สาระน่ารู้ประจำวันที่ 19 มกราคม 2565

3 เทรนด์ที่อยู่อาศัย ปี 2565 คนหาบ้านต้องการอะไร?เมื่อคิดมีบ้าน

3 เทรนด์ที่อยู่อาศัย ปี 2565 คนหาบ้านต้องการอะไร?เมื่อคิดมีบ้าน

อัปเดตเทรนด์ที่อยู่อาศัย ของผู้บริโภคยุคใหม่ Now Normal หรือ อยู่กับโควิด ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ เผย 3 มิติ คนหาบ้าน ปี 2565 ต้องการอะไร เมื่อคิดมีบ้าน? พบ การค้นหาบ้านและคอนโดฯระดับ ราคา 3 ล้านบาท ยังน่าจับตา

18 ม.ค.2565 – ตลาดอสังหาริมทรัพย์ หรือ ที่อยู่อาศัย บ้าน – คอนโดมิเนียม ในปี 2565 นี้ ยังคงต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด อันเนื่องมาจากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการแพร่ระบาดฯ ที่ส่งผลโดยตรงต่อสถานะทางการเงินในครอบครัวอย่างเลี่ยงไม่ได้ 

ผู้บริโภคต้องพิจารณาความจำเป็นก่อนตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยอย่างรอบคอบ ในขณะที่การใช้ชีวิตแบบ Now Normal ได้กระตุ้นให้ทุกคนปรับไลฟ์สไตล์ไปตามบริบทของยุคสมัย ดังนั้น การมองหาหรือเลือกที่อยู่อาศัยต้องมาพร้อมความสะดวกสบาย ความปลอดภัยในทุกมิติ และตอบโจทย์การดำเนินชีวิตอย่างครบถ้วนอีกด้วย 

ล่าสุด ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) เว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสด้านอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย ได้อัปเดตแนวโน้มที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคยุคใหม่ที่น่าจับตามอง เผยข้อมูลเชิงลึกจากผู้เข้าเยี่ยมชมในเว็บไซต์ DDproperty.com ตลอดปี 2021 สะท้อน พฤติกรรมการเลือกซื้อ/เช่าที่อยู่อาศัย ที่เชื่อมโยงไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในยุค Now Normal   

  • คนซื้อบ้านยังมีดีมานด์ โฟกัสราคาจับต้องได้ 1-3 ล้าน

การชะลอตัวของเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดฯ ที่ลากยาวกระทบโดยตรงต่อความมั่นคงทางการเงินของผู้บริโภค ประกอบกับสัญญาณความเสี่ยงจากแนวโน้มเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้บริโภคยังคงลังเลในการตัดสินใจซื้อบ้านและชะลอการทำธุรกรรมออกไปก่อนในช่วงนี้ แม้จะมีโปรโมชั่นมากมายจากผู้พัฒนาอสังหาฯ แต่ยังไม่เพียงพอในการกระตุ้นการเติบโตของตลาด 

3 เทรนด์ที่อยู่อาศัย ปี 2565 คนหาบ้านต้องการอะไร?เมื่อคิดมีบ้าน

อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (Real Demand) ในตลาดที่จำเป็นต้องซื้อที่อยู่อาศัยในปีนี้ จะหันไปเลือกซื้อที่อยู่อาศัยที่มีฟังก์ชั่นครอบคลุมการใช้งานในราคาจับต้องได้ (Affordable price) แทน เพื่อให้เหมาะสมกับกำลังซื้อที่มีและป้องกันการเกิดปัญหาขาดสภาพคล่องในภายหลัง 

เห็นได้จากข้อมูลผู้เยี่ยมชมในเว็บไซต์ DDproperty.com ในปี 2021 ที่ค้นหาบ้านและคอนโดฯ ในระดับราคา 1-3 ล้านบาทมากที่สุด (21%) สะท้อนให้เห็นดีมานด์ของกลุ่มลูกค้าในตลาดกลาง-ล่าง โดยระดับราคานี้ตอบโจทย์ผู้ต้องการบ้านหลังแรกซึ่งมีจำนวนไม่น้อยในตลาด ตามมาด้วยระดับราคา 3-5 ล้านบาท และมากกว่า 15 ล้านบาท ในสัดส่วน 4% เท่ากัน โดยระดับราคาต่ำที่สุดที่มีคนค้นหาคือ 100,000 บาท และระดับราคาสูงที่สุดที่มีคนค้นหาคือ 500 ล้านบาท
 

  • ฟังก์ชั่นการใช้งานครบ ตอบโจทย์ครอบครัว

ปัจจัยสำคัญอันดับต้น ๆ ที่ผู้บริโภคใช้พิจารณาเมื่อคิดจะซื้อ/เช่าที่อยู่อาศัยมักเป็นรูปแบบบ้าน/คอนโดฯ ที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของสมาชิก ข้อมูลจากผู้เข้าเยี่ยมชมในเว็บไซต์ DDproperty.com ในปี 2021 สำหรับผู้ที่มีความต้องการซื้อ พบว่า ตัวกรองการค้นหา (Filter) ที่ใช้ทุกการค้นหาคือ “จำนวนห้องนอน” ตามมาด้วย “ราคา (21%)” และ “พื้นที่ใช้สอย (4%)” 

3 เทรนด์ที่อยู่อาศัย ปี 2565 คนหาบ้านต้องการอะไร?เมื่อคิดมีบ้าน

โดยการค้นหาโดยใช้จำนวนห้องนอนเป็นตัวกรอง พบว่า คนที่ต้องการซื้อบ้านต้องการบ้านขนาด 2 ห้องนอน (3%), 3 ห้องนอน (2%) และ 1 ห้องนอน (1%) ส่วนการค้นหาโดยใช้จำนวนห้องน้ำเป็นตัวกรอง พบว่า ส่วนใหญ่ (49%) ต้องการบ้านที่มี 2 ห้องน้ำ รองลงมาคือ 1 ห้องน้ำ (28%) และ 3 ห้องน้ำ (16%) ตามลำดับ แสดงให้เห็นว่าผู้สนใจหาบ้านส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มครอบครัวขนาดกลางที่มีสมาชิกไม่มากนัก นอกจากนี้ กว่า 2 ใน 3 ของผู้ซื้อยังมองหาที่อยู่อาศัยที่มีเฟอร์นิเจอร์ครบ ตกแต่งพร้อมเข้าอยู่ได้ทันที (Fully Furnished) ถึง 68% 

 
ในขณะที่การเช่ากำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงนี้ พบว่า ตัวกรองการค้นหาที่ใช้ทุกการค้นหาคือ “จำนวนห้องนอน” เช่นกัน ตามมาด้วย “ราคา (24%)” และ “พื้นที่ใช้สอย (8%)” หากโฟกัสไปที่การค้นหาโดยใช้จำนวนห้องนอนเป็นตัวกรอง พบว่า คนที่ค้นหาบ้านเช่าต้องการขนาด 2 ห้องนอน (10%), 1 ห้องนอน (6%) และ 3 ห้องนอน (4%) ส่วนการค้นหาโดยใช้จำนวนห้องน้ำเป็นตัวกรอง พบว่า ส่วนใหญ่ (47%) ต้องการบ้านที่มี 1 ห้องน้ำ รองลงมาคือ 2 ห้องน้ำ (42%) และ 3 ห้องน้ำ (8%) ตามลำดับ โดย 4 ใน 5 ของผู้เช่า (80%) ต้องการที่อยู่อาศัยที่มีเฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมเข้าอยู่ทันที อำนวยความสะดวกให้ผู้เช่ามากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องเตรียมงบสำหรับตกแต่งหรือซื้อเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเติม 

3 เทรนด์ที่อยู่อาศัย ปี 2565 คนหาบ้านต้องการอะไร?เมื่อคิดมีบ้าน
  • โอกาสทองของผู้ซื้อ ปล่อยเช่าสร้างรายได้ระยะยาว 

การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อต่อยอดสร้างรายได้ยังคงเป็นที่นิยม เนื่องจากมีความต้องการในตลาดอยู่มาก ปัจจุบันเทรนด์การเช่ายังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสงครามราคาจากผู้พัฒนาอสังหาฯ ที่ทำให้เป็นโอกาสทองของผู้ซื้อ/นักลงทุนที่มีความพร้อมในการเลือกซื้อหรือลงทุนในทำเลที่มีศักยภาพเติบโตเพื่อนำมาลงทุนเก็งกำไรหรือปล่อยเช่าสร้างรายได้ในอนาคต เนื่องจากยังมีกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการเลือกเช่าที่อยู่อาศัยจำนวนไม่น้อย ข้อมูลจากผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคต่อสภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์ DDproperty’s Thailand Consumer Sentiment Study รอบล่าสุดพบว่า มากกว่าครึ่งของผู้เช่า (54%) วางแผนจะซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองภายใน 5 ปีข้างหน้า 

3 เทรนด์ที่อยู่อาศัย ปี 2565 คนหาบ้านต้องการอะไร?เมื่อคิดมีบ้าน

ในขณะที่ 29% เผยว่ายังไม่ชัดเจนว่าจะเช่าเป็นระยะเวลายาวนานเท่าไร เมื่อพิจารณาจากข้อมูลผู้เข้าเยี่ยมชมในเว็บไซต์ DDproperty.com พบว่า ผู้เช่าส่วนใหญ่ (30%) ค้นหาบ้านเช่าในระดับราคาต่ำกว่า 10,000 บาทต่อเดือน ตามมาด้วยระดับราคา 10,000-20,000 บาทต่อเดือน (11%) และระดับราคามากกว่า 30,000 บาทต่อเดือน (5%) โดยระดับราคาต่ำที่สุดที่มีคนค้นหาคือ 1,000 บาทต่อเดือน และระดับราคาสูงที่สุดที่มีคนค้นหาคือ 3 ล้านบาทต่อเดือน (เช่าสิ่งปลูกสร้างหรือที่ดิน) ซึ่งเห็นได้ว่าผู้บริโภคบางส่วนยังมองว่าการเช่าแทนซื้อเป็นทางเลือกระยะสั้นที่น่าสนใจ นอกจากนี้การเช่ายังตอบโจทย์การทำงานและการใช้ชีวิตในเมืองหลวงมากกว่า เพราะลดภาระทางการเงินในการผ่อนชำระและให้ความยืดหยุ่นเรื่องค่าใช้จ่ายได้มากกว่า 
 

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ยังถือเป็นปีที่ท้าทายของผู้พัฒนาอสังหาฯ ที่เริ่มต้นปีด้วยการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 5 แม้หลายบริษัทจะส่งสัญญาณเปิดโครงการใหม่ ๆ มากขึ้น แต่ก็ต้องจับตามองว่าปีนี้ผู้พัฒนาอสังหาฯ จะนำกลยุทธ์ใดมาใช้ขับเคลื่อนตลาดให้เติบโต ในขณะเดียวกัน ฝั่งผู้บริโภคเองก็ต้องติดตามสถานการณ์และความเคลื่อนไหวของผู้ประกอบการอย่างใกล้ชิดก่อนตัดสินใจเลือกซื้อที่อยู่อาศัย เพื่อลดความเสี่ยงทางการเงินที่มีโอกาสผันผวนในช่วงนี้ และควรพิจารณาโครงการที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนในครอบครัว ควบคู่ไปกับพิจารณาความคุ้มค่าด้านราคาเช่นกัน 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


เก็บภาษีคริปโตฯ หรือ จะดับฝันอนาคต ‘อสังหาฯไทย’ ?

เก็บภาษีคริปโตฯ  หรือ จะดับฝันอนาคต 'อสังหาฯไทย' ?

จับประเด็น กรมสรรพากร จ่อเก็บภาษีคริปโตฯ ( Cryptocurrency ) หักกำไร 15% เริ่ม มี.ค.65 นักลงทุนคนรุ่นใหม่รุมต้าน ขณะอสังหาฯ หลังเกาะกระแสร้อน แห่เปิดรับสกุลเงินดิจิทัล ซื้อ-ขาย บ้าน คอนโดฯ นี่คือฝันร้าย ปิดประตู ขยายฐานลูกค้า

เสียงคัดค้านต่อต้าน การเก็บภาษีที่ได้จากการซื้อ – ขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ ภาษีคริปโตเคอร์เรนซี่ ( Cryptocurrency ) หักกำไร 15% ณ ที่จ่าย ดังขึ้นเรื่อยๆ ในหมู่นักเทรด – นักลงทุนคนรุ่นใหม่ ที่เกาะกระแส Digital Asset จนกลายเป็นเศรษฐีใหม่รายย่อย 

ประเด็นดังกล่าว ถูกถกเถียงต่อเนื่อง หลังกรมสรรพากรประกาศจะเรียกเก็บภาษีคริปโต ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 นี้เป็นต้นไป โดยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย และหากจะวิเคราะห์เรื่องนี้ อาจสะเทือนโลกดิจิทัล อนาคตใหม่ของภาคธุรกิจไทยอยู่ไม่น้อย เพราะการเรียกเก็บภาษี ซึ่งจะถูกคิดเฉพาะส่วนกำไร ไม่จบเพียงแค่นั้น แต่ยังต้องนำเงินได้ (กำไร) มารวมกับเงินได้อื่นๆ เพื่อประกอบการยื่นภาษีประจำปีอีกด้วย ส่งผล ความน่าสนใจในการลงทุนคริปโตจะลดน้อยถอยลง ได้ไม่คุ้มเสียอีกต่อไป  

เจาะกลุ่มผู้ลงทุนในตลาดคริปโตฯ บ้านเราเติบโตขึ้นเรื่อยๆ อย่างน่าสนใจ ปัจจุบัน มีจํานวนบัญชีผู้ถือสกุลเงินดิจิทัลในไทย 3.2 ล้านบัญชี ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ และที่ผ่านมา ภาคธุรกิจต่างๆ ต่างเล็งเห็นโอกาสเทรนด์การค้าใหม่ เปิดช่องทาง ทางการตลาด โดยสนับสนุนการนำสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้ มาใช้ชำระค่าสินค้าและบริการ จนวันนี้ คริปโตฯ มีบทบาทสำคัญ ต่อการขับเคลื่อนโลกแห่งการค้า จนธนาคารแห่งประเทศไทยต้องออกมาเตือนและประกาศให้ระมัดระวัง

เก็บภาษีคริปโตฯ  หรือ จะดับฝันอนาคต 'อสังหาฯไทย' ?

ตัดภาพมาที่ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยนั้น แพลตฟอร์มการซื้อ-ขายบ้านและคอนโดฯ ผ่านสกุลดิจิทัลหลัก เช่น Bitcoin: BTC, Ethereum: ETH และ Tether USD: USDT เป็นอีก 1 เมกะเทรนด์ ที่กูรูในวงการ คาดการณ์ว่าจะเข้ามามีสีสันต่อตลาดที่อยู่อาศัยไทยยุคใหม่ นับหนึ่งปี 2565 หลังจากตลอดปี 2564 มีดีเวลลอปเปอร์หลายราย ทั้ง ไรมอนแลนด์ ,แสนสิริ ,อนันดา,เอพี,เสนา พฤกษา,ฮาบิแทท, ชาญอิสระ ,เมเจอร์ ,เอสซี, และ ออริจิ้น ฯล เปิดทางชิมลางความหอมหวานของนักลงทุนกลุ่มนี้ ปรับตัวเพิ่มทางเลือกในยุคโควิด และหวังขยายส่วนแบ่งทางการตลาด 

โดยแม้ยังไม่มีตัวเลขแน่ชัด ว่าจนถึงขณะนี้ มีดีเวลลอปเปอร์รายใด สามารถปิดดีลการขายที่อยู่อาศัยผ่านสกุลเงินดิจิทัลได้แล้วบ้าง แต่คาดการเกาะกระแสความร้อนแรงของคริปโตฯ คงไม่ผ่อนลงง่ายๆ ในอสังหาฯไทย 

ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) ระบุ กระแสของสกุลเงินดิจิทัลน่าจับตามองอย่างมากในธุรกิจอสังหาฯ เพราะกลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ ที่กล้ารับความเสี่ยง มองว่าสกุลเงินดิจิทัล เป็นอีกทางเลือก ในการลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนคุ้มค่า ขณะเดียวกัน ช่วยเพิ่มโอกาสในการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยให้ได้ง่ายขึ้น แลกเปลี่ยน Cryptocurrency มาเป็นอสังหาฯ ก้ามข้อจำกัดประวัติทางการเงิน หรือ ศักยภาพการผ่อนชำระของวัยเริ่มทำงาน

นี่จึงเป็นอีกหนึ่งกลุ่มเป้าหมายของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ในช่วงที่นักลงทุนต่างชาติซบเซา จนอนาคตการประกาศใช้สกุลเงินดิจิทัล ในการซื้ออสังหาฯ หรือจ่ายค่าส่วนกลาง และค่าบริการอื่น ๆ อาจกลายเป็นอีกช่องทางหลักของการซื้อขายในอนาคต 

ความเคลื่อนไหวของอสังหาฯต่อโลกการเงินดิจิทัลไม่ได้เกิดขึ้นแค่นั้น แต่พบบิ๊กอสังหาฯ ยังนำตัวเองเข้าไปลงทุนในตลาดนี้อย่างน่าสนใจ โดยแสนสิริ เข้าลงทุนใน เอ็กซ์สปริง กลุ่มธุรกิจการเงินและหลักทรัพย์ดิจิทัล เพื่อขยายธุรกิจเกี่ยวกับคริปโตฯ และออกโทเคนดิจิทัล ขณะอนันดา จับมือ บิทคับ เปิดตัว ZillaSpace ใช้บล็อกเชน ปฎิวัติโมเดลอสังหาฯ เพิ่มรูปแบบการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ พื้นที่ – สำนักงาน – คอนโดฯ ร่วมกัน ผ่านลงขันคริปโตฯ อีกด้านเอเยนซี่หลายราย เปิดบริการปล่อยเช่าที่พัก-โรงแรมด้วยคริปโตฯเช่นกัน 

ปรากฎการณ์ข้างต้น สะท้อน ภาคอสังหาฯไทย หวังอย่างมากกับนักเทรดคริปโตฯ ทำให้เริ่มมีเสียงแสดงความไม่เห็นด้วย กับการเรียกเก็บภาษีคริปโต ล่าสุด ‘เศรษฐา ทวีสิน ‘ เจ้าพ่อแสนสิริ กล่าว คัดค้านกรมสรรพากร พร้อมเรียกร้องให้ยกเว้นการเรียกเก็บภาษีในตลาดคริปโตฯ เพื่อผลักดันการเติบโตของลงทุนเกิดใหม่ ย้ำ “เงินดิจิทัล” เป็นโลกแห่งอนาคตของคนรุ่นใหม่ ยกอ้าง การเรียกเก็บภาษี เท่ากับ ปิดกั้นโอกาสการลงทุนที่เท่าเทียม อีกนัยนั่นเท่ากับเป็นการปิดประตูบานใหญ่ในการขยายกลุ่มลูกค้าที่ต้องการด้วย 

” อย่าเอามาตรการภาษีมาดับความหวังและแรงบันดาลใจของเยาวชน หรือถ้าต้องการเก็บจริง เพราะเหตุผลทางรายได้ ก็เก็บเฉพาะรายใหญ่ที่มี trade volume เกิน 10 ล้าน/เดือน อย่าสร้างความไม่พอใจจากเยาวชน จากความเหลื่อมล้ำที่เพิ่มขึ้น ตลาดหุ้นที่เล่นโดยรายใหญ่ไม่โดนเก็บภาษีมาหลายสิบปีแล้ว  ” 

ความเห็นอีกด้าน จาก นายชนนพล ชนุหะชา นักลงทุนรุ่นใหม่  ผู้ปั้นพอร์ตจาก 1.3 ล้านบาท เป็น 80 ล้านบาท ภายใน 7 ปี  กล่าวว่า หลายประเทศในเอเชีย เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง ไม่มีการคิดภาษีในส่วนนี้ ส่วนออสเตรเลีย, สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักรและแคนนาดา แม้มีการคิดภาษีจริง แต่สามารถนำค่าใช้จ่าย รวมถึงกำไร-ขาดทุนมาคำนวณเงินได้สุทธิก่อนยื่นภาษีได้ จึงต้องการให้รัฐอนุญาตนำผลขาดทุนมาหักจากเงินได้ ที่มาจากการลงทุนเช่นกัน

ส่วนในการลงทุนภาคอสังหา มองว่า “ไม่ถึงกับเป็นการปิดโอกาส แต่อาจทำให้ช่องทางบางช่องในการลงทุนหายไป และบีบให้มีตัวเลือกที่น้อยกว่าในหลายๆประเทศ” 

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เคลียร์ชัด และบอกถึงความจำเป็นของการรีดภาษี  เพื่อขยายฐานภาษีและสร้างเม็ดเงินมาพัฒนาประเทศ เหลือเพียงแนวทาง ที่กำลังหารือกับสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทยเท่านั้น โดยจะมีการหารืออีกครั้ง 19 ม.ค.นี้ หลังภาคธุรกิจเสนอยกเว้นภาษีคริปโต 2 ปี จับตาจุดเริ่มต้น กับ สัญญาณตรึงตัว เมื่อภาพฝันยกระดับการขายอสังหาฯ ไทย อาจมีอันสะดุด….

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


บาทเปิด 33.15 บาทต่อดอลลาร์แนวโน้มอ่อนค่า

บาทเปิด 33.15 บาทต่อดอลลาร์แนวโน้มอ่อนค่า

เงินบาทเปิดตลาด 33.15 บาทต่อดอลลาร์แนวโน้มอ่อนค่า หลังดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าคาด

เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 65 นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.15 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเย็นวานที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.10 บาท/ดอลลาร์

เช้านี้เงินบาทอ่อนค่าจากเย็นวาน หลังทิศทางของดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น โดยวันนี้มองแนวโน้มเงินบาทน่าจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่อ่อนค่า ตลาดยังมีความกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐ และเริ่มมองว่าการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในเดือนมี.ค. อาจจะตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.50% จากเดิมที่เคยมองไว้เพียง 0.25%

ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ยังไม่มีอะไรใหม่ ตลาดค่อนข้างไพรส์อินกับข่าวเรื่องจะกลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวในรูปแบบ Test & Go ไปพอสมควรแล้ว

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.05 – 33.25 บาท/ดอลลาร์

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


ถือไพ่เหนือกว่า! “เชียเรอร์” สุดมั่น ลิเวอร์พูล ต้องยอม “ซาลาห์” ทุกเงื่อนไข

ถือไพ่เหนือกว่า! "เชียเรอร์" สุดมั่น ลิเวอร์พูล ต้องยอม "ซาลาห์" ทุกเงื่อนไข

อลัน เชียเรอร์ เชื่อว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะได้รับค่าเหนื่อยตามที่ต้องการในการตกลงเซ็นสัญญาใหม่กับ ลิเวอร์พูล ทีมดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก ตามรายงานจาก ลิเวอร์พูล เอ็คโค่

ดาวยิงวัย 29 ปีเหลือสัญญาค้าแข้งในถิ่น แอนฟิลด์ อีก 18 เดือน ในขณะที่มีข่าวว่าเจ้าตัวต้องการค่าเหนื่อยสูงถึง 400,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ท่ามกลางการเจรจาเรื่องสัญญาฉบับใหม่ที่ยังไม่ลงตัว

อย่างไรก็ตาม เชียเรอร์ ได้กล่าวในรายการ พรีเมียร์ลีกโปรดักชัน โดยเชื่อว่า ลิเวอร์พูล จะไม่ยอมปล่อย ซาลาห์ ออกจากทีมไปอย่างแน่นอน

“เขาบอกว่าไม่ได้ต้องการอะไรที่มันบ้าบออะไรขนาดนั้น ซึ่งมันเป็นเรื่องยากสำหรับคนทั่วไปที่จะเข้าใจเมื่อคุณกำลังพูดถึงจำนวนเงินมหาศาลที่ผู้เล่นได้รับอยู่ในปัจจุบันนี้”

“แต่เขาจะมองไปที่นักเตะคนอื่น ๆ ที่อยู่จุดเดียวกับเขา และจะรู้ว่าเขามีค่ากับ ลิเวอร์พูล มากขนาดไหน ซึ่งมันทำให้เขาอยู่ในจุดที่ได้เปรียบ ถ้ายิ่งนานไป ซาลาห์ จะยิ่งมีพาวเวอร์มากขึ้น เพราะสัญญาของเขาจะเหลือน้อยลงไปเรื่อย ๆ”

“พวกเขาจะไม่ปล่อย ซาลาห์ ออกไปแบบไม่ได้อะไรกลับคืนมาแน่นอน เขาคือสมบัติที่มีค่าของ ลิเวอร์พูล จำนวนเงินที่เขาต้องการนั้นมันมหาศาลมาก ๆ แต่ท้ายที่สุดเขาก็จะได้ในสิ่งที่ต้องการ” เชียเรอร์ ยืนยัน

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


“พูดไม่ชัด พูดช้า พูดไม่ออก” สัญญาณโรคทางระบบประสาท

“พูดไม่ชัด พูดช้า พูดไม่ออก” สัญญาณโรคทางระบบประสาท

อาการพูดไม่ชัด พูดช้า พูดไม่ออก เป็นอาการแสดงความผิดปกติของร่างกายจากโรคระบบประสาท หากมีความผิดปกติดังกล่าว ควรไปรับการตรวจรักษาให้เร็วที่สุดเพื่อลดความพิการและเสียชีวิต

“พูดไม่ชัด พูดช้า พูดไม่ออก” สัญญาณโรคทางระบบประสาท  

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า อาการพูดไม่ชัด พูดช้า พูดไม่ออก เป็นอาการแสดงความผิดปกติของระบบประสาทและสมอง ไม่ใช่อาการชี้บ่งโรคใดโรคหนึ่งที่จำเพาะ เพราะความผิดปกติของเส้นประสาทก็อาจจะทำให้มีอาการพูดไม่ชัดได้ อาการความผิดปกติของสมอง เช่น 

  • โรคหลอดเลือดสมองแตก ตีบ และอุดตัน 
  • โรคสมองอักเสบหรือโรคสมองติดเชื้อ 
  • โรคปลอกประสาทสมองอักเสบ 
  • โรค MS 
  • โรค SLE ที่มีภาวะแทรกซ้อนในระบบประสาท

เป็นต้น

วิธีวินิจฉัยโรคทางระบบประสาท

นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า แพทย์ระบบประสาทจำเป็นจะต้องได้ข้อมูลอย่างครบถ้วน

  • ซักประวัติผู้ป่วย ประวัติจากญาติ 
  • การตรวจร่างกายอย่างละเอียด 
  • เจาะเลือด
  • ตรวจกระตุ้นไฟฟ้าต่อเส้นประสาท 
  • ตรวจคลื่นเสียงความถี่สูง
  • ตรวจทางรังสีวินิจฉัย 

เป็นต้น เพื่อวินิจฉัยและวางแผนในการรักษา 

โรค SLE VS โรคหลอดเลือดสมอง

อาการของโรค SLE และโรคหลอดเลือดสมองจะแตกต่างกัน 

อาการของโรคหลอดเลือดสมอง มักเป็นแบบฉับพลัน หรือทันทีทันใด พบในผู้ป่วยสูงอายุมีโรคประจำตัวไม่ว่าจะเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง สูบบุหรี่ หรือมีความผิดปกติของการเต้นของหัวใจ 

อาการในผู้ป่วยโรค SLE พบในผู้ป่วยอายุน้อย มักเป็นวัยเรียนหรือวัยทำงานไม่มีโรคประจำตัวอื่น และมักจะมีอาการแสดงชัดเจนของโรค SLE เมื่อมีอาการหรือภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาท ส่วนใหญ่อาการมักจะค่อยเป็นค่อยไป ใช้เวลามากกว่ากลุ่มอาการของโรคหลอดเลือดสมอง 

หากท่านหรือญาติ มีอาการพูดไม่ออก พูดไม่ชัด หรือพูดช้า ควรไปรับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้านที่สุดในทันที เพราะหากเป็นโรคหลอดเลือดสมอง การรักษาขึ้นกับระยะเวลาที่เป็น เพราะหากไปถึงโรงพยาบาลเร็วจะได้รับการรักษาที่ช่วยลดอัตราความพิการหรืออัตราการเสียชีวิตได้

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ทบทวนเรื่อง Passive Voice ที่อาจจะหลงลืมกันไป!? พร้อมตัวอย่าง

ประโยค Passive voice คือประโยคที่มีรูปกริยาเป็น Be + V3  โดยในประโยค Passive Voice กรรมของกริยาในประโยค Active voice จะกลับมาเป็นประธานของประโยค Passive voice เช่น

Active : Somsak Created the first idea of cost reduction for his company.

สมศักดิ์ได้สร้างไอเดียแรกในการลดต้นทุนให้กับบริษัทของเขา (ประธานหรือสมศักดิ์เป็นผู้กระทำ)

Passive : the first idea of cost reduction from somsak company was created by somsak.

(ประธานหรือสมศักดิ์เป็นผู้ถูกกระทำ หรือ รับผลจากการกระทำ)

ดังนั้นกริยาในประโยค Active voice ที่สามารถเปลี่ยนเป็น Passive voice ได้จะต้อง เป็น Transative verb หรือ กริยาที่ต้องการกรรมเท่านั้น
The event will take place today.
ประโยคนี้ไม่สามารถทำเป็น Passive voice ได้ เพราะ take place เป็น Intransaitive verb หรือ กริยาที่ไม่ต้องมีกรรม

ประโยค Passive voice มักใช้ในกรณีต่างๆ ต่อไปนี้

เมื่อผู้ถูกกระทำ หรือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีความสำคัญมากกว่าผู้กระทำ

The drug dealer was sentenced to 20 years. พ่อค้ายาได้ถูกต้อวโทษจำคุกเป็นเวลา 20 ปี

เมื่อไม่รู้ว่าผู้กระทำเป็นใคร

A suspicious-looking car is parked in front of the building. มีรถที่น่าสงสัยอยู่หนึ่งคันได้จอดอยู่ที่หน้าตึกของเรา

เมื่อผู้เขียนต้องการพูดถึงข้อความที่เป็นเรื่องทั่วไปโดยไม่ต้องการนำตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้อง

Immediate help must be given to alleviate the terrible pain. ความช่วยเหลือในทันทีจำเป็นต้องถูกให้เพื่อบรรเท่าความเจ็บปวดที่แสนสาหัส. 

สรุปแล้ว รูปกริยาในประโยค Passive voice ใน Tense ต่างๆ มีดังต่อไปนี้

Present : The film is directed by Somkid.

Present : ภาพยนตร์กำกับโดยสมคิด

Present continuous : The film is being directed by Somkid.

Present continuous : ภาพยนตร์ได้ถูกกำกับโดยสมคิด

Present perfect : The film has been directed by Somkid.

Present perfect : ภาพยนตร์ได้ถูกกำกับโดยสมคิดมาตั้งแต่ต้น

Past : The film was directed by Somkid.

Past : ภาพยนตร์กำกับโดยสมคิด ( เป็นประโยค Past ในอดีต )

Past continuous : The film was being directed by Somkid.

Past continuous : ภาพยนตร์ได้ถูกกำกับโดยสมคิด ( เป็นประโยค Past ในอดีต )

Past perfect : The film had been directed by Somkid.

Past perfect : ภาพยนตร์ได้เคยถูกกำกับโดยสมคิด

Future : The film will be directed by Somkid หรือ The film is going to be directed by Somkid

Future : ภาพยนตร์เรื่องนี้จะถูกกำกับโดยสมคิด ( Going to คือจะเกิดขึ้นแน่นอน , Will คือ จะเกิดหรือไม่ก็ได้ )

Future Perfect : The film will have been directed by Somkid.

Future Perfect : หมายถึง ในช่วงเวลาหนึ่งของอนาคต จะมีเหตการณ์หนึ่งได้ทำมาแล้วระยะหนึ่ง และขณะนั้นก็กำลังทำอยู่ , ภาพยนตร์จะได้ถูกกำกับโดยสมคิดซึ่งอาจจะกำกับมาแล้วแต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์

ยกตัวอย่างพร้อมสรุปเรื่อง Passive voice ใน Tense ต่างๆ ให้เพื่อนเรียบร้อยหวังว่าอ่านแล้วจะได้เอาไปใช้ในการทำข้อสอบหรือสนทนาในชีวิตประจำวันกันนะ

ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th


อาลีบาบาคาดการณ์ 10 อันดับเทรนด์เทคโนโลยีพุ่งแรง

อาลีบาบาคาดการณ์ 10 อันดับเทรนด์เทคโนโลยีพุ่งแรง

Alibaba DAMO Academy (DAMO) สถาบันเพื่อการวิจัยด้านเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ระดับโลกของ อาลีบาบา กรุ๊ป นำเสนอการคาดการณ์แนวโน้มสำคัญที่จะกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

DAMO นำเสนอแนวโน้ม 10 อันดับเทคโนโลยีสำคัญที่จะเกิดขึ้นในช่วงสองถึงห้าปีข้างหน้า ซึ่งได้จากการวิเคราะห์เอกสารที่ตีพิมพ์เผยแพร่สู่สาธารณะ การยื่นจดทะเบียนสิทธิบัตรในช่วงสามปีที่ผ่านมา และการสัมภาษณ์นักวิทยาศาสตร์เกือบ 100 คน ทำให้สามารถคาดการณ์ได้ว่าเราจะได้เห็นการพัฒนาที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมทุกภาคส่วนในวงกว้าง

อาลีบาบาคาดการณ์ 10 อันดับเทรนด์เทคโนโลยีพุ่งแรง

นายเจฟฟ์ จาง Head of Alibaba DAMO Academy กล่าวว่า “ตลอดศตวรรษที่ผ่านมา วิวัฒนาการทางเทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ เป็นปัจจัยเร่งให้เกิดความก้าวหน้าทางดิจิทัลและการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว  การนำเทคโนโลยีไปใช้ได้ขยายขอบเขตจากโลกทางกายภาพไปสู่โลกที่ผสมผสานระหว่างโลกจริงกับโลกเสมือนเข้าด้วยกัน (mixed reality: MR) ในขณะเดียวกันก็มีการนำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยไปใช้ประโยชน์ในภาคอุตสาหกรรมมากขึ้นเรื่อย ๆ

เทคโนโลยีดิจิทัลมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนอนาคตที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมใด เช่น ดาต้าเซ็นเตอร์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการผลิตที่ประหยัดพลังงาน หรือในกิจกรรมประจำวัน เช่น สำนักงานไร้กระดาษ เป็นต้น อาจกล่าวได้ว่าเราจะสร้างอนาคตที่ดีขึ้นได้ด้วยเทคโนโลยี”

คาดการณ์แนวโน้มสำคัญ: ในอีกสองปีถึงห้าปีข้างหน้าจะมีแอปพลิเคชันที่ทำงานอยู่บนระบบการประมวลผลแบบใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนี้

#1 Cloud-Network-Device Convergence

การพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีด้านเครือข่ายใหม่ ๆ จะขับเคลื่อนวิวัฒนาการของคลาวด์คอมพิวติ้ง ไปสู่ระบบการประมวลผลแบบใหม่ ที่เป็นการรวมอุปกรณ์เครือข่ายบนคลาวด์เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งคลาวด์

เน็ตเวิร์ก และอุปกรณ์ต่าง ๆ ในระบบใหม่นี้จะมีการแบ่งงานที่ชัดเจนยิ่งขึ้น  การรวมเครือข่ายระบบคลาวด์

ไว้ด้วยกันจะเป็นตัวเร่งผลักดันให้เกิดแอปพลิเคชันใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองงานที่มีความต้องการมากขึ้น เช่น การจำลองทางอุตสาหกรรมที่มีความแม่นยำสูง การตรวจสอบคุณภาพทางอุตสาหกรรมแบบเรียลไทม์ และ mixed reality  ในอีก 2 ปีข้างหน้า เราคาดว่าจะได้เห็นแอปพลิเคชันที่ทำงานบนระบบประมวลผลใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ในอีกสามปีข้างหน้า เราคาดว่าจะได้เห็นการนำ AI ไปใช้อย่างกว้างขวางในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ประยุกต์ การใช้ชิปซิลิคอนโฟโตนิคที่ส่งข้อมูลด้วยแสง (Silicon Photonic Chips) การใช้ AI ปูทางไปสู่การรวมแหล่งพลังงานหมุนเวียนเข้ากับโครงข่ายไฟฟ้า การรักษาแบบแม่นยำจำเพาะที่เน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางในการรักษา (people-centric precision medicine) ที่กำลังเป็นเทรนด์สำคัญ การปรับปรุงที่ก้าวล้ำด้านประสิทธิภาพและความสามารถในการเข้าใจการประมวลผลแบบรักษาความเป็นส่วนตัว รวมถึงแว่นตา XR รุ่นใหม่ที่รวมองค์ประกอบของ VR และ AR เพื่อแสดงภาพดิจิทัลเหนือสภาพแวดล้อมจริง เป็นต้น

#2 AI for Science (AI กับการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์)

เมื่อหลายร้อยปีที่ผ่านมา ชุมชนวิทยาศาสตร์มีกระบวนทัศน์พื้นฐานสองประการ ได้แก่ วิทยาศาสตร์เชิงทดลองและวิทยาศาสตร์เชิงทฤษฎี  ทุกวันนี้ความก้าวหน้าของ AI ทำให้กระบวนทัศน์ทางวิทยาศาสตร์

ใหม่ ๆ เป็นไปได้  แมชชีนเลิร์นนิ่งสามารถประมวลผลข้อมูลจำนวนมากที่มีหลากหลายมิติและในหลายรูปแบบ พร้อมแก้ไขปัญหาทางวิทยาศาสตร์ที่ซับซ้อนได้ ช่วยให้การค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์เติบโตขึ้นในเรื่องที่เคยคิดว่าเป็นไปไม่ได้  ไม่เพียงแต่ AI จะเป็นตัวเร่งให้การวิจัยทางวิทยาศาสตร์รวดเร็วขึ้นเท่านั้น

แต่ยังช่วยในการค้นพบกฎทางวิทยาศาสตร์ใหม่ ๆ อีกด้วย  ในอีก 3 ปีข้างหน้า เราคาดว่าจะมีการนำ AI ไปใช้อย่างกว้างขวางในกระบวนการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ประยุกต์ และใช้เป็นเครื่องมือการผลิตในวิทยาศาสตร์พื้นฐานด้านต่าง ๆ

#3 Silicon Photonic Chips (ชิปซิลิคอนที่ส่งข้อมูลด้วยแสง)

เมื่อขนาดของทรานซิสเตอร์ใกล้ถึงขีดจำกัดทางกายภาพ ความเร็วของการพัฒนาชิปอิเล็กทรอนิกส์จะไม่สามารถตอบสนองความต้องการด้านปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นที่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของการประมวลผลประสิทธิภาพสูงอีกต่อไป  silicon photonic chips ต่างจากชิปอิเล็กทรอนิกส์ตรงที่ใช้โฟตอน (photons) แทนอิเล็กตรอน (electrons) เพื่อส่งข้อมูล  โฟตอนจะไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบกันโดยตรง และสามารถเคลื่อนที่ในระยะทางที่ไกลกว่า ดังนั้น silicon photonic chips จึงสามารถเพิ่มความหนาแน่นในการประมวลผลและประสิทธิภาพในการใช้พลังงานให้สูงขึ้น  ส่วนการเติบโตของคลาวด์คอมพิวติ้งและ AI ก็ขับเคลื่อนการพัฒนาเทคโนโลยี silicon photonic chips อย่างรวดเร็ว  ในอีก 3 ปีข้างหน้า เราสามารถคาดหวังว่าจะได้เห็นการใช้ silicon photonic chips อย่างแพร่หลายในการรับส่งข้อมูลความเร็วสูงในดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่

#4 AI for Renewable Energy (AI กับพลังงานหมุนเวียน)

การพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีด้านพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้พลังงานหมุนเวียนเป็นแหล่งพลังงานน่าสนใจที่จะเพิ่มเข้าไปในโครงข่ายไฟฟ้า  อย่างไรก็ตาม ปัญหาต่าง ๆ เช่น ความยุ่งยากในการรวมระบบโครงข่าย อัตราการใช้พลังงานต่ำ และการจัดเก็บพลังงานส่วนเกิน ล้วนเป็นอุปสรรคใหญ่ในการดำเนินการ  เนื่องจากลักษณะที่คาดเดาไม่ได้ของการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน และการรวมแหล่งพลังงานหมุนเวียนเข้ากับโครงข่ายไฟฟ้า ทำให้เกิดความท้าทายที่ส่งผลต่อความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของโครงข่ายไฟฟ้า  การประยุกต์ใช้ AI ในภาคอุตสาหกรรมจึงมีความสำคัญยิ่งต่อการปรับปรุงประสิทธิภาพ และระบบอัตโนมัติของระบบไฟฟ้ากำลัง ตลอดจนการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดและมีเสถียรภาพ  ซึ่งจะเอื้อให้บรรลุเป้าหมาย carbon neutrality ที่จะไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศเพิ่มขึ้น  ในอีก 3 ปีข้างหน้า คาดว่าจะมีการนำ AI ไปใช้เพื่อปูทางไปสู่การรวมแหล่งพลังงานหมุนเวียนเข้ากับโครงข่ายไฟฟ้า ตลอดจนมีส่วนสนับสนุนในการดำเนินงานของโครงข่ายไฟฟ้าที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และเชื่อถือได้

#5 High-precision Medicine (การรักษาแบบแม่นยำและจำเพาะสูง)

การแพทย์เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะของแต่ละบุคคลเป็นอย่างมาก และมักจะเกี่ยวข้องกับการลองผิดลองถูกอย่างสูง และท้ายที่สุดอาจมีประสิทธิภาพแตกต่างกันไปตามผู้ป่วยแต่ละราย  เป็นที่

คาดกันว่าการนำ AI มารวมกับการรักษาที่แม่นยำ จะช่วยกระตุ้นการบูรณาการความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีการวินิจฉัยใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น และทำหน้าที่เป็นเข็มทิศนำทางที่มีความแม่นยำสูงสำหรับเวชศาสตร์คลีนิก  ซึ่งแพทย์สามารถใช้เข็มทิศนี้วินิจฉัยโรคและตัดสินใจทางการแพทย์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้  ความก้าวหน้าเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถวัด คำนวณ คาดการณ์ และป้องกันโรคร้ายแรงได้  ในอีก 3 ปีข้างหน้าเราคาดว่า จะได้เห็นการรักษาแบบแม่นยำและจำเพาะโดยอาศัยข้อมูลทางพันธุกรรม หรือข้อมูลในระดับโมเลกุลมาใช้ในการตรวจวินิจฉัยที่เน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางในการรักษา ซึ่งจะกลายเป็นเทรนด์สำคัญที่ครอบคลุมการดูแลสุขภาพในด้านต่าง ๆ รวมถึงการป้องกัน การวินิจฉัย และการรักษาโรค  AI จะเปรียบเสมือนกับเข็มทิศที่มีความแม่นยำสูง ที่จะช่วยให้เราสามารถระบุโรคและการรักษาได้

#6 Privacy-preserving Computation (การประมวลผลแบบรักษาความเป็นส่วนตัว)

เนื่องจากข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพ การขาดความมั่นใจในเทคโนโลยี และข้อกังวลด้านมาตรฐานต่าง ๆ ทำให้การประยุกต์ใช้การประมวลผลเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว ถูกจำกัดให้อยู่ในขอบเขตแคบ ๆ ของการประมวลผลที่มีขนาดเล็กมาตลอด  อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเทคโนโลยีมีการบูรณาการมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่น ชิปที่มีการทำงานเฉพาะ อัลกอริธึมการเข้ารหัส การใช้งานไวท์บ็อกซ์ (whitebox) ที่เป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือเซิร์ฟเวอร์ประกอบเองที่ไม่มีแบรนด์ รวมถึงความน่าเชื่อถือของข้อมูล ฯลฯ กำลังเกิดขึ้น ดังนั้น

จึงจะมีการประมวลผลแบบรักษาความเป็นส่วนตัวนำมาใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น การประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาล และการผสานรวมข้อมูลจากทุกโดเมน ซึ่งเป็นความก้าวหน้าที่เกิดจากการประมวลผลข้อมูลจำนวนเล็กน้อย และข้อมูลจากโดเมนส่วนตัวเข้าไว้ด้วยกัน  การนำไปใช้งานจะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานใหม่ที่ขับเคลื่อนโดยข้อมูลจากทุกโดเมน  ในอีก 3 ปีข้างหน้าเราจะเห็นการปรับปรุงที่ก้าวล้ำด้านประสิทธิภาพ และความสามารถในการเข้าใจการประมวลผลแบบรักษาความเป็นส่วนตัว และจะได้เห็นหน่วยงานด้านความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ให้บริการแบ่งปันข้อมูลต่าง ๆ ผ่านการใช้เทคโนโลยีเพิ่มขึ้น

#7 Extended Reality: XR (เทคโนโลยีโลกเสมือนจริง – XR)

การพัฒนาเทคโนโลยี เช่น การประมวลผลแบบเอดจ์บนคลาวด์ การเชื่อมต่อเครือข่าย และดิจิทัลทวิน ทำให้เทคโนโลยี XR เติบโตเต็มที่  แว่นตา XR ให้คำมั่นที่จะทำให้โลกเสมือนบนอินเทอร์เน็ตใกล้ความเป็นจริงมากที่สุด  นวัตกรรมนี้ได้หว่านเมล็ดพันธุ์ที่จะแตกหน่อในระบบนิเวศอุตสาหกรรมใหม่ ที่รวมถึงส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ ระบบปฏิบัติการ และการใช้งานในด้านต่าง ๆ  เทคโนโลยี XR จะเปลี่ยนโฉมแอปพลิเคชันดิจิทัล และปฏิวัติวิธีที่ผู้คนมีส่วนร่วมกับเทคโนโลยีในเรื่องต่าง ๆ เช่น ความบันเทิง โซเชียลเน็ตเวิร์ก ออฟฟิศ ช็อปปิ้ง การศึกษา และการดูแลสุขภาพ ฯลฯ  ในอีก 3 ปีข้างหน้า เราคาดว่าจะได้เห็นแว่นตา XR รุ่นใหม่ที่มีรูปลักษณ์ และให้ความรู้สึกที่ไม่ผิดเพี้ยนไปจากแว่นตาทั่วไปออกสู่ตลาด และจะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญสู่อินเทอร์เน็ตในยุคต่อไป

#8 Perceptive Soft Robotics

หุ่นยนต์นิ่ม (Perceptive Soft Robotics) แตกต่างจากหุ่นยนต์ทั่วไป ตรงที่มีส่วนต่าง ๆ ที่ยืดหยุ่นได้ และมีความสามารถในการรับรู้ต่อแรงกด การมองเห็น และเสียง  หุ่นยนต์เหล่านี้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ล้ำสมัย เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ยืดหยุ่นได้ วัสดุที่รองรับแรงกด และ AI ซึ่งช่วยให้ทำงานพิเศษและงานที่มีความซับซ้อนสูง อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนรูปเพื่อปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่แตกต่างกันได้  การเกิดขึ้นของหุ่นยนต์นิ่มจะช่วยเปลี่ยนทิศทางของอุตสาหกรรมการผลิต ตั้งแต่การผลิตสินค้ามาตรฐานจำนวนมาก ไปจนถึงสินค้าเฉพาะกลุ่มที่มีการผลิตจำนวนน้อย  ในอีก 5 ปีข้างหน้า จะมีการนำหุ่นยนต์นิ่มมาใช้แทนที่หุ่นยนต์ทั่วไปในอุตสาหกรรมการผลิต และปูทางไปสู่การใช้เป็นหุ่นยนต์บริการในชีวิตประจำวันมากขึ้น

#9 Satellite-terrestrial Integrated Computing (การประมวลผลแบบบูรณาการผ่านดาวเทียมและภาคพื้นดิน – STC)

เครือข่ายภาคพื้นดินและระบบการประมวลผลมีการให้บริการดิจิทัลสำหรับพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น แต่จะไม่มีบริการในพื้นที่ที่มีประชากรเบาบาง เช่น ทะเลทราย ทะเล และอวกาศ เป็นต้น  STC จะเชื่อมต่อกับดาวเทียมแบบ High-Earth Orbit (HEO) ที่มีวงโคจรสูง และแบบ Low-Earth Orbit (LEO) ที่มีวงโคจรต่ำ และเครือข่ายการสื่อสารเคลื่อนที่ภาคพื้นดิน ครอบคลุมไร้รอยต่อในทุกมิติ  นอกจากนี้ STC ยังสร้างระบบประมวลผลที่รวมดาวเทียม เครือข่ายดาวเทียม ระบบสื่อสารภาคพื้นดิน และเทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้งเข้าไว้ด้วยกัน  ซึ่งจะทำให้เกิดการเข้าถึงบริการดิจิทัลได้มากขึ้น และครอบคลุมทั่วโลก  ในอีก 5 ปีข้างหน้า ดาวเทียมและระบบภาคพื้นดินจะทำงานร่วมกันเป็นโหนดการประมวลผล เพื่อสร้างระบบเครือข่ายแบบครบวงจรที่ให้การเชื่อมต่อทั่วทุกพื้นที่

และยิ่งไปกว่านั้น เราคาดหวังว่าในอนาคต AI จะเปลี่ยนไปเป็นวิวัฒนาการร่วมกันของโมเดลขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ผ่านระบบคลาวด์ เอดจ์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ

#10 วิวัฒนาการร่วมของโมเดล AI ขนาดใหญ่และขนาดเล็ก

โมเดลก่อนการฝึกอบรม หรือที่เรียกกันว่าโมเดลพื้นฐาน เป็นเทคนิคก้าวล้ำในการพัฒนาพื้นฐานตั้งแต่ AI เฉพาะทาง (Weak AI) ที่มีความสามารถเฉพาะด้าน ไปจนถึง AI ทั่วไป (General AI) ที่มีความสามารถดัดแปลงความรู้และทักษะได้ระดับหนึ่ง ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของแอปพลิเคชันต่าง ๆ โดยใช้การเรียนรู้เชิงลึกที่เป็นมาตรฐาน  อย่างไรก็ตาม ข้อดีในด้านประสิทธิภาพที่สูงขึ้น และข้อเสียในด้านการใช้พลังงานนั้นไม่สมดุลกัน จึงทำให้การสำรวจโมเดลขนาดใหญ่มีข้อจำกัด  AI ในอนาคตกำลังเปลี่ยนจากการแข่งขันด้านความสามารถในการปรับขนาดของโมเดลพื้นฐาน ไปสู่การพัฒนาร่วมกันของโมเดลขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ผ่านระบบคลาวด์ เอดจ์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นประโยชน์มากกว่าในทางปฏิบัติ

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


“มากกว่าบ้านแต่คือพื้นที่ความสุข” 3 ไอเดียออกแบบบ้านเพื่อชีวิตหลังโควิด-19 จากการศึกษาโดย COTTO

เข้าสู่ปี 2022 หลายคนวางแผนจะแต่งบ้านใหม่ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการหรือวิถีชีวิตที่หลากหลาย แต่ยังมีจุดร่วมหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราต้องเผชิญร่วมกันคือวิถีชีวิตแบบ New Normal ที่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการดำรงชีวิตไปอย่างฉับพลันด้วยผลกระทบของโควิด-19 ที่มีต่อทุกที่ ไม่เว้นแม้แต่ในบ้าน จึงนำมาสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงแนวทางใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนไปของผู้ใช้งาน ผ่านการสำรวจและวิเคราะห์ความต้องการของผู้บริโภค โดย COTTO เสนอแนวคิด “DREAM SPACE” หรือ พื้นที่ความสุข สำหรับการต่อเติมหรือปรับปรุงพื้นที่พักอาศัยให้ลูกค้าได้เลือกได้เหมาะสมกับรูปแบบการใช้ชีวิตของตัวเองถึง 3 แบบ

Health & Comfy

“พื้นที่ความสุขในแบบของคุณ พื้นที่ที่ทำให้รู้สึกอุ่นใจปลอดภัยในทุกจังหวะของชีวิต”

สร้างความรู้สึกอุ่นใจ ปลอดภัยทุกจังหวะของชีวิต เรียบง่าย แต่ครบคุณค่า ด้วย 4 ไอเดีย Minimalogy, Tropical Lounge, Casa Panacea และ Plant and Play

MOOD LIFTING

“พื้นที่.. ที่จะยกระดับ และถ่ายทอดความเป็นตัวคุณเพื่อให้โลกจดจำคุณในแบบที่คุณต้องการ”

ชัดเจนในแบบที่ตัวเองชอบ ยกระดับและถ่ายทอดความเป็นตัวเองทั้งรสนิยม ความชอบ กิจกรรม และความสนใจ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดย 4 ไอเดียสำหรับการจัดการพื้นที่แห่งความสุขของคนกลุ่มนี้ประกอบไปด้วย Casa de Palma, The Pieces of Sepia, Private Lodge และ Feast of Lives

CREATIVE LIVING

“พื้นที่ที่สามารถออกแบบปรับเปลี่ยนได้และกำหนดทุกความลงตัวในเงื่อนไขของชีวิต”

ปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ ด้วยรูปแบบดีไซน์ที่มีความหลากหลาย ทุกพื้นที่สามารถออกแบบปรับเปลี่ยนได้ ตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ในแต่ละกิจกรรม กำหนดได้ทุกความลงตัวตามเงื่อนไขการใช้ชีวิต Lazy Sunday, Camp & Cave, Clement Pearl และ One More Drink

บ้านที่ยับยั้งแบคทีเรียและฟอกอากาศด้วยตัวเอง

ในฐานะแบรนด์ชั้นนำของกระเบื้องปูพื้นและบุผนัง COTTO ยังได้พัฒนากระเบื้องที่ตอบสนองต่อโจทย์การใช้ชีวิตในปัจจุบัน ทั้งกระเบื้องยับยั้งแบคทีเรีย (Hygienic Tiles หรือ HYG) ที่มีสาร Silver Nano ปล่อยประจุบวกเพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรียได้มากกว่า 90%  กระเบื้องป้องกันการลื่นล้ม Anti–Slip(R11) หรือ กระเบื้องฟอกอากาศ (AIR ION) ดักจับฝุ่น PM2.5 ได้ถึง 89 % พร้อมเพิ่มมวลอากาศสดชื่น ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ใช้ไฟฟ้า ซึ่งล้วนมาในดีไซน์ที่สวยงาม โดดเด่นไม่แพ้คุณสมบัติที่ทันสมัย

ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 19/01/2565

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a28,400.0028,500.00
ทองรูปพรรณ 96.5%1,840.0027,894.4029,000.00
ทองรูปพรรณ 90%1,656.0025,104.96n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,472.0022,315.52n/a
ทองรูปพรรณ 50%828.0012,552.48n/a
ทองรูปพรรณ 40%644.009,763.04n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%1,907.0028,910.12n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 19/01/2565



ปตท.

บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9532.1532.1532.7532.1532.5532.1532.4532.2532.1532.65
แก๊สโซฮอล์ 9131.8831.8832.4831.8832.2831.8832.1831.9831.8832.38
แก๊สโซฮอล์ E2030.6430.6431.2430.6431.0430.9430.7430.6431.14
แก๊สโซฮอล์ E8524.3424.3424.64
เบนซิน 9539.5640.4140.3640.1640.06
ดีเซล B729.8429.8430.6429.9430.3429.8430.1429.8429.9429.84
ดีเซล29.8429.8430.6429.9430.3429.8430.1429.8429.9429.84
ดีเซล B2029.8429.8430.6430.3430.1429.8429.84
ดีเซลพรีเมี่ยม35.8635.8637.0936.4637.0935.86
แก๊ส NGV15.5915.5915.59

About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า