สาระน่ารู้ประจำวันที่ 16 กันยายน 2564

สหพัฒน์ ปักธง อาคารสำนักงาน สูงสุดในไทย ตอกหมุด KingBridge Tower พระราม 3

สหพัฒน์ ปักธง อาคารสำนักงาน สูงสุดในไทย ตอกหมุด KingBridge Tower พระราม 3

เครือสหพัฒน์ วางศิลาฤกษ์ โครงการ ‘KingBridge Tower’ ดึงบริษัทวิศวกรระดับโลก ผลงานสร้างสะพานภูมิพล ปั้นอาคารสำนักงานที่สูงสุดในไทย บนถนนพระราม 3 คาดแล้วเสร็จปี 2567

15 กันยายน 2564 – นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ โครงการ ‘KingBridge Tower’ อาคารสำนักงานให้เช่า สัญลักษณ์แห่งใหม่ (Iconic Building) บนถนนพระราม 3  โดยผู้พัฒนา บริษัท สห แคปปิตอล ทาวเวอร์ จำกัด (Saha Capital Tower Co., Ltd.) โดยมีนายวิชัย กุลสมภพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) และคณะผู้บริหาร เข้าร่วมพิธี 

สหพัฒน์ ปักธง อาคารสำนักงาน สูงสุดในไทย ตอกหมุด KingBridge Tower พระราม 3

โครงการนี้ เป็นอาคารสำนักงานในรูปแบบ Smart Building  สูงที่สุดในประเทศไทย บนถนนพระราม 3 ภายในอาคารประกอบด้วย พื้นที่สำนักงาน, Co-working Space, ห้องประชุม, Healthy Canteen, สวนแนวตั้ง, ลู่วิ่ง และ Rooftop Restaurant ออกแบบโดยบริษัท สถาปนิก 49 จำกัด (A49) ก่อสร้างโดยบริษัท นันทวัน จำกัด (Thai Obayashi) ขณะนี้ได้เริ่มดำเนินงานก่อสร้างแล้ว และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2567 รูปแบบอาคาร ผสานเทคโนโลยี และนวัตกรรมที่ล้ำสมัยให้กลมกลืนไปกับพื้นที่สีเขียวภายใต้แนวคิด ‘The Spirit of Synergy’ 

สหพัฒน์ ปักธง อาคารสำนักงาน สูงสุดในไทย ตอกหมุด KingBridge Tower พระราม 3

นายวิชัย  กล่าวว่า “บริษัท สห แคปปิตอล ทาวเวอร์ จำกัด เป็นบริษัทหนึ่งในเครือสหพัฒน์ ที่มุ่งเน้นความรับผิดชอบต่อสังคม คน และสิ่งแวดล้อม โครงการ KingBridge Tower จึงมีการออกแบบภายใต้แนวคิด ‘The Spirit of Synergy’ ที่เชื่อว่า การผสานรวมกันจะก่อให้เกิดพลังและสิ่งที่ยิ่งใหญ่ การทำงานและใช้เวลาร่วมกันของคนในองค์กร จึงเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญ เพราะจะทำให้ธุรกิจ องค์กร สังคม เติบโตไปในทิศทางที่ดียิ่งขึ้น 

สหพัฒน์ ปักธง อาคารสำนักงาน สูงสุดในไทย ตอกหมุด KingBridge Tower พระราม 3

แนวคิดดังกล่าวถูกใช้ในการออกแบบ KingBridge Tower ในทุกองค์ประกอบ เพื่อให้ทุกองค์กรและทุกคนที่อยู่ในอาคารนี้ ผสานพลังเพื่อเติบโตไปด้วยกัน เช่น การออกแบบงานกระจกและอลูมิเนียมอาคาร (Façade) ก็ได้นำเทคโนโลยีโซล่าร์เซลล์ที่ช่วยดูแลสิ่งแวดล้อม มาผสานกับการออกแบบให้คงความสวยงามไว้ได้อย่างกลมกลืน และใส่ใจคุณภาพชีวิตด้วยการออกแบบพื้นที่สีเขียว (Lush Co-working Space) เพื่อให้ทุกคนสามารถมาใช้ร่วมกันตอบรับแนวโน้มการทำงานรูปแบบใหม่ พร้อมทั้งผสานรวมการทำงานและการดูแลสุขภาพไปด้วยกัน”

สหพัฒน์ ปักธง อาคารสำนักงาน สูงสุดในไทย ตอกหมุด KingBridge Tower พระราม 3

โครงการ KingBridge Tower ได้เลือก Mott Macdonald บริษัทวิศวกรที่ปรึกษาระดับโลกที่มีผลงานมากมาย เช่น  การออกแบบวิศวกรรมโครงสร้างสะพานภูมิพล, ท่าอากาศยานลอนดอนฮีทโธรว์, Silicon Valley BART Extension มาร่วมดีไซน์โครงสร้างอาคาร เพื่อให้โครงการ KingBridge Tower เป็นสัญลักษณ์แห่งใหม่ที่โดดเด่น สง่างามริมแม่น้ำบนถนนพระราม 3 จากการออกแบบโครงสร้างของบริษัทระดับโลก” นายวิชัยกล่าว

ทั้งนี้ ‘KingBridge Tower’ เป็นอาคารสำนักงานรูปแบบ Smart Building ที่เน้นความเป็นมิตรต่อผู้ใช้งานอาคาร และมุ่งสู่การขอรับมาตรฐานสากล ได้แก่ LEED Gold และ Fitwel ระดับสูงสุด 3 ดาว เน้นความเป็นมิตรต่อคุณภาพชีวิตของผู้ใช้อาคาร และสิ่งแวดล้อมผ่านแนวคิด เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ผสานเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำสมัยให้กลมกลืนไปกับพื้นที่สีเขียว เพื่อให้คนในอาคารสะดวก ปลอดภัย และผ่อนคลายด้วยสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตร อาทิ ระบบตรวจจับใบหน้าด้วยเทคโนโลยี AI, สถานีชาร์จ EV

สำหรับภายในอาคารประกอบไปด้วย พื้นที่สำนักงาน, Co-working Space, ห้องประชุม, Healthy Canteen, สวนแนวตั้ง, ลู่วิ่ง และ Rooftop Restaurant สามารถปรับพื้นที่ให้กลายเป็น Event Space ได้ พื้นที่อาคารรวมกว่า 85,000 ตร.ม. บนเนื้อที่กว่า 6 ไร่ เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้วและคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2567 นอกจากนี้ โครงการนี้ยังได้พันธมิตรมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ อาทิ  A49, Thai Obayashi, Stonehenge Inter, SCG, JLL  เป็นต้น  

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ไล่ทุบ 4,000 ตึกแถว ปั้นมิกซ์ยูส “สวนหลวง-สามย่าน”ขุมทองจุฬาฯ291ไร่

ไล่ทุบ 4,000 ตึกแถว ปั้นมิกซ์ยูส “สวนหลวง-สามย่าน”ขุมทองจุฬาฯ291ไร่

จุฬาฯ เขย่าแผนพัฒนา “สวนหลวง-สามย่าน” 291ไร่ ไล่ทุบ4,000ตึกแถวขึ้นตึกสูงเมืองมิกซ์ยูสอัจฉริยะแสนล้านเชื่อมสยามสแควร์ ลุยต่อบล็อก29 ใกล้สามย่านมิตรทาวน์ หลังเพิ่มเงื่อนไขขยายเช่า50ปีบล็อก34ดึงบิ๊กทุนบูมเมืองการแพทย์ รื้อบล็อก 54-57 ลุยสปอร์ตซิตี้ รับสนามกีฬา

สำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือ PMCU มีเป้าหมายยกระดับเขตพาณิชยกรรมสวนหลวง-สามย่าน ย่านปทุมวัน เป็นเมืองอัฉริยะ พลิกโฉม ตึกแถวเก่ากว่า4,000 คูหา บนที่ดิน 291ไร่ ขึ้นตึกสูงสมาร์ทมิกซ์ยูส ขุมทองขนาดใหญ่เชื่อมโยง สยามสแควร์ ศูนย์กลางการค้าช็อปปิ้งระดับโลกแบบไร้รอยต่อด้วยสกายวอล์ค  เส้นทางรถไฟฟ้าซึ่งจุฬาฯมองว่า

ต้องพัฒนา ให้เกิดความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ เนื่องจากที่ดินมีมูลค่าสูง  ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร กำหนดให้เป็นย่านพาณิชยกรรมระดับสูงสุด โดยทยอยเปิดพื้นที่ศักยภาพ ให้เอกชนร่วมลงทุนต่อจาก สามย่านมิตรทาวน์มิกซ์ยูส อาณาจักรเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ทำเลหัวมุมถนนพระราม4 ตัดถนนพญาไท บล็อก21-22 เนื้อที่13ไร่ แม่เหล็กดึงนักช็อปเข้าพื้นที่

ไล่ทุบ 4,000 ตึกแถว ปั้นมิกซ์ยูส “สวนหลวง-สามย่าน”ขุมทองจุฬาฯ291ไร่

รายงานข่าวจากPMCU ระบุว่า PMCU ได้ปรับแผนแม่บท ให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งสถานการณ์โควิด-19และ พฤติกรรมผู้บริโภคเพราะแผนแม่บทเดิมจัดทำไว้เมื่อ5ปีก่อน โดยแปลงที่ดินจะเปิดต่อ คือบล็อก29 สุดถนนพระราม4เนื้อที่16ไร่ ใกล้สามย่านมิตรทาวน์ รูปแบบมิกซ์ยูส 

หลังจากโครงการบล็อก 34 เนื้อที่ 12ไร่เศษ ถนนบรรทัดทองใกล้อุทยาน100ปีจุฬา เปิดให้บริการเมืองการแพทย์ครบวงจรและมิกซ์ยูส ปัจจุบันอยู่ระหว่างเปิดให้เอกชนเสนอเงื่อนไข และเพื่อจูงใจนักลงทุน จุฬาฯได้เพิ่มเงื่อนไข เช่าระยะยาวไม่เกิน50ปี นอกจากเช่า30ปี ส่วนบล็อก33มิกซ์ยูสที่อยู่อาศัย  จุฬาฯพัฒนาเอง พร้อมเปิดให้บริการปี2566

สำหรับบล็อก56-57 หัวมุมถนนพระราม1ตัดถนนบันทัดทอง-พญาไท และแปลงติดกัน บล็อก 54-55 จะเปิดประมูลรูปแบบสปอร์ตซิตี้ โดยจะมีโครงการพาณิชยกรรมที่สอดรับกับ กีฬา เนื่องจาก เป็นพื้นที่ติดกับสนามกีฬาแห่งชาติ ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างวางมาสเตอร์แพลน เบื้องต้นจะคงความเป็นสนามกีฬา แต่จะเพิ่มพื้นที่เชิงพาณิชย์ เพิ่มพื้นที่สีเขียวปอดแห่งใหม่ รองรับการทำกิจการด้านสังคม อีกทั้งยังตอบสนองเป็นความต้องการของคนเมืองที่ต้องการใกล้ชิดธรรมชาติให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม

“การพัฒนาที่ดินจุฬาฯ จะเปิดพัฒนาทีละโครงการ หรือราว3-4ปีเปิดประมูลครั้งเพื่อรอให้โครงการที่ประมูลไว้ก่อนหน้านี้ก่อสร้างเสร็จก่อนส่วน แผนพัฒนาเมืองอัจฉริยะเขตพาณิชย์สวนหลวง-สามย่าน  291ไร่ ระหว่างปี2561-2580  จะรีวิวแผนใหม่เพื่อความเหมาะสมอีกครั้ง”  

แหล่งข่าวจากกรุงเทพมหานคร อธิบายว่า แม้สวนหลวง-สามย่าน จะไม่ร้อนแรง เหมือนสยามสแควร์ แต่เป็นทำเลที่น่าสนใจมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ผ่าน มี การพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ส่วนใหญ่จะไหลบ่ามาโซนพระราม4 อย่างโครงการของเจ้าสัวเจริญ ทั้งสามย่านมิตรทาวน์ โครงการวันแบงค็อก ฯลฯ

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


บาทเปิด 32.87/88 บาทต่อกแลลาร์ แนวโน้มแกว่งแคบ

บาทเปิด 32.87/88 บาทต่อกแลลาร์ แนวโน้มแกว่งแคบ

เงินบาทเปิดตลาด 32.87/88 บาทต่อกแลลาร์ แนวโน้มแกว่งแคบ ตลาดรอดูทิศทางจากปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.87/88 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.87 บาท/ดอลลาร์

วันนี้คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ รอดูทิศทางจากปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐ เช่น จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และยอดค้าปลีกเดือนส.ค. ส่วนสัปดาห์หน้า จับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ช่วงวันที่ 21-22 ก.ย.

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.80 – 33.00 บาท/ดอลลาร์

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


“ภูริณัฐ” ปลดล็อคสำเร็จแชมป์แรกรอบ 3 ปี รับ 1 แสน สวิง สิงห์ ทีดีที บลูแคนยอนฯ จ.ภูเก็ต

"ภูริณัฐ" ปลดล็อคสำเร็จแชมป์แรกรอบ 3 ปี รับ 1 แสน สวิง สิงห์ ทีดีที บลูแคนยอนฯ จ.ภูเก็ต

ภูริณัฐ ทรงไพบูลย์ นักกอล์ฟหนุ่มเมืองกรุง รับแชมป์แรกในรอบ 3 ปี ทำ 2 เบอร์ดี้สองหลุมสุดท้าย ทิ้งห่างอันดับสองร่วม 2 สโตรก ในศึกกอล์ฟอาชีพ ไทยแลนด์ ทีดีที ทัวร์ รายการ “สิงห์-เอสเอที บลูแคนยอน 2021” ณ สนามบลูแคนยอน คันทรี คลับ (เลคส์ คอร์ส) จ.ภูเก็ต แบบพาร์ 71 ระยะ 7,061 หลา เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา รับถ้วยแชมป์พร้อมเงินรางวัล 1 แสนบาท และเป็นแชมป์ที่ 2 ในชีวิต

รายการนี้ สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย, กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จัดการแข่งขันกอล์ฟเก็บคะแนนสะสม ออร์เดอร์ ออฟ เมอริต ชิงเงินรางวัล 1 ล้านบาท แชมป์รับ 100,000 บาท

g06

จบการแข่งขันรอบสุดท้าย (15 ก.ย. 2564) ภูริณัฐ ทรงไพบูลย์ สวิงหนุ่มจากกรุงเทพฯ ออกสตาร์ทด้วยการตามหลังผู้นำ 1 สโตรค เก็บเบอร์ดี้แรกที่หลุม 4 จากระยะ 4 ฟุต ก่อนมาเสีย 2 โบกี้หลังตีตกน้ำที่หลุม 5 และ 7 แต่จาก อีเกิ้ล ที่หลุม 15 พาร์ 5 ระยะ 548 หลา หวดช็อตสองจากระยะ 215 หลาด้วยเหล็ก 5 มาอยู่ขอบกรีน ก่อนจะใช้พิชชิ่งเคาะลง แม้ว่าในหลุมที่ 16 จะมาเสียโบกี้หลังตีตกบังเกอร์ในช็อตแรก แต่มาทำ 2 เบอร์ดี้ติดที่ 2 หลุมสุดท้าย โดยเฉพาะพัตต์เบอร์ดี้ที่หลุม 18 จากขอบกรีนในระยะ 16 ฟุต ทำสกอร์รวม 7 อันเดอร์พาร์ 135 ทำให้คว้าชัยชนะอย่างเด็ดขาด รับถ้วยแชมป์พร้อมรับเงินรางวัล 1 แสนบาท อีกทั้งเป็นแชมป์ที่ 2 ในชีวิตการเล่นของตัวเอง

สวิงหนุ่มวัย 27 ปี คว้าแชมป์แรกของตัวเองในรายการ สิงห์ ทีดีที กบินทร์บุรี เมื่อปี 2018 กล่าวหลังจบการแข่งขันว่า “ดีใจมากๆ และขอขอบคุณทุกๆคนที่เชื่อมั่นในตัวผมเสมอมา ก่อนนี้เคยคิดเลิกเล่นไปแล้ว เพราะตั้งแต่เทิร์นโปรเมื่อปี 2017 และคว้าแชมป์แรกให้ตัวเอง ผลงานไม่ดีเลยในช่วงหลัง จึงกลับไปคิดและคิดว่าสวิงของเราไม่ถูกต้อง วางแผนการเล่นก็ไม่ดี ตอนนี้ความมั่นใจของตัวเองกลับมาได้กว่า 75 เปอร์เซ็นต์แล้ว และการคว้าแชมป์ในครั้งนี้ก็ยิ่งช่วยทำให้เพิ่มความมั่นในให้กับตัวเองมากเข้าไปอีก”

g03

ส่วนอันดับ 2 ร่วม สกอร์รวม 5 อันเดอร์พาร์ 137 เป็น วิชญภัทร สินสร้าง รุคกี้หนุ่มจาก โคราช และ จิตรกร น่วมทนงค์ แบ่งเงินรางวัลไปคนละ 52,500 บาท วิชญภัทร วัย 24 ปี ด้านอันดับ 4 เป็นของ ชโยดม จันทร์จารุพงศ์ ผู้นำจากรอบแรกที่วันนี้ตี 1 โอเวอร์พาร์ 72 ทำสกอร์รวม 4 อันเดอร์พาร์ 138 รับเงินรางวัล 26,600 บาท ขณะที่ สัจจวัฒน์ ศรีประสิทธิ์, นพรัฐ พานิชผล และ จณัตว์ สกุลพลไพศาล รับอันดับ 5 ร่วมจากสกอร์รวม 3 อันเดอร์พาร์ 139 แบ่งเงินรางวัลคนละ 23,433 บาท

สำหรับรายการต่อไปของ แซน์ดบ็อกซ์ สวิง จะเป็นศึก ไทยแลนด์ พีจีเอ ทัวร์ รายการ “สิงห์-เอสเอที บลูแคนยอน แชมเปี้ยนชิพ 2021” ชิงเงินรางวัล 2 ล้านบาท ณ สนาม บลูแคนยอน (เลคส์) ระหว่างวันที่ 17-19 ก.ย.นี้ต่อไป

สรุปผลการแข่งขัน
135 (-7) ภูริณัฐ ทรงไพบูลย์ 67-68 (เงินรางวัล 100,000 บาท)
137 (-5) วิชญภัทร สินสร้าง 70-67, จิตรกร น่วมทนงค์ 69-68 (เงินรางวัล 52,500 บาท)
138 (-4) ชโยดม จันทร์จารุพงศ์ 66-72 (เงินรางวัล 26,600 บาท)
139 (-3) สัจจวัฒน์ ศรีประสิทธิ์ 71-68, นพรัฐ พานิชผล 70-69, จณัตว์ สกุลพลไพศาล 70-69 (เงินรางวัล

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


“ตากระตุก” เกิดจากอะไร เป็นสัญญาณอันตรายของโรคหรือไม่?

"ตากระตุก" เกิดจากอะไร เป็นสัญญาณอันตรายของโรคหรือไม่?

นอกจากความเชื่อว่า “ขวาร้าย ซ้ายดี” จากอาการตากระตุกแล้ว ในทางการแพทย์ อาการตากระตุกอาจเป็นลางบอกเหตุถึงอันตรายที่กำลังเกิดขึ้นอยู่กับร่างกายได้เหมือนกัน

อาการตากระตุก คืออะไร?

นพ. นนท์ รัตนิน จักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โรงพยาบาลจักษุรัตนิน ระบุว่า อาการตากระตุก เกิดจากกระแสประสาทที่มาเลี้ยงบริเวณรอบดวงตามากผิดปกติในช่วงระยะเวลาหนึ่ง  

อาการตากระตุกมีความรุนแรงตั้งแต่ตากระตุกเล็กน้อย ไม่นานก็หายได้เอง ไปจนถึงตากระตุกจนตาปิด รวมไปถึงอาการตาเขม่น ที่เป็นอาการหนังตา หรือเปลือกตากระตุก เป็นได้ทั้งเปลือกตาบน และเปลือกตาล่าง

สาเหตุของอาการตากระตุก

พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล หรือ หมอผิง ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและเวชศาสตร์ชะลอวัย โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ระบุสาเหตุของอาการตากระตุกเอาไว้ ดังนี้

  1. นอนหลับไม่เป็นเวลา นอนหลับไม่เพียงพอ
  2. มีความเครียดสะสมเป็นเวลานาน
  3. ดื่มกาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากเกินไป
  4. สูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
  5. เจอกับแสงสว่าง แสงจ้า ลม หรือมลพิษทางอากาศ
  6. ตาล้า ตาแห้ง เกิดการระคายเคืองที่เปลือกตาด้านใน หรือโรคภูมิแพ้
  7. ขาดวิตามิน แร่ธาตุ หรือสารอาหารบางชนิด
  8. เป็นผลข้างเคียงจากยาบางชนิดที่กำลังใช้/กินอยู่

อาการตากระตุกที่ผิดปกติ ควรพบแพทย์

จากที่ระบุไว้ข้างต้นว่า อาการตากระตุกส่วนใหญ่ไม่อันตราย และสามารถหายไปได้เองเมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง แต่หากมีบางรายที่มีอาการตากระตุกที่ผิดปกติ ควรพบแพทย์ เช่น

  1. ตากระตุกติดต่อกันทุกวันเกิน 1 สัปดาห์ 
  2. มีอาการกระตุกที่บริเวณอื่นด้วย เช่น มุมปาก 
  3. ตากระตุกพร้อมกันทั้งสองข้าง
  4. ตากระตุกแรงมากจนตาปิด รบกวนการทำงาน และการใช้ชีวิตประจำวัน
  5. มีอาการผิดปกติที่ตาอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ตาบวม ตาแดง มีขี้ตามาก เป็นต้น

อาการตากระตุก สัญญาณอันตรายของโรค?

ปกติแล้วอาการตากระตุกไม่อันตราย และไม่ได้มีความสัมพันธ์กับโรคใดๆ โดยเฉพาะ แต่หากมีอาการตากระตุกบ่อยๆ รวมถึงมีความผิดปกติอื่นๆ นายแพทย์สมาน ตั้งอรุณศิลป์ ระบุว่า แพทย์อาจพิจารณาการผ่าตัดแยกเส้นเลือดออกจากเส้นประสาท ไม่ใช่วิธีรักษาให้หายขาด แต่เป็นการช่วยบรรเทาอาการตากระตุกให้น้อยลง หรือเบาลงได้

วิธีลดความเสี่ยงอาการตากระตุก

  1. เข้านอนให้ตรงเวลา นอนหลับพักผ่อนให้เพียง
  2. พยายามลดความเครียดด้วยการทำกิจกรรมที่ชอบ และหาเวลาพักผ่อนหย่อนใจ
  3. ลดปริมาณในการดื่มกาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนลงครึ่งหนึ่ง
  4. ลด หรืองดสูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์
  5. หลีกเลี่ยงการให้ดวงตาเจอกับแสงสว่าง แสงจ้า ลม หรือมลพิษทางอากาศ
  6. พักสายตาระหว่างการทำงานระหว่างวัน รวมถึงใช้น้ำตาเทียมเป็นประจำ เพื่อป้องกันอาการตาแห้ง ซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองที่เปลือกตาด้านใน
  7. รักษาอาการโรคภูมิแพ้ให้ดีขึ้น
  8. รับประทานอาหารให้หลากหลาย ครบ 5 หมู่
  9. ปรึกษาแพทย์ถึงความน่าจะเป็นว่า ตัวยาที่กินอยู่เป็นประจำ มีผลข้างเคียงต่อร่างกาย รวมถึงอาการตากระตุกได้หรือไม่ เพื่อให้แพทย์พิจารณาเปลี่ยนยาที่เหมาะสมกว่าเดิม
  10. หากมีอาการตากระตุกที่ผิดปกติ เช่น ตากระตุกบ่อยเกินไปจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน หรือมีอาการตากระตุกร่วมกับอาการอื่นๆ ควรรีบปรึกษาเพื่อหาสาเหตุและเข้ารับการรักษาต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


5 ประโยคใน Cover Letter ที่จะทำให้คุณอดได้งาน!

Cover letter คืออะไร? Cover letter ก็คือจดหมายสมัครงาน ซึ่งเป็นด่านแรกที่เหล่า HR จะอ่านก่อนจะผ่านไปถึงขั้นตอนของการดู resume ของผู้สมัคร และถึงจะ HR ของบริษัทไทยจะไม่ค่อยดู Cover letter กันมาก แต่ว่าการเขียน cover letter ควรจะเขียนเป็นภาษาอังกฤษค่ะ เพราะใน resume เนี่ย ใครๆ ก็ก๊อปแบบฟอร์มมาแปะๆ แก้ๆ ได้ใช่มั้ยล่ะ แต่ cover letter เนี่ย เราจะต้องเขียนใหม่และปรับให้เข้ากับตำแหน่งและบริษัทที่เราจะสมัคร ซึ่งตรงนี้ก็จะโชว์ทักษะทางด้านภาษาอังกฤษและการสื่อสารของเราด้วยค่ะ ว่าดีแค่ไหน

และถึงแม้ว่า cover letter ของเราจะมีประโยคเปิดและประโยคปิดที่ยอดเยี่ยม และก็ยังสามารถเขียนให้ตัวเองดูเป็นคนพิเศษได้อีกต่างหาก แต่อย่าพึ่งกดส่งไปนะคะ! ลองมาอ่านบทความนี้กันดูก่อน เช็คกันดูว่าคุณมีประโยคหรือคำฆ่าตัวตายเหล่านี้อยู่ใน cover letter หรือเปล่า เพราะมันอาจจะทำให้คุณพลาดงานสำคัญไปได้เลยนะ

cover-letter

1. “I think I’d be a great fit…”

สิ่งที่คุณเขียนมันก็คือสิ่งที่คุณคิดแน่นอนอยู่แล้วล่ะ! ไม่ใช่แค่ “I think” นะคะ ทั้ง “I feel” หรือ “I believe” ก็ฟังดูไม่ดีทั้งนั้น มันจะทำให้ประโยคดูเวิ่นเว้อ ซ้ำซ้อน และทำให้คุณดูเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเองอีกด้วย

วิธีแก้
เอาคำที่เป็นวลีแสดงความคิดเห็นออกไปค่ะ ในบางครั้ง คุณก็ไม่ต้องแก้อะไรมากมายด้วยซ้ำ ยกตัวอย่างเช่น แทนที่จะเขียนว่า “I’m confident my communication skills would make me a strong Project Manager” ก็ให้เขียนแค่ว่า “My communication skills would make me a strong Project Manager” เห็นไหมคะ ความหมายเหมือนเดิม แต่สั้นกว่า ง่ายกว่า และ ฟังดูน่าเชื่อถือกว่าด้วย

2. “Good”

คุณสามารถบอกว่าคุณนั้นเก่งในด้านไหน เช่น “I’m a good writer” หรือ “I’m good at working with other people” แต่มันมีคำ adjective อีกเยอะแยะเลยที่ฟังแล้วมันดูมีพลังมากกว่าแค่ “good”

วิธีแก้
ลองเปลี่ยนคำว่า “good” เป็นคำเหล่านี้ดูค่ะ

  • Skilled
  • Talented
  • Experienced
  • Accomplished
  • Expert
  • Able
  • Successful
  • Apt
  • Seasoned
  • Thorough
  • Capable
  • Competent
  • Efficient

แต่ว่า ต้องดูให้ดีนะคะว่าคำที่คุณเลือกใช้มันตรงกับสิ่งที่คุณเป็นจริงๆ หรือเปล่า เช่น ถ้าคุณมีประสบการณ์ในด้านการเขียนมาประมาณ 2 ปี คุณก็น่าจะเรียกตัวเองว่า “skilled” “capable” หรือ “enthusiastic” writer มากกว่าที่จะเป็น “expert” หรือ “experience” writer นะคะ

3. “This job would help me because…”

ถ้าจะพูดกันตรงๆ นะคะ คุณ เพื่อนของคุณ และครอบครัวของคุณ อาจจะแคร์ว่า งานๆ นี้จะช่วยคุณได้อย่างไร แต่ HR เขาไม่แคร์ค่ะ เขาสนใจแต่ว่า จะหาคนที่ดีที่สุด เหมาะที่สุดสำหรับตำแหน่งงานนี้ได้อย่างไร ดังนั้น ถ้าคุณกำลังพร่ำพรรณาว่างานตำแหน่งนี้จะช่วยให้คุณพัฒนาทักษาะในด้านการเป็นผู้นำ หรือเรียนรู้เกี่ยวกับสายงานที่คุณต้องการได้อย่างไรล่ะก็ กดปุ่ม delete ให้ไวเลยค่ะ

วิธีแก้
เราเข้าใจแหละว่าคุณก็ควรจะต้องอธิบายว่าทำไมคุณถึงสมัครงานตำแหน่งนี้กับบริษัทนี้ ดังนั้น แทนที่จะบอกว่างานนี้จะช่วยคุณได้อย่างไร ก็ให้บอกว่า คุณจะใช้ความสามารถของคุณช่วยบริษัทได้อย่างไรดีกว่า และสมการก็คือ “ความสามารถของคุณ + ความต้องการของบริษัท = ผลลัพธ์อันน่าพึงพอใจ”

ยกตัวอย่างเช่น คุณเป็นโปรแกรมเมอร์ คุณก็อาจจะบอกว่า “My four years of experience with open-source JavaScript, HTML5, and CSS3, combined with my passion for building responsive web applications, would allow me to create elegant maintainable, and functional front-end code – and ultimately make Panther’s products even more user-friendly than they already are.” แปลง่ายๆ ก็คือ ความสามารถของผมในการเขียนโค้ดนี้ๆ บวกกับความปรารถนาของผมในการทำสิ่งนี้ๆ จะทำให้ผมสามารถเขียนโค้ดนี้ๆ ได้ และมันจะทำให้สินค้าของคุณนั้นเป็นมิตรกับผู้บริโภคได้ยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา

4. “As you can see on my resume…”

ประโยคนี้เป็นประโยคที่ใช้กันทั่วไป แต่ไม่ได้มีความหมายเพิ่มเติมอะไรเลยค่ะ ถ้า HR เขาต้องเห็นสิ่งนี้ใน resume ของคุณอยู่แล้ว การป่าวประกาศว่าเดี๋ยวคุณจะได้เห็นสิ่งนี้ๆ นะมันก็ฟังดูไม่จำเป็นสักเท่าไหร่

วิธีแก้
เอามันออกไปค่ะ! เอามันออกไปเดี๋ยวนี้! ไม่ต้องแก้อะไรเพิ่มเติมทั้งนั้น!

แทนที่จะบอกว่า “As you can see on my resume, I’ve been working in marketing and PR for the last five years,” ก็ให้เขียนไปตรงๆ เลยว่า “I’ve been working in marketing and PR for the last five years.”

ซึ่งความตรงและมั่นใจของคุณอาจจะเป็นคะแนนพิเศษให้ก็ได้นะ

5. “I’m the best candidate because…”

ความมั่นใจเป็นสิ่งที่ดี แต่การทะนงว่าตัวเองนั้นเก่งที่สุด ดีที่สุด หรือเรียกง่ายๆ ว่ามั่นเกินไป มักจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ค่ะ ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นผู้สมัครที่ดีมากๆ แต่คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าคุณน่ะ “ดีที่สุด” หรือเปล่า ลองนึกถึงการอ่าน cover letter ของคน 6 คนที่ทุกคนต่างก็บอกว่าตัวเองดีที่สุดดูสิคะ มันน่ารำคาญใช่ไหมล่ะ

ดังนั้น เพื่อไม่สร้างความรำคาญให้ HR มากเกินไป งดใช้คำว่า “best” เถอะนะคะ แล้วก็คำจำพวก “ideal” หรือ “perfect” ด้วย

วิธีแก้
ถ้าอยากจะเลือกคำที่อยู่ระหว่าง “good” กับ “best” ลองดูคำพวกนี้ค่ะ

  • Excellent
  • Great
  • Terrific
  • Strong
  • Outstanding
  • Unique

การเขียน cover letter ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะ แต่ผลตอบแทนที่ได้มา เช่น งานที่คุณตามหา มันก็คุ้มค่ากับความเหนื่อยและเวลาที่เสียไปเช่นกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก dailyenglish.in.th


เจาะลึก Apple A15 Bionic รุ่นใหม่ที่มีการปรับปรุงใหม่ เพื่อ iPhone 13 และ iPad Mini Gen 6

เจาะลึก Apple A15 Bionic รุ่นใหม่ที่มีการปรับปรุงใหม่ เพื่อ iPhone 13 และ iPad Mini Gen 6

นอกจากรายละเอียดตัวเครื่องทั้ง iPhone 13, 13 Mini, 13 Pro และ 13 Pro Max รวมไปถึง iPad Mini Generation 6 ที่ผ่านไปเมื่อคืนนี้ทั้งหมดที่บอกมาคือใช้ขุมพลัง A15 bionic ทั้งหมดนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงแค่ไหน เรามาดูกันดีกว่า

สำหรับขุมพลัง Apple A15 Bionic นั้นยังคงใช้พื้นฐานการออกแบบลักษณะเดียวกับ A14 Bionic มาพร้อมกับ CPU 6 Core แบ่งเป็น 4 Core ที่เป็นแกนที่เน้นการทำงานแบบไม่ได้เน้นแรง และ 2 Core จะเน้นความเร็วสูงกว่า มาพร้อมกับ GPU 4 Core และ Neural Engine ทั้งหมด 16 Core ขนาด 5 นาโนเมตร แต่สิ่งที่ iPhone 13 Pro จะได้แตกต่างกันคือ  GPU เพิ่มเป็นแบบ 5 Core

ส่วนปริมาณของทรานซิสเตอร์นั้นจะเพิ่มเป็น 11.8 พันล้านตัว ซึ่งเพิ่มมมากว่า A14 มากพอสมควร และทำให้สเปกการทำงานของเครื่องกำลังทั้งหมด 50% เมื่อเทียบกับคู่แข่ง และ GPU แรกกว่า 30% แต่ยังไม่มีการบอกว่าเทียบกับใคร

และนอกจากนี้ยังมีการเพิ่ม 15.8 trilion ops (ย่อมาจาก operations per second) ทำให้การคำนวณของ Machine Learning ที่ทำงานได้เร็วมากชึ้น และยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ iOS 15 อย่างเช่น Live Text ตอนถ่ายภาพและช่วยประมวลผลการถ่ายภาพได้ดีขึ้นอีกด้วย

เรียกได้ว่าสเปกของมันดีขึ้นกว่าเดิมแทบทุกทางแต่การใช้งานนั้นจะเป็นอย่างไรคงต้องรอติดตามกันต่อไปเมื่อได้ทดลองใช้งานจริง

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ทำความรู้จัก “เสาเข็ม” แต่ละประเภท ก่อนจะนำไปใช้งานโครงสร้างรากฐานของอาคาร

ปัจจุบันเสาเข็มเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ใช้พิจารณาในการสร้างอาคาร ซึ่งหลายคนอาจจะไม่ค่อยได้นึกถึงสักเท่าไร แม้ว่าจะส่งผลต่อการอยู่อาศัยในระยะยาว ด้วยเหตุที่เสาเข็มเป็นรากฐานสำคัญและเป็นตัวชี้วัดความแข็งแรงของอาคาร

วันนี้ BuilderNews จะพาไปทำความรู้จักเสาเข็ม แต่ละประเภทก่อนจะนำไปใช้งานโครงสร้างรากฐานของอาคาร

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเสาเข็ม

เสาเข็ม เป็นองค์ประกอบส่วนสำคัญที่สุดส่วนหนึ่งของอาคาร โดยทำหน้าเป็นตัวกลางในการถ่ายเทน้ำหนักของตัวอาคารลงสู่พื้นดิน ตั้งแต่หลังคา พื้น คาน เสา ตอม่อและฐานราก ลงสู่ชั้นดินตามลำดับ

จากบันทึกพบว่าแนวความคิดในการก่อสร้างด้วยเสาเข็ม เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อ 6,000 ปีก่อน ในยุคที่เรียกว่า Swiss Lake Dwellers ซึ่งเป็นพื้นที่หนึ่งของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในปัจจุบัน ผู้คนในยุคนั้นใช้เสาเข็มที่ทำมาจากไม้ ในการสร้างกระโจมที่พักอาศัย โดยยกระดับความสูงจากพื้นเพิ่มขั้นเพื่อป้องกันตัวเองจากสัตว์ป่า

ในยุคถัดมาชาวโรมันได้ใช้เสาเข็มที่ทำมาจากไม้ และหินในการก่อสร้างจำนวนมาก อาทิเช่น ที่พักอาศัย วิหาร และสะพาน และในปี ค.ศ. 1832 กระบวนการเก็บรักษาสภาพของไม้ได้เกิดขึ้นครั้งแรกในอังกฤษ โดยการฉีดสารเคมีเข้าไปในไม้ นี่เป็นช่วงเวลาที่เสาเข็มไม้ได้รับการพัฒนามากขึ้นอย่างก้าวกระโดด จนถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลาย

หลังจากที่ใช้เสาเข็มไม้มานาน หลังยุค ค.ศ. 1900 เป็นต้นมา จึงเริ่มมีการพัฒนาจากเสาเข็มไม้ เป็นเสาเข็มปูนเพิ่มมากขึ้น และเมื่อถึงยุคอุตสาหกรรม ระบบฐานรากเสาเข็มได้ถูกพัฒนาต่อยอดแตกแขนงออกมาอีกหลากหลายประเภท ตามความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น โดยมีการพัฒนากระบวนการผลิตเสาเข็มที่เป็นระบบ และมีความทันสมัย มาอย่างต่อเนื่องจวบจนถึงปัจจุบัน และเสาเข็มแบ่งออกได้ 6 ประเภท ดังนี้

เสาเข็มไม้ Timber Pile

เป็นเสาเข็มที่หาได้ง่าย มีน้าหนักเบา ราคาถูก และขนส่งสะดวก แต่มีความสามารถรับน้ำหนักค่อนข้างต่ำ
จึงจำเป็นต้องตอกเป็นกลุ่ม ส่งผลให้มีฐานรากมีขนาดใหญ่ ควรตอกให้ต่ำกว่าระดับน้ำใต้ดินเพื่อป้องกันการผุกร่อนจากปลวกและเห็ดรา

ปัจจุบันนิยมใช้เสาเข็มไม้สน และยูคาลิปตัส ตามท้องตลาดจะระบุขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเป็นนิ้วและความยาวเป็นเมตร เหมาะกับการนำไปใช้กับสิ่งปลูกสร้างที่มีขนาดเล็ก

เสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็ก Reinforced Concrete Pile

เป็นเสาเข็มหล่อในโรงงาน ที่ต้องออกแบบเหล็กเสริมตามยาวให้เพียงพอ เพื่อรับโมเมนต์ดัด จากการเคลื่อนย้าย และการตอก ปัจจุบันไม่นิยมมากนักเนื่องจากไม่ประหยัด จึงนิยมใช้เข็มคอนกรีตอัดแรงแทน

เสาเข็มเหล็ก Steel Pile

เป็นเสาเข็มที่ทำจากเหล็กทั้งท่อน มีความสามารถในการรับน้าหนักได้สูงกว่าเสาเข็มคอนกรีตและไม้ แต่มีราคาแพง ในปัจจุบันได้มีเทคโนโลยีเคลือบกันสนิมที่ซึมลงไปในเนื้อเหล็ก ติดตั้งได้เร็ว ไม่มีผลกระทบทางเสียง แรงสั่นสะเทือนน้อย สามารถถอนและเคลื่อนย้ายได้ง่าย นิยมใช้กับงานโครงสร้างชั่วคราวที่ต้องรับน้าหนักมากแต่ต้องทำการรื้อถอนในภายหลัง

เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง Prestressed Concrete Pile

เป็นเสาเข็มที่อาศัยเทคนิคการดึงลวดรับแรงดึงแล้วเทคอนกรีตลงในแบบ เมื่อคอนกรีตแข็งจนได้กำลังจึงทำการตัดลวดรับแรงดึง จึงทำให้เกิดแรงอัดในเสาเข็ม ซึ่งช่วยลดปัญหาการแตกร้าวของเสาเข็มได้ดีกว่าแบบอื่น ๆ

เสาเข็มประกอบ Composite Pile

เป็นเสาเข็มที่ประกอบด้วยวัสดุสองชนิดในต้นเดียวกัน จุดสำคัญของเสาเข็มชนิดนี้คือรอยต่อต้องแข็งแรง ทนทาน
และสามารถถ่ายน้ำหนักจากท่อนบนสู่ท่อนล่างได้เป็นอย่างดี

เสาเข็มเจาะคอนกรีต Bored Concrete Pile

เป็นเสาเข็มที่มุ่งเน้นให้เกิดผลกระทบต่ออาคารข้างเคียงจากการสั่นสะเทือนน้อยที่สุด สามารถทำความลึกได้มากกว่าเสาเข็มตอกและสามารถควบคุมตำแหน่งได้ดีกว่า แต่มีราคาสูงกว่าในกรณีรับน้ำหนักเท่ากัน

ปัจจุบันเสาเข็ม ยังคงถือว่าเป็นส่วนประกอบหลักของอาคารที่จะขาดไปไม่ได้ แต่ในอนาคตเสาเข็มจะถูกพัฒนาในด้านวัสดุส่วนประกอบ รูปแบบที่หลากหลาย ตลอดจนวิธีการติดตั้งที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ และยกระดับการใช้งานในด้านต่าง ๆ ให้สูงขึ้นตามยุคสมัย

ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 16/09/2564

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a27,850.0027,950.00
ทองรูปพรรณ 96.5%1,804.0027,348.6428,450.00
ทองรูปพรรณ 90%1,623.6024,613.78n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,443.2021,878.91n/a
ทองรูปพรรณ 50%812.0012,309.92n/a
ทองรูปพรรณ 40%631.009,565.96n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%1,869.0028,334.04n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 16/09/2564


ปตท.
ราคาน้ำมัน บางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9529.5529.5529.7529.5529.5529.5529.5529.5529.5529.55
แก๊สโซฮอล์ 9129.2829.2829.4829.2829.2829.2829.2829.2829.2829.28
แก๊สโซฮอล์ E2028.0428.0428.2428.0428.0428.0428.0428.0428.04
แก๊สโซฮอล์ E8522.5922.5922.59
เบนซิน 9536.9637.4137.4636.9636.96
ดีเซล B729.5929.5929.5929.5929.5929.5929.5929.5929.5929.59
ดีเซล26.5926.5926.5926.5926.5926.5926.5926.5926.5926.59
ดีเซล B2026.3426.3426.5426.3426.3426.3426.34
ดีเซลพรีเมี่ยม34.3634.3636.0435.7634.36
แก๊ส NGV15.4815.4815.48

About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า