สาระน่ารู้ประจำวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567

ดีเวลลอปเปอร์แห่เปิดบ้านหรูหนีรีเจกต์เรตร่วมทุนแลนด์ลอร์ดพัฒนาโปรเจกต์

จากตัวเลขศูนย์ข้อมูลอสังหาฯจำนวนหน่วยโอนที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า5ล้านบาท “ติดลบ” ทุกเซ็กเมนต์ทั้งในจำนวนหน่วยและมูลค่าส่งผลให้ดีเวลลอปเปอร์แห่พัฒนาโครงการบ้านหรูระดับราคาตั้งแต่ 5 ล้านบาทหวัง ลดความเสี่ยงรวมทั้งจับมือแลนด์ลอร์ดพัฒนาโครงการ

ธีรเดช เกิดสำอางค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลายปีที่ผ่านมาเป็นช่วงที่บริษัทขยายการเติบโตแบบก้าวกระโดด เปิดตัวโครงการใหม่ในหลากหลายทำเลอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตแบบมั่นคงและยั่งยืน จนกลายเป็นผู้นำทำเลฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ รวมถึงมีโครงการครอบคลุมจังหวัดหัวเมืองใหญ่ที่มีศักยภาพ ส่งผลให้บริษัทได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค

ในปี 2567 นี้บริษัทเปิดโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี-บ้านเดี่ยว และบ้านแฝดใหม่ 20 โครงการ มูลค่า 17,000 ล้านบาท ครอบคลุมกรุงเทพฯ และปริมณฑล

พร้อมรุกตลาดต่างจังหวัด 6 จังหวัด อาทิ ชลบุรี ระยอง นครราชสีมา อุบลราชธานี อุดรธานี และขอนแก่น ภายใต้โมเดลพันธมิตรร่วมกับแลนด์ลอร์ดในพื้นที่ ครอบคลุมทุกทำเลศักยภาพโดยตั้งเป้าหมายยอดขายที่ 13,000 ล้านบาท พร้อมยอดโอนกรรมสิทธิ์ 8,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่เลื่อนเปิดตัว 8 โครงการ เหลือ 12 โครงการมูลค่า 16,500 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 20 โครงการ มูลค่า 20,000 ล้านบาท

“สภาพเศรษฐกิจ กำลังซื้อ ไม่เอื้ออำนวย สะท้อนได้จากตัวเลขจีดีพี ที่โตแค่ 1.9% ขณะที่ปีนี้คาดการณ์จีดีพีจะขยายตัว 2.2-3.2% ซึ่งธุรกิจอสังหาฯ ล้อไปกับตัวเลขจีดีพี ปีนี้จึงเลือกที่เปิดโครงการ ที่เจาะกลุ่มลูกค้ามีกำลังซื้อ ในทำเลศักยภาพทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด”

โดยปีนี้บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการเติบโตแบบยั่งยืน เช่นเดียวกับดีเวลลอปเปอร์หลายรายที่ระมัดระวังการเปิดตัวโครงการเน้นกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงไม่มีปัญหารีเจกต์เรต!

สำหรับโครงการที่เน้นในปีนี้ ได้แก่ โครงการ เบลกราเวีย บ้านเดี่ยวลักชัวรี ระดับราคา 20-50 ล้านบาท จำนวน 4 โครงการ แกรนด์ บริทาเนีย บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดระดับราคา 8-20 ล้านบาท จำนวน 5 โครงการ บริทาเนีย บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ระดับราคา 4-8 ล้านบาท จำนวน 9 โครงการ ไบรตัน บ้านแฝดและทาวน์โฮม ระดับราคา 2.5-4 ล้านบาท 1 โครงการ และ พูลวิลล่า 1 โครงการมูลค่า 350 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทให้ความสำคัญกับโมเดล “ร่วมทุน” จาก20 โครงการ เป็นโครงการร่วมทุน 16 โครงการ ส่วนที่เหลือ 4 โครงการจะเป็นโครงการที่ลงทุนเอง  

การลงทุนเป็นโครงการในต่างจังหวัด 12 โครงการ มูลค่า 9,000-10,000 ล้านบาท ซึ่งโครงการขนาดเล็กที่จะสามารถพัฒนาได้เร็วเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ให้ครอบคลุมทั่วประเทศสร้างความได้เปรียบจากคู่แข่งได้เป็นอย่างดี

โครงการที่จะเปิดใหม่ในปี 2567 ปัจจุบันมีที่ดินรองรับแล้วทั้งหมด โดยปัจจุบันมีที่ดินรองรับการพัฒนาในมือ 23 แปลง เป็นที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการร่วมทุน 14 แปลง ส่วนที่เหลืออีก 19 แปลง เป็นที่ดินสำหรับการพัฒนาโครงการไม่ร่วมทุน ส่วนงบลงทุนซื้อที่ดินใหม่จะเป็นการพิจารณาเป็นแปลง

สมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) มองว่าตลาดอสังหาฯ ปีนี้จะเติบโตขึ้นจากปีก่อนที่มีฐานต่ำ แต่ยังไม่ฟื้นตัว เนื่องจากภาวะดอกเบี้ยยังสูง คาดว่าอาจลดลงช่วงกลางปีนี้ ส่งผลให้ปีนี้ผู้ประกอบการปรับตัวด้านการเปิดตัวโครงการไม่มากเพื่อไม่ให้โอเวอร์ซัพพลาย

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มตลาดบ้านในบางทำเลเข้าสู่ภาวะเรดโอเชียนที่มีการแข่งขันด้านราคา เนื่องจากจำนวนซัพพลายสูง ขณะที่กำลังซื้อลดลง ดังนั้นในปี 2567 เน้นกลยุทธ์ลงทุนอย่างระมัดระวัง โดยเปิดตัว 6 โครงการ มูลค่า 7,218 ล้านบาท แบ่งเป็น 5 โครงการ ในทำเลปทุมธานี และ 1 โครงการ ทำเลนครปฐม

“ปีนี้บริษัทเน้นบ้านราคา 5-7 ล้านบาท ในสัดส่วน 40% บ้านราคา 3-5 ล้านบาท สัดส่วน 30% และบ้านราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป สัดส่วน 30% จากเดิม เป็นบ้านราคา 3-5 ล้านบาท 60-70% โดยตั้งเป้ายอดขาย 5,007 ล้านบาท เป้ารับรู้รายได้ 3,020 ล้านบาท”

สมนึก กล่าวว่า แม้ว่าปัจจุบันบ้านราคา 3-5 ล้านบาทยังมีดีมานด์ แต่อัตราการปฏิเสธสินเชื่อสูง! รวมถึงสถาบันการเงินเข้มงวดปล่อยสินเชื่อจากปัญหาหนี้ครัวเรือนสูงขึ้น โดยกลุ่มลูกค้าที่โดนปฏิเสธกู้บ้านมากสุด คือ กลุ่มที่มีรายได้ต่อครัวเรือนไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน มีอาชีพ “เอสเอ็มอี” และพนักงานเงินเดือน ต่างจากกลุ่ม 5 ล้านบาทขึ้นไป ที่มีปัญหาการปล่อยสินเชื่อน้อย เพราะเป็นกลุ่มลูกค้ามีกำลังซื้อผ่อนไหว จึงดีกว่าในแง่ความยั่งยืน

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


ไตรมาแรกศุภาลัยเหยียบคันเร่งเปิดตัว14โครงการแนวราบมูลค่า1.4หมื่นล้าน

ศุภาลัย เหยียบคันเร่ง ไตรมาสแรกเปิดตัวโครงการแนวราบ14 โครงการมูลค่า 1.4หมื่นล้านพร้อมโอนกรรมสิทธิ์คอนโดสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ช่วงไตรมาส 1-3 จำนวน5โครงการมูลค่ากว่า 1.6 หมื่นล้านบาททยอยรับรู้รายได้ปี67 คาดทุบสถิตยอดขายและรายได้อีกระลอก

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม  กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2567 บริษัทฯ มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่งคงด้วยศักยภาพทางการเงินที่เข้มแข็ง โดยตั้งเป้าทุบสถิติตัวเองด้วยจำนวนเปิดตัวโครงการมากที่สุด 42 โครงการ มูลค่ารวม 50,000 ล้านบาทครอบคลุมมากถึง 29 จังหวัดทั่วประเทศ

โดยในไตรมาสแรกมีแผนเปิดตัวโครงการแนวราบทั้งหมด 14 โครงการ รวมมูลค่า 14,990 ล้านบาท รวมถึงปัจจัยหนุนการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียม สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ ในช่วงไตรมาส 1-3 จำนวน 5 โครงการ ได้แก่ ศุภาลัย ไอคอน สาทร, ศุภาลัย พรีเมียร์ สามเสน-ราชวัตร, ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีภาษีเจริญ, ซิตี้โฮม สนามบินน้ำ-รัตนาธิเบศร์ และซิตี้โฮม ระยอง  มูลค่ากว่า 1.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะสามารถทยอยรับรู้รายได้เข้าหนุนผลประกอบการในปีนี้เป็นต้นไป
 

ในปี 2566 ที่ผ่านมานับเป็นอีกปีที่ศุภาลัยฯ เดินหน้าอย่างมั่นคงท่ามกลางความท้าทาย ซึ่งหนึ่งในปัจจัยความสำเร็จมาจากศักยภาพทางการเงินที่แข็งแกร่งและภาระหนี้สินต่ำ จึงสามารถเปิดตัวโครงการใหม่ในแต่ละจังหวัดด้วยสินค้าที่มีความหลากหลายตั้งอยู่บนมาตรฐานและคุณภาพเดียวกันทั่วประเทศ ทำให้สามารถตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งสัญญาณการฟื้นตัวของตลาดคอนโดมิเนียม แม้ว่าเซกเมนต์บนจะเริ่มมีการชะลอตัว แต่ก็มีความต้องการที่อยู่อาศัยในเซกเมนต์ระดับกลางเติมเต็มเข้ามา ส่งผลให้ดีมานด์ตอบรับทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียมสร้างรายได้รวมในปี 2566 ได้ 31,818 ล้านบาท

โดยแบ่งเป็นรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ 30,836 ล้านบาท โครงการแนวราบ 66% คอนโดมิเนียม 34% และสร้างผลกำไรสุทธิ 5,989 ล้านบาท ส่งผลให้อัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ระดับเพียง 44% นอกจากนี้บริษัทฯ ซึ่งได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าอย่างดีเสมอมา ทำให้กวาดยอดขายโครงการใหม่ทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียมรวม 28,864 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นสัดส่วนยอดขายคอนโดมิเนียมที่เปิดใหม่และสร้างเสร็จพร้อมอยู่ 9,207 ล้านบาท คิดเป็น 32% และยอดขายสินค้าในกลุ่มสินค้าแนวราบ 19,657 ล้านบาท คิดเป็น 68% 

อย่างไรก็ตามจากการผลประกอบการของยอดขาย รายได้และกำไรดังกล่าว ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการงวดปี 2566 ให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 1.45 บาท จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.70 บาท คงเหลือจ่ายเงินปันผลสำหรับงวด 6 เดือนหลังของปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.75 บาท โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 7 พ.ค. 2567 และจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 21 พ.ค. 2567
 

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 21ก.พ “ แข็งค่า” ที่ระดับ 36.00 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทแกว่งตัวในกรอบ มีโอกาสแข็งค่าขึ้นบ้าง แต่ยังมีแรงกดดันทั้งจากทางการเมืองเร่งให้ธปท.รีบลดดอกเบี้ย หรือ โฟลว์ขายสินทรัพย์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติ หรือไม่

ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 21ก.พ  2567 ที่ระดับ  36.00 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  36.07 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน  พานิชพิบูลย์  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน  ธนาคารกรุงไทยระบุว่า แนวโน้มของค่าเงินบาท เรายังคงมุมมองเดิมว่า ปัจจัยกดดันเงินบาทฝั่งอ่อนค่านั้นยังมีอยู่ เพียงแต่ว่า โมเมนตัมการอ่อนค่าลงของเงินบาทนั้นได้แผ่วลงชัดเจน (เราคง Call Short-term peak เงินบาท 36.50 บาทต่อดอลลาร์ ที่ได้ประเมินไว้ ณ วันที่ 16 กุมภาพันธ์)

 สะท้อนผ่านการทยอยกลับมาแข็งค่าขึ้นของเงินบาทอย่างต่อเนื่องเข้าใกล้โซนแนวรับ 36.00 บาทต่อดอลลาร์ หลังจากที่เงินบาทยังไม่สามารถอ่อนค่าทะลุระดับ 36.20 บาทต่อดอลลาร์ไปได้

อย่างไรก็ดี เงินบาทก็ยังขาดปัจจัยหนุนฝั่งแข็งค่าที่ชัดเจน ทำให้การเคลื่อนไหวของเงินบาทในช่วงนี้ อาจมีลักษณะ Sideways Down (แกว่งตัวในกรอบ แต่ก็มีโอกาสแข็งค่าขึ้นบ้าง) ซึ่งต้องจับตาว่า เงินบาทจะเผชิญปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่าเพิ่มเติม เช่น แรงกดดันจากทางการเมือง เพื่อเร่งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยรีบลดดอกเบี้ย หรือ

โฟลว์ขายสินทรัพย์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติ หรือไม่ โดยเบื้องต้นเราประเมินว่า เงินบาทอาจยังไม่สามารถแข็งค่าขึ้นผ่านโซนแนวรับ 35.80-35.90 บาทต่อดอลลาร์ ไปได้ง่าย หากไม่มีปัจจัยหนุนการแข็งค่าใหม่ๆ ที่ชัดเจน

อนึ่ง เรามองว่า ควรระวังความผันผวนของตลาดค่าเงินในช่วงผู้เล่นในตลาดทยอยรับรู้ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางหลัก ทั้ง เฟด และ ECB

นอกจากนี้ การตอบสนองของผู้เล่นในตลาดต่อรายงานผลประกอบการของ Nvidia ที่สามารถส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในตลาดการเงิน ก็อาจสร้างความผันผวนให้กับตลาดค่าเงินได้

โดยในกรณีที่ ตลาดเปิดรับความเสี่ยงต่อเนื่อง ก็จะทำให้เงินดอลลาร์ย่อตัวลงต่อได้ ในทางกลับกัน หากตลาดการเงินยังคงอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง ก็จะสามารถหนุนให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น จากความต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ในระยะสั้น

เราขอเน้นย้ำว่า ในช่วงนี้ ความผันผวนของเงินบาทนั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ผ่านมา (มองจากกรอบเงินบาทรายสัปดาห์) อย่างเห็นได้ชัด ทำให้เราคงคำแนะนำว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย

อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และนอกเหนือจากการใช้เครื่องมือดังกล่าว การเลือกทำธุรกรรมในสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency) ก็เป็นอีกแนวทางในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจ ซึ่งผู้ประกอบการควรเปรียบเทียบต้นทุนในการทำธุรกรรมและแผนการป้องกันความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทุกครั้ง

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.90-36.15 บาท/ดอลลาร์

โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทได้ทยอยแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง (แกว่งตัวในช่วง 35.95-36.09 บาทต่อดอลลาร์) ตามจังหวะการย่อตัวลงบ้างของเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ที่หนุนให้ราคาทองคำรีบาวด์ขึ้นได้ ส่งผลให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนได้ทยอยขายทำกำไรการรีบาวด์ขึ้นของราคาทองคำและโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนช่วยหนุนการแข็งค่าขึ้นบ้างของเงินบาท

 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาอยู่ในบรรยากาศปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) สอดคล้องกับสัญญาณการปรับตัวลดลงของสัญญาฟิวเจอร์ส ท่ามกลางแรงกดดันจากการเทขายหุ้นกลุ่ม Semiconductor เป็นหลัก โดยเฉพาะ Nvidia -4.4%

เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างไม่แน่ใจว่า รายงานผลประกอบการของ Nvidia ในช่วงหลังตลาดปิดทำการวันพุธนี้ จะส่งผลให้ราคาหุ้น Nvidia ปรับตัวขึ้นต่อได้หรือไม่ ทำให้ผู้เล่นในตลาดเลือกที่จะขายทำกำไรหุ้นกลุ่มดังกล่าวออกมาก่อน ส่งผลให้โดยรวมดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ลดลง -0.92% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดตลาด -0.60%

ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 พลิกกลับมาย่อลง -0.10% กดดันโดยแรงขายหุ้นกลุ่ม Semiconductor อาทิ ASML -2.5% นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดต่างก็ขายทำกำไรหุ้นกลุ่ม Healthcare ซึ่งปรับตัวขึ้นได้ดีก่อนหน้า ขณะเดียวกัน การปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันดิบจากความกังวลแนวโน้มอุปสงค์ความต้องการใช้น้ำมัน ก็กดดันราคาหุ้นกลุ่มพลังงานเช่นกัน

ในฝั่งตลาดบอนด์ บรรยากาศปิดรับความเสี่ยงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้กดดันให้ โดยรวม บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ มีจังหวะย่อตัวลงบ้างและยังคงแกว่งตัวในกรอบ 4.20%-4.30% สอดคล้องกับมุมมองของเราที่ประเมินว่า บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อาจแกว่งตัวในกรอบไปก่อน

เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างก็รอลุ้นรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการของสหรัฐฯ รวมถึงถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด ทั้งนี้ เราคงมุมมองเดิมว่า บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ในโซนเหนือกว่า 4.20% ถือเป็นระดับที่น่าสนใจ และนักลงทุนสามารถทยอยเพิ่มสถานะการลงทุนได้ หรือ

นักลงทุนอาจรอจังหวะ Buy on Dip ก็ได้เช่นกัน โดย นักลงทุนอาจใช้กองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศ หรือ ETF อย่าง IEF (iShares 7-10 Year Treasury Bond ETF) รวมถึงตราสารที่มี IEF เป็น underlying เพื่อเป็น proxy ในการลงทุนตามมุมมองดังกล่าวได้

ทางด้านตลาดค่าเงิน เนื่องจากเงินดอลลาร์ยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ ทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนเริ่มทยอยลดสถานะ Long USD ลงบ้าง กดดันให้เงินดอลลาร์มีจังหวะย่อตัวลงเล็กน้อย ทว่าภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็ยังพอช่วยพยุงเงินดอลลาร์อยู่ ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ยังคงแกว่งตัวใกล้ระดับ 104 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 103.8-104.2 จุด)

ในส่วนของราคาทองคำ จังหวะย่อตัวลงของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี รวมถึงบรรยากาศปิดรับความเสี่ยงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้หนุนให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย.) สามารถรีบาวด์ขึ้น เข้าใกล้โซนแนวต้าน 2,040 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนได้ทยอยขายทำกำไรการรีบาวด์ของราคาทองคำออกมาบ้าง และโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนช่วยหนุนการแข็งค่าขึ้นของเงินบาท

 สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด รวมถึงรายงานการประชุม FOMC ล่าสุด (รับรู้ในช่วง 02.00 น. เช้าวันพฤหัสฯ ตามเวลาประเทศไทย) เพื่อประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด

ส่วนในฝั่งยุโรป ผู้เล่นในตลาดก็จะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และรายงานการประชุม ECB ล่าสุด เช่นกัน โดยการปรับเปลี่ยนมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยของ ECB เทียบกับเฟด จะส่งผลต่อทิศทางเงินยูโร (EUR) ได้พอสมควร

และนอกเหนือจากปัจจัยดังกล่าว ไฮไลท์สำคัญ จะอยู่ที่รายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน ซึ่งผู้เล่นในตลาดจะให้ความสนใจรายงานผลประกอบการของ Nvidia เป็นพิเศษ และการตอบสนองของราคาหุ้น Nvidia ต่อรายงานผลกำไร ก็จะส่งผลต่อบรรยากาศในตลาดการเงินได้

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 35.98-36.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.33 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 36.06 บาทต่อดอลลาร์ฯ

โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยตามจังหวะการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลงตามทิศทางบอนด์ยีลด์ ประกอบกับตลาดรอติดตามสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ จากบันทึกการประชุมเฟดที่จะเปิดเผยในช่วงตลาดนิวยอร์กวันนี้อย่างใกล้ชิด 

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ ระดับ 35.90-36.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินลงทุนต่างชาติ สถานการณ์เงินหยวนและสกุลเงินเอเชียอื่นๆ รวมถึงบันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 30-31 ม.ค. ที่ผ่านมา

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ปิงปองสาวไทยขยี้ชิลีขาดสร้างชื่อคว้าตั๋วเพลย์ออฟรอบคัดเข้า 16 ทีมชิงแชมป์โลก

ทีมลูกเด้งสาวไทยขยี้ชิลี ขาด 3-0 คู่ ทำให้คว้าชัย 3 นัดติด ในศึกเทเบิลเทนนิสประเภททีมชิงแชมป์โลก 2024 ที่เกาหลีใต้ พร้อมกับทำผลงานในรอบแบ่งกลุ่ม ด้วยการชนะ 3 แพ้ 1 จบรองแชมป์กลุ่ม 4 ทะยานเข้าไปเล่นในรอบเพลย์ออฟ เพื่อชิงตั๋วเข้าไปดวลในรอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป ด้านทีมชายไทย พ่ายอียิปต์ 0-3 ในแมตช์สุดท้าย ทำให้แพ้รวดทั้ง 4 เกม ที่ลงแข่งขัน ตกรอบแบ่งกลุ่ม

การแข่งขันเทเบิลเทนนิส ชิงแชมป์โลก ประเภททีม 2024 ที่เบ็กซ์โค คอนเวนชัน เซนเตอร์ เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ กำหนดชิงชัยระหว่างวันที่ 16-25 ก.พ.67 ซึ่งแบ่งการชิงชัยออกเป็นประเภททีมชายและประเภททีมหญิง ประเภทละ 40 ชาติ โดยไทยสามารถผ่านการคัดเลือกเป็นท็อป 10 อันดับแรกของทวีปเอเชียผ่านเข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้ได้ทั้งทีมชายและทีมหญิง 

ล่าสุดเมื่อ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา ทัพนักปิงปองทีมหญิงไทย ทีมอันดับ 19 ของโลก ซึ่งทำผลงาน แข่ง 3 ชนะ 2 แพ้ 1 มี 5 คะแนน อยู่ในอันดับ 2 ของกลุ่ม 4 ลงสนามแมตช์สุดท้าย พบ ชิลี ทีมอันดับ 33 ของโลก ซึ่งแข่ง 3 ชนะ 2 แพ้ 1 มี 5 คะแนน เท่ากัน แต่แต้มได้-เสีย เป็นรองไทย ทำให้แมตช์นี้เป็นการตัดสินตำแหน่งรองแชมป์กลุ่ม เพื่อเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม ไปไขว้คัดเลือกกับอันดับ 3 ของกลุ่มอื่น ส่วนแชมป์กลุ่มนี้เป็นของ ไต้หวัน เป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว

รูปเกมเป็นสาวไทยที่แข็งแกร่งกว่าชัด สปีดการตบ ความเหนียวแน่นและความสามารถเฉพาะตัวเหนือกว่า สุดท้ายเป็นฝ่ายถลุงเอาชนะสาวๆ ชิลีไปไม่ยากนัก 3-0 คู่ โดยคู่แรก อรวรรณ พาระนัง มือ 37 ของโลก ชนะ เปาลินา เวกา มือ 158 ของโลก 3-0 เกม (11-8, 11-6, 11-8), คู่สอง สุธาสินี เสวตรบุตร มือ 39 ของโลก ชนะ ดานิเอลา ออร์เตกา มือ 233 ของโลก 3-0 เกม (11-5, 11-3, 11-8) และ คู่สาม จิณห์นิภา เสวตรบุตร มือ 103 ของโลก ชนะ จูดิธ โมราเลส มือ 311 ของโลก 3-0 เกม (11-8, 11-9, 11-4)

จบการแข่งขันกลุ่ม 4 สาวไทยทำผลงาน แข่ง 4 ชนะ 3 แพ้ 1 มี 7 คะแนน คว้าอันดับ 2 ของกลุ่ม ส่วนอันดับ 1 เป็นไต้หวัน และ อันดับ 3 เป็น ชิลี โดยผลการประกบคู่เพื่อแข่งคัดเลือกเข้ารอบต่อไปของสาวไทยที่จะพบกับอันดับ 3 ของกลุ่มอื่นจะมีการประกาศออกมาหลังจากนี้

ประเภททีมชาย ทัพลูกเด้งหนุ่มไทย ทีมอันดับ 40 ของโลก ที่แข่ง 3 นัด แพ้ 3 นัด  มี 3 คะแนน รั้งอยู่ในอันดับสุดท้ายของกลุ่ม 8 ลงสนามแมตช์สุดท้ายพบกับ อียิปต์ ทีมอันดับ 10 ของโลก ที่มีผลงานแข่ง 3 นัด แพ้ 3 นัด ได้ 3 คะแนนเท่ากับไทย อยู่ในอันดับ 4 เนื่องจากแต้มได้-เสียมากกว่าทีมไทย แต่ทั้ง 2 ทีมต่างตกรอบเป็นที่แน่นอนแล้ว แมตช์นี้จึงเป็นการแข่งให้ครบโปรแกรมเท่านั้น 

เกมนี้หนุ่มไทยสู้เต็มที่แม้จะสามารถคว้าชัยได้หนึ่งคู่จาก “เป็ด” ศรายุทธ ก่อนที่สุดท้ายลูกเด้งอียิปต์จะเป็นฝ่ายกำชัยไป 3-1 คู่ โดยคู่แรก ณภัทร ธรรมาธิคม มือ 637 ของโลก แพ้ โอมาร์ อัสซาร์ มือ 22 ของโลก 2-3 เกม (13-15, 11-4, 11-8, 8-11, 9-11), คู่สอง สิทธิศักดิ์ นุชชาติ มือ 550 ของโลก แพ้ ยูสเซฟ อับเดล-อซิส มือ 132 ของโลก 0-3 เกม (4-11, 10-12, 6-11), คู่สาม ศรายุทธ ตันเจริญ มือ 714 ของโลก ชนะ โมฮาเหม็ด ชูมัน มือ 196 ของโลก 3-2 เกม (8-11, 11-9, 8-11, 11-8, 11-8) และคู่สี่ สิทธิศักดิ์ นุชชาติ แพ้ โอมาร์ อัสซาร์ 0-3 เกม (6-11, 4-11, 6-11) จบรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม 8 ของทัพนักปิงปองชายทีมชาติไทย แข่ง 4 แพ้ 4 ได้มา 4 คะแนน ทำผลงานเป็นอันดับสุดท้าย ตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย

ขอบคุณข้อมูลจาก siamsport.co.th


“หมอนรองกระดูกคอกดทับเส้นประสาท” โรคฮิตของคนทำงาน

สัญญาณเตือนของ โรคหมอนรองกระดูกคอเสื่อมกดทับเส้นประสาท หรือ ไขสันหลัง หนุ่มสาววัยทำงานทั้งหลาย มีอาการเหล่านี้หรือไม่ ปวดกระดูกคอ ปวดบ่า ปวดไหล่ ร้าวลงไปที่แขน รวมถึงมีอาการชาและอ่อนแรง บางรายเป็นมากถึงขั้นยกแขนไม่ขึ้นเดินลำบาก พึงระวังไว้ เพราะอาการเหล่านี้นั้นสำคัญ

สาเหตุและอาการของโรคหมอนรองกระดูกคอกดทับเส้นประสาท

อาจเกิดขึ้นได้ทั้งในภาวะที่เกิดจากอุบัติเหตุหรือภาวะที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ ในส่วนที่เกิดจากอุบัติเหตุก็ตรงไปตรงมา มีการบาดเจ็บและทำให้หมอนรองกระดูกบริเวณต้นคอมีการเคลื่อนหรือกดทับไม่ว่าจะเป็นไขสันหลังหรือเส้นประสาท สำหรับกลุ่มที่ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุที่พบได้บ่อยๆ คือกลุ่มที่มีพฤติกรรมเสี่ยงเรื่องของการใช้คอ ใช้กล้ามเนื้อแผ่นหลังที่ผิดลักษณะ เช่น การนั่งเล่นไอแพดนานๆ โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ กลุ่มนี้มักมีปัญหาเรื่องปวดคอ บ่า ไหล่ และจะมีอาการปวดแปล๊บเหมือนไฟช็อตลงไปที่แขน มีอาการชา บางรายอาจอ่อนแรง ทำให้เสียความสามารถในการทำงาน

แนวทางการรักษาโรคหมอนรองกระดูกคอกดทับเส้นประสาท

การรักษา ในปัจจุบันมีเครื่องมือที่ทันสมัยและช่วยให้แพทย์สามารถวิเคราะห์ วินิจฉัยได้ง่ายและชัดเจนมากขึ้น การรักษาแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม

กลุ่มที่ 1 เป็นกลุ่มที่อาการไม่รุนแรงมากนัก สามารถรักษาได้โดยไม่ต้องผ่าตัด โดยการทานยา และทำกายภาพบำบัด

กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มที่ทานยาแล้วไม่ดีขึ้นทำอย่างไรก็ไม่หาย กลุ่มนี้จะมีนวัตกรรมการรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัดที่เข้ามาช่วยในการรักษา เช่น การรักษาโดยผ่านคลื่นความร้อน หรือการฉีดยาเข้าไปเหนือเส้นประสาทที่บริเวณคอ

การรักษาโดยใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง (Nucleoplasty)

หลักการของการรักษาวิธี Nucleoplasty หรือการใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงเข้าไปที่หมอนรองกระดูกมีอยู่ 3 หลักการ

  1. ลดแรงดันของหมอนรองกระดูกสันหลัง
  2. เข้าไปสลายเส้นประสาทที่งอกเข้ามาตรงแกนกลางของกระดูกสันหลังซึ่งเป็นเส้นประสาทที่จะทำให้เกิดอาการปวด  ปกติจะมีเส้นประสาทอยู่รอบๆหมอนรองกระดูกสันหลัง  แต่อยู่ที่ขอบจะไม่งอกเข้ามาข้างใน คลื่นวิทยุความถี่สูงจะเข้าไปตัดหรือเข้าไปสลาย ทำลายเส้นประสาทที่งอกเข้ามาในแกนกลางของหมอนรองกระดูกสันหลัง
  3. เข้าไปปรับโมเลกุล ปรับโครงสร้างของหมอนรองกระดูกสันหลังทำให้การผลิตสารที่สื่อความเจ็บปวดออกมาน้อยลง เป็นวิธีในการรักษา

ใครที่เหมาะในการรักษาโดยวิธี Nucleoplasty

คือ ผู้ป่วยที่เป็นหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อมแล้วก็มีการเคลื่อนออกมาแต่ไม่มาก (Herniated Nucleus Pulposus : HNP) แต่คนไข้มีอาการปวดมากรักษาด้วยยา ด้วยกายภาพบำบัด การปรับกิจวัตรประจำวันแล้วยังไม่หาย  มาตรวจด้วย MRI เพื่อดูหมอนรองกระดูกที่ยื่นออกมา หรือว่าหินปูนที่อยู่ตามขอบบน ขอบล่างของหมอนรองกระดูกสันหลัง ก็ไม่ได้กดทับเส้นประสาทอย่างมีนัยสำคัญ  แต่มีอาการปวดมาก คนไข้กลุ่มนี้ก็จะได้ประโยชน์ทางการรักษาโดยใช้คลื่นวิทยุความถี่

ข้อดีของวิธี Nucleoplasty

  • ไม่ต้องใช้ยาดมสลบ
  • เกิดภาวะแทรกซ้อนน้อยกว่าการผ่าตัด
  • ลดระยะการนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล
  • การฟื้นตัวหลังผ่าตัดรวดเร็ว สามารถกลับบ้านได้ทันที หรือนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพียง 1 คืน
  • อาการที่เจ็บปวดจะบรรเทาไปอย่างรวดเร็วภายใน 2 สัปดาห์ ในผู้ป่วยส่วนใหญ่

กลุ่มที่ 3  เป็นกลุ่มผู้ป่วยที่มีข้อบ่งชี้ในการรักษาด้วยการผ่าตัด คือ

  • มีอาการเป็นมานานมากกว่า 6 สัปดาห์ และเป็นถี่มากขึ้น ความรุนแรงของการปวดมากขึ้น
  • ไม่ตอบสนองต่อการรักษาโดยวิธีอื่น หรือคนไข้ต้องทนทุกข์ทรมาน อาการปวดนั้นเรื้อรัง
  • มีอาการอ่อนแรงของข้อต่อ เช่น ข้อมือ ข้อศอก หัวไหล่
  • เป็นกลุ่มอาการกดทับไขสันหลังคือ คนไข้จะเสียความสามารถในการใช้มือ และเสียความสามารถในการทรงตัว
  • ภาวะการติดเชื้อหรือเนื้องอก

วิธีดูแลด้วยตัวเองง่ายๆ ให้ห่างไกลโรคหมอนรองกระดูกคอกดทับเส้นประสาท

หากไม่อยากทนทุกข์ทรมานจากภาวะหมอนรองกระดูกคอเสื่อมกดทับเส้นประสาทหรืออาการปวดเกร็งกล้ามเนื้อที่อยู่บริเวณรอบๆ คอ บ่า และไหล่ ต้องคอยเตือนตัวเองอยู่เสมอว่า นั่ง 1 ชั่วโมง แล้วลุกยืน 1 นาที ไทม์สเตรชชิ่ง (Time Stretching) ยืดและเหยียดกล้ามเนื้อ ตามคำแนะนำของแพทย์ ถ้าจำเป็นต้องนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ ควรหันหน้าให้ตรงกับจอ โต๊ะทำงานจะต้องมีที่พักข้อมือ เรียกว่า แฮนด์เลส (Hand rest) และจอมอนิเตอร์จะต้องอยู่ระดับสายตา การนั่งต้องนั่งให้เต็มก้นและมีพนักพิง ถ้าทำได้แบบนี้จะสามารถทำให้ท่านห่างไกลจากภาวะปวดคอ บ่า ไหล่ Office Syndrome หรือที่รุนแรงกว่านั้นก็คือ หมอนรองกระดูกคอหรือกระดูกคอเคลื่อนไปกดทับเส้นประสาทได้

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


การใช้ Question Tag เรียนรู้ประโยคคำถามอีกรูปแบบหนึ่งในภาษาอังกฤษ

ประโยคคำถามในภาษาอังกฤษมีหลายรูปแบบ ที่เราคุ้นชินกันก็จะมีที่ขึ้นต้นด้วยกริยาช่วย verb to be, verb to do หรือ has/have คำตอบต้องเป็น yes กับ no หรือประโยคคำถามจำพวก wh-question ที่ต้องการคำตอบว่า ใครทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร ซึ่งยังมีประโยคคำถามอีกรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจ เราเรียกว่า Question Tag ที่นำหน้าด้วยประโยคบอกเล่า แต่มีส่วนท้ายที่เป็นคำถาม จึงทำให้ประโยคนี้กลายเป็นประโยคคำถามไป วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่อง การใช้ Question Tag กัน

ประโยคคำถาม Question tag คืออะไร

ประโยคคำถามแบบ Question tag คือ ประโยคคำถามประเภทหนึ่งที่โครงสร้างนำด้วยประโยคบอกเล่าทั่วไป จากนั้นตามด้วย comma และ วลีสั้น ๆ ที่บ่งบอกถึงคำถาม แล้วตามด้วยเครื่องหมายคำถาม โดยคำตอบของประโยค Question tag จะเป็น yes / no เหมือนกับประโยคคำถามที่ขึ้นต้นด้วย verb ช่วย เราสามารถได้ยิน Question tag ได้จากประโยคสนทนาทั่วไปในชีวิตประจำวัน

          ตัวอย่างประโยค Question tag เช่น

You love to eat hotdog, don’t you?

She will come to class tomorrow, won’t she?

หลักการสร้างประโยค Question tag

สำหรับประโยค Question tag มีหลักในการสร้างประโยค โดยต้องอาศัยความเข้าใจ ซึ่งหากเข้าใจหลักการแล้วก็ไม่ยากเลย คือ

  • ถ้าประโยคส่วนหน้าเป็นประโยคบอกเล่า question tag ต้องเป็นปฏิเสธ เช่น

You are working for ABCMA company, aren’t you?

  • ถ้าประโยคส่วนหน้าเป็นประโยคปฏิเสธ question tag ต้องเป็นบอกเล่า

She doesn’t have a long hair, does she?

และส่วนของ Question Tag นั้น เมื่อใส่เครื่องหมาย comma แล้ว ตามด้วย verb ช่วยของประโยค (ในรูปบอกเล่าหรือปฏิเสธ แล้วแต่ส่วนหน้า) จากนั้นตามด้วยประธานของประโยคที่อยู่ในรูปของคำสรรพนาม เช่น Susan wants to go swimming today, doesn’t she?

Question tag ใช้ doesn’t เป็น verb ช่วยที่สอดคล้องกับประธาน และอยู่ในรูปปฏิเสธเนื่องจากประโยคส่วนหน้าเป็นบอกเล่า จากนั้นตามด้วยประธานคือ Susan แต่ไม่พูด Susan ซ้ำ ให้ใช้คำสรรพนามแทน Susan ก็คือ she

ข้อควรจำ สำหรับ การใช้ Question tag

  1. กรณีประโยคส่วนหน้า มี Verb to have แล้ว have หรือ has นั้นแปลว่า “มี” question tag ส่วนท้ายจะใช้ has/have หรือใช้ verb to do มาช่วย ได้ทั้ง 2 แบบ แต่ถ้า Verb to have ในประโยคส่วนหน้าไม่ใช่ Verb ช่วย (ในประโยค present perfect, etc.) และไม่ได้แปลว่า “มี” แต่แปลอย่างอื่น กรณีนี้ต้องใช้ Verb to do มาช่วยในส่วนของ question tag เท่านั้น เช่น

You have two daughters, haven’t you? หรือ You have two daughters, don’t you?

แต่ You have dinner with you ex-boss, don’t you? have ในที่นี้แปลว่า “กิน”

รวมถึง have to / has to ด้วยที่ question tag ต้องใช้ verb to do มาช่วย เช่น

She has to finish her homework within 3 o’clock today, doesn’t she?

  1. Question tag ส่วนท้ายถ้าเป็นปฏิเสธ ต้องใช้รูปย่อเสมอ ไม่ใช้รูปเต็ม เช่น

She has to finish her homework within 3 o’clock today, doesn’t she? (ไม่ใช้ does not she)

  1. กรณีของ I am เนื่องจาก question tag ส่วนท้ายเป็นปฏิเสธ ต้องเป็น am not I แต่ am not ไม่มีรูปย่อ จึงให้ใช้เป็น aren’t I แทนเสมอ
  2. กรณีของ Verb ช่วยอื่น ๆ เช่น can/could/ may/ might/ will/ shall/ ought to/ would/ should สามารถใช้ Verb เหล่านี้ในส่วน question tag ได้เลย เช่น

I shouldn’t go to your birthday party tomorrow, should I?

  1. ในประโยคคำสั่งหรือขอร้อง question tag ให้ใช้ will you หรือ won’t you เนื่องจากประธานที่ละไว้มักหมายถึง you
  2. หากประโยคขึ้นต้นด้วย This is / That is ให้ใช้ question tag ในรูป isn’t it และหากเป็น These are / Those are ให้ใช้ question tag ในรูป aren’t they
  3. กรณีประโยคส่วนหน้าที่คำที่บ่งบอกถึงความเป็นปฏิเสธในตัว เช่น rarely, hardly, seldom, none, nobody, few, little, never ส่วนของ question tag ต้องเป็นบอกเล่า แม้ประโยคส่วนท้ายจะเป็นประโยคบอกเล่าก็ตาม ให้ดูที่ความหมาย เช่น

None of workers are unhappy, are they?

  1. ประโยคที่มีประธาน คือ everyone, everybody, everyday, everything, nobody, anybody ในส่วน question tag ท้าย ให้ใช้ pronoun ว่า “they” เช่น

Everyone loves Jackson Wang, doesn’t they?

  1. สำหรับประโยคเชิงซ้อนที่มีประโยคหลักและประโยคย่อย ให้ใช้ question tag โดยอิงประธานและกริยาจากประโยคหลัก เช่น

He said he would come to my party, didn’t he?

คำตอบของประโยคคำถาม Question Tag

คำตอบของประโยคคำถาม Question Tag ให้ดูจากประโยคส่วนหน้าแล้วตอบ yes/no ตามนั้น

  • ถ้าประโยคหลักเป็นบอกเล่า แล้วเราเห็นด้วย ให้ตอบ yes ถ้าเราไม่เห็นด้วยให้ตอบ no เช่น

He said he would come to my party, didn’t he?

Yes, he did. หรือ No, he didn’t.

  • ถ้าประโยคหลักเป็นปฏิเสธ แล้วเราเห็นด้วย ให้ตอบ no ถ้าเราไม่เห็นด้วยให้ตอบ yes

I shouldn’t go to your birthday party tomorrow, should I?

No, you shouldn’t. หรือ Yes, you should.

          เราทราบถึงโครงสร้าง และวิธีการสร้างประโยคคำถามแบบ Question tag กันไปแล้ว อาจมีหลายท่านสงสัยว่า แล้วเมื่อไหร่ที่เราควรใช้ประโยคแบบนี้ ที่จริงประโยค question tag สามารถใช้ได้ทั่วไปในประโยคสื่อสารในชีวิตประจำวันของเรา แต่หากจะดูกันให้ละเอียดถึงวิธีการใช้ กรณีที่ผู้พูดต้องการถามผู้ฟังแบบขอให้แสดงความคิดเห็น ไม่ได้ตั้งใจจะถามเป็นคำถามตรง ๆ ก็ใช้ประโยค question tag ได้ แนะนำให้ฝึกฝนเพิ่มเติมจากการการอ่านรูปประโยคสนทนาบ่อย ๆ รวมถึงการ เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ก็จะทำให้เข้าใจมากขึ้น และนำไปใช้ในการสนทนาภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว

ขอบคุณข้อมูลจาก engduothailand.com


สมองเสื่อมชีวิตเสื่อม

โรคความจำเสื่อมและสมองเสื่อมนั้นเป็นภัยคุกคามที่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุทั่วโลก

การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาช่วงปลายปีนี้ส่อแวววุ่นวายมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะประเด็นความพร้อมของ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนปัจจุบันที่อายุเกินกว่า 80 ปีและเริ่มมีสัญญาณของการเป็นโรคสมองเสื่อมให้เห็นบ้างแล้ว

ประเด็นดังกล่าวถือเป็นเรื่องใหญ่มาก ซึ่งไม่ใช่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเฉพาะกับผู้นำโลกเสรีในยุคปัจจุบัน แต่ทั้งโรคความจำเสื่อมและสมองเสื่อมนั้นเป็นภัยคุกคามที่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุทั่วโลก ไม่จำกัดว่าอยู่ในประเทศไหน เพราะแนวโน้มอัตราส่วนประชากรสูงวัยก็เพิ่มขึ้นในทุกประเทศทั้งนั้น

คนทั่วโลกจึงให้ความสำคัญกับปัญหาดังกล่าว และผู้สูงวัยในหลายประเทศรวมถึงบ้านเราก็เริ่มตระหนักในปัญหานี้จนถึงกับหากิจกรรมต่างๆ ให้กับเหล่าผู้สูงวัยที่เกษียณอายุจากงานประจำมาแล้วให้ได้ฝึกสมองกันอย่างเป็นประจำและสม่ำเสมอ หลายๆ คนก็เชื่อว่าตั้งวงเล่นไพ่กับเพื่อน ๆ ทุกวันก็น่าจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการสมองเสื่อมได้แล้ว แต่นั่นจะได้ผลจริงหรือ ?

ก่อนอื่นก็คงต้องเข้าใจกระบวนการทำงานของร่างกายของเราเสียก่อน ซึ่งระบบการทำงานอันมหัศจรรย์ของเรานั้นเรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพสูงอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะความต้องการพลังงานในแต่ละวันของเรานั้นจะกระตุ้นให้เราต้องหาอาหารมารับประทานให้เหมาะสม

มนุษย์ในยุคโบราณจึงต้องเคลื่อนไหวเพื่อหาอาหารให้ตัวเองได้บริโภคด้วยวิธีต่าง ๆ ทั้งล่าสัตว์ เพาะปลูก ฯลฯ ซึ่งล้วนต้องใช้กล้ามเนื้อในส่วนต่าง ๆ อย่างหนัก แต่ในปัจจุบันเราไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นแล้ว กล้ามเนื้อต่าง ๆ จึงถูกใช้งานน้อยลง เพราะร่างการต้องรักษาสมดุลการใช้พลังงาน จนเราต้องหาวิธี ออกกำลังกายในรูปแบบต่างๆ เพื่อชดเชย

ซึ่งไม่ใช่เพียงกล้ามเนื้อ แต่กระดูก ข้อต่อต่าง ๆ หัวใจ ฯลฯ ของเราก็ล้วนมีประสิทธิภาพลดลง เมื่อไม่มีการใช้งาน และหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปนาน ๆ ก็จะนำมาสู่ภาวะถดถอยของร่างกาย ดังนั้นการตรวจร่างกายประจำปีจึงเป็นกิจกรรมสำคัญที่ทำให้เรารู้ว่ามีส่วนใดในร่างกายเราบ้าง ที่เริ่มส่งสัญญาณของการเสื่อมถอย

และการเสื่อมถอยดังกล่าวก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับเฉพาะกล้ามเนื้อ กระดูก หรือหัวใจ แต่เกิดขึ้นกับทุกส่วน โดยเฉพาะสมองที่ต้องการการกระตุ้นให้เกิดการใช้งานอยู่เสมอ ซึ่งการคิด การแก้ปัญหาต่าง ๆ ล้วนกระตุ้นให้เซลล์สมองทำงานประสานกัน เป็นการใช้สมองให้ทำงานเช่นเดียวกับการออกกำลังกาย

สิ่งที่ต้องคิดต่อมา คือ กิจกรรมแบบใดที่ทำให้สมองทำงานได้อย่างจริงๆ จังๆ การล้อมวงเล่นไพ่เป็นประจำจะช่วยได้จริงไหมประเด็นนี้ก็ต้องมาวิเคราะห์กันต่อว่าการเล่นไพ่นั้นเราใช้การคิดหรือการคำนวณ อย่างจริงจัง หรือเป็นเพียงการเล่นไปตามความเคยชินไปวัน ๆ

เพราะกิจกรรมใดๆ ก็ตามที่เราทำจนเป็นปกติธรรมดา หรือทำจนเป็นชีวิตประจำวันแล้ว เราจะแทบไม่ต้องใช้สมองคิดแต่อย่างใด เช่นการขับรถไปทำงาน เมื่อเปลี่ยนที่ทำงานใหม่ๆ เราอาจต้องวางแผนการเดินทางมากมาย ต้องหาเส้นทางที่เหมาะสม หรือใช้กูเกิ้ลช่วยดูเส้นทางที่รถติดน้อยที่สุด ฯลฯ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการใช้สมองวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการหาเส้นทางต่าง ๆ อย่างหนักหน่วง

แต่เมื่อเราขับในเส้นทางนั้นเป็นประจำจนเคยชินแล้ว เราจะแทบไม่ต้องใช้สมองคิดเหมือนแต่ก่อน เพราะเราจะเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา กลับรถ ฯลฯ ไปตามถนนได้โดยอัตโนมัติด้วยความเคยชินที่ขับติดต่อกันมานานหลายเดือนหรือหลายปี

นั่นหมายความว่า อัตราการใช้สมองของเราในการขับรถไปทำงาน-กลับบ้านในช่วงแรก ๆ กับช่วงหลังที่คุ้นเคยกับเส้นทางแล้วนั้นแตกต่างกันมาก และผมเชื่อว่าการเล่นไพ่ก็อาจมีลักษณะคล้ายคลึงกัน นั่นคือเมื่อไรก็ตามที่เราเล่นมานานจนคุ้นเคยแล้วเราก็แทบจะไม่ต้องใช้ความคิดกับมันมากนัก แต่เป็นการเล่นแบบอัตโนมัติ เพราะร่างกายเราลดการประมวลผลเพื่อประหยัดพลังงานให้ได้มากที่สุด

การเล่นไพ่จึงอาจไม่ตอบโจทย์อะไรมากนัก ยกเว้นว่าจะเปลี่ยนรูปแบบของไพ่ หรือเสริมด้วยกิจกรรมใหม่ๆ ให้ได้เรียนรู้เพิ่มเติมตลอดเวลา ซึ่งยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากที่ช่วยให้สมองได้ทำงานอยู่เสมอและลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคสมองเสื่อมในอนาคต

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


มาจากที่ไหน? เผยทฤษฎีชวนคิด คุณอาจเป็น “มนุษย์ต่างดาว” หากมีกรุ๊ปเลือด “Rh-“

เว็บไซต์ Mega Doctor News นำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจทางการแพทย์ ด้วยหัวข้อที่ว่า “คนที่มีกรุ๊ปเลือด Rh- อาจไม่ได้มาจากโลกใบนี้ตั้งแต่แรก”

ปกติทั่วไปแล้ว มนุษย์มีหมู่เลือดอยู่ 2 ระบบคือ ระบบ ABO ที่รู้จักกันดีว่ามีกรุ๊ป A, B, O, AB และอีกระบบคือ Rh ซึ่งจำแนกตามแอนติเจน (Antigen) หรือสารที่เคลือบอยู่บนเม็ดเลือดแดงในร่างกาย

โดยในระบบ Rh จะถูกแบ่งเป็น Rh+ คือพวกที่มี Rhesus Antigen บนเม็ดเลือดแดง พบในคนไทยเกือบทั้งหมด แต่สำหรับ Rh- คือพวกที่ไม่มี Rhesus Antigen บนเม็ดเลือดแดง ซึ่งในคนไทยมีเพียง 0.3% เท่านั้น

ประเด็นสำคัญมันอยู่ที่ ปัญหาของคนที่มีกรุ๊ปเลือด Rh- สามารถบริจาคเลือดให้ใครก็ได้ แต่การจะรับเลือดเข้ามา ต้องรับเฉพาะ Rh- ด้วยกันเท่านั้น นั่นจึงเป็นคำถามที่ว่า มนุษย์ที่มีเลือด Rh- มาจากไหน? ทำไมถึงมีจำนวนน้อยมากๆ แถมแตกต่างจากคนอื่น หรือต้นกำเนิดไม่ได้มาจากโลกใบนี้?

นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า กรุ๊ปเลือดมนุษย์มีการเชื่อมโยงกันระหว่างชนเผ่ากับคนบางกลุ่ม ซึ่งปัจจุบัน เลือด Rh- นี้ พบในคนยุโรปราว 10-15%, คนแอฟริกัน-อเมริกันราว 3% ส่วนชาวเอเชียมีน้อยกว่า 1%

นั่นจึงทำให้เกิดทฤษฎีที่ว่า คนที่มีเลือด Rh- อาจเกี่ยวข้องกับมนุษย์จากโลกอื่นที่มีความสัมพันธ์กับมนุษย์โลกอย่างลึกซึ้ง จนถึงขนาดสืบเชื้อสายด้วยกัน ซึ่งข้อมูลที่สนับสนุนทฤษฎีนี้ก็คือเอกสารรายงานการลักพาตัวของมนุษย์ต่างดาวส่วนมากนั้นมาจากบุคคลที่มีกรุ๊ปเลือด Rh- ทั้งสิ้น สอดคล้องกับที่มีรายงานการพบเห็นมนุษย์ต่างดาวและ UFO ในยุโรปหรืออเมริกามากกว่าในเอเชียนั่นเอง

นอกจากนี้ อิงตามทฤษฎีของนักวิทยาศาสตร์ที่ว่า ต้นกำเนิดมนุษย์มาจากบรรพบุรุษในแอฟริกาก่อนจะเดินทางแพร่กระจายไปทั่วโลก แต่ใครจะคิดว่ามนุษย์ที่เป็นชนเผ่าผิวดำสนิทเมื่อ 70,000 ปีที่แล้ว จะมีวิวัฒนาการมาเป็นชาวยุโรป ผมทอง, ผิวขาว, ตาสีฟ้า-เขียว อย่างเช่นปัจจุบันนี้ได้

จากทฤษฎีนี้ทำให้ชวนคิดได้ว่า สิ่งมีชีวิตจากดาวดวงอื่นอาจมาเยือนโลกใบนี้เมื่อนานมาแล้ว และได้เกิดการผสมข้ามสายพันธุ์กัน ทำให้เลือด Rh- ของพวกเขายังหลงเหลืออยู่บนโลก ซึ่งคนที่มีกรุ๊ปเลือดนี้ในปัจจุบันก็อาจมีเชื้อสายของมนุษย์ต่างดาวก็เป็นได้

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 21/02/2567

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a34,400.0034,500.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,228.0033,776.4835,000.00
ทองรูปพรรณ 90%2,005.2030,398.83n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,782.4027,021.18n/a
ทองรูปพรรณ 50%1,003.0015,205.48n/a
ทองรูปพรรณ 40%780.0011,824.80n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,309.0035,004.44n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 21/02/2567



ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9538.0538.0538.3538.0538.0538.0538.0538.0538.0538.05
แก๊สโซฮอล์ 9136.2836.2836.7836.2836.2836.2836.2836.2836.2836.28
แก๊สโซฮอล์ E2035.9435.9436.4435.9435.9435.9435.9435.9435.94
แก๊สโซฮอล์ E8535.6935.6935.69
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม45.4449.4449.4449.4445.44
เบนซิน 9545.9447.1146.4446.0945.94
ดีเซล B729.9429.9430.2429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.94
ดีเซล29.9429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.94
ดีเซล B2029.9429.9429.9429.94
ดีเซลพรีเมี่ยม41.5443.6444.8443.6443.6441.54
แก๊ส NGV19.5919.5919.59
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า