สาระน่ารู้ประจำวันที่ 21 กรกฎาคม 2565

ส่องไฮไลท์ “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” คอนโดหรูใจกลางสุขุมวิท

ส่องไฮไลท์ “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” คอนโดหรูใจกลางสุขุมวิท

3 บิ๊กผนึกกำลังปั้น “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” ปักหมุดคอนโดมิเนียมซูเปอร์ลักชัวรี่มูลค่า 6,000 ล้านติดถนนใหญ่สุขุมวิท ชูเทคโนโลยีก่อสร้างจากญี่ปุ่น พร้อมบริการ On-Demand Service

นายวิทวัส วิภากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดตัวโครงการ “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” คอนโดมิเนียมมูลค่า 6,000 ล้านบาท พัฒนาโครงการโดยบริษัท แกรนด์ สตาร์ จํากัด บริษัทร่วมทุนระหว่าง 3 ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น

ได้แก่ บริษัท ซูมิโตโม ฟอเรสทรี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ อันดับ 1 ใน 5 ของประเทศญี่ปุ่น, บริษัท แกรนด์  แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) และบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) จากความร่วมมือดังกล่าวสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของต่างชาติที่มีต่อการลงทุนในประเทศไทย

ส่องไฮไลท์ “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” คอนโดหรูใจกลางสุขุมวิท

ทั้งนี้โครงการไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ ถือเป็นคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งบนถนนสุขุมวิท โดยได้คัดสรรคุณภาพในการก่อสร้างและการบริการระดับ 5 ดาว ไม่ว่าจะเป็นการนำเทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่นมาใช้ในโครงการ พร้อมการควบคุมมาตรฐานการก่อสร้างโดยบริษัท ซูมิโตโม ฟอเรสทรี จำกัด การออกแบบอาคารให้เป็นอาคารประหยัดพลังงาน และส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดด้วยการติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) จำนวน 30 เครื่อง เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 

บริษัทร่วมกับ EVLOMO บริษัทชั้นนำด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าจากสหรัฐอเมริกา ติดตั้ง EV Charger ในโครงการไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ ซึ่งถือเป็นโครงการแรกที่สามารถรองรับ EV Charger ได้มากกว่า 30 จุด ตอกย้ำความเป็นโครงการอสังหาฯ แห่งอนาคต ที่สามารถตอบโจทย์การใช้รถยนต์ไฟฟ้าของผู้บริโภคคนไทยที่กำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง จากนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน

วิทวัส วิภากุล

จุดเด่นของโครงการอยู่ที่ทำเลที่ตั้ง โดยอยู่บนถนนสุขุมวิท ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อเพียง 250 เมตร และเพียง 150 เมตรจากสกายวอล์กที่เชื่อมต่อมายัง T-One Building หนึ่งในอาคารที่เป็นไอคอนนิค นอกเหนือจากเรื่องทำเลแล้ว โครงการยังให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนกลาง โดยมีพื้นที่ส่วนกลางแบบเต็มรูปแบบกว่า 8 ชั้น 28 ฟังก์ชั่น คิดเป็นพื้นที่มากกว่า 2,000 ตร.ม. และที่จอดรถ 100% ซึ่งมากกว่ามาตรฐานทั่วไป

ส่องไฮไลท์ “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” คอนโดหรูใจกลางสุขุมวิท

นอกจากนี้ยังมีสระว่ายน้ำบน Sky Facility ที่สามารถชมวิวเมืองได้ 360 องศา, พื้นที่เก็บของส่วนตัว (Private Storage), พื้นที่สังสรรค์อย่าง Private Chef Table และห้องนั่งเล่นที่รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว (Glass House) พร้อมสัมผัสวิวเมืองที่สวยงาม, พื้นที่ของ Library ส่วนกลางที่พร้อมให้คุณหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ผ่านตัวหนังสือ จากหนังสือหลากหลายสัญชาติทั่วทุกมุมโลก เชื่อมต่อกับ Co-working Space รองรับให้ลูกบ้านสามารถมาทํางาน เรียน หรือประชุม

ตลอดจน Spa & Manicure ที่ช่วยอํานวยความสะดวกให้แก่ลูกบ้านที่รักสุขภาพและความงาม รวมถึงมุม Theater ที่มีระบบจอภาพและเสียงเหมือนยกทั้งโรงหนังมาไว้ดูแบบส่วนตัว ที่ลูกบ้านจะสามารถมาใช้เวลากับการดูหนัง ฟังเพลง นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่สำหรับคนรักการออกกำลังกาย โดยมีห้องซาวนาขนาดใหญ่, ห้องฟิตเนส และ ห้องซ้อมกอล์ฟด้วยเครื่องซิมูเลเตอร์ ซึ่งทั้งหมดนี้ลูกบ้านสามารถเลือกผ่อนคลายได้ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน 

“ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” เป็นโครงการที่ชูเรื่องการบริการและการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้พักอาศัย เทียบเท่ากับการบริการโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ด้วยการให้บริการ Concierge Services (เจ้าหน้าที่บริการอํานวยความสะดวก) โดยจับมือกับ Compass Hospitality (คอมพาส ฮอสพิทอลิตี้) ซึ่งทําหน้าที่ให้บริการช่วยเหลือประสานงานในเรื่องต่างๆ ตามความต้องการของลูกบ้านอย่างมืออาชีพระดับโลก

ส่องไฮไลท์ “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” คอนโดหรูใจกลางสุขุมวิท

นายวิทวัส กล่าวอีกว่า โครงการยังมีบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก “ไฮแอท รีเจนซี กรุงเทพฯ สุขุมวิท” (Hyatt Regency Bangkok Sukhumvit) ซึ่งเป็นโรงแรมระดับห้าดาวในเครือของบริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ในการนำ On-Demand Service มาเพิ่มประสบการณ์การอยู่อาศัยแบบเอ็กซ์คลูซีฟให้กับผู้อยู่อาศัย

ไม่ว่าจะเป็น Private Chef Table ที่ส่วนกลางชั้น 7 กับเมนูที่รังสรรโดยเชฟส่วนตัวจากโรงแรมหรู 5 ดาว, Exclusive Private Party พื้นที่จัดงานส่วนตัวที่ทำให้งานสำคัญของคุณพิเศษยิ่งกว่าที่เคย หรือจะเป็น Personal Fitness Trainer and Yoga Instructor ที่ส่วนกลางชั้น 41 ช่วยให้เป้าหมายการออกกําลังกายของคุณเป็นเรื่องง่ายขึ้น เป็นต้น

สำหรับโครงการ “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” เป็นคอนโดมิเนียม สูง 45 ชั้น บนพื้นที่ 2-2-18 ไร่ ติดถนนใหญ่บนสุขุมวิท มีจำนวน 311 ยูนิต โดยมีขนาดห้องพักอาศัยหลากหลาย ตั้งแต่ห้องพัก 1 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้นที่ 40 ตร.ม. ไปจนถึง Penthouse ขนาด 358 ตร.ม. ราคายูนิตเริ่มต้นที่ 11.9 ล้านบาท ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทย่านทองหล่อซึ่งเป็นที่นิยมของคนไทย และชาวต่างชาติ โดยเฉพาะคนญี่ปุ่น รายล้อมไปด้วยร้านอาหาร โรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาลชั้นนำ  เป็นต้น

ส่องไฮไลท์ “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” คอนโดหรูใจกลางสุขุมวิท

“วันนี้ ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ ถือเป็นหนึ่งในโครงการที่มีความหรูหรา และสง่างามที่สุดของกรุงเทพฯ นอกจากการออกแบบเพื่อช่วยยกระดับไลฟ์สไตล์ของผู้พักอาศัย โดยได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาในสไตล์แมนฮัตตันในเมืองนิวยอร์ครังสรรค์ขึ้นโดยสถาปนิกและดีไซเนอร์ชื่อดัง อาทิ I’LL Design, That’s ITH และ SHMA

โครงการยังจับมือกับทรู ดิจิทัล กรุ๊ปนำ “ดิจิทัลโซลูชัน” จากการเป็น Partner with True Smart Living  มาใช้ในทุกส่วนของอาคาร ซึ่งเป็นโครงการแรกที่ใช้นวัตกรรมสุดล้ำจาก ทรู ดิจิทัล เพื่อสร้างประสบการณ์ การอยู่อาศัยในรูปแบบ Smart Living ผ่าน Application ที่ถูกออกแบบมาสำหรับโครงการโดยเฉพาะ

หากมองถึงความคุ้มค่าในด้านการลงทุนแล้ว โครงการไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ มีความพิเศษเหนือกว่าโครงการอื่นๆ ในระดับราคาซูเปอร์ลักชัวรี่ ในทำเลใกล้เคียงกัน เนื่องจากโครงการได้มอบการบริการสูงสุดด้วยมาตรฐานระดับ 5 ดาวราคาที่เหมาะสม ในทำเลติดถนนใหญ่สุขุมวิท เมื่อรวมทุกองค์ประกอบแล้วทำให้ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ มีความโดดเด่นที่ไม่เหมือนใคร และเรามั่นใจว่า ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ซื้อ ทั้งในประเทศและนอกประเทศได้เป็นอย่างดี”

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


เปิด29ถนนทำเลทองอีอีซี ราคาที่ดินพุ่งแรง เลียบหาดพัทยาแชมป์

เปิด29ถนนทำเลทองอีอีซี ราคาที่ดินพุ่งแรง เลียบหาดพัทยาแชมป์

เปิดที่ดินทำเลทอง29 ถนนสายสำคัญในเขตอีอีซี ราคาซื้อขายที่ดินขึ้นยกแผงเฉลี่ย 7.6%  “area” สำรวจแพงสุด เลียบชายหาดพัทยา แชมป์ ที่ 6.1 แสนบาทต่อตร.ว. ขณะที่ดินเคลื่อนไหวปรับราคามากที่สุดอยู่ที่ถนนสุขุมวิท ระยอง 

ราคาที่ดินในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มีความเคลื่อนไหวต่อเนื่อง จากการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยของดีเวลลอปเปอร์ รองรับความต้องการของคนในพื้นที่ รวมถึงการเข้าซื้อกิจการ อสังหาริมทรัพย์ของนักลงทุนต่างชาติต่อจากผู้ประกอบการไทย ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด ส่งผลให้ราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้นตามความต้องการ

โดยพบว่า ราคาที่ดินแพงสุดตามราคาตลาดในภาคตะวันออก อยู่ถนนเลียบชายหาดพัทยา ราคา 610,000 บาทต่อตารางวา โดยราคาที่ดินขึ้นยกแผงเฉลี่ย 7.6% ส่วนที่อยู่อาศัยยังคึกคักในภาคตะวันออกโดยเฉพาะชลบุรีที่มีหน่วยขายมากที่สุดในประเทศรองจากเขตกรุงเทพมหานคร(กทม.)แต่จังหวัดที่ยังเติบโตช้าคือฉะเชิงเทรา แต่ในทางกลับกันยังถือว่าติดหนึ่งใน10จังหวัดที่มีการพัฒนาที่อยู่อาศัยสูงสุด

นายโสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (area.co.th) เปิดเผยว่า จากการสำรวจราคาที่ดินรวมถึงตลาดที่อยู่อาศัยพบข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยและที่ดินในภูมิภาคระเบียงภาคตะวันออกหรืออีอีซี จำนวน 29 จุดสำคัญ หรือ29ถนน 

ราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 7.6% จากปี 2564 โดยบริเวณที่ดินที่แพงที่สุดอยู่ที่ถนนเลียบชายหาดพัทยาซอย8ซึ่งอยู่บริเวณด้านหน้าของโรงแรมอิสตินี ราคาตารางวาละ 610,000 บาทโดยเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน(2564)  5.2% รองลงมา คือบริเวณถนนพัทยาสาย 2 ตรงข้าม พัทยาไนท์บาซา ตลาดยอดฮิตของคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ  ราคาต่อตารางวาอยู่ที่ 530,000 ปรับสูงขึ้นกว่าปีก่อนที่6.0%

ที่ปรับขึ้นสูงสุด ในจำนวน 29 ทำเล คือบริเวณถนนสุขุมวิท  ฝั่งตรงข้ามโชว์รุมโตโยต้า จังหวัดระยองราคา110,000 บาทต่อตารางวา ปรับขึ้นจากปีก่อน 13.4% ตามด้วยถนนอัสสัมชัญ-สวนเสือฝั่งตรงข้ามสวนเสือศรีราชา 45,000 บาทต่อตารางวา ปรับขึ้น12.5%

เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา รองลงมาคือบริเวณถนนพรประภานิมิตร  ตรงข้ามเทสโก้ โลตัส สยามคันทรี คลับพัทยาราคาตารางวาละ49,000 บาท ปรับสูงกว่าปีก่อน 11.4%

ส่วนทำเลที่ไม่มีความเคลื่อนไหว เปลี่ยนแปลงราคาที่ดินจะอยู่ที่ ถนนพัทยากลาง  ข้างร้านแม่ศรีเรือน ราคาตารางวาละ340,000 บาท และถนนพัทยาเหนือ  ตรงข้าม เฮลท์แลนด์ พัทยา (Heal Land Pattaya )ราคาตารางวาละ300,000บาท สัดส่วนที่ 0.0%

การไม่ปรับขึ้นมองว่า ราคาที่ดินอาจแพงชนเพดาน ไม่มีการซื้อขาย ,เจ้าของที่ดินไม่ขาย,การพัฒนาเต็มพื้นที่ ไม่มีการเปลื่อนมือขณะพื้นที่ที่ราคาที่ดินเปลี่ยนแปลงนายโสภณวิเคราะห์ว่าเกิดจากการซื้อขายเปลี่ยนมือจากนักลงทุนชาวอินเดีย ให้ความสนใจซื้อโรงแรมในพื้นที่

โดยเฉพาะในทำเลตัวเมืองพัทยาขณะกลุ่มนักลงทุนจีนยังน้อยหรือยังแทบไม่เคลื่อนไหวต่อการเข้าซื้อที่อยู่อาศัยหรือกิจการในอีอีซี อาจเป็นเพราะนโยบายแต่ละประเทศยังไม่เปิดให้มีการเดินทางจากผลพวงของสถานการณ์โควิด นั่งเอง

นายโสภณกล่าวต่อว่า ชลบุรีมีโครงการที่อยู่อาศัยมากที่สุดในประเทศไทยรองจากกทม. โดยมี 1,529 โครงการ รวม 259,939 หน่วย มีมูลค่าโครงการอยู่ 732,586 ล้านบาท หรือมีราคาเฉลี่ยหน่วยละ 2.818 ล้านบาท ขายเหลืออยู่ 34,172 หน่วย  ส่วนระยอง ก็อยู่ในระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกมีหน่วยขายรวมกันมากเป็นอันดับที่ 3 แต่หากนับจำนวนหน่วยรอขาย (เหลือขายอยู่) จะมีจำนวนมากเป็นอันดับที่ 3

โดยระยองมีหน่วยเหลือขายอยู่ 20,530 หน่วย ซึ่งมากกว่าเชียงใหม่ที่ยังรอขายอยู่ 13,594 หน่วยเท่านั้น และฉะเชิงเทรา มีหน่วยขายรอขายอยู่ 6,840 หน่วย ถือเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 10 ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าเฉพาะ 3 จังหวัดหลักของภาคตะวันออก ติดหนึ่งใน10ของจังหวัดที่มีการพัฒนาสูงสุด

ในรายละเอียดพบว่า 1. ฉะเชิงเทรามีสัดส่วนการขายค่อนข้างต่ำ คือเดือนหนึ่งขายได้ราว 1.8% เท่านั้น หน่วยขายกลุ่มใหญ่ที่สุดที่ยังเหลืออยู่เป็นทาวน์เฮาส์ จำนวน 2,633 หน่วย จากหน่วยที่รอขายอยู่ทั้งหมด 6,840 หน่วย

2. ชลบุรี มีหน่วยเหลือขายอยู่ 34,172 หน่วย แต่อัตราการขายดีกว่าฉะเชิงเทรา คือขายได้แล้ว 86.9% และแต่ละเดือนขายได้ 2.3% ของหน่วยขายทั้งหมด กลุ่มหลักที่ขายอยู่กลับเป็นห้องชุด โดยมีจำนวน 12,157 หน่วย รองลงมาคือทาวน์เฮาส์ 11,988 หน่วย

3. ระยองมีหน่วยรอขายอยู่ 20,530 หน่วย ขายได้แล้ว 72.5% และอัตราการขายประมาณ 2.3% ต่อเดือน สินค้าส่วนใหญ่ที่รอคนซื้ออยู่คือทาวน์เฮาส์ 8,821 หน่วย รองลงมาคือบ้านเดี่ยว 5,946 หน่วย และห้องชุด 2,229 หน่วยตามลำดับ

โดยสรุปแล้วตลาดที่อยู่อาศัยในฉะเชิงเทรายังขายได้น้อยกว่าจังหวัดอื่น และยังมีอัตราการขายที่ช้ากว่าจังหวัดอื่น จึงไม่ควรไปลงทุนเพิ่มอุปทานหรือปริมาณสินค้าให้มากไปกว่านี้ในช่วงนี้

เปิด29ถนนทำเลทองอีอีซี ราคาที่ดินพุ่งแรง เลียบหาดพัทยาแชมป์

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ผ่านจุดพีคแล้ว! ‘กอบศักดิ์’ แย้มข่าวดี ‘เงินเฟ้อโลก’ ปรับตัวลดลงช่วงครึ่งปีหลัง

ผ่านจุดพีคแล้ว! 'กอบศักดิ์' แย้มข่าวดี 'เงินเฟ้อโลก' ปรับตัวลดลงช่วงครึ่งปีหลัง

‘กอบศักดิ์’ อธิบายสาเหตุสำคัญที่จะทำให้เงินเฟ้ออยู่ในสถานการณ์ที่ดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี และจะเป็นจุดเริ่มต้นคลี่คลายวิกฤตเศรษฐกิจลูกใหญ่นี้

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ และอุปนายก สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า

“ข่าวดีท่ามกลางมรสุม Perfect Storm !!!โดยเงินเฟ้อจะดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีเขากล่าวว่า ที่ทุกคนรอคอยมาแต่ต้นปีก็คือ เงินเฟ้อจะ Peak เมื่อไหร่ จากข้อมูลต่างๆ ล่าสุด

ถ้าไม่มีอะไรที่พลิกผันเกินคาด เช่น สงครามลุกลามบานปลาย เปิดแนวรบใหม่ เงินเฟ้อโลกน่าจะเริ่มลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่จะช่วยสะสางปัญหาอันยุ่งเหยิงของ Perfect Storm ให้ค่อยๆ คลี่คลายลงบ้างที่คาดว่า “เงินเฟ้อจะเริ่มลง” ก็เพราะปัจจัยต่างๆ ได้เปลี่ยนไปจากช่วงต้นปี ที่สำคัญสุดก็คือ ราคาน้ำมันโลกเริ่มลงมาบ้างแล้ว แม้จะปรับตัวขึ้นลงบ้างในแต่ละสัปดาห์ แต่ก็อยู่ในระดับประมาณ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล ใกล้ๆ กับช่วงก่อนที่เปิดฉากสงคราม (ไม่ใช่ 130-140 ดอลลาร์/บาร์เรล) 

ผลดีที่เราเริ่มเห็นตามมาก็คือ ราคาหน้าปั๊มลดลงในไทย เบนซิน 95 จาก 52 บาท/ลิตร ตอนนี้อยู่ที่ 45 บาท/ลิตร

ในสหรัฐ ราคาน้ำมันหน้าปั๊มที่เคยขึ้นไปที่มากกว่า 5 ดอลลาร์/แกลลอน ตอนนี้ ได้ลดลงต่ำกว่า 4.5 ดอลลาร์/แกลลอน เป็นครั้งแรกนับแต่เดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา   

เรื่องนี้มีนัยต่อไปที่เงินเฟ้อ Headline Inflation ของสหรัฐ เพราะว่าองค์ประกอบหมวด Energy ที่มีสัดส่วน 8.7% ของทั้งหมด และหมวดย่อย Energy Commodities ที่มีสัดส่วน 5.2% นั้น เป็นหัวใจหลักที่ทำให้เงินเฟ้อพุ่งในช่วงที่ผ่านมา

อย่างเดือนมิถุนายน ที่เงินเฟ้อสหรัฐ +9.1% มาจากการที่หมวด Energy +42% หมวดย่อย Energy Commodities +61% !!!

ถ้าราคาน้ำมันหน้าปั๊มสหรัฐยังอยู่ในระดับนี้ หรือลดลงต่ออีกเล็กน้อย แรงกดดันต่อเงินเฟ้อรวม ที่มาจากหมวดย่อย Energy Commodities นี้ จะลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงครึ่งหลังของปี ถ้าอยู่ที่ 4.5 ดอลลาร์/แกลลอน หมวดย่อยนี้จะอยู่ที่ +30% ในต้นไตรมาส 4 ถ้าอยู่ที่ 4.0 ดอลลาร์/แกลลอน หมวดย่อยนี้จะอยู่ที่ +20% ในต้นไตรมาส 4

ถ้าอยู่ที่ 3.5 ดอลลาร์/แกลลอน หมวดย่อยนี้จะอยู่ที่ +3% ในต้นไตรมาส 4 ช่วยให้เงินเฟ้อสหรัฐเริ่มปรับตัวลดลงได้

นอกจากนี้ ที่คาดว่าเงินเฟ้อจะ Peak เพราะยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่มาช่วยลดแรงกดดันต่อเงินเฟ้อเพิ่มเติมด้วย

(1) ราคาสินค้าโลหะโลก ที่ได้ปรับลดลงในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งโลหะมีความสำคัญอย่างยิ่งกับการผลิตอุปกรณ์ และเครื่องจักรต่างๆ รวมไปถึงภาคก่อสร้าง

(2) ราคาธัญพืช และอาหารโลกที่เริ่มปรับตัวลดลงบ้าง ในบางหมวดสินค้า

(3) ดอกเบี้ยที่เริ่มเพิ่มขึ้น จากการเร่งปรับดอกเบี้ยของธนาคารกลางประเทศต่างๆ ช่วยส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในบางด้านเริ่มชะลอลง เช่น ภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่เริ่มร้อนแรงลดลงมาก หลังดอกเบี้ย Mortgage ปรับตัวขึ้นสูง

(4) ที่สำคัญสุดก็คือ ความกังวลใจของทุกคนว่า “สงครามของธนาคารกลางกับเงินเฟ้อ” จะนำไปสู่ Recession ในอนาคต และอาจจะลุกลามเป็น Global Recessions ทำให้ทุกคนเริ่มลดการใช้จ่าย ชะลอการจ้างงาน บางแห่งประกาศลดคนงานลง!!!

ทั้งหมดนี้ หมายความว่า ปัจจัยสำคัญๆ ที่เป็นแรงกดดันต่อเงินเฟ้อ เริ่มคลี่คลาย และจะนำไปสู่การปรับตัวลดลงของเงินเฟ้อในช่วงครึ่งหลังของปี

หลายคนมีคำถามต่อไปว่า หลัง Peak แล้ว ทุกอย่างจะจบหรือไม่ การเริ่ม Peak จะเป็นเพียง “ก้าวแรก” เท่านั้น หลังจากนั้น ก้าวต่อไปที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด ก็คือ

ก้าวสอง – เงินเฟ้อลดลงเร็วแค่ไหน หรือค่อยๆ ลดลงจาก Peak

ก้าวสาม – เงินเฟ้อจะกลับมาที่ 3-4% เมื่อไหร่

ก้าวสี่ – เงินเฟ้อกลับมาที่เป้าหมาย 2% หรือไม่

พัฒนาการของทั้งสี่ก้าวนี้ จะมีนัยต่อการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลาง เพราะสิ่งที่เป็นเป้าหมายของธนาคารกลาง 

ไม่ใช่เงินเฟ้อ Peak

ไม่ใช่เงินเฟ้อลด

ไม่ใช่เงินเฟ้อที่ 3-4%

แต่เป็นการกดเงินเฟ้อกลับมาที่ 2% อีกครั้ง

ช่วงที่ยากสุด น่าจะเป็นการลดลงจาก 3-4% กลับมาที่ 2% เพราะเงินเฟ้อ 3-4% สุดท้าย น่าจะมาจากหมวดอื่นๆ ใน Core inflation 

หากเงินเฟ้อดื้อแพ่ง ไม่ยอมลง ธนาคารกลางก็ต้องขึ้นดอกเบี้ยไป จนกระทั่งเงินเฟ้อยอมสยบ กลับมาที่ 2% 

หมายความว่า แม้เงินเฟ้อจะ Peak แต่เรายังจะเห็นธนาคารกลาง “จ่ายยาแรง” ไปอีกระยะ 

ที่สำคัญ ธนาคารกลางอาจต้องขึ้นดอกเบี้ยไปไกลกว่าที่ทุกคนคาด จากที่เคยพูดกันว่า เฟดจะขึ้นไปที่ 3.8% แล้วจบ อาจจะไม่พอสำหรับความท้าทายรอบนี้ 

แต่ทั้งหมดนี้ แม้หนทางจะยังอีกยาวไกล อย่างน้อยที่สุด เงินเฟ้อที่ Peak จะเป็นข่าวดีแรกที่นำไปสู่การคลี่คลายวิกฤติ Perfect Storm ครับ”

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


ยกน้ำหนักดาวรุ่งไทย กวาด 4 ทอง ศึกชิงแชมป์เอเชีย

ยกน้ำหนักดาวรุ่งไทย กวาด 4 ทอง ศึกชิงแชมป์เอเชีย

การแข่งขันยกน้ำหนักยุวชนและเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ประจำปี 2565 ที่กรุงทาชเคนท์ ประเทศอุซเบกิสถาน วันนี้มีนักกีฬาไทยลงแข่งขัน 4 รุ่น

เยาวชนชาย รุ่น 67 กิโลกรัม วีรพล วิชุมา โชว์ฟอร์มเหนือชั้น เหมาคนเดียว 3 เหรียญทองในรุ่นนี้ ท่าสแนทช์ ยกผ่านครั้งเดียว สถิติดีสุด 135 กิโลกรัม ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก ยกครั้งเดียว สถิติ 165 กิโลกรัม  รวม 2 ท่า สถิติดีสุด 300 กิโลกรัม

เยาวชนหญิง รุ่น 55 กิโลกรัม โป๊ยเซียน ยอดสาร คว้ามาได้ 1 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน โดยท่าสแนทช์ ยกผ่าน 2 ครั้งสถิติดีสุด 81 กิโลกรัม คว้าเหรียญเงิน ส่วนท่าคลีนแอนด์เจิร์ก ยกผ่าน 2 ครั้ง สถิติอยู่ที่ 103 กิโลกรัม ได้เหรียญเงิน อย่างไรก็ตามเมื่อรวมผล 2 ท่า โป๊ยเซียน ยอดสาร ยกได้ 184 กิโลกรัม ดีพอที่จะคว้าเหรียญทองไปครอง

ยุวชนชาย รุ่น 73 กิโลกรัม วรพรต นาสุริวงศ์ ทำผลงานได้ 2 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง โดยท่าสแนทช์ สถิติดีสุด 135 กิโลกรัม คว้าเหรียญทองแดง ส่วนท่าคลีนแอนด์เจิร์ก วรพรต ยกผ่านทั้ง 3 ครั้ง สถิติ 172 กิโลกรัม  ขณะที่น้ำหนักรวม วรพรต ทำสถิติ 307 กิโลกรัม รับเหรียญเงินไปครอง

ยุวชนชาย รุ่น 55 กิโลกรัม ปัฐษพงษ์ ทองสุก ท่าสแนทช์ ยกไม่ผ่านทั้ง 3 ครั้ง ทำให้ไม่มีสถิติในท่าสแนทช์ ส่วนท่าคลีนแอนด์เจิร์ก ปัฐษพงษ์ ยกได้ 116 กิโลกรัม ได้อันดับ 4 ด้านน้ำหนักรวมไม่มีสถิติ เนื่องจากท่าสแนทช์ไม่มีสถิติ

สรุปผลงานนักยกน้ำหนักไทยในรายการนี้ผ่านไป 2 วันคว้าไปแล้ว 4 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน 3 เหรียญทองแดง

ส่วนโปรแกรมวันพรุ่งนี้ (21 ก.ค.) จอมพลังไทยลงแข่ง 2 คน เยาวชนหญิง ปริฉัตร กุนราและสุรัสวดี ยอดสาร รุ่น 59 กิโลกรัม เวลา 18.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


9 อาหารที่ผู้ป่วย “วัณโรคปอด” ควรหลีกเลี่ยง

9 อาหารที่ผู้ป่วย “วัณโรคปอด” ควรหลีกเลี่ยง

นอกจากจะมีอาหารที่ควรกินแล้ว ผู้ป่วยวัณโรคปอด ยังมีอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงด้วย

วัณโรคปอด คืออะไร

นายแพทย์ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า วัณโรค หรือ TB คือโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ไมโคแบคทีเรียมทูเบอร์ คูโลซิส วัณโรคสามารถเป็นได้ทุกส่วนของอวัยวะทั่วร่างกาย และบริเวณที่ติดเชื้อวัณโรคบ่อยที่สุดก็คือปอด ซึ่งสมัยก่อนเรียกว่า ฝีในท้อง แต่ก็สามารถติดเชื้อที่ส่วนอื่นของร่างกายได้เช่นกัน เช่น ในกระดูก ลำไส้ ต่อมน้ำเหลือง หรือสมอง 

การติดต่อของโรควัณโรคปอด

วัณโรคแพร่เชื้อโดยการไอ จาม ฝอยละอองเสมหะที่ออกมาจากปอดของผู้ป่วยที่เป็นวัณโรคและผู้ที่ติดเชื้อวัณโรคก็คือผู้ที่หายใจรับเชื้อวัณโรคที่ล่องลอยในอากาศเข้าสู่ปอด 

อาการของผู้ป่วยวัณโรคปอด

อาการของผู้ป่วยที่เป็นวัณโรคปอดมีหลายอาการ และสิ่งที่ทำให้ผู้ป่วยวัณโรคปอดมีน้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว คือ ผู้ป่วยมีอาการเบื่ออาหาร สาเหตุของการเบื่ออาการก็คือ ผลจากโรคและผลข้างเคียงจากยา ต่อมรับรสผิดปกติ มีเสมหะ ไอ เหนื่อย 

ผู้ป่วยวัณโรคปอด เสี่ยงขาดสารอาหาร

รวมทั้งดื่มน้ำมากเกินไปทำให้อิ่มน้ำ ทำให้ผู้ป่วยเกิดภาวะทุพโภชนาการ ร่างกายขาดสารอาหาร ส่งผลให้อาการของโรคและอาการแพ้ยารุนแรงมากขึ้น ผู้ป่วยจึงควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่

นายแพทย์เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ตามหลักโภชนาการเพื่อให้ได้รับสารอาหารครบถ้วนนั้น ผู้ป่วยวัณโรคปอดควรเลือกรับประทานอาหารในหมู่ต่างๆ ดังนี้ 

  • หมู่ที่ 1 เนื้อสัตว์ต่างๆ นม ไข่ เต้าหู้ ช่วยให้ร่างกายได้รับโปรตีน ในการฟื้นฟูเสริมสร้างภูมิต้านทาน 
  • หมู่ที่ 2 ข้าว แป้ง ข้าวโพด เผือก มัน ฟักทอง น้ำตาลควรเลือกเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ขัดสี เช่นข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท เพราะมีวิตามินบีสูงช่วยลดอาการชาปลายมือปลายเท้าและเพิ่มความอยากอาหาร 
  • หมู่ที่ 3 และ 4 พืชผักและผลไม้ต่างๆ ควรเลือกรับประทานให้หลากหลาย เพื่อให้ได้รับสารอาหารต่างๆ ตลอดจนเสริมสร้างภูมิต้านทาน ป้องกันการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ  
  • หมู่ที่ 5 น้ำมัน ไขมันจากพืชและสัตว์ ซึ่งให้พลังงานสูง สร้างความอบอุ่นแก่ร่างกาย ควรเลือกบริโภคน้ำมันที่มีกรดไขมันดี เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด 

อาหารที่ผู้ป่วย “วัณโรคปอด” ควรหลีกเลี่ยง

ถ้าผู้ป่วยวัณโรคปอดมีอาการไอ และมีเสมหะ ควรหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้

  1. เนื้อสัตว์ติดมัน หนังสัตว์ 
  2. ของทอด ของมัน 
  3. กะทิ
  4. น้ำเย็น 
  5. น้ำมันที่มีกรดไขมันอิ่มตัวสูง อาทิ น้ำมันจากสัตว์ น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว 
  6. อาหารที่มีแก๊สสูง เช่น ของดอง ถั่ว น้ำอัดลม 
  7. เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ 
  8. อาหารที่มีกลิ่นแรง
  9. อาหารสำเร็จรูป เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 

หากผู้ป่วยวัณโรคปอดสามารถปฏิบัติตนโดยรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ และรับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอจะทำให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูจากโรคและมีสุขภาพแข็งแรง

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


สารพัดจะบอกว่า เหนื่อย พูดยังไงได้บ้าง

สารพัดบอกเหนื่อย

มาๆ พวกเธอ แอดมีอะไรจะเม้า
ก่อนหน้านี้เลี้ยงหมู ก็ดันมาตายยกเล้า ข่าวล่าสุดจากวงในบอกว่าไข่ไก่ กำลังจะขึ้นราคาต่อแผง มาม่าไม่ลดราคา เหนื่อยใจนะ

(กราบบบบ) 

(ต่อ) ทุกเช้าคุณแม่ก็ปลุกแอดตั้งแต่ไก่โห่ ให้มานั่งรอนางๆฟักไข่  กลางวันก็เข้าสวน รดน้ำต้นไม้ใบหญ้า คุณแม่ไม่เข้าใจดาวมหาลัยอย่างแอดเลย ให้ตากแดดตากลมอยู่นั่นแหละ ตกเย็น คุณแม่เรียกไปตัดใบเตยข้างบ้านอีก 

เหนื่อย เหนื่อย เหนื่อย  

I’M TIRED.

เหนื่อยนัก ขอพักจะได้ไหมล่ะคุณแม่ กว่าจะได้แต่ละบาท ค่าครองชีพเพิ่ม เงินเดือน(จากแม่)ไม่เพิ่มนาจา (= =)”
  ฟังแอดบ่นสักพักละ มารับความรู้กันดีกว่าจ้า 

ตัวอย่างการพูด เวลาเหนื่อย ฉบับภาษาอังกฤษ สามารถพูดและบอกกล่าวยังไงได้บ้าง

นอกจากคำว่า I’m tired. 

I’m exhausted.

คำว่า exhausted หมายถึง เหนื่อยแบบหมดเรี่ยวหมดแรง ขอนอนเฉยๆ เหนื่อยสายตัวแทบขาด

I’m sleepy.

ใช้คำนี้ได้เมื่อต้องการบอกว่า รู้สึกเพลีย อยากนอน ง่วง ข้ออ้างเวลาของคนขี้เกียจคุยกับแฟนตัวจริง จะแอบไปคุยกับกิ๊ก (อุต๊ะ!!)

I’m fatigued.

นี่เป็นอีกหนึ่งคำที่ใช้บอกว่าเราเหนื่อย หมดแรง ไม่ว่าจะจากการทำงาน การออกกำลังกาย หรือกิจกรรมใดๆ ก็ตาม

I’m worn out.

Worn out หมายถึงเหน็ดเหนื่อยอย่างมาก อย่างสุดๆไปเลย ตัวอย่างเช่น  I’ve been working all night and I’m worn out.  (คำแปล ฉันทำงานมาทั้งคืน และฉันรู้สึเหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างมาก)

I’m out of energy.

แปลตรงตัวได้เลย คือ หมดแรงแล้วจ้า

I’m pooped.

เดี๋ยว!! สายฝออย่างเรา อย่าไปผายมือเชิญจ้ะ ยิ้มสวย โปรยเสน่ห์หญิงไทย โน่นจ้ะ ห้องน้ำ
อย่านะคะ! อย่านะคะ !
เพราะจริงๆแล้ว คำๆ นี้เป็นภาษาพูด เพื่อบอกว่า “เหนื่อยมาก” ต่างหากล่ะ

I’m weary.

Weary คำนี้แปลว่า เหนื่อยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่ทำอะไรบางอย่างนานๆ ดังนั้นเวลาเราเหนื่อย เราก็เอาหัวซบๆดุนๆคนข้างๆ และก็เปรยกับสายลมว่า I’m weary. 

I’m beat.

คำว่า beat แปลว่า เอาชนะ โจมตี แต่พอมาเป็นสำนวนนี้ แปลว่า เหนื่อยมากๆ เช่น  I’ve been up since three in the morning.  I’m beat. (คำแปล ฉันตื่นมาตั้งแต่ตีสาม ฉันเหนื่อยมาก)

ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th


เปิดโผ 7 รถยนต์ไฟฟ้า 2022 ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท

เปิดโผ 7 รถยนต์ไฟฟ้า 2022 ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท

   แนะนำ 7 รถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ราคาจำหน่ายไม่เกิน 1 ล้านบาท ที่สามารถหาซื้อได้ในปี 2022 นี้ จะมีรุ่นไหนให้เลือกบ้างไปดูกันเลย

รวม 7 รถยนต์ไฟฟ้าราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ที่หาซื้อได้ในปี 2022 นี้

  • Pocco DDราคาจำหน่าย 389,000 – 449,000 บาท
ev01

     Pocco DD เป็นรถยนต์ไฟฟ้าตัวถังแบบ 5 ประตูขนาดเล็ก ตัวรถมีความยาวตลอดคันเพียง 3,310 มิลลิเมตร รองรับผู้โดยสารได้ 4 ที่นั่ง ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 29 กิโลวัตต์ (39 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 110 นิวตัน-เมตร ทำความเร็วสูงสุดได้ประมาณ 100 กม./ชม. (หรือมากกว่านั้นเล็กน้อย) พร้อมแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออนความจุ 10.3 kWh ให้ระยะทางขับขี่ราว 128 กม. ในรุ่น DD L หรือจะเพิ่มขนาดเป็น 14.5 kWh ให้ระยะทางขับขี่ประมาณ 178 กม. ในรุ่น DD K สามารถชาร์จไฟบ้านจนเต็มได้ในเวลาราว 6-8 ชั่วโมง ไม่รองรับการชาร์จด่วนแต่อย่างใด

  • Pocco MMราคาจำหน่าย 399,000 – 469,000 บาท
ev02

 Pocco MM มีลักษณ์คล้ายกับรุ่น DD แต่เปลี่ยนไปใช้ตัวถังแบบ 3 ประตู สามารถรองรับได้ 2 ที่นั่ง ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 20 กิโลวัตต์ (27 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 100 กม./ชม. ในรุ่น YX ติดตั้งแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออนขนาด 9.2 kWh ขับขี่ได้ไกลราว 116 กม. ส่วนรุ่น ZX เพิ่มขนาดแบตเตอรี่ขึ้นเป็น 14 kWh ขับขี่ได้ไกล 170 กม. สามารถชาร์จไฟบ้านได้ในเวลาราว 6-8 ชั่วโมง ไม่รองรับการชาร์จด่วนเช่นกัน

  • Takano TTE 500ราคาจำหน่าย 499,000 บาท
ev04

   Takano TTE 500 เป็นรถกระบะไฟฟ้าฝีมือคนไทยที่เคยนำมาออกบูธในงาน Bangkok International Motor Show 2022 ที่ผ่านมา ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 5.5 กิโลวัตต์ (7.4 แรงม้า) สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 60 กม./ชม. พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 11 kWh ให้ระยะทางขับขี่ราว 100 – 120 กม. ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง สามารถชาร์จด้วยไฟบ้านจนเต็มได้ในเวลาราว 6-7 ชั่วโมง ไม่รองรับการชาร์จด่วนแต่อย่างใด

  • MG EPราคาจำหน่าย 771,000 บาท -งดรับจองชั่วคราว-
mg_ep_01

 MG EP เป็นรถยนต์ไฟฟ้าตัวถังสเตชันแวกอนเพียงรุ่นเดียวในตลาดปัจจุบัน ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 260 นิวตัน-เมตร พร้อมเกียร์แบบ Single-speed สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 8.8 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 185 กม./ชม. ส่วนแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออนความจุ 50.3 kWh สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางไกลสูงสุด 380 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) รองรับการชาร์จด่วนจาก 0 – 80% ได้ในเวลา 40 นาที และชาร์จผ่าน MG Home Charger จนถึงระดับ 100% ในเวลา 7 ชั่วโมง 15 นาที

>> MG EP 2022 รถไฟฟ้า 100% ลดราคาตามมาตรการรัฐเหลือ 761,000 บาท

  • ORA Good Catราคาจำหน่าย 763,000 – 1,286,000 บาท -งดรับจองชั่วคราว-
ora_good_cat_11

 ORA Good Cat ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 143 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-50 กม./ชม. ได้ในเวลา 3.8 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 152 กม./ชม. โดยในรุ่น 400 TECH และ 400 PRO ติดตั้งแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) ความจุ 47.788 kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 400 กม. รองรับการชาร์จด่วนแบบ DC จาก 0-80% ในเวลา 45 นาที หรือ 30-80% ในเวลา 32 นาที และสามารถชาร์จด้วยไฟบ้านแบบ AC จาก 0-100% ในเวลา 8 ชั่วโมง

     ส่วนรุ่น 500 ULTRA ติดตั้งแบตเตอรี่แบบลิเธียม Ternary (NMC) ความจุ 63.139 kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 500 กม. รองรับการชาร์จด่วนแบบ DC จาก 0-80% ในเวลา 60 นาที หรือ 30-80% ในเวลา 40 นาที และสามารถชาร์จด้วยไฟบ้านแบบ AC จาก 0-100% ในเวลา 10 ชั่วโมง

     ขณะที่รุ่น GT เพิ่มกำลังสูงสุดขึ้นเป็น 171 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 8.5 วินาที เสริมด้วยโหมด Launch Control เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเร่งออกตัว พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 63.319 kW สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางราว 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง

>> ถูกลงอีก! ORA Good Cat 2022 หั่นราคารอบสอง เหลือ 763,000 – 959,000 บาท
>> เปิดราคา ORA Good Cat GT ใหม่ เคาะ 1,286,000 บาท จำกัดล็อตแรก 500 คัน

  • Volt City EVราคาจำหน่าย -ยังไม่ประกาศ-
volt_15

    Volt City EV เตรียมเข้ามาจำหน่ายโดย EV Primus ซึ่งเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายเอสยูวี DFSK ในปัจจุบัน โดยสเปกเบื้องต้นระบุว่าถูกติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าที่สามารถขับขี่ได้ด้วยความเร็วสูงสุด 105 กม./ชม. และแบตเตอรี่ที่สามารถขับขี่ได้ไกล 200 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง และชาร์จด้วยไฟบ้านจนเต็มได้ในเวลาราว 6 ชั่วโมง รวมถึงสามารถจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกเพื่อใช้งานบนถนนจริงได้ ขณะที่ราคาจำหน่ายจะเริ่มต้นไม่เกิน 4 แสนบาท มีกำหนดเปิดตัวในไทยช่วงเดือนสิงหาคมนี้

>> VOLT City EV ใหม่ รถไฟฟ้าจิ๋วราคาไม่ถึง 4 แสนบาทจ่อเปิดตัวในไทยสิงหาคมนี้

  • Neta Vราคาจำหน่าย -ยังไม่ประกาศ-
neta_v_07

    Neta V รถยนต์ไฟฟ้า 100% โดย บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเวอร์ชันไทยคาดว่าจะถูกติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 95 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 160 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่ง 0-50 กม./ชม. ในเวลาราว 3.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 101 กม./ชม. พร้อมแบตเตอรี่แบบ Ternary Lithium (CATL) ความจุ 38.54 kWh ขับขี่ได้เป็นระยะทางราว 380 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC สามารถชาร์จไฟแบบ AC จาก 0-100% ในเวลา 8 ชั่วโมง รองรับการชาร์จด่วนแบบ DC จาก 30-80% ในเวลาราว 30 นาที และมีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยวันที่ 24 สิงหาคม 2565 นี้ โดยคาดว่าจะมีราคาจำหน่ายไม่เกิน 6 แสนบาท

>> สเปกเบื้องต้น NETA V รถไฟฟ้า 100% ราคาไม่เกิน 6 แสนบาท ก่อนขายจริงในไทย 20 ก.ค.นี้

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


COTTO เปิดตัวกระเบื้องรักษ์โลก ECO COLLECTION ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ในลวดลายบันดาลใจจากดินเผาสุดคลาสสิก

เปิดลาย 3 ซีรีส์กระเบื้องใหม่จาก COTTO ที่ได้แรงบันดาลใจจากมนต์เสน่ห์ของกระเบื้องดินเผาดั้งเดิม ถูกใจผู้บริโภคยุคใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมแน่นอนกับนวัตกรรมการผลิตที่ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติใน ECO COLLECTION กระเบื้องรักษ์โลกแห่งปีภายใต้แบรนด์ COTTO โลโก้สีเขียว ท้าทายพลังสร้างสรรค์ของนักออกแบบทุกคน

▨ ส่องลวดลาย ECO COLLECTION กระเบื้องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจาก COTTO ▨

เป็นที่น่าสนใจอย่างมากเมื่อเปิดตัวครั้งแรกในงานสถาปนิก’65 ที่ผ่านมา ด้วยคุณสมบัติโดดเด่น ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติใหม่ในการผลิตถึง 80% ลดการปล่อยก๊าซ CO2 จากการขนส่ง 75% เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ใหญ่กว่า 944 ต้น ลดการใช้น้ำใหม่ 25% ด้วยการหมุนเวียนน้ำกลับมาใช้ซ้ำ มั้งยังปราศจากสารอินทรีย์ระเหยและสารเคมีโลหะหนักที่มีผลต่อธรรมชาติและมนุษย์

กระเบื้อง ECO COLLECTION มาในลวดลายที่เหมาะกับการใช้งานทั้งส่วนพื้นและผนัง ท้าทายความคิดสร้างสรรค์ของคุณ ในการค้นหาไอเดียใหม่ ๆ ได้แก่

  • ECO TERRA SERIES จากมนต์เสน่ห์ของกระเบื้องดินเผาสู่นวัตกรรมร่วมสมัยด้วยเทคนิค Random Design ตามลักษณะของดินเผาธรรมชาติ มาใน 6 สีเอิร์ธโทน
  • ECO-TERRA VISTA (MIX) Series ลวดลายสไตล์ชิโน-โปรตุกิส (Chino-Portuguese) สำหรับผู้หลงใหลสไตล์ยุโรปผสมจีน บนกระเบื้องตกแต่งพร้อมเพิ่มความงามให้พื้นที่ของคุณ
  • ECO-TERRA BOHO SERIES เส้นสายกราฟิกแนวทแยงที่ผสานความ antique ของลวดลายโบราณกับความงามร่วมสมัย สามารถปูในทางเดียวกันหรือเล่น pattern เป็นลักษณะของ 4 แผ่นต่อได้

 COTTO สีเขียว 

เบื้องหลังความสำเร็จของการพัฒนานวัตกรรมกระเบื้อง ECO COLLECTION นี้ คือแผนการดำเนินธุรกิจ ที่ผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่ควบคู่ไปกับการใส่ใจธรรมชาติ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในการวิจัยและพัฒนาสินค้า บริการ และโซลูชั่น เพื่อส่งมอบวัสดุในการตกแต่งที่พักอาศัยให้สามารถรองรับกิจกรรมในทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม

โลโก้ COTTO สีเขียวที่อยู่คู่กับผลิตภัณฑ์จึงจะเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงกลุ่มสินค้ารักษ์โลก ตอกย้ำให้เห็นความตั้งใจในการให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมช่วยดูแลโลกและสิ่งแวดล้อม “ตั้งแต่จุดเริ่มต้น การเกิดผลิตภัณฑ์นั้นๆ มาสู่การหมุนเวียนไม่รู้จบ เพื่อทรัพยากรที่ยั่งยืน และส่งต่อเพื่ออนาคต” นายสิทธิชัย  สุขกิจประเสริฐ Chief Marketing บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) อธิบาย

ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 21/07/2565

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a29,450.0029,550.00
ทองรูปพรรณ 96.5%1,908.0028,925.2830,050.00
ทองรูปพรรณ 90%1,717.2026,032.75n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,526.4023,140.22n/a
ทองรูปพรรณ 50%859.0013,022.44n/a
ทองรูปพรรณ 40%668.0010,126.88n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%1,977.0029,971.32n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 21/07/2565



ปตท.

บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9538.2538.2538.2538.2538.2538.2538.2538.2538.2538.25
แก๊สโซฮอล์ 9137.9837.9837.9837.9837.9837.9837.9837.9837.9837.98
แก๊สโซฮอล์ E2037.1437.1437.1437.1437.1437.1437.1437.1437.14
แก๊สโซฮอล์ E8533.3433.3433.34
เบนซิน 9545.6646.1146.1646.1645.66
ดีเซล B734.9434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.94
ดีเซล34.9434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.94
ดีเซล B2034.9434.9434.9434.9434.9434.9434.94
ดีเซลพรีเมี่ยม46.3648.8649.7649.7649.7646.36
แก๊ส NGV15.5915.5915.59

About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า