สาระน่ารู้ประจำวันที่ 15 พฤษภาคม 2567

ภูเก็ตไม่แผ่ว! ลงทุนไตรมาสแรก3.4หมื่นล.แซงกทม. ‘คอนโด-วิลล่า’บูมต่อ

อสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ ค่อนข้างซบเซา สังเกตจากการเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ในกรุงเทพฯ ไตรมาสแรกลดลงเหลือ 2,300 ยูนิต! สวนทางกับการเปิดตัวคอนโด -วิลล่าในภูเก็ตสูงขึ้นไตรมาสแรกเม็ดเงินลงทุน3.4หมื่นล้านแซงกทม.

ภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส ประเทศไทย กล่าวว่า แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์จังหวัดภูเก็ตไตรมาส 2 และช่วงครึ่งปีหลังยังคงคึกคักต่อเนื่อง อุปทานเปิดขายใหม่จากดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ และผู้ประกอบการในพื้นที่มีในหลายพื้นที่ เพื่อรองรับความต้องการคอนโดมิเนียมและวิลล่าเพื่อเป็นบ้านหลังที่ 2 หรือเพื่อการลงทุนของทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างชาติส่งผลให้สามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว

“ไตรมาสแรกที่ผ่านมา พบว่ามีอุปทานคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ 12 โครงการ 3,338 ยูนิต มูลค่ารวมสูงถึง 25,059 ล้านบาทจากเดิมจำนวนคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่แต่ละปีในภูเก็ตเฉลี่ย 2,000-3,000 ยูนิตเท่านั้น”
 เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นส่งผลให้กำลังซื้อฟื้นตัวเร็ว! ประกอบกับมีการลงทุนจากภาครัฐและ

เอกชนจึงเป็นแรงผลักดันที่สำคัญให้ตลาดคอนโดมิเนียมในภูเก็ตเติบโตแบบก้าวกระโดด คาดว่าปี 2567 จะมีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่เข้าสู่ตลาดอีกกว่า 8,500 ยูนิต!! เพราะมีอัตราการดูดซับเฉลี่ยต่อเดือนถึง 5.8%  หากเป็นคอนโดมิเนียมราคา 3-5 ล้านบาทต่อยูนิต มีอัตราการดูดซับเฉลี่ยต่อเดือนสูง 6.5%

สำหรับอุปทานแต่ละปีในภูเก็ตช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ 35,501 ยูนิต ในไตรมาสแรกปีนี้ มีอุปทานคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการขาย 87 โครงการ 25,591 ยูนิต ขายแล้ว 16,905 ยูนิต คิดเป็น 66% มีหน่วยขายรอการระบาย 8,686 ยูนิต คิดเป็น 33.95%  โดยดีเวลลอปเปอร์ส่วนใหญ่นิยมพัฒนาโครงการในพื้นที่ฝั่งตะวันตกมากที่สุด ในทำเลบางเทา เชิงทะเล รอบลากูน่า และกมลา
 

อุปทานเปิดขายใหม่ของวิลล่า ไตรมาสแรกที่ผ่านมาเติบโตแบบก้าวกระโดดเช่นกัน มีอุปทานเปิดขายใหม่ถึง 10 โครงการ 237 ยูนิตมูลค่าลงทุน 9,500 ล้านบาท สูงสุดในรอบ10 ปี ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของเกาะ โดยเฉพาะทำเลย่านบางเทา เชิงทะเล และพื้นที่โดยรอบลากูน่า พบว่า มีอุปทานที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมด 117 โครงการจากยูนิตขายทั้งหมด 2,545 ยูนิต  สามารถขายออกไปแล้ว 1,220 ยูนิต เหลือยูนิตรอการขาย 1,382 ยูนิต

โดยพบว่ามีสัดส่วนกว่า 98% เป็นบ้านเดี่ยว ราคาต่ำกว่า 30 ล้านบาทต่อยูนิตเป็นส่วนใหญ่ คิดเป็นสัดส่วน 39.89% ตามมาด้วยราคา 30-50 ล้านบาท 41% ราคา 30-50 ล้านบาท สัดส่วน 37% และพบว่ามากกว่า 46% เป็นรูปแบบ 3 ห้องนอน และมีพื้นที่ใช้สอย 300-500 ตารางเมตร ได้ความสนใจจากกำลังซื้อต่างชาติเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มยุโรป เช่น เยอรมนี เดนมาร์ก รวมทั้งลูกค้าเอเชีย เช่น จีน ฮ่องกง และ สิงคโปร์ รวมถึงกลุ่มลูกค้าคนไทยจากกรุงเทพฯ และคนในพื้นที่

 “วิลล่าหลายโครงการสามารถปิดยอดการขายได้มากกว่า 80% หลังจากการเปิดขาย ส่วนใหญ่ถูกเหมาซื้อไปโดยกำลังซื้อต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้ารัสเซียที่ซื้อเพื่อการลงทุนและการอยู่อาศัย”

ภัทรชัย ประเมินว่า ตลาดคอนโดมิเนียมและวิลล่าในภูเก็ตจะยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่องในปี 2567  ช่วงไตรมาสแรก มีคอนโดมิเนียมและวิลล่าใหม่ 3,500 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 34,559 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 10 ปี ส่วนใหญ่เน้นการขายแบบการรันตีค่าเช่า เริ่มตั้งแต่ 5% ใน 3 ปี หรือ 7% ใน 3 ปี แตกต่างกันไป ซึ่งส่วนใหญ่ทุกโครงการมียอดขายของต่างชาติ 49% ค่อนข้างเต็มทุกโครงการ

 แต่หากมีลูกค้าชาวต่างชาติสนใจเพิ่มเติมก็จะขายแบบเช่าระยะยาวแบบ 30+30+ 30 ปี เพื่อเป็นการเปิดโอกาสการขายที่เพิ่มขึ้นสำหรับกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่กำลังซื้อหลักของตลาดภูเก็ต!

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


“พฤกษา” ไตรมาส1 ทำรายได้ 4,171 ล้าน เฮลท์แคร์โต ลุยไตรมาส 2 เพิ่มกลุ่มพรีเมียม

“พฤกษา” ไตรมาส1 ปี67  ทำรายได้ 4,171 ล้าน เพิ่มสัดส่วนกลุ่มพรีเมียม ธุรกิจเฮลท์แคร์ โต 21%ปักหมุดไตรมาส 2 ผุด 7 โครงการ 7,100 ล้าน เพิ่มสัดส่วนกลุ่มพรีเมียม

บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของปี2567 เริ่มเห็นสัญญาณเป็นบวก 

นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสแรกปี 2567 ว่า บริษัททำรายได้ราว 4,171 ล้านบาท  ในช่วงไตรมาสแรก ทำอัตรากำไรขั้นต้นได้ดีขึ้นที่ 32% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2566 ที่ 31.5% และยังคงรักษาสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุน (Net gearing ratio) ต่ำที่ 0.31 เท่า ล่าสุดบริษัทฯ ได้มีการเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ แบบมีผู้ค้ำประกัน จำนวน 2 ชุด ต่อผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ ซึ่งได้ออกหุ้นกู้แล้วเสร็จในวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา

โดยมีอายุหุ้นกู้ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.18% ต่อปี และอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.48% ต่อปี ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด อยู่ที่ระดับ A-  ซึ่งบริษัทฯ ต้องขอขอบคุณนักลงทุนทุกรายที่ให้ความไว้วางใจ ทำให้ได้รับยอดจองสูงกว่ามูลค่าที่ทำการเสนอขายประมาณ 1.5 เท่า ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถระดมทุนจากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ จำนวน 4,500 ล้านบาท โดยบริษัทฯ วางแผนจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ ไปชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนด และต่อยอดธุรกิจเพื่อขับเคลื่อนการทำงานในองค์รวมต่อไป

ในส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์  บริษัทฯ ทำยอดโอนได้ 3,475 ล้านบาท และทำยอดขายได้ 3,374 ล้านบาทโดยกลุ่มสินค้าประเภทบ้านเดี่ยวมียอดขาย 1,342 ล้านบาท เติบโตราว 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน  ในขณะที่สินค้าในกลุ่มพรีเมียมได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เห็นได้จากการเปิดการขายโครงการเดอะปาล์ม บางนา-วงแหวน 2 ในช่วงไตรมาสแรก สอดคล้องกับแผนการเปิดโครงการใหม่ที่จะเพิ่มสัดส่วนสินค้าในกลุ่มพรีเมียม (มากกว่า 7 ล้านบาท) ให้มากขึ้นเป็น 50%  

ในครึ่งปีแรก ยังคงแผนการเปิดโครงการใหม่ รวม 8 โครงการ มูลค่า 9,000 ล้านบาท (เปิดไปแล้ว 1 โครงการ ในไตรมาสแรก ได้แก่ โครงการเดอะปาล์ม บางนา-วงแหวน 2 ) และในครึ่งปีหลัง 22 โครงการ มูลค่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งยังมีโครงการไฮไลท์สำคัญที่กำลังจะเปิดใหม่เร็ว ๆ นี้ อาทิ โครงการแบรนด์ใหม่ “ไพนน์ เวลเนส เรสซิเดนซ์ ประชาชื่น” บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 3 ชั้น สไตล์ British Timeless Elegance และโครงการ “เดอะปาล์ม เรสซิเดนเซส วัชรพล” บ้านหรูสไตล์พูลวิลล่า ดีไซน์คลาสสิค French Hussmann พร้อมนวัตกรรมกรองอากาศและลดพลังงานภายในบ้าน

นวัตกรรมเพื่อสุขภาพและการใช้ชีวิตที่ดี พร้อมมีทีมแพทย์จาก รพ.วิมุต และ Chersery Home International ดูแลสุขภาพทุกคนในครอบครัวถึงที่บ้านเหมือนมีแพทย์ประจำครอบครัว บริการผู้ช่วยส่วนตัว (Concierge Service) และบริการจากแอปพลิเคชัน MyHaus นวัตกรรมระบบบ้านอัจฉริยะ ที่จะเป็นศูนย์กลางดูแลเรื่องความปลอดภัยในบ้าน และอำนวยความสะดวกให้ลูกบ้านและนิติบุคคลเข้ามาใช้ เพื่อสร้างจุดขายที่แตกต่างและโดดเด่นให้กับโครงการ นอกจากนี้ บริษัทยังมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่า 4,429 ล้านบาท และยังมีสินค้าที่ยังเปิดขายอยู่มูลค่ารวม 61,269 ล้านบาท ซึ่งยังคงรองรับการเติบโตได้ถึง 2 ปี

ด้านธุรกิจเฮลท์แคร์ มีทิศทางเติบโตในทุกมิติ ทำรายได้ 499 ล้านบาท เติบโต 21% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2566 โดยมีรายได้สูงสุดในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีจำนวนผู้ป่วยใน และผู้ป่วยนอกสูงขึ้น (แบ่งเป็นผู้ป่วยชาวไทย และชาวต่างชาติสูงขึ้น 32% และ 30% ตามลำดับ) ช่วงระหว่างปีที่ผ่านมาเดินหน้าสานต่อแผนสู่ความเป็นผู้นำแพลตฟอร์มด้านสุขภาพ (Trusted Healthcare Platform) ประกาศรีแบรนด์ร.พ.เทพธารินทร์ สู่  “โรงพยาบาลวิมุต-เทพธารินทร์”

เน้นศักยภาพความเป็นผู้ชำนาญและความเป็นเลิศด้านเบาหวานและต่อมไร้ท่อ  และวางแผนขยายบริการไปถึงกลุ่มลูกบ้านพฤกษาผ่านการมอบสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ  นอกจากนี้ โรงพยาบาลวิมุต ยังได้ขยายบริการเพิ่มเติม ทั้งการผ่าตัดศัลยกรรมขากรรไกรและใบหน้า (Maxillofacial Surgery) เปิด “ศูนย์เลสิก โรงพยาบาลวิมุต (ViMUT LASIK Center)” ชูนวัตกรรมที่ปลอดภัย ด้วยนวัตกรรมเครื่อง “FEMTO LDV Z8” จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมอยู่ระหว่างการก่อสร้างศูนย์ฟื้นฟูและดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุและครอบครัวในย่านวัชรพล เพื่อรองรับการดูแลสุขภาพของลูกค้าในโครงการบ้านในละแวกนั้น และชุมชนใกล้เคียงทั้งหมดเพื่อเติมเต็มอีโคซิสเต็มในเครือพฤกษา ตอบโจทย์การใช้ชีวิตตามกรอบแนวคิด “อยู่ดี มีสุข”

ด้านการดำเนินงานต่อยอดธุรกิจ สร้างรายได้ประจำตามกลยุทธ์ Seed new business ล่าสุดเดินหน้าตามแผนงานการก่อสร้างเมกะโปรเจกต์ “โอเมก้า บางนา โลจิสติกส์ แคมปัส” คลังสินค้าครบวงจรด้วยเทคโนโลยีด้านโลจิสติกส์ที่ทันสมัยพร้อมบริการโซลูชันแบบองค์รวม มูลค่า 8,430 ล้านบาท บนพื้นที่ย่านบางบ่อรวมกว่า 200,000 ตารางเมตร ภายใต้บริษัทร่วมทุน 51:49 กับกองทุน “CapitaLand SEA Logistics Fund” 

โดยมีระยะเวลาก่อสร้าง 2 ปี เพื่อรองรับเทรนด์การเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในช่วงปี 2569 เป็นต้นไป โดยจะมี แอลลี่ โลจิสติกส์ พร็อพเพอร์ตี้ (Ally Logistic Property หรือ ALP) นำโซลูชันคลังสินค้าแบบอัจฉริยะและครบวงจรที่ล้ำสมัยที่สุดในอุตสาหกรรมโลจิส ติกส์ของประเทศไต้หวันมาร่วมให้บริการด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 15พ.ค. “แข็งค่าเล็กน้อย” ที่ระดับ 36.59 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทอาจยังคงแกว่งตัว sidewaysตลาดอยู่ในโหมด wait and seeการปรับตัวลดลงของทั้งเงินดอลลาร์-บอนด์ยีลด์ 10 ปีสหรัฐฯ หนุนราคาทองคำรีบาวด์ขึ้น

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 15พ.ค. 2567  ที่ระดับ  36.59 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น เล็กน้อย”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  36.66 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน  พานิชพิบูลย์  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน  ธนาคารกรุงไทยระบุว่า สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า เงินบาทอาจยังคงแกว่งตัว sideways แถวระดับ 36.50-36.60 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงก่อนตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ อย่าง CPI (ตลาดรับรู้ราว 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย) เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวก็เป็นข้อมูลสำคัญที่ผู้เล่นในตลาดต่างรอลุ้น

ทำให้บรรดาผู้เล่นในตลาดอาจยังอยู่ในโหมด wait and see เพื่อรอรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI อย่างไรก็ดี ควรจับตาโซนแนวรับสำคัญ 36.50 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งอยู่แถวเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน โดยจากสถิติในอดีตที่ผ่านมา พบว่า หากเงินบาทแข็งค่าหลุดโซนแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันได้ ก็มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องในระยะสั้น ราว 20-30 สตางค์ จนกว่าจะมีปัจจัยเปลี่ยนแปลงทิศทาง อย่างไรก็ดี เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดบางส่วนก็อาจรอทยอยซื้อเงินดอลลาร์ ในจังหวะเงินบาทแข็งค่าขึ้นบ้าง อีกทั้งสัปดาห์นี้ก็ยังมีโฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผล ทำให้เงินบาทก็อาจยังติดในโซนแนวรับดังกล่าวได้

อย่างไรก็ดี ควรระวังความผันผวนในช่วง ตลาดทยอยรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI โดยหากโมเมนตัมอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI (%m/m) ออกมาสูงกว่าคาด ก็อาจกดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงได้ราว 0.5% จากสถิติในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา

ในทางกลับกัน หากออกมาต่ำกว่าคาด ก็จะช่วยหนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อได้ไม่เกิน 0.4% ทำให้เราอาจพอประเมินกรอบเงินบาทได้แถว 36.35-36.70 บาทต่อดอลลาร์ (หากเงินบาททรงตัวแถว 36.50 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงก่อนรับรู้รายงานข้อมูลอัตราเงินเฟ้อ CPI)

เราคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทยังคงเคลื่อนไหวผันผวนสูง ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงไปมาของปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อทิศทางค่าเงินบาท ทำให้ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.40-36.75 บาท/ดอลลาร์

โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา ค่าเงินบาททยอยแข็งค่าขึ้น (แกว่งตัวในช่วง 36.55-36.75 บาทต่อดอลลาร์) โดยเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนพอสมควรในช่วงสั้นๆ หลังตลาดรับรู้รายงานดัชนีราคาผู้ผลิต ในส่วน Core PPI สหรัฐฯ ที่โมเมนตัมรายเดือน (%m/m) ออกมาสูงกว่าคาด

ทำให้ในช่วงแรกผู้เล่นในตลาดตอบรับในเชิงกังวลกับภาพเงินเฟ้อ กดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลง ตามการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 สหรัฐฯ และการปรับตัวลงของราคาทองคำ

อย่างไรก็ดี ผู้เล่นในตลาดกลับมามองว่า ข้อมูลดังกล่าวอาจมีความผสมผสานและอาจไม่ได้น่ากังวลมากนัก เนื่องจาก รายงานดัชนี Core PPI ในเดือนมีนาคม ได้ถูกปรับปรุงข้อมูลใหม่เป็น -0.1%m/m จากที่รายงานในตอนแรกเป็น +0.2%m/m

นอกจากนี้ ถ้อยแถลงของประธานเฟด Jerome Powell หลังตลาดรับรู้รายงานดัชนี PPI ก็ไม่ได้มีโทนที่ Hawkish มากขึ้นกว่าเดิม (และไม่ได้กังวลกับรายงานดัชนี PPI ที่ออกมา) พร้อมย้ำจุดยืนไม่รีบลดดอกเบี้ยจนกว่าจะมั่นใจในแนวโน้มเงินเฟ้อสหรัฐฯ

ทำให้โดยรวม เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ทยอยปรับตัวลดลง พร้อมกับการปรับตัวขึ้นราว +20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ของราคาทองคำ ส่งผลให้เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้น

บรรดาผู้เล่นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มกลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น หลังผู้เล่นในตลาดประเมินรายงานดัชนี PPI ล่าสุด ออกมาผสมผสาน อีกทั้งถ้อยแถลงของประธานเฟดก็ยังไม่ได้ส่งสัญญาณในเชิง Hawkish มากขึ้น และมองว่าเฟดยังมีโอกาสน้อยมากที่จะขึ้นดอกเบี้ยต่อ แต่อาจคงดอกเบี้ยที่ระดับสูงได้นาน ซึ่งภาพดังกล่าวได้หนุนให้ บรรดาหุ้นเทคฯ ใหญ่ รีบาวด์ขึ้น หนุนให้โดยรวม S&P500 ปิดตลาด +0.48%

ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง +0.15% หนุนโดยรายงานข้อมูลเศรษฐกิจฝั่งยุโรป ทั้งภาพตลาดแรงงานอังกฤษ และดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนี รวมถึงยูโรโซน (ZEW Economic Sentiment) ที่ออกมาดีกว่าคาด นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปโดยรวมยังพอได้แรงหนุนจากการที่ผู้เล่นในตลาดคลายกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ตามรายงานดัชนี PPI ที่ออกมาผสมผสาน

ในฝั่งตลาดบอนด์ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ เคลื่อนไหวผันผวน ในช่วงตลาดรับรู้รายงานดัชนี PPI ก่อนที่จะย่อตัวลงสู่ระดับ 4.45% หลังผู้เล่นในตลาดคลายกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดและเชื่อว่า เฟดอาจไม่จำเป็นต้องเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย ตามถ้อยแถลงของประธานเฟดและรายงานข้อมูลดัชนี PPI ที่ออกมาผสมผสาน ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ก็มีจังหวะปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 4.50% ได้อีกครั้ง จริงตามที่เราคาด หลังดัชนี PPI ออกมาสูงกว่าคาด

ทำให้เรามองว่า บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังมีโอกาสผันผวนสูงขึ้นทดสอบโซน 4.50% ได้ หากรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ออกมาสูงกว่าคาดเช่นกัน ซึ่งเราก็ยังคงแนะนำให้นักลงทุนเน้นกลยุทธ์ทยอย Buy on Dip เนื่องจากบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ นั้นมี Risk-Reward ที่คุ้มค่าเมื่อประเมินจากคาดการณ์ผลตอบแทนรวมในอีก 1 ปี ข้างหน้า และความเสี่ยงในกรณีที่บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อาจกลับไปแตะระดับ 5.00%

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์พลิกกลับมาอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับบรรดาสกุลเงินหลัก หลังผู้เล่นในตลาดคลายกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดและคงคาดการณ์ว่าเฟดยังมีโอกาสลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้งในปีนี้ จากรายงานดัชนี PPI ที่ออกมาผสมผสาน

และถ้อยแถลงของประธานเฟดที่ย้ำจุดยืนไม่รีบลดดอกเบี้ยตามเดิม นอกจากนี้ บรรยากาศเปิดรับความเสี่ยงของตลาดก็ลดความน่าสนใจในการถือครองเงินดอลลาร์เพิ่มเติม ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ย่อตัวลงสู่ระดับ 105 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 105-105.3 จุด)

ในส่วนของราคาทองคำ การปรับตัวลดลงของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ได้หนุนให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย.) รีบาวด์ขึ้น สู่โซน 2,360 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนทยอยขายทำกำไรการรีบาวด์ของราคาทองคำบ้าง และโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนช่วยให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงคืนที่ผ่านมา

สำหรับวันนี้ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ในเดือนเมษายน และรายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) ในเดือนเมษายน เช่นกัน ซึ่งตลาดจะทยอยรับรู้ในช่วงราว 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตา ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด ซึ่งจะมาในช่วงหลังตลาดรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อไปแล้ว ราว 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

ส่วนในฝั่งยุโรป ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซน จากรายงาน GDP ไตรมาสแรกของปีนี้ของทางยูโรโซน ซึ่งอาจช่วยลดความกังวลการเกิด Technical Recession (GDP หดตัว q/q สองไตรมาสตด) หาก GDP ไตรมาสแรกพลิกกลับมาขยายตัวดีขึ้น ตามที่ตลาดคาด

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 36.55-36.57 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.20 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 36.67 บาทต่อดอลลาร์ฯ…เงินบาทแข็งค่าขึ้นสอดคล้องกับสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย

ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ไม่ได้รับแรงหนุนมากนักจากข้อมูล PPI เดือนเม.ย. ของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด เนื่องจากตลาดให้ความสนใจกับถ้อยแถลงของประธานเฟด ซึ่งกล่าวย้ำว่า เฟดไม่น่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก แม้จะยอมรับว่า ยังต้องใช้เวลาอีกระยะกว่าที่อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ จะกลับไปอยู่ในระดับเป้าหมายของเฟด 

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 36.45-36.65 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลก สัญญาณฟันด์โฟลว์ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ดัชนีราคาผู้บริโภค และยอดค้าปลีกเดือนเม.ย. และผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กเดือนพ.ค.

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


นัดแรก 15 พ.ค.! โปรแกรมถ่ายทอดสด วอลเล่ย์บอลหญิงไทย ตบ เนชันส์ ลีก 3 สนาม

การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง เนชันส์ ลีก VNL 2024 จะเริ่มขึ้นระหว่างวันที่ 14 พ.ค.-30 มิ.ย. 2567 โดยในสัปดาห์แรกจะเริ่มแข่งในวันที่ 14 พ.ค.-20 พ.ค. 2567 ต่อด้วย สัปดาห์ 2 แข่งขันระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม-2 มิถุนายน 2567 และสัปดาห์ 3 แข่งขันระหว่างวันที่ 11-16 มิถุนายน 2567

โปรแกรมถ่ายทอดสด วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ศึกเนชั่นลีก VNL 2024

สัปดาห์แรก (บราซิล) 

คืนวันพุธ ที่ 15 พ.ค. (เช้าวันพฤหัสบดีที่ 16 พ.ค.2567)

เวลา  03:30 น. ไทย พบ สหรัฐอเมริกา

คืนวันศุกร์ ที่ 17 พ.ค.2567

เวลา 24:00 น. ไทย พบ เซอร์เบีย

เช้าวันอาทิตย์ ที่ 19 พ.ค.2567

เวลา 07:00 น. ไทย พบ แคนาดา

คืนวันอาทิตย์ ที่ 19 พ.ค. (เช้าวันจันทร์ที่ 20 พ.ค.2567)

เวลา  03:30 น. ไทย พบ เกาหลีใต้

สัปดาห์ ที่ 2  (มาเก๊า)

วันวันอังคา รที่ 28 พ.ค.2567

เวลา  15:00 น. ไทย พบ โดมินิกัน

วันศุกร์ ที่ 31 พ.ค.2567

เวลา  11:30 น. ไทย พบ ฝรั่งเศส

วันเสาร์ ที่ 1 มิ.ย.2567

เวลา 18:30 น. ไทย พบ จีน

อาทิตย์ ที่ 2 มิ.ย.2567

เวลา 15:00 น. ไทย พบ บราซิล

สัปดาห์ ที่ 3 (ฮ่องกง)

วันพุธที่ 12 มิ.ย.2567

เวลา 16:00 น. ไทย พบ ตุรกี

วันพฤหัสบดี ที่ 13 มิ.ย.2567

เวลา 12:30น. ไทย พบ บัลแกเรีย

วันเสาร์ ที่ 15 มิ.ย.2567

เวลา 16:00 น. ไทย พบ โปแลนด์

วันอาทิตย์ ที่ 16 มิ.ย.2567

เวลา 12:30 น. ไทย พบ เยอรมนี

สำหรับการถ่ายทอดสด สามารถรับชมได้ทุกแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นทางหน้าจอช่อง 7HD กด 35 และช่องทางออนไลน์ BUGABOO.TV และ Ch7HD ทั้งเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน และ ทาง TERO Digital เริ่มวันอังคารที่ 14 พฤษภาคมนี้ เป็นต้นไป

ขอบคุณข้อมูลจาก siamsport.co.th


เช็กด่วน 6 สัญญาณชี้ร่างกายแก่ก่อนวัย ไม่ควรมองข้าม

สาวๆ เคยสังเกตไหมว่าอายุยังน้อย แต่ทำไมรู้สึกว่าร่างกายตัวเองเหมือนมีอายุมากกว่าตัวเลขจริง วันนี้เราจะชวนสาวๆ มาไขข้อสงสัยถึงปัญหาร่างกายแก่ก่อนวัยกันค่ะ โดยสาวๆ สามารถสังเกตสัญญาณทั้ง 6 ข้อที่บ่งบอกว่าร่างกายกำลังเข้าสู่ปัญหาแก่ก่อนวัยและร่างกายกำลังเสื่อมสภาพเร็วดังนี้

6 สัญญาณบอกว่าร่างกายแก่ก่อนวัย

1.เหนื่อยล้าง่ายกว่าปกติ

หากสาวๆ รู้สึกว่าตัวเองมีอาการเหนื่อยล้าง่ายกว่าปกติ เช่น เดินขึ้นลงบันได หรือยกของหนักแปปเดียวก็เหนื่อยแล้ว บางครั้งก็มีอาการหอบ หรือหายใจไม่ทันร่วมด้วย เมื่อเปรียบเทียบกับร่างกายเมื่อก่อน ก็มั่นใจว่าแข็งแรงมากกว่านี้ ให้รู้เลยว่าร่างกายของสาวๆ กำลังเข้าสู่การเสื่อมสภาพที่เร็วกว่าปกติ

2.แรงเริ่มถดถอยลง

นอกจากร่างกายจะรู้สึกเหนื่อยล้าง่ายกว่าปกติแล้ว สาวๆ ยังมีอาการอ่อนแรงลงกว่าเดิมด้วย เช่น เปิดฝาขวดน้ำหรือขวดแยมออกได้ยาก หรือถือของหนักหลายกิโลไม่ได้ แถมยังมีอาการปวดเมื่อยเนื้อตัวแปลกๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้สามารถทำได้สบายๆ และแทบจะไม่มีอาการปวดเมื่อยเนื้อตัวเลยด้วยซ้ำ

3.สีผิวไม่สม่ำเสมอ

ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ บางครั้งอาจจะไม่ใช่ปัญหาที่เกิดจากการโดนแสงแดดเท่านั้น แต่ยังอาจเป็นหนึ่งในสัญญาณที่บ่งบอกว่าร่างกายแก่ก่อนวัยหรือเสื่อมสภาพเร็ว ซึ่งหากสีผิวของสาวๆ มีความหมองคล้ำ หรือผิวไม่สดใส อาจเป็นการบ่งบอกว่าการทำงานของตับมีความผิดปกติ ตลอดจนทำให้การขับของเสียในร่างกายทำงานได้ไม่ดีพอ จึงส่งผลกระทบต่อผิวตามมา

4.ผิวมีรอยช้ำบ่อย

โดยปกติแล้วเซลล์ผิวจะมีความสามารถในการฟื้นฟูตัวเองได้ดี โดยเฉพาะในช่วงวัยเด็กและวัยหนุ่มสาว แต่เมื่อเซลล์ผิวเริ่มเสื่อมสภาพ ก็จะทำให้เกิดรอยช้ำบ่อยแถมยังทำให้รอยช้ำนั้นหายยากอีกด้วย ซึ่งนั่นก็เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าร่างกายของสาวๆ เริ่มเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่คิด

5.ประจำเดือนมีความผิดปกติ

ประจำเดือนมีความผิดปกติ ก็เป็นหนึ่งในสัญญาณบ่งบอกว่าร่างกายแก่ก่อนวัยได้เช่นกัน เนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้น ฮอร์โมนเพศหญิงจะลดลง จึงทำให้ประจำเดือนมาผิดปกติ หรือมาๆ หายๆ ไม่สม่ำเสมอ ดังนั้นถ้าอายุยังน้อยแต่ประจำเดือนมีความผิดปกติ นั่นอาจเป็นสัญญาณของการที่ร่างกายเริ่มเสื่อมสภาพลง

6.นอนไม่หลับ

อาการนอนไม่หลับที่เป็นบ่อยๆ เช่น นอนไม่หลับในตอนกลางคืน แถมยังตื่นเช้าอีกด้วย อาการแบบนี้ถือเป็นการบ่งบอกว่าภาวะฮอร์โมนคอร์ติซอลหรือฮอร์โมนแห่งความเครียดมีเยอะเกินไป และเมื่อเกิดความเครียดมากเกินไป ก็จะส่งผลให้ร่างกายแก่ตัวเร็วนั่นเอง

สาวๆ ที่เริ่มสงสัยว่าตัวเองกำลังเผชิญกับร่างกายที่เสื่อมสภาพเร็วหรือแก่ก่อนวัยหรือเปล่า แนะนำให้สังเกตสัญญาณทั้ง 6 ข้อนี้กันดูค่ะ หากตรงกับข้อไหน แนะนำให้รีบเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ แล้วหันมาดูแลสุขภาพตัวเองอีกครั้งค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


คำแสลงภาษาอังกฤษที่ชาวโซเชี่ยลใช้ในทุก ๆ วัน

ถ้าคุณเบื่อกับคำศัพท์ที่เรียนในหนังสือ ลองหันมาให้คำแสลงวันรุ่นภาษาอังกฤษบ้างก็ได้ อย่างการพิมพ์ตอบแชทกับเพื่อน หรือตั้งแคปชั่นสั้น ๆ ในโซเชียลมีเดียใหเดูน่าสนใจก็ได้นะ เพราะนอกจากจะได้ความรู้ใหม่แล้ว ก็ยังทำให้คุณเรียนภาษาอังกฤษสนุกขึ้นด้วย

อัปเดตคำแสลง ศัพท์วัยรุ่นภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยทั้งในชีวิตจริง และโลกโซเชียล

พักสมองมาลองเรียนรู้คำแสลงภาษาอังกฤษที่วัยรุ่นอเมริกันชอบใช้กันดูบ้าง คำแสลง (Slang) เป็นคำศัพท์วัยรุ่นภาษาอังกฤษที่พูดกันแบบไม่เป็นทางการ เอาไว้พูดกับเพื่อน คนที่สนิท รวมถึงการตั้งแคปชั่นชิค ๆ ให้ดูน่าสนใจ โดยเฉพาะ TikTok โซเชียลมีเดียสุดฮอตที่มักจะปล่อยศัพท์ Slang ใหม่ ๆ ออกมาอยู่เรื่อย มาดูกันว่ามีคำไหนน่าสนใจบ้าง

1. It’s giving. แปลว่า เยี่ยมไปเล้ยย (คำชม)
Someone gave me a like. That’s my giving.

2. BDE ย่อมาจาก Big Dick Energy แปลว่า มั่นหน้า มั่นโหนก

I feel that have BDE when I got accepted to be a main character in a play.

3. Beta แปลว่า ผู้ชายที่ไม่ค่อยมีความมั่นใจ ประหม่า
He is trying to take his ex-girlfriend back after she cheated on him so he is beta.

4. Era แปลว่า ช่วงนี้กำลังอินกับ…
Tom has been eating ramen for 4 weeks. He is in ramen era.

5. Iykyk เป็นตัวย่อของ If you know you know. And now you know.
แปลว่า ถ้าคุณรู้ว่าคืออะไร ก็เป็นไปตามนั้นนั่นแหละ

6. Slay แปลว่า เจ๋ง, ยอดเยี่ยม, สุดยอดไปเลย มีความหมายเดียวกันกับ amazing, cool, great
Every eyes at the ball look at her amazing dress. She slayed it last night.

7. Fell off แปลว่า ตกกระป๋อง, ไม่โด่งดัง
A celeb disappeared from the media for the whole year. She fell off.

8. Gatekeep แปลว่า ไม่บอกหรอก
ใช้เวลาที่มีคนทักว่า เสื้อสวยจัง ซื้อที่ไหนหรอ? แต่คุณไม่อยากบอก ก็ตอบกลับไปว่า “Cool kid don’t gatekeep.

9. Situationship แปลว่า ความสัมพันธ์ที่เป็นมากกว่าเพื่อน แต่ไม่ใช่แฟน
We are stuck in a situationship for 9 months since we never made a commitment to be in a relationship.

10. Bad take แปลว่า เข้าใจผิด
She thought my puppy was dead but he was still alive. What a bad take!

11. Fit แปลว่า เสื้อผ้า
I packed all of my winter fits for a trip to Alaska.

12. CEO (of Something) แปลว่า มีความถนัดเป็นพิเศษ
Jane is a daugher of a top ranked tennis player, so she must be a CEO of playing tennis.

13. Bones Day or No Bones Day แปลว่า วันที่สดใส เบิกบาน, วันที่มีแรงทำงาน หรือทำกิจกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ‍
Noodle said it was a no bones day, so I’m not doing anything today.

14. BFFR ย่อจากคำว่า Be F*cking For Real แปลว่า ทำให้จริงจัง หรือชัดเจน
You think I want anything to do with your man? BFFR.

15. Private not secret แปลว่า เปิดเผยแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ
ใช้กับคนที่ชอบโพสอะไรบางอย่างที่อยากอวดลงโซเชียลมีเดีย แต่เซ็นเซอร์ชื่อ หรือหน้าที่สามารถระบุตัวตน หรือสถานที่ไม่ให้ใครรู้

16. Cap แปลว่า โกหก
No cap, I was able to get tickets to Taylor Swift’s tour.

17. Sleep on แปลว่า เมิน, ไม่สนใจ
To sleep on something.

18.Main character แปลว่า เห็นแก่ตัว, เอาผลประโยชน์เข้าตัว, เอาแต่ใจ
She was acting like she was the main character.

19. Dop แปลว่า เพลงเพราะ, ทำนองไพเราะ, เพลงคุณภาพเยี่ยม
bop is a term for a great song.

20. Spilling the tea แปลว่า นินทา, พูดลับหลัง, เม้าเรื่องชาวบ้าน
I shouldn’t spill the tea, but have you heard that Ben and your sister are dating?

21.Vibe check แปลว่า มีเซนส์ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไร, คาดเดาได้ว่าอีกฝ่ายคิดจะทำอะไร
I have a vibe check that he is cheating on me.

22. Rent free แปลว่า ติดอยู่ในหัว, ตราตรึงใจ, ภาพจำ (ในแง่ดี)
Taylor Swift’s new records have been living rent free in my head all day.

23. Rizz แปลว่า มีเสน่ห์
Ken is rizz so that’s the reason Barbie is in love with him.

24. Lit แปลว่า สุดยอดไปเลย
Last night was lit.

25. Ghost แปลว่า ขาดการติดต่อแบบไม่บอกก่อนล่วงหน้า
Nick is ghosting once he found out that his girlfriend was dating other guy.

ขอบคุณข้อมูลจาก wallstreetenglish.in.th


สุดล้ำ! โซนี่ เตรียมวางขาย REON POCKET 5 เครื่องปรับอากาศพกพา 17 พ.ค.นี้

โซนี่ไทย อวดโฉม REON POCKET 5 อุปกรณ์ทำความเย็นและอุ่นแบบพกพารุ่นล่าสุด มาพร้อมฟังก์ชั่นการทำความเย็นขั้นสูง และใช้งานได้นานขึ้นพร้อมวางจำหน่าย 17 พฤษภาคม ศกนี้

บริษัท โซนี่ไทย จำกัด  เปิดตัว REON POCKET 5 (RNPK-5T) อุปกรณ์ปรับอากาศพกพารุ่นล่าสุด เพียงคล้องไว้ตรงบริเวณด้านหลังคอ จะช่วยระบายความร้อนปรับอุณหภูมิ ให้ความเย็น หรือความอุ่นให้กับร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณที่สัมผัสกับร่างกาย

สำหรับ REON POCKET 5 เป็นอุปกรณ์ทำความเย็นและอุ่นแบบพกพาของโซนี่ ที่หลายคนรอคอย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากที่ REON POCKET 4 ที่ได้วางจำหน่ายญี่ปุ่น และฮ่องกงก่อนหน้านี้ ได้รับการตอบรับอย่างดียิ่ง โดยสามารถทำยอดขายได้ถึง 10,000 เครื่องภายใน 3 วันหลังจากเปิดตัวในญี่ปุ่น และจำหน่ายหมดภายใน 3 เดือน เช่นเดียวกันกับในฮ่องกงที่ได้รับการตอบรับอย่างดีไม่แพ้กัน

เพิ่มประสิทธิภาพระบายความร้อน และอายุแบตนานขึ้น

ด้วยโครงสร้างภายในของโมดูลระบายความร้อนใน REON POCKET 5 ที่ได้รับการออกแบบใหม่ให้มี  เทอร์โมโมดูลที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และพัดลมกระจายความร้อนที่ได้รับรับการปรับปรุงโครงสร้างใหม่ จึงเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความเย็น ให้การไหลเวียนของอากาศที่ดีขึ้น ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำความเย็นสูงขึ้นถึง 1.5 เท่า เมื่อเทียบกับรุ่นทั่วไป ทั้งยังสามารถปรับระดับความเย็นได้ถึง 5 ระดับ และใช้งานได้นานขึ้นถึง 1.8 เท่า หรือนานประมาณ 7.5 ชั่วโมง เมื่อปรับความเย็นที่ระดับ 4 นอกจากนี้ REON POCKET 5 ยังทำงานได้เงียบขึ้น โดยลดเสียงรบกวนจากการทำงานได้ถึงหนึ่งในห้า ทำให้สะดวกในการใช้งานแม้ในสถานที่ที่ต้องการความเงียบสงบ

เพิ่มประสิทธิภาพควบคุมอุณหภูมิ

ด้วยฟังก์ชัน SMART COOL ⇔ WARM MODE ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ใน REON POCKET 5 จะช่วยปรับอุณหภูมิโดยรอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถสลับระหว่างโหมดเย็น และอุ่นได้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีการตรวจจับความเย็นของ REON POCKET TAG ที่ได้รับการติดตั้งซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นล่าสุด ซึ่งจะช่วยในการตรวจจับแสงแดดโดยตรง6 จึงสามารถปรับอุณหภูมิให้เหมาะกับสภาพแวดล้อม และปรับความเย็นให้เหมาะสมได้อย่างรวดเร็วถึง 33% เมื่อเทียบกับซอฟต์แวร์รุ่นก่อน ในขณะที่เซ็นเซอร์ 8 ตัวที่อยู่ใน REON POCKET 5 และ REON POCKET TAG ยังให้การควบคุมอุณหภูมิที่แม่นยำที่สุด และสามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 10 ชั่วโมง เมื่อใช้ฟังก์ชั่น SMART COOL⇔WARM MODE อีกด้วย

เหมาะสำหรับการแต่งกายทั้งชุดทำงาน และชุดลำลอง

REON POCKET 5 มาพร้อมฝาครอบช่องระบายอากาศสองช่องที่สามารถใช้งานให้เข้ากับทั้งชุดทำงาน และชุดลำลองได้เป็นอย่างดี โดยความร้อนจะระบายออกไปทางด้านหลังทำให้คุณรู้สึกเย็นสบาย เมื่อสวมใส่คู่กับชุดทำงาน จะสามารถขยายไปจนถึงความสูงของปกเสื้อ แนบเข้ากับคอ และแผ่นหลัง พร้อมช่วยระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่อีกช่องหนึ่งจะสั้นกว่า เมื่อสวมใส่คู่กับชุดลำลองจะสามารถสวมใส่กับปกเสื้อทรงต่ำได้เป็นอย่างดี ทั้งยังช่วยระบายความร้อนจากด้านหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน

อุปกรณ์เสริม

นอกจากนี้ยังมาพร้อมเคสที่มีขนาดกะทัดรัดและได้รับการออกแบบมาให้พอดีกับอุปกรณ์ REON POCKET 5 โดยตัวเคสมีน้ำหนักเบาแต่ให้การกันกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม เพื่อปกป้องอุปกรณ์เสริมจากแรงกระแทกภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงสามารถใช้จัดเก็บอุปกรณ์ต่อพ่วงโดยแนบฝาครอบช่องระบายอากาศได้ อาทิ REON POCKET TAG, สาย USB และฝาครอบช่องระบายอากาศก็สามารถเก็บไว้ในกระเป๋าได้เช่นกัน

กำหนดการวางจำหน่าย 

โซนี่ไทยพร้อมเปิดขาย  REON POCKET 5 ได้ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. 67 ในราคาพิเศษเครื่องละ 5,499 บาท (ปกติ 5,999 บาท) สำหรับลูกค้า My Sony ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. 67 – 16 มิ.ย. 67  โดยจะวางจำหน่ายที่โชว์รูมโซนี่สโตร์  รวมถึงช่องทางออนไลน์ของโซนี่ 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


10 ประโยชน์ของ “ฟักทอง” ลดน้ำหนัก-เบาหวาน-มะเร็ง

เทรนด์อาหารคลีนยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่องข้ามปี และน่าจะยังอยู่กับหนุ่มสาวชาวไทยไปอีกนาน ใครที่ซื้ออาหารคลีนทาน หรือว่าทำอาหารคลีนทานเอง น่าจะเคยเห็นวัตถุดิบอันเลอค่านี้อยู่บ่อยๆ นั่นก็คือ “ฟักทอง” นั่นเอง ทำไมอาหารคลีนส่วนใหญ่ถึงต้องมีฟักทอง แล้วฟักทองมีประโยชน์ต่อร่างกายของเราอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ

10 ประโยชน์ของฟักทอง

  1. ฟักทอง เป็นหนึ่งในผักที่มีสีเหลืองออกส้ม ที่ช่วยบำรุง และรักษาสายตา
  2. มีสารต้านอนุมูลอิสระ ทีช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง
  3. บำรุงผิวพรรณให้เต่งตึง ชุ่มชื่น ชะลอรอยเหี่ยวย่น
  4. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
  5. ลดระดับน้ำตาลในเลือด ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันโรคเบาหวาน
  6. ไขมันน้อย น้ำตาลน้อย กากใยอาหารสูง พลังงานต่ำ จึงเป็นอาหารที่เหมาะกับคนที่กำลังลดน้ำหนัก
  7. ป้องกันโรคหลอดเลือด และหัวใจ
  8. ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานอย่างเป็นปกติ จากกากใยอาหารที่มีอยู่สูง
  9. ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย
  10. ป้องกันการเกิดโรคนิ่ว

วิธีทานฟักทองให้ได้ประโยชน์มากที่สุด

ฟักทองไม่ได้มีดีแค่เนื้อฟักทองสีเหลืองทองนะคะ เมล็ดฟักทองเองก็ช่วยคลายเครียดได้ดี น้ำมันฟักทองก็ช่วยบำรุงประสาท หรือแม้แต่เปลืองของฟักทองยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลืดให้อยู่ในระดับปกติอีกด้วย ดังนั้นลองทานฟักทองจากหลายๆ ส่วนดู และหากจะหั่นเนื้อฟักทองมาประกอบอาหาร อาจจะเหลือเปลือกบางๆ เอาไว้ทานกรุบๆ บ้างก็ได้

นอกจากนี้ ใครที่อยากทานฟักทองเพื่อลดความอ้วน ลดระดับน้ำตาลในเลือด ก็อย่าเผลอทานฟักทองแกงบวด ฟักทองสังขยาล่ะ เพราะเป็นขนมที่มีน้ำตาลสูง แนะนำให้ต้ม หรือนึ่งทาน ปั่นทานกับผักผลไม้อื่นๆ หรือทำซุปฟักทอง ฟักทองผัดไข่ทานเป็นอาหารคาวน่าจะดีกว่าค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 15/05/2567

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a40,700.0040,800.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,636.0039,961.7641,300.00
ทองรูปพรรณ 90%2,372.4035,965.58n/a
ทองรูปพรรณ 80%2,108.8031,969.41n/a
ทองรูปพรรณ 50%1,186.0017,979.76n/a
ทองรูปพรรณ 40%923.0013,992.68n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,732.0041,417.12n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 15/05/2567


ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9538.9538.9539.7538.9538.9538.9538.9538.9538.9538.95
แก๊สโซฮอล์ 9138.3838.3839.1838.3838.3838.3838.3838.3838.3838.38
แก๊สโซฮอล์ E2036.8436.8437.6436.8436.8436.8436.8436.8436.84
แก๊สโซฮอล์ E8536.5936.5936.59
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม47.1449.8449.9449.8447.14
เบนซิน 9546.8448.0147.3446.9946.84
ดีเซล31.4431.4431.7431.4431.4431.4431.4431.4431.4431.44
ดีเซลหมุนเร็ว31.4431.4431.44
ดีเซลพรีเมี่ยม43.4445.6446.9445.6445.6443.44
แก๊ส NGV19.5919.5919.59
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า