โค้งสุดท้าย ‘อสังหา’ ระบายสต็อก โอกาสทอง ซื้อบ้าน-คอนโด
กานดา ส่องทิศอสังหาฯ โค้งสุดท้ายปลายปี แข่งดุโปรโมชั่น ลดราคาโครงการที่อยู่อาศัย ระบายสต็อก ชี้เป็นโอกาสทอง ซื้อบ้าน-คอนโด รับอานิสงส์มาตรการลดค่าโอน ดอกเบี้ยต่ำ ขณะบริษัทพร้อมเปิดใหม่ 3 โครงการ แบรนด์ ‘ไอลิฟ’ชิงกำลังซื้อ หวังเปิดยอดขาย 3.3 พันล้านบาท
21 ต.ค.2565 – นายหัสกร บุญยัง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า ทิศทางของตลาดที่อยู่อาศัยช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 ถือเป็นช่วงเวลาที่มีการแข่งขันสูง แต่ละบริษัทยังคงจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขาย ระบายสต็อกที่มีในมือของแต่ละบริษัทให้ได้มากที่สุด
เนื่องจากผู้ประกอบการยังคงมีความกังวลเรื่องของเศรษฐกิจในปี 2566 โดยเฉพาะเรื่องของอัตราดอกเบี้ยที่จะส่งผลกระทบต่อทั้งกำลังซื้อและต้นทุนของผู้ประกอบการ รวมถึงเรื่องของเงินอัตราเฟ้อที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้น เรื่องของความไม่แน่นอนของการเมืองไทย และความขัดแย้งในต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อมั่นว่ากำลังซื้อที่ชะลอการตัดสินใจตั้งแต่ช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มทยอยฟื้นตัวดีขึ้น หลังจากการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ทำให้คนทำงานในภาคบริการโดยเฉพาะในจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยวได้ทยอยกลับมามีงานทำ และเริ่มมีความมั่นคงทางการเงินมากขึ้น ขณะเดียวกันในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 ยังมีปัจจัยที่สนับสนุนให้ผู้บริโภคเร่งตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย
ปัจจัยสนับสนุนการซื้อบ้าน-คอนโด
- มาตรการส่งเสริมการซื้อที่อยู่อาศัยของรัฐบาลที่ช่วยลดหย่อนค่าธรรมเนียมในการโอนกรรมสิทธิ์ จาก 2% เหลือ 0.01% และการจดจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% สำหรับผู้ซื้อที่ทำการโอนกรรมสิทธิ์ภายในสิ้นปี 2565 นี้
- การแข่งขันที่รุนแรงของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการจะเร่งการขายและระบายสต๊อกในช่วงปลายปี เอื้อประโยชน์ให้ผู้ซื้อมีโอกาสซื้อที่อยู่อาศัยในราคาและโปรโมชั่นที่ดีที่สุดก่อนการปรับขึ้นราคาจากต้นทุนที่ดินและวัสดุก่อสร้างที่ปรับราคาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
- ดอกเบี้ยที่ภาครัฐยังคงพยายามตรึงไว้ โดยมีผลให้ธนาคารของรัฐและธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่หลายแห่งประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จนถึงสินปี 2565 เมื่อเทียบกับต่างประเทศดอกเบี้ยนโยบายของไทยถือว่ามีการปรับขึ้นน้อยมาก ซึ่งปัจจุบันก็ยังถือว่าเป็นจุดที่ดอกเบี้ยต่ำอยู่สำหรับผู้บริโภค แม้จะมีการทยอยปรับขึ้นมาที่ 1% แล้วก็ตาม
กานดา เปิดโครงการใหม่
นายหัสกร กล่าวอีกว่า สำหรับในไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 บริษัทจะเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก 3 โครงการ ภายในพฤศจิกายนนี้เป็นโครงการทาวน์โฮมทั้งหมด มูลค่ารวม 2,200 ล้านบาท ประกอบด้วย
- ไอลีฟ ไพร์ม ลำลูกกา คลอง 2 จำนวน 157 ยูนิต มูลค่า 500 ล้านบาท
- ไอลีฟ ไพร์ม 2 ประชาอุทิศ 90 จำนวน 255 ยูนิต มูลค่า 600 ล้านบาท
- ไอลีฟ พราวด์ พระราม 2 กม. 14 จำนวน 449 ยูนิต มูลค่า 1,100 ล้านบาท
สำหรับโครงการที่จะเปิดตัวล่าสุด คือ ไอลีฟ ไพร์ม ลำลูกกา คลอง 2 ถือเป็นโครงการ highlight ของไตรมาสสุดท้าย โดยเป็นทาวน์โฮมซีรีย์ใหม่ด้วยแบบบ้านสไตล์ English Garden มีขนาดที่ดิน 25 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย165 ตารางเมตร เทียบเท่าบ้านเดี่ยว มี 4 ห้องนอน และมีห้องน้ำส่วนตัวทุกห้อง และออกแบบให้มีห้องนอนชั้นล่างรองรับผู้สูงอายุ นอกจากนี้ยังออกแบบให้มีสวนหลังบ้าน ทำให้รู้สึกสดชื่น สบายตา อากาศปลอดโปร่ง ถ่ายเทสะดวก ภายในโครงการมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ สนามสำหรับออกกำลังกาย และสนามเด็กเล่น โครงการตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าคูคต ไม่เกิน 10 นาที ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2.59 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังมีโครงการที่เปิดขายในอีกหลายทำเลทั้ง บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม และอาคารพาณิชย์ กว่า 10 โครงการ ได้แก่ โครงการไอลีฟ ไพร์ม พระราม2 กม.14, ไอลีฟ ไพร์ม 2 พระราม 2 กม.14, ไอลีฟ ไพร์ม ประชาอุทิศ 90, ไอลีฟ พรีม่า เศรษฐกิจ-บางปลา , ไอลีฟ ทาวน์ ราชพฤกษ์-กาญจนาฯ , ไอลีฟ ไพร์ม วงแหวน-รังสิตคลอง 4 , กานดา เพลส วงแหวน-ลำลูกกาคลอง 6, ไอลีฟ พรีม่า เทพารักษ์-บางบ่อ, ไอลีฟ ไพร์ม2 (ถลาง), ไอลีฟ ไพร์ม พัทยา-จอมเทียน เป็นต้น
ส่วนผลการดำเนินงานในรอบ 9 เดือนของปี 2565 ซึ่งเป็นปีที่บริษัทประกาศเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ Kanda Change ปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินงานให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้น รวมถึงการเพิ่มทำเลในการพัฒนาโครงการให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมามียอดขายจำนวน 2,200 ล้านบาท เกินกว่าเป้ายอดขาย 9 เดือนที่ตั้งไว้ 2,180 ล้านบาทเล็กน้อย ขณะที่เป้ายอดขายทั้งปีตั้งไว้ที่ 3,300 ล้านบาท คาดว่าจะสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
ขณะที่รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ประมาณ 1,350 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ 1,650 ล้านบาท ประมาณ 18% สาเหตุสำคัญเกิดจากก่อสร้างไม่เป็นไปตามแผนงาน เนื่องจากปัญหาฝนตกต่อเนื่องในหลายพื้นที่ที่บริษัทเปิดขายโครงการใหม่ และการปรับแผนการเปิดโครงการใหม่ไป 2 โครงการ โดยมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบและฟังก์ชั่นของบ้านให้ตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้ามากขึ้น โดยคาดว่ายอดโอนกรรมสิทธิ์ปี 2565 ซึ่งตั้งเป้าไว้ประมาณ 2,500 ล้านบาท คาดว่าจะทำได้จริงประมาณ 2,000-2,100 ล้านบาท
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
พลิกที่ดินการเคหะฯ ปั้นเมืองใหม่รับผังเมืองกทม.
การเคหะฯ งัดแลนด์แบงก์ ปั้นเมืองใหม่ชานกรุงแสนล้าน นำร่องร่มเกล้า เกตเวย์อีอีซี ทุบทิ้งเคหะรามอินทรา-ชุมชนบึงกุ่ม-คลองจั่น ยึดโมเดลเมืองดินแดง รับรถไฟฟ้า บางขุนเทียน เน้นเมืองสีเขียว ขานรับ“ชัชชาติ” รื้อผังกทม. ขีดวงพัฒนาเมืองรอบกรุง ลดเดินทางเข้าเมือง
การจัดทำผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครฉบับปรับปรุงครั้งที่ 4 เริ่มนับหนึ่งใหม่ตามพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ.2562 ซึ่งตามขั้นตอน จะบังคับใช้ได้อย่างช้าปี 2568 จากเดิมมีแผนประกาศใช้ช่วงปี 2564 โดยเนื้อหาสาระสำคัญได้ยึดตามกรอบที่เคยร่างไว้
เนื่องจากมีการปรับการใช้ประโยชน์ให้กับที่ดินเอกชน ค่อนข้างสูงตามศักยภาพที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะแนวเส้นทางรถไฟฟ้า โครงข่ายถนน ส่งผลให้การหาที่อยู่อาศัยในเขตเมือง ตามกำลังซื้อที่เคยวางแผนเดิมไว้เริ่มยากยิ่งขึ้น ทำให้ต้องขยับออกไปยังชานเมืองห่างไกลแหล่งงาน
ปักหมุดเมืองใหม่
ปมปัญหาดังกล่าว เป็นเหตุให้นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีแนวนโยบายปรับผังเมืองรวมกทม.ฉบับใหม่ เพิ่มเติมโดยเพิ่มพื้นที่พัฒนาเมืองใหม่ มุ่งเน้นนำที่ดินของภาครัฐออกพัฒนา
เพื่อสนับสนุนการสร้างเมืองรูปแบบพึ่งพาตนเองได้ในทุกกิจกรรม และลดความแออัดคับคั่ง จากการเดินทางเข้าหาแหล่งงานย่านศูนย์กลางเมืองเกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล
สำหรับแนวทาง แหล่งข่าวจากกรุงเทพมหานคร เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ผู้ว่าฯกทม.ได้มอบนโยบายให้เพิ่มพื้นที่เมืองใหม่ ใส่ไว้ในผังเมืองรวมกทม.ฉบับใหม่ เพื่อคนทุกกลุ่มวัย เป้าหมายเพื่อนำที่ดินแปลง ใหญ่เนื้อที่ไม่ต่ำกว่า 1,000 ไร่ มาพัฒนา เป็นเมืองแบบครบวงจร กระจายความเจริญไปยังพื้นที่โดยรอบ
ขณะเดียวกันการสร้างเมืองจะต้องมีการลงทุน ตัดถนน ลากเส้นทางรถไฟฟ้าเข้าสู่พื้นที่ สร้างแหล่งงาน เพื่อดึงดูดความสนใจ โฟกัส ย่านร่มเกล้า ลาดกระบัง มีนบุรี บางขุนเทียน อื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินของการเคหะแห่งชาติ ดีเวลลอปเปอร์และแลนด์ลอร์ดใหญ่ของรัฐที่มีศักยภาพสูง
โดยผู้ว่าฯกทม. มองว่า หากปรับสีผังเอื้อให้กับที่ดินเอกชน ก็จะเน้นพัฒนาตามกลไกตลาด แต่หากปรับสีผังให้กับที่ดินรัฐ จะสร้างประโยชน์ให้กับคนอีกหลายกลุ่มโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยสามารถมีที่อยู่อาศัยใกล้แหล่งงานเป็นของตนเองและเป็นการสร้างเขตเศรษฐกิจใหม่
“ผู้ว่าฯกทม. ให้นโยบายเบื้องต้น ให้มีรายละเอียดเบื้องต้นของเมืองบริวาร,เมืองใหม่ หากมีที่ดินแปลงใหญ่ซึ่งจะพัฒนาเบ็ดเสร็จครบวงจร โดยท่านมองว่า ที่อยู่ใกล้กทม.มีอยู่หนึ่งแปลงคือเคหะร่มเกล้าของการเคหะฯ”
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า สำหรับพื้นที่ที่นำร่องได้ก่อนคือเคหะชุมชนร่มเกล้าของการเคหะฯเนื้อที่รวมกว่า 2,000 ไร่ ปัจจุบันเหลือพื้นที่ว่างรอพัฒนา กว่า 600 ไร่ บริเวณนี้จะพัฒนาเป็นเมืองใหม่ แต่จะทำอย่างไรจะให้การพัฒนาเชื่อมโยงกันทั้ง 2,000 ไร่ ซึ่งกทม.ได้เชิญการเคหะฯ พัฒนาในรูปแบบดังกล่าว ซึ่งการเคหะฯเองมีแผนดำเนินโครงการร่วมกับภาคเอกชน
ทั้งศูนย์การค้า แหล่งช็อปปิ้ง โรงเรียนนานาชาติ โรงเรียนทั่วไป ที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบแนวดิ่งทุกระดับ โรงพยาบาล โครงการมิกซ์ยูสศูนย์การประชุมและจะมีการลงทุนถนนรวมไปถึงการเชื่อมโยงรถไฟฟ้าสำหรับร่มเกล้าเป็นเกตเวย์สู่ เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ รวมถึงรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน(ดอนเมือง -สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา)
ปัดฝุ่นที่ดิน-ขอปรับสีผัง พลิกโฉมเมือง
อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมาการเคหะฯได้ยื่นขอปรับการใช้ประโยชน์สีของผังเมือง บริเวณเคหะชุมชนร่มเกล้าจากพื้นที่สีเหลือง (ย.2) ที่อยู่อาศัยแนวราบ เป็นพื้นที่สีแดง (ประเภทพาณิชยกรรม)
นอกจากนี้ ยังปรับสีผังบริเวณ เคหะชุมชนรามอินทรา บนที่ดินกว่า 100 ไร่ ปัจจุบันมีสภาพเสื่อมโทรม มีปัญหาน้ำท่วมขัง เพราะสร้างมานาน ตามแผนจะทุบทิ้งบ้านพัฒนาเป็นตึกสูงมิกซ์ยูส เนื่องจากที่ดินมีราคาสูงจากการมาของรถไฟฟ้าสายสีชมพูและตั้งอยู่ติดกับถนนรามอินทรา
โดยการเคหะฯจะใช้ 2 วิธีคือ 1.ซื้อบ้านคืน หรือ 2.ร่วมโครงการโดยให้เจ้าของบ้านเข้าอยู่อาศัยหากพัฒนาแล้วเสร็จ อีกทำเลที่การเคหะฯต้องการพัฒนาโดยใช้โมเดลของแฟลตดินแดงคือชุมชนบึงกุ่ม ชุมชนคลองจั่น เนื้อที่กว่า 10 ไร่ และต้องการถมบึงขนาดใหญ่(ลำพังพวย)ซึ่งเป็นที่ดินของการเคหะฯเอง เพื่อขยายการพัฒนาออกไป
แต่ในทางปฎิบัติตามกฎหมายผังเมืองจะถมพื้นที่โล่ง,บึงสาธารณะได้ไม่เกิน 15% ของพื้นที่ อีกทั้ง กทม. ยังใช้เป็นแก้มลิงรับน้ำช่วงฤดูฝน ซึ่งมองว่า ทำเลบึงกุ่ม เป็นทำเลศักยภาพและอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล (แคลาย-บึงกุ่ม) พาดผ่าน อนาคตจะเป็นเมืองอยู่อาศัยย่านพาณิชยกรรมที่น่าจับตายิ่ง ตามการใช้ประโยชน์ที่ดินที่เปลี่ยนแปลงไป
บางขุนเทียนเมืองสีเขียว
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า อีกพื้นที่จะเป็นบางขุนเทียนที่การเคหะฯ มีที่ดินซึ่งจะพัฒนาเป็นเมืองสีเขียว สามารถเป็นเมืองอยู่อาศัยชั้นดี เมืองสุขภาพผู้สูงอายุ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินแปลงใหญ่ การเคหะฯมีแผนพัฒนาเป็นศูนย์สุขภาพ
ดันศูนย์ช็อปปิ้งรับต่างชาติ
“ฐานเศรษฐกิจ” สอบถามไปยังการเคหะฯถึงแผนพัฒนาโครงการดังกล่าวซึ่งได้รับคำตอบว่าเป็นแผนที่ต้องดำเนินการให้เป็นรูปธรรมโดยเฉพาะที่ดินแปลงร่มเกล้าเคยวางแผนไว้ว่าจะพัฒนาเป็นมิกซ์ยูสแหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่ มูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท
รองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่รอขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ เหมือนประเทศญี่ปุ่น และจะมีฟีดเดอร์รับส่งระหว่างโครงการกับสนามบินเพื่ออำนวยความสะดวกอีกด้วย
ที่ผ่านมาผู้ว่าการเคหะฯคนก่อนเคยยื่นขอปรับสีผังเมืองรอบปรับปรุงปัจจุบัน จากสีเหลืองเป็นสีน้ำตาล (ที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก) หรือสีแดง แต่ถูกปฏิเสธจาก กทม. โดยให้เหตุผลว่าการปรับสีผังต้องปรับแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามขั้นบันไดคือจากสีเหลืองเป็นสีส้ม (ที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง) ก่อนจะเป็นสีน้ำตาลและแดงตามลำดับ
แต่ทั้งนี้ การเคหะฯสามารถพัฒนาตามรูปแบบการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ (PUD) ที่ผังเมืองฉบับนี้จะกำหนดไว้ เอื้อประโยชน์ต่อการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชน โดยพื้นที่ซึ่งจะมีการพัฒนาเป็นโครงการขนาดใหญ่ในบริเวณที่ถูกควบคุมด้วยข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินของผังเมืองรวม
อาจทำให้ขาดการผสมผสานกันเป็นชุมชนเมืองที่มีคุณภาพ มาตรการนี้จึงจะเป็นเครื่องมือช่วยจัดทำแผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดินและความหนาแน่นที่สอดคล้องกับศักยภาพการพัฒนาด้วยการปรับ FAR (สัดส่วนพื้นที่ก่อสร้างต่อพื้นที่ดิน) ในพื้นที่ที่โครงการใหม่ให้เหมาะสม
พร้อมกับจัดทำแผนผังโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งสาธารณูปโภคและสาธารณูปการเป็นไปโดยสอดคล้องกัน ทั้งภายในพื้นที่โครงการและการเชื่อมต่อกับพื้นที่โดยรอบให้คุ้มค่ากับการลงทุนและการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมต่อไป
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาที่ดินเคหะร่มเกล้าให้เป็นเมืองเกิดการสร้างงานสร้างอาชีพ โดยคนที่อยู่ในพื้นที่ไม่ต้องเดินทางไกล เพราะจะมีแหล่งงาน รองรับ รูปแบบการลงทุนจะเป็นลักษณะสัมปทานให้เอกชนพัฒนา 30 ปี ทั้งยัง เป็นทำเลศักยภาพเชื่อมโยงเมืองอีอีซี และสนามบินสุวรรณภูมิอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ปอนด์แข็งค่า รับข่าวนายกฯอังกฤษลาออก
เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันพฤหัสฯ (20 ต.ค.) นับเป็นผลพวงหลังจากนางลิซ ทรัสส์ ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปก็ขานรับในเชิงบวกเช่นกัน
เงินปอนด์ แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.1216 ดอลลาร์ จากเดิมอยู่ที่ระดับ 1.1214 ดอลลาร์ เมื่อวันพฤหัสฯ (20 ต.ค.) หลัง นางลิซ ทรัสส์ ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม (พรรคคอนเซอร์เวทีฟ) และตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ
ในวันเดียวกัน ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกขานรับข่าวการลาออกของนางลิซ ทรัสส์ ซึ่งหมายความว่าแผนการด้านเศรษฐกิจของเธอต้องยุติลงด้วย หลังจากที่สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดการเงินในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เมื่อวันพฤหัสฯ (20 ต.ค.) ดัชนี STOXX 600 ของยุโรป ปิดที่ 398.77 จุด เพิ่มขึ้น 1.04 จุด หรือ +0.26% ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,086.90 จุด เพิ่มขึ้น 46.18 จุด หรือ +0.76%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,767.41 จุด เพิ่มขึ้น 26.00 จุด หรือ +0.20% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,943.91 จุด เพิ่มขึ้น 18.92 จุด หรือ +0.27%
นางทรัสส์เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเธอเพิ่งสั่งปลดนายกวาซี กวาร์เทง รัฐมนตรีคลังออกจากตำแหน่ง และยกเลิกแผนการด้านเศรษฐกิจทั้งหมดของเธอ หลังจากที่แผนปรับลดภาษีครั้งใหญ่โดยไม่มีเงินทุนรองรับนั้น ได้ส่งผลให้เงินปอนด์และราคาพันธบัตรของอังกฤษดิ่งลงอย่างหนัก จนธนาคารกลางอังกฤษต้องเข้ามาแทรกแซง
ทั้งนี้ การที่นางลิซ ทรัสส์ ประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยม ส่งผลให้เธอพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ การลาออกดังกล่าว ยังทำให้นางทรัสส์กลายเป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษที่ดำรงตำแหน่งน้อยที่สุดคือเพียง 45 วัน
การประกาศลาออกดังกล่าว มีขึ้นท่ามกลางมรสุมทางการเมืองในอังกฤษ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นางทรัสส์ได้กล่าวขอโทษสำหรับความผิดพลาดในการประกาศมาตรการปรับลดภาษีวงเงิน 4.5 หมื่นล้านปอนด์ ซึ่งสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดการเงินทั่วโลก และบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ก่อนหน้านี้ราวต้นเดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่นางลิซ ทรัสส์ ขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ธนาคารดอยซ์แบงก์ ได้เคยออกมาเตือนว่า อังกฤษเสี่ยงเผชิญวิกฤตเงินปอนด์หลังนางลิซ ทรัสส์ ขึ้นเป็นนายกฯ เนื่องจากอังกฤษกำลังประสบยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดที่แตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่เงินเฟ้อยังพุ่งแรง ไร้ปัจจัยที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน
“ด้วยยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดที่แตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์อยู่แล้ว ปอนด์ต้องการเม็ดเงินทุนไหลเข้ามหาศาลซึ่งต้องอาศัยการสนับสนุนจากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุน และการคาดการณ์เงินเฟ้อที่ลดลง ทว่าสถานการณ์กลับดำเนินไปในทิศทางตรงกันข้าม” รายงานของดอยซ์แบงก์ระบุ
อังกฤษกำลังเผชิญปัญหาจากอัตราเงินเฟ้อที่แตะระดับสูงสุดในกลุ่มประเทศ G10 และแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง ขณะเดียวกัน การขยายงบประมาณการคลังขนานใหญ่แบบไร้เป้าหมายทั้งที่ขาดแคลนเงินทุน ควบคู่ไปกับความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนแปลงอำนาจหน้าที่ของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) อาจทำให้การคาดการณ์เงินเฟ้อสูงยิ่งขึ้นไปอีก
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ปีนี้ต้องดีกว่าเดิม! ทีมดังตุรกีโพสต์ “อัจฉราพร, ชัชชุอร” นำทัพลุยซีซั่นใหม่
เรียกเรตติ้งจากแฟนกีฬาวอลเลย์บอลชาวไทยได้ไม่น้อย สำหรับ ซาริเยร์ เบเลดิเยสปอร์ ทีมดังแห่งเมืองอิสตันบูล ในศึกซุลทานลาร์ ลีกิ ลีกลูกยางสูงสุดของประเทศตุรกี
เมื่อล่าสุด อินสตาแกรมของสโมสร sariyervoleybol ได้ลงรูปเหล่านักกีฬาของทีมพร้อมแคปชั่นประกอบแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า “พวกเรายังคงเตรียมตัวฝึกซ้อม” นำมาโดย “เพียว” อัจฉราพร คงยศ และ “บุ๋มบิ๋ม” ชัชชุอร โมกศรี คู่หูมือตบทีมชาติไทย ก่อนจะเรียกการรัวหัวใจและคอมเมนต์จากแฟนวอลเลย์บอลชาวไทยที่เข้าไปให้กำลังใจอย่างล้นหลาม
สำหรับ อัจฉราพร วัย 27 ปี กับ ชัชชุอร วัย 22 ปี ย้ายมาร่วมทีม ซาริเยร์ ตั้งแต่ปี 2021 ก่อนเป็นตัวหลักพาทีมจบอันดับ 11 ในซุลทานลาร์ ลีกิ 2021/22 (มีทั้งหมด 14 ทีม) โดยมีเพื่อนร่วมทีมชื่อดังหลายคน ได้แก่ เมิร์ฟ ทานิล มือเซตจอมเก๋า, เอดา เกอร์เมน หัวเสาทีมชาติตุรกี, อเล็กซานดรา เซิร์นเซวิช ดีกรีทีมชาติเซอร์เบีย รวมไปถึง ลิลา เซนกุน มือเซตดาวรุ่งคนสวยวัย 20 ปี อีกหนึ่งอนาคตของวงการลูกยางแดนไก่งวง
ทั้งนี้ โปรแกรมการแข่งขันนัดแรกของซุลทานลาร์ ลีกิ 2022/23 จะแข่งขันในวันที่ 21 ตุลาคม 2565 เวลาประเทศไทย 20:30 น. พบกับทีม พีทีที สปอร์ คูลูบู ถ่ายทอดสดทางช่องยูทูบ TVF Voleybol TV
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
7 ลักษณะสุขภาพ “ลิ้น” บอกโรค
ลักษณะของ “ลิ้น” สามารถบอกสุขภาพของร่างกายเราได้ว่ากำลังแข็งแรงดี หรือเสี่ยงกับโรคร้ายอะไรอยู่หรือเปล่า Sanook Health นำข้อมูลจาก รศ. นพ.ณปฎล ตั้งจาตุรนต์รัศมี ภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย มาฝากกัน ว่าแล้วก็หยิบกระจกแล้วแลบลิ้นออกมาส่องดูซิ ว่าลิ้นของเรามีลักษณะอย่างไรบ้าง
7 ลักษณะสุขภาพ “ลิ้น” บอกโรค
- ลิ้นมีผิวเรียบ มัน และมีสีชมพูหรือแดง
เกิดจากตุ่มรับรสที่ลิ้นฝ่อลงไป อาจเกิดจากการขาดวิตามินบางชนิด หรือการติดเชื้อที่ลิ้น ควรพบแพทย์ - ลิ้นเป็นฟ้าสีน้ำตาลหรือสีดำ
พบคราบสีดำหรือสีน้ำตาลบนลิ้นร่วมกับลักษณะปุ่มรับรสที่ยาวเป็นเส้นขน เป็นสัญญาณของสุขอนามัยในช่องปากที่ไม่ดี เช่น การสูบบุหรี่ หรือขาดการดูแลความสะอาดที่เหมาะสมควรเลิกการสูบบุหรี่ และทำความสะอาดช่องปากอย่างสม่ำเสมอ - ลิ้นเป็นฝ้าขาวจากเชื้อรา
ลักษณะเป็นรอยสีขาวที่ลิ้น บางครั้งอาจมีอาการแสบร้อนร่วมด้วย อาจเกิดได้จากการใช้ยาปฏิชีวนะ โรคเบาหวาน โรคทางภูมิคุ้มกัน หรือเกิดในช่วงที่สุขภาพอ่อนแอ ควรพบแพทย์ - ลิ้นมีร่อง มีรอยแตก หรือมีลายคล้ายแผนที่
ลักษณะเป็นร่องที่กลางลิ้น หรือ ผิวของลิ้นมีลักษณะเป็นลายคล้ายแผนที่ มักไม่มีอาการเจ็บหรือแสบ ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดไม่มีอันตราย สามารถหายได้เอง - ลิ้นมีรอยสีขาว หรือ สีแดง
เป็นรอยที่ไม่จางหลุดหายไปหลังการทำความสะอาดอาจเป็นตำแหน่งที่กลายเป็นมะเร็งในอนาคตควรพบแพทย์ - ลิ้นเป็นแผล
หากมีแผลที่ลิ้น และไม่ดีขึ้นภายในสองสัปดาห์ต้องระวังภาวะมะเร็งที่ลิ้น ควรพบแพทย์โดยเร็ว
รู้สึกแสบร้อนที่ลิ้น
พบได้บ่อยในเพศหญิง มีอาการแสบร้อนหรือรู้สึกแปลบๆ เหมือนไฟฟ้าช็อตโดยที่ไม่มีความผิดปกติที่ผิวของลิ้นให้เห็นอาจเกิดจากการขาดวิตามินบางชนิดหากรบกวนคุณภาพชีวิตควรพบแพทย์
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
Adverbs of Manner
We can use adverbs in many ways, from describing how often we do something to where we do it. What about adverbs of manner? What are they for and how do we use them? Read on to find out more!
What is an adverb?
An adverb is a word that describes how, where, or with what frequency we do an action (or ‘verb’). For example,
She works here. (adverb of place)
She often translates emails for her colleagues. (adverb of frequency)
She types very quickly. (adverb of manner)
Adverbs of manner
An adverb of manner describes how you do an action. For example,
They dress elegantly.
Some elderly people drive slowly.
She works very hard.
Adverbs of manner are really useful because they let us add a lot of extra details to descriptions, to make what we say more interesting and dynamic to the listener or reader.
How to create an adverb of manner
To make adverbs of manner, we usually add -ly to the adjective. For example,
quick – quickly
careful – carefully
gentle – gently
When an adjective ends in -y we change the -y to -i then add -ly. For example,
happy – happily
greedy – greedily
easy – easily
However, there are also some irregular adverbs:
good – well
hard – hard
fast – fast
late – late
straight – straight
high – high
Here are some examples:
You speak English fluently.
I slept badly last night.
The children did really well in their test.
He worked hard and got a promotion.
The nurse picked up the baby gently.
Try to do it carefully so we don’t have to redo it.
A car suddenly came round the corner and nearly hit us!
Julie tearfully said goodbye to her boyfriend.
Go straight down this road then turn left.
I hate getting up late.
My brother drives very fast and aggressively.
Kids, try to do your homework quietly, please.
She dresses very elegantly, doesn’t she?
Shall I close the lid tightly?
It rained heavily all through the night.
Where does an adverb of manner go in a sentence?
In most cases, adverbs of manner come after a verb. For example,
We dress casually on Fridays.
Athletes run very fast.
The students are listening attentively.
Sometimes however, the adverb is put before the verb to add emphasis to the meaning. For example,
She hurriedly opened the present.
They sadly left before we arrived.
I quickly ran to the shops.
If there are two verbs in the sentence, the position of the adverb can change the meaning. For example,
They accepted the offer immediately and moved out.
They accepted the offer and moved out immediately.
In the first sentence ‘immediately’ relates only to the first verb, while in the second sentence ‘immediately’ refers to both actions.
As you can see from this example, you can’t separate a verb and its object. For example,
They accepted the offer immediately.
NOT
They accepted immediately the offer.
Adjective or adverb?
We use an adjective to describe a noun, and an adverb to describe a verb. So the only we usually use with an adjective is the verb ‘to be’. For example,
He’s a fast runner.
She’s a careful driver.
And if we change these two sentences to use a verb instead of a noun, they become:
He runs fast.
She drives carefully.
The only other verbs that can be used with adjectives instead of adverbs are look, sound, smell, and seem. We use these verbs to describe what we see, smell, or hear. For example,
You look tired. – From what I can see you’re tired.
It sounds interesting. – From what I hear you’re tired.
It smells delicious. – From the smell I can understand it’s very good.
They seem bored. – From their appearance I think they’re bored.
Adverbs of manner help us give a lot of detail to actions and can make us much more expressive. Start paying attention to when you hear people use them, and try adding them to your own language.
In the meantime, are you ready to practice? Try the fun quiz on this post.
ขอบคุณข้อมูลจาก wallstreetenglish.in.th
Intel เปิดตัวเทคโนโลยี Thunderbolt รุ่นใหม่ ที่รับส่งข้อมูลเร็วเท่ากับ USB 4 เวอร์ชั่น 2
ภายหลังที่ USB ได้เปิดตัวมาตรฐานใหม่ 4.0 เวอร์ชั่น 2 ที่เมื่อเดือนกันยายนยนที่เรียกว่ามันเร็วมากอยู่แล้ว ล่าสุด Intel ก็ได้เข็นมาตรฐานใหม่ของ Thunderbolt รุ่นใหม่ หลังจากลือว่าจะใช้ชื่อ 4.x หรือ 5 มาสักพัก จนสุดท้ายใช้คำว่า “The Next Generation Thunderbolt” เพื่อสื่อว่า มันใหม่เสมอ และเป็นการสลัดภาพว่าจะต้องตามหลังมาตรฐาน USB
เพราะในการเผยมาตรฐานใหม่นี้ทำให้ Thunderbolt สามารถส่งข้อมูลได้สูงสุด 80 Gbps (กิ๊กกะบิท ต่อ วินาที) เรียกได้ว่าสเปกของมันนั้นเท่ากับ USB 4.0 Version 2 แต่ว่าความสามารถของ Thunderbolt ใหม่นั้นคือจะมีแยกเลนส์ไปกลับรวมกัน 4 เลน (ไป 2 กลับ 2 เส้นละ 40 Gbps) หรือจะต่อกับหน้าจอที่มีประสิทธิภาพสูง จะเป็นไป 3 กลับ 1 รวมความเร็ว 120Gbps และรับที่ 40 Gbps
เรียกได้ว่ามีความเร็วที่สูงมากพอสมควร มาตรฐานนี้จะเริ่มเห็นฟีเจอร์อื่นๆ และคาดว่าจะเห็นอุปกรณ์เริ่มใช้ในปี 2023 นี้
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
SCG HOME ชวนเดินเพลินช้อป ‘บ้านและสวนแฟร์ 2022’ยกทัพสินค้าและบริการเรื่องบ้านครบวงจร จัดเต็ม 28 ต.ค. – 6 พ.ย.นี้
เอสซีจี โฮม ชวนคนรักบ้านเดินเพลินช้อปที่สุดของสินค้าและบริการเรื่องบ้านในงานยิ่งใหญ่ส่งท้ายปลายปี 65
บ้านและสวนแฟร์ 2022 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ตั้งแต่ 28 ต.ค. – 6 พ.ย. 65 เปิดบูธขนไอเดียทำบ้าน สินค้าและบริการภายใต้แบรนด์ในเครือ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตวิถีใหม่ เพื่อให้บ้านสวยโดดเด่นด้วยดีไซน์ทั้งภายในและภายนอก อาทิ
- ระบบหลังคา ผนัง พื้น งานตกแต่ง จนถึงโซลูชันเพื่อบ้าน ภายใต้แบรนด์ SCG
- ชวนช้อปกระเบื้องและสุขภัณฑ์หลากหลายดีไซน์ จาก COTTO
- บริการก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมพร้อมทีมช่างมืออาชีพจาก CPAC Green Solution
- บริการรีโนเวทบ้านแบบครบวงจรโดยทีมงานมืออาชีพจาก BAUEN by SCG
- บริการงานปรับปรุงต่อเติม งานซ่อมแซมอื่นๆ บริการเพิ่มคุณภาพการอยู่อาศัย จาก HomeSmile
- บริการดูแลบ้านครบวงจร ให้บริการโดย คิวช่าง
- บริการสร้างบ้านครบวงจรด้วยเทคโนโลยีการสร้างบ้านจากประเทศญี่ปุ่น จาก SCG HEIM
- บริการให้คำปรึกษาทุกเรื่องบ้าน จาก SCG HOME CLINIC (คลินิกหมอบ้าน)
- นวัตกรรมใหม่ให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศบ้านทั้งภายในและภายนอก เสมือนคุณได้เข้าไปอยู่อาศัยจริง เพื่อให้คุณได้แบบบ้านที่ตรงใจ กับ HOME VISUALIZATION (แบบบ้านจำลองเสมือนจริง)
พบกันที่บูธเอสซีจี โฮม ในงานบ้านและสวนแฟร์ 2022 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี จัดหนัก 10 วันเต็มตั้งแต่ 28 ต.ค. – 6 พ.ย. 65 พิเศษสุดภายในงานกับโปรโมชันดีๆ จาก เอสซีจี โฮม มากมาย อาทิ สินค้าและบริการเรื่องบ้าน รับส่วนลดมูลค่ากว่า 260,000 บาท, เริ่มต้นที่ 499 บาท
พิเศษ! สำหรับสมาชิก SCG Family รับคะแนนพิเศษ 10 เท่า เมื่อซื้อสินค้า / สินค้าพร้อมติดตั้ง / ชำระค่าสำรวจช่วงวันงาน รวมทั้งสามารถรับข้อเสนอเดียวกันกับงานบ้านและสวนแฟร์ได้ที่ร้าน เอสซีจี โฮม ทั่วประเทศ และเว็บไซต์ SCGHOME.com ผู้ที่สนใจสามารถเข้าดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.scghome.com/campaigns/BaanLaeSuan
ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 21/10/2565
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 29,500.00 | 29,600.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,911.00 | 28,970.76 | 30,100.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,719.90 | 26,073.68 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,528.80 | 23,176.61 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 860.00 | 13,037.60 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 669.00 | 10,142.04 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,980.00 | 30,016.80 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 21/10/2565
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 35.15 | 35.15 | 35.75 | 35.65 | 35.65 | 35.15 | 35.15 | 35.15 | 35.65 | 35.15 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 34.88 | 34.88 | 35.48 | 35.38 | 35.38 | 34.88 | 34.88 | 34.88 | 35.38 | 34.88 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 34.04 | 34.04 | 34.64 | 34.54 | 34.54 | – | 34.04 | 34.04 | 34.54 | 34.04 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 32.44 | 32.44 | – | – | – | – | – | – | – | 32.44 |
เบนซิน 95 | 42.56 | – | – | – | 43.51 | – | 43.06 | 43.06 | – | 42.56 |
ดีเซล B7 | 34.94 | 34.94 | 35.54 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 |
ดีเซล | 34.94 | 34.94 | 35.54 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 |
ดีเซล B20 | 34.94 | 34.94 | 35.54 | – | 34.94 | – | 34.94 | 34.94 | 34.54 | 34.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 43.66 | 43.66 | 44.96 | 44.66 | 44.66 | – | – | – | – | 34.94 |
แก๊ส NGV | 16.59 | 16.59 | – | – | – | – | – | – | – | 16.59 |