“แลนด์แอนด์เฮ้าส์” ปักหมุด “วันเวลา ณ เจ้าพระยา” คอนโดหรูโค้งน้ำเจ้าพระยา
“แลนด์แอนด์เฮ้าส์” พลิกโฉมที่ดินโรงสีเก่า 18ไร่เศษ ปักหมุด“วันเวลา ณ เจ้าพระยา” คอนโดหรูวิวโค้งน้ำเจ้าพระยา สร้างมูลค่าบนทำเลทอง
ที่ดินแปลงใหญ่กว่า 18 ไร่ ทำเลศักยภาพ ติดถนนสามเสนใกล้โรงเรียน ราชินีบน ถูกจับตามองอย่างมากเพราะ เป็นทำเลหายากตั้งอยู่ริมโค้งน้ำเจ้าพระยาเส้นเลือดใหญ่ แลนด์มาร์คสำคัญ และแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ โดย บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) พี่เบิ้มแห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ พลิกโฉมจากโรงสีเก่า เป็น คอนโดมิเนียมระดับไฮเอ็นด์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างมูลค่าให้กับโครงการเป็นอย่างมาก
ประกอบด้วย โครงการประเภทอาคารพักอาศัย 1 อาคาร 5 ทาวเวอร์ พื้นที่บริเวณรอบโครงการรวม รวมจำนวนยูนิตทั้งโครงการ 1,512 ห้อง โดยแบ่งประเภทออกเป็น 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน, 3 ห้องนอน, เพนท์เฮ้าท์ และ วิลล่า พร้อมเปิดประสบการณ์การใช้ชีวิตติดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างเหนือระดับ ในราคาเริ่มต้น 7.5 ล้านบาท
โครงการ “วันเวลา ณ เจ้าพระยา Riverfront Condo” คอนโดมิเนียมวิวโค้งน้ำเจ้าพระยาที่สวยและน่าอยู่ที่สุดภายใต้คอนเซ็ปต์ “อยู่…..ให้วันเวลามีความหมาย อยู่กับวันเวลา ณ เจ้าพระยา” ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสายน้ำ ในรูปแบบอาคาร Low Destiny เพียง 83 ยูนิต ต่อพื้นที่ 1 ไร่ ที่ให้ความเป็นส่วนตัว ครบครันด้วย Full Facilities และพื้นที่สวนส่วนกลางขนาดใหญ่ถึง 4.8 ไร่ กว้างขนานแม่น้ำเจ้าพระยาถึง 130 เมตร ให้ผู้อยู่อาศัยรับชมวิวเจ้าพระยาได้กว้างไกลสุดสายตา ที่อาจหาไม่ได้อีกแล้วในราคา ดังกล่าว
โครงการ “วันเวลา ณ เจ้าพระยา Riverfront Condo” เป็นโครงการที่ต้องการเจาะกลุ่มเป้าหมายคนเมือง และคนรุ่นใหม่ ที่มีความฝันอยากมีบ้านริมน้ำ ใจกลางกทม. ที่เดินทางสะดวกสบาย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีท่ามกลางธรรมชาติของต้นไม้และสายน้ำเจ้าพระยา สงบและเป็นส่วนตัว เพื่อให้วันเวลาที่นี่ มีความหมายในการอยู่อาศัยอย่างแท้จริง
จากผืนดินแปลงสวยขนาด 18 ไร่ติดถนนสามเสน พัฒนาเป็น Riverfront Condo คอนโดวิวโค้งน้ำเจ้าพระยาที่สวยและน่าอยู่ที่สุด ด้วยการออกแบบอาคารและการวางผังโครงการให้เติมเต็มประสบการณ์การใช้ชีวิตริมเจ้าพระยาได้อย่างเหนือระดับ โดดเด่นด้วยงานสถาปัตยกรรมที่เน้นการเชื่อมโยงมิติทางความรู้สึกของผู้อาศัยกับแม่น้ำเจ้าพระยา เช่น การใช้เส้นสายความคดเคี้ยวของแม่น้ำเจ้าพระยา นำมาออกแบบเป็นองค์ประกอบส่วนต่าง ๆ ภายในของโครงการ
อาทิ เส้นทางสัญจร พื้นที่ว่างส่วนกลาง สระว่ายน้ำฟรีฟอร์มขนานวิวแม่น้ำระนาบต่าง ๆ ของพื้นผิวเปลือกอาคารตั้งแต่พื้นดินสู่ยอดอาคาร และความงามระยิบระยับของผิวน้ำเมื่อสะท้อนกับแสงแดด ถูกนำมาออกแบบเป็นผิวอาคารในส่วนของทางเข้าและยอดอาคาร จนกลายเป็นอีกหนึ่งอาคารที่เป็นเอกลักษณ์ ณ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
ความโดดเด่นของโครงการ “วันเวลา ณ เจ้าพระยา” นอกจากจะมีที่ดีไซน์ทุกรายละเอียด จากแรงบันดาลใจที่มาจากสายน้ำ สร้างบรรยากาศสงบ ผ่อนคลาย กับพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ที่ออกแบบให้เชื่อมต่อชีวิตในโครงการ โดยมีสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ 4.8 ไร่ ริมเจ้าพระยา ด้วยพื้นที่หน้ากว้าง 130 เมตร สามารถมองและสัมผัสสายน้ำเจ้าพระยาใจกลางกรุงเทพฯได้กว้างไกลสุดสายตา
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ทำเลพระราม9บูม”อนันดา”พลิกเกม ลุยบ้านลักชัวรีพูลวิลล่า4,000ล้าน
ทำเลพระราม9 บูม”อนันดา”พลิกเกม ลุยบ้านลักชัวรีพูลวิลล่า4,000ล้าน แฟล็กชิปใหม่ รับตลาดบ้านหรู มีสัญญาณบวก ชี้กระแสตอบรับกวาดยอดขายก่อนเปิดตัวโครงการกว่า 1,700 ล้านบาทหรือ 42 %ของมูลค่า
ย่านพระราม9 ศูนย์กลางธุรกิจใหม่ใจกลางเมือง ปัจจุบันมีโครงการขนาดใหญ่เกิดขึ้นจำนวนมากสร้างมูลค่ามหาศาลให้กับพื้นที่ เนื่องจากเดินทางสะดวก มีรถไฟฟ้าเชื่อมผ่าน การพัฒนามีทั้งอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ศูนย์การค้าชั้นนำ โครงการอยู่อาศัยแนวสูง รวมทั้งมีรถไฟฟ้าราคาที่ดินขยับสูงต่อเนื่อง
เมื่อตลาดที่อยู่อาศัยแนวแรบมาแรงโดยเฉพาะระดับลักชัวรี ส่งสัญญาณบวก มีซัพพลายไม่มาก ขณะดีมานด์มีการเติบโตต่อเนื่องและเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบเศรษฐกิจ ส่งผลให้ ดีเวลลอปเปอร์เล็งเห็นโอกาส
บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ผู้นำแห่งวงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับคนเมือง ตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า ล่าสุดประกาศลุยบ้านเดี่ยวแนวราบ สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ของโครงการแฟล็กชิปบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี เปิดตัว “อาร์เทล อโศก – พระราม 9” บ้านเดี่ยวสไตล์ลักชัวรีพูลวิลล่า บนทำเลกลางเมือง ใจกลางพระราม 9 มูลค่าโครงการกว่า 4,000 ล้านบาท
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากปรากฎการณ์บ้านลักชัวรีมีกำลังซื้อสูงสวนทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้อนันดาฯ มุ่งเน้นการพัฒนาโครงการแนวราบมากขึ้น โดยมีการปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องและตอบรับกับการเติบโตของธุรกิจแนวราบของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีการเติบโตขึ้น7% ในครึ่งปีแรกของปีนี้
รวมถึงการปรับกลยุทธ์การลงทุนในธุรกิจแนวราบเป็น 20% คอนโด 80% จากเดิม15% ล่าสุด เปิดตัว โครงการ อาร์เทล อโศก – พระราม 9 โครงการระดับแฟล็กชิปแนวราบของอนันดาฯ เป็นบ้านเดี่ยวสไตล์ลักชัวรี่พูลวิลล่า บนทำเลศักยภาพที่หาได้ยาก และอาจจะหาไม่ได้อีกแล้ว บนทำเลใจกลางเมือง ใจกลางย่านพระราม 9 พรั่งพร้อมด้วยทุกองค์ประกอบของการใช้ชีวิตเมืองแวดล้อมไปด้วยสถาบันการศึกษาระดับอินเตอร์หลายแห่งอีกทั้งยังมีโรงพยาบาลชั้นนำระดับสูงที่ได้รับความนิยมหลายแห่งอีกด้วย
“ในอนาคตเราตั้งใจให้โครงการอาร์เทล อโศก – พระราม 9 เป็นรูปแบบ (Platform) ของการพัฒนาโครงการแนวราบระดับลักชัวรี ของอนันดาฯ ด้วยรูปแบบของโครงการอันตั้งอยู่บนทำเลใจกลางเมือง แวดล้อมด้วยธรรมชาติขนาดใหญ่ มีการออกแบบและพัฒนาด้วยความเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า”
นายพงศ์อนันต์ สุขเกษม ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แบรนด์ อาร์เทล เป็นแบรนด์ระดับท็อปสุดของบริษัทฯ ในกลุ่มสินค้าบ้านแนวราบ“บ้านอนันดา”โดยโพซิชั่นของแบรนด์ อาร์เทล จะเป็นแบรนด์บ้านสำหรับคนเมืองบนทำเลที่เป็นที่สุดของการอยู่อาศัยใจกลางเมืองออกแบบฟังก์ชั่นตอบโจทย์ครอบครัวรุ่นใหม่ และเพื่อความสุนทรียะของการใช้ชีวิต
รวมถึงเป็นแบรนด์ที่สะท้อนถึงความสำเร็จ ความมีสไตล์ ที่เป็นเอกลักษณ์และความเป็นตัวตนของผู้อยู่อาศัย ซึ่งแนวคิดของโครงการ ตั้งต้นมาจากแนวคิด “FLOW” อิสระแห่งการใช้ชีวิต ที่ให้ชีวิต “โฟล์ว” ไปในทุกๆ ด้าน เพราะด้วยโครงการตั้งอยู่บนทำเลใจกลางเมืองที่เชื่อมต่อทุกพื้นที่ สะดวกทุกการเดินทาง การออกแบบ ฟังก์ชั่นการใช้สอย เพื่อให้ชีวิต “โฟล์ว” ไปอย่างไม่รู้จบ สุนทรียะไปกับชีวิตอิสระเหนือทุกข้อจำกัด
สำหรับแบรนด์ อาร์เทล อนันดาฯ ได้พัฒนาแบรนด์นี้มาอย่างต่อเนื่อง และเป็นแบรนด์ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้า ด้วยความสำเร็จจาก 2 โครงการที่ปิดการขายไปเรียบร้อยแล้ว บน 2 ทำเลศักยภาพย่าน Extension CBD กับ โครงการ อาร์เทล พัฒนาการ-ทองหล่อ ตั้งอยู่ในซอยพัฒนาการ 20 และโครงการ อาร์เทล เอกมัย – รามอินทรา ตั้งอยู่ในย่านถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา เดินทางเชื่อมต่อถึงย่านพระราม 9 และเอกมัยได้โดยสะดวก
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 19ก.ย. ที่ระดับ 35.67 บาทต่อดอลลาร์
เงินบาทมีโอกาสแกว่งตัว sideway ในกรอบ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.60-35.80 บาท/ดอลลาร์ สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของยูโรโซน ส่วนเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ตามแรงขายทำกำไร
ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 19ก.ย.2566 ที่ระดับ 35.67 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.72 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทยระบุว่า แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดอาจยังไม่รีบปรับสถานะถือครองก่อนจะรับรู้ผลการประชุม FOMC ทำให้ เงินบาทมีโอกาสแกว่งตัว sideway ในกรอบ อย่างไรก็ดี ปัจจัยกดดันเงินบาทฝั่งอ่อนค่ายังคงมีอยู่ โดยเฉพาะแรงขายสินทรัพย์ไทยของนักลงทุนต่างชาติ
สวนทางกับคาดการณ์ของเราที่มองว่า นักลงทุนต่างชาติจะทยอยกลับเข้ามาซื้อสินทรัพย์ไทยมากขึ้น หลังรับรู้ผลการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของไทย ทั้งนี้ เงินบาทก็อาจไม่ได้อ่อนค่าไปมาก ในช่วงก่อนรับรู้ผลการประชุม FOMC โดยผู้เล่นในตลาดบางส่วนที่ถือสถานะ Short THB (มองเงินบาทอ่อนค่า) ก็อาจรอจังหวะขายทำกำไรออกมาบ้าง
ทำให้เราประเมินแนวต้านเงินบาทอาจยังไม่เกินโซน 35.80 บาทต่อดอลลาร์ และเนื่องจากเราประเมินว่า เงินบาทอาจยังไม่สามารถกลับมาแข็งค่าได้ชัดเจน จนกว่าจะรับรู้ผลการประชุม FOMC ทำให้ เรามองว่า หากเงินบาทแข็งค่าขึ้นบ้าง ก็อาจติดอยู่แถวโซนแนวรับ 35.50-35.60 บาทต่อดอลลาร์
อนึ่ง ในช่วงนี้ เรามองว่า ทุกสินทรัพย์ยังอยู่ในช่วงเผชิญความผันผวนสูง จากทั้งความไม่แน่นอนของทิศทางนโยบายการเงิน ความกังวลแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ทำให้เราคงคำแนะนำว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
และนอกเหนือจากการใช้เครื่องมือดังกล่าว การเลือกทำธุรกรรมในสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency) ก็เป็นอีกแนวทางในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจ ซึ่งผู้ประกอบการควรเปรียบเทียบต้นทุนในการทำธุรกรรมและแผนการป้องกันความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทุกครั้ง
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.60-35.80 บาท/ดอลลาร์
โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาททยอยแข็งค่าขึ้น (แกว่งตัวในช่วง 35.65-35.76 บาทต่อดอลลาร์) ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ และการรีบาวด์ขึ้นของราคาทองคำ (ซึ่งได้แรงหนุนจากการย่อตัวลงของทั้งบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ และเงินดอลลาร์) นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดบางส่วนอาจทยอยขายทำกำไรสถานะ Short THB (มองเงินบาทอ่อนค่า) บ้าง ก่อนรับรู้ผลการประชุม FOMC ในสัปดาห์นี้
ผู้เล่นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในภาวะ wait and see เพื่อรอลุ้นผลการประชุม FOMC ของเฟด แม้ว่าผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่จะมองว่า เฟดอาจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้และเฟดอาจคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับปัจจุบันไปจนถึงช่วงเดือนพฤษภาคม
นอกจากนี้ บรรยากาศในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังถูกกดดันจากความกังวลว่า การพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เริ่มเผชิญปัญหาอาจเพิ่มความเสี่ยงการเกิด Government Shutdown ได้ ทำให้โดยรวมดัชนี S&P500 ปิดตลาดเพียง +0.07%
ส่วนในฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี stoxx600 พลิกกลับมาปรับตัวลงกว่า -1.13% กดดันโดยการปรับตัวลงของหุ้นเกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจยุโรป หากทั้ง ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ยังเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ เพื่อคุมปัญหาเงินเฟ้อ
ในฝั่งตลาดบอนด์ เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดอาจเริ่มทยอยเข้าซื้อบอนด์ 10 ปี สหรัฐฯ มากขึ้น (รวมถึงบอนด์ 10 ปี ในประเทศอื่นๆ) ท่ามกลางมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่ประเมินว่า วัฎจักรการขึ้นดอกเบี้ยของบรรดาธนาคารกลางอาจใกล้ถึงจุดสิ้นสุดลง ซึ่งมุมมองดังกล่าว ได้ส่งผลให้ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ย่อตัวลงสู่ระดับ 4.30% อีกครั้ง
อย่างไรก็ดี เรายังคงมองว่า บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อาจยังคงแกว่งตัว sideway และถ้าหากจะลุ้นให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ จะกลับมาปรับตัวลดลงได้ชัดเจน อาจต้องรอจับตา Dot Plot ใหม่ของเฟดในการประชุมเฟดสัปดาห์นี้
ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ตามแรงขายทำกำไรสถานะ Long USD ก่อนที่ผู้เล่นในตลาดจะรับรู้ผลการประชุมเฟด นอกจากนี้ การย่อตัวลงบ้างของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ก็มีส่วนกดดันให้เงินดอลลาร์ย่อตัวลงบ้าง ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวลงใกล้ระดับ 105 จุด (กรอบ 105-105.4 จุด)
ในส่วนของราคาทองคำ การย่อตัวลงบ้างของทั้งบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ และเงินดอลลาร์ ได้ช่วยหนุนให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค.) สามารถทยอยปรับตัวขึ้นจากโซน 1,945 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สู่ระดับ 1,955 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้อีกครั้ง ซึ่งเรามองว่า ผู้เล่นในตลาดบางส่วนอาจทยอยขายทำกำไรทองคำและโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็อาจช่วยหนุนการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทได้
สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของยูโรโซน ว่าจะมีความแตกต่างจากตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้าหรือไม่ โดยหากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI ของยูโรโซน ยังคงอยู่ในระดับสูงกว่า 5.3% ก็อาจสะท้อนว่า ECB ยังมีโอกาสเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยได้ ถ้าจำเป็น
ทั้งนี้ เรามองว่า ECB อาจจบรอบการขึ้นดอกเบี้ยแล้ว เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลงมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทยอยชะลอตัวลงกลับสู่เป้าหมายได้ในที่สุด
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 35.68-35.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.40 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 35.73 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยแม้เงินบาทจะแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย
แต่ภาพรวมยังเป็นการเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด เพราะยังมีปัจจัยลบจากสัญญาณขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ประกอบกับตลาดยังคงรอติดตามผลการประชุมและ dot plot ของเฟด (19-20 ก.ย.) เพื่อประเมินสัญญาณดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปี
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้ที่ 35.60-35.75 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สัญญาณฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ทิศทางเงินหยวน อัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค. ของยูโรโซน และตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนส.ค. ของสหรัฐฯ
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ไทย VS อิตาลี : วอลเลย์บอลหญิง คัดโอลิมปิก 2024, เทียบสถิติ
การแข่งขัน วอลเลย์บอลหญิง โอลิมปิก 2024 รอบคัดเลือก กลุ่มซี ที่กลุ่มนี้ เมืองลอดซ์ ประเทศโปแลนด์ จะรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โดยใช้สนาม แอตลาส อารีน่า เป็นสังเวียนหลัก
โดย “ทัพนักตบลูกยางสาวไทย” ทีมอันดับ 14 ของโลก ที่ยังไม่ชนะใครในทัวร์นาเมนต์นี้ จะลงสนามเกมที่สามพบกับ อิตาลี ทีมอันดับ 5 ของโลก ที่เก็บชัยมาได้รวดทั้งสองนัด
ซึ่งจากสถิติที่พบกันมาทั้งหมด 21 ครั้ง ทีมวอลเลย์บอลสาวไทย เก็บชัยชนะได้เพียงแค่ 3 ครั้งเท่านั้น โดยหนสุดท้ายที่เก็บชัยได้คือในรายการ มองเทรอซ์ มาสเตอร์ เมื่อปี 2019 เราลองไปดูสถิติการพบกัน 5 ครั้งหลังสุดของทั้งสองทีมก่อนหน้านี้กัน
เฮดทูเฮด 5 ครั้งหลังสุด : ไทย ชนะ 0, อิตาลี ชนะ 5
30 พฤษภาคม 2566 : ไทย แพ้ อิตาลี 2-3 เซต (เนชั่นส์ลีก)
3 กรกฎาคม 2565 : ไทย แพ้ อิตาลี 0-3 เซต (เนชั่นส์ลีก)
20 มิถุนายน 2564 : ไทย แพ้ อิตาลี 1-3 เซต (เนชั่นส์ลีก)
22 พฤษภาคม 2562 : ไทย แพ้ อิตาลี 0-3 เซต (เนชั่นส์ลีก)
18 พฤษภาคม 2562 : ไทย แพ้ อิตาลี 0-3 เซต (มองเทรอซ์ฯ)
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันของ นักตบลูกยางสาวไทย ในรายการโอลิมปิก 2024 รอบคัดเลือก นัดต่อไปจะพบกับ อิตาลี ในวันอังคารที่ 19 กันยายน 2566 19.30 น. แฟนๆ สามารถรับชม และเชียร์ ได้ผ่านการถ่ายทอดสดทาง ช่อง Workpoint 23
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
พูดไม่รู้เรื่อง ถามอย่างตอบอย่าง สาเหตุมาจากอะไร
เชื่อว่าในชีวิตของคุณต้องเคยประสบพบเจอคนที่เรารู้สึกว่ามาจากดางดวงอื่น กล่าวคือคนที่เราเข้าถึงไม่ได้ รู้สึกว่าเขาพูดไม่รู้เรื่อง สื่อสารกันไม่เข้าใจ พูดแปลกๆ ฟังไม่ออก และไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด จนยากที่จะบอกได้ว่าเขาคนนั้นแค่เป็นคนแปลกๆ หรือมีความผิดปกติทางสมองหรือไม่ Sanook! Health จะมาบอกอาการทั่วไปของคนประเภทนี้ ทำความเข้าใจเพวกเขาให้มากขึ้น รวมถึงคนที่กำลังประสบปัญหานี้อยู่ ให้ลองหาทางแก้กันดูค่ะ
อาการทั่วไปของคนที่พูดไม่รู้เรื่อง
– ถามอย่าง ตอบอย่าง เช่น “เมื่อกี้ฝนตกเหรอ” อาจจะตอบว่า “ไม่เป็นไร มีร่ม” เป็นต้น คือเป็นเรื่องเดียวกัน แต่ตอบไม่ตรงคำถาม
– พูดสลับคำ สลับประโยค หรือพูดย่อเสียจนฟังไม่รู้เรื่อง เช่น อาจจะละประธานหรือกรรมไป จนทำให้เราไม่เข้าใจว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหนกันแน่
– พูดออกมากลางเรื่อง เหมือนส่วนประโยคตอนต้นจะหาย มีแต่ประโยคหลังๆ หลุดออกมาจากปาก ทำให้ไม่เข้าใจว่าเนื้อเรื่องเต็มๆ เป็นอย่างไร
– พูดเร็ว พูดไว และรูปประโยคที่พูดไม่สมบูรณ์
– ผลลัพธ์หรือบทสรุปของเรื่องเล่าอาจจะออกมาก่อนการปูเรื่องให้ฟัง
– เปลี่ยนเรื่องคุยเร็วจนตามไม่ทัน
กระบวนการคิดของคนที่มีปัญหาในการสื่อสาร
– สมองคิดรวดเร็วเกินไป จนข้ามช็อต แล้วสมองไปไวกว่าปาก จึงทำให้ตอบไม่ตรงคำถาม เพราะคิดคำตอบล่วงหน้าไปแล้ว เช่น ถามว่า “เมื่อกี้ฝนตกเหรอ” คำตอบจริงๆ คือ “ตก” แต่สมองคิดไปถึงช็อตว่า ฝนตกนะ แต่ไม่เป็นไร ไม่มีปัญหา เพราะเอาร่มมาด้วย จึงตอบไปแค่ “ไม่เป็นไร เอาร่มมา”
– ด้วยความที่สมองคิดเร็ว จับรายละเอียดเก็บมาคิดวนๆ มากๆ จึงทำให้ไม่สามารถคิดคำพูดได้ทันตามสมอง เช่น จะเล่าจาก 1>2>3>4 ปากกำลังเล่า 1 อยู่ แต่พอสมองคิดไปถึง 3 แล้ว เลยข้ามไปพูด 3 แล้วพอรู้สึกว่ายังไม่ได้พูด 2 เลยวกกลับมาเล่า 2 อีกที
พูดไม่รู้เรื่อง อาการผิดปกติทางสมอง หรือแค่เป็นคนแปลกๆ?
เราจะไม่มีทางทราบได้เลยจนกว่าจะพบแพทย์ และลองคุย หรือทำแบบทดสอบที่แพทย์ให้เพื่อวัดผลการทำงานของสมองอีกที
วิธีพัฒนาทักษะการพูด การสื่อสารให้คนเข้าใจมากยิ่งขึ้น
1. พูดให้ช้าลง ก่อนพูดออกไปลองเรียบเรียงประโยคก่อนค่อยพูด อาจฟังดูเสียเวลา แต่เพื่อการฝึกฝนต้องลองทำ
2. หากจะเล่าอะไรยาวๆ และมีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะ ลองจดและเรียบเรียงลำดับเหตุการณ์ลงในกระดาษก่อน แล้วค่อยๆ พูดตามที่จดไว้ เพื่อฝึกการพูด การเล่าเรื่องให้ถูกลำดับ
3. ก่อนตอบคำถามคนอื่น ลองทวนคำถามของคนๆ นั้นอีกครั้ง เพื่อตรวจทานอีกครั้งว่าเขาถามอะไรกันแน่
4. ลองตอบคำถามสั้นๆ ไม่ต้องลงรายละเอียดมาก เพื่อฝึกไม่ให้ข้ามในสิ่งที่จะพูด แล้วไปลงแต่รายละเอียดแทน
5. หัดพิมพ์ในสิ่งที่จะพูดทั้งหมด ตรวจทานว่าอ่านแล้วเข้าใจหรือไม่ และฝึกพูดจากสิ่งที่พิมพ์บ่อยๆ
นอกจากควรหมั่นสังเกตตัวเอง และถามไถ่เพื่อนรอบข้างแล้ว หากมีปัญหามาจนถึงขั้นรบกวนการใช้ชีวิต การทำงาน แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้องค่ะ จริงๆ แล้วคุณอาจไม่ได้เป็นโรคอะไรร้ายแรง แต่อาจต้องลองจัดระเบียบในสมองใหม่ เพื่อการสื่อสารกับคนในสังคมให้เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น อย่างไรคนรอบข้างก็ควรเป็นกำลังใจให้เขา มากกว่ามองว่าเขาเป็นคนแปลกประหลาด หรือเลิกคบเขาเสียก่อนนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
บทสนทนาสั้นฝึกภาษา ตอน : อุบัติเหตุ
Trevor: Hi. (สวัสดี)
Billy: Hi, how have you been? (สวัสดี เป็นอย่างไรบ้าง)
Trevor: I have been good, thanks. Did you have a good weekend?
(ฉันสบายดี ขอบคุณนะ คุณมีสุดสัปดาห์ที่ดีไหม?)
Billy: No, I didn’t. I had an accident last Sunday morning.
I fell off a ladder. (ไม่อ่ะ ฉันเกิดอุบัติเหตุเมื่อวันอาทิตย์ตอนเช้า ฉันตกบันได)
Trevor: Off a ladder? Did you hurt yourself?
(ตกบันไดเหรอ?คุณได้รับบาดเจ็บไหม?)
Billy: Yes. I hurt my knee. (ใช่ ฉันเจ็บที่หัวเข่า)
Trevor: Where did it happen? (แล้วเกิดขึ้นที่ไหนเนี่ย?)
Billy: In the garage. (ในโรงรถหน่ะ)
Trevor: What did you do? Did you go to the hospital?
(คุณทำอะไร ทำอิท่าไหน(ถึงตกบันได) คุณได้ไปโรงพยาบาลไหม?)
Billy: Yes, well, luckily, my close friend was in, and
she drove me to hospital.
(ได้ไปๆ ดีนะ ที่เพื่อนสนิทของฉันอยู่ในโรงรถพอดี และเธอขับรถพาฉันไปโรงพยาบาล)
Trevor: That’s good. What did they do at the hospital?
( ดีแล้ว พวกเขาทำอะไรให้คุณบ้าง ตอนอยู่ที่โรงพยาบาล)
Billy: The doctor looked at it, and I had an x-ray.
(คุณหมอเค้าเช็คตรวจดู และก็เอ็กซ์เรย์หน่ะ)
Trevor: Was it OK? (แล้วโอเคไหมอะ?)
Billy: It’s very painful. (มันเจ็บมาก)
Trevor: Can you walk now? (แล้วตอนนี้ คุณเดินได้ไหม?)
Billy: Yes, I can, but I can’t drive. (ได้นะ แต่ฉันขับรถไม่ได้)
Trevor: Oh, dear. Well. I hope it’ll be OK soon.
Anyway, I suppose you don’t want to play
table tennis tomorrow then.
(โอ้ ผมหวังว่ามันจะดีขึ้นในเร็ว ๆ นี้ อย่างไรก็ตาม
ผมเดาว่าพรุ่งนี้คุณคงไปตีปิงปองไม่ไหวแน่ๆ)
ประโยคอื่น ๆ สำหรับอุบัติเหตุอื่นที่ใกล้เคียง
และไม่ใกล้เคียงกับบทสนทนาข้างต้น มีอะไรกันบ้างนะ
1. The floor is wet. Beware of slippery.
คำแปล พื้นเปียก ระวังลื่น
2. She has a broken arm.
คำแปล เธอแขนหัก
3. Your room is very messy; you might trip over all those cables.
คำแปล ห้องของคุณรกมาก คุณอาจจะสะดุดสายไฟพวกนั้นได้
4. I hit my arm hard against the table, and now I’ve got a big bruise.
คำแปล แขนของฉันชนกับโต๊ะอย่างแรง และตอนนี้เขียวช้ำมาก
5. He fell down the stairs, but he’s okay. Don’t worry.
คำแปล เขาตกบันได แต่เขาไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวล
6. He’s so clumsy; he fell out of a tree!
คำแปล เขาซุ่มซ่ามมาก เขาตกต้นไม้
7. While cycling, he rode over a rock and fell off his bike.
คำแปล ขณะที่กำลังขี่จักรยาน เขาขี่สะดุดก้อนหินและตกจากรถของเขา
8. He wasn’t careful and had burned his hand on the stove.
คำแปล เขาไม่ระวัง และมือของเขานาบเข้ากับเตาแก๊ส
9. He was outside when a bee stung him on his leg.
คำแปล เขาอยู่ข้างนอกตอนที่ผึ้งต่อยขาของเขา
ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th
รู้หรือไม่? นี่คือ 5 อันดับ แอร์บ้านที่คนเลือกใช้มากที่สุด ดับร้อนเย็นฉ่ำ ประหยัดไฟ
อย่างที่ทุกคนทราบดีว่า ตอนนี้แอร์แบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) เข้ามามีบทบาทอย่างมากในสังคมปัจจุบัน ยิ่งประเทศไทย อากาศค่อนข้างร้อน และร้อนเกือบทั้งปี ดังนั้นการหาแอร์ยี่ห้อดีๆ เย็นฉ่ำ ประหยัดไฟ เย็นฉ่ำ ประหยัดไฟ มาใช้งานจึงจะเป็นอย่างมาก
จากข้อมูลการค้นหาของ Google พบว่าแอร์ยี่ห้อที่คนนิยมใช้มากที่สุดในประเทศไทยในปี 2566 (2023) คือ Daikin รองลงมาคือ Hisense Samsung Toshiba และ Sharp
Daikin ได้รับความนิยมเนื่องจากเป็นแบรนด์แอร์ชั้นนำระดับโลกที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำสมัย มีประสิทธิภาพในการทำความเย็นสูง และประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ Daikin ยังมีศูนย์บริการและอะไหล่ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการหลังการขายที่ดี
Hisense เป็นแบรนด์แอร์จากประเทศจีนที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีราคาที่คุ้มค่า คุณภาพดี และหลากหลายรุ่นให้เลือกสรร
Samsung เป็นแบรนด์แอร์ชั้นนำระดับโลกที่ได้รับความนิยมในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ เช่นเดียวกับแอร์ Samsung ที่ได้รับความนิยมเนื่องจากมีดีไซน์ทันสมัย ใช้งานง่าย และประหยัดพลังงาน
Toshiba เป็นแบรนด์แอร์จากประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ด้วยคุณภาพที่เชื่อถือได้ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย
Sharp เป็นแบรนด์แอร์จากประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมด้วยเทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์ที่ช่วยกำจัดเชื้อโรคและมลภาวะในห้อง
นอกจากนี้ ยังมีแบรนด์แอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น Mitsubishi, Electric, LG, Carrier GREE และ TRANE ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีจุดเด่นและข้อดีที่แตกต่างกันไป ผู้ซื้อควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ขนาดห้อง งบประมาณ และความต้องการใช้งาน เพื่อเลือกแอร์ยี่ห้อและรุ่นที่เหมาะสมที่สุด
ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อแอร์
- ขนาดห้อง: ควรเลือกแอร์ที่มี BTU เหมาะสมกับขนาดห้อง เพื่อให้สามารถทำความเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- งบประมาณ: แอร์แต่ละยี่ห้อและรุ่นมีราคาที่แตกต่างกัน ควรเลือกแอร์ให้เหมาะสมกับงบประมาณ
- ความต้องการใช้งาน: ควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ เช่น ฟังก์ชันการทำงาน ดีไซน์ และความประหยัดพลังงาน เพื่อให้ได้แอร์ที่ตรงกับความต้องการใช้งานมากที่สุด หรือเป็น การเชื่อมต่อกับระบบ Smart Home
สำหรับการเลือกซื้อแอร์บ้าน ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เหล่านี้อย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้แอร์ที่ตรงกับความต้องการและคุ้มค่ากับการลงทุน
ดังนั้นแล้วการเลือกซื้อแอร์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและคุ้มค่ามากที่สุด ขอแนะนำว่าให้เลือกซื้อแอร์ที่มีระบบฟอกอากาศด้วย เพราะจะเป็นตัวช่วยป้องกันสุขภาพของเพื่อน ๆ และคนในครอบครัวได้เป็นอย่างดี
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
มันฝรั่ง มีประโยชน์มากกว่าแค่ “แป้ง” ที่ทำให้อ้วน
สารอาหารที่มีประโยชน์ในมันฝรั่ง มีมากมายมากกว่าแค่ “แป้ง” อย่างที่หลายคนเข้าใจ แม้ว่าใครที่กำลังควบคุมน้ำหนักจะพยายามหลีกหนีมันฝรั่งอย่างจริงจัง แต่จริงๆ แล้ว มันฝรั่งไม่ได้ทานแล้วอ้วนอย่างที่เราคิด เฟซบุ๊คเพจ ความรู้สนุกๆ แบบหมอแมว กล่าวถึงคุณงามความดีของมันฝรั่ง และวิธีที่ทานแล้วดีต่อสุขภาพมาฝากค่ะ
สารอาหารในมันฝรั่ง
ในมันฝรั่ง 3 ขีด จะมีวิตามินซีประมาณ 50% ของที่เราต้องการในแต่ละวัน ได้ไฟเบอร์ประมาณ 7 กรัม วิตามินบี 6 และโปแทสเซี่ยมก็ ประมาณ 50% ของที่ควรได้ในแต่ละวัน
มันมีแต่แป้งนะ กินแล้วไม่อ้วนเหรอ ?
คือที่เราติดภาพว่ามันฝรั่งกินแล้วอ้วนส่วนนึงมาจากภาพของเฟรนซ์ฟรายฉ่ำน้ำมัน ดังนั้นถ้าเราไม่ได้กินแบบนั้นก็อย่าคิดมาก อย่าลืมว่าข้าวก็มีแต่แป้งเช่นกัน …
สำหรับคนที่อยากจะกินมันฝรั่ง ก็อาจจะเลือกกินแบบ ล้างเปลือกแล้วนำไปอบ นำมารับประทานแทนข้าวได้เป็นรสชาติกรอบแห้งนอก ฉ่ำใน แปลกลิ้นไปอีกแบบ
ปล. ถ้ากลัวอ้วนจริงๆหรือคนเป็นเบาหวานกลัวน้ำตาลขึ้นจากแป้ง ก็ให้อบพอดีๆ เพราะมันฝรั่งจะมีค่า Glycemic index สูงขึ้นในกรณีที่ปรุงสุกมากๆ และในกรณีมันบด แต่ถ้าเอาไปอบสุกพอดีๆ ค่า GI จะยังไม่ได้สูงมาก
Sanook! Health’s notes : ค่า Glycemic Index หรือ GI คือดัชนีที่ใช้ตรวจวัดคุณภาพของอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต โดยวัดว่าหลังรับประทาน ย่อย และถูกดูดซึมเข้าสู่ระบบการย่อยและดูดซึมของร่างกายแล้ว (หลังทานราว 2-3 ชั่วโมง) อาหารชนิดนั้นสามารถเพิ่มระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดได้เท่าไร โดยค่า GI จะอยู่ตั้งแต่ 0 ถึง 100 ยกตัวอย่างเช่น น้ำตาลกลูโคส หรือขนมปังขาว จะมีค่า Gl เท่ากับ 100 เป็นต้น
ดังนั้นในกรณีของมันฝรั่ง ยิ่งอบให้สุกมากๆ จะยิ่งเพิ่มค่าน้ำตาลกลูโคสในเลือดของเราสูงขึ้นไปด้วยค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 19/09/2566
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 32,500.00 | 32,600.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 2,105.00 | 31,911.80 | 33,100.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,894.50 | 28,720.62 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,684.00 | 25,529.44 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 947.00 | 14,356.52 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 737.00 | 11,172.92 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,181.00 | 33,063.96 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 19/09/2566
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 40.45 | 40.45 | 41.55 | 40.45 | 40.85 | 40.45 | 40.45 | 40.45 | 40.45 | 40.45 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 40.18 | 40.18 | 41.28 | 40.18 | 40.58 | 40.18 | 40.18 | 40.18 | 40.18 | 40.18 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 38.14 | 38.14 | 39.24 | 38.14 | 38.54 | – | 38.14 | 38.14 | 38.14 | 38.14 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 37.79 | 37.79 | – | – | – | – | – | – | – | 37.79 |
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม | 45.44 | 49.34 | 51.34 | 49.34 | – | – | – | – | – | 45.44 |
เบนซิน 95 | 48.24 | – | – | – | 49.81 | – | 48.74 | 48.39 | – | 48.24 |
ดีเซล B7 | 31.94 | 31.94 | 32.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 |
ดีเซล | 31.94 | 31.94 | 32.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 |
ดีเซล B20 | 31.94 | 31.94 | 32.94 | – | 31.94 | – | – | – | – | 31.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 42.24 | 44.34 | 49.44 | 44.34 | 43.64 | – | – | – | – | 42.24 |
แก๊ส NGV | 17.59 | 17.59 | – | – | – | – | – | – | – | 17.59 |