“วิกฤติยูเครน”อสังหาฯ อ่วมต้นทุนพุ่ง บ้าน-คอนโดขึ้นราคา15%
“วิกฤติยูเครน” อสังหาฯอ่วม วัสดุก่อสร้างขึ้นยกแผงพิษไฟสงครามรัสเชีย-ยูเครน ทุบซ้ำ จีนลดการส่งออกเหล็ก โครงสร้างหลักในอุตสาหกรรมก่อสร้าง -พัฒนาที่อยู่อาศัยหากยืดเยื้อ กลางปีบ้านพาเหรดปรับราคาขึ้น 15% ขณะปัจจุบัน เตรียมขึ้นราคาขั้นต่ำ 5% เตือนผู้บริโภครับมือ
อุตสาหกรรมก่อสร้างและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กำลังตกอยู่ในหลุมดำ เนื่องจากต้นทุนราคาน้ำมันและราคาเหล็กปรับตัวสูง โดยมีตัวแปรมาจาก วิกฤติยูเครน สงคราม การสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครนแหล่งส่งออกสำคัญต้องหยุดชะงัก
ซ้ำเติมสถานการณ์โควิด ที่จีนต้องลดกำลังการผลิต ลดการส่งออก ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาอย่างไรก็ตามหลายฝ่ายประเมินว่าหากไฟสงครามยังคงยืดเยื้อต้นทุนราคาเหล็กซึ่งเป็นโครงสร้างหลักที่ใช้ในการก่อสร้างจะปรับตัวสูงขึ้นกว่า 30,000บาทต่อตันในปัจจุบัน
ยักษ์ใหญ่ทำเหล็กขาดแคลน
นายวิโรจน์ โรจน์วัฒนชัย ผู้อำนวยการสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ขณะนี้เกิดการขาดแคลนผลิตภัณฑ์เหล็กไปทั่วโลกเนื่องจาก ภัยสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่สำคัญ ประเทศรัสเซีย ส่งออกอันดับสองของโลก รองจากจีน
ขณะยูเครนส่งออกเป็นอันดับ 8 ของโลก เมื่อเกิดสงคราม ทำให้ การส่งออกเหล็กหยุดชะงักและไม่แน่ชัดว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะจบลงเมื่อใด จากการตรวจสอบสถิติ ปี 2563 ทั้งสองประเทศส่งออกเหล็กรวมกัน ราว 58 ล้านตัน ขณะปี 2564 ส่งออกรวมกัน 97 ล้านตัน
ทั้งนี้หากมีความยืดเยื้อ จะส่งผลให้ความต้องการของผลิตภัณฑ์เหล็กตึงตัวจะเป็นการผลักดันราคาผลิตภัณฑ์เหล็กในตลาดโลกให้ปรับตัวสูงขึ้น ขณะเดียวกันยังมีผลกระทบด้านพลังงานส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์เหล็กไปทั่วโลกทั้งด้านต้นทุนการผลิตและการขนส่ง
อุตสาหกรรมก่อสร้างและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กำลังตกอยู่ในหลุมดำ เนื่องจากต้นทุนราคาน้ำมันและราคาเหล็กปรับตัวสูง โดยมีตัวแปรมาจาก วิกฤติยูเครน สงคราม การสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครนแหล่งส่งออกสำคัญต้องหยุดชะงัก
ซ้ำเติมสถานการณ์โควิด ที่จีนต้องลดกำลังการผลิต ลดการส่งออก ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาอย่างไรก็ตามหลายฝ่ายประเมินว่าหากไฟสงครามยังคงยืดเยื้อต้นทุนราคาเหล็กซึ่งเป็นโครงสร้างหลักที่ใช้ในการก่อสร้างจะปรับตัวสูงขึ้นกว่า 30,000บาทต่อตันในปัจจุบัน
ยักษ์ใหญ่ทำเหล็กขาดแคลน
นายวิโรจน์ โรจน์วัฒนชัย ผู้อำนวยการสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ขณะนี้เกิดการขาดแคลนผลิตภัณฑ์เหล็กไปทั่วโลกเนื่องจาก ภัยสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่สำคัญ ประเทศรัสเซีย ส่งออกอันดับสองของโลก รองจากจีน
ขณะยูเครนส่งออกเป็นอันดับ 8 ของโลก เมื่อเกิดสงคราม ทำให้ การส่งออกเหล็กหยุดชะงักและไม่แน่ชัดว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะจบลงเมื่อใด จากการตรวจสอบสถิติ ปี 2563 ทั้งสองประเทศส่งออกเหล็กรวมกัน ราว 58 ล้านตัน ขณะปี 2564 ส่งออกรวมกัน 97 ล้านตัน
ทั้งนี้หากมีความยืดเยื้อ จะส่งผลให้ความต้องการของผลิตภัณฑ์เหล็กตึงตัวจะเป็นการผลักดันราคาผลิตภัณฑ์เหล็กในตลาดโลกให้ปรับตัวสูงขึ้น ขณะเดียวกันยังมีผลกระทบด้านพลังงานส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์เหล็กไปทั่วโลกทั้งด้านต้นทุนการผลิตและการขนส่ง
อย่างไรก็ตาม สินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งสำเร็จรูป อาจกระทบด้านราคาและต้นทุนเนื่องจากรัสเซียและยูเครนจะเป็นกลุ่มผู้ส่งออกมายังกลุ่มประเทศอาเซียนรวมถึงประเทศไทยซึ่งจะมีผลกระทบ
ทั้งนี้นอกเหนือจากผลกระทบของความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนแล้วสิ่งที่ภาคอุตสาหกรรมเหล็กยังต้องติดตามคือนโยบายอุตสาหกรรมเหล็กของประเทศจีนซึ่งจะมีผลกระทบต่อระดับราคาเหล็กในอาเซียน
ยืดเยื้อ ราคาบ้านพุ่ง 15%
ทั้งนี้ มองว่า หากผู้ประกอบการรายใหญ่ทั้งอุตสาหกรรมเหล็กและบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มีสต็อกอสังหาฯในมือ มีลงนามสั่งซื้อไว้ล่วงหน้า ซึ่งจะเป็นผลดี แต่ เชื่อว่าไม่มีใครสามารถกักตุนได้
อย่างไรก็ตามนายวรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ระบุว่าหากสถานการณ์สงครามยืดเยื้อ นับตั้งแต่กลางปี 2565 หรือเดือนมิถุนายนนี้ ต้นไป ราคาบ้านทั้งระบบ ทั้งบ้านจัดสรรและบ้านสั่งสร้างจะปรับขึ้น 10-15% ขณะปัจจุบันผู้ประกอบการขอปรับราคาบ้านขั้นต่ำ ที่ 5-8% ในเดือนหน้านี้
นาย วรวุฒิกล่าวต่อว่า วัสดุก่อสร้างปรับราคาขึ้นทุกรายการจากต้นทุนพลังงานขณะเดียวกันเหล็กคือตัวแปรสำคัญหากภาวะสงครามยืดเยื้อจะไม่เป็นผลดีกับทุกฝ่ายเพราะทุกประเทศรวมทั้งไทย ต้องสั่งสินค้านำเข้าวัตถุดิบเหล็กเข้ามาเป็นองค์ประกอบในการลงทุน
จากการตรวจสอบราคาพบว่าเหล็กขยับไปหลายระลอกนับตั้งแต่ ต้นปี 2564 ที่จีนลดการผลิตและส่งออก ต้นปีราคาอยู่ที่ 17-18 บาทต่อกิโลกรัม ปลายปี 2564 ปรับไป 18-19 บาทต่อกิโลกรัม และต้นปีช่วงเกิดสงคราม ราคาวิ่งไปที่ 28-29 บาท ต่อกิโลกรัม หรือขยับไปกว่า60-70% ขณะปูนซิเมนต์ คอนกรีต โครงสร้างหลักที่ใช้ในการก่อสร้างสำคัญไม่แพ้เหล็ก
มีความผันผวนสูงปรับราคา 4 ครั้ง เป็นเหตุให้ราคาปูนขยับไปที่คิวละ 120 บาท ในต้นปี 2565 หรือ 12% เมื่อเทียบจากต้นทุนเดิม กระจกและอลูมิเนียมซึ่งนำมาประกอบประตูหน้าต่างขยับขึ้น 20-30% ขณะอิฐมวลเบา อิฐบล็อกแม้เป็นวัสดุหาวิตถุดิบได้ในประเทศ แต่เนื่องจากน้ำมันมีราคาสูงราคาขายต่อก้อนขยับไปที่ 1 บาท จากเดิม 0.80-0.90 สตางค์
ชงรัฐบาลอุ้ม
สำหรับทางออก สมาคมฯจะหารือร่วมกับ 3 สมาคม ที่อยู่อาศัยซึ่งประกอบด้วยสมาคมบ้านจัดสรรสมาคมอาคารชุดไทยและสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เพื่อเสนอผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อรัฐบาลโดยเฉพาะขอให้ชะลอการขึ้นของค่าแรงงานจาก 300 กว่าบาทต่อวันเป็น499-500 บาท/วัน เพราะจะทำให้ ภาคก่อสร้างมีต้นทุนที่สูงขึ้น
ทั้งนี้วิกฤติสงครามกระทบต้นทุนน้ำมัน และราคาวัสดุก่อสร้างอย่างน่ากังวล ซึ่งบริษัทรับสร้างบ้านเอง ที่ผ่านมา ไม่ต้องการขยับราคาบ้านขึ้น เพราะเกรงกระทบต่อการตัดสินใจของลูกค้า แต่ขณะนี้ ต้นทุนมันขึ้นเร็วมาก เราอั้นไว้ไม่ไหวแล้ว เหตุราคาวัสดุ โดยเฉพาะกลุ่มเหล็ก- โลหะ ราคาพุ่งนับเท่าตัว หากวิกฤติน้ำมันรุนแรง
จับตาการกักตุน
แหล่งข่าวจากวงการเหล็ก กล่าวว่า การนำเข้าเหล็กแท่งแบนและเหล็กแท่งยาวจากประเทศรัสเชียและยูเครนราว 10% อย่างไรก็ตามจากกรณีที่จีนลดการผลิตและส่งออกเหล็กส่งผลให้เหล็กขาดตลาด ปีที่ผ่านมา ผลกระทบเกิดจากจีน ราคาเหล็ก ช่วงเดือนพฤษภาคม สูงถึง 3.2 หมื่นบาทต่อตัน และช่วงปลายปีลดลงเหลือ 2.9 หมื่นบาทต่อตัน
ต้นปี 2565 เกิดสงคราม รัสเซียและยูเครนราคาเหล็กขยับสูงขึ้นมา ที่ 900 เหรียญสหรัฐ เที่ยบกับค่าเงินบาทของไทยที่ 33.62 บาท (ณ วันที่ 22มีนาคม 2565) อยู่ที่ 30,258 บาทต่อตัน เมื่อรวมต้นทุนขนส่ง อยู่ที่ 925 เหรียญสหรัฐ หรือ 31,098.5บาทต่อตัน และแนวโน้ม เหล็กอาจสูงขึ้นเพราะการกักตุนของพ่อค้าคนกลาง หรือไม่ มองว่าน่าจับตายิ่ง
ส่วนการปรับราคาบ้านเพราะต้นทุนเหล็ก และน้ำมัน มองว่าไม่น่าจะขยับได้มากนักในขณะนี้เนื่องจากกำลังซื้อเปราะบางการแข่งขันมีสูง เข้าใจว่า ผู้ประกอบการน่าจะหาทางประคอง ใช้วัสดุภายในประเทศและลดต้นทุนด้านอื่นแทน
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“ที่ดินแฮปปี้แลนด์” ดิ้น หาผู้ซื้อรายใหม่ 2,000 ล้าน หลังโดนเท!
“ที่ดินแฮปปี้แลนด์” ตลาดแฮปปี้แลนด์ ของบริษัทแฮปปี้แลนด์ ดิ้นหาผู้ซื้อที่ดิน แปลงงามรายใหม่มูลค่า2,000ล้านหลังโดนเท
หลังจากบริษัทพฤกษาเรียลเอสเตทจำกัด(มหาชน)บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ประกาศยกเลิกสัญญาซื้อ “ที่ดินแฮปปี้แลนด์”ย่านบางกะปิ กับบริษัทแฮปปี้แลนด์กรุ๊ปจำกัด เนื้อที่12ไร่มูลค่ากว่า2,000ล้านบาท โดยให้เหตุผลว่า
“ที่ดินแฮปปี้แลนด์”แปลงดังกล่าวติดปัญหาค่อนข้างมากทั้งชุมชนขัดขวางการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ตึกสูง เป็นเหตุให้การจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอไม่ผ่านที่ดินแฮปปี้แลนด์มูลค่า2,000ล้านบาทไม่สามารถพัฒนาให้เกิดประโยชน์สูงสุดรองรับรถไฟฟ้า
“ฐานเศรษฐกิจ”สอบถามบริษัทแฮปปี้แลนด์ฯถึง“ที่ดินแฮปปี้แลนด์” คำตอบที่ได้รับคือ บริษัทพฤกษาฯได้ยกเลิกการซื้อ-ขายเรียบร้อยแล้วระหว่างนี้บริษัท อยู่ระหว่างหาผู้ซื้อรายใหม่
มองว่าที่ดินแฮปปี้แลนด์มีศักยภาพสูงตั้งอยู่ทำเลใจกลางเมืองแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่มีแผนเปิดให้บริการภายในปีนี้ขณะราคาที่ดินปรับสูงขึ้นที่สำคัญอยู่ท่ามกลางชุมชนขนาดใหญ่ใกล้ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่
อย่างไรก็ตามแม้ว่าชุมชนไม่ต้องการให้เอกชนพัฒนาตึกสูงเพราะอาจทำให้เกิดความแออัดแต่ประเมินว่า “ที่ดินแฮปปี้แลนด์”สามารถพัฒนาหลากหลายรูปแบบ เป็นแนวราบรูปแบบของการช็อปปิ้งได้
ทั้งนี้ที่ “ดินแฮปปี้แลนด์” ย่านบางกะปิมูลค่า2,000 ล้านบาท ของ บริษัทแฮปปี้แลนด์ ฯประกอบด้วย ตลาดแฮปปี้แลนด์ -ที่จอดรถรวม12 ไร่ บริษัท พฤกษาฯเจรจาซื้อที่ดินมาตั้งแต่ปี 2561 โดยมีเงื่อนไขในสัญญาว่าบริษัทแฮปปี้แลนด์เจ้าของที่ดินจะต้องเจรจากับคนชุมชนแฮปปี้แลนด์
รวมแปลงที่ดินให้เป็นผืนเดียวกันเจรจาซื้ออาคารเพื่อให้แปลงที่ดินติดกับทางสาธารณะสามารถพัฒนาตึกสูงใหญ่เพื่อให้เกิดความคุ้มทุนแต่ เมื่อเจ้าของที่ดินไม่สามารถทำตามเงื่อนไขที่ให้ไว้ การทำสัญญาซื้อที่ดินแฮปปี้แลนด์ มีอันต้องยุติลงและใครจะเป็นรายต่อไปห้ามกระพริบตา!!!
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
อ่อนค่า! บาทเปิด 33.66 บาทต่อดอลลาร์
เงินบาทเปิดตลาด 33.66 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่า หลังนักลงทุน ปิดรับความเสี่ยงหันถือดอลลาร์ ให้กรอบ 33.55-33.80บาทต่อดอลลาร์
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.66 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.60 บาท หลังดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่า เนื่องจากนักลงทุนปิดรับความเสี่ยงแล้วหันมาถือครองดอลลาร์ ประกอบกับราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นหลังมีข่าวกลุ่มสหภาพยุโรปเตรียมยกระดับมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย
“บาทอ่อนค่าจากเย็นวานนี้ เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่า หลังนักลงทุนปิดรับความเสี่ยงหันมาถือครองดอลลาร์” นักบริหารเงินกล่าว
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.55 – 33.80 บาท/ดอลลาร์
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
“จตุภูมิ” จ่อได้ส้มหล่น รับทองแดงโอลิมปิก 2016
จตุภูมิ ชินวงศ์ จ่อได้รับส้มหล่นรับเหรียญทองแดง ยกน้ำหนัก โอลิมปิก 2016 หลังเจ้าของเหรียญทอง จากคาซัคสถานโด๊ป
ภายหลังจาก การแข่งขันยกน้ำหนัก ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ริโอ 2016 ที่นครริโอ เดอจาเนโร ประเทศบราซิล รุ่น 77 กิโลกรัมชาย “ก็อต” จตุภูมิ ชินวงศ์ จอมพลังชายไทย เจ้าของอันดับ 4 จากโอลิมปิก ลอนดอน 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ต้องจบอันดับ 4 อีกครั้ง เมื่อยกท่าสแนทช์ ได้ 165 กิโลกรัม และคลีนแอนด์เจิร์ก 191 กิโลกรัม น้ำหนักรวม 356 กิโลกรัม โดย เหรียญทอง เป็นของ นิยาต ราฮิมอฟ จากคาซัคสถาน 379 กิโลกรัม เป็นสถิติโลก เหรียญเงิน หลู่ เสียวจุ่น แชมป์เก่าจากจีน ที่ยกได้เท่ากัน ส่วนเหรียญทองแดง เป็นของ โมฮาเหม็ด อิฮาบ จากอียิปต์ 361 กิโลกรัม
ล่าสุด สำนักข่าวต่างประเทศ www.insidethegames.biz รายงาน เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 ว่า นิยาต ราฮิมอฟ เจ้าของเหรียญทอง ยกน้ำหนัก โอลิมปิก ริโอ 2016 ถูกโทษจากการละเมิดกฎการป้องกันการใช้สารต้องห้าม ขององค์การต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก หรือ วาดา และศาลกีฬาโลก มีคำตัดสินเป็นที่เรียบร้อย
ทำให้ถูกห้ามเข้าร่วมการแข่งขัน เป็นเวลา 8 ปี และถูกยกเลิกผลการแข่งขันตั้งแต่เดือนมีนาคม 2016 ส่งผลให้ หลู่ เสียวจุ่น จากจีน จะถูกเลื่อนจากเหรียญเงิน ขึ้นไปรับเหรียญทอง แทน ส่วน โมฮัมเหม็ด อิฮาบ จากอียิปต์ จากเหรียญทองแดง จะได้รับเหรียญเงิน ขณะที่ จตุภูมิ ชินวงศ์ ของไทย ก็จะได้รับส้มหล่น ตามไปด้วย ขยับจากอันดับ 4 ขึ้นไปรับเหรียญทองแดง
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเพิ่มเติมว่า การประกาศเลื่อนอันดับเหรียญรางวัล ดังกล่าว คณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซี อาจต้องใช้เวลานานอีกหลายขั้นตอน ก่อนที่จะประกาศผลอย่างเป็นทางการต่อไป โดยคาดว่า อาจจะภายในปีนี้ หรืออาจใช้เวลาถึงปี 2024
สำหรับ นักยกน้ำหนักทีมชาติไทย ทำผลงานในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ก่อนหน้านี้ ได้อย่างยอดเยี่ยม คว้าไปได้รวมทั้งหมดถึง 5 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 7 เหรียญทองแดง
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“ไหลตาย” คืออะไร สาเหตุและวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น
อาการเสียชีวิตที่เหมือนนอนหลับแล้วเสียชีวิตไปเฉยๆ เข้าไปปลุก เขย่าตัวอย่างไรก็ไม่ฟื้น ไม่พบร่องรอยอาการทรมานหรือผิดปกติใดๆ อาจสันนิษฐานได้ว่าเป็นอาการ “ไหลตาย”
โรคไหลตาย คืออะไร
รศ.พญ. สิรินทร์ อภิญาสวัสดิ์ แพทย์ประจำสาขาโรคหัวใจ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า อาการไหลตาย หรือ หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรมของการนำเกลือแร่โซเดียมเข้าออกเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้เกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะขั้นรุนแรง และเสียชีวิตกะทันหันได้
โรคไหลตาย โรคที่พบบ่อยโดยเฉพาะในแถบภาคอีสาน ความน่ากลัวของโรคนี้คือการเสียชีวิตแบบเฉียบพลัน ที่ผู้ตายไม่มีโอกาสรู้ตัวมาก่อนเลย
สาเหตุของโรคไหลตาย
- บริโภคอาหารที่มีสารพิษวันละเล็กน้อย จนเกิดการสะสมและเป็นพิษต่อกล้ามเนื้อหัวใจ
- ขาดสารอาหารที่เป็นวิตามินบี 1 อย่างรุนแรงเฉียบพลัน ทำให้คนที่แข็งแรงอยู่ดีๆ รู้สึกอ่อนเพลียและอยากนอน เมื่อหลับแล้วก็หัวใจวายตายเกือบจะทันที
- มีความผิดปกติของหัวใจ อาจพบว่ามีอาการเต้นระริกของหัวใจ เกิดจากหัวใจห้องล่างเกิดไฟฟ้าลัดวงจรทำให้มีการเต้นไม่สม่ำเสมอ เกิดไฟฟ้ามากระตุ้นให้เป็นจุดเล็กๆ ทำให้หัวใจห้องล่างบีบตัวไม่ได้ และสั่นระริกๆ ทำให้เลือดไปเลี้ยงร่างกายและสมองไม่เพียงพอ ภายใน 30 วินาทีจะเป็นลมหมดสติ 4 นาทีต่อมาถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นสมองจะตาย และภายใน 6-7 นาที ถ้ายังไม่หายก็จะเสียชีวิตในที่สุด
นอกจากนี้ยังพบว่า โรคไหลตายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับภาวะทุพโภชนาการ และสุขนิสัยการกินที่ผิด
อาการที่สังเกตได้ สัญญาณอันตรายของโรคไหลตาย
อาการของโรคไหลตายเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและใช้ระยะเวลาสั้นก่อนที่ร่างกายจะเป็นอันตรายจนถึงชีวิต โดยใช้เวลาเพียง 3-4 นาทีเท่านั้น อาการที่สังเกตได้เมื่อมีอาการ ได้แก่
- แขนและขาเกร็ง
- หายใจเสียงดังจากการมีเสมหะในหลอดลม
- บางรายปัสสาวะและอุจจาระราด เพราะสูญเสียการควบคุมของระบบประสาทโดยอัตโนมัติ
- ผู้ป่วยจะมีใบหน้าและริมฝีปากเขียวคล้ำ
หากช่วยเหลือไม่ทันการณ์ อาจเสี่ยงเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว หรือสมองอาจพิการถาวรหากขาดออกซิเจนเป็นเวลานาน
ปัจจัยเสี่ยงโรคไหลตาย
ปัจจัยส่งเสริมอาการไหลตายในผู้ที่มีความผิดปกติจากภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะขั้นรุนแรงจนอาจส่งผลให้เสียชีวิตได้ ได้แก่
- มีไข้สูง
- ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- ใช้ยานอนหลับ
- ขาดแร่ธาตุโพแทสเซียม
วิธีรักษาโรคไหลตาย
- หากในรายที่มีความเสี่ยงต่อภาวะไหลตายสูง ควรลดและเลี่ยงปัจจัยที่ส่งเสริมอาการให้เกิดขึ้นต่างๆ เช่น ถ้ามีไข้สูง ให้รับลดไข้ด้วยการรับประทานยาลดไข้ เช็ดตัว ลดหรือเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เป็นต้น
- ฝังเครื่องกระตุกหัวใจเข้าไปในร่างกาย
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น เมื่อพบผู้ป่วยที่มีอาการไหลตาย
- จับผู้ป่วยนอนราบ ระหว่างรอรถพยาบาล
- ประเมินผู้ป่วย หากไม่หายใจหรือชีพจรที่คอไม่เต้น ให้กดหน้าอกให้ยุบลงราว 1.5 นิ้ว แล้วปล่อยให้คลายตัวเป็นชุดในความถี่ราว 100 ครั้ง/นาที จนผู้ป่วยรู้ตัว
- ไม่ควรงัดปากผู้ป่วยด้วยของแข็ง เพราะอาจเป็นอันตรายและระลึกเสมอว่าคนที่เป็นโรคไหลตายอาจมีโรคอื่นของสมอง เช่น ลมชัก โรคหัวใจ ที่อาจเป็นเหตุให้หมดสติได้เช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
หลักการใช้ Present Simple Tense ที่ไม่ควรพลาดอีกต่อไป
เชื่อว่าเพื่อนๆ ต้องเรียน Present simple tense เป็น tense แรกๆ แน่นอนสำหรับการเรียนภาษาอังกฤษ ซึ่งวันนี้เรามาเจาะลึกกับ Tense ที่มีความสำคัญเช่นเดียวกับ Tense อื่นๆ ให้เราไม่พลาดในเรื่องง่ายๆ
โครงสร้าง Present Simple Tense
Present Simple Tense มีโครงสร้างประโยคที่ง่ายที่สุดแล้วคะ เพียงแต่ต้องระวังการเติม s หรือ es ท้ายกริยาเท่านั้นเอง โดยมีวิธีจำง่ายๆ คือ
- ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ – เติม s หรือ es ท้ายคำกริยา
- ถ้าประธานเป็นพหูพจน์ – ไม่ต้องเติมอะไรท้ายคำกริยา
เราจะใช้ Present Simple Tense เพื่อพูดถึงเหตุการณ์ในปัจจุบันในลักษณะต่อไปนี้
1. ใช้พูดถึงความจริงในชีวิตประจำวัน หรือความจริงตามธรรมชาติ
ตัวอย่าง
- I live in Bangkok
- ฉันอาศัยอยู่ในกรุงเทพ
- We eat rice.
- พวกเราทานข้าว
- Water freezes at zero degrees
- น้ำค้างมีความเย็นที่ถูกแช่แข่งอยู่ที่ 0 องศา
2. ใช้พูดถึงนิสัย และการกระทำที่เป็นกิจวัตรประจำวัน
โดยเหตุการณ์ หรือการกระทำที่เป็นประจำ มักจะมีคำวิเศษณ์แสดงความถี่ (Adverbs of Frequency)
- always เป็นประจำ สม่ำเสมอ
- never ไม่เคย
- habitually ทำประจำจนเป็นนิสัย
- hardly แทบจะไม่เคย
- often บ่อยๆ
- rarely แทบจะไม่เคย
- frequently บ่อยๆ
- scarcely แทบจะไม่เคย
- sometimes บางครั้ง
- barely แทบจะไม่เคย
- naturally โดยปกติแล้ว
- seldom นานๆครั้ง
- usually โดยปกติ
- infrequently นานๆ ครั้ง
การใช้ควบคู่กับช่วงระยะเวลาหรือจำนวนครั้งที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์ต่างๆ เช่น every week, once a day, twice a month เป็นต้น
มาดูตัวอย่างกัน
- He usually gets up late on Sunday.
- ปกติแล้วเขามักจะตื่นสายในวันอาทิตย์
- She hardly ever hands in her homework on time.
- เธอแทบจะไม่เคยส่งการบ้านตรงเวลาเลย
3. ใช้พูดถึงความชอบ ( Preference ) หรือเมื่อแสดงความคิดเห็น ( Comments )
ตัวอย่าง
- Kate likes to eat sushi.
- เกดชอบทานซูชิ
- We think that’s a good idea.
- พวกเราว่ามันเป็นความคิดที่ดีนะ
4. ใช้พูดถึงตารางเวลา (Timetable)
ตัวอย่าง
- The restaurant opens at 7 a.m. and closes around 8 p.m.
- ร้านอาหารเปิดตอน 7 โมงเช้า และปิดตอน 2 ทุ่ม
- The flight arrives at the airport every 2 hours.
- เที่ยวบินจะถึงสนามบินทุกๆ 2 ชั่วโมง
อย่าลืมไปฝึกพูดกันเยอะๆนะ แล้วเจอกันใหม่
ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th
อะโดบีเสริมศักยภาพแบรนด์ เตรียมพร้อมสู่ Metaverse
อะโดบี ประกาศเปิดตัวนวัตกรรมและการบูรณาการระบบ การลงทุนเพื่อช่วยให้แบรนด์ต่างๆ ประสบความสำเร็จในเมตาเวิร์ส (Metaverse)
ในงาน Adobe Summit ซึ่งเป็นการประชุมด้านประสบการณ์ดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก อะโดบี (Nasdaq:ADBE) ได้เปิดตัวนวัตกรรมหลายรายการ รวมถึงการบูรณาการระบบ และการลงทุนเพื่อช่วยให้แบรนด์ต่างๆ ประสบความสำเร็จในเมตาเวิร์ส (Metaverse)
ด้วยการต่อยอดจากเทคโนโลยีที่อะโดบีนำเสนอในปัจจุบันสำหรับการสร้างสรรค์ประสบการณ์ 3D แบบ immersive รวมถึงแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซ และประสบการณ์ดิจิทัล อะโดบีได้เผยโฉมนวัตกรรมใหม่สำหรับการออกแบบ สร้าง และนำเสนอประสบการณ์แบบเสมือนจริงที่ชวนดื่มด่ำให้แก่ผู้ใช้งานหลายล้านคน นอกจากนี้ การบูรณาการใหม่ๆ บน Adobe Creative Cloud และ Adobe Experience Cloud จะช่วยองค์กรธุรกิจในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมสามารถสร้างและปรับแต่งคอนเทนต์ 3D และทำ personalization โดยใช้โซลูชั่นของอะโดบี
นอกจากนี้ อะโดบีได้นำเสนอ playbook สำหรับแบรนด์ต่างๆ พร้อมทั้งพรีวิว Substance 3D Modeler รวมไปถึงเครื่องมือ Augmented Reality (AR) สำหรับการช้อปปิ้ง และอะโดบียังได้ร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำ เช่น The Coca-Cola Company, Epic Games, NASCAR และ NVIDIA ในการพัฒนาเทคโนโลยีและประสบการณ์ต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเมตาเวิร์ส:
• การสร้างคอนเทนต์ 3D และคอนเทนต์ immersive อื่นๆ: ประสบการณ์แบบ immersive ในปัจจุบัน รวมถึงเกม ประสบการณ์ช้อปปิ้งและการเรียนรู้แบบอินเทอร์แอคทีฟ โดยมากแล้วถูกสร้างขึ้นโดยใช้เครื่องมือการสร้างคอนเทนต์ 3D และคอนเทนต์เสมือนจริงของอะโดบี นั่นคือ Substance 3D และ Aero และทุกวันนี้แบรนด์ชั้นนำใช้เวิร์กโฟลว์การออกแบบ 3D เช่น การถ่ายภาพแบบเสมือนจริงโดยใช้เครื่องมืออย่าง Substance Stager เพื่อให้สามารถออกแบบผลิตภัณฑ์และผลิตคอนเทนต์ด้านการตลาดได้ดีขึ้น รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
• ประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบเสมือนจริง: ปัจจุบันอะโดบีทำงานร่วมกับองค์กรธุรกิจหลายพันแห่งเพื่อขับเคลื่อนร้านค้าออนไลน์และประสบการณ์อี-คอมเมิร์ซอื่นๆ ความเชี่ยวชาญในส่วนนี้ รวมถึงการบูรณาการระหว่างระบบคลาวด์ ช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถสร้างสรรค์ประสบการณ์แบบ immersive ซึ่งลูกค้าจะสามารถเลือกซื้อสินค้าทั้งแบบเสมือนจริงและสินค้าของจริงได้ในโลกดิจิทัล
• ความสามารถในการพกพาอัตลักษณ์และทรัพยากรแบบเสมือนจริง: วันนี้อะโดบีเสริมสร้างขีดความสามารถให้แก่แบรนด์ต่างๆ ในการนำเสนอประสบการณ์ดิจิทัลแบบเฉพาะบุคคลที่ครอบคลุมทุกช่องทางการติดต่อ ทุกที่ทุกเวลา ด้วยการพัฒนาต่อยอดจากความเชี่ยวชาญที่มีอยู่ อะโดบีช่วยให้ผู้ใช้ในเมตาเวิร์ส และประสบการณ์ immersive สามารถออกแบบอัตลักษณ์และทรัพยากรทางออนไลน์ของตนเอง และใช้แอสเซ็ท (Asset) ที่ปรับแต่งนี้ภายในโลกเสมือนจริง
สก็อต เบลสกี้ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์และรองประธานบริหารฝ่าย Adobe Creative Cloud กล่าวว่าMetaverse และประสบการณ์เสมือนจริงอื่นๆ จะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อมีการนำเสนอฟีเจอร์ที่พร้อมสรรพ ผ่านการปรับแต่งแบบเฉพาะบุคคล มีคอนเทนต์แบบอินเทอร์แอคทีฟ และดึงดูดใจ ดังนั้นเพื่อที่จะเป็นผู้นำในเมตาเวิร์ส แบรนด์ต่างๆ จึงควรเริ่มต้นสร้างคอนเทนต์ 3D และคอนเทนต์ immersive ตั้งแต่ตอนนี้ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้เตรียมพร้อมสำหรับอนาคตแล้ว ยังช่วยให้การออกแบบผลิตภัณฑ์และการสร้างแอสเซ็ทด้านการตลาดและอี-คอมเมิร์ซปรับปรุงดีขึ้น รวดเร็วมากขึ้น และมีค่าใช้จ่ายถูกลง”
เมตาเวิร์สประกอบด้วยประสบการณ์ immersive ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถติดต่อสื่อสารกันในโลกเสมือนจริง โดยทำหน้าที่เป็นแรงขับเคลื่อนการสร้างนวัตกรรมแห่งอนาคต รวมถึงประสบการณ์ร่วมกันหลากหลายรูปแบบสำหรับการทำงาน การเล่นเกม อี-คอมเมิร์ซ ระบบหุ่นยนต์ การฝึกอบรมสำหรับยานพาหนะไร้คนขับ และการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับภาวะโลกร้อน เป็นต้น
อะโดบีบูรณาการเครื่องมือด้านครีเอทีฟสำหรับคอนเทนต์ 3D และคอนเทนต์ immersive เข้ากับ Adobe Experience Cloud โดยในขั้นแรกเป็นการบูรณาการสำหรับ Adobe Commerce, Adobe Experience Manager, Adobe Analytics และ Adobe Target ก่อนหน้านี้ อะโดบีได้ปรับปรุงให้กลมกลืนมากขึ้นสำหรับคอนเทนต์ เอฟเฟ็กต์ และฟีเจอร์ 3D บนแอพพลิเคชั่น Creative Cloud
อนิล จักรวารธี ประธานฝ่ายธุรกิจประสบการณ์ดิจิทัลของอะโดบี กล่าวว่า “เนื่องจากเว็บมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง จึงเกิดความต้องการเพิ่มมากขึ้นสำหรับประสบการณ์ immersive ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ซึ่งครอบคลุมอี-คอมเมิร์ซ ฟังก์ชั่นที่รองรับผู้ใช้งานหลายคน และความสามารถในการครอบครองและส่งออกอัตลักษณ์และทรัพยากรของคุณเองที่ผ่านการปรับแต่งเป็นพิเศษในโลกเสมือนจริง Adobe Experience Cloud คือเทคโนโลยีสำคัญที่จะช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถสร้างสรรค์ประสบการณ์ immersive แบบเฉพาะบุคคลตามลักษณะที่ว่านี้”
ที่งาน Adobe Summit อะโดบีได้จัดทำรายงานคู่มือ “Metaverse Playbook” เพื่อช่วยให้เอเจนซี่และแบรนด์ต่างๆ สามารถปรับตัวเพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านการออกแบบในสภาพแวดล้อม 3D และแบบ immersive ซึ่งจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับงานโปรดักชั่นด้านการตลาด รวมไปถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์ และอื่นๆ นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวยังระบุข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆ เกี่ยวกับอีโคฟซิสเต็มส์หลักของพาร์ทเนอร์เพื่อช่วยให้แบรนด์ต่างๆ เตรียมความพร้อมสำหรับเมตาเวิร์สได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
อะโดบีเปิดพรีวิวนวัตกรรมแบบ Immersive
ในปีนี้ อะโดบีมีแผนที่จะขยายความสามารถด้าน 3D ใน Substance 3D Collection ซึ่งปัจจุบันประกอบด้วย Substance 3D Stager, Painter, Sampler, Designer และ 3D Asset Library พร้อมด้วยแอพใหม่ Substance 3D Modeler ทำให้คอลเลกชั่นดังกล่าวเป็นโซลูชั่นแบบครบวงจรเพียงหนึ่งเดียวสำหรับภาพและประสบการณ์ 3D ทั้งนี้ เครื่องมือ 3D ของอะโดบีได้รับการใช้งานอย่างกว้างขวางในเกม immersive ชั้นนำเช่น Fortnite, Roblox, Halo และ Flight Simulator และยังถูกใช้ในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ด้านความบันเทิงที่เหนือชั้นอย่าง Dune, The Mandalorian และ Blade Runner 2049
อะโดบีมีแผนที่จะรวมคอนเทนต์ เอฟเฟ็กต์ และฟีเจอร์ 3D เข้ากับแอพพลิเคชั่น Creative Cloud หลังจากที่ล่าสุดได้รวมไว้บน Illustrator และ After Effects นอกจากนี้ อะโดบียังนำเสนอ Adobe Aero ซึ่งเป็นเครื่องมือชั้นนำในการสร้างประสบการณ์ Augmented Reality
ในช่วง “Sneaks” ของงาน Adobe Summit อะโดบีได้พรีวิวเครื่องมือด้าน Immersive ที่ก้าวล้ำจากห้องปฏิบัติการวิจัยของอะโดบี เช่น เครื่องมือที่จะช่วยให้องค์กรธุรกิจนำเสนอประสบการณ์อี-คอมเมิร์ซใแบบเมตาเวิร์ส รวมถึงประสบการณ์ดิจิทัลแบบเสมือนจริงอื่นๆ พร้อมกันนี้ อะโดบีจะพรีวิวเทคโนโลยี AR Shopping ซึ่งจะช่วยให้นักการตลาดสามารถใส่มาร์คเกอร์ AR ไว้ในภาพดิจิทัลบนเว็บไซต์ และลูกค้าก็จะสามารถถ่ายภาพสินค้าทางออนไลน์ แล้วตรวจสอบขนาดที่แน่ชัดและความพอดีเมื่อลองสวมใส่หรือตั้งวางที่บ้านผ่านภาพจำลอง ซึ่งนับเป็นการผสานรวมโลกเสมือนจริงและโลกแห่งความเป็นจริงเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ค้นพบ 5 วิธีที่ HP Large Format Printers สามารถช่วยทีมสถาปนิก วิศวกร และการก่อสร้าง รังสรรค์ผลงานที่ดีที่สุดได้ที่งานสถาปนิก’65
งานเอกสารเทคนิคต่าง ๆ เป็นหัวใจสำคัญของการทำงานสถาปนิก วิศวกร และก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นการยื่นประมูลงาน การนำเสนองาน หรือการส่งงานให้ทันกำหนดต่างก็ขึ้นอยู่กับความราบลื่นของโครงการและ printer ที่เหมาะสมกับงานก็คือสิ่งที่ขาดไม่ได้ เรามาดูกันว่าทำไม
1. เวลาเป็นเงินเป็นทอง
printer ของเราทำงานเร็วกว่าใคร ใช้เวลาอุ่นเครื่อง และเวลาพิมพ์งานที่สั้นกว่า ยิ่งงานพิมพ์ของคุณทำได้เร็วแค่ไหนคุณก็ยิ่งมีเวลาไปทำงานที่สำคัญสำหรับโครงการของคุณมากขึ้นเท่านั้น
2. ความเที่ยงตรงแม่นยำของลายเส้นมากถึง 0.1%
HP Large Format Printers มีค่าความแม่นยำที่ 0.1% ซึ่งสามารถพิมพ์ทุกรายละเอียดของงานได้อย่างเที่ยงตรง นอกจากนั้นแล้วเรายังรับประกันน้ำหนักเส้นที่ไม่ว่าจะเบาแค่ไหน printer ของเราก็ไม่พลาดแสดงผลคมชัดทุกเส้นสาย
3. ใช้งานได้กับทุก modelling software
HP Large Format Printers สามารถพิมพ์งานได้อย่างถูกต้องแม่นยำไม่ว่าคุณจะใช้ modelling software ไหน แม้ว่างานออกแบบของคุณจะซับซ้อนมีหลายหลาย layer จากหลากหลาย software ก็ยังเอาอยู่
4. ช่วยให้งานของคุณง่ายขึ้นอีกเยอะ
เติมกระดาษหรือหมึกก็แสนง่ายดาย งานพิมพ์ที่ได้จะถูกจัดระเบียบแยกเป็นชุดให้เรียบร้อย ประหยัดเวลา งานไม่มีสะดุด
5. มี hard copy สำรองพร้อมทุกสถานการณ์
พิมพ์งานเป็น hard copy เก็บไว้สามารถช่วยคุณได้ในวันที่อะไรก็ไม่เป็นใจ เปิดไฟล์งานยังไงก็ไม่ขึ้นขัดข้องทางด้านเทคนิคไปเสียหมด ด้วย HP Large Format Printers การพิมพ์งานของคุณก็ไม่ใช่เรื่องยากหรือมีค่าใช้จ่ายมากอีกต่อไป
มาเยี่ยมชม HP ได้ที่งาน Architect Expo 2022 บูธหมายเลข L303 และคุณจะได้เห็นว่าเราปฏิวัติการทำงานของสถาปนิก วิศวกรรม และก่อสร้างได้อย่างไร สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ HP ติดต่อเรามาได้ที่ โทร: 1800 012 324
ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 24/03/2565
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 30,800.00 | 30,900.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,995.00 | 30,244.20 | 31,400.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,795.50 | 27,219.78 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,596.00 | 24,195.36 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 898.00 | 13,613.68 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 698.00 | 10,581.68 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,067.00 | 31,335.72 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 24/03/2565
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 39.95 | 39.95 | 40.55 | 39.95 | 40.35 | 39.95 | 39.95 | 39.95 | 39.95 | 39.95 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 39.68 | 39.68 | 40.28 | 39.68 | 40.08 | 39.68 | 39.68 | 39.68 | 39.68 | 39.68 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 38.84 | 38.84 | 39.44 | 38.84 | 39.24 | – | 38.84 | 38.84 | 38.84 | 38.84 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 32.14 | 32.14 | – | – | – | – | – | – | – | 32.14 |
เบนซิน 95 | 47.36 | – | – | – | 48.21 | – | 47.86 | 47.86 | – | 47.36 |
ดีเซล B7 | 29.94 | 29.94 | 31.04 | 30.14 | 30.34 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 30.14 | 29.94 |
ดีเซล | 29.94 | 29.94 | 31.04 | 30.14 | 30.34 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 30.14 | 29.94 |
ดีเซล B20 | 29.94 | 29.94 | 31.04 | – | 30.34 | – | 29.94 | 29.94 | – | 29.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 35.96 | 35.96 | 37.49 | 36.56 | 36.79 | – | – | – | – | 35.96 |
แก๊ส NGV | 15.59 | 15.59 | – | – | – | – | – | – | – | 15.59 |