สาระน่ารู้ประจำวันที่ 18 มกราคม 2566

กลุ่ม ‘พูลวรลักษณ์’ งัดที่ดิน ‘เอกมัย’ สร้างบ้าน ขายเริ่ม หลังละ 80 ล.

ตระกูล ‘พูลวรลักษณ์’ แตกไลน์ธุรกิจ อสังหาฯเพิ่ม ตั้งบริษัท เอสพีเจ แลนด์ ชิงเค้กตลาดโครงการหรู เจาะเศรษฐีไทย งัดที่ดินกลางเมือง ย่านเอกมัย ผุด โครงการ “ลาวิสต้า เพรสทีจ วิลเลจ เอกมัย 10” ขายเริ่ม 80 ล้าน

17 ม.ค.2566- นับเป็นตระกูลนักธุรกิจที่น่าจับตามองกลุ่มหนึ่งของไทย สำหรับ ‘พูลวรลักษณ์’ โดยนอกจาก เป็นผู้เล่นสำคัญ ในธุรกิจโรงภาพยนต์ (เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์) ทั้งในและต่างประเทศแล้ว พลูวรลักษณ์ ยังมีอีกหนึ่งธุรกิจที่ถูกแตกไลน์ออกมา โดยเหล่าสมาชิกในครอบครัวอย่างน่าสนใจ นั่นก็คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 

ซึ่งนอกจาก การเกิดขึ้นของ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่มีเป้าหมายชัดเจน ในการจับกลุ่มลูกค้าโครงการที่อยู่อาศัย ระดับ High End และ กำลังเติบโตอย่างน่าสนใจแล้ว 
 

ล่าสุด กลุ่มวรลักษณ์ ยังเปิดตัว ก่อตั้งบริษัทใหม่ อย่างเป็นทางการอีกหนึ่งบริษัท เพื่อบุกธุรกิจอสังหาฯอย่างเต็มตัว ภายใต้ชื่อ  “บริษัท เอสพีเจ แลนด์ จำกัด” ซึ่งก่อตั้งและจะดำเนินธุรกิจโดย “สุริยน พูลวรลักษณ์” และ “จิตรดี พูลวรลักษณ์” สองนักพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โครงการหรูที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี 

ขณะการเปิดตัวนั้น ไม่มีคำว่าธรรมดา โดยโครงการ “ลาวิสต้า เพรสทีจ วิลเลจ เอกมัย 10” (Lavista Prestige Village Ekkamai 10) โครงการบ้านเดี่ยวระดับ Ultimate Luxury  ที่มีราคาขายเริ่มต้น หลังละ 80 ล้านบาท เขย่าทำเลกลางเมือง เอกมัย ถูกวางเป็นโปรเจกต์ประเดิมแห่งแรกไว้อย่างน่าศึกษา 

กางแผนอสังหาฯ บริษัท เอสพีเจ แลนด์

นายสุริยน พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสพีเจ แลนด์ จำกัด กล่าวว่า เอสพีเจ แลนด์ เป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้น ด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในรูปแบบ Prestige Luxury โดยโฟกัสกลุ่ม Niche Market Customer ที่ต้องการสินค้า Residential ที่แตกต่างและโดดเด่นจากสินค้าที่มีอยู่ในตลาด ตอบโจทย์ลูกค้า Selected Customer อย่างแท้จริง 

โดยนำเอาประสบการณ์ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่หลากหลายต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการระดับลักซ์ชัวรี ทั้งคอนโดมิเนียมแนวสูง โรงแรม และที่พักอาศัย โดยเฉพาะโครงการที่ผ่าน Mavista Prestige Village กรุงเทพกรีฑา เป็นโครงการที่มีเพียงแค่ 14 ยูนิต ที่ประสบความสำเร็จจากการขายเป็นอย่างมาก ได้รับผลตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี นำมาสู่การพัฒนาเป็นโครงการล่าสุด “ลาวิสต้า เพรสทีจ วิลเลจ เอกมัย 10” บนทำเลศักยภาพของเอกมัยที่ “ดีที่สุด” กับความเอ็กซ์คลูซีฟเพียง 7 ยูนิตเท่านั้น 

ดันโครงการ “ลาวิสต้า เพรสทีจ วิลเลจ เอกมัย 10”ยกระดับอสังหาฯไทย

ถือเป็นนิยามใหม่แห่งการพักอาศัยที่หรูหรามีระดับภายใต้แนวคิด “Redefined Prestigious Living” “ด้วยความชำนาญและประสบการณ์ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มากว่า 20 ปี เราจึงมีความเชี่ยวชาญและเข้าใจถึงความต้องการของกลุ่มลูกค้าในเซกเมนต์ระดับลักชัวรีได้เป็นอย่างดี บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญในทุก ๆ องค์ประกอบ ด้วยแนวคิดสร้างสรรค์ มอบความเป็นส่วนตัวสูงสุด กับจำนวนยูนิตไม่มาก เสมือนการคัดสรรเพื่อนบ้านให้สังคมภายในโครงการด้วยคอนเซ็ปต์ Prestige Community ทั้งพื้นที่ใช้สอยและฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ครบครัน มีดีไซน์ที่โดดเด่น ทันสมัย และที่สำคัญตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมืองที่สะดวกสบายทุกการเดินทาง ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของลูกค้าตลาดบนเฉพาะกลุ่ม (Niche Market-Selected Luxury Customer) และสร้าง Prestige Lifestyle ความภูมิใจในการเป็นเจ้าของ และสามารถส่งต่อรุ่นสู่รุ่นได้อย่างล้ำค่า นับเป็นการยกระดับมาตรฐานใหม่ของธุรกิจการพัฒนาที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรีได้อย่างแท้จริง”

บ้านเดี่ยว สังคมปิด 7 ยูนิต ราคาขายเริ่ม 80 ล้านบาท

จิตรดี พูลวรลักษณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสพีเจ แลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า โครงการ Lavista Prestige Village Ekkamai 10 เกิดขึ้นจากการตอบโจทย์ของธุรกิจบริษัทในปัจจุบัน ที่มีความเปลี่ยนแปลงและเพื่อรองรับการขยายตัวของกลุ่มผู้อยู่อาศัย อาทิ กลุ่มเจ้าของกิจการ กลุ่มผู้บริหาร เจ้าของกิจการรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จและมีไลฟ์สไตล์เฉพาะตัว ด้วยทำเลทองใจกลางเอกมัย ที่สามารถเพิ่มมูลค่าและเป็นมรดกส่งต่อรุ่นสู่รุ่นได้ โดยการออกแบบพื้นที่ภายในบ้านใช้แนวคิดที่คำนึงถึงการใช้งานให้ครอบคลุมสำหรับสมาชิกทุกเจเนอเรชัน ให้สามารถใช้ชีวิตตามสไตล์ที่ชอบได้อย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันก็มีหัวใจของบ้านที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวเข้าไว้ด้วยกัน

บ้านเดี่ยวสุดไพรเวททั้ง 7 ยูนิต ของโครงการ Lavista Prestige Village Ekkamai 10 มีขนาด 4 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 429.97- 546.61 ตารางเมตร พร้อมลิฟท์ส่วนตัวภายในบ้าน โดยชั้น 1 เน้นการออกแบบที่ล้ำสมัยและฟังก์ชันที่จอด 4-6 คัน รองรับระบบ EV Charger สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100%  พร้อมโถงรับแขก Arriving Hall และมี Maid Pavilion ทั้งห้องนอนและห้องน้ำของแม่บ้าน สามารถเข้า-ออกทางหลังบ้าน ชั้น 2 เป็นรูปแบบ Gathering Area ศูนย์รวมการใช้งานขนาดใหญ่ เชื่อมโยงครัวเปิด Western Kitchen จากแบรนด์ RCD โปร่งสบาย เพดานสูงถึง 3 เมตร และห้องอเนกประสงค์สามารถจัดสรรปรับเป็นห้องฟิตเนสหรือห้องนอนได้ ส่วนชั้น 3 มีห้องนอน Grand Suite Master Bedroom เชื่อมต่อพื้นที่บริเวณโซนเตียงนอนกับ Walk-in Closet ขนาดใหญ่ และห้องน้ำแบบ Grand Master Bedroom แยกสัดส่วน Shower และโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติ พร้อมพื้นที่อาบน้ำแบบ his&her และชั้น 4 เป็นห้อง Junior Master Bedroom และห้องอเนกประสงค์ที่สามารถจัดเป็นห้องอ่านหนังสือหรือห้องทำงานได้ พร้อมฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของลูกค้าตลาดบนเฉพาะกลุ่มได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด

โดยโครงการ Lavista Prestige Village Ekkamai 10 ตั้งอยู่ในซอยเอกมัย 10 หนึ่งในย่านพักอาศัยที่ดีที่สุดใจกลางสุขุมวิท รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทุกรูปแบบสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งห้างสรรพสินค้าชั้นนำ คอมมูนิตี้มอลล์ โรงพยาบาล และโรงเรียนนานาชาติ โดยเป็นทำเลที่เชื่อมต่อ 3 ถนนหลัก ได้แก่ สุขุมวิท 55 สุขุมวิท 63 และสุขุมวิท 71 ใกล้ 3 ทางขึ้นทางด่วนและสถานีรถไฟฟ้าที่ให้ความสะดวกสบายในการเดินทาง โครงการสร้างเสร็จสมบูรณ์ก่อนขาย พร้อมให้สัมผัสประสบการณ์ทั้งภายนอกและภายในตัวบ้านด้วยวัสดุจริง รวมถึงบรรยากาศโดยรวมทั้งหมด ซึ่งทุกหลังได้รับการตกแต่งภายในพร้อมสำหรับการเข้าพักอาศัย ด้วยราคาเริ่มต้น 80 ล้านบาท

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


เดอะ ฟอเรสเทียส์ ทุ่ม 2 หมื่นล. ปั้น‘ทาวน์ เซ็นเตอร์ ’ เทียบชั้นเมืองระดับโลก

โครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ทุ่ม 2 หมื่นล้าน ปั้น‘ทาวน์ เซ็นเตอร์ ’ ศูนย์กลางสังคมคุณภาพ เปิดพื้นที่เพื่อการแสดงออก เช่น เล่นดนตรี ศิลปะ กีฬา โคเวิร์คกิ้ง สเปซ ตลอดจน แอมฟิเธียเตอร์ เทียบชั้น โมเดลเมืองล้ำสมัย ระดับโลก

สิ่งแวดล้อม สะอาด ปลอดมลพิษ  (Environmental)  และ ชีวิตที่เปี่ยมสุข ส่งเสริมสุขภาพระยะยาว เป็น 1 ใน 8 มิติสุขภาวะที่ดี ของแนวคิดการพัฒนาเมืองรูปแบบใหม่ สำหรับคนทุกกลุ่ม (For All Well-Being) ที่คาดกันว่า อีก 5-10 ปีข้างหน้า จะเป็นหลักคิด ของการออกแบบที่สำคัญ ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ไทยอย่างน่าจับตามอง 

สำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์ต้นแบบนำร่องแนวคิดดังกล่าวนั้น ถูกริเริ่ม โดยอภิมหาโปรเจ็กต์ “เดอะ ฟอเรสเทียส์ ” ขนาด 398 ไร่ บนถนนบางนา-ตราด ก.ม. 7 ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับรางวัลยกย่องมากมาย และเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของภาคเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มูลค่า 125,000 ล้านบาท 

เดอะ ฟอเรสเทียส์ ยอดขายพุ่ง 22,000 ลบ.

‘ฐานเศรษฐกิจ’ เจาะ องค์ประกอบต่างๆ ของโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ที่ถูกทยอยเปิดตัวออกมา พบยังสร้างความตื่นตาตื่นใจได้อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ ที่อยู่อาศัยภายใต้แบรนด์ ดิ แอสเพนทรี และสกายวิลล่า (สังคมคุณภาพที่มาพร้อมกับแนวคิด การดูแลตลอดชีวิต Lifetime Care) , คอนโดมิเนียม วิสซ์ดอม 3 อาคาร 3 ไลฟ์สไตล์  (คนเริ่มทำงาน – คู่สมรส และ คนรักสัตว์เลี้ยง) , โครงการคอนโดมิเนียม และ บ้านเดี่ยว แบรนด์ มัลเบอร์รี่ โกรฟ ที่สุดของความแรร์ ในราคาเริ่มต้น 15 ล้านบาท และ 185 ล้านบาท (ตามลำดับ) นอกจากนี้ ยังมี วิลล่าอื่นๆ ที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างอีก เช่น ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ ที่สุดแห่งความหรูหรา แห่งแรกในไทย และ โครงการล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไป  “มัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ วิลล่า” ซึ่งนำเสนอบ้านในรูปแบบคลัสเตอร์โฮม การอยู่ร่วมของคนหลายเจเนอเรชั่น ชูแรงบันดาลใจจากวิถีการใช้ชีวิตของครอบครัวไทยดั้งเดิม 

นอกจากนี้ ในพื้นที่ของเดอะ ฟอเรสเทียส์ ยังประกอบไปด้วยโรงแรม พื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงป่าพื้นที่ 30 ไร่อีกด้วย ทั้งหมด ไม่ใช่เพียงสร้างความแตกต่างใหม่ให้กับอสังหาฯไทย แต่ ถือเป็นโครงการต้นแบบระดับโลกแห่งใหม่ในการพัฒนาเมือง รวมทั้งเป็นโครงการเมืองแห่งแรกของโลกที่ออกแบบทุกมิติเพื่อการใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดียิ่งขึ้นและมีความสุขมากขึ้น ตอบรับความน่าสนใจของโครงการ ด้วยยอดขายที่รวมกัน ทำได้มากกว่า 22,000 ล้านบาทแล้ว นับตั้งแต่วันเปิดตัว 

ต่อจิ๊กซอว์ ‘ ทาวน์ เซ็นเตอร์ ‘ ปั้นสังคมคุณภาพ

แต่ในโอกาสนี้ ‘ผู้เขียน’ อยากกล่าวถึง จิ๊กซอว์ตัวสำคัญที่คาดว่าจะเข้ามาเติมเต็มให้โครงการอสังหาฯคุณภาพแห่งนี้ โดดเด่น เพิ่มชั้นเชิง อย่างที่หาโครงการไหนเทียบได้ยากไปอีก โดยล่าสุด MQDC หรือ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ได้ทุ่มงบกว่า 20,000 ล้านบาท เร่งเครื่องการก่อสร้างองค์ประกอบสำคัญที่เรียกว่า  ‘ทาวน์ เซ็นเตอร์’ บนพื้นที่ 46 ไร่ ระบุ เพื่อใช้เป็น พื้นที่กิจกรรม ที่จะเต็มไปด้วยความหลากหลาย ความบันเทิง มาร์เก็ต การพักผ่อนหย่อนใจ โดยมีกำหนดเปิดก่อนสิ้นปี 2566 

เมื่อพิจารณาใน ฝั่งผู้บริโภค-เจ้าของบ้านยุคใหม่ เทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก คือ นอกจากการให้ความสำคัญกับคุณภาพของบ้าน หรืออาคารคอนโดมิเนียมแล้ว ยังให้ความสำคัญกับคุณภาพทั้งหมดของทำเลที่บ้านของตนเองตั้งอยู่ด้วย 

สอดคล้องคำกล่าวของ นายกิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ ผู้อำนวยการโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ โดย MQDC ที่ระบุว่า ‘ทาวน์ เซ็นเตอร์’  จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์ความต้องการนี้ และเป็นแนวคิดใหม่ที่พัฒนาในสเกลที่ไม่เคยมีมาก่อน  โดยทาวน์ เซ็นเตอร์ จะถูกยกเป็นแก่นสำคัญของโครงการ ทำหน้าที่เชื่อมความสัมพันธ์ในชุมชนแห่งนี้ และนำพาครอบครัวให้มาอยู่ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำกิจกรรมประจำวัน หรือ กิจกรรมทางสังคม และกิจกรรมนันทนาการต่างๆ หรือแม้กระทั่งจะมาเดินเล่นเฉยๆ ก็ได้

“ทาวน์ เซ็นเตอร์ ที่เรากำลังเร่งสร้างอยู่นี้เป็นองค์ประกอบสำคัญตามความมุ่งมั่นของเรา ที่จะทำให้เดอะ ฟอเรสเทียส์ เป็นสังคมที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ความมีชีวิตชีวา และนำพาครอบครัวให้มาอยู่ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น”

ศูนย์กลางเชื่อมป่า 30ไร่ เทียบชั้นเมืองล้ำสมัย

ในหลักคิดนั้น พบ ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ จะออกแบบให้พื้นที่ส่วนนี้ เป็นที่ ที่สมาชิกทุกคนในครอบครัวจากทุกเจเนอเรชั่น จะสามารถมาทำกิจกรรมที่ตอบโจทย์ชีวิต การพักผ่อนหย่อนใจ และความบันเทิง ตามที่ตัวเองต้องการได้ นอกจากนั้น ยังได้สร้างสรรค์ให้พื้นที่ส่วนนี้ช่วยสร้างโอกาสให้ผู้คนได้มามีปฏิสัมพันธ์กัน 

โดยทาวน์เซ็นเตอร์ ประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายตามแบบฉบับของ การเป็นพื้นที่ศูนย์กลางของเมืองในยุคใหม่ที่ทันสมัย มีชีวิตชีวา มีการวางผังต่างๆ อย่างดี และจะได้รับการดูแลรักษาในระดับมาตรฐานเดียวกันกับเมืองล้ำๆ ตามที่ต่างๆ ในโลก รวมทั้งได้เพิ่มความพิเศษอย่างมากเข้าไปด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่ร่มรื่นและสดชื่น องค์ประกอบส่วนภายในอาคารและภายนอกอาคารได้รับการออกแบบให้เชื่อมต่อกันอย่างกลมกลืนเป็นธรรมชาติ ทั้งยังใกล้กับผืนป่าขนาด 30 ไร่ใจกลางเดอะ ฟอเรสเทียส์ ในระยะเดินเพียงสั้นๆ

เปิดประสบการณ์ใหม่ของเมืองอนาคต

โครงการที่ได้รับรางวัลจากทั่วโลกแล้วมากกว่า 42 รางวัล ซึ่งรับรองความโดดเด่นในด้านการส่งเสริมสุขภาพที่ดีขึ้นในการอยู่อาศัย คุณภาพสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืนนั้น กำลังสร้างสีสัน และเพิ่มมิติสุขภาพด้านอารมณ์ (Emotional) เข้าไปเพื่อช่วยตอบโจทย์คนเมืองในอนาคต เพราะ ‘ทาวน์ เซ็นเตอร์ ‘ มีพื้นที่เพื่อแสดงออก เช่น เล่นดนตรี ศิลปะ กีฬา 

โดย นางสาวอรดา เกิดหงษ์ ประธานผู้อำนวยการ – Storied Place Management, MQDC อธิบายความเพิ่มว่า  ‘ทาวน์ เซ็นเตอร์’  ของเดอะ ฟอเรสเทียส์  นอกจาก จะมี สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับกิจกรรมประจำวันแล้ว ยังมีพื้นที่มาร์เก็ตให้ได้จับจ่ายใช้สอยอยู่อีกมากมายหลายจุด รวมไปถึงธีมมาร์เก็ตฮอลล์ ลานกิจกรรม และขบวนพาเหรดเฉลิมฉลองเทศกาลต่างๆ ตื่นตาตื่นใจตลอดทั้งปี นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับกีฬาและการออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบ รวมไปถึงพื้นที่สำหรับการศึกษาเรียนรู้ และความบันเทิง พื้นที่เพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิต โคเวิร์คกิ้ง สเปซ ตลอดจนแอมฟิเธียเตอร์สำหรับจัดกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ  พร้อมเมนูอาหารและทางเลือกในการดื่มกินแบบต่างๆ ตอบโจทย์ทุกสไตล์ และหลากหลายราคา

” ในบรรดาพื้นที่ที่ก่อสร้างใกล้จะเสร็จสมบูรณ์เป็นส่วนแรกๆ ได้แก่ โรงละครอเนกประสงค์ภายในอาคาร ซึ่งสามารถใช้เป็นสถานที่จัดการแสดงต่างๆ ได้ รวมถึงจัดแสดงงานศิลปะ งานแสดงสินค้า นิทรรศการ การประชุม และงานแต่งงาน รวมทั้งให้ผู้อยู่อาศัยในเดอะ ฟอเรสเทียส์ ใช้เป็นเวทีจัดแสดงละครเองได้ด้วย” 

นี่เป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งของการออกแบบพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในรูปแบบที่เอื้อให้สังคมในเดอะ ฟอเรสเทียส์ ได้ใกล้ชิดสนิทกัน และมีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น แต่สำหรับคุณค่าต่อภายนอกนั้น จะเห็นได้ว่า แนวทางการเตรียมความพร้อม เพื่อพัฒนาเมืองในอนาคตอย่างมีความสุข มีรายละเอียดและโจทย์ที่ท้าทายสำหรับคนเมืองอยู่มาก คำถาม คือ เราพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงปัจจุบัน เพื่อสุขภาวะที่ดีในอนาคตหรือไม่? โดยเฉพาะในฝั่งผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น  

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ ที่ระดับ 33.00 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทอาจผันผวนมากขึ้น ตลาดจับตาผู้ว่าBOJ แถลงผลประชุมบ่ายวันนี้ ถ้ามีทบทวน “กรอบของบอนด์ยีลด์ 10 ปี -ผลกระทบของนโยบาย Yields Curve Control -ปรับประมาณการอัตราเงินเฟ้อขึ้น”จนเงินเยนแข็งค่าเร็วสู่ระดับ 126 เยนต่อดอลลาร์หรืออ่อนค่าสู่ 130เยนต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้(18ม.ค.2566) ที่ระดับ 33.00 บาทต่อดอลลาร์“แข็งค่าขึ้น”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 33.13 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน   พานิชพิบูลย์   นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน  ธนาคารกรุงไทยระบุว่าแนวโน้มค่าเงินบาท เรามองว่า แม้ว่าเงินบาทจะเปิดตลาดแข็งค่าขึ้นบ้าง จากระดับปิดในวันก่อนหน้า ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์และโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ

อย่างไรก็ดี ในวันนี้ การเคลื่อนไหวของเงินบาทอาจผันผวนมากขึ้น โดยต้องระวัง ความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ผลการประชุมของ BOJ ซึ่งอาจส่งผลให้ เงินเยนญี่ปุ่นแกว่งตัวแข็งค่า หรือ อ่อนค่าได้มาก ตามมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มการปรับนโยบายการเงินของ BOJ

โดยเราประเมินว่า หาก BOJ ได้พูดถึงการทบทวนกรอบของบอนด์ยีลด์ 10 ปี หรือ ทบทวนผลกระทบของนโยบาย Yields Curve Control รวมถึงมีการปรับประมาณการอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น จนทำให้เงินเยนแข็งค่าเร็วสู่ระดับ 126 เยนต่อดอลลาร์ ก็อาจกดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง พร้อมกับหนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นใกล้ระดับ 32.80 บาทต่อดอลลาร์ได้ไม่ยาก

ในทางกลับกัน การอ่อนค่าของเงินเยนสู่ระดับ 130 เยนต่อดอลลาร์ ก็อาจกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงทดสอบโซนแนวต้านแถว 33.20-33.30 บาทต่อดอลลาร์ได้ (สถิติย้อนหลัง 10 ปี ชี้ว่า เงินบาทมักอ่อนไหว หรือมี Beta ที่สูง กับการอ่อนค่าของเงินเยนญี่ปุ่น มากกว่าในช่วงเงินเยนแข็งค่าขึ้น)

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.80-33.20 บาท/ดอลลาร์

 บรรยากาศในฝั่งตลาดการเงินฝั่งสหรัฐฯ พลิกกลับมาอยู่ในภาวะระมัดระวังตัวมากขึ้น โดยดัชนี Dow Jones ปรับตัวลง -1.14% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดตลาด -0.20% หลังรายงานผลประกอบการของสถาบันการเงินขนาดใหญ่อย่าง Goldman Sachs ออกมาน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์

ทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างรอลุ้นรายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 ของบรรดาบริษัทจดทะเบียนที่จะทยอยประกาศออกมา โดยหากผลประกอบการออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก็อาจกดดันให้ผู้เล่นในตลาดเลือกที่จะลดการถือครองหุ้นที่ผลประกอบการและแนวโน้มผลประกอบการแย่ลง กดดันให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ อาจย่อตัวลงได้ หลังจากปรับตัวขึ้นได้ดีนับตั้งแต่ต้นปีนี้

ทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ยังคงเดินหน้าปรับตัวขึ้น +0.40% ตามความหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจคู่ค้ารายสำคัญของยุโรป อย่าง จีน โดยล่าสุดรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของจีนในเดือนธันวาคม อาทิ ยอดค้าปลีก (Retail Sales) ได้ออกมาดีกว่าคาดไปมาก

สะท้อนว่าจุดเลวร้ายสุดของเศรษฐกิจจีนในช่วงการระบาดของโอมิครอนได้ผ่านพ้นไปแล้ว ซึ่งภาพดังกล่าวได้หนุนให้ ราคาหุ้นกลุ่มสินค้าแบรนด์เนมที่พึ่งพายอดขายจากในจีนต่างปรับตัวสูงขึ้น อาทิ Diageo +2.4%, Hermes +1.8%

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน (Equinor +1.8%, BP +0.8%) ตามการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันที่ตอบรับต่อความหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน

ในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยล่าสุด ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ย่อตัวลงและแกว่งตัวใกล้ระดับ 102.3 จุด หลังค่าเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) เริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 128.5 เยนต่อดอลลาร์ จากที่ก่อนหน้าอ่อนค่าไปเกือบแตะระดับ 129 เยนต่อดอลลาร์

ท่ามกลางมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่คาดว่า การประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันพุธนี้ ทาง BOJ อาจส่งสัญญาณพร้อมใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นได้ ส่งผลให้ผู้เล่นในตลาดต่างรอจังหวะให้เงินเยนอ่อนค่าลง เพื่อเพิ่มสถานะ Short USDJPY (มองเงินเยนแข็งค่าขึ้น)

อย่างไรก็ดี แม้ว่า เงินดอลลาร์จะย่อตัวลงบ้าง รวมถึงบรรยากาศในตลาดการเงินจะอยู่ในภาวะระมัดระวังตัว ทว่า ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ.) กลับยังคงแกว่งตัวใกล้ระดับ 1,910-1,915 ดอลลาร์ต่อออนซ์

เนื่องจากผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินผลการประชุมของ BOJ ซึ่งอาจส่งผลต่อทั้งเงินดอลลาร์ รวมถึง บอนด์ยีลด์ฝั่งสหรัฐฯ ได้ ซึ่งเราประเมินว่า ผู้เล่นในตลาดบางส่วนอาจขายทำกำไรทองคำก่อนรับรู้ผลการประชุม BOJ ได้บ้าง ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนช่วยให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น

สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะจับตาไฮไลท์สำคัญ อย่าง การประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งจะรับรู้ผลการประชุมราว 10.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย (ส่วนการแถลงต่อสื่อมวลชน โดยผู้ว่า BOJ อาจมีในช่วงบ่ายโมง)

เบื้องต้นผู้เล่นในตลาดต่างคาดหวังการทยอยส่งสัญญาณพร้อมใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวด/ตึงตัวมากขึ้น ทั้งนี้ เรามองว่า BOJ จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.10% พร้อมทั้งคงเป้าบอนด์ยีลด์ 10 ปี ที่ระดับ 0.00%+/-0.50% ตามเดิม

แต่หาก BOJ มีการพูดถึงการทบทวนกรอบของบอนด์ยีลด์ 10 ปี หรือ ทบทวนผลกระทบของนโยบาย Yields Curve Control รวมถึงมีการปรับประมาณการอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น ผู้เล่นในตลาดอาจตีความว่า BOJ ได้ส่งสัญญาณพร้อมใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น

ทำให้เงินเยนญี่ปุ่น (JPY) อาจแข็งค่าขึ้นทดสอบโซนแนวรับถัดไปแถว 126 เยนต่อดอลลาร์ได้ ในทางกลับกัน หาก BOJ ย้ำจุดยืนไม่รีบใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น ก็อาจเห็นเงินเยนญี่ปุ่นผันผวนอ่อนค่าสู่ระดับ 130.5 เยนต่อดอลลาร์ได้เช่นกัน

และนอกเหนือจากผลการประชุมของ BOJ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านรายงานข้อมูลเศรษฐกิจอย่างยอดค้าปลีก (Retail Sales) โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า ผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจอาจกดดันยอดค้าปลีก (Retail Sales)

โดยเฉพาะในส่วนของยอดขายยานยนต์ หรือสินค้าคงทน อย่าง เฟอนิเจอร์ รวมถึง การปรับตัวลงของราคาพลังงานที่อาจกดดันยอดขายที่เกี่ยวกับพลังงานเช่นกัน จะทำให้โดยรวม ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ เดือนธันวาคม อาจหดตัว -0.9% จากเดือนก่อนหน้า

นอกจากนี้ ภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ และอัตราเงินเฟ้อที่ส่งสัญญาณชะลอตัวลงมากขึ้น ก็อาจทำให้บรรดาเจ้าหน้าที่เฟดเริ่มมีมุมมองสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในอัตราลดลงเป็น +0.25% ในการประชุมครั้งถัดๆ ไป ซึ่งผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดในวันนี้เช่นกัน

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทปรับตัวอยู่ในช่วงประมาณ 33.04-33.07 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลังเปิดตลาดในช่วงเช้าวันนี้ (9.00 น.) ใกล้เคียงระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ

โดยเงินบาทและสกุลเงินเอเชียในภาพรวมยังคงเคลื่อนไหวในกรอบอ่อนค่า ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ได้รับแรงหนุนเล็กน้อยตามการขยับขึ้นของบอนด์ยีลด์ระยะยาวของสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี คงต้องติดตามผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อย่างใกล้ชิด เนื่องจากหาก BOJ มีการปรับท่าทีในการดำเนินนโยบายการเงิน อาจกระตุ้นให้เกิดแรงขายเงินดอลลาร์ฯ ในระหว่างวัน 

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้ที่ 32.90-33.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุม BOJ ทิศทางเงินทุนต่างชาติและสกุลเงินเอเชีย รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค. และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนม.ค.

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


“สายสุนีย์” ระเบิดฟอร์ม คว้าทองวีลแชร์ฟันดาบศึก เวิลด์คัพ ที่สหรัฐอเมริกา

การแข่งขันวีลแชร์ฟันดาบชิงแชมป์โลก 2023 “2023 ไอวาส วีลแชร์ เฟนซิ่ง เวิลด์ คัพ” ที่วอชิงตัน ดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 14-19 ม.ค.65 เก็บคะแนนสะสมเพื่อนำไปควอลิฟายน์เข้าร่วมมหกรรมพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมาผลการแข่งขันปรากฎว่า “แวว” สายสุนีย์ จ๊ะนะ วีลแชร์ฟันดาบจอมเก๋าดาวดังระดับโลกของทีมชาติไทยสามารถทำผลงานคว้าเหรียญทองในประเภทดาบฟอยล์ บุคคลหญิง คลาส บี มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ โดยในรอบชิงชนะเลิศ สายสุนีย์ สามารถแทงเอาชนะ เออร์มา เคตซูเรียนี จากประเทศจอร์เจียไปได้ขายลอย 15-10 คะแนน

หลังเกมการแข่งขัน “แวว” สายสุนีย์ จ๊ะนะ เปิดเผยว่า หลังจากจบรายการนี้ปีนี้ยังเหลือการแข่งขันอีก 6 รายการให้ควอลิฟายน์ชิงตั๋ว ถ้ายังคงรักษามาตราฐานได้เหรียญในทุกรายการที่เข้าร่วมการแข่งขันก็จะสามารถคว้าตั๋วเพื่อไปพาราลิมปิคเกมส์ ปารีส 2024 ได้อย่างแน่นอน ซึ่งในการแข่งขันพาราลิมปิคปีหน้า ตนโฟกัสที่ดาบฟอยล์เป็นดาบหลัก และในการแข่งขันครั้งนี้ก็สามารถคว้าเหรียญทองซึ่งก็สร้างความมั่นใจให้ตัวเองเพิ่มขึ้น ส่วนในวันพรุ่งนี้ก็จะเหลือการแข่งขันในประเภทดาบเซเบอร์ ก็ช่วยส่งกำลังใจเชียร์ด้วยนะคะ

ขณะที่ “โค้ชปุ๊ย” นันทา จันทสุวรรณสิน ผู้ฝึกสอนส่วนตัวของสายสุนีย์วันนี้พี่แววเล่นได้ดีตามมาตราฐานแม้ว่าจะมีปัญหาอาการบาดเจ็บที่มือ แล้วอากาศที่นี่ค่อนข้างหนาวก็ไม่ได้มีอุปสรรคอะไร ในส่วนของการเก็บคะแนนไปพาราลิมปิคเกมส์ของดาบฟอยล์ที่ผ่านมาทั้ง 2 ครั้ง พี่แววได้ที่1 ทั้ง2 ครั้งถือเป็นแนวโน้มที่ดีมาก ตอนนี้ก็มองว่ามีโอกาสสูงที่จะคว้าตั๋วไปพาราลิมปิคได้ ตอนนี้คู่แข่งสำคัญคือจีนและอิตาลี ซึ่ง 2 รายการที่ผ่านมาไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขัน คิดว่าการแข่งขันครั้งหน้าที่อิตาลีเดือนมีนาคมจะได้เจอกัน กลับไปต้องรักษาอาการบาดเจ็บให้หายและแก้ไขในส่วนที่ผิดพลาดและฝึกซ้อมให้พร้อมแข่งขันต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


จริงหรือไม่? “ไข่ขาว” ดีต่อสุขภาพมากกว่า “ไข่แดง”

เคยไปทานอาหารกับเพื่อนที่กำลังดูแลรูปร่าง หรือที่เรียกง่ายๆ ว่า กำลังไดเอ็ตอยู่ไหมคะ ผู้ชายบางคนก็ทานแต่สลัดอกไก่ ไม่ทานข้าว ไม่ทานแป้ง หรือบางคนก็พกไข่ต้มมาจากบ้านวันละหลายๆ ฟอง เวลาทานก็ทานแต่ไข่ขาว ไข่แดงโยนทิ้ง เห็นแล้วเราอยากจะเข้าไปขอไข่แดงมาทานแทน (เสียดาย)

ที่หลายคนเลือกทานแต่ไข่ขาว เพราะเชื่อว่าไข่ขาวเป็นโปรตีนเพียวๆ ไม่มีคอเลสเตอรอลมากเหมือนไข่แดง จริงๆ แล้วไข่แดงเป็นตัวการของคอเลสเตอรอลในร่างกายของเราหรือไม่ ทานแต่ไข่ขาวมีโทษอะไรหรือไม่ Sanook! Health หาคำตอบมาให้แล้วค่ะ

ไข่ขาว VS ไข่แดง

ความแตกต่างของไข่แดงและไข่ขาว อยู่ที่ปริมาณแคลอรี่ และคอเลสเตอรอล โดยไข่แดงจะมีปริมาณแคลอรี่อยู่ราวๆ 60 Kcal ส่วนไข่ขาวอยู่ที่ 15 Kcal นั่นหมายความว่าไข่แดงมีอคลอรี่มากกว่าไข่ข่าวอยู่ราวๆ 4 เท่า ส่วนคอเลสเตอรอลนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนว่าไข่แดงมีคอเลสเตอรอลมากกว่าไข่ขาวที่แทบจะไม่มีคอเลสเตอรอลเลย ดังนั้นใครที่ใส่ใจสุขภาพอย่างจริงจัง จึงเลือกทานแต่ไข่ขาวด้วยเหตุผลที่ไข่ขาวมีปริมาณแคลอรี่ และคอเลสเตอรอลต่ำ ได้โปรตีนไปช่วยเพาะกล้ามแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย

ไข่แดง คอเลสเตอรอลสูง อันตรายต่อร่างกาย?

อันที่จริงแล้ว ปริมาณคอเลสเตอรอลในร่างกายของเราไม่ได้มาจากอาหารการกินที่เราทานเข้าไปมากนัก ส่วนใหญ่มาจากการสร้างขึ้นเองในร่างกาย ลำพังเพียงคอเลสเตอรอลจากไข่แดง หากไม่ได้ทานเป็นจำนวนมากจริงๆ ก็ไม่ได้ทำให้ร่างกายมีคอเลสเตอรอลมากเกินไปอย่างแน่นอน ดังนั้นเรายังทานไข่แดงได้ตามปกติ หากอาหารที่จะทำให้ระดับคอเลสเตอรอลเพิ่มขึ้นอย่างน่าใจหายจริงๆ น่าจะเป็นอาหารที่มีไขมัน (ที่ไม่ดี) สูงมากกว่า

นอกจากนี้ ไข่แดงยังมีคุณประโยชน์อีกมากมายที่ไข่ขาวอาจไม่มี นั่นคือ ลูทีน-ซีแซนทีน ที่ช่วยบำรุงสายตา ทำให้อัตราในการเป็นโรคตาเสื่อมสภาพ หรือตาบอดในวัยสูงอายุน้อยลง

ทานไข่ขาวมากเกินไป อันตรายหรือไม่?

แม้ว่าไข่ขาวจะดูดีมีประโยชน์ต่อร่างกายจากโปรตีนสูง แคลอรี่ และคอเลสเตอรอลต่ำ แต่การทานไข่ขาวมากจนเกินไป ก็ทำให้ร่างกายได้รัยโปรตีนมากเกินไป ไตก็จะทำงานหนักมากขึ้นเพื่อกรองเอาโปรตีนที่เป็นส่วนเกินของร่างกายออกไป ในระยะยาวอาจทำให้ไตทำงานผิดปกติได้เช่นเดียวกัน

สรุป

ใครที่อยากรักษาสุขภาพอย่างจริงจังมาก เลือกทานแต่ไข่ขาวก็ไม่ผิด ส่วนใครที่ชอบทานไข่แดง สามารถทานต่อไปได้อย่างไม่มีปัญหา การทานทั้งไข่ขาว และไข่แดง ไม่ได้ทำให้ปริมาณคอเลสเตอรอลในร่างกายเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด ดังนั้นใครใคร่ทานแบบไหนก็ได้ แต่ควรรับประทานอื่นๆ ให้ครบทั้ง 5 หมู่ด้วย ร่างกายจะได้แข็งแรงสมบูรณ์ ไม่ขาดสารอาหารค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


80 แคปชั่นภาษาอังกฤษ สั้นๆ ความหมายดี พร้อมคำแปล โพสต์รับปี 2023

แคปชั่นภาษาอังกฤษ สั้นๆ ความหมายดีๆ 

  • Choose to shine.

จงเลือกที่จะเปล่งประกาย

  • Live the moment.

อยู่กับปัจจุบัน

  • No pain, no gain.

ถ้าไม่เจ็บก็ไม่มีวันเติบโต

  • This too shall pass.

เดี๋ยวมันก็ผ่านไป

  • Collect moments – not things.

จงสะสมประสบการณ์หรือความทรงจำ ไม่ใช่สิ่งของ

  • Prove them wrong.

พิสูจน์ให้พวกเขาเห็นว่าพวกเขาคิดผิด

  • Rise and slay.

ลุกขึ้นและต่อสู้กับมัน

  • No titles, just vibes.

แค่ความรู้สึก ที่ไม่มีชื่อเรื่อง

  • Mind Over Matter.

ให้มีพลังจิตในการเอาชนะสิ่งนี้

  • Go wild, for a while.

ขอหลบเข้าป่าหาความสงบสักพัก

  • Adjust your altitude.

ลองเปลี่ยนมุมมองใหม่ๆ ดูบ้าง

  • Timing is everything.

เวลาคือทุกสิ่ง

  • Keep it simple.

ง่ายๆ เข้าไว้

  • This is living.

นี่แหละชีวิต

  • Progress, not perfection.

จงใฝ่หาความก้าวหน้า หาใช่ความสมบูรณ์แบบ

  • Nothing lasts forever.

ไม่มีอะไรที่จะคงอยู่ตลอดไป

  • Enjoy today.

สนุกกับวันนี้ให้สุด

  • Everything counts.

ทุกอย่างมีค่า

  • Try Again..

ลองอีกครั้ง

  • Keep Breathin

หายใจลึกๆ เข้าไว้

  • Strive for greatness. 

มุ่งมั่นเพื่อความยิ่งใหญ่

  • You can totally do this.

คุณสามารถทำสิ่งนี้ได้

  • You matter.

คุณมีความสำคัญ

  • Aspire to inspire before we expire.

สร้างแรงบันดาลใจก่อนที่เราจะหมดอายุขัย

  • Love more. Worry less.

รักมากขึ้น. กังวลน้อยลง

  • Never a failure, always a lesson.

ไม่เคยล้มเหลว เค้าเรียกว่าบทเรียน

  • Focus on the good.

มุ่งเน้นไปที่สิ่งที่ดี

  • No guts, no story.

ไม่มีความกล้า ไม่มีเรื่องราว

  • Fight till the last gasp. 

สู้จนเฮือกสุดท้าย

  • Love conquers all.

ความรักชนะทุกสิ่ง

คำคมภาษาอังกฤษ สั้นๆ ความหมายดี

  • Keep it as a memory.

เก็บมันไว้ให้เป็นความทรงจำ

  • Sometimes, we survive by forgetting.

บางครั้งเรามีชีวิตอยู่ได้ด้วยการลืม

  • By changing nothing, nothing changes.

ถ้าไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงอะไร ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

  • Never too old to start from scratch once again.

ไม่มีคำว่าแก่เกิน ที่จะเริ่มต้นใหม่จากศูนย์

  • Invest the now in tomorrow’s dream.

ลงทุนปัจจุบันเพื่อความฝันในอนาคต

  • Try to be the best version of yourself.

จงเป็นตัวคุณในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด

  • The First to forget is the happiest.

คนแรกที่ลืมก่อนคือคนที่มีความสุขที่สุด

  • Never wish life were easier, wish you were better.

อย่าคาดหวังว่าชีวิตจะง่ายขึ้น แต่จงคาดหวังว่าตัวเราจะดีขึ้นในทุกวัน

  • Try a little harder to be a little better.

ลองพยายามให้หนักขึ้นอีกสักนิด เพื่อเป็นคนที่ดีกว่าเดิม

  • Grow though what you go through.

จงเติบโตเมื่อผ่านพ้นเรื่องราวในชีวิต

  • One day or Day one, you decide .

‘วันนี้’ หรือ ‘เอาไว้ก่อน’ คุณเลือกได้

  • Focus on the good side of life.

โฟกัสกับด้านที่ดีของชีวิต

  • Everything happens for a reason.

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันมีเหตุผลของมัน

  • What’s done is done.

อะไรที่จบไปแล้วก็ให้มันจบไป

  • Chin up and Move on.

เชิดหน้าใส่ความผิดหวังแล้วก้าวต่อไป

  • A good beginning makes a good ending.

การเริ่มต้นที่ดีจะส่งผลให้มีจุดจบที่สวยงาม

  • The harder I work, The lukier I get.

ยิ่งทำงานหนักมากเพียงใด ฉันยิ่งโชคดีมากขึ้น

  • Stay strong the weekend is coming.

เข้มแข็งไว้ วันหยุดสุดสัปดาห์กำลังจะมาถึงแล้ว

  • It’s bad day, not a bad life.

มันก็แค่วันที่แย่ ไม่ได้หมายความว่าชีวิตแย่

  • Dream Big, Work Hard, Stay Humble.

ฝันให้ไกล ขยันขันแข็ง ถ่อมตัวเสมอ

คำคมภาษาอังกฤษ ความหมายดี พร้อมคำแปล

  • Happiness is not by chance, but by choice.

ความสุขไม่ได้โดยบังเอิญ แต่มันเกิดขึ้นเพราะเราเลือกได้

  • Don’t cry because it’s over, smile because it happened.

อย่าร้องไห้เพราะมันจบไปแล้ว จงยิ้มเพราะกำลังจะเริ่มต้นใหม่

  • Count your age by friends, not years. Count your life by smiles, not tears.

นับอายุของคุณด้วยจำนวนเพื่อน และนับชีวิตของคุณด้วยรอยยิ้มไม่ใช่หยดน้ำตา

  • Whoever is happy will make others happy too.

ใครก็ตามที่มีความสุข ก็จะทำให้คนอื่นๆ มีความสุขเช่นกัน

  • The sun sets to rise again.

พระอาทิตย์ตก เพื่อที่จะขึ้นอีกครั้ง

  • Pleasure in the job puts perfection in the work.

การมีความสุขกับงานที่ทำ จะสร้างงานที่สมบูรณ์แบบ

  • Life is like riding a bicycle. To keep your balance, you must keep moving.

ชีวิตก็เหมือนกับการปั่นจักรยาน ถ้าอยากทรงตัวได้ คุณก็ต้องปั่นต่อไป

  • Don’t stop when you are tired stop when you are done.

แปลว่า อย่าหยุดตอนที่คุณเหนื่อย..แต่หยุดเมื่อคุณทำสำเร็จแล้ว

  • It’s never too late to start again.

ไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

  • When nothing is certain, everything is possible.

ในเมื่อไม่มีอะไรแน่นอน ทุกอย่างก็เป็นไปได้ทั้งนั้น

ประโยคเด็ด ภาษาอังกฤษ สั้นๆ

  • Time moves slowly, but passes quickly.

เวลาเป็นสิ่งที่เคลื่อนไหวช้า แต่มันผ่านไปอย่างรวดเร็ว

  • Every moment is a fresh beginning.

ทุกช่วงเวลาคือการเริ่มต้นใหม่

  • Some of life’s best lessons are learned at the worst times.

บทเรียนที่ดีที่สุดในชีวิต..บางครั้งเราก็เรียนรู้จากช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด

  • Nothing is certain except for death and taxes.

ไม่มีอะไรแน่นอนนอกจากความตายและการจ่ายภาษี

  • Lie even one time, may lose trust forever.

โกหกเพียงครั้งเดียว อาจสูญเสียความไว้วางใจไปตลอดกาล

  • Parting is such sweet sorrow.

การจากลาคือความเศร้าอันแสนหวาน

  • Time wounds all heals.

วันเวลาจะเยียวยาทุกสิ่ง

  • Some things are better left unknown.

เรื่องบางเรื่องมันอาจจะดีกว่าถ้าคุณไม่รับรู้มัน

  • Do, or do not. There is no “try”.

ไม่มีหรอกคำว่า ‘ลอง’ มีแต่ทำ หรือ ไม่ทำ

  • Mistakes are proof that at least you’ve tried.

ความผิดพลาด บอกเราว่าอย่างน้อยเราก็ได้พยายามแล้ว

  • Beautiful things don’t ask for attention.

สิ่งสวยงามไม่จำเป็นต้องเรียกร้องความสนใจ

  • Great things never come from comfort zones.

สิ่งดีๆ ไม่มีวันมาถึง ถ้าคุณไม่ออกจากพื้นที่ของตัวเอง

  • Life is to short to waste it.

ชีวิตมันสั้น จงใช้สอยอย่างประหยัด

  • Life is short. Smile while you still have teeth.

ชีวิตมันสั้น รีบยิ้มก่อนที่ฟันจะหมดปาก

  • By changing nothing, nothing changes.

ถ้าไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงอะไร ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

  • Life is as good as your mindset.

ชีวิตจะดีอยู่ที่คุณคิดดี

  • Good food is Good mood.

อาหารดี = อารมณ์ดี

  • Nothing worth having come easy.

ไม่มีสิ่งที่มีคุณค่าใด จะได้มาง่ายๆ

  • Focus on the good side of life.

โฟกัสกับด้านที่ดีของชีวิต

  • Light tomorrow with today.

ทำพรุ่งนี้ให้สดใสด้วยวันนี้

ขอบคุณข้อมูลจาก women.trueid.net


Apple เผยโฉม MacBook Pro ที่ขับเคลื่อนด้วยชิป M2 Pro และ M2 Max พร้อมด้วยประสิทธิภาพที่เหนือชั้น

วันนี้ Apple ประกาศเปิดตัว MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว และ 16 นิ้ว ใหม่ที่มาพร้อมซิลิคอนระดับโปรเจเนอเรชั่นถัดไปของ Apple อย่างชิป M2 Pro และ M2 Max ซึ่งจะช่วยยกระดับประสิทธิภาพที่ยังคงประหยัดพลังงานและระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่สำหรับผู้ใช้ระดับโปร ชิป M2 Pro และ M2 Max ซึ่งเป็นชิปที่ทรงพลังและประหยัดพลังงานที่สุดในโลกสำหรับแล็ปท็อประดับโปร ช่วยให้ MacBook Pro สามารถจัดการกับงานหนักๆ อย่างการเรนเดอร์เอฟเฟ็กต์ได้เร็วขึ้นสูงสุด 6 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel ที่เร็วที่สุด และปรับแก้สีได้เร็วขึ้นสูงสุด 2 เท่า

ยิ่งกว่านั้นวันนี้ MacBook Pro ยังมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุดถึง 22 ชั่วโมง เรียกได้ว่านานที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน Mac จากจุดเด่นเรื่องการประหยัดพลังงานในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนของ Apple Silicon2 ส่วนการเชื่อมต่อก็ดียิ่งขึ้นเช่นกัน เพราะ MacBook Pro ใหม่รองรับ Wi-Fi 6E3 ซึ่งเร็วกว่ารุ่นก่อนหน้าสูงสุด 2 เท่า รวมถึง HDMI ขั้นสูงที่รองรับจอภาพระดับ 8K เป็นครั้งแรก

ในขณะที่รุ่นชิป M2 Max รองรับหน่วยความจำแบบรวมสูงสุด 96GB ช่วยให้นักสร้างสรรค์สามารถทำงานกับฉากขนาดใหญ่ๆ ในระดับที่แล็ปท็อป PC ยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ4 และอีกหนึ่งคุณสมบัติที่ไม่มีใครเทียบได้ของ MacBook Pro ก็คือจอภาพ Liquid Retina XDR ที่ขึ้นชื่อ, การเชื่อมต่อที่หลากหลาย, กล้อง FaceTime HD ความละเอียด 1080p, ระบบเสียง 6 ลำโพง และไมโครโฟนคุณภาพระดับสตูดิโอ ยิ่งเมื่อใช้งานกับ macOS Ventura ด้วยแล้ว ประสบการณ์ที่ผู้ใช้ MacBook Pro จะได้รับนั้นจึงยากที่จะหาใครเทียบ

“MacBook Pro พร้อม Apple Silicon ได้เข้ามาปฏิวัติวงการ เสริมศักยภาพให้มือโปรสามารถพาเวิร์กโฟลว์ของตัวเองไปสู่อีกระดับในระหว่างเดินทางและทำสิ่งต่างๆ ที่ไม่เคยคิดว่าจะทำได้บนแล็ปท็อป” Greg Joswiak รองประธานอาวุโสฝ่าย Worldwide Marketing ของ Apple กล่าว “มาวันนี้ MacBook Pro ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ด้วยประสิทธิภาพที่เร็วกว่า การเชื่อมต่อที่ดีขึ้นไปอีกขั้น และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน Mac รวมถึงจอภาพที่ดีที่สุดในแล็ปท็อป เรียกได้ว่าแตกต่างไม่มีใครเหมือน”

ประสิทธิภาพที่ยังคงประหยัดพลังงานในแบบที่ไม่มีใครเทียบได้ด้วยชิป M2 Pro และ M2 Max

MacBook Pro ที่มาพร้อมชิป M2 Pro และ M2 Max สามารถพลิกโฉมเวิร์กโฟลว์ระดับโปรสำหรับหลากหลายวงการ ตั้งแต่ศิลปะ วิทยาศาสตร์ จนถึงการพัฒนาแอป โดยผู้ใช้ที่อัปเกรดจาก Mac รุ่นที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel จะสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงประสิทธิภาพ ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ การเชื่อมต่อ และความสามารถด้านการทำงานโดยรวมที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมมาก และ MacBook Pro ยังคงประสิทธิภาพในระดับเดิมไม่ว่าผู้ใช้จะเสียบปลั๊กหรือใช้แบตเตอรี่ก็ตาม

MacBook Pro พร้อมชิป M2 Pro มี CPU แบบ 10-core หรือ 12-core ที่ประกอบด้วยคอร์ประสิทธิภาพสูง 8 คอร์ และคอร์ประหยัดพลังงานสูง 4 คอร์ จึงมีประสิทธิภาพสูงกว่าชิป M1 Pro ถึง 20% พร้อมด้วยแบนด์วิดท์หน่วยความจำแบบรวม 200GB/s ซึ่งมากกว่าในชิป M2 ถึง 2 เท่า และหน่วยความจำแบบรวมขนาดสูงสุด 32GB เพื่อให้ผู้ใช้สามารถรับมือกับโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่และใช้งานแอประดับโปรหลายแอปด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง ในขณะที่ GPU เจเนอเรชั่นถัดไปที่มีสูงสุด 19 คอร์นั้นก็มีประสิทธิภาพกราฟิกดีขึ้นสูงสุด 30% ส่วน Neural Engine ก็เร็วขึ้น 40% ช่วยเพิ่มความเร็วให้กับงานด้านการเรียนรู้ของระบบ อย่างการวิเคราะห์วิดีโอและการประมวลผลภาพ นอกจากนี้ชิป M2 Pro ยังมาพร้อมมีเดียเอนจิ้นอันทรงพลังที่สามารถจัดการกับ Codec วิดีโอยอดนิยมได้สบาย จึงเพิ่มความเร็วในการเล่นและเข้ารหัสวิดีโอได้อย่างมากโดยที่ใช้พลังงานเพียงนิดเดียว

ประสิทธิภาพของ MacBook Pro พร้อมชิป M2 Pro

  • การเรนเดอร์ไตเติ้ลและแอนิเมชั่นใน Motion เร็วขึ้นสูงสุด 80%1 เมื่อเทียบกับ MacBook Pro ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel ที่เร็วที่สุด และเร็วขึ้นสูงสุด 20%5 เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
  • การคอมไพล์ใน Xcode เร็วขึ้นสูงสุด 2.5 เท่า1 เมื่อเทียบกับ MacBook Pro ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel ที่เร็วที่สุด และเร็วขึ้นเกือบ 25%5 เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
  • การประมวลผลภาพใน Adobe Photoshop เร็วขึ้นสูงสุด 80%1 เมื่อเทียบกับ MacBook Pro ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel ที่เร็วที่สุด และเร็วขึ้นสูงสุด 40%5 เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า

MacBook Pro พร้อมชิป M2 Max สามารถยกระดับเวิร์กโฟลว์ไปสุดขั้วด้วย GPU ที่ใหญ่ขึ้นมากโดยมีจำนวนคอร์สูงสุด 38 คอร์ และมีประสิทธิภาพกราฟิกสูงกว่าชิป M1 Max สูงสุด 30% แถมยังมีแบนด์วิดท์หน่วยความจำแบบรวม 400GB/s หรือสูงกว่าชิป M2 Pro ถึงสองเท่า และด้วยหน่วยความจำแบบรวมที่มีขนาดสูงสุดถึง 96GB นั้น MacBook Pro จึงสามารถทลายขีดจำกัดด้านหน่วยความจำกราฟิกในแล็ปท็อปได้อีกครั้งเพื่อทำให้เวิร์กโหลดด้านกราฟิกที่หนักๆ กลายเป็นจริงได้ อย่างการสร้างฉากที่มีรายละเอียดและเรขาคณิต 3D ซับซ้อนสุดๆ หรือการรวมภาพถ่ายพาโนรามาขนาดมหึมาเข้าด้วยกัน ส่วนชิป M2 Max นั้นมี CPU แบบ 12-core เจเนอเรชั่นถัดไปที่ประกอบด้วยคอร์ประสิทธิภาพสูง 8 คอร์ และคอร์ประหยัดพลังงานสูง 4 คอร์ ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าชิป M1 Max สูงสุด 20% และมาพร้อมมีเดียเอนจิ้นที่ทรงพลังกว่าชิป M2 Pro โดยมีการเร่งความเร็ว ProRes ที่ดีกว่าเดิม 2 เท่า ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วให้กับการเล่นและแปลงสื่อได้อย่างชัดเจน

ประสิทธิภาพของ MacBook Pro พร้อมชิป M2 Max

  • การเรนเดอร์เอฟเฟ็กต์ใน Cinema 4D เร็วขึ้นสูงสุด 6 เท่า1 เมื่อเทียบกับ MacBook Pro ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel ที่เร็วที่สุด และเร็วขึ้นสูงสุด 30%6 เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
  • การปรับแก้สีใน DaVinci Resolve เร็วขึ้นสูงสุด 2 เท่า1 เมื่อเทียบกับ MacBook Pro ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel ที่เร็วที่สุด และเร็วขึ้นสูงสุด 30%6 เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า

การเชื่อมต่อที่ดียิ่งกว่าเดิม

วันนี้ MacBook Pro มาพร้อม Wi-Fi 6E3 เพื่อการเชื่อมต่อไร้สายที่เร็วขึ้น รวมถึง HDMI ที่ล้ำสมัยยิ่งขึ้นเพื่อรองรับจอภาพระดับ 8K สูงสุด 60Hz และจอภาพระดับ 4K สูงสุด 240Hz โดยที่ความสามารถใหม่ๆ เหล่านี้มีพื้นฐานอยู่บนทางเลือกในการเชื่อมต่อที่หลากหลายซึ่งมีอยู่แล้วใน MacBook Pro อย่างพอร์ต Thunderbolt 4 จำนวน 3 พอร์ตสำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วงความเร็วสูง รวมถึงช่องใส่การ์ด SDXC และ MagSafe 3 สำหรับชาร์จ

macOS Ventura เมื่อใช้งานกับ macOS Ventura แล้ว MacBook Pro ก็จะมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นไปอีกและช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ด้วยการอัปเดตที่ทรงพลังอย่างความต่อเนื่องของกล้องที่นำคุณสมบัติสำหรับการประชุมแบบวิดีโอมาอยู่บน Mac ทุกเครื่อง รวมถึงมุมมองด้านหน้าโต๊ะ จัดให้อยู่ตรงกลาง แสงไฟสตูดิโอ และอีกมากมาย ขณะที่ Handoff ใน FaceTime ก็ช่วยให้ผู้ใช้เริ่มโทร FaceTime บน iPhone หรือ iPad แล้วส่งต่อมาที่ Mac หรือกลับกันได้แบบไม่มีสะดุด และยังมีเครื่องมืออย่างตัวจัดการให้อยู่ตรงกลาง หรือ Stage Manager ที่จะจัดระเบียบแอปและหน้าต่างโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ผู้ใช้จดจ่อกับสิ่งที่ทำอยู่ได้เต็มที่โดยที่ยังคงมองเห็นทุกอย่างได้เพียงแค่เหลือบมอง

แอปข้อความและเมลดียิ่งกว่าที่เคย ในขณะที่ Safari ซึ่งเป็นเบราว์เซอร์ที่เร็วที่สุดในโลกบน Mac นั้น ก็ก้าวล้ำเข้าสู่อนาคตแบบไร้รหัสผ่านด้วยพาสคีย์ นอกจากนี้ยังมีคลังรูปภาพ iCloud ที่แชร์ ซึ่งให้ผู้ใช้สร้างและแชร์คลังรูปภาพแยกอีกคลังในกลุ่มสมาชิกครอบครัวได้สูงสุด 6 คน และมีแอป Freeform ใหม่เป็นผืนผ้าใบที่ยืดหยุ่นที่ช่วยให้ผู้ใช้ทำงานและถ่ายทอดความคิดได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะวางแผนหรือระดมความคิดด้วยตัวเองหรือร่วมกับคนอื่น ส่วนการเล่นเกมบน Mac ก็ดียิ่งกว่าที่เคยจากขุมพลังและความนิยมของ Apple Silicon และเครื่องมือใหม่ๆ สำหรับนักพัฒนาใน Metal 3

MacBook Pro กับสิ่งแวดล้อม

MacBook Pro ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้เหลือน้อยที่สุด ซึ่งรวมถึงการใช้วัสดุรีไซเคิล 100% ดังต่อไปนี้ ได้แก่ อะลูมิเนียมในตัวเครื่อง แร่โลหะหายากในแม่เหล็กทั้งหมด ดีบุกในบัดกรีของแผงวงจรหลัก และทองคำในการเคลือบแผงวงจรพิมพ์หลายชิ้น ยิ่งกว่านั้นยังใช้พลาสติกรีไซเคิล 35% หรือมากกว่าในส่วนประกอบหลายชิ้นและตรงตามมาตรฐานระดับสูงของ Apple ด้านการประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ MacBook Pro ยังปลอดสารอันตรายหลายชนิด และบรรจุภัณฑ์ 97% ใช้เยื่อไม้เป็นหลัก จึงทำให้ Apple เข้าใกล้เป้าหมายของบริษัทมากยิ่งขึ้น นั่นคือการเลิกใช้พลาสติกในบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดภายในปี 2025 

วันนี้การดำเนินงานของบริษัท Apple ทั่วโลกมีความเป็นกลางทางคาร์บอน และภายในปี 2030 เราวางแผนที่จะมีความเป็นกลางทางคาร์บอน 100% ในทุกภาคส่วนของธุรกิจ ซึ่งรวมถึงซัพพลายเชนการผลิตและวงจรชีวิตของสินค้าทั้งหมด นั่นหมายความว่าอุปกรณ์ Apple ทุกเครื่องที่จำหน่ายจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อสภาพภูมิอากาศ ตั้งแต่การผลิตชิ้นส่วน การประกอบ การขนส่ง การใช้งานของลูกค้า การชาร์จ ตลอดจนการรีไซเคิลและการคัดแยกวัสดุ

ราคาและความพร้อมในการวางจำหน่าย

MacBook Pro รุ่น 14 นิ้วใหม่พร้อมชิป M2 Pro มีราคาเริ่มต้นที่ 73,900 บาท และ 68,400 บาท สำหรับราคาส่งเสริมการศึกษา ส่วน MacBook Pro รุ่น 16 นิ้วใหม่พร้อมชิป M2 Pro มีราคาเริ่มต้นที่ 89,900 บาท และ 82,700 บาท สำหรับราคาส่งเสริมการศึกษา ดูข้อมูลทางเทคนิคเพิ่มเติม ตัวเลือกในการปรับแต่งตามความต้องการ และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้ที่ apple.com/th/mac

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ดูให้ดี ! “ตำลึง” มีทั้งตัวผู้และตัวเมีย กินผิดอาจทำให้ท้องเสียได้

“ตำลึง” เป็นผักที่สามารถหารับประทานได้ง่าย เนื่องจากเป็นพืชที่สามารถขยายพันธุ์ได้จากการที่นกกินผลตำลึงเข้าไปแล้วขับถ่ายเป็นเมล็ดออกมา ซึ่งมันจะเจริญเติบโตและแตกยอดได้ดีในช่วงฤดูฝน

สารอาหารที่มีอยู่ใน “ตำลึง”

ตำลึง นั้นอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายสูง อาทิ สารเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งและโรคหัวใจขาดเลือด มีแคลเซียมที่ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน อีกทั้งยังมีฟอสฟอรัส เหล็ก ไนอาซิน วิตามิน และสารอาหารอื่นๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย นอกจากนี้มหาวิทยามหิดล พบว่า ตำลึงมีเส้นใยอาหารที่ช่วยลดอัตราเสี่ยงเกิดโรคมะเร็งในกระเพาะอาหารได้ ส่วนในตำรับยาโบราณได้ระบุไว้ว่า ตำลึง เป็นยาเย็น ส่วนของใบช่วยขับพิษร้อน ถอนพิษไข้ แก้อาหารแพ้ อักเสบ แก้แมลงที่มีพิษกัดต่อย แก้แสบคัน แก้เจ็บตา ตาแฉะ ตาแดง บรรเทาโรคผิวหนัง ช่วยลดน้ำตาลในเลือด

สำหรับคุณสาวๆ คนไหนที่เป็นคุณแม่ลูกอ่อน ตำลึง เป็นผักที่มีประโยชน์เป็นอย่างมาก อุดมไปด้วยโปรตีน แคลเซียม ธาตุเหล็ก และวิตามินหลากหลายชนิด อีกทั้งยังมีเส้นใยสูง ช่วยบำรุงน้ำนม ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกน้อยได้

ไม่ใช่แค่สิ่งมีชีวิตเท่านั้นที่มี “เพศ”

ไม่ได้พิมพ์หัวข้อผิดแต่อย่างใด แต่จะบอกเอาไว้ว่าผักอย่าง ตำลึง ก็มีเพศได้เช่นเดียวกัน ลองสังเกตกันดูสักหน่อยว่าแกงจืดที่เรากำลังจะรับประทาน หรือทำให้ลูกน้อยได้ทานได้เป็นตำลึงประเทศไหนกันแน่ มีความต่างกันอย่างไร แล้วทำไมถึงจำเป็นต้องแยกเพศ ลองมาอ่านข้อมูลที่เราเอามาฝากกัน

ใบตำลึงเพศผู้

สำหรับใบตำลึงเพศผู้จะมีลักษณะมีหยักที่มากกว่า คนส่วนใหญ่ไม่นิยมนำมารับประทาน ใครที่ธาตุในร่างกายไม่ดี เมื่อทานใบ หรือยอดตำลึงเพศผู้เข้าไปก็อาจทำให้ท้องเสีย หรือถ่ายไม่หยุดได้ แต่ตำลึงเพศผู้นี้ก็มีข้อดีอยู่เหมือนกัน คือ มีสรรพคุณทางยา ช่วยดับพิษร้อน แก้ไข้ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ดีต่อผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน อีกทั้ง ยังสามารถนำใบไปตำเพื่อใช้พอกผิดหนังแก้พิษของแมลงสัตว์กัดต่อยและแก้เริมได้ ส่วนดอกตำลึงก็ใช้ได้เมื่อเกิดอาการคันที่ผิวหนัง รากก็ใช้เป็นยาแก้ไข้และลดการอาเจียนได้

ใบตำลึงเพศเมีย

สำหรับใบตำลึงเพศเมียนี้มีวางขายอยู่ตามท้องตลาดทั่วไป มีลักษณะใบค่อนข้างมน ขอบใบจะหยักไม่มาก สามารถนำมาปรุงอาหารได้ ปลอดภัยมากกว่า

ไม่ว่าจะเป็นตำลึงเพศผู้ หรือเพศเมีย ต่างก็เป็นผักที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายของเราทั้งสิ้น เพียงแต่ต้องเลือกนำมาใช้ให้ถูก ที่สำคัญต้องสังเกตลักษณะของตำลึงให้ดีก่อนนำมาบริโภคด้วย ไม่อย่างนั้นประโยชน์ที่ควรจะเกิดจะกลับกลายเป็นโทษที่ส่งผลเสียได้อย่างไม่รู้ตัว

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 18/01/2566

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a29,700.0029,800.00
ทองรูปพรรณ 96.5%1,924.0029,167.8430,300.00
ทองรูปพรรณ 90%1,731.6026,251.06n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,539.2023,334.27n/a
ทองรูปพรรณ 50%866.0013,128.56n/a
ทองรูปพรรณ 40%673.0010,202.68n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%1,994.0030,229.04n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 18/01/2566


ปตท.

บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9535.5535.5535.8535.5535.5535.5535.5535.5535.5535.55
แก๊สโซฮอล์ 9135.2835.2835.5835.2835.2835.2835.2835.2835.2835.28
แก๊สโซฮอล์ E2033.6433.6433.9433.6433.6433.6433.6433.6433.64
แก๊สโซฮอล์ E8534.0934.0934.09
เบนซิน 9542.9643.4143.4643.4142.96
ดีเซล B734.9434.9435.5435.2435.2434.9434.9434.9435.2434.94
ดีเซล34.9434.9435.5435.2435.2434.9434.9434.9435.2434.94
ดีเซล B2034.9434.9435.5435.2434.9433.6434.94
ดีเซลพรีเมี่ยม43.6643.6644.2644.2644.2634.94
แก๊ส NGV16.5916.5916.59
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า