SC บ้านหรู SOLD OUT ในวันเดียว 920 ล้าน ทำเลสุขุมวิท-ศรีนครินทร์
SC Asset ย้ำแบรนด์ผู้นำตลาดบ้านหรู พัฒนาภายใต้พันธกิจแบรนด์บ้านเดี่ยวอันดับ 1 ในใจผู้บริโภค ลุยเปิดโครงการใหม่ไตรมาส 4/65 ทุบสถิติ SOLD OUT โครงการบ้านระดับลักเซอรี่ “แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิท-ศรีนครินทร์” ตั้งแต่วันแรก สร้างยอดขายรวมกว่า 920 ล้านบาท
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 นายมงกุฎ เตโชฬาร หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านพัฒนาทรัพย์สินแนวราบ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แผนยุทธศาสตร์ลงทุนเปิดโครงการแนวราบทุกราคา ทุกทำเลศักยภาพ รองรับกำลังซื้อและความเชื่อมั่นของลูกค้าในเรื่องของแบรนด์และคุณภาพมาตรฐานสูง ทั้งสินค้าและการบริการก่อน-หลังการขาย ทุกโครงการพัฒนาภายใต้แนวคิด Human-Centric ตอบโจทย์การอยู่อาศัย
ล่าสุดสามารถปิดการขายคฤหาสน์หรูโครงการใหม่ แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิท-ศรีนครินทร์ ราคาเริ่มต้น 35-85 ล้านบาท ภายในเวลาเพียง 1 วัน สร้างยอดขายกว่า 920 ล้านบาท
ไฮไลต์อยู่ที่บ้านตัวอย่างราคาสูงกว่า 100 ล้านบาท ได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ โดยลูกค้ามีการ booking ล่วงหน้า นับเป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จของอีกหนึ่งโครงการ ภายใต้แบรนด์ แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ที่ได้รับการตอบรับที่ดีตลอดมา
รายละเอียด โครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิท-ศรีนครินทร์ ออกแบบเป็นคฤหาสน์หรู 2 ชั้น ตั้งอยู่บนพื้นที่โครงการรวม 8-3-29.8 ไร่ จำนวนจำกัด 17 ยูนิต แปลงที่ดินเริ่มต้น 82.1-189.9 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 439-780 ตารางเมตร
ฟังก์ชั่นบ้าน 4-5 ห้องนอน 5-6 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 3-5 คัน โดดเด่นทั้งดีไซน์ คุณภาพ ด้วยแรงบันดาลใจจาก Spanish Steps อิตาลี บนที่สุดของสังคมส่วนตัว พร้อมฟังก์ชั่นใหม่ Automatic Garage พื้นที่จอดรถภายในร่ม ที่สามารถรองรับถึง 4 คัน ช่วยถนอมเครื่องยนต์ สี รวมถึงป้องกันสิ่งต่าง ๆ ที่จะเข้าสู่ตัวรถได้ และยังมีระบบเปิด-ปิดประตูแบบบานเลื่อนขึ้น-ลงที่คล่องตัวด้วยระบบอัตโนมัติเพิ่มความสะดวกสบายให้สามารถเชื่อมสู่ภายในบ้านอย่างปลอดภัย
นอกจากนี้ ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน อาทิ คลับเฮาส์, Lobby, Coworking Space, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, Jacuzzi, Gym, Balcony, สวนสาธารณะ, รองรับการติดตั้ง EV Charger, ระบบ Active Air Quality และระบบรักษาความปลอดภัย กล้อง CCTV ทั่วโครงการ, เข้า-ออกโครงการด้วยระบบ Smart Gate (อ่านป้ายทะเบียน), สัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic & Shock Sensor ในตัวบ้าน, ระบบ Heat Detector และ Smoke Detector, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
“ภายในไตรมาส 4/65 เอสซีฯ วางแผนเปิดใหม่อีก 6 โครงการบ้านแนวราบ มูลค่าโครงการรวม 8,805 ล้านบาท มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี และทำผลงานได้ตามที่วางเป้าหมายไว้อย่างแน่นอน” นายมงกุฎกล่าวตอนท้าย
ขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net
เสนาเจ พร็อพเพอร์ตี้ เปิดตัว 3+1 เอ็มดีบุกเซอร์วิส-นิติบุคคล สู้ศึกอสังหาปี66
“SENA Group” เตรียมยกเครื่อง 3 ระดับขั้นสุดสู่ธุรกิจองค์รวมแบบยั่งยืน ผ่านโรดแมป Core Business ลั่นพลิกฟื้น “SENA J Property” อุ้มข้ามวิกฤติ พร้อมปั้นบิสซิเนสใหม่สู่เมกะเทรนด์โลก ธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ – ธุรกิจบ้านมือสอง – ศูนย์เนอร์สซิ่งโฮม (Nursing Home) -ธุรกิจนายหน้าอสังหาฯ บุกเบิกตลาดบ้าน Niche High End 15 – 20 ล้านบาท วางหมุดหมายปีละ 1 -2 โครงการ
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทางบริษัทเสนาดีเวลลอปเม้นท์ ได้มีการปรับยุทธศาสตร์ธุรกิจแบบองค์รวม โดยวางเป้าหมายของ “SENA Group” พร้อมเป็น “แม่ยก” ผลักดันธุรกิจในเครือให้ครอบคลุม เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ผ่านแกนหลัก 3 แม่ยก 1.ยกระดับองค์กรให้ก้าวทันโลกแห่งอนาคต 2.ยกระดับทุกธุรกิจในเครือให้เติบโตอย่างยั่งยืน และ 3.ยกระดับคุณภาพชีวิตในทุกมิติอย่างยั่งยืน
โดยมีการปรับโครงสร้างผู้บริหาร และเปิดตัวบริษัทลูก ประกอบด้วย 1. นายจตุรงค์ สัจจะนรพันธ์ และนางสาวธิดารัตน์ พัฒน์ทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส.เจ.เฮลธ์แคร์ จัดกัด 2.นางกมลภัทร แสวงกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนา ชัวร์ จำกัด 3.นายเหรียญชัย เบญจาศุภวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัทวิคตอรี่ แมเนจเม้นท์ เซอร์วิส จำกัด
ทั้งนี้ เสนาฯ วางแผนการดำเนินงานภายใต้คอนเซ็ปต์ 3 แม่ยก เพื่อยกระดับเป้าหมายให้บรรลุและเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ดังนี้
1.ยกจากจุดเริ่มต้น “SENA Group” ดำเนินธุรกิจมากว่า 40 ปี พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยเพื่อขาย ได้แก่ บ้านเดี่ยว ทาวเฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ ทาวน์โฮม และอาคารชุด, ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่า ได้แก่ อพาร์ทเม้นท์ให้เช่า ธุรกิจอาคารสำนักงาน ธุรกิจสนามกอล์ฟ ธุรกิจไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ธุรกิจบริหารงานนิติบุคคล ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่พักอาศัย เป็นต้น
2.ยกสถานการณ์ปัจจุบัน “SENA Group” วางธุรกิจหลัก (Core Business) เพื่อให้ธุรกิจสามารถเชื่อมโยงและสอดรับกับบริษัทในเครือ ปัจจุบันได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจของทั้งกลุ่มบริษัท โดยบริษัท เสนาเจ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ SENAJ จะเน้นการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เฉพาะกลุ่ม (Niche High End market) ในกลุ่มลูกค้าระดับสูง รวมถึงผลักดันการขยายบริการด้านที่อยู่อาศัยอย่างครอบคลุมและคุ้มค่ามากที่สุด
โดยวางเป้าหมายและโจทย์สำคัญมุ่งสู่ธุรกิจเมกะเทรนด์ (New Mega Trends) ของโลก เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยความละเอียดใส่ใจ และจริงจังในการสร้างสังคมที่ยั่งยืน “To be the ultimate real estate multi-services company.” ทั้งความยั่งยืนในการประกอบธุรกิจที่เป็นมิตรต่อโลก (Sustainability) ,สังคม, สุขภาพ, สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี เป็นต้น
3.ยกระดับเพื่ออนาคตสู่ความยั่งยืน โดย SENAJ ตั้งเป้าโตแบบก้าวกระโดดพร้อมเป็นหัวหอกหลักการดำเนินขยายการลงทุนเพิ่มในธุรกิจตามเมกะเทรนด์โลก ประกอบด้วย
3.1 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย โดยพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่องตามแผนงาน ขยายฐานการพัฒนาโครงการบ้าน Niche High End ระดับราคา 15 -20 ล้านบาท วางแผนเปิดปีละ 1- 2 โครงการ นอกจากนี้ ได้ร่วมทุนกับพันธมิตรประเทศญี่ปุ่น ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป พัฒนาคอนโดมิเนียมร่วมกัน
3.2 ธุรกิจบริหารนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม (Property Management) ปัจจุบันรับบริหารนิติบุคคล 97 โครงการ ตั้งเป้าภายใน 3 ปี ขึ้นแท่นสู่ Top 5 ครอบคลุมโครงการรับบริหารรวม 168 โครงการ
3.3 สถานดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยระยะฟื้นตัว (Nursing Home) ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาร่วมกับทางบริษัทญี่ปุ่นพัฒนาโครงการในอนาคต
3.4 ธุรกิจอสังหาฯให้เช่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินงาน 2 แห่ง คือ ตลาดแพรกษา และ สำเพ็ง 2
3.5 ธุรกิจขายบ้านมือสอง โดยบริษัท เสนา ชัวร์ จำกัด รับซื้อทรัพย์บ้านมือสองและนำมาปรับปรุงตกแต่งให้อยู่ในสภาพที่ดีเพิ่มมูลค่าและพร้อมขาย ตอบโจทย์ผู้บริโภคมองหาที่อยู่อาศัยใกล้เมือง ราคาจับต้องได้ ตั้งเป้าภายใน 3 ปีสู่ Top 5 ผู้นำตลาดบ้านมือสอง
3.6 ธุรกิจนายหน้าอสังหาฯ (ธุรกิจโบรกเกอร์อสังหาฯ) โดย SENAJ มีแผนเข้าซื้อหุ้นบริษัทย่อยของ SENA “แอคคิวท์ เรียลตี้” เพื่อให้บริการนายหน้าขายและให้เช่า ครอบคลุมบริหารการขายโครงการ และให้บริการที่ปรึกษา และการเช่าอสังหาฯ ภายในกลุ่มของ SENA และ SENAJ เป็นต้น
อย่างไรก็ตามการขับเคลื่อนธุรกิจครั้งสำคัญนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับธุรกิจหลักและเกื้อหนุนธุรกิจในเครือ นับเป็นการส่งเสริมจุดแข็งและสร้างความโดดเด่นทางการแข่งขันในโลกธุรกิจ รวมถึงการคิดละเอียดและใส่ใจในทุกมิติทำให้ “SENA Group” และบริษัทในเครือ พร้อมยกระดับการเติบโตให้แข็งแกร่งและยั่งยืนต่อไปได้ในอนาคต
ขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net
เงินบาทเปิดเช้าวันนี้ ที่ระดับ 35.85 บาทต่อดอลลาร์
เงินบาทยังมีแรงกดดันฝั่งอ่อนค่า จากแนวโน้มนักลงทุนต่างชาติทยอยขายทำกำไรสินทรัพย์ไทย คาดแนวต้านจะอยู่ในโซน 36.00 ซึ่งผู้ส่งออกรอทยอยขายเงินดอลลาร์และสกุลเงินต่างประเทศ
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.85 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.91 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทยระบุว่าแนวโน้มค่าเงินบาท เรายังคงมองว่า แรงกดดันฝั่งอ่อนค่าต่อเงินบาทเริ่มเพิ่มมากขึ้น ท่ามกลางภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงิน ที่หนุนให้เงินดอลลาร์ทยอยกลับมาแข็งค่าขึ้น
นอกจากนี้ ในฝั่งของฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ เราเห็นแรงขายทำกำไรจากนักลงทุนต่างชาติมากขึ้นจากหุ้น บอนด์และค่าเงิน ซึ่งแนวโน้มนักลงทุนต่างชาติทยอยขายทำกำไรสินทรัพย์ไทย ก็อาจเป็นปัจจัยกดดันเงินบาทให้อ่อนค่าลงได้บ้างในระยะสั้น
นอกจากนี้ การปรับตัวลดลงของราคาทองคำ อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วน รอเข้าซื้อทองคำ ในจังหวะย่อตัว โดยเฉพาะ หากราคาทองคำ ปรับตัวลงใกล้โซนแนวรับ ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำ อาจเป็นแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าต่อเงินบาทได้
อนึ่ง แม้ว่า เงินบาทอาจเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าต่อ แต่เราประเมินว่าแนวต้านของเงินบาทจะอยู่ในโซน 36.00 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเราประเมินว่าบรรดาผู้ส่งออกส่วนใหญ่ต่างรอทยอยขายเงินดอลลาร์และสกุลเงินต่างประเทศในโซนดังกล่าว
ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ผันผวนสูงในช่วงที่ผ่าน ทำให้เราคงแนะนำ ผู้ประกอบการควรใช้กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้ Options ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงได้ดีในช่วงที่ตลาดผันผวนหนัก
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.75–36.00 บาท/ดอลลาร์
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เผชิญแรงขายทำกำไรต่อเนื่อง หลังจากที่ บรรดาเจ้าหน้าที่เฟดสาย “Hawkish” ต่างออกมาสนับสนุนการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องของเฟด เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงมาก ซึ่งมุมมองดังกล่าว ได้กดดันให้ผู้เล่นในตลาดเดินหน้าขายทำกำไรหุ้นกลุ่มเทคฯ และหุ้นสไตล์ Growth ที่อ่อนไหวกับทิศทางดอกเบี้ยเฟด ส่งผลให้ ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ย่อตัวลง -0.35% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดตลาด -0.31%
ทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ของยุโรป ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง -0.42% กดดันโดยแรงเทขายหุ้นกลุ่มเทคฯ และหุ้นสไตล์ Growth เช่นเดียวกันกับในฝั่งสหรัฐฯ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรป ยังถูกกดดันจากแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน ตามการปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบ ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของ COVID -19 ในจีนที่ยังน่ากังวล และแนวโน้มเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง
ส่วนในฝั่งตลาดบอนด์ แนวโน้มเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง เพื่อคุมปัญหาเงิเเฟ้อให้สำเร็จ ได้กลับมาหนุนให้ บอนด์ยีลด์ในฝั่งสหรัฐฯ ต่างปรับตัวสูงขึ้น โดยบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ พลิกกลับมาปรับตัวขึ้น สู่ระดับ 3.77% สอดคล้องกับมุมมองของเรา ที่แนะนำว่า นักลงทุนไม่ควรไล่ราคาซื้อบอนด์ระยะยาวในจังหวะที่ยีลด์ปรับตัวลดลง
และควรรอจังหวะที่บอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้นในการทยอยซื้อ เพื่อเตรียมพอร์ตการลงทุนในพร้อมรับมือแนวโน้มเศรษฐกิจชะลอตัวหนักในปีหน้า ซึ่งเรามองว่า ยังมีความเสี่ยงที่บอนด์ยีลด์ระยะยาวจะปรับตัวสูงขึ้นได้ หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ข้อมูลตลาดแรงงาน หรือ ข้อมูลเงินเฟ้อ ยังคงสนับสนุนแนวโน้มเฟดขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องจนอาจเกินระดับ 5% และจุดที่จะทำให้ผู้เล่นในตลาดมั่นใจแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด คือ การประชุมเฟดเดือนธันวาคม ซึ่งเฟดจะประกาศคาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบาย หรือ Dot Plot ใหม่
ในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ท่ามกลางภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาด และแนวโน้มเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง หนุนให้ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) รีบาวด์ขึ้นสู่ระดับ 106.7 จุด นอกจากนี้ การแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ และการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ได้กดดันให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค.) ย่อตัวลงสู่ระดับ 1,762 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจอังกฤษ ผ่านรายงาน ยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนตุลาคม ส่วนในฝั่งเอเชีย ตลาดจะรอจับตา รายงานข้อมูลเงินเฟ้อ CPI ของญี่ปุ่น ซึ่งหากเงินเฟ้อมีทิศทางเร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง ก็อาจสนับสนุนให้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เริ่มส่งสัญญาณใช้นโยบายการเงินที่ตึงตัวมากขึ้นในอนาคตได้
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
สเปน เรียงหน้ายิง จอร์แดน 3-1 อุ่นเครื่องก่อนบอลโลก
ทีมชาติสเปน เรียกความมั่นใจก่อนลงสนามนัดแรกในฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการอุ่นเครื่องเอาชนะ จอร์แดน 3-1
ศึกฟุตบอลอุ่นเครื่อง เที่สนาม อัมมาน อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดียม ทีมชาติจอร์แดน เปิดบ้านรับการมาเยือนของ “กระทิงดุ” ทีมชาติสเปน ที่กำลังเตรียมความพร้อมก่อนลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่กาตาร์
เอ็นริเก้ จัด 4-3-3 ซานเชซ ได้ลงเฝ้าเสา คู่เซ็นเตอร์เป็น เปา จับคู่ การ์เซีย โดย ลาปอร์ต ยืนแบ็คซ้าย ส่วนแบ็คขวาเป็น คาร์บาฆาล แดนกลางมี โกเก้, โซแลร์, กาบี ริมเส้นใช้ ซาราเบีย กับ ฟาติ โดยมี อเซนซิโอ้ ยืนกองหน้าจำเป็น
ผลปรากฏว่า สเปน บุกมาเอาชนะ จอร์แดน ไป 3-1 โดย สเปน ได้ประตูจาก อันซู ฟาติ นาทีที่ 12, กาบี นาทีที่ 57 และ และ นิโก วิลเลียมส์ ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง ในนาทีที่ 84
ส่วน จอร์แดน ได้จาก ฮัมซา อัล-ดาราเดรห์ นาทีที่ 90+2
สำหรับ ทีมชาติสเปน มีโปรแกรมประเดิมนัดแรกในศึกฟุตบอลโก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มอี พบกับ คอสตาริกา วันที่ 23 พ.ย. นี้
ผลคู่อื่นๆ
เปรู 1-0 ปารากวัย
นิการากัว 1-0 เอลซัลวาดอร์
กานา 2-0 สวิตเซอร์แลนด์
แองโกลา 1-0 บอตสวานา
ญี่ปุ่น 1-2 แคนาดา
ทาจิกิสถาน 0-0 รัสเซีย
จอร์แดน 1-3 สเปน
ซีเรีย 0-1 เบลารุส
รวันดา 0-0 ซูดาน
โมร็อกโก 3-0 จอร์เจีย
โรมาเนีย 1-2 สโลวีเนีย
นอร์ท มาซิโดเนีย 1-1 ฟินแลนด์
มอนเตเนโกร 2-2 สโลวาเกีย
มอลตา 2-2 กรีซ
อิสราเอล 4-2 แซมเบีย
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
8 สัญญาณอันตราย “โรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง SLE ลูปัส หรือโรคพุ่มพวง”
โรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง SLE ลูปัส หรือโรคพุ่มพวง ไม่ใช่โรคใหม่ หรือเพิ่งมาฮิตมาบูมกันตอนนี้ เป็นโรคที่มีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยในประเทศไทย รวมถึงต่างประเทศด้วย ที่น่าแปลกคือคนดังหลายคนป่วยเป็นโรคนี้ ทั้งนักร้องพุ่มพวง ดวงจันทร์ ที่ทำให้คนไทยรู้จักกับโรคนี้ หรือจะเป็นสาวเซเลน่า โกเมซ ศิลปินขวัญใจวัยรุ่นชาวอเมริกันที่ต้องพักงานไปนานเพื่อรักษาตัว (อ่านต่อ >> โดนัท มนัสนันท์ ป่วยโรคพุ่มพวง รักษาตัวนานกว่า 6 เดือนแล้ว) และอาจไม่รู้ตัวเพราะสัญญาณ และอาการขึ้นมันเล็กน้อยจนทำให้เราไม่วิตกกังวล แต่อันที่จริงสัญญาณเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้นี่แหละที่นำไปสู่โรคที่อันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิตได้หากไม่รีบเข้ารับการรักษา
โรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง เป็นอย่างไร?
โรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง SLE ลูปัส หรือโรคพุ่มพวง เป็นโรคที่เกิดจากภาวะที่ร่างกายสร้างสารภูมิคุ้มกันต้านทานผิดปกติ โดยเข้าไปต่อต้านเนื้อเยื่อ หรืออวัยวะต่างๆ ในร่างกาย เป็นผลทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังในบริเวณนั้น
ใครที่เสี่ยงเป็นโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง?
แม้ว่าโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง เอสแอลอี หรือลูปัส จะไมได้พบกันบ่อยๆ แต่ก็พบได้เรื่อยๆ พบได้ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงอายุ แม้ว่าจะหาสาเหตุที่แท้จริงไม่ได้ แต่ก็มีปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติอยู่หลายประการ
– พบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย
– ความผิดปกติจากพันธุกรรม (ชนิดที่ถ่ายทอดได้)
– ติดเชื้อจากแบคทีเรีย หรือไวรัสบางชนิด
– มีอาการแพ้กับสิ่งต่างๆ
– สูบบุหรี่
– ผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาป้องกันการชัก ยาคุมกำเนิด ยาลดน้ำหนักบางชนิด
– เครียด ทำงานหนัก ออกกำลังกายมากเกินไป
อาการของโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง
สัญญาณอันตรายที่เป็นอาการเริ่มต้นของโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง มีหลากหลายอาการขึ้นอยู่กับบริเวณที่เกิดความผิดปกติจนมีอาการอักเสบในระยะแรก ไปจนถึงระยะเรื้อรังที่อาจเริ่มเกี่ยวพันกับอวัยวะส่วนอื่นๆ
- อาการผิดปกติทั่วไปที่หาสาเหตุไม่ได้ เช่น ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ผอมลง
- อาการทางผิวหนัง เช่น มีผื่นแดง มักขึ้นบริเวณใบหน้า ช่วงตรงกลาง และโหนกแก้มทั้งสองข้าง รูปร่างคล้ายผีเสื้อ และอาจมีอาการผมร่วงด้วย
- อาการปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ อาจไม่มีอาการบวมแดง แต่ปวดได้ทุกส่วนที่มีข้อ เช่น ข้อเข่า ข้อเท้า ข้อมือ ข้อนิ้ว
- อาการทางปอด เช่น เจ็บหน้าอก ไอ ปอด เยื่อหุ้มปอดอักเสบ มีน้ำในปอด เหนื่อยง่าย เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ไปจนถึงหัวใจเต้นผิดปกติ
- อาการทางระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง เบื่ออาหาร
- อาการทางไต ความดันโลหิตสูง เช่น ขาบวม จากการบวมน้ำ
- อาการทางระบบโลหิต เช่น โลหิตจาง ภาวะซีด ความดันโลหิตต่ำ เม็ดเลือดขาวต่ำ เกล็ดเลือดต่ำ หลอดเลือดอักเสบ อาจจะพบเป็นจุดแดงๆ เล็กๆ ทั่วตัวคล้ายไข้เลือดออก
- อาการทางระบบประสาท เช่น มีอาการชักโดยไม่ทราบสาเหตุ แขนขาอ่อนแรง ไม่มีสมาธิ เครียด นอนไม่หลับ ซึมเศร้า วิตกกังวล มีปัญหาในการจำ สับสน เห็นภาพหลอน โดยอาจเป็นผลข้างเคียงมาจากอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบอีกทีได้
การรักษาโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง
แพทย์จะพยายามควบคุมโรคให้สงบด้วยการให้ทานยา ทำการรักษาตามอาการที่พบ และติดตามอาการไปเรื่อยๆ จนกว่าอาการจะสงบ หากเข้ารับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จะยิ่งทำให้แพทย์ทำการรักษา และควบคุมอาการได้ดีขึ้น จนไม่มีอะไรต้องน่ากลัว หรือถึงขั้นเสี่ยงเสียชีวิต
วิธีป้องกันโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง
เป็นที่น่าเสียดายที่โรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเองไม่มีวิธีป้องกันได้ 100% แต่ก็มีวิธีที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคนี้ได้ด้วยการดูแลรักษาร่างกายของตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายเป็นประจำ พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียดจนเกินไป รักษาสุขอนามัยของตัวเองให้สะอาด ลดโอกาสในการติดเชื้อ และปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนทานยาอะไรเป็นประจำ
นอกจากนี้ผู้ป่วยโรคนี้ก็ควรปฏิบัติตนเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และพบแพทย์ตามเวลาที่นัดหมายทุกครั้ง เพื่อให้การติดตามอาการ การควบคุมอาการของโรคเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
วันนี้เรามารู้จักกับประโยคเงื่อนไขแบบที่ 1 กัน – “First conditional”
Conditionals are sentences with two clauses – an ‘if clause and a result clause – that are closely related.
ประโยคเงื่อนไขเป็นประโยคที่ประกอบด้วยสองส่วนที่มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดคือส่วนที่เป็นเหตุ ( if clause) และส่วนที่เป็นผล (result clause)
โครงสร้าง:
If + present simple and will + infinitive
If + กริยาช่องที่ 1 และ will + กริยาแท้
ใช้เมื่อไหร่:
เราใช้ประโยคเงื่อนไขแบบที่หนึ่งนี้เมื่อเราพูดถึงเหตุการณ์ที่เป็นจริงหรือเหตุการณ์ที่เป็นไปได้
ตัวอย่าง:
I’ll go shopping on the way home if I have time.
(ฉันจะช้อปปิ้งระหว่างทางกลับบ้านถ้าฉันมีเวลา)
If it’s a nice day tomorrow we’ll go to the beach.
(ถ้าพรุ่งนี้อากาศดีเราจะไปเที่ยวชายหาดกัน)
If Arsenal win they’ll be top of the league.
(ถ้าอาเซนอลชนะพวกเขาจะเป็นลำดับต้นของลีค)
ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th
การนอนมีปัญหาใช่ไหม? เจอเทคโนโลยีตัวช่วยหน่อยเป็นไง!
เชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้ดีว่า “การนอน” เป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุดสำหรับร่างกาย เนื่องจากร่างกายก็ต้องการการพักผ่อนที่เพียงพอและสมดุลในทุก ๆ วัน แต่ถึงจะรู้อย่างนี้ ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่ให้ความสำคัญกับการนอนเท่าที่ควร โดยเฉพาะในคนที่อายุยังไม่มาก ซึ่งอาจไม่รู้สึกว่าการอดนอนไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะร่างกายไม่มีปฏิกิริยาอะไรกับการที่นอนไม่พอหรือไม่ได้นอน บางคนคิดว่าเป็นการชาเลนจ์ตัวเองด้วยซ้ำ เนื่องจากร่างกายยังรับไหว แต่นั่นไม่ใช่ความคิดที่ดี เหมือนการฆ่าตัวตายอย่างช้า ๆ มากกว่า
ในขณะที่มีคนอีกกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับการนอน แต่ปัญหาคือ นอนไม่หลับ ซึ่งเป็นเรื่องน่าหนักหน่วงสำหรับใครหลายคน ทั้งน่ารำคาญทั้งทรมาน โดยอาการผิดปกติเหล่านี้เกิดขึ้น 30-50 เปอร์เซ็นต์ของประชากรของโลก โดยสมองและร่างกายของคนเราจะใช้ช่วงเวลาในขณะที่หลับอยู่เพื่อซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ให้ดีขึ้น แต่อาการนอนไม่หลับจะส่งผลให้ประสิทธิภาพการใช้ชีวิตประจำวันของคุณลดลงและปัญหาอื่น ๆ นำไปสู่ปัญหาสุขภาพหลายอย่าง การนอนหลับไม่เพียงพอจึงส่งผลเสียต่อร่างกายของเรามากกว่าที่คิด
ในเมื่อการนอนหลับเป็นปัจจัยหลักของสุขภาพที่ดี เป็นปัจจัยชี้วัดสุขภาพ คุณภาพการนอนหลับในแต่ละคืนก็เป็นสิ่งสำคัญด้วย ไม่เพียงแต่ส่งผลให้ร่างกายมีพลังงานที่พร้อมจะทำกิจกรรมต่าง ๆ ในแต่ละวัน แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพจิตและอารมณ์ระหว่างวันของด้วย แต่การแก้ปัญหาด้วยการพึ่งพวกยานอนหลับ ยาก็มักทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมา ทำให้อาจถึงเวลาแล้วที่เราต้องลงทุนอะไรบางอย่างเพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับการนอน โชคดีที่ยุคสมัยนี้มีสิ่งที่เรียกว่า “เทคโนโลยี” บางอย่างถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาการนอน และปรับปรุงสุขภาพของผู้ที่มีปัญหา
หมอนสลบเหมือด
อาจพูดว่า “หมอน” เป็นเครื่องนอนที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ ถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่จำเป็น บางคนสามารถนอนกับพื้นแข็ง ๆ ได้ แต่ขอมีหมอนหนุนหัวดี ๆ สักใบก็พอ ดังนั้น เรื่องของหมอนจึงเป็นอะไรที่ควรค่าแก่การลงทุน เพราะมันไม่ใช่แค่ใช้หนุนนอนให้นอนหลับฝันดีแล้วเรื่องจบ แต่มันยังเกี่ยวข้องกับสรีระร่างกาย หมอนที่ดีต้องรองรับอวัยวะอย่างศีรษะ คอ บ่า ไหล่ รวมถึงหลังอย่างไรถึงจะดีต่อสุขภาพ ไม่เช่นนั้นก็อาจจะตื่นนอนมาแล้วปวดต้นคอ ตึงบ่า รวมถึงรู้สึกนอนไม่พอ เนื่องจากการนอนที่ไม่สบายตัวอาจทำให้เราหลับไม่สนิทนั่นเอง
ไม่นานมานี้ มีหมอนหนุนนอนที่ใช้ชื่อเรียกกระแสทางการตลาดว่า “หมอนสลบเหมือด” ซึ่งเป็นหมอนที่ทางแบรนด์โฆษณาว่าช่วยให้หลับง่าย นอนสบาย ด้วยรูปทรงการออกแบบ วัสดุที่ใช้ และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง มีส่วนช่วยเรื่องของการนอนจริง ๆ เช่น การใช้วัสดุเมโมรีโฟมผสมถ่านไม้ไผ่ ทำให้หมอนสามารถเปลี่ยนรูปทรงให้สอดรับกับสรีระร่างกายขณะนอนได้ เวลานอนลงไปจะช่วยกระจายน้ำหนักกดทับ โอบรับศีรษะและช่วงคอ บ่า ไหล่ ของเราได้เป็นอย่างดี จึงช่วยลดอาการปวดคอ บ่า ไหล่ หลังตื่นนอนตอนเช้าได้ นอกจากนี้บางรุ่นยังมีการใช้เจลเย็น หรือเทคโนโลยีที่ช่วยเรื่องการระบายอากาศ ลดแบคทีเรีย ทำความสะอาดตัวเองได้ เป็นต้น
ท็อปเปอร์รองนอน
สำหรับใครหลายคน ไม่ใช่แค่หมอนที่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับการนอน แต่ที่นอนก็มีส่วนสำคัญมากในการนอนเช่นกัน ทว่าการเปลี่ยนที่นอนใหม่หรือเปลี่ยนเตียงใหม่ บางทีมันก็อาจจะเป็นเรื่องใหญ่เกินไป และราคาของที่นอนใหม่ก็ไม่ใช่ถูก ๆ ดังนั้น แทนที่จะเปลี่ยนของใหญ่ ๆ และจ่ายราคาสูง บางคนก็มีตัวเลือกที่จะซื้ออุปกรณ์เสริมในราคาเป็นมิตรกว่า “ท็อปเปอร์” หรือแผ่นรองนอนที่เราใช้ปูทับลงบนที่นอนเพื่อเพิ่มความหนา เพิ่มการรองรับสรีระ และเพิ่มการรองรับแรงกระแทก โดยจะทำให้ที่นอนเดินของเราหนานุ่มและยืดหยุ่นกว่าการใช้ที่นอนเพียงอย่างเดียว และจะช่วยให้เรารู้สึกสบายในการพักผ่อนและเสริมการรองรับสรีระร่างกายได้มากขึ้นด้วย
ปัจจุบัน ท็อปเปอร์กลายเป็นสินค้าที่เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น บ้างก็ว่าเป็นหนึ่งในสินค้าเพื่อสุขภาพในการนอนหลับ ตัวท็อปเปอร์ในตลาดมีหลากหลายวัสดุ แถมยังมีความหนา ความแน่น และความนุ่มให้เลือกหลายแบบ เทคโนโลยีก็เป็นเรื่องของการออกแบบและการใช้วัสดุให้รองรับการนอน ไม่ว่าจะนอนตะแคง นอนหงาย หรือนอนคว่ำ การกระจายน้ำหนักและการดูดซับแรงกดทับของร่างกายตามหลักสรีรศาสตร์ รวมถึงการเก็บความร้อน การทำความสะอาด การป้องกันไรฝุ่นหรือเชื้อแบคทีเรีย เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถนอนหลับได้สนิทตลอดคืน ไร้ปัญหาเรื่องภูมิแพ้ และลดอาการปวดเมื่อยร่างกายหลังตื่นนอน
หลอดไฟอัจฉริยะ สั่งการเปิด-ปิดด้วยแอปฯ มือถือ
แม้ว่าเทคโนโลยีอุปกรณ์อัจฉริยะที่สั่งการเปิด-ปิดระยะไกลด้วยมือถือได้จะดูไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่อะไรเท่าไร แต่การนำมาประยุกต์ใช้กับหลอดไฟหรือโคมไฟ ก็ถือว่าเป็นอะไรที่ทำให้เราสามารถใช้ชีวิตกันได้ง่ายและสะดวกขึ้นเยอะ ในจุดนี้ มันช่วยแก้ปัญหาจังหวะนรกในการลืมปิดไฟนั่นเอง บางคนขึ้นที่นอนไปแล้วด้วยอาการสะลึมสะลือ แต่ดันลืมปิดไฟ การต้องย้อนลุกเดินมาปิดไฟนี่แหละที่ขัดจังหวะการนอนแบบสุด ๆ ใจอยากให้ห้องมืดสนิทจะได้นอนหลับได้ดี ๆ ก็พลาดตาสว่างก็เพราะจังหวะนี้ กว่าจะกล่อมตัวเองให้ง่วงอีกครั้งหรือข่มตานอนได้น่าหงุดหงิดชะมัด
ในขณะที่หลอดไฟหรือโคมไฟอัจฉริยะ สามารถควบคุมการเปิด-ปิดไฟผ่านแอปฯ ในโทรศัพท์มือถือได้ มันจึงสะดวกมาก ตรงที่ทำให้เราสั่งการเปิด-ปิดไฟจากมือถือได้เลยเพียงแค่เข้าแอปฯ และเปิดใช้งานอินเทอร์เน็ตอยู่ ดังนั้น ปัญหาการขึ้นเตียงนอนแล้วลืมปิดไฟก็จะหมดไป เราก็แค่พยายามถ่างตาเปิดกดเปิดแอปฯ (เพราะคนส่วนใหญ่จะมีมือถือคามืออยู่ในเวลานั้น) แล้วกดปิดไฟ ไฟก็จะดับลง เราก็ล้มตัวลงนอนต่อได้อย่างสบาย ๆ ทำให้เราปิดไฟนอนได้โดยไม่ต้องเสี่ยงตาสว่างลุกเดินไปปิดไฟจนอาจหลับไม่ได้ทั้งคืนอีกต่อไป
แหวนติดตามคุณภาพการนอน
สมัยนี้เป็นอะไรที่ฮอตฮิตมาก กับอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ใช้ในการติดตามคุณภาพการนอนหลับ เพราะความรู้ใหม่สำหรับใครหลายคนเมื่อไม่นานมานี้ คือการที่คนเรานอนหลับ ไม่ได้แปลว่าเรานอนได้คุณภาพ หลายคนจึงสงสัยเรื่องคุณภาพการนอนของตัวเองว่าเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้น อุปกรณ์อะไรที่เขาว่าดีก็ไปหามาใช้ แต่เพราะนิสัยการนอนของคนเราไม่เหมือนกัน บางคนพอมีอุปกรณ์พวกนี้มาอยู่บนข้อมือหรือวางไว้ใกล้ ๆ หัวนอน จากที่เคยนอนหลับปกติกลายเป็นว่าเอาจิตใจไปโฟกัสที่อุปกรณ์เหล่านั้นจนตื่นเต้นและนอนไม่หลับเสียได้ และก็ต้องยอมรับว่าการสวมใส่นาฬิกาเข้านอนนั้นมันไม่สบายตัวเท่าไรนัก มันรู้สึกหนักและถ่วง หลายคนจึงใส่ ๆ ถอด ๆ สถิติก็ไม่แน่นอนอีก
เพราะฉะนั้น มันจึงน่าจะมีอุปกรณ์ที่เล็กว่าและเบาตัวกว่ามาใช้งาน ซึ่งเทคโนโลยีก็มาถึงจุดที่ทำให้ใครหลายคนตะโกนว่าพอกันทีกับการสวมใส่นาฬิกาเข้านอน เพราะอุปกรณ์ตรวจจับคุณภาพการนอนชิ้นใหม่เป็นเพียงแหวนวงเล็ก ๆ เท่านั้น ฟังก์ชันการทำงานก็ไม่ได้ต่างอะไรจากสมาร์ตวอตช์ที่คุ้นเคย สามารถสวมใส่ติดนิ้วได้ทั้งวันทั้งคืน เหมือนกับแหวนแฟชั่นทั่วไป วัดค่าต่าง ๆ ของสุขภาพรวมถึงพฤติกรรมการนอนอย่างไม่มีสะดุด แถมเป็นนาฬิกาปลุกได้อีกต่างหาก สวมใส่ง่าย ถอดง่าย ใช้งานสะดวก เพียงแค่ทำการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนแบบเดียวกันกับสมาร์ตวอตช์เลย ผลลัพธ์ต่าง ๆ ก็จะแสดงทางแอปฯ บนสมาร์ตโฟนเช่นกัน
อุปกรณ์กล่อมนอน ช่วยเรื่องการนอนหลับของคนนอนไม่หลับ
ปัญหานอนไม่หลับ เป็นความทุกข์ทรมานอย่างหนึ่งที่ถ้าใครไม่เคยเจอก็ไม่มีวันเข้าใจ ทั้งเสียเวลา เสียอารมณ์มาก ๆ ที่ต้องนอนพลิกไปพลิกมาเท่าไรก็ไม่หลับ นับจำนวนแกะจนไม่รู้จะนับยังไงแล้ว ก็ได้แต่ลืมตาโพลงอยู่แบบนั้นทั้งคืน พยายามหาอะไรมากล่อมนอนก็ไม่ได้ผล บางคนยานอนหลับก็ยังช่วยไม่ได้ด้วยซ้ำไป ทำให้บางทีเราอาจจำเป็นต้องพึ่งพาพวกเทคโนโลยีที่สร้างขึ้นมาด้วยองค์ความรู้เรื่องการนอนหลับเสียแล้ว แบบว่าแสงสว่างที่เหมาะสม หรือคลื่นเสียงที่มีผลทำให้สมองสงบ รู้สึกง่วงเหงาหาวนอน อะไรทำนองนี้
อุปกรณ์ตัวนี้มีชื่อว่า Dodow นวัตกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการศึกษาวิจัยเรื่องการนอนจำนวนมากกว่า 13,000 ชิ้น ซึ่งค้นพบว่ามีความสอดคล้องกับสุขภาพหัวใจ หากนอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะช่วยให้เราจัดการความเครียดและอารมณ์ในด้านลบได้ หัวใจก็ทำงานเป็นปกติ แต่ปัญหาคือนอนไม่หลับ ก็ไม่ต้องกังวล เพราะอุปกรณ์ตัวนี้จะกล่อมให้เรานอนด้วยเทคโนโลยีบลูไลต์ แสงสีฟ้าอ่อนนี้จะทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลาย อุปกรณ์จะส่องแสงออกมา เราทำแค่เพียงหายใจเข้าและออกตามจังหวะของแสง ซึ่งมันจะคล้ายกับการทำสมาธิกำหนดลมหายใจเข้าออกนั่เอง เมื่อจังหวะการหายใจเราคงที่ ช้า ๆ สม่ำเสมอ แค่ 8 นาทีเท่านั้น เราก็เข้าสู่ห้วงนิทราได้แล้ว
ขอบข้อมูลจาก sanook.com
“การออกแบบ คือ เสียงสะท้อนของผู้บริโภค” สิ่งที่ LIXIL พร้อมให้พิสูจน์ผ่านพื้นที่แห่งการสร้างประสบการณ์ LIXIL Experience Center แหล่งรวมพาวเวอร์แบรนด์สำหรับห้องครัวและห้องน้ำ
ผลิตภัณฑ์แห่งการสร้างแรงบันดาลใจและการออกแบบที่ส่งเสริมคุณค่าความเป็นตัวตนของผู้บริโภค ผ่านการส่งมอบความคิดสร้างสรรค์ ความรื่นรมย์ และความสุขผ่านพื้นที่ห้องครัวและห้องน้ำ นี่คืออัตลักษณ์อันโดดเด่นของลิกซิล (LIXIL) ผู้บุกเบิกผลิตภัณฑ์เพื่อการจัดการน้ำและที่อยู่อาศัยที่ประสบผลสำเร็จด้วยการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคกว่า 1 พันล้านคนจากทั่วมุมโลก และประสบการณ์แบบใกล้ชิดแบบเดียวกันนี้ก็ได้มาเปิดพื้นที่ให้คุณแล้วในกรุงเทพฯ ด้วยการเปิดตัว LIXIL Experience Center หรือ LEC ศูนย์รวมแห่งแรงบันดาลใจ การสาธิต และโซลูชั่นที่มีเอกลักษณ์ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์จากพาวเวอร์แบรนด์ทั้งสามของ LIXIL ได้แก่ โกรเฮ่ (GROHE) อเมริกันสแตนดาร์ด (American Standard) และอิแน็กซ์ (INAX) ด้วยการนำเสนอประสบการณ์ผ่านโลกดิจิตัลที่เรียกว่า Multi-Sensory Experience
การเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 ของ LEC หรือ LIXIL Experience Center พื้นที่แห่งการส่งมอบความสุขผ่านผลิตภัณฑ์แห่งคุณที่ตอบสนองทุกความแตกต่าง ความหลากหลายทางอัตลักษณ์ และความต้องการที่ไร้ขีดจำกัด ด้วยการสร้างทางเลือกให้กับผู้บริโภคจากพาวเวอร์แบรนด์ที่มีเอกลักษณ์และสไตล์การออกแบบที่ถ่ายทอดประสบการณ์อันสอดรับวัฒนธรรมที่หลากหลาย อีกทั้งยังเล็งเห็นปัญหาและความเปลี่ยนแปลงสำคัญ 3 ด้าน คือ ความเป็นอยู่ ความยั่งยืน และการขยายตัวของสังคมเมือง ซึ่งก็สอดคล้องกับที่ LIXIL เชื่อว่า “การออกแบบ คือ เสียงสะท้อนของผู้บริโภค” ฉะนั้นผู้บริโภคสามารถวางใจได้เลยว่าห้องครัวและห้องน้ำจะเป็นพื้นที่แห่งความสบายใจของคุณ
ความมุ่งมาดปรารถนาที่ต้องการจะส่งมอบความรื่นรมย์ในการใช้น้ำ คือ คุณค่าที่ GROHE ต้องการให้ผู้บริโภคได้สัมผัส ในขณะที่การมุ่งเน้นสร้างสรรค์บ้านให้เป็นพื้นที่ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นไอของความรักก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ American Standard อยากจะหยิบยื่นให้ผู้อยู่อาศัย สำหรับผู้บริโภคที่มองหาความพิเศษของ INAX บอกได้เลยว่าคุณจะได้สัมผัสกับชีวิตประจำวันจากผลิตภัณฑ์ที่อัดแน่นด้วยนวัตกรรมอันมีรากฐานมาจากพิธีกรรมแห่งสายน้ำในแบบฉบับของชาวญี่ปุ่น และทิ้งท้ายด้วยโซนพิเศษอย่างพื้นที่จัดแสดง GROHE SPA พร้อม GROHE AquaSymphony ที่แสดงการปรับเปลี่ยนฟังก์ชันน้ำตามความต้องการใช้งาน
อองตวน เบสเซเร เดอ ซอร์ ลีดเดอร์ประจำลิกซิล กลอบอล ดีไซน์ ภูมิภาคเอเชีย กล่าวว่า “ที่ลิกซิล เรายึดหลักการที่ว่า การออกแบบ คือ เสียงสะท้อนของผู้บริโภค เรามีทีมนักออกแบบมือรางวัลกระจายตัวอยู่ในเมืองใหญ่ ๆ ที่แอคทีฟ มีความทันสมัย และมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกช่วยให้ทีมนักออกแบบของเราสามารถคาดการณ์แนวโน้มและข้อมูลเชิงลึกต่าง ๆ และถ่ายทอดข้อมูลดังกล่าวเป็นประสบการณ์ที่สอดรับกับวัฒนธรรม ช่วยยกระดับชีวิตของผู้คนทั้งในแง่อารมณ์ความรู้สึกและการใช้งานในชีวิตจริง เราก่อตั้ง LEC กรุงเทพฯ ขึ้นเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ สาธิตการใช้น้ำในหลายรูปแบบ และแสดงให้เห็นว่าพาวเวอร์แบรนด์ทั้งสามของเรามีโซลูชันที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากหลายหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการและสร้างแรงบันดาลใจให้กับกลุ่มเป้าหมายที่มีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันได้เป็นอย่างดี”
ทั้งหมดนี้รอให้คุณแวะมาเยือนแล้วที่ LEC กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไป โดยลูกค้าที่สนใจสามารถนัดหมายเข้าชมล่วงหน้าอย่างสะดวกง่ายดายผ่านระบบดิจิทัล หรือร่วมเพลิดเพลินกับแนวคิดเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจจากวิดีโออธิบายผลิตภัณฑ์ผ่านระบบ QR code ตลอดจนเพิ่มผลิตภัณฑ์รายการโปรดไว้ใน Wish List เพื่อความสะดวก เท่านั้นยังไม่พอ ลูกค้ายังสามารถออกแบบห้องน้ำผ่านเครื่องมือ LIXIL CustoMy Space ที่ออกแบบและแสดงภาพ 360° หรือภาพเสมือนจริง Virtual Reality นอกจากนี้ ลูกค้าสามารถเยี่ยมชม Digital Showroom LEC กรุงเทพฯ ได้ที่ https://virtualshowroom.lixil.com/th
ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 18/11/2565
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 29,850.00 | 29,950.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,934.00 | 29,319.44 | 30,450.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,740.60 | 26,387.50 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,547.20 | 23,455.55 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 870.00 | 13,189.20 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 677.00 | 10,263.32 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,004.00 | 30,380.64 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 18/11/2565
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 35.85 | 35.85 | 36.15 | 36.15 | 36.15 | 35.85 | 35.85 | 35.85 | 36.15 | 35.85 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 35.58 | 35.58 | 35.88 | 35.88 | 35.88 | 35.58 | 35.58 | 35.58 | 35.88 | 35.58 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 34.74 | 34.74 | 35.04 | 35.04 | 35.04 | – | 34.74 | 34.74 | 35.04 | 34.74 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 33.74 | 33.74 | – | – | – | – | – | – | – | 33.74 |
เบนซิน 95 | 43.26 | – | – | – | 44.01 | – | 43.76 | 43.71 | – | 43.26 |
ดีเซล B7 | 34.94 | 34.94 | 35.24 | 35.24 | 35.24 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 35.24 | 34.94 |
ดีเซล | 34.94 | 34.94 | 35.24 | 35.24 | 35.24 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 35.24 | 34.94 |
ดีเซล B20 | 34.94 | 34.94 | 35.24 | – | 35.24 | – | 34.94 | 34.94 | 35.04 | 34.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 43.66 | 43.66 | 45.46 | 45.46 | 45.36 | – | – | – | – | 34.94 |
แก๊ส NGV | 16.59 | 16.59 | – | – | – | – | – | – | – | 16.59 |