รู้ยัง! สร้างบ้านรัฐหนุนลดหย่อนภาษีได้’ล้านละหมื่น’
สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ชี้ช่วงนี้ถือเป็นโอกาสเหมาะในการสร้างบ้านเหตุรัฐหนุนลดหย่อนภาษี ‘ล้านละหมื่น’ สูงสุดไม่เกิน 1 แสนบาท และยังมีสินเชื่อพิเศษจาก ธอส.ภายใต้โครงการ Happy Life โครงการ Happy Home ล่าสุดเตรียมจัดงาน “รับสร้างบ้านและวัสดุ Expo 2024” ก.ย.นี้
นายโอฬาร จันทร์ภู่ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เผยว่า ปัจจัยที่ส่งผลดีต่อผู้บริโภคที่กำลังตัดสินใจสร้างบ้านหลัก คือ มาตรการสร้างบ้านลดหย่อนภาษี “ล้านละหมื่น” โดยลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้าน มูลค่า 1 ล้าน หักลดหย่อน 10,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 1 แสนบาท ซึ่งจะเป็นการลดภาระ และเพิ่มโอกาสเป็นเจ้าของบ้านง่ายขึ้น
ทั้งนี้ เป็นการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ที่ปลูกสร้างบ้านขึ้นใหม่ ไม่เกินหนึ่งหลังตามสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างบ้านที่บริษัทรับสร้างบ้านได้เสียอากรแสตมป์ โดยวิธีการชำระอากรผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (Online) ไว้กับสรรพากร ซึ่งมีการเซ็นสัญญาและเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ 9 เม.ย.น 2567 ถึง 31 ธ.ค. 2568 ค่าก่อสร้างตามสัญญา ส่วนผู้บริโภคจะได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาล้านละหนึ่งหมื่นบาท แต่ไม่เกินหนึ่งแสนบาทตามที่จ่ายจริง สามารถดูจากใบกำกับภาษีที่ได้รับจากบริษัทรับสร้างบ้าน ซึ่งผู้บริโภคจะได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีในปีภาษีถัดไปภายหลังจากปีที่ก่อสร้างบ้านแล้วเสร็จ
นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ ภายใต้โครงการ Happy Life จากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างบ้านที่มีราคาตั้งแต่ 2.5 ล้านบาทขึ้นไป ในอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 คงที่เท่ากับ 1.95% ต่อปี, ปีที่ 2 – 3 คงที่เท่ากับ 3.50% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกเท่ากับ 2.98% เท่านั้น) และปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา
กรณีลูกค้ารายย่อย อัตราดอกเบี้ย MRR-0.50% ต่อปี และโครงการ Happy Home สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างบ้านที่มีราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 – 5 คงที่เท่ากับ 3% ต่อปี, ปีที่ 6 – 7 อัตราดอกเบี้ย MRR-2.00% ต่อปี, ปีที่ 8 – 9 อัตราดอกเบี้ย MRR-1.50% ต่อปี และปีที่ 10 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีรายย่อยทั่วไป อัตราดอกเบี้ย MRR-0.75% ต่อปี ซึ่งทำให้ต้นทุนของการสร้างบ้าน”ลดลง”จึงเป็นจังหวะที่เหมาะสมกับการสร้างบ้านใหม่
ทั้งนี้ การสร้างบ้านบนที่ดินเปล่า เป็นอีกทางเลือกของการมีบ้านที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะมีความยืดหยุ่นสูง เลือกทำเลที่ตั้ง ดีไซน์ของบ้าน ออกแบบสิ่งแวดล้อม ทั้งยังสามารถกำหนดงบประมาณได้ด้วยตัวเองโดยครึ่งหลังปีนี้ ทางสมาคมฯได้เตรียมจัด “งานรับสร้างบ้านและวัสดุ Expo 2024” ที่รวมบริษัทรับสร้างบ้าน บริษัทวัสดุก่อสร้าง ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการสร้างบ้าน รวมถึงสถาบันการเงินพร้อมแบบบ้านจากบริษัทรับสร้างบ้านให้เลือกมากกว่า 1,000 แบบ และการอัปเดตนวัตกรรมการก่อสร้าง รวมทั้งโปรโมชั่นอีกมากมาย งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 22 ก.ย. 2567 ณ ฮอลล์ 6 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
บ้านเดี่ยวส่อโอเวอร์ซัพพลาย! ครึ่งปีหลังเดือด แห่ลดราคา-อัดโปรระบายสต็อก
อสังหาฯแห่เปิดแนวราบดันซัพพลายบ้านเดี่ยวล้นตลาดขณะที่ภาวะหนี้ครัวเรือน รีเจกต์เรตสูง เอสซี ชี้ครึ่งปีหลังแข่งเดือด! แห่ลดราคา-อัดโปรระบายสต็อกล่าสุดจัดแคมเปญขนบ้านและคอนโดกว่า 70 โครงการจำนวน 280 ยูนิตตั้งเป้าโกยยอดขาย2.5พันล้าน
นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การทำธุรกิจอสังหาฯปีนี้ยากเพราะการแข่งขันสูงโดยเฉพาะตลาดแนวราบส่งผลให้การทำตลาดครึ่งหลังปี2567 เป็นเรื่องท้าทาย! ซึ่งเป็นผลมาจาก3ปัจจัยหลัก ได้แก่ ปัจจัยแรก คือ ซัพพลายแนวราบสูงมาก ปัจจัยที่สองภาวะหนี้ครัวเรือนสูงขึ้นและปัจจัยที่สามยอดการปฏิเสธสินเชื่อสูง(Rejection Rate) ทำให้ยากลำบากในการทำธุรกิจวิธีการแก้ปัญหา ของเอสซี แอสเสทคือการปรับตัวให้เร็วเพื่อให้สามารถผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปให้ได้
“ดังนั้นช่วงเวลานี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการที่คนจะออกมาซื้อบ้านและคอนโด เนื่องจากดีเวลลอปเปอร์ทุกคนอยากจะลดสต็อกของตนเองลงเพราะสถานการณ์ใน2-3เดือนข้างหน้ายังยากลำบากอยู่จึงมีการจัดโปรโมชั่นออกมากันจำนวนมาก ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับคนที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย”
นายณัฐพงศ์ กล่าวต่อว่าแนวโน้มของการแข่งขันของธุรกิจอสังหาฯสูงขึ้น ทางบริษัทได้เตรียมการณ์ล่วงหน้ามา2-3ปี โดยการไดเวอร์ซิฟาย(Diversify)เพื่อกระจายความเสี่ยงในธุรกิจอื่นๆมากขึ้น ทั้งโรงแรม และ คลังสินค้า ส่วนธุรกิจอสังหาฯต้องปรับตัวด้วยการจัดกิจกรรมที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้นจากเดิมรอลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชมโครงการที่เซลส์แกลลอรีของโครงการ
“เราวิ่งมาหาลูกค้าตามศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าต่างๆ สะท้อนเห็นเอสซีเป็นองค์กรที่มีความยืดหยุ่นในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาแทนที่วิ่งสู่กับฝนอย่างเดียวก็ต้องปรับมาออกบูธมากขึ้น”
นายณัฐพงศ์ ระบุว่า แนวโน้มการแข่งขันในตลาดแนวราบสูงขึ้น เนื่องจากช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมาตลาดบ้านเดี่ยวขายดีทำให้ดีเวลลอปเปอร์หลายรายออกมาทำบ้านเดี่ยวกันมากขึ้นส่งผลให้การแข่งขันรุนแรงในทุกระดับราคา สำหรับเอสซี แอสเสท ไม่ว่าการแข่งขันสูงอย่างไร เราเน้นเรื่องของแบรนด์ ที่มีคุณภาพ มีนวัตกรรม บริการหลังการขายที่ดีและต่อเนื่องเพื่อให้แบรนด์อยู่ในใจลูกค้า
อย่างไรก็ตาม ช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาแม้ว่าภาครัฐจะออกมาตรการกระตุ้นอสังหาฯออกมา แต่ยังไม่สามารถช่วยได้อย่างมีนัยยะสำคัญ สังเกตได้จากตัวเลขยอดขายในไตรมาส2 ดีขึ้นนิดหน่อย สะท้อนว่า มาตรการที่ออกมายังช่วยได้ไม่มากนัก
“ส่วนตัวมองว่า หากผ่อนคลายมาตรการแอลทีวี น่าจะช่วยได้มาก เพราะวันนี้มีลูกค้าหลายคนมาซื้อบ้านและคอนโดหลังที่2,3,4 เพื่ออยู่จริง ส่วนหนึ่งต้องการพื้นที่ใหญ่ขึ้น หรือบางคนซื้อติดกับรถไฟฟ้าเพื่ออยู่ใกล้ที่ทำงาน ซึ่งคนกลุ่มเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ แต่พอเจอมาตรการแอลทีวี ทำให้คนกลุ่มนี้กู้ไม่ผ่านหรือบางคนชะลอการตัดสินใจซื้อ จึงอยากให้ผ่อนคลายมาตรการแอลทีวี โดยจำกัดระยะเวลา เพื่อช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาฯ”
นายณัฎฐกิตติ์ ศิริรัตน์ หัวหน้าสายงานการตลาด บริษัทเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในเดือนก.ค.นี้บริษัทได้จัดงาน “SC ASSET MART” โดยได้นำบ้านหรู อาทิ แบรนด์ แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด,บางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์, บางกอก บูเลอวาร์ด, เดอะเจนทริ,เวนิว ไอดี, เพฟ และคอนโดมิเนียม แบรนด์เดอะเครส,เรฟเฟอเรนซ์ และโคบบ์ หลากหลายทำเลทั่วกรุงเทพ ตั้งแต่ราคา 2.59 – 100 ล้านบาท มาจัดโปรโมชั่นพิเศษระหว่างวันที่ 19 – 24 ก.ค.นี้
โดยนำสินค้ามากกว่า 70 โครงการจำนวน 280 ยูนิตร่วมแคมเปญ พร้อม 7 โปรโมชั่นพิเศษ ได้แก่ Cash Back สูงสุด 10 ล้านบาท ฟรีค่าส่วนกลางสูงสุดนาน 10 ปี จองต่ำสุด 999 บาท Voucher PARAGON มูลค่าสูงสุด 500,000 บาท และบัตรน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท คาดว่ายอดขายในงาน 6วันครั้งนี้จะมีจำนวน 2,500 ล้านบาท หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว สามารถทำยอดจองได้กว่า 900 ล้านบาท
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
หุ้นกู้กลุ่มพลังงานสะอาด-ESG ยังไปต่อได้
ตลาดเงินตลาดทุนมอง แนวโน้มหุ้นกู้กลุ่มพลังงานสะอาด หรือ กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (ThaiESG) ยังไปต่อได้ หลังถูกท้าทายจากธรรมาภิบาลจากกรณี EA ชี้บริษัทใหญ่ๆ ยังระดมทุนได้ 1 ปีจากนี้ หุ้นกู้จะครบกำหนด 1.14 ล้านบาท
กรณีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)หลายแห่งที่ลงทุนในหุ้นของบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด(มหาชน) หรือ EA ประกาศไม่ขาย หรือไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนตามคำสั่งที่รับไว้และหยุดรับคำสั่งซื้อหรือคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนที่ลงทุนในหุ้น EA หลังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)กล่าวโทษผู้บริหารต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)
แหล่งข่าวจากตลาดเงินตลาดทุนเปิดเผย“ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ส่วนตัวมองว่า เป็นผลเชิงบวก เพราะสะท้อนถึงการ Cut Loss ซึ่งมีผลต่อมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ( NAV)ทันที โดยไม่ยืดเยื้อ แต่สำหรับผู้ถือหน่วยที่ตอนนี้ยังไม่ได้ขายอาจจะช้าหรือไม่ทันแล้ว
ส่วนบลจ.ที่ถือหน่วยลงทุนของ EA นั้น ถ้าเป็นบลจ.ใหญ่และมีแม่เป็นธนาคารพาณิชย์จะมีความได้เปรียบสามารถบริหารจัดการได้ แต่คงจับตาบลจ.ขนาดรองลงมาอย่างบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง(ประเทศไทย) จํากัด (บลจ.อีสท์สปริง) กับ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด (บลจ.วรรณ) เพราะยังไม่ทราบว่า พฤติกรรมถอนเงินจะเป็นอย่างไร
“2 วันที่ผ่านมา NAV ถูกจัดการไปแล้วคือ ผู้ที่ขายออกไปอาจจะได้รับเงิน ซึ่งรับผล NAV ไปแล้ว แต่หากยังมีผู้ต้องการขายออก ก็ต้องติดตามสถานการณ์คาดว่า ขนาดกองทุนน่าจะบริหารจัดการได้ หลังจากราคาลดลงนิ่งแล้ว เข้าใจว่าหุ้นกู้ EA เวลานี้ บริษัทยังมีความไม่แน่นอนสูง เพราะยังไม่รู้ว่าจะได้เงินคืนอย่างไรหรือจะแก้ปัญหาได้จบเมื่อไหร่”แหล่งข่าวกล่าว
ในแง่นักลงทุนบางส่วน อาจจะเชื่อมั่นในบริษัท ภายใต้การบริหารจัดการของคณะกรรมการบริหารชุดใหม่หรือบอร์ดใหม่ ที่มองว่า บริษัทยังมีเงินสด อาจจะมองเป็นโอกาส โดยซื้อขายกันในราคาส่วนลด 50-70% โดยคาดหวังว่า บอร์ดชุดใหม่จะบริหารจัดการได้ ไม่ว่าโจะเป็นการปรับโครงสร้าง หรือสถาบันการเงินเจ้าหนี้ที่ได้รับผลกระทบอาจจะอุ้มบริษัท ซึ่งอาจจะมีการลดทุนหรือเพิ่มทุนและมีเงินใหม่เข้ามาทำให้สามารถจัดการงบดุลและตั้งหลักได้ และเมื่อถึงเวลานั้นหรือในอนาคต อาจจะซื้อขายหุ้นกู้ได้เงินคืนประมาณ 80%
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ตอนนี้หุ้นกู้ EA เป็นหุ้นกู้ High Yield ไปแล้ว แต่โอกาสจะลามหุ้นกู้รายอื่นหรือไม่นั้น ในแง่ผู้ลงทุนที่จะได้รับผลกระทบน่าจะเป็นรายเล็กๆ ที่มีงบการเงินไม่แข็งแรงหรือนักลงทุนไม่แน่ใจเรื่องธรรมาภิบาล โดยเฉพาะบอนด์กลุ่ม High Yield ยิ่งตกอยู่ในสถานการณ์ที่แย่ ซึ่งบริษัทจะต้องตั้งรับมากขึ้น แม้จะจ่ายผลตอบแทนแพง 6-7%ต่อปี
แต่ในส่วนของบริษัทขนาดใหญ่เท่าที่ติดตามดูเวลานี้ ไม่น่าจะมีผลกระทบรุนแรง และยังมีแนวโน้มจะมีขายหุ้นกู้อีกหลายบริษัท เช่น บริษัท บี.กริม จำกัด(มหาชน) หรือ BGRIM บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ SAWAD และบริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด(มหาชน) หรือ MTC
แหล่งข่าวอีกรายให้ความเห็นว่า แนวโน้มธุรกิจหุ้นกู้ยังดำเนินต่อไปได้ รวมถึงตลาดหุ้นกู้ในกลุ่มพลังงานสะอาดหรือกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (ThaiESG) โดยปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดตอนนี้ เป็นบทเรียนสำหรับหน่วยงานกำกับ โดยรวมถึงคณะกรรมการด้านกรีนไฟแนนซ์ (Green Finance) ต้องปรับเกณฑ์กำกับให้มากขึ้น เพื่อสะท้อนศักยภาพหุ้นกู้ที่สามารถอยู่ใน ESG SET INDEX ได้ หรือคณะกรรมการต้องทบทวน กำกับดูแลและมีความเข้มงวดมากขึ้นไม่ปล่อยปละละเลยทั้งในตลาดหุ้นสามัญและตลาดบอนด์ด้วย
รายงานข่าวจากสมาคมตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)ระบุว่า หุ้นกู้ที่จะครบกำหนดใน 12 เดือนจากนี้ไป มีมูลค่ารวม 1.14 แสนล้านบาท โดยจะครบกำหนดในครึ่งหลังปี 2567 จำนวน 6.75 แสนล้านบาทแบ่งเป็นหุ้นกู้ระยะยาว 4.37 แสนล้านบาทและหุ้นกู้ระยะสั้น 2.38 แสนล้านบาท และที่จะครบกำหนดในครึ่งแรกปี 2568 อีก 4.69 แสนล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นกู้ระยะยาว 4.59 แสนล้านบาทและหุ้นกู้ระยะสั้น 1.02 แสนล้านบาท
สำหรับหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในครึ่งหลังปี 2567 นั้น หุ้นกู้ระยะยาว ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มไฟแนนซ์ 79,513 ล้านบาท รองลงมาเป็นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ 79,353 ล้านบาท พลังงาน 75,185 ล้านบาท ไอซีที 39,722 ล้านบาทและวัสดุก่อสร้าง 39,015 และหุ้นกู้ระยะสั้น ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มไฟแนนซ์ 55,925 ล้านบาท อาหาร 47,885 ล้านบาท อสังหาริมทรัพย์ 37,269 ล้านบาท เกษตร 30,570 ล้านบาทและกลุ่มพลังงาน 20,500 ล้านบาท
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ส่องเพื่อนบ้าน! นักกีฬาชาติอาเซียน ได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024
การแข่งขันมหกรรมกีฬาสุดยิ่งใหญ่ของมวลมนุษยชาติ โอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ในครั้งนี้จะจัดขึ้นที่ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 24 กรกฏาคม – 11 สิงหาคม นี้
โดยในครั้งนี้ถือเป็นการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ครั้งที่ 33 ซึ่งจะมีนักกีฬาไทย ที่ได้สิทธิ์ผ่านการตัดตัวเข้าแข่งขันในครั้งนี้ทั้งหมด 51 คน จากทั้งหมด 16 ชนิดกีฬา ถือว่ามากที่สุดจากบรรดาชาติอาเซียน 11 ชาติ
นักกีฬาของชาติอาเซียน ที่ได้สิทธิ์เข้าแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024
- ไทย 51 คน
- อินโดนีเซีย 29 คน
- มาเลเซีย 26 คน
- ฟิลิปปินส์ 22 คน
- สิงคโปร์ 22 คน
- เวียดนาม 15 คน
- ติมอร์ เลสเต 3 คน
- กัมพูชา 2 คน
- ลาว 1 คน
- เมียนมาร์ 1 คน
- บรูไน 0 คน
สำหรับการแข่งขัน โอลิมปิก เกมส์ ปารีส 2024 แฟนๆ สามารถร่วมลุ้น และส่งกำลังใจเชียร์ทัพนักกีฬาไทย ได้ผ่านทางหน้าจอ PPTV HD 36 และเว็บไซต์ www.pptvhd36.com จะเริ่มถ่ายทอดสดตั้งแต่เวลา 22:00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ยาวข้ามวันไปถึง 04:00 น. ของทุกวัน
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
4 สัญญาณอันตราย โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว
มะเร็ง นั้นเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ทุกส่วนของร่างกาย เพราะอวัยวะของเรานั้นประกอบไปด้วยเซลล์มากมายรวมกันขึ้นเป็นเซลล์ชนิดต่าง ๆ และการเจริญเติบโตของมะเร็งก็จะเป็นแบบเซลล์ที่ผิดปกติ คือการเจริญเติบโตที่เร็วเกินไปจนกลายเป็นก้อนเนื้อ นอกจากนั้นโรคมะเร็งยังเกิดขึ้นได้กับทุกอวัยวะ โรคมะเร็ง ยังสามารถเกิดขึ้นในเม็ดเลือดที่อยู่ในร่างกายของเราได้อีกด้วย และท่านก็คงได้ยินในเรื่องของมะเร็งเม็ดเลือดขาวกันบ้างแล้วนะ ซึ่งเม็ดเลือดขาวของเรานั้นก็จะมีหน้าที่ช่วยทำลายเชื้อโรคและสารแปลกปลอมต่างๆ ที่เข้าสู่ร่างกายหรือกล่าวง่าย ๆ ว่า เม็ดเลือดขาว จะช่วยสร้างความต้านทานให้กับร่างกายของเราแต่ถ้าเม็ดเลือดขาวไม่สามารถที่จะทำหน้าที่ของตนเองได้ก็จะเกิดผลกระทบต่อร่างกายของเราได้อย่างแน่นอน
โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว หมายถึงโรคอะไร
ก็เป็นกลุ่มโรคที่เม็ดเลือดขาวตัวอ่อนมีการแบ่งตัวอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้สะสมอยู่ในไขกระดูกแล้วก็ออกมาในการแตกเลือดก็ไปเบียดบังอวัยวะต่าง ๆ ทำให้การทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ทำงานผิดปกติไปเกิดจากการที่มีเม็ดเลือดขาวมากเกินไป
โรคนี้เป็นมาตั้งแต่เกิดหรือไม่ หรือเกิดภายหลังที่เราเกิดขึ้นแล้ว
โรคนี้มักจะมาเป็นภายหลัง หลังจากที่เราคลอดออกมาแล้ว แต่เราสามารถจะพบได้ในบางรายที่เป็นตั้งแต่คลอดออกมา แต่โดยส่วนใหญ่เกิดขึ้นภายหลัง
สาเหตุที่สำคัญที่ก่อให้เกิดมะเร็งเม็ดเลือดขาวนั้นมีสาเหตุอะไร หรือมีปัจจัยอะไรที่ทำให้เกิดโรคนี้ขึ้นมา
ในปัจจุบันสาเหตุที่แท้จริงเรายังไม่ทราบ แต่มีปัจจัยส่งเสริมบางอย่าง เช่น โรคทางพันธุ์กรรมบางโรค เช่น ดาวซินโดรม Down’s syndrome การแพร่รังสีเพราะเราเจอคนไข้มากขึ้นหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 มีระเบิดปรมาณู นอกจากนั้นยังมีสารเบนซินพวกนี้ก็จะมีกลุ่มปัจจัยเสริมทำให้พบได้ง่ายขึ้น และมีการติดเชื้อบางอย่างด้วย เช่น เชื้อไวรัสบางอย่าง
ในเรื่องถ่ายทอดทางพันธุกรรมจะมีส่วนด้วยไหม
เราพบว่าโรคพันธุกรรมบางอย่างการมีอุบัติการณ์ของมะเร็งเม็ดเลือดขาวสูงกว่าคนธรรมดาทั่วไปนั่น คือ สาเหตุส่งเสริมที่ทำให้เกิดเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวไม่ว่าในเรื่องของรังสี สารพิษต่าง ๆ
ในปัจจุบันนี้มีผู้ป่วยมาพบหมอมากน้อยแค่ไหน และมีผู้ป่วยมารักษามากน้อยแค่ไหน และมีจำนวนมากขึ้นไหม
ในปัจจุบันนี้เราพบว่ามีผู้ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวมากขึ้น เฉพาะที่ศิริราชเราปีที่แล้วมีผู้ป่วยใหม่ 200 รายในรอบ 1 ปี และมะเร็งเม็ดเลือดขาวจัดได้ว่าพบได้บ่อยใน 10 อันดับแรกของมะเร็ง
ในกลุ่มที่ป่วยจะมีเพศใด วัยใดมากที่สุด
อันนี้ไม่เลือกเพศมีทั้งเพศหญิงชาย มีสิทธิเท่า ๆ กัน และเรื่องของวัยผู้ป่วยที่เราดูแลก็จะพบตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไป ถึง 60 ปี โดยที่ไม่มีช่วงใดช่วงหนึ่งเป็นได้พิเศษ
วิธีการสังเกตลักษณะอาการผิดปกติ ถ้าผู้ป่วยมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของโรคมะเร็งจะมีลักษณะอาการผิดปกติอย่างไรบ้างที่บ่งบอกอาการ
เราคงแบ่งอาการง่าย ๆ ได้ 4 อย่าง หรือ 4 กลุ่ม ดังนี้
1. อาการแรกที่เป็น คือ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ซีด อ่อนเพลียง่าย อันนี้เป็นลักษณะเดิมทั่วไปทั้งหลาย
2. มีเลือดออกง่าย เพราะมะเร็งเม็ดเลือดขาวจะมีเกร็ดเลือดต่ำ จึงทำให้เลือดออกง่าย เช่น ออกตามไรฟัน มีจ่ำเขียวขึ้นบนตามตัว หรือมีประจำเดือนมากผิดปกติ
3. มีเม็ดเลือดขาวปริมาณมากแต่ทำหน้าที่ไม่ได้ตามเท่าที่จะเป็น เฉพาะเม็ดเลือดขาวมีหน้าที่ต่อ สู้กับเชื้อโรค แต่เมื่อเป็นอย่างนี้ก็ต่อสู้เชื้อโรคไม่ได้ ก็มีการติดเชื้อง่ายมีไข้ มีการติดเชื้อในตำแหน่งต่าง ๆ
4. เม็ดเลือดขาวไปบีบบังอวัยวะต่าง ๆ หรือสะสมอยู่ ก็ทำให้มีก้อนขึ้นที่ขาหนีบ ต่อมน้ำเหลือง ขา คอ หรือมีตับ ม้ามโต
เราจะมีการตรวจ และวินิจฉัยโรคอย่างไรบ้างให้เราทราบอย่างชัดเจนว่าเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว
ขั้นแรก เราต้องเจาะเลือดตรวจว่ามีความผิดปกติ แล้วก็พบเซลล์เม็ดเลือดตัวอ่อนของเม็ดเลือดขาวต่อไปเราก็จะทำการยืนยันโดยการเจาะไขกระดูก เพื่อดูให้ชัดเจนอีกครั้งว่ามีการขยายตัวในไขกระดูกจริง
วิธีการรักษาในปัจจุบันว่าถ้าเราเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวแล้วจะมีวิธีการรักษาอย่างไร
วิธีแรกที่เราจะรักษา คือ การให้ยาเคมีบำบัด ซึ่งจะให้เป็นชุด ๆ ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานานพอสมควร บางทีอาจจะใช้เวลา 1-2 ปีเป็นอย่างน้อย ในปัจจุบันก็จะมีวิธีใหม่มารักษา
วิธีที่ 2 คือการปลูกถ่ายในไขกระดูก เราก็ทำได้แล้วแต่วิธีนี้ค่อนข้างยุ่งยากอยู่มีค่าใช้จ่ายสูงและมีโรคแทรกซ้อนสูงพอสมควร และต้องใช้ไขกระดูกของพี่น้องที่เข้ากันได้อีก ฉะนั้นการรักษาวิธีที่ 2 ต้องพิจารณาเป็นราย ๆ ไป ซึ่งหลักใหญ่ในการรักษาก็จะมี 2 วิธีที่กล่าวมาแล้ว
ในการรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวจะมีการรักษาให้หายขาดได้ไหม
ในปัจจุบันมีความก้าวหน้าของยาเคมีบำบัด และการปลูกถ่ายไขกระดูกมีความก้าวหน้า เพราะฉะนั้นจัดได้ว่ามะเร็งเม็ดเลือดขาวมีวิธีการรักษาให้หายขาดได้ โดยเฉพาะในเด็กอายุต่ำกว่า 12 ขวบ อัดราการรักษาให้หายขาดค่อนข้างสูง คงขึ้นอยู่กับการมาพบแพทย์รักษาอย่างรวดเร็วและมาพบตั้งแต่เริ่มต้น มีบางกลุ่มที่ไม่ทราบและปล่อยปละละเลยให้อาการเป็นมากขึ้น
อันตรายจากโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวมีมากน้อยแค่ไหนหรือจะทำให้ผู้ป่วยถึงตายได้
ถ้าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวอย่างเฉียบพลันแล้วไม่ได้รักษาโดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะเสียชีวิตใน 3-4 เดือน ในการเสียชีวิตนั้นมีการติดเชื้อง่าย และการติดเชื้อนั้นมีการลุกลามไปตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย อีกกรณีหนึ่งก็คือมีเลือดออก เช่น มีเลือดออกจากสมองอาจทำให้ผู้ป่วยถึงแก่กรรมได้ย่างรวดเร็ว
ในกรณีที่ผู้ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเรื้อรัง พวกนี้อาการจะค่อยดำเนิน ค่อยเป็นค่อยไป อาจจะเริ่มจาก 6-8 เดือน หลังจากนั้นอวัยวะต่าง ๆ ก็จะเริ่มเสื่อมลง ก็จะเกิดปัญหารุนแรงตามมาอีก เพราะฉะนั้นเราควรดูแลรักษากัน เพราะโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเป็นโรคหนึ่งที่ร้ายแรงและอันตราย
ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวนั้นจะมีวิธีดูแลหรือปฏิบัติตัวเองอย่างไร
เรื่องแรกคือ การดูแลสุขอนามัยส่วนตัว เพราะผู้ป่วยกลุ่มนี้จะมีการติดเชื้อได้ง่าย และการดูแลรักษาความสะอาดส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเป็นเรื่องสำคัญ ที่เราพบบ่อยคือสุขภาพปาก ฟัน อันนี้เป็นช่องทางทำให้ติดเชื้อกันง่าย ควรใช้แปรงขนอ่อนนุ่มเป็นพิเศษ ซึ่งพวกนี้จะราคาแพงแต่จะทำให้มีแผลในปากน้อย และจะช่วยลดการติดเชื้อเป็นอย่างดี
การรับประทานอาหาร ผัก ผลไม้ มาก ๆ จะช่วยในการขับถ่ายอุจจาระไปได้ด้วยดีไม่ท้องผูกอาจจะมีแผลที่ทวารเป็นที่หนึ่งของการติดเชื้อได้ง่าย
การดื่มน้ำมาก ๆ ก็จะช่วยได้มากเพราะพวกนี้จะมีการแตกสลายในเม็ดเลือดเป็นจำนวนมากและมีการสะสมสารบางอย่างในร่างกายทำให้เกิดการอุดตันเพราะฉะนั้นทานน้ำมาก ๆ ก็จะช่วยขับถ่ายได้เป้นอย่างดี
อีกอย่างคือการซื้อยาแก้ปวดแก้ไข้ทานเอง อันนี้จะเป็นอันตรายเสริมในกรณีที่ได้ยาผิดประเภทไป คนไข้กลุ่มนี้ต้องอยู่ในการควบคุมดูแลของแพทย์
การดูแลให้เหมาะสม สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว
1. พักผ่อนให้เพียงพอ
2. ดื่มน้ำมากๆ
3. รักษาความสะอาดของร่างกาย
4. รับประทานอาหารทีมีประโยชน์ คุณค่าต่อร่างกาย
5. รักษาสุขภาพร่างกายอย่าให้มีโรคแทรกซ้อนมาภายหลัง
แนวทางการป้องกันโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวจะมีการป้องกันได้หรือไม่อย่างไรบ้าง
เนื่องจากเรายังไม่ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริง แต่เราทราบว่ามีปัจจัยส่งเสริมว่าคือพวกสารเคมีบางอย่างหรือพวกอาหารที่มีสารปรุงแต่งมากเกินไป ช่วงนี้คนส่วนมากนิยมอาหารพวก Fast Food หรืออาหารทีมีการดัดแปลงมีสารเคมี และอันนี้ก็มีการศึกษาและพบว่ามีอุบัติการของมะเร็งไม่ใช้เฉพาะของมะเร็งเม็ดเลือดขาวอย่างเดียว มะเร็งชนิดอื่น ๆ ก็มีอุบัติการณ์สูงขึ้น ถ้าเราลดของพวกนี้ได้ก็จะลดปัจจัยการส่งเสริมมะเร็ง
ข้อแนะนำ
ในปัจจุบันสมาคมโรคมะเร็งแห่งอเมริกาได้แนะนำว่า คนทั่วไปควรทานอาหารที่มีผัก ผลไม้ อย่างน้อยวันละ 5 สุ่ม ซึ่งจะช่วยลดอุบัติการการเกิดมะเร็งไม่ว่าจะเป็นมะเร็งชนิดใดก็ตาม
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
การใช้ Compound Noun (คำนามประสม) ในภาษาอังกฤษคืออะไร ใช้อย่างไร?
ในบทสนทนา การพูดคุย หรือการเขียนประโยคต่าง ๆ โครงสร้างพื้นฐานที่เป็นปกติก็คือ ประธาน + กริยา + กรรม ซึ่งทั้งประธานและกรรมนั้นล้วนแล้วแต่จะเป็นคำนาม หรือ Noun ในภาษาอังกฤษทั้งนั้น แต่คำนามไม่ได้จบแค่คำว่าคำนาม เพราะคำนามก็มีประเภทของมันอีกด้วย ตัวอย่างเช่น Compound Noun หรือคำนามประสมที่มาเป็นหัวข้อในบทความนี้ ในบทความนี้ Engduo Thailand จะพาคุณไปรู้จักกับ Compound Noun หรือคำนามประสมว่าคืออะไร ใช้อย่างไร มีหลักการในการใช้อย่างไร นอกจากจะบอกว่าคืออะไรและใช้อย่างไรแล้ว ก็ยังมีตัวอย่างคำศัพท์ที่มาจากคำนามประสมและประโยคของการใช้คำนามประสม
Compound Noun หรือ คำนามประสมคืออะไร?
คำนามประสมเป็นคำนามที่เกิดจากรวมคำของ 2 คำขึ้นไป แล้วเกิดความหมายใหม่ โดยคำที่นำมาประสมกันนั้นอาจเป็น นามกับนาม นามกับกริยา นามกับคุณศัพท์ หรืออาจสลับตำแหน่งกันเป็น กริยากับนาม คุณศัพท์กับนามก็ได้ หากยกตัวอย่างเป็นภาษาไทย เช่น หมอน + ข้าง = หมอนข้าง, เตา + รีด = เตารีด, น้ำ + ผึ้ง = น้ำผึ้ง เป็นต้น
หลักการสร้างคำประสม
หลักการสร้างคำประสมสามารถทำได้หลายวิธี แต่จุดสำคัญคือ นำคำ 2 คำขึ้นไปมาประสมกัน เกิดเป็นความหมายใหม่ ดังนี้
- Noun + Noun (นาม + นาม) เช่น
bedroom (ห้องนอน) มาจาก bed (เตียงนอน) + room (ห้อง)
newspaper (หนังสือพิมพ์) มาจาก news (ข่าว) + paper (กระดาษ)
fish tank (ตู้ปลา) มาจาก fish (ปลา) + tank (ถัง)
- Noun + Verb (นาม + กริยา) เช่น
waterfall (น้ำตก) มาจาก water (น้ำ) + fall (ตก)
butterfly (ผีเสื้อ) มาจาก butter (เนย) + fly (บิน)
haircut (ตัดผม) มาจาก hair (ผม) + cut (ตัด)
- Adjective + Noun (คุณศัพท์ + นาม) เช่น
greenhouse (เรือนกระจก) มาจาก green (สีเขียว) + house (บ้าน)
high school (ชั้นมัธยม) มาจาก high (สูง) + school (โรงเรียน)
whiteboard (กระดานไวท์บอร์ด) มาจาก white (ขาว) + board (กระดาน)
- Verb + Noun (คำกริยา + คำนาม) เช่น
washing machine (เครื่องล้างจาน) มาจาก washing (ล้าง) + machine (เครื่องจักร)
swimming pool (สระว่ายน้ำ) มาจาก swimming (ว่ายน้ำ) + pool (สระ)
sleeping pill (ยานอนหลับ) มาจาก sleeping (นอนหลับ) + pill (ยา)
- Verb + Adverb/ Preposition (คำกริยา + คำกริยาวิเศษณ์/ คำบุพบท) เช่น
giveaway (ของแถม) มาจาก give (ให้) + away (ห่างออกไป)
take-off (ถอดออก) มาจาก take (เอา, รับ) + off (พ้น, ไกลออกไป)
takeover (รับช่วงต่อ) มาจาก take (เอา, รับ) + over (เกิน)
- Adverb + Noun (คำกริยาวิเศษณ์+ คำนาม) เช่น
inside (ข้างใน) มาจาก in (ใน) + side (ด้านข้าง)
downstairs (ชั้นล่าง) มาจาก down (ข้างล่าง) + stairs (บันได)
upstairs (ชั้นบน) มาจาก up (ข้างบน) + stairs (บันได)
- Adverb + Verb (คำกริยาวิเศษณ์ + กริยา) เช่น
output (ข้อมูลส่งออก) มาจาก out (ออก) + put (ใส่)
income (รายได้) มาจาก in (ใน) + come (เข้ามา)
outstanding (โดดเด่น) มาจาก out (ออก) + standing (ยืน)
- Preposition + Noun (บุพบท + นาม) เช่น
underworld (โลกใต้พิภพ) มาจาก under (ภายใต้) + world (โลก)
underground (ใต้ดิน) มาจาก under (ภายใต้) + ground (พื้น)
overrate (เกินจริง) มาจาก over (เกิน) + rate (ประเมิน)
การเขียนคำประสม
การเขียนคำประสมมีอยู่ 3 แบบ คือ
1. เขียนทั้งสองคำติดกัน
เช่น seafood (sea + food), bedroom (bed + room), moonlight (moon + light)
2. เขียนแยกกัน
เช่น bus stop (but + stop), ice cream (ice + cream), fish tank (fish + tank)
3. เขียนแยกกันโดยใช้ เครื่องหมาย hyphen (-) คั่น
เช่น weight-lifting (weight + lifting), mother-in-law (mother + in + law), merry-go-round (merry + go + round)
การใช้คำนามประสม
คำนามประสม สามารถใช้วางตำแหน่งของคำนามในประโยคได้เลย เช่น
- You better go to your bedroom and rest well tonight.
ถึงเวลาที่เธอต้องเข้านอนเพื่อพักผ่อนสำหรับคืนนี้
- He has an outstanding musical talent.
เขามีความสามารถที่โดดเด่นด้านดนตรี
- At last, I graduated from junior high school.
ในที่สุดฉันก็เรียนจบชั้นมัธยมต้น
ขอบคุณข้อมูลจาก engduothailand.com
8 อาหารบำรุงผิวสวย ตัวช่วยให้ผิวเปล่งประกายออร่าจากภายใน
การดูแลความงามของผิวผู้หญิงและการบำรุง สามารถทำได้จากอาหารที่มีคุณภาพ คุณสาว ๆ จึงควรเลือกในการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพื่อทำให้ผิวเปล่งประกายจากภายในสู่ภายนอกได้ดีที่สุด เมื่อใช้สกินแคร์หรือมีการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม จะยิ่งช่วยเสริมให้ผิวสวยเปล่งประกายมากขึ้น ดังนั้นจึงขอแนะนำ 8 อาหารผิวสำหรับการบำรุงความสวยงามของคุณผู้หญิง ที่นอกเหนือจากได้ผิวสวยแล้ว ยังทำให้สุขภาพดีและน้ำหนักไม่เพิ่มขึ้นด้วยค่ะ
8 อาหารบำรุงผิวสวย
1.ชาเขียว
เครื่องดื่มที่ใครหลาย ๆ คนชื่นชอบอย่างชาเขียว จะอุดมไปด้วยสารโพลีฟีนอลและคาเทซิน ที่ให้คุณสมบัติในการปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะ พร้อมการมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง จึงช่วยในการลดความเสื่อมและการอักเสบภายในร่างกาย ถูกจัดให้เป็นอาหารชะลอวัยที่ทำให้ผิวพรรณสดใส และมีงานวิจัยในการดื่มชาเขียวเข้มข้น จะทำให้ลดอาการอักเสบของผิวหลังออกกันแดดมากถึง 25% เลยทีเดียว
2.ธัญพืช
อาหารในกลุ่มธัญพืช ถูกจัดให้เป็นอาหารที่มีคุณภาพสูง ต่อทั้งสุขภาพร่างกายและผิวพรรณของสาว ๆ จะอุดมไปด้วยกากใยอาหารที่จะช่วยทำให้การขับถ่ายคล่องตัว ลดการเกิดสิว มีวิตามินและแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยในการลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพพร้อมทำให้ผิวอ่อนเยาว์ ยืดหยุ่น และเปล่งประกาย ปรับสมดุลลำไส้และฮอร์โมนได้เป็นอย่างดี
3.มะเขือเทศ
ภายในมะเขือเทศจะอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี และกลุ่มสารแคโรทีนอยด์กับไลโคปีน ที่มีผลดีต่อทั้งดวงตาและผิวพรรณ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยทำให้ผิวพรรณสวยกระจ่างใส มีความอมชมพู ต้านการเกิดริ้วรอยและสิว พร้อมลดการอักเสบและความเสื่อมภายในร่างกายได้จริงค่ะ
4.น้ำแร่
น้ำแร่จะให้แร่ธาตุที่เหมาะสมและมีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย เน้นในเรื่องของการเพิ่มความชุ่มชื้นและการปรับสมดุล ที่สำคัญคือการมีปริมาณของซิลิกาค่อนข้างสูง จึงเป็นตัวช่วยทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น ชะลอวัย ลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวแข็งแรง และมีเกราะป้องกันแสงแดด ลดการอักเสบของผิวเมื่อต้องออกแดดเป็นประจำ ทำให้สิวยุบลงอย่างรวดเร็วและเพิ่มความชุ่มชื้น
5.คะน้า
ผักใบเขียวอย่างคะน้า อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีความทรงพลัง จึงช่วยในด้านการชะลอวัยและความเสื่อมทั้งอวัยวะและเซลล์ภายในร่างกายได้เป็นอย่างดี อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุสำคัญ ที่จะไปช่วยกระตุ้นการเกิดคอลลาเจนของผิว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่น ป้องกันการเกิดริ้วรอยและปัญหาโรคผิวหนังต่าง ๆ พร้อมการกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดให้ดีมากขึ้น
6.หน่อไม้ฝรั่ง
ภายในหน่อไม้ฝรั่งจะอุดมไปด้วยกลูต้าไธโอน และสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่สูงมาก พร้อมการเป็นแหล่งรวมวิตามินซี วิตามินบี วิตามินเอ และแร่ธาตุที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย ให้คุณสมบัติในการขับสารพิษ ออกทางการขับถ่ายปกติ จึงช่วยผิวกระจ่างใสขึ้น
7.ทับทิม
ผลทับทิมจะอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามิน ที่สำคัญต่อสุขภาพและผิวของผู้หญิง โดยรวมทั้งวิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี และวิตามินอี นอกจากนี้ ยังมีแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยทำให้ผิวมีเกราะป้องกันรังสี UV ช่วยลดเลือนริ้วรอย สามารถลดสิว ลดรอยดำ รอยแดง ฝ้า และกระให้จางลงได้จริง รับประทานอย่างต่อเนื่อง จะให้ผิวที่กระจ่างใสอย่างเห็นผลได้ชัด
8.อะโวคาโด
ผลไม้สีเขียวเข้มที่ให้รสชาติออกมัน สามารถรับประทานเป็นมื้อว่าง หรือผสมผสานกับมื้ออาหารได้ลงตัวอย่างอะโวคาโด อุดมไปด้วยไขมันดี ที่ทำให้สุขภาพแข็งแรงและเพิ่มความยืดหยุ่นกับผิว เต็มเปี่ยมไปด้วยความชุ่มชื้น พร้อมทำให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น
พืชพรรณธรรมชาติ มีสารอาหารหลากหลายชนิดที่ช่วยบำรุงและดูแลผิวของผู้หญิง ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีและเปล่งปลั่ง การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เหล่านี้ทุกวัน จะช่วยให้สุขภาพดีขึ้นจากภายในสู่ภายนอก การนำสารอาหารเหล่านี้มาผสมผสานกับอาหารในทุกมื้อ สามารถช่วยให้ผิวดูสดชื่น ลดเลือนริ้วรอย และรักษาความอ่อนเยาว์ไปได้หลายปีเลยค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
นศ.นิด้า เสริมศักยภาพความยั่งยืนชุมชนเขายายเที่ยง จ.นครราชสีมา
นักศึกษาท่องเที่ยวนิด้ารุ่น 25 ร่วมกับชุมชนเขายายเที่ยง จ.นครราชสีมี ลงพื้นที่จัดทำแผนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนแบบโลว์คาร์บอน นำเสนอแผนงานอย่างเป็นรูปธรรมให้กับชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ชุมชนเขายายเที่ยง อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ระยะทางห่างจากตัวเมืองประมาณ 70 กิโลเมตร มีอาณาเขตแนวป่าติดต่อกับป่าเขาเตียน ป่าเขาเขื่อนลั่น ป่าปากช่อง ป่าหมูสี และเขื่อนลำตะคอง เป็นเขตป่าสงวนตามแผนที่-อาคารของกรมแผนที่ทหาร เมื่อปี 2545 เป็นจุดชมวิวบนยอดเขา ด้านบนมองเห็นวิวของเขื่อนลำตะคองและกังหันลมยักษ์ได้อย่างชัดเจน
นักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากตลอดทั้งปี ล่าสุดคณะการจัดการการท่องเที่ยว สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ นักศึกษาปริญญาโท รุ่นที่ 25 ร่วมกับชุมชนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่จัดทำแผนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนแบบโลว์คาร์บอน เพื่อนำเสนอแผนงานอย่างเป็นรูปธรรมให้กับชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
บ่มเพาะบุคลากรการท่องเที่ยวออกมาสร้างประโยชน์
ดร.วัชรี ปรัชญานุสรณ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การลงพื้นที่ของนักศึกษาการจัดการการท่องเที่ยว นิด้า รุ่นที่ 25 จังหวัดนครราชสีมาในครั้งนี้ เป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้จากชุมชน ซึ่งนครราชสีมา เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติ เป็นจังหวัดเดียวของประเทศไทย ที่ได้รับการรับรองจากยูเนสโกให้เป็นเมืองแห่ง 3 มงกุฎ
- มงกุฎแรก คือ เป็นมรดกโลก ได้แก่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
- มงกุฎที่ 2 คือ พื้นที่สงวนชีวมณฑลของโลก ได้แก่ ป่าสะแกราช อ.ปักธงชัย
- มงกุฎที่ 3 เป็นอุทยานธรณีโลก
แนวทางที่สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยววางไว้ให้กับโคราช คือ เมืองเกษียณของโลก ที่มีนักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพต้องการเดินทางมาเกษียณหลังจากทำงานมาตลอดชีวิตที่จังหวัดนี้ จังหวัดต้องการกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ด้านการท่องเที่ยว เพื่อมาเป็นกำลังสำคัญให้กับเมืองโคราชในการสร้างการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ที่สำคัญนิด้าร่วมเป็นสถาบันการศึกษาหลักบ่มเพาะบุคลากรการท่องเที่ยวออกมาสร้างประโยชน์ให้กับจังหวัด ภายใต้พื้นที่วิทยาเขตของมหาวิทยาลัยอยู่ในจังหวัดโคราชต่อไปในอนาคต
รศ.ดร.พัทรียา หลักเพ็ชร อาจารย์ประจำวิชาความรับผิดชอบทางสังคมสำหรับการจัดการธุรกิจการท่องเที่ยวและบริการ คณะการจัดการการท่องเที่ยว สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เปิดเผยว่า สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า ได้ดำเนินการจัดการเรียนการสอนระดับบัณฑิตศึกษา ณ ศูนย์การศึกษาสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยประโยชน์ทางการศึกษาและพัฒนาศักยภาพบุคลากรของภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน รวมถึงให้บริการทางวิชาการด้านพัฒนบริหารศาสตร์และองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องภายในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาโดยตลอด สถาบันมีแผนการดำเนินงานเพื่อพัฒนาการศึกษา พัฒนาผู้นำและชุมชนสีคิ้วอย่างยั่งยืน
สถาบันฯ ยังคงยึดมั่นในวิสัยทัศน์ของการเป็น “สถาบันสรรค์สร้างปัญญาของสังคม และสร้างผู้นำ เพื่อไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับสากล” มุ่งมั่นในการนำองค์ความรู้และคุณธรรม มาสร้างปัญญา สร้างจิตสำนึก และความรับผิดชอบต่อสังคมและประเทศชาติ เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพการศึกษา เพื่อยกระดับให้ ‘นิด้า’ เป็นสถาบันการศึกษาของประเทศที่มีศักยภาพ พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันในระดับสากล
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 22/07/2567
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 41,300.00 | 41,400.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 2,675.00 | 40,553.00 | 41,900.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 2,407.50 | 36,497.70 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 2,140.00 | 32,442.40 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 1,204.00 | 18,252.64 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 936.00 | 14,189.76 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,772.00 | 42,023.52 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 22/07/2567
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 38.85 | 38.85 | 39.25 | 38.85 | 38.85 | 38.85 | 38.85 | 38.85 | 38.85 | 38.85 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 38.48 | 38.48 | 38.88 | 38.48 | 38.48 | 38.48 | 38.48 | 38.48 | 38.48 | 38.48 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 36.74 | 36.74 | 37.14 | 36.74 | 36.74 | – | 36.74 | 36.74 | 36.74 | 36.74 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 36.49 | 36.49 | – | – | – | – | – | – | – | 36.49 |
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม | 47.44 | 49.84 | 49.84 | 49.84 | – | – | – | – | – | 47.44 |
เบนซิน 95 | 46.74 | – | – | – | 49.81 | – | 47.24 | 46.89 | – | 46.74 |
ดีเซล | 32.94 | 32.94 | 33.24 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 44.94 | 47.14 | 49.84 | 47.14 | 47.14 | – | – | – | – | 44.94 |
แก๊ส NGV | 19.59 | 19.59 | – | – | – | – | – | – | – | 19.59 |