ประกาศขายทอดตลาด “ดาราเทวี” รอบใหม่ 2 พันล้านบาท
ประกาศขายทอดตลาด โรงเเรม “ดาราเทวี” เชียงใหม่ รอบใหม่ จำนวนกว่า 2 พันล้านบาท เปิดเคาะราคานัดแรกภายในวันที่ 27 ม.ค. 2566
จากกรณี เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2565 สำนักงานบังคับคดีจังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกประกาศเจ้าพนักงานบังคับคดี 2 ฉบับ ประกาศขายทอดตลาดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง โรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ ใน 2 คดี ได้แก่ ทรัพย์ในคดีหมายแดงที่ ผบ.2123/2561 ราคาประมูลเริ่มต้น 1,262.9 ล้านบาท และทรัพย์ในคดีเลขคดีแดงที่ ผบ.2124/2561 ราคาประมูลเริ่มต้น 749.72 หรือคิดเป็นราคาประมูลเริ่มต้นรวม 2,012.62 ล้านบาท
โดยผู้ประสงค์จะเข้าร่วมเสนอราคาต้องวางหลักทรัพย์ค้ำประกัน คือ เงินสด หรือแคชเชียร์เช็ค หรือใช้วิธีทำรายการผ่านระบบ EDC (Electronic Data Capture) ต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี สำหรับทรัพย์ในคดีหมายแดงที่ ผบ.2123/2561 ต้องวางหลักทรัพย์ฯจำนวน 140 ล้านบาท ส่วนทรัพย์ในคดีหมายแดงที่ ผบ.2124/2561 ต้องวางหลักทรัพย์ฯ จำนวน 80 ล้านบาท หรือหากเข้าประมูลทรัพย์ทั้ง 2 คดี ต้องวางหลักทรัพย์ค้ำประกันฯรวม 220 ล้านบาท
ทั้งนี้ เจ้าพนักงานบังคับคดีได้กำหนดวันขายทอดทรัพย์ฯ รวม 6 นัด ณ สำนักงานบังคับคดีจังหวัดเชียงใหม่ได้แก่
- นัดแรก วันที่ 27 ม.ค.2566
- นัดสอง วันที่ 17 ก.พ.2566
- นัดที่สาม วันที่ 10 มี.ค.2566
- นัดที่สี่ วันที่ 31 มี.ค.2566
- นัดที่ห้า วันที่ 21 เม.ย.2566
- นัดที่หก วันที่ 12 พ.ค.2566
อย่างไรก็ตาม หากการประมูลนัดแรก ไม่มีผู้ยื่นเสนอราคาประมูล เจ้าพนักงานบังคับคดีจะยกเลิกการประมูล และเปิดประมูลนัดที่สอง โดยจะลดราคาประมูลเริ่มต้นลงมา 10% ของราคาประมูลเริ่มต้น 2,012.62 ล้านบาท และหากการประมูลในนัดที่สอง ไม่มีผู้ยื่นเสนอราคาอีก ก็จะลดราคาลดลงมาอีก 10% แต่ทั้งนี้ การลดราคาประมูลเริ่มต้นดังกล่าว รวมแล้วจะลดได้ไม่เกิน 30% ของราคาประมูลเริ่มต้นที่กำหนดไว้ที่ 2,012.62 ล้านบาท
นอกจากนี้ หากราคาประมูลสุดท้าย ผู้ชนะประมูลเสนอราคาต่ำกว่า 2,012.62 ล้านบาท บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เทอมอล พาวเวอร์ จำกัด (I Thermal) ซึ่งเป็นผู้ชนะการประมูลครั้งก่อน จะต้องจ่ายเงินส่วนต่างส่วนให้ครบ 2,012.62 ล้านบาท ให้กับเจ้าพนักงานบังคับคดี
ก่อนหน้านี้ I Thermal ชนะประมูลซื้อทรัพย์สินโรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ ในคดีหมายแดงที่ ผบ.2123/2561 และคดีเลขคดีแดงที่ ผบ.2124/2561 ในราคารวม 2,012.62 และวางหลักทรัพย์ค้ำประกันฯไว้ 110 ล้านบาท แต่ I Thermal ไม่สามารถนำเงินส่วนที่เหลือ 1,902.62 ล้านบาท มาจ่ายให้เจ้าพนักงานบังคับคดีฯได้ จึงถูกริบหลักทรัพย์ค้ำประกัน 110 ล้านบาท และเจ้าพนักงานบังคับคดีได้เปิดประมูลขายทอดตลาดทรัพย์อีกครั้ง
สำหรับ I Thermal เป็นบริษัทลูกของ บมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น หรือ IFEC ในขณะที่ IFEC เป็นบริษัทแม่ของ บริษัท โรงแรมดาราเทวี จำกัด ซึ่งเดิมเป็นเจ้าของกิจการโรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ครม.เคาะ ลดภาษีที่ดิน-ยืดลดค่าโอน-จดจำนองของขวัญปีใหม่ ‘อสังหา’
แพ็คเก็จ ‘ของขวัญปีใหม่ 2566’ ครม.เห็นชอบ มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ เคาะ ลดภาษีที่ดิน 2566 ร้อยละ 15 พร้อมยืดมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองที่อยู่อาศัย
20 ธ.ค.2565 – จากกรณีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)วันนี้ ที่ประชุม ครม.เห็นชอบมาตรการ การดำเนินโครงการ เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2566 ให้แก่ประชาชน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ รวม 5 มาตรการใหญ่ๆนั้น พบ ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ได้รับการอนุมัติใน 2 มาตรการหลักสำคัญ ดังนี้
- มาตรการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2566
โดยลดภาษีให้ในอัตราร้อยละ 15 ของจำนวนภาษีที่คำนวณได้สำหรับการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของปีภาษี พ.ศ.2566
- มาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัยปี 2566
โดยลดค่าจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์จากร้อยละ 2 เหลือร้อยละ 1 และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิม ร้อยละ 1 เหลือร้อยละ 0.01 สำหรับการซื้อขายที่อยู่อาศัย ได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว อาคารพาณิชย์ และห้องชุด (ทั้งบ้านมือ 1และมือ 2) เฉพาะที่มีราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 3 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 3 ล้านบาท ต่อสัญญา
ทั้งนี้ ก่อนหน้า 4 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งประกอบไปด้วย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย สมาคมอาคารชุดไทย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เผยว่า ภายใต้ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และ ความท้าทายของกำลังซื้อ ในตลาดที่อยู่อาศัย ปี 2566 อยากให้รัฐบาลพิจารณา ทบทวนมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ใน 2 มาตรการหลัก ได้แก่
- ขยายเวลาผ่อนปรนมาตรการ LTV ออกไปอีก 1 ปี สำหรับผู้ที่ซื้อบ้านหลังที่สองได้เต็มวงเงินกู้ 100%
- ขยายเวลามาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดทะเบียนจำนองอสังหาริมทรัพย์ 0.01% จะสิ้นสุดในสิ้นปี 2565 ขยายระยะเวลาออกไปอีก และขยายเพดานราคาจากครอบคลุมบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท เป็นบ้านราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท
โดยมีการประเมินร่วมกันว่า หากในปีหน้า ไม่มีมาตรการช่วยสนับสนุนภาคอสังหาฯ โดยเฉพาะ การนำมาตรการ LTV กลับมาใช้ เริ่ม 1 ม.ค.2566 นั้น อาจจะทำให้การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศในปี 2566 ลดลงถึง 14.2% อีกทั้งหากไม่มีการขยายมาตรการ ช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย ในการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย น่าจะกระทบต่อแรงจูงใจในการซื้อให้ลดลง เป็นต้น
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ ที่ระดับ 34.65 บาทต่อดอลลาร์
เงินบาทยังผันผวนสูงจำเป็นต้องป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้นมองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.50-34.70 บาท/ดอลลาร์
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.65 บาทต่อดอลลาร์“แข็งค่าขึ้น”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.78 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทยระบุว่าแนวโน้มค่าเงินบาท เรามองว่า แม้ว่าเงินบาทอาจพอได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่า จากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ รวมถึงโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ แต่เงินบาทก็อาจไม่ได้แข็งค่ามากกว่าโซนแนวรับที่เรามองว่า แถว 34.50 บาทต่อดอลลาร์
เนื่องจากเราประเมินว่า หากตลาดการเงินยังคงเผชิญความผันผวนต่อเนื่องจากวันก่อนหน้า ก็มีโอกาสที่ผู้เล่นต่างชาติอาจทยอยขายทำกำไรหุ้นไทยเพิ่มเติมได้ (นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย -1.7 พันล้านบาทในวันก่อน)
และจากแนวโน้มบอนด์ยีลด์ระยะยาวทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้นก็อาจทำให้นักลงทุนต่างชาติเริ่มขายทำกำไรบอนด์ระยะยาวของไทยได้เช่นกัน (เราเริ่มเห็นการทยอยขายทำกำไรบอนด์ระยะยาวบ้าง แต่ยังไม่มากนัก)
ที่น่าสนใจ เรามองว่า นักลงทุนต่างชาติบางส่วนอาจใช้จังหวะเงินบาทแข็งค่าขึ้นใกล้โซนแนวรับ ในการทยอยขายทำกำไรสถานะ Short USDTHB ซึ่งส่วนหนึ่งได้สะท้อนผ่านยอดขายสุทธิบอนด์ระยะสั้นในสัปดาห์นี้เกือบ -8 พันล้านบาท
การเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ผันผวนสูงในช่วงที่ผ่านมาได้สะท้อนถึงความจำเป็นของการใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้เราคงแนะนำ ผู้ประกอบการควรใช้กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้ Options ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงได้ดีในช่วงที่ตลาดผันผวนหนัก
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.50-34.70 บาท/ดอลลาร์
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เคลื่อนไหวผันผวน หลังจากที่ล่าสุด ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้ขยายกรอบบอนด์ยีลด์ 10 ปี ญี่ปุ่น เป็น 0.00%+/-0.50% จากเดิน 0.00%+/-0.25% ส่งผลให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ก็ปรับตัวขึ้น +10bps สู่ระดับ 3.70% กดดันให้ ผู้เล่นในตลาดการเงินสหรัฐฯ ยังไม่กล้ากลับเข้ามาซื้อหุ้นกลุ่มเทคฯ
และหุ้นสไตล์ Growth อย่างเต็มที่ แม้ว่าหุ้นกลุ่มดังกล่าวจะปรับตัวลงมาพอสมควรในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังพอได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน (Chevron +1.6%, Exxon Mobil +1.5%) หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์และความหวังว่าทางการสหรัฐฯ อาจทยอยซื้อน้ำมันเข้าสู่คลังสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ (SPR) ทำให้ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย +0.10%
ส่วนทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ของยุโรป พลิกกลับมาปรับตัวลง -0.40% กดดันโดยการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มเทคฯ และหุ้นสไตล์ Growth อาทิ ASML -1.4%, Adyen -1.3% หลังจากบอนด์ยีลด์ระยะยาวในฝั่งยุโรปก็ปรับตัวขึ้นตามบอนด์ยีลด์ 10 ปีของญี่ปุ่น จากการขยับกรอบของ BOJ
นอกจากนี้ ความกังวลสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ในจีนได้กลับมากดดันให้หุ้นกลุ่มสินค้าแบรนด์เนมต่างก็ปรับตัวลดลง (Kering -3.8%, Hermes -0.9%)
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังพอได้แรงหนุนจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence) เดือนธันวาคมที่ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -22.2 จุด ซึ่งพอช่วยลดความวิตกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอยในฝั่งยุโรปได้บ้าง
ในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก (ล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวลงใกล้ระดับ 104 จุด) กดดันโดยการปรับตัวแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงของเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) หลังจากที่ BOJ ได้ขยับกรอบบอนด์ยีลด์ 10 ปี ญี่ปุ่น ทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างคาดการณ์ว่า BOJ อาจเริ่มทยอยปรับนโยบายการเงินให้ผ่อนคลายน้อยลง
เช่นเดียวกับที่บรรดาธนาคารกลางหลักได้ทำมาก่อนหน้านี้ (ล่าสุดผู้เล่นในตลาดต่างมองว่า BOJ อาจทยอยขึ้นดอกเบี้ย ครั้งละ +10bps หรือ +0.10% ได้ราว 3 ครั้ง ในปีหน้า) นอกจากนี้ แม้ว่าบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ จะปรับตัวสูงขึ้น แต่บรรยากาศในตลาดการเงินที่ยังคงไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยงมากนัก
และการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ได้หนุนให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ.) ปรับตัวขึ้นทะลุโซนแนวต้านสู่ระดับ 1,827 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเราประเมินว่า การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำดังกล่าว อาจมีโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำเกิดขึ้น ซึ่งโฟลว์ดังกล่าวก็มีส่วนช่วยทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นได้ในช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา
สำหรับวันนี้ ตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดย Conference Board ซึ่งตลาดประเมินว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนธันวาคม อาจปรับตัวขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 101 จุด ตามภาพตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ยังคงแข็งแกร่ง แม้จะชะลอตัวลงบ้าง ส่วนปัญหาเงินเฟ้อสูงก็เริ่มจะคลี่คลายลงมากขึ้น
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่าเงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 34.70-34.72 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.35 น.) ใกล้เคียงระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 34.76 บาทต่อดอลลาร์ฯ
โดยเงินบาทกลับมาเคลื่อนไหวเป็นกรอบ (จากที่แข็งค่าขึ้นค่อนข้างมากเมื่อวานนี้ท่ามกลางแรงขายเงินดอลลาร์ฯ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังการปรับกรอบการเคลื่อนไหวของบอนด์ยีลของ BOJ) โดยในระหว่างวันอาจต้องติดตามแรงกดดันด้านอ่อนค่าของเงินบาทจากสัญญาณขายสุทธิของต่างชาติในตลาดพันธบัตรไทย
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้ที่ 34.55-34.75 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยที่ต้องติดตามจะอยู่ที่ทิศทางฟันด์โฟลว์ การเคลื่อนไหวของสกุลเงินเอเชีย และตัวเลขยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย. และ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค. ของสหรัฐฯ
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“อาฒยา” ยังคงรั้งอันดับ 3 นักกอล์ฟหญิงของโลก
การประกาศจัดอันดับคะแนนสะสมโลกกอล์ฟหญิง ประจำสัปดาห์ล่าสุด เมื่อวันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม 2565 “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล ยังคงรั้งอันดับ 3 โดยมี ลีเดีย โค จากนิวซีแลนด์ อันดับ 1 เนลลี คอร์ดา จากสหรัฐอันดับ 2
นักกอล์ฟสาวไทยคนอื่น ๆ “โปรเหมียว” ปภังกร ธวัชธนกิจ อันดับ 53 “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล อันดับ 73 “โปรโม” โมรียา จุฑานุกาล อันดับ 74 “โปรเมียว” ปาจรีย์ อนันต์นฤการ อันดับ 86
“โปรแจน” วิชาณี มีชัย อันดับ 119 “โปรแหวน” พรอนงค์ เพชรล้ำ อันดับ 122 โปรจัสมิน สุวัณณะปุระ อันดับ 166 “โปรว่าน” จารวี บุญจันทร์ อันดับ 246 “โปรพราว” ชเนตตี วรรณแสน อันดับ 363 “โปรปริญญ์” ปวริศา ยกทวน อันดับ 412 “โปรเปียโน” อาภิชญา ยุบล อันดับ 478
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
“โรครองช้ำ” เกิดจากอะไร รักษาอย่างไร ?
โรครองช้ำ (plantar fasciitis) หรือที่เรียกกันอย่างเป็นทางการว่า โรคเอ็นฝ่าเท้าอักเสบ หรือ เอ็นส้นเท้าอักเสบ เป็นโรคที่มักทำให้ปวดส้นเท้าและฝ่าเท้า เวลาที่เราเดินลงน้ำหนัก บางคนอาจรู้สึกปวดส้นเท้ามากหลังตื่นนอน เป็นโรคที่หลายคนอาจคิดว่า เป็นการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อธรรมดา ๆ แต่ความจริงแล้ว มันอาจเป็นสัญญาณของ โรครองช้ำ ที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยเร็วก่อนจะมีอาการเรื้อรังก็ได้
โรครองช้ำ มีอาการอย่างไรบ้าง?
โรครองช้ำ เกิดจากการที่เอ็นฝ่าเท้ามีอาการอักเสบ โดยเอ็นฝ่าเท้า จะเป็นเอ็นแผ่นบาง ๆ ที่ห่อหุ้มตั้งแต่ส้นเท้าไปจนถึงปลายนิ้วเท้า และเป็นสิ่งที่รับแรงกระแทกขณะที่เรายืน เดิน หรือวิ่ง ทำให้เมื่อมีการใช้เอ็นฝ่าเท้าทำงานมากเกินไป หรือมีการใช้งานที่ผิดปกติ เช่น ถูกกระแทก ถูกบีบกดจากการเคลื่อนไหว จึงทำให้เกิดการอักเสบขึ้นได้
โรครองช้ำ จะมีอาการ ดังนี้
- ปวดหรือเจ็บส้นเท้า ลามไปทั่วฝ่าเท้า โดยจะเริ่มมีอาการตั้งแต่ลงจากเตียงนอน หรือก้าวเดินก้าวแรกของวัน
- ปวดฝ่าเท้า หรือ ส้นเท้า เมื่อเดินลงน้ำหนัก มีอาการปวดจี๊ดๆ ปวดอักเสบ บางคนอาจปวดทีละน้อย จนคิดว่าอาการป่วยจะหายไปเอง แต่ก็จะกลับมาปวดอีก
- ปวดฝ่าเท้าเมื่อเดิน หรือ เคลื่อนไหวร่างกาย อาการปวดจะรุนแรงที่สุด เมื่อเริ่มมีการลงน้ำหนักที่ส้นเท้าในก้าวแรก เช่น เมื่อลุกเดินก้าวแรกหลังจากตื่นนอน
- ระยะแรกอาจเกิดหลังการออกกำลังกาย หรือการเดิน-ยืนนาน ๆ เมื่อมีการเคลื่อนไหวมากขึ้น จะรู้สึกปวดส้นเท้ามากขึ้น หรือปวดอยู่ตลอดเวลา
โรครองช้ำเกิดจากอะไร?
โรครองช้ำ สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น
• ภาวะอ้วน หรือ มีน้ำหนักตัวมากกว่าปกติ ทำให้เมื่อเดิน จะทำให้เกิดแรงกดที่ฝ่าเท้ามาก จนอาจทำให้ผังพืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบได้
• มีการยืนติดต่อเนื่องเป็นเวลานาน ทำให้เอ็นฝ่าเท้ารองรับน้ำหนักกดทับมากกว่าปกติ
• มีภาวะเท้าผิดรูป เช่น อุ้งเท้าแบน อุ้งเท้าสูงหรือโก่งมากเกินไป
• สวมรองเท้าที่ไม่เหมาะสมต่อสุขภาพเท้า เช่น รองเท้าส้นสูง รองเท้าที่คับแน่น บีบเท้า หรือรองเท้าที่หลวมเกินไป
• มีการใช้งานฝ่าเท้าหรือส้นเท้าที่มากเกินไป จนร่างกายทนไม่ไหว เช่น การฝึกวิ่งที่หักโหมเกินไป หรือวิ่งในระยะทางที่ไกลเกินไป หรือการวิ่งบนพื้นแข็ง
• สวมใส่รองเท้าไม่เหมาะสม เช่น รองเท้าที่ไม่มีพื้นบุรองส้นเท้า หรือพื้นรองเท้าบางเกินไป
• มีอาการเอ็นร้อยหวายยึด ทำให้ส้นเท้าไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติ
• โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ หรือ ข้อสันหลังอักเสบ ซึ่งอาจทำให้มีโอกาสเกิดการอักเสบ ที่เส้นเอ็นจุดใดจุดหนึ่งที่เชื่อมต่อกับกระดูก ทำให้มีโอกาสเกิดพังผืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบได้
ใครเสี่ยงเป็นโรครองช้ำได้บ้าง ?
• ผู้สูงอายุ เนื่องจากพังผืดฝ่าเท้ามีความยืดหยุ่นน้อยลง
• ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน ทำให้พังผืดฝ่าเท้ารับแรงกระแทกมากขึ้น
• ผู้ที่มีอาชีพ ที่จำเป็นต้องยืน หรือเดินมาก ๆ ทำให้พังผืดฝ่าเท้าตึงแข็ง
• ผู้ที่มีอุ้งเท้าสูง หรือแบน ผิดปกติ
• ผู้ที่ใส่รองเท้าส้นสูง รองเท้าพื้นแข็ง หรือพื้นบาง อยู่เป็นประจำ
• ผู้หญิงมีความเสี่ยงมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากไขมันส้นเท้าบางกว่า รวมถึงเอ็น และกล้ามเนื้อของน่อง และฝ่าเท้า ไม่แข็งแรงเท่าของผู้ชาย
• นักวิ่ง หรือนักกีฬา ที่ต้องใช้เท้า และส้นเท้าเป็นเวลานาน
การรักษาโรครองช้ำ
1. พักการใช้เท้า และใช้ยาลดอาการอักเสบ – การลดการเดิน หรือใช้ไม้เท้าพยุง และประคบเย็นราว 20 นาที วันละ 3-4 ครั้งในตอนเย็น จะช่วยลดอาการเจ็บปวดได้ดี หากปวดมาก สามารถทานยาลดอาการอักเสบได้ แต่ควรพิจารณาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และไม่ทานต่อเนื่องนานเกิน 2-3 สัปดาห์
2. บริหารเอ็นร้อยหวาย และพังผืดฝ่าเท้า – การบริหารเอ็นร้อยหวาย และพังผืดฝ่าเท้าอย่างเหมาะสม เป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่จะช่วยทั้งรักษา และป้องกันการเกิดโรครองช้ำได้
3. บริหารข้อเท้า – มีท่าบริหารข้อเท้าอยู่หลายท่า ที่สามารถช่วยบรรเทาอาการรองช้ำได้ เช่น ใช้ฝ่าเท้าเหยียบคลึงอุปกรณ์ทรงกระบอกที่มีความแข็งแรง เช่น ท่อ PVC ลูกเทนนิส หรือขวดน้ำพลาสติกขนาดเล็ก เพื่อช่วยยืดเส้นเอ็นใต้ฝ่าเท้า
หรือยืนหันหน้าเข้ากำแพง แล้วงอเข่าขวาไปด้านหน้าพร้อมดันกำแพง จนข้อเท้าซ้ายด้านรู้สึกตึง ค้างไว้ 10-15 วินาทีก่อนเปลี่ยนข้าง วิธีนี้ เป็นการยืดเอ็นร้อยหวาย และช่วยให้ส้นเท้ารับน้ำหนักได้ดี
4. ใช้แผ่นรองส้นเท้า – การใช้แผ่นรองเท้าที่อ่อนนุ่ม หรือสวมรองเท้าที่เหมาะสมกับเท้าของตนเอง สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดได้ดี การใส่เฝือกอ่อน จะช่วยลดการเคลื่อนไหวที่ข้อเท้าได้ จึงเป็นอีกทางเลือกในการช่วยลดอาการอักเสบในช่วงแรก
5. รักษาด้วยคลื่นความถี่ (Shock Wave) – เป็นการกระตุ้นเอ็นพังผืดฝ่าเท้า เพื่อให้มีเส้นเลือดมาเลี้ยงซ่อมแซมตัวเอง การรักษาได้ผลใกล้เคียงกับการผ่าตัด
6. การผ่าตัด – ใช้กับผู้ป่วยส่วนน้อย ที่เข้ารับการรักษาเบื้องต้นแล้ว แต่ไม่หายขาด และอาจต้องเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัด เพื่อผ่าตัดพังผืดเท้าบางส่วน และนำหินปูนที่กระดูกส้นเท้าออก
7. ฉีดยาลดการอับเสบ – เป็นวิธีที่ไม่แนะนำนัก ใช้กับผู้ช่วยที่มีอาการรุนแรงเท่านั้น และไม่ควรใช้ยาสเตียรอยด์ฉีดเข้าบริเวณส้นเท้า เนื่องจากจะทำให้รักษาได้ยากขึ้น และเสี่ยงต่อภาวะกระดูกติดเชื้อ ไขมันฝ่าเท้าฝ่อ หรือเอ็นฝ่าเท้าฉีกขาด ซึ่งเป็นอาการที่รักษาได้ยากมาก
8. ใช้อุปกรณ์ช่วยรักษาโรครองช้ำ – เช่น Night Splints ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้เท้าของผู้ป่วย อยู่ในตำแหน่งปกติในเวลานอน และช่วยรักษาเส้นเอ็นให้หายเร็วขึ้น เมื่อผู้ป่วยตื่นในตอนเช้า ก็จะช่วยลดความเจ็บปวดของส้นเท้าลงได้ด้วย
หากคุณมีอาการเจ็บส้นเท้า หรือฝ่าเท้าต่อเนื่องเป็นเวลานานแล้วละก็ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างเหมาะสม เพราะคุณอาจจะกำลังเป็นโรครองช้ำ หรือ เอ็นฝ่าเท้าอักเสบอยู่ก็ได้ และผู้ป่วยเอ็นฝ่าเท้าอักเสบถึง 90% ก็มักจะมีอาการดีขึ้นภายใน 2 เดือน หลังจากได้รับการรักษาที่เหมาะสมด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
คำขยายกริยาสำหรับใช้บอกเวลา (Tenses and Time Adverbs) ที่ใช้ร่วมกับ Present และ Past Simple
เวลาที่เราต้องการจะถามว่าเมื่อไหร่ (when) นานแค่ไหน (how long) หรือบ่อยแค่ไหน (how often) ที่มีการกระทำบางอย่างเกิดขึ้น เราจำเป็นต้องใช้คำบอกเวลาสำหรับขยายกริยา (time adverb) ด้านล่าง เรามีไกด์คร่าวๆเกี่ยวกับ adverbs ที่จะช่วยให้คุณสามารถเริ่มใช้คำเหล่านี้ได้ง่ายขึ้นเวลาที่พูดหรือเขียน
บอกจุดของเวลา
Time adverbs ส่วนใหญ่มักจะเป็นคำที่บอกถึงช่วงเวลาอย่างเจาะจงทั้งในปัจจุบัน อดีต และอนาคต เช่น
- now
- today
- yesterday
- tomorrow
- tonight
- last month
- later
เรามักจะใช้ adverbs เหล่านี้วางไว้ที่ท้ายของประโยค แต่ก็สามารถวางไว้ที่หน้าประโยคได้เช่นกัน นี่คือตัวอย่าง
I’m busy now. I’ll call you later.
Can the doctor see me today?
Where were you yesterday? I didn’t see you.
We’re playing basketball tomorrow.
He’s coming home tonight.
The orders went very well last month.
เพื่ออธิบายว่าบางสิ่งเกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน เราสามารถใช้ adverb เพื่อบอกความถี่ ได้แก่
- always
- often
- frequently
- usually
- normally
- sometimes
- occasionally
- rarely
- never
Adverb ที่บอกเกี่ยวกับความถี่มักจะถูกวางอยู่ระหว่างประธาน (คน) และกริยา (verb การกระทำ) ตัวอย่างเช่น
I’m fed up! You always arrive late!
We often watch television in the evenings.
My parents frequently call on Sundays.
As children we usually went to bed at 9pm.
The boss normally starts work before everyone else.
I sometimes do aerobics at the gym.
The last editor occasionally made typing mistakes.
They rarely listen to music.
He never gets up early.
มีข้อยกเว้นในการวาง adverb ที่บอกเรื่องความถี่ในกรณีมีการใช้ verb to be ในกรณีนี้ adverb บอกความถี่จะต้องถูกวางตามหลัง verb to be ตัวอย่างเช่น
It’s often cold here during the winter.
He’s usually very reliable.
เราสามารถ adverb ตัวอื่นเพื่อบอกเรื่องความถี่ได้ เช่น
- hourly
- daily
- weekly
- monthly
- quarterly
- annually
adverbs เหล่านี้จะต้องถูกวางไว้ที่หลังประโยค นี่คือตัวอย่าง
The radio broadcasts the news hourly.
When he was at university, he phoned his parents daily.
We do our main food shopping weekly.
They release a new edition of the magazine monthly.
The board of directors meet up quarterly.
I earn about £20,000 annually.
Adverb ที่บอกช่วงความยาวของเวลา
เวลาที่เราต้องการอธิบายว่าบางอย่างเกิดขึ้น (และยังส่งผลอยู่ถึงปัจจุบัน) หรือจะเกิดขึ้น เราสามารถใช้ adverbs เหล่านี้
- for
- since
เราใช้ ‘for’ กับระยะของเวลา ซึ่งอาจจะเป็นได้ทั้งในปัจจุบัน อดีตหรืออนาคต ในขณะที่เราใช้ ‘since’ กับจุดของเวลาที่แน่นอน ดังนั้น มันจึงมักจะถูกใช้แค่ในประโยค present perfect simple และ present perfect continuous ตัวอย่างเช่น
We’re staying here for three nights.
She’ll be away for ten days.
They lived in France for nine months.
I’ve worked here for two years.
She’s been the manager since 2012.
We’ve known them since last year.
He’s been playing tennis since he was a child.
Adverb ที่ใช้เพื่อบอกความสัมพันธ์ของเวลา
มี adverbs ตัวอื่นที่เราสามารถใช้เพื่อพูดถึงการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีตหรืออนาคตซึ่งเกี่ยวข้องกับปัจจุบัน adverbs เหล่านี้ได้แก่
- yet
- already
- still
- before
- after
- lately
- recently
- soon
- previously
- earlier
Adverb เหล่านี้มักจะถูกวางไว้ที่หลังประโยค ยกเว้น ‘already’ และ ‘still’ ที่จะต้องวางอยู่ระหว่างประธานและกริยา หรือตามหลัง verb ช่วย (auxiliary/modal verb) ถ้ามี นี่คือตัวอย่าง
Have you finished yet?
I’ve already eaten.
I dropped my phone but it still works!
Where’s Suzanne? I saw her before.
We got there at 4pm and they arrived ten minutes after.
Things have been really busy lately.
Have you seen any good films recently?
See you soon!
Now you work here, but what did you do previously?
Are you hungry? No, I went to the canteen earlier.
อย่างที่ทุกคนได้เห็น adverbs ที่ใช้บอกเวลาเหล่านี้สำคัญมากสำหรับการสื่อสาร ลองฝึกและพยายามใช้ให้มากที่สุดเวลาที่คุยกับคนอื่นหรือเวลาที่เขียนประโยค การสร้างตัวอย่างขึ้นมาเองก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยสรุปความรู้ทั้งหมดที่ได้เรียนมา
ขอบคุณข้อมูลจาก wallstreetenglish.in.th
ฮอนด้า โชว์ระบบปฏิบัติการ Android Automotive สุดล้ำใน Accord รุ่นปี 2023 ในสหรัฐอเมริกา
หากคุณได้ใช้งานระบบความบันเทิงในรถโดยมากแล้วจะรู้จักกับ Android Auto และ Apple CarPlay ที่เป็นระบบความบันเทิงที่ต้องใช้ Smart Phone มาต่อเชื่อมต่อ เพื่อเปลี่ยนวิทยุธรรมดาเป็นรถบบปฏิบัติการสุดล้ำ แต่ล่าสุดนี้ Honda ได้เปิดตัวเทคโนโลยี AAOS หรือ Android Automotive OS ในรถยนต์ครั้งแรก โดยยืนยันว่ารถยนต์ที่จะได้ใช้คันแรกคือ Accord 2023 ในเกรด Touring ที่จะวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาเร็วๆ นี้
- ภายใน Android Automotive จะมีบริการของ Google แทบจะทุกอย่างเช่น Google Assistant สามารถสั่งงานด้วยเสียงได้หลากหลายทั้งฟังก์ชั่นควบคุมภายในรถ เช่นปรับแอร์, เปิด Heater, ค้นหาร้านอาหาร, สถานที่ต่างๆ หรือ การสั่งงานได้ในการค้นหาเว็บไซต์, Google Maps, Google Play ไว้สำหรับดาวนโหลด Apps ทั้งหมดทำงานได้เหมือนกับเป็นโทรศัพท์ 1 เครื่อง ซึ่งหน้าจอไม่ได้มีการใส่ Theme พิเศษ เหมือนกับรถยนต์รุ่นอื่นๆ
ทั้งนี้หน้าจอของ Honda Accord Touring จะมีขนาดใหญ่ที่สุดถึง 12.3 นิ้วเรียกว่าใหญ่มากเมื่อเทียบกับรถยนต์ Honda ปกติ แต่รุ่นล่างกว่านี้จะไม่ใช้ระบบดังกล่าว และได้หน้าจอที่เล็กกว่าที่ 7 นิ้วเท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
“DOS LIFE” ผลิตภัณฑ์จัดการน้ำควบคู่ไปกับการลดปัญหาสิ่งแวดล้อม จาก ธรรมสรณ์ ในงานสถาปนิก’66
การดำรงชีวิตอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนับว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก ในขณะเดียวกันก็เรื่องที่เราสามารถลงมือทำได้ด้วยตนเอง และผลิตภัณฑ์จัดการน้ำ DOS LIFE จากบริษัท ธรรมสรณ์ จำกัด (Thammasorn Co., Ltd.) จะทำให้เห็นว่าการใช้ชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการจัดการน้ำที่ดีนั้นเป็นอย่างไร
บริษัท ธรรมสรณ์ จำกัด เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี 2534 ได้ดำเนินธุรกิจในด้านการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ถังเก็บน้ำบนดิน ถังเก็บน้ำใต้ดิน ถังดักไขมัน ถังบำบัดน้ำเสีย และงานออกแบบระบบบำบัดน้ำเสีย ภายใต้ชื่อแบรนด์ DOS LIFE โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาปัญหาสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย
สินค้าคุณภาพที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ถังเก็บน้ำบนดิน
มีให้เลือกทั้งถังเก็บน้ำคู่ปั๊มน้ำ และถังเก็บน้ำ ที่มีให้เลือกตามการดีไซน์ที่หลากหลายและสวยงาม เหมาะกับการใช้งานในแต่ละรูปแบบที่แตกต่างกัน รวมถึงการติดตั้งที่ต้องการประหยัดพื้นที่ พร้อมด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงที่ทำให้ทนทานต่อรังสี UV
ถังบำบัดน้ำเสีย
เหมาะสำหรับใช้บำบัดน้ำเสียทุกชนิดในบ้านของคุณ ทั้งจากการชำระล้างในครัวเรือน หรือจากสิ่งปฏิกูลจากการขับถ่ายให้ได้คุณภาพน้ำทิ้งที่ดีก่อนทิ้งระบายสู่ท่อสาธารณะต่อไป
ถังบำบัดขนาดใหญ่
ผลิตด้วยวัสดุพิเศษ จึงมีความแข็งแรง คงทน และเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ
ปั๊มน้ำ
มีให้เลือกทั้งปั๊มน้ำในบ้าน (ขนาดเล็ก) และปั๊มน้ำโครงการ (ขนาดใหญ่) เพื่อให้เหมาะกับพื้นที่ติดตั้ง
ถังดักไขมัน
ถังดักไขมันเหมาะสำหรับการใช้บำบัดน้ำเสียจากครัวของบ้านพักอาศัย ห้องอาหารหรือภัตตาคาร เนื่องจาก น้ำเสียดังกล่าวจะมีน้ำมันและไขมันปนอยู่มาก หากไม่จำกัดออกจะทำให้ท่อระบายน้ำอุดตัน
ถังขยะฝังกำแพง
สามารถเลือกให้เหมาะกับพื้นที่การใช้งานได้ เช่น บ้านเดี่ยวขนาดเล็ก ทาวน์โฮม ไปจนถึงอาคารและสำนักงานต่าง ๆ เป็นถังขยะที่ติดตั้งง่าย สะดวก และรวดเร็ว
มาเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการน้ำในบ้านของคุณได้ที่งานสถาปนิก’66
เพราะการจัดการน้ำเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ดังนั้นโปรดให้ DOS LIFE จากบริษัท ธรรมสรณ์ จำกัด ได้เข้าไปอำนวยความสะดวกให้คุณ เพียงมาแวะชมสินค้าของเราได้ที่บูธหมายเลข S106 ในงานสถาปนิก’66 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 25 – 30 เมษายน 2566 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
สำหรับผู้สนใจจองพื้นที่ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://architectexpo.com/2023/en/about-the-expo/#space-reservation หรือ โทร. 02-717-2477 อีเมล info@TTFintl.com
ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 21/12/2565
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 29,700.00 | 29,800.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,924.00 | 29,167.84 | 30,300.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,731.60 | 26,251.06 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,539.20 | 23,334.27 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 866.00 | 13,128.56 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 673.00 | 10,202.68 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,994.00 | 30,229.04 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 21/12/2565
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 34.45 | 34.45 | 35.05 | 34.45 | 35.05 | 34.45 | 34.45 | 34.45 | 34.45 | 34.45 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 34.18 | 34.18 | 34.78 | 34.18 | 34.78 | 34.18 | 34.18 | 34.18 | 34.18 | 34.18 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 32.54 | 32.54 | 33.14 | 32.54 | 33.14 | – | 32.54 | 32.54 | 32.54 | 32.54 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 32.69 | 32.69 | – | – | – | – | – | – | – | 32.69 |
เบนซิน 95 | 41.86 | – | – | – | 42.91 | – | 42.36 | 42.31 | – | 41.86 |
ดีเซล B7 | 34.94 | 34.94 | 35.54 | 35.24 | 35.54 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 35.24 | 34.94 |
ดีเซล | 34.94 | 34.94 | 35.54 | 35.24 | 35.54 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 35.24 | 34.94 |
ดีเซล B20 | 34.94 | 34.94 | 35.54 | – | 35.54 | – | 34.94 | 34.94 | 32.54 | 34.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 43.66 | 43.66 | 44.26 | 44.26 | 44.26 | – | – | – | – | 34.94 |
แก๊ส NGV | 16.59 | 16.59 | – | – | – | – | – | – | – | 16.59 |