข้อมูลขนาดใหญ่ ไปจนถึงแล็ปท็อปและพีซี รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ IoT เช่น เทคโนโลยีอัจฉริยะและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบสวมใส่ได้ พร้อมทั้งการออกแบบและการผลิตตามสัญญา Kingston สามารถช่วยส่งมอบโซลูชันที่ใช้เพื่อการทำงาน การใช้ชีวิต หรือเพื่อความสนุกสนานได้ โดยผู้ผลิตพีซีหรือบริษัทคลาวด์โฮสติ้งรายใหญ่ที่สุดในโลก ต่างเชื่อมั่นในการผลิตจาก Kingston และแรงผลักดันของเราสามารถขับเคลื่อนโลกเทคโนโลยีให้เดินหน้าต่อไปได้ในทุกๆ วัน อีกทั้งเรายังมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น พร้อมนำเสนอโซลูชั่นที่แตกต่าง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานอยู่เสมอ เรียนรู้เพิ่มเติมว่า Kingston พร้อมอยู่ข้างคุณ ได้อย่างไร โปรดเยี่ยมชมที่ Kingston.com
ขอบคุณข้อมูลจาก ryt9.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 15/03/2566
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 30,950.00 | 31,050.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 2,005.00 | 30,395.80 | 31,550.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,804.50 | 27,356.22 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,604.00 | 24,316.64 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 902.00 | 13,674.32 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 702.00 | 10,642.32 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,078.00 | 31,502.48 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 15/03/2566
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 36.05 | 36.05 | 37.14 | 36.35 | 36.35 | 36.05 | 36.05 | 36.05 | 36.35 | 36.05 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 35.78 | 35.78 | 36.84 | 36.08 | 36.08 | 35.78 | 35.78 | 35.78 | 36.08 | 35.78 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 33.74 | 33.74 | 34.54 | 34.04 | 34.04 | – | 33.74 | 33.74 | 34.04 | 33.74 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 34.19 | 34.19 | – | – | – | – | – | – | – | 34.19 |
เบนซิน 95 | 43.86 | – | – | – | 44.21 | – | 44.36 | 44.01 | – | 43.86 |
ดีเซล B7 | 33.94 | 33.94 | 34.24 | 33.94 | 33.94 | 33.94 | 33.94 | 33.94 | 33.94 | 33.94 |
ดีเซล | 33.94 | 33.94 | 34.24 | 33.94 | 33.94 | 33.94 | 33.94 | 33.94 | 33.94 | 33.94 |
ดีเซล B20 | 33.94 | 33.94 | 34.24 | – | 33.94 | – | 33.94 | – | – | 33.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 43.06 | 43.16 | 45.14 | 44.26 | 44.26 | – | – | – | – | 43.06 |
แก๊ส NGV | 17.59 | 17.59 | – | – | – | – | – | – | – | 17.59 |