สาระน่ารู้ประจำวันที่ 24 ธันวาคม 2564

อสังหาฯ EEC หดตัวแรง ขอจัดสรรที่ดินต่ำสุดในรอบ 9 ปี

อสังหาฯ EEC หดตัวแรง ขอจัดสรรที่ดินต่ำสุดในรอบ 9 ปี

ผ่าตลาดอสังหาฯ อีอีซี (ชลบุรี ระยอง ละฉะเชิงเทรา) รอบ 9 เดือน ปี 2564 REIC เผยตลาดหดตัวแรง โควิดล็อกดาวน์พื้นที่แดงเข้ม งานก่อสร้างรัฐ-เอกชน ติดลบ 4.1% ขณะการออกใบอนุญาตสรรที่ดิน ต่ำที่สุดในรอบ 9 ปี หน่วยร่วงเฉียด 60%

23 ธ.ค.2564 – สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยใน EEC (ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา) ไตรมาส 3 ปี 2564 หดตัวลงอย่างชัดเจน โดยศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ รายงานล่าสุด ว่าผลกระทบจากสภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในไตรมาส 3 ปี 2564 ที่ปรับตัวลดลงร้อยละ -0.3  จากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19  เป็นระลอกที่ 4 จากสายพันธุ์เดลต้า ซึ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น และรัฐบาลมีการควบคุมการดำเนินธุรกิจบางประเภท 

รวมถึงจำกัดการเดินทางเข้า-ออกในบางจังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ซึ่งส่งผลให้ทางด้านสาขาก่อสร้างปรับตัวลดลงร้อยละ -4.1 เมื่อเทียบกับการขยายตัวร้อยละ 3.9 ในไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นการลดลงทั้งในการก่อสร้างภาครัฐและภาคเอกชน 
ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการปิดแคมป์คนงานก่อสร้างในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19  

” การก่อสร้างภาครัฐลดลงร้อยละ -6.2 เมื่อเทียบกับการขยายตัวร้อยละ 7.0 ในไตรมาสก่อนหน้า การก่อสร้างภาคเอกชนลดลงร้อยละ -0.5 ซึ่งลดต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สี่แล้ว โดยเป็นผลมาจากการลดลงต่อเนื่องของการก่อสร้างที่อยู่อาศัย และสาขาการผลิตอุตสาหกรรมลดลงร้อยละ -1.4 เมื่อเทียบกับการขยายตัวร้อยละ 16.9 ในไตรมาสก่อนหน้า” 

ใบอนุญาตสรรที่ดิน ต่ำที่สุดในรอบ 9 ปี

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการ REIC เปิดเผยว่า EEC ซึ่งเป็นจังหวัดในกลุ่มพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) มีการชะลอตัวอย่างต่อเนื่องจนถึงไตรมาส 3 ปี 2564 ทั้งมิติของอุปทานด้านการออกใบอนุญาตสรรที่ดิน พบว่าต่ำที่สุดในรอบ 9 ปี หรือในรอบ 34 ไตรมาส นับตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2556 และการออกใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยในไตรมาส 3 ปี 2564 ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีแต่มีทิศทางดีขึ้นโดยในไตรมาส 3 การออกใบอนุญาตก่อสร้างเริ่มปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยโดยเป็นบวกร้อยละ 13.3 เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนหน้า  

อสังหาฯ EEC หดตัวแรง ขอจัดสรรที่ดินต่ำสุดในรอบ 9 ปี

ในมิติอุปสงค์ด้านการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย พบว่าจำนวนหน่วยลดลงอย่างต่อเนื่องเป็น ไตรมาสที่สิบ นับตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2562 ที่เริ่มประกาศใช้มาตรการ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย ในภาพรวมสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 (มกราคม – กันยายน) มีอัตราการขยายตัวติดลบในไตรมาส 1 ร้อยละ -2.6 ขณะที่ไตรมาส 2 มีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.6 แต่เป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจที่ต่ำผิดปกติในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน  แต่ไตรมาส 3 กลับมาติดลบอีกครั้งร้อยละ -0.3 ส่งผลให้ทั้งอุปทานและอุปสงค์ของตลาดที่อยู่อาศัยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 (มกราคม – กันยายน) หดตัวลงอย่างชัดเจน


” อุปทานการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินลดลงทั้งจำนวนโครงการและจำนวนหน่วย ร้อยละ -31.3 และร้อยละ -34.6 ตามลำดับ แต่ด้านการออกใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.1 โดยมีข้อสังเกตว่าเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากฐานที่ต่ำผิดปกติในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 ส่วนด้านอุปสงค์การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยลดลงทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่าร้อยละ -18.3 และร้อยละ -16.3 ตามลำดับ”

ลุ้น LTV ปลดล็อกอสังหาฯ EEC

สำหรับภาพรวมทั้งปี 2564 แม้มีปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด แต่ยังมีปัจจัยบวกที่สำคัญคือภาวะที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดต่ำมาก รวมถึงการที่รัฐบาลได้ขยายระยะเวลามาตรการกระตุ้นภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และการจดจำนองสำหรับที่อยู่อาศัยสร้างใหม่ ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทไปจนถึงสิ้นปี 2564 และลดอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเหลือร้อยละ 10 ซึ่งเป็นมาตรการที่จะช่วยลดภาระของผู้ซื้อและผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 

นอกจากนี้การที่ธนาคารแห่งประเทศได้ประกาศผ่อนคลายมาตรการ LTV ชั่วคราว สำหรับสัญญาเงินกู้ที่ทำสัญญาตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ยืดเยื้อมาถึงเกือบ 2 ปี นับเป็นปัจจัยที่มีส่วนทำให้ยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในจังหวัด EEC ลดลงไม่รุนแรงตามที่คาดการณ์กันไว้ตั้งแต่ต้นปี 

รวมถึงการที่รัฐบาลได้มีนโยบายในการเปิดประเทศในต้นเดือนธันวาคม 2564 โดยจังหวัดชลบุรี และระยองเป็นพื้นที่สีฟ้านำร่องการท่องเที่ยว และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติคาดว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2564 จะขยายตัวเป็นบวกร้อยละ 1.2 ปรับตัวดีขึ้นอย่างช้า ๆ จากการลดลงร้อยละ -6.1 ในปี 2563 
ดังนั้น 

” จากทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบที่กล่าวมา ศูนย์ข้อมูลฯ คาดการณ์ว่า ในปี 2564 สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยใน 3 จังหวัด EEC ในด้านอุปทานการขอใบอนุญาตจัดสรรที่ดิน จะมีอัตราขยายตัวอยู่ในช่วงร้อยละ -31.3 ถึง -16.0 การขอใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยจะมีอัตราขยายตัวอยู่ในช่วงร้อยละ -9.1 ถึง 11.2 ส่วนด้านอุปสงค์ในปี 2564 คาดการณ์ว่า หน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยจะมีอัตราขยายตัวอยู่ในช่วงร้อยละ -30.3 ถึง -14.8 แต่จำนวนมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยคาดว่าจะมีอัตราขยายตัวอยู่ในช่วงร้อยละ -18.3 ถึง -0.1 เนื่องจากราคาที่อยู่อาศัยต่อหน่วยปรับตัวสูงขึ้น เมื่อเทียบกับปี 2563 “

การออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดิน (มกราคม – กันยายน)

ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2564 มีโครงการที่อยู่อาศัยที่ได้รับอนุญาตจัดสรรที่ดินจากกรมที่ดินจำนวน 28 โครงการ 2,575 หน่วย จำนวนโครงการลดลงร้อยละ -46.2 และมีจำนวนหน่วยลดลงร้อยละ -59.5เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 ซึ่งมี  52  โครงการ  6,358 หน่วย จะเห็นว่าในไตรมาสนี้ทั้งจำนวนโครงการและจำนวนหน่วยยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีก่อนเกิดวิกฤตการแพร่ระบาดไวรัส COVID-19  ถึงร้อยละ  -44.0 และร้อยละ -54.8 ตามลำดับ และหากเปรียบเทียบกับข้อมูลย้อนหลัง พบว่า ไตรมาส 3 ปี 2564 เป็น    ไตรมาสที่มีจำนวนหน่วยที่ได้รับอนุญาตจัดสรรที่ดินในจังหวัด EEC ต่ำที่สุดในรอบ 9 ปี หรือในรอบ 34 ไตรมาส นับตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2556 ซึ่งมีจำนวน 4,043 หน่วย 

อสังหาฯ EEC หดตัวแรง ขอจัดสรรที่ดินต่ำสุดในรอบ 9 ปี

การออกใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัย
    
การออกใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัย ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2564 มีการออกใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยใน 3 จังหวัด EEC ทั้งที่เป็นบ้านที่ประชาชนสร้างเอง บ้านในโครงการจัดสรร และอาคารชุด มีจำนวนประมาณ  8,362 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.3 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563

แต่ถึงอย่างไรการออกใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยในไตรมาส 3 ปี 2563 ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีก่อนเกิดวิกฤตการแพร่ระบาดไวรัส COVID-19  ถึงร้อยละ  -21.7 โดยแบ่งออกเป็นการออกใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยแนวราบจำนวนประมาณ  6,374 หน่วย และอาคารชุด จำนวนประมาณ 1,988 หน่วย ซึ่งที่อยู่อาศัยแนวราบมีการออกใบอนุญาตลดลงร้อยละ -5.8 แต่อาคารชุดมีการออกใบอนุญาตก่อสร้างเพิ่มขึ้นร้อยละ 223.7 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563  

อสังหาฯ EEC หดตัวแรง ขอจัดสรรที่ดินต่ำสุดในรอบ 9 ปี

ทั้งนี้ ใน 9 เดือนแรกปี 2564 (มกราคม – กันยายน) มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยใน 3 จังหวัด EEC จำนวน  26,339 หน่วย  มีมูลค่า 61,195 ล้านบาท จำนวนหน่วยและมูลค่าลดลง ร้อยละ -18.3 และร้อยละ -16.3 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 มีจำนวน  32,248 หน่วย และมูลค่า 73,115 ล้านบาท 

อสังหาฯ EEC หดตัวแรง ขอจัดสรรที่ดินต่ำสุดในรอบ 9 ปี

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ส่องตลาดคอนโดฯฟื้นตัวในปี 2565 ซัพพลายใหม่โต 28.5% 2.4 หมื่นยูนิต

เปิดประเทศแล้วความหวังตลาดคอนโดมิเนียมปี 2565 เข็มทิศชี้ทางเป็นช่วงขาขึ้น

“ภัทรชัย ทวีวงศ์” ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย นำเสนอภาพรวมตลาดคอนโดฯในกรุงเทพฯปี 2564 ในด้านซัพพลายยังคงมีการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เทียบกับปี 2561 ที่มีซัพพลายเปิดขายใหม่ 66,201 ยูนิต

ข้อสังเกตสินค้าคอนโดฯในปี 2564 บิ๊กแบรนด์หลายรายหันหัวรบมาแข่งขันในเซ็กเมนต์ราคาต่ำกว่าตารางเมตรละ 5 หมื่นบาทอย่างเห็นได้ชัดเจนในโซนกรุงเทพฯรอบนอก ซึ่งเป็นผลจากการมีรถไฟฟ้าสายใหม่กำลังก่อสร้างและเตรียมทยอยเปิดบริการ

แนวโน้มปี 2565 มองว่าภาพรวมตลาดจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเห็นสัญญาณที่ดีตั้งแต่ไตรมาส 4/64 ตัวชี้วัดคือการเปิดประเทศตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2564 นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยสะดวกมากขึ้น บวกกับมาตรการผ่อนปรน LTV 100%

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นตัวช่วยทำให้เทรนด์ปี 2565 น่าจะเป็นปีที่สดใสมากกว่าปีนี้

โดยคาดการณ์ว่าซัพพลายเปิดตัวใหม่ในปี 2565 ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 24,000 ยูนิต เพิ่มขึ้น 28.5% จากปี 2564

ในด้านทำเลแนวโน้มผู้พัฒนาส่วนใหญ่ยังคงเลือกพัฒนาโครงการในพื้นที่กรุงเทพฯชั้นนอก-ชั้นในตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง

ทำเลน่าสนใจที่ต้องจับตามอง ชี้เป้าไปที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงรามคำแหง-ลำสาลี, รถไฟฟ้าสายสีเหลือง โฟกัสช่วงถนนลาดพร้าว-ศรีนครินทร์, รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงถนนรามอินทรา และทำเลย่านบางนา ซึ่งดีเวลอปเปอร์มีแผนลงทุนเปิดตัวคอนโดมิเนียมหลายรายด้วยกัน

โฟกัสเฉพาะภาพรวมซัพพลายคอนโดฯเปิดขายใหม่ในปี 2564 มีทั้งสิ้น 47 โครงการ จำนวน 18,678 ยูนิต มูลค่ารวม 63,356 ล้านบาท ปรับตัวลดลง -16.1% จำนวน 3,585 ยูนิตเทียบกับปี 2563

ในส่วนของมูลค่าการพัฒนาปรับตัวลง -10.6% จำนวน 7,516 ล้านบาทเทียบกับปี 2563

โดยพบว่าซัพพลายคอนโดฯใหม่ปีนี้เป็นการลงทุนของบิ๊กแบรนด์รายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ฯสัดส่วนถึง 83.2% จำนวน 15,534 ยูนิต มูลค่ารวม 55,326 ล้านบาท ขณะที่มีสัดส่วนของดีเวลอปเปอร์นอกตลาดหลักทรัพย์ฯ 16.8% จำนวน 3,144 ยูนิต มูลค่ารวม 8,030 ล้านบาท

สำหรับตลาดบ้านแนวราบคาดการณ์ว่าจะยังคงเป็นดาวเด่นของภาคอสังหาริมทรัพย์ในปี 2565 อย่างต่อเนื่อง รายใหญ่-บิ๊กเนมยังคงเพิ่มสัดส่วนการพัฒนาแนวราบมากขึ้น รวมทั้งมองหาทำเลใหม่ ๆ ทั้งในกรุงเทพฯและจังหวัดยุทธศาสตร์สำคัญ อาทิ พื้นที่ EEC เชียงใหม่ ภูเก็ต เป็นต้น

แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโดยภาพรวมจะยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง บ้านก็ยังคงเป็นปัจจัย 4 ที่มีความต้องการอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net


งินบาทแข็งค่าเปิดที่ 33.55บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทแข็งค่าเปิดที่ 33.55บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทเปิดตลาด 33.55บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าเล็กน้อย หลังนักลงทุนคลายกังวลโควิด-กลับมาเปิดรับความเสี่ยง

เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 64 นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.55 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าตามภูมิภาค จากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.58 บาท/ดอลลาร์

เช้านี้เงินบาทแข็งค่าจากระดับปิดวานนี้ เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบเกือบทุกสกุลเงินหลัก ยกเว้นเงินเยน หลัง ตลาดคลายกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ภายหลังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) อนุมัติให้มีการใช้ยาต้านโควิดฉุกเฉิน ทำให้นักลงทุนเปิดรับความเสี่ยงในการลงทุนมากขึ้น

“บาทแข็งค่าต่อเนื่องจากเย็นวานนี้ เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่า หลังตลาดคลายกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด ทำให้ตลาดเปิดรับการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น” นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.40 – 33.60 บาท/ดอลลาร์

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


“อับดี นาเกเย” : เมื่อ “มิตรภาพ” มีคุณค่ามากกว่าเหรียญรางวัลที่ได้

"อับดี นาเกเย" : เมื่อ "มิตรภาพ" มีคุณค่ามากกว่าเหรียญรางวัลที่ได้

“เป้าหมายของผมคือต้องคว้าเหรียญ และผมก็ทำสิ่งนั้นพร้อมกับเพื่อนของผม บาเชอร์ อับดี มันเป็นเหมือนฝันเลย” อับดี นาเกเย กล่าว

มันเป็นวันสุดท้ายของโอลิมปิก 2020 ที่การแข่งขันวิ่งมาราธอนดูจะไม่พลิกโผ หลัง เอลิอุด คิปโชเก้ ปอดเหล็กชาวเคนยาและแชมป์เก่า ทิ้งห่างกลุ่มรองอยู่เป็นนาที 

อย่างไรก็ดี ในกลุ่มรองนั้น กลับมีเหตุการณ์ที่โด่งดังไปทั่วโลก หลัง อับดี นาเกเย จากเนเธอร์แลนด์ ที่อยู่ในอันดับ 2 พยายามกวักมือกระตุ้น บาเชอร์ อับดี จากเบลเยียม ที่อยู่ในอันดับ 4 จนเร่งสปีดแซง ลอเรนซ์ เชอร์โรโน จากเคนยา คว้าเหรียญทองแดงได้สำเร็จ

ทว่านอกจากน้ำใจนักกีฬาแล้ว โมเมนต์ดังกล่าวยังมีอะไรที่มากกว่านั้น และนี่คือเรื่องราวของสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น ที่แม้จะอยู่คนละประเทศแต่ก็ยังยึดโยงไว้ด้วยกัน 

ติดตามไปพร้อมกับ Main Stand

ผู้ลี้ภัยจากสงคราม 

แม้ว่า โซมาเลีย ดินแดนทางตะวันออกของแอฟริกาจะได้รับเอกราชจากอังกฤษมาตั้งแต่ปี 1961 แต่พวกเขาก็ไม่เคยรู้จักกับคำว่า “เสถียรภาพ” เลยสักครั้ง เมื่อต้องเผชิญกับความวุ่นวายมาตลอด 

เนื่องจาก โซมาเลีย ประกอบด้วยคนหลายเผ่าที่ต่างแย่งชิงอำนาจความเป็นใหญ่ และทำให้ประเทศตกอยู่ในภาวะสงครามกลางเมืองอย่างต่อเนื่อง หรือแม้กระทั่งเคยไม่มีรัฐบาลอยู่ถึง 20 ปี และสิ่งเหล่านี้ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้คนพากันอพยพหนีออกจากประเทศ   

1

อับดี นาเกเย คือหนึ่งในนั้น เขาเกิดในปี 1989 ที่กรุงโมกาดิชู เมืองหลวงของประเทศ ในสมัยที่ โมฮัมเหม็ด ซิอัด แบร์เร ผู้นำจอมเผด็จการยังเรืองอำนาจ และได้ลี้ภัยไปอยู่เนเธอร์แลนด์ตอนอายุ 6 ขวบ โดยอาศัยอยู่กับพี่ชายต่างมารดาที่เมืองเดน เฮลเดอร์ ทางตอนเหนือของ อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์

ทว่า นาเกเย กลับใช้ชีวิตอยู่ในแดนกังหันลมได้เพียงแค่ 4 ปีเท่านั้น เมื่อตอนอายุ 10 ขวบ เขาถูกพี่ชายต่างมารดาพาไปยังซีเรีย แต่แทนที่จะพากลับเนเธอร์แลนด์ ดันพาไปส่งให้พ่อแม่ของเขาที่โซมาเลีย

“พี่ชายต่างแม่ของผมเป็นพวกหัวรุนแรง เขาพาเราไปซีเรีย แม้ว่าผมจะคิดถึงเนเธอร์แลนด์ แต่ที่นั่นผมก็ได้คลายเครียด เราท่องอัลกุรอานกัน เรามีหลักแบบนั้น” นาเกเย ย้อนความหลังกับ Netherland News Live     

“หลังผ่านไป 3 ปี พี่ชายต่างแม่ไม่ได้พาเรากลับมาเนเธอร์แลนด์ แต่เอาเราไปทิ้งไว้กับพ่อแม่ของผม พวกท่านไม่ได้มีฐานะมากมาย เป็นแค่ชาวนาเท่านั้น” 

2

ราวกับว่า นาเกเย ต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่ แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้กับการพยายามคิดหาช่องทางกลับเนเธอร์แลนด์ ก่อนจะจำได้ว่าที่ เอธิโอเปีย ประเทศเพื่อนบ้าน มีสถานทูตเนเธอร์แลนด์ตั้งอยู่

เขาเริ่มแผนการหนีออกจากประเทศอีกครั้ง โดยซ่อนตัวไปในรถบรรทุก จนสามารถข้ามไปพรมแดนและไปถึงสถานทูตเนเธอร์แลนด์ได้ และทำให้เขาได้ไปอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ที่ โอลเดอบรูค ทางตอนกลางของประเทศที่อยู่ห่างจากที่อยู่เก่ากว่า 100 กิโลเมตร 

และที่นั่นเป็นจุดเริ่มต้นแห่งชีวิตใหม่

ประเทศที่มอบโอกาส 

ชีวิตของ นาเกเย ดูเหมือนจะตั้งต้นได้ ภายใต้การดูแลของพ่อแม่บุญธรรม ที่นอกจากจะมีหน้าที่ช่วยเหลือในฟาร์มแล้วยังทำให้เขาได้เรียนหนังสือ และที่สำคัญมันทำให้เขาได้เล่นฟุตบอล หนึ่งในกีฬายอดนิยมของแดนกังหัน 

“พวกท่านให้โอกาสผมโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ตอนนี้ผมจึงพยายามทำทุกอย่างด้วยตัวผมเอง” นาเกเย พูดถึงพ่อแม่บุญธรรม 

3

อย่างไรก็ดี ตอนอายุ 17 ชีวิตของ นาเกเย ก็มาถึงจุดพลิกผัน เมื่อเขาไปลงวิ่งแข่ง 5 กิโลเมตร และเข้าเส้นชัยด้วยเวลาเพียง 17 นาที ทำให้เขาเบนเข็มจากการเล่นฟุตบอลมาเป็นการวิ่งระยะไกล และได้เข้าร่วมกับสโมสรกรีฑาท้องถิ่น 

ราวกับว่ามันได้ปลุกพรสวรรค์ในตัวของ นาเกเย ให้ตื่นขึ้น หลังจากนั้น นาเกเย ก็มีพัฒนาการที่รวดเร็ว และเพียงแค่ปีเดียว เขาก็ติดทีมชาติเนเธอร์แลนด์ชุดเยาวชนลงแข่งในรายการครอสคันทรีชิงแชมป์ยุโรป ระดับเยาวชน 2006

หลังจากนั้น เขาก็เริ่มไต่เต้าขึ้นมาอยู่แถวหน้าในวงการนักวิ่งดาวรุ่งของยุโรป ทั้งการจบอันดับ 4 ในการแข่งขันวิ่ง 5000 เมตร ชิงแชมป์ยุโรปรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี หรือ อันดับ 7 ใน U-23 ครอสคันทรีชิงแชมป์ยุโรป

แม้ในปี 2013 เขาจะเปลี่ยนมาวิ่งประเภทถนนและต้องสู้กับผู้ใหญ่ แต่เส้นกราฟของเขายังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากแชมป์ 10 กิโลเมตรของเนเธอร์แลนด์ในปี 2014 ตามมาด้วยการจบอันดับ 3 ในการลงวิ่งมาราธอนครั้งแรกที่เอนเชเด ด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 11 นาที 38 วินาที ในปีเดียวกัน 

หนึ่งปีต่อมา นาเกเย ก็มีโอกาสได้ประเดิมการแข่งขันในโอลิมปิกเป็นครั้งแรก หลังได้เป็นตัวแทนของเนเธอร์แลนด์ ลงแข่งมาราธอนในการแข่งขันที่ ริโอ เดอ จาเนโร 2016 ที่เขาทำผลงานได้เหนือความคาดหมาย ด้วยการจบในอันดับที่ 11 ของการแข่งขัน ในเวลา 2 ชั่วโมง 13 นาที 1 วินาที

4

แค่นั้นยังไม่พอ มันทำให้ นาเกเย มุ่งมั่นฝึกฝนฟิตซ้อมอย่างหนัก ก่อนที่ความพยายามจะสัมฤทธิ์ผล เมื่อมันทำให้เขากลายเป็นนักวิ่งมาราธอนที่เร็วสุดในประวัติศาสตร์เนเธอร์แลนด์ หลังทำเวลาไป 2 ชั่วโมง 8 นาที 16 วินาที ในอัมสเตอร์ดัม มาราธอน เมื่อปี 2017

ปี 2019 ถือเป็นปีทองของ นาเกเย เมื่อเขาทำลายสถิติฮาล์ฟมาราธอนของเนเธอร์แลนด์ ด้วยเวลา 60:24 นาที ในการแข่งขันที่ มารุงาเมะ จังหวัดคางาวะ ประเทศญี่ปุ่น ก่อนที่จะทำลายสถิติของตัวเองใน รอตเตอร์ดัม มาราธอน ด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 06 นาที 17 วินาที และเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 4 

แต่มีรายการหนึ่งที่เขารอคอยมาตลอด นั่นก็คือ โอลิมปิก

ช่วงเวลาลืมไม่ลงที่โตเกียว 

มาราธอน ถือเป็นหนึ่งในการแข่งขันกรีฑาในโอลิมปิกที่ได้รับความสนใจจากผู้ชมเสมอ บวกกับตามธรรมเนียมที่มันมักจะอยู่ในวันสุดท้ายของการแข่งขัน ทำให้ทุกสายตาต่างจับจ้องว่าใครจะเป็นปอดเหล็กเบอร์ 1 ของโลก  

เช่นเดียวกันสำหรับนักกีฬา และเป็นเหตุผลให้ นาเกเย มุ่งมั่นกับการแข่งขันครั้งนี้เป็นพิเศษ อันที่จริงก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น เขาทำเวลาได้ไม่ดีเท่าที่ควร จากอาการบาดเจ็บที่เอ็นร้อยหวาย แต่การอยู่ในสโมสรวิ่งชั้นยอดอย่าง NN Running Team ก็ทำให้เขาได้รับการรักษาที่ดี จนหายทันการแข่งขัน

5

อย่างไรก็ดี อุปสรรคใหญ่ของเขาในคราวนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นคือ เอลิอุด คิปโชเก้ แชมป์เก่าเมื่อปี 2016 ชาวเคนยา เจ้าของสถิติโลก 2 ชั่วโมง 1 นาที 39 วินาที มนุษย์คนแรกที่วิ่งมาราธอนด้วยเวลาต่ำกว่า 2 ชั่วโมง ที่สำคัญ นาเกเย เห็นฟอร์มของคู่แข่งคนสำคัญคนนี้อยู่เสมอ เพราะทั้งคู่อยู่ในสังกัด NN Running Team ด้วยกัน

ขณะเดียวกันเขาต้องขับเคี่ยวกับ บาเชอร์ อับดี นักวิ่งทีมชาติเบลเยียม เพื่อนสนิทผู้มีเชื้อสายโซมาเลียเหมือนกับเขา ซึ่งแม้จะไม่ได้อยู่ NN Running Team ด้วยกัน แต่อับดีมักหาโอกาสมาซ้อมกับนาเกเยอยู่เป็นประจำ

6

นาเกเย เริ่มต้นได้อย่างมีลุ้น เมื่อรั้งอยู่ในอันดับ 9 หลังผ่าน 5 กิโลเมตรแรก และขยับมาอยู่ที่ 7 หลังผ่านไปครึ่งทาง โดย คิปโชเก้ และ อับดี ตามหลังเขาอยู่ ทว่าหลังผ่านไป 30 กิโลเมตร คิปโชเก้ ก็ขึ้นมานำ โดยที่เขาตามมาเป็นอันดับ 4 ส่วนอับดี เพื่อนของเขาอยู่ที่ 6 

จนกระทั่งในช่วง 200 เมตรสุดท้าย ที่ คิปโชเก้ นำห่างจนเข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 ไปแล้ว นาเกเย ก็เร่งสปีดแซง ลอเรนซ์ เชอร์โรโน นักวิ่งชาวเคนยาขึ้นมาเป็นที่ 2 ได้สำเร็จ 

ทว่าสิ่งที่หลายคนเพิ่งสังเกตเห็นคือ นอกจาก นาเกเย จะสับแบบเต็มเท้าแล้ว เขายังได้กวักมือกระตุ้นให้ อับดี เร่งสปีดเพื่อแซง เชอร์โรโน ด้วย ก่อนที่เพื่อนของเขา จะใช้แรงฮึดเฮือกสุดท้ายสปรินต์เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 3 ได้สำเร็จ 

7

“ตอนนั้นบาเชอร์ไม่ไหวแล้ว เพราะกิโลเมตรที่เจ็บที่สุดในการวิ่งมาราธอนคือกิโลเมตรที่ 38 และ 39 ผมเริ่มกวักมือ ผมยังไม่รู้เลยว่าผมมีพลังมาจากไหน” นาเกเย เปิดใจกับ Netherland News Live หลังจบการแข่งขัน

“เขาเหนื่อยแล้ว และเหลือออกซิเจนไม่มาก แต่ตอนนั้นผมไปนึกถึงสิ่งที่เราเคยคุยกันเมื่อเดือนก่อนในระหว่างซ้อม เราเชื่อว่าเราสามารถตามนักวิ่งจากเคนยาและเอธิโอเปียได้” 

“‘เอาหน่อยบาเชอร์’ ผมตะโกน ‘เรากำลังจะสร้างประวัติศาสตร์'”

และพวกเขาก็สร้างประวัติศาสตร์ได้จริงๆ ที่ไม่ใช่แค่เรื่องการวิ่งเท่านั้น

พลังน้ำใจนักกีฬา 

“เป้าหมายของผมคือต้องคว้าเหรียญ และผมก็ทำได้สำเร็จพร้อมกับ บาเชอร์ อับดี เพื่อนของผม มันเหมือนฝันเลย” นาเกเย บอกกับ CNN 

“ผมจดจ่อกับเขามาก ผมรู้สึกมั่นใจว่าผมจะต้องเป็นที่ 2 ผมแค่ลองพยายามช่วยเขาให้เขาจบอันดับ 3 แล้วเราก็ทำได้ และความรู้สึกก็หลั่งไหลเข้ามาตอนที่ทำสำเร็จ” 

8

จังหวะดังกล่าวทำให้ นาเกเย ได้รับเสียงชื่นชมไปทั่วโลก วิดีโอที่เขากวักมือกลายเป็นไวรัลไปทั่วโซเชียล และได้รับการพูดถึงมากกว่าเหรียญทองของ คิปโชเก้ ไอคอนสายวิ่งแห่งยุคปัจจุบันเสียอีก 

อย่างไรก็ดี นาเกเย บอกว่าเขาตั้งใจที่จะทำอย่างนี้ตั้งแต่ช่วงกิโลเมตรสุดท้าย ซึ่งหากสังเกตในช่วงถ่ายทอดสด จะเห็นนักวิ่งชาวดัตช์กวักมือเรียก บาเชอร์ ตั้งแต่ตอนที่เขาอยู่อันดับ 3 และเพื่อนของเขาอยู่ที่ 4 ก่อนจะกวักมือเรียกเป็นระยะจนสามารถแซงได้สำเร็จ

“ในช่วง 800 เมตร ผมอยากจะไป แต่ผมคิดถึงบาเชอร์ ผมก็เลยพยายามให้เขาเข้ามาใกล้” นาเกเย กล่าวกับ Reuters

“ผมพยายามช่วยเขา และเขาก็เป็นตะคริวไปแล้ว ผมเลยรอให้เขาเข้ามาใกล้ แล้วพอเขาขึ้นมาอยู่ต่อจากผม ผมก็คิดว่าโอเค ผมต้องชัวร์เหมือนกัน” 

“หลังจากนั้น ผมก็เริ่มสปรินต์และดูไปเรื่อยๆ แน่นอนว่ามันอันตรายและมีโอกาสที่จะถูกแซง”

ขณะที่ตัว บาเชอร์ เอง ก็รู้สึกขอบคุณในน้ำใจนักกีฬาของเพื่อนของเขา เพราะอันที่จริงเขาเกือบถอดใจยอมแพ้ไปแล้ว จนมาได้รับการกระตุ้นจาก นาเกเย จึงทำให้เขารวบรวมพลังจนสามารถคว้าเหรียญโอลิมปิกได้เป็นครั้งแรกในชีวิต 

“เขาบอกผมว่า ‘นายต้องไป’ ถ้าเขาไม่ได้อยู่ที่นั่นวันนั้น ผมคงต้องเจอกับความลำบากใน 3 กิโลเมตรสุดท้าย ในการฝึกซ้อม เราให้กำลังใจกันและกัน และนี่คือสิ่งที่เพื่อนร่วมทีมทำ” บาเชอร์ กล่าว

“ผมรู้สึกดีใจจริงๆที่เขาเข้าเป็นอันดับ 2 และผมก็ดีใจมากที่ได้เหรียญทองแดง” 

9

เหนือสิ่งอื่นใดคือการที่ นาเกเย บอกว่า การตัดสินใจทำเรื่องนี้เป็นผลมาจากสิ่งที่เขาประสบพบเจอมาในอดีต ทั้งในแง่เงินทุน การสนับสนุนหรือกำลังใจ ทำให้เมื่อเขามีโอกาสเขาก็อยากทำในสิ่งนี้บ้าง 

“มันคือสิ่งที่ผมเคยมีประสบการณ์ในอดีต มีคนคอยช่วยเหลือผมอยู่เสมอ” นาเกเย กล่าวกับ CNN 

“ผมคิดว่าสิ่งนี้เข้าไปอยู่ในนิสัยผมแล้ว ผมจึงพยายามช่วยเหลือคนอื่นบ้าง”

และที่สำคัญ เขาก็อยากพิสูจน์ให้เห็นว่า “น้ำใจยิ่งให้ยิ่งได้” และสามารถส่งต่อให้คนอื่นได้เมื่อมีโอกาส ไม่เว้นแม้แต่การแข่งขันประเภทเดี่ยวอย่างการวิ่งมาราธอน 

“มาราธอนหรือกรีฑาไม่ใช่เรื่องส่วนบุคคล คุณสามารถช่วยเหลือคนอื่นขณะวิ่งได้” นาเกเย อธิบายกับ Nos.nl 

“แน่นอนว่าคุณต้องสู้ เพราะการวิ่งมาราธอนมันยาวนาน และมันคงจะดีหากคิดถึงคนอื่นบ้าง คนจำนวนมากคิดว่ามันพิเศษที่คุณได้คิดถึงเพื่อนร่วมทีมหรือเพื่อนของคุณในช่วงสุดท้าย”

ส่งต่อให้รุ่นต่อไป 

ปฏิเสธไม่ได้ว่า โตเกียว โอลิมปิก ได้เปลี่ยนชีวิตนาเกเยจากหน้ามือเป็นหลังมือ และทำให้เขาเป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่เขาก็ยืนยันว่าเขายังเป็นคนเดิม ไม่หลงระเริง และตั้งใจจะสร้างผลงานในวงการวิ่งระยะไกลต่อไป 

10

“ตอนนี้ทุกคนมองผมต่างไปจากเดิม โชคดีที่ผมมีสติ พูดให้ชัดเจนก็คือผมมีความสุขกับผลงานของผม มันทำให้ผมมีความเชื่อ ผมรู้ว่าผมยังไม่ดีพอที่จะแข่งกับนักวิ่งระดับท็อปของโลก” นาเกเย กล่าวกับ Netherland News Live     

แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็หวังว่าการกระทำของเขาในครั้งนี้ จะเป็นแบบอย่างและเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นต่อไป โดยเฉพาะเด็กชาวโซมาเลียในเนเธอร์แลนด์ ที่มีมากจนตั้งเป็นชุมชนได้ 

“เด็กต้องการตัวอย่าง บางคนที่เหมือนพวกเขาและพูดภาษาเดียวกัน พวกเขาต้องรู้สึกว่าพวกเขาสามารถทำอะไรบางอย่างกับชีวิตในประเทศนี้ได้ มันเป็นไปไม่ได้ถ้ามีแค่ แมกซ์ เวอร์สแตพเพน (นักแข่งรถ) หรือ เดิร์ก เคาต์ (นักฟุตบอล)” นาเกเย อธิบาย 

11

ปัจจุบันเขามีมูลนิธิที่มีชื่อเดียวกับตัวเอง ไว้ช่วยสนับสนุนหรือสร้างนักกรีฑารุ่นใหม่ และได้สร้างสนามซ้อมวิ่งไว้ที่โซมาเลีย เพื่อสร้าง “โอกาส” ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาเคยได้รับ  

“ผมโตในเนเธอร์แลนด์และจะทำอะไรก็ได้ที่ชอบตอนเด็ก แต่อะไรแบบนี้เป็นไปไม่ได้เลยที่โซมาเลีย” นาเกเย บอกกับ CNN 

“คุณบอกให้เขาวิ่งได้ แต่คุณต้องหาที่สำหรับวิ่งให้เขาด้วย ที่ให้พวกเขาเล่นหรือทำอะไรต่างๆ ผมอยากจะช่วยพวกเขาจริงๆ” 

12

ส่วนเส้นทางนักวิ่งอาชีพระยะไกลของเขายังคงทอดยาวออกไป เขายังอยู่ในสโมสร NN Running Team และฝึกฝนอย่างหนักที่หมู่บ้านอิเทน ประเทศเคนยา และตั้งเป้าจะทำผลงานให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ โดยมีแชมป์โลกเป็นเป้าหมายต่อไป 

“ผมต้องทำงานหนักเพื่อสิ่งนี้ ผมวิ่งมา 14 ปี และไม่เคยได้รับเหรียญรางวัลระดับนานาชาติมาก่อน ไม่เคยคว้าเหรียญชิงแชมป์ยุโรป ทั้ง U-20 หรือ U-23 หรือรุ่นใหญ่ ประสาอะไรกับแชมป์โลก แต่ผมก็ยังเชื่อในสิ่งนี้ และจะพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นต่อไป” นักวิ่งน้ำใจงามทิ้งท้าย

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


วิธีรักษา-ป้องกัน“ท้องเสีย-ท้องร่วง” ที่ถูกต้อง

วิธีรักษา-ป้องกัน“ท้องเสีย-ท้องร่วง” ที่ถูกต้อง

บางครั้งหากมีอาการท้องเสีย ท้องร่วงที่ไม่หนักมาก อาจสามารถรักษาได้ด้วยตัวเอง Sanook Health มีคำแนะนำจาก รศ. นพ.ชิษณุ พันธุ์เจริญ สาขาวิชาโรคติดเชื้อ ฝ่ายกุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย มาฝากกัน

การรักษาและป้องกันอุจจาระร่วงเฉียบพลันที่ถูกต้อง

อาการอุจจาระร่วงเฉียบพลันจากการติดเชื้อไวรัส เช่น เชื้อไวรัสโรต้า ไวรัสโนโร่ และจากการติดเชื้อแบคที่เรีย เช่น เชื้อบิด เชื้ออหิวาตกโรค หรืออาจเกิดจากสารพิษจากเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคอาหารเป็นพิษ

เชื้อไวรัสโรต้าเป็นสาเหตุสำคัญของโรคอุจจาระร่วงในเด็กอายุ 5 ขวบปีแรกและมีวัคซีนในการป้องกันโรค ผู้ป่วยมักมีอาการอาเจียนนำมาก่อนจะเกิดอาการท้องเสียอาจมีไข้ต่ำๆ และอาการปวดท้องร่วมด้วย

อาการอุจจาระร่วงมักดีขึ้นได้เองภายใน 3-5 วัน

การรักษาอาการท้องร่วง

  • ควรปรับเปลี่ยนเรื่องการการรับประทานอาหารและการดื่มนม เน้นกินอาหารจำพวกแป้ง ลดอาหารจำพวกโปรตีน และหลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นเส้นใย (ผักและผลไม้) ดื่มนมได้ตามปกติแต่ลดปริมาณลงและดื่มบ่อยขึ้น
  • การดื่มน้ำเกลือแร่ มีความจำเป็นโดยเฉพาะผู้ป่วยที่ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำ
  • ผู้ป่วยที่ถ่ายอุจจาระเป็นมูกเลือด มีไข้สูง หรือมีอาการขาดน้ำ ควรพบแพทย์

การป้องกันอาการท้องร่วง

  • ล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหารและหลังใช้ห้องน้ำ
  • รับประทานอาหารที่สะอาด และปรุงสุก ดื่มน้ำสะอาด
  • วัคซีนโรต้าช่วยป้องกันและลดความรุนแรงของโรคอุจจาระร่วงจากเชื้อไวรัสโรต้า เป็นวัคซีนพื้นฐานที่ใช้หยอดปากสำหรับเด็กขวบปีแรก

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


8 วลีที่ขึ้นต้นด้วย “Break”

วันนี้เรามาดูวลีที่ขึ้นต้นด้วย Break กันค่ะ ซึ่ง 8 วลีที่เลือกมานั้น เป็นวลีที่เราเจอบ่อยในชีวิตประจำวันหรือแม้กระทั่งในหนังบ่อยสุดๆ มาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง


1. Break up = ยุติ, เลิก, เลิกคบกัน, สิ้นสุดความสัมพันธ์
ตัวอย่างเช่น


Tom decided to break up with Anna after a 5 years relationship.
= ทอมตัดสินใจเลิกคบกับแอนนาหลังจากความสัมพันธ์ 5 ปี


Most dinner parties break up about eleven o’clock.
= งานเลี้ยงอาหารค่ำส่วนใหญ่จะเลิกประมาณ 5 ทุ่ม


2. Break down = พัง, ทำลาย
ตัวอย่างเช่น


My car broke down last week.
= รถของฉันพังสัปดาห์ที่แล้ว


We must work hard to break down social barriers.
= เราต้องทำงานอย่างหนักเพื่อทำลายอุปสรรคทางสังคม


3. Break in = บุกรุก
ตัวอย่างเช่น


The burglar broke in and stole 2000 euros.
= โจรบุกรุกและขโมยเงิน 2000 ยูโร


The thief seemed to break in through a window.
= ขโมยดูเหมือนจะบุกรุกผ่านหน้าต่างเข้ามา


4. Break out = เริ่มต้นใหม่
ตัวอย่างเช่น


I wonder if a third world war will break out.
= ฉันสงสัยว่าสงครามโลกครั้งที่สามกำลังจะเริ่มต้นขึ้น


5. Break off = ยุติ, แยกออกจากกัน
ตัวอย่างเช่น


He broke the relationship off without an explanation.
= เขาจบความสัมพันธ์ของเขาลงโดยที่ไม่มีคำอธิบาย


6.Break through = ฝ่าฟัน
ตัวอย่างเช่น


The soldiers attempted to break through the enemy line.
= ทหารพยายามฝ่าแนวของศัตรู


7. Break away = หนีรอด
ตัวอย่างเช่น


Stop anyone who tries to break away.
= จับทุกคนที่พยายามหนี


8. Break loose = หลบหนี
ตัวอย่างเช่น


It looks like an experimental hacking A.I. under development in Pittsburg managed to break loose.
= ดูเหมือนว่าไอ้เจ้าเอไอที่ถูกพัฒนาไว้ เพื่อทดลองแฮคระบบที่พิตส์เบิร์กจะหลบหนีออกมาได้

ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th


เผยโฉม HUAWEI P50 Pocket สมาร์ทโฟนดีไซน์ 3 มิติแบบพับได้

เผยโฉม HUAWEI P50 Pocket สมาร์ทโฟนดีไซน์ 3 มิติแบบพับได้

หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป เดินหน้าสานผู้นำเทคโนโลยีถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟน ด้วยการเผยโฉมนวัตกรรมใหม่ล่าสุด HUAWEI P50 Pro สมาร์ทโฟนดีไซน์กล้อง Dual Matrix ที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีการถ่ายภาพและครั้งแรกของสมาร์ทโฟนหัวเว่ยดีไซน์ 3 มิติแบบพับได้ HUAWEI P50 Pocket

ตั้งแต่ HUAWEI P Series ได้ถือกำเนิดขึ้น หัวเว่ยก็ได้ก้าวเป็นผู้นำในด้านการออกแบบและเทคโนโลยีกล้อง ตั้งแต่ HUAWEI P9 ที่มี 2 กล้องในเครื่องเดียว วิวัฒนาการมาเป็น HUAWEI P10 Series ที่เป็นที่เลื่องลือในเรื่องกล้องถ่ายภาพ Portrait เมื่อก้าวสู่ HUAWEI P20 Series หัวเว่ยได้บุกเบิกการใช้ AI ในการถ่ายภาพ และการถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้อย่างคมชัด ต่อมาจึงก้าวกระโดดสู่ความสามารถในการซูมระดับเพริสโคปที่เป็นที่ฮือฮาของ HUAWEI P30 Series

และล่าสุดในปี 2020 หัวเว่ยได้เปิดตัว HUAWEI P40 Series เข้าสู่ยุคแห่งการถ่ายภาพที่ชาญฉลาดขึ้นไปอีกขั้นด้วย HUAWEI XD Fusion และ 10x Optical Zoom กับความสามารถในการซูมเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม ครั้งนี้หัวเว่ยพร้อมปฏิวัติวงการสมาร์ทโฟนอีกครั้งด้วย HUAWEI P50 Series

เผยโฉม HUAWEI P50 Pocket สมาร์ทโฟนดีไซน์ 3 มิติแบบพับได้

จากประวัติคความเป็นมาของ HUAWEI P Series ที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การถ่ายภาพ และวิดีโอที่เหนือชั้นวันนี้หัวเว่ยได้สร้างตำนานบทใหม่ให้กับวงการสมาร์ทโฟนอีกครั้งกับ HUAWEI P50 Pro ที่มาพร้อมการออกแบบ และระบบกล้อง Dual-Matrix Camera อันเป็นเอกลักษณ์ที่ใช้เทคโนโลยีถ่ายภาพ HUAWEI XD Optics ช่วยเก็บรายละเอียดการกระจายตัวของแสงให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เทคโนโลยี XD Fusion Pro เก็บภาพหลายเลเยอร์ในภาพเดียว มอบภาพสีเสมือนจริงดั่งตาเห็นแบบ True-Chroma รวมไปถึงเทคโนโลยีกันสั่นทั้งรูปแบบ OIS และ AIS ช่วยเก็บภาพวิดีโอในระดับ 4K เป็นเรื่องง่าย ในด้านดีไซน์ตัวเครื่องยังคงคอนเซ็ปต์ความหรูหราในสี Cocoa Gold และสีดำ Golden Black

เผยโฉม HUAWEI P50 Pocket สมาร์ทโฟนดีไซน์ 3 มิติแบบพับได้

ไม่เพียงเท่านั้น การกลับมาครั้งนี้ของ HUAWEI P Series ยังมาพร้อมเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่กับ HUAWEI P50 Pocket สมาร์ทโฟนแบบพับปิดสนิทขนาดพกพาที่มอบความหรูหราด้วยดีไซน์สถาปัตยกรรม 3 มิติที่ได้รับแรงบันดาลใจจากดีไซเนอร์ระดับแนวหน้าอย่าง Iris Van Herpen ผู้เป็นเบื้องหลังเสื้อผ้าดีไซน์สวยงามให้กับผู้มีชื่อเสียงระดับโลก ขณะเดียวกันก็เปี่ยมไปด้วยความทรงพลังด้านการถ่ายภาพที่เหนือระดับแบบ Ultra-Violet Photography ก้าวสู่สมาร์ทโฟนที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างรอบด้าน

เผยโฉม HUAWEI P50 Pocket สมาร์ทโฟนดีไซน์ 3 มิติแบบพับได้

นอกจากนั้น HUAWEI P50 Pro และ HUAWEI P50 Pocket ยังมอบประสบการณ์การทำงานแบบไร้รอยต่อด้วย Device+ (Super Device) ให้ผู้ใช้สามารถใช้งานคู่กับอุปกรณ์อื่นๆ ของหัวเว่ยอย่างหูฟัง แท็บเล็ต แล็ปท็อป สมาร์ทวอทช์ หน้าจออัจฉริยะ ลำโพง และแว่นตา อย่างง่ายดายเพียงแตะหรือเชื่อมต่อเพียงปลายนิ้วสัมผัสเดียว

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ทำความรู้จัก “ย่อมุม” องค์ประกอบจากสถาปัตยกรรมกรุงเก่าที่เซ็นทรัล อยุธยา
พามาสู่ความงดงามสมัยใหม่

เปิดตัวไปแล้วเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2564 ‘เซ็นทรัล อยุธยา’ เป็นศูนย์การค้าที่โดดเด่นด้วยการออกแบบ สมกับที่อยู่ในเมือง “กรุงเก่า” แม้จะเป็นสถาปัตยกรรม Mixed-Use สมัยใหม่ แต่เมื่ออยู่ในพื้นที่ระดับมรดกโลก เซ็นทรัล อยุธยา ก็มีการออกแบบเพื่อถ่ายทอดเอกลักษณ์ท้องถิ่นให้เข้ากับความเป็นสมัยใหม่ อย่าง “ย่อมุมไม้สิบสอง” ที่ปรากฏอยู่ในส่วนฟาซาด (Façade) ของอาคาร

ความงามจากความนุ่มนวล

‘ย่อมุม’ ในสถาปัตยกรรมไทย คือการแตกมุมใหญ่ของฐาน แท่น ตัวอาคาร เสา ส่วนยอดหรือส่วนหลังคา ให้เป็นมุมย่อยเล็ก ๆ มากขึ้นกว่าเดิม ในอดีตมักทำกับเสาไม้ ฐาน หรือแท่นไม้ จึงเรียกว่าย่อมุมไม้ และเรียกชื่อตามจำนวนมุม เช่น ย่อมุมไม้สิบสอง คือการย่อมุมให้เป็น 12 มุม ซึ่งมักพบในฐานของเจดีย์อยุธยา

การย่อมุมเปลี่ยนฐานหรือแท่นที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมมุมแหลมคมแข็งกระด้างให้มีความนุ่มนวลและไม่เป็นอันตรายเมื่อเดินผ่าน ส่วนย่อมุมในเสาก็ทำหน้าที่ลดความอันตรายจากมุมแหลมและยังสร้างความสวยงามจากแสงเงาและความสอดคล้องกับส่วนบัวหัวเสาอีกด้วย และที่สำคัญคือการย่อมุมอาคาร เช่น เจดีย์เหลี่ยมที่มีการย่อมุมไม้สิบสอง ทำให้อาคารกลมกลืนกับรูปทรงกรวยกลมในส่วนยอด ดังพบได้ที่เจดีย์ภูเขาทอง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ประสานเทคโนโลยีการก่อสร้างเข้ากับประวัติศาสตร์

ฟาซาด หรือ “เปลือกอาคาร” คือองค์ประกอบของสถาปัตยกรรมที่อยู่ด้านหน้าของอาคาร สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน เช่น หน้าต่าง กันสาด ชายคา ระเบียง ช่องเปิด หรือวัสดุตกแต่งต่าง ๆ ทำหน้าที่บดบังอาคารจากภายนอกและสร้างเอกลักษณ์ความงามให้กับอาคาร

วัสดุที่นิยมนำมาผลิตฟาซาดมีอย่าง เช่น แผ่นอะลูมิเนียมคอมโพสิต เพราะคุณสมบัติการไม่เป็นสนิม น้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่ง รวมทั้งสีที่เลือกได้หลากหลาย หรือแผ่นอะลูมิเนียม เพราะยืดหยุ่นได้ดีและน้ำหนักเบา โดยวิธีการพับขึ้นรูปหรือฉลุลวดลาย เป็นต้น โดยเซ็นทรัล อยุธยาเองก็เลือกอะลูมิเนียมมาเป็นวัสดุสำหรับผลิตฟาซาด

แต่สิ่งที่ทำให้ฟาซาดอะลูมิเนียมของเซ็นทรัล อยุธยา แตกต่างจากฟาซาดอะลูมิเนียมอื่น ๆ คือการพับขึ้นรูปให้มีลักษณะเหมือนย่อมุมไม้สิบสอง ชวนให้นึกถึงสถาปัตยกรรมขึ้นชื่อในจังหวัด โดยเป็นการนำแผ่นอะลูมิเนียมสีทองมาพับและขึ้นรูปเป็นโมดูลาร์ ที่สร้างมิติและความเคลื่อนไหวเมื่อมีแสงเงาตกกระทบ

นับว่าเป็นการประสานกันของเทคโนโลยีการก่อสร้างกับแนวคิดทางสุนทรียศาสตร์และประวัติศาสตร์ ทำให้ตัวอาคารมีทั้งเอกลักษณ์เก่าแก่และความทันสมัยที่สวยงาม

ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 24/12/2564

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a28,600.0028,700.00
ทองรูปพรรณ 96.5%1,853.0028,091.4829,200.00
ทองรูปพรรณ 90%1,667.7025,282.33n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,482.4022,473.18n/a
ทองรูปพรรณ 50%834.0012,643.44n/a
ทองรูปพรรณ 40%649.009,838.84n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%1,920.0029,107.20n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 24/12/2564



ปตท.

บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9531.1531.1531.6531.1531.6531.1531.4531.1531.1531.15
แก๊สโซฮอล์ 9130.8830.8831.3830.8831.3830.8831.1830.8830.8830.88
แก๊สโซฮอล์ E2029.6429.6429.8429.6430.1429.9429.6429.6429.64
แก๊สโซฮอล์ E8523.7423.7423.74
เบนซิน 9538.5639.5139.3639.0639.06
ดีเซล B728.4428.4429.0428.5429.0428.4428.7428.4428.5428.44
ดีเซล28.4428.4429.0428.5429.0428.4428.7428.4428.5428.44
ดีเซล B2028.4428.4429.0429.0428.7428.4428.44
ดีเซลพรีเมี่ยม34.4634.4635.4935.1635.49
แก๊ส NGV15.5915.5915.59

About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า