สาระน่ารู้ประจำวันที่ 15 พฤษภาคม 2566

กรมโยธาฯ ลุยฟื้นฟูริมคลองเปรมประชากร ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน

กรมโยธาฯ จับมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลุยฟื้นฟูริมคลองเปรมประชากร ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนริมคลองให้ดียิ่งขึ้น

พื้นที่ริมคลองเปรมประชากรได้รับการพัฒนา มาอย่างต่อเนื่องตามนโยบายรัฐบาลชุดที่ผ่านมา และล่าสุดกรมโยธาธิการและผังเมือง จับมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หารือแนวทางฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่คลองเปรมประชากร ยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนริมคลองให้ดียิ่งขึ้นได้แก่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) กรมธนารักษ์ กรมชลประทาน จังหวัดปทุมธานี เทศบาลตำบลหลักหก สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดปทุมธานี  เมื่อไม่นานมานี้

นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า โครงการบ้านมั่นคงริมคลองเปรมประชากร และการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมคลองเปรมประชากร จากคลองบ้านใหม่ถึงคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2562 เห็นชอบแผนแม่บทการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบคลองและการพัฒนาชุมชนริมคลองเปรมประชากร

โดย มอบหมายให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ร่วมกับ กองทัพภาคที่ 1 กรมชลประทาน กรมธนารักษ์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เทศบาลตําบลหลักหก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) สหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงชุมชนวัดรังสิต จํากัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันพัฒนาโครงการดังกล่าว เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ริมคลองเปรมประชากรให้มีความเป็นอยู่ที่ดี มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดภัย

สำหรับในวันนี้กรมฯ ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องที่สำคัญ 4 ประเด็น ได้แก่

1. แนวก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมคลองเปรมประชากร จากคลองบ้านใหม่ถึงคลองรังสิตประยูรศักดิ์ กรมฯ ใช้แนวก่อสร้างที่ 1 คือ ยึดตามผังบ้านมั่นคง ซึ่งกำหนดโดย สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (มีทั้งบ้าน 2 แถว และ 1 แถว ประกอบกัน) นอกจากนี้กรมโยธาฯ จะดำเนินการตรวจสอบการระบายน้ำในพื้นที่ด้านหลังตลิ่งเพื่อให้สามารถต่อเชื่อมและระบายน้ำลงคลองเปรมฯ ได้ตามเดิม

2. ประสิทธิภาพการระบายน้ำในคลองเปรมประชากรหากมีการก่อสร้างบ้านมั่นคง และเขื่อนป้องกันตลิ่ง กรมชลประทานมั่นใจ สามารถบริหารจัดการน้ำได้เนื่องจากมีการเตรียมเครื่องสูบน้ำไว้รองรับในช่วงฤดูฝน และมีการเฝ้าระวังน้ำในคลองให้อยู่ในระดับ + 0.70 ม.รทก. อีกทั้งยังมีแผนการก่อสร้างประตูระบายน้ำบริเวณคลองบ้านใหม่เพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยการระบายน้ำในคลองเปรมประชากรลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้รวดเร็วมากขึ้น

ในส่วนการรื้อย้ายบ้าน กรมชลประทานพร้อมสนับสนุนประชาชนในพื้นที่ในการรื้อ ถอน ขนย้าย บ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่

3. การดำเนินการพัฒนาที่อยู่อาศัยโครงการบ้านมั่นคง กรมธนารักษ์และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ยินดีดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยในปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมโครงการบ้านมั่นคงร้อยละ 95 และอีก ร้อยละ 5 อยู่ในระหว่างการเจรจา ซึ่งคาดว่าจะสามารถเข้าร่วมโครงการได้เกือบทั้งหมด และ

4. การประชาสัมพันธ์โครงการ จังหวัดปทุมธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันลงพื้นที่ เพื่อสร้างความเข้าใจในการดำเนินการโครงการว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการระบายน้ำในพื้นที่โดยรอบของประชาชนอย่างแน่นอน เนื่องจากเขื่อนป้องกันตลิ่งจะมีระดับป้องกันสูงกว่าระดับน้ำในคลองเปรมประชากร และเมื่อดำเนินโครงการแล้วเสร็จจะมีการขุดลอกคลองให้สามารถระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ทุนใหญ่ พลิกแปลงที่ดิน “ห้วยขวาง-รัชดา” เจาะผู้ซื้อจีน ทะลักครึ่งปีหลัง

ทุนใหญ่ ขยับ พลิกแปลงที่ดิน “ห้วยขวาง-รัชดา” ขึ้นตึกสูง เจาะผู้ซื้อแดนมังกร ชาวจีนจ่อทะลักครึ่งปีหลัง จับตา บมจ. เอสซี แอสเสท เปิดขายบิ๊กโปรเจ็กต์ เทียมร่วมมิตร 9 อาคาร รวม 1,612 ยูนิต ขณะ “จึงรุ่งเรืองกิจ” ผุดคอนโดฯ เขย่าแยกห้วยขวางเพิ่ม 31 ชั้น

15 พฤษภาคม 2566 – ปัจจัยบวกจากจีนเปิดประเทศเร็วกว่าคาด หนุนให้ประมาณการนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทยปีนี้ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 28 – 30 ล้านคน แม้ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา (ม.ค.-มี.ค.) จำนวนชาวจีนทะลักเข้าไทย ยังไม่ได้หวือหวาอย่างที่คิด 

ขณะไตรมาส 2 ยังต้องยังจับตา ประเด็นความยุ่งยาก ในการยื่นขอวีซ่าที่เข้มงวดมากขึ้น ว่าจะมีผลต่อการเดินทางมาหรือไม่ ด้วยกฎเหล็ก ชาวจีนทุกคน ต้องอัปโหลดเอกสารต่างๆ พร้อมค่าใช้จ่ายที่พัก บัญชีเงินฝากธนาคารที่ต้องมีอย่างต่ำ 10,000 หยวน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 8 พ.ค. 2566 ที่่ผ่านมา อาจจะเป็นอุปสรรคเพิ่มเติม 

อย่างไรก็ดี ประเด็นข้างต้น ไม่อาจต้านกระแสความตื่นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ไทย และแผนเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ ที่หวัง จะเจาะ การหวนกลับมาของกำลังซื้อต่างชาติ “ชาวจีน” ได้ หลังมีสัญญาณว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง การเข้ามาของชาวจีน จะมีความคึกคักอย่างมาก พร้อมๆกับ จีนกำลังเพิ่มเที่ยวบินเข้าไทย เป็น 430 เที่ยว /สัปดาห์ เริ่ม 1 มิ.ย.2566 เป็นต้นไป

ไชน่าทาวน์ ห้วยขวาง ทุนใหญ่ขยับ

เจาะความเคลื่อนไหวในทำเลสำคัญ ที่เปรียบเป็น “ไชน่าทาวน์” ทั้งย่านธุรกิจและชุมชนอยู่อาศัยยอดนิยมของ ชาวจีนเบอร์ต้น อย่าง ” ห้วยขวาง-พระราม 9 ” จากกระแสเงียบเหงา ลูกค้าจีนหดหายในตลาดมานาน และแผนพัฒนาที่ดินถูกชะลอไปในช่วงโควิด เกิดการทิ้งดาวน์ยูนิตที่เคยซื้อไว้ ทำให้ผู้พัฒนา ต้องนำยูนิตเหล่านั้น กลับมาขายใหม่นั้น พบขณะนี้ มีสัญญาณกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง

“แปลงที่ดิน” ที่น่าจับตามองมากที่สุด หลังปรากฎข่าวฮือฮาเมื่อช่วงปีที่ผ่านมา บริษัท เอสซี แอสเสท  จำกัด (มหาชน) ทุ่ม 725 ล้าน ปิดดีลซื้อที่ดิน ต่อจากตระกูลชินวัตร บริเวณถนนเทียมร่วมมิตร ศูนย์วัฒนธรรม รวมแปลงขนาดเกือบ 13 ไร่ เส้นทางที่เชื่อมไปยังประชาอุทิศ -เลียบทางด่วนรามอินทรา ที่อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน สายสีน้ำเงิน ศูนย์วัฒนธรรม และ สถานี รฟม. ของสายสีส้ม 

ล่าสุดปรากฎภาพและข้อมูล บมจ. เอสซี จะปลุกปั้นเป็นแบรนด์คอนโดฯใหม่ และเตรียมเปิดขายเร็วๆนี้ หลังจากการก่อสร้างสำนักงานขายใกล้แล้วเสร็จ นับเป็นบิ๊กโปรเจ็กต์ ที่มีถึง 9 อาคาร รวม 1,612 ยูนิต ตึกสูง 27-29 ชั้น พร้อมอาคารจอดรถ พื้นที่ส่วนกลาง อาคารเอนกประสงค์ โดยราคาเปิดตัว จะอยู่ที่เริ่มต้น 2 ล้านต้นๆ เท่านั้น  

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาถึงศักยภาพทำเล ในโซนรัชดาฯ พระราม 9 ห้วยขวาง ที่ร่ายล้อมไปด้วยระบบคมนาคม ตลาดกลางคืนยอดฮิต (จ๊อดแฟร์) ที่กำลังเป็นกระแสในหมู่ชาวจีน ใกล้สถานฑูตประเทศจีน และมีโรงเรียนนานาชาติ ขึ้นชื่อหลายแห่ง ทั้ง KIS , SISB ,PREP และ The Regen’s ฯล อยู่ในละแวกใกล้เคียงแล้ว คาดโครงการดังกล่าว จะสามารถเจาะความต้องการ ทั้งการเข้ามาลงทุนปล่อยเช่า และการซื้อ เพื่อที่อยู่อาศัยของครอบครัวชาวจีน รวมไปคนทำงานในพื้นที่ได้อย่างน่าสนใจ จากคุณภาพสูงที่ติดแบรนด์ และเป็นเซกเม้นท์ใหม่ของเอสซี ที่ไม่เคยเปิดขายมาก่อน 

เรียลแอสเสท ขึ้นตึกสูง กวาดจีน

ขณะอีกกลุ่มทุนใหญ่ “จึงรุ่งเรืองกิจ” บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ก็เตรียมปลุกแยกห้วยขวาง- รัชดา ใกล้สถานีรถไฟฟ้า อีกครั้ง ด้วย โครงการ THE STAGE Made by Me Ratchada ห้วยขวาง ต่อเนื่องจาก โครงการก่อนหน้า THE STAGE Mindscape ห้วยขวาง ที่อยู่ระหว่างการขาย โดยในแผน จะมีการพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมตึกสูง ถึง 31 ชั้น มูลค่าโครงการประมาณ 2,130 ล้านบาท ในราคาเริ่มต้นไม่ถึง 3 ล้านบาท 

นายณัฏฐพร กลั่นเรืองแสง กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เรียลแอสเสท เผยว่า แม้ขณะนี้ตลาดบ้านหรูใกล้โรงเรียน นานาชาติ กำลังเป็นที่ต้องการของกลุ่มครอบครัวชาวจีน ไต้หวัน และ ฮ่องกง ที่มีแผนย้ายมาอยู่อาศัยเป็นบ้านหลังที่ 2 ในไทย แต่โปรดักส์คอนโดฯ ยังเป็นที่นิยมจากลูกค้าชาวจีน สะท้อนจากยอดขายโครงการแรก ที่เปิดในช่วงโควิด มีลูกค้าที่เป็นเจ้าของกิจการ ชาวจีน ฮ่องกง ซื้อเป็นจำนวนมาก จากความเป็น ไชน่าทาวน์ของห้วยขวาง โดยโครงการใหม่ จะเปิดขายในราคา ตารางเมตรละ 7.5 หมื่นบาท คาดจะดึงการซื้อบิ๊กดีล ล็อตใหญ่จากชาวจีน ที่มีกระแสเริ่มกลับมาแล้ว ได้ในช่วงครึ่งปีหลัง 

สอดคล้อง นายไซม่อน ลี โบรกเกอร์อสังหาฯ ลูกค้าจีนรายใหญ่ในไทย คาดการณ์ว่า จากภาวะตลาดคอนโดฯไทย ที่หดตัวอย่างรุนแรง ช่วง ปี 2563-2565 ซึ่งส่งผลให้ชาวจีนหายไปจากตลาดนั้น มีแนวโน้มจะกลับมาอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง 2566 จากกระแส ต้องการมีบ้านหลังที่สอง โดยหากเป็นชาวจีนที่มีฐานะดี จะไปซื้ออสังหาฯแพงๆที่ประเทศสิงคโปร์ และ ญี่ปุ่น ส่วนที่มีฐานะกลางๆ เลือกมาซื้อในไทย ระดับราคา  3-10 ล้านบาท และยังชื่นชอบทำเลเก่าที่คุ้นเคย ได้แก่ โซนสุขุมวิท ,สาทร ,สีลม ,รัชดาภิเษก ,พระราม9 ,รามคำแหง และเส้นศรีนครินทร์ (ที่อยู่ใกล้เมือง) แต่พฤติกรรมจะเปลี่ยนไป เน้นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง ต้องการห้องขนาดใหญ่ขึ้น มีฮวงจุ้ย เดินทางสะดวก ใกล้สถานที่สำคัญ เป็นต้น 

ขยายต่อในโซนดังกล่าว รัชดา – พระราม 9 ยังมีอีกหลายโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และหวังเจาะผู้ซื้อแดนมังกร เช่น นิว โนเบิล ดิสทริค อาร์ 9 ของ บมจ. โนเบิล 1,441 ยูนิต  และบมจ.ไซมิส แอสเสท ที่พัฒนาโครงการ Landmark @MRTA เป็นมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ บนถนนพระราม 9  ที่จะมีทั้งอาคารสำนักงาน พื้นที่ค้าปลีก และที่พักอาศัย 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ากังวล คือ จำนวนสต็อกที่อยู่อาศัยเหลือขาย ในพื้นที่ ซึ่งโซนห้วยขวาง รั้งอันดับ 1  ร่วมกับโซน จตุจักร ,ดินแดง ในปัจจุบัน (อ้างอิง : ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์) 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


เงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 15พ.ค.ที่ระดับ 33.87 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทขึ้นกับฟันด์โฟลว์ -ผลการเลือกตั้งล่าสุด พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล อาจจับมือกันจัดตั้งรัฐบาลร่วม อาจเพิ่มโอกาสนักลงทุนต่างชาติกลับเข้าซื้อสุทธิหุ้นไทยมากขึ้น

ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้15พ.ค.2566 ที่ระดับ  33.87 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น” จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ  33.99 บาทต่อดอลลาร์


นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุนธนาคารกรุงไทยระบุว่า
ในช่วงคืนวันศุกร์ที่ผ่านมานั้น เงินบาทมีจังหวะอ่อนค่าใกล้โซน 34 บาทต่อดอลลาร์ ตามการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ หลังตลาดยังคงอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง 

ขณะเดียวกันผู้เล่นในตลาดบางส่วนก็มองว่า เฟดอาจจำเป็นต้องคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับสูงได้นาน หลังคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อระยะสั้นและระยะยาวล่าสุดต่างปรับตัวสูงขึ้นกว่าคาด
 
สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น ตามภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาดและแนวโน้มการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับสูงได้นานของเฟด

ในสัปดาห์นี้ เรามองว่า ควรจับตา รายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) สหรัฐฯ และรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทค้าปลีกใหญ่ นอกจากนี้ ควรติดตามการเจรจาขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ พร้อมรอลุ้นผลการเลือกตั้งทั่วไปของไทย
 
โดยในส่วนของรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าสนใจมีดังนี้
 
มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก
 
▪       ฝั่งสหรัฐฯ – ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ อย่าง ยอดค้าปลีก (Retail Sales) โดยตลาดคาดว่า ยอดค้าปลีกในเดือนเมษายนอาจพลิกกลับมาขยายตัว +0.7% จากเดือนก่อนหน้า สอดคล้องกับภาวะการจ้างงานที่ยังคงแข็งแกร่งและตึงตัว

 ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกที่ขยายตัวขึ้นส่วนหนึ่งก็อาจมาจากการปรับตัวขึ้นของยอดขายน้ำมันเชื้อเพลิง หลังราคาพลังงานปรับตัวขึ้นในเดือนเมษายนพอสมควร ทั้งนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามรายงานและคาดการณ์ผลประกอบการล่าสุดของบรรดาบริษัทค้าปลีก 

อาทิ Home Depot และ Walmart ซึ่งอาจสะท้อนแนวโน้มการใช้จ่ายของผู้คนในสหรัฐฯ ได้ นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมิน ภาวะตลาดแรงงานสหรัฐฯ ผ่านรายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกและต่อเนื่อง (Initial and Continual Jobless Claims)

 หลังจากในสัปดาห์ก่อน ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกปรับตัวขึ้น แย่กว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดเริ่มกังวลว่าตลาดแรงงานสหรัฐฯ อาจส่งสัญญาณชะลอตัวลงที่ชัดเจนขึ้น และนอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว

 ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด โดยเฉพาะ ประธานเฟด เพื่อประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด หลังอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟดพอสมควร 

ขณะเดียวกัน ปัจจัยการเมืองสหรัฐฯ ก็อาจส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในตลาดการเงินได้ โดยผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามความคืบหน้าของการเจรจาขยายเพดานหนี้ (Debt Ceiling)
 
▪       ฝั่งยุโรป – ตลาดมองว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนี (ZEW Economic Survey) ในเดือนพฤษภาคม อาจปรับตัวลดลงแรงสู่ระดับ -5.5 จุด สะท้อนว่า บรรดานักลงทุนสถาบันและ

นักวิเคราะห์ต่างมีมุมมองที่เชิงลบหรือกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจเยอรมนีมากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากผลกระทบของการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องของธนาคารกลางยุโรป (ECB) รวมถึงภาวะค่าครองชีพสูง

 นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ ECB โดยเฉพาะประธาน ECB เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มนโยบายการเงิน ECB
 
 
▪       ฝั่งเอเชีย – ตลาดคาดว่า เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนเมษายน อาจขยายตัว +20%y/y สอดคล้องกับการรายงานดัชนี PMI ภาคการบริการก่อนหน้าที่ยังคงอยู่ในระดับเกิน 50 จุด

 สะท้อนการขยายตัวต่อเนื่องของภาคการบริการ ส่วนในฝั่งญี่ปุ่น นักวิเคราะห์ประเมินว่า อานิสงส์จากการเปิดประเทศจะช่วยหนุนให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นโต +0.7%y/y ในไตรมาสแรกของปีนี้ ดีขึ้นจากที่แทบจะไม่ขยายตัวในไตรมาสสุดท้ายของปีก่อน


 นอกจากนี้ ตลาดยังมองว่า อัตราเงินเฟ้อ CPI ของญี่ปุ่นในเดือนเมษายน อาจเร่งตัวขึ้นสู่ระดับ 3.4% หนุนโดยการบริโภคที่ยังคงแข็งแกร่งอยู่ ซึ่งจะสะท้อนผ่านอัตราเงินเฟ้อ Core-Core CPI (ไม่รวมผลของราคาพลังงานและอาหารสด) ที่จะเร่งขึ้นสู่ระดับ 4.2% เช่นกัน

 ซึ่งจากแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง อาจทำให้ ผู้เล่นในตลาดเริ่มประเมินว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีโอกาสใช้นโยบายการเงินที่ตึงตัวมากขึ้นได้ในปีนี้
 
▪       ฝั่งไทย – ตลาดประเมินว่า เศรษฐกิจไทยอาจขยายตัวได้ราว +2.3%y/y ในไตรมาสแรกของปีนี้ ดีขึ้นจากไตรมาสที่ 4 ของปีก่อนหน้า หนุนโดยการฟื้นตัวที่ดีขึ้นต่อเนื่องของการท่องเที่ยว

 ซึ่งได้ช่วยหนุนให้เกิดการจ้างงานในภาคการบริการและส่งผลดีต่อการบริโภคโดยรวม ทั้งนี้ ผลการเลือกตั้งทั่วไปล่าสุด ณ เวลา 21.30 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ชี้ว่า พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล อาจจับมือกันจัดตั้งรัฐบาลร่วมได้ ทำให้ผู้เล่นในตลาด โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติอาจมองเป็นภาพที่ดีและทยอยกลับมาเปิดรับความเสี่ยงสินทรัพย์ไทย โดยเฉพาะหุ้น มากขึ้นได้
 
 
สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า ทิศทางค่าเงินบาทอาจขึ้นกับฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ โดยผลการเลือกตั้งล่าสุด อาจเพิ่มโอกาสนักลงทุนต่างชาติกลับเข้าซื้อสุทธิหุ้นไทยมากขึ้น

 อย่างไรก็ดี การแข็งค่าของเงินบาทอาจถูกชะลอไว้โดยโฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งในเชิงเทคนิคัล โซนแนวต้านสำคัญจะอยู่ที่โซน 34.00 บาทต่อดอลลาร์ และเส้นค่าเฉลี่ย EMA 50 วัน ส่วน 33.50 บาทต่อดอลลาร์ จะเป็นโซนแนวรับสำคัญในระยะสั้นนี้
 
ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า โมเมนตัมการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ยังพอมีอยู่ แต่ Upside อาจจำกัด หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจออกมาแย่กว่าคาดและ/หรือ ตลาดกังวลปัญหาเพดานหนี้ (Debt Ceiling) 

อย่างไรก็ดี หากตลาดปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น (Risk-Off) จากความผิดหวังรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ก็อาจหนุนให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นได้เช่นกัน
 
เราคงคำแนะนำว่า ในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูงจากทั้งปัจจัยการเมืองสหรัฐฯ (ประเด็นขยายเพดานหนี้) และการเมืองไทย ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
 
 
มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 33.50-34.20 บาท/ดอลลาร์
 
ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.75-34.00 บาท/ดอลลาร์

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


น้ำตาแห่งความสุข! ส่องบรรยากาศ “วอลเลย์บอลหญิง” ผงาดแชมป์ซีเกมส์ 2023 (ภาพ)

ถือเป็นความสำเร็จของ “ทัพนักตบลูกยางสาวไทย” อีกครั้งในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา กับการหยิบเหรียญทองได้เป็นสมัยที่ 16 ในประวัติศาสตร์

โดยในเกมรอบชิงชนะเลิศ “นักตบสาวไทย” เป็นฝ่ายเอาชนะ ทีมชาติเวียดนาม ไปได้แบบสุดตื่นเต้น 3-1 เซต (25-17, 21-25, 32-30 และ 25-21) ป้องกันแชมป์เอาไว้ได้อีกสมัย

ซึ่งวินาทีที่จบเกม เหล่าบรรดานักตบสาวไทย ได้วิ่งลงมาในสนามพร้อมทั้งกอดกันร้องไห้ หลังจากเหรียญทองนี้ถือเป็นเหรียญที่มีความกดดันเป็นอย่างมาก เนื่องจากครองแชมป์ติดต่อกันมาอย่างยาวนาน 14 ครั้ง

แถมหลังเกม โสรยา พรมหล้า มือเซตถึงกับร้องไห้แบบไม่อายใครพร้อมเผยว่า “ถือเป็นเหรียญที่มีความกดดันสูงมากๆ และมากที่สุดในชีวิตการเล่นวอลเลย์บอล” ขณะที่ อัจฉราพร คงยศ ก็เผยว่า “พวกเราทุกคนอยากที่จะรักษาประวัติศาสตร์การเป็นแชมป์ให้ยาวนานต่อไป”

สำหรับผลงานของ “ทัพนักตบลูกยางสาวไทย” ในการแข่งขันซีเกมส์ 2023
รอบแบ่งกลุ่ม
9 พฤษภาคม 2566    ชนะ อินโดนิเซีย  3-0 เซต
10 พฤษภาคม 2566    ชนะ เมียนมา 3-0 เซต
11 พฤษภาคม 2566    ชนะ มาเลเซีย 3-0 เซต

รอบรองชนะเลิศ
13 พฤษภาคม 2566    ชนะ ฟิลิปปินส์ 3-0 เซต

รอบชิงชนะเลิศ
14 พฤษภาคม 2566    ชนะ เวียดนาม 3-1 เซต

สรุปอันดับ
เหรียญทอง : ไทย
เหรียญเงิน : เวียดนาม
เหรียญทองแดง : อินโดนีเซีย
อันดับ 4 : ฟิลิปปินส์
อันดับ 5 : สิงคโปร์
อันดับ 6 : มาเลเซีย
อันดับ 7 : เมียนมา
อันดับ 8 : กัมพูชา

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


8 สัญญาณเตือนเสี่ยง “ภาวะช็อค”

ภาวะช็อค เป็นภาวะที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน โดยที่เราไม่ทันตั้งตัว ส่งผลให้อวัยวะของเราเกิดความเสียหาย และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต Sanook! Health เลยจะมาบอก 8 สัญญาณเตือนเสี่ยง ภาวะช็อค” ให้คุณได้ระมัดระวังกัน

ภาวะช็อค คือ ภาวะคุกคามชีวิตที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายเกิดการไหลเวียนของเลือดที่ไม่เพียงพอ อวัยวะและเซลล์ไม่ได้รับออกซิเจนและสารอาหารที่เพียงพอที่จะทำงานอย่างสมบูรณ์ ภาวะช็อคต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนไม่อย่างนั้นอาการจะทรุดตัวอย่างรวดเร็ว

สาเหตุอาการช็อคเกิดจาก

– ร่างกายเสียน้ำ อวัยวะไม่ได้รับออกซิเจนและสารอาหารเพียงพอที่จะทำงานอย่างถูกต้อง หรือเลือดมากเกินไป

– ติดเชื้ออย่างรุนแรงในกระแสเลือด

– แพ้สารต่างๆ หรืออาการแพ้ประจำตัว

– การทำงานที่ผิดปกติของระบบประสาทและสมอง

– โรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ

– ยาบางอย่างที่ช่วยลดการทำงานของหัวใจหรือความดันโลหิต

– อุบัติเหตุ

อาการเมื่ออยู่ในภาวะช็อค

1. มีอาการกระสับกระส่าย ครั่นเนื้อครั่นตัว

2. หายใจเร็ว ลมหายใจสั้นและถี่ เนื่องจากระบบหายใจมีการทำงานผิดปกติ

3. ชีพจรเต้นเร็ว เบา หรือเต้นไม่คงที่

4. เนื้อตัวเย็น ผิวสีซีด อ่อนแรง แต่ไม่มีอาการชาตามร่างกาย เหงื่อออกมากกว่าปกติ

5. มึนงง วิงเวียน มีอาการหน้ามืด เริ่มมีอาการทรงตัวไม่อยู่

6. ตาดำไม่เคลื่อนไหว หรือเกิดอาการตาค้าง ตาเบลอ

7. มีอาการเจ็บหน้าอก แน่นบริเวณหน้าอก

8. ปัสสาวะน้อยกว่าปกติ หรือไม่ปัสสาวะนาน 4-6 ชั่วโมง

9. ไม่รู้สึกตัว หมดสติ

วิธีช่วยเหลือผู้ที่มีอาการช็อค

1. ควรโทรเรียกรถพยาบาล เพื่อขอความช่วยเหลือจากแพทย์ทันที

2. ดูอาการผู้ป่วยว่ามีความผิดปกติของระบบการหายใจเกิดขึ้นหรือไม่ หากผู้ป่วยหายใจแผ่วเบา หรือไม่หายใจ ให้เริ่มต้นการช่วยหายใจด้วยการทำ CPR (Cardiopulmonary resuscitation) ทำอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยทุกๆ 5 นาทีเพื่อตรวจสอบอัตราการหายใจ

3. อย่าทำการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเด็ดขาด เพราะอาจกระทบกับอวัยวะ เช่น ศีรษะ คอ หรือกระดูกสันหลัง

4. ยกขาผู้ป่วยขึ้นประมาณ 12 นิ้ว แต่อย่ายกระดับหัวปล่อยผู้ป่วยให้นอนราบไปกับพื้น

5. คลายเสื้อผ้าที่แน่นออก เพื่อให้หายใจสะดวก

6. หากผู้ป่วยเกิดอาเจียนออกมา จับหันศีรษะหันไปข้างหนึ่งเพื่อป้องกันการสำลัก

7. ห้ามให้ผู้ป่วยรับประทานอะไรทั้งสิ้น

8. อย่ารอให้เกิดอาการช็อคอย่างรุนแรงควรนำตัวส่งโรงพยาบาลทันทีที่มีอาการ

เพื่อป้องกันจากภาวะช็อค ทุกคนจึงควรหมั่นไปตรวจสุขภาพบ่อยๆ ว่าร่างกายแข็งแรงดี หรืออาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการช็อคในอนาคตหรือไม่ ดูแลรักษาสุขภาพตัวเอง และปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้ถูกสุขลักษณะเพื่อหลักเลี่ยงภาวะผิดปกติของร่างกายโดยไม่ทันตั้งตัว

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


7 วิธี Make Friend กับเพื่อนร่วมงานต่างชาติ

การไปทำงานในที่ใหม่ช่วงแรกๆช่างเป็นความรู้สึกที่เคว้งคว้าง ประหม่า และโดดเดี่ยวยิ่งนัก การทำความรู้จักหรือแนะนำตัวกับเพื่อนร่วมงานถึงจะไม่ยากแต่ก็รู้สึกกังวลไม่ใช่เล่น สลัดความรู้สึกหล่านี้ทิ้งซะ! อย่ากลัวไปเลยค่ะ เพราะวันนี้แอนมีวิธีเริ่มต้นบทสนทนากับเพื่อนร่วมงานใหม่ แบบง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก แถมยังได้ผลสุดๆมาเป็นแนวทางให้กับทุกคน

1. แนะนำตัวเอง

หากอยากจะทำความรู้จักกับใคร สิ่งหนึ่งที่ลืมไม่ได้เด็ดขาดเลยคือการแนะนำตัวเองก่อนค่ะ โดยสามารถใช้ประโยคง่ายๆ อย่าง Hello, My name is (ชื่อตัวเอง) and I just started in the marketing department. อย่ากลัวที่จะแนะนำตัวเองกับใครค่ะ เพราะสิ่งนี้สามารถเป็นจุดเริ่มต้นของความสุขในชีวิตการทำงานได้

2. รู้จักถาม

เราอาจจะเริ่มต้นการสนทนาด้วยการถามไถ่เพื่อนร่วมงาน กับประโยคง่ายๆว่า How is your day going so far? (วันนี้เป็นไงบ้างคะ/ครับ?) ก็เป็นการเริ่มต้นบทสนทนาที่โอเคค่ะ หลังจากฟังคำตอบจากอีกฝ่ายแล้ว เราอาจจะทำการแนะนำตัวต่อแล้วก็หาเรื่องอื่นๆมาคุย จะได้ทำให้การสนทนาในครั้งไม่น่าเบื่อและสั้นกุดเกินไป

3. ทำความรู้จักใครสักคน

ลองถามใครสักคนว่า How long have you been working here? (คุณทำงานที่นี่มานานเท่าไรแล้วคะ/ครับ?) แล้วตามด้วยการแนะนำตนเองพร้อมบอกว่า I have just begun with this company (ฉันเพิ่งเริ่มต้นทำงานที่บริษัทนี้) ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกในการเริ่มต้นทำความรู้จักเพื่อนร่วมงานค่ะ เราต้องหัดทำความรู้จักกับคนที่เขาทำงานมานานแล้ว เผื่อเขาอาจจะช่วยแนะนำเราเกี่ยวกับวัฒนธรรมองค์กร หรือธรรมเนียมของบริษัทที่เราอาจไม่คุ้นเคย และแนะนำเรากับผู้ร่วมงานแผนกอื่นๆด้วยก็เป็นได้

4. หาเรื่องฝน ฟ้า อากาศ มาเม้าท์

หาประเด็นง่ายๆอย่างเรื่องฝน ฟ้า อากาศมาคุย ถือเป็นการเริ่มต้นบทสทนาที่น่าสนใจ ตัวอย่างเช่น Today has turned out hot and humid, has anyone heard the forecast for the rest of the week? (วันนี้ช่างร้อนอบอ้าวซะเหลือเกิน มีใครดูพยากรณ์อากาศของสัปดาห์นี้บ้างคะ/ครับ) เรื่องทั่วๆไปแบบนี้ ใครๆก็อยากเม้าท์ค่ะ รับรองว่ามีอันต้องคุยยาวแน่ๆ!

5. เรื่องของชากาแฟ

เรื่องของกินนี่ดูเล็กน้อยแต่สามารถต่อยอดเป็นบทสนทนาที่ดีได้นะคะ เราอาจจะถามเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับกฏเล็กๆน้อยๆที่เกี่ยวกับชากาแฟ เช่น What are the rules for drinking coffee at our desk? (มีกฏอะไรเกี่ยวกับการดื่มกาแฟบนโต๊ะทำงานหรือเปล่า?) การถามกฏพวกนี้ นอกจากเป็นการเริ่มต้นการสนทนาแล้วยังทำให้เรารู้ว่า ที่นี่รับการดื่มเครื่องดื่มระหว่างทำงานได้หรือไม่

6. ใช้เวลาพักเที่ยงให้เป็นประโยชน์

ก่อนจะไปพักกลางวัน ลองหันไปถามเพื่อนร่วมงานใกล้ๆว่า Where is the nearest place to get a good salad? (ใกล้ๆนี่มีร้านไหนขายสลัดอร่อยๆบ้าง?) อย่างที่บอกว่าเรื่องของกินนี่เป็นจุดเริ่มต้นการสนทนาที่ดีได้ นอกจากนี้แล้ว หากมีเพื่อนร่วมงานชวยเราไปกินเป็นกลุ่มข้างนอก อย่าเพิ่งปฏิเสธไปเสียก่อนล่ะ ถึงจะไม่อยากออกไปแต่ช่วงแรกๆก็ควรไปกับกลุ่มเพื่อนร่วมงานบ้าง เพื่อการเรียนรู้บริษัทและนิสัยใจคอเขาเหล่านั้นให้มากขึ้น

7. สังเกตแล้วถาม

ลองสังเกตการทำงานของบริษัทแล้วซักถามความเห็นจากเพื่อนร่วมงาน เช่น We seem to be busy with client calls today. Is it like this every day? (วันนี้แทบไม่มีเวลาว่างจากการตอบสายลูกค้าเลย ที่นี่เป็นอย่างนี้ทุกวันเลยหรือเปล่า) ระวังอย่าให้ดูเป็นการซุบซินนินทาบริษัทไปซะล่ะ พยายามทำให้เป็นประโยคคำถามธรรมดา และหากต้องออกความคิดห็นบก็ควรจะเป็นความคิดเห็นที่อยู่ในแง่บวก เช่น I like to keep myself busy. (ฉันชอบทำตัวยุ่งๆนะ) เพราะการพูดคุยเรื่องทั่วๆไปของบริษัทจะทำให้เราได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและสร้างความสนิทสนมได้ในที่สุด

ขอบคุณข้อมูลจาก dailyenglish.in.th


ลาก่อน Facebook Messenger บน Apple Watch จะปิดการทำงาน 31 พฤษภาคม เหลือเพียงแค่แจ้งเตือน

ถึงแม้ในสมาร์ทโฟน Facebook Messenger จะเป็น Apps ที่ใช้งานได้ทั่วไปและมีการขยายไปยัง Smart Watch อย่าง Apple Watch ก็ตามแต่ข่าวร้ายก็มาถึงเมื่อมีการแจ้งเตือนว่า Facebook Messenger บน Apple Watch จะปิดให้บริการในวันที่ 31 พฤษภาคม นี้

การปิดนี้จะทำให้ Apps ดังกล่าวไม่สามารถทำงานได้อีก แต่ว่าการแจ้งเตือนทั่วไปยังคงทำได้อยู่ ทั้งนี้การโต้ตอบและการส่งข้อความจะทำได้เฉพาะบนเวอร์ชั่นคอมพิวเตอร์, มือถือ เป็นต้น  

ทั้งนี้ Meta ได้เปิดตัวบริการ Facebook Messenger สำหรับ Apple Watch ในปี 2015 และมาพร้อมกับส่งคลิป, เสียง, สติกเกอร์, โดยการติดต่อข้อความได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องหยิบ iPhone ซึ่ง Meta เคยหยุดให้บริการ Instagram บน Apple Watch ไปไม่นานมานี้

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


5 วิธี ออกแบบบ้านผู้สูงอายุ ออกแบบอย่างไรให้อยู่สบายและปลอดภัย

ครอบครัวไหนที่มีผู้สูงอายุและกำลังมองหาบ้านหรือ กำลังสร้างบ้านผู้สูงอายุ ออกแบบให้อยู่สบาย ทางเรามีคำแนะนำโดยคุณสมบัติการสร้างบ้านผู้สูงอายุที่เรียบง่าย การปรับเปลี่ยนรูปแบบเฟอร์นิเจอร์ และการเลือกใช้วัสดุอย่างชาญฉลาดสามารถสร้างบ้านที่สะดวกสบายสำหรับผู้สูงอายุในบ้านของคุณ เมื่อวิธีรองรับองค์ประกอบเหล่านี้ในการออกแบบบ้านของคุณจำเป็นมากขึ้นเพื่อให้ผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีข้อจำกัดด้านการเคลื่อนไหวสามารถดำเนินกิจกรรมส่วนตัวได้อย่างอิสระ

ผู้สูงอายุหลายคนชอบที่จะอยู่ในบ้านเมื่ออายุมากขึ้น ท้ายที่สุดแล้ว คือความสะดวกสบาย คุ้นเคย อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้คนมีอายุมากขึ้น ความคล่องตัวและเวลาในการตอบสนองจะช้าลงเล็กน้อย อันตรายจากความปลอดภัยเล็ก ๆ น้อย ๆ รอบบ้านอาจมีความสำคัญมากขึ้น สำหรับผู้สูงอายุ (และญาติที่เกี่ยวข้อง) การใช้มาตรการความปลอดภัยขั้นพื้นฐานบางประการในบ้านสามารถช่วยให้บ้านเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยและสะดวกสบายในการอยู่อาศัย มาดู 5 วิธี สร้างบ้านผู้สูงอายุ ที่ปลอดภัยและสะดวกสบายกัน

1.ใช้มาตรการความปลอดภัย เช่น ราวจับ

เนื่องจากความปลอดภัยในการออกแบบบ้านผู้สูงอายุมีความสำคัญสูงสุด ควรติดตั้งราวจับไว้ในห้องน้ำ โดยเฉพาะใกล้กับห้องสุขาและภายในพื้นที่อาบน้ำ วางเก้าอี้หรือที่นั่งไว้ในบริเวณอาบน้ำเพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถนั่งอาบน้ำได้ หลีกเลี่ยงการวางพรมหลวม ๆ ไว้บนพื้น และไม่ควรมีธรณีประตูภายในบ้าน ถ้าพื้นลื่นเพราะวัสดุอย่างหินแกรนิต กระเบื้องแก้ว หรือกระเบื้องมัน ให้เลือกใช้พรมที่มีแผ่นรองกันลื่น โดยอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ ลิฟท์ผู้สูงอายุ ลิฟท์คนแก่ ซึ่งทำให้ผู้สูงอายุภายในบ้านไม่ต้องเดินขึ้นลงบันได ทำให้มีความอันตราย การติดลิฟท์ในบ้านจึงมีความจำเป็นในยุคปัจจุบัน

2.ตกแต่งบ้านที่ให้ความปลอดภัย

บ้านผู้สูงอายุ ออกแบบให้อยู่สบายที่สุดนั้นการตกแต่งบ้านก็สำคัญ เช่น

  • โถสุขภัณฑ์ควรมีความสูงระหว่าง 17 ถึง 19 นิ้ว ในขณะที่ความสูงของเตียงควรอยู่ระหว่าง 20 ถึง 23 นิ้ว เพื่อให้ผู้สูงอายุลุกขึ้นหรือนั่งได้ง่าย
  • หัวเตียงควรมีโทรศัพท์สัญญาณฉุกเฉินที่สามารถหยิบใช้งานได้ง่าย
  • หัวเตียงควรบุนวมเพื่อให้พักผ่อนได้สบาย
  • เก้าอี้มีพนักพิงและที่วางแขนที่มีการกันกระแทกที่ดี
  • หากเป็นบ้านหลายชั้นควรมีราวจับทั้งสองด้านของบันไดเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ การหกล้ม หรือป้องกันความเสี่ยงด้วยการติดลิฟท์ผู้สูงอายุ

3.แสงสว่างที่เพียงพอ

รวมแสงโดยรอบที่เพียงพอและนำแสงธรรมชาติเข้ามาอย่างเพียงพอเพื่อให้มีทัศนวิสัยที่ดีและผู้สูงอายุสามารถเดินไปมาได้อย่างปลอดภัย เป็นอีกหนึ่งวิธีการออกแบบบ้านผู้สูงอายุที่สำคัญ ควรมีไฟส่องสว่างสำหรับการทำงานในห้องนอนสำหรับอ่านหนังสือ ใต้ตู้ครัวเหนือศีรษะสำหรับปรุงอาหารหรือสับ และควรมีไฟ LED ตู้เสื้อผ้าภายในตู้เสื้อผ้าเพื่อให้มองเห็นของในตู้เสื้อผ้าได้ชัดเจน ไฟสำหรับกลางคืนเป็นสิ่งที่ต้องมีเพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถเข้าห้องน้ำได้อย่างปลอดภัยในเวลากลางคืน ในบ้านหลายชั้น ควรมีแสงสว่างเพียงพอสำหรับขั้นบันไดเพื่อให้มองเห็นทางเดินได้ชัดเจน ทาสีผนังด้วยสีกลางหรือสีพาสเทลเพื่อให้ดูสว่าง สะท้อนแสง และสร้างเอฟเฟกต์ที่ผ่อนคลาย

4.เค้าโครงเฟอร์นิเจอร์แบบมน

ออกแบบบ้านผู้สูงอายุโดยจัดบ้านที่ไม่เกะกะด้วยรูปแบบมินิมอล ซึ่งช่วยให้ผู้สูงอายุเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องกระแทกกับเฟอร์นิเจอร์ใด ๆ เพื่อให้รถเข็นเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ ความกว้างขั้นต่ำของทางเดินควรมีอย่างน้อย 36 นิ้ว เพื่อรถเข็นวีลแชร์ เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดควรมีขอบมนแทนขอบคมเพื่อลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ แนะนำโต๊ะข้างเตียงเพื่อให้สามารถเข้าถึงรายการที่ใช้บ่อยได้โดยตรงจากเตียง

5.ปูกระเบื้องห้องน้ำกันลื่น

การออกแบบบ้านสำหรับผู้สูงอายุต้องคำนึงถึงห้องน้ำเช่นกัน โดยเฉพาะพื้นห้องน้ำที่มักจะลื่นเมื่อเปียกน้ำ ซึ่งทำให้เป็นโซนที่เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย จึงแนะนำให้เลือกใช้กระเบื้องกันลื่น และควรมีการแบ่งโซนระหว่างพื้นที่เปียกและแห้งในห้องน้ำอย่าเลี่ยงการทำพื้นต่างระดับงชัดเจน หากไม่สามารถเปลี่ยนพื้นห้องน้ำที่มีอยู่ได้ ให้ติดตั้งแผ่นกันลื่นภายในพื้นที่อาบน้ำแทน เลี่ยงการทำพื้นต่างระดับ ควรเผื่อพื้นที่บริเวณห้องเพื่อรองรับการใช้งานวีลแชร์ หรือให้คนเข้าไปดูแลได้

การออกแบบบ้านสำหรับผู้สูงอายุต้องคำนึงถึงห้องน้ำเช่นกัน โดยเฉพาะพื้นห้องน้ำที่มักจะลื่นเมื่อเปียกน้ำ ซึ่งทำให้เป็นโซนที่เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย จึงแนะนำให้เลือกใช้กระเบื้องกันลื่น และควรมีการแบ่งโซนระหว่างพื้นที่เปียกและแห้งในห้องน้ำอย่าเลี่ยงการทำพื้นต่างระดับงชัดเจน หากไม่สามารถเปลี่ยนพื้นห้องน้ำที่มีอยู่ได้ ให้ติดตั้งแผ่นกันลื่นภายในพื้นที่อาบน้ำแทน เลี่ยงการทำพื้นต่างระดับ ควรเผื่อพื้นที่บริเวณห้องเพื่อรองรับการใช้งานวีลแชร์ หรือให้คนเข้าไปดูแลได้

สรุปการออกแบบบ้านเพื่อผู้สูงอายุ

มีหลายสิ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่อช่วยให้คนที่คุณรักปลอดภัยและสะดวกสบายที่บ้าน สิ่งเหล่านี้อาจไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวอีกต่อไปในสังคมผู้สูงอายุ สิ่งสำคัญคือต้องจัดการกับความเสี่ยงต่าง ๆ คุณจะอุ่นใจเมื่อรู้ว่าพวกเขาสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างปลอดภัยและคุณกำลังให้การดูแลที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสมาชิกในครอบครัวมีอายุมากขึ้นหรืออาศัยอยู่กับคุณ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าสมาชิกในครอบครัวที่มีอายุมากกว่าของคุณรู้สึกได้รับการต้อนรับและปลอดภัยเสมอโดยจดบันทึกการสนับสนุนสิ่งที่พวกเขาต้องการ เริ่มต้นด้วยการพิจารณาการอัพเกรดและปรับแต่งบ้านง่าย ๆ เหล่านี้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้สูงอายุในชีวิตของคุณได้แล้ว โดยการติดลิฟท์คนแก่ ลิฟท์ผู้สูงอายุ เป็นเพียงหนึ่งทางเลือกสำหรับคุณที่อยากสร้างความปลอดภัยให้กับบุคคลในบ้าน และถ้าคุณอยากทราบว่าปัจจัยที่มีผลต่อราคาลิฟท์คนแก่ สามารถเข้าไปอ่านที่บทความนี้ ลิฟท์ผู้สูงอายุ ราคา

ซีเบส ลิฟท์ (ประเทศไทย) เป็นสาขาของ Cibes Lift Group จากสวีเดน เราจัดจำหน่ายและดูแลลูกค้าของเราเองโดยตรง ไม่ผ่านตัวแทนจำหน่าย คุณจึงมั่นใจในความถูกต้องและรวดเร็วในการให้บริการทั้งก่อนและหลังการขาย

ด้วยทีมงานที่กระตือรือร้นมีประสบการณ์และเป็นมืออาชีพ ครอบครัว ซีเบส จึงได้รับความรักและความไว้วางใจจากลูกค้ามากขึ้น สําหรับคําแนะนําเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ลิฟท์บ้านของ ซีเบส ลิฟท์ (ประเทศไทย)

เชิญเยี่ยมชมโชว์รูมและทดลองใช้ลิฟท์ได้ที่

  • ที่อยู่: 2113, 1 ถนน เพชรบุรีตัดใหม่ แขวง บางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310
  • ออฟฟิศ : 02 -114-6499

เว็บไซต์ : www.cibeslift.co.th

ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 15/05/2566

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a32,200.0032,300.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,086.0031,623.7632,800.00
ทองรูปพรรณ 90%1,877.4028,461.38n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,668.8025,299.01n/a
ทองรูปพรรณ 50%939.0014,235.24n/a
ทองรูปพรรณ 40%730.0011,066.80n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,162.0032,775.92n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 15/05/2566


ปตท.

บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9535.1535.1535.6435.1535.1535.1535.1535.1535.1535.15
แก๊สโซฮอล์ 9134.8834.8835.3434.8834.8834.8834.8834.8834.8834.88
แก๊สโซฮอล์ E2032.8432.8433.2432.8432.8432.8432.8432.8432.84
แก๊สโซฮอล์ E8533.2933.2933.29
เบนซิน 9542.9443.0143.4443.0942.94
ดีเซล B731.9431.9432.4431.9431.9431.9431.9432.4431.9431.94
ดีเซล31.9431.9432.4431.9431.9431.9431.9432.4431.9431.94
ดีเซล B2031.9431.9432.4431.9431.9431.94
ดีเซลพรีเมี่ยม41.0641.1643.0442.6642.6641.06
แก๊ส NGV17.5917.5917.59
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า