‘เซ็นทรัล โคราช’ มิกซ์ยูสหมื่นล. ดีเดย์ เปิดโรงแรม ก.ย.นี้
เซ็นทรัลพัฒนา ประกาศความสำเร็จ “เซ็นทรัล โคราช” มิกซ์ยูสหมื่นล้าน ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน 13 ก.ย.ดีเดย์เปิด โรงแรม Centara Korat พร้อม ลุยเปิด “เอสเซ็นท์ โคราช” เฟส 2 คอนโดราคาเริ่ม 2 ล้านบาท
1 ก.ย.2565 – โครงการมิกซ์ยูส “เซ็นทรัล โคราช” ซึ่ง ประกอบด้วยศูนย์การค้า, คอนโดมิเนียม, โรงแรม, Sport Arena, Convention Hall และ Co-working Space มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท โดย ซึ่ง ตั้งอยู่บนที่ดิน 65 ไร่ พื้นที่ Gross Floor Area รวมกว่า 382,000 ตร.ม. มีแผนพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
โดย ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา Head of Marketing บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “การพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสเซ็นทรัล โคราช เป็นความตั้งใจในการทำตาม Commitment ของเซ็นทรัลพัฒนามาตั้งแต่เปิดศูนย์การค้าในปี 2560 เพื่อมอบความเป็นที่สุดให้กับจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งการเข้ามาพัฒนาธุรกิจของเราจะช่วยส่งเสริมศักยภาพของจังหวัดในทุกๆ ด้าน ยกระดับทั้งเศรษฐกิจและการเดินทางท่องเที่ยวทั้งระบบ ผลักดันให้โคราชเป็น Gateway ของภาคอีสานที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
โดยกลยุทธ์สำคัญ ได้แก่
- Develop New District: สร้างเมือง เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิต, เขตเศรษฐกิจใหม่ (New CBD of Korat) และการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด ผลักดัน KORAT MICE City ที่ตอนนี้ศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช ได้ให้การสนับสนุน MICE Events ของภาคอีสานอย่างต่อเนื่อง, อีกทั้งเตรียมรองรับเครือข่ายคมนาคมในอนาคต, กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวเมืองรองด้วยโรงแรม Centara Korat ที่ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง ทั้งการพักผ่อน (Leisure), ทำงาน (Business) หรือ Workation ทำให้เที่ยวแบบ Long Stay ได้นานขึ้น
- Strong Synergy & Ecosystem เชื่อมโยงธุรกิจภายในมิกซ์ยูส ทั้งศูนย์การค้า-คอนโดมิเนียม-โรงแรม โดย Privilege ของการมีที่อยู่อาศัยหรือมาพักในโรงแรมที่ ‘อยู่ติดศูนย์การค้า’ คือความสะดวกสบาย จากการออกแบบ Lifestyle Journey ของลูกค้าให้เชื่อมโยงกันหมดด้วยจุดแข็งของเราคือการมี Big Data อย่าง The 1 ของกลุ่มเซ็นทรัล
- Community at Heart: ความภูมิใจของชาวโคราช เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตและดูแลชุมชน พร้อมสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของจังหวัด โดยล่าสุดเปิด Cen’za Sport Stadium ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช เพื่อเป็น Sport Community ให้กับชาวโคราช นอกจากนี้ยังเปิดพื้นที่จัด MICE Events, ร่วมมือกับเมืองจัดงานประชุมและสังสรรค์ของหน่วยงานราชการต่างๆ, เป็นแลนด์มาร์คของงานเทศกาลตลอดปีทั้งสงกรานต์, ลอยกระทง และเคาท์ดาวน์ปีใหม่ ในด้านสิ่งแวดล้อม ติด Solar Rooftop และเป็นอาคารประหยัดพลังงาน ที่ได้รางวัล ASEAN Energy Awards 2020 จากกระทรวงพลังงานอีกด้วย”
ลุยเปิดคอนโดฯ เอสเซ็นท์ โคราช เฟส 2
ขณะนาย กรี เดชชัย President, Residential Business บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “ในส่วนของคอนโดมิเนียม เราตั้งใจมอบที่อยู่อาศัยคุณภาพ ภายในโครงการมิกซ์ยูสชั้นนำ เจาะทำเลใจกลางเมืองโคราช พร้อมจุดแข็งของการอยู่ติดศูนย์การค้า มอบคุณภาพชีวิต-ไลฟ์สไตล์-ความปลอดภัย โดยจากการเปิดตัวคอนโดฯ เอสเซ็นท์ โคราช เฟส 1 ได้รับกระแสตอบรับดีเยี่ยม Sold Out ภายใน 4 วัน และตอนนี้เราได้ขยายเฟส 2 ขายแล้วกว่า 90% มีทั้งหมด 395 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.05 ล้านบาท พร้อมจุดเด่นกับส่วนกลางลอยฟ้าครบครัน อาทิ Sky View Garden 360 องศา, Sky Fitness และ Sky Pool ขนาด 25×4 ม. ระบบเกลือ โดยสามารถเยี่ยมชมโครงการได้ที่สำนักงานขายในศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช ชั้น 3
นอกจากนี้ โครงการเฟส 2 นี้ยังได้รับรางวัลการันตี BCI Asia Top 10 Architectural Award (Thailand) อีกด้วย และพบกับสิทธิพิเศษจากธุรกิจต่างๆ ในเครือเซ็นทรัลทั้ง Central, Robinson, Tops Online, Food Park, PowerBuy, BnB Home พร้อมได้รับสิทธิ์อัปเกรดเป็น The 1 Exclusive หลังจากโอนกรรมสิทธิ์คอนโดฯ และเตรียมพบกับบริการครั้งแรกของ Central Pattana Concierge บริการผู้ช่วยส่วนตัวและบริการอื่นๆ จากกลุ่มเซ็นทรัล”
โรงแรม Centara Korat เปิด 13 ก.ย.นี้
นางสาว สุรางค์ จิรัฐิติกาลโชติ Head of Hotel Development บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “โรงแรม Centara Korat รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดโคราช โดยเราตั้งใจพัฒนาโรงแรมที่ได้มาตรฐานการบริการและการพัฒนาในระดับ International เพื่อเป็นโรงแรมที่ดีที่สุด บุกเบิกเศรษฐกิจการเดินทางท่องเที่ยว (Travel Ecosystem) ให้กับโคราช เติมเต็มทุกจุดประสงค์ของการเดินทางในทริปเดียวในคอนเซ็ปต์ Business + Leisure โดยเรามีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่จะช่วยเติมเต็มศักยภาพของจังหวัดและ ตอบโจทย์ทุกความต้องการเดินทางท่องเที่ยว ได้แก่
- ห้องพัก 217 ห้อง: สามารถรองรับลูกค้าได้แบบ Multi-Generation Family, ห้องมาตรฐานของเรามีทั้งแบบ King Bed, Double Twin และ Double Queen Bed ซึ่งรองรับลูกค้าได้ถึง 4 ท่าน, ทุกห้องของเรามี Daybed เป็นพื้นที่พักผ่อน มี Dining Table สำหรับทำงานและทานอาหาร พร้อมชุดอุปกรณ์รับประทานอาหารอย่างดี ซึ่งแตกต่างจากโรงแรมทั่วไป
- Top dining destination: มอบประสบการณ์หรูหราเหนือระดับกับ House of Kin เป็น All-Day Dining Restaurant ให้บริการอาหารบุฟเฟต์ 3 มื้อ ตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัยในครอบครัว และ Rooftop Bar พร้อมด้วยวิวแบบ 360 องศาบนชั้น 20 ของโรงแรม
- Meeting Facilities ที่ครบครัน: ห้องประชุมทุกห้องรวมกันมีพื้นที่มากถึง 1,000 ตร.ม. สามารถจุคนรวมกันได้ร่วม 1,000 คน, และในส่วนของห้องบอลรูมที่ตกแต่งอย่างหรูหรา พร้อมเทคโนโลยีทันสมัยครบครัน บนพื้นที่มากถึง 600 ตารางเมตร ระยะความสูงของเพดาน 7.8 เมตร มาตรฐานระดับ Hi Class ซึ่งสามารถรองรับการจัดเลี้ยงแบบค็อกเทล หรืองานกาล่าดินเนอร์ ได้มากถึง 650 ท่าน และมีห้องประชุมย่อยอีก 4 ห้อง ขนาด 75-100 ตร.ม.
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“Whizdom The Forestias : Mytopia” คอนโดฯ อารมณ์บ้านกลางผืนป่า 30 ไร่
“Whizdom The Forestias : Mytopia” คอนโดฯ อารมณ์บ้านกลางผืนป่า 30 ไร่ เปิดมิติใหม่ ‘ที่อยู่อาศัย’ เพื่อคนรุ่นใหม่ต่างไลฟ์สไตล์
กลุ่มผู้บริโภค ‘คนรุ่นใหม่’ ที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย หลังจาก กลายเป็นกลุ่มที่มีอำนาจซื้อสูง ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานรวดเร็วกว่าคนยุคเก่า อีกทั้งมี ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ทำให้ปัจจุบัน ‘โครงการที่อยู่อาศัย’ จำนวนไม่น้อย หันมาพัฒนาคอนเซ็ปต์ หรือ รูปแบบโครงการ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายนี้ไว้อย่างสร้างสรรค์ และน่าสนใจในทุกมิติ
สำหรับ อภิมหาโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่ ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ โครงการเมืองแห่งแรก 398 ไร่ ภายใต้การออกแบบ เพื่อการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี และมีความสุข บน ถนนบางนา-ตราด ก.ม.7
พบการพัฒนา ‘ที่อยู่อาศัย’ เพื่อไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของคนรุ่นใหม่นั้น เป็นอีก ‘จิกซอว์’ สำคัญ ที่ทำให้ ‘เดอะ ฟอเรสเทียร์ ‘ มีความแตกต่าง และ สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ผ่านการเปิดขาย ‘โครงการ Whizdom The Forestias’ ซึ่งอาคารที่เปิดขายก่อนหน้านี้กวาดยอดขายแล้วกว่า 70%
++ ชู Vertical Living บ้านผสานคอนโด
สิ่งที่น่าพิจารณา สำหรับความสำเร็จขั้นสุด ของ โครงการ Whizdom The Forestias : Mytopia’ นั้น นายอัษฎา แก้วเขียว ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น หรือ MQDC ระบุว่า เนื่องจากโครงการมีการเซตมาตรฐานใหม่ของบ้านแบบ Vertical Living ซึ่งหมายถึง การดึงเอาจุดดีและจุดเด่นของบ้านและคอนโดมิเนียมมาหลอมรวมกัน ทำให้การอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียม ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ประกอบกับการผสานนวัตกรรมการดีไซน์ตอบสนองทุกฟังก์ชั่นของการใช้ชีวิต ผ่านกระบวนการคิดออกแบบจากรากฐานแห่งการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Live it all ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์หลากหลายรูปแบบได้ครบจบในที่เดียว ให้การใช้ชีวิตกลมกลืนใกล้ชิดกับธรรมชาติ อีกทั้ง จุดเด่นด้านทำเลที่ตั้ง คอนเซ็ปต์โครงการเมือง ที่มุ่งเน้นเรื่องสุขภาพและความสุข ผ่านการได้รับการยอมรับและรับรางวัลมากมายจากองค์กรและสถาบันชั้นนำทั้งภายในประเทศและระดับโลก คือกุญแจความสำเร็จเบื้องต้น
++บาลานซ์ชีวิต เป้าหมายสูงสุดคนรุ่นใหม่
อย่างไรก็ตาม กลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ ซึ่งเปรียบเป็น Blue Ocean ของภาคอสังหาฯ นั้น ลึกลงไป ปัจจัยสูงสุดในการพิจารณาการเลือกที่อยู่อาศัย คงเป็นรูปแบบการสร้างความสมดุลให้กับชีวิตระหว่างการทำงานและพักผ่อนได้ โดยพบแบรนด์ Whizdom แห่งนี้ ได้มีการให้ความสำคัญกับเรื่องนี้สูงสุดเช่นกัน โดย นายอัษฎา ฉายภาพว่า อาคาร Whizdom มุ่งเน้นเป็นผู้สร้างสรรค์และพัฒนาอีโคซิสเต็ม (Ecosystem) สำหรับการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ (Next Generation Living) ผ่านการผสานนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต ที่หลากหลายไลฟ์สไตล์และเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา
สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ ที่ผลการสำรวจพบว่าส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับความสุขและคุณภาพชีวิต การมีเซฟโซน โดยไม่ยึดติดกับรูปแบบของครอบครัว ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าในการใช้เงิน โดยไม่ยึดติดกับรูปแบบของการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินต่างๆ และสิ่งที่มีค่าที่สุดที่ให้ความสำคัญ คือ เวลา ทั้งหมดนี้ถอดรหัสออกมาเป็นสิ่งต่างๆ ที่ใส่เข้าไปในโครงการของ Whizdom
“แบรนด์ Whizdom เน้นการออกแบบที่พักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลางที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยใช้เวลาได้อย่างมีคุณภาพอย่างแท้จริง การผสานธรรมชาติ การจัดอาหารเช้าที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และรวมถึงโลเคชั่นที่ตั้งที่สะดวกสบายและครบครัน เป็นต้น”
++ความไฮเอนด์ที่ตอบโจทย์ทุกด้าน
Whizdom The Forestias เป็นโครงการที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวยุคใหม่ที่มีลูกเล็ก คู่รักที่แต่งงานแต่ยังไม่มีลูก คนโสด หรือคนที่รักสัตว์เลี้ยง ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Live it all” ผู้อยู่อาศัยยังสามารถทำกิจกรรมต่างๆ อย่างมีความสุขกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่มากมายและครบครัน รองรับกิจกรรมสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ โดยชั้นบนของโพเดียมจะเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่พาดระหว่าง 2 อาคาร มีพื้นที่สระว่ายน้ำและเครื่องเล่นสำหรับเด็ก พื้นที่พักผ่อนใกล้กับสระว่ายน้ำ สวนกลางแจ้ง ยิมในร่ม Pool Lounge และพื้นที่ในอาคารสาหรับเด็กๆ นอกจากนี้ façade ของอาคารยังเลือกใช้โครงเหล็กแบบเมกาเฟรมที่สูงกว่า 3 เท่า ซึ่งนอกจากจะให้ความรู้สึกไฮเอนด์แล้ว ยังช่วยป้องกันรังสีจากแสงแดดภายนอกเข้าสู่ภายใน และในส่วนทางเดินบริเวณล็อบบี้ลิฟต์ ยังออกแบบให้มีการระบายอากาศตามธรรมชาติอีกด้วย
++ เปิดจุดเด่นอาคารสูง ขนาบป่า 30ไร่
อีกความพิเศษที่ทำให้โครงการแห่งนี้โดดเด่น หาโครงการไหนเทียบ คงเป็นการออกแบบคอนโดมิเนียมสูง 42 ชั้น ให้ตัวอาคา รตั้งอยู่ใกล้ชิดกับผืนป่าขนาดใหญ่ 30 ไร่ (หัวใจของโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์) ตัวอาคารหันหน้าเข้าหาผืนป่า ทำให้เปิดรับทิวทัศน์และอากาศบริสุทธ์จากผืนป่าอย่างเต็มที่ ทำให้เมื่อผู้พักอาศัย มองจากชั้นสูงจะได้วิวยอดไม้ที่ลดหลั่นอุดมสมบูรณ์ หรือหากอยู่ที่ชั้นไม่สูงมากนัก จะได้ความรู้สึกกลมกลืนราวกับเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นความโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Whizdom The Forestias
“ความสูงจากพื้นดินของตัวอาคารที่เอื้อให้มองเห็นพื้นที่ทั้งหมดของผืนป่า และด้วยโครงสร้างของอาคารที่ถูกยกให้อยู่เหนือฐานของโพเดียม ทำให้มองดูเหมือนลอยอยู่บนยอดไม้ “
++ ไฮไลท์ ห้องLoftเพดานสูง
สำหรับ Whizdom The Forestias : Mytopia ประกอบไปด้วยที่พักอาศัย จำนวน 360 ยูนิต มีตั้งแต่แบบ 1 ห้องนอน 2 ห้องนอน 3 ห้องนอน ห้องแบบดูเพล็กซ์ แบบเพ้นเฮ้าส์ และแบบฟอเรสต์ ดูเพล็กซ์ เพ้นเฮ้าส์ ขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 34 – 190 ตร.ม. ราคา 5.7 – 32.7 ล้านบาท ไฮไลท์ อยู่ที่ ห้อง Loft ออกแบบให้ใกล้ชิดธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ผ่านห้องสูงสามารถสัมผัสวิวป่าได้อย่างเต็มที่ เพดานสูง 5.4 เมตร พร้อมตกแต่งสไตล์ลอฟต์ และเพิ่มพื้นที่ให้กับบริเวณชั้นลอย เพิ่มความรู้สึกสบายและเป็นส่วนตัวด้วยการแยกพื้นที่ระหว่างห้องนอนที่อยู่ชั้นลอยด้านบน กับห้องนั่งเล่นที่อยู่ชั้นล่าง และจัดสรรพื้นที่ครัวแบบปิด พร้อมกับออกแบบพื้นที่และจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้สะท้อนไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง
“Whizdom ประกอบไปด้วย 3 อาคารได้แก่ Destinia, Mytopia, และ Petopia ตอบโจทย์ตั้งแต่ครอบครัวยุคใหม่ที่มีลูกเล็ก ,คนโสด หรือคู่รักที่แต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีลูก และ คนรักสัตว์เลี้ยง เราศึกษาวิจัยอย่างรอบด้าน เพื่อออกแบบทุกรายละเอียดและทุกมิติ ให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขและปลอดภัย”
ทั้งนี้ ปัจจุบัน MQDC เปิดขาย Whizdom The Forestias : Mytopia ภายในโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ อย่างเป็นทางการไปเมื่อเร็วๆ นี้ พบมีผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยผู้เขียนคาดว่า นี่จะเป็นอีกโครงการต้นแบบ ที่ถูกเซตมาตรฐานใหม่ ให้กับโครงการที่อยู่อาศัย รูปแบบคอนโดมิเนียมระดับบน เพื่อคนรุ่นใหม่ อย่างแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
บอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่งทะลุ 3.5% นิวไฮรอบ 15 ปี เก็งเฟดลุยขึ้นดอกเบี้ย
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี พุ่งขึ้นเหนือระดับ 3.5% แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 15 ปี นักลงทุนคาดการณ์เฟด จะยังเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ณ เวลา 00.01 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี พุ่งขึ้นสู่ระดับ 3.522% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2550 ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 3.263% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.377%
ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
นักลงทุนคาดว่าตัวเลขคนว่างงานที่ต่ำกว่าคาด จะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 5,000 ราย สู่ระดับ 232,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 245,000 ราย
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 74.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 26.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%
หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในเดือนก.ย. ก็จะส่งผลให้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 หลังจากปรับขึ้น 0.75% ทั้งในเดือนมิ.ย.และก.ค.
นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานดังกล่าวเพิ่มขึ้นเพียง 300,000 ตำแหน่ง หลังจากพุ่งขึ้น 528,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“บาส-ปอป้อ” ไม่พลาด! ลิ่วก่อนรองแบดมินตันเจแปน
“บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์-“ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่ผสมมืออันดับ 1 ของโลก ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศการแข่งขันแบดมินตันเวิลด์ทัวร์ซูเปอร์ 750 รายการ “ไดฮัทสุ โยเน็กซ์ เจแปน โอเพ่น 2022” เมื่อวันที่ 1 กันยายน ที่ประเทศญี่ปุ่น
รอบสอง หรือรอบ 16 คู่สุดท้าย “บาส-ปอป้อ” เต็งสองของรายการพบกับ ฮี ยอง ไค-ตัน เว่ย หาน มือ 29 โลกจากสิงคโปร์ ซึ่งสถิติที่พบกันมาหนึ่งครั้งเมื่อปี 2017 เป็นคู่ไทยที่เอาชนะไปได้สองเกมรวด
ในเกมนี้ คู่ของไทยยังเล่นด้วยฟอร์มที่เหนือกว่า เป็นฝ่ายชนะไปสองเกมรวด 21-14, 21-13 ใช้เวลา 33 นาที ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศไปพบผู้ชนะระหว่าง ธอม กีเคล-เดลฟิน เดลรัว มือ 8 โลก และมือวาง 6 จากฝรั่งเศส หรือ โค ซุง ฮยุน-ออม ฮเย วอน มือ 17 โลกจากเกาหลีใต้
ด้านคู่ผสมอีกคู่ของไทย “เอ็ม” สุภัค จอมเกาะ-“เฟม” ศุภิสรา เพียวสามพราน คู่มืออันดับ 19 ของโลก แพ้ เจิ้ง ซิ เว่ย-หวง หย่า เฉียง มือ 2 โลก และมือวางอันดับ 1 จากจีน 7-21, 11-21
ด้าน หญิงเดี่ยว “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มือ 10 โลก ชนะ หวัง ชิ ยี่ มือ 11 โลกจากจีน 21-16, 21-16 / “เมย์” รัชนก อินทนนท์ มือ 8 โลกและมือวาง 8 ชนะ หาน ยิ่ว มือ 17 โลกจากจีน 21-16, 13-21, 21-19 / “เม” ศุภนิดา เกตุทอง มือ 29 โลก แพ้ อัน เซ ยอง มือ 4 โลก และมือวาง 3 จากเกาหลีใต้ 15-21, 11-21
ชายเดี่ยว “กัน” กันตภณ หวังเจริญ มือ 28 โลก ชนะ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 11 โลก 21-19, 21-7
หญิงคู่ “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธรากุล-“วิว” รวินดา ประจงใจ มือ 8 โลก และมือวาง 7 ชนะ จาง ชู เสียน-เจิ้ง หยู มือ 12 โลกจากจีน 21-19, 21-14
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
5 สาเหตุโรค “กระเพาะอาหารอักเสบ” และวิธีป้องกัน
โรคกระเพาะอาหารอักเสบ พบได้ในวัยรุ่นไปจนถึงวัยทำงาน และวัยชรา ที่เป็นกันมากเพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหารอักเสบ และพบได้บ่อยในวิถีชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน
5 สาเหตุโรค “กระเพาะอาหารอักเสบ”
- การติดเชื้อแบคทีเรีย Helicobacter pylori เกิดจากการสัมผัสเชื้อเข้าสู่ร่างกาย ผ่านทางการรับประทานอาหารและดื่มน้ำที่มีการปนเปื้อนเชื้อ เช่น อาหารและน้ำที่ไม่สะอาด อาหารแช่แข็งที่ปรุงไม่สุก อาหารดิบ เป็นต้น
- สูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ทำให้ติดเชื้อ Helicobacter pylori ได้ง่าย ซึ่งเชื้อนี้เป็นสาเหตุของโรคกระเพาะอาหาร ผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำจะมีโอกาสเกิดแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้นง่ายกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่ เพราะสารเคมีในควันบุหรี่จะไปกระตุ้นให้กระเพาะอาหารหลั่งน้ำย่อยออกมามากกว่าปกติ และแผลก็หายยากด้วย
- ใช้ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ รวมถึงยาต้านเกล็ดเลือด หรือยาละลายลิ่มเลือด การรับประทานยาแก้ปวดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) และยาต้านเกล็ดเลือด เช่น แอสไพริน อาจมีผลข้างเคียงที่ทำลายเยื่อบุกระเพาะอาหารได้
- มีความเครียด ซึมเศร้า หรือมีความวิตกกังวล เวลาที่เรามีอาการเครียดมาก ๆ ฮอร์โมนในร่างกายจะเกิดความแปรปรวน ทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่สะดวกและกระเพาะอาหารจะหลั่งน้ำย่อยออกมามากกว่าที่ควรจะเป็น ส่งผลทำให้ระบบการทำงานย่อยอาหารแย่ลง รวมถึงการทำงานของกระเพาะอาหารแย่ลงด้วย
- ดื่มแอลกอฮอล์ การดื่มแอลกอฮอล์จำนวนมากๆ จะไปกัดชั้นเมือกในกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดการระคายเคือง เป็นสาเหตุให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารได้
อาการของโรคกระเพาะอาหารอักเสบ
- ปวดหรือแสบท้องบริเวณลิ้นปี่ เป็นๆ หายๆ
- ปวดท้องก่อน หรือหลังกินอาหาร
- แน่นท้อง
- ท้องอืด
เป็นต้น
วิธีป้องกันโรคกระเพาะอาหารอักเสบ
- กินอาหารให้ตรงเวลา
- ไม่กินอาหารมากเกินไป ควรกินผักผลไม้มากขึ้น
- ไม่กินอาหารที่กระตุ้นให้เกิดโรคกระเพาะอาหาร เช่น อาหารรสจัด อาหารมัน ไม่ดื่มน้ำอัดลม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- ไม่ซื้อยามากินเอง เพราะยาบางชนิดมีฤทธิ์กัดกระเพาะอาหาร
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
เรื่องลับๆ ของคำว่า “Place”
คำที่มีหลายความหมายซึ่งเราจะเจอบ่อยในการสอบ TOEIC คำว่า place ในภาษาอังกฤษ หมายความว่าอะไรได้บ้าง
คำในภาษาอังกฤษหลายๆ คำ มีหลายความหมายและเป็นชนิดของคำได้หลายประเภท เช่น place ในรูปแบบของคำนาม (noun) จะเป็นที่คุ้นเคยมากกว่า แปลว่า สถานที่ ตำแหน่ง บริเวณ ตัวอย่างประโยค เช่น
- There is no place like home. ไม่มีสถานที่ไหนเหมือนบ้านของเรา
- It is the place where I was born. มันเป็นสถานที่ที่ฉันเกิด
Place ก็อาจจะมีความหมายกลายๆว่า บ้านของคุณก็ได้ เช่น
Is it ok if I would like to come to visit your place soon? จะโอเคมั้ยถ้าฉันจะขอไปบ้านเธอเร็วๆ นี้
บางครั้งเราก็จะใช้ place ร่วมกับคำบอกลำดับที่ เช่นในสำนวน in the first place (ตั้งแต่แรก,ประการแรก), in the second place (ประการที่สอง) เช่น
- I should have told you in the first place. ฉันน่าจะบอกคุณตั้งแต่แรก
- In the first place, I’m so busy and in the second place I don’t really want to go. ประการแรกเลย ฉันยุ่งมาก และอีกอย่างฉันไม่ได้อยากไปจริงๆ หรอก
Place ยังนำมาใช้ในการบอกลำดับที่อีกด้วย เช่น first place, second place, third place, etc. เช่น
- He took first place in the marathon competition. เขาได้ที่หนึ่งจากการแข่งวิ่งมาราธอน
- She finished in 3rd place in Grand Prix racing league 2010. เธอได้ที่ 3 ในรายการแข่งวิ่งกรังปรีส์ 2010
นอกจากเป็นคำนาม place ยังเป็นกริยาได้ด้วย แปลว่า วาง เช่น
I want to place the box on the cabinet but I can’t because the cabinet is too high. ฉันอยากจะวางกล่องนี้ไว้บนตู้แต่ทำไม่ได้เพราะตู้มันสูงเกิน
Place ยังเอามาใช้ในสำนวน take place แปลว่า เกิดขึ้น เช่น
The meeting will take place at our headquarters in Vienna. การประชุมจะมีขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของเราในกรุงเวียนนา
และ place มักใช้กับคำว่า order คือ place an order หมายถึง สั่งซื้อ เช่น
I’d like to place an order for the following list. ฉันอยากจะสั้งซื้อตามรายการต่อไปนี้
สำหรับในตอนนี้ก็ได้เห็นแล้วว่า place เป็นได้ทั้งคำนามและคำกริยาและมีหลายความหมาย ติดตามในตอนหน้ากันนะว่าเราจะนำเรื่องลับๆ ของคำศัพท์คำไหนมาแชร์ให้เพื่อนๆ รู้กันต่อ
ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th
ชีวิตวิถีอัตโนมัติ สุขสบายสไตล์คนขี้เกียจ
การใช้ชีวิตของมนุษย์ในยุคปัจจุบันรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เราพึ่งพาเทคโนโลยีที่ทันสมัย นวัตกรรมใหม่ ๆ สร้างเป็นอุปกรณ์ “อัตโนมัติ” สุดชาญฉลาดขึ้นมาให้เราได้ใช้งาน ตอบสนองพฤติกรรม “ขี้เกียจ” ที่จะทำอะไรต่าง ๆ ด้วยตัวเอง เนื่องจากลักษณะการทำงานของอุปกรณ์อัตโนมัติจะมีกลไกทำหน้าที่ได้ด้วยตัวเอง ทำให้มนุษย์ผู้ใช้งานขยับเขยื้อนร่างกายและเคลื่อนไหวน้อยลงมาก ๆ แค่ออกคำสั่งให้เครื่องทำงานมันก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างตามฟังก์ชันของมัน แตกต่างจากคนในรุ่นก่อน ๆ ที่ต้องมีภูมิปัญญา ต้องหาวิธีทำอะไรต่ออะไรเองทุกอย่าง
ซึ่งถ้าหากมองย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน หลายคนคงนึกภาพไม่ออกหรอกว่าในปี 2022 โลกเราจะมาไกลได้ถึงจุดนี้ หากลองเปรียบเทียบชีวิตในช่วงเวลาปัจจุบันกับชีวิตเมื่อหลายปีก่อน หลายคนก็เริ่มจำไม่ได้แล้วว่าก่อนหน้านี้เราใช้ชีวิตกันมาได้อย่างไรโดยไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ พวกนี้ เด็กรุ่นใหม่ ๆ จินตนาการภาพไม่ออกว่าคนสมัยก่อนเขาใช้ชีวิตกันมาแบบไหนทั้งที่ไม่มีอุปกรณ์อัตโนมัติใช้งาน ที่บ้านไม่จำเป็นต้องมีไม้กวาด ไม่รู้จักผ้าขี้ริ้วที่ทำมาจากเสื้อผ้าเก่า ๆ ที่ไม่ใส่แล้ว รู้จักแต่หุ่นยนต์ทำความสะอาด ที่เดินวนทำความสะอาดไปรอบบ้านตอนที่ตัวเองกำลังนั่งดูทีวี กินข้าว อาบน้ำ หรือแม้แต่นอนหลับ บ้านก็สะอาดได้
เพราะเด็กรุ่นใหม่ที่เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีได้เห็นพ่อแม่ใช้งานอุปกรณ์อัตโนมัติจนชินตา แทบไม่เคยเห็นพ่อแม่กวาดบ้านหรือล้างจานเอง เพราะแค่เปิดหุ่นยนต์ทำความสะอาดตัวนั้น มันก็จะเดินทำความสะอาดไปรอบบ้าน เห็นพ่อแม่ยัดจานข้าวที่ใช้ใส่อาหารแล้วใส่เข้าไปเครื่องล้างจาน ไม่นานนักเครื่องก็ทำงานเสร็จเรียบร้อย พอเปิดประตูเครื่องก็ได้จานชามที่สะอาดเอี่ยมออกมา
พลังของ “ความขี้เกียจ” ที่ทำให้ต้องคิดวิธีแก้ปัญหา
การคิดค้นเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ขึ้นมานั้น หลัก ๆ แล้วมีเป้าหมายเพื่อช่วยแก้ปัญหาของมนุษย์ มนุษย์เราเคยทำสิ่งต่าง ๆ ได้เองทั้งหมด แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปมนุษย์มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น เริ่มไม่มีเวลามาโฟกัสกับสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ รอบตัว และต้องการเครื่องทุ่นแรงที่จะมาช่วยแบ่งเบาภาระของมนุษย์ ในเมื่อมีเครื่องทุ่นแรงช่วยทำแทนแล้ว เราก็จะมีเวลาและกำลังไปทำอย่างอื่นที่ยิ่งใหญ่กว่า แต่พอภาระของมนุษย์เบาลง เราก็สบายมากขึ้น มีเวลาว่างเพิ่มขึ้น แต่เราก็คงไม่ถอยหลังกลับมาทำอะไรต่าง ๆ ด้วยตัวเองให้มันเหนื่อยอีกต่อไป กลายเป็น “ความขี้เกียจ” ได้ในที่สุด
อย่างไรก็ดี ความขี้เกียจนั้นไม่ใช่เรื่องของนิสัยทั้งหมด วิทยาศาสตร์อธิบายว่าความขี้เกียจอาจเป็นผลมาจากยีนตัวหนึ่งในร่างกาย ที่ทำให้ตัวรับโดพามีนลดลง ซึ่งโดพามีนนี้เป็นสารแห่งความสุขที่สมองจะหลั่งออกมาก็ต่อเมื่อเราได้ทำกิจกรรมที่เรารู้สึกว่ามีความสุข แต่ด้วยปัจจัยทางสังคมต่าง ๆ ที่ทำให้เราไม่ค่อยมีเวลาจะทำกิจกรรมอะไรเหล่านี้กันเท่าไร สารโดพามีนจากสมองก็จะหลั่งออกมาน้อยลง นานวันเข้าเราก็ยิ่งรู้สึกไม่อยากจะทำอะไร เบื่อ เหนื่อย เพลีย พอมีเวลาก็อยากจะกอบโกยการพักผ่อนให้มากที่สุด ก็ทำให้ความรู้สึกขี้เกียจมีมากขึ้น โดยความขี้เกียจในระดับที่เรียกว่า Couch Potato คือการที่คนคนหนึ่งสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้โดยไม่ทำอะไรเลย นั่ง ๆ นอน ๆ ก็หมด 1 วัน
โดยความขี้เกียจของผู้บริโภคยุคปัจจุบันนี่เองที่ทำให้เกิดยุคที่เรียกว่า Lazy Economy หรือก็คือเทรนด์เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยความขี้เกียจของผู้บริโภคนั่นเอง เป็นความต้องการของคนยุคใหม่นี้อยากได้ความสะดวกสบายมาช่วยแบ่งเบาภาระเล็ก ๆ น้อย ๆ โดยอ้างว่าประหยัดเวลาและแบ่งเบาภาระ เพื่อเอาเวลาที่เหลือมาทำสิ่งสำคัญหรือมีสาระกว่า จนทำให้สิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านั้นเข้ามามีบทบาทในชีวิตคนเราทีละน้อย ๆ และกลายเป็นสิ่งที่มนุษย์ขาดไม่ได้ไปแล้วในทุกวันนี้
โดยแนวโน้มการซื้อสินค้าและบริการของผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ มักจะยอมจ่ายเงินเพิ่มเพื่อขจัดงานที่น่าเบื่อหน่าย ต้องเสียเวลานาน และเข้ามาช่วยเรื่องความสะดวกสบาย พวกเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่สามารถอำนวยความสะดวกให้เรา ทำงานได้แบบอัจฉริยะ เพราะเราจะต้องลงมือทำเองไปทำไม ในเมื่อมีอุปกรณ์ที่ช่วยทำแทนเราอยู่แล้ว ทำเองได้ตั้งแต่ต้นจนจบ เราไม่ต้องเข้าไปทำเอง โดนใจคนขี้เกียจสุด ๆ “ของเขาทำมาเพื่อให้ใช้ เราก็แค่ใช้ จ่ายเงินซื้อความสบาย เครื่องมันก็ทำงานตอบสนองความสะดวกสบายพวกเราได้ดี”
ยุคนี้ที่อะไร ๆ ก็ต้อง “อัตโนมัติ” ไว้ก่อน
“เครื่องอัตโนมัติ” ทั้งหลาย คือสินค้าที่ตอบโจทย์คนขี้เกียจจะออกแรงและเคลื่อนไหวร่างกายเป็นอย่างดี เพราะเราไม่ต้องเข้าไปมีบทบาทอะไรเลย แค่เปิดเครื่องก็จบเรื่อง อุปกรณ์เหล่านี้จะทำตามคำสั่งที่ถูกป้อนไว้เป็นอย่างดี ทำงานได้เองทุกขั้นตอน เราไม่ต้องขยับ ไม่ต้องจับ ไม่ต้องออกแรงอะไรเลย คนขี้เกียจก็คือขี้เกียจทำอะไรเองแทบทุกอย่าง จะต้องหาวิธีหรือทางลัดมาเป็นตัวช่วยจนได้ จะพยายามทำให้ตัวเองอยู่นิ่งให้ได้มากที่สุด และไม่ต้องเคลื่อนไหวให้ได้มากที่สุด
ทุกวันนี้อุปกรณ์อัตโนมัติต่าง ๆ ที่ช่วยทุ่นแรงและเวลาให้กับมนุษย์นั้นหาใช้งานง่ายมากและราคาก็ไม่ได้แพงเกินเอื้อม ดังที่เราเห็นคลิปขายสินค้าเหล่านี้ได้ทั่วไปในโซเชียลมีเดีย เป็นคอนเทนต์เกี่ยวกับข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านที่มันดูเจ๋ง ๆ คูล ๆ ซึ่งเราจะเห็นพวกของใช้ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ เครื่องมือ ของใช้ หรือพวกเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ มันมีฟังก์ชันล้ำ ๆ มากมาย ดีไซน์ก็สวยน่ารัก เหนือสิ่งอื่นใดคือการใช้ประโยชน์แบบที่ดูไม่เหมือนกับของที่อยู่ในบ้านเราเลยสักนิด มันมีลูกเล่นมากกว่า และทำให้เราว้าวได้ และสิ่งที่เหนือกว่าคือประสบการณ์การใช้งาน ที่ทำให้เรารู้สึกว่าบ้านของเรากลายเป็น “บ้านอัจฉริยะ” ขึ้นมา เพราะแทบทุกอย่างทำงานได้โดยอัตโนมัติ
ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าการที่เราเป็นขี้เกียจแล้วเราคือคนผิดหรือคนไม่ดี ความขี้เกียจของคนเราที่มากขึ้น ทำให้เราแสวงหาสิ่งที่ง่ายและสบายกว่าเพื่อตอบสนองความสะดวกสบายของตนเอง เปิดโอกาสให้เทคโนโลยีได้เข้าไปมีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการนั้น มนุษย์ก็เลยเลือกที่จะใช้เทคโนโลยีอย่างไม่มีเงื่อนไข ลืมนึกไปว่าความสะดวกสบายจากเทคโนโลยีก็เป็นดาบสองคม ด้านหนึ่งมันคือประโยชน์ที่ทำให้เราปลาบปลื้ม แต่อีกด้านก็เป็นภัยชนิดหนึ่ง ที่สร้างความเดือดร้อนให้เราได้แบบไม่รู้ตัว
และแน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะกลายเป็นคนขี้เกียจเพราะหลงใหลในความสบายจากเทคโนโลยี หลายคนยังเต็มใจที่จะทำอะไรด้วยตนเอง เต็มใจที่จะทำอะไรที่ยุ่งยากกว่า นานกว่า โดยไม่พึ่งอุปกรณ์อัตโนมัติ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าถ้าไม่มีคนขี้เกียจ ของใช้อย่างหุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้านที่ทำความสะอาดได้อย่างอัตโนมัติก็คงไม่มีใครทำออกมาขาย หากมันไม่มีคนซื้อไปใช้ ในทางตรงกันข้าม ทุกวันนี้อุปกรณ์เหล่านี้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ยอดขายเติบโตได้ไวด้วย
พึ่งพาอุปกรณ์อัตโนมัติมากเกินไปมันก็เป็นโทษ
เหรียญมีสองด้านฉันใด ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ก็มีทั้งคุณและโทษฉันนั้น แน่นอนว่าทุกวันนี้เราต่างก็ใช้ชีวิตกันอย่างสะดวกสบายมากขึ้นจนเห็นได้ชัด จากการที่เราพึ่งพาเทคโนโลยี พึ่งพาความอัตโนมัติของอุปกรณ์เจ๋ง ๆ หลาย ชิ้น หลายคนถูกความขี้เกียจกลืนกินไปทีละน้อย บางคนเคยไม่ชอบ ไม่เชื่อใจว่ามันจะใช้งานได้จริง แต่พอได้ใช้แล้วก็เห็นว่ามันทุ่นแรงทุ่นเวลาได้ และผลลัพธ์ก็ใช้งานได้ผลจริง ๆ เริ่มเปิดใจยอมรับที่จะใช้งานมันต่อ และใช้จนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตไปจำวันเลยก็มี ไม่มีอีกแล้วคนที่บอกว่า “ไม่ใช้หรอก ใช้ไม่เป็น”
แต่ยิ่งความอัตโนมัติช่วยให้ชีวิตเราง่ายขึ้น สะดวกสบายขึ้นมากเท่าใด เราก็จะลืมตัวตนทางด้านความคิดมากขึ้นเท่านั้น การพึ่งพาอุปกรณ์เหล่านี้ให้ทำงานแทนเราทุกอย่าง ในบางมุมมันก็ดูเหมือนจะค่อย ๆ ลดทอนความสามารถของมนุษย์ลง เพราะเมื่อใช้งานอุปกรณ์เหล่านั้น เราไม่ต้องทำอะไรเลยนอกจากเปิดเครื่อง บางอย่างแค่ตั้งเวลาให้มันเปิดทำงานเองอัตโนมัติก็ยังได้ เราใช้สมองเพื่อคิด จดจำ และตัดสินใจน้อยลงเรื่อย ๆ จนเกิดเป็นสภาวะที่เรียกว่า “สมองขึ้นสนิม” ไม่รู้ตัว อีกทั้งเรายังขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวร่างกายน้อยลงด้วย ไม่ต้องออกแรงทำอะไรเลยสักอย่าง พฤติกรรมแบบนี้มีความเสี่ยงเกิดภาวะสมองเสื่อมเร็วขึ้น
ทุกวันนี้ปัญหา “สมองเสื่อม” กำลังเป็นภัยคุกคามสังคมผู้สูงอายุของประเทศไทย หากย้อนกลับไปดูผลสำรวจของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ในปี 2557 จะพบว่าผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป มีภาวะสมองเสื่อม สมองสูญเสียความสามารถในการจำ การคิด สติปัญญา อารมณ์ มีพฤติกรรมและบุคลิกภาพเปลี่ยนไป จนไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวัน ทำงานหรือเข้าสังคมได้ ซึ่งหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคสมองเสื่อมได้ง่ายขึ้น คือการที่เราไม่ค่อยออกกำลังกาย และสมองไม่ค่อยได้ใช้งาน ไม่ค่อยได้ทำหน้าที่ของมัน ซึ่งก็คือการคิด การจำ และการตัดสินใจ
นั่นหมายความว่า การออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ คือยาป้องกันโรคภัยไข้เจ็บที่ดีที่สุด สำหรับคนที่ขี้เกียจออกกำลังกาย ก็ยังมีคำแนะนำที่ว่าให้พยายามขยับเขยื้อนร่างกายและเคลื่อนไหวร่างกายในชีวิตประจำวันให้ได้มากที่สุดแทนการออกกำลังกาย เช่น แทนที่จะใช้ลิฟต์ก็ให้ใช้บันไดแทน หรือระยะทางใกล้ ๆ จากที่เคยนั่งวินมอเตอร์ไซค์ ก็ลองหันมาใช้วิธีเดินแทน แม้ว่าผลลัพธ์จะไม่ดีเท่าการออกกำลังกาย แต่ก็ยังดีว่าการที่ไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวร่างกายเลย
มีการศึกษาที่ว่า การเดินแค่วันละ 25 นาที ช่วยให้ภาวะ “สมองเสื่อม” ดีขึ้นได้! แต่ปัญหาก็คือคนยุคใหม่กลับพยายามหาวิธีที่จะทำให้ตัวเองได้ออกแรงหรือเคลื่อนไหวร่างกายให้น้อยที่สุด โดยการบอกว่า “ขี้เกียจ” แค่เคลื่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ยังไม่อยากที่จะทำ จนต้องใช้เครื่องทุ่นแรงอย่างอุปกรณ์อัตโนมัติมาทำแทนเกือบทุกอย่างในชีวิตเลย
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่พบว่า การออกกำลังกายแบบแอโรบิกเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยป้องกันสมองเสื่อม แต่อย่าคาดหวังเรื่องการออกกำลังกาย เพราะบางคนแค่ทำงานบ้านนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ยังเลือกใช้อุปกรณ์อัตโนมัติให้ทำแทน ส่วนตัวเองขอนั่ง ๆ นอน ๆ ดูเครื่องทำงาน
ร่างกายที่แทบไม่ได้ขยับ ไม่ค่อยได้ใช้งาน กล้ามเนื้อและพละกำลังก็ค่อย ๆ อ่อนแรง การไหลเวียนเลือดไม่ดี การทำงานของร่างกายผิดปกติ แบบนี้คงไม่เสี่ยงแค่ภาวะสมองเสื่อม แต่ยังมีโอกาสทำให้เกิด อัมพฤกษ์ อัมพาต ความผิดปกติของเซลล์ประสาทที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อได้ในสักวัน เนื่องจากหลอดเลือดสมองตีบตัน ผลมาจากการขยับเขยื้อนร่างกายน้อยลง
ฉะนั้น การใช้เทคโนโลยีอัตโนมัติเพื่อช่วยทุ่นแรงและเวลาของคน มันอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคตได้ มันไม่ใช่แค่การตกเป็นทาสการตลาดที่สามารถตอบสนองความขี้เกียจของคนได้ เราเคยคิดว่าการซื้ออุปกรณ์เหล่านั้นมาใช้คือการจ่ายเงินเพื่อแก้ปัญหา แต่ถ้าเราตกเป็นทาสเทคโนโลยีเมื่อไร ผลลัพธ์ในด้านลบจะตามมาในทันที
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
3 สิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับลิฟท์บ้านของ “ซีเบส ลิฟท์”!
การเลือกลิฟท์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้ามักเป็นคำถามที่อาจจะตอบยาก สถาปนิกมีงานที่ยากในการสร้างสมดุลระหว่างงบประมาณกับความไว้วางใจ โดยที่สถาปนิกจะต้องทำให้ลูกค้ามั่นใจว่า ลิฟท์บ้าน จะเข้ากันได้ดีกับแบบที่สร้างขึ้น
เพื่อช่วยให้การตัดสินใจง่ายขึ้น เราได้รวบรวม 3 สิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับลิฟท์บ้านของซีเบส มาฝากกัน!
1. ลิฟท์ที่ติดตั้งง่ายและพอดีกับการออกแบบของคุณ
ลิฟท์บ้านของ ซีเบส นั้นง่ายต่อการออกแบบให้เข้ากับแบบของสถาปนิกโดยไม่ต้องทำการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใด ๆ เนื่องจาก:
- มาพร้อมกับปล่องลิฟท์ของตัวเอง (Ready-made home lift shaft): ด้วยปล่องสำเร็จรูปของเรา จึงทำให้สถาปนิกไม่จำเป็นต้องวางแผนทำปล่องคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดใหญ่ แล้วต้องกังวลว่าจะกันน้ำมั้ย หรือแข็งแรงพอรึเปล่า
- ไม่มีบ่อลิฟท์ (No pit lift required): คุณไม่จำเป็นต้องวางแผนเพื่อขุดบ่อลิฟท์เหมือนลิฟท์บางระบบ เนื่องจากเราลิฟท์ของเราเพียงต้องการเซาะพื้นลงไป 50 มม. สำหรับวางลิฟท์และปล่อง หรือไม่ต้องเซาะพื้นแต่ทำทางลาดเพื่อเข้าลิฟท์ ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ไม่จำเป็นต้องวางแผนการป้องกันน้ำหรือการระบายน้ำในหลุมลึกเหมือนการติดตั้งลิฟท์แบบสลิง
- ไม่มีห้องเครื่อง (Machine room less): ด้วยลิฟท์ของซีเบสที่เคลื่อนที่ด้วยระบบสกรู คุณจึงไม่จำเป็นต้องวางแผนทำห้องเครื่อง ทำให้การติดตั้งง่ายมากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะการติดลิฟท์บนชั้นดาดฟ้า ที่คุณไม่จำเป็นต้องมีห้องเครื่องอยู่ข้างบนลิฟท์ชั้นบนสุดอีกที
2. ลิฟท์บ้านที่ประหยัดพื้นที่สุด ๆ
ลิฟท์บ้านของซีเบส โดดเด่นด้วยการประหยัดพื้นที่อย่างดีเยี่ยม ต้องขอบคุณเทคโนโลยีสกรูที่เป็นเอกลักษณ์ของเรา ซึ่งช่วยให้ใช้พื้นที่เพียง 1 ตารางเมตร! แต่ไม่ใช่แค่ภายนอกเท่านั้นที่มีความสำคัญ เราให้คุณคุ้มค่ามากขึ้นจากภายในด้วยเช่นกัน! ในขณะที่ลิฟท์ขับเคลื่อนด้วยสกรูแบบดั้งเดิมมักจะให้พื้นที่ยืน 30-40% เท่านั้น แต่ลิฟท์ของเราในปัจจุบันสามารถมีที่ยืนได้สูงถึง 73%! เพราะใช้พื้นที่น้อยลงด้านนอก จึงมีเนื้อที่มากขึ้นด้านใน!
3. ลิฟท์ที่ออกแบบด้วยกระจกทั้งหมด
ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดที่สถาปนิกส่วนใหญ่เจอในขณะวางแผนลิฟท์บ้าน คือ แสงสว่างและอากาศถ่ายเท เมื่อวางแผนติดลิฟท์แบบสลิง สถาปนิกมักบ่นว่าต้องระวังไม่ให้แสงบังหรือปิดพื้นที่และทำให้รู้สึกว่าแคบเกินไป
ซึ่งอีกสิ่งที่ดีที่สุดของลิฟท์ซีเบส คือ สามารถใส่กระจกได้ทั้งหมด 5 ด้าน นั่นหมายความว่าลิฟท์จะไม่มีการบดบังแสงธรรมชาติ และห้องต่าง ๆ อีกทั้งยังรักษาภาพลวงตาของพื้นที่ไว้ ตัวอย่างเช่น ลิฟท์ที่มุมห้องสามารถทำปล่องกระจก 2 ด้าน ทำให้รู้สึกโปร่งจนเหมือนคุณไม่ได้อยู่ในลิฟท์
แน่นอนว่ายังมีข้อดีอื่น ๆ อีกมากมายสำหรับลิฟท์ของซีเบส เช่น ระบบล็อค คุณภาพของกระจก (เทมเปอร์และลามิเนต) หรือการปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความปลอดภัยที่เข้มงวดของยุโรป ซึ่งเราขอเชิญคุณติดต่อเราผ่าน LINE @Cibes ได้เลย
ตอนนี้คุณอาจถามว่าควรติดลิฟท์ไว้ตรงไหน?
เราทำงานร่วมกับสถาปนิก ผู้รับเหมา และนักออกแบบจำนวนมาก โดยปกติลิฟท์จะถูกนำมาตั้งกับพื้นที่ที่เตรียมไว้ก่อนแล้ว แต่บางครั้งเราถูกนำเข้ามาคุยเรื่องการติดลิฟท์ตั้งแต่แรก แล้วก็เกิดคำถามว่า “คุณแนะนำให้เราวางลิฟท์ที่ไหน”
เราชอบคำถามนี้เพราะว่ามันมีตำแหน่งที่ดีที่สุดสำหรับวางลิฟท์บ้าน แค่ต้องมีการวางแผนล่วงหน้าในการติดตั้ง
และนี่คือ 4 ตำแหน่งติดตั้งลิฟท์ในบ้านที่ดีที่สุด
1. ลิฟท์บ้านกลางบันได
1 ใน 4 ตำแหน่งติดตั้งที่เราชอบที่สุดคือ ช่องกลางบันได เพราะประการแรกที่สำคัญที่สุด คือ เราสามารถเปลี่ยนลิฟท์ให้กลายเฟอร์นิเจอร์สุดหรูให้กับบ้านของคุณ และแทนที่แขกที่มาบ้านคุณจะทักว่า “โอ้ มีลิฟท์บ้านด้วย!” จะกลายเป็น “ว้าว ลิฟท์บ้านคุณสวยมาก ๆ เลย ”
การเลือกให้ปล่องลิฟท์เป็นกระจก ที่เรียกติดปากคือ ลิฟท์แก้ว ให้อยู่ตรงกลางบันไดนั้นจะช่วยให้คุณได้รับความรู้สึกที่ไม่เหมือนใครและตื่นตาตื่นใจทุกครั้งเวลาขึ้น-ลงในแต่ละชั้น ไม่ว่าคุณจะใช้ลิฟท์หรือเดินขึ้น-ลงบันไดก็ตาม!
ข้อดีที่เห็นได้ชัด คือ ลิฟท์กลางบันไดจะช่วยประหยัดพื้นที่ เพราะส่วนใหญ่แล้วในหลาย ๆ เคสที่เกิดขึ้น พื้นที่กลางบันไดมักจะไม่ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์และปล่อยทิ้งโล่งไว้แบบนั้น แต่การติดลิฟท์จะทำให้พื้นที่ว่างนั้นได้ถูกใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบ และทำให้คุณไม่ต้องเสียมุมอื่น ๆ ของบ้านในทุก ๆ ชั้น ซึ่งคุณสามารถเก็บพื้นที่เหล่านั้นสำหรับทำทางเดินขนาดใหญ่ ตู้เสื้อผ้าแบบวอล์กอิน หรือแม้แต่ส่วนต่อขยายห้องน้ำ
โดยปกติลูกค้าชอบให้บันไดและลิฟท์บ้านของพวกเขาที่จะอยู่ในพื้นที่เดียวกัน เพราะเหมือนเป็นส่วนของบ้านที่ช่วยพาไปยังชั้นอื่น ๆ ดังนั้นการติดตั้งลิฟท์บ้านโดยมีบันไดล้อมรอบ จึงเป็นตำแหน่งที่สมเหตุสมผลที่สุด
2. ลิฟท์บ้านกึ่งกลางแจ้ง
ลิฟท์กลางแจ้งและกึ่งกลางแจ้งต่างกันอย่างไร? ลิฟท์กลางแจ้งมีส่วนประกอบทั้งหมดภายนอกอาคาร ได้แก่ ปล่อง หลังคา และประตู ถ้าฝนตกคุณจะเดินออกจากลิฟท์โดยต้องตากฝน
ในขณะเดียวกัน ลิฟท์แบบกึ่งกลางแจ้ง คือ ลิฟท์ติดตั้งภายนอกอาคาร แต่มีประตูทุกบานหันเข้าด้านในบ้าน ซึ่งช่วยให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการรั่วไหลของน้ำฝนที่จะเข้าสู่ตัวลิฟท์ (โดยเฉพาะตรงประตู) ขณะเดียวกันก็ช่วยให้คุณไม่ต้องเปียกฝนหากฝนตก
ข้อดีข้อสุดท้าย คือ ลิฟท์ดูงดงามอย่างยิ่งจากภายนอกและภายใน ลิฟท์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของบ้านที่คุณสามารถมองได้ไม่เบื่อ โดยเฉพาะลิฟท์บ้านรุ่น High End ของเราสามารถเปิดไฟ LED ให้ส่องสว่างทั้งปล่องในเวลากลางคืน เกิดเป็นแสงเอฟเฟกต์ที่สวยงามไม่เหมือนใคร
แต่ถ้าลูกค้ากังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวล่ะ? ไม่ต้องกังวล เรามีทางออกสำหรับลูกค้าที่คำนึงถึงความเป็นส่วนตัว ปล่องที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือการใช้กระจก เราสามารถติดตั้งแผงกระจกเพียงชิ้นเดียวต่อชั้น เพื่อมีหน้าต่างเห็นวิวด้านนอก ส่วนพื้นที่ตรงอื่นก็ปิดทึบ
หรือ อีกทางเลือกหนึ่งคือใช้กระจกสีเข้ม โดยที่ซีเบส เรามีกระจกสีให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ สีเทาสโมกกี้ สีขาวน้ำนม ไปจนถึงกระจกสีดำ
3. ลิฟท์บ้านสำหรับผู้ที่มีปล่องอยู่แล้ว
บางครั้งสถาปนิกติดต่อเราเมื่อสร้างปล่องแล้ว และขอให้เราวางลิฟท์ไว้ข้างใน แม้ว่านี่ไม่ใช่ตำแหน่งโปรดในการติดลิฟท์ของเรา (เพราะ เราชอบให้ลิฟท์ของเราโดดเด่น!) แต่เราก็มีลิฟท์แบบพิเศษที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับบ้านที่ปล่องมีอยู่แล้ว ซึ่งก็ยังคงคอนเซปที่สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสกรูไดรฟ์เพื่อเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสารได้อย่างน่าทึ่ง
ซึ่งถ้าเทียบ ลิฟท์ของซีเบส กับ ลิฟท์โดยสารแบบมีห้องเครื่อง ในขนาดปล่องที่เท่ากัน เราก็ยังสามารถจุผู้โดยสารได้มากกว่าเช่นเดิม
แต่ก็ไม่ใช่ว่าปล่องทุกอันถูกสร้างขึ้นมาในขนาดที่เท่ากัน ลิฟท์ของซีเบสมีหลายขนาดให้เลือก คุณจึงหมดกังวลว่าขนาดของลิฟท์จะเข้ากับปล่องที่มีอยู่ได้มั้ย อีกทั้งยังมาสามารถตกแต่งให้สวยงามด้วย เช่น ลายตรงแผงปุ่มกดลิฟท์ การเลือกลายและสีภายในลิฟท์ การเลือกพื้น หรือการใช้ประตูกระจกเพิ่มความหรูหราให้กับบ้าน เป็นต้น
4. วางลิฟท์ตรงมุมบ้าน
สำหรับบ้านที่มีอยู่เดิม บางครั้งพื้นที่ว่างมีจำกัด และเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากแนะนำให้ติดตั้งลิฟท์ที่มุมของบ้าน
แม้จะเลือกตำแหน่งนี้ในการติด ลิฟท์ของซีเบสยังคงมีข้อได้เปรียบที่ไม่เหมือนใครด้วยการ ทำให้คุณไม่รู้สึกว่ามีพื้นที่บ้านลดลง
เราจะทำอย่างนั้นได้อย่างไร? วิธีทำให้คุณรู้สึกอย่างนั้นทำได้ไม่ยาก เราสามารถทำลิฟท์กระจก 2 ด้านเพื่อรักษาภาพลวงตาของพื้นที่แทนการสร้างกำแพงแล้วทำปล่องทึบ ลิฟท์บ้านแบบกระจกจะคงรักษาความโปร่ง พื้นที่ว่าง และความสามารถในการเข้าถึงไว้เช่นเดิม
ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 02/09/2565
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 29,550.00 | 29,650.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,914.00 | 29,016.24 | 30,150.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,722.60 | 26,114.62 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,531.20 | 23,212.99 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 861.00 | 13,052.76 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 670.00 | 10,157.20 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,983.00 | 30,062.28 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 02/09/2565
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 35.95 | 35.95 | 35.95 | 37.95 | 35.95 | 35.95 | 35.95 | 35.95 | 35.95 | 35.95 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 35.68 | 35.68 | 35.68 | 37.68 | 35.68 | 35.68 | 35.68 | 35.68 | 35.68 | 35.68 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 34.84 | 34.84 | 34.84 | 36.84 | 34.84 | – | 34.84 | 34.84 | 34.84 | 34.84 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 32.34 | 32.34 | – | – | – | – | – | – | – | 32.34 |
เบนซิน 95 | 43.36 | – | – | – | 43.81 | – | 43.86 | 43.86 | – | 43.36 |
ดีเซล B7 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 |
ดีเซล | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 |
ดีเซล B20 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | – | 34.94 | – | 34.94 | 34.94 | – | 34.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 45.66 | 45.66 | 45.66 | 45.66 | 45.66 | – | – | – | – | 45.66 |
แก๊ส NGV | 15.59 | 15.59 | – | – | – | – | – | – | – | 15.59 |