สาระน่ารู้ประจำวันที่ 16 พฤษภาคม 2567

คอนโดกทม.เปิดตัวต่ำสุดรอบ15 ปียอดปฎิเสธสินเชื่อพุ่งอสังหาฯ ขอแตะเบรก!

ครั้งแรก!คอนโดกทม.เปิดตัวต่ำสุดในรอบ15 ปี หลังยอดปฎิเสธสินเชื่อพุ่ง ค่ายอสังหาฯ ขอแตะเบรกชะลอการลงทุนคอนโดในกรุงเทพฯหันไปลุยเมืองท่องเที่ยวที่มีดีมานด์ต่างชาติรองรับ

แม้สถานการณ์เวลานี้จะผ่านจุดต่ำสุดวิกฤติโควิด-19 แต่เศรษฐกิจไทยยังโตช้ากว่าที่ควรจะเป็น!  ผลสำรวจของ คอลลิเออร์ส พบว่า ในไตรมาสแรกที่ผ่านมา  คอนโดมิเนียมในพื้นที่กรุงเทพฯ เปิดตัวต่ำสุดในรอบ 15 ปี มีจำนวนแค่ 3,288 ยูนิตเท่านั้น! สะท้อนว่าดีเวลลอปเปอร์ต่างเหยียบเบรกชะลอการลงทุน หันไปลุยเมืองท่องเที่ยวที่มีดีมานด์

ภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส ประเทศไทย กล่าวว่า  ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯไตรมาสแรกที่ผ่านมาค่อนข้างซบเซา โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมใหม่เปิดตัวเพียง 3,288 ยูนิต เรียกได้ว่า มีซัพพลายน้อยสุดในรอบ 15 ปี! ซึ่งเป็นผลมาจากช่วงปี 2566 มีการชะลอตัวช่วงไตรมาส 3 หลังจากนั้นดีเวลลอปเปอร์พยายามที่จะปล่อยซัพพลายใหม่ออกมาช่วงไตรมาส 4 แต่สุดท้ายจำนวนซัพพลายที่ออกมา 31,000 ยูนิต ยังต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะมีซัพพลายใหม่จำนวน 40,000 ยูนิต

ถัดมาในไตรมาส 1 ปี 2567 บรรยากาศตลาดยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น และ “ไม่มี” มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์จากภาครัฐ  มีแต่ปัจจัยลบที่รุมเร้าทั้งปัญหาหนี้ครัวเรือน ดอกเบี้ย ส่งผลกระทบต่อ “ต้นทุน” ของผู้ประกอบการและ “คนซื้อ”

“ที่สำคัญอัตราการปฏิเสธสินเชื่อ (Reject Rate) พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะเซ็กเมนต์ราคาต่อยูนิตต่ำกว่า 3 ล้านบาท ตัวเลขปฏิเสธสินเชื่อสูง 60-70%  ปัจจัยลบดังกล่าวดีเวลลอปเปอร์มองว่า ดีมานด์ในตลาดกรุงเทพฯ ไม่แข็งแรงพอที่จะดูดซับซัพพลายคอนโดมิเนียมใหม่ได้ ”

ดังนั้นไตรมาสแรกปีนี้แทบทุกดีเวลลอปเปอร์เข้าสู่โหมดคอนเซอร์เวทีฟรอดูท่าทีของตลาดก่อนเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ ซัพพลายที่ออกสู่ตลาด 3,288 ยูนิต ถือเป็นการเปิดตัวใหม่ต่ำเป็นประวัติการณ์

ขณะเดียวกัน เหตุผลที่ทำให้อุปทานใหม่ลดลง เนื่องจากดีเวลลอปเปอร์หันไปทำตลาดบ้านแนวราบราคาแพงมากขึ้น แต่ก็ต้องเผชิญปัญหาการแข่งขันสูงและยอดขายอืด! เพราะดีมานด์ลูกค้ากลุ่มนี้ถูกดูดซับมา 2-3 ปีแล้ว

จากแนวโน้มดังกล่าวทำให้ดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่หันไปลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญอย่าง ภูเก็ต พัทยา หัวหิน ที่มีกำลังซื้อจากต่างชาติเข้ามารองรับจากแรงหนุนปัญหาขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายพื้นที่ทำให้ชาวต่างชาติมองหาบ้านหลังที่สองและไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตาม แม้ล่าสุดกระทรวงการคลังออกจะออก 5 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ อาทิ ลดค่าโอน ค่าจดจำนอง เหลือ 0.01% ซึ่งขยายสิทธิให้ราคาบ้านไม่เกิน 7 ล้านบาท และให้สิทธิลดหย่อนภาษีคนสร้างบ้านสูงสุด 1 แสนบาท ช่วยกระตุ้นดีมานด์ ทว่าในระยะสั้นอาจยังไม่เห็นผลชัดเจนมากนัก ในครึ่งปีแรกฝั่งดีเวลลอปเปอร์จึงเข้าสู่โหมดการ “ชะลอ” การเปิดตัวโครงการใหม่ขยับไปเปิดในครึ่งปีหลังแทน

“ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมไม่สดใส แต่ในเซ็กเมนต์ตลาดบนยังคงไปต่อได้ เพราะเป็นตลาดที่กำลังซื้อแข็งแกร่งและขายดี สังเกตได้จากบางโครงการในฝั่งเจริญกรุงที่มีโรงเรียนนานาชาติ อย่าง โครงการคิงสแควร์ ย่านพระราม 3 ใกล้กับโรงเรียนนานาชาติ คิงส์ คอลเลจ หลังเปิดตัวสามารถปิดการขายได้เร็วมาก”

ภัทรชัย มองว่า แนวโน้มอุปทานในปี 2567 จะปรับตัวดีขึ้นการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งปี 25,000-30,000 ยูนิต ใกล้เคียงปี 2566 ซึ่งตลาดที่น่าสนใจ คือ คอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อทั้งคนไทยและต่างชาติในทำเลศักยภาพใจกลางเมืองย่านอโศก สุขุมวิท ชิดลม และเพลินจิต ถือเป็นทำเลทองของกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจ (CBD) สำคัญของเมือง รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก

“คอนโดมิเนียมโดยเฉพาะยูนิตขนาดใหญ่ ที่เป็นดูเพล็กซ์ หรือเพนต์เฮ้าส์ ราคาราว 3 แสนบาทต่อตร.ม.ได้รับความนิยมมากที่สุด และมักจะเป็นยูนิตแรกขายหมดไปหลายโครงการ เพราะเป็นกลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัย (Real Demand) ที่มีความพร้อมในการซื้อ”

สำหรับอุปทานคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในกรุงเทพฯ ไตรมาสแรกปีนี้ หากแยกตามทำเล พบว่าผู้ประกอบการเลือกที่จะเปิดขายในทำเลใจกลางย่านธุรกิจ คิดเป็นสัดส่วน 49% รองลงมาเป็นพื้นที่โซนเหนือของกรุงเทพฯ 27%  ถัดมาเป็นพื้นที่เมืองชั้นนอกฝั่งตะวันตก 11%  ตามมาด้วยพื้นที่เมืองชั้นนอกฝั่งตะวันออก 10% และโซนตะวันออก 3%

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


เฮเฟเล่ เร่งขยายพอร์ตลูกค้าโปรเจกต์ รับเม็ดเงินลงทุนภาครัฐและเอกชน

เฮเฟเล่ สบช่องภาครัฐและเอกชนทยอยลงทุนก่อสร้างเร่งขยายพอร์ตลูกค้าโปรเจกต์รับเม็ดเงินลงทุนหนุนยอดขายทะลุ 5,000 ล้านนำร่องขยายไลน์สินค้ารับ 3 เทรนด์การอยู่อาศัยพร้อมอัดแคมเปญฉลองครบรอบ 3 ทศวรรษ

นายจอห์น แคลร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มการลงทุนก่อสร้างในประเทศไทยช่วงปี 2567-2569 คาดว่าจะขยายตัว 3-4% ต่อปี จากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะภาคเอกชนที่มีแนวโน้มทยอยฟื้นตัวจากการลงทุนก่อสร้างที่อยู่อาศัยและอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ คาดว่าจะขยายตัวราว 3-3.5% 

 จากปัจจัยสนับสนุนดังกล่าว บริษัทจึงมองเห็นโอกาสในการเติบโตในปี 2567 โดยมีจุดมุ่งหมายในการนำผลิตภัณฑ์อยู่ในทุกห้องของการอยู่อาศัย ผ่านการสร้างสินค้าและบริการที่ดี ตรงกับความต้องการจริงของลูกค้าเพื่อเติมเต็มพื้นที่การใช้ชีวิต สอดรับกับเทรนด์การอยู่อาศัย 3 เทรนด์ได้แก่ การอยู่อาศัยแบบยั่งยืน, Smart Home and Technology, Multifunction space

สำหรับแผนในปี 2567 บริษัทวางกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ โดยรักษาระดับการเติบโตของยอดขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักจาก Furniture Fitting และ Architectural Hardware ตั้งเป้าเติบโตราว 5% และกลุ่มที่จะสร้างยอดขายโดดเด่นในปีนี้คือผลิตภัณฑ์จากกลุ่ม Digital Locks , อุปกรณ์ในห้องน้ำ และเครื่องใช้บ้านและครัวเรือน ตั้งเป้าเติบโต 14% ส่งผลให้ยอดขายปีนี้บริษัทวางเป้าหมายทั้งปีอยู่ที่ระดับ 5,000 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นราว 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยพุ่งเป้าลูกค้าในกลุ่มโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่ และเน้นการทำตลาดในช่องทางค้าปลีกให้ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ 

อีกทั้งยังมุ่งมั่นพัฒนาเข้าสู่ช่องทางการขายออนไลน์มากขึ้นตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปจากการเก็บข้อมูลลูกค้าเชิงลึกลูกค้าของบริษัท ทั้งนี้ก้าวต่อไปของเฮเฟเล่ บริษัทพร้อมขับเคลื่อนด้าน ESG เพื่อสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจ  ด้วยการคำนึงการใช้วัสดุที่แข็งแรง ทนทาน สามารถใช้งานได้ยาวนาน ลดปริมาณของเสียจากการผลิต และเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น โดยการเริ่มต้นจากองค์กรขยายสู่การทำงานร่วมกับคู่ค้าที่มีแนวคิดด้าน ESG เหมือนกัน รวมถึงการพัฒนาบุคคลากรให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงไปของธุรกิจที่เกิดการแข่งขันในระดับสูง เพื่อสร้างโอกาสใหม่ในการเติบโตทางธุรกิจในอนาคตอย่างยั่งยืนจากทรัพยากรบุคคล

ส่วนการดำเนินงานในช่วงระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ดำเนินธุรกิจอย่างมุ่งมั่นเพื่อสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากจุดเริ่มต้นสินค้า Furniture Fitting และ Architectural Hardware เพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่ ส่งผลให้บริษัทก้าวสู่ผู้นำ ‘เฟอร์นิเจอร์ฟิตติ้ง และArchitectural Hardwareของเมืองไทยในช่วงทศวรรษแรก สามารถสร้างยอดขายสูงถึงระดับ 500 ล้านบาท พร้อมกับการขยายสินค้าในกลุ่มสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ห้องน้ำ เพื่อขยายการเติบโตแก่บริษัทในช่วงทศวรรษถัดไป 

ในช่วงทศวรรษที่ 2 บริษัทประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในด้านยอดขาย สร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 500% ยอดขายอยู่ที่ระดับ 3,000 ล้านบาท เกิดจากการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย เพิ่มลูกค้ากลุ่มโครงการขนาดใหญ่ และการเพิ่มสินค้าในหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ ระบบไฟส่องสว่าง และ Smart Technology รวมถึงการสร้างโชว์รูมในหัวเมืองที่มีศักยภาพ และศูนย์กระจายสินค้าเฮเฟเล่แบบครบวงจร บางนาตราด กม.22 เพื่อเสริมศักยภาพ ตอกย้ำความแข็งแกร่งของเฮเฟเล่ในประเทศไทย

สำหรับช่วงทศวรรษที่ 3 บริษัทสามารถสร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าโครงการขนาดกลางและขนาดใหญ่ที่ไว้วางใจในเฮเฟเล่ พร้อมทั้งตอกย้ำการพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการมาอย่างยาวนานทั่วโลกเนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปีของบริษัท HÄFELE และครบรอบ 30 ปีในการดำเนินงานของบริษัท เฮเฟเล่ ประเทศไทย 

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 16 พ.ค. “แข็งค่าขึ้นมาก” ที่ระดับ 36.29 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นพอสมควร ผู้นำเข้าอาจทยอยเข้าซื้อเงินดอลลาร์เพิ่มเติม ขณะที่โฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผลยังมีอยู่บ้างอาจพอช่วยชะลอการแข็งค่าของเงินบาทได้ จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 16 พ.ค. 2567  ที่ระดับ  36.29 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นมาก” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  36.55 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน  พานิชพิบูลย์   นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน  ธนาคารกรุงไทยระบุว่า  แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า การแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องของเงินบาทในช่วงคืนที่ผ่านมา อาจทำให้ เงินบาทเริ่มแกว่งตัว sideways แถวโซน 36.20-36.30 บาทต่อดอลลาร์ได้ (การแข็งค่าของเงินบาทก็เป็นไปตามที่เราประเมินไว้ หลังเงินบาทแข็งค่าหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน)

นอกจากนี้ เรามองว่า บรรดาผู้นำเข้าก็อาจทยอยเข้าซื้อเงินดอลลาร์เพิ่มเติม หลังเงินบาทได้แข็งค่าขึ้นพอสมควรในช่วงนี้ อีกทั้งโฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนต่างชาติก็ยังมีอยู่บ้าง ซึ่งอาจพอช่วยชะลอการแข็งค่าของเงินบาทได้ จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม

ทั้งนี้ หากเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องก็อาจยังติดโซนแนวรับหลักถัดไปแถว 36.00 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ หากเงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงบ้าง เราคาดว่า บรรดาผู้ส่งออกอาจกลับมาทยอยขายเงินดอลลาร์เพิ่มเติม หรือ ผู้เล่นในตลาดที่มีสถานะ Short THB (มองเงินบาทอ่อนค่า) ก็อาจต้องมีการปรับสถานะกันบ้าง ทำให้ เงินบาทก็อาจยังไม่สามารถอ่อนค่าทะลุโซน 36.50 บาทต่อดอลลาร์ ที่กลายมาเป็นโซนแนวต้านสำคัญในช่วงนี้ไปได้ (แนวต้านแรกระยะสั้นจะอยู่แถว 36.35 บาทต่อดอลลาร์)

เราคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทยังคงเคลื่อนไหวผันผวนสูง ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงไปมาของปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อทิศทางค่าเงินบาท ทำให้ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.10-36.35 บาท/ดอลลาร์

โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง (แกว่งตัวในช่วง 36.26-36.59 บาทต่อดอลลาร์) โดยเงินบาททยอยแข็งค่าขึ้น ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ และการปรับตัวลดลงของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ หลังรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ในเดือนเมษายน ชะลอลงตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้

อีกทั้ง ยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนเมษายน ก็ออกมาทรงตัว แย่กว่าที่ตลาดประเมินไว้ว่าจะขยายตัวกว่า +0.4%m/m ทำให้ผู้เล่นในตลาดคลายกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดมากขึ้น และปรับเพิ่มโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ยราว 2 ครั้งในปีนี้ นอกจากนี้ เงินบาทยังได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของราคาทองคำกว่า +30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างทยอยขายทำกำไรทองคำและโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนช่วยให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงคืนที่ผ่านมา

บรรดาผู้เล่นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เดินเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น หลังรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ที่ชะลอลงตามคาด กอปรกับยอดค้าปลีกที่ออกมาแย่กว่าคาด ทำให้ ผู้เล่นในตลาดยังคงมีความหวังต่อการลดดอกเบี้ยราว 2 ครั้งของเฟดในปีนี้ ซึ่งภาพดังกล่าวได้หนุนให้ บรรดาหุ้นเทคฯ ใหญ่ รวมถึงหุ้นสไตล์ Growth ต่างปรับตัวขึ้น นำโดย Nvidia +3.6%, Meta +2.1% หนุนให้โดยรวมดัชนี S&P500 ปิดตลาด +1.17% ทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์

ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง +0.59% หนุนโดยรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ที่ออกมาดีกว่าคาด ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจยูโรโซนก็สามารถขยายตัวได้ราว +0.4%y/y (+0.3%q/q) ตามที่ตลาดคาดในไตรมาสแรกของปีนี้

ช่วยคลายความกังวลความเสี่ยงการเกิด Technical Recession หลังเศรษฐกิจหดตัวในไตรมาสที่สี่ของปีก่อนหน้า นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของบรรดาหุ้นเทคฯ และหุ้นสไตล์ Growth หลังตลาดคลายกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด

ในฝั่งตลาดบอนด์ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง สู่ระดับ 4.34% หลังอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ชะลอตัวลงตามคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดยังคงเชื่อว่า เฟดมีโอกาสทยอยลดดอกเบี้ยในปีนี้ได้ราว 2 ครั้ง อย่างไรก็ดี เรามองว่า ในระยะสั้น บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อาจแกว่งตัวในกรอบ sideways ไปก่อน

เนื่องจากผู้เล่นในตลาดอาจรอจับตาการส่งสัญญาณของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด และรอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอื่นๆ อาทิ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการ รวมถึงข้อมูลตลาดแรงงาน ซึ่งหากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ พลิกกลับมาดีกว่าคาด ก็อาจกดดันให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ผันผวนสูงขึ้นได้ โดยเราคงแนะนำให้ผู้เล่นในตลาดเน้นรอจังหวะ Buy on Dip ในช่วงที่บอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้น

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์ทยอยอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับบรรดาสกุลเงินหลัก หลังผู้เล่นในตลาดคลายกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดและคงคาดการณ์ว่าเฟดยังมีโอกาสลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้งในปีนี้ จากรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ที่ชะลอลงตามคาด ส่วนยอดค้าปลีกล่าสุดก็ออกมาแย่กว่าคาดพอสมควร

อีกทั้ง ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็กลับมาเปิดรับความเสี่ยง ลดความน่าสนใจในการถือครองเงินดอลลาร์ ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 104.2 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 104.2-104.9 จุด)

ในส่วนของราคาทองคำ การปรับตัวลดลงของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ได้หนุนให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย.) ปรับตัวขึ้นสู่โซน 2,390 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนทยอยขายทำกำไรการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำบ้าง และโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนช่วยให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงคืนที่ผ่านมา

 สำหรับวันนี้ แม้ว่ารายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอาจมีไม่มากนัก ทว่า ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตา ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด หลังตลาดได้รับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI และยอดค้าปลีกล่าสุด ไปแล้ว ทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างรอลุ้นว่า บรรดาเจ้าหน้าที่เฟดจะมีการปรับเปลี่ยนโทนการสื่อสารให้มีความ Hawkish น้อยลงมาหรือไม่ หรือยังคงย้ำจุดยืนไม่รีบลดดอกเบี้ยตามเดิม

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 36.23-36.25 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.47 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 36.54 บาทต่อดอลลาร์ฯ

ทั้งนี้ เงินบาทและสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย แข็งค่าขึ้นท่ามกลาง sentiment ที่อ่อนแอของเงินดอลลาร์ฯ และการปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาด โดยเฉพาะดัชนีราคาผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น 0.3% MoM (ตลาดคาดที่ 0.4% MoM) และตัวเลขยอดค้าปลีกเดือนเม.ย. ที่ทรงตัวจากเดือนก่อน (ตลาดคาด +0.4% MoM) ซึ่งทำให้ตลาดกลับมาเพิ่มน้ำหนักความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในการประชุมเดือนก.ย. นอกจากนี้ เงินบาทยังมีแรงหนุนจากการปรับขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลกด้วยเช่นกัน 

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 36.20-36.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลก สัญญาณฟันด์โฟลว์ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาเฟดฟิลาเดลเฟียเดือนพ.ค. รวมถึงข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


“เมย์ รัชนก” ประเดิมสวยทะลุรอบสองแบดมินตันไทยแลนด์ โอเพ่น

การแข่งขันแบดมินตันรายการใหญ่ในเมืองไทยในศึก  “โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น 2024”  รายการระดับบีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 500 ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเงินรางวัลรวม 420,000 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 14,700,000 บาท ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ เมื่อวันพุธที่ 15 พ.ค.67 เป็นการแข่งขันในรอบเมนดรอว์รอบแรก 

ประเภทหญิงเดี่ยว รอบแรก “เมย์” รัชนก อินทนนท์ มือวางอันดับ 4 ของรายการ มืออันดับ 12 ของโลก พบกับ คิช่า ฟาติมา อัซซาห์รา มืออันดับ 72 ของโลกจากอาเซอร์ไบจาน  เกมนี้ เมย์ รัชนก เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมเอาชนะไปแบบขาดลอย 2-0 เกม 21-11 และ 21-7 “เมย์” รัชนก  ผ่านเข้ารอบสองไปพบผู้ชนะระหว่าง เกา ฟังเจี๋ย มืออันดับ 34 ของโลกจากจีน หรือ อิหมัด ฟารูชี่ ซามิย่า มืออันดับ 66 ของโลกจากอินเดีย 

เมย์ รัชนก กล่าวหลังจบเกมนี้ว่า “วันนี้เล่นได้ตามฟอร์มของตัวเอง แม้จะมีผิดพลาดบ้างแต่รวมๆแล้วก็คว้าชัยชนะมาได้ ส่วนสภาพร่างกายเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้เน้นเรื่องสรีระของตัวเองมากขึ้น เพราะช่วงที่บาดเจ็บไปนั้นรูปร่างเราเปลี่ยนไปพอสมควร ต้องปรับให้เฟิร์มขึ้นมาก ในรอบต่อไปถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดน่าจะเจอกับ เกา ฟังเจี๋ย ซึ่งปีที่แล้วก็แพ้เขามาในรอบแรก แต่คราวนี้เราจะเล่นให้อยู่กับเนื้อตัวให้มากที่สุด “

ประเภทคู่ผสม รอบแรก  “ต้นปี” เหนือดวง มังกรลอย กับ “แบม” อาทิตยา โปวานนท์ คู่มืออันดับ 116 ของโลก แพ้ ชุน ฮองเจียง กับ โก เพ่ยกี คู่มืออันดับ 51 ของโลกจากมาเลเซีย 0-2 เกม 10-21,15-21 

ประเภทชายคู่รอบแรก   “ปุ้น” ธนดล พันธ์พานิช กับ “อเล็กซ์” วชิรวิทย์ โสทน คู่มืออันดับ 94 ของโลก แพ้ให้กับ เซีย เหาหนาน กับ เจิ้ง เหว่ยหาน คู่มืออันดับ 69 ของโลกจากจีน 0-2 เกม 11-21,17-21  ,”ไอซ์” สิรวิชญ์ โสทน กับ “เปรม” ณัฐพัฒน์ ตฤณขจี คู่มืออันดับ 85 ของโลก แพ้ให้กับ คิม คีจุง กับ คิม ซารัง คู่มืออันดับ 106 ของโลกจากเกาหลีใต้ 0-2 เกม 18-21,15-21

ประเภทหญิงคู่ รอบแรก “รวงข้าว” ญาตาวีมินทร์ เกตุเกลี้ยง  กับ “เกรซ” พรรษอร พรรณเชษฐ์  คู่มืออันดับ 634 ของโลก เอาชนะ เชง ยู่เป่ย กับ ซุน หยูซิง คู่มืออันดับ 80 ของโลกจากไต้หวัน 2-0 เกม 21-15,21-11  “รวงข้าว” ญาตาวีมินทร์ กับ “เกรซ” พรรษอร ผ่านเข้าสู่รอบสองไปพบกับ ฟาเบียน่า ดาวี่พูจี กุซุมา กับ อเมเลีย คาฮาย่า ปราติวี่ คู่มือวางอันดับ 3 ของรายการ คู่มืออันดับ 18 ของโลกจากอินโดนีเซีย 

“มุก” อรณิชา จงสถาพรพันธุ์ กับ “แอนฟิล” สุกฤตา สุวะไชย คู่มืออันดับ 929 ของโลก  แพ้ให้กับ ลี ยูริม กับ ชิน เซืองชาน คู่มือวางอันดับ 6 ของรายการ คู่มืออันดับ 26 ของโลกจากเกาหลีใต้ 0-2 เกม 15-21,19-21  , “กวางตุ้ง” ฟุ้งฟ้า กอปรธรรมกิจ กับ “ส้มโอ” ปทิตา ศรีสวัสดิ์ คู่มืออันดับ 165 ของโลก แพ้ให้กับ แฟน คายาน กับ เหยา เมาหยิง คู่มืออันดับ 98 ของโลกจากฮ่องกง  1-2 เกม 21-11,4-21,8-21 

สำหรับผลการแข่งขันคู่อื่นๆที่น่าสนใจมีดังนี้ ประเภทคู่ผสม  แยป รอยคิง กับ วาเรลี่ เซียว คู่มืออันดับ 57 ของโลกจากมาเลเซีย ชนะ ลุย ชุนไว กับ ฟู ชิหยาน คู่มืออันดับ 219 ของโลกจากฮ่องกง 2-0 เกม 21-19,21-17  ,จาร์ฟา ฮิดายัดอูลาร์ กับ ไอซยาห์ ซัลซาบิลา ปุตรี ปรานาตา  คู่มืออันดับ 73 ของโลกจากอินโดนีเซีย ชนะ เจิง ฮิวหยาน กับ ฮุง กุ้ยชุน คู่มืออันดับ 556 ของโลกจากฮ่องกง 21-11,21-16  , กั๊ว ซินวา กับ เฉิน ฟังฮุ้ย คู่มือวางอันดับ 5 ของรายการจากจีน  ชนะ หยวน ชิงชอย กับ ลุย ล็อคล็อค คู่มืออันดับ 592 ของโลกจากฮ่องกง 22-20,21-15 

ประเภทชายเดี่ยว  หวัง ซื่อเว่ย มืออันดับ 23 ของโลกจากไต้หวัน ชนะ โลว เคียงยิว  มือวางอันดับ 7 มืออันดับ 13 ของโลกจากสิงคโปร์ 2-0 เกม 21-15,21-13  , อึ้ง กาลอง อังกุส มืออันดับ 27 ของโลกจากฮ่องกง ชนะ แอนเดอร์ส แอนทอนเซ่น มือวางอันดับ 1 ของรายการ  มืออันดับ 4 ของโลกจากเดนมาร์ก 2-1 เกม 18-21,21-14,15-21  , แมด คริสโตเฟอร์เซน  มืออันดับ 54 ของโลกจากเดนมาร์ก ชนะ  คีราน จอร์จ มืออันดับ 34 ของโลกจากอินเดีย 2-0 เกม 22-20,21-15 

ประเภทหญิงเดี่ยว อัชมิตา คาลิฮา มืออันดับ 51 ของโลกจากอินเดีย ชนะ เอสเธอร์ นูรูมี่ ตรี วาโดโย่ มืออันดับ 38 ของโลกจากอินโดนีเซีย 2-0 เกม 19-21,21-15,21-14  , เลียนเน่  ตัน มืออันดับ 49 ของโลกจากเบลเยียม ชนะ  อุนนาตี โฮดา มืออันดับ 59 ของโลกจากอินเดีย 2-1 เกม 14-21, 21-14, 21-9 , ซิม ยูจิน มืออันดับ 33 ของโลกจากเกาหลีใต้ ชนะ  จาง ยี่มาน มือวางอันดับ 5 ของรายการ มืออันดับ 15 ของโลกจากจีน 2-1 เกม 21-15,21-12  , หาน เยี่ย มือวางอันดับ 1 ของรายการ มืออันดับ 7 ของโลกจากจีน  ชนะ มัลวิกา บันโสด มืออันดับ 52 ของโลกจากอินเดีย 2-0 เกม 21-11, 21-10 ,โคมัง อายู คาย่า เดวี่ มืออันดับ 71 ของโลกจากอินโดนีเซีย ชนะ  โซโลมี่ ซาเมอร์ไบ เมต้า มืออันดับ 199 ของโลกจากฮ่องกง 2-1 เกม 21-17, 13-21, 21-11

ประเภทชายคู่ ซาวิตไซราท แรงกี้ เรดดี้ กับ ชีราท เชตตี้ คู่มือวางอันดับ 1 ของรายการ คู่มืออันดับ 3 ของโลกจากอินเดีย  ชนะ นูร์ โมฮัมมัด อัซรีย์น อายุบ กับ ตัน วีเคือง คู่มืออันดับ 71 ของโลกจากมาเลเซีย 2-0 เกม 21-13,21-13 , หมิง ฉีลู่ กับ ถัง ไค่เว่ย คู่มืออันดับ 80 ของโลกจากไต้หวัน ชนะ  ซาร์บา คายามาน กัวตามา กับ มูฮัมมัด เรซ่า พาเรวี่ อิสฟาฮาติ คู่มือวางอันดับ 8 ของรายการ คู่มืออันดับ 26 ของโลกจากอินโดนีเซีย 21-15, 7-21, 21-19

ขอบคุณข้อมูลจาก siamsport.co.th


คุณหมอขอร้อง! เลิกการตลาดบุหรีไฟฟ้าขายเยาวชน อันตรายมากกว่าที่คิด

ปัจจุบัน บุหรี่ไฟฟ้า กลายเป็นทางเลือกการเสพติดที่ถูกชี้นำในเชิงบวงมากกว่าบุหรี่มวน บ้างชี้สรรพคุณไร้นิโคติน เลิกง่าย ทั้งมีรูปทรงและสีสรรที่หลากหลายถูกใจเยาวชนคนรุ่นใหม่อย่างแพร่หลาย

ล่าสุด นพ.วีรพันธ์ สุวรรณนามัย หรือ หมอวี เเพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคสมองและระบบประสาท เผยข้อมูลทางการแพทย์ที่น่าตกใจผ่านเฟสบุก Veerapun Suvannamai  ว่า “สมองพัง เพราะสิ่งนี้” ด้วยมีรายงานว่า เด็กที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า สมองจะหยุดพัฒนาตั้งแต่อายุ 25 ปี และมีรายงานว่า เด็กที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้า มากกว่าคนที่ไม่สูบถึง 5 เท่า!

หมอวีกล่าวว่า “โรคซึมเศร้าตอนนี้มีมากมายขนาดไหน แต่คนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้ามีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้ามากกว่าถึง 5 เท่านะครับ และที่บอกว่านิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้ามีเป็นศูนย์ จากการสำรวจตลาดทั่วไป ปรากฏว่าพบสารนิโคตินไม่ใช่ศูนย์ทั้งนั้นนะครับ เพราะฉะนั้นการตลาดยุคนี้ เขาลงไปที่เด็กเยาวชนของเราอย่างชัดเจน มีเป้าหมายโดยเฉพาะเด็กผู้หญิง อย่างชัดเจน ดูจากรูปแบบ ของบุหรี่ไฟฟ้าก็ได้ ที่ดูเฟรนลี่ ไม่มีพิษ ไม่มีภัย ไม่อันตราย”

คุณหมอกล่าวด้วยว่า “มีรายงานว่า ผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้ามีอาการติดนิโคตินอย่างหนักมากกว่าบุหรี่มวน  ไม่ใช่หมายถึงบุหรี่มวนดีกว่า บุหรี่มวนก็ไม่ดี ทางการแพทย์วิเคราะห์ว่าลักษณะของคนที่ติดบุหรี่อย่างหนัก คือคนที่ตื่นมาแล้วจะสูบบุหรี่ทันทีภายในครึ่งชั่วโมง นี่คือลักษณะของคนติดบุหรี่หนัก ที่หมอบอก ว่าเป็น Heavy smoker แล้วนะ คือครึ่งชั่วโมงหลังจากตื่นต้องคาบมาสูบ แต่รู้ไหมครับว่า จากการสำรวจบุหรี่ไฟฟ้า ไม่รอครึ่งชั่วโมงนะครับ ตื่นแล้วสูบเลยภายใน 5 นาทีนะครับ Heavy smokers แบบ Super Super Super Heavy smoker ขนาดไหน”

“ผู้ใหญ่ในสังคมในบริษัททุกห้างร้าน เซลล์ที่ขายหรือกฎหมายที่ยังไม่เข้มแข็ง ผมขอนะ อย่าเอาเด็กเอาเยาวชนคนไทยทั้งผู้หญิงผู้ชาย ไปเป็นการตลาดให้ท่านทำเถอะครับ ประเด็นนี้เป็นประเด็นสำคัญจริงๆ อย่าเอาเด็กเอาเยาวชนมาเป็นตัวการตลาดให้ท่านได้หาผลกำไร จากพวกเขาเหล่านั้นเลยครับ มันไม่ดี คนที่ทำก็จะไม่เจริญรุ่งเรืองแน่นอน ฝากแชร์ด้วยนะ บุหรี่ไฟฟ้าในเด็กในวัยรุ่นในเยาวชน อันตรายมากจริงๆ อย่าลองเด็ดขาด นะครับ ด้วยความปรารถนาดีนะครับ”

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


20 แคปชั่นให้กำลังใจภาษาอังกฤษ ทำให้มีแรงฮึดสู้อีกครั้ง

ในวันที่เรารู้สึกเหนื่อย หรือท้อแท้ไปกับการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องงาน การเรียน และปัญหาต่าง ๆ ที่ถั่งโถมเข้ามา แค่มีประโยคหรือคำพูดปลอบประโลมคอยให้กำลังใจดี ๆ จากคนใกล้ตัวก็สามารถช่วยให้เรามีแรงลุกขึ้นเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ ต่อไปได้ 

วันนี้ วอลล์สตรีท อิงลิช มีแคปชั่นให้กำลังใจ ภาษาอังกฤษดี ๆ ไว้สำหรับส่งต่อให้กับคนที่คุณห่วงใยนำมาฝากกัน ไปชมกันเลย !
แคปชั่นภาษาอังกฤษ ให้กำลังใจดี ๆ

  • Believe in yourself and all that you are – เชื่อในตัวเอง และทุกสิ่งที่คุณเป็น
  • Every setback is a setup for a comeback – ทุกความล้มเหลวคือการเตรียมการเพื่อการกลับมา
  • Your only limit is you – ข้อจำกัดเพียงอย่างเดียวของคุณคือตัวคุณเอง
  • You are stronger than you think – คุณแข็งแกร่งกว่าที่คุณคิด 
  • Don’t wait for opportunity, create it  – อย่าที่จะรอคอยโอกาส จงสร้างมัน
  • Success begins with self-belief – ความสำเร็จเริ่มต้นที่การเชื่อในตัวเอง 
  • The best is yet to come. – สิ่งที่ดีสุดยังไม่มาถึง
  • Choose courage over comfort – เลือกความกล้าหาญให้เหนือกว่าความสบาย
  • You are the hero of your own story – คุณคือฮีโร่ในเรื่องราวของตัวคุณเอง
  • Believe in the power of your dreams – จงเชื่อในพลัง และความฝันของคุณ
  • Dream big and dare to fail – ฝันให้ใหญ่ และกล้าที่จะท้าทายความล้มเหลว
  • Every day is a chance to change your life – ทุกวันคือโอกาสในการเปลี่ยนแปลงชีวิต
  • Difficult roads often lead to beautiful destinations – ถนนที่ยากลำบาก มักจะนำไปสู่ปลายทางที่สวยงาม
  • Stars can’t shine without darkness – ดวงดาวจะไม่สามารถเปล่งประกายแสงได้หากไม่มีความมืด
  • Every small step counts towards your big goals – ทุกก้าวเล็ก ๆ ย่อมมีความสำคัญต่อเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ของคุณ
  • Chase your dreams, not your fears – จงไล่ตามความฝันของคุณไม่ใช่ความกลัวของคุณ
  • The secret of getting ahead is getting started – ความลับในการก้าวหน้าคือการเริ่มต้น
  • Focus on progress, not perfection – จงให้ความสำคัญกับความก้าวหน้า ไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบ
  • Your passion is your power – ความหลงใหลคือพลังของคุณ 
  • Keep going, you’re closer than you think – จงเดินหน้าต่อ คุณอยู่ใกล้กว่าที่คุณคิด 
  • Your potential is endless – ความเป็นไปได้ของคุณนั้นไม่มีที่สิ้นสุด

ขอบคุณข้อมูลจาก wallstreetenglish.in.th


กุญแจรถแบตหมดกดปุ่ม Push Start ไม่ได้ วิธีแก้ง่ายๆ ทำตามนี้

     รถยนต์ยุคใหม่ที่ใช้ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบ Push Start ถ้าหากวันหนึ่งแบตเตอรี่รีโมทเกิดหมดขึ้นมา ก็ยังมีระบบสำรองที่ช่วยให้คุณสามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ตามปกติด้วยนะ

     โดยปกติแล้วเมื่อแบตเตอรี่กุญแจรีโมทเริ่มอ่อน ระบบจะแสดงข้อความเตือนบนหน้าจอในรถเพื่อให้คุณรีบเปลี่ยนแบตเตอรี่โดยเร็ว แต่หากละเลยปล่อยให้แบตเตอรี่หมดเกลี้ยงแล้วล่ะก็ จะทำให้คุณไม่สามารถล็อก-ปลดล็อกประตู รวมถึงสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ตามปกติ เนื่องจากตัวรถจะไม่สามารถสื่อสารกับกุญแจได้นั่นเอง แต่หากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมาจริงๆ ก็ไม่ต้องตกใจไป เพราะยังมีระบบสำรองที่ช่วยให้คุณสามารถปลดล็อกและสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ โดยมีวิธีปฏิบัติง่ายๆ ดังนี้

     1. ใช้กุญแจที่ซ่อนอยู่ในตัวรีโมทเพื่อปลดล็อกรถ โดยวิธีการถอดกุญแจจะแตกต่างกันไปตามแต่ละยี่ห้อ จากนั้นใช้กุญแจไขบริเวณมือเปิดประตูเพื่อปลดล็อก ซึ่งระหว่างนี้อาจทำให้สัญญาณกันขโมยดังขึ้นได้

     2. ให้นำรีโมทไปแตะบริเวณปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ แล้วจึงกดสตาร์ทเครื่องยนต์ตามปกติ เครื่องยนต์จะติดขึ้น และสัญญาณกันขโมยจะดับไปเอง (ตำแหน่งสำหรับแตะกุญแจของรถบางรุ่นอาจแตกต่างกันออกไป โปรดศึกษาจากคู่มืออีกครั้ง)

ทางที่ดีเมื่อเดินทางไปถึงจุดหมายแล้ว ควรรีบเปลี่ยนแบตเตอรี่รีโมทโดยเร็ว เพื่อป้องกันอาการ “รีโมทลืมรถ” ซึ่งจะทำให้รีโมทไม่สามารถใช้งานกับรถคันเดิมได้อีก ซึ่งแบตเตอรี่ที่ใช้กับรีโมทส่วนมากมักเป็นถ่านกระดุมที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป และเปลี่ยนด้วยตัวเองได้ไม่ยาก เพียงแต่ต้องเลือกขนาดให้ตรงกับของเดิมเท่านั้น

     เพียงเท่านี้รีโมทก็จะกลับมาใช้งานได้ตามปกติด้วยค่าใช้จ่ายไม่กี่สิบบาท ประหยัดเงินกว่าการเข้าศูนย์ที่อาจต้องเสียค่าเปลี่ยนเป็นหลักร้อยหรือหลักพันบาทก็มี

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


กระจ่างแล้ว! ข้าวโพดเป็นผักหรือผลไม้ รู้คำตอบถึงกับต้องร้องอ๋อ!!!

เป็นคำถามที่หลายคนอาจจะสงสัยเวลาไปจ่ายตลาดซื้อผักซื้อผลไม้เข้าบ้านว่า ข้าวโพดเป็นผักหรือผลไม้ กันแน่ บางคนก็มองว่าข้าวโพดนั้นเป็นผัก แต่บางคนก็มองว่าเป็นผลไม้ สรุปแล้วข้าวโพดคืออะไรกันแน่

วันนี้เราก็ได้ไปหาคำตอบมาให้เพื่อนๆ ได้หายข้องใจกันแล้วว่า ข้าวโพดเป็นผักหรือผลไม้ ใครที่กำลังสงสัยและอยากจะรู้คำตอบ มาศึกษาข้อมูลกันได้เลย

เป็นคำถามที่หลายคนอาจจะสงสัยเวลาไปจ่ายตลาดซื้อผักซื้อผลไม้เข้าบ้านว่า ข้าวโพดเป็นผักหรือผลไม้ กันแน่ บางคนก็มองว่าข้าวโพดนั้นเป็นผัก แต่บางคนก็มองว่าเป็นผลไม้ สรุปแล้วข้าวโพดคืออะไรกันแน่

วันนี้เราก็ได้ไปหาคำตอบมาให้เพื่อนๆ ได้หายข้องใจกันแล้วว่า ข้าวโพดเป็นผักหรือผลไม้ ใครที่กำลังสงสัยและอยากจะรู้คำตอบ มาศึกษาข้อมูลกันได้เลย

กระจ่างแล้ว! ข้าวโพดเป็นผักหรือผลไม้ รู้คำตอบถึงกับต้องร้องอ๋อ!!!

ทำความเข้าใจก่อนว่า ผัก คือ พืชที่เรานำราก ใบ และดอก ไปประกอบเป็นอาหาร ส่วนผลไม้ คือพืชที่เรานำผลมาบริโภค ซึ่งส่วนมากจะหวานกว่าผัก และสามารถรับประทานได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องปรุงให้สุก

แต่สำหรับข้าวโพด ไม่ใช่ทั้งผัก และ ผลไม้ เพราะว่าข้าวโพดนั้นจัดอยู่ในหมวดพืชไร่ ในตระกูลหญ้า ที่เรานำเมล็ดมาใช้เป็นอาหาร อย่างเช่นข้าวและถั่ว โดยจะถือว่าเป็นธัญพืชชนิดหนึ่ง ไม่นับว่าเป็น ผัก หรือ ผลไม้ นั่นเอง

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 16/05/2567

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a40,850.0040,950.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,646.0040,113.3641,450.00
ทองรูปพรรณ 90%2,381.4036,102.02n/a
ทองรูปพรรณ 80%2,116.8032,090.69n/a
ทองรูปพรรณ 50%1,191.0018,055.56n/a
ทองรูปพรรณ 40%926.0014,038.16n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,742.0041,568.72n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 16/05/2567



ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9538.9538.9539.7538.9538.9538.9538.9538.9538.9538.95
แก๊สโซฮอล์ 9138.3838.3839.1838.3838.3838.3838.3838.3838.3838.38
แก๊สโซฮอล์ E2036.8436.8437.6436.8436.8436.8436.8436.8436.84
แก๊สโซฮอล์ E8536.5936.5936.59
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม47.1449.8449.9449.8447.14
เบนซิน 9546.8448.0147.3446.9946.84
ดีเซล31.4431.4431.7431.4431.4431.4431.4431.4431.4431.44
ดีเซลหมุนเร็ว31.4431.4431.44
ดีเซลพรีเมี่ยม43.4445.6446.9445.6445.6443.44
แก๊ส NGV19.5919.5919.59
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า