สาระน่ารู้ประจำวันที่ 22 สิงหาคม 2565

ปิดประเทศ ฟื้นอสังหาฯภูเก็ต ‘วิลล่าหรู’ ขายดีโต 60%

เปิดประเทศ ฟื้นอสังหาฯภูเก็ต 'วิลล่าหรู' ขายดีโต 60%

จับตา ตลาดคอนโดฯ – วิลล่าตากอากาศ ภูเก็ต ฟื้นแรง อานิสงส์เปิดประเทศ ดัน ดีมานด์คนไทย และ ต่างชาติ ซื้ออยู่เอง – แห่ลงทุน

แผนกวิจัย ซีบีอาร์อี ประเทศไทย จำกัด ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมภูเก็ตในช่วงครึ่งแรกปี 2565 ว่า มีเพียงจำนวน 215 ยูนิต ที่เข้าสู่ตลาดใหม่ หลังจาก ก่อสร้างแล้วเสร็จ สำหรับ โครงการ VIP Great Hill Condominium ซึ่งก่อสร้างล่าช้ากว่ากำหนด เนื่องจากการแพร่ระบาดโควิด-19  จึงส่งผลให้ ในครึ่งปีแรกของปี 2565 มีคอนโดมิเนียมในตลาดภูเก็ตทั้งสิ้น 10,315 ยูนิต เพิ่มขึ้น 4.3% ต่อปี เมื่อเทียบกับ 9,891 ยูนิต ในครึ่งปีแรกของปี 2564  

ทั้งนี้ ซีบีอาร์อี คาดการณ์ด้านซัพพลายใหม่ ว่า จะมีเพิ่มขึ้นอีกราว 3,700 ยูนิต ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2567 โดยส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในตอนกลางของชายฝั่งตะวันตก ชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ และชายฝั่งด้านใต้

  • ดีมานด์คอนโดฯโตกว่า200%


สำหรับด้านดีมานด์ ความต้องการคอนโดมิเนียมตากอากาศในจังหวัดภูเก็ต พบว่า มียอดขาย 630 ยูนิตในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 เพิ่มขึ้น 209.8% ต่อปี จาก 204 ยูนิตที่ขายได้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 หรือคิดเป็นเติบโต 146.8% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงครึ่งปีหลังของปี 2564 ที่ขายได้ 255 ยูนิต

โดยผู้ซื้อคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ เป็นชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวรัสเซีย ซึ่งส่วนใหญ่ซื้อเพื่อการลงทุน โดยผู้ซื้อเหล่านี้ต้องการซื้อยูนิตขนาดเล็ก (สตูดิโอและหนึ่งห้องนอน) มากกว่าซื้อยูนิตที่ใหญ่กว่า   ทั้งนี้ ยอดขายบางส่วนมาจากการขายออนไลน์ และลูกค้าบางคนตัดสินใจซื้อโดยที่ไม่เคยเห็นห้องตัวอย่างมาก่อน

” ซีบีอาร์อีคาดว่าจะเห็นความต้องการห้องสตูดิโอมากขึ้นซึ่งเป็นที่นิยมมากที่สุดสำหรับการปล่อยเช่า ทำให้ผู้ซื้อมีความยืดหยุ่นในการใช้พักอาศัยเองและเพื่อการลงทุน” 

  • วิลล่าเปิดเยอะ-ขายดี


ขณะที่ ตลาดวิลล่าภูเก็ต ในช่วงครึ่งแรกปี 2565
พบยังคงมีความคึกคักต่อเนื่องมาจากช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว  โดยสภาวะตลาดที่ปรับตัวดีขึ้นนี้ เห็นได้จากจำนวนโครงการวิลล่าเปิดตัวใหม่ที่เพิ่มมากขึ้นและยอดขายที่ดี  ซึ่งบางโครงการสามารถปิดการขายได้หมดทุกหลัง


โดย ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดใหญ่ ความต้องการวิลล่าในตลาดส่วนใหญ่มาจากผู้ซื้อในประเทศเพื่อพักอาศัยเอง   ซีบีอาร์อีเริ่มเห็นความต้องการซื้อวิลล่าจากผู้ซื้อชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นเนื่องจากประเทศไทยผ่อนปรนข้อกำหนดในการเดินทางเข้าประเทศในช่วงครึ่งแรกของปี 2565



” ช่วงครึ่งปีแรกของ มีการขายวิลล่าไปทั้งหมด 130 หลัง เพิ่มขึ้น 60.5% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงครึ่งปีหลังของปี 2564  และ 113.1.% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564  แผนกวิจัย ซีบีอาร์อีเชื่อว่าวิลล่าส่วนใหญ่ที่ขายให้กับผู้ซื้อทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินั้นเป็นการซื้อเพื่อพักอาศัยเอง “

สำหรับโครงการวิลล่าเปิดใหม่ 6 โครงการในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 รวมจำนวน 82 ยูนิต ได้แก่ 1) Rosewood Residences Kamala (2) Zenithy Luxe (3) Trichada Breeze (4) Grand View Residences Lagoon (5) The Menara Hill (เฟส) III) และ (6) Khanthasia Eden Hill



ทั้งนี้ แผนกวิจัย ซีบีอาร์อี คาดว่าตลาดวิลล่าในภูเก็ตส่วนใหญ่จะขับเคลื่อนโดยผู้ซื้อที่ต้องการพักอาศัยเอง  ด้านตลาดการลงทุนมักจะได้รับความนิยมจากผู้ซื้อชาวต่างชาติมากกว่า  ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่น่าจับตาดูว่าความต้องการวิลล่าในภูเก็ตจะเพิ่มขึ้นหรือไม่เมื่อจำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


กองทัพบิ๊กทุนต่างชาติ แห่ลงขัน ‘อสังหา’ ไทย เก็งตลาดใหม่ “แนวราบ” ทำเลทองคำ

กองทัพบิ๊กทุนต่างชาติ  แห่ลงขัน 'อสังหา' ไทย เก็งตลาดใหม่ "แนวราบ" ทำเลทองคำ

ตลาดแนวราบร้อนระอุ ทุนไทย – เทศ เปิดโอกาสใหม่ ร่วมลงทุนคึก กูรูดัง เผย ญี่ปุ่น – ฮ่องกง แฟนพันธุ์แท้ อสังหาฯไทย เปลี่ยนทิศ ชิมลางดีมานด์แท้ รอคอนโดฯฟื้น ขณะบางนาตราด – กรุงเทพกรีฑา ขึ้นแท่น ทำเลทองคำ

วิจัยกรุงศรี ประเมินแนวโน้มภาพต่อ อสังหาริมทรัพย์ไทย ปี 2565 – 2567 ว่า ความท้าทาย เรื่อง หนี้ครัวเรือน ระดับสูง มีผลให้สถาบันการเงิน เพิ่มความเข้มงวด ปล่อยสินเชื่อกลุ่มลูกค้าโครงการที่อยู่อาศัย ระดับกลาง-ล่างมากขึ้น อีกทั้ง พฤติกรรมการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยที่เปลี่ยนไปหลังโควิด-19 ทำให้มีความต้องการบ้านแนวราบ นอกเมือง ในทำเลศักยภาพเพิ่มสูงขึ้นไปด้วย 

อย่างไรก็ตาม จากความเสี่ยงด้าน ต้นทุนการพัฒนาโครงการมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น เช่น ค่าวัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะเหล็ก รวมถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยในประเทศเร่งตามประเทศต่างๆ ทำให้การแข่งขันในตลาดที่อยู่อาศัย มีแนวโน้มรุนแรง ท่ามกลางการฟื้นตัวอย่างช้าๆ ส่งผลผู้ประกอบการ ต้องกระจายความเสี่ยงมากขึ้น โดยหนึ่งในนั้น คือ ใช้วิธีการร่วมทุน (JV) เพิ่มเสริมทั้งความแข็งแกร่งทางการเงิน และเพิ่มความโดดเด่นให้แก่ตัวโครงการ ต่างจากอดีต ที่มีการจับมือกันเฉพาะในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมเท่านั้น 

  • ต่างชาติชะลอร่วมลงทุนคอนโดฯ


สอดคล้อง การวิเคราะห์ของ กูรูอสังหาฯดัง นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ จำกัด (Property DNA) บริษัทที่ปรึกษาการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร โดยระบุว่า  2 – 3 ปีที่ผ่านมา ช่วงขาลงของตลาดคอนโดฯอย่างรุนแรง เกิดภาพ หลายโครงการที่มีการร่วมทุนกัน ระหว่างผู้ประกอบการไทยและต่างชาติ มีปัญหาทั้งแง่การขายและการโอนกรรมสิทธิ์ ทำให้ต่างชาติชะลอการลงทุนไป ซึ่งเมื่อไม่ลงทุน ใส่เงินเข้ามาใหม่ หนทางสร้างรายได้ต่อเนื่องก็ไม่เกิด 

กองทัพบิ๊กทุนต่างชาติ  แห่ลงขัน 'อสังหา' ไทย เก็งตลาดใหม่ "แนวราบ" ทำเลทองคำ

อย่างไรก็ตาม พบทุนต่างชาติบางราย ที่ร่วมลงทุนกับผู้ประกอบการไทยมาช้านาน แม้ชะลอการร่วมลงขันในคอนโดฯ แต่สนใจเข้ามาลงทุนในโครงการบ้านจัดสรรมากขึ้น เพราะใช้เงินลงทุนน้อยกว่า แม้มีผลตอบแทนระยะเวลาที่สั้นกว่า แต่มีโอกาสมากกว่า เช่นเดียวกับ ภาพทุนต่างชาติรายใหม่ๆ ที่เริ่มเข้ามาร่วมทุนพัฒนาควบคู่ทั้งโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดฯ

  • บ้านหรูฮอต ดีมานด์ไทย-เทศ โอกาสใหม่


นายสุรเชษฐ ยังเผยว่า การร่วมทุนของผู้ประกอบการไทยและต่างชาติ โดดเด่นมากสุด ในกลุ่มทุนญี่ปุ่น นับตั้งแต่ปี 2556 บางรายร่วมทุนพัฒนาโครงการกันมามากกว่า 30 – 40 โครงการ มูลค่ากว่า 1.5 แสนล้านบาท ก่อนเข้ามาชิมลางในตลาดโครงการบ้านจัดสรร ทั้งนี้ ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ปี 2563 นอกจากภาพความร่วมมือของบิ๊กทุนไทยและต่างชาติ ยังเกิดการร่วมทุนของผู้ประกอบการไทยรายกลางกับผู้ประกอบการญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรอีกด้วย 

ทั้งกลุ่มบริษัทเอ็นริช และธนาสิริที่ร่วมทุนกับไซบุ แก๊ส โฮลดิ้งส์ และอนาบูกิ โคซัน ตามลำดับ ขณะ บริษัท เสนา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ก็มีการร่วมทุนกับทางฮันคิว ฮันซินฯ เพื่อพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรร่วมกันเป็นโครงการแรก รวมไปถึง บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค และฮ่องกงแลนด์ ที่เหนียวแน่นในการพัฒนาโครงการบ้านหรู ในทำเลบางนาเพิ่งเปิดตัวโครงการ ช่วงกลางปี 2565 ที่ผ่านมา และความเคลื่อนไหวของ บมจ.แสนสิริ และ บมจ.ออริจิ้น ที่ปักหมุดในทำเลทอง ย่านกรุงเทพกรีฑา อีกหลายโครงการ ซึ่งล้วนแต่เป็นโครงการมูลค่าแพง รวมกันมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท อีกด้วย

กองทัพบิ๊กทุนต่างชาติ  แห่ลงขัน 'อสังหา' ไทย เก็งตลาดใหม่ "แนวราบ" ทำเลทองคำ

“โครงการบ้านจัดสรร เป็นทางเลือกใหม่ การลงขันของต่างชาติ เพราะมั่นใจ กำลังซื้อบ้าน ด้วยจำนวนยูนิตที่ไม่มากเกินไป ขณะบางส่วนเลือกลงทุนโครงการราคาแพง เพราะเชื่อมั่นในรูปแบบโครงการ และศักยภาพของผู้ประกอบการไทย อีกทั้ง ประเมินแล้วว่า มีโอกาสที่ชาวต่างชาติ เริ่มมองหาบ้านในไทยมากขึ้น คาดการร่วมลงทุนลักษณะนี้จะเกิดมากขึ้นในอนาคต “
 

  • ญี่ปุ่น ยก ‘กรุงเทพกรีฑา’เทียบ โตคิว ทามะ


ขณะที่ทำเลที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจ คือ ทิศตะวันออกของกรุงเทพมหานคร เช่น พื้นที่ตามแนวถนนบางนา-ตราด รวมถึง เส้นกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ที่กำลังเป็นตลาดบ้านหรูที่ร้อนแรงอยู่ในขณะนี้ เจาะมุมมองของ ‘ทากายูกิ มัตสึโมโตะ’ ผู้บริหารของกลุ่ม โตคิว คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเข้ามาร่วมลงทุนพัฒนาโครงการแนวราบเป็นแห่งแรก กับ บมจ.แสนสิริ 

ผ่านโครงการ ‘บุราสิริ กรุงเทพกรีฑา’ มูลค่า 4.8 พันล้านบาท ราคาขายเริ่ม 15-40 ล้านบาทต่อยูนิตนั้น ระบุว่า นอกจากเชื่อมั่นศักยภาพของแบรนด์แสนสิริแล้ว ยังเห็นถึงโอกาสและศักยภาพของทำเล กรุงเทพกรีฑา ซึ่งกำลังถูกพัฒนาเป็นคอมมูนิตี้ ย่านที่อยู่อาศัยชั้นดี มีสิ่งอำนวยความสะดวก โรงเรียน โรงพยาบาลชั้นนำโดยรอบ ไม่ต่างจากย่านในโตเกียวของญี่ปุ่น เช่น ย่านทามะพลาซ่า ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นตามแนวเส้นทางรถไฟสายเดนเนนโทชิ  เป็นย่านที่พักอาศัยชานเมืองคุณภาพสูง รูปแบบการขยายเมืองจากใจกลางชั้นในไปสู่เขตเมืองชั้นนอก

กองทัพบิ๊กทุนต่างชาติ  แห่ลงขัน 'อสังหา' ไทย เก็งตลาดใหม่ "แนวราบ" ทำเลทองคำ

ทั้งนี้ พบว่า ในย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ บ้านหรูกำลังเป็นที่ต้องการในกลุ่มบุคลากรโรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง โดยมีอัตราการปล่อยเช่าต่อเดือนแพงระดับ 6 หมื่น ถึง 1 แสนบาทต่อเดือน/ยูนิต และ ขายต่อในราคาสูง เช่น เดิมราคา 8 ล้านบาท เปลี่ยนมืออยู่ที่ 10-12 ล้านบาท ขณะ กลุ่มโตคิว ยังมีแผนจะร่วมพัฒนาโครงการแนวราบ กับ บมจ.แสนสิริ อย่างต่อเนื่อง หลังจากประเมินว่า แม้เศรษฐกิจไทยจะชะลอตัว แต่โครงสร้างทางเศรษฐกิจ แผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ มีศักยภาพและแข็งแกร่ง จะเป็นแรงหนุนทำให้อสังหาฯไทย กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


EIC เผยเศรษฐกิจโลกชะลอตัว เงินเฟ้อ-ดอกเบี้ย ทำครัวเรือน 50% มีปัญหาชำระหนี้

EIC เผยเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

EIC ประเมินเศรษฐกิจโลกมีสัญญาณชะลอตัวชัดเจนขึ้น จากเงินเฟ้อและภาวะการเงินตึงตัว คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยในอัตราชะลอลงตามความเสี่ยงต่อภาวะถดถอยที่เพิ่มสูงขึ้น มองเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดีต่อเนื่องจากการบริโภคในประเทศ-ภาคบริการหลังเปิดประเทศ คาดดอกเบี้ยนโยบายสิ้นปีนี้แตะ 1.25% เผย ผลสำรวจครัวเรือนมีรายได้ไม่พอรายจ่าย และมากกว่าครึ่งมีปัญหาการชำระหนี้

วันที่ 19 สิงหาคม 2565 ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ Economic Intelligence Center ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ EIC ประเมินว่า เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณชะลอตัวลงและหลายตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจสะท้อนความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในระยะข้างหน้า

โดยเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค (Technical recession) ในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา แม้การจ้างงานยังอยู่ในระดับดี ขณะที่ความเสี่ยงด้านอุปทานพลังงานในยุโรปจากการลดปริมาณการส่งก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียและภาวะเงินเฟ้ออาจส่งผลให้เศรษฐกิจยุโรปหดตัวในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ท่ามกลางความเชื่อมั่นผู้บริโภคทั่วโลกที่ปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญตามเงินเฟ้อที่เร่งตัว ซึ่งลดทอนอำนาจซื้อ และการตึงตัวของนโยบายการเงิน

ด้านปัญหาการชะงักงันของอุปทานโลกแม้เริ่มคลี่คลาย แต่ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์โลก โดยเฉพาะท่าทีที่แข็งกร้าวระหว่างจีนและสหรัฐต่อกรณีไต้หวัน ยังตอกย้ำแนวโน้มของการแบ่งแยกอุปทานโลก (Global supply chain decoupling) ที่กำลังดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องในโลกหลังโควิด ความเสี่ยงต่อภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ (Recession) ที่เพิ่มสูงขึ้น

กอปรกับแนวโน้มเงินเฟ้อที่อาจผ่านพ้นจุดสูงสุดในไตรมาสที่ 3 และจะเริ่มชะลอตัวตามราคาพลังงานและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงทั้งในภาคการผลิตตามการชะลอตัวของอุปสงค์โลก และในภาคบริการตามแรงส่งของอุปสงค์คงค้างที่ทยอยหมดลงและปัจจัยทางฤดูกาล จะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอัตราที่ช้าลงในระยะต่อไป ส่งผลให้ความผันผวนในตลาดเงินโลกลดลงและผลตอบแทนต่อสินทรัพย์เสี่ยงเริ่มฟื้นตัว

เศรษฐกิจไทยมีทิศทางฟื้นตัวต่อเนื่องหลังเปิดประเทศ แม้เงินเฟ้อยังเป็นปัจจัยกดดันและจะส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของครัวเรือนอย่างกว้างขวางมากขึ้น เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมาขยายตัวได้ 2.5% จากการเร่งตัวของการบริโภคในประเทศ การฟื้นตัวของภาคบริการโดยเฉพาะภาคท่องเที่ยวและการค้าส่งและค้าปลีก และรายได้ในภาคเกษตรที่ขยายตัวในเกณฑ์ดี ในระยะต่อไป

การเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจะส่งผลให้ภาคท่องเที่ยวและภาคบริการกลายเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยที่สำคัญมากขึ้น โดย EIC ประมาณการนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยในปีนี้แตะ 10 ล้านคน (เดิม 7.4 ล้านคน) และประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีหน้าอาจเพิ่มขึ้นมาอยู่ใกล้เคียงระดับ 28 ล้านคนตามแนวโน้มนักท่องเที่ยวจีนที่คาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นมากในปีหน้าหากรัฐบาลจีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการด้านพรมแดน

ด้านการบริโภคมีทิศทางฟื้นตัวดีขึ้นตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กลับมาใกล้เคียงปกติ แต่ยังมีความเสี่ยงในระยะข้างหน้าจากแนวโน้มเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง (7.6% ในเดือน ก.ค.) โดยเริ่มเห็นการเร่งตัวของราคาสินค้าทั่วไป (สินค้าหมวดพื้นฐาน) จากการส่งผ่านต้นทุนของภาคธุรกิจไปยังผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ค่าจ้างขั้นต่ำมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี ซึ่งจะส่งผลต่อต้นทุนแรงงานในภาคธุรกิจและการปรับขึ้นของราคาสินค้า

ทั้งนี้ จากผลสำรวจของ EIC (EIC Consumer Survey 2565) พบว่าครัวเรือนส่วนใหญ่มีปัญหารายได้ไม่พอรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นจากภาวะเงินเฟ้อ และกว่าครึ่งหนึ่งมีปัญหาด้านการชำระหนี้ ซึ่งอาจได้รับผลกระทบเพิ่มเติมในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น

EIC คาดว่า กนง.จะทยอยขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในการประชุมที่เหลืออีก 2 ครั้งของปีนี้ โดยดอกเบี้ยนโยบาย ณ สิ้นปีจะปรับขึ้นมาอยู่ที่ 1.25% จากสถานการณ์เงินเฟ้อที่มีแนวโน้มใกล้ผ่านจุดสูงสุด เงินบาทที่กลับมาแข็งค่า และภาวะเศรษฐกิจในกลุ่มเปราะบางที่ยังฟื้นตัวช้า โดย EIC ประเมินว่า กนง.เล็งเห็นความจำเป็นต้องเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเพื่อควบคุมเงินเฟ้อคาดการณ์ให้อยู่ในกรอบเป้าหมาย และเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่เริ่มฟื้นตัวชัดเจนขี้น

อย่างไรก็ดี การปรับขึ้นดอกเบี้ยจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยปรับขึ้นรอบละ 0.25% ในการประชุม 2 รอบที่เหลือของปี เพื่อประคองสถานะทางเศรษฐกิจในกลุ่มเปราะบางไม่ให้ได้รับผลกระทบซ้ำซ้อนทั้งจากเงินเฟ้อ และภาระหนี้ที่จะเพิ่มขึ้นรวมถึงโอกาสทางรายได้ที่อาจถูกกระทบจากการปรับขึ้นดอกเบี้ย

ขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net


ต้านไม่ไหว! “วอลเลย์บอลสาวไทย” พ่าย ญี่ปุ่น เปิดหัว ศึกเอวีซีคัพ 2022

ต้านไม่ไหว! "วอลเลย์บอลสาวไทย" พ่าย ญี่ปุ่น เปิดหัว ศึกเอวีซีคัพ 2022

การแข่งขัน วอลเลย์บอลหญิง เอวีซีคัพ 2022 ที่ฟิลสปอร์ตส อารีน่า เเมืองปาซิก ประเทศฟิลิปปินส์ “วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย” ประเดิมสนามพบกับ ทีมชาติญี่ปุ่น ทีมอันดับ 7 ของโลก ดีกรีรองแชมป์เก่ารายการนี้ปี 2018 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม 2565

เกมนี้ “โค้ชด่วน” ดนัย ศรีวชัรเมธากุล ส่งผู้เล่นชุดแรกประกอบไปด้วย พรพรรณ เกิดปราชญ์, ธนัชชา สุขสด, หัตถยา บำรุงสุข, พิมพิชยา ก๊กรัมย์, ศศิภาพร จันทวิสูตร, วัชรียา นวลแจ่ม และ ปิยะนุช แป้นน้อย รับหน้าที่ลิเบอโร่

เซตแรก รูปเกมในช่วงต้นสูสีกันเสมอ 5-5 จากนั้นเป็น สาวญี่ปุ่น ที่เกมรับเหนียวแน่นฉีกนำ 10-7 ก่อนรักษาความห่างไล่ทำแต้มหนีออกไปเป็น 17-13 พร้อมทั้งปิดเกมเอาชนะไปได้ก่อนในเซตแรก 25-18

เซตสอง นักตบสาวญี่ปุ่น ออกมาทำแต้มนำ 6-1 อย่างไรก็ตาม ทีมสาวไทย พยายามทำแต้มไล่กดดันมาที่ 9-12 แต่เกมรับของคู่แข่งเหนียวมากๆ ทำให้ฉีกหนีออกไป 21-16 ก่อนเอาชนะไปได้อีก 25-19 ขึ้นนำ 2-0 เซต

เซตสาม สาวญี่ปุ่น ยังเหนือกว่าตบทำแต้มนำ 6-3 แต่ สาวไทย ไม่ยอมง่ายๆ ฮีดไล่ตีเสมอ 11-11 จากนั้นเกมกลับมาสูสีอีกครั้งเสมอกัน 18-18 อย่างไรก็ตามในช่วงท้ายเป็น ญี่ปุ่น ที่ทำได้ดีกว่าเบียดเอาชนะไปได้อีก 25-22 คว้าชัยไปได้ 3-0 เซต

สำหรับ ทีมชาติไทย มีโปรแกรมจะลงสนามในนัดต่อไปพบกับ ทีมชาติออสเตรเลีย  ในวันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม 2565 เวลา 15.00 น.  (ถ่ายทอดทาง ช่อง ONE31 และทาง พีพีทีวี 36 ในระบบออนไลน์)

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


จอประสาทตาเสื่อม-เบาหวานขึ้นตา โรคทางตาที่ผู้สูงอายุเสี่ยงสูง

จอประสาทตาเสื่อม-เบาหวานขึ้นตา โรคทางตาที่ผู้สูงอายุเสี่ยงสูง

ทุกวันนี้ ปัญหาสายตาที่มีแนวโน้มพบมากขึ้นในประเทศไทยอย่างเห็นได้ชัด ได้แก่ โรคจอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุ (Age-related Macular Degeneration: AMD) ซึ่งพบผู้ป่วยสูงถึง 18,700 คนต่อปี  และโรคเบาหวานขึ้นจอตา (Diabetic Macular Edema: DME) ซึ่งพบผู้ป่วยสูงถึง 536,700 คนต่อปี โดยมีสาเหตุมาจากการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ (aged society) นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 ทำให้ปัญหาด้านสุขภาพของประชากรที่มีอายุเพิ่มขึ้นหนีไม่พ้นเรื่องความเสื่อมของดวงตา ประกอบกับวิถีชีวิตของประชากรวัยทำงานที่อาจเคลื่อนไหวน้อย ชื่นชอบอาหารและเครื่องดื่มรสหวาน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงจนเกิดภาวะเบาหวาน ปัญหาทางสายตาดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็นและการใช้ชีวิตประจำวันได้ ดังนั้น การเข้าใจปัจจัยเสี่ยง เฝ้าระวังสัญญาณเตือนเบื้องต้น และการไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพตาอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นสิ่งจำเป็น

นพ. ธนาพงษ์ สมกิจรุ่งโรจน์ จักษุแพทย์ด้านจอตาและม่านตาอักเสบ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และประธานชมรมต้อกระจกและผ่าตัดแก้ไขสายตาผิดปกติแห่งประเทศไทย ได้แบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับโรคทางสายตาแนวทางการรักษาล่าสุด รวมถึงเคล็ดลับในการดูแลดวงตาเพียงคู่เดียวให้มีคุณภาพการมองเห็นที่ดีและอยู่คู่กับเราไปตราบนานเท่านาน

อาการและผลกระทบจากโรคทั้งโรคจอประสาทตาเสื่อม (AMD) และ โรคเบาหวานขึ้นจอตา (DME) เป็นโรคที่เกิดจากการมีเส้นเลือดที่จอประสาทตาผิดปกติ และทำให้การมองเห็นแย่ลง

โรคจอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุ (Age-related Macular Degeneration หรือ AMD) เกิดจากเส้นเลือดชั้นที่อยู่ใต้จอประสาทตามีความผิดปกติ ทำให้จุดรับภาพจอตาเสื่อม มี 2 ชนิด คือ ชนิดแห้ง (Dry AMD) และชนิดเปียก (Wet AMD or nAMD) โดยชนิดเปียกมักพบในผู้ที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป

โรคเบาหวานขึ้นจอตา (Diabetic Macular Edema หรือ DME) เกิดจากระดับน้ำตาลในเลือดที่สูง ทำให้เส้นเลือดที่อยู่ในชั้นจอประสาทตามีความผิดปกติ ส่งผลให้จุดรับภาพจอตาบวม โรคนี้พบได้ในทุกช่วงอายุและยังเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของการสูญเสียการมองเห็นในผู้ป่วยเบาหวาน

ปัจจัยเสี่ยงของโรคจอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุ

ปัจจัยเสี่ยงของโรคจอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุ มีทั้งปัจจัยที่เลี่ยงไม่ได้ ได้แก่ อายุที่เพิ่มมากขึ้น และปัจจัยที่สามารถปรับได้ เช่น การเลิกสูบบุหรี่ ส่วนปัจจัยเสี่ยงของโรคเบาหวานขึ้นจอตา ประกอบไปด้วย ระยะเวลาที่เป็นโรคเบาหวาน ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง ความอ้วน หรือภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ เป็นต้น

วิวัฒนาการทางการแพทย์เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

เมื่อราว 10 กว่าปีที่แล้ว แนวทางการรักษาหลักของโรคทางจอประสาทตา ซึ่งรวมถึงโรคจอตาเสื่อมในผู้สูงอายุและโรคเบาหวานขึ้นจอตา คือ การใช้เลเซอร์ ซึ่งวิธีดังกล่าวมักจะไม่สามารถทำให้การมองเห็นดีขึ้นได้มาก แต่การใช้เลเซอร์มีส่วนช่วยชะลอไม่ให้โรคลุกลามแย่ลงได้ อย่างไรก็ดี ภายหลังเมื่อความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีการแพทย์ช่วยให้เกิดแนวทางการรักษาใหม่ที่ทำให้ผลการรักษาดีขึ้นได้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ยาฉีดเข้าไปในน้ำวุ้นลูกตา โดยยาดังกล่าวเรียกว่ายาในกลุ่ม Anti-VEGF ที่มีกลไกการออกฤทธิ์ในการลดการงอกของเส้นเลือดที่จอประสาทตา ผลที่ได้คือสามารถทำให้คุณภาพการมองเห็นของผู้ป่วยดีขึ้นได้ อย่างไรก็ดีการมองเห็นที่ดีขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ป่วยจำเป็นต้องทำการฉีดยาเข้าน้ำวุ้นตาโดยมีความถี่ในการฉีดยาแต่ละชนิดแตกต่างกันไป บางชนิดผู้ป่วยต้องเข้ารับการฉีดยาบ่อยทุก 1-2 เดือน ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบทั้งต่อผู้ป่วยและผู้ดูแล โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ระยะทางจากบ้านและโรงพยาบาลห่างไกลกันมาก หรืออยู่คนละจังหวัด ทำให้ผู้ป่วยที่คุณภาพการมองเห็นไม่ดีจำเป็นต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากผู้ดูแลซึ่งอาจจำเป็นต้องลางานมา

นวัตกรรมการรักษาโรคจอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุและโรคเบาหวานขึ้นจอตาด้วยยาฉีดได้รับการพัฒนาขึ้นมาก เมื่อไม่นานมานี้ ยาที่มีกลไกการออกฤทธิ์ (mechanism of action) แบบใหม่ ผ่านการรับรองจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็น dual pathway inhibitor (ยับยั้งทั้ง VEGF และ ANG 2 ซึ่งมีบทบาทสำคัญของการเกิดโรค) ซึ่งนอกจากจะช่วยลดการงอกของเส้นเลือดแล้ว ยังช่วยลดการรั่วของเส้นเลือด ลดการอักเสบของเส้นเลือด และทำให้เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงจอประสาทตามีความแข็งแรงมากขึ้น จากมุมมองของจักษุแพทย์ กลไกการออกฤทธิ์ลักษณะนี้ถือได้ว่าเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้านการรักษา ประกอบกับความสามารถในการออกฤทธิ์ของยาที่นานกว่าเดิม ทำให้ลดความถี่ในการฉีดยาลงได้ จากผลการวิจัยทางคลินิก พบว่าร้อยละ 80 ของผู้ป่วยที่เป็นอาสาสมัครในงานวิจัยได้รับการฉีดยาทุก 12 สัปดาห์ (ทุก 3 เดือน) ส่วนอีกร้อยละ 60 ได้รับการฉีดยาทุก 16 สัปดาห์ (ทุก 4 เดือน) กล่าวได้ว่านวัตกรรมการรักษาใหม่นี้สามารถช่วยยกระดับการดูแลผู้ป่วยได้ดีกว่าเดิม

ส่วนเรื่องของความปลอดภัยและอาการข้างเคียง จากผลการวิจัยทางคลินิกในผู้ป่วยมากกว่า 2,300 ราย และผู้ป่วยที่มีประสบการณ์การได้รับยาจากการรักษาจริงในประเทศสหรัฐอเมริกา (real-world evidence) อีกราว 70,000 เข็ม7 นับตั้งแต่ยาผ่านการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ (Food and Drug Administration หรือ US FDA)  ยังไม่พบความแตกต่างของอาการข้างเคียงระหว่างยานวัตกรรมใหม่กับยาฉีดชนิดเดิมที่เคยมีมาในอดีตแต่อย่างใด “ล่าสุด ผู้ป่วยโรคจอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุในประเทศไทยจำนวนหนึ่งมีโอกาสได้ใช้ยานวัตกรรมใหม่นี้แล้ว แต่ยังมีจำนวนไม่มาก เพราะยาเพิ่งผ่านการอนุมัติในประเทศ ผู้ป่วยที่สามารถใช้ยานวัตกรรมใหม่นี้ได้ มีทั้งกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยและยังไม่เคยได้รับยาใดมาก่อน และในผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อยาเดิม หรือผู้ป่วยที่ต้องการลดความถี่ในการฉีดยา ถือเป็นความหวังใหม่ของผู้ป่วยในกลุ่มโรคทางจอตาเหล่านี้

กรณีของผู้ป่วยโรคเบาหวานขึ้นจอตา หากผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยนวัตกรรมใหม่ พร้อมกับควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด อาการของโรคมีแนวโน้มที่จะดีขึ้นได้ภายในระยะเวลา 3-5 ปี และมีโอกาสสูงที่ผู้ป่วยจะสามารถหยุดยาได้ ส่วนผู้ป่วยโรคจอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุ แม้โอกาสในการหยุดยาจะมีน้อยกว่าผู้ป่วยผู้ป่วยโรคเบาหวานขึ้นจอตา แต่ยาที่สามารถลดความถี่ในการฉีดยา ก็ช่วยทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้นมาก

ในอนาคต เชื่อว่าจะมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการรักษาโรคนี้อย่างต่อเนื่อง เช่น ยาที่ออกฤทธิ์ได้นานขึ้น ยาที่มีกลไกการออกฤทธิ์ที่ต่างไปจากยาที่มีในปัจจุบัน การผ่าตัดเพื่อใส่เครื่องมือที่ช่วยในการปลดปล่อยยา ทำให้สามารถลดการฉีดยาเหลือเพียงปีละ 1-2 ครั้ง การใช้เทคโนโลยีในการวางแผนการรักษา เช่น AI (Artificial Intelligence) เพื่อดูว่าผู้ป่วยคนไหนจะตอบสนองต่อยากลุ่มใด ซึ่งล้วนส่งผลให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้น

โรคทางสายตา รู้เท่าทันป้องกันได้

ทั้งสองโรคนี้เกิดจากความผิดปกติที่เส้นเลือดในจอประสาทตา ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้อย่างฉับพลันและอาจเกิดกับตาเพียงข้างใดข้างหนึ่งเท่านั้น โดยที่ผู้ป่วยบางรายอาจไม่รู้สึกเจ็บหรือปวดบริเวณดวงตา และหากสังเกตจากภายนอกก็อาจไม่สามารถสังเกตเห็นความผิดปกติของดวงตา ด้วยเหตุนี้ โรคทางสายตาจึงถือเป็นภัยเงียบ เพราะผู้ป่วยส่วนใหญ่เข้าใจว่าการมองเห็นไม่ชัดเป็นผลจากค่าสายตาหรือค่าแว่นที่เปลี่ยนไป

สำหรับผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุและโรคเบาหวานขึ้นจอตา ควรปรับพฤติกรรมและควบคุมโรคประจำตัวให้ดี ควรใส่แว่นป้องกันอุบัติเหตุหรือแว่นกันแดดเมื่อทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อดวงตาและแสงแดด งดการขยี้ตาหรือนวดตา งดการสูบบุหรี่ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

คนทั่วไปจะสามารถประเมินความผิดปกติทางการมองเห็นด้วยตัวเองได้อย่างไร

ทุกคนสามารถคัดกรองความผิดปกติทางการมองเห็นด้วยตนเองได้ง่ายๆ เพียงลองปิดตาทีละข้าง จากนั้นมองขอบประตูหรือกรอบวงกบหน้าต่าง หากเห็นเส้นบิดเบี้ยวหรือจุดพร่ามัว ควรรีบปรึกษาจักษุแพทย์ทันที หากอายุ 45 ปีขึ้นไป ควรหมั่นตรวจสุขภาพตากับจักษุแพทย์เป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง จะได้เข้าถึงการรักษาอย่างทันท่วงที และลดการสูญเสียการมองเห็น เพราะการมองเห็นที่ชัดเจนเป็นส่วนสำคัญยิ่งกับคุณภาพชีวิต 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


รวมศัพท์เกี่ยวกับการทำอาหารสนุกๆ

บทเรียนสนุกๆ ที่เรารวบรวมคำศัพท์เกี่ยวกับการทำอาหารและรวมถึงวัตถุดิบมาให้เพี่อนๆ ด้วย เราลองไปดูกันเลยดีกว่า

เรามาเริ่มกันด้วยวิธีทำอาหารก่อน

  • Grill – ปิ้ง ย่าง
  • Boil – ต้ม
  • Fry – ทอด / ผัด
  • Deep fry – ทอดแบบจุ่มน้ำมัน
  • Bake – อบ
  • Frost – แช่แข็ง
  • Defrost -ละลาย
  • Make spicy salad – ยำ
  • Steam – นึ่ง
  • Warm – อุ่น
  • Dry – อบแห้ง ตากแห้ง

ระดับความสุก เชื่อว่าเพื่อนหลายคนน่าจะคุ้นชินเวลาสั่งสเต๊กแน่นอน

  • Rare – ดิบ
  • Half-cooked / medium – กึ่งสุกกึ่งดิบ
  • Cooked / Done – สุก
  • Juicy – ชุ่มช่ำ
  • Dry – แห้ง
  • Oily – มัน

คำศัพท์เกี่ยวกับรสชาติและกลิ่น

  • Sweet – รสหวาน
  • Sour – รสเปรี้ยว
  • Salty – รสเค็ม
  • Bitter – รสขม
  • Tangy – อาหารที่ให้รสเข้มข้น โดดเด่นจัดจ้าน
  • Rich – รสของอาหารที่เต็มไปด้วย เนย นม ครีม และไข่ เช่น ขนมปัง แยมโรล เป็นต้น
  • Peppery- อาหารที่ให้รสชาติเผ็ดๆออกพริกไทย
  • Nutty – อาหารที่ออกรสชาติ หรือมีส่วนประกอบที่ให้รสชาติคล้ายถั่ว
  • Hot – คืออหารที่ให้รสชาติที่เผ็ดร้อน หรือมีส่วนประกอบของพริก
  • Spicy – เผ็ด
  • Mild – รสอ่อน
  • Strong – รสเข้ม
  • Acidic – รสเปรี้ยวคล้ายๆ กรดอ่อนๆ
  • Tasteless – อาหารที่ไม่มีรสชาติ
  • Fruity – กลิ่นผลไม้ 
  • Sweet – กลิ่นของหวานต่างๆ เช่น ช๊อคโกแลต วานิลา
  • Toasted – กลิ่นอบขนม กลิ่นปิ้งย่างต่างๆ
  • Pungent – กลิ่นฉุนพริก

สุดท้ายเราลองมาดูหมวดของวัตถุดิบกัน เพราะวัตถุดิบบางอย่างหากเราแปลจากภาษาไทยไปภาษาอังกฤษนั้นอาจจะไม่ตรงตัว เช่นคำว่า เนื้อหมู ภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า Pork ไม่ใช้คำว่า Pig

  • Beef – เนื้อวัว
  • ox tongue – ลิ้นวัว
  • tripe – เครื่องในสัตว์
  • pork – เนื้อหมู
  • minced pock – หมูสับ
  • streaky pock – หมูสามชั้น
  • ham – เนื้อหมูรมควัน
  • pepperoni – ไส้กรอกแบบแห้ง ทำจากเนื้อหมูหรือเนื้อวัว
  • liver pate – ตับบด
  • sausages – ไส้กรอก
  • chicken breast – อกไก่
  • drumstick – น่องไก่
  • yolk – ไข่แดง
  • goose – เนื้อห่าน
  • seafood – อาหารทะเล
  • tuna – ปลาทูน่า
  • sea bass – ปลากระพงขาว
  • mackerel – ปลาทู
  • catfish – ปลาดุก
  • butterfish – ปลาจาระเม็ด
  • shrimp – กุ้งฝอย
  • crayfish – กุ้งนาง
  • lobster – กุ้งมังกร
  • black crab – ปูทะเล
  • oyster – หอยนางรม
  • scallop – หอยเชลล์
  • cuttlefish – หมึกกระดอง
  • octopus – หมึกยักษ์
  • caviar – ไข่ปลาคาเวียร์
  • pork ball – ลูกชิ้นหมู
  • crab sticks – ปูอัด
  • beef spare ribs – เนื้อส่วนซี่โครง
  • lamp – เนื้อลูกแกะ
  • mutton – เนื้อแกะ
  • pork leg – ขาหมู
  • goat meat – เนื้อแพะ
  • bacon – เบคอน
  • sliced ham – เนื้อหมูรมควันหั่นแผ่นบาง
  • salami – เนื้อหมูบด หมักเค็ม (อิตาเลียน)
  • cold cuts – ชีส หรือเนื้อที่ทำสุกแล้ว (ไส้กรอก แฮม)
  • chicken – เนื้อไก่
  • chicken wing – ปีกไก่
  • egg – ไข่
  • duck – เนื้อเป็ด
  • turkey – ไก่งวง
  • fish – ปลา
  • salmon – ปลาแซลมอล
  • red snapper – ปลากระพงแดง
  • sardines – ปลาซาร์ดีน
  • snakehead fish – ปลาช่อน
  • salted fish – ปลาเค็ม
  • prawn – กุ้งก้ามกราม
  • tiger prawn – กุ้งลายเสือ
  • mantis shrimp – กั้ง
  • mussel – หอยแมลงภู่
  • razor clam – หอยหลอด
  • cockle – หอยแครง
  • squid – หมึกกล้วย
  • roe – ไข่ปลา
  • meatball – ลูกชิ้นเนื้อ
  • fish ball – ลูกชิ้นปลา

เชื่อว่าเราจะช่วยให้คุณทานอาหารได้อย่างอร่อยและได้รสชาติอาหารตามต้องการด้วยการสั่งเมนูนั้นเป็นภาษาอังกฤษได้อย่างแน่นอน

ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th


“ชัยวุฒิ”หนุนผู้ประกอบการเชื่อม”โลกเสมือน-โลกจริง”ขยายการค้า-ลงทุน

"ชัยวุฒิ”หนุนผู้ประกอบการเชื่อม”โลกเสมือน-โลกจริง”ขยายการค้า-ลงทุน

“ชัยวุฒิ” หนุนผู้ประกอบการเชื่อมโลกเสมือนจริงเข้ากับโลกธุรกิจ ขยายการค้าการลงทุน ปลุกรัฐเอกชนร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจดิจทัล

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส กล่าวในงาน    Thailand Metaverse Expo 2022   จัดโดย The Nation, Block Mountain, and MetaverseXR  ห้วข้อ Metaverse: The Future Is Now  ว่าการจัดงาน Thailand  Metaverse  Expo ซึ่งจัดโดยเครือเนชั่น วันนี้งานนี้มีความสำคัญมาก  เพราะว่าจะทำให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลทางผู้ประกอบการภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องและภาครัฐในการส่งเสริมให้เกิดการนำมาใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศ

"ชัยวุฒิ”หนุนผู้ประกอบการเชื่อม”โลกเสมือน-โลกจริง”ขยายการค้า-ลงทุน

ซึ่งถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ต้องการยกระดับรายได้ของพี่น้องประชาชนด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ชีวิตสมัยใหม่ต่างๆ

วันนี้ประเทศไทยไปไกลมาก   มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเป็นอันดับต้นๆของภูมิภาค   ระบบการสื่อสารไร้สาย  พัฒนากฎหมาย พัฒนาผู้ประกอบการ    ประเทศไทยเป็นประเทศชั้นนำในภูมิภาคนี้ในการส่งเสริมการนำเศรษฐกิจดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ    หัวใจสำคัญถ้าเราสามารถส่งเสริมให้มีผู้ประกอบการมาช่วยกันทำธุรกิจ สามารถเชื่อมโลกเสมือนจริงเข้ากับโลกธุรกิจในปัจจุบันเชื่อมโยงกันและจะเกิดการพัฒนาขยายได้ขยายการค้าการลงทุนอีกมาก

สุดท้ายนี้เชื่อว่าการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลให้ประสบความสำเร็จต้องเกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งผู้ประกอบการภาคเอกชนและภาครัฐต้องมาจับมือกันช่วยกันพัฒนาให้ก้าวต่อไปข้างหน้าให้ได้

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


‘Home Lover Market 2022’ ชวนช้อป ปรับบ้าน ที่สุดของสินค้าและบริการเรื่องบ้าน จัดเต็ม 20-28 ส.ค.นี้

ศานิตย์ ภู่บุบผา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เอ็กซพีเรียนซ์ จำกัด (SCG HOME Experience) พร้อมจัดงานแห่งปี ‘HOME LOVER Market 2022’ ชวนช้อป ปรับบ้าน  รวมพลคนรักบ้านมาร่วมช้อป ปรับบ้านด้วยที่สุดของสินค้าและบริการเรื่องบ้านที่ครบครันในงานเดียว ตั้งแต่งานบริการหลังคา การถอดแบบ การติดตั้ง, บริการต่อเติมพื้นที่รอบบ้านให้เป็นพื้นที่ใช้สอยครบทุกฟังก์ชั่น, บริการปรับปรุงบ้าน ตกแต่งบ้านทั้งภายในและภายนอก, บริการสมาร์ทลิฟวิ่งและแคร์ลิฟวิ่งที่จะช่วยให้การอยู่อาศัยทุกคนในครอบครัวปลอดภัย สะดวก สบายยิ่งขึ้น และสุดท้ายบริการดูแลบ้านที่ขนทัพโฮมเซอร์วิสมาแบบครบวงจร เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพการบริการที่ดีเยี่ยม พร้อมเสิร์ฟประเด็นทอล์คสุดปังกับหมอช้าง    ทศพร ศรีตุลา ด้วย ‘เคล็ดปรับบ้านรับเฮง’ สลับสับเปลี่ยนกูรูชวนทอล์คทุกวันกับหลากหลายเรื่องทำบ้าน ปิดท้ายด้วยกิจกรรมสำหรับสายประดิษฐ์ DIY Workshop ที่ชวนรังสรรค์ผลงานแบบไม่ซ้ำใครตลอดการจัดงาน พิเศษสุดในงานกับ   โปรโมชันที่ต่อคิวลดสนั่นทุกสินค้าและบริการ รวมส่วนลดกว่า 200,000 บาท พิเศษสำหรับสมาชิก SCG Family รับคะแนน 10 เท่าเมื่อช้อปสินค้าและบริการ และในงานนี้เปิดโอกาสให้คนรักบ้านที่ต้องการคำปรึกษาดีๆ สามารถแวะเวียนมาพบผู้เชี่ยวชาญได้แบบ Exclusive เตรียมเปิดประตูต้อนรับคนรักบ้านแล้วที่ SCG HOME Experience เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา จัดยาวจุใจตลอด 9 วันเต็ม วันที่ 20-28 สิงหาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

พิเศษสุดๆ! รับคูปองส่วนลดมูลค่า 12,000 บาท เพียงแจ้งโค้ด HLM22 ณ จุดให้บริการ SCG HOME Experience ตลอด 9 วัน  (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)

Expert Talk กับกูรูเรื่องบ้าน

ส 20 ส.ค.           สุดปัง…กับเคล็ดปรับบ้านรับเฮง : อาจารย์ช้าง ทศพร ศรีตุลา

อา 21 ส.ค.         ต่อเติมบ้านอย่างไร ให้จบแต่ไม่เจ็บ

จ 22 ส.ค.           บ้านประหยัดไฟ ใกล้ชิดธรรมชาติ

อ 23 ส.ค.           พื้นสวย แข็งแรง ได้งานจบ งบไม่บาน

พ 24 ส.ค.          หลังคาที่ใช่ ในงบที่ลงตัว

พฤ 25 ส.ค.        ชวนดูแลบ้านแบบครบวงจร

ศ 26 ส.ค.           มีบ้านที่ใช่ ต้องใส่ใจตั้งแต่เริ่ม

ส 27 ส.ค.           จุดเริ่มต้นของคนชอบปรับบ้าน

อา 28 ส.ค.         เข้าใจศาสตร์ฮวงจุ้ย รู้ใจงานสถาปัตยกรรม

 DIY Workshop สำหรับสายประดิษฐ์ รับจำนวนจำกัด 30 ท่านต่อวัน

ส 20 ส.ค.           สวนขวดแก้ว

อา 21 ส.ค.         จี้สร้อยคอเรซิ่น

จ 22 ส.ค.           Dipped Mug

อ 23 ส.ค.           เพ้นท์ถุงผ้า

พ 24 ส.ค.          Decoupage Hat

พฤ 25 ส.ค.        ลิปปาล์ม

ศ 26 ส.ค.           3D Frame

ส 27 ส.ค.           ขวดสเปรย์เรซิ่น

อา 28 ส.ค.         ลูกชุปแฟนซี

โปรโมชันจัดหนักทุกบริการตลอดการจัดงาน ‘HOME LOVER Market 2022’ ชวนช้อป ปรับบ้าน 

บริการงานหลังคา

  • ชำระค่าบริการถอดแบบหลังคา 1,000 บาท รับคืนสูงสุด 10,000 บาท
  • บริการเหมามุงหลังคาครบวงจร รับส่วนลดสูงสุด 30,000 บาท
  • บริการรีโนเวทหลังคา รับส่วนลดสูงสุด 50,000 บาท
  • ระบบหลังคาโซลาร์รูฟ เอสซีจี รับส่วนลดสูงสุด 30,000 บาท
  • ระบบระบายอากาศให้บ้าน SCG Active Airflow system รับส่วนลด 10%

บริการต่อเติมพื้นที่รอบบ้าน

  • คุ้ม 1 จ่ายค่าสำรวจ รับคืน 20 เท่า
  • คุ้ม 2 รับ Central Gift Card มูลค่า 10,000 บาท เมื่อชำระค่าบริการตั้งแต่ 200,000 บาทขึ้นไป

บริการงานปรับปรุง ตกแต่งบ้าน

  • โปรสุดคุ้ม สำรวจ เริ่มต้น 288 บาท จากราคาปกติ 1,000 บาท
  • พิเศษ ค่าสำรวจ 199 บาท สำหรับบริการ เท ปาด ขัด , Stamped Concrete , Fill Good
  • พร้อมรับส่วนลดและ Cash Back สูงสุด 50,000 บาท

บริการสมาร์ทและแคร์

  • สุดคุ้ม ค่าสำรวจเริ่มต้น 888 บาท พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 15%

บริการดูแลบ้านแบบครบวงจร

  • โปรสุดคุ้ม ล้างเครื่องปรับอากาศ เริ่มต้น 530 บาท/เครื่อง , ทำความสะอาดบ้าน เริ่มต้น 500 บาท/ครั้ง , ล้างเครื่องซักผ้าฝาบน เริ่มต้น 840 บาท/เครื่อง , ล้างบ่อดักไขมัน เริ่มต้น 1,399 บาท/บ่อ พร้อมโปรโมชั่นบริการดูแลบ้านอื่นๆ อีกมากมาย

บริการออกแบบบ้าน

  • แบบบ้านสำเร็จรูป ราคาเริ่มต้น 3,999 บาท (จากปกติราคาเริ่มต้น 5,999 บาท)
  • บริการออกแบบบ้าน รับส่วนลดสูงสุด 60,000 บาท

ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 22/08/2565

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a29,600.0029,700.00
ทองรูปพรรณ 96.5%1,917.0029,061.7230,200.00
ทองรูปพรรณ 90%1,725.3026,155.55n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,533.6023,249.38n/a
ทองรูปพรรณ 50%863.0013,083.08n/a
ทองรูปพรรณ 40%671.0010,172.36n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%1,987.0030,122.92n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 22/08/2565


ปตท.

บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9537.1537.1537.5537.5537.1537.1537.1537.1537.5537.15
แก๊สโซฮอล์ 9136.8836.8837.2837.2836.8836.8836.8836.8837.2836.88
แก๊สโซฮอล์ E2036.0436.0436.4436.4436.0436.0436.0436.4436.04
แก๊สโซฮอล์ E8533.0433.0433.04
เบนซิน 9544.5645.0145.0645.0644.56
ดีเซล B734.9434.9435.9434.9435.4434.9434.9434.9434.9434.94
ดีเซล34.9434.9435.9434.9435.4434.9434.9434.9434.9434.94
ดีเซล B2034.9434.9435.9435.4434.9434.9434.94
ดีเซลพรีเมี่ยม45.6645.6646.6645.6646.1645.66
แก๊ส NGV15.5915.5915.59

About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า