ราชพฤกษ์ทำเลทอง เมืองอยู่อาศัย – ดงค้าปลีก
ถนนราชพฤกษ์ทำเลทอง เมืองอยู่อาศัย – ดงค้าปลีก ฯ บิ๊กอสังหาฯ ชั้นนำขยายอาณาจักร แบ่ง 3โซน พัฒนารองรับคนทุกกลุ่ม จากปทุม เชื่อมสาทร ศูนย์กลางธุรกิจกรุงเทพชั้นใน
ราชพฤกษ์ ถนนสายที่ทอดยาว จากอำเภอเมืองจังหวัดปทุมธานี นนทบุรี เชื่อมโยงไปจรด ถนนสาทร ย่านความเจริญกรุงเทพฯชั้นใน ระยะทาง 40กิโลเมตร มีจุดเด่นเขตทางกว้าง ไม่มีสัญญาณไฟ
ปัจจุบัน เป็นทำเลทองสำคัญ โซนตะวันตก กรุงเทพมหานคร และกรุงเทพฯตอนเหนือ รองรับการขยายตัวของเมือง กลายเป็นอาณาจักรดงบ้านหรู ของดีเวลลอปเปอร์แบรนด์ชั้นนำของเมืองไทย
ทั้งพี่เบิ้ม บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ค่ายใหญ่แสนสิริ เอพี ไทยแลนด์ คิวเฮ้าส์ พฤกษา พร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟค เอสซีแอสเสท ศุภาลัย ฯลฯ เกิดชุมชนขนาดใหญ่ มีปริมาณรถหนาแน่น และขยายเขตทางเรื่อยมา
สะท้อนว่าเป็นทำเลยอดนิยมครองใจผู้ประกอบการและผู้อยู่อาศัยอย่างไม่เสื่อมคลาย แม้เวลาจะล่วงเลยมาเนิ่นนาน นับวันยิ่งมีความต้องการ เพิ่มขึ้น
มีปัจจัยความนิยมมาจาก
- ความเจริญ
- ไม่แออัด
- ความเงียบสงบ
- สภาพแวดล้อม อากาศดี
- ราคาที่ดินไม่สูงเมื่อเทียบในเขตกรุงเทพชั้นกลาง- ชั้นใน
- ระบบโครงข่ายเชื่อมเข้าใจกลางเมืองหรือออกนอกเมืองสะดวก
- สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไม่ต้องเข้าเมือง โรงเรียนสถานพยาบาล ห้างศูนย์การค้า
- ระบบรางพาดผ่าน ถนนโครงสร้างใหม่ๆเชื่อมต่อ
จากท้องนาสู่ บิ๊กโปรเจ็กต์ ราคาที่ดินพุ่ง
ย้อนไปก่อนหน้านี้ เมื่อ กว่า 10ปีก่อน จากเลือกสวนไร่นา ที่ดินตาบอด ราคาถูก ขยับไป ตารางวาละ 5หมื่นบาทช่วงถนนขึ้นรูปดิน ใหม่ๆ และกลายเป็นหลักแสน บาทต่อตารางวา ในโซนเขตกรุงเทพมหานคร
ปัจุบัน จากคำบอกเล่าของนายหน้าค้าที่ดินในย่านดังกล่าว ระบุว่า ราคาที่ดินขยับขึ้นต่อเนื่องตามความต้องการ แปลงขนาดเล็กเนื้อไม่เกิน20ไร่อยู่ที่ตารางวาละ2.9แสนบาท แปลงขนาดใหญ่เกิน 20ไร่บอกขายกันที่ 1แสนกว่าบาทต่อตารางวา
ความเจริญรุกไล่ราคาที่ดิน สูงจนไม่สามารถพัฒนาบ้านราคาถูกได้ ประกอบกับผังเมือง ขยับการใช้ประโยชน์ที่ดินจากพื้นที่สีเขียว เป็นพื้นที่สีเหลือง และสีส้ม สนับสนุนการพัฒนาให้สูงขึ้นรองรับการขยายตัวของเมือง
ล่าสุดมีทุนค้าปลีกขนาดใหญ่เข้าไปลงทุนศูนย์การค้าถึง 3 แห่ง ทยอยอวดโฉมในปีนี้มี “โรบินสัน ไลฟ์สไตล์”แฟลกชิปสโตร์แห่งใหม่ เติมเต็ม ไลฟ์สไตล์ กลุ่มช็อปปิ้ง ของกลุ่มเซ็นทรัล ซึ่ง เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อวันที่17 พฤศจิกายน 2565 ตั้ง อยู่ฝั่งตรงข้ามไทวัสดุ ใกล้จุดเชื่อมต่อถนนราชพฤกษ์ตัดใหม่ มีพื้นที่กว่า 30,000 ตารางเมตร
ตามด้วย โลตัส นอร์ธ ทำเล อยู่ติดโรงเรียนนานาชาติเด่นหล้า เป็นศูนย์การค้าที่ทันสมัย ครบวงจร ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เนรมิตเป็นห้างคอนเซ็ปต์ สมาร์ท คอมมูนิตี้ เซ็นเตอร์ แห่งแรก
ปัจจุบันกำลังเร่งตอกเข็มให้เสร็จกลางปีนี้ นอกจากนี้ยังมีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ เซ็นทรัล ราชพฤกษ์ อาณาจักร กลุ่มเซ็นทรัล บนที่ดิน กว่า60ไร่ พื้นที่ 180,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในเขตท้องที่ ตำบลคลองมหาสวัสดิ์ อำเภอบางกรวย นนทบุรี มีเป้าหมาย สร้างเสร็จเปิดบริการ ปี 2567 รองรับกำลังซื้อกลุ่มบ้านจัดสรรโดยไม่ต้องเข้าเมือง
สะท้อนว่าเมื่อมีห้างยักษ์พร้อมใจกันเข้ามาเปิดในทำเลราชพฤกษ์แน่นอนว่า ทั้งราคาที่ดิน ความเจริญจะเกิดขึ้นหลายเท่าตัว และเชื่อว่าอนาคต จะมีโรงพยาบาลชั้นนำ เกิดขึ้นในย่านดังกล่าวแบบครบวงจร
เจาะทำเลทอง 3 โซน ราชพฤกษ์
ในแต่ละโซนของถนนสายนี้เปรียบสมือนการถักทอความเจริญต่อๆกัน จากการพัฒนาโครงการ เชื่อมเป็นเนื้อเดียวจนปัจจุบันแยกไม่ออกว่าบริเวณไหนเขตกรุงเทพฯ และบริเวณไหน คือปริมณฑล จากการวิเคราะห์ทำเลราชพฤกษ์ ของ บมจ.แสนสิริ ยักษ์ใหญ่อสังหาฯผู้ครองอาณาจักรบนถนนราชพฤกษ์มากที่สุด แยกเป็นโซน น่าสนใจดังนี้
- โซนที่ 1 ราชพฤกษ์ตอนต้น (ราชพฤกษ์-สาทร)
ศูนย์รวมบ้านเดี่ยวราคาแพง โดยทำเล ราชพฤกษ์-สาทร มีราคาสูง เนื่องจากอยู่ในเขตเมืองแหล่งรวม คอมมูนิตี้มอลล์ มีถนนตัดผ่านหลายสาย ได้แก่ ถนนกรุงธนบุรี, ถนนพรานนก-พุทธมณฑล สาย4, ทางแยกต่างระดับบรมราชชนนี, ถนนสวนผัก คนที่เหมาะกับอยู่โซนนี้ จะเป็นกลุ่มเจ้าของกิจการที่มีออฟฟิศอยู่ใจกลางกรุงเทพ หรือผู้บริหารที่ทำงานอยู่ในบริษัทย่าน ศูนย์กลางธุรกิจ(CBD) ที่ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทาง
- โซนที่ 2 ราชพฤกษ์ตอนกลาง (ราชพฤกษ์-วงเวียนพระราม 5)
โซนนี้เป็นโซนของที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริง เพราะมีหมู่บ้านเกิดขึ้นมากมาย ทั้งบ้าน ชัยพฤกษ์ ทาวน์โฮม และบ้านแฝด สามารถเชื่อมต่อไปยังกรุงเทพฝั่งเหนือ (จตุจักร บางซื่อ ลาดพร้าว หลักสี่ ดอนเมือง สายไหม และบางเขน) ได้อย่างสะดวกสบาย ผ่านถนนหลักหลายสาย ได้แก่
ถนนชัยพฤกษ์ ถนนนครอินทร์ และ ถนนสาย 345 เหมาะกับคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่มากขึ้น ในราคาพอดีๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องการความสะดวกสบาย เข้ามาทำงานในเมืองได้ง่ายๆ ที่สำคัญต้องมีแหล่งกินแหล่งช้อป ให้ใช้ชีวิตไม่ต่างจากอยู่คอนโดในเมือง
- โซนที่ 3 ราชพฤกษ์ตอนปลาย (วงเวียนพระราม 5 – ถนน 345)
ตอนปลายของราชพฤกษ์เป็นโซนของถนนตัดใหม่ ผ่าน ถนนสาย 345 ไปจนถึง ถนนสาย 346 เชื่อมต่อสู่ตัวเมืองปทุมได้อย่างรวดเร็ว หรือจะเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ
สะดวกกว่าเดิมมาก บรรดาโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ เริ่มขยายตัวมายังโซนนี้มากขึ้น ราคาที่ดินจึงเพิ่มขึ้นจากการประเมินรอบปี 2555-2558 ถึง 65% แต่ยังไม่สูงเท่าโซนราชพฤกษ์ตอนต้น และตอนกลาง คนที่เหมาะกับมาอยู่โซนนี้ เป็นคนที่ต้องการบ้านในราคาเบาๆ แต่ยังสามารถเดินทางไปทำงานได้ง่ายๆ
ราชพฤกษ์จะเป็นถนนสายลงทุน ที่ดีเวลลอปเปอร์ พูดถึงไม่รู้จบ !!!
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
เปิดบริการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ทำเลไหน น่าลงทุน
เปิด บริการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเปิด ต้นปีหน้า 2566 ทำเลไหน น่าลงทุน สถานีเด่น ซื้อเพื่ออยู่อาศัย -ลงทุนกำไรงาม ผู้ประกอบการแห่ปักหมุด
การเปิดใช้เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ( ลาดพร้าว-สำโรง)มีความชัดเจนว่า เดือนมกราคม ปีหน้า (2566) จะเปิดให้บริการค่าโดยสาร เริ่มต้นตั้งแต่15-45บาท ระยะทาง 30.40 กิโลเมตร 23 สถานี ข้อดีนอกจาก ช่วยลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ พลังงาน น้ำมันเชื้อเพลิง มลพิษทางอากาศ ฝุ่นPM 2.5 การเดินทาง แก้ปัญหารถติดแล้ว
ยังเกิดทำเลศักยภาพใหม่น่าลงทุน สำหรับผู้ประกอบการ นักลงทุนรายย่อยซื้อคอนโดมิเนียม ลงทุน ปล่อยเช่าระยะยาว รวมไปถึงการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย ที่ทำให้มูลค่าสูงขึ้นต่อเนื่อง
ส่วนจะเป็นทำเลไหนนั้นตามไปดูพร้อมกัน ด้วยศักยภาพรถไฟฟ้าสายสีเหลืองมีจุดตัด หรือ จุดเชื่อมต่อเปลี่ยนถ่ายการเดินทาง หลายแห่ง ส่งผลให้เกิดทำเลทองของโครงการที่อยู่อาศัย คอนโดมิเนียมใกล้สถานี อีกทั้งการปรับโฉมอาคารเก่าเป็นย่านพาณิชยกรรมขนาดย่อม จุดแวะพักก่อนกลับบ้านหรือเดินทางต่อ
ทำเลและสถานีที่น่าสนใจได้แก่
- ลาดพร้าว /รัชดา ฯกับ MRT สายสีน้ำเงิน (จุดเริ่มต้นสายสีเหลือง)
ปัจจุบันเป็นเส้นทางสายหลักมีผู้โดยสารจำนวนมากสามารถป้อนผู้โยสารให้เปลี่ยนถ่ายไปมาระหว่างกันได้ เพราะอยู่ในการกำกับดูแลของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ปัจจุบัน ราคาที่ดิน ไม่ต่ำกว่า 1ล้านบาทต่อตารางวา ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นพื้นที่สีน้ำตาล (ที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก)
ปัจจุบันมีคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ โรงแรม เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นจุดเชื่อมต่อ รถไฟฟ้าสายสีเหลืองส่วนต่อขยาย (หากเกิดขึ้นจริง) ที่จะวิ่งไปตามเกาะกลางของถนนรัชดาฯไปเชื่อมต่อ กับรถไฟฟ้าสายสีเขียวบริเวณพหลโยธิน ปัจจุบันยังมีพื้นที่รอพัฒนา
- สถานีโชคชัย4
ทำเลแห่งอนาคตที่น่าจับตา ราคาที่ดินวิ่งไปไกล เนื่องจากด้านในเป็นชุมชนขนาดใหญ่และเริ่มมีโครงการคอนโดมิเนียมเกิดขึ้น ราคาไม่เกิน2ล้านบาท ต่อหน่วย การเดินทางเข้าเมืองสะดวก
เมื่อเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าเส้นทางสายหลักอย่างMRT สีน้ำเงิน BTS สายสีเขียว ปัจจุบันมีการปรับโฉมพื้นที่กันมากทั้งการเปลี่ยนมือส่วนโซนด้านหน้าของตลาดโชคชัย4 อนาคตจะเป็นทำเลทองอยู่อาศัย ย่านพาณิชยกรรม ที่มีมูลค่าสูงต่อเนื่อง
- สถานี บางกะปิ
ปัจจุบัน มีผู้ประกอบการให้ความสนใจ ขึ้นโครงการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่อย่าง ค่ายออริจิ้น และที่ดินแปลงใกล้เคียงที่ประกาศเปิดตัวเป็นคอนโดมิเนียม ส่วนด้านในจะเป็นบ้านแนวราบพลีเมียม รูปแบบทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าส์ โฮมออฟฟิศ
นอกจากนี้ยังมีการติดป้ายประกาศขายที่ดินเป็นระยะ โดยสถานีจะอยู่เยื้องกับ แม็คโคร บางกะปิ ปัจจุบันมีการปรับโฉมรองรับการมาของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง รวมถึงศูนย์การค้าใกล้เคียง
- สถานีลำสาลี
ทำเลน่าจับตามากที่สุด เนื่องจากอนาคตเป็นสถานีร่วมเปลี่ยนถ่ายการเดินทาง ขนาดใหญ่ ทั้งสายสีเหลือสายสีส้ม และสายสีน้ำตาล ซึ่งแน่นอนว่าปัจจุบันมีผู้ประกอบการชิงความได้ เปรียบขึ้นโครงการ ตั้งแต่ราคาที่ดินยังไม่สูงมาก
หากรถไฟฟ้าเปิดให้บริการมองว่าคุ้มค่า รวมถึงผู้ซื้อในรายแรกๆที่สามารถปรับราคาขายได้ ราคาที่ขายเฉลี่ย 1ล้านปลายถึง กว่า2ล้านบาท ต่อหน่วย การเดินทางเข้าออกเมืองสะดวก และกำหนดเวลาได้
- สถานี หัวหมาก พัฒนาการ ศรีนครินทร์
ทำเลศักยภาพโซนตะวันออกกทม.ที่ปัจจุบันมีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดให้บริการโดยเฉพาะหัวหมายพัฒนาการ เป้นจุดตัดรถไฟฟ้า สายสีเหลืองกับ รถไฟฟ้า แอร์พอร์ตลิงก์ ที่ส่งผ่านผู้โดยสารระหว่างกัน ราคาที่ดินวิ่งไปที่ 1-2แสนบาทต่อตารางวา
เนื่องจากก่อนหน้านี้มีถนนทรงอิทธิพลกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ทำให้ ด้านใน มีบ้านหรูแบรนด์ดัง เกิดขึ้นด้านในจำนวนมาก และเมื่อมีรถไฟฟ้ายิ่งช่วยอัพเกรดราคาที่ดินมูลค่าที่อยู่อาศัยให้สูงขึ้น
- สถานีบางนา /ศรีเอี่ยม
ปัจจุบันรัศมีรอบสถานีกลายเป็นศูนย์รวมโชว์รูมรถแบรนด์ชั้นนำ ย่านพาณิชยกรรมขนาดย่อม อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ สถานีบริการน้ำมัน ห้างค้าปลีก เฟอร์นิเจอร์ ที่น่าสนใจ ด้านในมีโครงการคอนโดมิเนียม บ้านแนวราบ และโครงการอยู่ระหว่างพัฒนา เกิดขึ้นอยู่มาก
- สถานี สำโรง
อีกทำเลที่น่าสนใจเนื่องจากเป็นสถานีปลายทางจุดตัดรถไฟฟ้าสองสายระหว่างสายสีเหลืองกับสายสีเขียวแม่เหล็กสำคัญปัจจุบันมีคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นรายรอบทำเลนี้ช่วงรองรับคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยราคาไม่สูงเพื่อเดินทางกทม.ใจกลางเมืองหรือทำงานในแถบสมุทรปราการ
ขณะ DDproperty รวบรวมทำเลน่าลงทุนรายเขต ดังนี้
- เขตจตุจักร
เขตจตุจักร เป็นทำเลที่เป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าได้หลายสาย รวมถึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ทั้งห้างสรรพสินค้า แหล่งช้อปป้ิง และสวนสาธารณะขนาดใหญ่มีราคากลาง(ราคาประเมิน) เฉลี่ยอยู่ที่ 108,000 บาท/ตารางเมตร แม้ว่าดัชนีราคาจะลดลง 2% จากไตรมาสก่อน (QoQ) และลดลง 5% จากปีก่อนหน้า (YoY)
หากพิจารณาควบคู่กับความต้องการซื้อและความต้องการเช่าจะพบว่าความต้องการซื้อเพิ่มขึ้นถึง 26% จากเดือนก่อนหน้า (MoM) และความต้องการเช่าเพิ่มขึ้นถึง 53% MoMแสดงให้เห็นว่า หากซื้อเพื่ออยู่เองหรือซื้อเพื่อลงทุนขายต่อ หรือปล่อยเช่าในช่วงนี้ ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี เนื่องจากระดับราคาลดลง สวนทางกับความต้องการซื้อ-เช่าของผู้บริโภค
- เขตวังทองหลาง
เขตวังทองหลาง เป็นอีกหนึ่งทำเลแหล่งงานที่สำคัญของกรุงเทพฯ ครอบคลุมทั้งย่านรัชดาภิเษก ลาดพร้าว ประดิษฐ์มนูธรรม หากพิจารณาเฉพาะทำเลแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลือง เขตวังทองหลางจะครอบคลุมย่านโชคชัย 4, ลาดพร้าว-วังหิน และทาวน์อินทาวน์ ซึ่งเป็นชุมชนขนาดใหญ่ สิ่งอำนวยความสะดวกครบ เหมาะกับการอยู่อาศัย
มีราคากลางเฉลี่ยอยู่ที่ 57,000 บาท/ตารางเมตร ดัชนีราคาเพิ่มขึ้น 2% QoQ และเพิ่มขึ้น 14% YoY เหมาะกับผู้ที่มีสินค้าอยู่ในมือสามารถปล่อยขายสร้างกำไรได้ด้านความต้องการซื้อเพิ่มขึ้น 2% MoM และความต้องการเช่าเพิ่มขึ้นถึง 38% MoM เนื่องจากเป็นทำเลที่มีชุมชนขนาดใหญ่จึงมีความต้องการซื้อ-เช่า เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
- เขตบางกะปิ
เขตบางกะปิ แหล่งชุมชนขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งที่มีทั้งรูปแบบวิถีชีวิตดั้งเดิม และสมัยใหม่ รายล้อมไปด้วยตลาด ห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา และแหล่งงาน มีตัวเลือกการเดินทางที่หลากหลาย ซึ่งรถไฟฟ้าจะเข้ามาทำให้ทำเลนี้ครบทั้งรถ ราง เรือมีราคากลางเฉลี่ยอยู่ที่ 67,000 บาท/ตารางเมตร คงที่จากไตรมาสก่อน และลดลง 2% YoY
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อไว้อยู่อาศัยเองและลงทุนในอนาคต เนื่องจากระดับราคาในปัจจุบันยังไม่ขึ้นสูงมากนัก และคาดว่าจะมีแนวโน้มปรับขึ้นหลังจากรถไฟฟ้าเปิดให้ใช้บริการสอดคล้องกับความต้องการซื้อที่เพิ่มขึ้น 19% MoM และความต้องการเช่าที่เพิ่มขึ้น 28% MoM แสดงให้เห็นถึงความต้องการซื้อ-เช่าที่ยังคงมีอยู่ในทำเลนี้
- เขตประเวศ
เขตประเวศเป็นทำเลแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่ครบเครื่องเหมาะกับการอยู่อาศัย จุดเด่นคือสวนสาธารณะขนาดใหญ่ อย่างสวนหลวง ร.9 ห้างสรรพสินค้า และตลาดขนาดใหญ่ รองรับความต้องการที่อยู่อาศัยทั้งรูปแบบคอนโด และแนวราบ
มีราคากลางเฉลี่ยอยู่ที่ 44,000 บาท/ตารางเมตร ลดลง 2% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 2% YoY เนื่องจากเป็นทำเลที่มีสินค้าประเภทแนวราบจำนวนมาก ราคาจึงมีการปรับขึ้นสอดคล้องกับความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้บริโภค ด้านความต้องการซื้อเพิ่มขึ้น 6% MoM และความต้องการเช่าเพิ่มขึ้น 14% MoM
- เขตบางนา
เขตบางนา เป็นหนึ่งในเขตกรุงเทพตะวันออกที่เชื่อมต่อกับจังหวัดสมุทรปราการ ปัจจุบันมีโครงการให้เลือกหลายรูปแบบทั้งแนวราบและแนวสูง มีการพัฒนาหลาย ๆ ด้านทั้งของภาครัฐและเอกชน เช่น รถไฟฟ้าสายสีเงิน บางนา-สุวรรณภูมิ ซึ่งอยู่ในแผนของกรุงเทพมหานคร หรือแบงค็อกมอลล์ มิกซ์ยูสขนาดใหญ่ของเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป
มีราคากลางเฉลี่ยอยู่ที่ 80,000 บาท/ตารางเมตร ดัชนีราคาเพิ่มขึ้น 1% QoQ และเพิ่มขึ้น 4% YoY เช่นเดียวกับทำเลประเวศที่มีสินค้าประเภทแนวราบจำนวนมากราคาจึงมีการปรับขึ้น ด้านความต้องการซื้อเพิ่มขึ้น 8% MoM และความต้องการเช่าเพิ่มขึ้น 13% MoM ถือเป็นทำเลแหล่งงาน แหล่งอยู่อาศัยที่ปัจจุบันมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ ที่ระดับ 35.75 บาทต่อดอลลาร์
เงินบาทยังมีโอกาสผันผวน หากภาพเศรษฐกิจไทย “จีดีพีไตรมาสสามปี2565 ดีกว่าคาด” และแรงขายเงินดอลลาร์ของบรรดาผู้ส่งออกใกล้โซนแนวต้านแถว 36.00 บาทต่อดอลลาร์ อาจช่วยชะลอการอ่อนค่าได้บ้าง
ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ ที่ระดับ 35.75 บาทต่อดอลลาร์“อ่อนค่าลงเล็กน้อย”จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 35.73 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทยระบุว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้เล่นในตลาดเริ่มระมัดระวังตัวมากขึ้น หลังบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดต่างส่งสัญญาณสนับสนุนการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องของเฟด
ในสัปดาห์นี้ เรามองว่า ควรจับตา รายงานการประชุมล่าสุดของเฟด รวมถึง ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินของเฟด ส่วนในฝั่งไทย รายงาน GDP ไตรมาสสาม อาจเป็นที่สนใจของผู้เล่นในตลาดการเงิน
โดยในส่วนของรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าสนใจมีดังนี้
มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก
▪ ฝั่งสหรัฐฯ – ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตและภาคการบริการ (S&P Global Manufacturing & Services PMIs) ในเดือนพฤศจิกายน
โดยตลาดคาดว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการอาจปรับตัวลดลงสู่ระดับ 49.9 จุด และ 47.7 จุด (ดัชนี น้อยกว่า 50 จุด หมายถึง ภาวะหดตัว) สะท้อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคการผลิตและภาคการบริการที่ยังคงซบเซาต่อเนื่อง จากผลกระทบของการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และภาวะเงินเฟ้อ/ค่าครองชีพสูง รวมถึงภาพการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลก
ทั้งนี้ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ รายงานการประชุมเฟดล่าสุด (FOMC Meeting Minutes) รวมถึง ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด (ส่วนใหญ่เป็น FOMC Voting Members) ซึ่งผู้เล่นในตลาดจะติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด
หลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่ส่งสัญญาณพร้อมสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องของเฟด (ตลาดจะใช้ประเมินระดับดอกเบี้ยสูงสุดของเฟด หรือ Terminal Rate) โดยมีอัตราการขึ้นดอกเบี้ยที่อาจชะลอลงจากช่วงก่อนหน้า
▪ ฝั่งยุโรป – ตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจยุโรปผ่านรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการในเดือนพฤศจิกายน โดยตลาดมองว่า แนวโน้มเศรษฐกิจยุโรปอาจยังคงซบเซาต่อเนื่อง ท่ามกลางแรงกดดันจากทั้งปัญหาเงินเฟ้อและค่าครองชีพสูง
รวมถึงต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นตามอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และความไม่แน่นอนของสงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยภาพดังกล่าวจะสะท้อนผ่านดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการของยูโรโซนที่จะปรับตัวลดลงต่อเนื่องสู่ระดับ 46 จุด และ 48.1 จุด ตามลำดับ
เช่นเดียวกันกับฝั่งอังกฤษ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการก็อาจปรับตัวลดลงต่อเนื่องสู่ระดับ 45.7 จุด และ 48 จุด ตามลำดับเช่นกัน ทั้งนี้ บรรดานักวิเคราะห์ต่างประเมินว่าวิกฤตพลังงานที่ไม่ได้น่ากังวลมากนัก จะช่วยหนุนให้ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนี (Ifo Business Climate) เดือนพฤศจิกายน ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 85 จุด
นอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ล่าสุด เพื่อประเมินแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตของ ECB ว่าจะเร่งขึ้น +75bps ต่อเนื่องได้หรือไม่ และ ECB จะขึ้นดอกเบี้ยไปถึงระดับใดในปีหน้า
▪ ฝั่งเอเชีย – ตลาดมองว่า ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) จะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย +0.25% สู่ระดับ 3.25% เพื่อคุมสถานการณ์เงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูงเกือบ 6% และช่วยลดแรงกดดันต่อค่าเงินวอน (KRW)
▪ ฝั่งไทย – ตลาดคาดว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง หลังการเปิดประเทศอย่างเต็มที่ในช่วงไตรมาสที่ 3 ซึ่งจะหนุนให้ เศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 ขยายตัวถึง +4.5%y/y เร่งขึ้นจากที่โต +2.5% ในไตรมาสที่ 2 ทำให้เศรษฐกิจไทยจะกลับไปสู่ระดับก่อนวิกฤต COVID-19 ได้ภายในปีนี้ และหนุนการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องของธนาคารแห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ การค้าระหว่างประเทศของไทยอาจได้รับผลกระทบจากภาพเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง โดยยอดการส่งออก (Exports) อาจโตเพียง 5.5%y/y ส่วนยอดการนำเข้า (Imports) ยังโตกว่า +10%y/y ทำให้ดุลการค้า (Trade Balance) ในเดือนตุลาคมอาจกลับมาขาดดุลถึง -1.4 พันล้านดอลลาร์
สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า เงินบาทมีโอกาสผันผวนฝั่งอ่อนค่ามากขึ้น หากตลาดกลับมากังวลแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดอีกครั้ง
นอกจากนี้ ควรจับตาแนวโน้มราคาทองคำ (ราคาทองคำย่อตัวลงแรง อาจส่งผลให้มีโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว ซึ่งเป็นแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าต่อเงินบาท) รวมถึงควรติดตาม ฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติที่อาจเห็นการขายทำกำไรสินทรัพย์ไทยมากขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า
อย่างไรก็ดี ภาพเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง (หาก GDP ไตรมาส 3 ดีกว่าคาด) และแรงขายเงินดอลลาร์ของบรรดาผู้ส่งออกใกล้โซนแนวต้านแถว 36.00 บาทต่อดอลลาร์ อาจช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทได้บ้าง
ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า ควรระมัดระวังความกังวลเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ที่อาจหนุนให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องได้ ซึ่งต้องรอติดตามรายงานการประชุมเฟดและถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด ทั้งนี้ การแข็งค่าของเงินดอลลาร์อาจมีไม่มากนัก หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจฝั่งยุโรปออกมาดีกว่าคาดและหนุนให้เงินยูโร (EUR) แข็งค่าขึ้นได้
เราคงคำแนะนำว่า ในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูง ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 35.45-36.10 บาท/ดอลลาร์
ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.65-35.85 บาท/ดอลลาร์
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 36.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.25 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาที่ 35.76 บาทต่อดอลลาร์ฯ เงินบาท สกุลเงินและตลาดหุ้นเอเชียในภาพรวมเผชิญแรงเทขายตามค่าเงินหยวนท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและมาตรการสกัดการระบาดของโควิดในจีน
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ คาดไว้ที่ 35.80-36.05 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ประกอบด้วย ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/65 ของไทย และการประกาศอัตราดอกเบี้ย LPR โดยธนาคารกลางจีน ตลอดจนทิศทางฟันด์โฟลว์และสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
สู้เต็มที่! “อันนา-มูนา” พ่าย คู่จีน คว้ารองแชมป์ขนไก่ ออสเตรเลียน โอเพ่น 2022
การแข่งขันแบดมินตันในศึก “ซาติโอ กรุ๊ป ออสเตรเลียน โอเพ่น 2022” ทัวร์นาเมนต์ระดับเวิลด์ทัวร์ 300 ชิงเงินรางวัลรวม 180,000 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 6,444,000 บาท ที่กรุงซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน 2565
การแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ประเภทหญิงคู่ “อันนา” นันทกาญจน์ กับ “มูนา” เบญญาภา สองพี่น้องเอี่ยมสอาด คู่มืออันดับ 14 ของโลกชาวไทย พบกับ จาง ซู่เสียน กับ เจิ้ง หยู คู่มือวางอันดับ 6 ของรายการ คู่มืออันดับ 10 ของโลกจากจีน
ผลการแข่งขันปรากฎว่า หญิงคู่ของไทย เป็นฝ่ายแพ้ไป 0-2 เกม (19-21 และ 13-21) ใช้เวลาแข่งขัน 44 นาที ทำได้ดีที่สุดด้วยตำแหน่งรองแชมป์ คว้าเงินรางวัลปลอบใจ 6,840 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 246,240 บาท)
ด้าน คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซีเมมเบอร์ รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า ” ถึงแม้ว่าคู่ของ “อันนา” กับ “มูนา” จะพลาดแชมป์ในวันนี้โดยพ่ายให้กับคู่สาวจีนที่มีประสบการณ์และมืออันดับโลกที่เหนือกว่า แต่ทั้งคู่ก็ต่อสู้ได้อย่างสุดความสามารถ”
“ขอแสดงความยินดีและชื่นชมกับความสำเร็จของทั้งคู่ ถึงแม้จะพลาดคว้าแชมป์ที่ 4 ของปีนี้ แต่ในปีนี้ทั้ง “อันนา” กับ “มูนา” สามารถคว้าแชมป์มาแล้ว 3 รายการ เริ่มจาก “อินเดีย โอเพ่น 2022” ทัวร์นาเมนต์ระดับเวิลด์ทัวร์ 500, “เวียดนาม โอเพ่น 2022″ ทัวร์นาเมนต์ระดับเวิลด์ทัวร์ 100, ล่าสุดเพิ่งจะคว้าแชมป์ ” ไฮโล โอเพ่น 2022″ ที่ประเทศเยอรมัน ทัวร์นาเมนต์ระดับเวิลด์ทัวร์ 300 ทั้งคู่ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงพัฒนาการที่ดีมาอย่างต่อเนื่องจนก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติไทย”
กับผลงานที่ยอดเยี่ยมของ “อันนา” กับ “มูนา” ทำให้ทั้งคู่การันตีคว้าสิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันทัวร์นาเมนต์ใหญ่รายการสุดท้ายของปีในศึก “เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ 2022” เอาไว้ได้สำเร็จ และ “อันนา” กับ “มูนา” น่าจะเป็นมือวางอันดับ 3 ของรายการ จากผลงานการเข้าชิงในครั้งนี้ ด้วย”
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ทำไมฉีด “วัคซีน” แล้ว ยังติด “โควิด-19” ได้อีก?
หลายคนอาจเคยมีประสบการณ์ หรือเคยได้ยินว่า ถึงจะฉีดวัคซีนแล้ว แต่ก็ยังเสี่ยงติดโควิด-19 ได้อยู่ จริงหรือไม่ แล้วเราจะฉีดวัคซีนกันไปทำไม
อ. พญ.รพีพรรณ รัตนวงศ์นรา มอร์ด สาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 แต่ละชนิดมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อแตกต่างกัน ตั้งแต่ร้อยละ 50.3 เป็นต้นไป เช่น ซิโนแวค ซึ่งเป็นชนิดเชื้อตาย หรือ ในวัคซีนของไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นา ซึ่งเป็นชนิด mRNA ที่ป้องกันได้มากกว่าร้อยละ 90
ภูมิคุ้มกันค่อยๆ เพิ่มไม่เท่ากัน
ระยะเวลาหลังจากที่ได้รับวัคซีน โดยทั่วไปต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังจากที่ได้รับเข็มสุดท้ายตามกำหนด จึงจะเริ่มมีภูมิคุ้มกันขึ้นมาเพียงพอสำหรับป้องกันการติดเชื้อ บางคนรับวัคซีนเพียงเข็มเดียว ทั้งที่วัคซีนตัวนั้นกำหนดให้รับสองเข็ม แต่ไปรับเชื้อขึ้นมาก่อน ทำให้ร่างกายยังไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันที่เพียงพอ โดยมีรายงานจาก Centers for Disease Control and Prevention (CDC) ว่าวัคซีนของไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นา มีประสิทธิภาพป้องกันได้ร้อยละ 80 หลังจากเข็มแรก ขณะที่ถ้าครบสองเข็มจะป้องกันได้ร้อยละ 90
วัคซีนแต่ละชนิดอาจมีระยะเวลาที่ภูมิคุ้มกันขึ้นและเพียงพอสำหรับการป้องกันที่แตกต่างกันไป ทำให้บางรายต้องมีการฉีดวัคซีนซ้ำเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้อยู่ได้ยาวนานขึ้น
วัคซีนที่ฉีด อาจไม่ครอบคลุมสายพันธุ์ใหม่
ในอีกมุมหนึ่ง คือการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้วัคซีนบางชนิดซึ่งใช้เชื้อโควิด-19 ที่ยังไม่ได้กลายพันธุ์ในการทำวัคซีน ทำให้การป้องกันเชื้อโควิด-19 บางสายพันธุ์ เช่น สายพันธุ์อังกฤษ หรือ สายพันธุ์อินเดีย ไม่ได้ประสิทธิภาพ
วิธีป้องกันที่ดีที่สุด คือ การฉีดวัคซีนให้ได้เร็วที่สุด ฉีดเข็มสองตามที่นัดไว้ ระหว่างรอฉีดเข็มที่สองยังคงระมัดระวังตัวเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ล้างมือบ่อยๆ รักษาระยะห่างจากคนอื่น กินร้อนช้อนตัวเอง หลีกเลี่ยงการไปแหล่งชุมชนคนเยอะๆ หากสัมผัสสิ่งของสาธารณะ ควรล้างมือหรือใส้เจล/สเปรย์แอลกอฮอล์ทันทีก่อนนำมือมาสัมผัสกับส่วนอื่นๆ ของร่างกาย หรือหยิบอาหารเข้าปาก ออกกำลังกายและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เท่านี้ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดโควิด-19 ได้ ไม่ว่าจะฉีดวัคซีนชนิดใดก็ตาม
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
การใช้ Wish ในรูปแบบต่างๆ เพื่อเอาไปพูดในชีวิตประจำวัน
การใช้ Wish ในรูปแบบต่างๆ เพื่อเอาไปพูดในชีวิตประจำวัน
การใช้ Wish ถือเป็นคำที่เรามักพบเจอได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ซึ่งปกติแล้วจะใช้เพื่อบอกถึงความใฝ่ฝัน การอวยพรและความต้องการ ยกตัวอย่างเช่น “I wish you happy” แต่คำนี้ก็ยังสามารถใช้ในบริบทอื่นๆ ได้อีกด้วย ไปดูกันค่ะว่าใช้ยังไง
1. การใช้ Wish + To infinitive = would like (Very formal way to talk)
แปลว่า would like (ต้องการ, อยาก) (เป็นทางการมากๆ)
ตัวอย่าง:
I wish to see the manager. ฉันต้องการพบผู้จัดการ
I do not wish you to publish this article. ฉันไม่ต้องการให้คุณเผยแพร่บทความนี้
2. Wish + Simple past
เราใช้ “wish”+simple past เพื่อบอกว่าเรานั้นอยากให้เหตุการณ์ในปัจจุบัน(หรือในอนาคต) นั้นแตกต่างจากความเป็นจริง
ตัวอย่าง:
I wish I had the time to do it. ฉันหวังว่าฉันจะมีเวลาทำมัน
3. Wish + Past Continuous
เราใช้ “wish”+ Past Continuous เพื่อบอกว่าเรานั้นต้องการทำอย่างอื่นตอนนี้ (แต่ความจริงแล้วกำลังทำอีกอย่าง)
ตัวอย่าง:
I wish I was drinking beer in Germany. ฉันหวังว่าตอนนี้ฉันจะกำลังดื่มเบียร์อยู่ที่เยอรมัน
4. Wish + would/could + Verb infinitive
เราใช้ Wish + would/could + Verb infinitive เพื่อบอกว่าเราไม่พอใจเหตุการณ์ปัจจุบัน แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เราจะเปลี่ยนแปลงมัน
ตัวอย่าง:
I wish I could speak English very well. ฉันหวังว่าตัวเองจะพูดภาษาอังกฤษเก่ง
ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th
รวมฟีเจอร์ที่คาดว่าจะมีเฉพาะ iPhone 15 Pro แต่รุ่นปกติไม่มี
จริง ๆ ก็ยังอีกนานกว่า Apple จะเปิดตัว iPhone 15 ซีรีส์รุ่นใหม่ แต่ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่หลาย ๆ คนรอเพราะอาจเป็น iPhone รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ที่เปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C ครับ
แม้ว่าพอร์ต USB-C จะถูกปรับใช้กับ iPhone 15 ทุกโมเดล แต่ก็มีข่าวว่า Apple ได้จำกัด (กั๊ก) หลายฟีเจอร์ให้ใช้ได้เฉพาะกับ iPhone 15 รุ่น Pro ด้วย หรือเป็นการใช้โมเดลการขายเดียวกันกับ iPhone 14 ซีรีส์เลยนั่นเอง
รวมฟีเจอร์ที่มีเฉพาะ iPhone 15 Pro
- Apple A17: ชิปเซ็ตตัวใหม่ มีข่าวว่าจะผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยี 3nm
- USB-C 3.2: สำหรับ iPhone 15 Pro จะได้ใช้ USB-C ด้วยความเร็ว USB 3.2 ในขณะที่ iPhone 15 รุ่นปกติจะได้ใช้พอร์ต USB 2.0 แบบเดียวกับ iPad 10 รุ่นใหม่
- แรมเยอะขึ้น: iPhone 15 Pro จะมีแรม 8GB ส่วนรุ่นปกติจะมีแรม 6GB
- ปุ่มแบบ Solid-state: มีข่าวว่า iPhone 15 Pro จะใช้ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง ปิดเครื่องแบบ Solid-state หรือไม่ใช่ปุ่มแบบจริง ๆ แต่เป็นปุ่มเสมือนที่ทำงานโดยอาศัย Taptic Engines เหมือนกับปุ่มโฮมของ iPhone SE นั่นเอง
- กล้อง Periscope: กล้องซูมที่รองรับ 10x optical zoom แต่จะมีเฉพาะรุ่น Pro Max หรือ Ultra เท่านั้น
มาร์ก เกอร์แมน (Mark Gurman) จาก Bloomberg เชื่อว่าปีนี้ Apple จะเปลี่ยนชื่อของรุ่นท็อปจาก iPhone 15 Pro Max เป็น iPhone 15 Ultra แทน ให้สอดคล้องกับชื่อผลิตภัณฑ์หลาย ๆ อย่างตอนนี้ที่เริ่มใช้ชื่อ Ultra กันแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ดอกคำฝอย กับ 10 ประโยชน์ดีๆ และข้อควรระวัง
นอกจาก เจียวกู่หลาน ที่กำลังเป็นที่พูดถึงอยู่ในโลกออนไลน์ในขณะนี้แล้ว สมุนไพรดีๆ ที่หลายคนการันตีถึงสรรพคุณอันดีงามอีกอย่างหนึ่ง หรือ ดอกคำฝอย นี่แหละค่ะ ดอกคำฝอยมีลักษณะอย่างไร และมีประโยชน์อะไรที่เราอาจไม่เคยทราบบ้าง มาดูกันเลย
ดอกคำฝอย มีลักษณะเป็นอย่างไร
ดอกคำฝอย เป็นดอกไม้จากพืชล้มลุกชนิดหนึ่ง ที่มักปลูกมากกันทางภาคเหนือ ลำต้นสั้น ทนต่อสภาพอากาศ ดอกมีลักษณะกลม กลีบดอกเล็กเรียว และมีดอกเล็กย่อยออกมาหลายดอก สีเหลืองจนไปถึงส้ม หรือส้มแดงเมื่อแก่จัด
ประโยชน์ของดอกคำฝอย
- ลดไขมันในเส้นเลือด ป้องกันไขมันอุดตันเส้นเลือด
- บำรุงประสาท และระงับประสาท ช่วยผ่อนคลายสมองให้หลับสบาย
- ป้องกันโรคความดันโลหิตสูง เพิ่มประสิทธิภาพในการไหลเวียนของโลหิตตามร่างกาย
- บำรุงโลหิต สลายลิ่มเลือด
- บำรุงหัวใจ ช่วยให้เลือดไหลไปหล่อเลี้ยงที่หัวใจมากยิ่งขึ้น
- รักษาอาการไข้หลังคลอดของคุณแม่
- แก้หวัดน้ำมูกไหล
- บำรุงโลหิตประจำเดือนของเหล่าคุณผู้หญิง
- ยับยั้งเชื้อไวรัส และเชื้อแบคทีเรีย
- ลดระดับน้ำตาลในเลือด
โทษของดอกคำฝอย
แม้ว่าดอกคำฝอยจะเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณแทบจะครอบจักรวาล แต่ก็ยังมีข้อควรระวังก่อนทานเช่นกัน ดอกคำฝอยมักถูกใช้เป็นส่วนประกอบของยาสมุนไพร โดยจัดรวมกลุ่มใช้ด้วยกันกับยา หรือพืชตัวอื่นๆ จะไม่ใช้ดอกคำฝอยเดี่ยวๆ เพราะต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสม มิเช่นนั้นอาจส่งผลกระทบต่อระบบเลือดได้
หากทานดอกคำฝอยมากเกินไป หรือติดต่อกันนานเกินไป อาจส่งผลให้มีอาการโลหิตจางได้ ซึ่งทำให้มีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย วิงเวียนศีรษะ หรืออาจทำให้โลหิตประจำเดือนมามากผิดปกติ
นอกจากนี้ใครที่กำลังรับประทานยา หรือรับการรักษาโรคที่เกี่ยวกับลิ่มเลือด หรือกำลังทานยาสลายลิ่มเลือดอยู่ ไม่ควรทานดอกคำฝอย เพราะจะยิ่งเพิ่มการสลายลิ่มเลือดให้ออกฤทธิ์มากเกินไปจนอาจเกิดอันตรายต่อร่างกายได้
ใครที่ร่างกายแข็งแรงเป็นปกติดี สามารถทานดอกคำฝอยได้ ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์จากดอกคำฝอยมากมาย ทั้งเครื่องดื่มผสมดอกคำฝอย ชงเป็นชาจากกลีบดอกที่แห้ง หรือจะสกัดออกมาเป็นน้ำมันดอกคำฝอย ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ดีต่อสุขภาพทั้งสิ้น แต่ใครที่มีปัญหาสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทานค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 21/11/2565
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 29,700.00 | 29,800.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,924.00 | 29,167.84 | 30,300.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,731.60 | 26,251.06 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,539.20 | 23,334.27 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 866.00 | 13,128.56 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 673.00 | 10,202.68 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,994.00 | 30,229.04 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 21/11/2565
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 35.85 | 35.85 | 36.15 | 36.15 | 36.15 | 35.85 | 35.85 | 35.85 | 36.15 | 35.85 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 35.58 | 35.58 | 35.88 | 35.88 | 35.88 | 35.58 | 35.58 | 35.58 | 35.88 | 35.58 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 34.74 | 34.74 | 35.04 | 35.04 | 35.04 | – | 34.74 | 34.74 | 35.04 | 34.74 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 33.74 | 33.74 | – | – | – | – | – | – | – | 33.74 |
เบนซิน 95 | 43.26 | – | – | – | 44.01 | – | 43.76 | 43.71 | – | 43.26 |
ดีเซล B7 | 34.94 | 34.94 | 35.24 | 35.24 | 35.24 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 35.24 | 34.94 |
ดีเซล | 34.94 | 34.94 | 35.24 | 35.24 | 35.24 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 35.24 | 34.94 |
ดีเซล B20 | 34.94 | 34.94 | 35.24 | – | 35.24 | – | 34.94 | 34.94 | 35.04 | 34.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 43.66 | 43.66 | 45.46 | 45.46 | 45.36 | – | – | – | – | 34.94 |
แก๊ส NGV | 16.59 | 16.59 | – | – | – | – | – | – | – | 16.59 |