รู้จัก…ถนนหอการค้าไทย ทำเลดาวรุ่งของกรุงเทพฯ โซนเหนือ
ส่องทำเล ถนนหอการค้าไทย ดาวรุ่งของกรุงเทพฯ โซนเหนือ ที่บิ๊กอสังหาฯให้ความสนใจเข้าไปพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรมากที่สุดทำเลหนึ่ง
พื้นที่จังหวัดนนทบุรีตอนเหนือช่วงระหว่างถนนราชพฤกษ์ ถนนชัยพฤกษ์ และถนนสะพานนนทบุรี-บางบัวทอง (ทางหลวงชนบทหมายเลข 345) 10 ปีก่อนหน้านี้มีโครงการบ้านจัดสรรไม่มากนัก แต่เมื่อมีถนนใหม่ “ชัยพฤกษ์” เกิดขึ้น เหมือนการเปิดหน้าดินเพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ แต่ก็มีข้อจำกัดในการพัฒนาค่อนข้างมาก เช่น ไม่สามารถพัฒนาทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ได้ทั้งหมด ทำได้เพียง 10% ของพื้นที่ภายในโครงการที่ขออนุญาตจัดสรรเท่านั้น
บ้านจัดสรรที่เกิดขึ้นจึงเป็นโครงการบ้านเดี่ยวทั้งหมด! แม้หลังจากนั้นจะมีการขยายถนนราชพฤกษ์เป็น 10 เลน และต่อขยายถนนราชพฤกษ์ขึ้นไปทางเหนือเพื่อเชื่อมต่อกับถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก แต่พื้นที่ต่างๆ ที่อยู่ระหว่างถนนราชพฤกษ์ ถนนชัยพฤกษ์ และถนนทางหลวงชนบทหมายเลข 345 ยังคงมีการเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก เพราะติดข้อจำกัดในผังเมืองรวมจังหวัดนนทบุรี ที่ระบุว่าเป็น “สีเขียว” ที่กำหนดให้เป็นที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อเกษตรกรรมหรือเกี่ยวข้องกับเกษตรกรรม หรือการอยู่อาศัย สถาบันราชการ การสาธารณูปโภคและสาธารณูปการเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่ การใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการอื่นให้ใช้ได้ไม่เกิน 15% โครงการบ้านจัดสรรจึงมีจำกัดและส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ติดกับถนนราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ และถนนหลายเลข 345 เท่านั้น!
ปี 2560 เป็นช่วงเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในพื้นที่นี้ เมื่อมีถนนทางหลวงชนบทหมายเลข 2051 หรือ “ถนนหอการค้าไทย” เปิดใช้ ซึ่งเป็นถนนที่ตัดผ่านพื้นที่ที่เคยเป็นที่ดินตาบอดขนาดใหญ่ และเป็นถนนเชื่อมต่อกับถนนชัยพฤกษ์ และถนนทางหลวงชนบทหมายเลข 345 ถนนขนาด 6 ช่องจราจรความยาวประมาณ 4 กิโลเมตร
ถนนเส้นนี้มี “พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค” เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการพัฒนา ลงทุน และก่อสร้าง ด้วยเพราะมีที่ดินแปลงใหญ่กว่า 400 ไร่ในพื้นที่นี้ มีการพัฒนาบ้านจัดสรรหลายรูปแบบ ราคา 4-60 ล้านบาท ทั้งยังมีการแบ่งขายที่ดินให้ดีเวลลอปเปอร์หลายราย อาทิ พฤกษา, แสนสิริ และ เอสซี แอสเสท ส่วนใหญ่พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยว ราคา 6-10 ล้านบาท รวม 3 ราย มีบ้านเดี่ยวราว 3,000 ยูนิต
“พื้นที่แนวถนนหอการค้าไทยมีผู้ประกอบการให้ความสนใจ แต่ยังติดข้อจำกัดในเรื่องของผังเมืองรวมจังหวัดนนทบุรี แต่เมื่อปี 2566 ประกาศผังเมืองรวมจังหวัดนนทบุรี ฉบับปี 2566 มีการเปลี่ยนข้อจำกัดในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สร้างผลบวกต่อหลายพื้นที่รวมไปถึงพื้นที่ตามแนวถนนหอการค้าไทย”
โดยเปลี่ยนจากผังเมือง “สีเขียว” ซึ่งเป็นที่ดินประเภทที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม เป็นผังเมือง “สีเหลือง” ซึ่งเป็นที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย มีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับการขยายตัวของที่อยู่อาศัยบริเวณโดยรอบศูนย์กลางชุมชนชานเมือง และพื้นที่ต่อเนื่องกับเขตชานเมือง ซึ่งข้อจำกัดในการพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรลดน้อยลงไปมาก สามารถพัฒนาได้ทุกประเภท แม้จะยังมีข้อจำกัดในเรื่องขนาดอาคารอยู่บ้างแต่ก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะโครงการบ้านจัดสรรไม่มีข้อจำกัด อาจมีเพียงเรื่องความสูงที่ห้ามเกิน 12 เมตรและมีการกำหนดอัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดินไม่เกิน (FAR) ที่ 2:1 และอัตราส่วนของที่ว่างต่อพื้นที่อาคารรวมไม่น้อยกว่า 30% ซึ่งทั้ง FAR และ OSR ไม่มีผลต่อการพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรอยู่แล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
ถอดรหัส‘วิน-วิน’พลัง7บิ๊กอสังหาฯ บูมทำเลทองหมื่นล้านถนนหอการค้าไทย
- ธุรกิจหมดยุคโตคนเดียว! หากแต่ก้าวข้ามการแข่งขันแปลง “คู่แข่ง” เป็น “พันธมิตร” ผนึกพลังสร้างปรากฎการณ์สั่นสะเทือนวงการ
- “พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค” ในฐานะผู้พัฒนา “ถนนหอการค้าไทย” และเจ้าของที่ดินแปลงใหญ่กว่า 400 ไร่ ย่านแจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์
- จับมือบิ๊กคอร์ปกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เอสซี แอสเสท, พฤกษา, แสนสิริ, เอพี, เซ็นทรัลพัฒนา และ พราว เรียลเอสเตท
- เดินหน้าบิ๊กโปรเจกต์พัฒนา “ย่านถนนหอการค้าไทย” ระยะทาง 4 กิโลเมตร เชื่อมระหว่างถนนชัยพฤกษ์ และ ถนนสะพานนนทบุรี-บางบัวทอง
- ปัจจุบันขยายตัวเป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีโครงการที่อยู่อาศัย สถาบันการศึกษา โรงเรียนนานาชาติ ศูนย์การค้า ธุรกิจและบริการต่างๆ กลายเป็น“ทำเลทอง” หรือย่านธุรกิจใหม่ ของกรุงเทพฯ โซนเหนือ รองรับดีมานด์กลุ่มครอบครัวที่มีกำลังซื้อด้วยโครงการบ้านหรูเจาะตลาดระดับกลางและบน
ธุรกิจหมดยุคโตคนเดียว! หากแต่ก้าวข้ามการแข่งขันแปลง “คู่แข่ง” เป็น “พันธมิตร” ผนึกพลังสร้างปรากฎการณ์สั่นสะเทือนวงการ “พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค” ในฐานะผู้พัฒนา “ถนนหอการค้าไทย” และเจ้าของที่ดินแปลงใหญ่กว่า 400 ไร่ ย่านแจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์ จับมือบิ๊กคอร์ปกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เอสซี แอสเสท, พฤกษา, แสนสิริ, เอพี, เซ็นทรัลพัฒนา และ พราว เรียลเอสเตท เดินหน้าบิ๊กโปรเจกต์พัฒนา “ย่านถนนหอการค้าไทย” ระยะทาง 4 กิโลเมตร เชื่อมระหว่างถนนชัยพฤกษ์ และ ถนนสะพานนนทบุรี-บางบัวทอง ซึ่งถนนดังกล่าวมีพื้นที่สำหรับพัฒนาโครงการรวม 1,226 ไร่ ปัจจุบันขยายตัวเป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีโครงการที่อยู่อาศัย สถาบันการศึกษา โรงเรียนนานาชาติ ศูนย์การค้า ธุรกิจและบริการต่างๆ ปักหมุด “ทำเลทอง” หรือย่านธุรกิจใหม่ ของกรุงเทพฯ โซนเหนือ รองรับดีมานด์กลุ่มครอบครัวที่มีกำลังซื้อด้วยโครงการบ้านหรูเจาะตลาดระดับกลางและบน
ที่ดินกว่า 400 ไร่ ของ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค บนทำเลถนนหอการค้าไทย มูลค่า 10,170 ล้านบาท ปัจจุบันมีการพัฒนา 6 โครงการ ระดับราคา 2.5-70 ล้านบาท ประกอบด้วย เลค เลเจนด์ แจ้งวัฒนะ ราคา 26-70 ล้านบาท เพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ แจ้งวัฒนะ ราคา 16-50 ล้านบาท เพอร์เฟค เพลส แจ้งวัฒนะ 2 ราคา 6-10 ล้านบาท เพอร์เฟค พาร์ค แจ้งวัฒนะ ราคา 4.39 ล้านบาท เมทโทร บิซทาวน์ แจ้งวัฒนะ ราคา 5.79 ล้านบาท และ เดอะ เมทโทร แจ้งวัฒนะ ราคา 2.59 ล้านบาท
สุรเชษฐ์ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค อาจจะมีการขายที่ดินให้ผู้ประกอบการบางราย แต่เมื่อมีความชัดเจนของ “ผังเมือง” ตั้งแต่ ปี 2566 ที่ดินของ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ก็เริ่มเนื้อหอม! หลายรายซื้อแบ่งออกไป เช่น บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) ซึ่งรวมกับ 4 บริษัทเดิมที่เข้ามาลงทุนตั้งแต่ปี 2560 กลายเป็นว่าพื้นที่ตามแนวถนนหอการค้าไทยมี 7 ยักษ์ใหญ่ลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยร่วมกัน นับว่าน่าสนใจไม่น้อยเทียบแนวถนนเส้นทางอื่นๆ เช่น ราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ วงแหวนกาญจนาภิเษก พุทธมณฑลสายต่างๆ กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ เป็นต้น
ศักยภาพของพื้นที่ตามแนวถนนเส้นทางนี้ นอกจากสะดวกในการเดินทาง เพราะเชื่อมต่อกับเส้นทางหลักหลายเส้นทาง การเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ชั้นในสะดวก ไม่ไกลจากศูนย์การค้า หรือย่านพาณิชยกรรม มีโรงพยาบาลทั้งของเอกชน รัฐบาล สถาบันการศึกษา โรงเรียนนานาชาติ อาจไกลจากเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพู สายสีม่วง พอควร แต่ก็ไม่ไกลมากเกินไปนัก อย่างสายสีชมพูห่างไม่ถึง 3 กิโลเมตรจากปากทางถนนชัยพฤกษ์
ทั้งนี้ การพัฒนาต่อเนื่องของ 4 ผู้ประกอบการรายใหญ่ ตั้งแต่ปี 2560 ถึงปัจจุบันสร้างความเป็นชุมชน และกลุ่มคนขนาดใหญ่มากขึ้นในพื้นที่ตามแนวถนนหอการค้าไทย คนในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 3,000 คน ทั้งยังเป็นกลุ่มกำลังซื้อระดับกลางขึ้นไปถึงสูง คาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต พื้นที่โดยรอบจึงมีการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะโครงการค้าปลีกมีการพัฒนาต่อเนื่องหลัง ปี 2566 เป็นต้นมา
“ทำเลนี้มีศักยภาพมากเพราะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต เดินทางสะดวก ส่งผลให้ราคาที่ดินขยับขึ้นจากตารางวาละ 60,000-80,000 บาท ปีนี้น่าจะเห็นหลักแสนบาท”
วิทวัส รุ่งเรืองผล อาจารย์ประจำโครงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิเคราะห์ว่า โมเดลการพัฒนาโครงการของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค บนถนนหอการค้าไทย คล้ายกับหมู่บ้านเมืองเอก ซึ่งเจ้าของที่ดินมีการรวมที่ดินชานเมืองราคาไม่แพงจำนวนมากเพื่อ “สร้างเมือง” ไม่เป็นเพียงการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเท่านั้น แต่มีการพัฒนามหาวิทยาลัยรังสิตเสมือนมหาวิทยาลัยในหมู่บ้าน ทำให้เกิดชุมชน คอมมูนิตี้ ร้านค้าต่างๆ เป็นอีโคซิสเต็มที่ดึงดูดให้คนอยากเข้ามาอยู่อาศัยมากขึ้น หรืออย่าง เมืองทองธานี กระทั่งมีปัญหาช่วงฟองสบู่แตกธนาคารจึงดึงผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายอื่นเข้าไปพัฒนาโครงการในพื้นที่ อาทิ พฤกษา แอลพีเอ็น
“การที่มีที่ดินขนาดใหญ่ เจ้าของที่ดินคนเดียวอาจพัฒนาโครงการไม่ทันดอกเบี้ย การโปรโมตโครงการเดียวไม่ดึงดูดคนอยากเข้าไปซื้อมากนัก สู้ดึงคู่แข่งเข้ามาเป็นพันธมิตรร่วมพัฒนาโครงการทำให้การพัฒนาเมืองเร็วขึ้นจากเดิมอาจใช้เวลา 20 ปีเหลือ 10 ปี”
ทั้งนี้ “ผู้จัดสรรหลัก” หรือ “มาสเตอร์ดีเวลลอปเปอร์” ทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพ ตัดถนน ทำหน้าที่เสมือนเทศบาลเพื่อต่อเชื่อมถนน 2 ฝั่งของตนเองและรัฐได้ คือ ฝั่งแจ้งวัฒนะ และฝั่งที่สามารถทะลุออกปทุมธานีทำให้เกิดความเจริญและน่าอยู่มากขึ้น สามารถทำคอมมูนิตี้มอลล์ สถานีบริการน้ำมัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้เข้ามาอยู่อาศัยและสามารถเก็บค่าบริการส่วนกลางได้
“สิ่งที่ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ทำ ช่วยให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่เข้ามาพัฒนาโครงการในพื้นที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นจากีโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ รองรับกับความต้องการลูกค้าแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนนานาชาติเอสไอเอสบี โลตัส โกเฟรช สถานีชาร์จรถไฟฟ้า พร้อมติดตั้งเครื่องชาร์จรถไฟฟ้าในบ้านและบริการซื้อหรือเช่ารถยนต์ไฟฟ้าผ่านแอปพลิเคชั่น ถือเป็นโมเดลวิน-วินที่ตอบโจทย์ทั้งพันธมิตรและลูกค้าที่เข้ามาซื้อโครงการ”
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 23พ.ค. “อ่อนค่าลง” ที่ระดับ 36.50 บาทต่อดอลลาร์
ค่าเงินบาทยังคงเผชิญปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่า ทั้งโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว โฟลว์ธุรกรรมซื้อเงินเยนและน้ำมันดิบ รวมถึงนักลงทุนต่างชาติเริ่มทยอยขายหุ้นไทย ควรระวังความผันผวนของตลาดการเงิน
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 23พ.ค. 2567 ที่ระดับ 36.50 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.33 บาทต่อดอลลาร์ (ระดับปิด ณ วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม)
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทยระบุว่า แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า การอ่อนค่าลงต่อเนื่องของเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา ได้ทำให้เงินบาทหมดโอกาสที่จะกลับไปแข็งค่าขึ้นชัดเจนในระยะสั้น (สอดคล้องกับมุมมองที่เราได้ประเมินไว้ก่อนหน้า) และเงินบาทจะเริ่มแกว่งตัวในกรอบ sideways แถวเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน (โซน 36.50 บาทต่อดอลลาร์) อีกครั้ง
โดยเงินบาทยังคงเผชิญปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่าอยู่ ทั้งโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว โฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนต่างชาติ (อาจเหลือไม่มากแล้ว) โฟลว์ธุรกรรมซื้อเงินเยนญี่ปุ่นและน้ำมันดิบ
นอกจากนี้ ฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติก็ยังมีความผันผวน โดยเราเริ่มเห็นการทยอยขายหุ้นไทยของบรรดานักลงทุนต่างชาติออกมาบ้าง อย่างไรก็ดี เรามองว่า แรงขายหุ้นไทยอาจชะลอลงบ้าง หลังบรรยากาศในตลาดการเงินเริ่มกลับมาสดใสขึ้น จากรายงานผลประกอบการของ Nvidia ที่ออกมาดีกว่าคาด ทำให้โดยรวม เรามองว่า เงินบาทมีโอกาสผันผวนอ่อนค่าทดสอบโซนแนวต้านแถว 36.65 บาทต่อดอลลาร์ได้
ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนของตลาดการเงินในช่วงทยอยรับรู้รายงานดัชนี PMI ของสหรัฐฯ ซึ่งจากการศึกษาข้อมูลในอดีต เราพบว่า ในกรณีที่รายงานดัชนี PMI สหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด ก็อาจกดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลง ตามการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ราว +0.15%
และเงินบาทก็สามารถกลับมาแข็งค่าขึ้นได้ ในกรณีที่รายงานดัชนี PMI ออกมาแย่กว่าคาด กดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง -0.16% ทำให้เงินบาทมีโอกาสแกว่งตัวในกรอบ 36.40-36.65 บาทต่อดอลลาร์ หากเงินบาทแกว่งตัวแถว 36.50 บาทต่อดอลลาร์ในช่วงก่อนรับรู้ข้อมูลดังกล่าว
เราคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทยังคงเคลื่อนไหวผันผวนสูง ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงไปมาของปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อทิศทางค่าเงินบาท ทำให้ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.35-36.65 บาท/ดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันอังคารที่ผ่านมา ค่าเงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงต่อเนื่อง (แกว่งตัวในช่วง 36.26-36.51 บาทต่อดอลลาร์) ตามจังหวะการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ท่ามกลางมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่กลับมากังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดอีกครั้ง (ล่าสุดตลาดให้โอกาสเฟดจะลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ราว 51% ลดลงจากสัปดาห์ก่อนที่เคยสูงถึงเกือบ 70%) หลังบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดต่างย้ำจุดยืน ไม่รีบลดดอกเบี้ย
นอกจากนี้ การแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าลงต่อเนื่องของเงินยูโร (EUR) หลังประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ส่งสัญญาณว่า ECB มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงได้ในการประชุมเดือนมิถุนายน หากแนวโน้มเงินเฟ้อเป็นไปตามที่คาดหวัง
ขณะเดียวกันเงินดอลลาร์ก็ยังคงได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าลงต่อเนื่องของเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ที่ล่าสุดได้อ่อนค่าเข้าใกล้ระดับ 156.70 เยนต่อดอลลาร์ และนอกเหนือจากการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ เงินบาทยังเผชิญแรงกดดันจากโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว หลังราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องราว -50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในช่วงที่ผ่านมา
กอปรกับการย่อตัวลงของราคาน้ำมันดิบในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการอ่อนค่าลงของเงินเยนญี่ปุ่นเทียบเงินบาท (JPYTHB) ก็อาจยิ่งทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนทยอยเข้าซื้อสินทรัพย์ดังกล่าวในช่วงราคาย่อตัวลง ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมซื้อน้ำมันดิบและเงินเยนก็มีส่วนกดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าได้เช่นกัน
ผู้เล่นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในภาวะระมัดระวังตัว หลังบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดต่างย้ำจุดยืนไม่รีบลดดอกเบี้ย นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดต่างก็รอลุ้น รายงานผลประกอบการของบริษัทเทคฯ ใหญ่ อย่าง Nvidia (ซึ่งผลประกอบการออกมาดีกว่าคาด ทำให้ราคาหุ้น Nvidia พุ่งขึ้น +6% ในช่วง After Close) ทำให้โดยรวมดัชนี S&P500 ปิดตลาด -0.27%
ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 พลิกกลับมาย่อลง -0.34% กดดันโดยแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน อาทิ Total Energies -1.9% หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงต่อเนื่อง นอกจากนี้ รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI อังกฤษ ล่าสุด ที่ออกมาสูงกว่าคาด
ทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างกังวลว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) อาจยังไม่รีบลดดอกเบี้ยได้ในไตรมาสที่ 2 ซึ่งภาพดังกล่าวก็มีส่วนกดดันตลาดหุ้นยุโรปบ้าง แต่ตลาดหุ้นยุโรปก็ยังได้แรงหนุนจากความหวังว่า ECB อาจทยอยลดดอกเบี้ยลงได้ในช่วงเดือนมิถุนายน อีกทั้งหุ้นกลุ่มเทคฯ โดยรวมปรับตัวขึ้นบ้าง ท่ามกลางความหวังว่า รายงานผลประกอบการของ Nvidia อาจออกมาดีกว่าคาด
ในฝั่งตลาดบอนด์ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังคงแกว่งตัว sideways ในกรอบ 4.40%-4.50% ทยอยปรับตัวขึ้น โดยเรามองว่า ผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่ก็รอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ อย่าง ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการ
ทำให้เราคงมุมมองเดิมว่า ในระยะสั้น บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อาจแกว่งตัวในกรอบ sideways ไปก่อน จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อาจผันผวนสูงขึ้นได้ หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด กดดันให้ผู้เล่นในตลาดกังวลว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้น้อยกว่า 2 ครั้ง ทั้งนี้ เราคงแนะนำให้ผู้เล่นในตลาดเน้นรอจังหวะ Buy on Dip ในช่วงที่บอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้น
ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์ทยอยแข็งค่าขึ้น หนุนโดยการอ่อนค่าลงต่อเนื่องของทั้งเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) และเงินยูโร (EUR) ที่ล่าสุดพลิกกลับมาอ่อนค่าลง จากการที่ประธาน ECB ได้ส่งสัญญาณพร้อมทยอยลดดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน ซึ่งจะเป็นการเริ่มลดดอกเบี้ยที่เร็วกว่าเฟดพอสมควร ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 104.9 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 104.5-105 จุด)
ในส่วนของราคาทองคำ ท่าทีของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดซึ่งย้ำจุดยืนไม่รีบลดดอกเบี้ย และการแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องของเงินดอลลาร์ ได้กดดันให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย.) ปรับตัวลดลงต่อเนื่องสู่โซน 2,380 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งผู้เล่นในตลาดบางส่วนอาจเข้าซื้อทองคำในจังหวะย่อตัวบ้าง และโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนกดดันเงินบาทให้อ่อนค่าลงได้บ้างในช่วงที่ผ่านมา
สำหรับวันนี้ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตอุตสาหกรรมและภาคการบริการ (Manufacturing and Services PMIs) ในเดือนพฤษภาคม ของบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก
อาทิ สหรัฐฯ ยูโรโซน อังกฤษ และญี่ปุ่น ซึ่งเรามองว่า ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานดัชนี PMI ของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินโอกาสที่เฟดอาจยังสามารถลดดอกเบี้ยได้ราว 2-3 ครั้ง หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลงมากขึ้น (ออกมาแย่กว่าคาด)
นอกจากนี้ ในฝั่งสหรัฐฯ ผู้เล่นในตลาดก็จะรอลุ้นรายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา เริ่มเห็นสัญญาณการชะลอตัวลงของตลาดแรงงานสหรัฐฯ มากขึ้น
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่าเงินบาทอ่อนค่ามาปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 36.49-36.51 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (8.52 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดในประเทศในวันอังคารที่ 36.32 บาทต่อดอลลาร์ฯ
เงินบาทและสกุลเงินเอเชียในภาพรวมอ่อนค่าลง ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ว่า เฟดมีแนวโน้มยืนอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับสูงไปอีกระยะ หลังบันทึกการประชุมเฟดล่าสุดที่สะท้อนว่า เฟดยังคงมีความกังวลต่อสถานการณ์เงินเฟ้อของสหรัฐฯ และได้มีการหารือกันในเรื่องโอกาสความเป็นไปได้ที่เฟดจะกลับมาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหากจำเป็นเพื่อสกัดแรงกดดันเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ยังคงอยู่เหนือระดับเป้าหมาย นอกจากนี้ การร่วงลงของราคาทองคำในตลาดโลกก็เพิ่มแรงกดดันด้านอ่อนค่าของเงินบาทด้วยเช่นกัน
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นที่ 36.40-36.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก สัญญาณฟันด์โฟลว์ ดัชนี PMI เบื้องต้นสำหรับเดือนพ.ค. ของญี่ปุ่น ยูโรโซน อังกฤษ และสหรัฐฯ รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆ ของสหรัฐฯ อาทิ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และยอดขายบ้านใหม่เดือนเม.ย.
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“เมย์-หมิว-ครีม” เปิดหัวสวยลิ่วรอบสองแบดมินตันมาเลเซีย มาสเตอร์ส
“เมย์” รัชนก อินทนนท์ หญิงเดี่ยวมือ 13 ของโลก ประเดิมสนามในศึกแบดมินตัน มาเลเซีย มาสเตอร์สได้อย่างยอดเยี่ยม เอาชนะ เธท ฮาตาร์ ธูซาร์ มืออันดับ 43 ของโลกจากเมียนมา 2-0 เกม เช่นเดียวกับ “ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ มือ 20 ของโลก ก็เฉือน ลีเน่ คแจร์เฟลด์ท จากเดนมาร์ก 2-1 เกม และ “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มืออันดับ 19 ของโลก เอาชนะ หวง หยูซุน จากไต้หวัน 2 เกมรวด ผ่านเข้ารอบสองไปได้สำเร็จ
การแข่งขันแบดมินตันรายการ เปอโดรัว มาเลเซีย มาสเตอร์ส 2024 รายการระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 500 ชิงเงินรางวัลรวม 420,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 15,120,000 บาท ที่เอเซียต้า อารีน่า ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันพุธที่ 22 พ.ค.67 ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในรอบแรก
ประเภทหญิงเดี่ยว รอบแรก “เมย์” รัชนก อินทนนท์ มือวางอันดับ 4 ของรายการ มืออันดับ 13 ของโลก พบกับ เธท ฮาตาร์ ธูซาร์ มืออันดับ 43 ของโลกจากเมียนมา
เกมนี้ เมย์ รัชนก โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม เอาชนะไปแบบสนุก 2-0 เกม 21-13 และ 21-14 “เมย์” รัชนก ผ่านเข้ารอบสองไปพบกับ พูตี้ กุสุมา วาดินี่ มืออันดับ 35 ของโลกจากอินโดนีเซีย
“ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ มืออันดับ 20 ของโลก เบียเอาชนะ ลีเน่ คแจร์เฟลด์ท มืออันดับ 21 ของโลกจากเดนมาร์ก ไปแบบหวุดหวิด 2-1 เกม 21-12, 14-21, 21-16 “ครีม” บุศนันทน์ ผ่านเข้ารอบสองไปพบกับ โก๊ะ จินเว่ย มืออันดับ 33 ของโลกจากมาเลเซีย
“หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มืออันดับ 19 ของโลก เอาชนะ หวง หยูซุน มืออันดับ 75 ของโลกจากไต้หวัน 2-0 เกม 21-18,21-16 “หมิว” พรปวีณ์ ผ่านเข้าสู่รอบสองไปพบกับ เกา ฟังเจี๋ย มืออันดับ 32 ของโลกจากจีน
ประเภทชายเดี่ยว รอบแรก “อิคคิว” พณิชพล ธีระรัตน์สกุล มืออันดับ 79 ของโลก เอาชนะ ชิ ยูเจน มืออันดับ 38 ของโลกจากไต้หวัน ไปแบบสนุก 2-1 เกม 21-16,10-21,21-19 “อิคคิว” พณิชพล ผ่านเข้ารอบสองไปพบกับศึกหนักอย่าง วิคเตอร์ อเซลเซ่น มืออันดับ 1 ของโลกจากเดนมาร์ก
ประเภทคู่ผสม รอบแรก “ไตเติ้ล” รุษฐนภัค อูปทอง กับ “เจน” เฌอย์นิชา สุดใจประภารัตน์ คู่มืออันดับ 32 ของโลก แพ้ให้กับ ตัน เคียงเม้ง กับ ไล่ เป่ยจิง คู่มือวางอันดับ 7 ของรายการ คู่มืออันดับ 24 ของโลกจากมาเลเซียไปอย่างน่าเสียดาย 1-2 เกม 16-21,21-17,19-21 , “โอโม่” พรรคพล ธีระรัตน์สกุล กับ “จ๋อมแจ๋ม” ผไทมาศ เหมือนวงศ์ คู่มืออันดับ 42 ของโลก แพ้ให้กับ เฉิน ตังเจี๋ย กับ เตียว อี้เว่ย คู่มือวางอันดับ 1 ของรายการ คู่มืออันดับ 9 ของโลกจากมาเลเซีย 0-2 เกม 12-21,14-21
ขอบคุณข้อมูลจาก siamsport.co.th
เท้าบวม สัญญาณเบื้องต้นสารพัดโรคร้าย ควรทำอย่างไรเมื่อมีอาการเท้าบวม
คนรอบตัวเริ่มบ่นว่าเท้าเริ่มบวมจนรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ คือ “เท้าบวม” เสียจนใส่รองเท้าไม่ได้ หรือรู้สึกบีบรัดตึง ใส่รองเท้าไม่สวยเหมือนเก่า แต่เราจะกังวลแค่เรื่องเท้าไม่สวยไม่ได้นะคะ เพราะเท้าบวมอาจเป็นสัญญาณเบื้องต้นของโรคร้ายสารพัดเลยล่ะ Sanook Health จะอธิบายให้ฟังค่ะ
อาการเท้าบวม แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
- บวมแบบกดแล้วไม่บุ๋มค้าง โดยลองใช้นิ้วกดลงบริเวณที่บวม 5-10 วินาที เมื่อยกนิ้วออกแล้วไม่บุ๋มค้าง เป็นเนื้อแข็งๆ แน่นๆ หรือบางรายผิวอาจมีลักษณะของผิวที่ขรุขระเหมือนเปลือกส้ม
สาเหตุ อาจมาจากการอุดตันของทางเดินน้ำเหลือง ถึงจะพบได้น้อย แต่ก็จำเป็นต้องพบแพทย์ - บวมแบบกดแล้วบุ๋มค้าง สาเหตุหลักๆ ของอาการบวมลักษณะนี้ มีอยู่ 5 สาเหตุ ได้แก่
– หลอดเลือดดำที่ขาอุดตัน
– แพ้ยา หรือสารต่างๆ
– ได้รับอุบัติเหตุ หรือการติดเชื้อ
– บวมน้ำ จากน้ำหนักร่างกายที่มากเกินไป
– ผลข้างเคียงของยา
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายโรคที่มีอาการเริ่มต้นด้วยอาการ “เท้าบวม” เช่น
– โรคไต
– โรคหัวใจ
– โรคตับแข็ง
– มะเร็งตับ
– ดีซ่าน
– เท้าช้าง
– เส้นเลือดขอด
– เบาหวาน
– ขาดอาหารประเภทโปรตีน
ข้อควรปฏิบัติ เมื่อมีอาการเท้าบวม
- หากอยู่ในภาวะอ้วน น้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน ให้ลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย และควบคุมอาหาร
- ไม่ทานอาหารที่รสจัดจนเกินไป ทั้งหวานจัด เค็มจัด เปรี้ยวจัด และเผ็ดจัด
- ไม่ควรยืนนิ่งๆ นานๆ ควรมีการขยับแข้งขยับขา เพื่อให้เลือดไหลเวียนได้สะดวกยิ่งขึ้น
- ยกเท้าสูงขึ้นเล็กน้อยก่อนนอน ช่วยลดอาการบวมได้ดี
- หากบวมมากผิดปกติ และไม่มีทีท่าจะหาย หรือมีอาการผิดปกติอย่างอื่นร่วมด้วย ให้รีบพบแพทย์โดยด่วน
หมั่นสังเกตความผิดปกติของร่างกายกันเอาไว้ให้นะคะ เพราะแค่อาการเท้าบวมที่หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะไม่ได้เจ็บ ไม่ได้ปวดอะไร จริงๆ แล้วอาจเป็นสัญญาณเตือนภัยถึงโรคร้ายอีกหลายๆ โรค ที่เรากำลังเผชิญโดยไม่รู้ตัวก็ได้
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
รู้จัก แอปทางรัฐ คืออะไร พร้อมวิธีลงทะเบียน เพื่อรับเงินดิจิทัล และติดต่องานราชการ
แอปทางรัฐ เปรียบเสมือนผู้ช่วยคนใหม่ที่รวบรวมบริการภาครัฐกว่า 149 รายการไว้บนมือถือของคุณ เพียงดาวน์โหลดแอปและลงทะเบียนใช้งาน ก็สามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว โดยไม่ต้องเดินทางไปที่หน่วยงาน ไม่ต้องรอคิว ไม่ต้องเสียเวลา
หลายคนอาจจะเตรียมตัวรับเงินดิจิทัลอยู่ใช่หรือเปล่า เพราะมีการออกมาบอกเกี่ยวกับเงื่อนไขที่เคยนำเสนอไปก่อนหน้านี้ สำหรับรอบนี้ Sanook Hitech จะมาแนะนำแอปในการรับเงินดิจิทัลที่มีชื่อว่า “ทางรัฐ” ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดได้แล้วผ่าน Google Play Store และ App Store
แอปทางรัฐ คืออะไร
แอปทางรัฐ เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่พัฒนาโดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (สพร.) เพื่อเป็นศูนย์กลางในการให้บริการประชาชนแบบครบวงจร เปรียบเสมือนแอปเดียวที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการในการติดต่อและรับบริการจากภาครัฐ โดยไม่ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของหน่วยงานต่างๆ ให้วุ่นวาย และจริงๆ เปิดตั้งแต่ปี 2564 แล้วครับ
ฟีเจอร์หลัก ของแอปพลิเคชันทางรัฐ ประกอบด้วย
อย่างที่บอกไปตั้งแต่ขั้นต้นว่ามันคือ Super Apps สำหรับติดต่อกับหน่วยงานรัฐฯ ซึ่งทำให้คุณสามารถใช้งานได้แบบที่เดียวจบก็เลยมีความสามารถต่างๆ ดังนี้
- บริการแจ้งเตือน ข้อมูลข่าวสาร สิทธิประโยชน์ และบริการต่างๆ ของภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับประชาชน
- บริการตรวจสอบสิทธิ ประกันสังคม สวัสดิการต่างๆ ของรัฐ
- บริการชำระค่าธรรมเนียม ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า
- บริการจองคิว รพ.รัฐ
- บริการยื่นคำร้อง ขอใบขับขี่
- บริการติดตามสถานะ การขอใช้บริการต่างๆ ของภาครัฐ
- บริการแจ้งเรื่องร้องเรียนต่างๆ
และนอกจากนี้ยังมีริการแปลภาษา บริการนำทาง บริการค้นหาร้านอาหาร ร้านค้า และสถานที่ต่างๆ แบบครบครัน
วิธีลงทะเบียนแอปทางรัฐ
คุณสามารถดาวน์โหลดแอปนี้ได้ผ่าน Google Play Store และ App Store หลังจากนั้นต้องลงทะเบียนโดยมีขั้นตอนดังนี้
- เปิดแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ“
- เลือก “ลงทะเบียน“
- กรอกข้อมูลตามที่ระบบกำหนด เช่น เบอร์โทรศัพท์ อีเมล รหัสผ่าน ฯลฯ
- ตรวจสอบและยืนยันข้อมูล
- กด “ลงทะเบียน“
- เลือกวิธีการยืนยันตัวตน ดังนี้
- ยืนยันตัวตนผ่านบัตรประชาชนและสแกนใบหน้า
- ยืนยันตัวตนผ่านตู้บริการเอนกประสงค์ภาครัฐ
- ยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน ThaID ของกรมการปกครอง
- ทำตามขั้นตอนที่ระบบกำหนด
- หลังจากนั้นเข้าสู่ Apps ทางรัฐ ได้ทันที
เห็นไหมว่าใช้งานค่อนข้างง่ายและการรับเงินดิจิทัลก็จะมีเงื่อนไขที่ควรรู้สามารถกดอ่านต่อ
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
คำแสลงภาษาอังกฤษที่ชาวโซเชี่ยลใช้ในทุก ๆ วัน
อัปเดตคำแสลง ศัพท์วัยรุ่นภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยทั้งในชีวิตจริง และโลกโซเชียล
พักสมองมาลองเรียนรู้คำแสลงภาษาอังกฤษที่วัยรุ่นอเมริกันชอบใช้กันดูบ้าง คำแสลง (Slang) เป็นคำศัพท์วัยรุ่นภาษาอังกฤษที่พูดกันแบบไม่เป็นทางการ เอาไว้พูดกับเพื่อน คนที่สนิท รวมถึงการตั้งแคปชั่นชิค ๆ ให้ดูน่าสนใจ โดยเฉพาะ TikTok โซเชียลมีเดียสุดฮอตที่มักจะปล่อยศัพท์ Slang ใหม่ ๆ ออกมาอยู่เรื่อย มาดูกันว่ามีคำไหนน่าสนใจบ้าง
1. It’s giving. แปลว่า เยี่ยมไปเล้ยย (คำชม)
Someone gave me a like. That’s my giving.
2. BDE ย่อมาจาก Big Dick Energy แปลว่า มั่นหน้า มั่นโหนก
I feel that have BDE when I got accepted to be a main character in a play.
3. Beta แปลว่า ผู้ชายที่ไม่ค่อยมีความมั่นใจ ประหม่า
He is trying to take his ex-girlfriend back after she cheated on him so he is beta.
4. Era แปลว่า ช่วงนี้กำลังอินกับ…
Tom has been eating ramen for 4 weeks. He is in ramen era.
5. Iykyk เป็นตัวย่อของ If you know you know. And now you know.
แปลว่า ถ้าคุณรู้ว่าคืออะไร ก็เป็นไปตามนั้นนั่นแหละ
6. Slay แปลว่า เจ๋ง, ยอดเยี่ยม, สุดยอดไปเลย มีความหมายเดียวกันกับ amazing, cool, great
Every eyes at the ball look at her amazing dress. She slayed it last night.
7. Fell off แปลว่า ตกกระป๋อง, ไม่โด่งดัง
A celeb disappeared from the media for the whole year. She fell off.
8. Gatekeep แปลว่า ไม่บอกหรอก
ใช้เวลาที่มีคนทักว่า เสื้อสวยจัง ซื้อที่ไหนหรอ? แต่คุณไม่อยากบอก ก็ตอบกลับไปว่า “Cool kid don’t gatekeep.”
9. Situationship แปลว่า ความสัมพันธ์ที่เป็นมากกว่าเพื่อน แต่ไม่ใช่แฟน
We are stuck in a situationship for 9 months since we never made a commitment to be in a relationship.
10. Bad take แปลว่า เข้าใจผิด
She thought my puppy was dead but he was still alive. What a bad take!
11. Fit แปลว่า เสื้อผ้า
I packed all of my winter fits for a trip to Alaska.
12. CEO (of Something) แปลว่า มีความถนัดเป็นพิเศษ
Jane is a daugher of a top ranked tennis player, so she must be a CEO of playing tennis.
13. Bones Day or No Bones Day แปลว่า วันที่สดใส เบิกบาน, วันที่มีแรงทำงาน หรือทำกิจกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Noodle said it was a no bones day, so I’m not doing anything today.
14. BFFR ย่อจากคำว่า Be F*cking For Real แปลว่า ทำให้จริงจัง หรือชัดเจน
You think I want anything to do with your man? BFFR.
15. Private not secret แปลว่า เปิดเผยแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ
ใช้กับคนที่ชอบโพสอะไรบางอย่างที่อยากอวดลงโซเชียลมีเดีย แต่เซ็นเซอร์ชื่อ หรือหน้าที่สามารถระบุตัวตน หรือสถานที่ไม่ให้ใครรู้
16. Cap แปลว่า โกหก
No cap, I was able to get tickets to Taylor Swift’s tour.
17. Sleep on แปลว่า เมิน, ไม่สนใจ
To sleep on something.
18.Main character แปลว่า เห็นแก่ตัว, เอาผลประโยชน์เข้าตัว, เอาแต่ใจ
She was acting like she was the main character.
19. Dop แปลว่า เพลงเพราะ, ทำนองไพเราะ, เพลงคุณภาพเยี่ยม
A bop is a term for a great song.
20. Spilling the tea แปลว่า นินทา, พูดลับหลัง, เม้าเรื่องชาวบ้าน
I shouldn’t spill the tea, but have you heard that Ben and your sister are dating?
21.Vibe check แปลว่า มีเซนส์ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไร, คาดเดาได้ว่าอีกฝ่ายคิดจะทำอะไร
I have a vibe check that he is cheating on me.
22. Rent free แปลว่า ติดอยู่ในหัว, ตราตรึงใจ, ภาพจำ (ในแง่ดี)
Taylor Swift’s new records have been living rent free in my head all day.
23. Rizz แปลว่า มีเสน่ห์
Ken is rizz so that’s the reason Barbie is in love with him.
24. Lit แปลว่า สุดยอดไปเลย
Last night was lit.
25. Ghost แปลว่า ขาดการติดต่อแบบไม่บอกก่อนล่วงหน้า
Nick is ghosting once he found out that his girlfriend was dating other guy.
ขอบคุณข้อมูลจาก wallstreetenglish.in.th
12 เหตุผลที่คุณควรเปลี่ยนมากิน “ข้าวไรซ์เบอร์รี่”
กระแสข้าวไรซ์เบอร์รี่กำลังมาแรง และเราก็ยินดีที่จะให้กระแสนี้อยู่ด้วยกันกับคนไทยไปนานๆ เพราะของดีของเด็ดอยู่ในมือคนไทยแล้ว ไม่อยากให้คนไทยต้องเสียเงินไปซื้ออาหารเสริมอื่นๆ ให้เปลืองเงิน เพราะข้าวดีๆ ในบ้านเราทั้งรสชาติดี และมีประโยชน์มากเสียจนเราไม่อยากให้พลาด
เรามาดูกันดีกว่าว่า ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ที่ได้มาจากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างข้าวเจ้าหอมนิล กับข้าวขาวหอมมะลิ 105 มีประโยชน์อย่างไรต่อร่างกายบ้าง
12 เหตุผลที่คุณควรเปลี่ยนมากิน “ข้าวไรซ์เบอร์รี่”
- มีโอเมก้า 3 ที่ช่วยในการทำงานของระบบประสาท สมองและตับ
- ลดไขมัน คอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ในหลอดเลือด
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับผิว ให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส
- ลดอัตราเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดสมอง และหัวใจ
- ป้องกันโรคเหน็บชา
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง
- แก้ท้องเสีย ท้องร่วง
- ป้องกันจอประสาทตาเสื่อม
- ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ
- ลดระดับน้ำตาลในเลือด จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน
- ลดความดันโลหิตสูง
- มีกากใยอาหาร ที่เป็นประโยชน์ต่อระบบการขับถ่าย
วิธีการหุงข้าวไรซ์เบอร์รี่ให้อร่อย
ปกติแล้วข้าวไรซ์เบอร์รี่มักจะสีในแบบที่ยังมีเยื่อหุ้มเมล็ดติดมาด้วย ดังนั้นจึงอาจทำให้เวลาหุงข้าวไรซ์เบอร์รี่แล้วดูไม่ค่อยฟูขึ้นหม้อเท่าที่ควร และข้าวอาจจะไม่นุ่มมากเท่าข้าวขาว
ใครที่ไม่คุ้นชินกับรสชาติของข้าวไรซ์เบอร์รี่ในช่วงแรกๆ อาจผสมหุงกับข้าวหอมมะลิอัตราส่วน 1:1 หรืออาจจะลองใส่น้ำในอัตราส่วน 1:2 ก็ได้ แล้วหม้อที่ใช้หุงด้วยค่ะ
หรือจะลองแช่ข้าวในน้ำก่อน 2-3 ชั่วโมงแล้วค่อยหุง ก็จะได้ข้าวไรซ์เบอร์รี่ที่นุ่มขึ้นมาก
ลองหาข้าวไรซ์เบอร์รี่มาทานกันดูนะคะ รับรองว่าได้ประโยชน์ดีๆ พร้อมกับรสชาติอร่อยๆ ทานเท่าไรก็ไม่มีวันเบื่อแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 23/05/2567
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 40,950.00 | 41,050.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 2,653.00 | 40,219.48 | 41,550.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 2,387.70 | 36,197.53 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 2,122.40 | 32,175.58 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 1,194.00 | 18,101.04 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 929.00 | 14,083.64 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,749.00 | 41,674.84 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 23/05/2567
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 38.55 | 38.55 | 39.35 | 38.55 | 38.55 | 38.55 | 38.55 | 38.55 | 38.55 | 38.55 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 38.18 | 38.18 | 38.78 | 38.18 | 38.18 | 38.18 | 38.18 | 38.18 | 38.18 | 38.18 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 36.44 | 36.44 | 37.24 | 36.44 | 36.44 | – | 36.44 | 36.44 | 36.44 | 36.44 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 36.19 | 36.19 | – | – | – | – | – | – | – | 36.19 |
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม | 46.74 | 49.84 | 49.94 | 49.84 | – | – | – | – | – | 46.74 |
เบนซิน 95 | 46.44 | – | – | – | 48.01 | – | 46.94 | 46.59 | – | 46.44 |
ดีเซล | 31.94 | 31.94 | 32.24 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 |
ดีเซลหมุนเร็ว | 31.94 | – | – | – | 31.94 | – | – | – | – | 31.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 43.94 | 46.14 | 47.44 | 46.14 | 46.14 | – | – | – | – | 43.94 |
แก๊ส NGV | 19.59 | 19.59 | – | – | – | – | – | – | – | 19.59 |