สาระน่ารู้ประจำวันที่ 25 ตุลาคม 2566

อสังหาฯปี67ปัจจัยลบอ่วม!บ้าน-คอนโดจ่อขยับราคา5-10%ผุดไซส์เล็ก-ทำเลไกล

อสังหาฯปี67เผชิญปัจจัยลบอ่วม! ‘บ้าน-คอนโด’จ่อขยับราคา5-10% ดีเวลลอปเปอร์หันพัฒนาไซส์เล็กลง-ทำเลไกลขึ้นลดต้นทุน หลังราคาที่ดินเป็นหนึ่งในวัตถุดิบหลักขึ้น20% ดอกเบี้ยขยับขึ้นต่อเนื่องล่าสุดราคาค่าแรงเตรียมขึ้นปีหน้า

สถานการณ์ความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอกโดยเฉพาะภาวะสงคราม “อิสราเอล-ฮามาส” ส่งผลต่อการปรับขึ้นราคาน้ำมันและอัตราดอกเบี้ย มีผลต่อ “ต้นทุน” ต่างๆ ในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่แนวโน้มปี 2567 ยังคงต้องเผชิญความท้าทายจากปัจจัยลบรอบด้าน ขณะเดียวกัน “ราคาที่ดิน” หนึ่งในต้นทุนสำคัญปรับราคาขึ้นเช่นกันราว 20% ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ เตรียมขยับราคาที่อยู่อาศัย ทั้งบ้าน และคอนโดมิเนียม อีกราว 5-10% พร้อมๆ กับแนวทางพัฒนาโครงการที่มีขนาดเล็กลง และอยู่ในทำเลไกลขึ้น เพื่อบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ 

มงกุฎ เตโชฬาร หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านพัฒนาทรัพย์สินแนวราบ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โดยปกติราคาอสังหาฯ ปรับขึ้นทุกปีอยู่แล้ว แต่ปัจจุบันต้นทุนรับเหมาก่อสร้างเพิ่มขึ้น 2-3% ในปีหน้าอาจเพิ่มปรับราคาขายขึ้น5-10% จากค่าแรงที่กำลังจะเพิ่มขึ้น รวมถึงต้นทุนค่าขนส่งจากแนวโน้มราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุม นอกจากนี้ยังมีต้นทุนดีไซน์ต่างๆ ดังนั้น ห้วงเวลานี้จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ต้องการที่อยู่อาศัยควรรีบตัดสินใจซื้อก่อนราคาปรับขึ้น

“โครงการใหม่ที่พัฒนาปีหน้าจะเป็นต้นทุนใหม่ราคาขายต้องปรับขึ้นตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไม่สามารถขายในราคาเดิมได้ ผลกระทบหลักมาจากต้นทุนราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้นในแต่ละโซน ขณะที่โครงการบ้านเดี่ยวขยายออกไปในโซนรอบวงแหวนมากขึ้น”
 

ธีราภรณ์ ศรีเจริญวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ราคาที่อยู่อาศัยในปี 2567 เพิ่มขึ้น 5-10% แน่นอนทั้งโครงการบ้านและคอนโด โดยเฉพาะโครงการบ้าน ที่หาผู้รับเหมาค่อนข้างยาก เนื่องจากเป็นงานละเอียดทำให้ผู้รับเหมารายใหญ่ไม่รับทำโครงการบ้าน จึงเกิดการแข่งขันในตลาดมากขึ้น 

“แต่เราอยู่ตลาดนี้มาก่อนมั่นใจในสินค้า การออกแบบ โดนเฉพาะตลาดบนสามารถทำสินค้าคุณภาพดีออกมาได้แม้ต้นทุนจะเพิ่มขึ้นแต่ลูกค้ายอมรับได้กับราคาที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีขึ้นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ หันมาทำตลาดบ้านหรูมากขึ้นนั่นเอง”

ทั้งนี้ บ้านในตลาดล่างกลุ่มลูกค้าจะมีความอ่อนไหวด้านราคาสูง ทำให้ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญกับการควบคุมต้นทุนราคาก่อสร้าง เพื่อสามารถทำราคาให้กลุ่มลูกค้าสามารถซื้อได้

สมบูรณ์ วศินชัชวาล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปีหน้าบริษัทฯ มีแผนพัฒนาโครงการหรือสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากขึ้นทั้งโครงการบ้านเดี่ยว คอนโด ในทุกเซ็กเมนต์และทุกทำเลเพิ่มขึ้น 

ขณะเดียวกันต้องพยายาม “ลดต้นทุน” การพัฒนาโครงการ ท่ามกกลางภาวะต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากราคาที่ดิน วัสดุก่อสร้าง ค่าแรงงาน ฯลฯ พร้อมกับพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์การดำเนินชีวิตของลูกค้าที่เปลี่ยนไป ทั้งในเรื่องของขนาดพื้นที่ ฟังก์ชั่นการใช้สอย รวมถึงบริการต่างๆ

สมบูรณ์ ระบุว่า ภาคอสังหาฯ ยังมีปัจจัยลบที่ท้าทายในปีหน้า เพราะภาพรวมเศรษฐกิจยังมีความเปราะบาง! จากหนี้ครัวเรือนที่ยังสูง การส่งออกถดถอย และอัตราดอกเบี้ยสูง ขณะที่ภาพรวมอสังหาฯ ได้รับผบกระทบจากกำลังซื้อที่ “ลดลง” สวนทางกับการแข่งขันและราคาที่ดินสูงขึ้น โดยแต่ละโซนมีการปรับราคาขึ้นประมาณ 20%

ขณะเดียวกันสถาบันการเงินก็เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มทาวน์เฮาส์อัตราการปฏิเสธสินเชื่อสูงขึ้นถึง 52% เนื่องจากสถาบันการเงินมีความกังวลในเรื่องหนี้เสีย

สอดคล้องกับ เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากราคาที่ดินแพงขึ้นส่งผลให้ต้นทุนราคาการพัฒนาโครงการอสังหาฯ เพิ่มขึ้น 

“การที่ดอกเบี้ยขึ้นทุกๆ 1% มีผลต่อราคาขาย 9% สวนทางกับกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง หรือโตไม่ทันราคาที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะทำเลใจกลางเมือง”

ดังนั้น เสนาฯ จึงปรับกลยุทธ์ในการพัฒนาโครงการเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-ล่าง ด้วยการเน้นพัฒนาโครงการคอนโดระดับราคา 1 ล้านบาทต้นๆ ออกมาเพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้าแทนทาวน์เฮ้าส์ในย่านรามอินทรา

จะเห็นว่า ต้นทุนราคาที่ดินสูงขึ้นในแต่ละทำเลแตกต่างกัน  จากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทำให้ไม่สามารถพัฒนาโครงการทาวน์เฮ้าส์ในระดับราคา 2-3 ล้านบาทได้อีกต่อไป หากจะทำราคาต้องขยับขึ้นไปที่ระดับ 4-5 ล้านบาท  ดังนั้นการพัฒนาโครงการคอนโดจึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์กำลังซื้อผู้บริโภค ประกอบกับทำเลโซนรามอินทรามีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นระบบโครงข่ายคมนาคมที่มีรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่เตรียมเปิดให้บริการ และเป็นโซนที่เชื่อมต่อถนนสายหลักและสายรองที่สำคัญ รวมถึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกรายล้อมอย่างห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า โรงพยาบาล และสถานศึกษา ทำให้ย่านรามอินทรา เป็นทำเลที่น่าสนใจทั้งในปัจจุบันและอนาคต

“จุดเด่นของโครงการมีทั้งเรื่องทำเลและห้องซึ่งมีขนาดและราคาที่คุ้มค่า เพราะลูกค้าจะได้ห้องไซส์ใหญ่ในราคาไซส์เล็ก เริ่มต้นกว่า 1 ล้านบาท เสนา ยังอยู่ระหว่างการหาซื้อที่ดินเพิ่มเติมคาดว่าจะมี 3 โครงการในโซนรามอินทรา”

ขณะเดียวกัน เสนา มีการพัฒนาโครงการคอนโดใกล้รถไฟฟ้า ระดับราคากว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตร เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อและต้องการคอนโดติดรถไฟฟ้าที่ยังขยายตัวได้ดี

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


‘สโคป หลังสวน’กับเทรนด์Quiet Luxury ตอบโจทย์ความหรูหราแบบไม่ตะโกน

‘Private Life Sanctury’ เทรนด์การอยู่อาศัยรูปแบบใหม่ ที่ตอบโจทย์ความหรูหราแบบไม่ตะโกนสะท้อนผ่านโครงการ ‘สโคป หลังสวน’ คอนโดอัลตร้าลักชัวรีที่เปี่ยมรสนิยมแบบไม่ต้องพยายาม

หากจะพูดถึงคำว่า ‘Private Life Sanctury’ อาจจะเป็นคำที่หลายไม่คุ้นหู แต่หากบอกว่าเป็นรูปแบบการอยู่อาศัยที่สอดคล้องกับเทรนด์ ‘Quiet Luxury’ ก็คงจะพอเข้าใจมากขึ้น มันหมายถึงความหรูหราแบบไม่ต้องใช้ความพยายาม ไม่ต้องอวดอ้างด้วยโลโก้ใหญ่โต ไม่ได้มีสีสันฉูดฉาดดูดสายตาใคร และไม่ได้เป็นสินค้าแบรนด์ดังที่มีหน้าร้านอยู่ในทุกห้างฯ

ทว่าเป็นความมีระดับจากกระบวนการคิดที่พิถีพิถัน และให้ความสำคัญในเรื่องของรายละเอียด และคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย อาทิ วัสดุระดับพรีเมียม ฟังก์ชั่นการใช้งานที่คิดมาอย่างดีเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่สะดวกสบาย บริการและสาธารณูปโภคส่วนกลางที่ครบครัน กระบวนการก่อสร้าง และตกแต่งอันประณีตให้ได้เห็นงานฝีมือที่สะท้อนผ่านคุณภาพของวัสดุ เน้นความเรียบง่ายไร้กาลเวลา ซึ่งจะเข้าใจได้ในกลุ่มคน Sophisticated ที่มีรสนิยม ในระดับเดียวกันเท่านั้น

ไม่ใช่แค่โลกของไฮ-แฟชันที่กำลังอินกับความเรียบง่ายทว่าเหนือระดับของเทรนด์  ‘Quiet Luxury’ เท่านั้นแต่ในแวดวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ก็กำลังให้ความสนใจกับ Private Life Sanctury มากขึ้น ซึ่งแท้จริงแล้วความหรูหราที่มุ่งเน้นในเรื่องของคุณภาพเป็นสิ่งสอดคล้องตามแนวคิดและรสนิยมที่บริษัทยึดถือมาโดยตลอด ก่อนที่เทรนด์ ‘Quiet Luxury’ จะได้รับความนิยมในปัจจุบัน

โดย “ยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโคป จำกัด ได้มุ่งมั่นพัฒนาโครงการ สโคป หลังสวน ผลงานชิ้นโบว์แดงล่าสุดที่ทุกองค์ประกอบถูกคัดสรรอย่างพิถีพิถัน เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่ม Sophisticated โดยเฉพาะ ภายใต้แนวคิด ‘THE SENSORY OF FINEST LIFE’ ในแง่มุมดังต่อไปนี้

ยงยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ ถ้าจะพัฒนาอสังหาฯ เพื่อเจาะตลาด Luxury แค่ทำเลที่ตั้งดีๆ ยังไม่พอ ผมคิดว่าการออกแบบเป็นเรื่องสำคัญ ถัดมาเป็นประเด็นเกี่ยวกับ Facilities ที่อยู่ในตึก ว่าครอบคลุมความต้องการมากพอไหม และอย่างสุดท้ายคือการให้บริการที่ดี และการมอบความเป็นส่วนตัวให้ผู้พักอาศัย ทั้งหมดนี้เป็นองค์ประกอบของคำว่าหรูหราในความหมายของสโคป

“เมื่อต้องสร้างโครงการสักแห่งที่จะใช้คำว่าหรูหราได้อย่างสมศักดิ์ศรี เราจึงพัฒนาโดยเน้นส่งมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดีที่สุด เพื่อตอบโจทย์กลุ่ม Sophisticated ที่มีความเก่งในการเลือกซื้อคอนโดฯ ระดับหนึ่งอยู่แล้ว พวกเขารู้จักหาข้อมูล หรือเคยมีโอกาสได้สัมผัสความประสบการณ์อยู่อาศัยที่หรูหรา โดยเฉพาะในต่างประเทศ ซึ่งสิ่งที่พวกเขามองหาคือความงดงามแบบน้อยแต่มาก ในด้านการออกแบบไม่จำเป็นต้องทำให้ดูใหญ่ไว้ก่อน แต่เรียบหรูดูแพงในแบบที่ไม่ต้องพยายาม คัดสรรทุกองค์ประกอบโดยไม่มีข้อแม้เรื่องค่าใช้จ่าย แต่เน้นหาสิ่งที่ดีที่สุดในแต่ละสายเข้ามาประกอบ เติมเต็ม เพื่อสร้างสัมผัสที่ Finest จริงๆ ให้กับโครงการ”

ทำไมต้อง ‘Quiet Luxury’ และ‘Private Life Sanctury’

เทรนด์ผู้บริโภคมักสัมพันธ์กับสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจ ในโลกยุคหลังโควิด-19 คนมีเงินจำนวนไม่น้อยที่ไม่อยากอวดฐานะตนเอง ทว่าหวนกลับไปสู่ความเรียบง่าย ไม่ว่าจะในแง่ของแฟชั่นการแต่งตัว หรือกระทั่งการเลือกที่อยู่อาศัย แทนที่จะเน้นความสวยงามดึงดูดสายตา ก็กลายมาเป็นเรื่องการคัดสรรวัสดุพรีเมียมเพื่อใช้สร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่าในแง่ Functional แต่ยังคงงดงามเหนือกาลเวลา ดูแล้วสบายตาไม่เบื่อง่าย

งานออกแบบของสโคป หลังสวน จัดอยู่ในหมวด Modern Contemporary คือไม่ถึงขั้นคลาสสิค แต่เป็นความงดงามที่ตั้งใจให้ Timeless ผ่านทั้งงานดีไซน์และการเลือกวัสดุ ในสมัยก่อนโครงการต่างๆ ยังเข้าไม่ถึงการพัฒนาให้เป็น Quiet Luxury เพราะคุณภาพวัสดุไม่ถึงเกณฑ์ การจะทำให้เรียบหรู วัสดุต้องดีพอจึงจะทำได้อย่างที่คิด ซึ่ง สโคป หลังสวน ให้ความสำคัญกับการออกแบบ ที่ต้องได้มาตรฐานระดับอินเตอร์ในทุกอณูของโครงการ

” เราได้ความร่วมมือจากโทมัส ยูล-ฮานเซน  ดีไซน์เนอร์ชื่อก้องโลกจากนิวยอร์กผู้ออกแบบเพนท์เฮาส์เจ้าของสถิติราคาแพงที่สุดในนิวยอร์กเมื่อปี 2015 ราคา 100 ล้านเหรียญสหรัฐ และอพาร์ตเมนท์ที่แพงที่สุดในลอนดอนราคา 61 ล้านปอนด์ ร่วมเป็นที่ปรึกษาในการออกแบบตกแต่งสถาปัตยกรรมโครงการ และออกแบบตกแต่งภายในทั้งพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่อยู่อาศัยแบบ Fully Furnished ในทุกยูนิต คอนโดมิเนียมแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนงานศิลปะที่จะเพิ่มมูลค่าขึ้นเรื่อยๆ “

เลือกใช้วัสดุระดับท็อปอย่างพื้นหินอ่อนอิตาเลียนแท้หลากหลายประเภทในห้องโถงใหญ่และห้องครัว และพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ในห้องนอนทุกห้อง นอกจากนี้ยังคัดสรรเครื่องครัวจากแบรนด์สุดหรูอย่าง Gaggenau พร้อมตู้เย็นตู้แช่ไวน์เทคโนโลยีขั้นสูงแบรนด์ Sub-Zero รวมถึงตู้เสื้อผ้าและ Walk-in Closet จากแบรนด์ Lema และเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นๆ ที่เลือกมาโดยผ่านการคิดมาแล้วโดยคุณโทมัสทุกชิ้น ที่จะช่วยขับเน้นความงดงามของที่อยู่อาศัยให้เด่นชัดขึ้นอีก แต่ไม่ได้มีส่วนไหนที่ขัดแย้งกันจนเกินไป

พื้นที่แห่งชีวิตส่วนตัวอย่างแท้จริง

มีแนวโน้มว่าคนที่ชอบ Quiet Luxury มีความชื่นชอบในการใช้ชีวิตที่เป็นส่วนตัวด้วยเช่นกัน หลังใช้ชีวิตอย่างเต็มเหนี่ยวมาทั้งวันในโลกการทำงานและสังสรรค์ บ้านควรเป็นพื้นที่ที่จะได้ปลดปล่อยตนเองให้กลับสู่ความสงบ เติมพลังชีวิตให้พร้อมสำหรับการเผชิญหน้ากับวันพรุ่งนี้ โดยสโคป หลังสวน ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน กับการมอบประสบการณ์ Private Life Sanctury ผ่านการเลือกใช้วัสดุเก็บเสียงเพื่อความเป็นส่วนตัวในการใช้ชีวิต กับจำนวนยูนิตท่ามกลางสังคมคุณภาพเพียง 133 ยูนิต และแต่ละชั้นของคอนโดฯ จำกัด เพียงไม่เกิน 6 ยูนิตเท่านั้น ทั้งยังเข้าถึงได้ด้วยลิฟต์ส่วนตัวและบริการ Concierge Service ที่คอยให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้การที่โครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่มากเพียงพอที่จะทำให้คุณสามารถใช้ชีวิตอย่างเป็นส่วนตัวอยู่ในพื้นที่ที่เรียกว่าบ้านได้อย่างสะดวกสบาย และมีความสุขกับแพสชั่นของตนเองได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องออกไปพบเจอผู้คนภายนอกไม่ว่าจะเป็นห้องซ้อมดนตรีสำหรับลูกบ้าน โรงภาพยนตร์ส่วนตัวขนาด 25 ที่นั่งที่ลูกบ้านสามารถเลือกจองและเข้ามาใช้งานได้แบบไพรเวท ไวน์เซลลาร์ พื้นที่ไดน์นิ่งและจัดงานเลี้ยงส่วนตัว ห้องประชุมและห้องทำงาน อีกทั้งยังมีออนเซ็น และห้องสปาไว้บริการสร้างความผ่อนคลายให้กับลูกบ้านอย่างเป็นส่วนตัวด้วยทุกวัน ฟิตเนสที่นี่เลือกใช้อุปกรณ์ที่มีมาตรฐานระดับสูงแบรนด์ Technogym ทั้งหมดก็ นอกจากนี้ยังมีบริการสำหรับลูกบ้าน Concierge services ผู้ช่วยส่วนตัวที่คอยให้บริการช่วยเหลือตลอด 24 ชม. นี่เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้นที่โครงการ Scope Langsuan มอบให้กับลูกบ้าน

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 25ต.ค. ที่ระดับ 36.17 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทอาจแกว่งตัว sideway เงินดอลลาร์จะเริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้น มองโซนแนวรับอาจยังคงเป็นช่วง 36.00 บาทต่อดอลลาร์ จนกว่าจะมีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามากระทบตลาด

ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 25ต.ค. 2566ที่ระดับ  36.17 บาทต่อดอลลาร์ “ทรงตัว”ไม่เปลี่ยนแปลง”จากระดับปิดวันก่อนหน้า

นายพูน  พานิชพิบูลย์  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทยระบุว่า แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า เงินบาทอาจแกว่งตัว sideway ในกรอบไม่ต่างจากช่วงก่อนหน้ามากนัก เนื่องจากผู้เล่นในตลาดอาจรอติดตามรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ อย่าง อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 (วันพฤหัสฯ) รวมถึงอัตราเงินเฟ้อ PCE (วันศุกร์) เพื่อประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด ก่อนที่จะปรับสถานะถือครองที่ชัดเจนอีกครั้ง

ทั้งนี้ บรรยากาศในตลาดการเงินที่เริ่มกลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น อาจช่วยหนุนให้นักลงทุนต่างชาติทยอยกลับเข้ามาซื้อหุ้นไทยได้บ้าง หลังในช่วงที่ผ่านตลาดดัชนี SET ได้ปรับตัวลดลงมาพอสมควรและอยู่ในระดับที่ valuation ถือว่าไม่แพง ส่วนในฝั่งตลาดบอนด์ หากบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังคงแกว่งตัวในระดับเดิมและไม่ได้ปรับตัวขึ้นรุนแรงแบบในช่วงก่อนหน้า เรามองว่า แรงขายบอนด์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติก็อาจลดลงบ้างในช่วงระยะสั้นนี้

นอกจากนี้ โฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ ก็อาจเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทได้ แม้ว่าเงินดอลลาร์จะเริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้น ทำให้ เราคงมองว่า เงินบาทอาจมีโซนแนวต้านแรกแถว 36.30 บาทต่อดอลลาร์ และมีโซนแนวต้านถัดไปแถว 36.60 บาทต่อดอลลาร์ ขณะเดียวกันโซนแนวรับอาจยังคงเป็นช่วง 36.00 บาทต่อดอลลาร์ จนกว่าจะมีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามากระทบตลาด

เรายังคงมองว่า ทุกสินทรัพย์ยังอยู่ในช่วงเผชิญความผันผวนสูง จากทั้งความไม่แน่นอนของทิศทางนโยบายการเงิน สถานการณ์สงครามที่เสี่ยงทวีความรุนแรงและบานปลาย ทำให้เราคงคำแนะนำว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย

อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และนอกเหนือจากการใช้เครื่องมือดังกล่าว การเลือกทำธุรกรรมในสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency) ก็เป็นอีกแนวทางในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจ ซึ่งผู้ประกอบการควรเปรียบเทียบต้นทุนในการทำธุรกรรมและแผนการป้องกันความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทุกครั้ง

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.05-36.30 บาท/ดอลลาร์

โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทเคลื่อนไหว sideway (แกว่งตัวในช่วง 36.14-36.25 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะอ่อนค่าลงบ้าง ตามการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ หลังรายงานข้อมูลดัชนี PMI ฝั่งยุโรป ออกมาแย่กว่าคาด ในขณะที่ดัชนี PMI ของสหรัฐฯ นั้นออกมาดีกว่าคาด อย่างไรก็ดี การอ่อนค่าของเงินบาทก็ถูกจำกัดโดยโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ หลังราคาทองคำรีบาวด์ขึ้น ตามการย่อตัวลงของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ

รายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด รวมถึง รายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาสดใส ได้หนุนให้ผู้เล่นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทยอยเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น ส่งผลให้โดยรวม ดัชนี S&P500 พลิกกลับมาปรับตัวขึ้น +0.73% 

ส่วนในฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี stoxx600 รีบาวด์ขึ้นราว +0.44% แม้ว่า ตลาดหุ้นยุโรปจะเผชิญแรงกดดันจากรายงานข้อมูลดัชนี PMI ของฝั่งยูโรโซนที่ออกมาแย่กว่าคาดและยังคงสะท้อนภาพเศรษฐกิจที่ซบเซา ทว่า ตลาดหุ้นยุโรปยังพอได้แรงหนุนจากรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดีกว่าคาด อาทิ Hermes +2.8%

ในฝั่งตลาดบอนด์ แม้ รายงานดัชนี PMI สหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด จะยังคงทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างเชื่อว่า เฟดอาจสามารถคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับสูงได้นาน (Higher for Longer) และช่วยหนุนให้ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 4.88% แต่ผู้เล่นในตลาดบางส่วนก็ใช้จังหวะที่บอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้นในการทยอยทำกำไรสถานะ Short

ส่งผลให้ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นต่อไปได้ไกลและพลิกกลับมาย่อลงสู่ระดับ 4.82% ทั้งนี้ เรามองว่า บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อาจยังคงมีความผันผวนอยู่ และจะยังไม่สามารถกลับมาเป็นแนวโน้มขาลงได้ง่าย จนกว่าตลาดจะเริ่มมั่นใจมากขึ้นว่า

แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะชะลอตัวลง และเฟดอาจไม่สามารถดำเนินนโยบายการเงินแบบ Higher for Longer ได้ ทว่า เราคงคำแนะนำเดิมว่า นักลงทุนสามารถทยอย Buy on Dip ในจังหวะบอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจาก Risk-Reward ของการถือบอนด์ระยะยาวในช่วงยีลด์สูงมีความคุ้มค่าและน่าสนใจอยู่มาก

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์ทยอยปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังรายงานข้อมูลดัชนี PMI สหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด ขณะที่ดัชนี PMI ฝั่งยุโรป ออกมาแย่กว่าคาด ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 106.2 จุด (กรอบ 105.8-106.4 จุด) อย่างไรก็ดี การแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ก็ถูกชะลอลงบ้าง ตามการย่อตัวลงของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ใน

ส่วนของราคาทองคำ ความกังวลสถานการณ์สงครามที่เริ่มลดลงบ้าง รวมถึงการกลับมาแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ได้กดดันให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค.) ย่อตัวลง ตามแรงขายทำกำไร ก่อนที่ราคาทองคำจะรีบาวด์ขึ้นได้บ้าง หลังบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ย่อตัวลง ซึ่งช่วยหนุนให้ราคาทองคำทยอยปรับตัวขึ้นและแกว่งตัวใกล้ระดับ 1,980 ดอลลาร์ต่อออนซ์

สำหรับวันนี้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอาจมีไม่มากนัก ทว่า ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะบรรดาหุ้นเทคฯ ใหญ่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในตลาดการเงินช่วงนี้ได้

นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะยังคงติดตามสถานการณ์สงครามระหว่างอิสราเอล-กลุ่มฮามาส ว่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้น หรือ สงครามจะขยายวงกว้างจนกระทบทั้งภูมิภาคตะวันออกกลางหรือไม่

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ฟันดาบหนุ่มไทยโชว์ฟอร์มเฉียบ รวมพลังโค่นฮ่องกง คว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์

ฟันดาบหนุ่มไทยโชว์ฟอร์มเฉียบรวมพลังโค่นตี๋ฮ่องกง คว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์ประเภทททีมดาบเซเบอร์ มาครอง ด้าน “แวว” สายสุนีย์ จ๊ะนะ ราชินีดาบไทยนำทัพทีมฟอยล์ ทีมหญิง ซิวเหรียญทองแดง

การแข่งขัน วีลแชร์ฟันดาบ ในกีฬาเอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4 ที่เอชดียู ยิมเนเซียม เมืองหางโจว ประเทศจีน เมื่ิอวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา มีชิง 2 เหรียญทอง ประเภทดาบเซเบอร์ ทีมชายและ ฟอยล์ทีมหญิง

ทีมฟันดาบชายไทย ดีกรีเจ้าของเหรียญเงินในการแข่งขันเอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 3 ที่อินโดนีเซีย ที่นำทัพโดย ชิติพัทธ์ เจริญตา, บุญศิริ สนิทหมื่นไวย และ ยืนยง ขันทีท้าว โดยมี พิพัฒน์ ทองจะโปะ เป็นตัวสำรอง โดยในรอบตัดเชือก หนุ่มไทย เอาชนะ ทีมชาติเกาหลีใต้ มาได้ 45-33 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศเจอกับ ฮ่องกง ที่โค่น อินเดีย มาได้ขาดลอย 45-14

ซึ่งประเภททีมนักกีฬาทั้ง 3 คนของทั้งสองทีมจะได้แข่งแบบพบกันหมด ผลปรากฏว่า ทีมชาติไทย รวมพลังกันเอา ฮ่องกง ไปได้ 45-38 คว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จและเป็นเหรียญทองประวัติศาสตร์ของทีมฟันดาบเซเบอร์ไทย ส่วน เกาหลีใต้ อกหักได้แค่เหรียญเงิน ส่วนเหรียญทองแดง ตกเป็นของ เกาหลีใต้

ขณะที่ประเภท ฟอยล์ทีมหญิง ทีมฟันดาบสาวชาติไทย ดีกรีเจ้าของเหรียญทองแดงในการแข่งขันเอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 3 ที่อินโดนีเซีย นำทัพโดย “แวว” สายสุนีย์ จ๊ะนะ ราชินีดาบเอเป้ไทยที่เพิ่งคว้าเหรียญทองแดงประเภทฟอยล์บุคคลหญิง ไปหมาดๆ, ฐิติรันต์ เพ็งประสิทธิพงศ์ และอภิญญา ทองแดง ลงทำการแข่งขัน

รอบตัดเชือก ทีมสาวไทย พบกับ ทีมชาติฮองกง ซึ่งเกมไปอย่างคู่คี่สูสี ก่อนสุดท้ายทีมสาวไทย ต้านไม่ไหวพ่ายไปแบบเฉียดฉิว 43-45 ต้องอกหักชิงเหรียญทองแดงอีกครั้ง โดยในรอบชิงอันดับ 3 ไทย ดวลกับ ทีมชาติเกาหลีใต้

ผลปรากฏว่าทีมฟันดาบสาวไทย โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมเอาชนะ ทีมชาติเกาหลีใต้ ไปขาดลอย 45-20 คว้าเหรียญทองมาครองเป็นการปลอบใจ และถือว่าเป็นการได้เหรียญทองแดงสมัยที่ 2 ติดต่อกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ข่าวดี!มีวัคซีนไข้เลือดออกกันติดเชื้อ-อาการรุนแรงได้ 80-90%

ข่าวดี!มีวัคซีนไข้เลือดออกกันติดเชื้อ-อาการรุนแรงได้ 80-90% ครอบคลุมสายพันธุ์ชนิดที่ 1 และ 2 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ระบาดหนักในประเทศไทย ระบุฉีดได้ตั้งแต่เด็กอายุ 4 ปีขึ้นไป จนถึงผู้ใหญ่อายุไม่เกิน 60 ปี

ไข้เลือดออกถือเป็นโรคอันตรายที่สามารถทำให้เสียชีวิตได้ โดยปัจจุบันยังคงมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดนพ.จิรรุจน์ ชมเชย กุมารแพทย์เชี่ยวชาญโรคระบบหายใจ กลุ่มงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Jiraruj Praise โดยมีข้อความระบุถึงวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก ว่า

ตอนนี้โรคไข้เลือดออกมีวัคซีนป้องกันที่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 80.5% และป้องกันอาการรุนแรงได้ถึง 90% แล้ว 

ครอบคลุมสายพันธุ์ชนิดที่ 1 และ 2 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ระบาดหนักในประเทศไทย 

ฉีดได้ตั้งแต่เด็กอายุ 4 ปีขึ้นไป จนถึงผู้ใหญ่อายุไม่เกิน 60 ปี

ฉีด 2 เข็มแต่ละเข็มห่างกันอย่างน้อย 3 เดือน ประสิทธิภาพวัคซีนและภูมิคุ้มกัน เริ่มตั้งแต่ 2 อาทิตย์หลังได้เข็มแรก

ไม่ต้องตรวจภูมิคุ้มกันก่อน รับวัคซีน ต่อไปแล้วสำหรับตัวนี้

หมอจิรรุจน์ บอกว่า ฉีดได้ทั้งในคนที่เคยติดเชื้อมาก่อนและยังไม่เคยติดเชื้อไข้เลือดออกมาเลย

ระดับภูมิคุ้มกัน และประสิทธิภาพ ของวัคซีนครอบคลุมได้นาน อย่างน้อย 5 ปี 

ยังไม่มีคำแนะนำว่าต้องกระตุ้น หลังจาก ได้รับครบ 2 เข็ม

การควบคุมการระบาด ด้วยการกำจัดแหล่งน้ำ แหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายนั้น เป็นสิ่งที่ต้องทำไปควบคู่กัน

แต่เมื่อมีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงขนาดนี้แล้ว ก็เป็นเรื่องที่ประชาชนทั่วไปควรได้รับรู้

ส่วนจะตัดสินใจไปรับวัคซีนหรือไม่ ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล
 

หมอจิรรุจน์ บอกอีกว่า ตนและลูกฉีด”วัคซีนไข้เลือดออก”เรียบร้อย ป้องกันได้ก็ทำก่อนดีกว่า

เพราะต่อไปนี้ ไม่น่ามีคำว่า ฤดูกาลระบาดของไข้เลือดออก ติดต่อไปแล้ว

ที่ไหนมียุงลาย ที่ไหนมีคนป่วย ที่นั่นก็พร้อมมีการระบาดเสมอ ไม่เลือกเวลาอีกต่อไป

ยิ่งสถานการณ์ตอนนี้ ไม่ใช่เฉพาะเด็กแล้วครับ ผู้ใหญ่เองก็อาการหนักไม่แพ้กัน

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


7 วิธี Make Friend กับเพื่อนร่วมงานต่างชาติ

1. แนะนำตัวเอง

หากอยากจะทำความรู้จักกับใคร สิ่งหนึ่งที่ลืมไม่ได้เด็ดขาดเลยคือการแนะนำตัวเองก่อนค่ะ โดยสามารถใช้ประโยคง่ายๆ อย่าง Hello, My name is (ชื่อตัวเอง) and I just started in the marketing department. อย่ากลัวที่จะแนะนำตัวเองกับใครค่ะ เพราะสิ่งนี้สามารถเป็นจุดเริ่มต้นของความสุขในชีวิตการทำงานได้

2. รู้จักถาม

เราอาจจะเริ่มต้นการสนทนาด้วยการถามไถ่เพื่อนร่วมงาน กับประโยคง่ายๆว่า How is your day going so far? (วันนี้เป็นไงบ้างคะ/ครับ?) ก็เป็นการเริ่มต้นบทสนทนาที่โอเคค่ะ หลังจากฟังคำตอบจากอีกฝ่ายแล้ว เราอาจจะทำการแนะนำตัวต่อแล้วก็หาเรื่องอื่นๆมาคุย จะได้ทำให้การสนทนาในครั้งไม่น่าเบื่อและสั้นกุดเกินไป

3. ทำความรู้จักใครสักคน

ลองถามใครสักคนว่า How long have you been working here? (คุณทำงานที่นี่มานานเท่าไรแล้วคะ/ครับ?) แล้วตามด้วยการแนะนำตนเองพร้อมบอกว่า I have just begun with this company (ฉันเพิ่งเริ่มต้นทำงานที่บริษัทนี้) ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกในการเริ่มต้นทำความรู้จักเพื่อนร่วมงานค่ะ เราต้องหัดทำความรู้จักกับคนที่เขาทำงานมานานแล้ว เผื่อเขาอาจจะช่วยแนะนำเราเกี่ยวกับวัฒนธรรมองค์กร หรือธรรมเนียมของบริษัทที่เราอาจไม่คุ้นเคย และแนะนำเรากับผู้ร่วมงานแผนกอื่นๆด้วยก็เป็นได้

4. หาเรื่องฝน ฟ้า อากาศ มาเม้าท์

หาประเด็นง่ายๆอย่างเรื่องฝน ฟ้า อากาศมาคุย ถือเป็นการเริ่มต้นบทสทนาที่น่าสนใจ ตัวอย่างเช่น Today has turned out hot and humid, has anyone heard the forecast for the rest of the week? (วันนี้ช่างร้อนอบอ้าวซะเหลือเกิน มีใครดูพยากรณ์อากาศของสัปดาห์นี้บ้างคะ/ครับ) เรื่องทั่วๆไปแบบนี้ ใครๆก็อยากเม้าท์ค่ะ รับรองว่ามีอันต้องคุยยาวแน่ๆ!

5. เรื่องของชากาแฟ

เรื่องของกินนี่ดูเล็กน้อยแต่สามารถต่อยอดเป็นบทสนทนาที่ดีได้นะคะ เราอาจจะถามเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับกฏเล็กๆน้อยๆที่เกี่ยวกับชากาแฟ เช่น What are the rules for drinking coffee at our desk? (มีกฏอะไรเกี่ยวกับการดื่มกาแฟบนโต๊ะทำงานหรือเปล่า?) การถามกฏพวกนี้ นอกจากเป็นการเริ่มต้นการสนทนาแล้วยังทำให้เรารู้ว่า ที่นี่รับการดื่มเครื่องดื่มระหว่างทำงานได้หรือไม่

6. ใช้เวลาพักเที่ยงให้เป็นประโยชน์

ก่อนจะไปพักกลางวัน ลองหันไปถามเพื่อนร่วมงานใกล้ๆว่า Where is the nearest place to get a good salad? (ใกล้ๆนี่มีร้านไหนขายสลัดอร่อยๆบ้าง?) อย่างที่บอกว่าเรื่องของกินนี่เป็นจุดเริ่มต้นการสนทนาที่ดีได้ นอกจากนี้แล้ว หากมีเพื่อนร่วมงานชวยเราไปกินเป็นกลุ่มข้างนอก อย่าเพิ่งปฏิเสธไปเสียก่อนล่ะ ถึงจะไม่อยากออกไปแต่ช่วงแรกๆก็ควรไปกับกลุ่มเพื่อนร่วมงานบ้าง เพื่อการเรียนรู้บริษัทและนิสัยใจคอเขาเหล่านั้นให้มากขึ้น

7. สังเกตแล้วถาม

ลองสังเกตการทำงานของบริษัทแล้วซักถามความเห็นจากเพื่อนร่วมงาน เช่น We seem to be busy with client calls today. Is it like this every day? (วันนี้แทบไม่มีเวลาว่างจากการตอบสายลูกค้าเลย ที่นี่เป็นอย่างนี้ทุกวันเลยหรือเปล่า) ระวังอย่าให้ดูเป็นการซุบซินนินทาบริษัทไปซะล่ะ พยายามทำให้เป็นประโยคคำถามธรรมดา และหากต้องออกความคิดห็นบก็ควรจะเป็นความคิดเห็นที่อยู่ในแง่บวก เช่น I like to keep myself busy. (ฉันชอบทำตัวยุ่งๆนะ) เพราะการพูดคุยเรื่องทั่วๆไปของบริษัทจะทำให้เราได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและสร้างความสนิทสนมได้ในที่สุด

ขอบคุณข้อมูลจาก dailyenglish.in.th


5 เรื่องเตรียมพร้อมก่อนเดินงาน Thailand Mobile Expo ปลายปี 2023

อย่างที่ทราบดีว่างาน Thailand Mobile Expo 2023 ปีนี้มีแค่ 2 รอบเท่านั้น คือต้นปีและปลายปี เมื่องานรอบปลายปีเดินทางมาถึงหลายคนตั้งตารอคอยแล้วว่ามีโปรอะไร แต่ก่อนไปเดินเรามาดูกันว่ามีอะไรที่ต้องเตรียมพร้อมก่อนไปเดินในรอบปลายปีนี้บ้าง มาดูกันเลย

 ส่องโปรโมชั่นรุ่นที่เลือกไว้

เริ่มจากดูโปรโมชั่นกลางก่อนว่ารุ่นที่คุณจะเลือกแต่ละร้านค้ามีโปรฯ อะไรให้ได้เลือกบ้างหรือเปล่า

คิดตัวเลือกสำรองเผื่อไว้ก็ดี

หากตัวเลือกที่คุณมองไว้ไม่มีให้เลือก อาจจะต้องคิดทบทวนใหม่ เพราะ อาจจะขายหมดก่อนหน้านี้หรือถูกเปลี่ยนเป็นตกรุ่นก็เป็นได้ ซึ่งอาจจะต้องหาซื้อนอกงานแทนนะ

อาจจะมีมือถือให้ปรากฏตัวในงานนี้ครั้งแรก

นอกจากเรื่องที่ต้องเตรียมสำหรับคนซื้องานนี้อาจจะมีมือถือใหม่ให้ได้สัมผัสครั้งแรกในงานนี้เช่นเดียวกันนะ

ดูรูปแบบการจ่าย

นอกจากการเลือกรุ่นที่จะซื้อแล้ว การดูรูปแบบการจ่ายและโปรโมชั่นบัตรเครดิตด้วยก็เป็นทางเลือกที่ดีเพราะจะทำให้คุณสามารถจ่ายเงินได้ถูกลง หรืออาจจะได้รับเงินคืน แถมเป็นการผ่อนหนักให้เป็นเบาด้วยครับ

เลือกวันที่จะไปที่เหมาะสม

เนื่องจากงานนี้จัดช่วงปลายเดือน ตุลาคม (26 – 29 ตุลาคม) ใครจะไปงานนี้ ว่างแผนการเดินทางให้ดี แต่งานจัดที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สามารถใช้รถไฟฟ้าในการเดินทางได้แบบสบายๆ

สุดท้ายนี้ ใครเฝ้ารองานนี้อยู่อย่าลืมไปเดินเยี่ยมชมกันตั้งแต่วันที่ 26 – 29 ตุลาคม นี้ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ครับ


“งาดำ” กับข้อควรระวังน่ารู้ก่อนกิน

“งาดำ” ถือว่าเป็นหนึ่งในธัญพืชที่เป็นที่นิยมผสมในอาหาร และเครื่องดื่มหลายชนิด และมักเป็นตัวเลือกแรก ๆ ของผู้ที่กำลังดูแลสุขภาพ เพราะจัดว่าเป็นซูเปอร์ฟูดที่อันแน่นไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอวัย ลดคอเลสเตอรอลในเลือด และยังมีแคลเซียมสูงที่ช่วยเสริมสร้างและบำรุงกระดูกมากกว่านมวัวถึง 6 เท่า

แต่แม้ว่างาดำจะมีประโยชน์มากเพียงใด หากรับประทานมากเกินไป ก็อาจเกิดอันตรายต่อร่างกายได้


“งาดำ” กับข้อควรระวังน่ารู้ก่อนกิน

งาดำ มีประโยชน์สูง แม้ปริมาณที่รับประทานจะไม่มาก แต่ด้วยขนาดเล็ก และเบา กินง่าย ผสมกับอาหารอื่นได้ง่าย จึงอาจทำให้หลายคนไม่ได้ระมัดระวังในปริมาณที่รับประทานในแต่ละครั้ง

แต่งาดำจัดว่าเป็นอาหารที่ให้พลังงานค่อนข้างสูง เพราะงาดำ 100 กรัม ให้พลังงานมากถึง 700 กิโลแคลอรี่ ดังนั้นงาดำจึงมักถูกนำไปใช้เป็นส่วนผสมของอาหารให้พลังงานต่าง ๆ มากมาย นอกจากนี้งาดำยังเป็นอาหารที่มีปริมาณทองแดงค่อนข้างสูง ปกติแล้วร่างกายสามารถกำจัดทองแดงส่วนเกินออกจากร่างกายได้ แต่ในผู้ป่วยบางโรค เช่น โรค Wilson’s disease ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่เป็นมาแต่เกิด ทำให้การขับทองแดงออกจากร่างกายบกพร่อง ทำให้มีทองแดงสะสมในร่างกายคน ๆ นั้น เรื่อย ๆ จนเริ่มมีอาการต่าง ๆ ที่พบบ่อยสุดคืออาการทางตับ เช่น ตัวเหลือง ตับโต ม้ามโต ตามมาด้วยอาการทางระบบประสาท เคลื่อนไหวผิดปกติ กลืนลำบาก เป็นต้น


ปริมาณ “งาดำ” ที่แนะนำใน 1 วัน

หากร่างกายสุขภาพแข็งแรงดี ไม่มีปัญหาเรื่องของการกำจัดทองแดงส่วนเกินออกจากร่างกาย ควรระมัดระวังแค่เรื่องพลังงานที่จะได้รับมากเกินไปเท่านั้น โดยปริมาณของงาดำที่แนะนำในแต่ละวัน ควรอยู่ที่ราว ๆ วันละ 15 กรัม หรือ 1 ช้อนโต๊ะ ก็เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายแล้ว

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 25/10/2566

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a33,650.0033,750.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,180.0033,048.8034,250.00
ทองรูปพรรณ 90%1,962.0029,743.92n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,744.0026,439.04n/a
ทองรูปพรรณ 50%981.0014,871.96n/a
ทองรูปพรรณ 40%763.0011,567.08n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,259.0034,246.44n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 25/10/2566



ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9538.2538.2538.7538.2538.5538.2538.2538.2538.2538.25
แก๊สโซฮอล์ 9137.9837.9838.4837.9838.2837.9837.9837.9837.9837.98
แก๊สโซฮอล์ E2035.9435.9436.4435.9436.2435.9435.9435.9435.94
แก๊สโซฮอล์ E8536.0936.0936.09
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม44.4449.2449.6449.2444.44
เบนซิน 9546.0447.5146.5446.1946.04
ดีเซล B729.9429.9430.2429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.94
ดีเซล29.9429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.94
ดีเซล B2029.9429.9429.9429.94
ดีเซลพรีเมี่ยม41.2443.3448.5443.3442.9441.24
แก๊ส NGV17.5917.5917.59
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า