สาระน่ารู้ประจำวันที่ 20 มิถุนายน 2566

เปิดอินไซต์คนไทยนิยมแต่งบ้าน3สไตล์ญี่ปุ่น-สแกนดิเนเวียน-อินดัสเทรียล

NocNoc เปิดอินไซต์คนไทยผ่าน AI พบ 3 สไตล์การแต่งบ้านที่นิยมมากที่สุดคือญี่ปุ่น 25% สแกนดิเนเวียน 23% อินดัสเทรียล 20% ลูกค้ากลุ่มสร้างบ้านและต่อเติมบ้าน 60% ช้อปสินค้าแต่งบ้านผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์และกลับมาซื้อซ้ำกว่า 74%

 นายอนุพงศ์ ทะสดวก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการค้าและพาณิชย์ บริษัท เบ็ตเตอร์บี มาร์เก็ตเพลส จำกัด หรือ NocNoc ศูนย์รวมสินค้าและบริการเรื่องบ้านออนไลน์ เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาการ ช้อปปิ้งออนไลน์มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะในกลุ่มเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน ที่จะเห็นได้จากตัวเลขงานวิจัยของกรุงศรี คาดการณ์ว่าในปี 2025 ตลาด E-Commerce ไทยจะเติบโตขึ้นอีก 19% โดยผู้ประกอบการร้านค้าปลีกสมัยใหม่มีแนวโน้มที่จะขยายธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาช่องทางการขายออนไลน์

ขณะเดียวกันแม้ว่าการเติบโตของการช้อปปิ้งออนไลน์จะเติบโตมากเพียงใด แต่ก็ต้องยอมรับว่า Pain point ของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในกลุ่มสินค้าและของตกแต่งบ้าน คือ ลูกค้าไม่สามารถเห็นและสัมผัสได้จริง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญอย่างมากในการตัดสินใจซื้อ โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ อาทิ โซฟา ตู้ โต๊ะ เตียง เป็นต้น โดยพฤติกรรมของลูกค้าคือจะมีความกังวลว่าอาจจะได้สินค้าจะไม่เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ ทำให้มีผู้บริโภคมีการพิจารณาประเด็นดังกล่าวกันอย่างละเอียด 

สำหรับในช่วงที่ผ่านมา NocNoc ก้าวขึ้นมาเป็น Home and Living Platform หรือศูนย์รวมสินค้าและบริการเรื่องบ้านออนไลน์ ที่รวบรวม เฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้าน วัสดุปูพื้น-ผนัง เครื่องใช้ไฟฟ้า และบริการทุกเรื่องบ้านที่ครบที่สุดรายแรกในไทย และได้ผลักดันให้ข้อจำกัดเหล่านี้หมดไป คลายความกังวล ลดความลังเลในการซื้อสินค้าแต่งบ้านให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สะท้อนจากตัวเลขของลูกค้า 60% ที่มาช้อปสินค้าแต่งบ้านออนไลน์บนแพลตฟอร์ม NocNoc สร้าง ตกแต่ง ต่อเติมบ้านได้ทั้งหลัง เป็นการซื้อสินค้าและบริการครอบคลุมในหลากหลายกลุ่มสินค้าและบริการ เรียกได้ว่าสามารถ Complete Journey ครบ จบ ใน NocNoc ที่เดียว

นายอนุพงศ์ กล่าวว่า จากข้อมูลเชิงลึกของ NocNoc จะเห็นได้ว่าลูกค้าส่วนใหญ่ของ NocNoc เป็นกลุ่มสร้างบ้านและต่อเติมบ้านประมาณ 60% นับว่าเป็นกลุ่มที่มองหาการซื้อสินค้าและบริการแบบ Complete journey ในการสร้าง ต่อเติม และตกแต่งบ้านทั้งหลัง ทั้งยังมีพฤติกรรมในการซื้อสินค้าหลากหลายหมวดบนแพลตฟอร์มของ NocNoc และกลับมาซื้อซ้ำกว่า 74%

ขณะที่ของตกแต่งบ้านและผู้ซื้อเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป  คิดเป็นอีกประมาณ 40% จะเน้นการตกแต่งเป็นหลัก แต่ขณะเดียวกันก็มีพฤติกรรมการซื้อซ้ำบนแพลตฟอร์ม NocNoc มากถึง 26% เพราะลูกค้าจะมีไอเดียใน การตกแต่งบ้านมาเรื่อยๆ จากการหาแรงบันดาลใจในการแต่งบ้านจากที่ต่างๆ รวมถึงใน NocNoc ที่มีไอเดียในการตกแต่งบ้านมากมาย

 ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าจากการทำตลาดเพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้าในแบบ Complete journey รวมถึงการสร้างประสบการณ์   ช้อปปิ้งที่ดีแก่ผู้บริโภค และนำเสนอประสบการณ์มากกว่าที่ลูกค้าได้คาดหวัง ทำให้ภาพรวมจำนวนผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม NocNoc ทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชันระหว่างเดือนมกราคม – เมษายน 2566 เพิ่มสูงขึ้น  64% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปี 2565 โดยจากแนวโน้มที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ก็คาดว่าในปี 2566 นี้ ยอดขายจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้กว่า 170% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาอีกด้วย 

 นอกจากนี้ หนึ่งในพฤติกรรมของลูกค้าที่บริษัทให้ความสำคัญคือเรื่องของ Personalize จะเห็นได้ว่าไลฟ์สไตล์การตกแต่งบ้านของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน โดย NocNoc ให้ลูกค้าเริ่มต้นการใช้งาน Application ด้วยการค้นหาสไตล์ที่ใช่แบบ Personalize ด้วยระบบ AI เพื่อให้แอปนำเสนอสินค้าแต่งบ้านได้ตรงตามสไตล์ของแต่ละบุคคล พบว่า สไตล์การแต่งบ้านที่คนไทยชื่นชอบ และนิยมมากที่สุดคือ Japandi 25% , Scandinavian 23% , Industrial  20% , Glam 15% , Transitional 10% , Shabby Chic 5% และ Mid-Century Modern 2% เรียงตามลำดับ

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


“เรียลเอ็กซ์” เตรียมเสนอขายโทเคนดิจิทัล เปิดจองซื้อวันที่ 1-31 ก.ค.นี้ ราคาโทเคนละ 182 บาท ผ่านแอปฯ TokenX ครั้งแรกของการลงทุนคอนโดหรูผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล

“เรียลเอ็กซ์” เตรียมเสนอขายโทเคนดิจิทัล เปิดจองซื้อวันที่ 1-31 ก.ค.นี้ ราคาโทเคนละ 182 บาท ผ่านแอปฯ TokenX ครั้งแรกของการลงทุนคอนโดหรูผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล รับประกันรายรับสุทธิโครงการ 5 ปีแรก 4-5% ต่อปี

“เรียล เอสเตท เอกซ์โพเนนเชียล” เตรียมเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน “เรียลเอ็กซ์” จำนวนประมาณ 19 ล้านโทเคน เปิดจองซื้อวันที่ 1-31 กรกฎาคมนี้ ที่ราคาโทเคนละ 182 บาท ผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน “Token X” ครั้งแรกของการลงทุนในคอนโดฯ หรู “พาร์ค ออริจิ้น” 3 ทำเลกลางเมือง พร้อมพงษ์ พญาไท ทองหล่อ ผ่านโทเคนดิจิทัล ระยะเวลาลงทุนในโครงการ 10 ปี ชูจุดเด่นรับผลตอบแทนสม่ำเสมอเป็นรายไตรมาสจากค่าเช่าและการขายคอนโดฯ พร้อมีประกันรายรับสุทธิของโครงการ 5 ปีแรก ที่ 4-5% ต่อปี

ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรียล เอสเตท เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด ผู้ออกโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน “เรียลเอ็กซ์” กล่าวว่า โทเคนดิจิทัลดิจิทัลเพื่อการลงทุน “เรียลเอ็กซ์” เป็นนวัตกรรมการลงทุนและนับเป็นการลงทุนในคอนโดมิเนียมหรูผ่านสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยบริษัทฯ ได้นำคอนโดมิเนียม “พาร์ค ออริจิ้น” 3 ทำเล รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 361 ยูนิต ได้แก่ พร้อมพงษ์ พญาไท และทองหล่อ มาเป็นสินทรัพย์อ้างอิง ด้วยการนำคอนโดฯ 3 ทำเลดังกล่าวมาแปลงเป็นหน่วยการลงทุนขนาดเล็ก ซึ่งการลงทุน 1 โทเคนดิจิทัล เรียลเอ็กซ์ จะเทียบเท่าการลงทุนในพื้นที่คอนโดฯ ประมาณ 1 ตารางนิ้ว ทำให้ทุกคนเข้าถึงการลงทุนได้ง่ายขึ้น

ทั้งนี้ คอนโดฯ พาร์ค ออริจิ้น ทั้ง 3 โครงการที่นำมาเป็นสินทรัพย์อ้างอิง ล้วนอยู่ในทำเลใจกลางเมืองที่มีศักยภาพสูง ได้รับการออกแบบให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และอยู่ในสภาพใหม่ จึงเป็นที่ต้องการของผู้เช่า อีกทั้งจะได้รับปัจจัยบวกจากการเปิดประเทศส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทยอยฟื้นตัว รวมถึงมีชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพื่อทำงานจึงมีความต้องการเช่าคอนโดฯ เพื่ออยู่อาศัยในระยะยาว และมีแนวโน้มที่ราคาขายจะเพิ่มขึ้นในอนาคต

การลงทุนในโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน “เรียลเอ็กซ์” มีอายุโครงการ 10 ปีนับจากวันที่เริ่มโครงการ จุดเด่นคือผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทน 2 ส่วน ประกอบด้วย (1) ปีที่ 1-5 รับผลตอบแทนเป็นรายไตรมาสจากค่าเช่าสุทธิของคอนโดฯ ทั้ง 3 โครงการที่เป็นสินทรัพย์อ้างอิง โดยบริษัท พาร์ค ลักชัวรี่ จำกัด ในเครือ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI จะรับประกันรายรับสุทธิของโครงการที่ 4% 4.25% 4.50% 4.75% และ 5% ต่อปีของมูลค่าเสนอขายโทเคนดิจิทัลฯ ตามลำดับ และ (2) ปีที่ 6-10 มีโอกาสรับส่วนต่างราคาคอนโดฯ ที่เพิ่มขึ้นใน 6 ปีข้างหน้า โดยนับตั้งแต่ปีที่ 6 คอนโดฯ ที่ไม่มีผู้เช่าจะถูกนำมาขายในราคาตลาดช่วงนั้น ๆ ซึ่งคาดว่าราคาขายจะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันเนื่องจากอสังหาฯ เป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่ม และเมื่อขายได้ก็จะนำเงินมาจ่ายให้แก่ผู้ถือโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน “เรียลเอ็กซ์” ตามสัดส่วนการลงทุนตั้งแต่ปีที่ 6 เป็นต้นไป และยังคงได้รับผลตอบแทนตามจริงเป็นรายไตรมาสจากคอนโดฯ ที่มีผู้เช่า

นางสาวจิตตินันท์ ชาติสีหราช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด หรือ Token X บริษัทภายใต้กลุ่มธุรกิจทางการเงินเอสซีบี เอกซ์ (SCBX Group) ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลในประเทศไทย (ICO Portal) ที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัท เรียล เอสเตท เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด ผู้ออกโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน “เรียลเอ็กซ์” (RealX) ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขอเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน “เรียลเอ็กซ์” ต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (ICO) ปัจจุบันได้รับการพิจารณาอนุมัติและมีผลใช้บังคับเป็นที่เรียบร้อย ล่าสุดจึงเตรียมเปิดจองซื้อโทเคนดิจิทัลฯ เรียลเอ็กซ์ ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 9.00 น. ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 เวลา 15.30 น. ที่ราคาเสนอขาย 182 บาทต่อโทเคนฯ ผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน TokenX ของโทเคน เอกซ์ https://tokenxapp.page.link/c6wA

ทั้งนี้ ผู้จองซื้อสามารถชำระเงินได้ 2 วิธี (1) ผ่านโมบายแอปพลิเคชัน SCB EASY (ชื่อผู้โอนเงินต้องเป็นชื่อเดียวกับผู้จองซื้อเท่านั้น) หรือ (2) ผ่านระบบ Bill Payment เป็นเงินสด/ โอนเงิน หรือชำระด้วยเช็ค/ แคชเชียร์เช็ค หรือดราฟท์ (ชื่อเจ้าของเช็คต้องเป็นชื่อเดียวกับผู้จองซื้อเท่านั้น) ตั้งแต่วันที่ 1-31 กรกฎาคม 2566 (ในเวลาทำการของธนาคาร) โดยสามารถดาวน์โหลดแอปฯ TokenX ได้แล้วที่ App Store และ Play Store และทำการลงทะเบียน ตรวจสอบตัวตน (KYC/ CDD) ตรวจสอบตามกฎหมาย ตรวจสอบความเหมาะสมและรับรองคุณสมบัติของผู้ลงทุนตามขั้นตอน ทั้งนี้ผู้ลงทุนรายย่อยจองซื้อได้รายละไม่เกิน 300,000 บาท และผู้ลงทุน จะได้รับการจัดสรรตามดุลยพินิจผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ลำดับการชำระเงินของผู้ลงทุนแต่ละรายโดยผู้ลงทุนที่ชำระเงินก่อนจะได้รับจัดสรรก่อน (First come first served) กฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ปริมาณความต้องการซื้อโทเคนดิจิทัลของผู้ลงทุนแต่ละประเภท สภาวะตลาด เป็นต้น นอกจากนี้บริษัทฯ ได้ร่วมกับบริษัท ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไทย จำกัด (TDX) ในกลุ่มตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ซึ่งได้รับอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต. เตรียมนำโทเคนดิจิทัล “เรียลเอ็กซ์” เข้าจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดรองเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง โดย “เรียลเอ็กซ์” นับเป็นโทเคนดิจิทัลเหรียญแรกที่เข้าเทรดในแพลตฟอร์ม TDX อีกด้วย

การเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน “เรียลเอ็กซ์” ต่อประชาชนเป็นครั้งแรก มีจำนวนประมาณ 19 ล้านโทเคน รวมมูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 3,500 ล้านบาท โดยผู้ลงทุนสามารถมั่นใจในความปลอดภัยของระบบการทำธุรกรรมจองซื้อโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน “เรียลเอ็กซ์” เนื่องจากระบบที่เกี่ยวข้องกับการออกและเสนอขายครั้งนี้ได้รับการกำกับดูแลจากสำนักงาน ก.ล.ต. และระบบงาน ICO Portal ของ Token X ได้รับการเตรียมความพร้อมด้านมาตรฐานความปลอดภัยมาเป็นอย่างดีและได้รับการตรวจสอบจากที่ปรึกษาทั้งภายในและภายนอก นอกจากนี้มีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด ทำหน้าที่ช่วยดูแลจัดการทรัพย์สินเพื่อประโยชน์ของผู้ลงทุนในโทเคนดิจิทัลฯ เรียลเอ็กซ์ และมีบริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ จำกัด ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษากฎหมาย

***สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดทำความเข้าใจและศึกษาลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน และลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

เตรียมพร้อมก่อนจองซื้อ RealX

ดาวน์โหลดแอปฯ Token X ได้ที่: https://tokenxapp.page.link/c6wA

สนใจจองซื้อหน่วยลงทุน : คลิก https://realxtoken.finance

ขอบคุณข้อมูลจาก ryt9.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 20มิ.ย. ที่ระดับ 34.76 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทยังคงแกว่งตัว sideway ในแนวต้านสำคัญโซน 34.80-34.90 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งผู้เล่นในตลาดต่างรอจังหวะเงินบาทอ่อนค่า สำหรับวันนี้ผู้เล่นในตลาดคาดว่า PBOC อาจปรับลด LPR ลงอย่างน้อย -10bps เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 20มิ.ย.2566 ที่ระดับ  34.76 บาทต่อดอลลาร์“แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  34.79 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน  พานิชพิบูลย์   นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน  ธนาคารกรุงไทยระบุว่า แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า อาจยังคงแกว่งตัว sideway ในกรอบเดิม โดยมีโซน 34.80-34.90 บาทต่อดอลลาร์ เป็นแนวต้านสำคัญ ซึ่งผู้เล่นในตลาดต่างรอจังหวะเงินบาทอ่อนค่า ในการทยอยขายทำกำไรสถานะ Short THB และขายเงินดอลลาร์ สำหรับผู้ส่งออกบางส่วน

แต่หากเงินบาททยอยแข็งค่าขึ้น ซึ่งปัจจัยหนุนในวันนี้ อาจมาจากทิศทางเงินหยวนจีน ที่คาดว่าจะไก้รับอานิสงส์จากความหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน หลังทางการจีนเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย เรามองว่า

การแข็งค่าของเงินบาทอาจติดอยู่แถวโซนแนวรับ 34.50-34.60 บาทต่อดอลลาร์ ได้ เนื่องจาก ในช่วงนี้ ค่าเงินเยนญี่ปุ่นอ่อนค่าลงพอสมควร ทำให้เราเริ่มเห็น โฟลว์ธุรกรรมซื้อเงินเยนญี่ปุ่นในจังหวะย่อตัวมากขึ้น อีกทั้ง ผู้นำเข้าบางส่วนก็อาจเริ่มทยอยซื้อเงินดอลลาร์สำหรับโฟลว์ธุรกรรมจ่ายปลายเดือน

เราคงคำแนะนำว่า ในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูงจากทั้งปัจจัยการเมืองไทยและการปรับเปลี่ยนมุมมองไปมาของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายเฟด ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

 มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.65-34.85 บาท/ดอลลาร์

โดยในช่วงคืนก่อนหน้า เงินบาทเคลื่อนไหว sideway ในโซน 34.70-34.80 บาทต่อดอลลาร์ หลังผู้เล่นในตลาดต่างรอติดตามปัจจัยใหม่ๆ ทั้งประเด็นทิศทางนโยบายการเงินเฟด และการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของทางการจีน

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวันหยุด Juneteenth อย่างไรก็ดี ผู้เล่นในตลาดต่างรอจับตา ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด โดยเฉพาะการแถลงต่อสภาคองเกรสของประธานเฟด เพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินของเฟดในระยะถัดไป

ส่วนทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี stoxx600 ปรับตัวลงราว -1.02% หลังผู้เล่นในตลาดต่างรอประเมินความชัดเจนของการกระตุ้นเศรษฐกิจของทางการจีน ทำให้ผู้เล่นในตลาดเลือกขายทำกำไรหุ้นกลุ่มสินค้าแบรนด์เนมและกลุ่มเหมืองแร่ออกมาก่อน นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังคงถูกกดดันจากแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB)

ในส่วนตลาดค่าเงิน เนื่องจากตลาดการเงินสหรัฐฯ ปิดทำการ ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของตลาดค่าเงินไม่มีทิศทางที่ชัดเจน โดยเงินดอลลาร์ยังคงแกว่งตัว sideway เพื่อรอรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่ม ซึ่งล่าสุด ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ยังคงแกว่งตัวใกล้ระดับ 102.5 จุด

สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกหนี้ชั้นดี (Loan Prime Rate:LPR) ของธนาคารกลางจีน (PBOC) โดยตลาดคาดว่า PBOC อาจปรับลด LPR ลงอย่างน้อย -10bps เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ยังมีโอกาสมั้ย? “วอลเลย์บอลสาวไทย” อยู่ตรงไหนในศึกลูกยางเนชั่นส์ลีก 2023

ทีมวอลเลย์บอลสาวทีมชาติไทย ที่เดินทางไปร่วมแข่งขันในรายการใหญ่อย่าง วอลเลย์บอลหญิง เนชั่นส์ ลีก 2023 สัปดาห์สอง ที่เมืองบราซิเลีย, ประเทศบราซิล รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน – 19 มิถุนายน 2566

โดยหลังแข่งขันครบทั้ง 4 แมตช์ในสัปดาห์ที่สอง “ทัพนักตบลูกยางสาวไทย” สามารถเก็บเพิ่มได้เพียงแค่หนึ่งแต้มเท่านั้นในสนามนี้ จากผลงานแพ้รวดทั้ง 4 เกม ทำให้อันดับหล่นลงไปอยู่ที่ 13 ของตาราง มี 8 คะแนน

ผลงานของ วอลเลย์บอลหญิงไทย ในสัปดาห์ที่สอง
นัดแรก : แพ้ เยอรมนี 1-3 เซต
นัดสอง : แพ้ สหรัฐฯ 0-3 เซต
นัดสาม : แพ้ เซอร์เบีย 2-3 เซต
นัดสี่ : แพ้ โครเอเชีย 0-3 เซต

อย่างไรก็ตาม “สาวไทย” ยังมีลุ้นทำอันดับให้ติด 1 ใน 8 ทีมที่ดีที่สุด ผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้าย ที่สหรัฐฯ เนื่องจากยังเหลือโปรแกรมการแข่งขันอีก 4 เกมในสนามสุดท้าย ที่ประเทศไทยจะรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ

สำหรับสนามต่อไปของ วอลเลย์บอลหญิง เนชั่นส์ ลีก 2023 สัปดาห์ที่สาม ทีมชาติไทย มีโปรแกรมจะกลับมาลงแข่งขันที่ อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก ที่บ้านเรา ระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม 2566 แฟนๆ สามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ทาง ช่อง 7HD ทุกเกม

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


แสงในเตาไมโครเวฟขณะอุ่นอาหาร อันตรายหรือไม่?

เคยได้ยินผู้ใหญ่เตือนว่าอย่าไปจ้องมองแสงสีส้มๆ ภายในเตาไมโครเวฟขณะกำลังอุ่นอาหาร เพราะแสงในไมโครเวฟจะทำให้สายตาเราเสียไหมคะ หรือบางบ้านอาจจะถึงขั้นให้เดินออกมาไกลๆ ให้ห่างจากไมโครเวฟขณะอุ่นอาหาร เพราะเกรงว่าคลื่นไมโครเวฟจะทำอันตรายต่อร่างกายของเรา ความเชื่อเหล่านี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่ Sanook! Health หาคำตอบมาให้แล้วค่ะ

คลื่นไมโครเวฟ อันตรายต่อสุขภาพหรือไม่?

คลื่นไมโครเวฟ คือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เหมือนคลื่นวิทยุ คลื่นทีวี คลื่นแสงอินฟาเรด แสงอัลตร้าไวโอเล็ต และอีกหลายๆ คลื่นแหละค่ะ หลักการทำงานของมันคือ คลื่นไมโครเวฟจะพุ่งเข้าไปกระทบอาหาร ถ่ายทอดพลังงานให้โมเลกุลของน้ำทั้งใน และนอกอาหาร  จนเกิดการสั่นสะเทือน และเสียดสีกันจนเป็นความร้อน จนทำให้อาหารสุก

ส่วนตัวคลื่นไมโครเวฟเอง หลังจากมอบพลังงานให้อาหารแล้ว ก็จะสลายตัวไปจนหมด ไม่เหลือตกค้างอยู่ในอาหาร จึงไม่ทำให้อาหาร และคนใช้อย่างเราๆ ได้รับอันตรายจากคลื่นไมโครเวฟดังกล่าวแน่นอนค่ะ

แสงสีส้มๆ ในเตาไมโครเวฟ เป็นอันตรายหรือไม่?

ไม่เป็นอันตรายใดๆ ทั้งสิ้นค่ะ เพราะคลื่นไมโครเวฟจะไม่สามารถทะลุผ่านฝาตู้ออกมาภายนอกได้เลย เพราะมีแรงทะลุทะลวงต่ำกว่าแสงอินฟาเรด แสงธรรมดา รวมไปถึงรังสีอัลตร้าไวโอเล็ต รังสีเอ๊กซ์ หรือรังสีแกมมาเสียอีก

นอกจากนี้ แสงสีส้มๆ ที่เราเห็น ไม่ใช่คลื่นไมโครเวฟนะคะ แต่เป็นดวงไฟที่เขาติดตั้งไว้ในไมโครเวฟ เพื่อให้เรามองเห็นอาหารที่อยู่ในเตาขณะที่เตาไมโครเวฟกำลังทำงานต่างหาก เพราะฉะนั้นจ้องมองอาหารในเตาไมโครเวฟก็ไม่ได้มีอันตรายไปกว่าการจ้องมองดวงไฟธรรมดาๆ เลยค่ะ

ทานอาหารที่ผ่านคลื่นไมโครเวฟบ่อยๆ จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่?

คลื่นไมโครเวฟจะพุ่งผ่านอาหารที่เราใส่เข้าไปในเตา เพื่อทำให้เกิดการสั่นสะเทือน จนเกิดเป็นความร้อนที่ทำให้อาหารสุก แต่ตัวคลื่นไมโครเวฟเอง เมื่อถ่ายทอดพลังงานให้กับอาหารแล้ว ตัวมันเองก็จะสลายหายไป ไม่เหลือตกค้างไว้ในอาหาร ภาชนะ หรือในสิ่งใดทั้งสิ้น ดังนั้นการรับประทานอาหารที่ปรุงสุก หรืออุ่นจากไมโครเวฟบ่อยๆ ไมได้ทำให้ร่างกายได้รับอันตรายแต่อย่างใด

อันตรายที่มากับเตาไมโครเวฟ

แม้ว่าไมโครเวฟจะปลอดภัยในการใช้งานอย่างมาก แต่จะเป็นอันตรายกับเราทันที ถ้าเตาไมโครเวฟอยู่ในสภาพชำรุด เช่น ฝาตู้ปิดได้ไม่สนิท มีรอยรั่ว เพราะอาจทำให้คลื่นไมโครเวฟรั่วไหลออกมาภายนอกได้

นอกจากนี้ หากปล่อยให้ไมโครเวฟสกปรกจากการอุ่นอาหารนานๆ ไม่ยอมทำความสะอาด ความเค็มของอาหารจะทำให้เตาไมโครเวฟเกิดคราบสนิม จนอาจเกิดเป็นรอยทะลุ และคลื่นไมโครเวฟรั่วได้เช่นกัน

ใช้เตาไมโครเวฟอย่างไร ให้ถูกวิธี

1. เลือกภาชนะที่ปลอดภัยในการใช้กับเตาไมโครเวฟเท่านั้น เช่น จานชามกระเบื้อง ภาชนะทนไฟ พลาสติกทนความร้อน และภาชนะที่ทำจากไม้ หรือกระดาษ ข้อสังเกตอักจุดหนึ่งคือ เลือกซื้อภาชนะที่ฉลากบอกไว้ว่า ใช้ร่วมกับเตาไมโครเวฟได้

2. ห้ามใช้ภาชนะ จานชาม ที่ทำจากโลหะ หรือมีส่วนผสมของโลหะ ภาชนะกระเบื้องที่มีขอบเงินขอบทอง รวมไปถึงฟอยล์ห่ออาหารสีเงิน กับเตาไมโครเวฟเป็นอันขาด เพราะคลื่นไมโครเวฟจะไม่สามารถทะลุผ่านโลหะได้ อาจเกิดการสะท้อนกลับของคลื่น สปาร์คเป็นประกายไฟเล็ก หรืออาจทำให้ไฟลุกไหม้ในเตาไมโครเวฟได้

3. หมั่นทำความสะอาดเตาไมโครเวฟหลังใช้อยู่เสมอ อย่าให้คราบอาหาร คราบน้ำมัน เกาะติดไมโครเวฟเป็นเวลานาน เพื่อสุขอนามัยที่ดีของเราเอง และเพื่อยืดอายุการใช้งานของเตาไมโครเวฟด้วย

4. อาหารที่มีไขมัน ผิวมัน เปลือกแข็ง หรือมีน้ำเป็นส่วนประกอบในลักษณะปิด ไม่มีรูระบายอาการ เช่น ไข่แดง หรือกล่องอาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง ควรเอาส้อมจิ้ม หรือเจาะรูระบายอากาศ หรือดปิดฝาแง้มๆ เอาไว้ด้วย เพราะความร้อนจะทำให้อากาศภายในดันตัวออกมา หากไม่มีรูระบายอากาศ อาจทำให้อาการระเบิดเสียงดังได้

5. เลือกใช้เตาไมโครเวฟเฉพาะอย่างผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ มีตราสัญลักษณ์รับรองความปลอดภัย มีประกัน และควรอ่านคู่มือที่แนบมากับเตาไมโครเวฟก่อนใช้งาน

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


นอกจาก you’re welcome สามารถพูดว่าอะไรได้อีกบ้าง

สถานการณ์แบบเป็นทางการ

  • My pleasure./It is my pleasure./With pleasure. – ด้วยความยินดี
  • I’m happy to help. – ฉันมีความสุขที่ได้ช่วย
  • I’m glad to help. – ฉันยินดีที่ได้ช่วย
  • I’m happy to be of assistance. – ฉันมีความสุขที่ได้ช่วยเหลือ
  • Happy to be of service. – มีความสุขที่ได้บริการ
  • I’m sure you’d do the same for me. – ฉันแน่ใจว่าคุณจะทำเหมือนผม

สถานการณ์แบบไม่เป็นทางการ

  • It was nothing – ไม่เป็นไรหรอก (ใช้พูดกับเพื่อนได้ค่ะ)
  • No problem. – ไม่มีปัญหา
  • It’s no trouble. – ไม่มีปัญหา
  • Anytime. – ได้ทุกเวลา
  • Sure. – แน่นอน
  • Sure thing. ได้สิ
  • No worries. ไม่ต้องกังวลไป 
  • Don’t worry about it. ไม่ต้องใส่ใจหรอก 
  • Don’t mention it. ไม่ต้องพูดถึงมันก็ได้  ไม่ต้องขอบคุณหรอก
  • No big deal. – ไม่ใช่เรื่องใหญ่
  • That’s OK. –  ไม่เป็นไร มันโอเค
  • You got it. – แน่นอน (ใช้กับเพื่อนหรือคนที่อายุน้อยกว่าได้ค่ะ)
  • Absolutely. – แน่นอนอยู่แล้ว
  • Don’t give it a second thought. ไม่ต้องใส่ใจหรอก (อย่าไปคิดถึงมันอีกเลย) 
  • Just doing my job. –  ไม่เป็นไร มันเป็นหน้าที่ของฉัน  

ถ้าคุณให้ของขวัญใครบางคนไป แล้วเขาคนนั้นมีโอกาสพูดขอบคุณ แล้วเราจะตอบว่าอย่างไรดี มาดูกันในส่วนต่อไปค่ะ

  • A special gift for a special person.  – ของขวัญพิเศษสำหรับคนพิเศษ
  • I hope you enjoy using it. – ฉันหวังว่าคุณชอบมัน
  • I knew you’d like it. – ฉันรู้ว่าคุณชอบ
  • I wanted you to have it. – ฉันอยากให้คุณมีมัน(สิ่งนั้น)
  • I’m so glad you like the gift. – ฉันดีใจที่คุณชอบของขวัญ(นั้น)
  • It’s just a small token. – นี่เป็นของขวัญเล็กน้อย
  • It’s perfect for you. – มันสมบูรณ์แบบสำหรับคุณ
  • Knowing you like it is all the thanks I need. – แค่รู้ว่าคุณชอบก็พอแล้ว
  • Put it to good use. – ใช้มันให้คุ้มค่า
  • You deserve a treat. – คุณสมควรได้รับของขวัญชิ้นนี้

ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th


เนทันยาฮู เผย ‘อินเทล’ เตรียมลงทุน $2.5 หมื่นล้านในอิสราเอล

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู เปิดเผยในวันอาทิตย์ว่า บริษัทอินเทล (Intel Corp) ผู้ผลิตชิปประมวลผลคอมพิวเตอร์สัญชาติอเมริกันมีแผนจะลงทุนเป็นเงิน 25,000 ล้านดอลลาร์เพื่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ในอิสราเอล ซึ่งจะเป็นการลงทุนโดยธุรกิจต่างชาติที่มีมูลค่าสูงที่สุดเท่าที่ประเทศเคยบันทึกไว้ด้วย ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์

กระทรวงการคลังอิสราเอลเปิดเผยว่า โรงงานใหม่นี้จะเปิดขึ้นที่เมืองคีรยาต กัต ในปี ค.ศ. 2027 และจะดำเนินธุรกิจไปจนถึงปี ค.ศ. 2035 เป็นอย่างน้อย ทั้งยังจะมีการว่าจ้างงานหลายพันตำแหน่งด้วย โดยอินเทลจะจ่ายภาษีในอัตรา 7.5% ซึ่งสูงกว่าระดับปัจจุบันที่ 5%

อินเทลระบุบนเว็บไซต์ของตนว่า ตลอดช่วงการดำเนินธุรกิจเป็นเวลา 5 ทศวรรษในอิสราเอล บริษัทได้เติบโตขึ้นมาเป็นธุรกิจเอกชนที่มีการว่าจ้างงานสูงที่สุดและเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดของประเทศนี้ รวมทั้งยังก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และอุตสาหกรรมสารสนเทศด้วย

ในปี ค.ศ. 2017 อินเทลเข้าซื้อกิจการบริษัท Mobileye Global Inc ของอิสราเอล ที่พัฒนาและจำหน่ายระบบช่วยขับเคลื่อนรถยนต์ล้ำสมัย ด้วยข้อเสนอมูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์ ก่อนจะนำหุ้นของบริษัทแห่งนี้เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เมื่อปีที่แล้ว

นายกฯ เนทันยาฮู ประกาศข้อตกลงสร้างโรงงานใหม่ของอินเทลระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีที่มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ด้วย พร้อมเรียกข่าวนี้ว่าเป็น “ความสำเร็จครั้งมหึมาสำหรับเศรษฐกิจของอิสราเอล – 90,000 ล้านเชเกล (ราว 25,000 ล้านดอลลาร์ – เงินลงทุนก้อนใหญ่ที่สุดโดยบริษัทต่างชาติที่เข้ามาในอิสราเอล”

ขณะเดียวกัน อินเทลออกแถลงการณ์ที่ระบุด้วยว่า ธุรกิจของตนในอิสราเอล “มีบทบาทสำคัญ” ต่อความสำเร็จในระดับโลกของบริษัท และว่า “ความตั้งใจของเราที่จะขยายความสามารถในการผลิตในอิสราเอลเกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการด้านการผลิตในอนาคต … และเรารู้สึกขอบคุณต่อการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลอิสราเอลด้วย”

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ประโยชน์บัวหิมะ สรรพคุณดีเลิศ ช่วยลดไขมัน แคลอรี่ต่ำ

หากพูดถึง “บัวหิมะ” เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จักในแบบของครีมบัวหิมะที่บรรจุอยู่ในกระปุก อาจจะซื้อตอนอยู่ในไทย หรือไม่ก็ตอนไปเที่ยวประเทศจีน แต่จริงๆ แล้ว “บัวหิมะ” เป็นพืชสดๆ มีประโยชน์ในด้านของสุขภาพมากเลยทีเดียวบัวหิมะ จัดเป็นพืชประเภทหัวที่ทานสดๆ ได้ มีรสชาติดีคล้ายมันแกวผสมแห้ว และสาลี่ เต็มไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอยู่มากมาย

บัวหิมะที่เป็นผลไม้ หรือในประเทศจีนจะเรียกกันว่า “เสวี่ยเหลียนกว่อ” มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Yacon (ผลไม้แห่งพระเจ้า) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Smallanthus sonchifolius (Poepp.) H.Rob. จัดอยู่ในวงศ์ทานตะวันเช่นเดียวกับชนิดแรก บัวหิมะชนิดนี้จะเป็นพืชพื้นเมืองที่มีต้นกำเนิดในแถบอเมริกาใต้ รูปร่างของบัวหิมะจะคล้ายๆมัน มีเปลือกบาง รสชาติออกหวาน เหมือนแห้ว แต่มีความฉ่ำน้ำ และกรอบ เป็นผลไม้ที่มีแคลอรีต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก และมีสรรพคุณทางยามากมาย

ประโยชน์ของบัวหิมะสด ที่ทานสดๆ

  1. มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง จึงช่วยบำรุงผิวพรรณให้เต่งตึง และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้
  2. ช่วยชะลอความเสื่อมของของร่างกาย ทำให้เราคงความอ่อนเยาว์ และแก่ช้าลง
  3. ให้แคลอรี่ต่ำ แต่ใยอาหารมาก จึงเหมาะสุดๆ กับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก
  4. เนื่องจากมีใยอาหารสูง จึงช่วยให้การขับถ่ายคล่องตัวมากขึ้น
  5. ช่วยลดไขมันในเลือด และลดน้ำตาลในเลือดได้
  6. ป้องกันโรคไขมันอุดตันเส้นเลือด เส้นเลือดตีบตัน และโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับบหัวใจ และหลอดเลือดได้
  7. ลดระดับความดันโลหิตได้ 
  8. ช่วยย่อยอาหาร ป้องกันอาการท้องผูกและท้องเสีย
  9. ช่วยขับสารพิษในร่างกาย
  10. ช่วยแก้อาการร้อนในได้ 
  11. ช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคหัวใจได้

แต่ข้อควรระวังในการทานบัวหิมะก็มีนะคะ เพราะอาจจะมีบางคนที่แพ้บัวหิมะได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งทานเป็นจำนวนมากในครั้งแรกที่ทาน แนะนำลองค่อยๆทานทีละหัว เพื่อดูว่าเราจะแพ้หรือไม่นะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 20/06/2566

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a32,000.0032,100.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,073.0031,426.6832,600.00
ทองรูปพรรณ 90%1,865.7028,284.01n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,658.4025,141.34n/a
ทองรูปพรรณ 50%933.0014,144.28n/a
ทองรูปพรรณ 40%726.0011,006.16n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,148.0032,563.68n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 20/06/2566



ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9535.4535.4535.9435.4535.4535.4535.4535.4535.4535.45
แก๊สโซฮอล์ 9135.1835.1835.6435.1835.1835.1835.1835.1835.1835.18
แก๊สโซฮอล์ E2033.1433.1433.5433.1433.1433.1433.1433.1433.14
แก๊สโซฮอล์ E8533.5933.5933.59
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม42.9446.6446.9446.7442.94
เบนซิน 9543.2443.8143.7443.3943.24
ดีเซล B731.9431.9432.4431.9431.9431.9431.9431.9431.9431.94
ดีเซล31.9431.9432.4431.9431.9431.9431.9431.9431.9431.94
ดีเซล B2031.9431.9432.4431.9431.9431.94
ดีเซลพรีเมี่ยม41.0641.1642.9442.3642.3641.06
แก๊ส NGV17.5917.5917.59

About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า